ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

‘เฟด‘ เตรียมทำ Stress Test สถาบันการเงินกว่า 31 แห่ง ทดสอบความแข็งแกร่งทางการเงิน ในสภาวะหุ้นร่วง, ราคาบ้านตก, เศรษฐกิจดิ่งเหว

 

เว็บไซท์ ‘บลูมเบิร์ก‘ ดอทคอม รายงานข่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด เตรียมทำการทดสอบความแข็งแกร่ง ของสถานะทางการเงิน ธนาคารขนาดใหญ่กว่า 31 แห่ง หรือ Stress Test

 

กรณีเผชิญวิกฤตราคาหุ้น และราคาอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ รวมถึงเศรษฐกิจโลกซบเซาอย่างกะทันหัน หรือ stress test ซึ่งรวมถึง เจพีมอร์แกนเชสแอนด์โค และซิตี้กรุ๊ปด้วย

 

โดยที่การทดสอบดังกล่าวจะอาศัยสถานการณ์ที่ไม่ได้คาดมาก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตการเงินซ้ำอีกเช่นในปี 2008 และจะเป็นการตรวจวัดความสามารถของธนาคารกลาง

 

ในยามเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งเฟดจะใช้การทดสอบประเมินว่า ธนาคารแห่งใดจำเป็นต้องเพิ่มทุนหรือไม่ ซึ่งหากธนาคารแห่งใดไม่ผ่านการทดสอบอาจจำเป็นต้องลดการจ่ายเงินปันผล และลดการซื้อหุ้นคืน

 

ทั้งนี้ ในการทดสอบจะใช้สถานการณ์จำลองที่ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ลดลง 60% ในไตรมาส 4 ปีนี้ ราคาบ้านลดลง 25%

 

และอัตราการว่างงานอยู่ที่ 10% ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพีติดลบ 4.5% และราคาน้ำมันอยู่ที่ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ที่มา : MThai (วันที่ 24 ตุลาคม 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หากเปรียบเทียบกับปีก่อนๆ ความเสี่ยงในปี 2015 มองแล้วถือว่าออกจะค่อนข้างเบากว่าที่แล้วๆ มาอยู่เล็กน้อย

 

น่าจะถือเป็นธรรมเนียมของผู้เขียน ที่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของทุกปี จะต้องมีการจัดอันดับเหตุการณ์ที่ถือเป็นความเสี่ยงทางเศรษฐกิจในปีถัดไป เพื่อจะได้ให้ท่านผู้อ่านได้เตรียมหาทางป้องกันผลกระทบที่อาจจะส่งต่อธุรกิจ การงานหรือพอร์ตการลงทุนเสียแต่เนิ่นๆ ในปีนี้ ผู้เขียนได้จัดอันดับไว้ 5 อันดับ โดยเรียงตามโอกาสที่น่าจะเกิดขึ้นประกอบกับระดับขอบเขตของผลกระทบที่น่าจะส่งผลไปสู่ภาคเศรษฐกิจต่างๆ ดังนี้

 

อันดับหนึ่ง “แรงกระเพื่อมของ กรีซ โปรตุเกส และอิตาลี ต่อเสถียรภาพของยูโร และปัญหาเงินฝืด” มา ณ ปี 2015 คงจะสามารถพูดได้ว่าวิกฤติยูโรที่จะรุนแรงถึงขนาดจะแตกออกจากกันไปหมด คงจะไม่เกิดขึ้น ทว่าแรงกระเพื่อมหรือ After Shock จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ก็ยังกลับมาให้เราได้เห็นเป็นครั้งคราว ในปีนี้ที่ประสบกัน ได้แก่ปัญหาแบงก์ในโปรตุเกสเมื่อหลายเดือนก่อนรวมถึงการเปลี่ยนโทนทางการเมืองออกไปทางขั้วที่ค้านยูโรในกรีซเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ก็ได้ทำให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรของประเทศในยุโรปใต้สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทว่าในภาพใหญ่ก็ยังไม่รุนแรงและบานปลายเหมือนเมื่อ 2-3 ปีก่อน

 

อย่างไรก็ดี โฟกัสใหญ่ในปีหน้าของยุโรปกลับพุ่งไปที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป ว่าจะสามารถจัดการกับปัญหาเงินฝืดซึ่งกำลังเกิดขึ้นในหลายประเทศของยุโรปอยู่ในตอนนี้ รวมถึงปัญหาการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซาลงจนกระแสแนวคิดที่ว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจมีความเร่งด่วนกว่ามาตรการรัดเข็มขัดเริ่มกลับมาอีกหน

 

อันดับสอง “จังหวะการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด” ข้ามมาถึงปี 2015 ก็น่าจะถึงช่วงจังหวะเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ตรงนี้ น่าจับตามองว่านางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะส่งสัญญาณให้สหรัฐสามารถขึ้นดอกเบี้ยโดยไม่ไปกระตุกตลาดการเงินและภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐและของโลกได้อย่างไร โดยเอาเข้าจริงแล้ว การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่ผ่านมาในอดีตก็ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจหรือตลาดเงินย่ำแย่ลง ทว่าความยากของโจทย์นี้อยู่ตรงที่ตอนส่งสัญญาณให้ตลาดรับรู้ ต้องทำในจังหวะเวลาที่เหมาะสมโดยพิจารณาทั้งจากสภาพเศรษฐกิจพื้นฐาน โดยเฉพาะตลาดแรงงาน และที่สำคัญการเลือกคำพูดที่สื่อความหมายถึงระยะเวลาที่จะขึ้นดอกเบี้ยนับจากปัจจุบันให้ต่างจากคำว่า "considerable time" น้อยที่สุด แต่ยังสื่อความหมายที่หมายถึงการขึ้นดอกเบี้ยในเร็ววัน ซึ่งผู้เขียนเองก็ไม่มั่นใจเต็มร้อยว่านางเยลเลนจะสามารถกล่อมตลาดให้อยู่หมัดได้หรือไม่หากยังจำกันได้เมื่อกลางปีที่แล้ว มือเก๋าอย่างนายเบน เบอร์นันกี อดีตประธานเฟดเมื่อคิดจะส่งสัญญาณลดปริมาณเงินจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณยังทำได้ไม่เนียนจนเกิดปรากฏการณ์กระตุกตลาดทุนและตลาดการเงินที่เรียกกันว่า "Taper Tantrum"

 

อันดับสาม “โอกาสการไม่เข้าขากันของการทำงานระหว่างนโยบายการเงินและนโยบายรัฐบาลของญี่ปุ่น” อย่างเข้ามาไตรมาสสุดท้าย ผู้เขียนเริ่มเห็นร่องรอยความไม่เป็นทีมเวิร์กที่ดีนักระหว่างรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายชินโซ อาเบะ และ ธนาคารกลางญี่ปุ่น ภายใต้การนำของผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น นายฮารูฮิโกะ คูโรด้า ในการช่วยกันร่วมมือกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดจากวังวนแห่ง 2 ทศวรรษที่หายไป ซึ่งทั้งคู่เคยส่งไม้กันด้วยการสลับกระตุ้นผ่านมาตรการทางการเงิน และ ผ่านมาตรการทางการคลังและการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจได้ค่อนข้างดีเกือบจะตลอดปีครึ่งที่ผ่านมา ซึ่งเราอาจจะต้องรอดูอีกสักนิดว่าเครื่องจักร Abenomics จะกลับมาทำงานแบบเต็มสูบในปีหน้าไหม ซึ่งผมว่าก็น่าจะเดินต่อไปได้แต่เครื่องจะแรงมากไหมอันนี้ต้องดูอีกที

 

อันดับสี่ “จังหวะการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน และจังหวะการกระตุ้นและปฏิรูปของรัฐบาลจีน” ผมคิดว่าตลาดอาจเริ่มจะชินกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่ร้อยละ 7 กว่าๆ รวมถึงแนวคิดและวิธีการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับจีนในปี 2015 คงต้องดูประเด็นหลัก คือ มาตรการของรัฐบาลที่จะมาใช้ในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการเงินหรือการปฏิวัติโครงสร้างทางเศรษฐกิจว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงมากเกินไป เพราะลำพังความมั่งคั่งของทางการจีน น่าจะเป็นตัวช่วยให้สามารถนำพานาวาเศรษฐกิจจีนแล่นผ่านปีหน้าได้ไม่ยากนัก แม้โดยพื้นฐานแล้ว เศรษฐกิจจีนยังมีปัญหาซ่อนอยู่ใต้พรมอยู่เยอะพอสมควร

 

อันดับห้า “วิวัฒนาการของ Geopolitics อาทิ เหตุการณ์ในยูเครน ซีเรีย รัสเซีย และ ฮ่องกง” ปัจจัยนี้ถือว่าเป็นปัญหาที่ค่อนข้างประเมินจังหวะเวลาลำบากและดูแล้วเหมือนจะลากยาว ซึ่งหากจะทำธุรกิจหรือลงทุน อะไร ต้องเผื่อ X-Factor นี้ไว้ด้วย

 

โดยสรุป หากเปรียบเทียบกับปีก่อนๆ ความเสี่ยงในปี 2015 มองแล้วถือว่าออกจะค่อนข้างเบากว่าที่แล้วๆ มาอยู่เล็กน้อย และผู้เขียนเองก็แอบหวังในใจว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ ครับ

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (วันที่ 24 ตุลาคม 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผลการสำรวจโดยบริษัทวิจัย GfK เผยให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเยอรมนีในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.5 จาก 8.4 ในเดือนต.ค. ซึ่งส่งสัญญาณว่าปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั่วโลกและผลกระทบต่อการขยาย ตัวทางเศรษฐกิจ ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของชาวเยอรมนีน้อยลง

 

สำหรับความเชื่อมั่นในเดือนต.ค.มีการปรับเพิ่มขึ้นเป็น 8.4 จากเดิมที่รายงานไว้ว่า 8.3

 

GfK ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเยอรมนีได้รับผลกระทบน้อยลงจากสถานการณ์ทางการ เมืองที่วุ่นวายทั่วโลกและภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ ข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเมื่อเร็วๆนี้ได้จุดปะทุความกังวลว่าเศรษฐกิจ เยอรมนีอาจจะชะลอตัวลง ขณะที่ธนาคารกลางเยอรมนี หรือ บุนเดสแบงก์ เปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์ว่า สถานการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมนีในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะมีความคล้ายคลึงกับในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งเศรษฐกิจของเยอรมนีหดตัวลงเล็กน้อย

 

 

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24/10/2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองปิดสัปดาห์ สรุปสุดท้ายที่ตัวเลข 1231 ประมาณนี้ ตัวเลขด้านแนวรับ อันดับ 2 ของขาเสี่ยงฝรั่ง ด้าน Short Position ซึ่งทำให้พอมองแล้ว ดูเหมือนกับเข้าเกณฑ์เสี่ยงขา Long แต่ตัวเลขขาเสี่ยงนี้ เป็นของเก่า อาทิตย์ที่ผ่านมา ต้องรออันใหม่ที่จะออกมาในวันจันทร์ก่อน ท่าจะดีกว่า

 

อนึ่ง ถึงแม้ว่าบางคนจะกล่าวว่า นี่ไง เข้าเกณฑ์ สูงกว่า เหนือกว่า มากกว่า 1228 ซื้อได้ ซื้อได้ ........ แต่ระดับการตั้งราคาขายทอง เช้านี้ วันเสาร์ ระดับกั๊กสูงที่ ขายออก 18,950 ยังไง วันจันทร์ จังหวะทดสอบ 1226-1228 น่าจะเกิดอีก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ใน แมคฯ รหัส 5,35,9 ของดอลล์สหรัฐฯ : เส้นดำเส้นแดง ความเดิม คืออยู่ในภาวะดอลล์อ่อนค่า แต่ขณะนี้ วิ่งประชิดติดกันขนานกัน ถ้าสมมุติเกิดอาการตัดกัน ของเส้นดำเส้นแดง ก็จะเปลี่ยนสถานะเป็น ดอลล์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้น ราคาทองก็จะย่อตัว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถ้าเกิดตัดกันจริง เงินบาท ก็มีจังหวะ อ่อนค่าลงไปแตะ 32.50 แต่ปิดรายอาทิตย์นี้ที่ 32.41

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พอมาขยายเส้นดำเส้นแดง ก็จะเห็นว่า ราคาทองย่อลงมา ทำให้เส้นดำเส้นแดงที่เคยถ่างออกจากกัน มาประชิดจัองตากัน คล้ายกับว่า อาทิตย์หน้าต้นๆ อาทิตย์ จะตัดกัน แล้วเปลี่ยนสถานะส่งสัญญานนำทางบ่งบอกในด้านลบ ก็คอยติดตามดูกันไปนะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตารางรายงานเศรษฐกิจทั้งของยุโรป และ สหรัฐฯ ที่จะออกวันจันทร์ : ของเยอรมัน ตามโพลฯ ก็ไม่เป็นผลดีต่อราคาทอง / ส่วนของสหรัฐฯ ยามค่ำ ตัวเลขขายบ้านฯ ตามโพลฯ ก็ออกมาดี ซึ่งส่งผลด้านลบ ต่อราคาทอง สรุปว่า ถ้าออกมาตามโพลฯ ราคาทองก็ย่อ โดยมีแนวรับ ที่ 1226 และ 1218 ตามลำดับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันลงแรงกังวลอุปสงค์ หุ้นมะกันและทองคำขยับขึ้น

 

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 ตุลาคม 2557 04:29 น.

 

 

 

 

 

เอพี/เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - น้ำมันโลกดิ่งลงแรงอีกครั้งเมื่อวันศุกร์(24ต.ค.) นักลงทุนไม่มั่นใจว่าทิศทางขาขึ้นหนึ่งวันก่อนหน้านี้จะยั่งยืนแค่ไหน ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกคึกคักจากผลผระกอบการของไมโคซอฟต์ ขณะที่ทองคำก็ปรับขึ้นเช่นกัน หลังความกังวลต่ออีโบลาก่ออุปสงค์สินทรัพย์เสี่ยงต่ำ

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 81.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 70 เซนต์ ปิดที่ 86.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

เมื่อวันพฤหัสบดี(23ต.ค.) น้ำมันฟื้นตัวขึ้นจากข่าวที่ว่าซาอุดีอาระเบียได้ลดการส่งออก อย่างไรก็ตามในวันศุกร์(24ต.ค.) มีความเคลืองแคลงบางอย่างต่อลักษณะการปรับลดของริยาด ขณะที่นักสังเกตการณ์บางคนชี้ว่าอปสงค์พลังงานนั้นอ่อนแอเกินกว่ามาตรการเชิงรุกที่เหล่าชาติผู้ผลิตงัดออกมาใช้เพื่อผยุงราคาจะรับมือได้

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวานนี้(24ต.ค.) ปิดบวกอย่างแข็งแกร่งในวันสุดท้ายของสัปดาห์ จากแรงหนุนรายงานผลประกอบการไมโครซอฟต์และบริษัทอื่นๆ ที่บดบังรายงานอันซึมเซาของอะเมซอน

 

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 127.51 จุด (0.76 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,805.41 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 13.76 จุด (0.71 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,964.58 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 30.93 จุด (0.69 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,483.72 จุด

 

หุ้นของไมโครซอฟต์ ทะยานถึงร้อยละ 2.6 ขณะที่รายได้ช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2015 ของบริษัทออกมาดีเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมาย อย่างไรก็ตามตลาดถูกฉุดรั้งเล็กน้อยจากหุ้นของอะเมซอน ที่ปรับลดถึงร้อยละ 8.3 หลังมีผลประกอบการช่วงไตรมาส 3 ขาดทุนเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า เป็น 437 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ส่วนราคาทองคำเมื่อวันศุกร์(24ต.ค.) ฟื้นตัวจากการปรับลด 2 วันติด หลังนักลงทุนแสวงหาสินทรัพย์เสี่ยงต่ำอีกครั้ง จากความกังวลต่อการแพร่ระบาดของอีโบลาในสหรัฐฯ หลังพบแพทย์คนหนึ่งในนิวยอร์ก เป็นเหยื่อรายล่าสุดที่ติดเชื้อ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,231.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประโยคนี้ อ่านแล้ว : ฟื้นตัวจากการปรับลด 2 วันติด หลังนักลงทุนแสวงหาสินทรัพย์เสี่ยงต่ำอีกครั้ง

 

จากความกังวลต่อการแพร่ระบาดของอีโบลาในสหรัฐฯ หลังพบแพทย์คนหนึ่งในนิวยอร์ก เป็นเหยื่อรายล่าสุดที่ติดเชื้อ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,231.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...