ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ร่วมอนุโมทนาบุญกับคุณทองใหม่ด้วยนะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมไปทำบุญร่วมอนุโมทนา อุปสมบทพระ๑แสนรูป รุ่นเข้าพรรษา มาแล้วครับ ขอให้เพื่อนๆที่ได้อ่านข้อความนี้จงได้บุญนี้ร่วมกันทุกท่านด้วยเทอญ สาธุ...........

 

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับคุณทองใหม่ด้วย ขอบคุณคุณทองใหม่ด้วยความเคารพ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมไปทำบุญร่วมอนุโมทนา อุปสมบทพระ๑แสนรูป รุ่นเข้าพรรษา มาแล้วครับ ขอให้เพื่อนๆที่ได้อ่านข้อความนี้จงได้บุญนี้ร่วมกันทุกท่านด้วยเทอญ สาธุ...........

อนุโมทนาด้วยคนค่าาาา !_087

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองวันนี้ปรับขึ้น100บาท ขายออกทองแท่งที่บาทละ 19,200บาท

 

สมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณวันนี้ (26 มิ.ย.) ทองคำแท่งซื้อคืนที่บาทละ 19,100 บาท และขายออกที่บาทละ19,200 บาท และทองรูปพรรณซื้อคืนที่บาทละ18,828.72 บาท และขายออกที่บาทละ 19,600 บาท

 

ราคาทองวันนี้ปรับขึ้น 100 บาท จากราคาเมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) ทองคำแท่งขายออกที่บาทละ 19,100 บาท และทองรูปพรรณขายออกที่บาทละ 19,500 บาท

ว้าว... ข่าวดี..ข่าวดี.. !La

เปิดมาพรุ่งนี้ จะยังไงต่อน้า....

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดูตรงเส้นแดงเหลืองอยู่ในแนวที่สูง หากเกิน80 ก็จะเข้าสู่เขตซื้อเกิน ถามว่าจะขึ้นต่อได้ไหมหากถึงเลข80เขตซื้อเกิน ตอบ--ขึ้นได้ครับ ขึ้นได้จนถึง100-หากมีปัจจัยส่งเสริม หากปัจจัยส่งเสริมหมดแรงหรือหมดปัจจัยส่งเสริมก็พร้อมที่จะลงได้เหมือนกันครับ

 

ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่(เพิ่งเข้ามาอ่าน เสาร์อาทิตย์ไม่ค่อยได้เข้า เดี๋ยวเครียดเกิน) !thk !thk !thk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมไปทำบุญร่วมอนุโมทนา อุปสมบทพระ๑แสนรูป รุ่นเข้าพรรษา มาแล้วครับ ขอให้เพื่อนๆที่ได้อ่านข้อความนี้จงได้บุญนี้ร่วมกันทุกท่านด้วยเทอญ สาธุ...........

 

อนุโมทนาด้วยคนค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อนุโมทนาด้วยคนค่ะ

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ :rolleyes:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กราฟตัวอย่าง

8360.gif

 

Uploaded with ImageShack.us

กราฟช่วงปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ ระวังเส้นแดงแทงทะลุเส้นเหลือง มีสิทธิ์ที่จะขึ้นต่ออีกหน่อยได้..หากยังมีแรงส่งเสริมจากปัจจัยพื้นฐาน เช่น..เรื่องข่าวเกาหลีเหนือเป็นต้น หากปัจจัยส่งเสริมขึ้นหมดก็พร้อมลงได้

66183578.gif

 

Uploaded with ImageShack.us

28-6-2010

fq0b1.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เวิลด์แบงก์ฉายภาพเศรษฐกิจไทย

วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2010 เวลา 08:47 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ เศรษฐกิจโลก - เศรษฐกิจโลก

 

ธนาคารโลกพยากรณ์เศรษฐกิจไทย แม้จะเจอกระแสการเมืองกระแทกแรงตั้งแต่เมษายน-พฤษภาคม แต่ก็เชื่อว่าจะมีการขยายตัวเฉลี่ยทั้งปีนี้ที่ 6.1% โดยมีเหตุปัจจัยภายนอกเป็นพลังผลักดันที่สำคัญและต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่ภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกไปจนถึงปัญหาการคลังของประเทศในกลุ่มยูโรโซน

 

นายเฟรดเดอริโก้ จิลซานเดอร์ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกประจำประเทศไทย เปิดเผยถึงรายงานของธนาคารโลกภายใต้หัวข้อ "ตามติดเศรษฐกิจไทย" หรือ Thailand Economic Monitor ฉบับเดือนมิถุนายนว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยที่มีทิศทางฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้มีภาคการส่งออกเป็นหัวจักรขับเคลื่อนที่สำคัญ แม้จะเป็นข่าวดีแต่ก็เห็นได้ชัดว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยนั้นพึ่งพาการส่งออกเพียงปัจจัยเดียว เปรียบกับการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เพียงเครื่องเดียว ดังนั้นเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่ไม่อาจควบคุมได้ จึงแนะนำให้ไทยเร่งหาวิธีส่งเสริมการเจริญเติบโตของการผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม ควบคู่ไปกับการกระตุ้นความต้องการหรืออุปสงค์ภายในประเทศ ซึ่งจะทำให้แหล่งที่มาของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจมีความสมดุลมากขึ้น

 

++จีดีพีชะลอตัวครึ่งปีหลัง

"การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกได้รับการขับเคลื่อนจากภาคการส่งออกที่มีความแข็งแกร่งเป็นหลักและเป็นปัจจัยเดียว เพราะเหตุนี้จึงทำให้ความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมซึ่งส่งผลกระทบอย่างแรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและค้าปลีก ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยภาพรวมมากนัก" นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลกอธิบายว่า แม้การท่องเที่ยวและค้าปลีกของไทยจะได้รับผลกระทบค่อนข้างรุนแรงจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง แต่ด้วยเหตุที่การท่องเที่ยวมีสัดส่วนเพียง 8% ของจีดีพี ขณะที่ภาคการผลิตเพื่อส่งออกมีสัดส่วนถึง 39% ของจีดีพี จึงทำให้ผลกระทบที่เกิดขึ้นได้รับการชดเชย โดยภาคการส่งออกที่เข้มแข็ง ฉะนั้นโดยภาพรวมสำหรับปีนี้ ธนาคารโลกเห็นว่า แม้วิกฤติการเมืองจะส่งผลลบ แต่เศรษฐกิจไทยก็ยังน่าจะขยายตัวได้ดีต่อไป จากการที่เศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น เพียงแต่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะน้อยกว่าในช่วงครึ่งปีแรก

 

"ข่าวดีก็คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วมาก แม้จะมีปัจจัยลบทางการเมืองเข้ามากระทบ แต่ข่าวร้ายก็คือ ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ยังมีความไม่แน่นอนสูง การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังพึ่งพาแรงผลักดันจากภายนอกอยู่มากจึงทำให้ไทยอ่อนไหวต่อสถานการณ์โลกมากตามไปด้วยเช่นกัน"

 

และด้วยเหตุนี้ ธนาคารโลกจึงปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของไทยสำหรับปี 2553 ทั้งปีลงมาเล็กน้อย จากก่อนหน้านี้ที่เคยคาดไว้ 6.2% ลดลงมาอยู่ที่ 6.1% และสำหรับปีหน้า (2554) พยากรณ์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยอาจจะไม่สดใสเท่าที่ควร เนื่องจากปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปและสถานการณ์ของประเทศอุตสาหกรรมบางประเทศที่เป็นคู่ค้าสำคัญของไทยยังมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่ความต้องการในประเทศเองก็ยังไม่น่าจะฟื้นตัวมากนัก จึงคาดว่า จีดีพีของไทยในปี 2554 จะขยายตัวที่อัตราเพียง 3.6% เท่านั้น

 

++ แนะเสริมเครื่องยนต์ที่สอง

นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกยังระบุด้วยว่า ประเทศไทยยังนับว่าโชคดีกว่าประเทศอื่นอยู่มากตรงที่ฐานะการคลังของไทย ระดับหนี้ในภาครัฐ และเงินทุนสำรองระหว่างประเทศยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้สถานะทางการเงินของภาคธุรกิจและภาคการเงินของไทยก็เรียกได้ว่า "เข้มแข็ง" ทำให้ไทยมีความยืดหยุ่นกว่าหลายประเทศในการนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆมาใช้ ฉะนั้นในอนาคตข้างหน้า รัฐบาลไทยควรหาวิธีลดภาวะงบประมาณขาดดุลลง เพื่อให้เสถียรภาพด้านเศรษฐกิจมหภาคของไทยที่มีอยู่นั้นดำเนินต่อไป นอกจากนี้ ธนาคารโลกยังเสนอแนะว่า รัฐบาลไทยควรเร่งพัฒนา "เครื่องยนต์เครื่องที่สอง" เพื่อมาร่วมขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศนอกเหนือไปจากภาคการส่งออก ซึ่งจะช่วยให้ไทยสามารถลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกลงได้ในอนาคต และยังจะเป็นการกระตุ้นให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตขึ้นได้อย่างเต็มศักยภาพที่มี

 

" ไทยควรกระตุ้นการเจริญเติบโตของสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น (higher value added) เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เป็นที่สังเกตว่า ภาคบริการของไทยมีพัฒนาการในทิศทางย้อนกลับเมื่อเทียบกับภาคการผลิต คือในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนของภาคบริการต่อจีดีพีนับว่าลดลงเรื่อยๆ ทั้งๆที่มีศักยภาพที่จะขยายตัวได้มากกว่าเดิม" ขณะเดียวกันหากไทยพัฒนาความสามารถในการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นสู่ตลาดโลก ก็จะทำให้สามารถแข่งขันได้ดียิ่งขึ้นเนื่องจากโลกในปัจจุบันมีความเชื่อมโยงและเป็นเศรษฐกิจฐานความรู้ (knowledge based) มากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ บริการและสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นยังหมายถึงรายได้ที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับภาคผลิตที่ใช้แรงงานเป็นหลัก "การที่รัฐสามารถสร้างงานประเภทนี้ได้มากขึ้นจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศระยะยาว แต่การจะทำเช่นนั้นได้ก็ต้องอาศัยแรงงานที่มีทักษะและมีการศึกษาสูงเป็นสำคัญ" รายงานของธนาคารโลกระบุ พร้อมทั้งเสนอแนะว่า รัฐบาลควรเร่งปฏิรูปการศึกษาและกระจายโอกาสในการเข้ารับการศึกษาให้ทั่วถึง ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของประชาชนและปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะได้ในที่สุด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำปิดพุ่ง 10.30 เหรียญ จากความวิตกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

 

Posted on Monday, June 28, 2010

กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในโลกขยายตัว 2.7% ต่อปีในไตรมาส 1/2553 น้อยกว่าที่ประเมินไว้ในเดือนที่แล้วที่ระดับ 3% ซึ่งการปรับทบทวนจีดีพีลง ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจหลายตัวที่แย่กว่าคาด อาทิ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ที่ได้รับการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และถือเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้น อย่างไรก็ดี ในทางตรงกันข้าม ปัจจัยดังกล่าวกลับหนุนให้ราคาทองคำพุ่งสูง เพราะนักลงทุนปลีกตัวจากตลาดหุ้นและหันมาลงทุนซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงแทน

 

ขณะเดียวกัน ต้นทุนการประกันหนี้สาธารณะของกรีซที่ทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดเมื่อวานนี้ ตลอดจนสถานการณ์วิกฤตหนี้ยุโรปที่ยังไม่มีความแน่นอนก่อนการประชุม จี20 วันเสาร์-อาทิตย์นี้ที่แคนาดา และเงินดอลลาร์ที่ร่วงลง ล้วนเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ

 

ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเป็นวันที่สามเมื่อเทียบกับตระกร้าสกุลเงินหลักทั้งหกสกุล ซึ่งเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนลงทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งซื้อขายกันในสกุลดอลลาร์สหรัฐ มีราคาที่น่าดึงดูดในในสายตาของผู้ซื้อต่างชาติ

 

บรรดาผู้นำกลุ่มประเทศร่ำรวยและกำลังพัฒนา 20 ประเทศ (G20) จะหารือเรื่องวิกฤตหนี้ยุโรปและประเด็นอื่นๆที่กรุงโทรอนโต ช่วงสุดสัปดาห์นี้

 

- ทองคำ ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดที่ 1,256.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+10.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)

- เงิน ส่งมอบเดือนกรกฎาคม ปิดที่ 19.110 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+0.37 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...