ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ECB & QE

 

ข่าวที่ดูจะเป็นประเด็นมากระดับนึงในตลาดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ ECB กับการทำ QE

 

หลังทั่นประธานดรากิส่งสัญญาณในการประชุมที่ Jackson Hole ว่า ECB อาจมีการออกมาตรการกระตุ้นศก.เพิ่มเติม เนื่องจากศก.ยุโรป(ที่บอกว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และเริ่มฟื้นตัวแล้ว) ยังไม่ฟื้นตัวตามที่ต้องการหรือเท่าที่คาดการณ์ (growth น้อย , อัตรเงินเฟ้อต่ำ , การว่างงานยังสูง)

 

ซึ่งด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำติดดินอยู่แล้ว ตัวเลือกก็คงจำกัดจำเกี่ย นโยบายที่เหลืออยู่คงไม่พ้นการอัดเงินเข้าระบบเพื่อกระตุ้นศก.โดยตรง ก็ทำให้ตลาดคาดว่า ECB น่าจะมีการประกาศทำ QE ในเร็วๆนี้ (จริงๆ ECB ก็ทำ QE แบบเล่นแร่แปรธาตุผ่านพวกกองทุน LTRO EFSF อะไรเถือกๆนี้มาหลายรอบแล้ว)

 

ส่งผลให้ช่วงนี้ค่าเงินยูโรอ่อนด๊อกแด่ก ประกอบกับตัวเลขศก.สหรัฐออกมาดี(มั่งไม่ดีมั่ง) เลยทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนยวบไปกันใหญ่

 

รายละเอียดยิบย่อยคงไม่พูดถึง มาดูผลกระทบที่มีโอกาสจะเกิดขึ้นกันดีกว่าถ้า ECB ออก QE จริง

 

ปล.1 บางแห่งวิเคราะห์ว่า ECB จะยังไม่ทำ QE เท่ากับว่า ECB QE อาจเกิดหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้

 

ปล.2 ทั้งหมดด้านล่างคือความเห็นส่วนตัว อาจมีความผิดพลาดโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

 

ปล.3 เน้นตัวเขียวเพราะหวังว่าบางอย่างมันจะเขียวตาม (ฮา)

 

 

1. นี่เป็นครั้งแรกที่ ECB จะทำ QE แบบตรงๆโต้งๆ ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ต่อตลาดมากๆ แต่เอาจริงๆมันก็คือเหล้าเก่าในขวดใหม่ นั่นล่ะครับ

 

2. ค่าเงินยูโร น่าจะปรับตัวลง ตามความสัมพันธ์ของนโยบายการเงินลักษณะดังกล่าว ค่าเงินดอลลาร์น่าจะแข็งขึ้นสวนทางกัน

 

3. ตลาดหุ้นน่าจะฮาเฮและมี upside เพิ่มขึ้นอีกขึ้นอยู่กับปริมาณเงินที่จะเข้ามาในระบบ โดยเฉพาะ emerging market อาทิ ไทยแลนด์ อินเดีย ฯลฯ รวมทั้งตลาดสหรัฐ ส่วนยุโรปลุ้นๆแต่ก็น่าจะขึ้นเช่นกัน

 

4. ทองคำ สินทรัพย์วัดดวง มีโอกาสทั้งขึ้นทั้งลงและหาเหตุผลตามมาที่หลัง ถ้าขึ้นน่าจะเพราะการทำ QE ทำให้เกิดความกังวลต่อเงินเฟ้อทองคำเลยปรับขึ้นตาม เพื่อป้องกันทั้งเงินเฟ้อและกระจายความเสี่ยงจากหุ้น , ถ้าลงก็คงเพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นกดดันราคาทอง รวมถึงเงินเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงเช่นหุ้น

 

5. Yields พันธบัตรรัฐหลายแห่งในยุโรปน่าจะปรับตัวลง ในกรณีที่ ECB เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยตรง

 

6. ประเทศเล็กหรือประเทศที่มีปัญหาการเงินของยุโรปอยู่แล้ว เตรียมโดนยาแรง และรอลุ้นว่าจะแพ้ยาตายรึเปล่าในอนาคต ส่วนประเทศศก.โคตรดีอย่างเยอรมันน่าจะสบายตัว

 

จบ ดื้่อๆ ฮา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไม่รู้มีข่าวอะไร แต่ตอนนี้ทองดิ่ง น้ำมันร่วงกันเลยทีเดียว......

 

ไม่มีอะไร แค่พึ่งเติมน้ำมันไปเมื่อวาน ชิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไม่รู้มีข่าวอะไร แต่ตอนนี้ทองดิ่ง น้ำมันร่วงกันเลยทีเดียว......

 

ไม่มีอะไร แค่พึ่งเติมน้ำมันไปเมื่อวาน ชิ

 

ลงเมื่อวานก็ ตัวเลขศก.สหรัฐดี ดอลลาร์แข็ง ทองหลุดแนวรับ .... เหตุผลมักจะมาหลังราคาวิ่งเสมอ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
4. ทองคำ สินทรัพย์วัดดวง มีโอกาสทั้งขึ้นทั้งลงและหาเหตุผลตามมาที่หลัง ถ้าขึ้นน่าจะเพราะการทำ QE ทำให้เกิดความกังวลต่อเงินเฟ้อทองคำเลยปรับขึ้นตาม เพื่อป้องกันทั้งเงินเฟ้อและกระจายความเสี่ยงจากหุ้น , ถ้าลงก็คงเพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นกดดันราคาทอง รวมถึงเงินเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงเช่นหุ้น

 

ดูเหมือนว่าทองคำคือสุดท้ายท้ายสุดของทางออกนะครับ ต้องรอจนไม่มีทางไปจึงหันมาหาทองคำ แต่ปูตินก็เดิมพันไว้กับทองเหมือนกัน

ราคาทองในท้ายสุด จะกลายเป็น เครื่องบ่งบอกผู้แพ้ชนะ ไปแล้ว ชักน่ากลัวมากกว่าน่าลุ้น เดิมพันมันสูงขึ้นเรื่อยๆ

ถูกแก้ไข โดย milo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำหรับใครที่ติดตามรายการ Top of the world ของคุณทนง และคุณวัชรา ตอนนี้สามารถติดตามรายการใหม่ได้ที่ Nation Radio หรือ ดูผ่าน youtube ได้ที่

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หรือเป้าของขาทุบ ทุบราคาโลหะมีค่าจนเหมืองขาดทุน แล้วเข้าซื้อเหมือง

 

 

 

 

ไฮโซชาวดอย เพิ่ม 2 รูปภาพใหม่

16 กันยายน เวลา 8:42 น. ·

 

เดารายวัน

สวัสดีไฮโซชาวดอย เมื่อวานนี้ทองเปิดตลาดที่ 1227 ลงไปทำ low ใหม่ที่ 1225 ก่อน rebound ทำ high ที่ 1238 ก่อนจะปิดตลาดที่ 1233 สรุปขึ้นมา 6 เหรียญ เป็นวันแรกในรอบหลายๆวัน

เมื่อวานนี้ ทองได้ขึ้นมาเพราะมีข่าว Physical demand ของทองคำแท่งในปีนี้ที่เพิ่มขึ้นมาจาก $739 Million มาเป็น $2 Billion โดยมีตัวเลขนำเข้าจากต่างประเทศที่มีให้เห็น โดยจีนมาอันดับต้น ซึ่งทำให้มีแรงหนุนจาก Gold Future เข้ามา 0.3% จากการลดถือจำนวนมากในอาทิตย์ที่แล้ว

ข่าวที่น่าสนใจอีกข่าวเช้านี้คือ AngloGold เหมืองใหญ่ใน South Africa หลังจากหนีสิ้นเพิ่มขึ้น $3.2 Billion หรือคิดเป็น debt-to-equity 103% จากราคาทองที่ลงต่อเนื่องมาตลอด พร้อมที่จะขายหุ้นทิ้งและแยกตัวออกซึ่งวางแผนที่จะขายหุ้นทิ้งประมาณ $2.1 Billion ซึ่งแน่นอนผู้ถือหุ้นรายใหญ่และ Hedge Fund ทั้งหลายอาจจะสะเทือนเพราะเป็นการขายทิ้งมากกว่า Physical Gold ที่ซื้อกันปีนี้ด้วยซ้ำ ซึ่งอาจจะทำให้หุ้นทิ้งดิ่งลงหรือราคาทองตกลง หรืออาจจะในทางตรงกันข้ามราคาทองอาจจะเพิ่มขึ้นเพราะ supply ลดลง แต่เชื่อว่าข่าวร้ายนี้ น่าจะมีผลกับทองในทางลบก่อน ก่อนจะไปถึง demand กับ supply

ปัญหาในยูเครนเช้านี้ก็ยังไม่ไปไหน สหรัฐได้ร่วมซ้อมรบเล็กๆกับยูเครนเป็นการขู่ขวัญเพราะอย่างไรสหรัฐก็ไม่เข้า ไปสู่สงครามเพราะไม่ผ่านสภาแน่นอน ในขณะที่ผู้นำรัสเซียกลับโทรคุยกับผู้นำเยอรมันเพื่อหาข้อยุติในการหยุดยิง และผู้นำเยอรมันได้ confirm กับคุณปูตินว่าไม่มีการส่งอาวุธ support ให้ยูเครน เหมือนที่ยูเครนออกมากล่าวว่า Nato ให้อาวุธใหม่ ดูแล้วเหมือน ยูโรกับรัสเซียเจรจาหาสันติ แต่สหรัฐก็อยากดันให้รบจัง เหมือนอย่างที่คุณปูตินพูดไว้ในวันหยุด เชื่อว่าเรื่องนี้คงยังอยู่ในการหยุดยิงเหมือนเดิม ส่วนในอิรัคก็เหมือนเดิมเมื่อวานนี้ Aust ส่งกองกำลังไปอีก 600 นาย เพื่อสนับสนุนการล้มล้าง ISIL ต่อไป

ในเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ Industrial Production ออกมาไม่ดีนักวันนี้มีตัวเลข PPI ซึ่งคาดว่าจะน้อยลงเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงไม่สำคัญเท่ากับการประชุม FED ใน 16-17 ซึ่งมองว่าตัวเลขคงไม่เป็นผลมากมายแค่ทำให้ทองวิ่งในกรอบ side way ก่อนที่จะได้ผลประกาศ ไว้เรามาวิเคราะห์กันว่าแนวโน้ม FED จะเป็นอย่างไรในวันพรุ่งนี้

ในทาง Technical ในที่สุดกราฟก็มี rebound เล็กๆขึ้นมา ตาม divergence ของ TF รายเล็ก แต่เราอย่าลืมว่าใน TF รายใหญ่นั้นกราฟจำเป็นต้องกลับลงต่ำกว่า 1225 เพื่อสร้าง divergence ก่อนที่จะสามารถขึ้นได้ ดังนั้นที่เราเห็นนี้แค่เป็นเพียง retracement เท่านั้น คำถามก็คงมี retracement ถึงไหนก็คงให้แนวเดิมของเมื่อวานให้แนว 1236-1243 วันนี้ก็คงยึดตามเดิมคือแนวต้าน 1243 โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1257

วันนี้คงแนะนำเหมือนเมื่อวานคือ รอ rebound เข้า S ต่อไป เมื่อวานก็ติดมา 1 ไม้ 1234 เห็นเลขสวยดีวันนี้ก็ติดอ่างตามระเบียบ แต่ไม่เป็นไรเพราะเชื่อว่าแนวโน้มใหญ่นั้นลง แค่สะสมอ่างไปเรื่อยๆ โดยมองว่าวันนี้อาจจำเป็นต้องรอหน่อยดูว่าถึง 1242-1243 หรือไม่ก่อนจะเฉลี่ย S เข้าไป โดยมองเหมือนเดิมว่า ทองจำเป็นต้องลงต่ำกว่า 1225 อีกครั้งก่อนจะมาตัดสินว่าจะมี rebound จริงหรือไม่

วันนี้ขอเพิ่มมีสิ่งที่อยากให้ดูคือกราฟ US Dollar Index ซึ่งเทรนสำคัญมากเพราะถ้าข้ามแนวด้านที่สร้างรูป Symmetrical ขึ้นไปในวันนี้หรือพรุ่งนี้ Dollar index จะเป็นเทรนขาขึ้น ซึ่งแน่นอนทุกอย่างตรงที่ตรงข้ามนั้นจะเป็นขาลง ไม่ว่าในเรื่องของค่าเงินหรือทองคำ ดังนั้นระวังเพราะถ้ามีแรงหนุนจริงเราอาจจะพบ 88 หรือ 92

ขอให้มีความสุขในการลงทุน ขอพระเจ้าอวยพร ^^

 

Johnny Pereira มีข่าวเหมืองปิด เหมืองเจ๊ง ใกล้จุดซื้อแล้วครับ หุหุ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เผย จีนผลิตทองคำมากสุดในโลก 4 ปีติด

 

ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 พฤษภาคม 2554

เฟิ่งหวง - จีนกลายเป็นชาติผลิตทองคำมากสุดในโลก 4 ปี ติดต่อกัน อีกทั้งที่มีแหล่งทรัพยากรทองคำสำรองมากเป็นอันดับ 3 ของโลก ขณะที่ ปริมาณการซื้อขายผลิตภัณฑ์ทองคำทุกชนิดในตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Gold Exchange) มีมากสุดในโลก รวมทั้งสิ้นราว 6,046.064 ตัน

 

ในงานมหกรรมเครื่องประดับเซี่ยงไฮ้ 2011 (2011 Shanghai International Jewelry Forum Festival) จัง หย่งเทา นักวิเคราะห์ธุรกิจทองคำจีน เผยว่า “ปัจจุบัน ทั่วโลกมีแหล่งทรัพยากรทองคำที่ได้รับการสำรวจแล้ว รวมทั้งสิ้นราว 100,000 ตัน ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ รัสเซีย จีน ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และสหรัฐฯ เป็นต้น”

 

“จากการสำรวจแล้ว พบว่า แอฟริกาใต้เป็นชาติที่มีทรัพยากรทองคำมากสุดในโลก ราว 31,000 ตัน รองลงมาเป็นรัสเซีย ราว 7,000 ตัน และจีนอยู่ในอันดับ 3 ราว 6,328 ตัน”

นายจัง กล่าวต่อว่า “30 กว่าปีมานี้ อุตสาหกรรมทองคำของประเทศจีนพัฒนาอย่างรวดเร็ว อัตราการขยายตัวเฉลี่ยปีละ ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2521 จีนผลิตทองคำได้เพียง 19.67 ตัน ขณะที่ ในปี 2550 ปริมาณการผลิตทองคำในจีนอยู่ที่ 270.5 ตัน แซงหน้าแอฟริกาใต้ได้เป็นครั้งแรก กลายเป็นชาติที่ผลิตทองคำได้มากสุดในโลกจนถึงปัจจุบัน โดยในปี 2553 จีนผลิตทองคำได้ราว 340.876 ตัน ”

 

“จีนเป็นประเทศที่มีแหล่งแร่ทองคำที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ มีเหมืองแร่ทองคำจำนวนมาก โดยเป็นที่คาดการณ์ว่า ทรัพยากรแร่ทองคำในจีนมีปริมาณมากถึง 30,000 - 50,000 ตัน”

 

นายจัง กล่าวเสริมว่า “ปี 2553 ปริมาณความต้องการใช้ทองคำในภาคอุตสาหกรรมการผลิตทองคำทั่วโลก อยู่ที่ราว 2,778.6 ตัน โดยอินเดียเป็นชาติที่มีความต้องการทองคำมากสุดในโลก ราว 783.4 ตัน รองลงมาเป็นจีน 571.51 ตัน และสหรัฐฯ ตามมาเป็นอันดับ 3 ราว 180.9 ตัน”

 

“นอกจากนี้ ในปี 2553 ปริมาณการซื้อขายผลิตภัณฑ์ทองคำทุกชนิดในตลาดทองคำเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Gold Exchange) มีมากสุดในโลก รวมทั้งสิ้นราว 6,046.064 ตัน ขณะที่ สัญญาการซื้อขายทองคำล่วงหน้า หรือ โกลด์ฟิวเจอร์ส (Gold Futures) ในตลาดทองคำล่วงหน้าเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Futures Exchange หรือ SHFE) มีปริมาณการซื้อขายทองคำล่วงหน้ามากเป็นอันดับ 7 ของโลก รวมทั้งสิ้นราว 6.794 ล้านกิโลกรัม (สัญญาละ 1 กิโลกรัมทองคำ)”

 

นักวิเคราะห์บางรายมองว่า “ในอนาคตข้างหน้า เราอาจเห็นชาวจีนหันมาลงทุนทองคำมากขึ้น ด้วยว่านับตั้งแต่ปี 2493 รัฐบาลจีนได้สั่งห้ามภาคเอกชนลงทุนและถือครองทองคำ จนมาถึง ปี 2544 ตลาดทองคำจีนจึงเริ่มบูม จากการที่ชาวจีนถูกกีดกันมานานเกือบ 50 ปี ทำให้เกิดความกระตือรือร้นในการลงทุนทองคำมากขึ้น”

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เรื่องของระบบSAFETY ที่กำหนดเพิ่มเติมเข้ามา น่าจะทำให้ต้นทุนเหมืองแพงขึ้นอีกเยอะ

 

SSO Savings Club

 

10 ตุลาคม 2013

 

SSO Savings Club กับ Financing Banking

ต้นทุนการผลิต ‘ทองคำ’ เป็นกี่บาทกันแน่? โดย วิน พรหมแพทย์

ตามที่เล่าให้ฟังว่า ที่ๆ มีต้นทุนการผลิตทองคำ (Cash Cost) ถูกที่สุดในโลก คือ ทวีปอเมริกาเหนือ อยู่ที่ $598/oz ... ที่ๆ มีต้นทุนการผลิตทองคำแพงที่สุดในโลก คือ ทวีปแอฟริกา อยู่ที่ $957/oz ... ทั้งนี้ ตัวเลข Cash Cost ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น เงินลงทุนในการเปิดเหมือง ค่าสำรวจ ฯลฯ อีกประมาณ $350/oz ครับ

 

เวลาพูดเป็น $/oz เราอาจจะนึกไม่ออก ผมขอแปลงเป็น “ต้นทุนการผลิตทองคำต่อทอง 1 บาทไทย” โดยใช้สูตร

ราคาทองไทย = ( Spot Gold + 1 ) x THB x 0.473

และใช้อัตราแลกเปลี่ยน 31 บาท/$ จะได้เป็นต้นทุนการผลิตทองคำในแต่ละทวีปดังที่เห็นในภาพครับ

ทวีปแอฟริกามีต้นทุนการผลิตทองสูง เนื่องจากต้องขุดลงไปในชั้นหินลึกมาก ต้นทุนของเหมืองเหล่านี้เกือบ 20,000 บาทต่อทองคำ 1 บาท จึงน่าคิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ คือ ราคาทองคำในตลาดโลกลงไปต่ำกว่า $1,300/oz หรือ ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อทองคำหนัก 1 บาท อาจจะมีเหมืองหลายแห่งประสบปัญหาขาดทุนแล้ว เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงกว่าราคาทองที่ขายได้ ... หลายคนจึงคาดว่า โอกาสจะเห็นราคาทองคำลงไปอยู่ที่บาทละ 8,000 – 10,000 บาทเหมือนเมื่อก่อน คงยากเต็มทีครับ

ถึงตรงนี้แล้วอาจจะสงสัยว่า “แล้วตอนราคาทองอยู่ที่ 10,000 บาท เหมืองทองไม่ขาดทุนเหรอ?” คำตอบคือ “ต้นทุนการผลิตทองทุกวันนี้สูงกว่าเมื่อก่อนมากครับ” ... ตารางทางขวาเป็นต้นทุนการผลิตของเหมือง TauTona ที่แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นเหมืองทองที่ลึกที่สุดในโลก (มีความลึกเกือบ 4 กิโลเมตร) จะสังเกตได้ว่า นับวันเราจะต้องขุดชั้นหินลึกขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ได้ทองคำ ต้นทุนการผลิตจึงสูงขึ้นทุกปี .... เมื่อก่อนนี้ราคาทองอยู่ที่ 10,000 บาท เหมืองคงอยู่ได้ ถ้าวันนี้ราคาทองลงไป 10,000 บาท เหมืองนี้อยู่ไม่ได้แน่ครับ!

ถ้าชอบเรื่องเกี่ยวกับทองคำ ช่วยกันกด Like และ Share ได้ตามอัธยาศัยครับ ถ้ามีคนกด Like เยอะๆ จะได้มาเล่าเรื่องทองคำต่ออีกครับ

Cr. ข้อมูลจาก World Gold Council และ Virtual Capitalist

ปล. ดูคำอธิบายสูตรการคิดราคาทองคำไทยได้ที่ http://bit.ly/15WPHTB

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จากข้อมูลข้างล่าง เวลาทองคำลงหนักราคาหุ้นเหมืองทองคำลงหนักกว่า ขาใหญ่เมื่อมีความจำเป็นต้องทุบราคาทองคำ การเข้าซื้อทองคำเก็บเป็นสิ่งที่ต้านการทุบทองคำของพวกเขา(ซึ่งพวกเขาคงไม่ทำ) แต่การซื้อหุ้นเหมืองทองที่ราคาต่ำๆน่าจะเป็นทางเลือกที่ดี เดาว่าเวลาทองคำกลับมาพุ่งแรง ราคาเหมืองน่าจะพุ่งแรงกว่า

 

InfoQuest News - หมดยุค “หุ้นเหมืองทอง”

 

 

05-08-2013 04:07:16

 

การตัดเงินปันผลของบริษัท บาร์ริค โกลด์ คอร์ป คือความเสื่อมถอยครั้งล่าสุดสำหรับนักลงทุนที่บอบช้ำจากการลงทุนในโลหะมีค่า อย่างทองคำในปีนี้

ราคาทองได้ปรับตัวลง 22% ในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าการยุตินโยบายเงินแบบผ่อนคลายของธนาคารกลาง สหรัฐจะทำให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า แต่สำหรับผู้ที่มองหาประโยชน์จากการลงทุนในบริษัทเหมืองทองคำ การสังหารหมู่ในรอบนี้มีแต่เลวร้ายลง

ดัชนีอาร์คา โกลด์ บักส์ ในตลาดนิวยอร์ก ซึ่งติดตามการเคลื่อนไหวของบริษัทเหมืองทองคำ 17 แห่ง ได้ปรับตัวลง 45% ในปีนี้ ขณะเดียวกัน บริษัทบาร์ริค ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่สุดของโลก ได้แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ขาดทุนในช่วงไตรมาสสอง 8,560 ล้านดอลลาร์ เทียบกับที่ได้กำไร 787 ล้านดอลลาร์เมื่อหนึ่งปีก่อน และบริษัทได้ลดเงินปันผลลงเหลือ 5 เซนต์ จาก 20 เซนต์ หุ้นบาร์ริคได้ปรับตัวลงถึง 53% ในปีนี้ และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาราคาหุ้นเหลือแค่ 16.81 ดอลลาร์ ลดลงจากวันก่อนหน้า 16 เซนต์ หรือ 0.9%

นักลงทุนหลายคนบอกว่า นี่คือจุดเปลี่ยนที่คุ้นเคยกันดีสำหรับหุ้นเหมืองทองคำ หุ้นกลุ่มนี้มักเคลื่อนไหวตามราคาทองคำในระยะเวลา 12 ปี ที่ตลาดคึกคัก แต่ดูเหมือนว่าความคึกคักเหล่านั้นได้ยุติลงแล้วในปีนี้

บริษัทเหมืองแร่ได้ใช้เงินที่ได้มาอย่างไม่คาดฝันจากการดีดตัวของราคาทองคำ ไปกับการเข้าถือสิทธิ์ในเหมืองแร่ใหม่ๆ ซึ่งได้กดดันมูลค่าหุ้นในช่วงที่บูมและมักมีค่าน้อยลงมากในเวลานี้ มีเพียงไม่กี่บริษัทที่เลือกจะล๊อกราคาทองล่วงหน้าเอาไว้ แต่มีหลายบริษัทไม่ได้รับการคุ้มครองเมื่อตลาดทองคำปรับตัวลงในปีนี้

การอ่อนตัวลงของราคาทองหมายถึงว่าบริษัทเหมืองทอง ทำเงินจากการผลิตได้น้อยลง ในขณะเดียวกัน ต้นทุนลดลงได้ช้ากว่าราคาทองมาก ผลก็คือ ฐานะการเงินของหลายบริษัทเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันจากที่เคยได้กำไรกลายเป็น ขาดทุน

มาร์ก ลัสชินิ ผู้จัดการพอร์ตบริษัท เจนนีย์ แคปิตอล แมเนจเมนต์ กล่าวว่า หากมองไปที่ผลงานของภาคเหมืองทองคำในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา มันน่าขนลุก บริษัทบริหารการลงทุนได้เทขายการถือครองทองคำในเดือนกุมภาพันธ์และกำจัดหุ้น เหมืองทองไปเมื่อสองสามปีก่อน

ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ราคาทองคำเข้าสู่ตลาดหมี เนื่องจากได้ลดลงจากระดับสูงสุดมากกว่า 20% และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ราคาทองล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนสิงหาคม ลดลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 0.1% เหลือ 1,311 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ นั่นเท่ากับว่า ราคาทองได้ลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์เมื่อเดือนตุลาคมถึง 27% และลดลงจากราคาปิดที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,888.70 ดอลลาร์ เมื่อเดือนสิงหาคม 2554 ถึง 31%

การปรับตัวของราคาทองคำมีขึ้นในขณะที่บริษัทเหมืองทองกำลังกระเสือกกระสนกับ โครงการใหม่ๆและการเข้าถือสิทธิ์ที่ได้ทำไว้เมื่อตอนที่ราคาทองสูงขึ้น

บริษัทบาร์ริค ได้เข้าไปถือสิทธิ์ในบริษัท อีควิน็อกซ์ มิเนอรัลส์ บริษัทผลิตทองแดง เป็นเงิน 7,650 ล้านดอลลาร์ในเดือนเมษายน 2554 หลังจากที่ราคาทองแดงได้พุ่งสูงสุดได้ไม่นาน การเข้าถือสิทธิ์ดังกล่าวยังล่าช้าเพราะมีปัญหาเรื่องกฎระเบียบและต้นทุนยัง บานปลายในการบริหารโครงการเหมืองทองคำปาสคัว-ลามา ชายแดนอาร์เจนติน่า และชิลี

ริค เดอ ลอส รีเยส ผู้จัดการพอร์ตบริษัทที่ โรว์ ไพรซ์ กรุ๊ป อิงค์ กล่าวว่า บริษัทเหมืองทองตกที่นั่งลำบากจริงๆ พวกเขามีโครงการขนาดใหญ่และใช้เงินทุนมาก และเพราะว่าได้ใช้เงินไปมากแล้ว จึงไม่สามารถเดินจากมาได้

เจมี โซคาลสกี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทบาร์ริค กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ฝ่ายบริหารของบริษัทได้หารือกันเมื่อเร็วๆนี้เพื่อทบทวนเกี่ยวกับเหมือง ต่างๆ และการลดต้นทุน โดยบริษัทกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ทางด้านบริษัท คินรอสส์ โกลด์ ได้ซื้อบริษัท เรด แบค ไมนิ่ง เจ้าของเหมืองทองในมอริเตเนีย เป็นเงิน 7,100 ล้านดอลลาร์เมื่อเดือนสิงหาคม 2550 แต่นับตั้งแต่นั้นมา บริษัทได้ตัดขาดทุนราคาที่เข้าไปถือสิทธิ์ในครั้งนั้นลงเป็นจำนวนมาก

หุ้นคิสรอสส์ ปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาที่ 5.12 ดอลลาร์ ลดลง 11 เซนต์ หรือ 2.1% ในตลาดนิวยอร์ก โดยราคาหุ้นในปีนี้ได้ปรับตัวลงไปแล้ว 47% และบริษัทได้ระงับการจ่ายปันผลในสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทได้นำพอล โรลลินสันเข้ามาบริหารเมื่อปีที่แล้วเพื่อแก้ไขปัญหาในการดำเนินงาน พอลได้ตัดสินใจหลายๆอย่างที่ถือว่ายากมาก และได้นำบริษัทเข้าสู่ทิศทางใหม่ๆ เช่น ลดการใช้จ่ายเงินทุนลงประมาณ 750 ล้านดอลลาร์

นักลงทุนบางคนเชื่อว่า หุ้นเหมืองทองคำได้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว บริษัทเหมืองทองคำส่วนใหญ่ได้ปรับมูลค่าสินทรัพย์ของตนเองเพื่อสะท้อนตาม ราคาทองที่ลดลงและกำลังลดต้นทุน

แต่น่าสังเกตว่า หุ้นบาร์ริค ไม่ค่อยจะขยับหลังจากที่บริษัทรายงานว่าขาดทุน ซึ่งเป็นสัญญาณว่านักลงทุนได้นำปัญหาของบริษัทเข้าไปตีมูลค่าหุ้นแล้ว

วีแดนท์ มิมานิ ผู้จัดการพอร์ตลงทุนของกองทุน แอตแยนต์ แคปิตอล กล่าวว่า กองทุนของเขาเริ่มซื้อหุ้นทองคำในเดือนมีนาคม และได้ซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้นมา

อย่างไรก็ดี แม้แต่นักลงทุนที่ต้องการเข้าเสี่ยงในทองคำ กำลังเลี่ยงหุ้นเหมืองทอง โดยกองทุนอีทีเอฟที่ยอมให้นักลงทุนซื้อขายทองจริงๆ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการจัดเก็บและการขนส่ง ได้ติดตามราคาทองอย่างใกล้ชิดมากว่าหุ้นเหมืองแร่

เอสพีดีอาร์ โกลด์ ทรัสต์ ซึ่งเป็นอีทีเอฟทองคำรายใหญ่สุดของโลก ถือทองคำประมาณ 30 ล้านออนซ์ ซึ่งมีมูลค่าเกือบ 40,000 ล้านดอลลาร์ แต่มูลค่าได้ลดลงประมาณ 30% จาก 43.4 ล้านออนซ์ จากที่มีมูลค่า 72,200 ล้านดอลลาร์เมื่อกองทุนเข้าไปถือในช่วงต้นปี

ร็อบ ฮาเวิร์ธ นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโสของบริษัท ยู.เอส. แบงก์ เวลธ์ แมเนจเมนต์ กล่าวว่า อีทีเอฟทองคำเคลื่อนไหวตามราคาทองทั่วโลกอย่างถูกต้องแม่นยำ แต่ไม่มีความเสี่ยงเหมือนกับที่บริษัทเหมืองทองคำกำลังเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นหรือการลุกฮือของแรงงาน

ฮาเวิร์ธ จึงถือหุ้นในอีทีเอฟทองคำ และสัญญาล่วงหน้า แต่ไม่ถือหุ้นบริษัทเหมืองทองคำ!

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เผื่อบางท่านอาจสนใจหุ้นเหมืองทองคำ

 

ราคาหุ้นของเหมืองทองต้องได้รับผลกระทบโดยตรงจากราคาทองคำที่ลดต่ำลง เนื่องจากมูลค่าของปริมาณทองคำสำรองของแต่ละแห่งลดลงตามราคาทองคำทำให้ มูลค่าในตลาดหุ้นลดลงตามไปด้วย แต่ปัจจัยที่ทำให้ราคาของหุ้นลดต่ำลงไปกว่านั้นอีกคือการที่เหมืองส่วนใหญ่ ลงทุนสำรวจและเปิดเหมืองใหม่เป็นอย่างมากในช่วงที่ราคาทองคำกำลังขึ้น หลายๆแห่งยังไม่สามารถคืนทุนได้ (เนื่องจากเหมืองใช้เวลานานมากกว่าจะคืนทุน) เมื่อราคาทองคำลดต่ำลงทำให้ประสบปัญหาการขาดทุนเป็นอันมากบริษัทเหล่านี้มีเยอะมากแม้แต่ยักษ์ใหญ่อย่าง Newton Mining (NEM) ก็ประสบปัญหาเดียวกันจนทำให้นักลงทุนมองภาพรวมของอุตสาหกรรมเหมืองแย่ไปหมด

 

แต่ก็อีกเช่นเคยในวิกฤตมักจะมีโอกาสอยู่เสมอ ใน sector ที่เรียกว่าไม่เป็นที่รักของนักลงทุนนี้ก็ยังมีบริษัทที่มีการบริหารงานที่ ดีและเติบโตท่ามกลางวิกฤต และดูจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักลงทุนที่สนใจหุ้นราคาถูกที่มีพื้นฐานดีและมี โอกาสจะได้สองเด้งเมื่อราคาทองคำขยับตัวสูงขึ้นอีกในอนาคต ในที่นี้ก็จะของยกตัวอย่างหุ้นบางตัวที่น่าสนใจ

http://www.thailandinvestmentpartner.com/%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87_%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมมีพูดถึงราคาทองในเฟซผมว่า ถ้าอยากให้จบรอบเร็วเพื่อทองจะได้ขึ้นสักที ต้องให้ลงเยอะแบบมี NEW LOWเลยครับ ยิ่งลงหนักลงแรงแบบต่ำกว่า1000ยิ่งดี มีเพื่อนสมาชิกสงสัย ก็เลยเขียนตอบตามความเห็นของผมไป(ไม่ได้ใช้TAนะ TAผมอ่อนครับ)

 

เพื่อนๆลองคิดดูครับ ค่ำนี้ผมจะลองเอาสิ่งที่ผมโพสมาลงครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมมีพูดถึงราคาทองในเฟซผมว่า ถ้าอยากให้จบรอบเร็วเพื่อทองจะได้ขึ้นสักที ต้องให้ลงเยอะแบบมี NEW LOWเลยครับ ยิ่งลงหนักลงแรงแบบต่ำกว่า1000ยิ่งดี มีเพื่อนสมาชิกสงสัย ก็เลยเขียนตอบตามความเห็นของผมไป(ไม่ได้ใช้TAนะ TAผมอ่อนครับ)

 

เพื่อนๆลองคิดดูครับ ค่ำนี้ผมจะลองเอาสิ่งที่ผมโพสมาลงครับ

 

ผม มองแบบนี้ครับ ----หลักพื้นฐานของเศรษฐศาสตร์ อุปสงค์และอุปทานครับ ราคาลงเพราะมีคนอยากขายมากกว่าอยากซื้อ ยิ่งลงแรงและลงหนักก็คือฝั่งขายมีความต้องการขายมากกว่าฝั่งซื้ออย่างมาก ถ้าฝั่งขายมีคนอยากขายเยอะถ้าลงไม่แรงลงไม่หนัก แรงฝั่งขายอาจลดลงไปนิดหน่อยแบบนี้อาจยื้อไปอีกนานหลายปีกว่าแรงฝั่งขายจะ หมด

 

---แต่ เมื่อราคาลงหนักลงแรงมาถึงจุดนึง 1)คนขายบางคนไม่มีของจะขายแล้ว 2) บางคนลงมาถึงจุดที่เขาเริ่มมองว่าราคานี้อย่าขายดีกว่า ถือไว้น่าจะดีกว่าขาย 3)บางคนที่เคยขายมาตลอดมองว่า ราคาขนาดนี้ไม่ควรขายแล้ว ดูจังหวะเหมาะๆแล้วซื้อเก็บดีกว่า 4)ลงถึงจุดนึงโรงงานอาจมองว่าหยุดผลิตยังขาดทุนน้อยกว่าผลิตต่อ 5)ลงถึงจุดนึงโรงงานบางแหล่งที่มีเงินเหลือ(ถ้ามีเงินนะ )อาจมองว่าราคานี้ไม่ขาย เป็นไงเป็นกัน ราคาไม่ขึ้นก็ไม่ขาย หมดเงินเมื่อไหร่ก็หยุดผลิต

 

---เรา ต้องมองว่าฝั่งซื้อและฝั่งขายสามารถเปลี่ยนข้างได้ตลอดเวลา ลงแรงลงหนักถึงจุดนึงคนฝั่งขายเหลือคนอยากขายเหลือน้อยมาก บางคนเปลี่ยนใจมาอยู่ฝั่งซื้อ

---ลงหนักและแรงถึงจุดนึง คนที่อยู่วงนอกอาจสนใจเข้ามาในตลาดทองคำ

---คนบางกลุ่มอยู่ฝั้งซื้อแต่ไม่ซื้อ รอสัญญาณการขึ้นที่ชัดเจแล้วถึงค่อยซื้อ

 

***ดัง นั้นใครที่ติดดอยราคาสูง และตัดสินใจว่าจะไม่ยอมขายแล้ว กอดจนกว่าจะมาที่ยอดดอยเดิมหรือเลยราคาเดิมไปเยอะถึงยอมขาย-----สิ่งที่ต้อง ทำคือภาวนาให้แรงขายของฝั่งขายหมดหรือเหลือน้อยที่สุด ซึ่งก็คือแช่งเช้า แช่งเที่ยง แช่เย็น แช่งทุกวันไม่มีวันหยุด แช่งให้ลงหนัก ลงแรงๆ ลงต่ำกว่า1000เหรียญยิ่งดี ลงสุดๆไปเลย

 

***สิ่ง ที่ผมพูดอาจขัดกับความรู้สึกของคนทั่วไป แต่ความจริงราคาขึ้นกับฝั่งซื้อและฝั่งขายใครมีกำลังมากกว่ากัน ถ้าลงหนักลงแรงจนไม่มีใครอยากขายแล้ว ก็คือจบรอบการลงเพราะไม่มีคนอยากขายแล้ว คราวนี้ก็มาดูรอบการขึ้นว่าจะเรียกแขกได้มากและแรงขนาดไหน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เป็นไปได้ไหมน้าว่าปูตินเร่งสปีดซื้อทองไปแล้ว เมกากดต่ำเพื่อซื้อกลับบ้าง ต้นทุนต่ำกว่า

ตอนนี้ราคาทองเป็นสงครามตัวแทนไปแล้ว เดาเล่นนะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...