moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 30, 2010 เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับ ๖ ดวงใจกับความรัก : Never Mind the H.M.Blues เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๖ ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๔๙๐ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทย ในงานเฉลิมพระชนมพรรณาปีนั้น (วันเสาร์ที่ ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๐) หลังจากได้เสวยพระกระยาหารและนักดนตรีได้รับประทานอาหารแล้ว โปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ และพระราชทานชื่อว่า Never Mind the H.M. Blues เป็นการตอบปริศนาคำทายที่ว่า H.M. แปลว่าอะไร ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ค่ำคืนนภาดาราพราว ประกายแสงดาวพราวตา ดาษเรียงเคียงแสงดวงจันทรา เพลินชมแสงพรายนภาเห็นดวงดาราล้อมจันทร์ ที่จริงนั้นเดือนและดวงดาว ต่างเรืองแสงวาวพราวพรรณ ด้วยแรงจากแสงดวงตะวัน จึงมีแสงเดือนงามครันแสงดาวประชันน่าชม เปรียบดวงดาวและดวงเดือน ก็เหมือนแม้แววมโนรมย์ เปล่งแววไปเปลี่ยนใจชม ด้วยจินตนาอารมณ์นานาประการ แน่นอนแท้จริงคือดวงใจ ส่องแววรักไปยืนนาน เปรียบดังกับแสงตะวันตระการ ยังคงแสงงามสะคราญแสงทองยืนนานเรื่อยมา ตะวันฉายมาดาราราย ส่องแสงพริ้มพรายนัยน์ตา รื่นรมย์ชมแสงดวงจันทรา ชมดาวล้อมเดือนงามตาพริ้มพรายนภาแสงงาม มาตรแม้นสูญดวงตะวันไป ประดาแสงในฟ้าทราม ผู้คนสัตว์ไม้จะตายตาม ตะวันสูญไปเป็นยามล้วนมีแต่ความมืดมน เปรียบดวงดาวและดวงเดือน ก็เหมือนแม้นแววมโนรมย์ เปล่งแววไปต่างใจคน เปลี่ยนแปลงไปตามใจตนเวียนวนจนตาย ตะวันนั้นเหมือนดังดวงใจ หากสิ้นแสงไปรักคลาย ขาดความรักเหมือนชีวาวาย จะเป็นหรือตายทั้งใจและกายไม่วายโศรกโทรม Never Mind the Hungry Men's Blues Music: H.M.K. Bhumibol Adulyadej Lyric: H.H. Prince Chakrabandh Pensiri We used to be so hungry, We used to be so blue But now we know that you all Enjoy the song we play along The whole night through. We used to be unhappy We used to be so blue But then you gave us supper We love to play all night and day For all of you. Les croissants au jam bon, Et sandwiches sont tres bon; The punch's fine, the good wine. Have all been wonderful To band of mine. We used to be so hungry We used to be so blue But then you gave us supper You've been so kind, so Never Mind the H.M. Blues. copyright His Majesty King Bhumibol of Thailand อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 30, 2010 (มีการแก้ไข) เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับ 7 มาร์ชราชวัลลภ เราทหารราชวัลลภ รักษาองค์พระมหากษัตริย์สูงส่ง ล้วนแต่องอาจแข็งแรง เราทุกคนบูชากล้าหาญ วินัยเทิดเกียรติชาติไว้ทุกแห่ง ใจดุจเหล็กเพชรแข็งแกร่งมิกลัวใคร เราเป็นกองทหารประวัติการณ์ ก่อเกิดกำเนิดกองทัพบกชาติไทย เราทุกคนภูมิใจ ได้รับไว้วางพระราชหฤทัย พิทักษ์สมเด็จเจ้าไทย ตลอดในพระวงศ์จักรีฯ เราทหารราชวัลลภ รักษาองค์ฯ จะถวายสัตว์ซื่อตรง องค์ราชาราชินี ถ้าแม้นมีภัยพาลอวดหาญ มิเกรงดูหมิ่นข่มเหงย่ำยี เราจะถวายชีวีมิหวาดหวั่น จะลุยเลือดสู้ตายจะเอากายป้องกัน เป็นเกราะทองรบประจัญศัตรู ฝากฝีมือปรากฏ เกียรติยศฟุ้งเฟื่อง กระเดื่องกองทัพบกไทย ไว้นามเชิดชูราชวัลลภคู่ปฐพี ถูกแก้ไข กรกฎาคม 2, 2010 โดย moddang.. อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มิถุนายน 30, 2010 เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๘ อาทิตย์อับแสง : Blue Day ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อวันพุธที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ ขณะประทับแรมบนภูเขาในเมืองดาโวส์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต่อมา ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ทำนอง : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ เคยชม ร่วมภิรมย์ใจ ด้วยความรักจริงยิ่งใหญ่ ผูกพันหัวใจเรามั่น รักเอย เคยอยู่เคียงกัน ร่มเย็นมิเว้นวายวัน ด้วยความสัมพันธ์ยืนยง ทิวางาม ยามอยู่เคียงคง สุริยาแสงส่ง ปวงชีวิตในโลกดำรงเริงใจ ร้างกัน วันห่างไปไกล มืดมนหมองมัวปานใด เยือกเย็นเข็ญใจรัญจวน ไกลกัน พาพรั่นใจครวญ ร่างกายทรุดโทรมทุกส่วน จิตใจร้อนรวนแรงอ่อน รักเอย เลยกลับอาวรณ์ ค่ำคืนฝืนใจไปนอน ยิ่งดูเหมือนฟอนไฟลน ทิวาทราม ยามห่างดวงกมล สุริยาหมองหม่น ปวงชีวิตในโลกอับจนเสื่อมทราม หวังคอย คอยเฝ้าโมงยาม จวบจนทิวาเรืองงาม สบความรักยามคืนคง อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2010 เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับ ๙ เทวาพาคู่ฝัน: Dream of Love Dream of You ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อวันจันทร์ที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ ขณะประทับ ณ เมืองดาโวส์เช่นกัน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ช่างงามทัศน์ทิวเขตคามงดงามน่าดู ทั้งมวลล้วนมีเป็นคู่ชิดชูเชยชมรมย์รื่น แต่ฉันดวงใจผูกพันใฝ่ฝันทุกคืน เฝ้าปองเคียงครองคู่ชื่นให้รื่นเริงใจ โลกนั้นดังเมืองสวรรค์เทวัญสร้างไว้ พิศดูเป็นคู่ทุกสิ่งล้วนมีรักจริงยิ่งใหญ่ อันธรรมชาติไซร้ ใช้แรงความรักความใคร่ ย้อมชีวิตให้ยืนยง อยู่เดียวเปลี่ยวใจหทัยใฝ่ฝัน เดชกามเทพพันผูกใจให้หลง แม้เคยทำคุณบุญส่ง ฟ้าคงปรานีดีอยู่ โปรดจงประทานความเอ็นดู ให้มียอดชู้เป็นคู่ชูใจ จวบวันทิวาเฉิดฉันตะวันสดใส ฟ้าดลบันดาลรักให้สมดังดวงใจมุ่งมั่น เฝ้าวอนพระทรงเสกพรไหว้วอนทุกวัน โศกทรวงดวงใจอัดอั้นตื้นตันอุรา จวบวันราตรีเฉิดฉันดวงจันทร์แจ่มฟ้า พบความรักดังใจมั่นเหมือนเดือนตะวันกลางหล้า สมพรจากฟ้า พระทรงประทานปวงข้าชีวิตในหล้ายืนยง http://www.youtube.com/watch?v=t9PFwOQTE0M&feature=related อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2010 เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑o คำหวาน : Sweet Words ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ได้ยินเพลงหวานก้อง ถ้อยทำนองร้องรำพัน ฝากความรักไว้มั่น ด้วยถ้อยอันอ่อนหวาน เปรียบดังเพลงทิพย์มา จากฟากฟ้าบันดาล เสียงเพลงปานเพลงวิมาน ประทานมากล่อม เมื่อได้ยินเพลงเพราะดังว่า ดั่งเทวาพาจิตโน้มน้อม หรือมาลวงลองร้องเพลงกล่อม จะประนอมให้ยอมปลงใจ หากคำหวานขานเอ่ย เพื่อเฉลยน้ำใจ รักจริงใจขอฟังไป ฟังให้ชื่นเชย ชื่นอารมณ์สมปอง แว่วเพลงร้องคมคำ พลอดความรักเพ้อพร่ำ ด้วยถ้อยคำงามสม ถ้อยทำนองร้องส่ง ก่อให้หลงลิ้นลม เพลินเพลงชมย้อมอารมณ์ นิยมกลมกล่อม เมื่อได้ยินเพลงเพราะดังว่า ดั่งเทวาพาจิตโน้มน้อม หรือมาลวงลองร้องเพลงกล่อม จะประนอมให้ยอมปลงใจ หากคำหวานขานเอ่ย เพื่อเฉลยน้ำใจ รักจริงใจขอฟังไป ฟังให้ชื่นเชย อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2010 เพลงพระราชนิพนธ์อันดับ ๑๑ มหาจุฬาลงกรณ์ : MAHA CHULALONGKORN ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ เป็นเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกที่ใช้ Pentatonic Scale คือ ๕ เสียงแทน Scale แบบสิบสองเสียง (Chromatic Scale) ศาสตราจารย์ หม่อมราชวงศ์สุมนชาติ สวัสดิกุล ได้ขอพระราชทานเพลงประจำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานทำนองเพลงพระราชนิพนธ์นี้ ให้ไปใส่คำร้องเอง ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา และนายสุภร ผลชีวิน จึงได้ประพันธ์คำร้องถวาย ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๙๗ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายเทวาประสิทธิ์ พาทยโกศล นำทำนองเพลงพระราชนิพนธ์มหาจุฬาลงกรณ์ มาแต่งเป็นแนวไทย นายเทวาประสิทธิ์รับพระราชทานมาทำ และบรรเลงถวายด้วยวงปี่พาทย์ถึงสองครั้ง ภายหลังเมื่อนายเทวาประสิทธิ์ไปสอน ในชมรมดนตรีสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้นำเพลงพระราชนิพนธ์นี้มาปรับปรุงเป็นเพลงโหมโรง สำหรับใช้โหมโรงในการบรรเลงดนตรีไทยของชมรม ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา ร่วมกับ นายสุภร ผลชีวิน น้ำใจน้องพี่สีชมพู ทุกคนไม่รู้ลืมบูชา พระคุณของแหล่งเรียนมา จุฬาลงกรณ์ ขอทูนขอเทิดพระนามไท พระคุณแนบไว้นิรันดร ขอองค์พระเอื้ออาทร หลั่งพรคุ้มครอง นิสิตพร้อมหน้า สัญญาประคอง ความดีทุกอย่างต่างปอง ผยองพระเกียรติเกริกไกร ขอตราพระเกี้ยวยั้งยืนยง นิสิตประสงค์เป็นธงชัย ถาวรยศอยู่คู่ไทย เชิดชัยชโย อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2010 เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๒ แก้วตาขวัญใจ: Lovelight in My Heart ทรงพระราชนิพนธ์ในพ.ศ. ๒๔๙๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ แก้วตาขวัญใจเธออยู่แห่งใดขวัญเอย ขาดชู้คู่เชยรักเอยเดียวดาย เฝ้าคอยรักเศร้าเหงาใจแสนหน่าย เปลี่ยวปานชีวาวางวายคลายสุขตรม โอ้เวรไหนมาพาโชคชะตาแสนชั่ว โลกนี้มืดมัวหวาดกลัวระทม ได้แต่หวังนั่งแต่ฝันคอยคู่ขวัญตันอกตรม ร้อนอารมณ์หวังชมชิดเชยดวงใจ อยู่คนเดียเปล่าเปลี่ยวปานใดอกใจระทม ขาดคนนิยมขาดคู่ชิดชมระบมทรวงใน โอ้บุญไม่ช่วยนำพาแก้วตาขวัญใจ ได้แต่ฝันไปไม่สบสมใจรักเอย แก้วตาขวัญใจเธออยู่แห่งใดหนอเธอ เฝ้าเพ้อเฝ้าละเมอใฝ่เธอมาเชย สุดจะเหงาเฝ้าแต่ฝันทรวงกระสันพรั่นจิตเลย http://kanchanapisek.or.th/music/mp3/KaewTaKwanJai.mp3 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2010 เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๓ พรปีใหม่ : PORN PEE MAI ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ เมื่อเสด็จนิวัตพระนคร และประทับ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต มีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานพรปีใหม่ แก่บรรดาพสกนิกรไทยด้วยเพลง จึงทรงพระราชนิพนธ์เพลง "พรปีใหม่" และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องเป็นคำอำนวยพรปีใหม่ แล้วพระราชทานแก่วงดนตรี ๒ วง คือ วงดนตรีนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำออกบรรเลง ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวงดนตรีสุนทราภรณ์ นำออกบรรเลง ณ ศาลาเฉลิมไทย ในวันปีใหม่ วันอังคารที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๕ ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ สวัสดีวันปีใหม่พา ให้บรรดาเราท่านรื่นรมย์ ฤกษ์ยามดีเปรมปรีดิ์ชื่นชม ต่างสุขสมนิยมยินดี ข้าวิงวอนขอพรจากฟ้า ให้บรรดาปวงท่านสุขศรี โปรดประทานพรโดยปรานี ให้ชาวไทยล้วนมีโชคชัย ให้บรรดาปวงท่านสุขสันต์ ทุกวันทุกคืนชื่นชมให้สมฤทัย ให้รุ่งเรืองในวันปีใหม่ ผองชาวไทยจงสวัสดี ตลอดปีจงมีสุขใจ ตลอดไปนับแต่บัดนี้ ให้สิ้นทุกข์สุขเกษมเปรมปรีดิ์ สวัสดีวันปีใหม่เทอญ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2010 เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๔ รักคืนเรือน: Love Over Again ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๔๙๕ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย แล้วพระราชทานให้นำออกบรรเลง ในงานของสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๕ ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ โอ้รักเอ๋ย รักเคยชิดเชยชูชื่น สุดหวานอมสุดขมกลืน สุดรักยืนยิ่งยง เมื่อรักหวาน รักปานดังลมบนส่ง โบกพัดไปให้รักคง ลิ่วพัดตรงทิศทาง ครั้นมีบางอารมณ์ พาให้ขื่นขมรักเบาบาง สายลมเวียนกลางทาง รักกลับจืดจางห่างไป โอ้ลมหวน สายลมแปรปรวนไปได้ ใฝ่พัดมาฝ่าพัดไป เปลี่ยนเหมือนใจคนเรา โอ้ลมเอ๋ย ลมเคยรำเพยเชยชื่น กลับพัดเวียนเปลี่ยนทิศคืน ไม่พัดยืนเรื่อยไป เปรียบรักหวน รักมาแปรปรวนไปใหม่ จิตวกเวียนเปลี่ยนน้ำใจ สุดเสียดายรักเรา แม้รักแปรปรวนไป จะชื่นสุขใจนั้นทำเนา แท้จริงทุกข์มิเบา ด้วยถ่านไปเก่ารุมรม เฝ้าแต่หวัง รักเราเธอยังคงบ่ม อย่าวกเวียนเปลี่ยนเหมือนลม ด้วยหวังชมชื่นเชย เด่นจันทร์ฉาย จันทร์แรมยังกลายมัวหม่น เปรียบเหมือนเดือนก็เหมือนคน จิตวกวนง่ายดาย ก่อนเคยเห็น ดวงจันทร์วันเพ็ญพร่างพราย ก่อนแสงแรงกลับแสงคลาย ดั่งรักกลายรักจาง เพราะมีบางอารมณ์ พาให้ขื่นขมรักเบาบาง เหมือนเดือนเวียนตามทาง เดือนมืดมัวจางห่างไป จวบวันเพ็ญ ดวงจันทร์เวียนเป็นเดือนใหม่ เปรียบรักเราอับเฉาไป กลับรักใหม่คืนคง อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2010 เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๕ ยามค่ำ: Twilight ทรงพระราชนิพธ์ในพ.ศ. ๒๔๙๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย แล้วได้พระราชทานให้นำออกบรรเลง ในงานของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ สโมสรสราญรมย์ เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๕ ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ยามประกายแสงทองส่อง งามเรืองผ่องนภา ประเทืองผองมวลชีวา ดังพรจากฟ้าเสกมาให้ ยามประกายแสงเดือนส่อง ยามนวลผ่องฟ้าไกล ชื่นชมสมดังดวงใจ สบสุขสุดใสหทัยบาน ยามค่ำลงโพล้เพล้ถ่ายเทประภา ในเมื่อยามทิวาต่อราตรีกาล มีแต่ความมืดมนอับจนดวงมาน เหงาปานขาดใจ แท้ที่จริงนั้นยามค่ำ นำให้รื่นฤทัย ค่ำลงแล้วราตรีใหม่ เคลื่อนมาพาใจให้ชื้นชื่นเชย ยามรุ่งแสงทิวางาม เรืองอร่ามวิไล โลกเริงสำราญปานใด หมู่มวลพันธุ์ไม้ดอกใบบาน ครั้นเมื่อยามแสงเดือนส่อง ราตรีผ่องสำราญ หมู่ดาววับวามงามตระการ โลกเป็สถานชื่นบานใจ ยามค่ำลงสลัวมืดมัวแสงสี แสนเปลี่ยวในฤดีสุดที่อาลัย มีแต่ความมืดมนอับจนดวงใจ คอยคืนใหม่งาม แท้ที่จริงนั้นยามค่ำ นำยามเนื่องถึงยาม ค่ำลงแล้วราตรีตาม โลกยิ่งสุดงามสมความชื่นชม อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2010 เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๖ ยิ้มสู้: smiles ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๔๙๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทย เพื่อเป็นการปลอบขวัญ และให้กำลังใจแก่คนตาบอด แล้วพระราชทานให้นำไปบรรเลง ในงานสมาคมช่วยคนตาบอด ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร เมื่อวันเสาร์ที่ ๑ มีนาคม ๒๔๙๕ ส่วนคำร้องภาษาอังกฤษ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงนิพนธ์ในปีต่อมา ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ โลกจะสุขสบายนั้นเป็นได้หลายทาง ต้องหลบสิ่งกีดขวางหนทางให้พ้นไป จะสบความสุขสันต์สำคัญที่ใจ สุขและทุกข์อย่างไรเพราะใจตนเอง ฝ่าลู่ทางชีวิตต้องคิดเฝ้าย้อมใจ โลกมืดมนเพียงใดหัวใจอย่าคร้ามเกรง ตั้งหน้าชื่นเอาไว้ย้อมใจด้วยเพลง ไยนึกกลัวหวาดเกรงยิ้มสู้ คนเป็นคนจะจนหรือมี ร้ายหรือดีคงมีหวังอยู่ ยามปวงมารมาพาลลบหลู่ ยิ้มละมัยใจสู้หมู่มวลเภทภัย ใฝ่กระทำความดีให้มีจิตโสภา สร้างแต่ความเมตตาหาความสุขสันต์ไป จะสบความสุขสันต์สำคัญที่ใจ เฝ้าแต่ยิ้มสู้ไปแล้วใจชื่นบาน อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2010 เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๗ ธงไชยเฉลิมพล : The Colours March) ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นใน พ.ศ.2495 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานแก่กองทัพไทย เพื่อใช้ในพิธีสวนสนามสาบานตนต่อธงไชยเฉลิมพล ใน วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2495 ซึ่งเป็นวันกองทัพบก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานธงไชยเฉลิมพลแก่หน่วยทหารต่างๆ ที่ยังไม่มีธงไชยเฉลิมพลประจำ รวมทั้งสิ้น 39 หน่วย ต่อมาในวันที่ 3 ธันวาคม ปีเดียวกันนั้นเอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีสวนสนามของหน่วยทหารรักษาพระองค์ ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ พระลานพระราชวังดุสิต วงดุริยางค์ได้บรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ธงไชยเฉลิมพล ขณะมีการเชิญธงไชยเฉลิมพลของหน่วยต่างๆ เข้าประจำที่หน้าพลับพลาที่ประทับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2010 เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๘ เมื่อโสมส่อง: I Never Dream ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๔๙๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ ได้พระราชทานให้นำไปบรรเลงในงานรื่นเริงประจำปี ของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ สโมสรสวนสราญรมย์ เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๗ ต่อมา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา แต่งคำร้องภาษาไทยถวาย ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา อ้าโสมทอแสงอำไพ ฉันสุขใจหมายชม เพลินหลงพร่ำเพ้อภิรมย์ โสมสาดส่องแสงมา ภาคพื้นเวหาพราวพราย เพราะก่องประกายดารา เพียงเพชรพลอยส่องฟ้า แวววับจับใจ เมฆน้อยลอยโลมลูบหาว เหมือนมืออันผ่องขาวละไม ลูบโลมนภาสดใส นั้นพาให้หทัยฉันสะเทือน โอ้ลมเอ๋ยเชยพัดเตือนมา มิให้อุราลืมเลือน เพียงเสียงเธอรำพันเตือน คำมั่นสัญญา อ้าโสมชวนฉันคำนึง ครั้งหนึ่งกลางแสงจันทร์ เราสองพลอดเพ้อรำพัน รักมั่นไม่ผันแปร ตราบฟ้าดินม้วยแลเรา สองดับสลายดวงแด วิญญานไม่ห่างแห ลอยรักร่วมทาง ครั้นแล้วเวรกรรมชาติไหน ระดมกันผลักไสเราห่าง เมื่อรักยังไม่หม่นหมาง รักยังสลักกลางดวงใจ แต่ยังหวังในผลบุญนำ ให้บาปกรรมแคล้วไป คืนพบความรักเดิมใน คืนหนึ่งวันเพ็ญ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2010 เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๑๙ ลมหนาว : Love in Spring ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๔๙๗ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ และได้พระราชทานเพลงนี้ ออกบรรเลงครั้งแรก ในงานประจำปีของสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศสวนลุมพินี เมื่อวันเสาร์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๗ ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา แต่งคำร้องภาษาไทยถวาย ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา ยามลมหนาวพัดโบกโบยโชยชื่น เหล่าสกุณร้องรื่นรมย์ หมู่ดอกไม้ชวนภมรร่อนชม ช่างสุขสมเพลินตาน่าดูชูใจ โอ้รักเจ้าเอ๋ย ยามรักสมดังฤทัย พิศดูสิ่งใด ก็แลวิไลแจ่มใสครัน อันความรักมักจะพาใจฝัน เมื่อรักนั้นสุขสมจิตปอง ยามลมฝนพัดโบกโบยกระหน่ำ หยดหยาดนำน้ำหลั่งนอง ผึ้งภู่ทั้งวิหคเหงาเศร้าหมอง เกลื่อนกลาดผองมาลีร่วงโรยลงดิน เหมือนรักผิดหวัง เปรียบดังหัวใจพังภินท์ น้ำตาหลั่งริน และลามไหลเพียงหยาดฝนปราย อันความรักแม้นไม่เป็นดังหมาย ตราบวันตาย ชีพขมขื่นเอย อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2010 เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ ๒๐ ศุกร์สัญลักษณ์ : SUK SANYALUK ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๔๙๗ เพื่อเป็นเพลงประจำวงดนตรี "ลายคราม" โดยบรรเลงทุกคราวที่ทรงดนตรีกับวงดนตรีลายคราม และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ซึ่งเป็นนักดนตรีคนหนึ่งของวงดนตรีลายคราม แต่งคำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ได้พระราชทานออกบรรเลงครั้งแรกทางสถานีวิทยุ อ.ส. ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช คำร้อง: ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ลูกคู่ ซี วิง ลาย คราม ต้องไม่แสดง รุ่มร่าม ซี วิง ลาย คราม ต้องไม่แสดง รุ่มร่าม หนึ่ง สอง สาม สี่ อ้าว ไม่สี หนึ่ง สอง สาม สี่ อ้าว ไม่เป่า ซี วิง ลาย คราม ชู่ ชู่ ชู่ ชู่ เนื้อร้อง ดีด ก็วันนี้ สี ก็วันนี้ ตี ก็วันนี้ ลายคราม เป่า ก็วันนี้ เมา ก็วันนี้ เมา แต่ดนตรี ลายคราม สุข ก็วันนี้ สนุก ก็วันนี้ ศุกร์ สิ้นทุกข์ ลายคราม อิ่ม ก็วันนี้ เมื่อย ก็วันนี้ ง่วง ก็วันนี้ ลายคราม นิ้วพัง ก็วันนี้ ปากเจ่อ ก็วันนี้ เจ่อ เพราะดนตรี ลายคราม สุข ก็วันนี้ สนุก ก็วันนี้ ศุกร์ สิ้นทุกข์ ลายคราม โด ก็วันนี้ เร ก็วันนี้ มี ก็วันนี้ ลายคราม ฟา ก็วันนี้ กวา ก็วันนี้ กวาเพราะดนตรี ลายคราม สุข ก็วันนี้ สนุก ก็วันนี้ ศุกร์ สิ้นทุกข์ ลายคราม อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น