ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 21 กันยายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Derivative daily comment

Today Strategy : Gold ทองคำกลับมาทรุดอีกแล้วเมื่อคืนหลังได้รับสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดอีกครั้งในปีนี้ ประเด็นความร้อนแรงในคาบสมุทรเกาหลีหลังนายทรัมป์ขู่จะถล่มเกาหลีเหนือให้ราบหากสหรัฐฯ โดนคุกคามก็ไม่ได้เข้ามาช่วยหนุนตลาดทองคำเลย ส่วนหนึ่งเพราะนักลงทุนคงเริ่มชินชากับสงครามน้ำลายของทั้งสองฝ่ายด้วย สำหรับวันนี้ฝั่ง Short ยังได้เปรียบเหมือนเดิม

 

Key Factors

- สัปดาห์นี้ทองคำถือว่าได่รับเเรงหนุนจากการเข้าซื้อทองคำของกองทุน SPDR ค่อนข้างมากตั้งเเต่ต้นสัปดาห์โดยเฉพาะบริเวณจุดตัดสินใจ 1,300 USD/toz ที่ตลาดให้ความสนใจตั้งเเต่ขาขึ้นรอบเเรกเเล้ว อย่างไรก็ตามบริเวณดังกล่าวก็ถือว่าเป็นจุดอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบสองสัปดาห์กว่าๆ ในขณะที่ปัจจัยที่น่าจะเข้ามาเป็นปัจจัยบวกกลับไม่ค่อยหนุนตลาดเท่าไหร่ทั้งการกลับมาอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เเละประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามทองคำมีแรงขายออกมาค่อนข้างเด่นเมื่อคืนนี้มีเฟดยังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 100-125 basis point แต่ได้ส่งสัญญาณอะไรบ้างอย่างออกมาว่าจะปรับขึ้นอีกครั้งในสิ้นปีนี้รวมเป็นสามครั้งทำให้ตลาดมีแรงขายออกมาค่อนข้างหนัก

 

Strategy : ฝั่ง Short ได้เปรียบ

 

 

Key Point

Positive ( + )

- ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

 

Negative ( - )

- เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

- การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

 

Neutral ( * )

- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

- ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ

- แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

 

Exclusive News

- ทองดิ่งลงแตะต่ำสุด 3 สัปดาห์หลังประชุมเฟด: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 10.18 ดอลลาร์ หรือ 0.78 % สู่ 1,301.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมแต่ยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งก่อนสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบ เดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 5.80 ดอลลาร์ ที่ 1,316.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 0.055 ดอลลาร์ ที่ 17.334 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่ม ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดลดลง 5.80 ดอลลาร์ ที่ 945.40 ด อลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดบวก 5.85 ดอลลาร์ ที่ 910.15 ดอลล าร์/ออนซ์

- ดอลล์แข็งค่าหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.: ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันพุธเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับเยนขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นคร ั้งที่ 3 ในปีนี้แม้อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ก็ตาม ทั้งน ี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่า ดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญบวก 0.7% สู่ระดับ 92.426 โดยปรับตัวขึ้นเป็นเปอร์เซนต์มากที่สุดใน 1 วันนับตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค . ส่วนยูโรปรับตัวลง 0.8% สู่ 1.1894 ดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 วัน และดอล ลาร์บวก 0.5% สู่ 112.17 เยน หลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนที่ 112.51 เยน

 

 

Smart Stock

Today Strategy : ต้องมีทำกำไรกันบ้างละ

- ภาพระยะสั้นของหุ้นไทยเริ่มมีเเรงขายออกมาค่อนข้างเด่นเเม้ไม่ได้มีลักษณะทุบออกมาเเต่ก็ขายออกเรื่อยๆ เมื่อวานนี้เรามองว่านักลงทุนในตลาดน่าจะมีความกังวลต่อการรายงานทางเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงกลางคืนซึ่งสรุปว่าเฟดก็คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาดการณ์ของตลาด ทำให้บางส่วนปรับสถานะทำกำไรออกไปบ้าง โดยประเด็นหลักที่หนุนตลาดยังคงเป็นกระเเสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเเละราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นหนุนกลุ่มพลังงานภายในประเทศ โดยสัญญา S50U17 เมื่อวานปิดตลาดที่ระดับ 1,074.20 จุด ผันผวนกว่าดัชนีเเม่อย่าง SET เเละ SET50 สำหรับวันนี้ระวังเเรงขายปรับสถานะในกลุ่มขนาดใหญ่เเละหุ้นขนาดกลางซึ่งนักลงทุนน่าจะเริ่มกลับมาเก็บเกี่ยวกำไรออกจากตลาดบ้าง

 

Strategy : รอย่อแล้วค่อยเปิดสถานะดีกว่า / ตลาดปรับบวกสูงแล้ว / ลงทุนอย่างมีสติ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การปรับสถานะของนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มกลับมาขายสุทธิ

- มุมมองตลาดโลกหลังเฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

 

ข่าวในประเทศ

- ทางสว่างซื้อของออนไลน์ จ่ายเงินหลังรับสินค้าถูกใจ ถกทุกหน่วยงานล้อมคอก: นายพิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สคบ.ห่วงการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มาก และอยากแนะนำให้ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าต้องตรวจสอบรูปแบบการโอนเงินไปยังเจ้าของสินค้าให้ดี โดยทางที่ปลอดภัยที่สุดควรตรวจสอบก่อนว่า มีทางเลือกที่สามารถจ่ายเงินแบบเก็บปลายทางได้หรือไม่ หากพบว่า มีก็ควรใช้รูปแบบการจ่ายเงินในลักษณะนั้น แทนการโอนเงินไปยังบัญชีหรือจ่ายผ่านบัตรเครดิต เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสตรวจสอบสินค้าจริงก่อนจะจ่ายเงินไป และต้องไม่ถูกหลอกภายหลัง

- หนุนคลังกดดันธปท.ลดดอก: นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีกระทรวงการคลังเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ลดดอกเบี้ยนโยบายลงจากปัจจุบันอยู่ที่ 1.5% เพื่อชะลอการไหลเข้าของเงินทุนและกระตุ้นการลงทุนในประเทศให้มากขึ้นว่า เห็นด้วยกับกระทรวงการคลัง เนื่องจากเงินเฟ้อไทยค่อนข้างต่ำ และดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำยังดึงดูดเงินทุนต่างชาติ จึงเห็นว่า ควรส่งสัญญาณให้ลดดอกเบี้ยนโยบายลง แต่ต้องขึ้นอยู่กับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. วันที่ 27 ก.ย.นี้

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 21 กันยายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

Gold Futures Glitter Gold (Night Session)

Glitter Gold : ทรงกับทรุด

ทองคำเผชิญแรงขายออกตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงภาคการซื้อขายระหว่างวันทางฝั่งเอเชีย โดยเรามองว่าแรงขายเกิดขึ้นหนักๆ ตั้งแต่ราคาทองคำหลุดระดับนัยสำคัญที่ 1,300 USD/toz และลงไปทำสอบระดับนัยสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,290 USD/toz ปัจจัยกดดันหลักหลักที่เห็นได้ชัดก็คือดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เมื่อคืนนี้จากคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ อีกครั้งหนึ่งในปีนี้ทำให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากระดับ 91.60 จุด ขึ้นไปเคลื่อนไหวบริเวณระดับ 92.60 จุด อย่างไรก็ตามโชคดีที่นักลงทุนหลักอย่างกองทุน SPDR ไม่ปรับลดสถานะการถือครองลงไปอีกไม่เช่นนั้นจะส่งผลให้บรรยากาศของตลาดทองคำดูแย่ลงไปกว่านี้มาก อย่างไรก็ตามสำหรับค่ำคืนนี้ติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีการสำรวจจภาคการผลิตของฟิลาเดเฟียเป็นหลักเนื่องจากเป็นดัชนีที่ค่อนข้างชี้นำราคาทองคำพอสมควร

 

Strategy : ให้น้ำหนักฝั่ง Short Position ในระยะสั้น

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม

- ติดตามแถลงการณ์จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ และดัชนีการสำรวจจภาคการผลิตของฟิลาเดเฟียในคืนนี้

- การฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

- แรงขายทองคำหลุดต่ำกว่าระดับนัยสำคัญที่ 1,300 USD/toz

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- เฟดลงมติตรึงดอกเบี้ย,จะเริ่มปรับลดการถือครองพันธบัตรเดือนต.ค.นี้: ธนาคารกลางสหรัฐฯ ลงมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงหลังเสร็จสิ้นการประชุม 2 วันเมื่อวานนี้ และคาดว่าจะเริ่มปรับลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกันวงเงิน 4.2 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.นี้ ทั้งนี้ เฟดตรึงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในช่วง 1.00-1.25% ขณะที่ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งภายในสิ้นปีนี้แม้อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ระดับต่ำก็ตาม

- บอนด์ยิลด์พุ่งรับแนวโน้มเฟดอาจขึ้นดบ.ในเดือนธ.ค.: ผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในวันพุธหลังจากแถลงการณ์การประชุมของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ถูกตลาดตีความว่าอาจจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีบวก 01/32 ที่ 98-24/32 โดยมีผลตอบแทน 2.813% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลง 09/32 ที่ 99-26/32 โดยมีผลตอบแทน 2.273%

- น้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกือบ 2%: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นเกือบ 2 % ในวันพุธถึงแม้สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับสูงขึ้นในขณะที่ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของรัฐมนตรีน้ำมันอิรักที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปกกำลังพิจารณาเรื่องการต่ออายุมาตรการปรับลดการผล ิตน้ำมันหรือการปรับลดการผลิตน้ำมันในระดับที่มากกว่าเดิมทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.9 % มาปิด ตลาดที่ 50.41 USD/bbl

- สหรัฐเผยยอดขายบ้านมือสองลดเกินคาดในเดือนส.ค.: สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติรายงานยอดขายบ้านมือสองลดลงเกินคาด 1.7% สู่ 5.35 ล้านยูนิตในเดือน ส.ค. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่ายอดขายบ้านมือสองอาจอยู่ที่ 5.46 ล้านยูนิตในเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นจาก 5.44 ล้านยูนิตในเดือน ก.ค.

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 22 กันยายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Derivative daily comment

Today Strategy : Gold เรายังคงให้น้ำหนักฝั่ง Short สำหรับการเปิดสถานะในระยะสั้นโดยเฉพาะเมื่อราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับนัยสำคัญที่ 1,300 USD/toz ซึ่งถือเป็นจุดตัดสินใจในเชิงจิตวิทยาสั้นๆ ในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามด้านกองทุน SPDR เมื่อคืนมีสถานะซื้อสุทธิบวกสวนทางตลาดกว่า 6.2 ตัน รวมมีสถานะถือครองทองคำที่ระดับ 852.23 ตัน

 

Key Factors

- ตลาดทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบราคาด้านล่างหลังเมื่อคืนก่อนหน้าโดนเเรงขายกระเเทกออกมาค่อนข้างมากจากคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ อีกครั้งหนึ่งในช่วงเดือนธันวาคมนี้ เเรงกดดันดังกล่าวเข้ามาบดบังปัจจัยบวกจากประเด็นความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลีซึ่งเริ่มกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง เเต่อย่างไรก็ตามสำหรับการเคลื่อนไหวระหว่างวันในวันนี้ตลอดจนการซื้อขายช่วงกลางคืนตลาดทองคำน่าจะกลับมาผันผวนจากถ้อยเเถลงของประธานธนาคารกลางยุโรปซึ่งน่าจะมีความเป็นเกี่ยวกับการคง/เปลี่ยนเเปลงมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งถ้อยเเถลงของนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักด้วย

 

Strategy : ฝั่ง Short ได้เปรียบ

 

 

Key Point

Positive ( + )

- ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

 

Negative ( - )

- เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

- การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

 

 

Neutral ( * )

- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

- ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ

- แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

 

Exclusive News

- ดอลล์อ่อนค่าหลังแรงหนุนจากการประชุมเฟดจางหายไป: ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันพฤหัสบดี โดยอ่อนลงจากระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ได้ แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเ ดือนธ.ค. ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญปรับตัวลง 0.29% สู่ระดับ 92.238 ส่วนยูโรปรับตัวขึ้น 0.35% สู่ระดับ 1.1933 ดอลลา ร์

- ทองร่วงลงแตะจุดต่ำสุดเกือบ 4 สัปดาห์: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 9. 99 ดอลลาร์ หรือ 0.77 % สู่ 1,291.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดีหลังจากดิ่งลงแตะ 1,287.61 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุด ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. โดยราคาทองไม่ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.ปีนี้

 

 

Smart Stock

Today Strategy : โดนทุบ

- หุ้นไทยยังปรับขึ้นต่อได้บางๆ ในช่วงเช้าก่อนมีแรงขายหนักในช่วงปิดตลาด เเรงซื้อคละกลุ่มอุตสาหกรรม หุ้นใหญ่ที่นำตลาดนิ่งๆ ไม่ค่อยมีเเรงซื้อขาย โดยภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังรักษาทรงการเคลื่อนไหวในเเนวโน้มด้านบนระยะกลางได้แต่ระยะสั้นถือว่าหลุดแล้ว โดยต้องมีความระมัดระวังเเรงขายพอสมควรเพราะการปรับขึ้นที่อาศัยปัจจัยภายนอกเเละความคาดหวังเป็นหลักในขณะที่มูลค่าพื้นฐานยังตามไม่ทันนั้นทำให้การปรับขึ้นมีลักษณะเปราะบางหากมีปัจจัยกระทบเข้ามาก็อาจทำให้มีเเรงขายหนักๆ ได้ด้านปัจจัยบวกภายในประเทศก็ยังพอมีอย่างเช่น sentiment ที่ได้รับเมื่อวันก่อนหน้าหลัง ครม.ผ่าน พรบ.EEC ซึ่งจะมีการประตุ้นเศรษฐกิจราวสามเเสนล้านบาทต่อปีเเละยังสามารถกระตุ้น GDP ได้ราวปีละ 1-1.5% เเละกระทรวง พาณิชย์เผยยอดส่งออกเดือนส.ค. มูลค่ากว่า 21,224 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโต 13.2% สำหรับสัปดาห์หน้าประเทศไทยก็มีลุ้นจากการประชุม กนง. ในช่วงกลางสัปดาห์ซึ่งหลายฝ่ายก็มีความเห็นต่างๆ กันไปทั้งกระทรวงการคลังเเละธนาคารเเห่งประเทศไทย

 

Strategy : เปิดสถานะในกรอบ / ลงทุนอย่างมีสติ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การปรับสถานะของนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มกลับมาขายสุทธิ

 

ข่าวในประเทศ

- หนี้เน่าสูงสุด 3% ไตรมาส 3: ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่าประเมินไตรมาส 3 ปีนี้ สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของสถาบันการเงิน จะแตะจุดสูงสุดที่ 3% ของสินเชื่อคงค้างทั้งระบบ คิดเป็นมูลค่ากว่า 430,000 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้กว่า 80% มากจากลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการค้าขาย และการเกษตรเป็นหลัก รวมถึงสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อบ้าน แต่ทั้งนี้ คาดว่า ไตรมาส 4 เอ็นพีแอลจะลดลงมาใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ที่ 2.83% จากการที่ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งเร่งแก้ไขเอ็นพีแอล ทั้งการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ ขายหนี้เสียให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือตัดหนี้สูญทางบัญชี ซึ่งสะท้อนได้จากอัตราแก้ปัญหาหนี้เสียที่จะมีปริมาณมากช่วงไตรมาส 4 ของทุกปี หรือกว่า 92,000 ล้านบาท ต่อไตรมาส ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

- ซีอีโอห่วงเศรษฐกิจฟื้นช้า ชี้กำลังซื้อ-หนี้สินตัวฉุด: น.ส.สุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์ ฝ่ายวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ได้สำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (ซีอีโอ) ทั้งใน ตลท. และ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ 119 บริษัท มีมูลค่าหลักทรัพย์รวม 38% ของมูลค่าหลักทรัพย์ เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนหลังของปี 60 นี้ พบว่าซีอีโอยังมีมุมมองในเชิงลบทีเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และผลประกอบการของธุรกิจมากขึ้น เมื่อเทียบกับการสำรวจครั้งก่อน แต่ซีอีโอส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 60 มีแนวโน้มดีขั้น โดยคาดว่าจีดีพีจะเติบโต 3-4% ใกล้เคียงกับที่ธนาคารโลก และธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ไว้

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 22 กันยายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

Gold Futures Glitter Gold (Night Session)

Glitter Gold : แกว่งแคบๆ ในแดนลบ

ตลาดทองคำในระหว่างวันถือว่าแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ประมาณ 3-4 ดอลลาร์ไม่ค่อยมีประเด็นอะไรที่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ โดยเรามองว่านักลงทุนส่วนใหญ่รับข่าวและปรับสถานะลงทุนไปเรียบร้อยแล้วทั้งประเด็นคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลีทำให้การปรับลงอาจไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของทองคำในระดับต่ำกว่า 1,300 USD/toz ถือว่าส่งผลกระทบเชิงลบต่อบรรยากาศการลงทุนเนื่องจากเป็นระดับจิตวิทยาที่นักลงทุนทุกกลุ่มให้ความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการตัดสินใจ สำหรับค่ำคืนนี้เรายังมองว่าทองคำไม่น่าจะปรับตัวบวกได้แต่ก็ไม่น่าจะทรุดลงแรงต่อเช่นกันโดยให้ระดับในการตัดสินใจไว้ที่ 1,290 USD/toz น่าจะมีแรงซื้อกลับมาพยุงต่อสำหรับค่ำคืนนี้แล้วค่อยเก็บแรงไปลุ้นกันต่อในสัปดาห์หน้า โดยเรายังคงให้น้ำหนักฝั่ง Short Position มากกว่าที่ 70:30

 

Strategy : ให้น้ำหนักฝั่ง Short Position ในระยะสั้น

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม

- ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและภาคบริการสหรัฐฯ ในคืนนี้

- การฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

- แรงขายทองคำหลุดต่ำกว่าระดับนัยสำคัญที่ 1,300 USD/toz

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาพันธบัตรระยะยาวปรับตัวขึ้น: เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวเป็นแนวระนาบสู่ระดับสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งในวันพฤหัสบดีขณะที่นักลงทุนได้ปรับตัวรับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. หลังจากที่เฟดแสดงท่าทีเชิงคุมเข้มนโยบายมากขึ้นในการประชุมในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ราคาพ พันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีบวก 08/32 ที่ 98-25/32 โดยมีผลตอบแทน 2.811% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีทรงตัวที่ 99-25/32 โดยมีผลตอบแทน 2.277%

- น้ำมันดิบขยับลง 14 เซนต์,ตลาดจับตาประชุมโอเปก: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ขยับลงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดีส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ขยับขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะประชุมกันที่กรุงเวียนนาในวันศุกร์เพื่อหารือกันว่าทางกลุ่มจะต่ออายุข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันออกไปหรือไม่หลังจากข้อตกล งดังกล่าวมีส่วนช่วยให้ภาวะน้ำมันดิบล้นตลาดโลกบรรเทาลงแล้ว ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ย.ขยับลง 14 เซนต์ หรือ 0.3 % มาปิดตลาดที่ 50.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

- หุ้นยุโรปปรับขึ้นตามหุ้นกลุ่มธนาคาร: ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกขึ้นตามหุ้นกลุ่มธนาคารในวันพฤหัสบดี หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. และเฟดจะเริ่มต้นปรับลดขนาดงบดุลในเดือนต.ค.

- รอยเตอร์คาดศุกร์หน้าม.มิชิแกนเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มในก.ย.: มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในช่วงท้ายเดือนก.ย.ในวันศุกร์ที่ 29 ก.ย.เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐอาจอยู่ที่ 96.0 ในช่วงท้ายเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นจาก 95.3 ในช่วงต้นเดือนก.ย.

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 25 กันยายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Derivative daily comment

Today Strategy : Gold เรายังคงให้น้ำหนักฝั่ง Short มากกว่าในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะหากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,300 USD/toz ประกอบกับตลอดทั้งสัปดาห์จะมี Event ทางเศรษฐกิจค่อนข้างมากทั้งในส่วนของสหรัฐฯ และยุโรปซึ่งจะเข้ามาสร้างความผันผวนให้กับตลาดพอสมควร

 

Key Factors

- ทองคำร่วงลงค่อนข้างต่อเนื่องเรียกว่าปรับลงสลับหยุดพักเลยทีเดียวเเทบจะไม่ค่อยมีจังหวะการปรับขึ้นในเเนวโน้มให้เห็นกันยาวๆ เเบบสัปดาห์ก่อนทั้งๆ ที่ตลอดสัปดาห์นักลงทุนสถาบันหลักยังปรับเพิ่มสถานะการถือครองทองคำค่อนข้างต่อเนื่องเเต่ดูเหมือนจะไม่สามารถเข้ามาเป็นปัจจัยบวกพยุงตลาดได้เลย ปัจจัยบวกอย่างความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลีก็พอมีอยู่บ้างเเต่นักลงทุนไม่ค่อยให้น้ำหนักสักเท่าใด โดยเรามองว่านักลงทุนให้น้ำหนักต่อประเด็นคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงปลายปี(เดือนธันวาคม) ทำให้ตลาดลดความต้องการสินทัรพย์ปลอดภัยลงทั้งในส่วนของตลาดทองคำเองเเละตลาดตราสารหนี้ซึ่งอัตราผลตอบเเทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวสูงขึ้นเพื่อดึงดูดนักลงทุนทำให้เงินเริ่มกลับเข้าสหรัฐฯ เเละไหลออกจากกลุ่มประเทศเกิดใหม่ที่มาพักเงินไว้(ร่วมทั้งไทยด้วย)

 

Strategy : ฝั่ง Short ยังได้เปรียบ

 

 

Key Point

Positive ( + )

- ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

 

Negative ( - )

- เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

- การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

 

 

Neutral ( * )

- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

- ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ

- แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

 

Exclusive News

- ดอลล์อ่อนเทียบเยนจากวิตกเกาหลีเหนือ: ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนในวันศุกร์เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่แรงหนุนจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในเดือนธ.ค.ได้จางหายไป ทั้งนี้ ดอลลาร์ลดลง 0.42% สู่ระดับ 111.99 เยน หลังปรับตัวขึ้น 5 วันเมื่อเทียบกับเยน ส่วนดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าดอลลาร์ เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญลดลง 0. 13% สู่ระดับ 92.136 และปอนด์อ่อนค่าลง 0.32% สู่ระดับ 1.3534 ดอลลาร์ หลังร่วงต่ำถ ึง 1.349 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.07% สู่ระดับ 1.1947 ดอลลาร์

- ทองปรับขึ้นขณะตลาดวิตกเกาหลีเหนือ: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 5.9 7 ดอลลาร์ สู่ 1,296.98 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ โดยดีดขึ้นจากจุดต่ำ สุดรอบ 4 สัปดาห์ที่ 1,287.61 ดอลลาร์ที่ทำไว้ในวันพฤหัสบดีในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงและนักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเนื่องจากนักลงทุนกังวลกับความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 2.70 ดอลลาร์ ที่ 1,297.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด CO MEX ปิดลดลง 0.034 ดอลลาร์ ที่ 16.984 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั ่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดลดลง 7.80 ดอลลาร์ ที่ 932.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียม ส่ง มอบเดือนธ.ค.ปิดบวก 8.30 ดอลลาร์ ที่ 919.85 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

Smart Stock

Today Strategy : ทำกำไรบ้างก็ดี

- ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ก่อยเคลื่อนไหวในกรอบราคาด้านบนเป็นหลัก สามารถทรงตัวได้ดีพอสมควรเว้นเเต่วันพฤหัสเเละวันศุกร์ร์ซึ่งมีเเรงเทขายออกมาค่อยข้างเด่น อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมามีสถานะขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยหลังจากที่ซื้อสุทธิต่อกันมาตั้งเเต่สัปดาห์ก่อนหน้า โดยวันศุกร์เเรงขายส่วนใหญ่เกิดในหุ้นกลุ่มพลังงานเเละธนาคารตัวใหญ่ๆ มากกว่าคาดการณ์เป็นการทำกำไรตามปกติทำให้ตลาดเริ่มทรุดลงไปบ้างเเต่อย่างไรก็ตามก็สามารถรักษาเนื้อรักษาตัวได้ดีกว่าตลาดรอบบ้านซึ่งมีเเรงขายหนักกว่า ด้านกระเเสเงินทุนเริ่มไม่ต่อเนื่องเเละเริ่มไหลออกบ้างบางส่วนหลังจากที่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นจากการเเถลงการณ์ของธนาคารกลางสกรัฐฯ

 

Strategy : เปิดสถานะในกรอบรอย่อแล้วเปิด Long / ลงทุนอย่างมีสติ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ถ้อยแถลงของประธาน ECB และประธาน FED ตลอดสัปดาห์นี้

 

ข่าวในประเทศ

- ธุรกิจโฆษณาออนไลน์รุ่ง ราคาถูก'เอสเอ็มอี'นิยมใช้: ผู้ประกอบการคาดโฆษณาออนไลน์อีก 5 ปี โตพุ่ง 100% หลังพบผู้ประกอบการเอสเอ็มอีนิยมใช้บริการจำนวนมาก

- อึ้ง! หนี้เน่าแบงก์รัฐ สูงแตะ2.46แสนล. ลุยกางแผนจัดการ: แบงก์รัฐกางยุทธศาสตร์บริหารหนี้เสีย หลังยอดหนี้เน่า สิ้น พ.ค.2560 พุ่งแตะ 2.46 แสนล้านบาท อึ้ง! เป็นหนี้ใหม่กว่า 3.5 หมื่นล้านบาท ด้าน ธอส. เตรียมเสนอบอร์ดตัดขายหนี้ 6.9 พันล้านบาท ส่วนเอสเอ็มอีแบงก์ลุยเจรจาในชั้นศาล หวังปรับโครงสร้างหนีได้ 90%

- รฟท.เบรกซื้อแอร์พอร์ตลิงก์7ขบวน รฟท.สั่งชะลอแผนจัดซื้อรถแอร์พอร์ตลิงก์ 7 ขบวน: มูลค่า 4 พันล้านบาท หลังพบทัพซ้อนการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จ่อชงบอร์ดพิจารณาเร็วๆ นี้

- หึ่งล็อกสเปกตลาดกลางข้าว "พาณิช"ปัดเอื้อเอกชนสิ้นปีได้ข้อสรุป: วงการข้าวลือหึ่ง “พาณิชย์” ส่อล็อกสเปกตลาดกลางข้าวสาร หลังล่าสุดเหลือผู้ผ่านคุณสมบัติแค่ 2 ราย จับตา “ตลาดไท-ตลาดต่อยอด” ถูกบีบให้ตก ทั้งๆ ที่เสนอเงื่อนไขตรงตามทีโออาร์ เหตุมีบิ๊กพาณิชย์หนุนรายอื่น ด้าน “อภิรดี” ปฏิเสธไม่มีการล็อกสเปก แต่ต้องดูเงื่อนไข มั่นใจสิ้นปีได้ข้อสรุป

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 25 กันยายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

Gold Futures Glitter Gold (Night Session)

Glitter Gold : แกว่งในกรอบด้านล่าง

-ตลาดทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบราคาด้านล่างนิ่งๆ ไม่ค่อยผันวนในระหว่างวัน ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่นักลงทุนซึมซับข่าวต่างๆ ไปมากพอสมควรแล้วโดยเฉพาะประเด็นที่นักลงทุน

ในตลาดคลายความกังวลการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ(แม้ตลาดจะคาดการณ์ว่าอาจมีการทดสอบแต่ก็ไม่เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำเท่าที่ควร) แต่อย่างไรก็ตามประเด็นเหล่านี้ยังกด

ดันให้ตลาดทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นมาเหนือระดับ 1,300 USD/toz ได้ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ร่วงหล่นทะลุต่ำกว่า 1,290 USD/toz ลงไปง่ายๆ เช่นกัน อย่างไรก็ตามเรา

มองว่าคืนนี้ตลาดทองน่าจะกลับมามีความผันผวนบ้างจากการปรับสถานะของนักลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางยุโรปและถ้อยเเถลงของสมาชิก FOMC

หลายท่านและมีโอกาสสูงที่ตลาดทองคำจะขยับออกนอกกรอบราคา 1290-1300 USD/toz ในสัปดาห์นี้ แต่จะเป็นด้านไหนก็ต้องติดตามดูแต่เรายังคงให้น้ำหนักฝั่ง Short

สำหรับการซื้อขายระหว่างวัน(ค่ำคืนนี้) โดยเฉพาะเมื่อราคาทองคำเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,300 USD/toz

 

Strategy : ให้น้ำหนักฝั่ง Short Position ในระยะสั้น

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม

-ติดตามถ้อยแถลงของประธานอีซีบีและถ้อยเเถลงของสมาชิก FOMC ในค่ำคืนนี้

-การฟื้นตัวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

-แรงขายทองคำหลุดต่ำกว่าระดับนัยสำคัญที่ 1,300 USD/toz

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

-ราคาพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นรับความกังวลความมั่นคงโลก: ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในวันศุกร์จากความวิตกทั่วโลกเกี่ยวกับเกาหลีเหนือหลังจากเกาหลีเหนือเปิดเผยว่า

อาจจะทดสอบระเ บิดไฮโดรเจนเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกและนักลงทุนปิดสถานะการลงทุนก่อนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีบวก 12/32 ที่ 99-07/32 โดยมีผล

ตอบแทน 2.789% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีบวก 07/32 ที่ 99-31/32 โดยมีผลตอบแทน 2.255%

-น้ำมันดิบปรับขึ้นหลังโอเปกเลื่อนตัดสินใจต่ออายุข้อตกลง: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันศุกร์และเข้าใกล้จุดสูงสุดในรอบหลายเดือนที่ทำไว้ในวันพฤหัสบดี ใน

ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันประชุมกันที่กรุงเวียนนาและระบุว่าทางกลุ่มอาจจะรอจนถึงเดือนม.ค.ก่อนจะตัดสินใจว่า ทางกลุ่มจะต่ออายุข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันออกไปหลังเดือนมี.ค.

2018 หรือไม่ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ย.ปรับขึ้น 11 เ ซนต์ หรือ 0.2 % มาปิดตลาดที่ 50.66 USD/bbl

-ธ.กลางจีนกำหนดค่ากลางหยวนต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์: ธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางหยวนที่ระดับ 6.5945 ต่อดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. ซึ่งสะท้อน

ความแข็งแกร่งของดอลลาร์ในตลาดทั่วโลกค่ากลางวันนี้ต่ำกว่าค่ากลางของวันศุกร์ที่ 6.5861 หยวนต่อดอลลาร์อยู่ 0.0084 หยวนหรือ 0.13%

-หุ้นยุโรปทรงตัวขณะตลาดรอเลือกตั้งเยอรมนี: ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัวในวันศุกร์ในขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดเรื่องเกาหลีเหนือส่งผลให้นักลงทุนบางรายออกไปรอดูท่าทีอยู่นอกตลาด ก่อน

ที่เยอรมนีจะจัดการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 24 ก.ย. และมีแนวโน้มว่านางแองเจลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี จะสามารถชนะการเลือกตั้งได้เป็นสมัยที่ 4

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 26 กันยายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Derivative daily comment

Today Strategy : Gold ตลาดทองคำกลับมาบวกแรงเมื่อคืนจากความกังวลประเด็นความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลีที่กลับมาหนุนการปรับขึ้นของตลาดทองอีก

ครั้งหลังสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดเข้าไปในบริเวณน่านน้ำเกาหลีสร้างความวิตกให้นักลงทุนแนะหนุนสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างตลาดทองและพันธบัตรในระหว่างวัน เปิดสถานะในกรอบหรือถือเงินสดรอไปก่อน

 

Key Factors

- ตลาดทองคำในช่วงนี้ต้องยอมรับว่าภาพรวมยังโซซัดโซเซหมดเเรงข้าวต้ม ไม่สามารถปรับขึ้นต่อในเเนวโน้มขาขึ้นเดิมได้เเม้มีปัจจัยบวกเข้ามาหลากหลายเเต่ตัดก็ทำเหมือนกับไม่อยากจะรับรู้เเละเหมือนกับว่าอย่าจะรับรู้เเต่ข่าวร้ายของทองอย่างคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงปลายปีซึ่งก็ถือว่ายาวนาน(3เดือน) เเต่ตลาดก็ตอบรับในเชิงลบพอสมควร ปัจจัยบวกในช่วงเกือบสิบวันที่การที่ผ่านมาก็คงหนีไม่ผลการเข้ามาปรับเพิ่มสถานะการถือครองของกองทุนหลักอย่างกองทุน SPDR ที่สลับเข้ามาเพิ่มบ้างประปรายพอให้นักลงทุนมีกำลังใจ สำหรับการเคลื่อนไหวในระหว่างวันโดยเฉพาะช่วงเย็นตลาดทองคำน่าจะกลับมาผันผวนจากคาดการณ์ถ้อยเเถลงของประธานเฟดที่อาจให้สัญญาณบางอย่างประกอบกับรายงานดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯซึ่งจะมีการประกาศหลายดัชนีโดยเฉพาะความเชื่อมั่นผู้บริโภคเเละยอดขายบ้านใหม่

 

Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา

 

 

Key Point

Positive ( + )

- ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

 

Negative ( - )

- เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

- การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

 

 

Neutral ( * )

- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

- ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ

- แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

 

Exclusive News

- วิตกเกาหลีเหนือ,เยอรมนีหนุนทองพุ่งขึ้น 1%: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่ง ขึ้น 13.17 ดอลลาร์ หรือ 1.02 % สู่ 1,310.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ ในขณะที่ความกังวลเรื่องความเสี่ยงทางการเมืองกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 14.00 ดอลลาร์ ที่ 1,311.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดบ วก 0.163 ดอลลาร์ ที่ 17.147 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเ ดือนต.ค.ปิดบวก 8.10 ดอลลาร์ ที่ 940.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือ นธ.ค.ปิดลดลง 10.15 ดอลลาร์ ที่ 909.70 ดอลลาร์/ออนซ์

- ความตึงเครียดทางการเมืองหนุนเยน,ฟรังก์สวิส: ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเที ยบกับตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญในวัน จันทร์ ขณะที่ยูโรได้รับผลกระทบจากการเลือกตั้งใน เยอรมนี และความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับคำเตือนของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ปร ับตัวขึ้น 0.5% แต่ดอลลาร์ลดลง 0.35% สู่ 111.61 เยน และลดลง 0.25% สู่ 9.9666 ฟรังก์สวิส ส่วนยูโรปรับตัวลง 0.9% สู่ระดับ 1.1846 ดอลลาร์

 

 

 

 

Smart Stock

Today Strategy : ขึ้นมาตลอดเหนื่อยไหม?

-เมื่อวานนี้หุ้นไทยเปิดตลาดมาเหมือนนิ่งๆ ในภาคเช้าเเต่ก็ไปต่อได้ดีหลังมีเเรงซื้อเข้าในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกหลังนักลงทุนคลายความกังวลประเด็นการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือประกอบกับอัตราผลตอบเเทนพันธบัตรรัฐบาลหรัฐฯ ที่ปรับตัวบวกจูงใจให้นักลงทุนขนเงินกลับไปลงทุนในตราสารหนี้จากคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ปลายปีนี้ โดย SET Index ปิดตลาดที่ระดับ 1,667.59 จุด นิ่งกว่าสัญญา S50U17 ซึ่งปิดตลาดที่ระดับ 1,069.60 จุด โดยเรามองว่าตลาดบ้านเราน่าจะเริ่มกลับมาผันผวนจากคาดการณ์การประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้เเละถ้อยเเถลงของประธานเฟดเเละอีซีบีซึ่งจะมีขึ้นตลอดสัปดาห์นี้ สำหรับวันนี้เเนะนำนักลงทุนสายที่ไม่นิยมความเสี่ยงเปิดสถานะในกรอบราคาเล่นในกรอบเด้งไปมาก่อนเนื่องจากตลาดมี Sentiment ที่ดีเเกต่การปรับขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็ถือว่าปรับขึ้นค่อนข้างเเรงเเละเรากลัวจะหมดเเรงเสียก่อน

 

Strategy : ฝั่ง Short เริ่มน่าสนใจหากราคาต่ำกว่า 1,670 จุด

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ถ้อยแถลงของประธาน ECB และประธาน FED ตลอดสัปดาห์นี้

- การประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้

 

ข่าวในประเทศ

-เอ็กโกเซ็นขายไฟฟ้า‘น้ำเทิน1: “เอ็กโก กรุ๊ป” เซ็นขายไฟโรงไฟฟ้าพลังน้ำ “น้ำเทิน 1” ให้กฟผ. 514 เมกะวัตต์-รัฐวิสาหกิจลาว 130 เมกะวัตต์ เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ปี65 มติบอร์ดตั้ง “จักษ์กริช” ลูกหม้อ กฟผ. นั่งซีอีโอเอ็กโก คนใหม่ 1 ต.ค.นี้

-เลื่อน‘ตอกเสาเข็ม’1เดือน: รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน คาดวิศวกรจีนส่งแบบ3.5กม.แรก ให้ไทยกลางเดือนหน้า เลื่อนตอกเสาเข็มรถไฟไทย-จีน ออกไป 1 เดือนเพื่อรอความพร้อมล่าสุดการอบรมวิศวกรจีนชุดแรกฉลุย คาดจีนส่งมอบแบบ 3.5 กิโลเมตรแรก สถานีกลางดง-ปางอโศก ให้ไทยได้กลางเดือนหน้า

-ชงจัด‘ทูมอร์โรว์แลนด์’ ดึงเงินสะพัด3พันล้าน เล็งพื้นที่สัตหีบ1,000ไร่ จัดเวิลด์อีเวนท์: “ทีเส็บ” ศึกษาเจ้าภาพมหกรรมดนตรีระดับโลก “ทูมอร์โรว์แลนด์” เสนอครม.ใช้พื้นที่ สัตหีบ 1,000 ไร่ ด้านอินเด็กซ์ฯ ชี้โอกาสดึง “เวิลด์อีเวนท์” กระตุ้นท่องเที่ยว คาดเม็ดเงินสะพัด 2-3 พันล้าน

-กลต.กระตุ้นออมรบเกษียณ ชี้เกินครึ่งเงินก้อนไม่ถึง1ล้าน: ก.ล.ต. เร่งกระตุ้นการออม รองรับวัยเกษียณ หลังพบสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกว่าครึ่งมีเงินก้อนในวัยเกษียณไม่ถึง 1 ล้าน ขณะงานวิจัยระบุชัด ควรต้องมีอย่างน้อย 2.1-3.3 ล้าน ลุยจัดสัมมนาให้ความรู้

ถูกแก้ไข โดย ilovecgf

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 26 กันยายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

Gold Futures Glitter Gold (Night Session)

Glitter Gold : ขึ้นแรงลงแรงนะ

-ตลาดทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาประเด็นหลักมาจากความตึงเครียดรอบใหม่ในคาบสมุทรเกาหลีที่ส่อแววจะเกิดสงครามขึ้นส่งผลให้เกิดความต้องการในสินทัรพย์ปลอดภัยทั้งในส่วนของตลาดทองคำและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งราคาปรับตัวสูงขึ้นตาม ซึ่งในประเด็นนี้ก็เข้ามากดดัน Upside ของสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นและค่าเงินที่กำลังกลับมาฟื้นตัวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามสำหรับในช่วงบ่ายตามการซื้อขายในภาคเอเชียจะพบว่ามีแรงขายรินออกมาแรงเหมือนกัน โดยเราคาดการณ์เป็นการทำกำไรและปรับสถานะการลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวแรงๆ ในค่ำคืนนี้ซึ่งจะมีถ้อยแถลงของประธานเฟดรวมทั้งถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC ท่านอื่นๆ และที่สำคัญยังมีการประกาศดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB และยอดขายบ้านใหม่ เดือน ส.ค. ซึ่งค่อนข้างชี้นำการเคลื่อนไหวของตลาดอยู่อย่างมีนัย ดังนั้นเราจึงไม่มองว่าการปรับตัวลงแรงในช่วงบ่ายจะมาจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลประเด็นเกาหลีเหนือเนื่องจากสถานการณ์ไม่ได้ดูดีขึ้นและยังจะดูเหมือนจะแย่ลงด้วยซ้ำ

 

Strategy : ให้น้ำหนักฝั่ง Short Position ในระยะสั้นหากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,310 USD/toz

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม

-ติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดและถ้อยเเถลงของสมาชิก FOMC(Kashkari,Brainard) ในค่ำคืนนี้

-แรงซื้อทองคำหลังความกังวลคาบสมุทรเกาหลีกลับมาปกคลุมตลาด

-ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB ในค่ำคืนนี้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

-ราคาพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นรับข่าวเกาหลีเหนือ: ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลงในวันจันทร์เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ และคะแนนนิยมที่พุ่งขึ้นอย่างมากสำหรับพรรคฝ่ายขวาจัดในการเลือกตั้งของเยอรมนีได้กระตุ้นแรงซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีปิดที่ 99-188/25 6 โดยมี ผลตอบแทน 2.763% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปิดที่ 100-64/256 โ ดยมีผลตอบแทน 2.2216%

-น้ำมันดิบพุ่งขึ้น 3%,คาดตลาดเข้าสู่สมดุล: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 3 % ในวันจันทร์และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะยานขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี หลังจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ระบุว่าตลาดน้ำมันโลกมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ภาวะสมดุลและตุรกีขู่ที่จะปิดกั้นการส่งออกน้ำมันจากภูมิภาคเคอร์ดิสสถานของอิรักมายังท่าเรือของตุรกี ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ย.ทะยานขึ้น 1.56 ดอลลาร์ หรือ 3 % มาปิดตลาดที่ 52.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

-หุ้นยุโรปขยับขึ้นเล็กน้อยหลัง"เมอร์เคล"ชนะเลือกตั้ง: ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ หลังจากนางแองเจลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 4 แต่พรรคของนางเมอร์เคลสูญเสียเสียงโหวตจำนวนมากไปให้แก่พรรคขวาจัด และนางเมอร์เคลจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคอื่นๆ

-รอยเตอร์คาดพฤหัสฯนี้สหรัฐเผยจีดีพี Q2/2017 โต 3.0%: กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 2/2017 ในวันพฤหัสบดีนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า จีดีพีสหรัฐอาจขยายตัว 3.0% ในไตรมาส 2/2017 ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณครั้งก่อนที่ 3.0%

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 27 กันยายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Derivative daily comment

Today Strategy : Gold ตลาดทองผันผวนแรงปรับขึ้นแรงและลงเร็วจากประเด็นเกาหลีเหนือและคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หนุนดอลลาร์แข็งค่ากดดันทองลงต่ำกว่า 1,300 USD/toz ต่อ วันนี้เราคงมุมมองเดิมคือ Short เป็นพระเอก Long เป็นพระรอง หากราคาเหนือ 1,300 USD/toz ถือเงินสดรอไปก่อน ด้าน SPDR ยังคงเข้ามาสะสมทองต่อในแนวโน้มขาลง

 

Key Factors

- ภาพการเคลื่อนไหวระหว่างวันของตลาดทองคำเมื่อวานนี้ถือว่าปรับตัวขึ้นมาเคลื่อนไหวด้านบนต่อได้จากประเด็นความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลีซึ่งเข้ามาหนุนตลาดทองคำอีกครั้งโดย

เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อราคาทองคำเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1,300 USD/toz ก่อนที่จะมีเเรงขายหนักๆ ในช่วงบ่ายจากการทำกำไรของนักลงทุนในตลาดเเละความกังวลการเเถลงการณ์ของ

ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งเเรงขายดังกล่าวล่วงเลยมาจนถึงการซื้อขายภาคกลางคืนของเอเชีย(ซึ่งเป็นกลางวันของฝั่งสหรัฐฯ) เรียกได้ว่าขึ้นเเรงเเละลงเร็วนักลงมทุนปรับตัวเเทบไม่ทัน

ซึ่งปัจจัยดังกล่าวสะท้อนให้เราเห็นว่านักลงทุนยังมีความกังวลต่อความไม่ชัดเจนในสถานการณ์โลกอยู่มากทั้งมิติเศรษฐกิจเเละการเมือง ทำให้เรายังคงมุมมองที่ว่าความผันผวนดังกล่าวก็ยัง

สามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจากภายในสัปดาห์นี้จะมี Event ทางเศรษฐกิจค่อนข้างมากตั้งเเต่คืนนี้เป็นต้นไปทั้งถ้อยเเถลงของประธานอีซีบี ถ้อยเเถลงของสมาชิก FOMC การประกาศดัชนี

ทางเศรษฐกิจที่มีนัยสำคัญอย่างตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานเเละจีดีพีสหรัฐฯ ซึ่งทั้งหมดเป็นได้ทั้งปัจจัยกระตุ้นในเชิงบวกเเละเชิงลบที่จะเข้ามากดดันในระยะสั้น ในส่วนของดัชนีทาง

เศรษฐกิจสหรัฐฯที่ประกาศเมื่อคืนนี้เรามองว่าไม่ค่อยกระทบกับราคาทองคำสักเท่าใดเนื่องจากประกาศในลักษณะที่บวกลบสลับกันโดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB ประกาศต่ำกว่า

คาดการณ์ที่ระดับ 119.80 จุดซึ่งตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 122.90 จุด ในขณะที่ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ ก็ประกาศไม่ค่อยสดใสเช่นกันโดยขายได้เพียง 560,000 หลังเท่านั้นในขณะที่

ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 585,000 หลัง ซึ่งเเม้ทั้งสองจะเกื้อหนุนต่อการปรับขึ้นของราคาทองคำเเต่นักลงทุนกลับไม่ค่อยตอบรับเท่าที่ควรโดยตลาดยังคงนิ่งๆ อยู่ด้านล่าง ด้านดัชนีภาคการ

ผลิตในเขตริชมอนด์ประกาศออกมาค่อนข้างเด่นสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์พอสมควรโดยประกาศที่ระดับ 19 จุดในขณะที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 13 จุด ด้านถ้อยเเถลงของนางเยลเลนประธาน

เฟดหนุนการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเเม้ยังไม่มีความชัดเจนของอัตราดอกเบี้ยกดดันตลาดทองดิ่งลงในช่วงที่มีถ้อยเเถลงทันที สำหรับวันนี้เเนะนำนักลงทุนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงถือเงินสดรอไปก่อน

 

Strategy : ฝั่ง Short ยังได้เปรียบ

 

 

Key Point

Positive ( + )

- ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

 

Negative ( - )

- เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

- การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

 

 

Neutral ( * )

- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

- ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ

- แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

 

Exclusive News

- ทองดิ่งลงหลัง"เยลเลน"ชี้เฟดต้องขึ้นดบ.ต่อไป: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐดิ่งลง 16.64 ดอลลาร์ หรือ 1.27 % สู่ 1,293.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร หลังจากนางเจเน็ต

เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่าเฟดจำเป็นต้องปรั บขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อไป ถึงแม้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด

COMEX ปิดลดลง 9.80 ดอลลาร์ ที่ 1,301.70 ดอลลา ร์/ออนซ์ และราคาโลหะ เงินส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดลดลง 0.264 ดอลลาร์ ที่ 16.883 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด

NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดร่วงลง 15. 50 ดอลลาร์ ที่ 924.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบ เดือนธ.ค.ปิดบวก 4.75 ดอลลาร์ ที่ 914.45 ดอลลาร์/ออนซ์

-ดอลล์แข็งค่าหลังเยลเลนชี้เฟดยังคงต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย: ดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อเทียบ กับยูโรในวันอังคาร หลังนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคา รกลางสหรัฐ (เฟด)

ระบุว่าเฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อไป แม้มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐก็ตาม ทั้งนี้ ดอลลาร์ปรับตั วขึ้น 0.35% สู่ระดับ 1.1808 ดอลลาร์

ต่อยูโร หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที ่ 23 ส.ค.ที่ 1.1756 ดอลลาร์ต่อยูโรโดยได้แรงหนุนจากการ แสดงความเห็นของนางเยลเลน

 

 

Smart Stock

Today Strategy : แกว่งในกรอบ รอ กนง.

หุ้นไทยเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในลักษณะผันผวนเเละซึมลงจากหลายปัจจัย โดยเรามองว่าปัจจัยบวกใหม่ๆ ในประเทศถือว่ายังไม่มีความชัดเจนจะมีก็เพียงเเต่ประเด็นการประชุมของคณะ

กรรมการนโยบายการเงินในวันนี้ซึ่งเราคาดการณ์ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมไปก่อนเเม้มีเเรงกดดันจากฝ่ายกระทรวงการคลังในช่วงเวลาที่ผ่านมาโดยเหตุผลหลักก็คงจะเป้นเรื่องการ

ควบคุมการเเข็งค่าของค่าเงินเพื่อรักษาความได้เปรียบในการส่งออก สำหรับปัจจัยลบของตลาดโลกเเละประเทศไทยน่าจะเป็นประเด็นข้อพิพาทในคาบสมุทรเกาหลีซึ่งกดดัน Upside ของ

ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงระหว่างวัน โดย SET Index ปิดตลาดที่ระดับ 1,669.75 จุด นิ่งกว่าสัญญา S50U17 ซึ่งปิดที่ระดับ 1,069.60 จุด โดยปัจจัยบวกในช่วงนี้ได้เเก่ราคาน้ำมัน

ดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นจากการปรับลดอุปทานในตลาดซึ่งจะเข้ามาหนุนบรรยากาศการลงทุนเชิงบวกให้กลุ่มพลังงานภายในประเทศพอสมควร

 

Strategy : เปิดสถานะในกรอบ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ถ้อยแถลงของประธาน ECB และประธาน FED ตลอดสัปดาห์นี้

- การประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้

 

ข่าวในประเทศ

-ครม.สั่งรสก.ประสานงาน ขุดถนน-ประปา-ไฟรวดเดียว เร่งตั้งกรมรางรับลงทุนรถไฟ: ที่ประชุม ครม. เห็นชอบกรอบและงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ประจำปีงบประมาณ 61 วงเงิน 1.97 ล้าน

ล้านบาท โดยมีวงเงินเบิกจ่ายลงทุน 846,337 ล้านบาท ซึ่งในแผนการทำงานจากนี้ นายกได้สั่งให้ทุกรัฐวิสาหกิจรับข้อเสนอแนะของสศช. เกี่ยวกับเรื่องการก่อสร้างระบบขนส่งกับ

สาธารณูปโภค ทั้ง ไฟฟ้า ประปา และด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ที่มีแผนงานในพื้นที่เดียวกัน จะต้องทำให้เสร็จพร้อมกันในทีเดียว โดยอาจกำหนดจัดทำเป็นเอกสารประกวดราคา หรือทีโอ

อาร์ หรือเงื่อนไขที่ให้มีผู้รับจ้างมากกว่า 1 ราย เข้าไปทำงานพร้อมกันในพื้นที่ก่อสร้างได้

- ยันแบงก์ทุกแห่งฐานะแข็งแกร่ง: กระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยเรื่องรายชื่อธนาคารพาณิชย์ที่มีนัยต่อความเสี่ยงเชิงระบบใน

ประเทศ ปี 2560 (มาตรการ ดีซิบส์) เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า ขออย่าให้ประชาชนแตกตื่นจากการประกาศดังกล่าวเพราะการประกาศทำเพื่อต้องการดูแลสถาบันการเงินขนาดใหญ่ 5

แห่งซึ่งมีผลต่อระบบเศรษฐกิจคือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารไทยพาณิชย์ให้เป็นแบบแผนตามหลักสากลแต่ยืนยันที่ผ่านมา

 

ธนาคารขนาดใหญ่ทุกแห่งมีฐานะที่แข็งแกร่งอยู่แล้วไม่ได้มีปัญหาอะไร

- แจกเหรียญเจ้าคุณธงชัย จูงใจคนแก่รวยสละสิทธ์: กระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดให้ผู้สูงอายุที่มีฐานะร่ำรวย สละสิทธิ์การรับเบี้ยคนชราเพื่อนำไปสมทบให้ผู้สูงอายุที่มีฐานะ

ยากจนว่า กระทรวงการคลังเร่งจัดทำระบบให้ผู้สูงอายุแจ้งความประสงค์เพื่อขอสละสิทธิ์รับเบี้ยได้อยู่ พร้อมกับจัดทำเหรียญเชิดชูเกียรติให้กับผู้สูงอายุที่สละสิทธิ์ โดยรูปแบบเหรียญนอกจากจะมี

การระบุข้อความถึงการเชิดชูคุณงามความดีแล้ว อีกด้านหนึ่งของเหรียญจะมีการลงยันต์พระพรหมมังคลาจารย์ (เจ้าคุณธงชัย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เพื่อเป็นการกระตุ้นให้มี

การสละสิทธิ์เพิ่มขึ้น

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 27 กันยายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

Gold Futures Glitter Gold (Night Session)

Glitter Gold : แผลลึก

-ราคาทองคำยังคงมีแรงขายต่อค่อนข้างต่อเนื่องในระหว่างวันสำหรับการซื้อขายภาคเอเชีย โดยเรามองว่าการที่ราคาทองคำปรับตัวลงไปต่ำกว่าระดับ 1,290 USD/toz ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยจะดีนัก ปัจจัยหลักๆ ก็ยังคงเป็นประเด็นเดิมก็คือคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมเดือนธันวาคมหลังจากที่เมื่อคืนนี้นางเยลเลนได้ส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางฯ มีความจำเป็นต้องปรับอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจจริงแม้ระดับเงินเฟ้อจะไม่ได้อยู่ในระดับที่ต้องการก็ตาม ทั้งนี้ทาง CME Fed Watch Tool ได้ปรับคาดการณ์เเนวโน้มที่จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นสู่ระดับ 125-150 Basis Point สูงถึงระดับ 81.40% ในทางตรงกันข้ามกระแสเงินทุนหลักๆ ก็วิ่งสวนทางเข้าไปพักไว้ในค่าเงินดอลลาร์หนุนดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำจุดสูงที่สุดในรอบกว่า 4 สัปดาห์ที่ระดับ 93.50 จุด ซึ่งแม้จะยังเป็นระดับที่ถือว่าต่ำอยู่แต่ก็สามารถลดภาพการอ่อนค่าต่อเนื่องได้ค่อนข้างดี ด้านประเด็นข้อพิพาทในคาบสมุทรเกาหลีเรามองว่าตลาดไม่ได้ให้ราคาแล้วหากสถานการณ์ไม่ได้รุนแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พิจารณาจากการปรับขึ้นแบบตกใจในวันก่อนหน้าก่อนที่จะมีแรงขายเทออกมาตลอดทางสร้างกรอบการเคลื่อนไหวผันผวนกว้างราวๆ 20-25 ดอลลาร์ สำหรับค่ำคืนนี้ติดตามถ้อยเเถลงของสมาชิก FOMC(Brainard)และยอดการสั่งสินค้าคงทนไม่รวมค่าขนส่งสหรัฐฯ ประกอบการตัดสินใจ

 

Strategy : คงมุมมองให้น้ำหนักฝั่ง Short Position

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม

-ติดตามถ้อยเเถลงของสมาชิก FOMC(Brainard) ในค่ำคืนนี้

-ติดตามยอดการสั่งสินค้าคงทนไม่รวมค่าขนส่งสหรัฐฯ

-สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

-บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น: ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในวันอังคารขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังคงมองว่าเฟดยังคงจะขึ้น อัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปแม้อัตราเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% ก็ตาม ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีปิดที่ 99-104/256 โดยมีผลตอบแทน 2.7793% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปิดที่ 100-24/256 โดยมีผลตอบแทน 2.2392%

-ทองดิ่งลงหลัง"เยลเลน"ชี้เฟดต้องขึ้นดบ.ต่อไป: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ดิ่งลง 16.64 ดอลลาร์ หรือ 1.27 % สู่ 1,293.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องปรั บขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อไป ถึงแม้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดลดลง 9.80 ดอลลาร์ ที่ 1,301.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะ เงินส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดลดลง 0.264 ดอลลาร์ ที่ 16.883 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดร่วงลง 15. 50 ดอลลาร์ที่ 924.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบ เดือนธ.ค.ปิดบวก 4.75 ดอลลาร์ที่ 914.45 ดอลลาร์/ออนซ์

-รมว.พาณิชย์สหรัฐชี้ความสัมพันธ์ด้านการค้ากับจีนยังไม่สมดุลในขณะนี้: นายรอสกล่าวว่า มีความจริงใจและเปิดเผยระหว่างสองประเทศ และทั้งสองฝ่ายก็ได้แลกเปลี่ยนมุมมองที่ดี ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า นายรอสได้กดดันจีนเรื่อง "ความจำเป็นที่ต้องสร้างสมดุลใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ" และเรียกร้องให้จีน "ดำเนินการอย่างมีความหมาย" ในเรื่องการค้า

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 28 กันยายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Derivative daily comment

Today Strategy : Gold ตลาดทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลงแรงขายยังรินออกมาอย่างไม่เกรงใจนักลงทุนในขณะที่กองทุน SPDR เข้ามาช้อนซื้อสุทธิสะสมอยู่เรื่อยๆตลอดสัปดาห์พอให้ตลาดมีบรรยากาศผ่อนคลายบ้างเล็กอย่าง (อย่างน้อยก็ไม่ดูโหดร้ายจนเกินไป) ปัจจุบันมีสถานะถือครองทองคำสุทธิที่ระดับ 864.65 ตัน สำหรับกลยุทธ์วันนี้เราคงมุมมอง Short เหมือนเดิม

 

Key Factors

- ตลาดทองคำยังเคลื่อนไหวอยู่ในเเนวโน้มขาลงหลักหลังจากที่นางเยลเลนประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกหนึ่งครั้งในช่วงการประชุมเดือนธันวาคมทำให้เเรงซื้อเกิดขึ้นในสินทรัพย์เสี่ยงทั้งค่าเงินเเละตลาดหุ้นโดยเงินทุนเริ่มไหลกลับเข้าสู่ฝั่งสหรัฐฯ ต่ออัตราผลตอบเเทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุยาวยิ่งปรับตัวสูงขึ้นดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุน ภาพที่เราเป็นห่วงสำหรับตลาดทองคำคงหนีไม่ผลการเคลื่อนไหวขึ้นลงผ่านระดับนัยสำคัญ 1,300 USD/toz เป็นว่าเล่นขึ้นเร็วลงเร็ว-ขึ้นเเรงลงเเรง ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ทิศทางได้ค่อนข้างลำบาก เเต่อย่างไรก็ดีสำหรับภาพหลักๆ เเล้วน่าจะเคลื่อนไหวผันผวนเเบบไร้ทิศทางไปก่อน รอประเด็นใหม่ๆ ที่เด่นๆ เข้ามากระตุ้นตลาด เช่นประเด็นในฝั่งเกาหลีเเต่ก็มีเงื่อนไขก็คือต้องมีความรุนเเรงเกิดขึ้นมากกว่าเดิมเพราะสำหรับสงครามน้ำลายเเล้วนักลงทุนเริ่มเบื่อเเละไม่ค่อยตอบรับเท่าไหร่ทั้งฝั่งสหรัฐฯ เเละเกาหลีเหนือ

 

Strategy : ฝั่ง Short ยังได้เปรียบ

 

 

Key Point

Positive ( + )

- ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

 

Negative ( - )

- เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

- การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

 

 

Neutral ( * )

- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

- ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ

- แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

 

Exclusive News

- ดอลล์แข็งค่ารับคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย,แผนปฏิรูปภาษีสหรัฐ: ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือนเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันพุธ ขณะที่ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการปฏิรูปด้านการคลังของสหรัฐหนุนความเชื่อมั่น ในดอลลาร์ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญปรับต ัวขึ้น 0.47% สู่ระดับ 93.401 หลังแตะระดับ 93.607 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วั นที่ 23 ส.ค.

-ทองดิ่งลงแตะจุดต่ำสุด 1 เดือน: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐรูดลง 12.79 ดอลลาร์ หรือ 0.99 % สู่ 1,280.72 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดรอบ 1 เดือน โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ โดยราคาทองร่วงลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากเพิ่ง ดิ่งลง 1.27 % ในวันอังคาร ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดดิ่งลง 13.90 ดอลลาร์ ที่ 1,287.80 ดอ ลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะ เงินส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดลดลง 0.056 ดอลลาร์ ท ี่ 16.827 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดลดลง 3. 20 ดอลลาร์ ที่ 921.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบ เดือนธ.ค.ปิดพุ่งขึ้น 11.05 ดอลลาร์ ที่ 925.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

Smart Stock

Today Strategy : ไม่เสียทรง

ตลาดหุ้นไทยทรงตัวตื้อๆ มีเเรงซื้อเเละเเรงขายพอๆ กันค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วโดยเรามองเป็นสองประเด็นหลักก็คือ 1.การอ่อนค่าเชิงเปรียบเทียบเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เเข็งค่าขึ้นระหว่างวัน 2.การอ่อนค่าจากการไหลออกของเงินทุนเข้าสู่สหรัฐฯ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่งในปลายปีนี้ไม่ว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับใดฯ อย่างไรก็ตามการอ่อนค่าดังกล่าวไม่สร้างความตื่นเต้นให้นักลงทุนมากนักเนื่องจากมีกลุ่มส่งออกที่ได้รับประโยชน์(อย่างน้อยก็ไม่เสียเปรียบ)ในเรื่องของกำไรสุทธิที่เป็นตัวเงินในรูปเงินบาท(กรณีไม่ได้ทำ Forward ไว้) ด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50U17 ปิดตลาดเเกว่งเเรงกว่าตัวเเม่อย่าง SET50 เล็กน้อยตามปกติเนื่องจากสัญญาเริ่มใกล้วันหมดอายุเเล้วนักลงทุนเริ่มเข้ามาปิดสถานะหรือ Roll-Over กันไปบ้าง สำหรับประเด็นการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน กนง. ของธนาคารเเห่งประเทศไทย ธปท. นั้นก็มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามคาดการณ์ของตลาดตลาดจึงไม่ได้ตอบรับเชิงบวกเชิงลบใดๆ สำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้ตลอดจนสิ้นสัปดาห์เราเริ่มปรับมุมมองเป็น "เป็นกลาง" ไปก่อนจากหลายประเด็นได้เเก่ภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ เเละความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลียังไม่ชัดซีงส่งผลต่อ Fund Flow เเละในส่วนของภาคเศรษฐกิจจริงของไทยเเม้ผื้นตัวเเต่ภาคการลงทุนในตลาดทุน Valuation เริ่มตึงตัวพอสมควร

 

 

Strategy : เปิดสถานะในกรอบ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ถ้อยแถลงของประธาน ECB และประธาน FED ตลอดสัปดาห์นี้

- เงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญ

 

ข่าวในประเทศ

-ไทยเที่ยวไทยตกวูบ 20%: นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสหากรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 3 นักท่องเที่ยวไทยเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศลดลง 20% และไตรมาส 4 นักท่องเที่ยวไทยก็ยังคงวางแผนเดินทางท่องเที่ยวเพียง 25% เท่านั้น ถือว่าเป็นสัดส่วนที่ต่ำมากหากเทียบตั้งแต่ปี 56-58 โดยสาเหตุหลัก คือ แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังคงซบเซา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวไทยยังต้องระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยและการเดินทางท่องเที่ยว

-กนง.โวจีดีพีปีนี้โต 3.8% ยันเศรษฐกิจไทยขาขึ้น: นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง.มีมติเห็นชอบให้มีการปรับประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีในปีนี้เพิ่มขึ้นจากเดิม 3.5% เป็น 3.8% เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวดีกว่าที่คาดไว้ทั้งภาคการส่งออก การบริโภคภายในประเทศฟื้นตัว และการลงทุนเอกชนปี 61นั้นยังคาดว่าจะขยายตัว 3.8%

-รถยนต์ 8 เดือนโต 10% รุกเปิดตัวกระตุ้นตลาด: นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวน 67,962 คัน เพิ่มขึ้น 6.8% แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง 26,868 คัน เพิ่มขึ้น 8.5% รถเพื่อการพาณิชย์ 41,094 คัน เพิ่มขึ้น 5.8% ยอดขายที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นผลมาจากความนิยมอย่างต่อเนื่องของรถยนต์รุ่นใหม่ที่ได้แนะนำสู่ตลาดในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศของภาครัฐที่เริ่มส่งผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจและตลาดรถยนต์

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 28 กันยายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

Gold Futures Glitter Gold (Night Session)

Glitter Gold : สาละวันเตี้ยลง

ตลาดทองคำเปิดการซื้อขายภาคเช้าด้วยการปรับตัวลงต่อแม้จะไม่ได้ผันผวนแรงแต่ภาพรวมถือว่าปรับลงต่อเรื่อยๆ ในลักษณะลงเเล้วลงอีก ปัจจัยบวกหลักๆ ถือว่ายังไม่มีพอที่จะเข้ามาพยุงตลาดได้ โดยเราแนะนำให้นักลงทุนติดตามระดับ 1,270 USD/toz ประกอบการตัดสินใจเนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีนัยสำคัญในแง่ที่มีการเปิดปิดสถานะค่อนข้างมากและน่าจะหนุนบรรยากาศเชิงบวกได้พอสมควรในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามแรงขายที่ลงมาแรงๆ เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเมื่อคืนหลังดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศโดยเฉพาะคำสั่งซื้อสินค้าคงทนประกาศออกมาค่อนข้างโดดเด่นเกินกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไปมากโดยตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 1.0% ในขณะที่ตัวเลขจริงประกาศที่ระดับ 1.7% โดยในความเป็นจริงตลาดก็ได้คาดการณ์สูงกว่าการประกาศครั้งที่แล้วไปมาก (-6.8%) กดดันทั้งราคาทองคำและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับค่ำคืนนี้ทองคำมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวกว้างมากขึ้นเนื่องจากจะมีการประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และจีดีพีสหรัฐฯ ซึ่งค่อนข้างชี้นำทิศทางคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อีกครั้งหนึ่งในการประชุมเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้

 

Strategy : คงมุมมองให้น้ำหนักฝั่ง Short Position

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม

-ติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และจีดีพีขั้นสุดท้าย ไตรมาส2/60 ในค่ำคืนนี้

-ติดตามดุลการค้า(สินค้า) และดัชนีราคาสหรัฐฯ ในค่ำคืนนี้

-ติดตามถ้อยแถลงสมาชิก FOMC (Fischer)

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

-บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ พุ่งทำนิวไฮ: ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนและหลายปีในวันพุธหลังจากข้อมูลยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่เพิ่ มขึ้นมากเกินคาดของสหรัฐบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้ออาจจะเพิ่มขึ้นและธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะดำเนินแนวทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดปรับตัวรับในขณะนี้ ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีปิดร่วงลง 1-25/32 ที่ 97-26/32 โดยมีผลตอบแทน 2. 859% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปิดลดลง 22/32 ที่ 99-17/32 โดยมีผลตอบแทน 2.305%

-FTSE ปรับขึ้นตามหุ้นกลุ่มการเงิน,ส่งออก: ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นอังกฤษปิดบวกขึ้นในวันพุธหลังจากปิดตลาดในแดนลบมานานติดต่อกันสองวันโดยหุ้นบริษัทส่งออกบางแห่งได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของปอนด์ทางด้านหุ้นกลุ่มการเงินปรับขึ้นตามหุ้นธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดหลังจากโบรกเกอร์ปรับขึ้นอันดับความน่าลงทุนของหุ้นตัวนี้

-ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นขณะสต็อกน้ำมันดิ่งลง: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันพุธโดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ดิ่งลงอย่างพลิกความคาดหมายในขณะที่โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ เริ่มเปิดทำการอีกครั้งหลังจากปิ ดทำการเพราะพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ในช่วงปลายเดือนส.ค. อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งลงโดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์หลังจากมีการผลักดันเรื่องการปฏิรูปภาษีในสหรัฐ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบ เดือนพ.ย.ปรับขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.5 % มาปิดตลาดที่ 52.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

-หุ้นยุโรปปรับขึ้นตามหุ้นกลุ่มธนาคาร: ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 10 สัปดาห์ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันพุธโดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ของสหรัฐเสนอแผนปฏิรูปภาษีครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐในรอบ 30 ปีในวันพุธ และแผนดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อและราคาหลักทรัพย์ในสหรัฐและประเทศอื่นๆจะพุ่งสูงขึ้นในอนาคต

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 29 กันยายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Derivative daily comment

Today Strategy : Gold สำหรับวันนี้เรายังคงให้น้ำหนักฝั่ง Short มากกว่าฝั่ง Long เหมือนเดิมแม้มีแรงซื้อหกลับเข้ามาประคองตลาดแต่เรามองว่าเป็นแรงซื้อกลับบางๆ เท่านั้น ปัจจัยบวกหนุนหลักยังถือว่าเปราะบาง

 

Key Factors

-ตลาดทองคำยังถือว่าเคลื่อนไหวอยู่ในเเนวโน้มขาลงเเม้มีเเรงซื้อสลับกลับเข้ามาพยุงตลาดไว้บ้างเเต่ก็เหมือนว่าจะสู้เเรงขายไม่ค่อยจะไหว ปัจจัยหลักมาจากการขาดปัจจัยบวกที่โดดเด่นพอเเม้นักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR ซื้อสุทธิสะสมมาตั้งเเต่ส้นสัปดาห์เเต่ก็ไม่สามารถหนุนให้ตลาดทองคำกลับมาเคลื่อนไหวในเเดนบวกได้เท่าที่ควรโดยทำได้อย่างมากที่สุดก็เเค่พยุงราคาไว้ไม่ให้ตกลงไปมากกว่านี้เท่าใด ที่น่าสังเกตุอีกประการก็คือบริเวณ 1,270-1,300 USD/toz เป็นระดับที่กองทุน SPDR ชอบกลับเข้ามาซื้อสุทธิสะสมสถานะการถือครองอยู่เรื่อยๆ ตั้งเเต่การปรับขึ้นในรอบก่อนหน้านี้เมื่อราวๆ หนึ่งเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามสำหรับราคาของทองคำในวันนี้โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนนี้น่าจะมีความผันผวนจากการประกาศดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประมาณ 6-7 ดัชนี รวมทั้งจะมีถ้อยเเถลงของสมาชิก FOMC (Harker) เเละ ถ้อยเเถลงของประธานธนาคารกลาง(ผู้ว่า)อังกฤษ (Carney) เข้ามาเสริมทัพด้วย ซึ่งประเด็นเหล่านี้ทองคำย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะผันผวนเเรง

 

Strategy : ฝั่ง Short ยังได้เปรียบ

 

 

Key Point

Positive ( + )

- ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

 

Negative ( - )

- เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

- การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

 

Neutral ( * )

- การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

- ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ

- แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

 

Exclusive News

-ดอลล์อ่อนค่าจากแรงขายทำกำไร,การปรับสถานะลงทุนสิ้นไตรมาส: ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันพฤหัสบดี หลังปรับตัวขึ้น 3 วันติดต่อกัน ขณะที่นักลงทุนขายดอลลาร์เพื่อทำกำไรก่อนสิ้นไตรมาสหลังจากการทะยานขึ้นในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญลดลง 0.23% สู่ระดับ 93.143 แต่ยังคงปรับตัวขึ้นราว 1% ในสัปดาห์นี้

-ทองดีดขึ้นจากจุดต่ำสุด 6 สัปดาห์: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 6.19 ดอลลาร์ สู่ 1,286.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี หลังจากดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 6 สัปดาห์ที่ 1,277.26 ดอลลาร์ในช่วงแรก โดยในช่วงแรกราคาทองได้รับแรงกดดันจากข้อเสนอในการปฏิรูปภาษีสหรัฐ และจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง เพราะตัวเลขดังกล่าวช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ร่วงลงในช่วงต่อมา และส่งผลให้มีคำสั่งซื้อชดเชยทองเข้ามาในตลาด ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดขยับขึ้น 0.90 ดอลลาร์ สู่ 1,288.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดปรับขึ้น 2 เซนต์ สู่ 16.847 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดขยับลง 0.50 ดอลลาร์ สู่ 921.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดปรับขึ้น 2.35 ดอลลาร์ สู่ 927.85 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

Smart Stock

Today Strategy : ทำกำไรบ้างก็ดี...

เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยมีความพยายามปรับตัวขึ้นต่อในการซื้อขายภาคเช้าตั้งเเต่เปิดตลาดเเต่ไปได้ไม่ไกลก็เหมือนจะดับฝันนักลงทุนด้วยเเรงขายที่ถูกเทออกมาตั้งเเต่เปิดตลาดภาคบ่ายเเม้ไม่มากมายอะไรเเต่ก็กดดันบรรยากาศการลงทุนอยู่พอตัว ปัจจัยหลักเรามองว่าเป็นเเรงขายของนักลงทุนสถาบันเเละนักลงทุนต่างประเทศเป็นหลักเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการประกาศจีดีพีเเละจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เมื่อคืนนี้อีกทั้งยังสะท้อนผ่านค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าลงเรื่อยเป็นวันที่สามเเล้วซึ่งหากพิจารณาการอ่อนค่าถือว่าอ่อนค่ามากในระยะเวลาเพียงเเค่ประมาณสามวันทำการเท่านั้น โดยเมื่อต้นสัปดาห์เงินบาทเคลื่อนไหวที่ระดับ 33.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เเต่เมื่อวานนี้กลับอ่อนค่าไปถึงระดับ 33.52 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ (อ่อนค่าไปกว่า 12.69%) สำหรับการซื้อขายในวันนี้เราคาดการณ์สถานการณ์ไว้สองสถานการณ์ได้เเก่ 1.เคลื่อนไหวในกรอบในลักษณะย่ำฐาน 2.มีเเรงขายออกเเรงกดตลาดฯ ซึ่งทั้งสองปัจจัยมีโอกาศเกิดขึ้นได้มากกว่าจะลุ้นฝั่ง Upside Gain โดยเราให้ความน่าจะเป็นไว้ที่ระดับ 65:35

 

Strategy : ฝั่ง Short ได้เปรียบระยะสั้น(เท่านั้น)

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- เงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าอย่างมีนัยสำคัญ

 

ข่าวในประเทศ

-เร่งแปลงโฉมคลังธนบุรี คอมมูนิตี้มอลล์2.6พันล. ชงสคร.ไฟเขียวเพิ่มรายได้: พ.อ.(พิเศษ) ดิเรก ดีประเสริฐ รองประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพัฒนาคลังสินธนบุรี1 กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ผสมผสานกับศูนย์การเรียนรู้และคลังแสดงสินค้าทางการเกษตร บนพื้นที่เกือบ 20 ไร่ ว่า ในเร็วๆ นี้ อคส.จะเสนอแผนการลงทุนทั้งหมดให้ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณา โดยแผนการลงทุนครั้งนี้จะสร้างรายได้ให้กับอคส.ในระยะยาว 30 ปี ไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีรายได้รวมการเช่าคลังสินค้าเพียงปีละ 70 ล้านบาท เบื้องต้นมีเอกชนพร้อมสนใจร่วมทุนแล้ว 4 ราย คือ กลุ่ม แกรนด์ เอสเสท, นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้, สยามพิวรรธน์ และยูนิเวนเจอร์ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายใน 2 ปี หรือเสร็จภายในปี 63

-แนะรพ.ไทยรุกลูกค้าคนจีน: น.ส.พัชรพร สิริทรัพย์วงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ ไป่ตู้ ประเทศไทย ซึ่งเป็นเว็บไซต์หลักในการหาข้อมูลของคนจีน คล้ายกูเกิล เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัว ไป่ตู้ แอคเซส ในไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นที่ปรึกษาการทำตลาดออนไลน์ในจีน ให้กับผู้ประกอบการไทยที่สนใจบุกเบิกขายสินค้าหรือทำธุรกิจในจีน ซึ่งขณะนี้ต้องขอแนะนำให้กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลรายใหญ่ในไทย หันมาเจาะกลุ่มลูกค้าชาวจีนให้มากขึ้น หลังพบว่า ในปี 58 มีลูกค้าชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศเพื่อมาใช้บริการด้านการแพทย์จากประเทศอื่นเติบโตมากถึง 500% ขณะเดียวกันชาวจีนยังเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาใช้จ่ายในไทยสูงกว่าการใช้จ่ายในประเทศอื่น ๆ ด้วย

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันที่ 29 กันยายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

Gold Futures Glitter Gold (Night Session)

Glitter Gold : พยายามเด้ง

ตลาดทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ช่วงเช้าสำหรับภาคเอเชียก่อนมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนตลาดให้ปรับตัวขึ้นได้ในระหว่างวันแต่ต้องยอมรับว่าภาพหลักๆ เป็นการฟื้นตัวมากกว่าที่จะขึ้นต่อแบบโดดเด่น อย่างไรก็ตามปัจจัยบวกที่เข้ามาหนุนการปรับขึ้นเรามองว่ายังไม่มีและดัชนีค่าเงินดอลลาร์ก็ยังเป็นปัจจัยลบหลักที่กดดัน Upside ของตลาดทองคำ สำหรับวันนี้โดยเฉพาะช่วงหลัง 17.00น. เป็นต้นไปตลาดทองคำน่าจะกลับมาผันผวนแรงจากการเข้ามาปรับสถานะของนักลงทุนในตลาดจากคาดการณ์ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรปและถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC ซึ่งจะมีถึงสองท่านในคืนนี้รวมทั้งยังจะมีการประกาศดัชนี้ทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ อีกหลายดัชนี 6-7 ดัชนี แต่ที่เราแนะนำให้ติดตามเป็นหลักได้แก่ รายจ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนพื้นฐานและดัชนีผู้จัดการจัดซื้อในเขตของชิคาโกรวมทั้งดัชนีคอมโพสิตสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

Strategy : คงมุมมองเดิมให้น้ำหนักฝั่ง Short Position

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม

-ติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และจีดีพีขั้นสุดท้าย ไตรมาส2/60 ในค่ำคืนนี้

-ติดตามถ้อยเเถลงของประธานอีซีบีและถ้อยแถลงสมาชิก FOMC (Fischer, Harke)

-การฟื้นตัวของดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

-บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ พุ่งทำนิวไฮต่อ: ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนและหลายปีตั้งแต่วันพุธหลังจากข้อมูลยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่เพิ่มขึ้นมากเกินคาดของสหรัฐบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้ออาจจะเพิ่มขึ้น และธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) อาจจะดำเนินแนวทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดปรับตัวรับในขณะนี้ ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีปิดร่วงลง 1-25/32 ที่ 97-26/32 โดยมีผลตอบแทน 2. 859% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปิดลดลง 22/32 ที่ 99-17/32 โดยมีผลตอบแทน 2.305%

-หุ้นยุโรปขยับขึ้นแตะจุดสูงสุด 10 สัปดาห์: ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเล็กน้อยในวันพฤหัสบดีและขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 10 สัปดาห์ในระหว่างวัน ในขณะที่ตลาดหุ้นยังคงได้รับแรงหนุนจากแผนปรับลดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ของสหรัฐฯ ถึงแม้นักลงทุนกังวลว่าอาจจะเป็นเรื่องยากในการนำแผนดังกล่าวมาปฏิบัติใช้จริง

-ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นขณะสต็อกน้ำมันดิ่งลง: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันพุธโดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ดิ่งลงอย่างพลิกความคาดหมายในขณะที่โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐเริ่มเปิดทำการอีกครั้ง หลังจากปิดทำการเพราะพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์ในช่วงปลายเดือนส.ค. อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งลง โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์หลังจากมีการผลักดันเรื่องการปฏ ิรูปภาษีในสหรัฐ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบ เดือนพ.ย.ปรับขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.5 % มาปิดตลาดที่ 52.14 USD/bbl

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ช่วงเช้า

วันที่ 02 ตุลาคม 2560

ให้เพื่อนๆ ติดตามมาแล้วครับ

 

ถูกแก้ไข โดย ilovecgf

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...