ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 6 พฤษภาคม 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

* ราคาทองคำในตลาด COMEX ปรับลดลง 33.90 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,481.40 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,462.50-1,522.10 ต่อออนซ์ เป็นผลจากการตกต่ำของราคาโลหะเงินส่งผลกระทบต่อการขายทำกำไรในตลาดทองคำ และการตกต่ำของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เมื่อมีการประกาศตัวเลขการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐออกมาสูงกว่าคาดแสดงถึงเศรษฐกิจสหัรัฐอาจชะลอตัวลงอีกครั้ง

* ราคาโลหะเงินปรับลดลงมากเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันจากการประกาศปรับขึ้น Initial Margin ในตลาด COMEX ทำให้ราคาโลหะเงินปรับลดลง 30% นับจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 49.51 USDต่อออนซ์ การปรับลดลงของราคาโลหะเป็นผลจากแรงขายของนักลงทุน เมื่อมีการปรับเพิ่ม Initial Margin อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนในการลงทุนของนักลงทุนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีการขายโลหะเงินอย่างหนัก (-)

* สินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ มีราคาตกต่ำลง ดัชนี GSCI ซึ่งจัดทำโดย S&P ใช้เป็นเครื่องชี้วัดราคาสินค้าโภคภัณฑ์ 24 ชนิดปรับตัวลง 6.5% เมื่อวานนี้ และลดลง 9.9% ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับตัวลดลง 8.6% ราคาลดลงต่ำกว่า 100 USDต่อบาร์เรล นักลงทุนต่างพากันเทขายสินค้าโภคภัณฑ์ 23 จากการแข็งค่าของเงิน USD เมื่อธนาคารกลางยุโรปไม่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจากความกังวล ในเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาชะลอตัวอีกครั้งเมื่อยอดขอสวัสดิการ การว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด(-)

* ยอดขอสวัสดิการ การว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 474,000 รายสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 410,000 รายเนื่องจาก การจ้างงานลดลงในภาคการผลิตรถยนตร์เนื่องจากปิดโรงงาน ส่วนผลิดภาพการผลิตของแรงงานลดลง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคซึ่งจัดทำโดย Bloomberg ปรับลดลง ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ประกาศออกมาทำให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาชะลอตัวอีกครั้ง(-)

* ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมากเมื่อเทียบกับเงิน USD โดยอ่อนค่าลงมาที่ระดับ 1.45 USDต่อยูโร เมื่อธนาคารกลางยุโรปคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.25% ตามเดิม และส่งสัญญาณอาจจะไม่มีการปรับ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. มีผลทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ปรับขึ้นมาที่ระดับ 74 หลังจากที่ลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 72.8(-)

* SPDR ขายทองคำออก 11.52 ตัน เหลือถือครองคำจำนวน 1,208.42

แนวโน้มระยะสั้น :อยู่ในกรอบ 1,450-1,540 แนะนำเปิด Long บริเวณแนวรับ ถ้ายืนเหนือ 1,470 ได้ โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,450

แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400-1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคำในตลาด COMEX เพิ่มขึ้น 10.20 USDต่อออนซ์ เนื่องจาก ตัวเลขการจ้างงานในเดือนเม.ย.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด และค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมากเมื่อมีความกังวลเพิ่มขึ้นต่อสถานการณ์หนี้ของกรีซ

 

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เพิ่มขึ้น 10.20 USDต่อออนซ์ เนื่องจาก ตัวเลขการจ้างงานในเดือนเม.ย.ของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด และมีการคาดการณ์ว่ากรีซอาจต้องออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป แต่รมว.คลังของกรีซได้ออกมาปฏิเสธ

 

o ราคาทองคำ rebound ภายหลังจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐออกมาดีกว่าคาด โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,471.40 – 1,498.50 USDต่อออนซ์ ตัวเลขการจ้างงานในเดือนเม.ย.ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 244,000 ตำแหน่งงาน มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 185,000 ตำแหน่งงาน และดีกว่าเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่งงาน ส่วนอัตราการว่างงานในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 9.0% แย่กว่าเดือนก่อนและแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 8.8% ( + )

 

o เงินยูโรอ่อนค่าลงมากมาอยู่ที่ระดับ 1.43 USDต่อยูโร การอ่อนค่าของเงินยูโร เป็นผลจากการที่ธนาคารกลางยุโรปส่งสัญญาณว่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนม.ย. ตามมาด้วยความกังวลต่อสถานการณ์หนี้ของกรีซเพิ่มขึ้น มีการคาดการณ์ว่ากรีซอาจต้องปรับโครงสร้างหนี้ และอาจต้องมีการถูกเรียกหลักประกันเพิ่มขึ้น ( - )

 

o ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ราคาสินค้าส่งออกและนำเข้า ยอดขาดดุลการค้า ยอดการส่งออก และการนำเข้า ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดขายส่ง ยอดขอสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ และอัตราเงินเฟ้อ หรือดัชนีราคาผู้บริโภค ในเดือนเม.ย. โดยมีการคาดการณ์ว่า ยอดขายส่งจะเพิ่มขึ้น 0.6% เทียบกับ 0.4% ในเดือนก่อน เนื่องจาก ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ประชาชนต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ส่วนยอดขาดดุลการค้าคาดว่าจะขาดดุลเพิ่มขึ้นเป็น 47 พันล้านUSD ในขณะที่ดัชนีราคาสินค้านำเข้าลดลงมาที่ 1.8% MoM ดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 6.5% YoY ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเป็น 3.1% YoY ซึ่งโดยรวมแสดงถึงการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ส่วนยอดขอสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์คาดว่าจะลดลงเหลือ 428,000 รายลดลงจากสัปดาห์ก่อน (+/-)

 

o SPDR ขายทองคำออกอีก 3.03 ตัน เหลือถือครองทองคำจำนวน 1,205.39 ตัน ( - )

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,450 – 1,540 แนะนำเปิด Long บริเวณแนวรับ ถ้ายืนเหนือ 1,470 ได้ โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,514/1,526 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,450

แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยินดีครับผม

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆ ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 10 พฤษภาคม 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX เพิ่มขึ้น 11.60 USDต่อออนซ์ เนื่องจาก จากความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อเริ่มกลับมา เมื่อราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้เป็นผลจากความกังวลในวิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซ เมื่อ S&P ประกาศปรับลดอันดับเครดิตของกรีซลง 2 อันดับ มาอยู่ที่ระดับ B

 

o ราคาทองคำ rebound ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เนื่องจาก จากความกังวลในเรื่องวิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซ เมื่อ S&P ประกาศปรับลดอันดับเครดิตของกรีซลง 2 อันดับจากระดับ BB- มาอยู่ที่ระดับ B โดยมีมุมมองเชิงลบ และอาจมีการปรับลดอันดับเครดิตลงอีกในอนาคต เนื่องจาก มีการคาดการณ์ว่า กรีซอาจต้องยืดเวลาการชำระหนี้ และเงินช่วยเหลือที่ให้แก่กรีซจำนวน 110 พันล้านไม่เพียงพอ และกรีซต้องขอความช่วยเหลืออีก 22 พันล้านยูโร อันดับเครดิต B เป็นอันดับเครดิตที่เป็น Junk Bond และต่ากว่า Investment Grade ถึง 6 อันดับ ( + )

 

o ราคาทองคำในช่วงนี้คาดว่ามีลักษณะ Side way ในกรอบ 1,470 – 1,520 USDต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยบวก ได้แก่ ความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อที่เริ่มกลับมาเมื่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างเริ่มฟื้นตัว และปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซ ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ การคาดว่า จีนจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในสัปดาห์นี้ เมื่อมีการคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของจีนจะสูงกว่า 5% ในไตรมาสที่ 2 การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะออกมาดี และทำให้เงิน USD แข็งค่าขึ้น หรือเป็นผลจากการที่เงินยูโรอ่อนค่า

 

o เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากการประกาศปรับลดอันดับเครดิตของ กรีซ ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เมื่อมีการคาดการณ์ว่า ยอดการขาดดุลการค้าของสหรัฐที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ทรงตัวในระดับ 74.7 ในรเช้าวันนี้ใกล้เคียงกับราคาปิดในวันก่อน หลังจากที่แข็งค่าขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว (+/ - )

 

o ราคาสินค้าโภคภัณ์ต่างๆ rebound ขึ้น ด้าน Goldman Sachs คาด ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากปริมาณอุปทานที่ตึงตัว ราคาน้ำมันดิบ Nymex ปิดที่ 102. 55 USDต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 5.53% ราคาโลหะเงินปิดที่ 37.12 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.18% (+ )

 

o Goldman Sachs ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐลงจาก 3.5 – 4.0% เป็น 3.0 – 3.5% และเช่นเดียวกับ Morgan Stanley ปรับลดการคาดการณ์ GDP ในปีนี้ของสหรัฐลงเป็นครั้งที่ 3 จาก 3.6% เป็น 3.3% ( - )

 

o SPDR ขายทองคำออกอีก 3.44 ตัน เหลือถือครองทองคำจำนวน 1,201.95 ตัน ( - )

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,450 – 1,540 แนะนำเปิด Long บริเวณแนวรับ ถ้ายืนเหนือ 1,470 ได้ โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,514/1,526 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,450 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 11 พฤษภาคม 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX เพิ่มขึ้น 13.70 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,516.90 USDต่อออนซ์ เป็นผลจากความกังวลในเรื่องวิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซ ความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อ และสถานการณ์ในลิเบียมีความรุนแรงมากขึ้น

 

o ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เพิ่มขึ้น 13.70 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,516.90 USDต่อออนซ์ โดยมีกรอบความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,505.20 – 1,520.0 คาดกรอบความเคลื่อนไหววันนี้ระหว่าง 1,505 – 1,532 USDต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยบวกจากความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อ ความกังวลในเรื่องวิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซ และสถานการณ์ในลิเบียมีความรุนแรงมากขึ้น ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ มีการคาดการณ์ว่า จีนอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ ส่วนการปรับ Initial Margin ในการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าน้ำมันในตลาด COMEX มีผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์น้อย เนื่องจากอุปทานตึงตัว

 

o จากความกังวลในเรื่องวิกฤตหนี้สาธารณะของกรีซ หลังจากรัฐบาลกรีซออกมาปฏิเสธข่าวว่า กรีซได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมเกือบ 6 หมื่นล้านดอลล่าร์สรอ. เพื่อรับมือวิกฤตหนี้สินของประเทศ โดยก่อนหน้านี้มีข่าวจากสำนักข่าวดาวโจนส์ว่า กรีซบรรลุข้อตกลงในการรับความช่วยเหลือทางการเงินรวมเกือบ 6 หมื่นล้านดอลล่ารณสรอ. ( + )

 

o ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อจะเพิ่มสูงขึ้น จากการที่ราคาน้ำมันและราคาสินค้าเกษตรประเภทธัญญพืชมีราคาสูงขึ้น ราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับเพิ่มขึ้น 1.33 USDต่อบาร์เรล เนื่องจากมีความกังวลว่า ผลกระทบจากน้ำท่วมในสหรัฐจะกระทบต่อการกลั่นน้ำมันบริเวณชายฝั่ง และความต้องการนำเข้าน้ำมันจากจีนเพิ่มสูงขึ้นในเดือนเม.ย. ส่วนราคาธัญญพืชเพิ่มสูงขึ้น จากการตึงตัวของอุปทาน เนื่องจากประสบภัยธรรมชาติ (+ )

 

o การประกาศปรับขึ้น Initial Margin ในการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าน้ำมันในตลาด Nymex เพิ่มขึ้น 25% ซึ่งอาจทำให้การเก็งกำไรในสินค้าโภคภัณฑ์ชนิดอื่นลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์น้อยกว่าคาด เนื่องจากการตึงตัวของอุปทานในสินค้าโภคภัณฑ์ ( - )

 

o จีนประกาศจะควบคุมเงินเฟ้อ และเพิ่มการนำเข้า โดยจะดำเนินนโยบายการเงินแบบระมัดระวัง หลังจากการประชุมร่วมกันระหว่างสหรํฐ และจีน นอกจากนี้ จีนมีนโยบายเพิ่มความต้องการบริโภคภายในประเทศ และจะปล่อยให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้น (+/-)

 

o SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมจำนวน 1,201.95 ตัน

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,450 – 1,550 แนะนำเปิด Long บริเวณแนวรับ โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,550 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,480

แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 18 พฤษภาคม 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคาในตลาด COMEX ปรับลดลง 10.60 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,480.00 USDต่อออนซ์ การปรับตัวลดลงในช่วงนี้เป็นผลจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐแสดงถึง ภาวะเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณที่อ่อนแอลง

 

o ราคาทองคาปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 จากระดับ 1,506.80 USDต่อออนซ์ในวันที่ 12 พ.ค. โดยปิดที่ 1,480.00 USDต่อออนซ์ รวมลดลงในช่วง 3 วันทาการ 26.80 USDต่อออนซ์ การปรับตัวลดลงในช่วงนี้เป็นผลจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐแสดงถึง ภาวะเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณที่อ่อนแอลง และก่อนหน้านี้เป็นผลจากการแข็งค่าของเงิน USD เนื่องจากวิกฤตหนี้ของยุโรป ราคาทองคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวระหว่าง 1,471.10 – 1,497.50 USDต่อออนซ์ โดยราคาลงไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันบริเวณ 1,472 USDต่อออนซ์ หลังจากนั้นปรับตัวสูงขึ้น คาดการณ์แนวรับในวันนี้บริเวณ 1,475 USDต่อออนซ์ แต่ถ้าราคาหลุดต่ากว่า 1,470 อาจลงไปที่บริเวณ 1,443-1,452 USDต่อออนซ์ โดยจะมีแนวต้านในระยะสั้นบริเวณ 1,500 – 1,510 USDต่อออนซ์ ปัจจัยบวกในวันนี้คือ การอ่อนค่าของเงิน USD และการฟื้นตัวของตลาดหุ้น ส่วนปัจจัยลบ คือ ข่าวการขายทากาไรของกองทุนที่บริหารโดย George Soros ที่เข้ามาซื้อทองคาในช่วงไตรมาสที่ 1 จานวน 800 ล้านUSD ทาให้นักลงทุนกังวลว่าราคาทองคาจะไม่สามารถขึ้นต่อได้

 

o ราคาทองคาลดลง 10.60 USDต่อออนซ์ เมื่อวานนี้ในตลาด COMEX เนื่องจากการประกาศตัวเลข ยอดสร้างบ้านใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 523,000 ยูนิต น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 570,000 ยูนิต และน้อยกว่าเดือนก่อนที่ 549,000 ยูนิตในเดือนก่อน ส่วนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน เม.ย. ไม่เพิ่มขึ้นเลย ซึ่งต่ากว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% และน้อยกว่าเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้น 0.8% MoM การปรับลดลงของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นผลจากการลดลงในอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ ( - )

 

o Soros ขาย 99% ในส่วนที่เขาถืออยู่ใน SPDR Gold Trust และขาย 5 ล้านหุ้นหรือทั้งหมดที่เขาถืออยู่ใน iShares Gold Trust (IAU) รวมถึงลดสัดส่วนการถือใน NovaGold Resources Inc. และ Kinross Gold Corp. ( - )

 

o ราคาน้ามัน Nymex ปรับลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 96.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 1.4249 ดอลลาร์ต่อยูโร และดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 68.79 จุด หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ(- )

 

o SPDR ถือครองทองคาลดลง 0.91 ตัน เหลือถือครองทองคาจานวน 1,192.25 ตัน ( - )

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,450 – 1,550 แนะนาเปิด Short บริเวณแนวต้านบริเวณ 1,500/1,510/1,532 โดยมีเป้าหมายทากาไรบริเวณ 1,475/1,452 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,535 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 19 พฤษภาคม 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปรับเพิ่มขึ้น 15.80 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,495.80 USDต่อออนซ์ การปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นผลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมัน และราคาธัญพืชปรับตัวสูงขึ้น ทำให้มีความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงในเรื่องเงินเฟ้อ

 

o ราคาทองคาปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้ โดยมีเคลื่อนไหวระหว่าง 1,484.60 – 1,499.70 USDต่อออนซ์ ราคาอยู่ในช่วงของการ rebound โดยก่อนหน้านี้ลงไปทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันบริเวณ 1,472 USDต่อออนซ์เมื่อวันอังคารที่ 17 พ.ค. หลังจากนั้นปรับตัวสูงขึ้น และขึ้นไปทดสอบแนวต้านใกล้บริเวณ 1,500 USDต่อออนซ์ คาดว่าราคาจะไปทดสอบแนวต้านในระยะสั้นบริเวณ 1,500 – 1,516 USDต่อออนซ์อีกครั้ง โดยมีแนวรับในวันนี้ที่บริเวณ 1,488 USDต่อออนซ์ ปัจจัยบวกในวันนี้คือ การอ่อนค่าของเงิน USD การฟื้นตัวของตลาดหุ้น และการปรับขึ้นของราคาน้ามัน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทาให้มีความต้องการทองคาเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงในเรื่องเงินเฟ้อ ส่วนปัจจัยลบ คือ เศรษฐกิจของประเทศสาคัญมีแนวโน้มชะลอตัวลง เช่น สหรัฐ จีน ญี่ปุ่น เป็นต้น และข่าวธนาคารกลางสหรัฐมีการพิจารณาถึงเรื่องการออกจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (Exit Plan) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแต่จากแถลงการณ์แสดงว่า FED ยังไม่รีบร้อนที่จะดาเนินการเนื่องจากแรงกดดันในเรื่องเงินเฟ้อยังไม่มาก

 

o เศรษฐกิจญี่ปุ่นชะลอตัวลงจากผลของภัยธรรมชาติแผ่นดินไหว สึนามิ และวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ GDP ในไตรมาสที่ 1 ของญี่ปุ่นลดลงเท่ากับ -0.9% QoQ และ -3.7% YoY ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ -2.0% YoY โดยเป็นผลจากการผลิตลดลง รายจ่ายการบริโภคของเอกชนลดลง ( - )

 

o ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมจนกระทั่งถึงปลายปีนี้ หลังจากการสิ้นสุดมาตรการ QE2 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งในการประชุมของ FED เมื่อวันที่ 26 – 27 เม.ย.โดยมีการเปิดเผยในวันนี้ว่า ที่ประชุมมีการพิจารณากลยุทธ์ในการจะออกจากมาตรการผ่อนคลายการเงิน (Exit Plan) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยซ์ กล่าวว่า มีเวลาในการพิจารณาข้อมูลอีกหลายเดือนก่อนการตัดสินใจ นอกจากนี้เขายังได้กล่าวว่า วิกฤตหนี้สินของยุโรปเป็นความเสี่ยงอันดับ 1 ที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ ( +/- )

 

o ราคาน้ามันดิบ Nymex ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.29% ปิดที่ 100.10 USDต่อบาร์เรล ราคาธัญญพืชปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากประสบภัยธรรมชาติ และราคาโลหะเงินปรับตัวสูงขึ้น 4.80% ปิดที่ 35.10 USDต่อออนซ์ โดยมีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากราคาได้ปรับลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ ( +)

 

o SPDR ถือครองทองคาลดลง 0.91 ตัน เหลือถือครองทองคาจานวน 1,191.34 ตัน ( - )

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,450 – 1,550 แนะนำเปิด Short บริเวณแนวต้านบริเวณ 1,504/1,516 โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,475/1,452 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,526 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 20 พฤษภาคม 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปรับลดลง 3.40 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,492.40 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากการประกาศตัวเลขสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด และความกังวลในเรื่องนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐจะหยุดซื้อพันธบัตร ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆปรับตัวลดลง รวมถึงทองคำ

 

o ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยเคลื่อนไหวระหว่าง 1,485.80 – 1,499.60 USDต่อออนซ์ กรอบความเคลื่อนไหวไม่แตกต่างจากเมื่อวันก่อน โดยมีลักษณะเป็น Side Way Down โดยมีปัจจัยลบที่กดดัน ได้แก่ การประกาศตัวเลขยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐ และผลการสำรวจในภาคอุตสาหกรรมจากรายงาน Philadelphia Fed Survey ออกมาต่ำกว่าคาด แสดงถึงความอ่อนแอในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และจากความไม่แน่นอนในเรื่องการออกจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังหมดมาตรการ QE2 ทาให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตางๆปรับตัวลดลง รวมถึงทองคำ

 

o ส่วนปัจจัยบวกในวันนี้คือ การอ่อนค่าของเงิน USD และ การฟื้นตัวของตลาดหุ้น ฝ่ายวิจัยคาดกรอบความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้อยู่ในกรอบ 1,475 – 1,504 USDต่อออนซ์ ซึ่งราคาทองคำอาจสร้างฐานบริเวณ 1,500 USDต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลดลงมาที่บริเวณ 1,475 ยังมีความเป็นไปได้

 

o จากรายงานของ World Gold Council การลงทุนในกองทุน ETF ทองคำอ่อนตัวลงในไตรมาสที่ 1 โดยนักลงทุนหันไปลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำแทน เช่น การลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำในจีนเพิ่มขึ้นเท่าตัวโดยซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 90.9 ตัน ในสหรัฐเพิ่มขึ้น 54% ลงทุนซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 22.5 ตัน และในยุโรปเพิ่มขึ้นเท่าตัว ซื้อเพิ่มขึ้น 78.1 ตัน ส่วนธนาคารกลางของประเทศต่างๆซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 129.3 ตัน เทียบกับที่ซื้อในไตรมาสก่อน 58.8 ตัน ( + )

 

o ราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับตัวลดลง 1.66 ปิดที่ 98.44 USDต่อบาร์เรล แต่ราคาได้กลับปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ เนื่องจาก ราคาที่ปรับลดลงเมื่อวานมากเกินไป โดยราคาที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากตัวเลขยอดขอสวัสดิการรายสัปดาห์ที่ออกมาดี คือ ลดลง 29,000 รายมาอยู่ที่ 409,000 ราย (+/-)

o SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมจานวน 1,191.34 ตัน ( - )

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,450 – 1,550 แนะนำเปิด Short บริเวณแนวต้านบริเวณ 1,504/1,510 โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,475 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,516 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 26 พฤษภาคม 2554 โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดเพิ่มขึ้น 3.40 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,526.70 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยเป็นผลจากความกังวลในเรื่องวิกฤติหนี้ของยุโรปจะขยายวงกว้างออกไป

 

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องโดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,521.30 – 1,532.50 USDต่อออนซ์ จากความกังวลในเรื่องวิกฤติหนี้ของยุโรปจะขยายวงกว้างออกไป และในเช้าวันนี้ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง สนับสนุนราคาทองคำ โดยฝ่ายวิจัยคาดว่ากรอบความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้จะอยู่ระหว่าง 1,520 – 1,533 USDต่อออนซ์ โดยกรอบการขึ้นเริ่มมีจำกัด คาดว่าในวันนี้ราคาทองคำจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,526 – 1,530 อีกครั้ง ถ้าไม่ผ่านแนะนำนักลงทุนปิดสถานะ Long ทำกำไรไปก่อน และรอรับกลับบริเวณ 1,510 แต่ถ้าสามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,526 – 1,530 ไปได้ มีแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,550/1,554 USDต่อออนซ์ ผู้ที่เปิดสถานะ Long ไว้ถือต่อ โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,550 USDต่อออนซ์

 

o ในเช้าวันนี้เงิน USD อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยอยู่ที่ระดับ 1.4136 USDต่อยูโร และดัชนีค่าเงินดอลล่าร์อยู่ที่ 75.63 เมื่อมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ( + )

 

o ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐในเดือนเม.ย.ลดลงมากกว่าคาด ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 3.6% ซึ่งเป็นผลจากปริมาณอุปทานในอุตสาหกรรมรถยนตร์ตึงตัว ซึ่งเป็นผลจากญี่ปุ่นประสบภัยแผ่นดินไหวทำให้มีการผลิตชิ้นส่วนรถยนตร์ลดลง ( + )

 

o ประธานเฟดสาขา Minneapolis ปรับลดการคาดการณ์ GDP ในปีนี้ของสหรัฐลงเล็กน้อยโดยเขาคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 3% และปรับเพิ่มตัวเลขการว่างงานขึ้นเล็กน้อยเป็น 8.5% ซึ่งในขณะนี้ธนาคารกลางสหรัฐกาลังพิจารณาเรื่องการถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงินภายหลังจบ QE2 ในเดือนมิ.ย. ( +/- )

 

o ราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับเพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 101.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อ EIA เปิดเผยว่า อัตราการใช้กาลังการกลั่นน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาด ( + )

 

o ราคาโลหะเงินปรับเพิ่มขึ้นอีก 1.51 USDต่อออนซ์หรือ 4.19% ปิดที่ 37.64 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 36.23 – 37.97 USDต่อออนซ์ ราคาปรับขึ้นแรง 2 วันติดต่อกัน โดยราคาสามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 37.80USDต่อออนซ์ได้ คาดว่ามีแนวต้านถัดไปบริเวณ 38.5 USDต่อออนซ์ และมีแนวรับบริเวณ 36.8 USDต่อออนซ์ (+/-)

 

o SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมจำนวน 1,214.08 ตัน

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,485 – 1,550 แนะนำเปิด Long ถ้ายืนเหนือ 1,505 ได้ โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,550/1,576 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,505 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

ถูกแก้ไข โดย ilovecgf

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 27 พฤษภาคม 2554 โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดลดลง 3.90 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,522.80 USDต่อออนซ์ จากแรงขายทำกำไร แต่การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด ทำให้ราคาทองคำ rebound ขึ้นมาได้

 

1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปรับตัวลดลง 3.90 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,522.80 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,514.60 – 1,531.10 USDต่อออนซ์ โดยราคาได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดระหว่างวันที 1,531 แต่มีแรงขายทำกำไรทำให้ราคาปรับตัวลดลงมาบริเวณ 1,515 จากนั้นมีแรงซื้อกลับทำให้ราคาปิดลดลงไม่มาก แนวโน้มราคาทองคำในวันนี้คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 1,506 – 1,532 USDต่อออนซ์ คำแนะนา Trading ในกรอบ 1,510 – 1,532 โดยถ้าราคาปรับขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,532 ให้เปิดสถานะ Short โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,516 – 1,506 USDต่อออนซ์ ถ้าราคาลงมาที่แนวรับบริเวณ 1,516/1,506 เปิดสถานะ Long โดยมีปัจจัยลบ จากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะลดความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ ทำให้กรอบการขึ้นของราคาทองคำมีจำกัด แต่ปัจจัยบวกที่สนับสนุนราคาทองคำ คือ ความต้องการทองคำจากจีนจะเพิ่มขึ้น โดย GFMS คาดว่าจีนจะนำเข้าทองแท่งมากกว่า 400 ตันในปีนี้ และมีความต้องการทองคำทั้งหมดประมาณ 700 ตันในปีนี้ และความกังวลในวิกฤตหนี้ของยุโรป เมื่อ IMF ประกาศจะไม่ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซเพิ่มเติม จนกว่ากรีซจะรับประกันการ refinance หนี้ภายใน 12 เดือน (+/-)

 

o การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาแย่กว่าคาด แสดงถึง การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อมีการประกาศตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 1 ออกมาที่ 1.8% YoY ซึ่งต่ากว่าคาด และยอดขอสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นเป็น 424,000 รายมากกว่าคาดว่าจะลดลงเหลือ 404,000 ราย ( + )

 

o ในเช้าวันนี้เงิน USD อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยอยู่ที่ระดับ 1.418 USDต่อยูโร และดัชนีค่าเงินดอลล่าร์อยู่ที่ 75.3 จากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจออกามแย่กว่าคาด แต่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสวิสฟรังค์จากความกังวลในวิกฤตหนี้ของกรีซ ( + )

 

o ราคาโลหะเงินลดลง 0.31 USDต่อออนซ์หรือ 0.83% ปิดที่ 37.33 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 36.27 – 38.85 USDต่อออนซ์ ราคาเคลื่อนไหวค่อนข้างแรงระหว่างการซื้อขาย โดยเมื่อผ่านแนวต้านบริเวณ 38.5 USDต่อออนซ์และไปทำจุดสูงสุดที่ 38.85 แล้วมีแรงขายทำกำไรทำในราคาลงไปทำจุดต่าสุดที่ 36.27 จากนั้นมีแรงซื้อกลับทำให้ราคาปิดลดลงจากวันก่อนไม่มาก ความผันผวนของราคาระหว่างจุดสูงสุดและต่าสุดเท่ากับ 6.64% คาดกรอบความเคลื่อนไหวในวันนี้ คาดว่ามีแนวต้านถัดไปบริเวณ 38.5 USDต่อออนซ์ และมีแนวรับบริเวณ 36.8 USDต่อออนซ์ (+/-)

 

o SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม รวมถือครองทองคำ 1,214.08 ตัน

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,495 – 1,550 Trading ในกรอบ 1,504 – 1,532 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

 

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 30 พฤษภาคม 2554 โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวันศุกร์ที่ 27 พ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 13.50 USDต่อออนซ์ เนื่องจากค่าเงิน USD อ่อนค่าลง และความกังวลในเรื่องวิกฤตหนี้ของกรีซจะแผ่ขยายไปที่ไอร์แลนด์ โปรตุเกส และสเปน

 

o ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ในตลาด COMEX ปรับขึ้นแรง โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,518.40 – 1,536.30 USDต่อออนซ์ โดยเปิดตลาดด้วยราคา 1,527 USDต่อออนซ์ จากนั้นขึ้นไปทำ high ที่ระดับ 1,538.50 USDต่อออนซ์ ก่อนที่จะปิดตลาดที่ราคา 1,536.30 USDต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการอ่อนค่าของเงิน USD เมื่อมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจแสดงถึง การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอ่อนแอกว่าคาด เช่น GDP ใน Q1 เพิ่มขึ้นเพียง 1.8% YoY รายจ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% MoM น้อยกว่าเดือนก่อนที่ระดับ 0.5% MoM ดัชนียอดขายบ้านรอปิดการขายเท่ากับ 81.9 ลดลงจาก 94.1 ในเดือนก่อน ลดลง 11.6%

 

o สาหรับแนวโน้มในสัปดาห์นี้ ถ้าดูจากกราฟราคาทองคำในระดับสัปดาห์แสดงถึง ราคากำลังไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยบวกจาก ความกังวลในปัญหาหนี้ของกรีซ และการอ่อนค่าของเงิน USD โดยคาดการณ์ แนวต้านในระดับสัปดาห์บริเวณ 1,564 USDต่อออนซ์ ส่วนแนวรับในระยะสัปดาห์บริเวณ 1,514 /1,504 USDต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของค่าเงิน USD และสถานการณ์หนี้ของยุโรปมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา นักลงทุนจึงควรระมัดระวังในการลงทุนเมื่อราคาปรับสูงขึ้นใกล้แนวต้าน อาจมีแรงขายทำกำไรในบริเวณ แนวต้าน 1,540/ 1,550/1,564 USDต่อออนซ์ ส่วนแนวต้านระดับวันคาดการณ์บริเวณ 1,540 USD ต่อออนซ์ และแนวรับบริเวณ 1,526 / 1,514 USDต่อออนซ์

 

o วิกฤติหนี้ของกรีซ นักลงทุนกังวลในเรื่องวิกฤตหนี้ของกรีซว่าจะไม่สามารถชาระหนี้ได้ เมื่อ IMF ประกาศจะไม่ให้ความช่วยเหลือเพิ่มติมแก่กรีซ ทำให้มีความต้องการถือครองทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น ( + )

 

o NATO ปฏิบัติการโจมตีเมืองทริโปลีอย่างหนัก ซึ่งอาจมีผลให้ฝ่ายรัฐบาลของกัดดาฟีอาจพ่ายแพ้ในเร็วๆนี้ ซึ่งอาจทำให้กัดดาฟีลงจากอำนาจ เป็นผลให้ยุติความรุนแรงในลิเบีย อาจมีผลเช่นเดียวกับการปฏิบัติการสังหารโอซามา บินลาเดน และทำให้ความต้องการทองคำในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง และทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถคาดการณ์ในเรื่องการสิ้นสุดของสงครามในลิเบียได้อย่างชัดเจน เป็นแต่การวิเคราะห์จากสถานการณ์และความเห็นเท่านั้น ( - )

 

o ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงิน USD ในเช้าวันนี้ เมื่อมีความกังวลต่อปัญหาหนี้ของกรีซเพิ่มขึ้น และทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินยูโรโดยมาอยู่ที่ระดับ 1.428 USDต่อยูโร ( + )

 

o ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้น 1.43% หรือ 0.36 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 37.20 – 38.20 USDต่อออนซ์ ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ราคาโลหะเงินอยู่ในช่วง Side Way ระหว่าง 35.80 – 39.60 USDต่อออนซ์

 

o SPDR ขายทองคำออก 0.91 ตัน เหลือถือครอง 1,213.17 ตัน

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,505 – 1,576 แนะนำรอเปิด Long บริเวณแนวรับบริเวณ 1,526 หรือ Follow Buy เมื่อยืนเหนือ 1,532 USDต่อออนซ์ โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,516 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 31 พฤษภาคม 2554 โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ตลาด COMEX เมื่อวันจันทร์ที่ 30 พ.ค. ปิดทำการเนื่องจากวัน Memorial Day หรือวันที่ระลึกของทหารผ่านศึก ในเช้าวันนี้ราคาปรับขึ้นไปที่บริเวณ 1,540 USDต่อออนซ์ เนื่องจากค่าเงิน USD อ่อนค่าลงความกังวลในเรื่องวิกฤตหนี้ของกรีซ และความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อ ทำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง

 

o การซื้อขายทองคำในตลาดอื่นๆเมื่อวานอยู่ในกรอบแคบๆ ระหว่าง 1,534.09 – 1,539.40 USDต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากค่าเงิน USD อ่อนค่าลงความกังวลในเรื่องวิกฤตหนี้ของกรีซ และความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อ ทำให้นักลงทุนเพิ่มน้าหนักการลงทุนในทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง คาดว่าราคาทองคำจะขึ้นไปทดสอบ High เดิมบริเวณ 1,576 USDต่อออนซ์ในสัปดาห์นี้ แต่อาจถูกขายทำกำไรลงมาได้แรงเช่นกัน โดยมีปัจจัยลบ ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจของประเทศต่างๆส่งสัญญาณการชะลอตัวลง จะทำให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง และความกังวลในเรื่องวิกฤตหนี้ของกรีซจะเริ่มผ่อนคลายลงเมื่อ EU มีแผนจะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซเพิ่มเติม นักลงทุนจึงควรระมัดระวังในการลงทุนเมื่อราคาปรับสูงขึ้นใกล้แนวต้าน อาจมีแรงขายทำกำไรในบริเวณ แนวต้าน 1,546 – 1,555 USDต่อออนซ์ คาดการณ์แนวรับบริเวณ 1,533/1,523 USDต่อออนซ์

 

o ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงิน USD โดยมาอยู่ที่ระดับ 1.437 USDต่อยูโรในเช้าวันนี้ เมื่อ สหภาพยุโรปมีแผนให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซซึ่งจะพิจารณาให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมิ.ย.นี้ โดยที่กรีซไม่ต้องปรับโครงสร้างหนี้ ส่วนค่าเงิน USD อ่อนค่าลงจากการที่พรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านของสหรัฐไม่สามารถตกลงกันได้ในการขยายเพดานหนี้จานวน 14.3 ล้านล้านUSD และมีการคาดการณ์ว่า ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะประกาศในเร็วๆนี้ จะแสดงถึงความอ่อนแอลงของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ( +/- )

 

o ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 1% ในเดือนเม.ย.น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 2% ในขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น 4.7% จากเดือนก่อนที่ระดับ 4.6% (+/-)

 

o GDP ในไตรมาสที่ 1 ของออสเตรเลียอาจจะลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2008 เนื่องจากประสบภัยน้ำท่วมทำให้ผลผลิตจากเหมืองถ่านหินและผลผลิตด้านการเกษตรลดลง (+/-)

 

o ราคาโลหะเงินในเช้าวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยโดยเคลื่อนไหวในระดับ 38.20 USDต่อออนซ์ ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ราคาโลหะเงินอยู่ในช่วง Side Way ระหว่าง 35.80 – 39.60 USDต่อออนซ์

 

o SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมจานวน 1,213.17 ตัน

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,505 – 1,576 ผู้ถือสถานะ Long ถือต่อ โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,550/1,576 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,522 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...