ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

 

 

 

 

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 11 เมษายน 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคาในตลาด COMEX เมื่อวันศุกร์ปรับเพิ่มขึ้น 14.80 USDต่อออนซ์ เนื่องจากการอ่อนค่าของเงิน USD และความต้องการทองคาเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันเงินเฟ้อจากอัตราแลกเปลี่ยน

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวันศุกร์ปรับเพิ่มขึ้น 14.80 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,457.70 – 1,476.40 USDต่อออนซ์ ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 เนื่องจากการอ่อนค่าของเงิน USD และความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันเงินเฟ้อจากอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนปัจจัยลบที่คาดว่าจะมีผลต่อราคาทองคำในช่วงนี้ ได้แก่ การบรรลุแผนสันติภาพในลิเบีย แต่คาดว่าจะมีผลลบต่อราคาทองคำไม่มากนัก เนื่องจากยังมีความวุ่นวายทางการเมืองในอีกหลายประเทศ และปัจจัยที่สนับสนุนให้ราคาทองคำทรงตัวในระดับสูง คือ การอ่อนค่าของเงิน USD อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามประเด็นนี้อย่างใกล้ชิดเพราะจะมีผลทำให้การเก็งกำไรในตลาดน้ำมันลดลงได้ ถ้าราคาน้ำมันปรับลดลงมาแรงๆจะทาให้ราคาทองคำปรับลดลงได้ การปรับลดลงของราคาทองคำเป็นจังหวะเข้าซื้อ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,450 USDต่อออนซ์

o สถานการณ์ในลิเบีย กัดดาฟียอมรับแผนสันติภาพของสหภาพอัฟริกาในการหยุดยิงกับฝ่ายต่อต้าน การยอมรับแผนสันติภาพนี้ เป็นแถลงการณ์ของ จาคอบ ซูมา ประธานาธิบดีของอัฟริกาใต้ และสานักข่าวรอยเตอร์เป็นผู้รายงาน แผนสันติภาพนี้ประกอบด้วย 4 ประเด็น คือ การหยุดยิง การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การคุ้มครองชาวต่างชาติ และ การปฏิรูปการปกครองในลิเบีย ซึ่งสหภาพอัฟริกาจะเข้าเจรจากับกลุ่มผู้ต่อต้านที่เมืองแบงกาซีในวันนี้ ( - )

o ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงมาก ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าลงมาที่ระดับ 74.858 และเมื่อเทียบกับเงินยูโรมาอยู่ที่ระดับ 1.4488 ดอลล่าร์ต่อยูโร จากการโดยได้รับแรงกดดันจากความเป็นไปได้ที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐอาจปิดทำการ และจากการคาดการณ์ที่ว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยอาจขยายกว้างมากยิ่งขึ้นระหว่างยุโรปกับสหรัฐ ( + )

o ราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับเพิ่มขึ้น 2.49 USDต่อบาร์เรล ปิดที่ 112.79 USDต่อบาร์เรล จากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในตะวันออกกลางและอัฟริกา รวมถึงการอ่อนค่าของเงิน USD ( + )

o เศรษฐกิจสหรัฐ สภาคองเกรสสหรัฐบรรลุข้อตกลงเรื่องการตัดงบประมาณกันได้ โดยอนุมัติให้ตัดงบประมาณจำนวน 38,000 ล้านดอลล่าร์สำหรับปีหน้า ซึ่งนับเป็นการตัดงบครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐ (+/-)

o จีน ขาดดุลการค้าในไตรมาสที่ 1 จานวน 1.02 พันล้านUSD ซึ่งเป็นการขาดดุลการค้าครั้งแรกในรอบ 7 ปี ทำให้ลดแรงกดดันต่อค่าเงินหยวนให้ปรับแข็งค่าขึ้น การนำเข้าของจีนเพิ่มขึ้น 32.6% มาสู่ระดับ 400.7 พันล้านUSD

o SPDR ถือครองทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,217.21 ตัน

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,450 – 1,500 Trading ในกรอบ 1,450 – 1,500 เปิด Long ที่แนวรับบริเวณ 1,467/ 1,450 และแนวรับถัดไปบริเวณ 1,442/1,439โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,424 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,300 - 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 12 เมษายน 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปรับลดลง 6.00 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,460.20 – 1,478.00 USDต่อออนซ์ ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 แต่ราคาปิดปรับลดลง คาดว่าจะมีการพักฐาน เนื่องจากเงิน USD กลับมาแข็งค่าเมื่อสภาคองเกรสสหรัฐบรรลุข้อตกลงเรื่องการตัดงบประมาณกันได้ ทำให้หน่วยงานต่างๆไม่ต้องปิดทำการ ค่าเงิน USD ที่แข็งค่าขึ้นทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆปรับลดลง รวมถึงราคาทองคำส่วนแผนสันติภาพในลิเบียที่เสนอโดยสหภาพอัฟริกา ถูกปฏิเสธโดยฝ่ายต่อต้าน เนื่องจากแผนดังกล่าวไม่ได้ระบุถึงการยอมลงจากอำนาจของกัดดาฟี ซึ่งเป็นเงื่อนไขสาคัญที่ฝ่ายต่อต้านเรียกร้อง อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้มีผลทำให้การเก็งกำไรในตลาดน้ำมันลดลง รวมถึงการแข็งค่าของเงิน USD มีส่วนทำให้ราคาน้ำมันปรับลดลง ถ้าราคาน้ำมันปรับลดลงมาแรงๆจะทำให้ราคาทองคำปรับลดลงได้ การปรับลดลงของราคาทองคำเป็นจังหวะเข้าซื้อ โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,450 USDต่อออนซ์ และถัดไปบริเวณ 1,442 USDต่อออนซ์

o สถานการณ์ในลิเบีย แผนสันติภาพในลิเบียที่เสนอโดยสหภาพอัฟริกา ถูกปฏิเสธโดยฝ่ายต่อต้านเนื่องจากแผนดังกล่าวไม่ได้ระบุถึงการยอมลงจากอำนาจของกัดดาฟี ซึ่งเป็นเงื่อนไขสาคัญที่ฝ่ายต่อต้านเรียกร้อง อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีความพยายามที่จะเจรจากันอีก เนื่องจากฝ่ายต่อต้านไม่มีกองกำลังรบที่มีความสามารถเพียงพอถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจาก NATO คงต้องพ่ายแพ้แก่ฝ่ายรัฐบาล ส่วนฝ่ายรัฐบาลถูกโจมตีทางอากาศอย่างหนักทำให้เกิดความเสียหายมาก ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทั้ง 2 ฝ่ายจะทำให้เกิดการเจรจากัน (+/- )

o IMF ปรับลดการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐลงเหลือ 2.8% จากการคาดการณ์เดิมที่ 3.0% ในเดือนม.ค. เนื่องจากระดับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น และการจ้างงานของสหรัฐยังไม่มากพอที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ( - )

o ราคาน้ำมันดิบ Nymex ปรับลดลง 2.87 USDต่อบาร์เรล ปิดที่ 109.92 USDต่อบาร์เรล จากการปรับลดการคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐและญี่ปุ่น ( - )

o SPDR ถือครองทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,217.21 ตัน

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,444 – 1,480 Trading ในกรอบ 1,444 – 1,480 เปิด Long ที่แนวรับบริเวณ 1,451 และแนวรับถัดไปบริเวณ 1,444/1,439 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,424 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,300 - 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 18 เมษายน 2554 โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวันศุกร์เพิ่มขึ้น 13.60 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,486 USDต่อออนซ์ เนื่องจากความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และความกังวลในเรื่องหนี้สาธารณะของยุโรปเพิ่มขึ้น เมื่อ Moody’s ปรับลดอันดับเครดิตของไอร์แลนด์ลง

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวันศุกร์เพิ่มขึ้น 13.60 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,486 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,472.20 – 1.489.10 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1,489.10 USDต่อออนซ์ เนื่องจากความต้องการทองคำเพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และความกังวลในเรื่องหนี้สาธารณะของยุโรปเพิ่มขึ้น เมื่อ Moody’s ปรับลดอันดับเครดิตของไอร์แลนด์ลง

o Moody’s ปรับลดอันดับเครดิตของไอร์แลนด์ลงจากระดับ Baa1 ลงเหลือ Baa3 ซึ่งเป็นอันดับต่ำสุดของ Investment grade และมีมุมมองที่เป็นลบ จากการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของไอร์แลนด์มีแนวโน้มชะลอลง จากการพยายามปรับลดการขาดดุลการคลัง ( + )

o อัตราเงินเฟ้อของจีนและสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อและความต้องการทองคำเพิ่มสูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 5.4% ในเดือนมี.ค. ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 21 เม.ย .นี้เป็นต้นไป ส่วนสหรัฐอัตราเงินเฟ้อในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.5%MoM และ 2.7% YoY ซึ่งสูงกว่า 2.2% ในเดือนก่อนค่อนข้างมาก ( + )

o การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดก่อสร้างบ้านใหม่ ยอดขายบ้าน และยอดขายบ้านมือสอง ซึ่งคาดว่าตัวเลขที่ประกาศในสัปดาห์นี้จะปรับตัวดีขึ้น แต่ยังไม่ดีมากพอที่จะกล่าวได้ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวลดลงในเดือนก่อนอยู่ในสถานะที่ดีขึ้น (+/-)

o ประธานธนาคารโลก กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกจะต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อจากราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น และปริมาณอาหารที่ลดลง ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป นายวิคเตอร์ คอนสแตนซิโอ้ กล่าวว่า จะยังคงใช้นโยบายในการต่อต้านเงินเฟ้อต่อไป (+/-)

o ผู้นำลิเบียยังคงโจมตีฝ่ายต่อต้านอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กองกำลังของชาติพันธมิตรยังคงปฏิบัติภาระกิจในการโจมตีกองกำลังของผู้นำลิเบียต่อไป ในเยเมนประชาชนยังคงมีการประท้วงประธานาธิบดีอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน สำหรับสถานการณ์ในซีเรียเริ่มคลี่คลาย (+/-)

o SPDR ถือครองทองคำเพิ่มขึ้น 13.95 ตัน โดยถือครองทองคำรวม 1,231.16 ตัน ( + )

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,463 – 1,495 Trading ในกรอบ 1,463 – 1,495 เปิด Long ที่แนวรับบริเวณ 1,475 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,450 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1, 300- 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 19 เมษายน 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานเพิ่มขึ้น 6.90 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,492.90 USDต่อออนซ์ เนื่องจากความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัว หลังจากที่ S&P มีมุมมองเชิงลบต่อหนี้สาธารณะของสหรัฐ และอาจจะปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐลง

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานเพิ่มขึ้น 6.90 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,492.90 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,477.80 – 1.498.60 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1.498.60 USDต่อออนซ์ ใกล้ 1,500 USD เนื่องจากความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัว หลังจากที่ S&P มีมุมมองเชิงลบต่อหนี้สาธารณะของสหรัฐ และอาจจะปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐลงจากระดับ AAA เว้นเสียแต่ว่าภาครัฐบาลของสหรัฐจะลดการขาดดุลการคลัง และหนี้ภาครัฐบาลลงให้ได้ภายในปี 2013 ( + )

o กรีซมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในเรื่องการชำระหนี้ภาครัฐ นักลงทุนให้ความสนใจในการแก้ปัญหาหนี้ภาครัฐของกรีซ และคาดว่า กรีซอาจจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทางด้านรมว.คลังของกรีซได้ปฏิเสธ แผนการปรับโครงสร้างหนี้ แม้ว่าทางเยอรมันจะหยิบยกปัญหานี้ขึ้นมาพิจารณา และนักลงทุนให้ความสนใจต่อการแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ ( + )

o ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร โดยมาอยู่ที่ 1.424 ดอลลาร์ต่อยูโร จากความวิตกที่เพิ่มขึ้นว่า กรีซจะถูกบังคับให้ทำการปรับโครงสร้างหนี้ ( - )

o ราคาน้ำมัน Nymex ปรับลดลง 2.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 107.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจาก S&P ปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสหรัฐลงสู่ "เชิงลบ" ( - )

o สถานการณ์ในลิเบีย ยังคงมีการสู้รบระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายต่อต้าน แต่ผู้นำลิเบียตกลงให้ UN ให้ความช่วยเหลือแก่แรงงานชาวต่างประเทศที่อยู่ในลิเบียและยังไม่สามารถอพยพออกไปได้ โดยข้อตกลงนี้ไม่ได้กล่าวถึงการหยุดยิงแต่อย่างใด (+)

o SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมจานวน 1,231.16 ตัน

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,463 – 1,507 Trading ในกรอบ 1,463 – 1,507 ผู้มีสถานะ Long ควรปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,500 และรอเปิด Long ใหม่ที่แนวรับบริเวณรับ 1,480 -1,485 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,450 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1, 300 - 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 20 เมษายน 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานเพิ่มขึ้น 2.20 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,495.10 USDต่อออนซ์ โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1,500 USDต่อออนซ์ เนื่องจากค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลง เมื่อมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศชั้นนำในยุโรปออกมาแข็งแกร่ง ทำให้ความต้องการถือครองทองคำเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนการถือครองเงินดอลล่าร์

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานเพิ่มขึ้น 2.20 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,495.10 USD ต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,488.20 – 1,500.50 USDต่อออนซ์ โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1,500 USDต่อออนซ์ เนื่องจากค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลง เมื่อมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศชั้นนำในยุโรปออกมาแข็งแกร่ง ทำให้ความต้องการถือครองทองคำเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนการถือครองเงินดอลล่าร์ ( + )

o ราคาทองคำได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1,500 USDต่อออนซ์ได้ แต่ฝ่ายวิจัย CGF คาดว่าในระยะสั้น upside gain เริ่มมีจำกัด โดยคาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรบริเวณ 1,500 – 1,510 USDต่อออนซ์ ค่อนข้างมาก และราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงมาสร้างฐานบริเวณ 1,488 – 1,485 USDต่อออนซ์ ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นต่อไปโดยมีแรงสนับสนุนจากการอ่อนค่าของเงิน USD ถ้าผ่านแนวต้านบริเวณ 1,500 USDต่อออนซ์ คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มจะขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,520 USDต่อออนซ์

o รมว.คลังของสหรัฐนายทีโมธี ไกธ์เนอร์ กล่าวว่า ผู้นำสหรัฐจะสามารถผลักดันให้แผนระยะยาวในการลดการขาดดุลการคลัง และปัญหาหนี้ภาครัฐให้ลดลงได้ ( +/- )

o เศรษฐกิจสหรัฐ ยอดบ้านเริ่มก่อสร้างใหม่ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 549,000 ยูนิตในเดือนมี.ค.ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด และดีกว่าเดือนก่อน ( +/- )

o ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโร โดยมาอยู่ที่ 1.4363 ดอลลาร์ต่อยูโร เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของยูโรโซนเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาดเกี่ยวกับการขยายตัวของประเทศสาคัญในยูโรโซน ( + )

o ราคาน้ำมัน Nymex ปรับเพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 108.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ( + )

o วิกฤตหนี้ในยุโรป เยอรมันกดดันกรีซมากขึ้นเพื่อให้ปรับโครงสร้างหนี้ ( + )

o สถานการณ์ในลิเบีย อังกฤษได้ส่งกำลังทหารจำนวนหนึ่งเพื่อให้คำแนะนำในด้านการสู้รบแก่กลุ่มต่อต้าน ส่วนนาโต้ใช้กองกำลังทางอากาศโจมตี รถถัง ของฝ่ายรัฐบาลลิเบียใกล้เมืองที่ยึดครองโดยฝ่ายต่อต้าน ด้าน UN ส่งอาหารไปช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในด้านตะวันตกของลิเบียเป็นครั้งแรก หลังจากมีการสู้ระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายต่อต้าน (+)

o SPDR ขายทองคำออก 0.91 ตัน เหลือถือครองทองคำจำนวน 1,230.25 ตัน ( - )

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,463 – 1,507 Trading ในกรอบ 1,463 – 1,507 ผู้มีสถานะ Long ควรปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,500/1,510 และรอเปิด Long ใหม่ที่แนวรับบริเวณรับ 1,488 - 1,485 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,450 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 21 เมษายน 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานเพิ่มขึ้น 3.80 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,498.90 USDต่อออนซ์ โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1,506.50 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากการอ่อนค่าของเงิน USD ในขณะที่เงินยูโร และเงินสกุลในเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อต้านเงินเฟ้อ

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานเพิ่มขึ้น 3.80 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,498.90 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,493.80 – 1,506.50 USDต่อออนซ์ โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1,506.50USDต่อออนซ์ เนื่องจากค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลง ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากการอ่อนค่าของเงิน USD ในขณะที่เงินยูโร และเงินสกุลในเอเชียมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อต้านเงินเฟ้อ แต่เงินUSD และเงินเยนอ่อนค่าลง เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐและญี่ปุ่นยังคงดำเนินนโยบายการเงิน คงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่าต่อไป

o แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ การประกาศจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยของประเทศใน ยุโรป และเอเชีย รวมถึงจีน ทำให้เงินสกุลยูโรและเงินสกุลในเอเชียแข็งค่าขึ้น โดยเฉพาะเงินหยวน ซึ่งจีนจะปล่อยให้ เงินหยวนแข็งค่า เพื่อช่วยลดแรงกดดันจากเงินเฟ้อ การแข็งค่าขึ้นของเงินสกุลในเอเชีย และเงินยูโร ทำให้มีความต้องการทองคำเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจาก เมื่อค่าเงิน USD อ่อนค่าลง ราคาทองคำในสกุลเงินที่แข็งค่าขึ้นจะถูกลง ดังนั้นนอกจากปัจจัยในเรื่องวิกฤตหนี้ในยุโรป และสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือจะสนับสนุนราคาทองคำแล้ว การแข็งค่าของเงินสกุลเงินในเอเชียและยุโรปเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ทองคำมีราคาปรับตัวสูงขึ้น

o ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโร โดยมาอยู่ที่ 1.4559 ดอลลาร์ต่อยูโร เนื่องจากราคาบ้านในสหรัฐปรับลดลง และสหรัฐจะคงดาเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่าต่อไป ในขณะที่ประเทศอื่นๆในเอเชียและยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ( + )

o ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น แสดงถึงการฟื้นตัวในตลาดบ้าน แต่ราคาบ้านปรับลดลง ทำให้คาดว่าสหรัฐจะคงดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่าต่อไป ( +)

o ราคาน้ำมัน Nymex ปรับเพิ่มขึ้น 3.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 111.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ( + )

o วิกฤตหนี้ในยุโรป นักลงทุนคาดว่า กรีซอาจต้องปรับโครงสร้างหนี้ ( + )

o สถานการณ์ในลิเบีย ฝรั่งเศสและอิตาลี ร่วมมือกับอังกฤษในการส่งกาลังทหารจำนวนหนึ่งเพื่อให้คาแนะนำในด้านการสู้รบและการฝึกอบรมด้านการรบแก่กลุ่มต่อต้าน ด้าน UN ส่งกองกำลังเพื่ออารักขาการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ฝ่ายต่อต้าน (+)

o SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมที่ 1,430.25 ตัน

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,479 – 1,520 Trading ในกรอบ 1,479 – 1,520 เปิด Long บริเวณแนวรับ 1,493 – 1,500 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,473 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

]"เตรียมพบกับน้องทอง" ได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2554 เป็นต้นไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 25 เมษายน 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1,512.3 USDต่อออนซ์ในวันศุกร์ ก่อนที่จะปิดตลาดที่ราคา 1,503.55 USDต่อออนซ์ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากตลาดสาคัญหลายตลาดปิดทำการ

o ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1,512.3 USD ต่อออนซ์ในวันศุกร์ ก่อนที่จะปิดตลาดที่ราคา 1,503.55 USDต่อออนซ์ ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากตลาดสำคัญหลายตลาดปิดทำการ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,502.74 -1,512.3 USDต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการอ่อนค่าของเงิน USD ความกังวลในวิกฤตหนี้ของยุโรป ความรุนแรงในสถานการณ์การเมืองในตะวันออกกลางและแอฟริกา

o ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่เป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกันโดยในสัปดาห์ที่แล้วราคาเพิ่มขึ้น 1.4% ส่วนในสัปดาห์นี้คาดว่า ราคาจะปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก การคาดการณ์ว่า การประกาศตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 1 ของสหรัฐจะชะลอตัวลงเหลือ 1.9% YoY หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.1% YoY ในไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว โดยมีสาเหตุจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนการประชุม FOMC ของสหรัฐ คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะคงดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป และมาตรการ QE2 จำนวน 600,000 ล้านUSD ไปจนถึงเดือนมิ.ย. ซึ่งคาดว่า จะมีผลให้ค่าเงิน USD ยังอ่อนค่าต่อเนื่อง และเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ

o การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ คาดว่าระดับราคาบ้านยังคงอยู่ในระดับต่ำ ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆคาดว่าจะแสดงถึง การชะลอตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลจากระดับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งโดยรวมจะสนับสนุนราคาทองคำให้ปรับเพิ่มขึ้นได้ในสัปดาห์นี้ โดยฝ่ายวิจัย CGF คาดว่า ราคาทองคำจะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดใหม่บริเวณ 1,530 USDต่อออนซ์ ส่วนการขายทำกำไร คาดว่ามีสลับออกมาเป็นระยะ แต่คาดว่าการพักฐานแรงคงไม่เกิดขึ้น โดยคาดว่าแนวรับในระยะสัปดาห์ที่บริเวณ 1,480 USDต่อออนซ์ (+)

o โปรตุเกสปรับการคาดการณ์การขาดดุลการคลังเพิ่มขึ้นเป็น 9.1% ของ GDP จากก่อนหน้านี้ประมาณการณ์ไว้ที่ 8.6% โดยการขาดดุลการคลังที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากรายจ่ายลงทุนในโครงการสร้างถนนไฮเวย์ 3 สาย (+)

o นักวิเคราะห์คาด GDP ในไตรมาสที่ 1 ของอังกฤษจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% YoY หลังจากที่ ติดลบ 0.5% ในไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว โดยมีความเสี่ยงในการที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้อย่างเพียงพอ (+)

o ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ตลาดน้ำมัน NYMEX ตลาดเงินนิวยอร์ก และตลาดทองคำนิวยอร์ก ปิดทำการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องในวัน Good Friday โดยจะเปิดทำการอีกครั้งในวันนี้

o SPDR ถือทองคำเท่าเดิมที่ 1,229.64 ตัน

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,489 – 1,520 Trading ในกรอบ 1,489 – 1,520 เปิด Long บริเวณแนวรับ 1,508 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,488 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 26 เมษายน 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1,519.2 USDต่อออนซ์ ก่อนที่จะปิดตลาดที่ราคา 1,509.1 USDต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนมีการขายทำกำไร หลังจากราคาทองคำได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 8 วันที่ผ่านมา

o ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1,519.2 USD ต่อออนซ์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการอ่อนค่าของเงิน USD ความรุนแรงในสถานการณ์การเมืองในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ก่อนที่จะปิดตลาดที่ราคา 1,509.1 USDต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนมีการขายทำกำไร หลังจากราคาทองคำได้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 8 วันที่ผ่านมา โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,502.2 -1,519.2 USD ต่อออนซ์

o ในช่วงเช้าของวันนี้ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงต่ากว่าแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,500 USD ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัย CGF ยังคงคาดว่าราคาทองคำจะปรับเพิ่มสูงขึ้นถึง 1,530 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากคาดว่าการประกาศตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 1 ของสหรัฐจะชะลอตัวลง กอปรกับคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะคงดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป รวมถึงสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ส่วนการขายทำกำไร คาดว่ามีสลับออกมาเป็นระยะ แต่คาดว่าการพักฐานแรงคงไม่เกิดขึ้น โดยคาดว่าแนวรับในระยะสัปดาห์ที่บริเวณ 1,480 USD ต่อออนซ์

o ธนาคารกลางจีนกำลังพิจารณาจัดตั้งกองทุนเพื่อการลงทุน เพื่อกระจายการถือครองทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของจีน เพื่อลดความเสี่ยงจากการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอาจจะนำไปลงทุนในตลาดพลังงาน และโลหะมีค่า และกองทุนแทรกแซงในตลาดปริวรรตเงินตรา อย่างไรก็ตามยังคงไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของแผนดังกล่าว (+)

o ยอดขายบ้านใหม่เดือน มี.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.1% สู่ระดับ 300,000 ยูนิตต่อปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 280,000 ยูนิตต่อปี (-)

o ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร มาอยู่ที่ 1.4494 ดอลลาร์ต่อยูโร

o ราคาน้ำมัน Nymex ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยปรับลดลงเพียง 1 เซนต์ ปิดที่ 112.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

o SPDR ถือทองคำเท่าเดิมที่ 1,229.64 ตัน

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,480 – 1,510 Trading ในกรอบ 1,480 – 1,510 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 27 เมษายน 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดลดลง 5.60 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,503.50 USDต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนมีการขายทำกำไร หลังจากการประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแตะระดับ 65.4 จุดมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดลดลง 5.60 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,503.50 USDต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนมีการขายทำกำไร หลังจากการประกาศดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแตะระดับ 65.4 จุดมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดโดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,492.0 -1,508.50 USD ต่อออนซ์

o ในช่วงเช้าของวันนี้ราคาทองคำได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่ระดับ 1,508 – 1,510 USD ต่อออนซ์ หลังจากราคาทองสามารถยืนเหนือ 1,500 USD ได้ในการซื้อขายในตลาด COMEX เมื่อคืนนี้ ทาให้มีแรงซื้อกลับเข้า โดยเฉพาะในตลาด physical คาดว่าวันนี้ตลาดจะไม่ทำ New High ใหม่ในระหว่างการซื้อขายในตลาดเอเชียและรอคอยผลการประชุมของ FED ที่จะประกาศในคืนนี้ คาดว่าแนวรับในระยะสัปดาห์ที่บริเวณ 1,480 USD ต่อออนซ์ และแนวต้านในสัปดาห์ที่บริเวณ 1,530 USDต่อออนซ์ นักลงทุนระยะสั้นควรขายทำกำไรเมื่อใกล้บริเวณแนวต้านบริเวณ 1,515 – 1,520 USDต่อออนซ์ ส่วนนักลงทุนระยะกลางหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาลงมาเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,480 USDต่อออนซ์ ฝ่ายวิจัยคาดว่าการปรับฐานลงแรงคงไม่เกิดขึ้น สังเกตุจากแรงซื้อเข้ามาหนาแน่นเมื่อราคาอ่อนตัว นอกจากนี้ตลาดคาดหมายอย่างกว้างขวางว่า FED จะคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไป และคงมาตรการ QE2 ต่อเนื่องถึงเดือนมิ.ย. ซึ่งสะท้อนไปที่ค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนีค่าเงิน USD ในช่วงเช้าวันนี้ ลงไปที่ระดับ 73.569 เทียบกับระดับ highเมื่อวานที่ 74.335

o ราคาน้ำมัน Nymex ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยปรับลดลงเพียง 7 เซนต์ ปิดที่ 112.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นักลงทุนรอดูผลการประชุมของ FED ในคืนนี้ (+/-)

o ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้น 115.49 จุด ปิดที่ 12,595.37 จุด คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 0.93% เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น (+/-)

o ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแตะระดับ 65.4 จุด จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 63.4 จุด มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 65 จุด ราคาบ้านใน 20 เขตเมืองในเดือนก.พ.ลดลง 0.2% MoM และลดลง 3.3% YoY ใกล้เคียงนักวิเคราะห์คาด (+/-)

o SPDR ถือทองคำเท่าเดิมที่ 1,229.64 ตัน

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,480 – 1,520 Trading ในกรอบ 1,480 – 1,510 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 28 เมษายน 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดเพิ่มขึ้น 13.60 USD ต่อออนซ์ปิดที่ 1,517.10 USD ต่อออนซ์ เนื่องจากความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อของสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลง

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดเพิ่มขึ้น 13.60 USD ต่อออนซ์ปิดที่ 1,517.10 USD ต่อออนซ์ โดยทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1,530.70 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,503.30 – 1,530.70 USD ต่อออนซ์ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ลงจากระดับ 3.4% – 3.9% เป็น 3.1% - 3.3% เนื่องจากมีการปรับลดการใช้จ่ายทางด้านการทหารลง การส่งออกลดลง ภาคการก่อสร้างชะลอตัวลง และผลกระทบจากสภาพอากาศที่เลวร้ายในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ และปรับเพิ่มการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 2.1% - 2.8% จากระดับเดิมที่ 1.3% - 1.7% โดยคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำไว้ที่ระดับเดิมที่ 0 – 0.25% ส่วนมาตรการ QE2 จะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.โดยไม่มีมาตรการ QE3 ( + )

o จากการปรับการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของ FED ในเรื่องเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่เศรษฐกิจมีอัตราการขยายตัวลดลง และขยายเวลาการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่าต่อไปเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ราคาทองเพิ่มสูงขึ้น และค่าเงิน USD อ่อนค่าลงอีก โดยดัชนีค่าเงิน USD ลดลงมาที่ระดับ 73.085 ในเช้าวันนี้ ทำสถิติอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 32 เดือนหรือนับจากเดือน ส.ค. 2008 ฝ่ายวิจัยคาดว่า จากค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลง และความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ ทำให้มีแนวโน้มจะทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง คาดการณ์แนวต้านที่ระดับ 1,532/ 1,555 ( + )

o การประกาศสิ้นสุดมาตรการอัดฉีดเงินเข้าระบบ หรือ QE2 ของ FED ในเดือนมิ.ย. โดยไม่ต่อ QE3 เป็นสิ่งที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว จึงไม่มีผลทำให้ราคาทองคำปรับลดลง แต่การเพิ่มการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นมากในปีนี้ โดยคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำ ทำให้คาดว่าเงินทุนจะไหลออกจากดอลล่าร์มากยิ่งขึ้น และเงิน USD มีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงมาก เพราะ FED ไม่มีมาตรการที่จะควบคุมเงินเฟ้อ ส่วนตลาดแรงงาน FED ปรับลดการคาดการณ์อัตราการว่างงานลง เหลือ 8.3 – 8.7% จากระดับ 8.8 – 9.0% ( + )

o ราคาน้ำมัน Nymex ปรับเพิ่มขึ้น 55 เซนต์ ปิดที่ 112.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ ไม่ได้ส่งสัญญาณแต่อย่างใดว่าเฟดใกล้ที่จะคุมเข้มนโยบายการเงิน ( + )

o SPDR ถือทองคำเท่าเดิมที่ 1,229.64 ตัน

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,510 – 1,555 Trading ในกรอบ 1,510 – 1,555 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 29 เมษายน 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดเพิ่มขึ้น 14.10 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,531.20 USDต่อออนซ์ เนื่องจากค่าเงิน USD อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง จากการที่ FED ขยายเวลาการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่าต่อไป

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดเพิ่มขึ้น 14.10 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,531.20 USDต่อออนซ์ โดยทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1,538.80 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,523.90 – 1,538.80 USDต่อออนซ์ เนื่องจากค่าเงิน USD อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง จากการที่ FED ขยายเวลาการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำต่อไปประกอบกับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด

o ราคาทองคำในเช้าวันนี้เคลื่อนไหวในระดับ 1,533 USDต่อออนซ์ คาดการณ์แนวรับแรกบริเวณ 1,526/1,524 USDต่อออนซ์ ส่วนแนวต้านในระดับวันที่ 1,540 USDต่อออนซ์ นักลงทุนระยะสั้นควรปิดทำกำไร และป้องกันความเสี่ยง ในช่วงวันหยุดยาว ในวันจันทร์ที่ 2 พ.ค. เป็นวันหยุดชดเชยวันแรงงาน ส่วนนักลงทุนระยะกลาง – ยาวที่มีต้นทุนต่ำ สามารถถือต่อข้ามสัปดาห์ได้

o จากการปรับการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจของ FED ในเรื่องเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่เศรษฐกิจมีอัตราการขยายตัวลดลง และขยายเวลาการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไปเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ราคาทองเพิ่มสูงขึ้น และค่าเงิน USD อ่อนค่าลงอีก โดยดัชนีค่าเงิน USD ลดลงมาที่ระดับ 73.18 ในเช้าวันนี้ ทำสถิติอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 32 เดือนหรือนับจากเดือน ส.ค. 2008 ฝ่ายวิจัยคาดว่า จากค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลง และความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ ทำให้มีแนวโน้มจะทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง คาดการณ์แนวต้านที่ระดับ 1,540/ 1,555 ( + )

o การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ GDP ไตรมาสที่ 1 เพิ่มขึ้น 1.8% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 1.9 – 2.0% เทียบกับ GDP ในไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้น 3.1% YoY การชะลอตัวลงของ GDP ใน ไตรมาสที่ 1 เป็นผลจากการลดลงของ นำเข้า การใช้จ่ายของผู้บริโภค การลงทุนในสินค้าทุน การใช้จ่ายภาครัฐบาล และ การส่งออก ส่วนตัวเลขยอดขอสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 25,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง จากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาแย่กว่าคาด เป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ราคาทองเพิ่มสูงขึ้น ( + )

o ราคาน้ำมัน Nymex ปรับเพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 112.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ( + )

o SPDR ถือทองคำเท่าเดิมที่ 1,229.64 ตัน

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,510 – 1,555 Trading ในกรอบ 1,510 – 1,555 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 3 พฤษภาคม 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคำได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดระหว่างการซื้อขายในตลาดเอเชียในวันจันทร์ที่ 2 พ.ค.ที่ระดับ 1,577.40 USDต่อออนซ์ แต่เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐประกาศยืนยันว่า นายโอซามา บินลาเดน เสียชีวิตแล้ว ทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น และราคาทองคำปรับตัวลดลง

o ราคาทองคำได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดระหว่างการซื้อขายในตลาดเอเชียในวันจันทร์ที่ 2 พ.ค.ที่ระดับ 1,577.40 USD จากการอ่อนค่าของเงิน USD โดยความต้องการทองคำเพิ่มมากขึ้นจากการเสื่อมค่าของเงิน USD เมื่อธนาคารกลางสหรัฐมีแถลงการณ์เกี่ยวกับนโยบายการเงิน ในการคงอัตราดอกเบี้ยต่ำไว้ที่ 0 – 0.25% ต่อไปและอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจโดยการใช้มาตรการ QE2 ไปจนถึงเดือนมิ.ย. และไม่มีท่าทีที่จะใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวดเพื่อต่อต้านเงินเฟ้อ ในขณะที่ธนาคารกลางของหลายประเทศยุโรปปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว ทาให้ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงมาก

o ราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุด เมื่อประธานาธิบดีสหรัฐประกาศยืนยันว่า นายโอซามา บินลาเดน ผู้นำของกลุ่มอัลไคดา เสียชีวิตแล้ว ทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลดลง และราคาทองคำปรับตัวลดลงโดยในเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวระหว่าง 1,540 – 1,541 USDต่อออนซ์ ฝ่ายวิจัยคาดว่าการปรับลดลงของราคาทองคำเป็นผลในระยะสั้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานในเรื่องการเสื่อมค่าของเงิน USD วิกฤตหนี้ในยุโรป ความไม่สงบในตะวันออก และ เงินเฟ้อ เป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งปัจจัยพื้นฐานดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลง การเสียชีวิตของนายโอซามา บินลาเดน เป็นการคาดการณ์ว่า ในระยะสั้นว่าการก่อการร้ายจะลดลง และมีผลทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น

o นายโอซามา บินลาเดน ได้หลบซ่อนตัวในบ้านหลังหนึ่งในชานเมืองใกล้เมืองหลวงของปากีสถาน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว นายโอซามา บินลาเดน เป็นที่ต้องการตัวของทางการสหรัฐ เนื่องจากเป็นผู้สั่งการให้เกิดเหตุการณ์เครื่องบินพาณิชย์ของสหรัฐได้ถูกบังคับให้บินพุ่งชนตึก World Trade Center ในปี 2001 หรือที่หรือจักกันดีว่าเหตุการณ์ 911

o การขึ้นมาแรงของราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 2 วันทำการได้สะดุดลง จากเหตุการณ์การเสียชีวิตของนายโอซามา บินลาเดน แต่คาดว่า หากกลุ่มอัลไคดา โกรธแค้นสหรัฐและแก้แค้นโดยการก่อการร้ายเพิ่มมากขึ้น อาจทำให้ราคาทองคำผันผวนรุนแรงในช่วงนี้ ทั้งจากการขายทำกำไร และการเก็งกำไร เนื่องจากปัจจัยพื้นฐาน ค่าเงิน USD จะเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่าต่อไป เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณการชะลอตัว และช่วงห่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของสกุลเงิน USD กับสกุลเงินของประเทศอื่นๆห่างกันมากขึ้น เมื่อสหรัฐยังคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่าที่ 0 – 0.25% ขณะที่ประเทศอื่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ

o SPDR ถือครองทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,229.64 ตัน

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,510 – 1,575 Trading ในกรอบ 1,510 – 1,555 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400 – 1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำวันที่ 4 พฤษภาคม 2554โดยบริษัทคลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปรับลดลง 16.70 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,540.40 USDต่อออนซ์ ข่าวการเสียชีวิตของนายโอซามา บินลาเดน ผู้นำของกลุ่มอัลไคดา ทำให้เกิดการขายทำกำไร นอกจากนี้เป็นผลจากการแข็งค่าของ USDและจากการที่มีแรงจำนวนมากในตลาดโลหะเงิน ส่งผลกระทบต่อแรงขายในตลาดทองคำตามมา

* ราคาทองคำในตลาด COMEX ปรับลดลง 16.70 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,540.40 USDต่อออนซ์ ข่าวการเสียชีวิตของนายโอซามา บินลาเดน ผู้นำของกลุ่มอัลไคดา ทำให้เกิดการขายทำกำไร นอกจากนี้เป็นผลจากการแข็งค่าของ USDและจากการที่มีแรงจำนวนมากในตลาดโลหะเงิน ส่งผลกระทบต่อแรงขายในตลาดทองคำตามมา

* ราคาโลหะเงินปรับลดลงมากเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันจากการประกาศปรับขึ้นมาร์จิ้นในตลาด COMEX ราคาโลหะเงินปรับลดลง 7.6% ในวันที่ 3 พ.ค. ซึ่งก่อนหน้านี้ในวันที่ 2 พ.ค. ปรับลดลงไปแล้ว 5.2 % การปรับลดลงของราคาโลหะเป็นผลจากแรงขายของนักลงทุน เมื่อมีการปรับเพิ่มมาร์จิ้นเงินกู้ยืมเป็น 16,200 USDต่อสัญญา ซื้อขายล่วงหน้า(-)

* ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ปรับเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 73.22 หลังจากข่าวการเสียชีวิตของนายโอซามา บินลาเดน และการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ที่คาดว่าจะออกมาดี เช่นการจ้างงานจะเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 15 และการขยายตัวดีในภาคบริการ(-)

* โปรตุเกสรับความช่วยเหลือทางการเงินจำนวน 78 พันล้านยูโร หรือ 116 พันล้านUSDจากEUและ IMF โดยจะมีการปรับลดการขาดดุลการคลังลงให้เหลือ 5.9 % ของ % GDP ในปีนี้ และลดลงเหลือ 4.5%,3.0% ตามลำดับ(+/-)

* กรีซอาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับโครงสร้างหนี้ แต่อาจจะยืดเวลาการชำระหนี้ต่างประเทศแทนนักเศรษฐศาสตร์ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีของกรีซ กล่าวแสดงความเห็น(+/-)

* อัตราเงินเฟ้อของรัสเซียในเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 9.7% YoY เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับจากเดือน ต.ค.2009 โดยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 9.5% ํYoY ในเดือน มี.ค.(+)

* SPDR ถือครองทองคำลดลง 5.15 ตัน เหลือจำนวน 1,224.49 ตัน

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,510-1,575 Trading ในกรอบ 1,510-1,558

แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,400-1,600 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

สนใจเพิ่มโอกาสการลงทุนของคุณ ติดต่อได้ที่ 02 618 0808,www.classicgoldfutures.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...