ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

พอล เชียร์ด หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกและผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจโลกและการวิจัยของ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (เอสแอนด์พี) คาดว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2557 จะยังคงขยายตัวได้ดี รวมทั้งยังมีเหตุผลสนับสนุนมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ

 

นอกจากนี้ นายเชียร์ดคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงเป็นครั้งแรกในการประชุมนโยบายประจำเดือนธ.ค.ซึ่งจะทราบผลในวันนี้ แต่คาดว่าตลาดสหรัฐจะไม่มีปฏิกิริยาในเชิงลบหากมีการลด QE

 

นายเชียร์ดกล่าวในงานแถลงข่าวภายใต้หัว ข้อ 2014 Economic Outlook ว่า “เราคาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2557 จะยังคงขยายตัว หลังจากเศรษฐกิจโลกได้ชะลอตัวลงในปี 2556 เศรษฐกิจสหรัฐได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เรียกว่า “หน้าผาการเงิน" และการปรับลดงบประมาณค่าใช้จ่ายโดยอัตโนมัติในช่วงต้นปี ในขณะที่ยูโรโซนยังหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง และเศรษฐกิจจีนขยายตัวต่ำกว่า 8% นาน 6 ไตรมาสติดต่อกัน"

 

ขณะที่เบธ แอนน์ โบวีโน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำสหรัฐของเอสแอนด์พีคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน ประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐจะขยายตัว 2.6% ในปี 2557 เมื่อเทียบกับ 1.7% ในปี 2556

 

โบวีโนระบุว่า การขยายตัวในจังหวะที่รวดเร็วขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐไม่เพียงแต่จะสนับสนุนการ ปรับตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในด้านพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังจะช่วยลดผลกระทบจากการฉุดรั้งโดยงบประมาณได้อีกด้วย

 

สำหรับยูโรโซน นายเชียร์ดเชื่อว่า เขตยูโรโซนจะก้าวผ่านภาวะถดถอยและคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 1% ในปี 2557

 

ประเทศตลาดเกิดใหม่ก็จะมีการขยายตัวที่ ดีในปีหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศตลาดเกิดใหม่ของเอเชีย ในขณะที่การขยายตัวของจีนยังคงมีเสถียรภาพ เขากล่าว

 

“สำหรับญี่ปุ่น เราคาดว่ายังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง แต่จะเป็นปีแห่งการทดสอบนโยบาย “อาเบะโนมิคส์" นายเชียร์ดกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์(วันที่ 18 ธค.56)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยถึงโครงการรถยนต์คันแรกว่า ขณะนี้กรมได้ดำเนินการจ่ายเงินคืนให้กับผู้ได้รับสิทธิในโครงการไปแล้วทั้งสิ้น 697,686 ราย คิดเป็นเงิน 49,490 ล้านบาท เป็นการเบิกจ่ายทั้งหมด 24 ครั้ง ทุกๆ วันที่ 9 ของเดือน โดยมีผู้ขอใช้สิทธิในโครงการ 1,259,067 ราย คิดเป็นเงิน 92,174 ล้านบาท แต่มีผู้ยกเลิกการใช้สิทธิ 8,462 ราย และไม่ได้รับสิทธิเนื่องจากไม่เข้าเงื่อนไข 3,100 ราย ทำให้มีผู้อยู่ในสถานะรับสิทธิ 1,247,505 ราย คิดเป็นเงิน 91,375 ล้านบาท

 

นายสมชายกล่าวต่อว่า ขณะนี้มีจำนวนผู้ที่ได้รับรถแล้ว หรือได้ทำการส่งมอบรถยนต์แล้ว 1,120,128 ราย ยังคงเหลือผู้ที่ยังไม่ได้รับรถยนต์ 127,377 ราย หรือคิดเป็น 10.21% โดยในจำนวนผู้ได้รับเงินตามสิทธิ แต่ผิดเงื่อนไขภายหลัง มีทั้งหมด 600 ราย คิดเป็นเงิน 31.05 ล้านบาท ในจำนวนนี้ ได้นำส่งเงินคืนให้กรมแล้ว 504 ราย หรือคิดเป็น 25.75 ล้านบาท และที่อยู่ในช่วงดำเนินการเรียกเงินคืน 155 ราย

 

สำหรับ 155 รายนั้น กรมอยู่ในช่วงดำเนินการเรียกเงินคืน โดยอยู่ในขั้นตอน ทำหนังสือถึงผู้ขอใช้สิทธิที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไข ตามประกาศกระทรวงการคลัง ให้นำเงินที่ได้รับไปมาคืน จำนวน 146 ราย มีหนังสือถึงกรมบัญชีกลางเพื่อพิจารณากรณีผู้ขอใช้สิทธิขาดคุณสมบัติตามที่โครงการระบุไว้และได้รับเงินไปแล้วจะขอผ่อนชำระ จำนวน 5 ราย และส่งเอกสารให้กรมบัญชีกลางพิจารณาฟ้องผู้ขอใช้สิทธิที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไข ตามประกาศกระทรวงการคลัง จำนวน 4 ราย

 

ทั้งนี้ ในจำนวนรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล มีสัดส่วน 26.09% หรือ 325,497 ราย และมีผู้เข้าร่วมโครงการซื้อรถยนต์เป็นเงินสด คิดเป็นสัดส่วน 15.11% และสินเชื่อ 84.89% โดยกรมได้ใช้งบประมาณที่ได้รับ ในปี 2556 จำนวน 7,280 ล้านบาท เงินคงคลัง 31,000 ล้านบาท และในปี 2557 ได้จัดสรรงบประมาณ 40,000 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 78,280 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 24,799 ล้านบาท

 

ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ (วันที่ 18 ธันวาคม 2556)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตะลึง!!!! ทั้งจังหวัดอยุธยา

 

เช้าวันนี้ พบน้ำแข็งบนยอดหญ้า

ที่อำเภอบางปะอิน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอาข่าวเจ้มั้ง อันตรายใครจะไปสวนผี้ง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

⚓️⚓️⚓️วันพฤหัสที่19ธ.ค56เป็นวันคล้ายวันประสูติเสด็จเตี่ย พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เเธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ครบ131ปี(พ.ศ2423-พ.ศ2556). มูลนิธิสรรพราเชนทร์ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายเสด็จเตี่ย ที่วิหารต.สนามจันอ..เมือง จ.นครปฐม. ขอเรียนเชิญร่วมพิธีด้วยครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

⚓️⚓️⚓️วันพฤหัสที่19ธ.ค56เป็นวันคล้ายวันประสูติเสด็จเตี่ย พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เเธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ครบ131ปี(พ.ศ2423-พ.ศ2556). มูลนิธิสรรพราเชนทร์ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายเสด็จเตี่ย ที่วิหารต.สนามจันอ..เมือง จ.นครปฐม. ขอเรียนเชิญร่วมพิธีด้วยครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ :

 

"นาทีนี้คนไทยจะต้องให้ความสำคัญสูงสุดต่อการปฏิรูป โดยเฉพาะการปฏิรูปการเมือง ไม่ใช่เลือกตั้ง เนื่องจากเรามีปัญหาสั่งสมมาในอดีตที่ี่มิได้แก้ไข เพราะสถาพการเมืองในปัจจุบันมุ่งเน้นที่การให้ได้มาซึ่งอำนาจ และใช้อำนาจที่ได้มานั้นเพื่อจรรโลงอำนาจ แทนที่จะใช้อำนาจนั้นเพื่อพัฒนาบ้านเมืองอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้ประเทศเสื่อมถอยลงทั้งเศรษฐกิจสังคม การเมือง ท่ามกลางความรุดหน้าของชาติเพื่อนบ้านที่เคยมองดูเราด้วยความอิจฉา"

 

"วันนี้คนไทยตื่นตัวแม้จะดูเหมือนว่าจะนำไปสู่ความรุนแรงและแตกร้าว แต่เชื่อว่าในหัวใจของคนไทยทุกคนล้วนรักและไม่อยากทำร้ายประเทศไทย"

 

"เราคนไทยจะต้องไม่ใช้ความตื่นตัวนั้นไปในทางการต่อสู้ฟาดฟันเพื่อเอาชนะในทางตรงข้าม เราทุกฝ่ายต้องส่งเสริมพลังที่ไม่เคยเกิดขึ้นนี้ ผลักดันร่วมกันในทางบวก ให้เกิดการปฏิรูปในบ้านเมือง ซึ่งจะนำไปสู่การปฏิรูปในด้านอื่นอย่างสันติ อย่างมีสติ อย่างใช้ปัญญาร่วมกัน"

 

"หากคนไทยละทิ้งโอกาสนี้ คิดถึงแต่อำนาจและชัยชนะทางการเมือง คงยากที่จะสร้างไทยให้สมบูรณ์รุดหน้าได้อีกแล้ว"

 

"นาทีนี้เราคิดว่าไม่ใช่นาทีแห่งการเลือกตั้งเพียงเพื่อรักษาเปลือกที่ผุกร่อนของประชาธิปไตย แต่เป็นนาทีที่ทุกฝ่ายต้องละทิ้งเป้าหมายส่วนตน และหันมาร่วมกันผลักดันให้เกิดการปฏิรูปเพื่อสร้างแก่นแท้แห่งประชาธิปไตยที่แท้จริงให้จงได้"

 

 

 

เสื้อแดง ถ้าคิดทำประโยชน์ให้ส่วนรวมจริง และไม่คิดทำร้ายประเทศไทย ขอให้สลัดทักษิณทิ้งไป และมาร่วมกันสร้างระบบการเมืองที่ดีกว่าเดิม ไม่ใช่รอการเลือกตั้งที่เป็นแค่เปลือกอันผุกร่อนของประชาธิปไตยเท่านั้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

post-5114-0-20974100-1387377930_thumb.jpg

โอ้โห ! เจ้ฯ .............. รูปของเจ้ฯ Before ส่วนของกระผม After ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

***ยาปฏิชีวนะไม่ใช่ยาแก้อักเสบ***

 

คนไทยมักเรียกยาปฏิชีวนะว่า "ยาแก้อักเสบ" ซึ่งเป็นการเรียกที่ไม่ถูกต้อง และทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเมื่อมี "คออักเสบ" ต้องกินยาแก้อักเสบโรคจึงจะหาย อันเป็นความเข้าใจผิดโดยสิ้นเชิง

 

การอักเสบเป็นผลจากการที่ร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสิ่งแปลกปลอม หรือสิ่งที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บต่อร่างกาย เช่นเมื่อผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้สูดหายใจเอาฝุ่นที่ตนเองแพ้เข้าไปก็จะเกิดการอักเสบขึ้นที่จมูกทำให้มีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล หากเป็นโรคหอบหืดก็จะเกิดการอักเสบที่หลอดลมทำให้หลอดลมตีบเกิดอาการไอ แน่นหน้าอกหายใจลำบาก หรือหากตากแดดนานๆ ก็จะเกิดการอักเสบที่ผิวหนัง ยาปฏิชีวนะไม่มีประโยชน์ต่อการอักเสบทั้งหลายที่กล่าวมา เพราะยาปฏิชีวนะเป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ส่วนการอักเสบที่กล่าวมาไม่ได้มีสาเหตุจากเชื้อโรคแต่อย่างใด ยาปฏิชีวนะจึงไม่ใช่ยาแก้อักเสบ และการอักเสบส่วนใหญ่เป็นโรคที่ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ

 

เจ็บคอเป็นอาการที่พบได้บ่อยเมื่อป่วยด้วยโรคติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบนขณะเจ็บคอย่อมมีการอักเสบขึ้นในบริเวณลำคอ (คออักเสบ) เนื่องจากร่างกายมีปฏิกิริยาต่อการติดเชื้อ แต่การติดเชื้อที่คอร้อยละ 85 ไม่ได้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียแต่เกิดจากเชื้อไวรัส เช่น ไวรัสโรคหวัด ไวรัสโรคไข้หวัดใหญ่ ไวรัสโรคมือ เท้า ปาก เป็นต้น ดังนั้นการเจ็บคอ 8 ครั้งใน 10 ครั้งจึงไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ เพราะยาปฏิชีวนะไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ และไม่ทำให้โรคหายเร็วขึ้นแต่อย่างใด

 

ครู เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เภสัชกร พยาบาล และแพทย์จึงควรสร้างความเข้าใจใหม่ให้กับสังคมไทยด้วยการเลิกเรียกปฏิชีวนะว่ายาแก้อักเสบ เพื่อขจัดความเข้าใจผิดว่าเมื่อมีคออักเสบต้องกินยาแก้อักเสบ ทั้งที่คออักเสบส่วนใหญ่หายได้ด้วยภูมิต้านทานโรคของร่างกายโดยไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ

 

ยาปฏิชีวนะเป็นยาอันตราย หากเราต้องใช้ยาปฏิชีวนะเพราะเป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียเราจะได้รับประโยชน์จากการใช้ยาซึ่งคุ้มต่อความเสี่ยงต่ออันตรายจากยา แต่หากเราใช้ยาปฏิชีวนะในโรคที่ไม่จำเป็นเช่น โรคหวัด เจ็บคอ ทั่วๆ ไป เราจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ จากการใช้ยา แต่เรากำลังรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตหรือพิการเช่นตาบอด อวัยวะสำคัญเช่นตับถูกทำลาย เกิดโรคแทรกซ้อนเช่นท้องเดินรุนแรงจนต้องเข้ารักษตัวในโรงพยาบาล

 

การใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อยังนำไปสู่ปัญหาเชื้อแบคทีเรียดื้อยาซึ่งกำลังเป็นวิกฤตอยู่ในสังคมไทยในปัจจุบัน เพราะทำให้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียได้ยาก ส่งผลให้มีการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในโรงพยาบาลหรือต้องอยู่โรงพยาบาลนานขึ้น

 

สุขภาพดีจะเกิดขึ้นในทันทีหากประชาชนจำข้อความไปนี้ได้ขึ้นใจ

 

"ยาปฏิชีวนะไม่ใช่ยาแก้อักเสบ"

"คออักเสบส่วนใหญ่ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ"

"ยาปฏิชีวนะเป็นยาอันตราย"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปรายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ผ่านมาล่าสุด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แล้วที่ ทุกคน รอคอยคือ คำตัดสินใจของ Fed ธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะปรับลด หรือ จะเลื่อน ไอ้สิ่งที่เราเรียกว่า " วงเงิน QE " มีแค่ 2 ประเด็น คือ

ลดวงเงิน QE ดอลล์สหรัฐ แข็งค่า เงินยูโร อ่อนค่า >>>>>> หรือ >>>>>>>> เลื่อนออกไป ปีหน้า ดอลล์สหรัฐฯ อ่อนค่า เงินยูโร แข็งค่า

 

เป็นสิ่งที่คุณฯ ทุกคนทราบดี แต่ที่ทุกๆ คนใจจดใจจ่อ คือ ราคาทองจะเป็นยังไงหนอ อีกไม่นาน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีเช้าวันพฤหัสที่ 19 เมื่อคืนนี้ Fed ก็เฉลยในสิ่งที่นักลงทุนรอคอยแล้วว่า จะลดวงเงินการเข้าซื้อคืนพันธบัตร 10,000 ล้านเหรียญ เริ่มเดือนมกราคม 2014 จากเดิม 85,000 ล้านเหรียญ เป็น 75,000 ล้านเหรียญ ก็ลด ซื้อคืนพันธบัตร 5,000 ตราสารหนี้ 5,000 ส่วนอื่นๆ ดอกเบี้ย ต่ำเท่าเดิม นโยบายเพิ่มเติมไม่มี ถือว่าน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...