บอร์ดผู้ได้รับความนิยม

ทองคำ ปรับฐานไม่เลิกสักที ก็เลยพาลไม่ได้ update elliott wave เลย เพราะขนาดผมยังเมาคลื่น คิดว่าสมาชิกบางท่าน อาจจะเมายิ่งกว่าผมเสียอีก เลยงดไปสักพัก รอให้คลื่นลมเริ่มสงบ แล้วค่อยมานับใหม่ ซึ่งตอนนี้ ผมว่า คลื่นลม น่าจะเริ่มสงบแล้วนะ ตามภาพ ยังคงความหวังเดิม ซึ่งจะลมๆแล้งๆหรือเปล่าก็ไม่รู้ได้ คงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์นะครับ ใครดูไม่ออก ดูไม่เป็น ไม่อยากเดาเอง ก็สรุปตามที่ผมเห็นควร ชักจูงให้เชื่อไปด้วยกันว่า - นับยังไง ก็ต้องมีอีกคลื่น จะเป็น 5 หรือ (3) ย่อยของ 5 ก็ต้องตามรอยกันไป - ดูขนาดและทิศทางการปรับฐาน ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงการสิ้นสุดการปรับฐานแล้ว - กรณีปรับฐานลงอีก แนว 61.8% (1447.36) + EMA150 (แดง) น่าจะเป็นแนวรับสำคัญ -เป้าหมายเบื้องต้น กรณีกลับตัวขึ้นได้จริง น่าจะอยู่แถว 2250-2300 เหรียญ และเล็งจากทิศทาง (เส้นตรงสีเทา) บอกเราว่า กว่าจะมา อาจเป็นครึ่งหลังปีหน้า (2013) โน่นเลย ใครอยาก load template ไปดูใน fxPro เองก็ทางนี้เลย http://www.thaigold....iottwave120711/

ภาพยนต์แอนิเมชั่น เรื่องพุทธศาสดา เป็นเรื่องพุทธประวัติ และคำสอนของพระพุทธเจ้า มี 42 ตอน น่าดูมาก สมเด็จพระพี่นางเธอฯ ดำริให้สร้างขึ้นมา ใช้เวลาถึง ประมาณ 5 ปี สามารถชมได้ทางอินเตอร์เนท สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี จากเว็บด้านล่างนี้ ก๊อปปี้แจกเป็นธรรมทานได้ อนุโมทนากับผู้ที่ได้ชมภาพยนต์เรื่องนี้ http://buddha-thushaveiheard.com/page_01.html

ที่มา: หุ้น+ข่าว+ทอง+บทความ+กองทุน

ที่มา: อ้่านตำรา ลอกการบ้าน มาฟันธง

ที่มา: หุ้น+ข่าว+ทอง+บทความ+กองทุน

ที่มา: หุ้น+ข่าว+ทอง+บทความ+กองทุน

ราคาทองคำทำท่าว่าใกล้จะจบเทรนแล้ว เพราะอะไรนั้นลองมาวิเคราะห์กัน Possibility ที่ 1 ทองคำลงมาทำเวฟ 5 เล็กของเวฟ C กลางของเวฟ 2 ใหญ่เรียบร้อยแล้ว เตรียมตัว Take off เวฟ 3 ใหญ่ Possibility ที่ 2 ทองคำลงมาทำเวฟ 3 เล็กเตรียมตัวขึ้น (หรือ side way) เป็นเวฟ 4 เล็ก ก่อนลงต่อต่ำกว่าเวฟ 3 และมักเกิด Bullish Divergence (บางทีก็เป็นเวฟ 5 ที่สูงกว่า 3 ขึ้นอยู่กับความ Bullish ของเทรน) สรุปคือเป็นแค่การรีบาวน์ โดยทั้งสอง Possibility ทองคำมีโอกาสขึ้นมากกว่าลงครับ โดยสังเกตได้จาก Chart Pattern ในตอนนี้ ที่มีโอกาส Bullish ไปอีกไกลถ้าหากราคาปิดไม่หลุด Low เดิมนะครับ Pattern ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็น Bullish Bat นะครับซึ่งถ้าราคาสามารถหยุดอยู่ที่บริเวณนี้มีโอกาสที่จะเกิดเป็น Possibility แรกสูงมากซึ่งจะเป็นเวฟ 3 ใหญ่ที่ขึ้นอย่างมโหฬารกันเลยทีเดียว ยังไงก็อย่าลืม STOP LOSS กันนะครับ

ที่มา: หุ้น+ข่าว+ทอง+บทความ+กองทุน

ที่มา: หุ้น+ข่าว+ทอง+บทความ+กองทุน

บทวิจารณ์ทองคำอดีต และ การเล่นทองคำในปี 2013 บอนไซ 11-4-2556 ตอน วงกลมลอยลง ยิ่งลงยิ่งเร็ว อย่างนี้ต้อง ใช้ ชาวสวน แต่กลัว ชาวไร่จัง มาเมื่อไหร่ตัวใครตัวมัน …………………………………………………………………………. องค์ประกอบ พระเอกตัวที่ 1 วงกลม พระเอกตัวที่ 2 ชาวสวน พระเอกตัวที่ 3 ชาวไร่ .................................................................................... วงกลมหมายถึง ราคาทองคำที่ไต่ระดับลงมาจากจุด สูงสุด ในวันที่ 6 กันยายน 2011 ที่ราคา 1895 ลงมาโดย มีจุดต่ำสุด ใหม่ เรื่อยๆ ลงมาแล้วก็ขึ้นไปจุดสูงสุด โดยไม่ถึง จุดสูงสุดเดิม โดยมีบ้างช่วงอาจสูงกว่าเดิมแต่ก็อยู่ได้ไม่นาน ก็มาทำจุดต่ำสุดใหม่ แล้วก็ไปสูงสุดใหม่ ต่ำกว่าจุดสูงสุดครั้งที่แล้ว และ วงกลมขี้นและลงนี้เร็วขึ้น หมายถึง ความเร็วราคาต่ำลงโดยมีความเร็วของระยะเวลา เร็วขึ้น (ไปอ่านบทความก่อนหน้านี้ ทำนายทองคำหลังสงกราต์56 ดูนะครับ) พระเอกตัวที่ หนึ่ง วงกลม วงกลม ทองคำขึ้นในอดีต และ วงกลมที่กำลังลงเรื่อยๆในปัจจุบัน ผู้เขียนขอวิจารณ์เรื่องนี้ซึ่งจะขอบอกว่า เป็นความคิดของข้าพเจ้าแต่เพียงผู้เดียว ครับกระผม (บอนไซเล่าประวัติศาสตร์อีกแล้ว ผิดครับ บอนไซ กำลัง วิจารณ์ประวัติศาสตร์ครับ) ทองคำขึ้นมา15-18ปี 700 เปอร์เซ็นต์ จาก 270 มา 1895 ได้อย่างไร ก็ต้องบอกว่า เกิดจากการการเริ่มคนเห็นคุณค่าของมันว่ามันควรจะคุณค่ามากขึ้นมากขึ้น มากขึ้น แต่เรื่องจริงก็คือ คนมีกิเลส มีความโลภ อยากได้เงินจากการลงทุน อยากได้กำไร มันเริ่มมาจาก --- ทองส่วนใหญ่อยู่ในเงินคงคลังของประเทศ และสังคมของคนมีเงิน เพื่อบอกฐานะของตนเองซึ่งก็ไม่มากนัก --- มาเป็นประชาชนที่อยากได้มันเพราะด้วยราคามันไม่ลง (มันเป็นวัตถุที่ไม่มีมูลค่าด้อยลง) --- มาเป็นทองหมดตลาดในโลกนี้ คนก็ยังหามัน ยังไงล่ะ มันก็ขึ้นไปอีก --- ยังไงต่อล่ะ ทองไม่มี ไม่เป็นไร ซื้อขายความเชื่อก็ได้ จึงเริ่ม สังคม ทองกระดาษ และเติบโตขี้นมีมูลค่าทั้งหมด มากกว่าทองจริง 3-4 เท่า ของ ทองจริงที่มีอยู่ในโลก สรุปวิจารณ์ช่วงทองขึ้น 15-18 ปีได้ว่า คนในโลกมาสนใจทองคำ (ข้าพเจ้าคิดเอาเองนะ)ว่า ไม่ถึงล้านคนทั้งโลก มาเป็น ทั้งโลกนี้ คนทั้งโลกนี้มาสนใจ ทองคำ ถามหามัน แสวงหามัน อยากได้มัน 5555 ความโลภ ความอยากได้ของคนนั่นเอง ทองขึ้นเริ่มมีกองทุน มาสร้าง ระบบ ทองคำกระดาษ เข้ามาตลาด เข้าก่อนก็รวยก่อน จาก1กองทุน มาเป็นร้อยกองทุน หรือ อาจจะเป็นพันกองทุน ก็ได้ ตัวอย่าง กองทุนเริ่ม 100 ล้านดอลลาร์ ปัจจุบันอาจจะกำไร อาจมีมูลค่า สองพันล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า นั้น เพราะ ขี้น 700 เปอร์เซ็นต์ แต่ 15-18 ปี ทองขี้นลงขึ้นลงนะครับ เป็นพันพันรอบนะครับ ****** (แต่พวกใหญ่ไม่จริง ทองคำมัน ก็แสบนะครับ พวกเจ๋งตอนทองสูงสุดแล้วลงมาครั้งเดียว กินรวบก็มีแต่ก็เปรียบเทียบแล้ว ก็ไม่มากนะ)**** มาถึงไฮไลค์กันดีกว่า ( บทนี้ไม่ ทำนายอนาคต นะครับ ถ้าผิดหวังขอโทษด้วย ไว้ใกล้ๆ 1450ล่ะกัน ถ้ามี ) วิจารณ์การลงของทองจาก 1895 มาถึงปัจจุบัน 1560 (ตอนที่เขียน 17.00 วันที่ 11 เม.ย. 56) ทองลงจาก hi price เพราะมีกองทุนที่ ต้องใช้ศัพท์ว่า ทรยศ เพื่อนฝูง อย่ารู้เลยไปหาอ่านเอาเดี๋ยวผมถูกฟ้องยิ่งไม่รวยเท่าไรอยู่ จริงๆมันน่าจะแย่งกันหนี โดยการขายทอง ขายก่อนได้ราคาดีกว่า ขายตอนหลัง แต่ก็ไม่เกิดขึ้น ผู้เขียนจึงขอวิจารณ์ ว่าในปัจจุบัน การสื่อสารดี การตลาดแนบเนียนกว่าแต่ก่อน กองทุนต้องมีการสื่อสัมพันธ์ต่อกัน ให้ทุกคน win win โดยรวมตัวกันปล่อยให้ทองที่ซื้อมาค่อยค่อยลง ค่อยค่อยขาย และผมยังบอกได้เลย ที่มันซื้อมาแต่ต้น ตั้งแต่ 600 หรือ 800 ดอลาร์มาถึง สูงสุด 1895 น่าจะขายไปได้ ไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ของสต๊อกทองคำกระดาษ ที่พวกกองทองถือกันอยู่ ย้ำอีกครั้งนะครับ วิจารณ์ คือ วิจารณ์ ผมอาจรู้ไม่จริง สรุปกันดีกว่า อ่านนาน ยิ่ง งงงง ทองคำจะต้องทำวงกลม ลอยลง มาเรื่อยๆ และ เร็วขึ้นตลอดปี 2013 นี้ ประเอกตัวที่สอง ชาวสวน เป็นการ เรียกคนที่ เล่น hi-sell and low-buy ก็คือคนที่เล่นสวนทางตลาด ทองจะขึ้น ก็ขาย ///// ทองจะลง ก็ซื้อ ผมขอวิจารณ์ว่า เหมาะกับการเล่นในช่วง นี้ ถึงปลายปีนี้ คือ ทองค่อยๆเป็นวงกลมลงมา ทองขี้น สองวันติด ก็เตรียมขาย (เล่น ลง) เลย ทองลงมาสองวันสามวันแล้ว ก็ซื้อให้ทองขึ้น ง่ายๆนะ พอล่ะ ง่ายดี จบ ชาวสวน ประเอกตัวที่ สาม ชาวไร่ เป็นการ เรียกคนที่ เล่น ทองขึ้น ก็เล่นตามน้ำขึ้นด้วย ยิ่งขึ้น ยิ่งซื้อให้มันขี้น ///// ทองลง ยิ่งซื้อให้มันลง ยิ่งลง ก็ยิ่งซื้อให้ลงอีก ************ชาวไล่ (ราคาทอง)****************** ผมให้เครดิต ชาวไร่เดินครั้งสุดท้าย คือ การไล่ลงของราคาทอง ในวันกลางคืนวันที่ 6 กันยา 2011 ถึง 10 กันยา 2011 แสบจริง เจ็บจัง กินรวบทุกกองทุน ทุกระดับราคา เจ๋ง กัน ฉิบ..... เลย และตั้งแต่นั้น ผมยังไม่เครดิตช่วงไหนเลย *************************************************** ชาวไร่ ที่อยู่ทั่วโลกนี้โปรดทราบ ถ้าต้องการให้ บอนไซ ให้เครดิต โปรดทำให้ราคา ขึ้น หรือ ลง ก็ได้ 3 วัน มากกว่า 250 ดอลลาร์ นะจ๊ะ แต่ ขอวิจารณ์ มันไม่เกิดในปี 2013 แน่นอน ( มันยังลงไม่ถึงจุด แลัวมันยังไม่มีสัญญาน ) กลัวเล็กๆก็ีพี่ เกา ถ้า น้องนิวมา ก็ ฉิบ....... บอนไซ 11-4-56

ดัชนีนิเคอิปรับตัวลงมาแรงทีเดียว และน่าจะลงมาได้อีกนิด ราคาน้ำมันปรับตัวลงมาแรงทีเดียว ในระยะสั้นน่าจะมีการรีบาวน์มาให้เห็น แต่ในระยะกลางแล้วน่าจะลงต่อ ปีนี้อาจไม่ใช่ปีทองของสินค้าโภคภัณฑ์อย่างเคย ดัชนีsetลงมาแรงเช่นกันซึ่งเป็นการลงมาปิดgap ขาขึ้น ต่อไปน่าจะมีการปิด gap ขาลงบ้าง เผลอๆอาจได้เห็น new high ทองคำจะต้องรีบาวน์กลับในระดับราคาแถวๆนี้ หากว่าหลุด 1500 เตรียมขายทองล้างพอร์ทได้เลย

ราคาน้ำมันตอนนี้ ดูอนาคตสดใส น่าจะทะยานต่อไปที่ high เดิมที่เคยทำไว้ได้ไม่ยาก ดัชนี SET ถึงแม้จะขึ้นมาอย่างต่อเนื่องแต่ก็ควรจะระวังไว้บ้าง สังเกตโดยการที่ RSI ไม่ควรหลุดเส้นเหลือง ราคาน้ำมันดูสดใส แต่ราคาทองไม่น่าพิศมัยเอาซะเลย ราคาทองลงมาแรงมากที่ผมเคยคาดการณ์ไว้ว่า จะไม่หลุด 1700 ก็ผิดไปแล้ว สามเหลี่ยมที่เคยบอกไว้ก็เป็น falseไปอีก ราคาทองยังมีโอกาสไหลลงต่อเนื่องได้อีก แต่ในระยะสั้นอาจเห็นการ Rebound กลับไปที่ 173x การไหลลงมาแรงของราคาทอง และการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของ Set index เป็นตัวชี้วัดได้อย่างนึงว่า QE3 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่เมื่อไหร่ที่คนเริ่มตาสว่างก็จะได้เห็นความเป็นจริง ราคาทองก็จะปรับตัวสูงขึ้น ตลาดหุ้นก็จะตกลงทั่วโลก อัตราแลกเปลี่ยนก็จะผันผวนกว่านี้อีกมาก

ในที่สุด 1250 ก็มา แม้มาช้าไปจากที่ ทำนาย หนึ่งอาทิตย์ มาต่ำสุด วันที่ประกาศนันฟาร์ม ราว 1247 ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- (ส่วนตัว)ต่อจากนี้ วันนี้และต่อไปในอนาคต ราคาไม่น่าจะต่ำกว่า 1247 และเป็นขาขึ้นอย่างแท้จริง ผมว่าน่าราว ปลายปีนี้ที่เป็นจุดเริ่มกระทิง และก็ไม่เชื่อว่า เฟคจะขึ้นดอกเบี้ย เดือน ธันวา แม้ขึ้นจริงๆ ก็จะ ย่อ เพื่อ ขึ้น ปี 2017 จะเห็นราคา 1400 และจะมาโพสเมื่อมีราคานี้ (เฉพาะเรื่อง ขาขึ้นระยะยาว กรณีนี้) ส่วนรายเดือน จะมาวิเคราะห์เรื่อยๆ ถ้ามีเวลา บอนไซ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ที่มา: ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

ที่มา: อ้่านตำรา ลอกการบ้าน มาฟันธง

ที่มา: หุ้น+ข่าว+ทอง+บทความ+กองทุน

ราคาทองทำต่ำสุดในราคา 1251.8 ในวันที่ 15 ตุลาคม 2556 ซึ่งตอนเขียนวันที่ 7 กันยายน 56 ราคาอยู่ที่ 1390 โดยรอบที่ผ่านมา สูงสุดอยู่ที่ 1433 ในช่วงต้นเดือนกันยายน ครับ ที่มา: หุ้น+ข่าว+ทอง+บทความ+กองทุน

ที่มา: ยุคของร้านทองหมดแล้วจริงหรือ ภาค 1 และ ภาค2

ที่มา: หุ้น+ข่าว+ทอง+บทความ+กองทุน

ราคาทองและน้ำมันไหลลงมาชนสต็อปลอสระยะสั้นหมดแล้ว สุดท้ายไปไม่ถึงฝั่ง ราคาไหลลงมายาวนานถ้าช่วงกลางๆ เดือนพฤษจิกายนนี้ยังไม่เห็นสัญญาณกลับตัว รอรับได้เลยที่แถว 1200-1300 แต่ไม่ต้องตกใจขายทองหนี ให้ดูว่าในแนวรับ 1660 1625 โดยให้แนวรีบลึกสุดรอบนี้ 1580 ว่ามีการเกิด สัญญาณกลับตัวมั้ย ความเห็นส่วนตัวมองว่าไม่ควรหลุด 1600 ราคาน้ำมันไม่ควรหลุด 82 ถ้าหลุดงานนี้อาจลากยาวไปแถวๆ 6x Set50 ถ้าจะซื้อรอแหกนิวไฮเท่านั้น ตลาด commodity หลายชนิด และตลาดหุ้นหลายตลาดปรับตัวลดลงตามผล poll การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่บอกว่า Obama จะกลับมาอีกครั้ง ซึ่งตลาดคาดว่า ถ้า Obama กลับมาเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเลวร้ายกว่าเดิม แต่ของอย่างนี้ไม่ถึงวันเลือกตั้งทุกอย่างมีโอกาสพลิกผันได้เสมอ เหลืออีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเลือกตั้งแล้ว รอดูผลการเลือกตั้งและการตอบสนองของคนในตลาดให้ดี

ตลาดทองแม้ว่าราคายังนิ่งๆ RSI ยังไม่หลุดเทรนขาลง และยังไม่เกิด Bullish divergence (ราย day เท่านั้น H1 และ H4 เกิดหนดแล้ว) แต่ก็มีโอกาสที่ราคาทองจะ Rebound สั้นๆ หรือขึ้นยาวเลยก็ได้ เพราะว่ากรอบของเทรนแคบเกินไป กำหนดstop loss อยู่ที่ 1698 และ profit ระยะสั้น 174x ราคาน้ำมันตลาด Nymex ราคาเริ่มนิ่งๆมีรูปแบบคล้ายๆทอง คือ มีโอกาสที่ราคาน้ำมันจะ Rebound สั้นๆ หรือขึ้นยาวเลยก็ได้ เพราะว่ากรอบของเทรนแคบเกินไป กำหนดstop loss อยู่ที่ 84.85 และ profit ระยะสั้น 88.9x Set50 ไม่สามารถทำ new high ได้ ทำให้ราคาไหลลงต่อถึง 84x

ช่วงนี้หลายคนคงลุ้นกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ซึ่งมีผู้ลงสมัครด้วยกันสองคน คนแรกนั้นก็หน้าเดิม คือ นาย Barack Obama ประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐฯซึ่งก็ใช้นโยบายเดิมๆในการหาเสียง คนที่สองนี่น่าสนใจ คือ นาย Mitt Romney นักธุรกิจที่ร่ำรวยด้วยธุรกิจที่ไม่ค่อยโปร่งใส ซึ่งมีนโยบายในด้านต่างประเทศที่ค่อนข้างจะฮาร์ดคอร์ทีเดียว แสดงจุดยืนชัดเจนเลยว่าสหรัฐฯจะต้องกำราบพวกประเทศที่แข็งข้อกับสหรัฐฯให้เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นจีน อิหร่าน และกลุ่มผู้ก่อการร้าย ทำให้โอกาสเกิดสงครามโลกครั้งที่สามมีค่อนข้างมาก แต่ผมเชื่อว่าหลายคนเอาใจช่วยให้ Mitt Romney เอาชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ เพราะถ้ามีการใช้นโยบายต่างประเทศแบบนี้ทองคำจะพุ่งแบบหยุดไม่อยู่ ดัชนีดาวน์โจนส์ล่วงลงมาอย่างแรงหลังเกิดสัญญาณ Bearish Divergence และยังมีแนวโน้มที่จะลงต่อไป ถ้าลงต่อไปจริงจะส่งผลเสียต่อ Obama ในการเลือกตั้งอย่างมาก อาจมีการใช้เงินอัดฉีดเข้าตลาดเพือฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน การอัดฉีดเพิ่มเติมมีความเป็นไปได้สูงจากการที่ค่าเงิน USD/Baht กำลังปรับตัวสูงขึ้น น่าจะไปทดสอบที่ระดับ 30.86 ในเร็วๆนี้ ราคาทองปรับตัวลงมาเยอะทีเดียว ต้องรอดูว่า 169x จะรับอยู่ไหม ถ้าอยู่มีโอกาสเห็น 19xx แต่ควรรอให้ RSI หลุด เส้นแนวโน้มขาลงก่อนถึงซื้อได้ ราคาน้ำมันตลาด NYMEX ปรับตัวลงต่อเนื่องแต่เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น รอการคอนเฟิร์มอีกครั้ง SET50 เริ่มมีสัญญาณที่ดีเช่นกันรอทำ New high ก่อนค่อยเข้ายังไม่สาย ตัดขาดทุนที่ 870

ราคาทองคำดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถ้าหากดีดกลับมาที่เทรนสีแดงไม่ได้งานนี้ลากยาวครับ เอาตัวอย่างการลากมาให้ดูครับ ก็ได้แต่หวังว่าทองจะกลับเข้าเทรนสีแดงได้นะครับ SET รอลุ้น break out ก็เข้าซือ ถ้าไม่เบรกก็ลงอีกยาว

ราคาทองเมื่อดูกราฟแล้ว เหมือนกำลังฟอร์มตัวเป็น Head & Shoulder (รึเปล่า) ต้องติดตามกันต่อไป ดัชนีหุ้นขึ้นมาแรงทีเดียว จากกราฟเมื่อดู RSI กับเทรนแล้วยังพอขึ้นต่อไปได้ แต่ต้องระวังการปิด gap นิคเคอิ น่าจะยังลงต่อโดยเป้าหมายดูได้ในกราฟ นิคเคอิน่าจะลงในระยะสั้น แต่ในระยะกลางถึงยาวแล้วยังน่าลงทุน

ราคาทองคำดูแนวโน้มแล้วเริ่มสดใส เป้าหมายต่อไปอยู่ที่ 172x หลังจากที่ sideway มานานตอนนี้น่าจะถึงเวลาที่ทองจะเริ่มมีแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้น ราคาน้ำมันหลังจากเบรคเทรนขาขึ้นก็ sideway ไม่ยอมไปไหน ยังไงก็ควรอยู่ห่างจากตลาดไว้ก่อน ตลาดหุ้นเหมือนจะเล่นตลก เหมือนจะลงแต่แล้วก็ขึ้น ครั้งนี้อาจเป็นการขึ้นหลอก ยังไงก็ระวังไว้บ้าง แต่ถ้าสามารถผ่านตรงนี้ได้แบบสวยๆ ก็สามารถเข้าซือเพิ่มได้

ราคาทองคำลงมา test เทรนขาลง จากนั้นก็ทะยานขึ้นมาอย่างแรง ราคาทองกำลัง Bullish สุดๆ น่าจะไปที่ 1720 ในเร็วๆนี้ ราคาน้ำมันอาจ sideway แถวนี้ก่อนไปต่อที่ 115 เหรียญ แต่เคยเกิด gap ต้องระวังการลงมาปิด gap อยู่พอสมควร Set index ขึ้นมารวดเดียวโดยไม่มีการปรับฐาน อีกทั้ง RSI ไม่สามารถยืนเหนือเทรนไลน์ได้ต้องระวังการปรับตัวลงของราคา ดัชนี Nikkei มีลักษณะเป็น U-Curve น่าจะพอไปต่อได้ แต่มีการเกิด Bearish Divergence แสดงว่ามีแรงขายอยู่ ต้องระวังการปรับพักฐานไว้บ้าง

ราคาทองปรับตัวลงมาแรงทีเดียว จากจุดสูงสุดที่ 1790 ลงมาที่ 1660 คิดเป็น 7.26% ราคาอาจลงสุดแล้ว หรืออาจลงต่อที่ 1650 และ 1560 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามเพื่อความชัวร์เราอาจรอซื้อหลังจากเห็น Bullish Divergence ที่ชัดเจน SET index ดูท่าไม่ค่อยดี เนื่องจาก RSI หลุด Standard Deviation ลงมา อาจลงมาทดสอบระดับ 1100

Set index ตอนนี้เกิด Bearish Divergence น่าจะใกล้เวลาการพักปรับฐานอีกครั้ง ราคาน้ำมันผ่านเทรนไปได้แต่ก็อยู่ในลักษณะ Overbought จึงมีโอกาสปรับตัวลงมา test ที่ 105เหรียญ ราคาทองคำดูเหมือนจะเกิด Bearish Divergence โดยส่วนตัวมองว่าน่าจะปรับตัวลง แต่น่าจะเป็นการปรับตังลงในระยะสั้น ไม่น่าลงเยอะ ต่ำกว่า 1700 ไม่น่ามีโอกาสเห็นอีกแล้ว ราคาสินค้าเกษตรบางตัว sideway บางตัวก็ยังลงอยู่ แต่บางตัวก็ขึ้น Soybean ราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากเกิด Bullish Divergence ราคาน้ำตาลก็ไม่ยอมน้อยหน้า ปรับตัวขึ้นมาแรงทีเดียว ในอนาคตอันใกล้นี้ราคาสินค้าเกษตรหลายตัวยังไม่น่าสนใจ แต่ในระยะยาวสินค้าเกษตรมีโอกาสเป็น safe heaven เช่นเดียวกับทองคำ สาเหตุนั้นก็เพราะ การที่รัฐบาลหลายๆประเทศต่างพิมพ์เงิน และกู้เงินกันมหาศาล ส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้น เงินเฟ้อนั้นจะถูกคำนวณจากราคาสินค้าโดยรวม นั่นหมายความว่า เมื่อเราคาดการว่าเงินเฟ้อจะเกิดขึ้น สินค้า commodity ส่วนใหญ่ต้องปรับตัวสูงขึ้นอย่างแน่นอน ในปัจจุบันนักธุรกิจและผู้บริหาร คือกลุ่มที่มีรายได้สูงมาก เราจะเห็นพวกเขาเหล่านี้ขับรถหรูไม่ว่าจะเป็น Benze ,BMW หรือรถสปอร์ตก็ดี แต่ในทศวรรษหน้าเราอาจจะได้เห็นชาวนาขับ Lamborghini ไถนาแทนรถแทร็คเตอร์ก็เป็นได้

ดัชนี Nikkei ปรับตัวขึ้นมาแรงทีเดียว แต่ตอนนี้เริ่ม sideway ที่ Fibonacci 61.8 และจากการที่ทั้ง RSI และ Stochastic อยู่ในระดับ Overbought ทำให้ดัชนีมีโอกาสพักตัวที่บริเวณนี้ ดัชนี SET index มีโอกาสเกิด Bearish Divergencei ที่ Fibonacci 261.8 รวมทั้ง RSI และ Stochastic ก็อยู่ในระดับ Overbought จึงเป็นไปได้ว่า SET อาจเกิดการไหลลงแบแรงๆ ราคาน้ำมัน WTI ขึ้นไปชนเทรนแนวต้าน อีกทั้ง RSI และ Stochastic ก็อยู่ในระดับ Overbought ทำให้เป็นไปได้ว่าราคามีโอกาสปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 99 เหรียญอีกครั้ง ราคาทองตอนนี้เริ่มไต่ระดับขึ้นไปอีกครั้ง ถ้าใครติดตาม Blog ผมมาซักระยะนึงน่าจะได้อ่านบทความการเทรดโดยอาศัย Stochastic ซึ่งก็ได้เกิดสัญญาณซื้อมาซักสามวันก่อนถ้าหากราคาปิดทำ New High ได้ก็ให้ถือไปยาวๆ ถ้าใครสามารถอ่าน Pattern ได้ก็คงจะเห็นรูปแบบสามเหลี่ยม ทำให้ราคาทองมีโอกาสปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสเห็น 1885 ค่าเงินบาทยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ จากการที่ RSI ลงมา Test แนวรับแล้วไม่หลุด

Set index วันนี้ดีดขึ้นไปแรงทีเดียว แต่ก็ยังเป็น Divergence อยู่ ยังไงก็ควรระวังไว้บ้าง Hangseng RSIสามารถผ่านแนวต้านมาได้ ทำให้พิจารณาได้ว่าที่ผ่านมาเป็นแค่เวฟย่อยเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม RSI ยังคงเป็น Divergence อยู่ Nikkei เองเป็น false bearish gartley pattern ราคาอาจ sideway แถวนี้ก่อนซักพักก่อนไปต่อที่ Fibo 161.8 ดัชนี Dowjonesเองยังเป็น Divergence และราคายังไม่เกิด Newhigh จึงควรระวังเอาไว้ น้ำมันอาจจะมีย่อลงมาได้นิดหน่อย

ราคาทองตอนนี้เริ่มปรับตัวสูงขึ้นมาหลังจากลงไป test 171x แน้วโน้มทองยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้ต่อเนื่องตราบใดที่ยังไม่เกิด Divergence การจะเกิด Divergence ได้ต้องเห็น New high เท่านั้น หากเราลงทุนแบบ Technical โดยพิจารณาการซื้อทองโดยใช้ Stochastic เข้าซื้อเมื่อ indicator เกิดสัญญาณซื้อ (เส้นสีน้ำเงินลงต่ำกว่าระดับ 20 แล้วตัดเส้นสีแดงขึ้นมา) จะเห็นได้ว่าเกิด False Signal เพียง 3 ครั้ง (เริ่มดูจากวันที่ 28 มกราคม 2554) จากทั้งหมด 13 ครั้ง ทำให้ความแม่นยำของ indicator มีถึง 76.92% โดย False Signal เราพิจารณาจาก เมื่อเกิดสัญญาณซื้อแล้วไม่ทำ New high แต่ทำ New low ซึ่งหากเราพิจารณาในตอนนี้ก็จะเห็นว่า indicator ลงมาต่ำกว่า 20 หากเกิดสัญญาณซื้อก็อาจจะพิจารณาการเข้าซื้อทองคำเพิ่มเติม แล้วรอ stoploss ที่1700 หรือถ้าทำ New high ได้ ก็ Let profit run

อัพเดตทองรอบดึกตอนนี้ทองเกิด Bullish Divergence และมีสัญญาณกลับตัวของ candlestick อาจพิจารณาเข้าซื้อ แต่ตั้ง stoploss ไว้ที่ 1709 ข้างบนนั้นของปลอมข้างล่างน่าจะของจริง เลื่อน stop มาที่1700

เริ่มที่น้องทองหลังจากเกิดสัญญาณ Bearish Divergence ทองก็ไหลลงมาเรื่อยๆ มีรีบาวน์ขึ้นไปแต่ก็ไปไม่ถึงฝัน แนวโน้มในระยะสั้นอาจลงมาต่อเกิดเป็น Double Top ได้ ซึ่งน่าจะลงมา Test ที่ low เก่าที่ 171x +- ต่อมาที่น้ำมันเกิด Bearish Divergence ทำให้มีโอกาสปรับตัวลงมา นำมันนั้นโดยส่วนตัวแล้วคิดว่าน่าจะ Sideway ที่ระดับ 90-100 เหรียญไปอีกนานพอสมควร ตามด้วยดัชนี SET index ผมยังคงมองเป็นจุดกลับตัวเป็นขาลงอยู่ จากกราฟยังคงเกิด Bearish Divergence อยู่นะครับ ในตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตราย Hang seng เองก็เช่นกัน ปีนี้ผมมองตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นขาลง ไมว่าจะเป็นเอเชีย ยุโรป หรือสหรัฐ สาเหตุหลักก็มาจากความปั่นป่วนจากเศรษฐกิจโลกเนื่องจาก ปัญหาทางกายภาพของภูมิภาคเอเชียได้แก่ปัญหาอุทกภัยต่างๆที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและสะสมมาเรื่อยๆ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการบรรเทาและแก้ไข ต่อมาก็ปัญหาการหดตัวลงของGDP ของจีนที่หลายฝ่ายเองก็กังวลอยู่เหมือนกัน เพราะตอนนี้จีนแทบจะอุ้มเศรษฐกิจโลกไว้ทั้งหมด หากจีนโดนพิษเศรษฐกิจเล่นงาน การเงินโลกคงปั่นป่วนไม่น้อย ในส่วนของยุโรป และสหรัฐก็คงรู้ๆกันอยู่ว่าจะเป็นยังไง ปัญหาต่างๆก็คาราคาซัง หมักหมม พอกพูน รอวันพิพากษาเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้เศรษฐกิจโลกจะเกิดวิกฤติครั้งใหญ่อีกครั้ง เงินเฟ้อจะเกิดขึ้น ซึ่งนั่นจะส่งผลดีต่อ commodity ทุกชนิดไม่ว่า ทอง เงิน หรือสินค้าเกษตร การเก็บสะสม commodity เหล่านี้เหมือนกับการซื้อหวยที่ถูกแจ็คพอตแน่นอน รอแค่วันออกสลากเท่านั้น แต่สินค้าที่ยังไม่น่าลงทุนในตอนนี้ก็คือ น้ำมัน เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของกลุ่ม OPEC แถมท้ายด้วยกราฟเงินบาท เกิด Bullish Divergence มาอย่างต่อเนื่องน่าจะเห็นรีบาวน์กลับไปที่ระดับ 31 อีกครั้งในเร็วๆนี้

พอดีว่างๆเลยอยากวิเคราะห์มุมมองในการลงทุนของผมให้กับทุกท่านที่เข้าชม ราคาทองในช่วงนี้ไหลลงจาก 1760 มาอยู่ที่ 1720 ตอนนี้ผมมองว่าน่าเข้าซื้อได้ ถ้ายังไม่หลุด 1705 ทองจะยังเป็นขาขึ้นต่อไป ราคาทองเกิด Bullish Divergence มีโอกาสขึ้นต่อ ดัชนีของเอเชียหลายต่อหลายตัวเกิด Bearish Divergence ควรระวังไว้ เริ่มที่ Hang Seng ตามด้วย Nikkei กำลังเกิด Bearish Gartley และ Bearish Divergence Thanks: ฝากรูป ตามมาด้วย SET Thanks: ฝากรูป ไม่ลืมกราฟ Dow Jones ซึ่งก็เกิด Bearish Divergence ด้วยเช่นกัน Thanks: ฝากรูป การลงทุนในปีนี้ ผมมองว่าสินค้าที่ให้ผมตอบแทนที่ดี คือ สินค้าเกษตร แต่น่าเสียดายที่ประเทศไทยมีปริมาณการซื้อขายที่มากมายมหาศาลเหลือเกิน ลองมาดูกราฟกันจะเห็นได้ว่า กราฟเกิด Bullish Divergence กัน ข้าว กาแฟ และน้ำตาล Thanks: ฝากรูป

ว่าจะเอาเวลาไปทำเวปใหม่ แต่เ็ห็นราคาลงแล้วก็อดไม่ได้ ที่จะมานับคลื่นสักหน่อย ว่าตกลง พวกเราจะติดดอยกันหรือเปล่า ก็คงถึงเวลา ต้องมา Update Elliott Wave ทองคำใหม่สักที หลังจากพิจารณาหลายรอบ การนับคลื่นของเรา น่าจะกลับมาลงตัวที่แบบนี้คือ - ระดับ 1032 เหรียญ ที่เกิดขึ้นในปี 2008 คงต้องกลับมานับเป็นคลื่น 3 เพราะราคาที่พุ่งสูงขนาด 1920 เหรียญล่าสุด ยังคงไม่สามารถสร้างระดับสูงสุดใหม่ให้ RSI ได้ - จากการนับคลื่นย่อยใหม่ เรายังคงอยู่ในช่วงของ Extended Wave v (ส้ม) โดยน่าจะยังอยู่ในช่วงคลื่นย่อย (iii) (แดง) ลง (iv) (แดง) ก่อนจะขึ้น v (ส้ม) อีกครั้ง เพราะ RSI ที่เกิดล่าสุด (ที่วงไว้) ยังสูงสุดในคลื่น Extended อยู่ แปลว่า เรายังมีเหลือการขึ้นที่ไม่สามารถสร้าง RSI สูงขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง อ่านแล้วงง ก็ดูในรูปเอานะครับ ให้ผมอ่าน ผมก็คงงงเช่นกัน สรุป นับยังไง คนถือทองคำ ตอนนี้ ก็ยังไม่น่าติดดอยกันหรอก แต่ปีหน้าชักไม่แน่ เลยระดับ 2000 เหรียญขึ้นไป ระวังการปรับฐานแบบจัดหนัก!!! แถม Template Elliott Wave ไปด้วย เผื่อใครใช้ fxPro อยู่ อยากเอาไปพิจารณาต่อ ก็ load เอาไปดูกันได้ครับ goldelliottwave111020.tpl Source: ทิศทางราคาทองคำ โดย Kumponys

หมื่นตากับรูปแบบของมนุษย์ เรื่องและภาพ : ก๋าราณี ผู้นำระบอบลาลั้นลาขัดขืน

กราฟฤดูกาลทองคำในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เปรียบเทียบให้เห็นในส่วนของราคาที่เปลี่ยนแปลงให้ดูว่า นับตั้งแต่ตลาดทองคำเข้าสู่ขาขึ้นเต็มตัวในปี 2000 จนถึงปีที่แล้วคือปี 2009 รวม 10 ปีเข้าไปแล้ว มีกี่ครั้งในรอบ 10 ปี ที่ราคาผิดแนวโน้มในแต่ละเดือนในช่วงฤดูกาลของมัน แท่งกราฟสีขาวผืน ใหญ่กว่าเพื่อน คือราคาที่เกิดในปีนี้ แท่งสุดท้ายเดือนสิงหา ใช้ราคาสิ้นสุดเอาเมื่อวันศุกร์นะครับ คาดว่าคงไม่ผิดไปสักเท่าไหร่จากตรงนั้น สังเกตนะครับ ว่า เดือนกันยายน คือเดือนที่มีแนวโน้มดีที่สุด คือผิดทิศทางเพียงแค่ 1 ครั้งในรอบ 10 ปี ขณะที่เดือนพฤศจิกายน ดูจะเป็นเดือนที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด และมีแค่ 2 ครั้งที่ราคาผิดทิศทาง แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ใครที่สนใจลงทุนทองคำระยะไม่ยาวมาก อาจเก็บกราฟนี้ไว้ดูประกอบการพิจารณาการลงทุนก็ไม่เลวนะครับ.