ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ตลาดเงิน ทอง หุ้น ปั่นป่วนกันทั้งโลกแล้ว จับตาดูดี ๆ ห้ามกระพริบตา :21 :21

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Announce

ก็อปมาให้อ่านกันเล่นๆเรื่องเกี่ยวกับการลงทุนครับ

 

 

 

ถ้าเราเอาเงิน 20,000 บาท ไปซื้อทอง

จะได้ทองแค่ 1 บาท

แต่ถ้าเราเอาเงิน 20,000 บาท ไปซื้อปืนเถื่อน

กับ หมวกกันน็อค เราก็จะได้ทองทั้งร้าน อิอิ

แต่..โปรดระวัง! การลงทุนมีความเสี่ยง

ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจ น่ะขอรับ :uu

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศึกษาข้อมูล "เส้นทางหนี" และ "ตำแหน่งกล้องวงจรปิด" หรอครับพี่หมอ :D

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำหรับสมาชิกใหม่บางท่านอาจไม่ทราบว่า ธนาคารกลางของสหรัฐที่มีอำนาจในการพิมพ์ธนบัตรนั้นไม่ใช่ หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ แต่เป็นบรรษัทการเงินเอกชนที่มีมหาเศรษฐีนักการเงินจากยุโรปไม่กี่คนเป็น เจ้าของ คนกลุ่มนี้กุมชะตากรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐและของโลกมาตั้งแต่ประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ลงนามในพระราชบัญญัติเฟดเดอรัล รีเสิร์ฟ ค.ศ. 1912

 

พระราชบัญญัติเฟดเดอรัล รีเสิร์ฟ เป็นกฎหมายลักหลับที่สอดไส้มาช่วงปลายเดือนธันวาคม 1912 สว.และสส.น้ำดีดูว่าไม่มีเรื่องอะไรสำคัญพิจารณาในช่วงนั้น จึงไปอยู่กลับครอบครัวในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ อเมริกาโดนลักหลับอย่างแรง เศรษฐกิจของประเทศตกอยู่ในกำมือของเอกชนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

 

จากปี1912ถึงปัจจุบัน ที่จำได้มีอดีตประธานาธิบดีอยู่2ท่านที่พยายามจะยกเลิกกฎหมายทาสฉบับนี้ แต่มีเหตุบังเอิญให้จบชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วนหรือคือแผนร้าย

1)อับราฮัม ลินคอล์น

2)จอห์น เอฟ เคนเนดี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ใกล้จะขึ้นปีใหม่2015 แล้ว นำเพลงAuld Lang Syne มาฝากเพื่อนๆครับ เป็นเพลงเฉลิมฉลองวันปีใหม่ของชาวสก็อต และกลายเป็นเพลงปีใหม่ของอีกหลาย ๆ พื้นที่ในโลก เพลงนี้เขาแต่งเพื่อระบายความรู้สึกหวนหาอดีต คิดถึงเพื่อนเก่า คนรักเก่า วันเวลาเก่า ๆ

 

สำหรับผมเมื่อฟังเพลงนี้ ผมนึกถึงวันเวลาเก่าๆเมื่อสิบกว่าปีก่อน ณ ตอนนั้น ประเทศไทยมีแต่ความสุขสงบ ไม่มีแบ่งสี รักกัน แต่เพราะเรื่องผลประโยชน์ของเหล่านักการเมือง เรื่องจริงบ้าง เท็จบ้าง ถูกแต่งแต้มขึ้นมาใส่หูประชาชน อยากให้ประเทศเรากลับไปเหมือนอดีตที่มีแต่ความรักกัน

 

ประเทศเราจะกลับไปรักกันเหมือนเดิมได้ ต้องเริ่มที่เธอ เริ่มที่ฉัน เริ่มที่เขา กลายเป็นเรา ใครอยากให้สิ่งนี้เป็นจริงต้องช่วยๆกันครับ

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลดดอกเบี้ย เป็น -0.75% น่าจะ confirm deflation ในสวิสค่ะ เอาเงินไปฝากต้องเสียดอกเบี้ยซะงั้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวแบงก์ชาติสวิสฉุดค่าดอลล์ร่วง หนุนน้ำมันดิบดีดตัวเหนือ 50 ดอลล์

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

 

blank.gif15 มกราคม 2558 21:31 น. blank.gif สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นในวันนี้ จากการอ่อนค่าลงของดอลลาร์ หลังมีข่าวว่าธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ประกาศยกเลิกเพดานการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.20 ฟรังก์สวิส พร้อมลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ -0.75% จาก -0.25%

 

ทั้งนี้ น้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์มีการกำหนดราคาในสกุลดอลลาร์ และมักดีดตัวขึ้น หากดอลลาร์อ่อนค่าลง

 

นอกจากนี้ การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ทบทวนปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมัน ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดในวันนี้

 

ณ เวลา 20.18 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX บวก 1.57 ดอลลาร์ แตะ 50.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ยูโรดิ่งลงถึง 30% ทะลุระดับ 1.20 ฟรังก์สวิส สู่ระดับ 0.8052 เพียงไม่กี่นาที หลังมีข่าวว่า SNB ประกาศยกเลิกเพดานการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับยูโร ส่งผลให้ฟรังก์สวิสพุ่งขึ้นเมื่อเทียบยูโรและดอลลาร์

 

ณ เวลา 19.20 น.ตามเวลาไทย ฟรังก์สวิสแข็งค่า 15% สู่ระดับ 1.02575 เมื่อเทียบยูโร ขณะที่พุ่งขึ้น 33% เมื่อเทียบดอลลาร์ ก่อนที่จะแตะระดับ 0.8779 เมื่อเทียบดอลลาร์ในเวลาต่อมา โดยดีดตัวขึ้น 14% ส่วนเยนแข็งค่าขึ้นเช่นกัน

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้ โดยสัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวกแม้ว่าสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเกินคาดก็ตาม

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 2.59 ดอลลาร์ ปิดวานนี้ที่ 48.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่ผมสงสัย คือ 1 ทำไมสวิสถึงยอมให้เงินตัวเองแข็งค่าในตอนนี้่ มีเหตุอะไรครับ เพราะเคยคุยๆกันไว้ในกระทู้นี้ว่าไม่มีประเทศใดอยากให้เงินตนแข็งค่า

2 การลดดอกเบี้ยไม่ได้มีผลอะไรเลยหรือ ตลาดหุ้นสวิสถึงลบขนาดนั้น ทำไมสวิสยอมให้ตลาดหุ้นลงได้ขนาดนั้นแสดงว่าต้องมีเรื่องอะไรที่สำคัญกว่า?

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Somkiat Osotsapa

 

เมื่อน้ำมันลด ขอเตือนภัยเศรษฐกิจโลก > เศรษฐกิจไทย

วันนี้หนังสือพิมพ์หลายๆฉบับ โดยเฉพาะกรุงเทพธุรกิจได้ไปสอบถามความเห็นของหน่วยราชการ องค์กรต่างๆว่า ผลกระทบของการที่ราคาน้ำมัน แก้สลดลงจะส่งผลต่อไทยอย่างไรบ้าง เช่น ถามไทยออยล์ คมนาคม อุตสาหกรรม สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ธนาคารชาติ กระทรวงพาณิชย์ น่าอ่านครับ

เครือเนชั่นช่วยถาม ช่วยผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศมามาก ถืงคราวรบป้องกันประเทศก็ทุ่มสุดตัว

ในขณะที่ราคาน้ำมันลดลงเรื่อยๆ ด้วยสาเหตุที่จะอธิบายในโพสท์ถัดไป แม้จะทำให้เกิดความหวังว่าชาวบ้านจะมีรายได้เพิ่ม แต่ก็มีอันตรายที่อาจก่อให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก ที่กระทบคนไทยและประเทศไทยได้ หลายเรื่อง

หนื่ง ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

การที่สวิสเซอร์แลนด์ประกาศเลิกผูกเงินฟรังค์สวิสกับเงินยูโร ทำให้ค่าเงินฟรังค์สวิสสูงขื้นมาก

เหตุเกิดจากชาวยุโรปต่างไม่เชื่อในเศรษฐกิจยุโรป และค่าเงินของตน แห่เอาเงินมาฝากเป็นเงินสกุลสวิสมาก รับไม่ไหว จนคิดค่าฝากก็ยังมากันมาก

แล้วสหภาพยุโรปยังจะออกพันธบัตรมหาศาลออกมาขาย พิมพ์เงินว่างั้นเถอะ ถ้าจะให้สวิสฟรังค์ผูกกับยูโร สวิสต้องซื้อยูโรมากขื้นเรื่อยๆ เอาไม่อยู่ เลยลอยตัวค่าเงินตัวเองซะ ค่าเงินยูโรจืงอ่อนยวบลง

อันตรายต่อไทยคือ

>>คนไทยที่เอาเงินไปฝากไว้ในยุโรปในรูปยูโร น่าจะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเยอะ เอากลับประเทศไทยเถอะ ทรัพย์สินไทยอยู่ในต่างประเทศตั้งล้านล้านบาท เอามาใช้ไห้หมุนเวียนในประเทศ คนจะได้หายจน พวกที่เอาไปฝากสิงคโปร์ก็เหมือนกัน ค่าเงินลดลงมามาก และจะลดต่อไป เอากลับบ้านเถอะ

>>กองทุนไทยที่ไปซื้อหุ้น กองทุนในยุโรป ระวังขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน ดร ศุภชัย พานิชภักดิ์เตือนไว้แล้วในการประชุมของธนาคารทหารไทย คนไทยที่จะซื้อกองทุนต้องระวัง

แม้ราคาน้ำมันจะลดลงมาก แต่ยุโรปหลายประเทศที่พื่งพาการนำเข้าน้ำมัน จะไม่ได้ประโยชน์ เพราะพื่งพาภาษีน้ำมันมาก คล้ายๆไทย ขาดความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยน เศรษฐกิจจืงทรุด ราคาน้ำมันในยุโรปแพงกว่าในอเมริกาเกือบสองเท่า

>>บริษัทที่ทำการค้ากับยุโรป ระวังว่าถ้าใช้สกุลเงินยูโรเป็นอัตราแลกเปลี่ยน อาจขาดทุนค่าเงิน เงินบาทมีโอกาสแข็งกว่าเงินยูโร ระวังสัญญาส่งออกให้ดีว่าจะได้เงินสกุลใด

ระวังเงินไหลออกจากยุโรป มีคนสงสัยว่าเยอรมัน จะรับภาระอยู่ประเทศเดียวไหวหรือ เกิดเยอรมันขอแยกสกุลเงินแบบสวิสฟรังค์บ้าง ยูโรแตกแน่นอน นี่คือวิกฤติการเงินโลก

>>บริษัทของไทยที่เอาเงินไปซื้อกิจการในยุโรปเมื่อสองปีที่แล้ว คงรู้สืกว่าซื้อเร็วไปหรือเปล่า

>>นอกจาก เงินยุโรปแล้ว เงินสิงคโปร์มีแนวโน้มอ่อนตัวเร็วมาก เพราะสิงคโปร์ใช้ราคาพลังงานเป็นส่วนหนื่งของการคำนวณอัตราเงินเฟ้อ เศรษฐกิจที่นั่นสนองตอบต่อความเปลี่ยนแปลงราคาอาหาร พลังงานเร็ว ยังมีตะกร้าเงินเยนขนาดใหญ เยนมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ต้องระวังความสามารถในการแข่งขันของไทยให้มาก ค้าขายด้วยสิงคโปร์ดอลลาร์ลำบาก เงินมาเลย์มักจะเคลื่อนไปกับสิงคโปร์

หวังว่าธนาคารชาติจะออกมาให้แนวทางแก่ผู้ส่งออก นำเข้า และรัฐบาลนะครับ

ความไวในการปรับตัวสำคัญมาก

ภัยที่สอง ระวังวิกฤติอุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมี

การที่ราคาน้ำมัน แก้ส และปีโตรเคมีลดลงเกินครื่ง จะก่อให้เกิดวิกฤติการเงิน การธนาคาร และวิกฤติตลาดทุนอย่างรุนแรงทั่วโลก บริษัทผู้ผลิตที่ต้นทุนสูงต้องออกจากตลาด ไม่ว่าจะเป็นบริษัทน้ำมันในอเมริกา บริษัทผลิตshale gas เกินครื่ง บริษัทในอังกฤษ อิหร่าน ผู้ผลิตแก้สโซฮอล์ในบราซิล บริษัทในเอเซียจำนวนมาก

ณ ราคานี้ซาอุดิอารเบียยืนอยู่ได้ บริษัทshale oil ครื่งหนื่งยืนได้ บริษัทที่ไปไม่ไหวจะเจอปัญหาราคาหุ้นตก ผู้ถือหุ้นรับภาระ ธนาคารที่ปล่อยเงินกู้ ที่รับซื้อ junk bond โดนหมด เป็นการคัดเลือกผู้แข็งแกร่งต้นทุนต่ำอีกครั้ง เหมือนวิกฤติสถาบันการเงิน อสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก งานนี้ลามครับ เรียกว่า contagion

ส่งผลต่อตลาดหุ้น ตลาดทุน สถาบันก่รเงิน บริษัทซัพพลายเออร์ และรายได้จากภาษีของภาครัฐหลายประเทศ

ในระดับประเทศ อ่านได้ทันทีว่าประเทศไหนอยู่ หรือไป หรือพอทรงตัว

งาน intelligence สำคัญมาก

ประเทศไทยต้องเตรียมตัวแล้ว รัฐบาลทำอะไรแล้วยัง ปีนี้เกิดแน่นอน มันเป็นปรากฎการณ์ช่วงดีเฟลชั่น จะล้มจะลุกก็ตอนนี้แหละ

ภัยที่สาม ภัยจากดีเฟลชั่น >> ราคาสินค้าลดลงทั้งโลก

ราคาน้ำมันที่ลดลงจก่อให้เกิดการลดราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องตามมา ประเทศที่ราคาไม่ปรับตัวลง ตาม จะเสียความสามารถในการแข่งขัน ตัวอย่างโลว์คอสท์แอร์ไลน์ กับเจ๊เกียว ประมงไทยกับประมงอินโด จนถืงสินค้าเกษตร ระวังจะขายไม่ออก

ปัญหานี้มักเกิดกับประเทศที่พื่งพาภาษีน้ำมันมาก ระวังเกิดปัญหาภายในตามมา

นี่คือการเปลี่ยนของโลกครั้งยิ่งใหญ่ น้ำมันลดครั้งนี้ถาวร ดุลระหว่างประเทศเปลี่ยนหมด

รัฐบาลควรสร้างทีมintelligence ขื้นมารับมือ แบบยุคก่อน

การทุบราคาโน่นนี่เกิดง่ายมาก วันสองวันก็แก้ไม่ทันแล้ว ต้องรุกลูกเดียว

งานนี้สภาความมั่นคงของทุกประเทศทำกัน ครอบคลุมทุกมิติ

อย่าลืมรื้อฟื้นคณะกรรมการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคขื้นมาดูแลด้วย เป็นทีมสมอง แบบอเมริกา คิดเสร็จ มีข้อมูล ส่งต่อให้รัฐบาล อย่าเอาข้าราชการทำ มันเป็นงานสงคราม

ต้องทำงานแบบไม่เป็นราชการนะครับ ไม่งั้นเสร็จมัน

มีบุญเข้ามา แต่จะมีมารมาก่อน จะเปิดใจรับบุญ หรือรับมาร เลือกเอา. เลือกทันที

สวัสดีวันครูครับ ขอให้ประเทศปลอดภัย

ให้กำลังใจทหารนะครับ ช่วยๆกัน

ดร ปณิธาน วัฒนายากร มันมาแล้วนะครับ จะมีเรื่องราวใหญ่โตระดับโลกภายในสามเดือนนี้ หกเดือนนี้. ครบกำหนดสัญญาล่วงหน้าพอดี จะเกิดการปรับตัวมโหฬาร รอดูรายงานไตรมาส1 ของบริษัททั่วโลกให้ดี

จะเกิดการปรับตัวที่แรงมาก จะอยู่รอดเป็นผู้ชนะ ต้องมีข้อมูล ข่าวสารที่พร้อม คนที่ไม่เคยผ่านสงครามอย่าเอาไปรบ ไม่สร้างระบบป้องกันที่ดี ทุกธุรกิจ ทุกคนที่ไม่แข็งแรง จะล้มเป็นโดมิโน หน้าที่ของรัฐคือป้องกันประเทศและประชาชน

เหตุการณ์นี้ทำนายกันไว้แล้วในแวดวงข่าวกรอง ไก่จะออกไข่ งูจะลอกคราบ

โปรดนั่งประจำที่ รัดเข็มขัด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่ผมสงสัย คือ 1 ทำไมสวิสถึงยอมให้เงินตัวเองแข็งค่าในตอนนี้่ มีเหตุอะไรครับ เพราะเคยคุยๆกันไว้ในกระทู้นี้ว่าไม่มีประเทศใดอยากให้เงินตนแข็งค่า

2 การลดดอกเบี้ยไม่ได้มีผลอะไรเลยหรือ ตลาดหุ้นสวิสถึงลบขนาดนั้น ทำไมสวิสยอมให้ตลาดหุ้นลงได้ขนาดนั้นแสดงว่าต้องมีเรื่องอะไรที่สำคัญกว่า?

ไม่รู้อันนี้พอจะเป็นคำตอบได้หรือเปล่า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Chalee Na Roied

1 ชม. ·

 

 

เมื่อคืนวานนี้นามเวลาบ้านเรา ธนาคารกลางสวิสต์ ได้ทำสิ่งที่เรียกว่า"ช็อคโลก" สำหรับบรรดา นักลงทุน ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก -0.25 เป็น -0.75 อย่าไม่มี"ปี่มีขลุ่ยแม้กระทั่งแคน เพราะเป็นดินแดนแห่งนาฬิกา ที่กำหนดเวลาการหมุนของโลกไว้ในกำมือ

ซึ่งทำให้คนที่ฝากเงินในธนาคารแห่งชาติสวิส เงินฝากหายไปทันที 750$ ถ้าฝากเงินจำนวน 100,000 $ นั่นเอง สื่อบางสำนักเรียกเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นว่า สึนามิ ทางการเงิน และทำให้เงินฟรังซ์สวิส แข็งค่าขึ้นทันทีจากเดิม 1.2 ยูโร เป็น 0.850 ซึ่งถ้าใครถอนเงินฟรังซ์ไปแลกยูโร มูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 30% แทบทันทีทันใด แม้ตอนหลังจะดีดกลับมาระดับ 1.0 ก็ตาม

คนที่ได้อานิสงค์ที่สุดก็คือคนยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ที่ทำงานในสวิตเซอร์แลนด์นั่นแหละครับ เพราะทั้งๆที่ค่าจ้างเท่าเดิม แต่พอกลับไปบ้าน รายได้เพิ่มขึ้น สามารถโยกเงิน มาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในปารีส ลอนดอน อิตาลี ได้ในราคาที่ถูกลง

แต่ผลที่ตามมาก็คือ รัฐบาลสวิสกำลังเผชิญกับ ปัญหาจากการภาคการส่งออก เพราะต้นราคาย่อมแพงขึ้น เพราะสินค้าในสวิสส่งออกไปขายยังยุโรปมากกว่า 40% และแน่นอน สำหรับชาวยุโรป ที่จะไปท่องเที่ยวในสวิส ค่าใช้จ่ายย่อมเพิ่มขึ้นอีก ทำให้ภาคการท่องเที่ยวในสวิส พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งบรรดาผู้นำนักธุรกิจ ได้ออกมาประณาม SNB ว่า เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะทำให้มูลค่าการส่งออก สูญหายไปถึง 5 พันล้านฟรังซ์ และจีดีพีลดลงอีก 0.7 % ซึ่งเป็นมุมมองใน ภาคการส่งออกเท่านั้น แต่ธนาคารกลางสวิส น่าจะมองถึงความพยายาม ที่ปลดล็อคตัวเอง ออกมาจากยูโร น่าจะปลอดภัยที่สุด หรือลดการถือครองเงินยูโร เพราะเกรงว่าจะเสี่ยงกับ หายนะทางเศรษฐกิจ ไปพร้อมๆกับมาตรการ มาตรการ QE ของธนาคารยุโรป ที่กำลังจะออกมานั่นเอง

เพราะผลจากการเอาเงินฟรังซ์ไปผูกกับยูโรตั้งแต่ปี 2011 แม้จะทำให้สวิสได้รับอานิสงค์จากฟบู่ เศรษฐกิจของยุโรปไปด้วย เพราะการส่งออกขยายตัว แต่ก็สามารถที่จะเอาตัวรอด แตธนาคารกลางสวิส ต้องใช้เงินปีละ 10,000 ล้าน$ เพื่อซื้อยูโร จากตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เข้ามาโอบอุ้มชาวสวิสเช่นกัน เพื่อรัก

ษาค่าเงินฟรังซ์ต่อยูโรในระดับ 1.2 ยูโร/ฟรังซ์สวิส ให้เป็นผลดีกับภาคการส่งออกนั่นเอง http://www.zerohedge.com/…/peter-schiff-swiss-surrender-win…

วิกฤติการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในยุโรป สหรัฐ และรวมถึงเอเชีย กระทั่งญี่ปุ่น ทึ่เปรียบเสมือนตัวแทนของตะวันตก ในทวีปเอชีย เพราะยูโรก็ไปผูกโยงกับดอลลาร์ เงินเยนของญี่ปุ่น ก็เช่นเดียวกัน ญี่ปุ่นก็ออกมาตรการQE ยูโรคาดว่ากำลังมีมาตการQE เช่นกัน แต่เวลานี้ทางธนาคารกลางสวิส น่าจะมองเห็นแล้วว่า มาตรการQE ที่กำลังจะออกมานั้น ไม่ได้ช่วยหสภาพยุโรป แต่อย่างใดจึงส่งสัญญาณล่วงหน้า เพราะเศรษฐกิจของสหรัฐ และยุโรปเวลานี้ มันไม่ได้ตั้งอยู่พื้นทางที่ แข็งแกร่งอย่างแท้จริง เป็นเพียงฟองสบู่ที่ เกิดจากมาตรการ QE รอการประทุเท่านั้น http://www.zerohedge.com/…/20…/next-round-great-crisis-begun

ธนาคารทั่วโลกล้วน ส่วนใหญ่ทำดำเนินนโยบาย ไปในทางเดียวกัน เพราะลงเรือลำเดียวกันนั่นเอง เมื่อวานนี้ผมใช้คำว่า "สละเรือ" และคาดการณ์ว่า ลำดับต่อไปน่าจะเป็น เยอรมัน แต่พอเข้ามาอ่านบทวิเคราะห์ของ เครค เฮมเก้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ก็วิเคราะห์ไปในทางเดียวกัน ต่างกันเพียงคำพูดเท่านั้น เพราะSNB กำลังกระโดดออกจากขบวนรถไฟ(สายมรณะ) ถือ เป็นสัญญาณที่ส่ง ไปทั่วโลก ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนั่นเอง...

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Thanong Fanclub

7 ชม. · มีการแก้ไข ·

 

12. เตรียมทำศึกกันแล้ว

คนส่วนมากชอบพูดว่าดอลล่าร์ไม่มีวันล่ม หรือcrash จีนหรือรัสเซียจะไปมีน้ำยาทำอะไรดอลล่าร์ได้ แต่เมื่อวานนี้ดอลล่าร์crashให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว

ดอลล่าร์ตก28.34% และยูโรร่วง28.8%เมื่อเทียบกับเงินสวิสฟรังค์ หลังจากที่ธนาคารกลางของสวิสอั้นไม่ไหว ต้องปล่อยค่าเงินลอยตัวจากที่เคยผูกค่าเงินฟรังค์กับยูโรที่ระดับ1.20ตั้งแต่ปี2011

ดอลล่าร์ตกจาก1.02สวิสฟรังค์เป็น 0.7309 ส่วนยูโรตกจาก1.20สวิสฟรังค์เป็น0.8546 ก่อนที่จะดีดตัวมาอยู่ที่1.0458

ดอลล่าร์crashให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้วว่าชั่วโมงนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ คนที่อยู่ในโลกเก่าจะเชื่อในเสถียรภาพ ไม่คิด ไม่ต้องการหรือไม่สามารถคาดการได้ว่าการเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้อย่างกระทันหัน หรือสามารถเปลี่ยนอย่างรุนแรงแบบหน้ามือเป็นหลังมือเพราะว่าระบบโลกมาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว

ที่ธนาคารกลางสวิสอั้นไม่ไหวเพราะว่านักลงทุนโยกเงินเข้าตลาดการเงินสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากมีข่าวว่าฝ่ายกฎหมายของสหภาพยุโรปให้ไฟเขียวให้ธนาคารกลางของยุโรปทำการพิมพ์เงินเพื่ออุ้มเศรษฐกิจและระบบการเงินยุโรปได้โดยไม่ผิดกฎหมายหรือกฎบัตรของอียู

ยิ่งพิมพ์เงินหรือเพิ่มปริมาณเงิน ค่าเงินยูโรจะตก นักลงทุนเลยหนีตายไปหาสวรรค์ที่พักพิงหรือsafe haven อีกเหตุผลประการหนึ่งคือมีข่าวก่อนหน้านี้ว่ากรีซอาจจะออกจากเงินยูโร ทำให้มีโอกาสเกิดแบงค์รัน หรือคนแห่ไปถอนเงินจากธนาคาร ซึ่งมันก็เกิดขึ้นจริงแล้วที่กรีซที่คนไปแห่ถอนเงินจากแบงค์ เพราะไม่มั่นใจว่ากรีซจะอยู่หรือจะไป

ตอนนี้เยอรมันและสวิตเซอร์แลนด์เป็นสวรรค์ที่พักเงินของชาวยุโรป เพราะว่าเศรษฐกิจยังแข็งแกร่งอยู่เมื่อเทียบกับประเทศยุโรปอื่นๆที่ง่อนแง่นเต็มแก่ เยอรมันแกร่งทางด้านการผลิตการส่งออก ส่วนสวิสเก่งทางด้านการเงิน และส่งออกถึง54%ต่อจีดีพี ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลเยอรมันอายุ5ปีให้ดอกเบี้ยติดลบ หมายความว่านักลงทุนจ่ายค่าจ้างรัฐบาลเยอรมันให้ถือเงินของตัวเอง ส่วนสถาบันการเงินสวิสต้องรับเงินที่ไหลเข้ามาเหมือนเขื่อนแตก ธนาคารกลางสวิสขึ้นดอกเบี้ยชาร์จเงินฝากข้ามคืนจาก0.25% เป็น0.75% นี้คือปรากฎการณ์ของmonetary madnessหรือการเงินที่เป็นบ้าไปแล้ว

คงจำกันได้ว่าในเดือนพฤศจิกายนที่แล้ว มีการทำประชามติเพื่อให้ธนาคารกลางสวิสกลับมาถือทองเหมือนอย่างในอดีต ให้ถือทองอย่างน้อย20%ของทรัพย์สินทั้งหมด เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของเงินฟรังค์ เพราะว่าชาวสวิสไม่มั่นใจในระบบเงินกระดาษยูโรและกระดาษดอลล่าร์ที่มีแต่พิมพ์เอาๆเพิ่มปริมาณเงิน ทำให้ค่าเงินด้อยค่า แต่ผู้ว่าธนาคารกลางสวิสออกมาโต้ว่าถ้าให้กลับถือทองจะทำให้เจ้าหน้าที่ไม่มีความยืดหยุ่นในการบริหารนโยบายการเงิน และที่สำคัญจะไม่สามารถรักษาค่าเงินสวิสที่ผูกแน่นกับยูโรได้ที่ระดับ1.20

ดูเอาก็แล้วกันไม่ถึง3เดือนเองหลังจากพูดคำนั้นออกมา ธนาคารกลางสวิสก็ปลดล๊อคการตรึงค่าเงินสวิสกับยูโร เพราะว่าอั้นเงินนอกที่ทะลักเข้ามาไม่ไหวนั้นเอง พวกนายธนาคารกลางเป็นพวกจอมโกหก

เวลาเงินยูโรไหลเข้ามาในประเทศเพื่อแลกฟรังค์ ธนาคารกลางสวิสจำต้องพิมพ์เงินฟรังค์ออกมาเพื่อรับซื้อหรือรับแลกยูโร เพื่อรักษาค่าเงินที่1.20เพื่อหนุนการส่งออก ไม่งั้นค่าเงินจะแข็งไปที่1.0อะไรทำนองนี้

มาตรการรักษาค่าเงินที่ระดับ1.20นี้ตั้งแต่ปี2011ทำให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางสวิสเพิ่ม85%จาก257,500ล้านฟรังค์เป็น475,600ล้านฟรังค์ การถือยูโรเพิ่มจาก120,485ล้านยูโรเป็น174,335ล้านยูโร ถือดอลล่าร์เพิ่มจาก$62,945ล้านเป็น$142,366ล้าน

ธนาคารกลางสวิสขาดทุนป่นปี้จากการถือยูโรที่ค่าตก แต่เป็นเกมเงินกระดาษต่อเงินกระดาษล้วนๆ เพราะว่าเงินฟรังค์ที่พิมพ์ออกมาเปล่าๆโดยไม่มีทรัพย์สินรองรับแท้ที่จริงแล้วมีค่าเป็นศูนย์ ไปซื้อยูโรที่พิมพ์ออกมาเปล่าๆ และซื้อดอลล่าร์ที่พิมพ์ออกมาเปล่าๆ แต่หลังจากนั้นมีการสมมุติวามีค่า ทำให้สามารถซื้อทรัพย์สินที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น อสังหาฯ โรงงาน ฯลฯ

ด้วยเหตุนี้เองที่จีนและรัสเซียต้องการออกจากระบบเงินกระดาษที่โลกตะวันตกสร้างมาหลายศตวรรษแล้วเพื่อควบคุมความร่ำรวยของโลก ปูตินสั่งเทขายดอลล่าร์แล้วเพื่อล้มเปโตรดอลล่าร์ และจะทำให้รัสเซียเลิกอยู่ใต้อิทธิพลดอลล่าร์ ส่วนจีนต้องการให้หยวนมีอำนาจในการซื้อเหมือนดอลล่าร์ จึงได้มีการสะสมทอง ทำหยวนสว๊อปกับ28ประเทศแล้วเพื่อค้าขายกันโดยไม่ต้องใช้เงินดอลล่าร์

จีนผูกค่าเงินหยวนกับดอลล่าร์ที่ระดับประมาณ6หยวนต่อดอลล่าร์ เหมือนกับที่ธนาคารสวิสผูกฟรังค์กับดอลล่าร์ก่อนที่จะเลิกผูกเมื่อวานนี้ ที่ผ่านมาจีนอั้นไหว เพราะว่าเศรษฐกิจจีนมีขนาดใหญ่กว่าสวิตเซอร์แลนด์มาก

ประเด็นคือถึงจุดหนึ่ง จีนจะล้มเปโตรดอลล่าร์เหมือนที่ปูตินทำ คือเลิกผูกหยวนกับดอลล่าร์ แต่หันมาผูกกับทองคำแทน ให้ราคาทองเป็นตัวยืน ไม่ใช้ให้ดอลล่าร์กระดาษเป็นตัวยืน แล้วจีนประกาศว่ามีทองคำสำรองอยู่16,000ตันเพื่อหนุนค่าเงินหยวน

ถ้าจีนประกาศอย่างนั้น คำถามคืออัตราแลกเปลี่ยนระหว่างหยวนและดอลล่าร์จะไปที่ใด -- 5 หยวนต่อดอลล่าร์ หรือ4หยวนต่อดอลล่าร์ หรือ 3หยวนต่อดอลล่าร์ หรือ2หยวนต่อดอลล่าร์

แล้วดอลล่าร์จะไม่crashหรือ?? แค่เงินสวิสที่เป็นประเทศเล็กๆยังทำให้ดอลล่าร์crashได้ แล้วหยวนจะทำให้ดอลล่าร์crashหนักกว่าไม่ได้หรือ

คนส่วนใหญ่คิดว่าจีนต้องทำค่าเงินอ่อนเพื่อหนุนการส่งออก ก็ดูพวกสวิสก็แล้วกันทำได้ตลอดหรือไม่ ความจริงค่าเงินแข็งสำหรับหยวนจะดีกว่าอ่อน เพราะว่าจีนไม่จำเป็นต้องส่งออกมาก เอาหยวนแข็งๆมาบริโภคหรือtake overกิจการทั้งโลกได้สบายๆ ระหว่างส่งออกเหงื่อตกเหนื่อยเกือบตาย กับซื้อกิจการของคนอื่นมาบริหารต่อให้ฝรั่งทำงานงกๆเงินๆให้ อย่างไหนจะดีกว่ากัน

swiss francยังน๊อคดอลล่าร์ให้นับแปดได้ แล้วหยวนน๊อคดอลล่าร์ไม่นับสิบหรือ คิดกันง่ายๆ

และนี้คือปฐมเหตุของWW3 เพราะว่าสหรัฐฯจะยอมให้หยวนผงาดและดอลล่าร์crashไม่ได้ วันใดที่จีนทิ้งดอลล่าร์ วันนั้นเราคงได้เห็นดอกเห็ดบานตะไท

thanong

16/1/2015

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับคุณหมอเล็กที่แก้งงให้

เรื่องนี้น่าเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันต่อไป ราคาน้ำมันระดับนี้จะทรงอยู่ได้นานแค่ไหน ใครเป็นคนกดราคายังเถียงๆ กันอยู่เลย บ้างก็ว่าโอเปคเตะตัดขาเชลออยล์ บ้างก็ว่าเมกาเตะตัดขารัสเซีย

ก่อการร้ายถี่ยิบ แต่หุ้นทั่วโลกไม่ลง เหมือนดันเอาไว้ งานนี้ถึงรู้สึกเสียวๆ ยังไงไม่รู้

เรื่องสวิสนี่ จะโดนหางเลขด้วยเพราะหนีเอาตัวรอดหรือเปล่าไม่รู้นะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับคุณหมอเล็กที่แก้งงให้

เรื่องนี้น่าเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันต่อไป ราคาน้ำมันระดับนี้จะทรงอยู่ได้นานแค่ไหน ใครเป็นคนกดราคายังเถียงๆ กันอยู่เลย บ้างก็ว่าโอเปคเตะตัดขาเชลออยล์ บ้างก็ว่าเมกาเตะตัดขารัสเซีย

ก่อการร้ายถี่ยิบ แต่หุ้นทั่วโลกไม่ลง เหมือนดันเอาไว้ งานนี้ถึงรู้สึกเสียวๆ ยังไงไม่รู้

เรื่องสวิสนี่ จะโดนหางเลขด้วยเพราะหนีเอาตัวรอดหรือเปล่าไม่รู้นะครับ

 

บางมุมมองเขาก็มองว่า ผู้ผลิตน้ำมันเจ้าเก่าๆของอเมริกาต้องการฮุบเชลออยล์ ก็เลยทุบให้เจ๊งไปแล้วจะได้เทคโอเวอร์ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...