ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สวัสดีตอนเช้าวันพุธ ที่น่าจะแสนวุ่นวาย อาจจะต้องรับบัตรคิวยาว เพื่อขายทองทิ้ง ที่ซีคอนฯ ศรีนครินทร์ โดยที่ต้องมาลุ้นว่า ณ. คิวตัวเองจะได้ราคาที่เท่าไหร่

 

มาดูกราฟรหัส 12,26,9 และ 5,35,9 เส้นสองเส้นก็ยังถ่างไม่ได้คิดจะตัดกันเลย การที่จะบอกเป็นขาขึ้นเต็มปากเต็มคำ ไม่สามารถที่จะกล่าวได้ เพราะราคาทองต้องขึ้นถึงระดับหนึ่งก่อน เส้นสีแดงถึงจะสามารถตัดกับเส้นดำได้ ดังนั้น ในขณะนี้ คือความเสี่ยง ที่อาจจะขึ้นแล้วขึ้นต่อ หรือ การขึ้นแล้วก็ลง มันไม่ใช่การขึ้นแบบขึ้นๆๆๆ จึงต้องทำใจรับความเสี่ยง ถ้าคาดและคิดว่า จะเข้าซืี้อทองแท่งในวันนี้ ซึ่งเป็นวันเปิดขายวันแรกหลังจากหยุดเทศกาลสงกรานต์

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เวปล่มแต่เช้า สงสัยเข้ามา ล็อคอิน กันมาก. มาต่อคำสนุกๆ รอคิวดีกว่า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กระแสแรง แย่งบัตรคิวหน้าร้านฮั่วเซงเฮง สาขาซีคอน ตั้งแต่ 10.30 น.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองดิ่ง​เหว​แรงสุด​ในรอบ 30 ปี รูดลงหลุด2หมื่น!(17/04/2556)

ช่วงนี้นักสะสมทองต้องจับตากันว่า​เกิดอะ​ไรขึ้นกับราคาทองคำ ที่ล่าสุดทุบสถิติ​เป็นประวัติ​การณ์ ​ในรอบ 30 ปี ด้วย​การร่วงลง​ไป​ถึง 2,350 บาท ​โดยทอง​แท่งวันนี้ขายออกบาทละ 19,000 บาท รูปพรรณขายออก 19,400 บาท ​ผู้​เชี่ยวชาญชี้ปมจาก ธนาคารกลางยุ​โรป​เทขายทองล้างหนี้-​เหตุบึ้มกลางงานวิ่งมาราธอน​ในสหรัฐฯ

 

สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทอง 96.5% ประจำวันที่ 17 ​เม.ย.2556 ​เวลา 09:30 น. (ครั้งที่ 1) ทองคำ​แท่ง รับซื้อคืนบาทละ 18,900 บาท ขายออก 19,000 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อคืน 18,631.64บาท ขายออก 19,400 บาท ลดลง 2,350 บาท ​เทียบปิดตลาดวันที่ 12 ​เม.ย.

 

น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธาน​เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วาย​แอลจี บูล​เลี่ยน ​แอนด์ ฟิว​เจอร์ ​เผยว่า ราคาทองคำช่วงสงกรานต์​ในตลาด​โลกลดลงอย่างรุน​แรง จากราคา​เมื่อวันที่ 12 ​เม.ย.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลงมาอยู่ที่ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ​หรือลดลง​ถึง 260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถือ​เป็น​การปรับลดลง​แรงที่สุดตั้ง​แต่ปี 2526 ​หรือ​ในรอบ 30 ปี ​แต่​เนื่องจากสมาคมค้าทองคำ​และตลาดอนุพันธ์ ปิด​ทำ​การ​ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ ​และจะ​เปิดอีกครั้งวันพรุ่งนี้ ​ซึ่งคาดว่านักลงทุนบางส่วนอาจจะอยู่​ในสถาน​การณ์ตื่นตระหนก คาดว่าสมาคมค้าทองคำ จะประกาศราคาทองต่ำกว่าบาทละ 20,000 บาท ​โดยอาจจะลงมา​ถึง 18,000 บาท

 

สำหรับสา​เหตุที่​ทำ​ให้ราคาทองคำลดลง​แรง ​เนื่องจากกระ​แสข่าวว่าธนาคารกลางของ​ไซปรัส​เตรียมขายทองคำที่ถืออยู่ 13 ตัน ​เพื่อระดมทุน 400 ล้านยู​โร ​เพื่อ​แก้วิกฤติหนี้ ​ทำ​ให้​เกิด​ความวิตกว่า ธนาคารกลางของอิตาลีที่ถือทองคำอยู่ 2,000 ตัน กรีซ​และ​โปรตุ​เกสถือทองคำรวมกัน 300 ตัน อาจจะ​เทขายทองคำออกมา​เช่นกัน ขณะที่กองทุนต่างๆ ​ได้​เทขายทองคำออกมาก่อนหน้านี้ ยิ่ง​เป็น​การซ้ำ​เติม​ทำ​ให้ราคาทองคำลดลงต่อ​เนื่อง จนหลุด​แนวรับสำคัญที่ 1,530 ​และ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ลงมา ประกอบกับ​เหตุวางระ​เบิด​ในสหรัฐยัง​เป็นอีกหนึ่งตัว​แปรที่​ทำ​ให้ราคาทอง ลดต่ำลงอีกด้วย

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์(วันที่ 17 เมษายน 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

*บาท/ดอลลาร์เช้านี้แข็งค่า ตามสกุลเงินเอเชีย, นักลงทุนลดถือดอลล์ (17/04/2556)

บาท/ดอลลาร์ในวันทำการวันแรกหลังหยุดยาว แข็งค่าจากเมื่อวันศุกร์

ตามทิศทางสกุลเงินอื่นๆในเอเชีย หลังนักลงทุนลดถือครองดอลลาร์ที่มี

ปัจจัยกดดัน

*เยนอ่อนค่าลงในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียเช้านี้ โดยเผชิญกับแรงกดดัน

ระลอกใหม่ หลังราคาทองทรงตัวจากการดิ่งลงอย่างหนักช่วงต้นสัปดาห์นี้

*ดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.1% จากระดับช่วงท้ายตลาดนิวยอร์ค โดยดีดตัวขึ้น

จากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ที่ 95.67 เยน แต่ดอลลาร์ยัง

คงร่วงลงกว่า 2% จากระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ใกล้ระดับ 100 เยน

ที่ทำไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว

*การดิ่งลงเป็นประวัติการณ์ของราคาทองเมื่อวันจันทร์ และความวิตกใหม่

เกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อเยน หลัง

เทขายออกมาเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเชิงรุกของธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)

*มูดี้ส์ฯ ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลจีน ที่ Aa3

เมื่อวันอังคาร แต่ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือลงสู่"มีเสถียรภาพ"

จาก "เชิงบวก"

*มูดี้ส์ฯระบุว่า จีนมีความคืบหน้าน้อยกว่าคาดในกระบวนการลดความเสี่ยง

ด้วยการสร้างความโปร่งใสให้แก่การก่อหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น และในการ

ควบคุมการขยายตัวของสินเชื่อ

*ข้อมูลของสหรัฐเมื่อวานระบุว่า ราคาผู้บริโภคลดลง และผลผลิตภาค

อุตสาหกรรมชะลอตัวลง ซึ่งช่วยหนุนเหตุผลที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)

จะคงมาตรการกระตุ้นทางการเงินต่อไป

*ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังพุ่งทะลุแนวต้านแข็งแกร่งที่ระดับ

1.3110/1.3120 โดยยูโรอยู่ที่ 1.3179 ดอลลาร์

*ตลาดจะจับตาดูการประชุมกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว และกำลังพัฒนา 19

ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป(จี-20) ที่จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ที่ กรุง

วอชิงตัน ซึ่งรมว.คลังและนักการธนาคารกลางจากกลุ่มจี-20 จะหารือ

เรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจซึ่งรวมถึงวิกฤติไซปรัส

*อัตราแลกเปลี่ยน บาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคาร

ของ ธปท.วันนี้ อยู่ที่ 29.040 บาท

*09.45 น.บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 28.95/98 จาก 29.02/07 เมื่อวันศุกร์

ขณะที่ใน offshore อยู่ที่ 28.94/98 จาก 29.015/065 เมื่อวันศุกร์

*เยน/ดอลลาร์ อยู่ที่ 98.22/27 จาก 97.49 ในนิวยอร์คเมื่อวานนี้

*ยูโร/ดอลลาร์ อยู่ที่ 1.3175/79 จาก 1.3177 ในนิวยอร์คเมื่อวานนี้

 

 

 

 

 

"เงินบาทเช้านี้แข็งค่าค่อนข้างแรง เป็นไปตามสกุลเงินเอเชีย ที่แข็งค่าขึ้น มาหมด โดยเงินบาทเปิดมาก็เจอข่าวดีเลย แนวโน้มยังไปได้ต่อ เพราะคนยังทิ้งดอลลาร์" ดีลเลอร์ กล่าว

 

 

ดีลเลอร์ กล่าวว่า เงินบาทรอดพ้นจากความปั่นป่วนในตลาดหุ้น ทอง และ สินค้าโภคภัณฑ์ หลังเมื่อวันจันทร์ราคาทองร่วงลงอย่างหนัก จากตัวเลขเศรษฐกิจจีน ในไตรมาสแรกที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดไว้ และยังกดดันตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานนี้ ก่อนที่ เช้านี้ตลาดเอเชียฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย

 

 

ดีลเลอร์คาดว่า วันนี้ บาท/ดอลลาร์ น่าจะอยู่ในช่วง 28.92-28.98 โดยมีโอกาสทดสอบที่ระดับ 28.90 ได้

 

ที่มา : ทันหุ้น(วันที่ 17 เมษายน 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

GBX ยัน ไม่กระทบ ทอง-ค่าเงินผันผวน (17/04/2556)

GBX ยืนยัน ราคาทอง-ค่าเงินผันผวน ไม่กระทบดำเนินงาน เหตุทำประกันความเสี่ยง

 

นาย ทรงวุฒิ อภิรักษ์ขิต กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้งแมนเนจเม้นท์ (GBX) แจ้งว่า ตามที่ราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับลดลงอย่างมากในช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่ผ่าน มา ทำให้ผู้ถือหุ้นและลูกค้าบางส่วนมีข้อซักถามเกี่ยวกับผลกระทบด้านความเสี่ยง ของราคาทองคำที่อาจส่งผลในแง่การดำเนินงานของบริษัท

 

บริษัท ของชี้แจงว่า บริษัทประกอบกิจการค้าทองคำแท่งในลักษณะ Back-to-Back มีรายได้จากส่วนต่างของราคาซื้อ ขาย รวมทั้งบริษัทได้มีการทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาทองคำ และอัตราแลกเปลี่ยนทุกรายการ ดังนั้นจากภาวะราคาทองคำและอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนไม่ว่าขึ้นหรือลง มิได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด

 

ทั้งนี้กรณีลูกค้าที่ซื้อทองคำแท่งไว้แล้ว และมีความประสงค์จะมารับทองคำแท่ง สามารถติดต่อแจ้งความจำนงขอรับได้ตามปกติ

 

ที่มา : money channel (วันที่ 17 เมษายน 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไซปรัสขายทองกู้วิกฤติประเทศ(17/04/2556)

ธนาคารกลางไซปรัสตกเป็นข่าวเตรียมนำ“ทองคำสำรอง”บางส่วนในคลังของตัวเองออก ขาย หวังระดมเงินทุนให้ได้อย่างน้อย 400 ล้านยูโร หรือราว 15,170 ล้านบาท เพื่อหาเงินมาชำระหนี้สินและแก้ปัญหาของประเทศ

 

 

รายงาน ข่าวจากกรุงนิโกเซียระบุว่า ธนาคารกลางแห่งไซปรัส มีแผนนำทองคำสำรองบางส่วนของตัวเองออกขายหวังใช้สมบัติของชาติดังกล่าวเพื่อ ระดมเงินทุนให้ได้ราว 400 ล้านยูโรหรือ 15,170 ล้านบาทเพื่อหาเงินมาชำระหนี้สินให้กับบรรดาเจ้าหนี้ต่างประเทศ รวมถึง จัดสรรเงินไปใช้ในการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจของชาติ แม้โฆษกของธนาคารกลางไซปรัสจะยังคงปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าวที่แพร่สะพัดอยู่ ในเวลานี้

 

 

นอกจากแผนการนำทองคำสำรองของประเทศออก ขายแล้ว ยังมีรายงานว่ารัฐบาลไซปรัสชุดปัจจุบันภายใต้การนำของประธานาธิบดีนิคอส อนาสตาเซียเดส วัย 66 ปี ที่เพิ่งก้าวขึ้นครองอำนาจเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยังมีแผนขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมถึงขึ้นภาษีกําไรจากการขายทรัพย์สินด้วยเช่นกัน เพื่อหารายได้เข้ารัฐให้ได้ราว 600 ล้านยูโร (ราว 22,760 ล้านบาท)

 

 

ความ เคลื่อนไหวล่าสุดทั้งในเรื่องของแผนการนำทองคำสำรองออกขายและการรีดภาษีของ ทางการไซปรัสมีขึ้นหลังมีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของไซปรัสในปี 2013 นี้ จะประสบภาวะหดตัวอย่างรุนแรงถึงขั้น “ติดลบ 8.7%” ส่วนในปี 2014 คาดว่าเศรษฐกิจของดินแดนเกาะกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้จะหดตัวที่ ระดับ “ติดลบ 3.9%” ขณะที่ยอดการขาดดุลงบประมาณของไซปรัสในปีหน้าอาจเพิ่มสูงขึ้นเป็น 7.9% จากระดับ 6.0% ในปีนี้

 

 

ทั้งนี้ ไซปรัสซึ่งเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มยูโรโซน หรือกลุ่ม 17 ประเทศที่ใช้เงินยูโรเป็นเงินตราสกุลหลักตั้งแต่ 1 มกราคม ปี 2008 มีกำหนดจะได้รับเงินกู้ก้อนแรกจำนวน 10,000 ล้านยูโร (ราว 379,400 ล้านบาท)จากสหภาพยุโรป (อียู) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหา “หนี้เน่า” จำนวนมหาศาลในภาคธนาคาร และแก้ปัญหาเศรษฐกิจในด้านอื่นๆ

 

 

อย่าง ไรก็ดี วงเงินกู้ทั้งหมดที่อียู ไอเอ็มเอฟ และอีซีบีเตรียมไว้ช่วยเหลือไซปรัสที่ 17,500 ล้านยูโร (ราว 663,915 ล้านบาท)นั้น อาจไม่เพียงพอ และเม็ดเงินที่ไซปรัสต้องการเพื่อใช้ประคองตัวให้รอดพ้นจากวิกฤตอาจเพิ่ม เป็นกว่า 23,000 ล้านยูโร (ราว 872,665 ล้านบาท)

 

 

ซึ่ง หมายความว่า รัฐบาลไซปรัสจำเป็นต้อง “ช่วยตัวเอง” ด้วยการหารายได้เข้าประเทศให้ได้อีกอย่างน้อย 6,000 ล้านยูโร (ราว 227,650 ล้านบาท) ซึ่งเป็นที่มาของรายงานข่าวที่ว่า ธนาคารกลางไซปรัสเตรียมนำทองคำสำรองออกมาจำหน่าย ขณะที่รัฐบาลของนายอนาสตาเซียเดสก็เตรียมขึ้นภาษีประเภทต่างๆกับประชาชน

 

ที่มา : money channel (วันที่ 17 เมษายน 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดทองเอเชีย:สัญญาทองฟิวเจอร์สดิ่งกว่า 1% ช่วงเช้านี้ ขณะทองสปอตฟื้นตัว (17/04/2556)

ราคาสัญญาทองล่วงหน้าของสหรัฐร่วงลงกว่า 1% ในช่วงเช้าวันนี่ หลังจากนักลงทุนเทขายกองทุน ETF ทอง แต่ราคาทองที่ปรับตัวลงอาจจะกระตุ้นแรงซื้อมากขึ้นจากกลุ่มผู้ซื้อในตลาดส่ง มอบปัจจุบัน โดยราคาทองดิ่งลง 17% แล้วนับตั้งแต่ต้นปีนี้หลังจากที่ทำสถิติพุ่งขึ้น 12 ปีติดต่อกัน

 

 

สัญญาทองล่วงหน้าปรับตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบหลายปีในวันนี้ ขณะที่ราคาทองสปอตปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ความวิตกเกี่ยวกับการขาย ทองของธนาคารกลาง และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ยังคงเป็นปัจจัยกดดัน

ตลาด

 

 

สัญญาทองล่วงหน้าส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดนิวยอร์คร่วงลงแตะระดับต่ำสุดของเช้านี้ที่ 1,365 ดอลลาร์ และ ณ เวลา 09.41 น.ตามเวลาไทย

 

 

สัญญาทองอยู่ที่ 1,381.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 5.8 ดอลลาร์ โดยสัญญาทองดิ่งแตะระดับ 1,321.50 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2010

 

 

ราคาทองสปอตดีดตัวขึ้นแตะ 1,381.31 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันนี้ หลังจากดิ่งลงสู่ระดับ 1,321.35 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับ ต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2011

 

 

เมื่อวันจันทร์ ราคาทองทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ภายในวันเดียวในรูปสกุลดอลลาร์ ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่นักลงทุน และนักเก็งกำไร

 

 

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่ใหญ่ ที่สุดในโลก ระบุว่า ทางกองทุนปรับลดปริมาณการถือครองทองลง 0.73% สู่ 1,145.92 ตันเมื่อวานนี้ จาก 1,154.34 ตันเมื่อวันจันทร์ ขณะที่

สัดส่วนการถือครองทองของกองทุน ETF อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี

 

ที่มา : ทันหุ้น(วันที่ 17 เมษายน 2556)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

4ปัจจัยทุบราคาทองดิ่งต่ำสุดในรอบ 30 ปี (17/04/56)

4 ปัจจัยเสี่ยงทุบราคาทองคำในตลาดโลก ดำดิ่งวันเดียวหนักสุดในรอบ 30 ปี "เงินเฟ้อต่ำ-ความเสี่ยงศก.โลกลด-หุ้นพุ่ง-ดบ.จ่อขยับขึ้น"

 

ราคาทองคำ ร่วงภายในวันเดียวหนักสุดในรอบกว่า 30 ปี ราคาลดลงไปถึง 140.30 ดอลลาร์ หรือ 9% มาอยู่ที่ 1,361 ดอลลาร์ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์ก สหรัฐ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (15 เม.ย.) แม้ราคาจะค่อยๆ ปรับตัวลงมา นับแต่พุ่งไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเดือนส.ค. 2554 แต่กระแสการเทขายอย่างหนักเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

 

ก่อนราคาในตลาดโลกจะร่วงลงมาอย่างหนัก ราคาทองคำ ไต่ระดับขึ้นมาทุกปี เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อทองคำ เพื่อเป็นเกราะป้องกันจากเงินเฟ้อ และในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งสวรรค์สำหรับการลงทุนอย่าง ปลอดภัย

 

ราคาทองคำ พุ่งขึ้นไปทำสถิติสูงสุดเมื่อครั้งที่รัฐสภา สหรัฐกำลังงัดข้อกันในเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้ จนทำให้เกิดความเสี่ยงว่า สหรัฐ ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกจะผิดนัดชำระหนี้

 

แต่การชะลอตัวของเงินเฟ้อ ประกอบกับกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังพิจารณาลดการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จุดชนวนให้บรรดานักลงทุนพากันเทขายทองคำ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 เม.ย.) ตลาดยังได้แรงกระตุ้นจากรายงานข่าวที่ว่า ไซปรัสอาจเทขายทองคำสำรองบางส่วน เพื่อหาเงินมาจ่ายหนี้ หลังจากได้รับการอัดฉีดจากนานาประเทศแล้ว

 

สาเหตุที่ทำให้ราคาทองคำร่วงลง และการปรับตัวลดลงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ อาจเป็นไปได้ดังต่อไปนี้

 

1. เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ

 

นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ เพราะเกรงว่าเงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้นเร็วเกินไป จากการที่เฟดดำเนินความพยายามกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมา ผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล โดยต้นทุนสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น จะบั่นทอนกำลังการซื้อของเงินดอลลาร์

 

อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ เงินเฟ้อยังคงอยู่ภายใต้การควบคุม แม้เศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นแล้วก็ตาม ทั้งเมื่อเร็วๆ นี้ เงินดอลลาร์ ยังแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ทำให้ทองคำกลายเป็นแหล่งลงทุนที่มีความน่าสนใจน้อยลง

 

2. ความกังวลเศรษฐกิจโลกลดลง

 

การเข้าซื้อทองคำ ยังเกิดจากการที่ทองคำเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย เป็นเสมือนสินทรัพย์ที่สร้างความอุ่นใจให้กับนักลงทุน ในช่วงเวลาที่เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดการล่มสลายใน ผลิตภัณฑ์การเงินต่างๆ

 

สถานการณ์ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดความวิตกต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น วิกฤติการเงิน ความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ หรือการล่มสลายในยุโรป ซึ่งล้วนแต่เป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เกิดการเข้าลงทุนในทองคำมากขึ้น จนดันให้ราคาพุ่งสูงขึ้น

 

แต่เมื่อความกังวลเริ่มหายไป หลังธนาคารกลางประเทศต่างๆ พากันเข้าอัดฉีดเศรษฐกิจที่มีปัญหารายแล้วรายเล่า จึงทำให้การเข้าซื้อทองคำลดลง

 

นายนิโคลาส บรูคส์ หัวหน้าฝ่ายวิจัย และกลยุทธ์การลงทุน จากอีทีเอฟ ซิเคียวนริตีส์ ระบุว่า ทองคำเป็นเหมือนหลักทรัพย์ค้ำประกัน เมื่อสถานการณ์การลงทุนอยู่ในสภาวะย่ำแย่อย่างหนัก และตอนนี้ที่ราคาลดลง ก็เป็นเพราะผู้คนรู้สึกว่า ไม่จำเป็นต้องมีการค้ำประกันในขณะนี้แต่อย่างใด

 

3. ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น

 

แม้ตลาดหลักทรัพย์เกือบทั่วโลก จะปรับลดลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ตลอดทั้งปีนี้ ตลาดหุ้นอยู่ในขาขึ้นเป็นส่วนใหญ่ เพราะนักลงทุนต่างมองแง่ดีว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหลุดพ้นจากภาวะซบเซา หลังหลุดพ้นจากภาวะถดถอยครั้งใหญ่ ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดการเทขายทองคำครั้งใหญ่นั้น ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับขึ้นมาแล้วถึง 11%

 

นายปีเตอร์ ชิฟฟ์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) จากยูโร แปซิฟิก แคปิตัล แสดงความเห็นว่า ในโลกของเงินร้อนนั้น ผู้คนมักไม่ค่อยมีความอดทน และเมื่อดาวโจนส์ เริ่มขยับขึ้นทำสถิติใหม่ ทำให้นักลงทุนเริ่มคิดว่า การอยู่ในตลาดทองคำ ทำให้พวกเขาพลาดโอกาสไป จึงเกิดการเทขายทองคำ เพื่อนำเงินมาลงทุนในตลาดหุ้น

 

4. ดอกเบี้ยจ่อขยับขึ้น

 

ธนาคารกลางสหรัฐ เริ่มพิจารณาถึงการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลงมา ถ้าหากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจรวมถึง การปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อรักษาสภาพเศรษฐกิจไม่ให้ร้อนแรงจนเกินไป ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่าการถือครองทองคำในช่วงเวลาที่ดอกเบี้ยใกล้ถึงระดับ 0% เหมือนในขณะนี้ เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เพราะเงินฝากในบัญชีจะไม่ได้ให้ผลตอบแทนใดๆ แต่หากดอกเบี้ยสูงขึ้น ก็จะทำให้ความน่าสนใจในทองคำลดลง

 

 

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (17/04/56)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีที เวลธ์ มองแนวโน้มราคาทองมีแนวทดสอบที่ 1,400-1,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์(17/04/2556)

จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ สรุปภาวะ Precious Metals Futures วันนี้ (17 เมษายน 2556) (ภาคเช้า) ราคาทองคำในตลาดโลกฟื้นตัวเล็กน้อย โดยปิดบวก 15.04 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ มาปิดที่ระดับ 1,367.79 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

หลังจากร่วงลงกว่า 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงวันศุกร์ต่อเนื่องวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยทองคำเผชิญแรงขายทั้งจากความวิตกในเรื่องการขายทองคำของไซปรัสเพื่อระดม ทุนกว่า 400 ล้านยูโร ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่ต่ำกว่าคาดการณ์และความกังวลว่า FED อาจจะยุติมาตรการสภาพคล่อง ขณะที่ปัจจัยทางเทคนิคราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญ 1,500 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อออนซ์ทำให้มีแรงขายต่อเนื่อง โดยราคาลงมาทำจุดต่ำสุดตั้งแต่ช่วงต้นปี 2011 การฟื้นตัวเมื่อวานเกิดจากแรงซื้อกลับหลังอ่อนตัว ค่าเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยใกล้ 28.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ กองทุน SPDR ลดระดับการถือครองทองคำลงเหลือ 1,145.92 ตัน ลดลงจากระดับการถือครองเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 35.5 ตัน ถือเป็นการขายต่อเนื่องของ SPDR

ราคาทองคำโลกเช้านี้ (Gold Spot) เคลื่อนไหวใกล้ระดับ US$1,380 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนเมษายน 2556 (GFJ13) ราคาเปิดเช้านี้ที่ 21,250 บาท เน้นลงทุนในสัญญาเดือนเมษายน GFJ13, GF10J13 ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 18,900 บาท

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำที่อ่อนตัวของราคาทองคำในช่วงวันศุกร์ต่อเนื่องวันจันทร์ทำให้ราคา ทองคำเสียรูปทรงในขาขึ้นและเกิดแรงขายทางเทคนิค ขณะปัจจัยพื้นฐานยังหนุนมุมมองเชิงลบ แต่ในระหว่างวันมองกรอบการ Rebound ระยะสั้น เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคอยู่ในภาวะ Extremely Oversold แต่การ Rebound เป็นเพียงแค่การทำ Technical Rebound และมีแนวทดสอบ US$1,400-1,450 ต่อออนซ์

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 17 เมษายน 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 28.93/96 คาดวันนี้ลงไปทดสอบระดับ 28.90 บาท/ดอลลาร์ (17/04/2556)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 28.93/96 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 29.04/06 บาท/ดอลลาร์

 

 

"ช่วงที่เราหยุดสงกรานต์บาทขึ้นไปที่ 29.15 บาท แต่วันนี้เปิดมาก็ลงไปต่ำกว่า 29 บาท เพราะมีแรงขายดอลลาร์ ทำให้บาทขยับลงมา แต่คงจะลงได้ไม่มาก เพราะตลาดยังระแวงกันเอง คือ เทรดเดอร์คงจะไม่ take position ใหญ่ๆ ไม่ base ไปด้านใดด้านหนึ่ง ประกอบกับบาทก็ลงไปเยอะแล้ว คงยังไม่มีทิศทางชัดเจนในวันนี้" นักบริหารเงิน ระบุ

 

อย่างไรก็ดี จากการที่ราคาทองคำปรับลดลงไปราว 10% ในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมายังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทมากนัก โดยปัจจัยที่นักลงทุนให้ความสำคัญคือ การประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มจี 20 ซึ่งเตรียมพิจารณาข้อเสนอลดหนี้สาธารณะในระยะยาว ให้เหลือต่ำกว่า 90% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทมีโอกาสจะอ่อนค่าลงไป test ที่ระดับ 28.90 บาท/ดอลลาร์ โดยมองกรอบไว้ที่ 28.90-29.05 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคาร ธปท.วันนี้อยู่ที่ 29.040 บาท/ดอลลาร์

- เช้านี้เงินเยนเปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 98.09 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3183 ดอลลาร์/ยูโร

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(16 เม.ย.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะใช้เดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายการเงินเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อสกุลเงินดอลลาร์

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้(16 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำ ดิ่งลงไปกว่า 140 ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนสัญญาทองคำดีดตัว ขึ้นด้วย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 26.3 ดอลลาร์ หรือ 1.93% ปิดที่ 1,387.4 ดอลลาร์/ออนซ์

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 28 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,800 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,384.61 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 3.03 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.761 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ เนื่องจากข้อมูลการสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งขยายตัวสูงขึ้นกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ยกระดับการคาดการณ์การขยายตัวของ เศรษฐกิจญี่ปุ่น และเงินเยนที่อ่อนค่าลง

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 7% สู่ระดับ 1,036,000 ยูนิต ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 930,000 ยูนิต นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่มิ.ย.51 หรือในรอบเกือบ 5 ปี

- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. ลดลง 0.2% สะท้อนให้เห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มปรับตัวลดลง

- นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี นิวส์ว่า เกาหลีเหนือมีแนวโน้มว่าจะดำเนินการที่ยั่วยุมากขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ข้าง หน้า พร้อมกับผลักดันให้เกาหลีเหนือเลือกที่จะประสานงานร่วมกับสหรัฐและประเทศ พันธมิตร

- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยสูงกว่าต่างประเทศ เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น แต่เท่าที่ตรวจสอบ ธปท. ยังไม่พบการกู้ดอกเบี้ยต่ำในต่างประเทศ แล้วมาหาผลตอบแทนสูงในไทย (แคร์รีเทรด) เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทยลอยตัวแบบมีการบริหารจัดการ ทำให้มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่อาจจะได้กำไรดอกเบี้ยแต่ต้องรับความ เสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ไม่คุ้มค่าที่จะหาผลตอบแทนแบบนี้

- น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สบน.อยู่ระหว่างพิจารณาออกพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์) อายุ 100 ปี ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่สบน.เตรียมไว้เป็นเครื่องมือในการระดมทุน ของรัฐบาลในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันพันธบัตรรัฐบาลอายุสูงสุดคือ 50 ปี โดยการออกพันธบัตรอายุที่ยาวขึ้นนั้นสบน.ศึกษามาหลายปีแล้ว แต่ยังไม่มีจังหวะที่ เหมาะสมในการออก

- นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า หากเงินบาทยังแข็งอยู่ต่อไป โอกาสที่อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 56 ที่ตั้งไว้ 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อาจจะต่ำกว่าเป้าหมาย เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินการและกำไรของบริษัท ผู้ส่งออก ซึ่งมีผลกระทบต่อการบริโภค และการลงทุนของภาคเอกชนในอนาคต

- คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) นัดถกรับมือบาทแข็งฉุดส่งออก 24 เม.ย. ก่อนสรุปส่งให้พาณิชย์ หวั่นทั้งปีโตต่ำเป้าหมาย

 

ที่มา : ทันหุ้น(วันที่ 17 เมษายน 2556)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักลงทุนผวาบึ้มสหรัฐ-​เศรษฐกิจจีน-​โลกทรุด “หุ้น-ทองคำ”ราคาร่วง (17/04/56)

สินทรัพย์สำคัญของ​โลกร่วงหนัก นักลงทุนผวาภาวะ​เศรษฐกิจจีน​เลวร้าย​เกินคาด ส่งผลต่อศก.​โลกด้วย คาดราคารทองคำหลุด 2 หมื่นบาทต่อน้ำหนักทอง1บาท หลังจากก่อนหน้าร่วงหนัก 13 % ส่วนตลาดหุ้น​ไทย รับปัจจัยลบจาก​เหตุระ​เบิด​ในสหรัฐ กสิกร​ไทย คาด​แนวรับ​แตะระดับ 1,490 จุด

 

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้น​ไทยวันที่ 17 ​เมษายน มี​แนว​โน้มที่จะปรับตัวลดลง​ในวัน​เปิดตลาดหลังหยุดยาววันสงกรานต์ ตามตลาดตลาด​เอ​เชียที่ปรับตัวลง​เมื่อ​เปิดซื้อขายช่วง​เช้าของวันที่ 16 ​เมษายน หลัง​เกิด​เหตุระ​เบิดที่​เมืองบอสตันสหรัฐอ​เมริกา ​เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 ​เมษายนตาม​เวลาที่บอสตัน

 

"​เหตุระ​เบิด​ไม่​ใช่ปัจจัย​เดียวที่นักลงทุนจะมี​ความวิตกกังวล ​แต่รวม​ถึง​เศรษฐกิจของจีน​ใน​ไตรมาส​แรกที่​โตต่ำกว่าที่คาด​การณ์​ไว้ ​โดย​เศรษฐกิจจีน​ซึ่งมีขนาด​ใหญ่​เป็นอันดับสองของ​โลกขยายตัว 7.7% ต่ำกว่าที่ระดับ​การขยายตัวที่ 7.9% ​ใน​ไตรมาสก่อนหน้านี้ ​และต่ำกว่าที่คาด​การณ์​ไว้ที่ระดับ 8 % ​ทั้งนี้ตัว​เลข​เศรษฐกิจจีนล่าสุดนี้ถูก​เผย​แพร่ออกมา​เมื่อวานนี้​ซึ่ง ยัง​เป็นช่วงวันหยุดสงกรานต์ของ​ไทย"

 

นางภัทธีรา กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้น​ไทยคงปรับลดตามตลาดอื่นๆ ​แต่​เนื่องจาก​ได้ปรับตัวลงมาบ้าง​แล้วก่อนหน้านี้ คิดว่า ​เมื่อ​เปิดตลาดวันที่ 17 ​เมษายนนี้คง​ไม่ปรับตัวลดลงอย่างรุน​แรง” ​เธอ กล่าว

 

ส่วนผลกระทบจากปัญหาขัด​แย้งกับกัมพูชา​เรื่อง​เขาพระวิหาร อาจจะยัง​ไม่มีผลขณะนี้ต่อตลาดส่วน​การ​แก้​ไขรัฐธรรมนูญของ​ไทย​ก็ยัง​ไม่ มีผลกระทบต่อตลาดอย่างชัด​เจน​เช่น​เดียวกัน

 

สำหรับตลาดหุ้นสำคัญๆทั่ว​โลกต่างปิดตัว​ในระดับที่ลดลง ​โดนตลาดดาวส์​โจนส์ ปิดที่ 14.599 จุด ลดลง 265.86 จุด ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,343.60 จุด ลดลง 40.79 จุด

 

ขณะที่บริษัทศูนย์วิจัยกสิกร​ไทย คาด​การณ์​แนว​โน้มตลาดหุ้น​ไทย​ในช่วงสัปดาห์นี้ (17-19 ​เมษายน 2556 ) ว่าดัชนีน่าจะยังคงผันผวน ​โดยต้องระวัง​แรงขาย​ทำกำ​ไร สำหรับ​เครื่องชี้​เศรษฐกิจสำคัญที่ต้องจับตา ​ได้​แก่ จีดีพี​ไตรมาส 1/2556 ของจีน ขณะที่ ตัว​เลข​เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ​เครื่องชี้ที่อยู่อาศัย ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ​เครื่องชี้ภาค​การผลิต​และดัชนีราคา​ผู้บริ​โภค ​ทั้งนี้ คาดว่า ดัชนีจะมี​แนวรับที่ 1,490 ​และ 1,450 ขณะที่​แนวต้านคาดว่า จะอยู่ที่ 1,528? ​และ 1,550 ตามลำดับ

 

สำหรับสรุปภาพรวมตลาดหุ้น​ไทย ​ในสัปดาห์ที่ผ่าน (8-12 ​เมษายน) ดัชนีตลาดหุ้น​ไทยฟื้นตัวขึ้น​โดยมี​แรงซื้อหุ้นกลับคืน รวม​ทั้งมุมมอง​เชิงบวกต่อผลประกอบ​การบริษัท ​ทั้งนี้ ดัชนีหุ้น​ไทยปิดที่ระดับ 1,527.32 จุด ​เพิ่มขึ้น 2.54% จากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ด้านมูลค่า​การซื้อขาย​เฉลี่ยต่อวันลดลง 19.35% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 42,028.48 ล้านบาท ​โดยนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนรายย่อย​และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 471.73 จุด ​เพิ่มขึ้น 2.75% จากสัปดาห์ก่อน

 

​ทั้งนี้ ตลาดหุ้น​ไทยปรับตัวลง​ในวันอังคาร ​โดยมี​แรงขายจากต่างชาติท่ามกลาง​ความกังวล​เกี่ยวกับ​เกาหลี​เหนือ ก่อนที่จะปรับตัวขึ้น​ในช่วงกลางสัปดาห์ ​โดยมี​แรงซื้อหุ้นกลับคืนหลังราคาปรับลดลง​ไปมาก รวม​ทั้ง​แรงซื้อ​เ​ก็งกำ​ไรผลประกอบ​การ​ไตรมาส 1/2556 ​และ​แรงซื้อหุ้นกลุ่มสื่อสารที่คาดว่าจะ​ได้รับอานิสงส์จาก​การ​เปิด​ให้ บริ​การ 3G บนคลื่น​ความถี่ 2.1 GHz

 

นอกจากราคาหุ้นที่ลดลง ราคาทองคำ​ซึ่ง​เป็นสินทรัพย์อีกประ​เภทหนึ่งที่สำคัญ ​ก็ปรับตัวลดลง​เช่นกัน ด้วย​เหตุผลจากนักลงทุนกังวลต่อ​เศรษฐกิจจีนอ่อน​แอ​เกินคาด ​และจะส่งผลกระทบต่อ​เศรษฐกิจ​โลกด้สย ​โดย ราคาทองคำตลาด​โค​เมกซ์ของสหรัฐฯ ​เมื่อวันที่ 15 ​เม.ย.) ขยับลงอีก 140.30 ดอลลาร์ ​หรือ 9.34% ปิดที่ 1,361.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ?​และ​เมื่อรวมกับวันศุกร์ (12 ​เม.ย.) ราคาทองคำดิ่งลง​แล้วกว่า 13%

 

น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธาน​เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วาย​แอลจี บูล​เลี่ยน​แอนด์ ฟิว​เจอร์ กล่าวว่า ราคาทองคำช่วงสงกรานต์​ในตลาด​โลดลดลงอย่างรุน​แรงจากราคา​เมื่อวันที่ 12 ​เมษายน 2556 ​ซึ่งอยู่ที่ 1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มาอยู่ที่ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ​หรือลดลง 260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ​แต่​เนื่องจากสมาคมค้าทองคำ​และตลาดอนุพันธ์ปิด​ทำ​การ​ในช่วงวันหยุด สงกรานต์ระหว่างวันที่ 13-16 ​เมษายน ​และจะ​เปิด​ทำ​การอีกครั้งวันที่ 17 ​เม.ย.​ทำ​ให้นักลงทุนยัง​ไม่สามารถซื้อขายทองคำ​ได้

 

​ทั้งนี้ คาดว่าวันนี้ (17 ​เมษายน) นักลงทุนบางส่วนอาจจะอยู่​ในสถาน​การณ์ตื่นตระหนกจาก​การปรับลดลง​แรงของ ราคาทองคำ​ในช่วงนี้? ​ซึ่งถือ​เป็น​การปรับลดลง​แรงที่สุดตั้ง​แต่ปี 2526 ​หรือ​ในรอบ 30 ปี คาดว่าสมาคมค้าทองคำจะประกาศราคาทอง​ในราคาต่ำกว่า 20,000 บาท ​โดยอาจจะ​ถึง 18,000 บาทต่อบาททองคำ ​เพราะราคาตลาด​โลกร่วงลง​แรงมาก

 

อย่าง​ไร​ก็ตาม ขอ​ให้นักลงทุนชะลอ​การลงทุน​เพื่อรอดูสถาน​การณ์​ไปก่อน ​โดย​ให้​แนวรับของราคาทอง​ไว้ที่ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์? ​ซึ่งหากทองยืนอยู่​ได้ ​ก็มี​แนว​โน้มที่จะฟื้นตัว​ได้ ​เนื่องจากราคาทองลดลง​เร็วมาก ​แต่หากรับ​ไม่อยู่​ก็จะ​ไปที่​แนวรับ 1,250 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ​โดยราคาทอง​ในช่วงนี้ปรับลดลง​แรงวันละประมาณ 50-70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ​จึงขอ​ให้นักลงทุนอย่าตื่นตระหนก​และรอดูสถาน​การณ์ก่อน

 

ส่วนสา​เหุตที่ราคาทองคำลดลง​แรง​ในช่วงนี้นั้น ​เนื่องจากมีข่าวว่าธนาคารกลางของ​ไซปรัส​เตรียมขายทองคำที่ถืออยู่ 13 ตัน ​เพื่อระดมทุน 400 ล้านยู​โร ​เพื่อ​แก้วิกฤติหนี้ ​ทำ​ให้​เกิด​ความวิตกว่าธนาคารกลางของอิตาลีที่ถือทองคำอยู่ 2,000 ตัน กรีซ​และ​โปรตุ​เกสถือทองคำรวมกัน 300 ตัน อาจจะ​เทขายทองคำออกมา​เช่นกัน ประกอบกับ กองทุนต่างๆ ​ได้​เทขายทองคำออกมาก่อนหน้านี้ ​ซึ่งยิ่ง​เป็น​การซ้ำ​เติม​ทำ​ให้ราคาทองคำลดลงต่อ​เนื่อง จนหลุด​แนวรับสำคัญที่ 1,530 ​และ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ลงมา

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์​แนวหน้า (17/04/56)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...