ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

zagio

ขาใหญ่
  • จำนวนเนื้อหา

    336
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย zagio

  1. แต่เรื่องเจ้าภาพใหญ่สุดท้ายที่จะมาอุ้มทุกคนก็คือ IMF + world bank เจ้าเก่า จะเป็น อัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยทุกคน (เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่) ส่วนราคาข้าวของก็จะลดราคาไปเอง ถ้าเกิดทองราคาลง ( ทองและดอกเบี้ยเป็นเหมือน มิเตอร์น้ำมัน ว่ามีปริมาณเิงินในระบบเท่าไหร่ ) คำแนะนำก็คือ ต้องพยายามอย่าเป็นหนี้สิน เพราะหากต่อไปเงินหายากเหมือนแต่ก่อน เราจะมีปัญหาการชำระหนี้ได้ หากจะลงทุนอะไรเช่นซื้อทอง ซื้อหุ้น ก็อย่าเกินตัว ปล.จากสมการทุก ๆ ท่านจะเห็นว่า หากจะทำให้ทองราคาขึ้นมาเป็น 5000 เหรียญ จะต้องมีเงินในระบบอีกเท่าตัวคือ 100 T
  2. สมการคิดมาแบบนี้ครับ เงิน 10 T = ทองราคา 250 เหรียญ เงิน 100T = ทอง 250*100/10 = 2500 เหรียญ เงิน 25 T = ราคา 250*25/10 = 625 เหรียญ ส่วนดอกเบี้ย เงิน 10T ดอกเบี้ย 20 % เงิน 20 T ดอกเบี้ย 10% เงิน 25 T ดอกเบี้ย 8% เงิน 100T ดอกเบี้ย 2 % ขณะนี้ดอกเบี้ย คือพันธบัตร 10 ปี อเมริกาอยู่ที่ 2% ส่วนเรื่องที่ชักดาบทำให้ทองแพงขึ้น มันกลายเป็นว่าทำให้เงินในระบบลดลงอย่างรวดเร็ว อย่างกรีซ ชักดาบ 75% เงินในระบบตอนแรกมี 100 % แล้วเหลือแค่ 25% ภายในข้ามคืน การลดค่าเงิน ก็เป็นการชักดาบ คือลดปริมาณหนี้สินในระบบนั่นเอง อย่างที่สวิสทำ การเกิดภัยพิบัติก็ก่อให้เกิดความเสียหายได้ เช่น ไทย โดนน้ำท่วม ก็เหมือนพิมพ์เงินแล้วหายไปกับน้ำ จึงต้องมาลองใคร่ครวญให้ดีว่า ระหว่างการพิมพ์เงินเพิ่ม กับ การลดจำนวนเงินในระบบลง (โดยชักดาบ ภัยพิบัติ ลดค่าเงิน) ตัวไหน rate มันจะไวกว่ากัน ยิ่งมารู้ว่า EURO เป็นปลาตัวต่อไปที่จะลดค่าเงิน ก็ยิ่งหวาดเสียว เพราะ EURO มีหนี้สินประมาณ 10 T หากลดค่าเงินสัก 10 % ก็ 1 T แล้ว เท่ากับการทำ QE หนึ่งครั้ง เป็น reverse QE
  3. ตอนนี้การพิมพ์เงิน กำลังต่อสู้กับ การชักดาบ ว่าใครจะกำลังสูงกว่า หากอ่านข้อความข้างบนแล้วงง ว่าดอกเบี้ยจะขึ้นได้อย่างไร ให้ไปดูตัวอย่างคือพันธบัตรกรีซ สรุปรัฐบาล พิมพ์เงินเพิ่ม แจกจ่าย ประชาชน ได้เงินไป เอามาซื้อพันธบัตร สุดท้ายก็ชักดาบไป นั่นก็คือ กลับสู่ความว่างเปล่านั่นเอง
  4. ราคาทองคำ สัมพันธกับปริมาณเงินในระบบโดยตรงครับ ที่ผ่านมาธนาคารกลางทั่วโลกได้ทำการ พิมพ์เงินเพิ่มมากขึ้นจริง ประมาณ 10 เท่าครับ (คุณ next เคยเอากราฟมาลง) จากราคาทองประมาณ 250 เหรียญ ถ้าคำนวณราคาทองจริง ๆ ก็ควรอยู่ประมาณ 2500 เหรียญ ที่นี้ปริมาณเงินในโลก ก็จะสัมพันธ์กับดอกเบี้ยธนาคารเช่นเดียวกัน ตอนที่กระทิงทองถูกน็อครอบที่แล้ว คุณพอล ประธาน FED สมัยนั้นได้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็น 20% หากเราเปรียบเทียบปริมาณเงินสมัยนั้น ก็คือ 10T ดอกเบี้ย 20% ถ้าเงินเพิ่มเป็น 100 T ดอกเบี้ยจะเป็น 2% ลองไปดูพันธบัตร 10 ปีอเมริกาดูสิครับ ตอนนี้ดอกเบี้ยก็เริ่มทะลุ 2 % เรื่องของกรีซจบไปแล้ว โดยที่ ได้ยกหนี้ให้กรีซประมาณ 75 % ของเิงินต้น ที่นี้ก็เลยเป็นเรื่องใหญ่สิครับ เป็นเรื่องตรงที่ว่า ไม่ใช่เฉพาะกรีซที่มีหนี้เกินตัว เกือบทุกประเทศมีหนี้สินเกินตัวทั้งหมด หากเราใช้ กรีซ เป็น prototype แล้วไปใส่ในสมการแล้วละก็ 100T * 2% = (100-75)*X จะได้คือดอกเบี้่ยจะกลายเป็นประมาณ 8% ปริมาณเงินเหลือ 25T แล้วเราจะได้ราคาทองก็คือ 250*2.5 = 625 เหรียญ
  5. บรรยากาศชักจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่แล้วครับเรื่องกรีซ เท่าที่วิเคราะห์ตอนนี้ เรามีทางเลือกอีก 2 ทาง 1.พิมพ์เงินต่อไป ทองจะเกิน 1800 เหรียญ เงินเกิน 36 เหรียญ จะไป trigger ให้ FUTURE ทอง ธนาคารที่พากันช็อตไว้เยอะจะเจ็ง 2.เลิกพิมพ์เงิน ก็จะไม่มีเงินให้ประเทศต่าง ๆ เช่น กรีซ โปรตุเกส สเปน อิตาลี ก็จะเกิดปัญหา CDS ถูก trigger ธนาคารที่ขายตราสารพวกนี้ก็จะเจ็ง (แต่ได้กำไรจากช็อตทองและเงิน) (CDS คือ ตัวรับประกันตราสารหนี้ หากกรีซถูกตราหน้าว่าชักดาบ ก็ต้องชดใช้ให้นักลงทุนผู้ซื้อ CDS เต็มจำนวน ) สรุปตอนนี้ชักสับสนในจิตใจ เพราะไม่ว่าทองจะขึ้นจะลงต้องมีธนาคารยักษ์ใหญ่เจ็งแน่นอน พอธนาคารพวกนี้ขาดทุนก็ต้องขายหุ้นขายทองอยู่ดี ถือเงินสดดีกว่าแบบนี้ ดีกว่ามาสยองงง
  6. สู้ ๆ ครับ ชาว thaigold อดทนถืออีกไม่นาน จะได้เห็นราคาบาทละ 50000 ครับ
  7. GOLD REVALUETION ถ้าเราตีว่าทองสามารถซื้อทุกอย่างได้บนโลก ตอนนี้ GDP โลก = 64 Trillon ราคาทอง 2000 เหรียญ มีมูลค่า 8 Trillion ดังนั้นในปัจจุบันหากจะตีมูลค่าทองจริง ๆ ก็คือ 16000 เหรียญ แต่ทว่าในภาวะ เศรษฐกิจแบบนี้อาจจะเกิด collapse ได้ง่าย ๆ สมมุติว่าหายไป เหลือ 20 Trillion มูลค่าทองก็จะเหลือ 5000 เหรียญ โดยประมาณ และภาวะที่เกิดขึ้นก็จะเรียกว่า stagflation เงินทุกเหรียญก็จะถูกค้ำด้วยทองคำอีกครั้ง ที่นี้มูลค่าทอง ก็คือต้องรวมมูลค่าของเิงินด้วย ปริมาณที่เหลือมีเท่าไหร่ไม่แน่ใจ แต่ถ้าคำนวณคร่าว ๆ จากปริมาณ ที่กองทุนถืออยู่ จากอยู่ที่ 1:10 ทอง:เงิน ดังนั้น หากดูที่ normal ratio ก็คือ 1 : 15 **เป้าหมายของราคาทอง หลังจาก revaluation ก็คือ 3000 เหรียญ **เป้าหมายของเงินก็คือ 200 เหรียญ (ปริมาณมากกว่าทอง 10 เท่า) หลังจากรวมมูลค่าทองกับเงินก็จะได้ 3000+200*10 = 5000 เหรียญพอดี ส่วนหุ้นกับน้ำมัน เป็นสิ่งที่น่ากลัวพอควร เพราะว่าหากดูจากราคาเป้าหมายของทองคำแล้ว นั่นคือ 1:1 กับ DOW นั่นก็คือ DOW จะเหลือแค่ 3000 จุด เท่านั้น ถ้าเป็นแบบนั้น น้ำมัน ก็จะเหลือ แค่ 20 เหรียญ set ที่อิงกับน้ำมันก็จะเหลือ 200 จุดเท่านั้น ค่าเงินก็จะกลับไปอยู่แถว ๆ 37-40 บาท/เหรียญ แปลว่าเกิดเศรษฐกิจการ collapse ซึ่ง ท่าน obama บอกว่าหากน้ำมันเกิน 155 เหรียญเมื่อไหร่ เศรษฐกิจโลกจะรับไม่ไหว นั่นคือน้ำมันอาจจะถูกปั่นขึ้นไปแถว ๆ 150 เหรียญ ค่าเงินที่ 25 บาท/เหรียญ ก่อนที่จะ collapse ขอสติจงอยู่คู่ทุก ๆ ท่าน
  8. ราคาทองกลับมาอยู่แถว ๆ 17xx อีกครั้ง ยังสงสัยว่า จะมี PANIC อย่างที่ลุงจิมว่าไว้หรือไม่ หากราคาทองเกิน 1800 คุณพิชัยบอกว่าจะเปลี่ยนมุมมองใหม่กับทอง ตอนนี้มูลค่าหนี้สินของพันธบัตรทั้งโลกอยู่ที่ประมาณ 40 T (เงิน 8 T = ทองราคาประมาณ 2000 เหรียญ) มูลค่าตลาดหุ้นรวมเงินสด หมุนเวียน = 60T ดังนั้นหากเกิด panic เกิดขึ้นจริง อาจจะเกิดการขายหุ้นเพื่อไปใช้หนี้สิน 60 T - 40 T = 20 T นั้นคือ = ทองราคา 5000 / ออนซ์ = dow john ที่ 5000 จุด = set ที่ 200 จุด
  9. หลังจากค่าเงิน SWISS ค่าเงินก็เหลืออีกตั้ง 4 สกุลที่จะต้องลดค่าลง ถ้าเป็นแบบที่ลุง lindseys ว่า ถ้า EURO ลดค่าเงินเมื่อไหร่ หลังจากนั้นไม่เกิน 1 เดือน ค่าเงินที่เหลือก็จะต้องลดลงหมด แปลว่า เราต้องคอย monitor EURO / DOLLAR ไว้ ถ้าเกิน 1. 6 เมื่อไหร่ ประธาน ECB เคยสัมภาษณ์ว่าจะลดค่าเงิน ดังนั้นถ้าถามว่าจะขายทองเมื่อไหร่ ก็ต้องบอกว่า รอให้เค้าจัดการเรื่องค่าเงินให้เรียบร้อย อันนี้เป็นส่วนข้อเท็จจริง ส่วนที่คาดเดาก็คือ การลดค่าเงินจะมีผลทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นได้ถึง 150-160 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งหากถึงจริง โอบ่ามาเคยบอกว่าจะทำให้เศรษฐกิจโลก collapse ได้ ถึงตอนนั้นต่างหาก จึงจะเป็นจุดวัดใจว่า จะเกิดการ panic ของทอง แบบที่ลุงจิมว่าไว้หรือเปล่า คือคนหนีตายเข้ามาในทอง ทิ้งทรัพย์สินอย่างอื่นหมด หรือจะเกิดอย่างปี 2008 ทุกอย่างลงหมด
  10. ตอนนี้มีข่าว 2 ข่าวที่น่าสนใจ 1.ข่าวคว่ำบาตร อิหร่าน โดย EU และ USA -- ข่าวนี้อาจจะทำให้น้ำมันขึ้นไป 120-150 เหรียญได้ ภายใน ครึ่งปีแรก เพราะเริ่มคว่ำบาตร กค 55 2.ข่าวกรีก -- ในที่สุด ก็ยอมยกหนี้ให้ 60% และ รับซื้อพันธบัตรกรีกในอัตราดอกเบี้ย 4% เป็นกรีกโมเดล ให้กับกลุ่ม PIGSS ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า ในที่สุดรัฐบาลและธนาคาร ยอมให้ค่าของเงินเสื่อมลงไปอีก ดีกว่าทำให้เกิดวิกฤต ดังนั้นปีนี้เราอาจจะได้ทองคำ ในราคา 2500-3000 เหรียญเลยที่เดียว เตรียมรับมือข้าวยากหมากแพงกันได้เลยทีเดียว
  11. http://danielamerman.com/aHome.htm นี่เป็นเว็บของคุณ GURU ท่านนี้ สรุปก็คือรัฐบาลสามารถมาควักเนื้อจากทรัพย์สินของประชาชนโดยวิธีนี้ แบบนี้ไ่ม่ใช้รีดเลือดกับปู
  12. วันก่อนไปอ่านบทความของ GURU ท่านหนึ่ง คุณ daniel amerman เท่าที่ผมสรุปใจความได้คือ ตอนนี้รัฐบาลทั้งโลกอ่วม ถังแตก ไม่มีเงินใช้ ดังนั้นสิ่งที่เค้าจะทำต่อไปก็คือ INFLATION TAX
  13. เรื่องทอง ถ้าจะขึ้นเกิน 1900 ไปได้ อาจจะต้องรอถึงกลางปี เพราะช่วงนี้เป็นช่วง operation TWIST น่าจะทำให้ทอง ออกข้าง sideway แถว ๆ 1600-1700
  14. ขอบคุณนะครับ คุณ promin มีมุขตลกเยอะดี ทำให้ผ่อนคลายได้มาก ปี 2011 เราเจอ QE2 (inflation) + swiss ลดค่าเงิน(deflation) + operation twist (neutral) ปี 2012 น่าจะมี 2 เหตุการณ์ ก็คือ QE#3 (inflation) + EURO ลดค่าเงิน (deflation) ทำที่ดู เค้ามีการ manipulate ตลาดอย่างชัดเจน โอกาสที่ตลาดจะ collapse จึงเป็นเรื่่องยากพอควร เคยอ่านข่าวดูเค้าบอกว่า จริง ๆ ทุกประเทศในโลกจับมือกันค่อย ๆ ลดค่าเงิน USD index โดยมีเป้าหมายที่ 60 จุด ในช่วง 10 ปี คือ 2551-2560 ซึ่งดูแนวโน้มเค้าก็มีโอกาสจะทำได้สูง ดังนั้นกว่าจะลดถึงขนาดนั้น เราคงจะเจอเวฟขึ้นเวฟลงแบบนี้ไปอีกหลายปีพอควร ปีนี้เลยตั้งเป้าหมายราคาทองไว้ 2000 เหรียญ = 28000 บาท/ 15.2 g ทองไทย
  15. -ปีนี้เป็นปี มังกรน้ำ ธาตุบนน้ำ ธาตุล่างดิน ตลาดหุ้นเหมือนไฟ น้ำจะมาดับไฟ ตัวราศีมะโรง ก็เป็นเจ้าแห่งธาตุน้ำ -ดาวเสาร์เข้าสู่มหาอุจจ์ ตัวแทนแห่งเศรษฐกิจตกต่ำ ข้าวยากหมากแพง(deflation) เมื่อ 7 ธันวาคม 2554 เมื่อดาวเสาร์เข้าแล้วจะอยู่ไป 2.5 ปี จากนั้นย้ายราศี เข้่าสู่ ตำแหน่งราชาโชค ทหารจะเป็นใหญ่ีอีก 2.5 ปี รวม 5 ปี ถึง 2559 ลักษณะจะเกิดคล้ายพวกตะวันออกกลางคือ การประท้วง จราจล -ใน illuminati card ใบ bank merger จะเกิดการควบรวมของธนาคารกลางทั่วโลก แต่ก่อนจะควบรวม แบงค์จะต้องล้มก่อน แบงค์ล้มตลาดหุ้นก็คงไม่เหลือ คำทำนายก็คือการคาดเดา เพียงแต่ปีนี้เป็นปีที่แรง เราจะต้องระมัดระวังการลงทุนไว้มาก ๆ เท่านั้นเอง ไม่ควรลงทุนเกินตัวมาก ควรเก็บเงินสดไว้มาก ๆ อีกทั้ง FED ทำ operation TWIST แปลว่าจะไม่พิมพ์เงินมาก ๆ อีก เป็นสัญญาณว่าหุ้นจะผันผวนในลักษณะขาลง จน กรกฎาคม- สิงหาคม 2555 FED จึงจะประชุมใหญ่อีกครั้ง หาก FED เลิกพิมพ์เงินอีก ก็คงจบ - -
  16. เหตุการณ์ที่เป็นเหตุการณ์ใหญ่ อาจจะเกิดขึ้นในปีมะโรง 2555 นี้ 1.economic collapse หุ้นเหลือ 200 จุด น้ำมัน 20 เหรียญ และตกต่ำไปจนถึง 2558-2559 2.gold revaluation = new world currency SDR by IMF & WORLD BANK ต่อไปจะเป็นเจ้าของทรัพย์สินทุกอย่าง ในโลก ทั้งหุ้น อสังหา ธนาคาร น้ำมัน (gold = 5000 เหรียญ silver = 200 เหรียญ) 3.USD index = 100 จุด ค่าเงินบาท 40 บาท/ดอลล่าห์ หากเกิดขึ้น เศรษฐกิจจะเกิดภาวะ deflation สุดขีด เงินทองเป็นของหายาก อสังหาฟองสบู่ และ หุ้นจะแตกพร้อมกันทั่วโลก ราคาข้าวของจะถูกลง แต่จะไม่มีเงินซื้อ จากนั้น IMF และ world bank ก็จะเข้ามากว้านซื้อ หุ้น อสังหา ของทุก ๆ ประเทศ ในราคาถูก โดยอาศัยทองคำที่ได้ revaluation แล้ว ธนาคารจะเหลือแค่ world bank แห่งเดียวเป็นธนาคารโลก ภาวะ HYPERINFLATION ก็จะไม่เกิดขึ้น
  17. ขอบคุณ คุณหมอเล็กมาก ๆ สำหรับข่าวสาร ราคาทองปีหน้าน่าจะเป็นปีที่เคลื่อนไหวรุนแรงพอควร ตามโหราศาสตร์เราจะพบกับ อุจจ์ 2 ตัว คู่มิตร คือ ดาวเสาร์และดาวราหู ดาวเสาร์หมายถึง ตะวันออกกลาง ดาวราหูจะหมายถึง น้ำมัน ปีหน้า 2555 จะเป็นปีที่น้ำมันราคาสูง อาจจะถึงขั้นทำนิวไฮ เกิน 145 เหรียญ จากอิทธิพลของดวงดาว พลอยจะทำใ้ห้ราคาทองเกิน 2000 เหรียญไปได้ หุ้นขึ้นกระจุยกระจายตามราคาน้ำมัน แต่พอเข้าเดือน ธค 55 ดาวราหูจะย้ายเข้าสู่ราศีต่อไป ลดฐานะ เป็นราชาโชค ส่งผลให้น้ำมันหลังจากทำนิวไฮ ราคาจะเหลือแค่ทรง ๆ ค่อย ๆ ลดลงอีกประมาณ 1 ปีครึ่ง หลังจากนั้น พลังของราหูจะลดระดับลงอย่างมาก อีกทั้งดาวราหูเป็นตัวแทนของการหลอกลวง มึนเมา ดังนั้นช่วงประมาณปี 2557 ราคาทองคำจะแสดงมูลค่าที่แท้จริงออกมาเต็มที่ ตัวเลขเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่ซ่อนเก็บกันไว้ ก็จะเปิดเผยให้รู้กันหมด เกิด panic อย่างที่คุณลุงจิมว่าไว้ สรุปก็คือถือทองให้ถึงปี 2557 ช่วงนั้นราคาทองจะสูงสุด และเศรษฐกิจ เกิดการ collapse ถึงเวลานั้นใครมีเงินมีทองเก็บไว้ ก็จะสามารถซื้อทรัพย์สินต่าง ๆ ได้ในราคาไม่แพง สู้ต่อไปชาวไทยโกล์ด ต้อนรับเข้าสู่ปี มังกรทะยาน นะครับ
  18. เห็นด้วยกับหมอเล็กเรื่อปริมาณเงินว่ามันไม่น่าจะพอ แค่กรีซประเทศเดียวแทบหมด จะให้พอจริงต้องสัก 5trillion ปีนี้โลกวุ่นวายอีกครั้ง เพราะปีนี้จะเป็นปีที่ตะวันออกกลาง จะเข้มแข็งมากขึ้น มาพร้อมกับราคาน้ำมันที่แพงขึ้นมาก
  19. ถ้าเกิดทองบาทละ แสน. ต่อไปร้านขายทองต้องเลิกขาย เปลี่ยนมาขายเงินแทน แล้วใครอยากขายทองก็ไปขายที่กระทรวงการคลัง แต่ถ้าขายแล้วไม่มีให้ซื้อคืนเท่านั้น. 5555
  20. เห็นด้วยกับเรื่อง EURO 1.25 แล้วอเมริกาจะพิมพ์ QE3 ครับ QE3 --> usd index = 65 --> EURO ลดค่าเงิน PEG DOLLAR --> USD index 75 --> USD ลดค่าเงิน PEG GBP --> USD index 58 the begining of the end
  21. ่จากการคำนวณแค่ทอง 4000-5000 เหรียญ เศรษฐกิจโลกก็ไปไม่เป็นแล้ว เผลอ เราจะได้เห็นน้ำมัน 10 เหรียญอีกรอบ แต่เงื่อนไขในการที่เศรษฐกิจจะล้มได้มี 1.ค่าเงินดอลล่าห์ถูกลดค่าเงิน จะเป็นจุดเริ่มต้น (usd index ต่ำสุด - 60 จุด) (dollar collapse) 2.ราคาน้ำมันที่เกิน 155 เหรียญ เพราะโอบาม่าเคยบอกว่า ราคาน้ำมันที่เกินราคานี้อเมริกา กับ ยูโรปจะรับไม่ไหว 3.SDR กลืน YEN เข้าไปหมด(YEN ลดค่าเงิน)จะเป้นจุดสิ้นสุด (usd index - 100) ถ้าเราเอา SWISS MODEL เป็นหลัก จะเห็นว่าการขึ้นใช้เวลา 4 เดือน การปรับฐานอีก 4 เดือน ต่อเงินหนึ่งสกุล สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ในปีหน้าก็คือ ยูโรป(พค)และอเมริกา(ธค)จะลดค่าเงิน เราจะได้เห็นน้ำมันระดับ 160-170 เหรียญ SET 17xx ทองคำ 2500-3000 เหรียญ USD index 60 จุด ปลายปี 2555 (the beginning of the end) (ปีหน้าเป็นปีแห่งการเกร็งกำไรที่ดีทีสุดเลยครับ) ปล.ผมเดานะครับ ถ้าผิดก็ขออภัยด้วย ถ้าไม่ชอบก็ผ่่านได้เลยนะครับ ผมเสนอไอเดียเฉย ๆ ช่วงไตรมาส 1 อเมริกาจะต้องพิมพ์เงินจำนวนมากเพื่อช่วยยูโรป ไม่งั้น ยูโรปไม่รอดแน่ ๆ
  22. ราคาทองมันต้อง หารสองก่อนนะครับ คุณ GOLD2RICH ส่วนจุดหักเหมันอยู่ช่วงต่อที่อเมริกาลดค่าเงินนั่นแหละครับ จะทำให้ USD index เหลือ 60-65 จุดได้ แต่พอ GBP และ YEN ลดค่าเงิน ก็จะดึงให้ USD index กลับมาที่ 80-100 ได้น่ะครับ
  23. เรื่องค่าเงิน USD index ในตอนจบ จะกลับไปที่ 100 จุดเสมอครับ ถ้าลดค่าเงินหลักครบทุกสกุล ไม่ว่าเราจะคิดในกรณีสถานการณ์แบบไหนก็ตามครับ ผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะครับ สถานการณ์จะเป็นตัวเฉลยที่ดีที่สุดครับ นี่ก็เป็นแค่การวิเคราห์ตามทฤษฎีเท่านั้นครับ
  24. จำปลาตัวแรกไม่ได้หรือครับ SWISS NATION BANK ลดค่าเงินแล้วไป PEG กับ EURO แล้วประกาศพิมพ์เงินไม่อั้น ก่อนหน้านั้นทองคำถูกลากจาก 1600 --> 1900 เหรียญ พอประกาศปุ้บก็ถูกทุบในเวลาไม่นานเหลือต่ำกว่า 1600 เลยทีเดีย ดังนั้น ถ้าหากมีการลดค่าเงิน EURO จริง และ PEG กับ DOLLAR ก่อนหน้านั้นราคาจะถูกลากขึ้นไปรับข่าวก่อน พอประกาศทองก็จะถูกทุบทันที เพื่อให้ คนที่ถือเงินรู้สึกว่า ทองมีความผันผวนไม่น่าซื้อ (พวกพิมพ์เงินมาช็อตนี่น่ากัว) เท่าที่วิเคราะห์ จาก USD index = DOLLAR/SWISS+EURO+GBP+YEN EURO ถึงจุดสูงสุด จะประกาศลดค่าเงิน แล้วทุบ เหมือนสวิส DOLLAR พอประกาศลดค่าเงิน ราคาทองจะพุ่งขึ้นไปเท่า HIGH แล้วถูกทุบต่ำกว่าก่อนประกาศ GBP กับ YEN จะเหมือนกับ EURO นี่คือลักษณะเวฟที่คาดเดา หากเราใช้ SWISS MODEL เราจะพบกับคำว่า ผันผวนแบบ SIDEWAY UP
  25. ในกรณีที่เลวร้ายสุด ๆ ประเทศต่าง ๆ ลดค่าเงินกัน USD index เพิ่มขึ้น จนถึงตัวสุดท้าย USD index จะประมาณ 100 จุด เป็นเงินบาทก็ 40 บาทต่อ USD ราคาทองจะอยู่ที่ประมาณ 1000 เหรียญ คิดเป็นเงินบาทก็ 19000 บาท ก็นับว่าบาดเจ็บพอควรแต่ไม่มาก (ขาดทุนสูงสุดประมาณ 20% จากราคาปัจจุบัน) แต่ถึงเวลานั้นเศรษฐกิจจะล่มสลาย อย่างหุ้นไทยอาจจะเหลือ 100 จุด (ขาดทุน 90% จากราคาปัจจุบััน) แบบนั้นก็ขายทองไปซื้อหุ้นได้อยู่ดี แต่สถานการณ์ที่คาดการณ์ไว้ก็คือ ทอง 4500 เหรียญ แล้วค่อยรอดูหุ้นตอนนั้น
×
×
  • สร้างใหม่...