กฎหมาย...น่ารู้จ้ะ
"แจ้งความ" กับ "บันทึกประจำวัน"
"แจ้งความ" กับ "บันทึกประจำวัน"ผลในทางกฎหมายเป็นอย่างไร ?????
มีคำถามมาจ้า>>ถ้าผู้ชายโดนข่มขืนจากผู้ชาย แจ้งความแล้วจะได้ตังค์ใหมอ่ะ สงสัยจัง
ขอนำมาตอบต่อนะคะ
ประชาชนส่วนใหญ่มักจะสับสนอยู่ไม่น้อยกับคำว่า “แจ้งความ” กับคำว่า “บันทึกประจำวัน”
คำสองคำนี้ ผลในทางกฎหมายแตกต่างกันมากนะคะ เพราะเมื่อมีเรื่องราวเดือดร้อนเสียหายเกิดขึ้น
เรามักคิดว่า “จะต้องไปแจ้งความ” และเมื่อสบายใจแล้วว่า เราได้แจ้งความแล้วนะ....
เหตุไฉน ในเวลาต่อมาเราไปติดตาม หรือจะเอาเรื่องเอาราวขึ้นมา
กลับพบว่า ข้อหาที่เราแจ้งความไว้นั้น กลายเป็นแค่บันทึกประจำวันของตำรวจ
ไม่สามารถที่จะนำไปฟ้องร้องได้ เนื่องจากขาดอายุความ ?????
ขอยกข้อกฎหมายประกอบดังนี้ค่ะ
ตาม ป.วิ.อาญา (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา)
มาตรา ๒ (๗) “คำร้องทุกข์” หมายความถึงการที่ผู้เสียหายได้กล่าวหา
ต่อเจ้าหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ว่ามีผู้กระทำความผิดขึ้น
จะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ตาม ซึ่งกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย
และการกล่าวหาเช่นนั้น ได้กล่าวโดย มีเจตนาจะให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษ
:06 หมายเหตุ ๒ (๗) อ่านว่า “มาตรา ๒ อนุมาตรา ๗” (ภาษากฎหมายจะไม่อ่านว่า วงเล็บ ๗ ค่ะ)
ยกตัวอย่างเช่น
นายก้อง เป็นคนรูปร่างหน้าตาดี อายุ ๒๒ ปี อยู่หอพักชาย...
อยู่มาวันหนึ่ง โดนนายแก้ว ข่มขืนกระทำชำเรา ....
.และนายแก้วปลอบประโลมว่า รักมากมายจึงทำเช่นนี้ และจะรับผิดชอบเลี้ยงดูเป็นอย่างดี...
ที่ได้ทำอะไร ๆ ไป... ก็จะชดใช้ความเสียหายในความบริสุทธิ์ให้จำนวน ๕๐' date='๐๐๐ บาท ....
นายก้องก็รออยู่ประมาณ ๕ วัน นายแก้วก็ยังไม่นำเงินมาให้....จึงไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ
และบรรยายการข่มขืนกระทำชำเราให้ตำรวจฟัง...ตำรวจก็พยักหน้าเข้าใจทุกอย่าง.....
และรับแจ้งความไว้เรียบร้อย.....ส่งสำเนาให้นายก้อง ๑ ฉบับ มีข้อความคร่าว ๆ ว่า....
วัน เวลา สถานที่ เกิดเหตุ...นายก้องถูกนายแก้วที่ห้องพักเลขที่.....ข่มขืนกระทำชำเราทางทวารหนัก......
นายก้องจึงได้มาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน....ลงชื่อ..........
นายก้องสบายใจ เดี๋ยวเถอะนายแก้ว แกได้ติดคุกแน่....
เมื่อรู้ว่า นายก้องไปแจ้งความ นายแก้วจึงมา ออดอ้อนต่อว่าค่าเสียหาย
จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท จะจ่ายให้แน่นอน...อย่าเอาเรื่องเอาราวกันเลยนะ.....
แต่ขอเวลาสักพัก....นายก้องทนลูกออดอ้อนไม่ไหว จึงใจอ่อน......
และเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่นายแก้วจะนำเงินมาให้เรื่องจะได้จบ ๆ ซะที.......
๓ เดือนผ่านไป...นายแก้ว ก็หายวับไปกับตา...ไร้วี่แวว....
นายก้องจึงโมโหมาก...ย้อนกลับไปที่สถานีตำรวจ และแจ้งกับตำรวจว่า
นายแก้ว ผู้กระทำผิดที่ข่มขืนตนได้หายตัวไปแล้ว...๕๐,๐๐๐ บาท
ที่ว่าจะให้ก็ไม่ให้.....ผมต้องการฟ้องนายแก้ว ครับ !!!!!!
ตำรวจจึงตอบว่า คุณจะฟ้องได้ยังไง คดีของคุณขาดอายุความแล้ว...
ตำรวจจึงกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูว่า...รออีกครั้งแล้วกันน้อง....ค่อยมาแจ้งความใหม่.....
นายก้องแทบปาระเบิด เอ็ม ๗๙ ใส่สถานีตำรวจ ...
เจ็บทั้งใจ...เสียทั้งตัว....เงิน ๕๐,๐๐๐ ก็ไม่ได้.....
กลายเป็น “วิบากกรรมของชายที่โดนข่มขืน”
จากกรณีที่ยกตัวอย่าง
การกระทำผิดดังกล่าว เป็นความผิดอาญา และเป็นความผิดอันยอมความได้
นายก้องผู้เสียหาย แม้จะได้ชื่อไป “แจ้งความ”
แต่การ "แจ้งความร้องทุกข์" ในทางกฎหมายนั้น..
หมายความว่า การที่ผู้เสียหาย กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ว่า
มีผู้กระทำความผิดเกิดขึ้นไม่ว่าจะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ตาม
ซึ่งกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย
โดยมีเจตนาให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ
ซึ่งในใบแจ้งความของนายแก้ว ที่ตำรวจระบุเพียงว่า
“นายก้องจึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน”
แสดงให้เห็นว่า นายก้อง ไม่ได้มีเจตนาจะให้นายแก้ว ผู้กระทำผิดได้รับโทษ
ตามกฎหมาย จึงอาจเข้าใจได้ว่า นายก้องมาแจ้งความเผื่อไว้...
เช่น หากตกลงกับนายแก้วไม่ได้ จึงจะมาดำเนินคดีในภายหลัง แต่ตอนนี้
กลับไปเจรจากันก่อน...นายก้องและนายแก้วอาจจะตกลงกันได้...ไม่ถือโทษโกรธเคืองกัน....
หรือนายแก้วอาจจะรักนายก้องจริง ๆ และตกลงเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน...เป็นต้น
การแจ้งความที่ระบุว่า “นายก้องจึงได้มาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน”
จึงไม่ใช่การแจ้งความร้องทุกข์ตามกฎหมาย ...
แต่เป็นเพียง “บันทึกประจำวัน” ของทางตำรวจ
ซึ่งในความผิดอันยอมความได้ มีอายุความเพียง ๓ เดือน
นับแต่วันที่รู้ว่า...มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น
เช่น นายก้องโดนข่มขืนเมื่อวันที่ ๑๐ มี.ค. ๕๓
การนับอายุความ ๓ เดือน เริ่มนับตั้งแต่วันที่รู้คือวันที่ ๑๐ มี.ค. ๕๓
ซึ่งครบกำหนด ๓ เดือน ในวันที่ ๑๐ มิ.ย. ๕๓
หากล่วงพ้นวันที่ ๑๐ มิ.ย. ๕๓ ไปแล้ว ถือว่าคดีขาดอายุความ
ไม่สามารถนำมาฟ้องร้องได้ค่ะ
ดังนั้นเมื่อได้รับความเดือดร้อนเสียหายในทางอาญา
ผู้เสียหายต้องให้ตำรวจระบุข้อความลงในใบแจ้งความว่า
“ต้องการให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษตามกฎหมาย”
จึงจะถือว่าเป็นการ "แจ้งความร้องทุกข์" ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา ๒ (๗)
พนักงานสอบสวนจึงจะมีอำนาจสอบสวน และพนักงานอัยการจึงจะมีอำนาจ
ดำเนินคดีให้ผู้เสียหายได้ ถ้าผู้เสียหายร้องทุกข์ไว้ภายใน ๓ เดือน
คดีก็สามารถดำเนินต่อไปได้ และต่อมา ถ้าผู้เสียหาย จะฟ้องคดีเองอีกก็ได้
เพราะถือว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ไว้แล้วค่ะ
จึงเป็นที่น่าเห็นใจผู้เสียหายมาก...หลาย ๆ คดีได้ขาดอายุความไปอย่างเสียดาย...
เพราะผู้เสียหายไม่เข้าใจจริงๆ ว่า “การแจ้งความ”
กับ “การลงบันทึกประจำวัน” ของตำรวจนั้น
มีผลในทางกฎหมายอย่างไรนั่นเองค่ะ....หรือหลาย ๆ กรณี
ดังเช่นกรณีดังกล่าวข้างต้น ผู้ได้รับความเสียหายอาจไม่กล้าปรึกษาเพื่อน
หรือใคร ๆ หวังพึ่งตำรวจและความยุติธรรมอย่างเดียว....ไปแจ้งความโดยสุจริต
แต่อาจได้รับความชอกช้ำกลับมา....
จึงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งค่ะ......
แต่อย่าให้มีจะดีกว่านะคะ
สุภาษิตกฎหมายวันนี้
No one is bound to incriminate himself
ไม่มีผู้ใดถูกบังคับให้กล่าวร้ายแก่ตนเอง
ขอขอบคุณ น้องทรีค่ะ
http://www.goldhips.com/board/viewtopic.php?t=2407&postdays=0&postorder=asc&start=1140
2 ความเห็น
แนะนำความคิดเห็น