speeder

ผมเดาว่า วันจันทร์ หรือวันอังคารนี่ล่ะ น่าจะขึ้นได้อีกหน่อยนึง แต่ก็ตึงๆละ ราคานี้ในช่วงนี้ เหลือ port อยู่ 70% รอลุ้น ถ้าลงอีก cutloss เหลือไว้ 30-40% พอดีกว่าแหะผม รอลงแล้วค่อยเอาใหม่ ดอยมานาน เข็ด กว่าจะเด้งขึ้นมาได้ที่เดิมเล่นเอาเหนื่อย

แง่ะ เพิ่งจะเสมอตัว ถือยาวตั้งแต่เดือน 4 ตัดขายออกไป 25% ระบายความเสี่ยงก่อนละครับ เพราะ nav สูงแหล่ว เก็บไว้ลุ้น 75% เผื่อว่าขึ้นอีก

เคยได้ยินมาว่า คนจีนมีก๊วยเตี๋ยว คนไทยกินข้าว พอคนไทยเจอเจ๊กกินก๊วยเตี๋ยว คนไทยก็แปลงจากเส้นก๋วยเตี๋ยวมาทำเป็นเส้นขนมจีน แล้วกินแบบไทยๆ แทนที่จะกินแบบคนจีน คือกินกับแกงต่างๆสารพัดชนิดตั้งแต่แกงป่า แกงเผ็ด แกงเขียวหวาน น้ำพริก เป็นต้น ส่วนทางเหตุที่อธิบายมานี่ ไม่แน่ใจ ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน

การประมาณค่า nav กองทุนนี่ กะได้คร่าวๆไม่ยากนักครับ จริงๆหลายท่านน่าจะประมาณกันเป็นอยู่แล้ว ก็เอาว่า เผื่อท่านที่ยังไม่ทราบแล้วกันครับ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัย การประมาณค่ากองทุน nav ที่ว่านี้ เท่าที่ผมสังเกตก็พอจะใช้ได้กับกองทุนน้ำมันกับกองทุนทอง เพราะผมเล่นอยู่แค่สองตัว เลยไม่ทราบกองทุนอื่นใช้วิธีเดียวกันได้หรือไม่นะครับ ขึ้นกับนโยบายกองทุนว่า ไปลงกองทุนไหน กี่ % อย่างที่ผมเล่น จะลงที่กองทุนไม่ต่ำกว่า dbo 80% ถ้าจำไม่ผิด โดยปกติ อัตราค่าเงินระหว่างค่าเงินบาทกับ dollar ส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีแบบว่า วันเดียวต่างกัน 1 บาท อาจจะมีบ้างก็หลักสิบสตางค์ ซึ่งถ้าคำนวนแล้ว ถ้าต่างกัน 1 บาท แค่ข้ามวัน ก็ส่งผลถึงอัตราแลกเปลี่ยนถึง 3% แต่ถ้าต่างกันแค่หลัก 10 สตางค์ ก็ส่งผลแค่ 0.3% จึงถือว่าเป็น factor ที่มีผลกระทบน้อย ผมจึงตั้งสมมติฐานเพื่อให้คำนวนกันง่ายๆก่อนนะครับ สมมติฐาน ให้คิดง่ายๆก่อนว่า ค่าอัตราแลกเปลี่ยนของวันที่ติดกันมักไม่เปลี่ยนแปลงจากกันมากนัก ก็ประมาณซะว่ามันเท่ากันจะได้คิดง่ายๆ ตัวอย่างให้เข้าใจ เช่นว่าวันที่ 1 กับวันที่ 2 ก็ถือว่าอัตราแลกเปลี่ยนประมาณเท่าๆกัน วันที่ 2 กับ 3 ก็ถือว่าอัตราแลกเปลี่ยนประมาณเท่าๆกันเช่นกัน แต่ไม่ได้แปลว่า วันที่ 1 กับ 3 อัตราแลกเปลี่ยนจะเท่ากันนะครับ เมื่อเข้าใจแล้ว ต่อมาเราก็คำนวนค่ากองทุนบ้านเรา แบบง่ายๆละครับ สมมติว่าผมเล่นกองทุนน้ำมันของ Tisco นะครับ ซึ่งลงทุนในกองทุนต่างประเทศ DBO สมมติราคา nav ของ tisco ในวันที่ 12 กค คือ 9.6704 แต่ในเวลาเช้ามืดบ้านเราของวันที่ 13 กค. ราคาปิดกองทุน dbo ปิดที่ -1.57% การที่กองทุน dbo ปิด -1.57% แปลว่า ถ้าลงทุนไป 100 จะได้กลับคืนมา 100-1.57 = 98.43 หายไป 1.57% นั่นเอง นั่นแปลว่า ถ้าเราคำนวนคร่าวๆ แบบไม่มีการผันผวนของค่าเงิน เมื่อเงินไปลงที่กองทุน dbo ขาดทุน 1.57% ก็แปลว่า ค่า nav ของกองทุนบ้านเรา ตามตัวอย่างคือ tisco ก็ต้องรับผลคือขาดทุน 1.57% ไปด้วย ดังนั้นผมสามารถประมาณค่า nav tisco ของวันที่ 13 กค อย่างคร่าวๆได้ทันทีที่ dbo ปิด nav กองทุน tisco วันที่ 13 = 98.43%(คือมูลค่า dbo ที่เหลือ) x 9.6704(ราคากองทุนวันที่ 12) = 9.51857 ซึ่งกองทุนประกาศออกมา ที่ราคา NAV = 9.5185 เป็นไปตามสมมติฐานเลย ยกตัวอย่างอีกอัน สมมติว่า nav tisco วันที่ 13 กคเป็น 9.5185 ปรากฏว่ารุ่งสางของวันที่ 14 กค กองทุน DBO ปิดที่ราคา +3.4% นั่นแปลว่า ถ้าเราลงทุน 100 เราได้กลับมา 103.4 กำไร 3.4% นั่นเอง ผมจึงคำนวนค่า nav ของ tisco วันที่ 14 ได้เลยอย่างคร่าวๆว่า nav วันที่ 14 = 9.5185(nav วันที่ 13) x 103.4% = 9.5185 x 1.034 = 9.842129 นั่นแปลว่า วันที่ 14 nav ของ tisco น่าจะราคาประมาณอยู่ที่ 9.842 ครับ หรือท่านจะคำนวนมูลค่าคงเหลือของเงินในกองทุนได้ทันทีเลยก็ได้ครับ เช่นวันที่ 13 มีเงินเป็นมูลค่ากองทุนอยู่ 1 ล้าน และวันที่ 13 กค nav = 9.5185 วันที่ 14 ท่านจะมีมูลค่ากองทุนประมาณคือ 1000000x103.4% = 1034000 กำไรมา 3.4หมื่นบาทเห็นๆ สรุปสูตรคร่าวๆ nav กองทุนไทยวันนี้ = (ค่าคงเหลือของกองทุนต่างประเทศเป็น %) X (nav ของเมื่อวานนี้) มูลค่ากองทุนไทยวันนี้ = (ค่าคงเหลือของกองทุนต่างประเทศเป็น %) X มูลค่ากองทุนของเมื่อวานนี้ * ค่าคงเหลือของกองทุนต่างประเทศเป็น % ให้คิดที่ 100% ไว้ก่อน ปิดเท่าไร ให้เอาส่วนต่าง + หรือ - มารวมกับ 100% ก็จะได้ค่าคงเหลือกองทุนต่างประเทศ ตามตัวอย่างบน เอาไว้มีเวลาจะมาคำนวนความเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวกับค่าเงินมาด้วยให้ดูครับ วันนี้ให้เพื่อนๆลองเอาวิธีคำนวนไปสังเกตดูก่อน ใช้ได้ไม่ได้ยังไงก็ลองมาบอกเล่ากันดูครับ