zagio
ขาใหญ่-
จำนวนเนื้อหา
336 -
เข้าร่วม
-
เข้ามาล่าสุด
คะแนนนิยม
163 ดีขั้นเทพเกี่ยวกับ zagio
-
คะแนนนิยม
ขาใหญ่
Profile Information
-
เพศ
ชาย
-
ที่อยู่
สุพรรณบุรี
-
แต่เรื่องเจ้าภาพใหญ่สุดท้ายที่จะมาอุ้มทุกคนก็คือ IMF + world bank เจ้าเก่า จะเป็น อัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยทุกคน (เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่) ส่วนราคาข้าวของก็จะลดราคาไปเอง ถ้าเกิดทองราคาลง ( ทองและดอกเบี้ยเป็นเหมือน มิเตอร์น้ำมัน ว่ามีปริมาณเิงินในระบบเท่าไหร่ ) คำแนะนำก็คือ ต้องพยายามอย่าเป็นหนี้สิน เพราะหากต่อไปเงินหายากเหมือนแต่ก่อน เราจะมีปัญหาการชำระหนี้ได้ หากจะลงทุนอะไรเช่นซื้อทอง ซื้อหุ้น ก็อย่าเกินตัว ปล.จากสมการทุก ๆ ท่านจะเห็นว่า หากจะทำให้ทองราคาขึ้นมาเป็น 5000 เหรียญ จะต้องมีเงินในระบบอีกเท่าตัวคือ 100 T
-
สมการคิดมาแบบนี้ครับ เงิน 10 T = ทองราคา 250 เหรียญ เงิน 100T = ทอง 250*100/10 = 2500 เหรียญ เงิน 25 T = ราคา 250*25/10 = 625 เหรียญ ส่วนดอกเบี้ย เงิน 10T ดอกเบี้ย 20 % เงิน 20 T ดอกเบี้ย 10% เงิน 25 T ดอกเบี้ย 8% เงิน 100T ดอกเบี้ย 2 % ขณะนี้ดอกเบี้ย คือพันธบัตร 10 ปี อเมริกาอยู่ที่ 2% ส่วนเรื่องที่ชักดาบทำให้ทองแพงขึ้น มันกลายเป็นว่าทำให้เงินในระบบลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างกรีซ ชักดาบ 75% เงินในระบบตอนแรกมี 100 % แล้วเหลือแค่ 25% ภายในข้ามคืน การลดค่าเงิน ก็เป็นการชักดาบ คือลดปริมาณหนี้สินในระบบนั่นเอง อย่างที่สวิสทำ การเกิดภัยพิบัติก็ก่อให้เกิดความเสียหายได้ เช่น ไทย โดนน้ำท่วม ก็เหมือนพิมพ์เงินแล้วหายไปกับน้ำ จึงต้องมาลองใคร่ครวญให้ดีว่า ระหว่างการพิมพ์เงินเพิ่ม กับ การลดจำนวนเงินในระบบลง (โดยชักดาบ ภัยพิบัติ ลดค่าเงิน) ตัวไหน rate มันจะไวกว่ากัน ยิ่งมารู้ว่า EURO เป็นปลาตัวต่อไปที่จะลดค่าเงิน ก็ยิ่งหวาดเสียว เพราะ EURO มีหนี้สินประมาณ 10 T หากลดค่าเงินสัก 10 % ก็ 1 T แล้ว เท่ากับการทำ QE หนึ่งครั้ง เป็น reverse QE
-
ตอนนี้การพิมพ์เงิน กำลังต่อสู้กับ การชักดาบ ว่าใครจะกำลังสูงกว่า หากอ่านข้อความข้างบนแล้วงง ว่าดอกเบี้ยจะขึ้นได้อย่างไร ให้ไปดูตัวอย่างคือพันธบัตรกรีซ สรุปรัฐบาล พิมพ์เงินเพิ่ม แจกจ่าย ประชาชน ได้เงินไป เอามาซื้อพันธบัตร สุดท้ายก็ชักดาบไป นั่นก็คือ กลับสู่ความว่างเปล่านั่นเอง
-
ราคาทองคำ สัมพันธกับปริมาณเงินในระบบโดยตรงครับ ที่ผ่านมาธนาคารกลางทั่วโลกได้ทำการ พิมพ์เงินเพิ่มมากขึ้นจริง ประมาณ 10 เท่าครับ (คุณ next เคยเอากราฟมาลง) จากราคาทองประมาณ 250 เหรียญ ถ้าคำนวณราคาทองจริง ๆ ก็ควรอยู่ประมาณ 2500 เหรียญ ที่นี้ปริมาณเงินในโลก ก็จะสัมพันธ์กับดอกเบี้ยธนาคารเช่นเดียวกัน ตอนที่กระทิงทองถูกน็อครอบที่แล้ว คุณพอล ประธาน FED สมัยนั้นได้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็น 20% หากเราเปรียบเทียบปริมาณเงินสมัยนั้น ก็คือ 10T ดอกเบี้ย 20% ถ้าเงินเพิ่มเป็น 100 T ดอกเบี้ยจะเป็น 2% ลองไปดูพันธบัตร 10 ปีอเมริกาดูสิครับ ตอนนี้ดอกเบี้ยก็เริ่มทะลุ 2 % เรื่องของกรีซจบไปแล้ว โดยที่ ได้ยกหนี้ให้กรีซประมาณ 75 % ของเิงินต้น ที่นี้ก็เลยเป็นเรื่องใหญ่สิครับ เป็นเรื่องตรงที่ว่า ไม่ใช่เฉพาะกรีซที่มีหนี้เกินตัว เกือบทุกประเทศมีหนี้สินเกินตัวทั้งหมด หากเราใช้ กรีซ เป็น prototype แล้วไปใส่ในสมการแล้วละก็ 100T * 2% = (100-75)*X จะได้คือดอกเบี้่ยจะกลายเป็นประมาณ 8% ปริมาณเงินเหลือ 25T แล้วเราจะได้ราคาทองก็คือ 250*2.5 = 625 เหรียญ
-
บรรยากาศชักจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่แล้วครับเรื่องกรีซ เท่าที่วิเคราะห์ตอนนี้ เรามีทางเลือกอีก 2 ทาง 1.พิมพ์เงินต่อไป ทองจะเกิน 1800 เหรียญ เงินเกิน 36 เหรียญ จะไป trigger ให้ FUTURE ทอง ธนาคารที่พากันช็อตไว้เยอะจะเจ็ง 2.เลิกพิมพ์เงิน ก็จะไม่มีเงินให้ประเทศต่าง ๆ เช่น กรีซ โปรตุเกส สเปน อิตาลี ก็จะเกิดปัญหา CDS ถูก trigger ธนาคารที่ขายตราสารพวกนี้ก็จะเจ็ง (แต่ได้กำไรจากช็อตทองและเงิน) (CDS คือ ตัวรับประกันตราสารหนี้ หากกรีซถูกตราหน้าว่าชักดาบ ก็ต้องชดใช้ให้นักลงทุนผู้ซื้อ CDS เต็มจำนวน ) สรุปตอนนี้ชักสับสนในจิตใจ เพราะไม่ว่าทองจะขึ้นจะลงต้องมีธนาคารยักษ์ใหญ่เจ็งแน่นอน พอธนาคารพวกนี้ขาดทุนก็ต้องขายหุ้นขายทองอยู่ดี ถือเงินสดดีกว่าแบบนี้ ดีกว่ามาสยองงง
-
สู้ ๆ ครับ ชาว thaigold อดทนถืออีกไม่นาน จะได้เห็นราคาบาทละ 50000 ครับ
-
GOLD REVALUETION ถ้าเราตีว่าทองสามารถซื้อทุกอย่างได้บนโลก ตอนนี้ GDP โลก = 64 Trillon ราคาทอง 2000 เหรียญ มีมูลค่า 8 Trillion ดังนั้นในปัจจุบันหากจะตีมูลค่าทองจริง ๆ ก็คือ 16000 เหรียญ แต่ทว่าในภาวะ เศรษฐกิจแบบนี้อาจจะเกิด collapse ได้ง่าย ๆ สมมุติว่าหายไป เหลือ 20 Trillion มูลค่าทองก็จะเหลือ 5000 เหรียญ โดยประมาณ และภาวะที่เกิดขึ้นก็จะเรียกว่า stagflation เงินทุกเหรียญก็จะถูกค้ำด้วยทองคำอีกครั้ง ที่นี้มูลค่าทอง ก็คือต้องรวมมูลค่าของเิงินด้วย ปริมาณที่เหลือมีเท่าไหร่ไม่แน่ใจ แต่ถ้าคำนวณคร่าว ๆ จากปริมาณ ที่กองทุนถืออยู่ จากอยู่ที่ 1:10 ทอง:เงิน ดังนั้น หากดูที่ normal ratio ก็คือ 1 : 15 **เป้าหมายของราคาทอง หลังจาก revaluation ก็คือ 3000 เหรียญ **เป้าหมายของเงินก็คือ 200 เหรียญ (ปริมาณมากกว่าทอง 10 เท่า) หลังจากรวมมูลค่าทองกับเงินก็จะได้ 3000+200*10 = 5000 เหรียญพอดี ส่วนหุ้นกับน้ำมัน เป็นสิ่งที่น่ากลัวพอควร เพราะว่าหากดูจากราคาเป้าหมายของทองคำแล้ว นั่นคือ 1:1 กับ DOW นั่นก็คือ DOW จะเหลือแค่ 3000 จุด เท่านั้น ถ้าเป็นแบบนั้น น้ำมัน ก็จะเหลือ แค่ 20 เหรียญ set ที่อิงกับน้ำมันก็จะเหลือ 200 จุดเท่านั้น ค่าเงินก็จะกลับไปอยู่แถว ๆ 37-40 บาท/เหรียญ แปลว่าเกิดเศรษฐกิจการ collapse ซึ่ง ท่าน obama บอกว่าหากน้ำมันเกิน 155 เหรียญเมื่อไหร่ เศรษฐกิจโลกจะรับไม่ไหว นั่นคือน้ำมันอาจจะถูกปั่นขึ้นไปแถว ๆ 150 เหรียญ ค่าเงินที่ 25 บาท/เหรียญ ก่อนที่จะ collapse ขอสติจงอยู่คู่ทุก ๆ ท่าน
-
ราคาทองกลับมาอยู่แถว ๆ 17xx อีกครั้ง ยังสงสัยว่า จะมี PANIC อย่างที่ลุงจิมว่าไว้หรือไม่ หากราคาทองเกิน 1800 คุณพิชัยบอกว่าจะเปลี่ยนมุมมองใหม่กับทอง ตอนนี้มูลค่าหนี้สินของพันธบัตรทั้งโลกอยู่ที่ประมาณ 40 T (เงิน 8 T = ทองราคาประมาณ 2000 เหรียญ) มูลค่าตลาดหุ้นรวมเงินสด หมุนเวียน = 60T ดังนั้นหากเกิด panic เกิดขึ้นจริง อาจจะเกิดการขายหุ้นเพื่อไปใช้หนี้สิน 60 T - 40 T = 20 T นั้นคือ = ทองราคา 5000 / ออนซ์ = dow john ที่ 5000 จุด = set ที่ 200 จุด
-
หลังจากค่าเงิน SWISS ค่าเงินก็เหลืออีกตั้ง 4 สกุลที่จะต้องลดค่าลง ถ้าเป็นแบบที่ลุง lindseys ว่า ถ้า EURO ลดค่าเงินเมื่อไหร่ หลังจากนั้นไม่เกิน 1 เดือน ค่าเงินที่เหลือก็จะต้องลดลงหมด แปลว่า เราต้องคอย monitor EURO / DOLLAR ไว้ ถ้าเกิน 1. 6 เมื่อไหร่ ประธาน ECB เคยสัมภาษณ์ว่าจะลดค่าเงิน ดังนั้นถ้าถามว่าจะขายทองเมื่อไหร่ ก็ต้องบอกว่า รอให้เค้าจัดการเรื่องค่าเงินให้เรียบร้อย อันนี้เป็นส่วนข้อเท็จจริง ส่วนที่คาดเดาก็คือ การลดค่าเงินจะมีผลทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นได้ถึง 150-160 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งหากถึงจริง โอบ่ามาเคยบอกว่าจะทำให้เศรษฐกิจโลก collapse ได้ ถึงตอนนั้นต่างหาก จึงจะเป็นจุดวัดใจว่า จะเกิดการ panic ของทอง แบบที่ลุงจิมว่าไว้หรือเปล่า คือคนหนีตายเข้ามาในทอง ทิ้งทรัพย์สินอย่างอื่นหมด หรือจะเกิดอย่างปี 2008 ทุกอย่างลงหมด
-
ตอนนี้มีข่าว 2 ข่าวที่น่าสนใจ 1.ข่าวคว่ำบาตร อิหร่าน โดย EU และ USA -- ข่าวนี้อาจจะทำให้น้ำมันขึ้นไป 120-150 เหรียญได้ ภายใน ครึ่งปีแรก เพราะเริ่มคว่ำบาตร กค 55 2.ข่าวกรีก -- ในที่สุด ก็ยอมยกหนี้ให้ 60% และ รับซื้อพันธบัตรกรีกในอัตราดอกเบี้ย 4% เป็นกรีกโมเดล ให้กับกลุ่ม PIGSS ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ในที่สุดรัฐบาลและธนาคาร ยอมให้ค่าของเงินเสื่อมลงไปอีก ดีกว่าทำให้เกิดวิกฤต ดังนั้นปีนี้เราอาจจะได้ทองคำ ในราคา 2500-3000 เหรียญเลยที่เดียว เตรียมรับมือข้าวยากหมากแพงกันได้เลยทีเดียว
-
http://danielamerman.com/aHome.htm นี่เป็นเว็บของคุณ GURU ท่านนี้ สรุปก็คือรัฐบาลสามารถมาควักเนื้อจากทรัพย์สินของประชาชนโดยวิธีนี้ แบบนี้ไ่ม่ใช้รีดเลือดกับปู
-
วันก่อนไปอ่านบทความของ GURU ท่านหนึ่ง คุณ daniel amerman เท่าที่ผมสรุปใจความได้คือ ตอนนี้รัฐบาลทั้งโลกอ่วม ถังแตก ไม่มีเงินใช้ ดังนั้นสิ่งที่เค้าจะทำต่อไปก็คือ INFLATION TAX
-
เรื่องทอง ถ้าจะขึ้นเกิน 1900 ไปได้ อาจจะต้องรอถึงกลางปี เพราะช่วงนี้เป็นช่วง operation TWIST น่าจะทำให้ทอง ออกข้าง sideway แถว ๆ 1600-1700
-
ขอบคุณนะครับ คุณ promin มีมุขตลกเยอะดี ทำให้ผ่อนคลายได้มาก ปี 2011 เราเจอ QE2 (inflation) + swiss ลดค่าเงิน(deflation) + operation twist (neutral) ปี 2012 น่าจะมี 2 เหตุการณ์ ก็คือ QE#3 (inflation) + EURO ลดค่าเงิน (deflation) ทำที่ดู เค้ามีการ manipulate ตลาดอย่างชัดเจน โอกาสที่ตลาดจะ collapse จึงเป็นเรื่่องยากพอควร เคยอ่านข่าวดูเค้าบอกว่า จริง ๆ ทุกประเทศในโลกจับมือกันค่อย ๆ ลดค่าเงิน USD index โดยมีเป้าหมายที่ 60 จุด ในช่วง 10 ปี คือ 2551-2560 ซึ่งดูแนวโน้มเค้าก็มีโอกาสจะทำได้สูง ดังนั้นกว่าจะลดถึงขนาดนั้น เราคงจะเจอเวฟขึ้นเวฟลงแบบนี้ไปอีกหลายปีพอควร ปีนี้เลยตั้งเป้าหมายราคาทองไว้ 2000 เหรียญ = 28000 บาท/ 15.2 g ทองไทย
-
-ปีนี้เป็นปี มังกรน้ำ ธาตุบนน้ำ ธาตุล่างดิน ตลาดหุ้นเหมือนไฟ น้ำจะมาดับไฟ ตัวราศีมะโรง ก็เป็นเจ้าแห่งธาตุน้ำ -ดาวเสาร์เข้าสู่มหาอุจจ์ ตัวแทนแห่งเศรษฐกิจตกต่ำ ข้าวยากหมากแพง(deflation) เมื่อ 7 ธันวาคม 2554 เมื่อดาวเสาร์เข้าแล้วจะอยู่ไป 2.5 ปี จากนั้นย้ายราศี เข้่าสู่ ตำแหน่งราชาโชค ทหารจะเป็นใหญ่ีอีก 2.5 ปี รวม 5 ปี ถึง 2559 ลักษณะจะเกิดคล้ายพวกตะวันออกกลางคือ การประท้วง จราจล -ใน illuminati card ใบ bank merger จะเกิดการควบรวมของธนาคารกลางทั่วโลก แต่ก่อนจะควบรวม แบงค์จะต้องล้มก่อน แบงค์ล้มตลาดหุ้นก็คงไม่เหลือ คำทำนายก็คือการคาดเดา เพียงแต่ปีนี้เป็นปีที่แรง เราจะต้องระมัดระวังการลงทุนไว้มาก ๆ เท่านั้นเอง ไม่ควรลงทุนเกินตัวมาก ควรเก็บเงินสดไว้มาก ๆ อีกทั้ง FED ทำ operation TWIST แปลว่าจะไม่พิมพ์เงินมาก ๆ อีก เป็นสัญญาณว่าหุ้นจะผันผวนในลักษณะขาลง จน กรกฎาคม- สิงหาคม 2555 FED จึงจะประชุมใหญ่อีกครั้ง หาก FED เลิกพิมพ์เงินอีก ก็คงจบ - -