ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

Gold ends higher, gains 12% in August

 

SHARE: MORE Email Print Comment 103 By Claudia Assis and Chris Oliver, MarketWatch

SAN FRANCISCO (MarketWatch) — Gold futures edged higher Wednesday to gain 12% in August, their best monthly performance since November 2009.

 

Gold for December delivery GC1Z +3.15% added $1.90, or 0.1%, to trade at $1,831.70 on the Comex division of the New York Mercantile Exchange.

 

Gold rose $201, or 12%, in August. The metal rose to a record $1,891.90 an ounce settlement Aug. 22 but two days later dropped nearly 6%, its worst one-day performance since March 2008.

 

Since that trough, however, gold moved incrementally higher, including a $38.20, or 2.1%, rally to $1,829.80 an ounce in New York on Tuesday. See report on Tuesday’s gold trading.

 

Click to Play

Asia Today: India cools down

India's economy is slowing as interest-rate increases and a global slowdown hit, combined with a lack of local reforms.

 

Demand for physical gold is strong in Asia and Europe, but the metal is likely to remain rangebound and trading choppy for the next few days, said Bernard Sin, head of currency and metals trading at MKS Finance in Geneva.

 

“There’s upside potential as we are going into buying season in India,” he said, referring to upcoming Hindu holidays when buying gold is considered particularly auspicious. India and China are the world’s top gold consumers, with gold buying enmeshed with long-standing traditions.

 

Gold has also recently drawn interest from nontraditional buyers such as hedge funds and wealthy individuals, which has made it difficult to assess price direction, said Sunil Kashyap, managing director at Scotia Capital in Hong Kong.

 

“Any level below $1,800 per ounce should see some buying because when prices went to $1,900, many investors were on the sidelines,” said Kashyap.

 

Meanwhile, China’s bullion-accumulation program was in the spotlight Wednesday after a People’s Bank of China adviser told the China Business News that Beijing should increase holdings of gold and other commodities.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคะคุงแบทแมน ทุกๆท่าน .... ขอบคุณคะ สำหรับข่าวสาร5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://goldprice.in/ เด็กขายของเข้าไปดูราคาของอินเดีย ไม่ลดนะครับ เท่ากันแหละ เมิ่อคำนวณกลับมาเป็นดอลลศหรัฐ

ขออภัยครับ ข้อมูลสองแหล่งขัดแย้งกันอยู่ ลุ้นขึ้นอยู่เหมือนกัน

 

ที่มา http://goldpriceindia.org/historical/?mm=09&yy=2011

อันนี้ข้อมูลบอกว่าขึ้นอีกนิดหน่อยวันเสาร์

 

ที่มา http://goldprice.org/gold-price-india.html

อันนี้รู้สึกว่าราคาเหมือนจะลดลงนะครับสำหรับอินเดียวันเสาร์ ดูจากกราฟ30วัน Last Close

 

 

 

แก้ไขเพราะไม่แน่ใจในข้อมูล

ถูกแก้ไข โดย Cool Wind

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผลการสำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกันซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นชี้ว่า ชาวอเมริกันกว่า 8 ใน 10 คนเชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยรอบใหม่ หลังจากตัวเลขจ้างงานไม่มีการขยายตัวในเดือนส.ค. นอกจากนี้ ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มการสร้างงานมากกว่าเรื่องอื่นๆ โดย 2 ใน 3 ของชาวอเมริกันที่ตอบรับการสำรวจกล่าวว่า ประธานาธิบดีโอบามาควรจะมุ่งเน้นในมาตรการสร้างงานอย่างเร่งด่วน แม้จะส่งผลกระทบต่อแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลก็ตาม โดยผลการสำรวจยังบ่งชี้ว่า เกือบครึ่งหนึ่งของชาวอเมริกันที่สนับสนุนพรรครีพับลิกันมองว่า การลดยอดขาดดุลงบประมาณมีความสำคัญมากเท่ากับการสร้างงาน ขณะที่ 83% ของชาวอเมริกันที่สนับสนุนพรรคเดโมแครทต้องการให้โอบามามุ่งเน้นในเรื่องการสร้างงานมากกว่าเรื่องอื่นๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รมว.คลังโพสต์เฟซบุ๊กตั้งกองทุนมั่งคั่งไม่แตะทองคำและเงินบริจาคหลวงตา

วันอาทิตย์ที่ 04 กันยายน 2011 เวลา 11:32 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความผ่านทาง เฟชบุ๊กภายใต้ชื่อ Thirachai Phuvanatnaranubala เมื่อเวลาประมาณ 22.45 น. ของวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา ถึงการบริหารจัดการด้านการเงินของ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. โดยเป็นการเขียนอธิบายการจัดตั้งกองทุนมั่งคั่ง โดยใช้ชื่อว่า ตอบคำถามบางเรื่องเกี่ยวกับกองทุนมั่งคั่งแห่งชาติ ซึ่ง

เนื้อหาหลักได้กล่าวว่า การที่ทาง ธปท. นำเงินทุนสำรองไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และยุโรป ดังที่ปฏิบัติอยู่ขณะนี้ มีความเสี่ยงทั้งในด้านราคาที่ขึ้นๆ ลงๆ และในด้านค่าเงินต่างประเทศ ที่อ่อนตัว เพราะมีการพิมพ์เงินออกมามากเกินไป และเปิดเผยว่า ปี 2553 ธปท. มีส่วนของทุนติดลบเป็นจำนวนเงินมหาศาล สูงถึง 431,829 ล้านบาท

 

นายธีระชัย ระบุว่า การจัดตั้งกองทันมั่งคั่งของรัฐบาล จะเป็นการช่วยเหลือธปท. ไม่ใช่การแทรงแซง แต่เป็นการช่วยกันคิด เพื่อแก้ปัญหาและช่วยเหลือด้านหนี้สินกองทุนฟื้นฟูที่มีกว่าหนึ่งล้านล้านบาท ซึ่งเป็นภาระของรัฐบาลในการจ่ายดอกเบี้ย เพื่อกองทุนฟื้นฟูแต่ละปี 50-60,000 ล้านบาท ซึ่งมีผลกระทบต่อนโยบายการคลัง นอกจากนี้ นายธีระชัย ยืนยันว่า จำนวนเงินจะนำไปเป็นกองทุนมั่งคั่งของชาติ ได้มอบให้ ธปท. ไปศึกษา โดยในหลักการ และจะไม่แตะต้องทองคำและเงินบริจาคของหลวงตามหาบัว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขาใหญ่พ่อค้าทอง...กะเทาะเปลือก ปรากฏการณ์ "ฟองสบู่ทองคำ"Share48

 

"ทองคำ" กลายเป็นประเด็นร้อนที่ใคร ๆ ก็พูดถึง เพราะราคาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำลายสถิติเดิมต่อเนื่อง ทุกตลาดที่เกี่ยวพันกับทองคำ ทั้งทองแท่ง ทองรูปพรรณ รวมถึงสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า (โกลด์ ฟิวเจอร์ส) กองทุนอีทีเอฟทองคำ ฯลฯ มีการซื้อขายอย่างคึกคัก

 

จนเริ่มมีคำถามว่า ภาวะตื่นทองหรือฟองสบู่ราคาทองคำนี้จะใกล้ถึงจุดแตกหรือยัง ?

 

วันนี้ "ประชาชาติธุรกิจ" มีคำตอบทุกเรื่องเกี่ยวกับทองคำจาก "บุญเลิศ สิริภัทรวณิช" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส จำกัด ขาใหญ่ของตลาดทองคำไทยที่มีตำนานมาจาก "บ้านช่างทอง" ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเรื่องทองคำกว่า 70 ปี และวันนี้ดำเนินธุรกิจทองครบวงจร

 

ตั้งแต่การเป็นผู้ค้าทองคำแท่ง จนถึงโบรกเกอร์โกลด์ ฟิวเจอร์ส และล่าสุดได้ลงทุนเปิดโรงงานผลิตทองแท่ง ทองเหรียญ ที่นิคมอุตสาหกรรมอัญธานี (Gemopolis)

 

- จุดเสี่ยงของราคาทองคำอยู่ตรงไหน

 

ความผันผวนของราคาทองในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับการเข้าไปลงทุน เพราะบางวันราคาทองโลกแกว่งตัวขึ้นลงสูงถึง 60-100 เหรียญสหรัฐ จากรอบที่แล้วราคาขึ้นสูงสุด 1,913 เหรียญต่อออนซ์ และตกลงมาที่ 1,702 เหรียญ ลงมา 11-12% ถือว่าเป็นการปรับลงแรงที่สุดในประวัติศาสตร์

 

แต่ถ้าพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานก็ถือว่า ทั้งการปรับขึ้นและลงมีเหตุผลสนับสนุนชัดเจน การปรับตัวขึ้นนั้นมีสาเหตุมาจากเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีปัญหาหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูงและอาจไม่สามารถฟื้นตัวได้เร็ว ขณะที่ประเทศในแถบยุโรปทั้งในโปรตุเกส อิตาลี สเปน ก็มีปัญหาเรื่องหนี้สาธารณะเช่นกัน จนสร้างความกังวลว่าจะขยายวงกว้างไปสู่ภาคเอกชน รวมถึงลุกลามไปถึงประเทศอื่น ๆ ด้วย

 

2 ประเด็นหลักนี้มีผลทำให้นักลงทุนแห่เข้ามาลงทุนในทองคำ รวมถึงสินค้าการลงทุนอื่นที่เกี่ยวข้องกับทองทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้นมา โดยในช่วง 8 เดือนราคาทองพุ่งขึ้นถึง 500 เหรียญต่อออนซ์ คือจากต้นปีนี้ที่ระดับราคาเพียง 1,420 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ขึ้นมาทำสถิติสูงสุดถึง 1,913 เหรียญสหรัฐ

 

- ยังมีเหตุผลที่ราคาทองจะขึ้นต่อ

 

แต่ก่อนอาจมองว่าการลงทุนทองคำเป็นคอมโมดิตี้ ซื้อมาขายไป แต่ตอนนี้สถานะเปลี่ยนไป ทองคำเป็นเหมือนเงินตรา เพราะคนขาดความเชื่อมั่นในสกุลเงินหลัก ๆ ของโลก อย่างไรก็ตาม ทองคำไม่เหมือนกับเงินตราสกุลต่าง ๆ ขณะที่ทุกสกุลเงินมีเจ้าของเพื่อดำเนินมาตรการดูแลค่าเงินได้ แต่ทองไม่มีเจ้าของดูแล ไม่สามารถมีมาตรการใดมาแทรกแซงได้ เมื่อนักลงทุนไม่มั่นใจกับดอลลาร์สหรัฐและยูโรก็มาถือทองคำ จึงทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไป

 

อย่างไรก็ตาม สัญญาณการปรับตัวลดลงของทองคำก็มีอยู่เช่นกัน โดยส่วนตัวก็เห็นว่า โอกาสที่ราคาทองปรับตัวขึ้นแรง ๆ อีกคงจะมีไม่มาก แต่เนื่องจากปัญหาของสหรัฐและยุโรปยังคงอยู่ ทำให้แม้ว่าช่วงที่ราคาทองปรับตัวลงแต่ก็ยังมีแรงซื้อเข้ามา ก็ทำให้ราคาไปต่อได้

 

ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าราคาทองจะวิ่งขึ้นไปแค่ไหน แต่ถ้าวิ่งไปทะลุสถิติเดิมได้ บอกได้เลยว่าเบนช์มาร์กต่อไปคือที่ 2,000 เหรียญสหรัฐ โดยที่ต้องมีข่าวร้ายของอเมริกาเข้ามาเป็นแรงหนุน

 

แต่ในระยะสั้นก็มีโอกาสเห็นราคาทองผันผวนเร็วและแรง ที่น่ากังวลคือ ช่วงที่ผ่านมามีการเชียร์ว่าราคาทองจะไปถึง 2,000 เหรียญสหรัฐ หรือในไทยจะไปถึงบาทละ 3 หมื่นบาท ทำให้คนกลัวเสียโอกาสจึงแห่เข้ามาซื้อทองในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้ราคาทองขึ้นไปเรื่อย ๆ จนเรียกได้ว่า บับเบิล จึงไม่แปลกที่เห็นราคาทองพุ่งขึ้นเป็นกราฟแบบทางชัน และตกลงแบบหน้าผาในรอบที่แล้ว

 

- เรียกว่าเป็นฟองสบู่ทองคำรึยัง

 

แคแร็กเตอร์ที่เรียกว่าฟองสบู่คือ ราคากระโดดขึ้นอย่างผิดปกติ และเป็นที่กล่าวถึงของคนในสังคมทุกหนทุกแห่ง เช่น ร้านขายของชำ ซูเปอร์มาร์เก็ต ชาวบ้านพูดถึงกันไปทั่ว นี่คือบับเบิล ซึ่งสถานการณ์ของทองคำนั้นครบถ้วนตามคุณสมบัติของการบับเบิล แต่บับเบิลไม่จำเป็นต้องแตก

 

ฟองสบู่มี 2 ลักษณะคือ ฟองสบู่ที่พองแล้วแตก กับฟองสบู่ที่พองแล้วแฟบ ซึ่งในส่วนของทองคำแม้ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ฟองสบู่ของราคาทองคำเป็นฟองที่พื้นผิวค่อนข้างหนาและแข็งแรง โอกาสพองตัวยังมี และโอกาสที่จะแตกก็ไม่ง่ายนัก

 

และจากการที่ล่าสุด เฟด (ธนาคารกลางสหรัฐ) ส่งสัญญาณว่าจะคงดอกเบี้ยต่ำไปอีก 2 ปีถึงปี 2013 ซึ่งการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำขนาดนี้ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ เพราะผลตอบแทนของสินทรัพย์ตัวอื่นก็จะลดลง

 

แต่ถ้าดอกเบี้ยขาขึ้นเกิดเงินเฟ้อก็จะเป็นผลลบต่อทองคำ

 

และถ้าดอลลาร์เกิดแคลชและยูโรมีปัญหา ทองคำก็ไม่ต้องพูดถึง 2,000 เหรียญ แต่ 3,000 เหรียญก็เป็นไปได้

 

- มีโอกาสที่ราคาทองจะตกลงแรงอีกมั้ย

 

ตอบได้เลยว่า มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ว่าเป็นไปได้น้อยลงเรื่อย ๆ เพราะหลังจากราคาร่วงลงมาอยู่ที่ 1,702 เหรียญสหรัฐ และรีบาวนด์แรงขึ้นมายืนเหนือ 1,800 เหรียญสหรัฐ ก็แสดงว่าการที่ราคาปรับตัวลดลงมีการเทขายทำกำไรออกไป ขณะเดียวกันก็มีคนอีกกลุ่มพร้อมที่จะเข้าไปลงทุน แต่ก็มีคนอกหักที่ซื้อเมื่อตอนราคาสูงสุด

 

- แนวโน้มตลาดทองในครึ่งปีหลังจะเป็นอย่างไร

 

ช่วงกันยายน-ธันวาคม ถือว่าเป็นไฮซีชั่นของการซื้อทอง เพราะเป็นช่วงเทศกาลแต่งงานของคนอินเดียที่นิยมจะซื้อทองกันมาก ต่อเนื่องด้วยเทศกาลคริสต์มาสไปจนถึงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งก็จะทำให้ความต้องการซื้อทองเกิดขึ้นมาก

 

และคาดว่าตอนนี้ทุกราคาที่ลงมาด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ยังมีความต้องการซื้อเข้ามา เพราะคนคิดว่ายังมีโอกาสที่จะขึ้นไปได้อีก ทำให้ไม่สามารถเบรกเรื่องดีมานด์ได้

 

ตอนนี้เบนช์มาร์กเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะถ้าราคาทองสามารถขึ้นไปถึงจุด 2,000 เหรียญสหรัฐได้ โอกาสที่ทองคำจะโอเวอร์ชูตติ้งไปที่ 2,200-2,500 เหรียญ ก็เป็นไปได้อีก เบนช์มาร์กของราคา 1,900 เหรียญ กับ 2,000 เหรียญ คนละเรื่องกันเลย มันเป็นจิตวิทยาของคน

 

- ภาพการลงทุนทองของคนไทยเปลี่ยนไป

 

โดยพฤติกรรมการลงทุนของคนไทยยังต้องการจับต้องสินค้า จึงเน้นลงทุนที่ทองแท่งและทองรูปพรรณมากกว่า ในส่วนของกองทุนทอง หรือโกลด์ ฟิวเจอร์ส แม้ว่าจะมีการเติบโตสูง แต่ในแง่มูลค่าก็ยังไม่มากเท่าทองแท่ง อย่างในส่วนของออสสิริสพอร์ต กว่า 70-80% ก็มาจากทองแท่ง

 

และจากที่ปัจจุบันคนไทยซื้อทองเพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการซื้อทองแท่ง ทำให้ตลาดของทองรูปพรรณมีสัดส่วนลดลง แต่จากช่วงที่ราคาทองคำพุ่งสูงจนทำให้เกิดภาวะตื่นทอง ประชาชนต่างหันมาสนใจซื้อทอง แต่ทองแท่งต้องซื้อในมูลค่าสูง จึงทำให้เห็นภาพของการซื้อทองรูปพรรณเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาด้วย

 

สำหรับการลงทุนในโกลด์ ฟิวเจอร์สจากต้นปีที่ผ่านมา การซื้อขายก็มีการเติบโตกว่าเท่าตัว แต่เนื่องจากโกลด์ ฟิวเจอร์สก็เป็นรูปแบบการลงทุนทองที่มีความเสี่ยงมากที่สุด ซึ่งในช่วงที่ราคาทองตกลงแรงจนโดนฟอร์ซเซล (บังคับขาย) ก็จะลำบาก นักลงทุนหลายคนก็โดนบังคับขาย เจ็บตัวกันไปเยอะ

 

- มีมาตรการป้องกันความเสี่ยงยังไง

 

หลังจากที่ต่างประเทศมีการปรับเพิ่มมาร์จิ้น (ส่วนเพิ่มวงเงินหลักประกัน) และตลาดอนุพันธ์ของไทยก็ได้ประกาศปรับเพิ่มมาร์จิ้นขึ้นเช่นกัน ก็เป็นการส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนว่า ตลาดมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา และช่วยชะลอความร้อนแรงของตลาดได้

 

นอกจากนี้ การลงทุนในโกลด์ ฟิวเจอร์สนักลงทุนก็ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

 

เพราะแม้ว่าทองจะเป็นขาขึ้น แต่ฟองสบู่ก็คือฟองสบู่ ถึงพองแล้วแฟบยังไงก็มีโอกาสขาดทุน นักลงทุนจึงควรระวัง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

2 องค์กรสมาคมค้าทองคำร่วม สคบ. ตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องเรียนคุ้มครองนักลงทุนรายย่อย รองรับตลาดทองผันผวนตามกระแสเก็งกำไร

 

ร้อนแรงของราคาทองคำในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา หลังทำ All-time High หรือพุ่งสูงสุดขึ้นไปแตะที่ระดับ 1,910 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จนทำให้ร้านค้าทองต้องปรับราคาซื้อขายทองในวันเดียวเกือบ 20 ครั้ง ก่อนที่จะดิ่งตัวลงมาอย่างน่าใจหาย โดยลงมาแตะระดับลึกสุดที่ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ความผันผวนดังกล่าว ทำให้นักลงทุนหน้าใหม่ ที่แห่ซื้อขายทองคำหน้าร้านทองเยาวราช เพื่อเกาะกระแสเก็งกำไร

 

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า การที่ราคาทองมีความผันผวนแรง จนอาจทำให้ผู้ลงทุนได้รับความเดือดร้อน หรือเกิดปัญหาใดๆ ผู้ลงทุนสามารถร้องเรียนมายังสมาคมค้าทองคำได้ เพราะที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและให้คำปรึกษา

 

"หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นได้ ก็จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการสมาคมพิจารณาและแก้ไขปัญหาให้ แต่ถ้ายังไม่ได้ข้อสรุป ถึงขนาดมีความขัดแย้งกัน สมาคมก็จะส่งเรื่องไปให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ.จะเป็นผู้พิจารณาตัดสิน ซึ่งเคยเกิดกรณีปัญหาที่ต้องส่งไปถึง สคบ. แต่ส่วนมากจะหาข้อยุติได้ก่อน"

 

เผยนักลงทุนทองขาดความเข้าใจ

นายจิตติ บอกอีกว่า ที่ผ่านมา ปัญหาที่เข้ามาร้องเรียนส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของความไม่เข้าใจของผู้ลงทุน เมื่อมีการชี้แจงทำความเข้าใจกันก็จบลงได้ง่าย

"กรณีที่แรงสุด ตัวเองในฐานะนายกสมาคมก็เข้าไปเจรจายุติปัญหาให้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นยังไม่ถึงขนาดฟ้องร้องกัน ซึ่งตรวจสอบแล้ว ร้านค้าทองมีความผิด สคบ.มีกฎหมายที่จะลงโทษ โดยปรับประมาณ 5 หมื่นบาทต่อ 1 รายการ" นายจิตติกล่าว

 

 

นายจิตติ บอกด้วยว่า หัวใจสำคัญของการลงทุนในทองคำนั้น นักลงทุนจะต้องศึกษาข้อมูล และทำความเข้าใจให้ดี รู้จักกฎหมายที่เกี่ยวข้องบ้าง หากลงทุนแล้วเกิดปัญหาจะต้องทำอย่างไร เพราะมีขั้นตอนและกฎหมายดูแลอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้

 

นอกจากนี้ ปัจจุบันสมาคมค้าทองคำ จะมีคณะอนุกรรมการที่พิจารณาราคาทองคำมาตรฐานอ้างอิง 5 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากห้างทองต่างๆ ทั้งร้านขายปลีก และขายส่ง ซึ่งจะมีการพิจารณาร่วมกันทุกครั้ง ที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาทองอ้างอิง หากราคาทองผันผวนต้องมีการปรับราคา รายนาที รายชั่วโมง

 

นายจิตติ ยังบอกด้วยว่า ส่วนแนวโน้มราคาทองคำช่วงนี้ คาดราคาทองจะยังผันผวนต่อเนื่อง และมีโอกาสที่จะขยับขึ้นไปทำสถิติสูงสุดอีกครั้งที่ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แค่ต้องรอปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน จากนั้นจะเข้าสู่ขาลงอย่างแท้จริง ราคาทองคำปัจจุบันขึ้นอยู่กับนักวิชาการที่เป็นเครือข่ายของนักเก็งกำไร จะคอยส่งสัญญาณว่าราคาทองคำในตลาดโลกขึ้นหรือลง ดังนั้น นักลงทุนต้องติดตามข้อมูลใกล้ชิด

 

กลไกตลาดป้องกันความเสี่ยง

นายธนสิน กลีบลำเจียก กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า ขณะนี้ การปกป้องความเสี่ยงนักลงทุน มีหน่วยงาน สคบ.เป็นผู้ดูแลอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องมาตรฐานสินค้าทองคำ แต่ถ้าเป็นการปกป้องความเสี่ยงนั้น เป็นเรื่องของกลไกตลาด นักลงทุนต้องยอมรับความเสี่ยง ถ้าตัดสินใจเข้ามาลงทุน เพราะการขึ้นลงของราคาทองเป็นไปตามกลไกของตลาด และไม่ได้ซับซ้อนเหมือนการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ (TFEX) จึงมองว่าไม่จำเป็นต้องมีหน่วยงานขึ้นมาดูแล

 

 

"การซื้อขายทองแท่ง เป็นเรื่องของกลไกของตลาด ส่วนมาตรฐานสินค้าทองคำ ก็มี สคบ.เป็นผู้ดูแลอยู่แล้ว เพราะทองคำก็เป็นสินค้าชนิดหนึ่ง หากมีมาตรฐานไม่ถูกต้องก็ร้องเรียนได้ ส่วนเรื่องการดูแลความเสี่ยง ก็ต้องปล่อยให้เป็นตามกลไกของตลาด ผู้ลงทุนต้องการเข้ามาลงทุน ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงได้" นายธนสินกล่าว

 

นายธนสิน ยังคาดการณ์ด้วยว่า แนวโน้มราคาทองคำช่วงนี้คาดจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,775-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนระยะยาวยังเป็นขาขึ้น แต่คงต้องติดตามดูปัจจัยที่จะเข้ามาสนับสนุนให้ราคาขึ้นไปได้หรือไม่

แนะศึกษา "ข้อมูล-ข่าว" รอบด้าน

 

ส่วน นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ จำกัด ยังแนะนำนักลงทุนรายย่อยที่เข้ามาเก็งกำไรทองทำแท่งช่วงนี้ด้วยว่า ราคาทองคำค่อนข้างผันผวน นักลงทุนรายย่อยต้องศึกษาข้อมูลการลงทุน และข่าวสารให้รอบด้าน ไม่ใช่เห็นแค่ผลตอบแทนสูงก็เข้าเก็งกำไร เพราะภายใต้ผลตอบแทนที่สูง ก็ย่อมมีความเสี่ยง หากนักลงทุนไม่เข้าใจการลงทุน ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา การลงทุนในทองคำให้ผลตอบแทนกว่า 30% จากปกติเฉลี่ยผลตอบแทนประมาณ 15% เท่านั้น

 

นอกจากนี้ นักลงทุนต้องมีการจัดพอร์ตลงทุนให้ชัดเจนว่า จะใช้ลงทุนทองคำเท่าไร และเก็บเป็นเงินสดเท่าไร เพราะหากเกิดเข้าไปลงทุนผิดจังหวะ อาจจะต้องมีเงินสำรองบางส่วนไว้เพื่อใช้จ่ายด้วย

"ราคาทองผันผวนมาก รายย่อยต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเข้ามาลงทุน ซึ่งผมว่าช่วงนี้คนหันมาเล่นทองเยอะ เพราะราคาปรับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาก็ปรับลดลง" นายธนรัชต์กล่าว

 

นายธนรัชต์ บอกว่า ข่าวการปิดร้านทองของผู้ค้ารายใหญ่ 10 รายในช่วงที่ผ่านมาข่าวบิดเบือน ที่ผ่านมา ราคาทองคำผันผวนมาก วอลุ่มการซื้อขายก็สูง ทำให้ผู้ค้ารายใหญ่ต้องออกใบจองให้กับลูกค้า ซึ่งไม่ได้หมายความว่าทองคำไม่มี แต่อาจจะเป็นการหลอมไม่ทัน ผู้ค้ารายใหญ่จึงออกใบจอง หากไม่มีทองคำในสต็อกร้านค้าทองคำก็ไม่กล้าที่ออกใบจองให้ลูกค้าอยู่แล้ว

 

ส่วนการปิดทำการในช่วงเสาร์-อาทิตย์ นายธนรัชต์ บอกว่า เป็นการปิดชั่วคราวในช่วงที่ทองผันผวน เพราะตลาดทองคำในต่างประเทศก็หยุด หากเราเปิดซื้อขายในวันเสาร์และอาทิตย์ ซึ่งมีลูกค้าเข้ามาซื้อขายวันละ 5,000 ราย เหมือนกับช่วงที่ผ่านมา จะทำให้การกำหนดราคาซื้อขายทองคำในวันจันทร์ วอลุ่มการซื้อขายในต่างประเทศมีน้อยกว่า จะทำให้ราคาทองคำและค่าเงินบาทเหวี่ยงมาก

 

ส่วนแนวโน้มราคาทองคำช่วงที่เหลือของปีนี้ ก็มีโอกาสแตะ 30,000 บาทต่อบาททองคำ แต่รอบนี้อาจจะมีการปรับฐานก่อน โดยมองว่าการปรับฐานรอบนี้จะอยู่ที่ 1,750-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 24,900-25,500 บาทต่อบาททองคำ

 

 

 

 

 

Tags : ทองคำ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฮัลโหลซื้อขายทองเที่ยงคืนฮิต

04 กันยายน 2554 เวลา 11:11 น.

ทองคำฮอต ร้านทองเปิดซื้อขายทางโทรศัพท์ถึงเที่ยงคืน กำหนดราคาเองอ้างอิงเมืองนอก ฮั่วเซ่งเฮงให้เครดิต 3 วัน

 

นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส เปิดเผยว่า ร้านค้าทองหลายแห่ง เปิดการซื้อขายทองคำแท่งทางโทรศัพท์ถึงเที่ยงคืน โดยร้านฮั่วเซ่งเฮงจะกำหนดราคาซื้อขายเอง อ้างอิงตลาดต่างประเทศสำหรับทองคำ 96.5% และสมาชิกยังมีเวลาในการชำระค่าซื้อ-ขายถึง 3 วันหลังจากสั่งซื้อขาย แต่จะต้องวางหลักประกันในการซื้อขายทองคำ บาทละ 2,000 บาท โดยเพิ่งปรับขึ้นมาจาก 1,000 บาท ในช่วงราคาทองผันผวน

 

“ลูกค้านิยมซื้อขายตอนกลางคืนมาก แม้ว่าเรามีมากถึง 40 คู่สาย แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะทางฮั่วเซ่งเฮงให้เวลาชำระเงินนานถึง 3 วัน ของคนอื่น 2 วัน เรายังปรับเปลี่ยนราคาขึ้นลงบ่อยกว่าตอนกลางวันที่สมาคมค้าทองคำประกาศ และราคาซื้อและขายมีส่วนต่างเพียง 50 บาทเท่านั้น เพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุน” นายธนรัชต์ กล่าว

 

ขณะเดียวกัน นายธนรัชต์ต้องการให้สมาคมแก้ปัญหาเรื่องการตัดราคาของสมาชิก เพราะแข่งขันกันรุนแรงมาก สมาคมประกาศราคาซื้อและขายต่างกัน 100 บาท แต่บางร้านกลับลดลงมาเหลือ 70-80 บาท แต่การตัดราคาก็ยังไม่หยุด ตอนนี้ร้านทองฮั่วเซ่งเฮงลดส่วนต่างเหลือเพียง 50 บาท มิเช่นนั้น ลูกค้าก็จะหายไปใช้บริการร้านค้าทองที่อื่นแทน

 

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำ นายธนรัชต์คาดการณ์แนวโน้มจะมีโอกาสขึ้นไปถึงระดับสูงสุดเดิม 1,910 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์อีกครั้ง ได้จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค แต่ก็ต้องติดตามประเด็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐในเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งจะมีผลต่อความเคลื่อนไหวของราคาทองคำ

“นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนทองคำจะต้องเพิ่มความระมัดระวัง โดยเฉพาะคนที่ซื้อขายสัญญาอ้างอิงทองคำหรือโกลด์ฟิวเจอร์ส เพราะมีความเสี่ยงสูงมาก” นายธนรัชต์ กล่าว

 

ลูกค้าของร้านทองฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่า ชอบวิธีซื้อขายทองคำแท่งผ่านโทรศัพท์ แต่จะต้องถามข้อมูลเจ้าหน้าที่ที่รับโทรศัพท์ให้ดีว่า ชื่ออะไรและราคาที่ตกลงกันเท่าใด เพื่อป้องกันความผิดพลาด นอกจากนี้การได้เครดิต 3 วัน หากราคาขึ้นมาก็ขายออกทำกำไรได้ก่อน

 

ด้านการซื้อขายทองคำในวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ตลาดโคเมกซ์ งวดส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 47.80 เหรียญสหรัฐ หรือ 2.16% ปิดที่ 1,876.90 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ หลังนักลงทุนผิดหวังกับตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นประมาณ 7 หมื่นกว่าตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าช่วงเดียวกันของเดือนที่แล้ว ซึ่งมีประมาณ 1.17 แสนตำแหน่ง

 

ขณะที่ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ดิ่งลงแรง 253.31 จุด หรือ 2.20% ปิดที่ 11,240.26 จุด และตลาดน้ำมันดิบของสหรัฐ ราคาน้ำมันดิบ ตลาดไนเมกซ์ ไลต์สวีตครูต งวดส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 2.48 เหรียญสหรัฐ ปิดที่ 86.45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักเศรษฐศาสตร์คาด ECB จะยุติการขึ้น ดบ.สัปดาห์หน้า

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 กันยายน 2554 14:34 น. Share

 

นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะส่งสัญญาณยุติวงจรการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันพฤหัสบดีหน้า เนื่องจากวิกฤตหนี้กระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของ 17 ชาติสมาชิกยูโรโซน

นักเศรษฐศาสตร์บางคนคาดว่า ECB จะเปลี่ยนไปใช้นโยบายลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากขึ้นดอกเบี้ยเมื่อเดือนเมษายน และกรกฎาคม เนื่องจากสมาชิกสำคัญอย่างเยอรมนี และฝรั่งเศส การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมาก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

...นายรถดี...ต้องขอขอบคุณในน้ำใจ...คุณจากร้อยสู่ล้าน...ที่นำข่าวสารและข้อมูลดีๆสำหรับเป็นแนวทางในการลงทุนทองคำในช่วงต้นของสัปดาห์...ยิ่งเป็นผู้ให้ยิ่งได้รับสิ่งดีๆให้กับตัวเองและครอบครัวนะครับครับ..

เหมือนกับ...คุณจากร้อยสู่ล้านพูดถึง......คุณเด็กขายของ...ว่าเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ของ...บ้านThai Gold...ของพวกเราครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ลิเบียเชิญชวนให้บรรดานักลงทุนต่างชาติกลับเข้าไปลงทุนในประเทศ

 

นายอับดุลลาห์ ชามมิยา รัฐมนตรีเศรษฐกิจในรัฐบาลเฉพาะกาลของลิเบีย กล่าวในกรุงตริโปลีเมื่อวานนี้ โดยเชิญชวนให้บรรดานักลงทุนต่างชาติกลับเข้าไปลงทุนในลิเบีย เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจทางภาคตะวันออกของประเทศ เริ่มจะกลับสู่เสถียรภาพแล้วหลังเกิดเหตุจลาจลต่อต้านพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่ภาคตะวันตกรวมทั้งกรุงตริโปลี ก็เริ่มกลับสู่ภาวะปกติเช่นกัน

 

 

ผลของการสำรวจความคิดเห็นของชาวญี่ปุ่นปรากฏว่า นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของญี่ปุ่นได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากประชาชน

 

ผลของการสำรวจความคิดเห็นของหนังสือพิมพ์ธุรกิจนิเกอิรายวันจากชาวญี่ปุ่นกว่า 1,400 คนปรากฏในวันนี้ว่า นายโยชิฮิโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นชุดใหม่ของญี่ปุ่นได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากประชาชนโดยผู้แสดงความเห็นมั่นใจว่า นายโนดะจะสามารถเป็นผู้นำในการฟื้นฟูประเทศหลังจากเกิดแผ่นดินไหวได้ โดยผู้แสดงความเห็นร้อยละ 67 เห็นชอบกับคณะรัฐมนตรีของนายโนดะ และกล่าวว่านายโนดะแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือและมีมือที่สะอาดตลอดจนทำให้เกิดความรู้สึกที่มั่นคง

 

 

ประชาชนในกรุงตริโปลีเมืองหลวงของลิเบียเริ่มกลับไปทำงานตามปกติแล้ว

 

ประชาชนในกรุงตริโปลีเมืองหลวงของลิเบียเริ่มกลับไปทำงานตามปกติแล้ว เมื่อวานนี้ ขณะที่ตำรวจก็กลับไปปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยตามท้องถนนอีกครั้ง หลังเกิดการสู้รบหลายสัปดาห์ ส่วนร้านรวงต่างๆ ธนาคารและสำนักงานรัฐบาลทั้งหมดก็เปิดทำการแล้วเช่นกัน ด้านนายเอียน มาร์ติน ทูตพิเศษของนายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้เดินทางถึงลิเบียแล้วเมื่อวานนี้ และเตรียมหารือกับสภาถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติของฝ่ายต่อต้าน เพื่อหาลู่ทางที่สหประชาชาติจะให้ความช่วยเหลือลิเบียในอนาคต.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวจากเมืองเฮสเพอร์เรีย ในเขตซาน เบอร์นาดิโน เคาน์ตี้รัฐแคลิฟอร์เนียเปิดเผยว่าเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น.วันที่ 2 สิงหาคมได้เกิดไฟไหม้ป่าลุกลามอย่างรวดเร็วอันเป็นเขตต่อแดนระหว่างแคลิฟอร์เนียภาคใต้ที่จะมุ่งสู่ลาส เวกัส เป็นเหตุให้มีการสั่งอพยพคนในบ้าน 1,500 หลัง รวมทั้งสั่งปิดฟรีเวย์สาย 15 บริเวณโตรกเขาคาโฮน(CajonPass) เป็นการชั่วคราว

 

ภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมงไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็วและไหม้ข้ามฟากลามไปยังเขตป่าสงวนแห่งชาติซาน เบอร์นาดิโนอันเป็นเขตของซาน เบอร์นาดิโน เคาน์ตี้รวมประมาณกินความกว้าง 500 เอเคอร์

 

cajon-pass-fire-2.jpg ภาพถ่ายทางอากาศบริเวณไฟไหม้ที่คาโฮน แพส

 

ต่อมาได้มีการสั่งให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตโอ๊ค ฮิลส์อพยพออกโดยด่วนเพราะไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ถูกส่งเข้าไปสะกัดอย่างเร่งด่วน

 

นายทอม วู้ดส์ ผู้อาศัยอยู่เขตเมืองวิคทอวิลล์เปิดเผยว่าบ้านในเขตนั้นราคาระดับล้านดอลลาร์ขึ้นไป เพราะเป็นบ้านที่มีคอกม้าและสร้างอย่างหรูหรา “ควันมองเห็นได้ไกลถึง 10 ไมล์จากบ้านที่ผมอยู่”นายวู้ดส์กล่าวกับผู้สื่อข่าว

 

การเกิดไฟป่าลุกลามในวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคมนี้เป็นเหตุให้การจราจรติดขัดอย่างหนักเพราะเป็นวันศุกร์ที่คนในแคลิฟอร์เนียภาคใต้มุ่งสู่ลาส เวกัสเพื่อพักผ่อนและเล่นการพนัน ซึ่งสหรัฐหยุดติดต่อกัน 3 วันตั้งแต่เสาร์ถึงจันทร์ที่ 5 กันยายนอันเป็นวันแรงงาน

 

อย่างไรก็ตามฟรีเวย์สาย 15 อันเป็นสายหลักจากแคลิฟอร์เนียภาคใต้มุ่งสู่ลาส เวกัสนั้นทางทิสเหนือที่แล่นไปลาส เวกัส เจ้าหน้าที่ได้เปิดทางให้โดยมีตำรวจทางหลวงแคลิฟอร์เนียคอยนำทาง

 

ขณะรายงานข่าวได้มีการสั่งเครื่องบินหลายลำรวมทั้งเครื่องจัมโบ้ DC-10 เพื่อนำน้ำมาทิ้งช่วยดับไฟอีกทางหนึ่ง

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ทรงเผย”ในหลวง”คล่องแคล่วขึ้นทรงสอน”เป็นเจ้า”ต้องรับใช้ประชาชน

September 2, 2011 | Juraporn552-595x394.jpg?1315137385421Julaporn5521.jpgarrow-prev.png arrow-next.png

เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 2 กันยายน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จไปทรงบันทึกแถบวีดิทัศน์พระราชทานในรายการพิเศษเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เนื่องในวันมหิดล ประจำปี 2554 ณ ห้องทรงงาน อาคารศรีสวรินทิรา ชั้น 3 โรงพยาบาลศิริราช โดยมี ศ.คลินิกนายแพทย์ธีรวัฒน์ กุลทนันท์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เฝ้ารับเสด็จ และนายวุฒิธร มิลินทจินดา เป็นผู้ดำเนินรายการ

 

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีทรงมีรับสั่งถึงพระพลานามัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่าในวันที่ 19 กันยายนนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะประทับอยู่โรงพยาบาลศิริราชครบ 2 ปี พระองค์เข้ามาประทับที่โรงพยาบาลศิริราชด้วยอาการพระปัปผาสะอักเสบ และทรงมีไข้สูง ซึ่งคณะแพทย์ได้ถวายการรักษาจนหาย แต่ยังทรงมีปัญหาในเรื่องการเคลื่อนไหวพระวรกายไม่สะดวก พระสุรเสียงแหบและเบามาก

 

ต่อมาคณะแพทย์จึงตรวจพบว่ามีน้ำในสมองมากเกินไป ทำให้ไปกดระบบประสาทส่วนที่สั่งงานเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว แพทย์จึงได้ถวายการผ่าตัดโดยการเจาะไขสันหลังใส่ท่อนำน้ำที่เกินปริมาณมาทิ้งในช่องพระอุทร และน้ำก็จะถูกขับออกจากพระวรกายโดยวิธีปกติ

 

ตั้งแต่ทำมาเท่าที่สังเกตพบว่าพระสุรเสียงดังขึ้น วิธีเสวยทรงหยิบจับภาชนะ ทรงหยิบจับเครื่องมือต่างๆ คล่องแคล่วขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องการทรงพระดำเนิน ต้องทรงทำกายภาพบำบัด เพราะไม่ได้ทรงพระดำเนินมานาน ทั้งทรงราวคู่ ทรงจักรยาน ในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นคนไข้เอง ก็เข้าพระทัยว่า บางวันไม่มีอารมณ์จะทำ ไม่อยากทำเหนื่อย เห็นหน้าหมอก็เซ็งแล้ว แต่อันนี้ก็เป็นหน้าที่ของทั้งหมอและญาติที่ต้องช่วยกันให้กำลังใจคนไข้

 

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ยังพระราชทานสัมภาษณ์ถึงพระพลานามัยของพระองค์เองว่า ตอนนี้เดินได้แล้ว กระดูกส่วนที่หักเป็นคอกระดูก เป็นกระดูกใหญ่ซึ่งเป็นชิ้นที่ติดได้ยาก หลังจากกระดูกหักได้ทำการผ่าตัดใส่หมุด 3 ตัวเพื่อยึดกระดูกที่หักไว้ จนกระทั่ง 8 เดือนหลังประสบอุบัติเหตุก็เดินได้พอสมควร แต่เดินไกลมากหรือเร็วมากไม่ได้ ท่าลุกนั่งยังไม่ค่อยสวย เหมือนคนอายุสัก 90 ปี

 

จากนั้น มีรับสั่งถึงวงการแพทย์ไทยว่า แพทย์ไทยขึ้นชื่อว่าเก่งและมีจรรยาบรรณเป็นเลิศ เพราะตามประเทศยุโรปหรืออเมริกาเขาไม่ใส่ใจคนไข้เท่าเรา แพทย์ไทยใส่ใจมากกว่าจนชาวต่างชาติบินมารักษามากมาย สิ่งที่อยากเห็นเพิ่มขึ้นในวงการแพทย์ไทยคือการวิจัยและเรื่องทุนก็มีความสำคัญ ฝ่ายรัฐบาลควรเล็งเห็นถึงความสำคัญของวงการแพทย์และวงการวิทยาศาสตร์ด้วยซึ่งต้องมีการวิจัยเป็นหลัก

 

Julaporn5521-300x199.jpg สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีทรงงานมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีหรือโครงการ พอ.สว.

 

 

นอกจากนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ฯ ยังพระราชทานสัมภาษณ์ต่ออีกว่า เหตุผลที่พระองค์ยังคงต้องทรงงานทั้งๆที่ประชวรอยู่นั้น เพราะได้รับคำสอนจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ว่าควรทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ และประชาชน และทั้ง 2 พระองค์ทรงรับสั่งเสมอว่า เป็นเจ้าต้องรับใช้ประชาชน

 

“ชีวิตคนทุกคนแสนสั้น คนเราไม่รู้วันตายวันที่จะป่วยจนทำงานไม่ได้ จากคำสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ที่รับสั่งว่าควรทำประโยชน์ให้ประเทศชาติและประชาชน อย่าให้เสียชาติเกิด ตัวเองก็ถามหมอว่าถ้าไม่ลงจากวิลแชร์จะไปทำงานได้ไหมซึ่งหมอก็บอกว่าไม่ว่าตราบใดที่ไม่ลงน้ำหนักที่ขา เราก็หาวิธีใช้รถยกขึ้นเครื่องบินเยี่ยมประชาชน และก็เยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว.ซึ่งคำสอนที่ทำให้เราต้องทรงงานทั้งๆที่ยังป่วยก็เพราะว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ที่ให้ทำตัวให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน เพราะทั้งสองพระองค์ทรงรับสั่งอยู่เสมอว่าเป็นเจ้าต้องรับใช้ประชาชน”.

 

ทั้งนี้ รายการพิเศษดังกล่าวมีกำหนดออกอากาศ ในวันที่ 17 กันยายน 2554 เวลา 22.30-24.20 น. ทาง ททบ.5 และร่วมบริจาคในรายการได้ที่ 0-2270-2233 (100 คู่สาย) รายได้ทั้งหมดจะนำสมทบทุนช่วยผู้ป่วยยากไร้และด้อยโอกาส โรงพยาบาลศิริราช

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รมว.แรงงานสหรัฐวิตกอนาคตเศรษฐกิจหลังตัวเลขจ้างงานไม่ขยายตัวในเดือนส.ค.

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 3 กันยายน 2554 10:33:57 น.

รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของสหรัฐ และนักเศรษฐศาสตร์ของทำเนียบขาวได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขจ้างงานของสหรัฐไม่มีการขยายตัวในเดือนส.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐจะประกาศใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจในไม่ช้านี้

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรหยุดชะงักในเดือนส.ค. โดยไม่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก.ค. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 75,000 - 80,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานเดือนส.ค.ยังคงยืนอยู่ที่ระดับ 9.1%

 

นางฮิลดา โซลิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานของสหรัฐ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CNBC ของสหรัฐว่า รายงานตัวเลขจ้างงานในเดือนส.ค.ทำให้เธอวิตกกังวลอย่างมากต่ออนาคตของเศรษฐกิจภายในประเทศ และยอมรับว่าสหรัฐกำลังเผชิญกับวิกฤติที่รุนแรงมากในขณะนี้

 

ขณะที่นางแคทเธอรีน อับราฮัม นักเศรษฐศาสตร์ของทำเนียบขาวกล่าวว่า อัตราว่างงานของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับ "สูงเกินกว่าจะยอมรับได้" ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลงอีก

นางอับราฮัมกล่าวผ่านบทความซึ่งเผยแพร่ในบล็อกของทำเนียบขาวว่า แม้ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 18 เดือน คิดเป็นตัวเลขจ้างงานทั้งสิ้น 2.4 ล้านคนในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ในภาครัฐได้ลดการจ้างงานลงทั้งสิ้น 398,000 ตำแหน่งนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2553 ซึ่งนางอับราฮัมย้ำว่า เศรษฐกิจสหรัฐจำเป็นต้องขยายตัวรวดเร็วกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จึงจะสามารถหนุนตัวเลขจ้างงานให้เพิ่มขึ้นได้ และคาดว่าในสัปดาห์หน้านี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เสนอให้มีการใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการสร้างงานและหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น

 

เซบาสเตียน มอลลาบี เจ้าหน้าที่จากสภาวิเทศสัมพันธ์ของสหรัฐกล่าวว่า การร่วงลงของราคาบ้านจะส่งผลกระทบต่อดุลบัญชีของธนาคารพาณิชย์ อีกทั้งจะทำให้ภาคครัวเรือนมีความรู้สึกยากจนลง และยังสร้างความเสียหายต่อการอุปโภคบริโภคของภาคครัวเรือนด้วย นอกจากนี้ ครัวเรือนจำนวนมากยังคงต้องจ่ายคืนหนี้นับตั้งแต่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น

 

ขณะที่ไฮดี เชอร์โฮล์ซ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบันนโยบายเศรษฐกิจในนครวอชิงตันกล่าวว่า สหรัฐสูญเสียตำแหน่งงานไปมากกว่า 8 ล้านตำแหน่งในช่วงที่เกิดวิกฤติการเงิน อันเป็นผลมาจากภาวะฟองสบู่ในตลาดที่อยู่อาศัยและอุตสาหกรรมการก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

 

"ตัวเลขจ้างงานที่ไม่มีการขยายตัวในเดือนส.ค.ถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข และในช่วงก่อนเดือนส.ค.นั้น ตัวเลขจ้างงานในสหรัฐก็เพิ่มขึ้นน้อยเกินกว่าที่จะฉุดอัตราว่างงานให้ปรับตัวลดลงได้ ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้ตลาดแรงงานซบเซาลงนั้นมาจากภาวะอุปสงค์ชะลอตัว ซึ่งรัฐบาลจะต้องเร่งใช้มาตรการกระตุ้นอุปสงค์และการสร้างงานภายในประเทศ เช่นการนำมาตรการลดหย่อนภาษีกลับมาใช้ใหม่ และเพิ่มการลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน" เชอร์โฮล์ซกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...