กลับมาพบกันอีกครั้ง หลังคลื่นลมการเมืองในไทยเริ่มสงบลงบ้าง ราคาทองคำได้ขึ้นไปจนสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1,249 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นไปตามความคาดหมายจากการใช้วิธีทางเทคนิคในการคาดการณ์ราคา ช่วงนี้ ฝรั่งเริ่มเข้าสู่ช่วงพักร้อน และมักชะลอการลงทุน จนมีคำว่า "Sell in May and go away." ติดปาก แต่วิกฤตอย่างตอนนี้ ฝรั่งจะขายอะไรครับ ทองคำ ยูโร หรือดอลล่าร์ดี
หลายท่านหลังราคาขึ้นไปถึงระดับสูงสุดตามคาดหมาย คงเริ่มทยอยขายทองคำออกจากพอร์ทกัน เพราะเกรงจะเกิดการปรับฐานใหญ่ นักวิเคราะห์บางท่าน มองว่าราคาสามารถปรับฐานลงไปถึง 850 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์เลย แต่ผมอยากจะบอกว่า ราคาทองคำแถว 1,200ดอลลาร์สหรัฐเวลานี้ มันน่าจะแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ไม่ใช่จุดหมายปลายทางสักหน่อย
เหตุผลการปรับฐานใหญ่ ผมยังไม่เห็นว่าจะมีน้ำหนัก แต่เหตุผลที่ทองคำจะขึ้นต่อมีน้ำหนักมากทีเดียว
- ดูอย่างลูกพี่ใหญ่ของเรา กองทุนทองคำ SPDR ช่วยชี้ทางชัดเจน ยังคงเดินหน้าเก็บของเข้าพอร์ท แค่เดือนนี้เดือนเดียว ก็เก็บของไป 108 ตัน รวมมีของในพอร์ท 1267.93 ตันแล้ว- วิกฤติในยุโรปยังคงไม่จบง่ายๆ สเปนเพิ่งจะโดนลดอันดับความน่าเชื่อถือลงไปเมื่อวันศุกร์ ค่าเงินยูโรยังคงร่วงต่อเนื่อง หลังจากความพยายามของธนาคารกลางยุโรปร่วมกับ IMF ในการเข้าแก้ปัญหาหนี้สินกรีซรวมถึงประเทศกลุ่ม PIIGS ที่ประเมินกันว่า ช้าและไม่เพียงพอ และน่าจะไม่มีทางจบง่ายๆ
- วิกฤติในสหรัฐยังถูกหมกไว้ ค่าเงินสหรัฐอเมริกา เวลานี้ยังคงพุ่งขึ้นต่อเนื่อง แต่ไม่ได้เพราะพื้นฐานดีอะไร แค่อาการร่อแร่น้อยกว่ายุโรปในเวลานี้นิดหน่อยเท่านั้น อัตราหนี้สินต่อ GDP ของสหรัฐสูงถึง 90.1% มูลค่ารวมเกิน 55 ล้านล้านเหรียญเข้าไปแล้ว ว่ากันว่าหนี้ของสหรัฐอยู่ในระดับที่ไม่สามารถใช้คืนให้ใครได้แล้ว สหรัฐแตกต่างจากยุโรปตรงที่สามารถพิมพ์แบงค์ใช้เองได้ โดยที่ไม่ต้องมีอะไรรองรับ แต่เวลานี้อันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ AAA กำลังจะถูกพิจารณาลดชั้น เดี๋ยวคงได้เห็นแรงกระเพื่อมตามมา
- เงินหยวนของจีน สุดท้ายก็ต้องยอมแข็งค่าขึ้น จีนกำลังประสบปัญหาเงินเฟ้อ จากเศรษฐกิจที่ยังคงร้อนแรง อสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้นต่อเนื่องจนต้องออกมาตราการสกัดกันมือระวิง ในไม่ช้า จีนจำเป็นต้องปล่อยค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้น ขยับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น เพื่อสกัดความร้อนแรง ไม่อย่างนั้น จะซ้ำรอยอังกฤษ อเมริกา ญี่ปุ่น ในอดีตได้
- World Gold Council ออกรายงานเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา คาดการณ์ว่า ความต้องการทองคำจะยังคงแข็งแกร่งในครึ่งหลังของปีนี้ จากความต้องการทองคำสำหรับทำเครื่องประดับในจีนและอินเดีย รวมถึงปริมาณความต้องการในภาคการลงทุนในยุโรปและสหรัฐ จากความกังวลในเสถียรภาพทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่ยังอยู่ในภาวะเสี่ยง
ในสถานการณ์ที่การลงทุนอื่นมีความเสี่ยง ยูโรอ่อน ดอลล่าร์ยังถูกสงสัยว่าจะเป็นแหล่งหลบภัยที่ดีจริงหรือไม่ นักลงทุนยังคงเชื่อมันในทองคำ ผมว่า โอกาสที่จะเห็นราคาทองคำทรุดลงปรับฐานหนักเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าถามว่า ราคาทองคำจะถึง 1,500ดอลลาร์สหรัฐอย่างที่นักวิเคราะห์บางท่านคาดการณ์ไว้หรือไม่ อันนี้น่าคิดเหมือนกันนะครับ
kumponys (at) thaigold.info
