Keep Moving 195 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 18, 2010 สูตรยาสมุนไพรรักษาโรคเก๊าต์ ส่วนผสม ลูกยอสุก 1 กก. มะเฟืองสุก 1 กก. กล้วยน้ำว้าสุก 1 กก. น้ำตาลทรายแดง 1 กก. วิธีทำ นำลูกยอ มะเฟือง กล้วยน้ำว้าสุก มาล้างให้สะอาด นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ขนาด 1 ซม.(ไม่ปอกเปลือก) โรยน้ำตาลทรายแดงให้ทั่ว แล้วหมักในโหลทิ้งไว้ 1 เดือน วิธีรับประทาน วันที่ 1 - 3 ครั้งละ 1 ช้อนชาผสมน้ำดื่มก่อนอาหารเช้า, เย็น วันที่ 4 - 6 ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำดื่มก่อนอาหารเช้า, เย็น ครั้งต่อ ๆ ไป ครั้งละ2ช้อนโต๊ะผสมน้ำดื่มก่อนอาหารเช้า, เย็น ที่มา http://www.dbigbike.com/webboard/index.php?topic=27791.0 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 18, 2010 ขอบคุณนะคะ ถ้ามีตำหรับยาไทยมาให้อ่านเรื่อยๆก็ดีเหมือนกันนะคะ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
Tiewsian 10 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 18, 2010 บัวบก Centella asiatica (L.) Urban. Umbelliferae ชื่อสามัญ ASIATIC PENNYWORT, TIGER HERBAL อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 18, 2010 ช่วยต่อให้ นะ บัวบก วิจัยพบบัวบกสรรพคุณเยี่ยม รักษาแผลเรื้อรังได้ดีโอกาสเกิดแผลเป็นน้อย ประสาน อภ.ผลิตจำหน่ายเชิงธุรกิจสู้บัวหิมะ แนะประชาชนคั้นน้ำดื่มให้ผลดีเช่นกัน พญ.วิลาวัณย์ จึงประเสริฐ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ใบบัวบกเป็นพืชที่คนไทยรู้จักสรรพคุณนิยมนำมาประกอบเป็นอาหารและยาพื้นบ้านมานาน หากมีการผลิตในรูปแบบยาจะเกิดประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากงานวิจัยที่กรมฯดำเนินการร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) พบว่า บัวบกมีสรรพคุณในการช่วยให้แผลหายเร็ว และโอกาสเกิดแผลเป็นน้อย และขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงลักษณะของบัวบกที่ผลิตได้ให้ลดสีเขียวเข้มลง เพราะสีอาจจะดูไม่น่าใช้ แต่จะเน้นให้สรรพคุณคงเดิม “ที่ผ่านมาองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้นำสารสกัดจากบัวบกมาผลิตเป็นเจลล้างมือ ยังไม่มีการผลิตเป็นยารักษาแผล เพราะวัตถุดิบมีน้อย โดยกรมฯได้ประสานให้ อภ.ดำเนินการผลิตรูปแบบยาจำหน่ายในเชิงธุรกิจ และจะสนับสนุนองค์ความรู้ให้ประชาชนที่สนใจผลิตจำหน่ายในเชิงธุรกิจด้วย ซึ่งอนาคตอาจจะทำให้บัวบกไทยมีชื่อเสียงเหมือนบัวหิมะที่มีสรรพคุณในการรักษาแผลน้ำร้อนลวก ไฟไหม้ได้ดี แต่บัวบกจะลดแผลที่บวมได้ดี” พญ.วิลาวัณย์กล่าว ด้าน ภญ.ดร.อัญชลี จูฑะพุทธิ รองผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ กล่าวว่า จากการที่สถาบันฯ ทำวิจัยเรื่องบัวบก ร่วมกับ ผศ.นพ.วีรยะ เภาเจริญ อาจารย์ประจำภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มธ. ในผู้ป่วยเบาหวานที่มีแผลเรื้อรังจำนวน 170 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับยาหลอก และได้รับสารสกัดบัวบกในรูปแบบน้ำคั้นและแคปซูล ครั้งละ 100 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง เมื่อเปรียบเทียบการหายของแผล พบว่า กลุ่มที่ได้รับสารสกัดบัวบกระยะเวลาการหายของแผลเร็วกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอกเกือบครึ่ง โดยจากการวัดการหดของแผล ซึ่งหากแผลหดตัวได้ดีสะท้อนการหายของแผลได้ดี ในวันที่ 14 ภายหลังเริ่มการทดลอง เห็นได้ชัดว่ากลุ่มที่ได้รับสารสกัดบัวบกแผลหดได้ดีถึง 32 คน ขณะที่กลุ่มที่ได้รับยาหลอก แผลหดได้ดีเพียง 16 คนเท่านั้น แสดงว่ากลุ่มที่ได้รับสารสกัดบัวบกแผลหายเร็วกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับถึงครึ่งต่อครึ่ง โดยสรุปบัวบกมีสรรพคุณกระตุ้นการหายของแผลได้เร็วมาก โดยเฉพาะแผลเรื้อรังที่ต้องขูดเนื้อตายออก เช่น แผลของผู้ป่วยเบาหวาน อย่างไรก็ตาม แผลที่เกิดจากท่อไอเสียและแผลทั่วไปก็สามารถรักษาให้หายได้เช่นกัน และไม่พบอาการไม่พึงประสงค์ในกลุ่มผู้ที่ได้รับบัวบก “สนใจทำวิจัยเรื่องนี้เพราะประทับใจจากการที่ได้ใช่บัวบกในการรักษาคุณยายที่ป่วยเป็นเบาหวานและมีแผลเรื้อรัง โดยให้ดื่มน้ำบัวบกคั้นแทนน้ำทุกวัน ปรากฏว่าแผลที่เป็นอยู่หายเร็วมาก และไม่เกิดแผลเป็น เท่ากับว่าการให้กินน้ำบัวบกสารในบัวบกจะซึมเข้ากระแสเลือดและถึงแผลได้ เท่ากับว่าประชาชนสามารถใช้บัวบกรักษาแผลได้ด้วยวิธีง่ายๆ คือ การทำน้ำบัวบกเพื่อให้ผู้ป่วยที่มีแผลเรื้อรังดื่ม ก็จะช่วยรักษาแผลให้หายเร็วและเกิดแผลเป็นน้อยได้เช่นกัน ไม่ต้องรอใช้เฉพาะในรูปแบบที่เป็นสารสกัดหรือครีมบัวบก” ภญ.ดร.อัญชลีกล่าว ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000051208 ------------------------------------------------------------------ บัวบก สรรพคุณ : บำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้อาการอ่อนเพลีย ช่วยรักษาอาการฟกช้ำ ช่วยให้เลือดกระจายตัว แก้ช้ำใน ความดันโลหิตสูง ป้องกันมะเร็ง ชื่อท้องถิ่น : ผักหนอก ผักแว่น ชื่อวิทยาศาสตร์ : Centella asiatica Urban วงศ์ : Umbeliferae สารสำคัญ ในลำต้นและใบมีสารที่สำคัญคือ กรดมาดีคาสสิค (madecassic acid), กรดเอเซียติก (asiatic acid) สารเหล่านี้ จะมีฤทธิ์ในการสมานแผล ช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดเชื้อเป็นหนองในได้อีกด้วย เกร็ดความรู้ ในตำรายาไทยกล่าวว่าบัวบกมีรสเฝื่อนขมเย็น แก้อ่อนเพลีย เมื่อยล้า บำรุง ธาตุ บำรุงหัวใจ ขับปัสสาวะ ขับโลหิตเสีย ในทางเครื่องสำอางมีสรรพคุณในการให้พลังงานแก่เซลล์ กระตุ้นการสร้าง Collagen และ Elastin ซึ่งช่วย รักษาแผลและรอยเหี่ยวย่น ลดการอักเสบ สาวๆ ที่กลัวแก่ก่อนวัยลองใช้น้ำ ที่คั้นจากบัวบกทาหน้าแทนโลชั่นบำรุงผิว บัวบกช่วยเพิ่มความจำได้ เพราะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และเพิ่ม พลังงานให้เซลล์จึงทำให้ความจำดีขึ้น ผลงานการวิจัย 1.ฤทธิ์ลดการอักเสบ บัวบกมีสาร triterpenes หลายชนิด ได้แก่ asiaticoside acid , madecassosid , Asiatic acid ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ฤทธิ์ต้านฮีตามีน สารสกัดใบบัวบกด้วยแอกอฮออล์ผสมน้ำ (1:1) สามารถต้านการแพ้ได้ จึงช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด หรืออักเสบเนื่องจากแมลงกัดต่อย 2.ฤทธิ์แก้ปวด สารtriterpenoid จากใบบัวบกมีฤทธิ์กล่อมประสาทและสารสกัดใบบัวบกด้วย 70 เปอร์เซ็นต์ ของแอกอฮออล์ มีฤทธิ์กดประสาทอย่างอ่อน 3.ฤทธิ์สมานแผล ได้มีการนำสารสกัดใบบัวบก ซึ่งเรียกว่า madecassol และสารสกัดได้จากบัวบก คือ madecassic acid , Asiatic acid และ asiaticoside ซึ่งเป็นสารกลุ่ม triterpene ไปใช้ทาภายนอกเพื่อรักษาแผลในหนูขาว พบว่าทำใหห้แผลหายเร็ว เนื่องจากทำให้มีการกระจายตัวของหนองในแผลในหนูขาว และทำให้แผลขนาดเล็กลง 4.ฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียสาเหตุการเกิดหนอง สารสกัดบัวบกด้วยน้ำร้อนสามารถฆ่าเชื้อ Staphytococcus aureus ที่เป็นาสาเหตุของการเกิดหนอง ดังนั้นใบบัวบก จึงช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ด้วย และยังมีผู้พบว่าสารสกัดใบบัวบก ยับยั้งเชื้อ S.aures , beta-streptococcus gr A,Pseudomonas aeruginasa 5.ทำให้เลือดหยุดเร็ว สารสกัดบัวบกด้วยน้ำทำให้เลือดหยุดเร็วactivated partial thromboplastin time และ prothrombin time ลดลง ความเป็นพิษ ได้มีผู้ทดลองฉีดสารสกัดด้วยแอกอฮออล์และน้ำอัตรส่วนหนึ่งต่อหนึ่งเข้าช่องท้องหนูถีบจักรพบว่าหนูถีบจักรทนยาได้ถึง 250 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และพบฤทธิ์คุมกำเนิดในหนูถีบจักรจึงควรระวังไม่ให้หญิงมีครรภ์กินในขนาดสูง วิธีการใช้ตามภูมิปัญญาไทย 1. บำรุงสมอง นำใบบัวบกมาล้างน้ำให้สะอาด โขลกให้แหลกนำไปต้มกรองเอาแต่น้ำมาดื่ม หรือจะคั้นสด ผสมกับน้ำดื่มก็ได้ อาจเติมน้ำตาลทราย และ เกลือนิดหน่อย ให้ชวนดื่ม ดื่มไปทุกวันๆละ 1 แก้วหรือเป็น ยาปวดศีรษะข้างเดียว โดยใช้ต้นไม่จำกัด รับประทานหรือ คั้นน้ำจากต้นสดรับประทานติดต่อกัน2-3 วัน 2. บำรุงหัวใจ ต้มดื่ม เช้า-เย็น ครั้งละ 1 แก้ว 3. แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้อาการอ่อนเพลีย จะต้มหรือคั้นสดก็ได้ ดื่ม 1 แก้ว เวลากระหายน้ำ 4 .เป็นยาแก้เจ็บคอ โดยใช้ทั้งต้นสด 10-20 กรัม หรือ 1 กำมือ ตำคั้นน้ำเติมน้ำส้มสายชู 1-3 ช้อนแกง จิบบ่อย ๆ แก้เจ็บคอ หรือเอาบัวบกสดเข้มข้น ใส่เกลือเล็กน้อย แล้วจิบเอา แก้อาการเจ็บคอดีมาก จิบได้เรื่อยๆ 5 . ดับพิษไข้ คั้นเอาน้ำสด ดื่ม 1 ถ้วยตะไล ไม่ต้องผสมน้ำเลย ดื่ม 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น 6. รักษาอาการเนื่องจากแมลงกัดต่อย ใช้ใบขยี้ ทาแก้แมลงกัดต่อย 7. ใช้บัวบกรักษาแผล ใช้ใบสดพอกแผลสด วันละ 2 ครั้ง ใบบัวบกเอามารักษาแผลไฟไฟม้ น้ำร้อนลวกได้ดี โดยเอาบัวบกทั้งต้นสดทั้งใบ 1 กำมือ ล้างให้สะอาดแล้วโขลกละเอียด คั้นเอาน้ำและทาบริเวณที่แผลบ่อย ๆ จะใช้พอกด้วยก็ได้ 8. ใช้เป็นยาห้ามเลือด รักษาบาดแผลสด หรือลดอาการแพ้ ผื่นคัน ปวดแสบ ปวดร้อน อักเสบได้ ใส่แผลสด โดยใช้ใบสด 20-30 ล้างให้สะอาดตำพอกแผลสด ช่วยห้ามเลือดให้แผลดีขึ้น และอาการแพ้ที่เป็นจะค่อยๆทุเลาลง สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ 9. ช่วยรักษาอาการฟกช้ำ ช่วยให้เลือดกระจายตัว แก้ช้ำในโดยใช้ต้นสด 1 กำมือ ล้างให้สะอาด ตำคั้นน้ำ เติมน้ำตาลเล็กน้อย ดื่ม 1 ครั้ง รับประทานติดต่อกัน 5-6 ครั้ง 10. ความดันโลหิตสูง ต้มน้ำใบบัวบกต้ม เช้า-เย็น ครั้งละ 1 แก้ว เป็นเวลา 5-6 วัน แล้วลองวัดความดันโลหิตดู จะลดลงมาปกติ อาการของโรคจะหายได้ จากนั้น ควรควบคุมเรื่องอาหาร กับการออกกำลังกายและอารมณ์ 11. แก้ปวดท้อง มวนในท้อง ท้องเสีย โดยคั้นเอาน้ำสดๆเข้มข้นดื่มช่วยให้ทุเลาได้ 12.. แก้บิด ใช้ใบบัวบกสดเข้มข้น ดื่มสดๆ เพื่อทำลายเชื้อบิด ดื่มเช้า กลางวัน เย็น ประมาณ ครั้งละ 1 ถ้วยตะไล 13. แก้ดีซ่าน เอาบัวบกมาคั้นน้ำดื่มสดๆ 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น 14.. แก้อาเจียนเป็นเลือด คั้นเอาน้ำสดๆ ดื่ม 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น 15. รักษาอาการตาแดง ตำใบบัวบกสดๆ หลับตาแล้วพอกที่ตาเป็นเวลานานๆ เปลี่ยนยาบ่อยๆ หายได้ในที่สุด 16. ขับปัสสาวะ นำใบบัวบกสดคั้นน้ำ ดื่มกันสดๆ อาจเติมความหวานเล็กน้อยก็ได้ 17. แก้กามโรค เป็นน้ำกระสายยา ในการรักษากามโรค กินร่วมกับยาอื่นได้ 18. แก้โรคเรื้อน ใช้ใบบัวบกคั้นน้ำดื่มทุกๆวัน เช้า-เย็น และตำพอกแผลด้วย 19. ป้องกันมะเร็ง ยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ ดื่มบ่อยๆ อ้างอิง กลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร พ.ศ. 2546 ,ข้อมูลการวิจัยสมุนไพร ,โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร , หน้า24 ยุวดี จอมพิทักษ์, รักษาโรคด้วยสมุนไพร,สำรักพิมพ์หอสมุดกลาง 09,หน้า120 ชิดพงษ์ กสีสรวุฒิ,ตำราการใช้ ยาและสมุนไพร ,บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด,241-242 ศูนย์พัฒนาตำราแพทย์แผนไทย,การดูแลสุขภาพ แบบพึ่งตนเองด้วยยาสมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐาน ,หน้า 139 วุฒิ วุฒิธรรมเวช,ย่อเภสัชกรรมไทย และ สรรพคุณสมุนไพร,บริษัท ศิลป์สยามบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์,หน้า142 สำนักงานคณะกรรมการการสาธารณสุขมูลฐาน กระทรวงสาธารณสุข ,สมุนไพร ในงานสาธารณสุขมูลฐาน,หน้า 94 http://www.pharm.chula.ac.th/osotsala/botanay-food/sub2_2.htm http://www.geocities.com/thaimedicinecm/sansilpayathai1.htm คัดลอกจาก หนังสือข้อมูลสมุนไพร ในรายการผลิตของ สมุนไพรอภัยภูเบศร ปี 2550 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
asuscore 5 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 22, 2010 ขอบคุณมากค่ะ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
นายธนันชัย 3 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 22, 2010 ขอบคุณครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
bobbc 0 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กันยายน 5, 2013 ขอบคุณครับบบ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
search 0 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ พฤษภาคม 28, 2014 thank u อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น