โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Safe Heaven

[หมีน้ำ 239]

ขอบคุณครับคุณหมีน้ำ ผมชอบห้องนี้เพราะส่วนมากเราคุยกันด้วยเหตุผลเป็นหลัก เมื่อคุยด้วยเหตตุผลก็จะได้ความรู้

 

-----การโกหกว่าร้ายแล้ว แตการพูดความจริงไม่หมดอาจร้ายกว่า

 

-----แล้วที่ปิโครนาสมีกำไรมากกว่าเราประมาณ4เท่า ทั้งที่รายได้ใกล้เคียงกัน พอจะมีข้อมูลมั้ยครับ

 

 

ถ้าดูจากงบการเงินของสองบริษัทก็ต้องบอกว่า ปิโตรนาสมี"ต้นทุน"น้อยกว่า ปตท. เยอะถึงเยอะมากครับ สำคัญสุดคงเป็นเพราะเค้ามีบ่ิอน้ำมันในมาเลนั่นล่ะครับ

 

 

ปิโตรนาสปี 2555 รายได้จากการขายและบริการ 2,909,760 ล้านบาท ต้นทุนของยอดขายและบริการ 1,834,61X ล้านบาท กำไรก่อนหักภาษี 890,079 ล้านบาท กำไรหลังหักภาษี 590,620 ล้านบาท

 

 

ปตท. ปี2555 รายได้จากการขายและบริการ 2,845,717 ล้านบาท ต้นทุนของยอดขายและบริการ 2,561,XXX ล้านบาท กำไรก่อนหักภาษี 162,605 ล้านบาท กำไรหลักหักภาษี 104,666 ล้านบาท

[หมีน้ำ 239]

ผมว่าเรื่องราคาน้ำมันบ้านเรา ก็คล้ายกับเรื่องราคาทองคำในอินเดียนั่นล่ะครับ (แอบเอากลับมาเข้าเรื่องทอง) คือ มันแพงกว่าชาวบ้านเพราะนโยบายของรัฐ เช่น ภาษี การต้องการให้ลดการใช้งาน ฯลฯ

[milo 888]

ขอบคุณครับ คุณ tungsuitek

 

แต่ผมเห็นว่า ความเท่าเทียมไม่ใช่ของจริง แต่ ความยุติธรรม เป็นของจริง ครับ

 

ความไม่เท่าเทียมเกิดจากการสร้างเหตุปัจจัยที่ต่างกัน จึงเกิดผลต่างกัน ทำให้เห็นว่าแต่ละคนไม่เท่าเทียมกัน แท้จริงแล้ว ความไม่เท่าเทียมเป็น ผล จากเหตุปัจจัยที่แต่ละคนทำมาต่างกัน

 

ทำเหตุอย่างไร เกิดผลอย่างนั้น นั่น คือ ความยุติธรรม ครับ เป็นความยุติธรรมของแท้ที่ไม่ต้องเรียกร้อง

 

ความเห็นส่วนใหญ่ของผม ไม่ใช่ผมคิดเองหรอกครับ แต่มาจากการอ่านบ้าง สังเกตเอาบ้างจากเหตุการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะสังคมที่เป็นแบบอย่างที่ดีอย่างสังคมพระที่แท้จริง พระปฏิบัติกรรมฐาน เป็นตัวอย่างของประชาธิปไตยและสังคมนิยม ตั้งแต่เริ่มบวชก็ต้องผ่านมติของวัด ของถวายวัดก็เป็นของกลาง สมภารเป็นผู้สั่งจ่ายให้พระรูปที่ขาดแคลนก่อน หรือมากกว่า ถ้ามีการพิพาทต้องตั้งกรรมการพิจารณา แล้วยังมีคารวะ อาวุโส มีบารมี มีกรรม มีวิบาก ไ่ม่ใช่ทุกคนเท่ากันหมด สรุปย่อมาจาก ชีวิตพระป่า ของคุณหมออวย เกตุสิงห์ครับ อีกเล่มที่เนื้อหาแนวนี้ คือ ธรรมมิกสังคมนิยมของท่านพุทธทาสครับ

 

ถ้าสนใจก็ลองหาอ่านดูนะครับ เพราะเป็นรูปธรรม ส่วนปรัชญาการปกครองหลายๆ รูปแบบ ผมว่ายังเป็นอุดมคติ จับต้องลำบากเพราะฝืนหลักความจริง

[leo_attack 579]

ขอบคุณครับคุณหมีน้ำ ผมชอบห้องนี้เพราะส่วนมากเราคุยกันด้วยเหตุผลเป็นหลัก เมื่อคุยด้วยเหตตุผลก็จะได้ความรู้

 

-----การโกหกว่าร้ายแล้ว แตการพูดความจริงไม่หมดอาจร้ายกว่า

 

-----แล้วที่ปิโครนาสมีกำไรมากกว่าเราประมาณ4เท่า ทั้งที่รายได้ใกล้เคียงกัน พอจะมีข้อมูลมั้ยครับ

 

เนื่องจากผมอยู่ไต้หวันจึงไม่สามารถเอาตัวเลขที่ชัดเจนมาให้ได้ แต่ชี้แจงอย่างงี้ครับ

 

เราใช่เบนซินแพงกว่าชาวบ้าน แต่ใช้ดีเซลถูกกว่าชาวบ้านครับ

 

ปริมาณการใช้น้ำมันต่อวันเราใช้ดีเซลมากกว่าเบนซินมากครับ ดังนั้นกำไ ปตท หายไปไหน ก็เอาจ่ากเบนซินมาอุ้มดีเซลผ่านกองทุนน้ำมันครับ และยังรวมถึงการอุ้มแก๊สด้วยครับ

 

ดังนั้นมันก็เรื่องการเมืองที่บอกความจริงแต่บอกไม่หมดแหละครับ

คือเราใช้ของปริมาณน้อยแพงแต่ใช้ของปริมาณมากถูกครับ ซึ่งส่วนตัวผมจึงคิดว่าเราใช้น้นมันในราคาสมเหตุสมผลครับ

[thoney87 92]

เนื่องจากผมอยู่ไต้หวันจึงไม่สามารถเอาตัวเลขที่ชัดเจนมาให้ได้ แต่ชี้แจงอย่างงี้ครับ

 

เราใช่เบนซินแพงกว่าชาวบ้าน แต่ใช้ดีเซลถูกกว่าชาวบ้านครับ

 

ปริมาณการใช้น้ำมันต่อวันเราใช้ดีเซลมากกว่าเบนซินมากครับ ดังนั้นกำไ ปตท หายไปไหน ก็เอาจ่ากเบนซินมาอุ้มดีเซลผ่านกองทุนน้ำมันครับ และยังรวมถึงการอุ้มแก๊สด้วยครับ

 

ดังนั้นมันก็เรื่องการเมืองที่บอกความจริงแต่บอกไม่หมดแหละครับ

คือเราใช้ของปริมาณน้อยแพงแต่ใช้ของปริมาณมากถูกครับ ซึ่งส่วนตัวผมจึงคิดว่าเราใช้น้นมันในราคาสมเหตุสมผลครับ

 

มันเป็นราคาสมเหตุสมผล ???????????

 

อยากทราบต่อว่า...มันเป็นเหตุผลของ "พระ" หรือ เหตุผลของ "โจร" ครับ เพราะโจรจะปล้นใครก็จะมีเหตุผลอย่างหนึ่ง ของพระก็จะมีเหตุผลอีกอย่างหนึ่ง

[leo_attack 579]

 

 

มันเป็นราคาสมเหตุสมผล ???????????

 

อยากทราบต่อว่า...มันเป็นเหตุผลของ "พระ" หรือ เหตุผลของ "โจร" ครับ เพราะโจรจะปล้นใครก็จะมีเหตุผลอย่างหนึ่ง ของพระก็จะมีเหตุผลอีกอย่างหนึ่ง

 

ไม่เข้าครับ รบกวนช่วยขยายความได้มั้ยครับว่าเกี่ยวกับพระและโจรอย่างไรครับ

 

แต่ถ้าให้ตอบแบบเดา ผมให้เหตุผลของหน่วยงานผู้ปฏิบัติงาน ที่ต้องทำงานให้อยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ขาดทุน ตาม พรบ ขององค์กรครับ

คือขายของอย่างหนึ่งขาดทุนเพื่ออุ้มราคา ก็ต้องขายอีกอย่างหนึ่งแพงเพื่อเอากำไรไปชดเชยครับ

 

ส่วนรัฐบาลไหนจะมีนโยบายอุ้มส่วนไหนเท่าไหร่ก็สุดแล้วแต่ครับ ต้องแยกออกจากกัน

ถูกแก้ไข ธันวาคม 4, 2013 โดย leo_attack

[mdaddy 2,443]

--- โอ้ยุ่งไปหลายวัน กลับมาโชคดีที่มีโควตากด "ชอบสิ่งนี้" จนครบ ประเด็นน่าสนใจเพียบ ---

 

......

... เอาจากรูปนี้เลยก็ได้ครับ ที่ราคาน้ำมันในไทยกับมาเลเซียต่างกันมันก็เพราะโครงสร้างภาษีครับ โดยเฉพาะภาษีน้ำมันกับกองทุนก็ปาเข้าไป 20 กว่าบาทของราคาน้ำมันแล้ว ถ้าอยากใช้น้ำมันถูก ง่ายๆเลยก็เอาภาษีตรงนี้ออก รายได้ที่เอาไปอุ้ม LPG/NGV ก็จะลดลง และเราก็มาจ่ายค่า LPG หรือแก๊สหุงต้มแพงขึ้น

......

...

ปริมาณ การใช้น้ำมันต่อวันเราใช้ดีเซลมากกว่าเบนซินมากครับ ดังนั้นกำไ ปตท หายไปไหน ก็เอาจ่ากเบนซินมาอุ้มดีเซลผ่านกองทุนน้ำมันครับ และยังรวมถึงการอุ้มแก๊สด้วยครับ

...

 

 

เรื่องพลังงาน ผมไม่ค่อยได้ติดตามมาก (สมัยก่อนเคยนั่งจิ้มเครื่องคิดเลขอยู่เหมือนกัน)

แต่ขออ้างอิงข้อมูลจาก สำนักนโยบาย ก.พลังงานนะครับ

http://www.eppo.go.th/petro/price/

 

ข้อสังเกตุส่วนตัว จากข้อมูล ณ วันที่ ๔ ธ.ค. ๕๖ (หากผมเข้าใจอะไรผิด กรุณาทักท้วง แก้ไข)

• มีเชื้อเพลิง ๓ ชนิดเท่านั้น ที่ได้รับการ "อุ้ม" จากกองทุนน้ำมัน ดีเซล, อี๒๐, อี๘๕
  
• พลังงานที่คุยกันว่า "สีเขียว" อย่าง อี๘๕ มีพลังงานต่อลิตรน้อยกว่าเพื่อน (เอธานอลมีความหนาแน่นพลังงานต่ำกว่า) จากที่เคยคำนวณหยาบๆ การเลือกใช้ อี๘๕ จะประหยัดค่าเชื้อเพลิง(ต่อระยะทาง)ไปเพียงร้อยละ ๑๕-๒๕ โดยยังไม่ได้พิจารณาเรื่องความสึกหรอที่เพิ่มขึ้น --- แต่สิ่งที่ทำให้มันประหยัดไปได้ไม่เยอะ ไม่ได้อยู่ที่ข้อจำกัดของมันเอง แต่อยู่ที่ "ค่าการตลาด" ที่แพงกว่า อี๒๐ ถึง ๓ เท่า!!!!! (ถ้าอยากให้ "สีเขียว" กันจริง ทำไมถึงโขกค่าการตลาดกันจัง เอธานอลก็ผลิตเองได้มิใช่ฤๅ)
  
• มานั่งดูตัวเลขดีๆแล้ว .. เจอประเด็นชวนคิด ... อี๘๕ ภาษีถูก, ได้เงินหนุนจากกองทุนเยอะกว่าเพื่อน ... แต่ค่าการตลาดก็ได้เยอะกว่าเพื่อนเหมือนกัน (๕.๔๗ บาท กับ ค่าการตลาดเฉลี่ยของเบนซินที่ ๑.๕๒ บาท) ค่าการตลาดนี้สามารถเรียกว่าเป็นการ "คืนกำไร" ให้บ.ผู้ขายน้ำมันได้หรือไม่?!
  
• กองทุนน้ำมันมี ๒ กอง (กาซหุงต้มมีกอง ๑+๒, น้ำมันเชื้อเพลิงมีกอง ๑ กองเดียว)
   
  ถ้าราคาน้ำมันผันผวนระยะสั้น กองทุนน้ำมัน ก็สามารถเอามาเป็น "ยาชา" ไม่ให้ผู้ใช้งาน เจ็บตัวมากได้
  แต่ถ้าน้ำมันขึ้นยาวๆ ลงยาวๆ กองทุนน้ำมัน ก็ไม่ต่างกับยาผีบอก หรือการหลอกเอาขนมเด็กกิน เพราะยังไงมันก็ฝืนตลาดไม่ได้
  
• นอกจากกองทุนน้ำมัน ที่ใช้เป็นเครื่องมือ "บิดเบือนราคา" แล้ว ยังมี "ภาษี" ที่ใช้ช่วยบิดเบือนอีก
  
• ดีเซล เป็นเชื้อเพลิงที่มีความหนาแน่นพลังงานสูงกว่าเบนซิน จึงควรจะมีราคาสูงกว่า (ดังที่เห็นได้จากราคาหน้าโรงกลั่น)
  
• แต่ ดีเซล กลับถูกบิดเบือนให้ถูกกว่า ด้วยการเก็บภาษี เพียง "ครึ่งสตางค์" ในขณะที่ 'โซฮอล ๙๕/๙๑ ถูกเก็บภาษีถึงเกือบ ๗ บาท
  
• ความเข้าใจส่วนตัว : ภาษีพลังงาน เข้ากระเป๋ารัฐล้วนๆ ไม่ได้เอามาอุ้มราคาน้ำมัน คนละเรื่องกัน (แต่อุ้มฐานเสียงหรือเปล่าไม่รู้)
  
• นอกจากนี้ ยังมี "กองทุนอนุรักษ์" ที่ต้องเสียตังให้เขาอีกด้วย (ซึ่งยังไม่มีเวลาขุด ว่าใครเป็นคนบริหาร มีการควบคุมอย่างไร)
  

จากข้อสังเกตุข้างบน ผมสรุปตาม "คอมมอน เซนส์" เอาเองได้ตามนี้ (ถูก/ผิด กรุณาแก้ไข)

• ผู้กุมอำนาจ สามารถบิดเบือนราคาพลังงานได้ด้วยเครื่องมือ ๓ ชิ้น ... ภาษี, กองทุนน้ำมัน, ค่าการตลาด
  
• อัตราภาษีกำหนดแล้ว เปลี่ยนได้ยาก
  
• กองทุนน้ำมันเป็นเรื่องแหกตา เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาราคาน้ำมันดิบแพงได้อย่างยั่งยืน (อย่างเก่งก็เป็นแค่ยาชา)
  
• หน้าที่กองทุนน้ำมันที่แท้จริง คือการให้ความสะดวกผู้กุมอำนาจ "บิดเบือนราคา" ได้บ่อยๆ เช่น วันนี้น้ำมันโลกลง แต่ฉันจะเพิ่มราคาน้ำมัน ก็ไปเพิ่มที่ "กองทุนน้ำมัน" เอา ฯลฯ
  
• จาก กระแสโลก ที่ผมได้ติดตามมานั้น "กองทุนอนุรักษ์" ก็จะทำหน้าที่ไม่ต่างกับ "ภาษี" ชนิดหนึ่ง แต่เงิน "ภาษี" ชนิดนี้ ไม่อยู่ในความควบคุมของรัฐโดยตรงแบบภาษีทั่วไป เป็นช่องทางผลักเงินเข้ากระเป๋ากลุ่มทุนได้ง่ายกว่ามาก (อัลกอร์ เคยบอกไว้ว่า กระแสโลกเขียว มีช่องทางให้หากำไรอีกเยอะ)
  
• กระแส "โลกเขียว" ที่มีอยู่ในตอนนี้ เป็นเรื่องแหกตา ... เพราะถ้าอยากจะ "ประหยัด" พลังงานจากรถยนต์จริงๆ รถขนาดเล็ก/กลาง ที่เป็นดีเซล จะได้รับการสนับสนุนมากกว่านี้ เพราะเดินทางได้ไกลกว่า ในปริมาณน้ำมันที่เท่ากัน เครื่องยนต์สมัยใหม่บางรุ่น ควันพิษปลายท่อ น้อยกว่าเบนซินเสียอีก (ลองหารถยนต์นั่งบุคคล เครื่องดีเซล ราคาต่ำกว่าล้าน ในไทยดู ว่าหาได้กี่คัน) คุยกับเพื่อนๆ คนนึงขับเบนซ์ดีเซล คนนึงขับยาริส ... วิ่งเท่ากัน จ่ายค่าพลังงานพอๆกัน(บางครั้งเบนซ์ถูกกว่าอีกนะ) ...
  
• ถ้าอยากจะเทียบ บริษัท ป. ของรัฐสารขัน กับบริษ้ท ป. ของมาเลย์ -- ต้องเทียบที่ราคาหน้าโรงกลั่น ว่าใคร "ฟัน" ลูกค้าแรงกว่ากัน จะได้เอาเรื่องภาษี/กองทุนฯ มาแก้ต่างไม่ได้ (มาเลย์ก็มีเงินอุดหนุนพลังงานเหมือนกัน)
  

ป.ล.

ถูกแก้ไข ธันวาคม 4, 2013 โดย wcg

[ส้มโอมือ 4,910]

ขอรบกวนพื้นที่ห้องนี้อีกครั้งนะครับ ผมมีความคิดทั้งหมด3เรื่อง เป็นข้อเสนอสำหรับประเทศของเราเรื่องที่2 ช่วยติช่วยก่อเพื่อให้ดีขึ้น เพราะอาจนำไปใช้ได้บ้าง ใครเห็นว่าความคิดนี้ใช้ได้ ช่วยแชร์ด้วยครับ

---การศึกษาของประเทศเราจะดีได้ ที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ว่าจะต้องมีอาจารย์ที่เก่งมาก อาจารย์แค่มีความรู้ปานกลางก็รับได้แล้ว แต่ที่สำคัญที่สุดอาจารย์ต้องมีใจรักเด็ก สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้การศึกษาของเราเดินหน้าไปได้ดีกว่าที่ผ่านมา

---ผมเสนอว่าการรับอาจารย์ทุกระดับชั้น อนุบาล ประถม มัธยม หรือแม้แต่อาจารย์ในมหาวิทยาลัย ต้องมีการทดสอบว่าผ่านเกณฑ์หัวข้อมีใจรักเด็กมั้ย ทดสอบโดยให้ไปอยู่กับเด็กอนุบาลทั้งวัน เป็นเวลา3-5วัน มีกล้องวงจรปิดสังเกตพฤติกรรมได้ตลอด ใครไม่ผ่านเกณฑ์นี้ก็แนะให้ไปทำอาชีพอื่น วิธีนี้ผมไม่เชื่อว่าจะกรองได้ทั้งหมด แต่น่าจะกรองที่ไม่ใช่ออกไปได้พอสมควร สำหรับความคิดนี้ผมอยากให้โรงเรียนเอกชนบางแห่งช่วยนำร่องไปก่อน จะได้มีข้อมูลว่ามีอุปสรรคอะไรบ้าง ผลที่ได้เป็นไงเพื่อที่จะเป็นแนวทางให้โรงเรียนของรัฐ

---คนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาก็ต้องทดสอบเกณฑ์นี้เหมือนกัน

---อาจต้องมีการปรับฐานเงินของอาจารย์สูงขึ้น เพื่อให้คนจำนวนมากสนใจมาเป็นอาจารย์ เพื่อที่จะได้มีโอกาสเลือกคนที่รักเด็กและมีความรู้มาเป็นแม่พิมพ์ของชาติ

 

---อาจารย์และข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการเดิมๆที่ทำงานมาก่อนระเบียบเรื่องนี้ ก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร แต่ถ้าจะขึ้นสายบริหารเช่น จะเป็นผอ.โรงเรียน จะเป็นศึกษาธิการ เป็นคณะบดี เป็นอธิการบดี หรือตำแหน่งต่างๆ ต้องให้ไปอยู่กับเด็กอนุบาล3-5วัน ถ้าไม่ผ่านเกณฑ์ก็ขึ้นไม่ได้ ส่วนคนที่ผ่านก็ไม่ได้คะแนนบวกอะไร แค่บอกว่าผ่านการประเมินเรื่องนี้ ต้องยอมรับว่าการใช้วิธีนี้กับผู้ที่ผ่านงานมานานจนใกล้จะขึ้นสายบริหาร ผู้ทดสอบอาจจะเก่งมากจนเอาตัวรอดผ่านเกณฑ์ไปได้ แต่ผมเชื่อว่าการได้อยู่กับเด็กเล็กๆเป็นเวลานาน น่าจะช่วยทำให้เขามีใจรักเด็กเพิ่มกว่าเดิมครับ

ถูกแก้ไข ธันวาคม 4, 2013 โดย ส้มโอมือ

[ส้มโอมือ 4,910]

ช่วยรบกวนอ่านหน่อยครับ เป็นข้อเสนอสำหรับประเทศของเราเรื่องที่3 ช่วยติช่วยก่อเพื่อให้ดีขึ้น เพราะอาจนำไปใช้ได้บ้าง ใครเห็นว่าความคิดนี้ใช้ได้ ช่วยแชร์ด้วยครับ

---เรื่องปฏิรูปรูปกระทรวงเกษตรของผม ต้องเรียกว่าเป็นแบบพลิกระบบกันเลย และอาจนำแนวนี้ไปประยุกต์ปฏิรูประบบราชการของกระทรวงอื่นครับ

---ประเทศเรา ข้าราชการเหมือนเจ้านายประชาชน แต่ทำไมในประเทศพัฒนาบางประเทศเขาตรงข้ามกับเรามาก เราต้องปรับว่าการเลื่อนตำแหน่งหรือเลื่อนขั้น ต้องดูจากผลงานเรื่องชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่เขาต้องดีขึ้น ถ้าชีวิตเกษตรกรในพื้นที่เขาไม่ดีขึ้น ไม่ว่าคุณจะเส้นใหญ่แค่ไหน เลียเจ้านายเก่งแค่ไหน ผลงานด้านอื่นจะดีแค่ไหน แต่เจ้านายที่แท้จริงของเขาไม่ดีขึ้นกว่าเดิม ถือว่างานหลักตก

ดังนั้นถือว่าไม่ผ่าน ไม่ต้องพิจารณาผลงานด้านอื่น

---ลองดูข้อมูลนี้ครับ---ประเทศที่มีผลผลิตข้าวต่อไร่สูงสุดคือ ประเทศสหรัฐอเมริกา ผลผลิตเฉลี่ย 1,270.59 กิโลกรัมต่อไร่ รองลงมาอันดับ 2 คือประเทศเกาหลีใต้ ผลผลิตเฉลี่ย 1,216 กิโลกรัมต่อไร่

ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทย เช่น เวียดนามผลผลิตข้าวเฉลี่ย 836.45 กิโลกรัมต่อไร่ อยู่ในอันดับ 5 ตามมาด้วยอินโดนีเซีย 799.76 กิโลกรัมต่อไร่ อยู่ในอันดับ 6 พม่า 653.63 กิโลกรัมต่อไร่ อยู่ในอันดับ 9 ลาว 576.43 กิโลกรัมต่อไร่ อยู่ในอันดับ 11 ฟิลิปปินส์ 574.22 กิโลกรัมต่อไร่ อยู่ในอันดับที่ 12 ประเทศไทย 459.17กิโลกรัมต่อไร่ อยู่ในอันดับที่ 17

ข่อมูลจากhttp://www.dailynews...%B8%B0%E0%B8%97

---ถ้าเราสามารถเพิ่มผลผลิตข้าวต่อไร่ได้ ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่มีความยิ่งใหญ่ด้านข้าว และมีความมั่งคั่งด้านอาหารอย่างมาก ถ้าต้นทุนการผลิตต่อไร่ถูกลง เช่นเพิ่มการใช้ปุ๋ยหมักลดการใช้ปุ๋ยเคมี ปรับปรุงวิธีการปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิต เลือกพันธ์ข้าวที่เหมาะกับสภาพดินในพื้นที่นั้น สุดท้ายกำไรต่อไร่ของเกษตรกรต่อไร่ไม่ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ต้องเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ถ้าอยากเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งต้องขยันไปให้ความรู้ประชาชน ต้องขยันศึกษาว่าพื้นที่ในการดูแลเหมาะกับการปลูกพืชอะไรและพันธ์ไหน

---ถ้าเกษตรกรในพื้นที่เจอปัญหาอะไรก็ตาม เช่นแมลงศัตรูพืชระบาด โรคระบาดในพืชหรือสัตว์ที่เลี้ยง สุดท้ายเกษตรกรขาดทุนมากมาย อย่าหวังว่าคุณจะได้เลื่อนตำแหน่ง ถ้าคุณอยากเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งคุณต้องลงไปคลุกปัญหา ต้องลดการสูญเสีย ต้องลดต้นทุนการกำจัดศัตรูพืชของเกษตร

ผลผลิตต่อไร่ของเขาต้องเพิ่มขึ้น ต้นทุนต่อไร่ต้องลดลง กำไรของเกษตรกรต้องดีขึ้นกว่าเดิม เกษตรต้องมีฐานะที่ดีขึ้น การเป็นหนี้สินน้อยลงกว่าเดิม ถ้าทำไม่ได้ถือว่าไม่มีผลงานอย่าหวังว่าจะเลื่อนขั้น

---ผลงานวัดจากรายได้เกษตรที่เพิ่มขึ้น ลืมตาอ้าปากได้ มีหนี้สินน้อยลง อดีตเวลามีโรคระบาดหรือแมลงศัตรูพืชระบาด มีแต่เกษตรกรเท่านั้นที่ทุกข์ใจ แต่ถ้าใช้ระบบนี้ข้าราชการกระทรวงเกษตรก็จะทุกข์ใจไม่แพ้เกษตรกร ถ้าไม่สามารถลดความสูญเสียของเกษตรกรได้เขาอดเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง

เขาต้องรู้ว่าการเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งจะเกิดเมื่อชีวิตเกษตรกรในพื้นที่ดูแลต้องดีขึ้นกว่าเดิม

***รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ถ้าครบ1ปีรายได้ของเกษตรกรไม่ดีขึ้นถือว่าสอบตก ต้องปรับออกและไม่มีสิทธ์ไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงอื่น

ถูกแก้ไข ธันวาคม 4, 2013 โดย ส้มโอมือ

[ส้มโอมือ 4,910]

Thanong Fanclub

ถูกใจแล้ว · เมื่อวานนี้ เวลา 22:00 น. ·

 

ช้าแต่ชัวร์ หยวนแซงยูโรไปแล้ว

 

เงินหยวนช้าแต่ชัวร์ในการก้าวขึ้นมาเป็นเงินสกุลหลักของโลก มีรายงานจากSWIFT ซึ่งเป็นระบบศูนย์ข้อมูลการเงินของโลกว่า หยวนได้แซงยูโรแล้วในสินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ(trade finance) แต่ยังตามหลังดอลล่าร์อยู่

 

ตอนนี้หยวนมีส่วนแบ่งการตลาด8.66%ในการทำtrade finance ณ เดือนตุลาคม ส่วนยูโรมีสัดส่วน6.64%

 

ประเทศที่ใช้เงินหยวนมากในการทำtrade finance คือจีน ฮ่องกง สิงคโปร์ เยอรมัน และออสเตรเลีย

 

thanong

4/12/2014

 

http://www.zerohedge.com/news/2013-12-02/chinese-yuan-surpasses-euro-becomes-second-most-used-currency-trade-finance

[ส้มโอมือ 4,910]

ฟิทช์-มูดี้ส์ อ้างการเมืองขย่ม จ้องหั่นเรทติ้งไทย (4-12-56)

 

[mdaddy 2,443]

ฟิทช์-มูดี้ส์ อ้างการเมืองขย่ม จ้องหั่นเรทติ้งไทย (4-12-56)

 

น่าเสียดายที่บริษัทมือปืนรับจ้างพวกนี้เป็น "มาตรฐานโรค" ของการให้ระดับความน่าเชื่อถือไปเสียแล้ว

ในขณะที่บริษัทที่ทำหน้าที่ของตัวเองดีๆ อย่าง "อีแกน โจนส์" โดนอาวุธหนักถล่มเวลาพูดความจริงที่ขัดขามาเฟีย

 

ส่วนตัว ใครอยากหั่น ก็หั่นไป ... หากในชาติเลือกทำในสิ่งที่ดีที่สุด ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

หากเนื้อหาหลักของการตัดสินใจอิงกับ "ความเชื่อมั่นของนานาชาติ" ก็ไม่ต่างกับ "ทาส" ที่ต้องคอยเอาใจเขา ตลอดชั่วนาตาปี

 

* * * *

 

กรณีเรื่องการศึกษา... ความเห็นของผม ถ้าหากเราเปลี่ยนระบอบการศึกษาจากการ "จำจด"

เป็น "คิด วิเคราะห์ แยกแยะ" เพื่อฝึกให้คนมีศักยภาพในการคิดด้วยตัวเอง เมื่อนั้น

คุณภาพประชากร ก็จะพัฒนาขึ้นตามลำดับ ... หากคนถูกสอนให้ "จำจด" เพียงอย่างเดียว

เวลาโตขึ้นไป เขาก็จะทำได้เพียงการ "จำจด" และรอรับคำสั่งจากเจ้านายของเขาเท่านั้น

 

ไม่ต่างกับฟันเฟืองชิ้นหนึ่ง ที่ถูกผลิตมาเพียงเพื่อป้อนให้กับเครื่องจักรชิ้นใหญ่

 

ชื่อของหลักการ "คิด วิเคราะห์ แยกแยะ" นั้น ผมเห็นมาจากที่หลายๆคนคุยกันในทวิตเตอร์

แต่เมื่อลองเทียบดูแล้ว น่าจะไม่ต่างกับหลักการ "ทริเวียม" (trivium) นัก

 

* * * *

 

เรื่องการเกษตรของเรา ยังอิงกับผลประโยชน์ของกลุ่มทุน-รัฐบานอยู่มากครับ

ตราบใดที่ต้องซื้อคอมโบ เมล็ดพันธุ์-ปุ๋ย-ยาฆ่าแมลง เกษตรกรก็ไม่มีทางมั่งคั่ง

เพราะระบบห่วงโซ่อุปทาน ได้มีการบูรณาการราคาต่างๆไว้ ตั้งแต่ ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ เรียบร้อยแล้ว

สมัยก่อนมีสหกรณ์เกษตร สมัยนี้มี "คอนแทรคฟาร์มมิ่ง"

 

นอกจาก คอมโบ ดังกล่าว ยังจะทำลายเกษตรกรที่เลือกใช้แล้ว ยังทำลายเกษตรกรข้างเคียงอีกด้วย

 

* * * *

 

ใครมี โพสท์ ทูเดย์ ฉบับวันมหามงคล ... ขอแนะนำให้อ่านหน้า เอ๗

มีการอ้างอิงถึงบทความโดยนายคาตาลูชชิ ที่สื่อตลาดๆทั่วไป (แม้แต่สื่อมาตรฐานโรค) ก็ไม่กล้าเอามาลง

คีย์เวิร์ดบางคำในบทความ สามารถนำมาใช้ช่วยไขข้อข้องใจเรื่อง "การศึกษา" และ "การเกษตร" ได้ครับ

ถูกแก้ไข ธันวาคม 5, 2013 โดย wcg

[ส้มโอมือ 4,910]

Seam Arsenalการลงทุนด้วยระบบ

2 ชั่วโมงที่แล้ว

 

ทองคำ เมื่อคืนปิดเเถวๆ 1247$ หลักจาก DX อ่อนค่า ดีดขึ้นมาย้ำเส้น support ที่ได้ break ลงมาเป็น support become resistance ก่อนจะหลุด new low

[mdaddy 2,443]

อะไรเอ่ย : ลงทุน ๑๐๐ เหรียญ (อาจจะ) ได้คืน ๑๖ เหรียญ

....

เฉลย : กองทุนบำนาญของเมืองดีทรอยท์

 

ตอนนี้ศาลมีคำพิพากษาแล้ว ว่าเมืองดีทรอยท์ สามารถดำเนินการทำเรื่องล้มละลายได้

ซึ่งรวมถึงการ "ตัดผม" กองทุนบำนาญของเมืองอีกด้วย

 

http://www.foxnews.com/politics/2013/12/03/judge-detroit-eligible-for-chapter-bankruptcy/

[mdaddy 2,443]

ถ้าคุณเป็นหนี้ หรือเอาเงินที่คนอื่นเขามาฝาก ใช้ไปจนหมดแล้ว คุณจะทำอย่างไร?

-- ประหยัดเงิน หาเงินมาใช้เจ้าหนี้

-- ถ่วงเวลาใช้หนี้ไปเรื่อยๆ รอเจ้าหนี้ใกล้ตายแล้วค่อยเริ่มทยอยใช้

 

* * *

 

-- ตอนนี้เมืองผู้ดีบอกว่า อายุเกษียณในอังกฤษ จะเพิ่มเป็น ๖๘ ปี ในช่วงปี ๒๐๓๐ (๖๖ ภายในปี ๒๐๒๐)

 

http://uk.reuters.com/article/2013/12/05/uk-britain-pensions-idUKBRE9B400I20131205

 

* * *

กองทุนเกษียณอายุ โดยเฉพาะที่บริหารโดยรัฐแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับ พอนซี สคีม หรือ พีระมิด สคีม

ตราบใดที่ฐานยังขยายตัว ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าฐานหดตัว ก็จะพัง