ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

moddang..'s Blog

  • เรื่อง
    23
  • ความเห็น]
    70
  • เข้าชม
    144,267

พืชผักใกล้ครัวที่เป็นยา

moddang

ดูแล้ว

พืชผักใกล้ครัวที่เป็นยา

img_0717.jpg

 

กระถิน

 

สรรพคุณ ยอดและฝักใช้กินเป็นผักชนิดหนึ่ง แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงหัวใจ // เมล็ดแก่ แก้ขับลม ขับระดูในสตรี บำรุงไตและตับ แก้อาการนอนไม่หลับ เป็นยาอายุวัฒนะ ฯ

 

กะเพรา

 

สรรพคุณ ดอก ใบ กิ่ง ใช้ปรุงเป็นยาบำรุงธาตุ แก้ปวดท้อง ท้องขึ้น เฟ้อ เรอ เหม็นเปรี้ยว แก้ลมตาล ลมทรางในเด็ก แก้ลมตีป่วนในท้อง ช่วยขับลม ใช้ผายลมและเรอออกมา แก้ลมจุกเสียด ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ใช้ปรุงผสมกับสมุนไพรอื่นๆ เป็นยาเขียว ยาลม ยาธาตุ และยาแก้กษัย // ราก ใช้ฝนใส่ฝาหม้อดินผสมกับสุราขาว หยอดใส่ปากเด็กโตอายุ 3-5 ขวบขึ้นไป ช่วยให้ลมในกระเพาะลำไส้ เด็กเล็กกว่านี้ใช้เป็นยาแก้ถ่ายขี้เทา ช่วยให้ผายลมในกรร๊เด็ดท้องอืด ท้องเฟ้อ มักจะเรอน้ำนม ฯ

 

 

กระเทียม

 

สรรพคุณ กระเทียม มีชื่อเรียกแตกต่างกันตามสภาพท้องถิ่น มักลิ่นเผ็ดร้อน ทางเหนือเรียก หอมเทียม ภาคอีสานเรียก หอมขาว ปักษ์ใต้เรียก หัวเทียม ใช้หัวสดตำทาแก้โรคผิวหนัง เช่น เกลื้อน กลาก เรื้อนกวาง ตลอดจนผดผื่นคันตามตัวทั่วไป ปรุงผสม สมุนไพรอื่น แก้ริดสีดวงทวาร ริดสีดวงลำไส้ แก้ขับลมปัสสาวะ แก้กษัยบำรุงไต แก้ขับระดูในสตรีพิการ มีกลิ่นคาว เหม็นเน่า แก้อาการโรคประสาทอ่อนๆ อาการนอนไม่หลับ อาหารเหม่อลอย สะดุ้งผวาตกใจง่าย แก้ขับเนื้อร้ายภายใน สมานแผลในกระเพาะและแผลในลำไส้ แก้โรคหืด อัมพาต ลมตีขึ้นทำให้หน้ามืดตาลาย ลมตีลงทำให้ปั่นป่วนในท้อง และลำไส้ เกิดอาการคลื่นเหียน อาเจียน อาการปวดตามบั้นเอว สันหลังและชายดครงทั้งสองข้าง ใช้ทุบโขลกสระผม แก้โรคผิวหนัง ขจัดรังแคบนศรีษะ ป้องกันผมหงอกก่อนวัย เป็นยาอายุวัฒนะ

 

กระชาย

 

สรรพคุณ ตำรับยาใช้หัวปรุง แก้อาการปากเปื่อย ปากเป็นแผล ปากแตกแห้ง ร้อนในกระหายน้ำ แก้ใจคอหวาดหวิวผวา แก้ปวดท้อง ลงท้อง จุกเสียด แก้บิด มูกเลือด บำรุงกำลัง บำรุงน้ำดี ฯ

 

กระเจี๊ยบ

 

สรรพคุณ ใบ ใช้เป็นยากัดเสมหะ แก้ไอคันคอ ขับไขมัน และเมือกในลำไส้ให้ออกทางทวารหนัก // เมล็ด ใช้ปรุงยาแก้ดีพิการ บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง ขับปัสสาวะ บำรุงไต ฝักหรือผล กำลังดิบๆ ไม่แก่เกินไป ต้มกินบำรุงธาตุ บำรุงไต ขับปัสสาวะ ทำให้คอชุ่มเย็นๆ

 

กล้วยน้ำหว้า

 

สรรพคุณ กล้วยชนิดอื่นๆ ที่กินไม่ได้ มักจะปลูกไว้ทำยากล้วยน้ำหว้า ใช้กินผลสุกวันละ 2-3 ลูก ช่วยให้บำรุงกำลังเจริญอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย แก้ท้องผูก แก้โรคกระเพาะ ลำไส้เป็นแผล และเป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงธาตุ ทำให้กระเพาะและลำไส้ไม่ค้างกากอาหารเก่าๆ

 

ขมิ้น

 

สรรพคุณ ใช้ขับระดูสำหรับสตรี ที่มีกลิ่นเหม็น และเลือดจับกันเป็นก้อนดำ จะช่วยละลายให้แตกเป็นลิ่มๆ ออกมา แก้บิดเป็นมูกเลือด แก้น้ำดีพิการ ขับลมให้ผายออกมาทางทวารหนัก หรือให้เรอออกมาทางปาก แก้น้ำดีพิการ ขับลมให้ผายออกมาทางทวารหนัก หรือให้เรอออกมาทางปาก ฝนหยอดตา แก้อาหารตาแดง ตาเปียกแฉะมีขี้ตาเป็นประจำในฤดูแล้ง ยังแก้ธาตุพิการ ท้องร่วง ใช้ดมแก้หวัด ขับเสมหะในลำคอ ผสมสมุนไพรอย่างอื่นๆ เป็นยาคุมธาตุยังแก้ฟกช้ำ ดำเขียวตามร่างกาย ด้วยการเอาหัวสดๆ มาตำพอกบรรเทาอาการอักเสบและเคล็ดยอกได้ด้วยๆ

 

ข่า

 

สรรพคุณ แก้ท้องเสีย ไล่ลมในท้อง หรือมีอาการปวดมวนหรือแน่น จุกที่หน้าอก ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ เวลากินอาหารมากๆ จะไม่ท้องเสียหรือปวดท้อง ช่วยขับลมในลำไส้และลมในกระเพาะ ใบใช้ตำพอกหรือทาโรคผิวหนัง หิด กลาก เกลื้อน ถ้าหญิงคลอดลูกใหม่ๆ เลือดขัดใช้หัวข่าสดมาบด ผสมน้ำมะขามเปียกและเกลือแกง บับคั้นเอาแต่น้ำๆ ประมาณชามแกงย่อมๆ ให้ดื่มเข้าไปจนหมด จะสามารถขับเลือดเสียออกมาจนหมด และยังช่วยทำให้มดลูกเข้าอู่เร็วยิ่งขึ้น ฯ

 

ขี้เหล็ก

 

สรรพคุณ แก่น แก้ธาตุพิการ อาหารไม่ย่อย บำรุงธาตุไฟ แก้หนองในและการมโรคในบุรุษ ราก แก้ไข้หัวลม เมื่ออากาศเปลี่ยนฤดูกาล แก้ปวดเมื่อย เหน็บชา แก้กษัย บำรุงไต ดอก แก้โรคประสาท อาการนอนไม่หลับ แก้หอบ หืด บดผสมน้ำฟอกผมบนศรีษะขจัดรังแค เปลือก แก้ริดสีดวงทวาร ริดสีดวงลำไส้ แก้โรคเบาหวาน สมานแผลให้หายเร็ว ใบแก่ แก้ ถอนพิษ ถ่ายพิษ แก้กามโรค ตำพอกที่แข้งขา มือเท้าที่มีอาการบวมเนื่องจากเหน็บชา ดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ และพิษจากแมลง สัตว์ กัดต่อย กิ่งใบ ทำเป็นยาระบาย ถ่ายพิษ ขับเสลดในคอ แก้ไข้จับสั่น (มาเลเรีย) จนม้ามย้อย แก้โรคเหน็บชา แก้ร้อนในกระหายน้ำ ดีนัก ฯ

 

แคขาว แคแดง

 

สรรพคุณ เปลือกแค แก้ร้อนในกระหายน้ำ ขับเสมหะในลำคอ บำรุงกระเพาะและลำไส้ นอกจากนี้ แค ทั้งเปลือกที่นำมาต้ม ยอด ดอกและฝักที่เรานำมากินเป็นผักประจำวันนั้น แก้ท้องเดินท้องร่วง สมานแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้บิดมูกเลือด แก้ไข้หัวลม (คือก่อนเข้าฤดูหนาว) แก้ริดสีดวงจมูก ใบใช้ตำพอกแผลสด เพื่อสมานเนื้อให้หายเร็ว เปลือกนอดของต้นแค ใช้ฝนเอามาทาแผลเปื่อย แผลสดได้ผลดี ฯ

 

เหง้าขิงแห้ง

 

สรรพคุณ เป็นยาจำพวกยาอายุวัฒนะ บำรุงร่างกาย บำรุงหัวใจ บำรุงธาตุไฟ ขับลมในลำไส้ ให้ผายลมออกมา แก้ร้อนในกระหายน้ำ ช่วยย่อยอาหาร แก้ลมพรรดึก แก้อาการปวดท้อง คลื่นเหียนอาเจียน แก้บิดมีตัว บิดมูกเลือด แก้อุจจาระเป็นฟองเหลือง ขาวและมีกลิ่นเหม็นคาวจัด แก้และบำรุงหลอดคอให้ชุ่มเย็น ขับละลายก้อนนิ่วฯ ตำรับยาแผนโบราณ แก้ลมพานไส้ แน่นหน้าอก แก้นอนไม่หลับ แก้โรคปากเปื่อย คอเปื่อย ฯ

 

ตะไคร้

 

สรรพคุณ นิยมใช้หัวนำมาคั่วไฟ แก้ขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา แก้นิ่วในระยะแรกๆ แก้ปัสสาวะหยด และยังใช้ใบมาย่างไฟให้เหลือง แก้อาการปวดท้อง ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ ลมมากในลำไส้ บรรเทาอาการร้อนใน ริมฝีปากแห้ง

 

ตะไคร้หอม บางท้องถิ่นเรียก ตะไคร้แดง เพราะลำต้นสีแดง

สรรพคุณ ตะไคร้หอม แก้ริดสีดวงที่เป็นแผลในปาก ริมฝีปากแตก ร้อนในกระหายน้ำ สตรีมีครรภ์กินมากไม่ได้ แก้ขับเลือดเสีย แก้ขับลมในลำไส้ ใช้ทาตามแขน ขา มือ เท้า ป้องกันยุงและแมลงไม่ให้มารบกวนได้ดี ฯ

 

ตำลึง

 

สรรพคุณ ใบ ใช้ตำหรือบดผสมแป้งดินสอพอง พอกแผลฝี ช่วยบีบรีดหนองให้แตกออกมา เพื่อให้แผลฝีหายเร็ว ใช้ใบปรุงผสมกับสมุนไพรอื่นๆ เป็นยาเขียว ยาเย็น แก้ขับอาการร้อนในและพิษไข้ให้ตัวเย็นลง ตำใบทาตามผิวหนังแก้ผด ผื่นคัน และใช้ถอนพิษตามผิวหนังที่ถูกขนหมามุ่ย ให้หายคันคะเยอได้ ขับพิษร้อนพิษแสบ ปวด และคันตามตัวให้หาย เถา ใช้ตัดมาคลึงให้นิ่ม บีบเอาน้ำภายในออกมา หยอดตา แก้ตาฟ่าง ฟาง ตาแดง ตาแฉะ มีขี้ตามาก ราก แก้ตาเป็นฟ่า ตาติดเชื้อ ดับพิษปวดแสบ ปวดร้อนในตา บำรุงธาตุ เจริญอาหาร บำรุงหัวใจ บำรุงน้ำดี ทำให้ระบบขับถ่ายสะดวก รักษาโรคลำไส้และกระเพาะอาหาร ทำให้ตาแจ่มใส ผลสุก จะมีสีแดง ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย ฯ

 

ชะอม

 

สรรพคุณ รากใช้ฝนกับน้ำหรือเหล้าขาว แก้ขับลมใน ลำไส้และลมในกระเพาะอาหาร ให้ผายลมออกมา แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อเรอเหม็นเปรี้ยว แก้ปวดมวน ปวดแสบปวดร้อน ยอดกินแทนผักมากๆ ช่วยระบบขับถ่ายได้ดี นำมาเป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยย่อยอาหาร เจริญอาหาร ฯ

 

มะกรูด มัน

 

สรรพคุณ ใบ แก้ขับเสมหะ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้พิษ ฝีภายใน แก้เลือดออกตามไรฟัน ที่เรียกว่า ลักเปิดลักปิด ผล ใช้แก้ขับลมในลำไส้กระเพาะอาหาร แก้ขับระดูเสีย และบำรุงเลือดในสตรี แก้ลมจุกเสียดภายในท้อง ตามซี่โครงทั้งสองข้าง ราก ใช้ ถอนพิษสำแดงสุมรากและลูกให้เกรียม ทำผงละลายน้ำผึ้ง ใช้ป้ายลิ้นเด็กทารกแรกคลอด แก้ลิ้นเป็นฝ้าขาว ช่วยขับขี้เทา ขับลมให้ผายลมในทารก ฯ

 

มะนาว

 

สรรพคุณ ใบ ใช้แก้ให้กัดและฟอกเลือดในสตรีที่มีระดูเสีย ใช้ใบต้มกินให้ ขับเลือด ขับลม เมล็ดใน คั่วให้เหลืองเกรียมใช้ผสมสุราขาว เป็นยาขับเสลดในลำคอ ในลำไส้ แก้โรคตาลทรางในเด็กทารก ราก ใช้ถอนพิษไข้ทับระดู ไข้กลับ ๆ ซ้ำ ๆ ไม่รู้จักหายฝนผสมกับสุราทาแก้ฝี แก้ปวดหัวฝี เร่งให้บีบให้แตกเร็วขึ้น น้ำใช้ผสมน้ำผึ้งแท้ กวาด คอเด็กที่เป็นตาลทราง ตาลขโมย หรือลิ้นมีฝ้าขาวหนาจัด ช่วยขับลมในท้องเด็กทารก มะนาว ใช้กระทุ้งพิวถอนไข้ผิดสำแดง แก้เลือดออกตามไรฟัน และแก้นอนสะดุ้ง หนังตาแข็ง นอนไม่ค่อยหลับ แก้ประสาท มีสติหลงๆ ลืม ๆ หน้ามืดตามัวความจำเสื่อม ฯ

 

มะเขือพวง

 

สรรพคุณ ทำให้เจริญอาหาร บำรุงธาตุ ฯ

 

มะเขือเทศ

 

สรรพคุณ ให้มีวิตามินซี แก้เลือดออกตามไรฟัน (ลักปิดลักเปิด) หากกินสม่ำเสมอจะทำให้ไม่เป็นมะเร็งในลำไส้ แก้โรคนอนไม่ค่อยหลับ หรือมักนอนผวก สะดุ้ง หรืออาการตกใจง่าย ฯ

 

มะละกอ

 

สรรพคุณ ราก รสฉุนเอียน ใช้แก้โรคหนองใน ขับเลือด หนองในกระเพาะปัสสาวะ บำรุงไต ก้านใบ มีสรรพคุณเช่นเดียวกันกับทั้งฆ่าพยาธิในลำไส้และในกระเพาะอาหาร แก้โรคมุตกิด ระดูขาว เหง้า ตรงที่ฝังดิน มีรากงอกโดยรอบ ใช้ทำยาขับและละลายเม็ดนิ่ว ในกระเพาะปัสสาวะได้ผลดี

 

มะระ

 

สรรพคุณ มะระ ชาวจีนเรียก "โกควยเกี๋ยะ" บางท้องถิ่นเรียกผักไห่ ภาคเหนือเรียก หม่านอยยอกและใบอ่อน แก้โรคปวดตามข้อตามกระดูก ที่เรียกว่า รูมาติซั่ม และเก๊า ซึ่งทำให้คนไทยเราส่วนมากเป็นโรคปวดตามข้อมือ ข้อเท้า ตามหัวเข่า จะมีอาการปวดบวม และยังแก้อาการร้อนในกระหายน้ำ ธาตุพิการ บำรุงไต เมล็ดถอน แก้ฆ่าพยาธิในลำไส้และกระเพาะ เป็นยาระบายอ่อนๆ ทำให้ตัวชุ่มเย็น แก้ไข้ ละบายพิษต่างๆ ให้ระบายออกทางปัสสาวะและอุจจาระ แก้ปวดเมื่อย ขับฤดูเสียในสตรี บำรุงน้ำดี บำรุงตับและม้ามให้ปกติ ยอดมะระ ใช้แก้อาการเจ็บคอ ดับพิษร้อนแก้ไข้เปลี่ยนฤดู และแก้ข้อบวม เข่าบวม ข้อนิ้วปวด ช่วยให้มีระดูปกติ บำรุงมดลูกให้ปกติ บำรุงเลือดให้ปกติ หากเอาใบแก่และเถามาต้มน้ำดื่มกินแทนน้ำหรือน้ำชาได้จะช่วยขับพยาธิในลำไส้ และในกระเพาะ แก้กระหายน้ำ ทำให้อกและหัวใจชุ่มเย็น ช่วยให้เจริญอาหาร และช่วยระบบขับถ่ายให้สะดวกสบาย ในปัจจุบันนี้ วงการแพทย์ไทยได้วิจัยค้นพบว่า สามารถใช้แก้โรดเอดส์เบื้องต้นได้ เมื่อทดอลงกับผู้ป่วยทำให้เม็ดผื่นคัน และแผลในร่างกายไม่ลุกลามต่อไป หัวผดผื่นคันยุบลง และทำให้กินได้ นอนหลับ ผิวพรรณและมีกำลังดีขึ้น ฯ

 

มะรุม

 

สรรพคุณ เปลือกลำต้น ใช้ถากมาต้นน้ำกิน เป็นยาช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยให้ผายลมและเรอ บำรุงธาตุ ราก รสเผ็ด หวานขม ใช้แก้อาการบวมน้ำ บำรุงธาตุไฟ เจริญอาหาร ยอดและฝักอ่อน ช่วยให้เจริญอาหาร แก้ไข้หัวลม (เปลี่ยนฤดู จากฝนเข้าสู่หนาว...) ช่วยย่อยอาหาร ฯ

 

มะแว้ง

 

สรรพคุณ ใบและราก ใช้เป็นยาบำรุงธาตุ เมื่อปรุงกับสมุนไพรอื่นๆ บดเป็นผง ทำเป็นลูกกลอน แก้วัณโรคปอด วัณโรคในลำไส้ และวัณโรคในกระดุก เป็นยาแก้ไข้ แก้ไอเป็นเสมหะ ผลหรือลูกมะแว้ง ใช้บำบัดโรคเบาหวาน บำรุงน้ำดี น้ำตับอ่อน คนที่มีความดันสูงหรือเป็นโรคเบาหวาน หากกินผลมะแว้งเสมอๆ จะทำให้อาการโรคค่อยทุเลาบรรเทาลง เจริญอาหาร จะรู้สึกชุ่มคอและชุ่มปอด หญ้าอกเย็น และยังช่วยแก้ไข้สันนิบาต แก้คอมีเสลดเหนียว ทำให้ระคายคอและมีอาการไออยู่เสมอๆ แก้ขับและละลายเสลดในลำไส้ ช่วยให้ระบายออกทางทวารหนัก กินเป็นประจำ จะไม่ค่อยเป็นหวัด คัดจมุก และความดันโลหิต มะแว้งยังใช้ปรุงยาอื่นเป็นยาเขียว ยาแก้เบาหวาน และอื่นๆ อีกหลายขนาน ผลแก่ ใช้บดผสมสุราขาว ใช้กวาดคอเด็กทารก แก้เด็กร้องเด็กอ้อน เพราะลำคอมีพิษไข้ขึ้น ร้อนในกระหายน้ำ และมีเม็ดเล็กๆ รอบในลำคอ ฯ

 

แมงลัก

 

สรรพคุณ แก้ ขับลมในกระเพาะและลำไส้ บำรุงธาตุแก้โรคลำไส้พิการ แก้พิษตาลทรางในเด็กทารก ช่วยให้เจริญอาหาร เมล็ดใช้ผสมกับน้ำหวานหรือน้ำเชื่อม กินแล้วช่วยดับร้อนในกระหายน้ำ ทำให้ชุ่มคอ บำรุงหัวในให้ชุ่มฉ่ำ อารมณ์แจ่มใส ช่วยสมานแผล ช่วยให้แผลหายเร็ว และโรคกระเพาะลำไส้ ฯ

 

สัปปะรด

 

สรรพคุณ เหง้า แก้ขัดเบา ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว ช่วยละลายก้อนนิ่ว แก้หนองใน แก้ระดูขาวมีอาการคันในช่องคลอดของสตรี ผล ใช้ปลอกเปลือก เอาตาออกเสีย ใช้กินจิ้มเกลือ ช่วดกัดเสลดในลำคอและลำไส้ ช่วยให้ปัสสาวะสะดวก บำรุงกระเพาะปัสสาวะได้ดีมาก แกนในผล ถ้า คนฟันดี สมควรกัดเคี้ยวกินให้หมดเพราะมีประโยชน์เช่นเดียวกับเหม้าและเนื้อผลของมัน และยังเอาผลไปทำเหล้าไวน์สับปะรด ดื่มกินบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง บำรุงไตแก้กษัย เป็นยาจำพวกอายุวัฒนะ เสริมอวัยวะเพศชายให้แข็งแรง ชายใดที่มีอวัยวะเพศตายด้านควรทำกินประจำ สำหรับสตรีก็เช่นกันควรกินเนื้อผลสับปะรดสัปดาห์ละครั้งจะช่วยเสริมมดลูกให้ แข็งแรงไม่เป็นตกเลือด ระดูขาวอีกต่างหาก ฯ

 

บวบ

 

สรรพคุณ บวบหอม ใช้แก้อาการท้องเดิน เจริญอาหาร บวบขม นำเอาผลแห้งไปปรุงยาสมุนไพร เมล็ดและผลใช้แก้ขับเสมหะ ขับเสลด แก้ไอคันคอ รากและใบ ใช้บนกับเส้นยาสูบ แก้ริดสีดวงจมูก บวบเหลี่ยม ช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงธาตุ ฯ

 

ใบบัวบก

 

สรรพคุณ เป็นยาบำรุงหัวใจ แก้เมื่อยล้า เมื่อยขบ แก้อ่อนเพลีย แก้ท้องเดิน ท้องเสีย แก้บิดเริ่มเป็น ขับปัสสาวะ แก้อาการอิดโรย คลายเครียดในยามเช้า สาย บ่าย เย็น ได้ดีมากๆ คนที่ทำงานหนัก ช้ำใน หรือดื่มเครื่องดองของเมาหนัก ให้ดื่มน้ำใบบัวบกนี้ จะมีอาการกระปรี้กระเปร่า หูตาสว่าง จิตใจเบิกบาน จะกระจายละลายเลือดภายในให้หายได้รวดเร็วดีนัก แล ฯ

 

พริกไทย

 

สรรพคุณ เม็ด มีรสเผ็ด ฉุน เม็ดแห้ง ที่มีเปลือกดำติดอยู่ เรียกว่า พริกไทยดำ ใช้พริกไทยดำ หรือพริกไทยร่อน จะต้องเอาอย่างนั้น หมอแผนโบราณคงมีเหตุผลของท่านแน่นอน แก้อาการจุกเสียดแน่นหน้าอก ปวดมวนในท้อง ท้องขึ้น เฟ้อ เรอ เหม็นเปรี้ยว บำรุงธาตู เมื่อปรุงผสมกับสมุนไพรอื่นๆ เช่น แห้วหมู ดีปลี โด่ไม่รู้ล้ม สะค้าน เถาคันแดง เป็นต้น ท่านว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ใบและราก แก้ลมตีขึ้น ทำให้มีอาการหน้ามืด ตามัว ปวดหัวตัวร้อน เครียดหนัก นัยน์ตาฟ่าฟาง แก้กษัย ไตพิการ บำรุงธาตุ ราก ถ้าปลูกตามต้นไม้ เช่น มะม่วงป่า ยิ่งดี ให้เก็บราก ตามโคนต้นและตามข้อเถา ใช้แก้ลมจุกเสียด แก้ลมในท้อง มีอาการท้องลั่นท้องร้องโครกคราก และมีอาการปั่นป่วน จนเบื่ออาหารและนอนไม่หลับ เครือเถา แก้อติสาร คือ อาการท้องร่วงอย่างแรงและท้องเดินหลายๆ ครั้ง แก้ลมในทรวงอก ใช้ปรุงยาได้ทั้ง ราก เถา เมล็ด ใบดอก ฯ

 

ผักบุ้ง

 

สรรพคุณ ผักบุ้งขาว หรือผักบุ้งจีน ช่วยให้เจริญอาหาร เป็นยาถอนพิษ บำรุงธาตุ สรรพคุณของผักบุ้ง โดย เฉพาะผักบุ้งไฟแดง คนที่ชอบเป็นตาต้อ ตาแดง หรือคันนัยน์ตาบ่อยๆ ตลอดจนมีอาการตาฟ่าฟาง จำพวกคนสายตาสั้น จะทำให้สายตาที่แจ่มใส บำรุงสายตา ทำให้ไม่เป็นโรคกระเพาะ ฯ

 

โหระพา

 

สรรพคุณ ใช้ปรุงเป็นยาขับลมในกระเพาะและลำไส้ แก้ท้องอืด เฟ้อ เรอ เหม็นเปรี้ยว ช่วยขับลมทำให้เรอและผายลม คือ ทำให้เลือดลมเดินดี สำหรับเมล็ดแห้ง ใช้แก้บิดมีตัว และบิดมูกเลือด ล้างของเสียภายในลำไส้และในกระเพาะ ไม่ทำให้เป็นแผลในกระเพาะและตามลำไส้ สำหรับโหระพาทั้ง 5 คือ ราก ต้น ใบ ดอก เม็ด ใช้กินแก้บิด แก้ไขทรพิษตาลทรางในเด็กทารก แก้นอนไม่หลับ นอนสะดุ้งผวา ยอดโหระพา ช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงธาตุ ฯ

 

ทับทิม

 

สรรพคุณ ดอกใช้ผสมยาอื่นๆ ปรุงธาตุ บำรุงธาตุ ปรุ่งเครื่องเทศ เช่นอบเชย และกานพลู ฯลฯ เป็นยาสมาน ไล่ลมในกระเพาะ ลำไส้ ช่วยให้เจริญอาหาร ราก ใช้ต้มกินสมานลำไส้ ฆ่าพยาธิตัวตืด พยาธิปากขอ พยาธิไส้เดือน ตลอดจนพยาธิเส้นด้ายได้ดี เปลือกต้นและเปลือกผลทับทิม แก้ โรคบิดเป็นตัว และบิดมูกเลือด กินต้มแก้ขับถ่ายของเสียเรื้อรัง และขับพยาธิทุกชนิดในลำไส้ แก้ล้างไขมัน (คอเลสโตรอล) ในลำไส้ ขับลมทุกอย่างอันเกิดจากพิษไข้ ยอดทับทิมอ่อน ใช้ต้มกินน้ำ แก้บำรุงธาตุ แก้ร้อนในกระหายน้ำ บำรุงหัวใจ แก้ท้องร่วงในเด็ก ใช้ยอดอ่อน 5-7 ยอด ต้มกับน้ำให้เดือด ยกลงให้เย็นแล้ว ให้เด็กเล็กดื่มกิน แก้อาการท้องเดิน ท้องร่วงเป็น้ำซาวข้าว สำหรับผู้ใหญ่ให้เอา ยอดอ่อน 7 ยอด ต้มน้ำกิน ประมาณ 1-2 แก้ว จะทำให้อาการท้องเดิน ท้องร่วง หรืออาเจียน ปวดมวนในท้องมีอาการบรรเทา เปลือกผลทับทิม ใช้เปลือกแห้งฝนผสมกับสุราหรือน้ำสะอาด ใช้ทาแผลให้ทั่ว ยาจะช่วยสมานและรัดแผลให้แห้งหายในเร็ววัน ทับทิมในเมืองไทยมี 2 ชนิด คือ (1) ทับทิมชนิดดอกขาว (2) ทับทิมชนิดดอกแดง มีสรรพคุณทางยาเสมอกัน ฯ

 

 

(จากหนังสือ ตำรายาสมุนไพร ของ นฤมล มงคลชัยภักดิ์,

 

http://www.raanaroii.com/articles/105-thai-vegetable.html

 

Source: สาระน่ารู้....สุขภาพ



6 ความเห็น


แนะนำความคิดเห็น

ขอบคุณค่ะ คุณมดแดง

ปุณณ์ได้รับประโยชน์จากกระทู้เกี่ยวกับสุขภาพของคุณมดแดงมากๆ

ตามอ่านทุกกระทู้เลยค่ะ แต่ไม่ค่อยได้โพสตอบตามนิสัยเกียจคร้านของตัวเอง wub.gif

 

ปกติพืชหลายชนิดปุณณ์ใช้ในรูปแบบอาหารเป็นยามานานแล้ว

แต่มักจะเป็นใบ-ผล มากกว่าราก ยกเว้นบัวบกใช้ทั้งต้น

ต้นไหนที่ใช้บ่อยๆก็ปลูกเองเสียเลย

ตอนนี้แทบไม่ต้องใช้ยาแผนปัจจุบัน ยกเว้นยาลดความดัน

เพราะเวลามีเหตุให้ความดันขึ้นปรู๊ดสมุนไพรลดไม่ทันได้แต่ช่วยป้องกันในระยะยาว

แชร์ความคิดเห็นนี้


ลิงก์ไปความเห็น

ขอบคุณค่ะ คุณหมอ และคุณปุณณ์ จริงๆ มดแดงอยากรวบรวมประมาณนี้อยู่แล้ว ก็พอดีช่วงนี้เจอเว็บนี้ที่รวบรวมไว้มาก ก็เลยนำมาที่บล๊อกซะเลย จะได้หาง่ายหน่อย

แชร์ความคิดเห็นนี้


ลิงก์ไปความเห็น

ขอแจมนิดนึงครับ ผมเรียนเภสัชแผนโบราณเพิ่มจากวัดโพธิ์ครับ อาหารที่เรากินเป็นยาได้หมดเลยครับ แผนโบราณของเราใช้รสชาดของอาหารเป็นตัวบ่งถึงสรรพคุณของยาครับ

--พืชผักทีมีรสเผ็ดร้อนจะขับลมครับ ง่ายๆก็พวกเครื่องเทศทุกอย่างและพืชที่มีรสเผ็ดร้อนจะช่วยขับลมเช่นขิง ข่า ตะไคร้ กระเพรา โหระพาและอื่นๆ จะมีสรรพคุณในการขับลม

--รสฝาดจะช่วยแก้ท้องเสีย กล้วยดิบรสฝาด น้ำชารสฝาด

--รสเปรี้ยวจะขับเสมหะ มะนาว บ๊วย มะยม สับปะรด มะขามและอื่นๆที่รสเปรี้ยว

--รสมันจะบำรุงเกี่ยวกับข้อต่อเส้นเอ็น ถั่วต่างๆมีรสมัน แห้ว

--หอมเย็นเช่นยาหอม บำรุงหัวใจ ไม่ใช่การบำรุงหัวใจแบบแผนปัจจุบันนะ

--รสจืดจะช่วยลดไข้ขับปัสสาวะ

--รสขมจะบำรุงโลหิตและดี

--รสอื่นคงไม่พูดนะครับ เดี๋ยวจะสับสนนะครับ

แชร์ความคิดเห็นนี้


ลิงก์ไปความเห็น

copyมาฝาก

 

สรุปคำบรรยายจากแพทย์แผนจีน “ เมื่อชีวิตสุขสบาย ต้องไม่ไป ( ตาย ) ก่อน 99” ทุกคนอยากมีชีวิตสุขสบายไร้โรคา ท่านทั้งหลายมาฟังการบรรยายก็มีจุดประสงค์อย่างเดียวกัน ผมขอถามว่า อายุขัยของคนเราสูงสุดคือเท่าไร บางคนบอกว่าสูงสุด 150 ปี ต่ำสุด 120 ปี ซึ่งไม่ถูก มนุษย์เรามีระยะเจริญเติบโต 20-25 ปี อายุขัยเป็น 5-7 เท่าของระยะเจริญเติบโต คือต่ำสุด 100 ปี สูงสุด 175 ปี การจะอยู่ถึงร้อยปีไม่ใช่ฝันอีกแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากอยู่ถึงขนาดนั้นหรือไม่ จะอยู่ร้อยปีก่อนอื่นต้องมีสุขภาพดี แล้วสุขภาพดีมาจากไหน ? มาจากพื้นฐาน 4 ประการในชีวิตประจำวัน ประการแรก คือภาวะจิตที่สงบสุข ประการที่สอง คือรับโภชนาการที่สมดุล ประการที่สามคือออกกำลังกายพอเหมาะ ประการที่สี่คือนอนหลับเพียงพอ โดยปรกติแล้ว ประการที่สี่ชักจูงให้งดบุหรี่และเหล้า ผมขอแก้เป็นนอนหลับเพียงพอ ดั่งที่โบราณท่านว่า “ อดนอนทุกวัน ชีวิตสั้นไป 10 ปี ” < BR> พื้นฐานสุขภาพ 4 ประการ ต้องเรียงตามลำดับ สมัยนี้มีบทความมากมายเขียนถึงเรื่องนี้ แต่ถ้าไม่พูดถึงภาวะจิตใจเป็นประการแรก แสดงว่าผู้เขียนไม่ใช่มืออาชีพ ไม่ต้องอ่านต่อแล้ว เพราะแพทย์แผนจีนจัดภาวะจิตใจเป็นอันดับหนึ่งในการบำรุงสุขภาพ กล่าวคือ ภาวะจิตเป็นตัวกำหนดพฤติกรรม และผลพวงต่างๆ เกิดจากพฤติกรรม มองในแง่สรีระ คนเราอยู่ได้โดยอาศัยอวัยวะทั้ง 5 คือ ตับ หัวใจ ม้าม ปอด และไต ยกตัวอย่างเช่น โรงพยาบาลออกใบมรณะบัตร มักจะระบุสาเหตุการตายว่า หัวใจวาย ตับวาย ไตวาย เป็นต้น ถ้าผู้ป่วยตายด้วยเส้นเลือดหัวใจอุดตัน แสดงว่าเลือดเข้มข้นสกปรก แต่เลือดฟอกมาจากตับ แสดงว่าตับหมดสมรรถภาพในการฟอกพิษหรือกลั่นกรองเลือดให้บริสุทธ ิ์ ไหลเวียนไม่คล่องตัว ทำให้อุดตันในเส้นเลือด ผู้ป่วยโรคหัวใจจำนวนมาก ก่อนหัวใจวายมักจะบันดาลโทสะซึ่งเป็นสาเหตุทำลายการทำงานของตับ ด้วย เพราะฉะนั้น โปรดจำไว้ว่า อย่าโมโหโทโสซึ่งไม่ช่วยแก้ไขปัญหาใดๆ เลย นอกจากทำลายร่างกายเท่านั้น ขอฝากคำขวัญให้ทุกท่าน “ หัวเราะสามเวลา < /FONT> ห่างไกลโรคและยา หัวเราะสามเวลา หมอต้องผูกคอลา ” ทีนี้มาพูดเรื่องโภชนาการ อักษรจีนต้องเขียนตามลำดับก่อนหลัง ภาษาก็เช่นเดียวกัน เราพูดวา “ ดุลยภาพแห่งโภชนาการ ” หมายความว่า ดุลยภาพต้องมาก่อน โภชนาการจึงตามหลังมา WHO เตือนเราว่า คนเราเกิดโรค

 

มาจากสาเหตุ (1) รูปแบบการดำรงชีวิตไม่เหมาะสม (2) กินอาหารไม่สมดุล หมายรวมถึงมากเกินและขาดแคลน นั่นคือ ไขมันมากเกิน แต่แร่ธาตุและวิตามินขาดแคลน สรุปคือ ไม่รู้จักกิน ทำให้เกิดโรค อยากจะถามว่า เรากินอาหารเพื่ออะไร คำตอบคือ (1) เพื่อดำรงชีพ (2) เพื่อป้องกันโรค (3) เพื่อรักษาโรค บรรดาโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เกิดจากการกินทั้งนั้น ในเมื่อกินแล้วทำให้เกิดโรคได้ ก ็ต้องกินแล้วรักษาโรคได้เช่นกัน แพทย์แผนจีนเป็นมรดกตกทอด 5 พันปี ให้คนรุ่นหลังใช้รักษาโรค 5 ขั้นตอน ขั้นตอน 1 รักษาด้วยอาหาร หมอจะให้สูตรอาหารแก่คนไข้เป็นเวลาหลายเดือน ถ้าไม่ได้ผล ก็จะใช้ ขั้นตอน 2 กวาดทราย ดูดด้วยสุญญากาศ บีบนวดและดึงดัน ถ้าไม่ได้ผล ก็จะใช้ ขั้นตอน 3 ฝังเข็ม ถ้าไม่ได้ผล ก็จะใช้ ขั้นตอน 4 ใช้เหล้าดอง ถ้าไม่ได้ผล ก็จะใช้ ขั้นตอน 5 ใช้ยา ปัจจุบันหมอจะให้ยาทันทีที่คนไข้มาหา เป็นยาย่อมมีพิษ คุณกินยาทั้งเดือนทั้งปี ไม่มีวันที่โรคจะหายขาด Socrates บิดาแห่งแพทย์แผนปัจจุบัน เคยกล่าวเตือนว่า “ จงกินอาหารให้เป็นยา อย่ากินยาเป็นอาหาร ” จีนโบราณก็มีคำกล่าวว่า “ ใช้อาหารรักษาโรคดีกว่ายา ” แต่ทุกวันนี้มันกลับกันหมด เรากินอาหารวันละ 3 มื้อ กินเพื่ออวัยวะชิ้นไหนกันแน่ ? เราอยู่ได้เพราะอาศัยพลังงานจากอวัยวะทั้ง 5 พลังงานของอวัยวะได้มาจากการกิน แต่ทุกวันนี ้เรากินตามใจและปาก ชอบอะไรก็กินมันทุกวัน อวัยวะทั้ง 5 ก็เหมือนกับคน มีรสนิยมแตกต่างกัน ตับชอบกินสีเขียว หัวใจชอบกินสีแดง ม้ามชอบกินสีเหลือง ปอดชอบกินสีขาว ไตชอบกินสีดำ คำว่าดุลยภาพหมายถึงกินหลากหลายชนิด แพทย์แผนจีนใช้วิธีมอง ฟัง ดม ถาม แมะ ก็สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำ ในที่นี้ก็รวมทั้งการมองดูสี ทั้ง 5 บนใบหน้านั่นเอง ตัวอย่างเช่น ตับมีปัญหา สีหน้าจะออกเขียว หัวใจมีปัญหา สีหน้าจะออกแดง ม้ามมีปัญหา สีหน้าจะออกเหลือง คนไข้หอบหืด สีห น้าจะออกขาว คนไข้ไตเสื่อม สีหน้าจะออกดำ ดังที่กล่าวแล้ว ถั่วเขียวเหมาะสำหรับบำรุงตับ เพื่อให้ตับขับพิษออกจากร่างกาย แต่ก็ต้องกินให้ถูกวิธี คนทั่วไปมักจะต้มถั่วเขียวจนเละซึ่ง

 

ไม่ถูกต้อง วิธีที่ถูกคือต้มให้น้ำเดือดประมารณ 5-6 นาทีก่อนที่ถั่วจะแตกเม็ด รินเอาน้ำออกซึ่งจะได้น้ำถั่วเขียวที่มีสีเข้มข้นที่สุด ดื่มแล้วมีสรรพคุณขับพิษสูงสุด จากนั้นเอาถั่วเติมน้ำต้มต่อจนเละกินเป็นอาหาร หัวใจชอบสีแดงให้กินถั่วแดง ม้ามชอบสีเหลืองให้กินถั่วเหลือง ปอดชอบสีขาวให้กินถั่วขาว ไตชอบสีดำให้กินถั่วดำ ทำไมถึงให้กินแต่ถั่ว ? เพราะตำรายาจีนมีคำว่า “ คนเรากินถั่วทั้ง 5 จะสมบูรณ์พูนสุข ” โภชนาการแผนจีนก็เน้นว่า “ กินไม่พ้นถั่ว ” ขอยกตัวอย่างไม่ค่อยสุภาพ ในชนบทเขาใช้ถั่วดำเลี้ยงปศุสัตว์ ทำให้ไตแข็งแรงมีกำลังวังชา สามารถทำงานหนักเตะปี๊บดัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุภาพสตรีควรบริโภคถั่วตลอดชีวิต เพราะนอกจากเป็นประโยชน์ต่ออวัยวะทั้ง 5 แล้ว ในถั่วยังมีสารที่กระตุ้นการทำงานของรังไข่ ต่อไปจะพูดถึงรสชาติ เปรี้ยวบำรุงตับ ขมบำรุงหัวใจ หวานบำรุงม้าม เผ็ดบำรุงปอด เค็มบำรุงไต หมายความว่า ต้องกินให้ครบทุกรสชาติอย่างละนิด ให้เกิดสมดุล เช่นรสเปรี้ยวบำรุงตับ กินมากตับพัง จีนเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยโรคตับมาก ในจีนเองต้องยกให้มณฑลซันซีครองแชมป์โรคตับ เพราะคนที่นั่นชอบกินน้ำส้มสายชู รสเผ็ดบำรุงปอด กินมากปอดพังเช่นกัน สถิติกระทรวงสาธารณสุขจีนปีที่แล้วระบุว่า ชาวเสฉวนและชาวหูหนันที่อพยพจากจีนใต้ไปอยู่ภาคเหนือ นำเอานิสัยชอบกินพริกติดตัวไปด้วย นานวันเข้าเป็นโรคมะเร็งในปอดตามๆ กัน ทั้งนี้เพราะเหตุว่า ภาคใต้อากาศชื้น กินเผ็ดป้องกันความชื้นได้ แต่ภาคเหนืออากาศแห้ง กินเผ็ดมากจะทำลายปอด พึงจำไว้ว่า ใครอยู่ถิ่นไหนให้กินของถิ่นนั้น ไม่ใช่ว่ากินของได้ทั่วทุกถิ่น กินอาหารอย่างไรจึงจะเหมาะ ง่ายนิดเดียว มีหลักการจำดังนี้ “ สีสัน หยาบ - ละเอียด ดิบ - สุก คาว - เจ ” หมายความว่า กินอาหารต้องคละกันหลากสีและรสชาติ หยาบแข็งควบคู่กับละเอียดนิ่ม สุกควบคู่กับดิบ คาวควบคู่กับเจ ขอแนะนำว่า แต่นี้ไปให้กินผักดิบผลไม้สดแต่ละมื้อ ถ้าเปลือกกินได้ก็กินทั้งเปลือกจะยิ่งดี เพราะแพทย์แผนจีนถือว่า กินของดิบลดอาการร้อนใน แพทย์แผนปัจจุบันก็ถือว่า ผักผลไม้สดดิบให้วิตามินดีกว่า สุดท้ายจะพูดถึงยาบำรุง เราไม่ต้องเสียเงินมากมายซื้อยามาบำรุงร่างกาย ผักและผลไม้มีวิตามินสูง ถ้ากินให้ถูกวิธี ก็สามารถดูดซึมวิตามินเพียงพอต่อร่างกาย สิ่งที่ต้องการคือแคลเซียม ผู้หญิงควรกินแคลเซียมวันละ 3000 มก . ขึ้นไป ผู้ชายกินวันละ 4000 มก . ขึ้นไป พร้อมกับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ คนทั่วไปมักเข้าใจผิด คิดว่าแคลเซียมใช้สำหรับรักษาโรคไขข้ออักเสบ ที่จริงแล้วแคลเซียมช่วยกระตุ้นให้โลหิตไหลเวียน นอกจากนั้น ยังป้องกันเส้นโลหิตแข็งตัว ดังนั้น ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ควรกินแคลเซียม

 

ให้เพียงพอ เพื่อให้เส้นโลหิตอ่อนตัว ความดันก็จะลดตาม ยาลดความดันก็ไม่ต้องกินมาก ขอฝากคำขวัญให้ทุกท่าน “ อยากให้ร่างกายดี กินอาหารถูกวิธี อยากให้สุขภาพเยี่ยม อย่าลืมกินแคลเซียม ” อย่าลืม อาหารต้องมาก่อนยา เป็นโรคอย่าพึ่งแต่ยา พึงใช้ยาในยามวิกฤติเท่านั้น ขอส่งท้ายด้วย 4 ประโยคดังนี้ “ หมอที่ดีที่สุดคือตัวเรา โรงพยาบาลที่ดีที่สุดคือห้องครัว ยาที่ดีที่สุดคืออาหารมีคุณค่า การรักษาที่ดีที่สุดคือเวลา ” หมายความว่า ตัวคุณเองต้องรู้จักรักษาตัวเอง ห้องครัวในบ้านคุณเป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุด ยากับอาหารมีความหมายเดียวกัน กินอาหารให้ถูกต้องก็คือยาที่ดีที่สุด การรักษาต้องต่อเนื่อง ไม่ใช่ทดลองแล้วก็หยุด หรือเปรียบเสมือนใช้อวนจับปลา 3 วัน แล้วก็ตากอวนหยุดจับปลา 2 วัน ต้องใช้เวลาเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดี ท้ายที่สุด ผมขอแนะนำดังนี้ 1. หลังจากฟังคำบรรยายแล้ว นำไปเผยแพร่แก่ญาติมิตร เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพดี และเป็นการทบทวนในตัว 2. เขียนข้อความ “ ก่อนถึงเก้าสิบเก้า ห้ามเข้า ( โลง ) เด็ดขาด ” ติดไว้หน้าเตียง เพื่อเตือนตัวเองกินให้ถูกวิธี ก่อนลาจาก ขอให้เราทุกคนตะโกน “ ยืนหยัดไม่ไป ( ตาย ) ก่อนอายุ 99

แชร์ความคิดเห็นนี้


ลิงก์ไปความเห็น
ผู้มาเยือน
เพิ่มความคิดเห็น

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...
×
×
  • สร้างใหม่...