ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ชีวิตคนไทยเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของปีมังกรทองกันแล้ว ผมเชื่อว่าหลายคนยังมึนๆ งงๆ กับควันหลงปีใหม่ และแทบไม่อยากจะเชื่อว่า ทำไมเวลาจึงวิ่งหนีไปเร็วเหลือเกิน ทำให้หลายคนตั้งตัวไม่ติด คิดอะไรไม่ทัน ลงไม้ลงมือก็ช้าเกินไป โดยเฉพาะนักลงทุนในทุกวันนี้ที่เฝ้าถามหาผลตอบแทนจากการลงทุนให้มากที่สุด หนึ่งในนั้นไม่พ้นเรื่อง การลงทุนในทองคำ จริงอยู่ ย้อนเวลาไปเมื่อ 20 ปีก่อน ทองคำเป็นสัญลักษณ์ของคนมีฐานะมั่งคั่งเท่านั้น แต่วันนี้ ชั่วโมงนี้ นาทีนี้ ทองคำเป็นสัญลักษณ์ของคนทุกชนชั้นไปแล้ว เพราะ คำ 2 คำที่ว่า มั่นคง และมั่งคั่ง คือ คำตอบของทุกคน (หรือไม่จริง?)

 

ตื่น ทอง ยังคงใช้ได้ต่อเนื่องในปีนี้อย่างแน่นอน ในเมื่อปีมังกรทองยังคงเป็นปีที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกติดต่อกันเป็นปีที่ 12 ทำให้มีแนวโน้มกลายเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนในตลาดทองคำไม่เคยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยาวนานที่สุดในรอบกว่า 75 ปี ทำไม? เริ่มจาก แนวโน้มเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆทั่วโลกยังอ่อนค่าต่อ เนื่องตลอดทั้งปีนี้ ในเมื่อเศรษฐกิจลุงแซมที่จะฟื้นตัวกันอย่างต่อเนื่องนั้นไม่เกิดขึ้นแน่นอน สิ่งที่จะได้เห็นก็เป็นเพียงตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีบางเดือนและทรุดบางเดือน ล่าสุด ยักษ์บริษัทฟิล์มโกดักมีอายุ 131 ปี เตรียมประกาศล้มละลายในต้นเดือนหน้า เป็ปซี่ที่สหรัฐ ประกาศปลดพนักงาน 4,000 คนรับสัปดาห์แรกที่ผ่านไป เศรษฐกิจสหรัฐที่ไม่ฟื้นชัดในทุกๆด้าน จึงทำให้ธนาคารกลางสหรัฐต้องใช้อัตราดอกเบี้ยแบงก์ชาติสหรัฐต่ำสุดๆระหว่าง 0% - 0.25% ถึงสิ้นปีนี้ หรืออาจต่อเนื่องอีก 1 ปี สร้างแรงกดดันเงินทุนติดปีกข้ามไปลงทุนในตลาดทุนนอกสหรัฐตลอดทั้งปีนี้ จึงไม่แปลกที่จะได้เห็นธนาคารกลางทั่วโลกรวมทั้งแบงก์ชาติไทย เตรียมลงทุนซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอีก 2-7%ปีนี้

 

 

 

มาถึงปัจจัยสำคัญที่แม้จะเกี่ยวข้องกับการเมืองสหรัฐ คือ การเมืองสหรัฐถึงจุดเปลี่ยนแปลงบนผลการเลือกตั้ง ปธน.คนใหม่ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ อย่างน้อยที่สุด นาย มิทท์ รอมนี่ ผู้ท้าชิงตัวแทนพรรครีพลับริกันประกาศนโยบายเศรษฐกิจชัดเจนว่า ถ้าเป็นตัวแทนพรรคได้จริง ถ้าได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐจริง จะไม่ยอมให้เงินดอลลาร์สหรัฐไปช่วยแก้วิกฤตหนี้ 17 ชาติยูโรเด็ดขาด ปัจจัยต่อไปที่มีผลกับราคาทองคำจึงหนีไม่พ้น ความอืดอาด ชักช้า ไม่คืบหน้าในการแก้ไขหนี้สาธารณะ 17 ชาติยูโร ผมไม่อยากเห็นจุดแตกหักที่วิกฤตสูงสุดของปัญหานี้อยู่ที่การแยกตัวของสมาชิก ในกลุ่มยูโร กลับไปไปใช้เงินสกุลเดิมของชาติใดชาติหนึ่ง ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้น ราคาทองคำไปกระฉุดกว่าที่ประเมินไว้อีก หากมองในแง่การใช้ทองคำในแต่ละปี ก็ต้องให้น้ำหนักกับความต้องการทองคำจีน และอินเดีย จะเพิ่มขึ้นอีก 7 – 10% ปีนี้ ที่สำคัญใช้ทองคำเพื่อการบริโภคเร็วขึ้นกว่าเดิมโดยเฉพาะจีนที่วันตรุษจีนปี นี้มาอยู่ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของมกราคม

 

ซื้อทอง ในปัจจุบันและในอนาคต ยังคงเป็นช่องทางที่เรียกว่า Must-Have ในพอร์ตการลงทุน หากประเมินปัจจัยที่พูดมาทั้งหมดในตอนต้น นักลงทุนทองคำหลายคนยังไม่สายเกินไป ที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับฝีมือของตัวเอง เมื่อเช็คราคาปิดทองคำแท่งในวันเสาร์ที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านไปตกบาทละ 24,000 บาท ถือว่า ยังไม่ตกขบวน ยังไม่แพง และยังไม่เสี่ยงมากเกินไปที่จะเจ็บปวดในบางอารมณ์ หากเกิดการเทขายทองคำในตลาดโลกอย่างหนัก ดังนั้น ราคาที่บาทละ 26,700 - 27,000 บาท ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยในปี 2555 นี้ ยังเป็นเรื่องจริงไม่ใช่เรื่องเล่า ในขณะที่บางจังหวะ เวลา และโอกาส ที่จะเห็นทองคำแท่ง (ย้ำว่าทองแท่ง ไม่ใช่ทองรูปพรรณ) วิ่งขึ้นดอยสูงที่ 30,000 บาทในปีนี้ ยังเป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อม ขณะเดียวกัน ขายทอง ก็ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้นในปีมังกรทอง ปกติแล้ว พฤติกรรมของสถาบันการเงินที่ชอบลงทุนทองคำนั้น มักจะใช้ช่วงปลายไตรมาส 2 และกลางไตรมาส 4 เป็นต้นไป ในการปรับลดการลงทุนทองคำ เพื่อหากำไรขึ้นมาปิดงบดุลบัญชีการลงทุนไม่ให้ดูย่ำแย่ เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคมปีที่ผ่านไป ราคาทองคำตก 5 วันทำการติดต่อกันถึง 31 ธันวาคม ก็ยังโกยกำไรเข้ากระเป๋ากองทุนประกันความเสี่ยงไม่ต่ำกว่า 10% กันเห็นๆในปีที่แล้ว ผมยังมองว่า นักลงทุนอย่าได้เผลอเด็ดขาดกับในบางจังหวะเวลาเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อของชา ติใหญ่ๆ เช่น สหรัฐ กลุ่มยูโร และจีนแผ่นดินใหญ่ เพราะ เงินเฟ้อไม่ถูกกับราคาทองคำทั้งในแง่ตำรา และในแง่ลงมือ ส่วนเงินเฟ้อญี่ปุ่นไม่ต้องปันใจไปมองครับ เพราะ ญี่ปุ่น ทั้งไม่คุ้น และคงลบคำว่าเงินเฟ้อออกจากพจนานุกรมเศรษฐกิจไปนานพอสมควร

 

ปล้นทอง อันนี้ไม่แนะนำเด็ดขาด ไม่ใช่แค่เอาเปรียบนักลงทุนตั้งแต่ระดับชั้นลายครามเรื่อยมาถึงชาวบ้านซื้อ หาทองคำระดับแผงขายผักขายปลาเท่านั้น เพราะนั่นหมายความว่า ไม่อ่านตำราลงทุน ไม่หาข้อมูลทั้งในและต่างประเทศ ไม่ฟังการพูดคุยวิเคราะห์ที่อุตส่าห์ไปย่อยกันมาเลย แต่กลับใช้ทางลัดเข้าซังเตเร็วขึ้น ซึ่งก็อาจจะถูกต้องกับคำพูดในวงการตลาดทุนทั่วโลกที่สุดจะคลาสสิกว่า “High Risk High Return” ในมุมนี้แปลง่ายๆว่า “เมื่อเสี่ยงเข้าคุก อาจถูกจับตายสูง ก็ย่อมติดคุกนาน และหมดลมหายใจเร็วถึงทันที” โชคดีทุกท่านสำหรับการลงทุนทองคำในยุคมังกรทอง 2555

 

บัญชา ชุมชัยเวทย์

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ คุณเด็กขายของ คุณnuchaba คุณปุยเมฆ คุณNongRee คุณGB2514 คุณ Raty คุณ Mr.Li คุณ Aiya คุณfoo คุณพลอยสีสวย คุณเกี้ยมอี๋ คุณพวงชมพู คุณRacha คุณarthas และทุกๆท่านครับ

 

วันนี้มาลุ้นผ่าน 1630 ครับ ถ้าช่วงเที่ยงถึงบ่ายยืนเหนือ 1610-1615 ได้ ค่ำนี้ลอนดอยจัด 1630 แน่นอครับ สุดท้ายน่าจะยืนอยู่เพราะ อ้ายกัน ไม่น่าจะเทขายนะครับ เดามั่วอีกตามเคยครับ :_Rd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

RETAIL SALES S.A. (MOM)

Actual: 0.0%Cons.: 0.4%Previous:  0.2%

 

The Retail Sales released by the Australian Bureau of Statistics is a survey of goods sold by retailers is based on a sampling of retail stores of different types and sizes and it''s considered as an indicator of the pace of the Australian economy. It shows the performance of the retail sector over the short and mid-term. Positive economic growth anticipates bullish trends for the AUD, while a low reading is seen as negative or bearish.

 

Forex: AUD/USD lower ahead of Nov retail sales

 

AUD/USD started the week at 1.0199 from 1.0225 late Friday and has since traded a 1.0189/1.0211 range intraday, limited below the 200-day EMA. AUD/JPY has traded 78.25/60 intraday since opening the session at 78.43, down from 78.72 past Friday.

 

In about one hour’s time, at 0030 GMT, Australian retail sales data for November are due for release; traders say the indicator could help support the Aussie if we see a surprisingly positive reading. Economists anticipate sales to rise 0.4 percent in November, following a 0.2 percent increase in the previous month.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

HIA NEW HOME SALES (MOM)

Actual: 6.8%Cons.: Previous:  5.5%

 

HIA New Home Sales released by the Housing Industry Association presents the number of new home sales in Australia. It indicates the housing market condition. House buyers spend money on furnishing and financing their homes, which stimulates the demand for goods, services, and the employees. Thus, a high reading is seen as bullish (or positive) for the AUD, whereas a low reading is seen as bearish (or negative).

 

Australia: New home sales rise 6.8% on RBA rate cut

 

FXstreet.com (San Francisco) - As a measure of the change in the number of newly constructed homes sold in November, according to the Housing Industry Association (HIA), the sales of new homes rose 6.8%, following a downwardly revised increase of 2.8% in October. ยอดขายบ้านใหม่ในออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 6.8%

 

The Reserve Bank of Australia recently lowered the interest rate to 4.5 per cent from 4.75 per cent in response to increased concerns about the European sovereign debt crisis, and as HIA chief economist Harley Dale explains: “Interest rate cuts, both those we’ve had and those that are still warranted, provide a...catalyst for a sustained and strong recovery in new home building conditions.”

ธนาคารฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลง 0.25% จาก 4.75% มาที่ 4.50%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ครับ ขอบคุณครับ อยากให้สถานการณ์อิหร่านตึงเครียดกว่านี้จัง น้องทองจะได้ขึ้นๆ :_ee

 

มีสงคราม ทองแพง ก็พลอยทำให้น้ำมันแพงขึ้น สุดท้ายเราก็เดือดร้อนอยู่ดี ต้องเอาเงินกำไรทองมาซื้อน้ำมันแพงๆ ใช้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตารางรายงานที่สำคัญ ช่วงพระอาทิตย์ไม่ตกดิน อย่าลืม บวก 7 ชั่วโมง

 

 

UNEMPLOYMENT RATE N.S.A (MOM) สวิสฯ Actual:  06:45 GMTCons.: 3.0%Previous:  3.1%

CURRENT ACCOUNT N.S.A. เยอรมัน Actual:  07:00 GMTCons.: Previous:  €10.3B

TRADE BALANCE S.A. เยอรมัน Actual:  07:00 GMTCons.: €13.2BPrevious:  €12.6B

REAL RETAIL SALES (YOY). สวิสฯ Actual:  08:15 GMTCons.: Previous:  -0.2%

 

SENTIX INVESTOR CONFIDENCE. ยูโรโซน

Actual:  09:30 GMTCons.: -21.3Previous:  -24.0

 

With among 1600 financial analysts and institutional investors, the Sentix Investor Confidence is a monthly survey which shows the market opinion about the current economic situation and the expectations for the next semester. The index, released by the Sentix GmbH, is composed by 36 different indicators. Usually a higher reading is seen as positive for the Euro zone, that means positive, or bullish, for the Euro, While a lower number is seen negative or bearish for the unique currency.

 

INDUSTRIAL PRODUCTION S.A. (MOM). เยอรมัน Actual:  11:00 GMTCons.: -0.4%Previous:  0.8%

INDUSTRIAL PRODUCTION S.A. W.D.A. (YOY). เยอรมัน. Actual:  11:00 GMTCons.: Previous:  4.7%

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

The EUR/USD opens the week just below 1.2696, past Friday low, and levels not seen since September 2010. Much better than expected US employment data showing the US economy managed to add 200K new jobs and unemployment rate decreasing to 8.5% were the trigger for more dollar buying across the board. The EUR/USD hourly chart shows the strong bearish sentiment, with price testing early interbank lows, and breaking lower, indicators head south after a limited corrective movement, supporting more bearish pressure, with 1.2645 (September 2010 low) as immediate support, ahead of 1.2590, August 2010 monthly low.

ค่าเงินยูโรต่อดอลล์สหรัฐฯ เปิดอาทิตย์นี้ต่ำ 1.2696 เป็นระดับที่ไม่เคยเห็นตั้งแต่ กันยายน 2010 สืบเนื่องจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่เพิ่ม 200,000 คน ทำให้อัตราว่างงานลดลงมาที่ 8.5%

 

Support levels: 1.2645 1.2590 1.2540

 

Resistance levels: 1.2700 1.2735 1.2770

eur_20120108233550.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

The EZ remains deeply divided on Greek haircuts

Meanwhile, in Greece, after ECB's Athanasios Orphanides urged EU officials not to press private Greek debt holders to accept losses, Clemens Fuest, an adviser to Germany's finance minister Schaeuble told a Greek newspaper that a 50% write-down on Greek debt holdings is not enough, arguing that Greek debt haircut should be higher.

 

Fuest added: "To my view, Greece has already defaulted," he said. "I believe that the best thing would be if one honestly says that the Greek government cannot repay its debt. In such a way, a better settlement could be achieved".

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เป็นข่าวในสหรัฐอเมริกา ที่มีร้านค้านับซื้อทองผุดขึ้นในห้างฯ มากขึ้นช่วงปี 2012 มากกว่าปีที่แล้วที่ผ่านมา ใครเป็นขาใหญ่อยู่เบื้องหลังการตั้งร้านแบบนี้ ไม่ปรากฎ

 

ใครกว้านซื้อทอง

January 4, 2012  |   Filed under: คอลัมน์ประจำ,มองไปข้างหน้า โดย วิภัช ธราภาค  |   Posted by: admin

 

IMG_0919.jpg

 

สำนวนไทยซึ่งได้ยินกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณที่ว่า “มีเงินนับเป็นน้อง  มีทองนับเป็นพี่”  แฝงความหมายในทำนองกระแหนะกระแหน หรือพูดกระทบกระเทียบเสียดสีผู้คนที่ทำตัวน่าหมั่นไส้เพราะชอบทำท่าว่านับถือคนรวยเป็นญาติ โดยไม่คำนึงถึงเบื้องหลังของเขาว่าได้สร้างความร่ำรวยนั้นขึ้นมาได้อย่างถูกต้องทำนองคลองธรรม และชอบด้วยตัวบทกฎหมายหรือหาไม่

 

               เอาล่ะ ให้เรามาว่ากันถึงเรื่องทอง ในความหมายของทองคำซึ่งตามหลักการวิทยาศาสตร์สาขาที่กล่าวถึงองค์ประกอบและคุณสมบัติของสารทางเคมีนั้น ถือว่าเป็นธาตุอันดับที่ 78  ขณะที่ชาวบ้านร้านถิ่นรู้จักกันในแบบฉบับที่เรียกว่า“ทองคำ” ซึ่งเป็นโลหะเนื้ออ่อน สีหลือง ใช้ทำรูปพรรณต่าง ๆ และทำเงินตรา ฯลฯ

 

ปัจจุบันกำหนดความบริสุทธิ์ของทองคำด้วยหน่วยกะรัต โดยกำหนดว่าทองคำ 24 กะรัต เป็นทองคำที่บริสุทธิ์ที่สุดซึ่งอาจมาในรูปของทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณก็สุดแต่ และตั้งแต่ก่อนร่อนชะไรนั้น คนไทยเราส่วนใหญ่มักชอบซื้อหาและสะสมทองรูปพรรณซึ่งอาจเป็นสายสร้อย, แหวน,และเครื่องประดับกายในรูปแบบอื่นๆ อีกทั้งถือว่าเป็นการสะสมหลักทรัพย์ไว้เพื่อชีวิตในวันหน้าของตัวเองและครอบครัวอีกโสดหนึ่งพร้อมกันไปด้วย

 

การสะสมทองคำเพื่อให้เป็นหลักทรัพย์นั้น เมื่อเก็บงำในรูปแบบของทองรูปพรรณย่อมได้เปรียบกว่าทองคำแท่ง เพราะผิดกันในประเด็นที่ว่า ในทางทองรูปพรรณซึ่งสามารถใช้เป็นเครื่องประดับที่ช่วยโอ้อวดความมั่งมีของตนได้นั้น  เมื่อซื้อสร้อย แหวน ฯลฯ ก็ต้องจ่ายค่าทองคำกี่มากน้อยที่ใช้ทำเครื่องประดับนั้น บวก “ค่ากำเหน็จ”ซึ่งหมายถึงค่าแรงงานที่ใช้ในการประดิษฐเครื่องประดับชิ้นนั้นๆ และขึ้นอยู่กับชื่อเสียงของห้างที่ค้าทองนั้นแต่ละร้านเป็นสำคัญ

 

แต่ถ้าคิดซื้อทองคำเป็นแท่งๆ มาเก็บสะสมไว้ ย่อมเสียเปรียบในประเด็นที่ว่า ถ้าขืนเอามาห้อยคล้องคอเพื่อโชว์ชาวบ้าน  ใครที่พบเห็นย่อมคิดว่าไอ้นี่บ้าแล้ว  ดังนั้นเมื่อจะสะสมทองคำแท่งก็ได้แต่ใช้ผ้าขี้ริ้วห่อมันและซุกซ่อนเก็บไว้ในที่ลับตาเพียงลูกเดียวแค่นั้นเอง จริงแม๊ะ

 

ตามพฤติการณ์ที่เคยเป็นมาตั้งแต่ก่อนร่อนชะไร (อีกครั้ง)นั้น ทุกดินแดนแว่นแคว้นหรือบ้านเมืองไหนก็ตาม เราท่านจะเห็นร้านค้าทองมากมายหลายยี่ห้ออยู่เรียงกันเป็นตับเพื่อเสนอขายทองในรูปแบบต่างๆ ให้ชาวบ้านได้ไปซื้อหาสะสมตามที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นนั้น  ตลอดเรื่อยมาจนกระทั่งเพิ่งต้นปีที่แล้วซึ่งเพิ่งสุดสิ้นลงหยกๆที่เอง กลับปรากฎว่า เกือบทั่วทุกหนทุกแห่งในสหรัฐฯ นี้ มีการออกกว้านซื้อทองคำกันเป็นการใหญ่ แต่ละแห่ง แต่ละสถานที่ก็เขียนประกาศว่ารับซื้อทองคำในรูปแบบต่าง ๆ ด้วยราคายุติธรรม ราคาสูง ฯลฯ  และพร้อมที่จะจ่ายสดแลกเปลี่ยนให้ในฉับพลันทันที ณ ที่นั้นๆ เองทีเดียว

 

ในศูนย์การค้าแทบทุกแห่ง โดยเฉพาะในบริเวณที่เรียกว่า “ชอปปิ้งมอลล์” มักจะมีเคาน์เตอร์ตั้งอยู่พร้อมโต๊ะและเก้าอี้ ตลอดจนพนักงานประจำคอยทักทายผู้คนซึ่งกำลังเดินผ่านไปมาให้นำทองคำในรูปแบบต่างๆ มาขายแล้วจะได้ราคาดี ราคาสูงฯลฯ

 

แค่นั้นยังมิหนำ  แม้แต่ในหนังสือพิมพ์ฉบับหลักๆของฝรั่ง อย่างเช่น แอล. เอ.ไทมส์ และอื่น ๆ มีโฆษณาเต็มหน้า ประกาศรับซื้อทองคำทำนองว่า “Sell your gold and silver to GoldMax and get a taste of the good life” พร้อมให้บัญชีรายชื่อตำบลสถานที่นับได้กว่ายี่สิบแห่งเพียงแต่ในรัฐแคลิฟอร์เนียเท่านั้น  ส่วนในรัฐอื่นๆก็มีประกาศของเขาโดยตลอดเช่นเดียวกัน

 

ในขณะที่เรื่องการติดลบหรือขาดทุนด้านงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐฯ ในปัจจุบันได้เป็นข่าวพาดหัวสื่อมวลชนทุกแบบฉบับและกระจายไปทั่วโลกซึ่งทำให้เกิดการคาดคะเนว่า เงินดอลลาร์สหรัฐ ฯคงจะราคาตกไปเรื่อยๆ และประเทศจีนกำลังเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของสหรัฐฯ เพราะถือพันธบัตรเงินกู้สหรัฐฯ ไว้และรวมยอดสูงได้เป็นหลายหมื่นโกฏิล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ

 

และเคราะห์ดีเท่าไหร่แล้ว ที่จวบเหมาะกับทางยุโรปกำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนักหน่วงถึงขนาดที่เงินยูโรฯ กำลังลูกผีลูกคน ซึ่งช่วยทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ทรุดดิ่งจนเกินไป  ถึงกระนั้น  เรื่องที่น่าคิดก็คือ ใครเป็นฝ่ายที่อยู่เบื้องหลังการออกกว้านซื้อทองคำอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ในขณะนี้?

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดจากสามประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในยูโรโซนบ่งชี้ว่าสภาพเศรษฐกิจในช่วงสิ้นปี 2554 ย่ำแย่ลง และมีโอกาสก้าวเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2555 สร้างความกังวลใจระลอกใหม่ให้กับนักลงทุนว่ายูโรโซนจะก้าวผ่านปัญหาหนี้สาธารณะที่รุมเร้าอยู่ได้หรือไม่

 

 เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล รายงานว่า นักลงทุนเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความกังวลใจรัฐบาลยูโรโซนจะสามารถระดมเงินได้เพียงพอสำหรับการรีไฟแนนซ์มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านยูโรสำหรับพันธบัตรทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่กำลังจะหมดอายุในปี 2555 ได้เพียงพอหรือไม่ ในวันพฤหัสบดี (5 ม.ค.) ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของอิตาลีพุ่งสูงขึ้นเกินระดับ 7% อีกครั้ง ขณะที่ค่าเงินยูโรลดลงกว่า 1% เหลือต่ำกว่า 1.28 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2553

 

 ด้านฝรั่งเศสแม้จะประสบความสำเร็จในการขายพันธบัตรมูลค่าเกือบ 8 พันล้านยูโร ด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าการขายครั้งก่อนเล็กน้อย แต่นักลงทุนเชื่อว่านี่อาจเป็นการขายพันธบัตรด้วยความน่าเชื่อถือระดับ AAA เป็นครั้งสุดท้าย มีการคาดหมายว่าสถาบันจัดอันดับเครดิตสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส (เอสแอนด์พี) จะประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสอย่างเร็วในเดือนมกราคมนี้

 

 นอกจากนี้ตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจของประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด 3 อันดับแรกในยูโรโซน คือเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจชะลอตัวลงในช่วงปลายปี 2554 ยอดขายจากธุรกิจค้าปลีกของเยอรมนีลดลงในเดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีระบุว่า ยอดการค้าปลีกลดลง 0.9% ในเดือนพฤศจิกายน หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนตุลาคม อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวน่าจะเป็นผลกระทบมาจากวิกฤติหนี้ในยูโรโซนมากกว่าเป็นสัญญาณว่าความต้องการภายในประเทศลดต่ำลงอย่างหนัก

 

 ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในฝรั่งเศสลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2551 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจถดถอยอย่างหนักจากการล้มของเลห์แมน บราเธอร์ส สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส หรืออินซี เวลานี้คาดการณ์ว่าฝรั่งเศส ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของยูโรโซนตามหลังเยอรมนี จะตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอยตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 ถึงไตรมาสแรกของปี 2555

 

 อิตาลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับสาม ประกาศตัวเลขอัตราการว่างงานในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 8.5% ในเดือนตุลาคมเป็น 8.6% โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานอายุ 24 ปีและต่ำกว่า ซึ่งมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นถึงเกินกว่า 30% เป็นครั้งแรก เพิ่มจาก 29.2% ในเดือนตุลาคม

 

 เศรษฐกิจของอิตาลีหดตัวในไตรมาส 3 ของปี 2554 และคาดว่าจะยังคงหดตัวต่อเนื่องไปจนถึงกลางปี 2555 เนื่องจากความต้องการภายในประเทศลดลง รวมถึงผลจากมาตรการลดค่าใช้จ่าย และการลดลงของการค้ากับต่างประเทศ สำนักงานสถิติแห่งชาติอิตาลีระบุว่า อัตราจ้างงานภายในประเทศลดลง 680,000 ตำแหน่งนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2551

 

 กระนั้นตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวของเยอรมนีก็สร้างความหวังว่ายักษ์ใหญ่แห่งยูโรโซนอาจจะรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยเหมือนเช่นที่มีการคาดหมายว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคจะต้องเผชิญในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและผู้บริโภคในเยอรมนีต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคม ขณะที่อัตราว่างงานเมื่อปรับตามฤดูกาลแล้วลดลงเหลือ 6.8% ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มใช้สถิติดังกล่าวในปี 2541 และต่ำกว่าความคาดหมายของนักวิเคราะห์

 

 อัตราเงินเฟ้อราคาผู้ผลิตในยูโรโซนผ่อนคลายลงอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2554 เมื่อเทียบกับปีก่อน ชี้ให้เห็นว่าเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคมีโอกาสลดต่ำตามลงมาอยู่ใกล้เคียงกับเป้าหมายต่ำกว่า 2% เล็กน้อยของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) แม้ว่าในเดือนธันวาคมจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.8% ก็ตาม อย่างไรก็ดี แม้ราคาสินค้าจะยังเพิ่มสูงขึ้น แต่เป็นที่คาดหมายว่าอีซีบีจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งจากระดับ 1% ในปัจจุบัน รวมถึงใช้มาตรการสนับสนุนอื่นๆ เพื่อกระตุ้นการเติบโตที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง

 

 ขณะเดียวกัน นายลูคัส ปาปาเดมอส นายกรัฐมนตรีกรีซ กล่าวว่า กรีซมีความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ในเดือนมีนาคม ถ้าไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาเรื่องเงินกู้ยืมก้อนที่สอง กรีซมีหนี้มูลค่า 1.4 หมื่นล้านยูโรที่มีกำหนดชำระในเดือนมีนาคม ส่วนการเจรจากับเจ้าหนี้ภาคเอกชนเพื่อลดมูลค่าหนี้สินลง 50% คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนมกราคม ข้อตกลงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในเงื่อนไขรับเงินช่วยเหลือก้อนที่สองมูลค่า 1.3 แสนล้านยูโรของกรีซ ซึ่งถ้าบรรลุข้อตกลง หนี้ที่ภาคเอกชนถืออยู่มูลค่าถึง 2.06 แสนล้านยูโรจะถูกลดลงครึ่งหนึ่ง

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 9 มกราคม 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอเอฟพี - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) เริ่มไม่มั่นใจว่ากรีซจะบรรเทาภาวะหนี้สินในระยะยาว นิตยสารข่าว แดร์ สปีเกล ของเยอรมนีรายงานในวันเสาร์(7)

       

       ไอเอ็มเอฟชี้ว่า กรีซต้องเร่งรวมหนี้สาธารณะ ไม่เช่นนั้นเอกชนผู้ให้สินเชื่อจะได้ผลตอบแทนน้อยลงเรื่อยๆ และยูโรโซนควรเพิ่มความช่วยเหลือ อีกทั้งตำหนิว่า กรีซยังไม่ปฏิรูปการคลังเท่าที่ควร รายได้จากการโอนกิจการให้เอกชนก็ต่ำกว่าเป้า

       

       กรีซได้รับเงินช่วยเหลือ 2 ก้อน รวม 240,000 ล้านยูโร( 9.67 ล้านล้านบาท) และใช้ไปแล้วราว 73,000 ล้านยูโร(ราว 3 ล้านล้านบาท)

 

ที่มา : ASTVผู้จัดการรายวัน (วันที่ 9 มกราคม 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทช่วงสัปดาห์แรกของปี 2555 ผันผวนในกรอบ 31.27-31.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์ซึ่งตลาดในประเทศปิดทำการ ก่อนที่จะเคลื่อน ไหวในทิศทางที่อ่อนค่าหลังจากที่ตลาดในประเทศกลับมาเปิดทำการในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ ทั้งนี้ บรรยากาศการซื้อ-ขายยังคงเบาบาง ขณะที่ ปัจจัย ที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง ยังเป็นความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป ทั้งในเรื่องมาตรการแก้ไขวิกฤต และปัญหาการระดมทุนของสมาชิกยูโรโซนหลาย ประเทศ

ในวันศุกร์ (6 ม.ค.55) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.60 เทียบกับระดับ 31.54 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (30 ธ.ค.54)

แนวโน้มสัปดาห์นี้ (9-13 มกราคม 2555) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 31.40-31.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องจับตาประเด็นวิกฤตหนี้ยูโรโซน โดยเฉพาะผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลสเปนและอิตาลี ผลการทบทวนอันดับเครดิตของประเทศและสถาบันการเงินในยุโรปโดยฟิทช์ เรทติ้งส์ การ เยือนกรีซของตัวแทนจาก EU/IMF เพื่อประเมินความคืบหน้าของแผนปฏิรูปการคลัง การหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีเยอรมนีกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนายกฯ เยอรมนีกับนายกฯ อิตาลี ตลอดจนผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางอังกฤษ ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจ สหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนม.ค.55 ยอดค้าปลีก งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนธ.ค. ข้อมูลการค้าระหว่าง ประเทศ สต็อกสินค้าภาคค้าส่ง-ภาคธุรกิจเดือนพ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ (วันที่ 9 มกราคม 2555)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: วิตกแบงก์ยุโรประดมทุนเพิ่ม ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ (09/01/2555)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืน นี้ (5 ม.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลกับข่าวที่ว่าธนาคารหลายแห่งในยุโรปจะต้องระดม ทุนเพิ่มขึ้น และต้นทุนการกู้ยืมของฝรั่งเศสปรับตัวสูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรเมื่อวาน นี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้บดบังข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.9% ปิดที่ 247.39 จุด

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีลดลง 15.56 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 6,095.99 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,040.94 - 6,130.10 จุด

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวลง 48.74 จุด หรือ 1.53% ปิดที่ 3,144.91 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,136.75 - 3,200.15 จุด

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษร่วงลง 44.19 จุด หรือ 0.78% ปิดที่ 5,624.26 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,614.38 - 5,689.33 จุด

 

ตลาด หุ้นยุโรปปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่าธนาคารในยุโรปจะต้องระดมทุนเพิ่ม รวมถึงธนาคารยูนิเครดิตของอิตาลี และล่าสุดรัฐบาลสเปนคาดการณ์ว่า ธนาคารในประเทศจำเป็นต้องตั้งสำรองสูงถึง 5 หมื่นล้านยูโร (6.5 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อรองรับงบดุลที่อ่อนแอลง อันเนื่องมาจากการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบกับภาวะฟองสบู่แตก ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าการประเมินก่อนหน้านี้

 

ความ วิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นยูนิเครดิตร่วงลง 17% ปิดที่ 4.48 ยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2535 หุ้นธนาคารโซซิเอเต เจนเนอราล (ซอคเจน) ร่วงลง 5.4% หุ้นธนาคารบังโค ซานตานเดร์ และหุ้นบังโค บิลบาว วิซคายา อาร์เจนตาเรีย ซึ่งเป็น 2 ธนาคารรายใหญ่ของสเปน ร่วงลง 4.5% และ 5% ตามลำดับ ส่วนหุ้นดอยช์ แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของเยอรมนี ร่วงลง 5.6%

 

นอก จากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลการประมูลพันธบัตรที่อ่อนแอของรัฐบาลฝรั่งเศส โดยรัฐบาลฝรั่งเศสระดมทุนจากการขายพันธบัตรอายุ 10 ปีได้เพียง 4.02 พันล้านยูโรในการประมูลเมื่อวานนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 3.29% เพิ่มขึ้นจากการประมูลครั้งก่อนที่ 3.18% ขณะที่อัตราส่วนความต้องการซื้อต่อปริมาณที่นำออกจำหน่าย (bid-to-cover ratio) ลดลงแตะ 1.64 เท่า จากระดับ 3.05 เท่า

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

วันที่ 9 มกราคม 2555

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...