ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ทองตลาดโลกร่วง 31.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ดาวโจนส์บวก 225 จุด น้ำมันดิบขยับขึ้นแค่ 8 เซ็นต์ (30/01/2558)

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมา (29 ม.ค.) ปรับเพิ่มขึ้นแรง หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐออกมาเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2543 นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับปัจจัยบวกจากกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดได้ปรับเพิ่มการประเมินเศรษฐกิจภายในประเทศ

 

ทำให้หลังปิดตลาดดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 17,416.85 จุด บวก 225.48 จุด หรือ +1.31% ดัชนี แนสแดค ปิดที่ระดับ 4,683.41 จุด บวก 45.42 จุด หรือ +0.98% และดัชนี เอสแอนด์พี500 ปิดที่ระดับ 2,021.25 จุด บวก 19.09 จุด หรือ +0.95%

 

ด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก(NYMEX) ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยราคาส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 8 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 44.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอนส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับเพิ่มขึ้น 66 เซนต์ ปิดตลาดที่ระดับ 49.13 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดอยู่ หลังสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์เพิ่มขึ้น

 

ด้านราคาทองคำที่ตลาดล่วงหน้านิวยอร์ก(NYMEX)เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 ม.ค.)ปรับลดลงแรง โดยราคาส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลงถึง 31.30 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.43% ปิดตลาดที่ระดับ 1,255.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ทั้งนี้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังเฟดได้มีการปรับเพิ่มการประเมินภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐด้วย

 

ที่มา : มติชนออนไลน์ (วันที่ 29 มกราคม 2558)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนยืนยันคัดค้านแนวคิดของนายอเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกรีซ ที่ต้องการเจรจาเพื่อขอลดมูลค่าหนี้สินของกรีซ และปรับแก้เงื่อนไขการกู้ยืมเงินจากยุโรปและไอเอ็มเอฟ

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐมนตรีคลังจากประเทศกลุ่มยูโรโซนประชุมร่วมกันในวันจันทร์ (26 มกราคม) ภายหลังการเลือกตั้งในกรีซเสร็จสิ้นลง และนายอเล็กซิส ซีปราส หัวหน้าพรรคซีรีซาซึ่งคว้าชัยชนะในการเลือกตั้ง สาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกรีซ โดยกลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซนกล่าวว่าจะเริ่มต้นการเจรจาเรื่องการให้เงินช่วยเหลือรอบใหม่กับกรีซ แต่เตือนว่าจะเป็นกระบวนการเจรจาที่ยากลำบาก

นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังยูโรโซนกล่าวยืนยันว่า จะไม่ยอมรับข้อเรียกร้องของนายซีปราส ที่ต้องการขอลดมูลค่าหนี้สินก้อนโตที่กู้ยืมมาจากสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ในช่วงที่ผ่านมา "ผมไม่คิดว่าจะมีใครในยูโรโซนให้การสนับสนุนกับเรื่องดังกล่าวมากนัก" นายเยอรอน ดิจเซลบลอม รัฐมนตรีคลังเนเธอร์แลนด์ ในฐานะประธานกลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซน กล่าว

ขณะที่นายอเล็กซานเดอร์ สตับบ์ รัฐมนตรีคลังฟินแลนด์ กล่าวว่า ยูโรโซนยินดีที่จะเจรจายืดระยะเวลาการชำระหนี้ของกรีซออกไปเพื่อช่วยให้กรีซมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการลดหนี้ให้กับกรีซ เช่นเดียวกับนายไมเคิล นูแนน รัฐมนตรีคลังของไอร์แลนด์ ซึ่งเคยรับเงินช่วยเหลือจากยุโรปและไอเอ็มเอฟในระหว่างปี 2553-2556 ที่สนับสนุนการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อให้กรีซมีกำลังในการชำระคืน

"ปัญหาของกรีซไม่ใช่การยกเลิกหนี้ แต่เป็นความสามารถในการชำระคืน ซึ่งหมายถึงอัตราดอกเบี้ยและกำหนดเวลาชำระหนี้ ดังนั้นผมขอเสนอให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ผมดูตัวเลขแล้วและเห็นว่ามีทางเป็นไปได้" นายนูแนน กล่าว

ด้านนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการใหญ่ของไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า "สมาชิกยูโรโซนมีกฎที่ต้องปฏิบัติตาม เราไม่สามารถยกเว้นให้กับประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นพิเศษได้" ทั้งนี้ กรีซกู้ยืมเงินจากยุโรปและไอเอ็มเอฟเป็นมูลค่า 2.4 แสนล้านยูโรนับตั้งแต่เกิดปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะในปี 2553

อย่างไรก็ตาม นายซีปราสแสดงท่าทีว่าจะเดินหน้าทำตามคำมั่นที่ให้ไว้ตอนหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งการเผชิญหน้าระหว่างกรีซและสมาชิกยูโรโซนอื่นๆ อาจนำมาซึ่งการประนีประนอมและผ่อนปรนเงื่อนไขบางประการ "ค่อนข้างชัดเจนว่ายูโรโซนจะยืดเวลาให้กรีซอีก 3-4 เดือนเพื่อให้กรีซจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ก่อนจะเริ่มการเจรจา" เจคอบ ฟังก์ เคิร์กเกการ์ด นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันเศรษฐศาสตร์นานาชาติปีเตอร์สัน ในสหรัฐอเมริกา ให้ความเห็น

รัฐบาลผสมใหม่ของกรีซภายใต้การนำของนายซีปราสมีเวลาเหลืออีกไม่มากนักก่อนที่กรีซจะประสบปัญหาด้านการเงิน โดยกรีซยังต้องเจรจาเพื่อรับเงินช่วยเหลืองวดสุดท้าย 7 พันล้านยูโรภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะเป็นการสิ้นสุดโครงการรับเงินช่วยเหลือ อย่างไรก็ดี ต่อจากนี้กรีซยังมีภาระค่าใช้จ่ายอีกเป็นจำนวนมาก มีการประเมินว่ากรีซต้องการเงินเพื่อใช้จ่ายสำหรับปี 2558-2559 เป็นมูลค่าประมาณ 2.8 หมื่นล้านยูโร ในจำนวนดังกล่าว 4.3 พันล้านยูโรเป็นภาระหนี้ที่ครบกำหนดชำระเดือนมีนาคม และอีก 6.5 พันล้านยูโรครบกำหนดชำระในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม

ทั้งนี้ พรรคซีริซาของนายซีปราสคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 25 มกราคม ด้วยคะแนนเสียง 149 จาก 300 ที่นั่งในสภา และนายซีปราสสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์กรีซในวัย 40 ปี หลังจากจับมือกับพรรคอินดีเพนเดนท์กรีกเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมได้สำเร็จ

นักวิเคราะห์มองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเผชิญหน้าระหว่างกรีซและยุโรป แม้ว่าในที่สุดพรรคซีริซาจะถูกบังคับให้เป็นฝ่ายอ่อนข้อ "ยูโรโซนจะไม่รับข้อเสนอของซีปราส เขามีอำนาจต่อรองน้อยมาก" นายดิมิทริส ดราโคปูลอส จากวิเคราะห์จากโนมูระ ให้ความเห็น

 

ที่มา:หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ(30/01/2558)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินหยวนอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อต้นสัปดาห์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่ธนาคารกลางของจีน หรือ พีบีซี นำมาใช้เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว

อัตราอ้างอิงช่วงเช้า (ซึ่งโดยหลักก็ใช้เป็นเกณฑ์กำหนดทิศทางการค้าสกุลเงินตราของวันนั้น) ที่พีบีซีประกาศเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา กำหนดให้ค่าเงินหยวนอ่อนลง จากนั้นก็ผู้ค้าก็ค้าเงินหยวนกันในอัตรากดต่ำลงมาอีกจนชิดช่วงห่างการซื้อขาย (trading band) ในฟากต่ำสุดซึ่งกำหนดกรอบไว้ไม่เกินอัตราอ้างอิงของพีบีซี 2% (ช่วงห่างดังกล่าวเดิมกำหนดไว้ 1% แต่เพิ่งขยายเพิ่มเป็น 2% เมื่อเดือนมีนาคม 2557) ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนอยู่ที่ 6.2537 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯเมื่อวันจันทร์ก่อนที่จะแข็งขึ้นเล็กน้อยที่ 6.1384 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

ตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนที่เผยแพร่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนกำลังเติบโตในอัตราช้าที่สุดในรอบ 25 ปี เป็นที่คาดหมายว่าค่าเงินที่อ่อนตัวลงจะช่วยกู้สถานการณ์นี้ได้ในสองส่วนด้วยกัน คือด้านการส่งออกและด้านเงินเฟ้อ เนื่องจากค่าเงินหยวนที่อ่อนลงจะทำให้สินค้าจีนที่ส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ สามารถแข่งขันด้านราคาได้มากขึ้น ส่วนด้านเงินเฟ้อนั้น เนื่องจากในระยะหลังๆนี้ เงินเฟ้อของจีนลดลงมาอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ทำให้มีความกังวลกันว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจนำไปสู่ภาวะเงินฝืด แต่เมื่อเงินหยวนอ่อนค่าลงมา ต้นทุนนำเข้าสูงขึ้นก็จะช่วยให้เงินเฟ้อขยับสูงขึ้นได้

นอกเหนือจากนโยบายค่าเงินแล้ว ทางการจีนยังนำอีกหลากหลายมาตรการมาใช้เพื่อช่วยให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น ซึ่งนั่นรวมถึงมาตรการด้านดอกเบี้ย โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จีนได้ปรับลดดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี และล่าสุดก็ปรับลดอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป้าหมายก็เพื่อกระตุ้นให้มีการปล่อยกู้มากขึ้น

ข่าวระบุว่าก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางของจีนเคยมีนโยบายให้เงินหยวนแข็งค่ามากกว่านี้ แต่ปัจจุบันดูเหมือนว่า นโยบายดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ตรงข้ามกันแล้ว นักวิเคราะห์จากธนาคารเอเอ็นแซด ให้ความเห็นว่า การซื้อขายสกุลเงินตราของจีนเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า ธนาคารกลางจีนได้เทขายเงินหยวนมูลค่า 2.31 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับว่าเป็นการเทขายมูลค่าสูงที่สุดนับจากเดือนมกราคม 2543 เป็นต้นมา "การเข้าแทรกแซงเมื่อเดือนธันวาคม ชี้ให้เห็นว่า พีบีซียังไม่ค่อยพอใจเกี่ยวกับการอ่อนค่าของเงินหยวนมากนัก" คูน โกห์ นักวิเคราะห์ของธนาคารเอเอ็นแซดกล่าว

ในปี 2557 ค่าเงินหยวนอ่อนลงไปแล้ว 2.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นการอ่อนตัวลงมากที่สุด (เมื่อคำนวณรายปี) และเป็นการอ่อนค่าลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ส่วนปีนี้ ตั้งแต่ต้นปีมา เงินหยวนอ่อนค่าลงแล้ว 0.9% นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งก็มองว่านโยบายค่าเงินอ่อนเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่พีบีซีนำมาใช้เพื่อให้ค่าเงินหยวนเป็นไปตามกลไกของตลาดมากขึ้น และเป็นที่ยอมรับในระดับสากลมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นโยบายค่าเงินอ่อนนี้จำเป็นต้องนำมาใช้ด้วยความระมัดระวัง นายเค่อเว่ย หยาง หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ดอกเบี้ยของบริษัท มอร์แกน สแตนลีย์ฯ ในฮ่องกง ให้ความเห็นว่า ธนาคารกลางต้องมีความระมัดระวังเมื่อนำนโยบายทำให้ค่าเงินอ่อนมาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯกำลังแข็งขึ้น "เพราะนั่นอาจส่งผลให้ค่าเงินหยวนยิ่งอ่อนยวบลงไปมากขึ้น"

 

ที่มา:หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ(30/01/2558)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานประชุมแบงก์ชาติบราซิลส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยหวังคุมเงินเฟ้อ (30/01/58)

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

รายงานการประชุมของธนาคารกลางบราซิลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีการเปิดเผยในวันนี้ บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

 

รายงานระบุว่า ความคืบหน้าในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังคงมีไม่เพียงพอ ส่งผลให้มีการคาดการณ์กันว่าธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.

 

ธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 12.25% ในการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้นจาก 11.75%

 

ธนาคารกลางเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนเม.ย.2013 ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.25% และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 6.49%

 

ในปีที่แล้ว อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 6.41% โดยอยู่สูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 4.5%

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29/01/58)

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"เอสแอนด์พี" ประกาศปรับลดเครดิตรัสเซียสู่ระดับขยะเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีหลังเศรษฐกิจเจอพิษราคาน้ำมัน ค่าเงินรูเบิลดิ่ง และการแซงก์ชันจากตะวันตก

สถาบันจัดอันดับเครดิต สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส หรือ เอสแอนด์พี ประกาศปรับลดอันดับเครดิตของรัสเซียลงเหลือ BB+ ด้วยแนวโน้มเป็นลบ ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าระดับลงทุนเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี โดยให้เหตุผลว่า รัสเซียไม่มีความยืดหยุ่นในการใช้นโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และมีระบบการเงินที่อ่อนแอลง

เอสแอนด์พีกล่าวว่า ธนาคารกลางรัสเซียมีความยากลำบากเพิ่มมากขึ้นในการตัดสินใจใช้นโยบายทางการเงินเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจให้ได้อย่างยั่งยืน "ความท้าทายเหล่านี้เป็นผลจากปัญหาเงินเฟ้อที่เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลง และมาตรการคว่ำบาตรจากตะวันตก ตลอดจนมาตรการตอบโตการคว่ำบาตรที่รัสเซียนำมาใช้เอง"

รัสเซียเผชิญกับแรงกดดันจากสหรัฐฯ และยุโรปจากปัญหาความไม่สงบในยูเครน และการผนวกแคว้นไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ขณะเดียวกัน ค่าเงินรูเบิลที่อ่อนค่าลงถึง 51% ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมายิ่งทำให้ปัญหาเงินเฟ้อในประเทศรุนแรงขึ้น บีบให้ธนาคารกลางรัสเซียต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยไปถึงระดับ 17% ส่งผลกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ รายได้หลักของประเทศจากน้ำมันก็หดหายไปเนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงมาอย่างมาก

เอสแอนด์พี ซึ่งเป็นหนึ่งในสามสถาบันจัดอันดับเครดิตรายใหญ่ของโลก กล่าวว่า มีโอกาสที่อันดับเครดิตของรัสเซียจะถูกปรับลดลงได้อีก ขณะที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส และฟิทช์ เรตติ้งส์ ยังคงอันดับเครดิตของรัสเซียไว้ที่ระดับการลงทุน ทำให้ผลกระทบจากการปรับลดเครดิตของเอสแอนด์พีไม่รุนแรงนัก อย่างไรก็ดี อันดับเครดิตของรัสเซียโดยมูดีส์และฟิทช์ก็อยู่ในระดับที่ใกล้กับระดับขยะและมีความเป็นไปได้ที่จะถูกปรับลดลง

ด้านสำนักข่าวของรัสเซียรายงานว่า นายอันตอน ซีลูอานอฟ รัฐมนตรีคลังรัสเซีย กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลที่จะต้องตื่นตระหนกกับสถานการณ์จนเกินจริง พร้อมระบุว่ารัสเซียจะต้องสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือระดับลงทุนจากสถาบันจัดอันดับอย่างน้อย 2 แห่ง ก่อนที่นักลงทุนจะถอนทุนออกจากสินทรัพย์ของรัสเซีย

ขณะที่ทิม แอช นักยุทธศาสตร์จากสแตนดาร์ดแบงก์ กล่าวว่าไม่แปลกใจกับการตัดสินใจของเอสแอนด์พี และเชื่อว่าฟิทช์และมูดีส์จะลดเครดิตตาม เนื่องจากปัจจัยกดดันด้านลบต่อเศรษฐกิจรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันและการคว่ำบาตรไม่มีท่าทีว่าจะคลี่คลาย

 

ที่มา:หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ(30/01/2558)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รมว.คลังยันกรีซไม่งัดข้อกับเจ้าหนี้ แค่ต้องการสางปัญหาหนี้สิน (30/01/58)

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

นายยานิส วาโรฟาคิส รัฐมนตรีคลังที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ของกรีซ เปิดเผยว่า รัฐบาลผสมชุดใหม่ของกรีซที่นำโดยพรรคฝ่ายซ้าย ไม่ต้องการขัดแย้งกับบรรดาเจ้าหนี้ แต่ต้องการให้มีข้อตกลงฉบับใหม่เพื่อจัดการกับปัญหาหนี้สิน

 

รมว.คลังกรีซกล่าวระหว่างพิธีส่งมอบตำแหน่งที่กระทรวงการคลังในกรุงเอเธนส์ว่า "เราจะยุติกระแสข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งกับบรรดาเจ้าหนี้ จะไม่มีความบาดหมางระหว่างรัฐบาลของเราและสหภาพยุโรป (อียู) และจะไม่มีการคุกคามใดๆทั้งสิ้น"

 

เขาระบุว่า รัฐบาลผสมชุดใหม่ภายใต้การนำของพรรคไซรีซา ที่เป็นพรรคฝ่ายซ้าย กับพรรคอินดิเพนเดนท์ กรีกส์ ที่เป็นพรรคฝ่ายขวานั้น ซึ่งได้มีการจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมาหลังการเลือกตั้งครั้งใหญ่ทั่วประเทศนั้น จะพยายามบรรลุข้อตกลงชั่วคราวกับบรรดาเจ้าหนี้เพื่อเชื่อมโยงโครงการต่างๆก่อนหน้านี้เข้ากับข้อตกลงใหม่ ซึ่งจะมีวัตถุประสงค์ในการจัดการกับวิกฤตหนี้ของกรีซโดยใช้วิธีการที่แตกต่างออกไป

 

นายวารโรฟาคิสระบุว่า เขาตั้งใจจะหารือแนวคิดเกี่ยวกับแผนการขยายตัวและการลงทุนทางเลือกทั่วภูมิภาคยุโรปในระหว่างการประชุมร่วมกับนายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป ซึ่งจะเดินทางเยือนกรุงเอเธนส์ในวันศุกร์ และในการประชุมร่วมกับรมว.คลังของอิตาลีและฝรั่งเศสในช่วงเวลาต่อไป

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29/01/58)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1. รอมา 1273-1274 แล้วแทงลง คือขายก่อน แล้วมาคอยซื้อคืน แถวๆ 1250-1252 ถือว่า Matched ซื้อขาย

2. รอมา 1239-1240 แล้วแทงขึ้น คือ ซื้อเข้า แล้วมาขายที่ 1255-1257 ถือว่า Matched ซื้อขาย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีเช้าวันเสาร์ วันที่เด็กนักเรียน ม. 3 ต้องมาสอบ O Net ตามสถาบันศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ / ราคาทองจากที่ย่อมาวันก่อนที่ 1260 ทำให้รหัส 5,35,9 สัญญานนำทางราคาทองตัดกันของเส้นดำเส้นแดง เปลี่ยนสถานะเป็นด้านขาย ด้านลบ ต่อราคาทอง แต่ที่ไหนได้ เมื่อคืนที่ผ่านมา ราคาทองกลับขึ้นไปอยู่ที่ 1283 จุด Sideway วนเวียนหาทางไปไม่เจอของตัวเลขขาเสี่ยง ที่อยู่ระหว่าง 1277-1293

 

LONG GOLD above 1294 SL 1291 TP 1306-1320-1342-1350

SHORT GOLD below 1276 SL 1279 TP 1252-1236-1222

 

ถึงแม้ว่า ค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ จะแข็งค่าขึ้น แต่ราคาทองไม่ลง มีความเป็นไปได้ 2 อย่างคือ

1. ตลาดหุ้นดาวโจนส์ร่วง นักลงทุนย้ายการลงทุนมาไว้ที่ราคาทอง

2. ปัญหาของกรีซ รัฐบาลใหม่ยังเจรจาเรื่องของการชำระหนี้ และนโยบายรัดเข็มขัด ไม่เรียบร้อยในบางเรื่อง

 

แต่ในรหัส 5,35,9 ของราคาทองที่ปิดตลาดเมื่อเช้าตรู่วันนี้ สถานะก็ยังคงอยู่ในด้านลบต่อราคาทอง เส้นดำเส้นแดง ไม่ได้มีการตัดกันในรอบใหม่นะครับ จึงแจ้งมาเพื่อให้พิจารณา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 5,35,9 ของค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ ก็คงสถานะด้านแข็งค่า ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ประการใด [/size]

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผลเจรจากรีซ VS ยุโรปยกแรกคว้าน้ำเหลว ต่างฝ่ายกร้าวไม่มีอ่อนข้อ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 31 มกราคม 2558 00:18:38 น.

การประชุมกันในวันนี้เกี่ยวกับโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินต่อกรีซระหว่างนายยานิส วารูเฟกิส รมว.คลังกรีซ และนายเจโรน ดิเซลบลูม หัวหน้ากลุ่มยูโรกรุ๊ป ไม่ประสบความคืบหน้าแต่อย่างใด

 

โดยนายวารูเฟกิสได้ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับกลุ่มทรอยก้า หรือกลุ่มเจ้าหนี้ของกรีซที่ประกอบด้วยสหภาพยุโรป (EU) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) รวมทั้งไม่เห็นด้วยต่อข้อเสนอที่ให้มีการขยายโครงการดังกล่าวออกไป และการให้มีเจ้าหน้าที่ระหว่างประเทศเข้าตรวจสอบกรีซเกี่ยวกับการปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญา

 

 

 

ทางด้านนายดิเซลบลูมยืนยันให้กรีซปฏิบัติตามเงื่อนไขภายใต้ข้อตกลงให้เงินช่วยเหลือ 2.40 แสนล้านยูโร และปฏิเสธข้อเสนอของนายวารูเฟกิสที่ต้องการให้มีการจัดประชุมพิเศษว่าด้วยเรื่องหนี้ของกรีซเป็นการเฉพาะ

 

นายวารูเฟกิสกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาต้องการทำข้อตกลงฉบับใหม่ที่จะทดแทนมาตรการรัดเข็มขัดที่กรีซถูกบังคับให้ใช้ในปัจจุบันเพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ

 

นายวารูเฟกิสจะเดินทางไปพบปะกับรมว.คลังของอังกฤษ, อิตาลีและฝรั่งเศสในสัปดาห์หน้าเพื่อขอการสนับสนุนในเรื่องดังกล่าว

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...