ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ปรับตัวขึ้น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,239.04 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,235.97 – 1,239.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

 

ราคาทองคำในวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ แต่ยืนเหนือ บริเวณ 1,235 เหรียญ ได้ โดยภาพรวมทองคำเริ่มกลับมามีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง หลังจากค่าเงินดอลลาร์เริ่มมีการอ่อน

 

ค่าอีกครั้ง รวมทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในเดือนหน้ามีโอกาสที่ค่อนข้างน้อย โดยมีตัวเลขจากสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้า ให้โอกาสเพียง 18% ในการปรับขึ้น

 

ดอกเบี้ยเดือนหน้า รวมทั้งทองคำยังได้รับแรงซื้อจากกองทุน SPDR ต่อเนื่อง ผนวกกับความเสี่ยงทางการเมืองของฝรั่งเศส ที่ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัย เช่นทองคำ น่าสนใจมากขึ้น

 

ซึ่งหากยืนเหนือ 1,235 เหรียญ คาดว่าราคาทองมีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบสั้นๆ ได้ ส่วนในคืนนี้ไม่มีตัวเลขสำคัญของทางฝั่งสหรัฐฯ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- นายแอนดรูว์ พาร์มลีย์ นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนเปิดเผยว่า การเจรจาเรื่องโครงการเชื่อมโยงระบบซื้อขายหุ้นระหว่างตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้-ลอนดอนกำลังจะเข้าสู่

 

"ระยะที่สอง"

- หุ้นบริษัทโตชิบาของญี่ปุ่นดิ่งลง 11% ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากเอสแอนด์พี โกลบัล ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระบุว่า S&P อาจจะปรับลดอันดับ

 

ความน่าเชื่อถือของโตชิบาลง ถ้าหากมาตรการสนับสนุนทางการเงินจากเจ้าหนี้ของโตชิบาครอบคลุมการปรับโครงสร้างหนี้ในรูปแบบใดๆก็ตาม

- ศาลเกาหลีใต้ประกาศให้บริษัทฮันจิน ชิปปิ้ง โค ลิมิเต็ดล้มละลายในวันนี้ หลังจากที่ศาลเคยตัดสินในช่วงต้นเดือนนี้ว่า มูลค่าการขายทอดกิจการของบริษัทนี้จะอยู่สูง

 

กว่ามูลค่าของบริษัทนี้ถ้าหากดำเนินกิจการต่อไป

- ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยรายงานการประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยประจำวันที่ 19 ม.ค.เมื่อวานนี้ โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า ผู้กำหนดนโยบาย

 

ของอีซีบีสนับสนุนให้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม และสิ่งนี้บ่งชี้ว่า อีซีบีไม่มีแนวโน้มที่จะปรับลดขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลง ในขณะที่เนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส และเยอรมนี

 

เตรียมที่จะจัดการเลือกตั้งในปีนี้

- รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า ความเชื่อมั่นของบริษัทผู้ผลิตของญี่ปุ่นปรับขึ้นในเดือนก.พ.เป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน และได้ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 2

 

ปีครึ่งที่ +20 อย่างไรก็ดี ดัชนีความเชื่อมั่นภาคบริการของญี่ปุ่นร่วงลงสู่ +26 ในเดือนก.พ. และถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยรายงานตัวเลขนี้ตอกย้ำว่า

 

การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก

- แหล่งข่าวในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กล่าวว่า โอเปกอาจจะต่ออายุข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันที่ทำกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม

 

โอเปกออกไป ก่อนที่ข้อตกลงจะหมดอายุลงในเดือนก.ค. หรือโอเปกอาจจะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงมากยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าหากสต็อกน้ำมันดิบในตลาดโลกไม่ได้ดิ่งลงสู่

 

ระดับเป้าหมาย

- ราคาทองในตลาดสปอตทรงตัวในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ท่าม

 

กลางความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐและยุโรป

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เริ่มมีแรงขายอ่อนค่าลงเล็กน้อย

- ความคืบหน้าแผนการปรับโครงสร้างอัตราภาษีของสหรัฐฯ

 

คำแนะนำ : trading long หากราคายืนเหนือ 1,235 เหรียญ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ยังเป็นการปิดบวกในรอบสัปดาห์ได้เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยราคาทองคำพยายามขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถทำได้ จึงถูกแรงขายทำกำไร รวมทั้งกองทุน SPDR ขายทองคำเป็นครั้งแรงในเดือน ก.พ. หลังค่าเงินดอลลาร์ยืนเหนือ 100 จุดได้ วันนี้ตลาดสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี จึงให้น้ำหนักราคาทองแกว่งตัวในกรอบแคบ

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 3.54 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.29% โดยปิดที่ 1,235.22 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,234.45 – 1,243.77 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,233 เหรียญ ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยหลังจากพยายามปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้ โดยราคาทองได้ทำจุดสูงสุดไว้ที่บริเวณ 1,245 เหรียญ ในวันที่ 8 ก.พ. ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน ก่อนที่ทองคำเริ่มถูกขายทำกำไร ซึ่งค่าเงินดอลลาร์สามารถยืนเหนือบริเวณ 100 จุดได้ รวมทั้ง SPDR มีการขายทองคำครั้งแรกในรอบเดือน ก.พ. โดยขายออกมา 2.37 ตัน รวมถือทองคำ 841.17 ตัน ทำให้ราคาทองมีโอกาสพักฐานในช่วงสั้นได้ แต่ในวันนี้ให้น้ำหนักแกว่งตัวในกรอบแคบมากกว่าเนื่องจากทางสหรัฐฯ ตรงกับวันหยุดเนื่องในวันประธานาธิบดี และในสัปดาห์นี้มีรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดที่ต้องติดตาม และถ้าหากเฟดให้น้ำหนักการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้นอาจจะกดดันราคาทองให้พักฐานได้ตามคาด

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ขยับขึ้นเล็กน้อยในช่วงปิดตลาดวันศุกร์ แต่ปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการดิ่งลงจากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนลบเป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ ในขณะที่ตลาดได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของปริมาณการขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐ และสต็อกน้ำมันที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในสหรัฐ แต่ตลาดก็ได้รับแรงหนุนในเวลาเดียวกันจากความพยายามของประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการปรับลดการผลิตน้ำมัน

• เยนปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญในวันศุกร์ ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในฝรั่งเศส และการขาดความคืบหน้าในการเปลี่ยนแปลงด้านการคลังในสหรัฐได้กระตุ้นความต้องการเยนซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย

• ราคาทองปิดตลาดสัปดาห์นี้ในแดนบวกเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน และราคาทองพุ่งขึ้นมาแล้วเกือบ 8 % จากช่วงต้นปี 2017 ธนาคารคอมเมอร์ซแบงก์คาดว่า ราคาทองจะแตะ 1,300 ดอลลาร์ก่อนสิ้นปีนี้

• ตลาดหุ้นทั่วโลกชะลอตัวลงในวันศุกร์หลังจากเพิ่งทำสถิติสูงสุดเมื่อ 2 วันก่อน โดยตลาดหุ้นได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ความกังวลเรื่องนโยบายของปธน.ทรัมป์ และการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์, ฝรั่งเศส และเยอรมนีในปีนี้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์

• การซื้อขายของกองทุน SPDR

 

• Strategy : trading ในกรอบ โดยฝั่ง short เริ่มน่าสนใจ หากราคาไม่สามารถกลับไปยืนเหนือ 1,235 เหรียญได้

Smart Stock

Today Strategy:

ตลาดเริ่มอ่อนไหว

ดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ก่อนเคลื่อนไหวในแดนบวกสลับลบ ผันผวนในกรอบราคาที่กว้างขึ้นตามประเด็นที่ตลาดให้ความสำคัญในแต่ละวัน โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เปิดตลาดเกิดช่องว่างของราคาในแดนบวกช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาบริเวณ 987.90 จุด เคลื่อนไหวในกรอบแคบในภาคเช้าก่อนมีแรงขายทำกำไรกดดันสัญญาฯ ภาคบ่ายลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 986.70 จุด และปิดตลาดที่ 988.10 จุด ภาพรวมมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ผันผวนกว้างกว่า SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,577.84 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันที่เบาบางลงมาเรื่อยๆ นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ 46,611.13 ล้านบาท เป็นแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ (+1,881.78 ล้านบาท) เเละกลุ่มสถาบันภายในประเทศ (+683.81 ล้านบาท) ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองสวนทางโดยขายสุทธิกว่า (-2,392.64 ล้านบาท) ฝ่ายวิจัยมองว่าการเคลื่อนไหวของดัชนตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์นี้มีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวไร้ทิศทาง ปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝั่งสหรัฐฯ ยังคงเป็นประเด็นที่กดดันตลาด ทั้งมาตรการการปรับโครงสร้างภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์และทิศทางอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนมีนาคมของเฟดยังคงเป็นประเด็นกดดันหลักแก่ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก โดยสัปดาห์นี้ต้องติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC และรายงานการประชุมของ เฟดอย่างใกล้ชิด รวมทั้งประกาศตัวเลขจีดีพีของประเทศไทยจาก สศช.

 

• Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา, ตลาดยังเคลื่อนไหวไร้ทิศทางและอ่อนไหวกับประเด็นที่เข้ามากระทบ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ตัวเลขจีดีพีของประเทศไทยจาก สศช.

- ถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC : (Kashkari 21 ก.พ.), (Harker 22 ก.พ.), (Powell 23 ก.พ.)

- รายงานการประขุมของสมาชิก FOMC (23 ก.พ.)

 

ข่าวในประเทศ

- ถกทูตพาณิชย์ปั๊มส่งออก/เตรียมความพร้อมรับมือพิษเบร็กซิต-ทรัมป์ : ถกทูตพาณิชย์ 2 ก.พ.นี้ จับตาปรับแผนรับลูก "สมคิด" เน้นสร้างหุ้นส่วนเศรษฐกิจ พร้อมให้การบ้านประเมินผลกระทบ "เบร็กซิต-ทรัมป์" เล็งปั้นแผนดันเอสเอ็มอีส่งออกเพิ่มต่อเนื่อง

- กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมตรวจ 1,400 โรงงาน : นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้มีการตรวจสอบโรงงานที่มีการร้องเรียนซ้ำซาก เพื่อเป็นการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชน และโรงงานที่อยู่ริมน้ำ นั้น ในปี 2560 กระทรวงฯ มีแผนการตรวจสอบ 1,400 โรง และประมวลผลจัดทำข้อมูลโรงงานร้องเรียนซ้ำซาก

- (KTCH17) KTC เจาะตลาดกรุงเทพฯ ลุ้นยอดรูดปรื๊ด 1.9 แสนล้าน พร้อมผนึกพันธมิตรอัดแคมเปญ : KTC คาดยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตปี 2560 แตะระดับ 1.9 แสนล้านบาท เติบโต 15% พร้อมหันกลับมาเจาะฐานลูกค้าในกรุงเทพฯ อีกครั้ง หลังปีก่อนบุกตลาดหัวเมืองต่างจังหวัด วางเป้าพอร์ตสินเชื่อรวมปี 2560 เติบโตกว่า 10%

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยสินทรัพย์ทางการเงินส่วนใหญ่เคลื่อนตัวในกรอบแคบ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ๆ ในช่วงนี้ รวมทั้งในเมื่อคืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี ส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบประมาณ 7 เหรียญ และในคืนนี้ติดตามตัวเลข PMI ของสหรัฐฯ และในกลางสัปดาห์ติดตามรายงานประชุมครั้งล่าสุดของเฟด ที่คาดว่าจะช่วยให้ราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบที่กว้างขึ้นได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.78 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.23% โดยปิดที่ 1,238.00 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,232.24 – 1,238.91 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,233 เหรียญ ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบเมื่อวานนี้ เคลื่อนไหวในกรอบประมาณ 7 เหรียญ เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการในวันประธานาธิบดี และไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และในช่วงนี้ตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆ ทำให้สินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลกเคลื่อนไหวออกข้าง และในคืนนี้ติดตามตัวเลขผู้จัดการฝ่ายซื้อ(PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐฯ และประเด็นสำคัญในสัปดาห์นี้คือ รายงานการประชุมของเฟดครั้งล่าสุด ที่คาดว่ามีโอกาสทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบที่กว้างขึ้นได้

 

Exclusive News

• ตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดทำการในวันจันทร์ที่ 20 ก.พ. เนื่องในวันประธานาธิบดีของสหรัฐ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้นในวันจันทร์ในขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ในทางบวกต่อประสิทธิภาพของมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันปรับขึ้นได้ไม่มากนัก เพราะราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ และสต็อกน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูงมากในสหรัฐฯ

• ตลาดเงินนิวยอร์คปิดทำการวันจันทร์ที่ 20 ก.พ.เนื่องในวันประธานาธิบดี

• ราคาทองฟิวเจอร์แทบไม่เคลื่อนไหวในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสิ่งบ่งชี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

• รัฐบาลกรีซได้แสดงความพอใจหลังจากรัฐมนตรีคลังกลุ่มสหภาพยุโรป หรือ ยูโรกรุ๊ป มีความคืบหน้าในการทบทวนนโยบายเศรษฐกิจรอบที่สอง เพื่อเปิดทางให้กรีซได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินครั้งต่อไป

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์

• การซื้อขายของกองทุน SPDR

 

• Strategy : trading ในกรอบแคบ โดยฝั่ง short เริ่มน่าสนใจมากขึ้น

Smart Stock

Today Strategy:

เคลื่อนไหวไร้ทิศทาง

ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวนไร้ทิศทางต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงไร้ปัจจัยบวกใหม่ๆ ที่จะเป็นปัจจัยสนับสนุนแก่ดัชนีและในส่วนของปัจจัยลบภายนอกเองก็ยังไม่มีความชัดเจนเพียงพอ ส่งผลให้ดัชนีเคลื่อนไหวอย่างไร้ทิศทางขึ้นลงตามอุปสงค์อุปทานของตลาดที่ยังไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ซึ่งแม้เมื่อวานนี้ทาง สศช. จะประกาศตัวเลขจีดีพีประเทศไทยไตรมาส 4/59 เติบโต 3.0%(YoY), 0.4%(QoQ) และการเติบโตทั้งปีอยู่ที่ 3.2% ก็ไม่สามารถเป็นปัจจัยบวกที่มีนัยสำคัญต่อตลาดได้เพียงพอ ในส่วนของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดเกิดช่อวงว่างราคาในแดนบวกอีกครั้งที่ 989.50 จุด และมีแรงขายกดดันสัญญาฯ ลงมาเรื่อยๆ สะท้อนมุมมองความไม่มั่นใจของนักลงทุน ก่อนที่จะขึ้นไปปิดตลาดบริเวณ 987.90 จุด รูปแบบการเคลื่อนไหวมีกรอบความผันผนวนที่กว้างกว่า SET index ซึ่งปิดตลาด 1,578.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันที่เบาบางอ่อนล้าเพียง 38,810.40 ล้านบาท เป็นแรงซื้อ/ขายหลักในกลุ่มพลังงาน, สื่อสารและธนาคารเช่นเดิม แต่ภาพการเคลื่อนไหวสลับกัน “บวก/ลบ” ไม่มีกลุ่มใดโดดเด่นเป็นพิเศษ ด้านกลุ่มนักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิ -272.47 ล้านบาท รวมขายสุทธิตั้งเเต่ต้นเดือน ก.พ. -2,537.94 ล้านบาท และยังมีสถานะขาย (Short Position) สุทธิในสัญญาซื้อขายลงหน้าดัชนี SET50 -1,235 สัญญา ฝ่ายวิจัยคาดว่าการเปลี่ยนแปลงสถานะลงทุนของนักลงทุนต่างชาติเป็นผลมาจากเงินทุนส่วนหนึ่งที่ไหลเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ จากการกระตุ้นเศรษฐกิจที่น่าดึงดูดมากกว่า สำหรับการซื้อขายในวันนี้คาดว่าดัชนีมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในกรอบราคาที่กว้างขึ้นอย่างไร้ทิศทางต่อไปเนื่องและยังคงขาดปัจจัยใหม่ที่มีนัยสำคัญ

 

• Strategy : หากราคาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 988 จุด ฝั่ง Long Position ได้เปรียบ, พิจารณา Upside ที่จำกัดด้วย

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC: (Kashkari 21 ก.พ.), (Harker 22 ก.พ.), (Powell 23 ก.พ.)

- รายงานการประขุมของสมาชิก FOMC (23 ก.พ.)

 

ข่าวในประเทศ

- ดันเป้าส่งออกโต 5% สภาพัฒน์มั่นใจภาคการเกษตรฟื้น/การบริโภคครัวเรือนขยายตัว: รองนายกฯ ”สมคิด” ได้ประชุมมอบนโยบายแก่ผู้อำนวยการส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่าให้กระทรวงพาณิชย์ผลักดันการส่งออกไทยในปี 2560 เติบโตให้ได้ 5% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ท้าทาย เนื่องจากในปีนี้มีหลายปัจจัยดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา

- สศช.คงคาดการณ์เศรษฐกิจปี’60 โต 3.5%: สภาพัฒน์เปิดตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ขยายตัว 3% หนุนทั้งปีอยู่ที่ 3.2% ส่วนปี 60 คงคาดการณ์ไว้ที่ 3.5% ด้านรองนายกฯ "สมคิด" พอใจเป็นการเติบโตท่ามกลางเศรษฐกิจโลกไม่ดี เร่งเครื่องประคับประคองให้จีดีพีโต 3.5-4% จับตาปัจจัยเสี่ยงจากนอกบ้านอย่างใกล้ชิด

- (PTTEPH17) PTTEP มองหุ้นปิโตรนาส/ก๊าซต้นน้ำ: PTTEP สนใจจะซื้อหุ้นปิโตรนาส มาเลเซียหลังบริษัทประกาศขายหุ้น 49% โครงการก๊าซต้นน้ำในราคาประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์แต่ยังไม่มีข้อสรุป โดยขอศึกษารายละเอียดและผลตอบแทนก่อน พร้อมชี้อยู่ในแผนการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ PTTEP ตามเดิมอยู่แล้ว

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าบริเวณ 1,237.70 USD/toz มีแรงขายกดดันให้เคลื่อนไหวลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 1,231.75 USD/toz ภาพรวมมีกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 3 ดอลลาร์ ยังคงขาดปัจจัยใหม่ๆ ที่จะเข้าชี้นำตลาดประกอบกับนักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC ที่จะเกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ (Kashkari, Harker) ด้านนักลงทุนสถาบันรายใหญ่อย่างกองทุน SPDR ยังคงมุมมองเดิมคือคงสถานะการถือครองทองคำไว้ที่ 841.17 ตัน เป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังเข้าซื้อสุทธิต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบและมีโอกาสที่จะย่อตัวเป็นหลักจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC และการประกาศตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ และที่สำคัญค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่าต่อเนื่องโดยขึ้นไปทำจุดแข็งค่าสูงที่สุดในรอบ 4 วันทำการที่ระดับ 101.29 จุด อย่างแข็งแกร่ง

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ดัชนีตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง : ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกขึ้นในวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มโทรคมนาคมและหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อย่างไรก็ดีตลาดได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของหุ้นยูนิลีเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคของอังกฤษ-เนเธอร์แลนด์ หลังจากคราฟท์ ไฮนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทอาหารขนาดยักษ์ของสหรัฐยกเลิกข้อเสนอซื้อกิจการของยูนิลีเวอร์

- ทองคำผันผวนและปรับตัวลดลงสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง : ราคาทองในตลาดสปอตปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ ท่ามกลางดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่นักลงทุนรอดูสัญญาณบ่งชี้จังหวะเวลาในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯจากการถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยราคาทองคำในตลาดสปอตอยู่ที่ 1,234.35 USD/toz ราคาทองส่งมอบเดือน เม.ย.ลดลง 3.7 ดอลลาร์หรือ 0.3% มาที่ 1,235.4 USD/toz

- น้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่อง 2 วันทำการ : ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในช่วงเช้าวันนี้ โดยข้อมูลระบุว่ากองทุนเฮดจ์ฟันกำลังเข้าซื้อล็อตใหญ่ในตลาดน้ำมัน หลังมีการลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่บรรลุข้อตกลงกันในปีที่แล้ว โดย ณ เวลา 09.35 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้น 0.32 ดอลลาร์ มาที่ 53.72 USD/bbl ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน เม.ย.บวก 0.09 ดอลลาร์ มาที่ 56.27 USD/bbl หลังจากปิดตลาดเมื่อวานนี้พุ่งขึ้น 0.37 ดอลลาร์ มาที่ 56.18 USD/bbl

- ตลาดหุ้นจีนทำนิวไฮด์ในรอบ 3 เดือน : ดัชนีตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนในวันนี้ขณะที่การคาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้าตลาดหุ้นจากกองทุนบำเหน็จบำนาญยังคงเพิ่มความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง โดยดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ปิดตลาดบวก 0.41% ที่ 3,253.24 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. และดัชนี CSI300 ของหุ้น A-share ในตลาดเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นปิดบวก 0.34% ที่ 3,483.11 จุด

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC ค่ำคืนนี้ (Kashkari, Harker)

- แผนการปรับอัตราภาษีใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบหากราคายังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,236 USD/toz

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าบริเวณ 1,237.70 USD/toz มีแรงขายกดดันให้เคลื่อนไหวลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 1,231.75 USD/toz ภาพรวมมีกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 3 ดอลลาร์ ยังคงขาดปัจจัยใหม่ๆ ที่จะเข้าชี้นำตลาดประกอบกับนักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC ที่จะเกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ (Kashkari, Harker) ด้านนักลงทุนสถาบันรายใหญ่อย่างกองทุน SPDR ยังคงมุมมองเดิมคือคงสถานะการถือครองทองคำไว้ที่ 841.17 ตัน เป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังเข้าซื้อสุทธิต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ว่าทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบและมีโอกาสที่จะย่อตัวเป็นหลักจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC และการประกาศตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ และที่สำคัญค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่าต่อเนื่องโดยขึ้นไปทำจุดแข็งค่าสูงที่สุดในรอบ 4 วันทำการที่ระดับ 101.29 จุด อย่างแข็งแกร่ง

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ดัชนีตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง : ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกขึ้นในวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มโทรคมนาคมและหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อย่างไรก็ดีตลาดได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของหุ้นยูนิลีเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคของอังกฤษ-เนเธอร์แลนด์ หลังจากคราฟท์ ไฮนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทอาหารขนาดยักษ์ของสหรัฐยกเลิกข้อเสนอซื้อกิจการของยูนิลีเวอร์

- ทองคำผันผวนและปรับตัวลดลงสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง : ราคาทองในตลาดสปอตปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ ท่ามกลางดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่นักลงทุนรอดูสัญญาณบ่งชี้จังหวะเวลาในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯจากการถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยราคาทองคำในตลาดสปอตอยู่ที่ 1,234.35 USD/toz ราคาทองส่งมอบเดือน เม.ย.ลดลง 3.7 ดอลลาร์หรือ 0.3% มาที่ 1,235.4 USD/toz

- น้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่อง 2 วันทำการ : ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันในช่วงเช้าวันนี้ โดยข้อมูลระบุว่ากองทุนเฮดจ์ฟันกำลังเข้าซื้อล็อตใหญ่ในตลาดน้ำมัน หลังมีการลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่บรรลุข้อตกลงกันในปีที่แล้ว โดย ณ เวลา 09.35 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้น 0.32 ดอลลาร์ มาที่ 53.72 USD/bbl ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน เม.ย.บวก 0.09 ดอลลาร์ มาที่ 56.27 USD/bbl หลังจากปิดตลาดเมื่อวานนี้พุ่งขึ้น 0.37 ดอลลาร์ มาที่ 56.18 USD/bbl

- ตลาดหุ้นจีนทำนิวไฮด์ในรอบ 3 เดือน : ดัชนีตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนในวันนี้ขณะที่การคาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้าตลาดหุ้นจากกองทุนบำเหน็จบำนาญยังคงเพิ่มความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง โดยดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ปิดตลาดบวก 0.41% ที่ 3,253.24 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. และดัชนี CSI300 ของหุ้น A-share ในตลาดเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นปิดบวก 0.34% ที่ 3,483.11 จุด

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC ค่ำคืนนี้ (Kashkari, Harker)

- แผนการปรับอัตราภาษีใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบหากราคายังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,236 USD/toz

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่แกว่งผันผวนแรงในวัน โดยลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,225 เหรียญก่อนที่จะดีดกลับได้แรงในท้ายตลาด โดยปัจจัยกดดันในช่วงแรกเป็นการที่ประธานเฟดสาขาย่อยมาพูดถึงโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า แต่อย่างไรก็ตามสัญญาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้โอกาสในการปรับขึ้นเพียง 22% ในเดือนหน้า รวมทั้งตัวเลข PMI สหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอ ทำให้หนุนราคาทองให้ดีดกลับ และคืนนี้ติดตามรายงานการประชุมอีกครั้ง

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 2.16 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.17% โดยปิดที่ 1,235.84 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,225.73 – 1,238.85 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,237 เหรียญ ราคาทองคำปรับลดลงแรงในช่วงเมื่อคืนนี้ โดยไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,225 เหรียญ จากประธานเฟดสาขาย่อยหลายสาขาออกมากล่าวถึงโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อาจจะเกิดขึ้นในเดือนหน้า แต่อย่างไรก็ตามมีตัวเลขสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าให้น้ำหนักเพียง 22% ในการปรับขึ้นในเดือน มี.ค. ผนวกกับตัวเลข PMI ของสหรัฐฯ ออกมาอ่อนแอกว่าคาดการณ์ ทำให้ราคาทองได้รับแรงหนุนดีดกลับได้แรง และในวันนี้ติดตามตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง และรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดที่จะบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตได้ โดยทางฝ่ายวิจัยยังให้น้ำหนักการคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ซึ่งคาดว่ามีโอกาสหนุนราคาทองให้ไปต่อได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 1.2 % ในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) คาดการณ์ในทางบวกว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันในอัตราสูง

• นายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มโอเปกกล่าวที่กรุงลอนดอนว่ารายงานตัวเลขเดือนม.ค.แสดงให้เห็นว่า สมาชิกกลุ่มโอเปกปฏิบัติตามข้อตกลงจำกัดการผลิตน้ำมันในอัตราสูงกว่า 90 % และสต็อกน้ำมันจะลดลงไปอีกในปีนี้

• ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันอังคาร และพุ่งขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับยูโรในรอบสองสัปดาห์หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นในเชิงคุมเข้มนโยบาย และดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป

• สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ในวันอังคารว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 22.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค

• ค่าเงินยูโรยังถูกกดดันจากการเลือกตั้งรัฐสภาของเนเธอร์แลนด์ในวันที่ 15 มี.ค.

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐขยับลง 2.10 ดอลลาร์สู่ 1,235.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร หลังจากดิ่งลง 1 % ในช่วงแรก โดยราคาทองได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังจากนักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ดี ราคาทองลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้บ้างในช่วงต่อมา โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอเกินคาด

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์และแผนภาษีใหม่

• การเลือกตั้งของฝั่งยุโรป

 

• Strategy : trading long เริ่มกลับมาได้เปรียบหลังจากราคาดีดกลับแรง

Smart Stock

Today Strategy:

ติดตามปัจจัยภายนอกฝั่งสหรัฐฯ

เมื่อวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดวันโดยสัญญาฯ S50H17 เปิดตลาดเกิดช่องว่างราคาในแดนลบที่ 984.70 จุด มีแรงขายกดดันต่อเนื่องตลอดวันลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 978.80 จุด ก่อนขยับขึ้นมาปิดตลาดที่ 980.40 จุด เช่นเดียวกับ SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,564.42 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบางในวันเพียง 44,878.82 ล้านบาท ในส่วนของนักลงทุนต่างชาติยังคงมุมมองเดิมต่อตลาดหุ้นไทยโดยขายสุทธิเมื่อวานนี้ -659.01 ล้านบาท พร้อมทั้งมีสถานะขายสุทธิในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 ถึง -1,956 สัญญา ในส่วนของตลาดภูมิภาคเริ่มเคลื่อนไหวไร้ทิศทางโดยปิดตลาด บวก/ลบ สลับกัน เราคาดว่าเป็นการปรับสถานะลงทุนจากความกังวลต่อถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC เมื่อคืนซึ่งส่งสัญญานว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมช่วงเดือนมีนาคมนี้และเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องอีกครั้งเมื่อคืนนี้ (all time high) สำหรับการซื้อขายในวันนี้ติดตามปัจจัยบวกระยะสั้นซึ่งอาจช่วยหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ในระดับหนึ่งคือการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบอย่างมีนัยสำคัญ (WTI=54.43 USD/bbl ) ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนกลุ่มพลังงานภายในประเทศได้บ้างเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยคาดว่าตลาดยังคงเคลื่อนไหวไร้ทิศทางและยังคงขาดปัจจัยบวกที่มีนัยสำคัญมากพอที่จะชี้นำตลาด รวมทั้งนักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ช่วงประมาณตีสองคืนนี้ตามเวลาไทยนี้ด้วย

 

• Strategy : Wait & See, ถือเงินสดและติดตามปัจจัยภายนอกฝั่งสหรัฐฯ ในค่ำคืนนี้

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC(Powell, Kaplan) และรายงานการประชุมของสมาชิก FOMC

 

ข่าวในประเทศ

- กรมธนารักษ์เปิดให้เอกชนลุยเขตเศรษฐกิจพิเศษ : กรมธนารักษ์เปิดให้นักลงทุนประมูลโครงการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดหนองคาย เนื้อที่ 718 ไร่ ตั้งอยู่ที่ อ.สระใคร มีแผนสร้างรถไฟ จีน-หนองคาย เป็นช่องทางการค้าชายแดนของไทยกับ สปป.ลาว ซึ่งมีมูลค่าการค้าชายแดนสูงที่สุด

- กระทรวงการคลังเปิดตัว 12 พิโคไฟแนนซ์ 27 ก.พ.นี้ : กระทรวงการคลังเตรียมเปิดตัวพิโคไฟแนนซ์ 12 ราย วันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เผยมีคนยื่นขอใบอนุญาตถึง 82 ราย หวังกระจายให้มีทุกจังหวัดเพื่อเป็นเครื่องมือแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ

- ธนาคารแห่งประเทศไทยห่วง Gen Y เบี้ยวหนี้/ยอดบัญชีผิดนัดชำระพุ่ง1.5ล้านบัญชี : ธปท.เผยว่าจะปรับปรุงวิธีการที่จะส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้เข้าถึงกลุ่ม Gen Y อย่างกว้างขวางมากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดที่ต้องการ คือ ให้จำนวนบัญชีสินเชื่อที่มีอัตราจำนวนบัญชีผิดนัดชำระหนี้ลดลงจาก 5.8% ให้เหลือต่ำกว่า 5% ภายใน 3 ปีนี้ หลังจากโครงการแรกที่ชวนให้รู้จักใช้รู้จักเก็บหรือเปย์ไม่เจ็บเก็บไม่จน ที่เคยเปิดตัวไปเมื่อ 17 ก.ค.ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร

- (BCPH17)บางจากเปิดแผนลงทุนปีนี้ 1.85 หมื่นล้าน : บางจากเตรียมแผนลงทุนปีนี้ 1.85 หมื่นล้านบาท ขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศพร้อมสร้างศูนย์นวัตกรรมรองรับไทยแลนด์ 4.0 ลุยเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มอีก 55 สาขา

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตามรายงานการประชุมเฟด

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,235.84 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,233.03 – 1,237.53 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองเริ่มแกว่งในกรอบที่กว้างขึ้น ซึ่งแกว่งผันผวนหลังจากเมื่อคืนนี้ราคาปรับลดลงแรง ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาได้ โดยปัจจัยหลักๆ ที่ต้องติดตามคือสัญญาณบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า แต่อย่างไรก็ตามทางฝ่ายวิจัยยังให้น้ำหนักการคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ซึ่งจะช่วยหนุนราคาทองได้ในช่วงสั้น และคืนนี้ติดตามยอดขายบ้านมือสอง และรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของเฟด ที่อาจจะทำให้ราคาทองผันผวนได้ โดยกรอบราคาที่คาดว่าจะเคลื่อนไหวให้ 1,226 – 1,244 เหรียญ เป็นหลัก

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- หุ้นจีนปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันนี้ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน แต่ตลาดถูกสกัดช่วงบวก ขณะที่นักเก็งกำไรขายหุ้นกลุ่มการเงินที่เพิ่งจดทะเบียนบางบริษัทออกมา

- ดอลลาร์ทรงตัวในวันนี้ ในขณะที่นักลงทุนรอดูรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. เพื่อใช้ในการคาดคะเนว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเพียงใด ทางด้านยูโรยังคงได้รับแรงกดดันจากปัญหาทางการเมืองในยุโรป

- ข้อมูลจากสำนักงานศุลกากรสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า การส่งออกทองของสวิตเซอร์แลนด์ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือนในเดือนม.ค. ขณะที่ยอดส่งออกไปยังจีนและฮ่องกงลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว

- นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า เขาจะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายในกลางเดือนหน้า ตราบใดที่ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ, การผลิต และข้อมูลอื่นๆจนถึงขณะนั้น ยังคงแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัว

- นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า มีโอกาสต่ำในขณะนี้ที่บีโอเจจะลดอัตราดอกเบี้ยที่ติดลบอยู่แล้วลงอีกเขากล่าวต่อรัฐสภาว่า โครงการซื้อพันธบัตรของบีโอเจกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น และไม่มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับปัญหาขัดข้องใดๆในอนาคต

- นายโมฮัมหมัด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กล่าวในวันอังคารว่า โอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกซึ่งรวมถึงรัสเซีย จะปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยมีจุดประสงค์เพื่อขจัดอุปทานน้ำมันที่ล้นตลาด

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- รายงานผลการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดในคืนนี้

- แผนการปรับอัตราภาษีใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แกว่งผันผวน

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบที่ผันผวนกว้างขึ้น

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยราคาทองปรับตัวลดลงมาบริเวณ 1,230 เหรียญ ในช่วงดึกที่มีการประกาศตัวเลขยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่หลังจากรายงานผลการประชุมเฟดครั้งล่าสุด ไม่ได้ให้ความชัดเจนกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ โดยได้กล่าวถึงภาพรวมว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าและหนุนราคาทองให้สามารถดีดกลับได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.47 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.12% โดยปิดที่ 1,237.31 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,231.23 – 1,240.34 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,236 เหรียญราคาทองกลับมาปิดบวกได้ในช่วงท้ายตลาด โดยในช่วงแรกราคาทองได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ คือ ยอดขายบ้านมือสองที่ประกาศออกมาดีต่อเนื่อง แต่ราคาทองยังสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,230 เหรียญได้ และราคาเริ่มดีดกลับหลังจากได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่า ในช่วงรายงานผลการประชุมเฟดครั้งล่าสุด ที่ไม่ได้มีการบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอน โดยบอกแต่เพียงว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นแน่นอนในปีนี้ ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังเติบโตได้ในระดับใกล้เคียงเดิมต่อเนื่อง รวมทั้งความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อเริ่มชะลอลง ทำให้ไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทางฝ่ายวิจัยคาดว่าการประชุมเฟดในเดือนหน้าให้น้ำหนักเฟดคงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในช่วงสั้น

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 1.4 % ในวันพุธ โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐอาจพุ่งขึ้นอีกครั้ง โดยราคาน้ำมันดิบเพิ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบหลายสัปดาห์ในวันอังคาร หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) คาดการณ์ในทางบวกต่อข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน

• ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและเยนในวันพุธหลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สร้างความผิดหวังให้กับการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และนางมารีน เลอ แปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสและเป็นผู้ที่ต่อต้านอียูนั้นมีโอกาสลดลงที่จะชนะการเลือกตั้ง

• รายงานการประชุมเฟดวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.บ่งชี้ว่า ผู้กำหนดนโยบายเฟดจำนวนมากระบุว่า อาจจะเหมาะสมที่ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเร็วๆนี้ หากข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อเป็นไปตามคาดการณ์

• รายงานการประชุมยังบ่งชี้ด้วยว่า ในบรรดาผู้ลงมตินั้น บางคนมีความเห็นว่า เฟดมีความเร่งด่วนลดลงที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเฟดมองว่ามีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยที่เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเฟดมีเวลาอีกมากที่จะรับมือหากแรงกดดันด้านราคาเพิ่มขึ้น

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์และแผนภาษีใหม่

• การเลือกตั้งของฝั่งยุโรป

 

• Strategy : trading ในกรอบ 1,230 – 1,240 เหรียญ และ follow เมื่อ breakout

Smart Stock

Today Strategy:

ผันผวนในกรอบ

เมื่อวานนี้ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนที่ค่อนข้างรุนแรงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์แต่ก็สามารถปิดตลาดในแดนบวกตามภูมิภาคได้ โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เปิดตลาดเกิดช่องว่างของราคาในแดนบวกเช่นเดิมบริเวณ 981.20 จุด เคลื่อนไหวผันผวนปรับตัวลดลงในช่วงเช้าลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 977.70 จุด ก่อนมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงบ่ายและขึ้นไปปิดตลาดบวกที่ 984.40 จุด ด้านดัชนี SET index ก็มีความเปราะบางเช่นกันปิดตลาดที่ 1,572.04 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันที่ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าที่ 44,893.08 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 899.66 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่เเตกต่างออกไปโดยขายสุทธิ -1,006.58 ล้านบาท บรรยากาศการลงทุนได้รับปัจจัยบวกส่วนหนึ่งจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหนุนกลุ่มพลังงานภายในประเทศให้เคลื่อนไหวในแดนบวกค่อนข้างโดดเด่นและอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนเมื่อวานนี้ได้แก่การติดตามรายงานการประชุมเฟด ซึ่งรายงานออกมาเมื่อคืนมีสาระสำคัญว่าเฟดยังไม่มีความมั่นใจต่อแนวนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจและสมาชิกบางท่านยังให้ความเห็นว่าเฟดอาจต้องใช้เวลาอีกสักพักก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยมองว่าสำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงขาดปัจจัยบวกภายในที่มีนัยสำคัญเพียงพอที่จะชี้นำตลาดได้และเรายังคงให้น้ำหนักแก่ปัจจัยภายนอกทั้งฝั่งสหรัฐฯ (และยุโรป) มากกว่าในช่วงนี้

 

• Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา, หากไม่ต้องการรับความเสี่ยงให้ถือเงินสดหรือลดสถานะการลงทุนไปก่อน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC(Kaplan)

 

ข่าวในประเทศ

- เศรษฐกิจฟื้นตัวไม่ชัดกระทบยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต : กรุงศรีฯ เผยยอดใช้จ่ายผ่านบัตรสองเดือนแรกต่ำกว่าเป้ามองเศรษฐกิจยังฟื้นไม่เต็มที่ พร้อมเปิดตัว "U CHOOSE" ไลฟ์สไตล์แอพ สนองความต้องการลูกค้าบัตรเครดิต

- เร่งงัดภาษีจูงใจนักลงทุนปัดหมุด 'อีอีซี' ชูเก็บบุคคลธรรมดาคงที่ 17% พร้อมชงมาตรการหนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย : รัฐบาลดันมาตรการภาษีดึงเงินลงทุนในพื้นที่อีอีซี กระทรวงการคลังชง ครม.เคาะภาษีบุคคลธรรมดา 17% จูงใจบริษัทต่างชาติ-ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเป้าหมาย

- ยอดส่งออกรถยนต์เดือนมกราคมดิ่งลงต่ำสุด : ยอดส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม 60 ลดฮวบ 14.53% ต่ำสุดในรอบ 19 เดือน ผู้ผลิตกังวลพลาดเป้าหมาย 1.2 ล้านคันในปีนี้ ระบุส่งออกรถกระบะลดลงเกือบทุกตลาด

- (EARTHH17) EARTH ลุยตลาดแดนมังกร-ทุนหนาตั้งหลักโกยออเดอร์ : EARTH รับทรัพย์ราคาถ่านหินพุ่ง คงเป้าหมายยอดขายทั้งปีระดับ 12 ล้านตัน ด้าน “ขจรพงศ์ คำดี” บอสใหญ่ เดินหน้าลุยตลาดแดนมังกร ชูธุรกิจตัวแทนค้าถ่านหินคุณภาพสูงผ่านบริษัทโกยเงิน หลังได้กำลังหนุนด้านทุนจากธนาคารเพิ่มขีดความสามารถในการรับออเดอร์พุ่ง 4-6 พันล้านบาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยราคาทองปรับตัวลดลงมาบริเวณ 1,230 เหรียญ ในช่วงดึกที่มีการประกาศตัวเลขยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่หลังจากรายงานผลการประชุมเฟดครั้งล่าสุด ไม่ได้ให้ความชัดเจนกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ โดยได้กล่าวถึงภาพรวมว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าและหนุนราคาทองให้สามารถดีดกลับได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.47 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.12% โดยปิดที่ 1,237.31 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,231.23 – 1,240.34 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,236 เหรียญราคาทองกลับมาปิดบวกได้ในช่วงท้ายตลาด โดยในช่วงแรกราคาทองได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ คือ ยอดขายบ้านมือสองที่ประกาศออกมาดีต่อเนื่อง แต่ราคาทองยังสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,230 เหรียญได้ และราคาเริ่มดีดกลับหลังจากได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มอ่อนค่า ในช่วงรายงานผลการประชุมเฟดครั้งล่าสุด ที่ไม่ได้มีการบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอน โดยบอกแต่เพียงว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นแน่นอนในปีนี้ ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังเติบโตได้ในระดับใกล้เคียงเดิมต่อเนื่อง รวมทั้งความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อเริ่มชะลอลง ทำให้ไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทางฝ่ายวิจัยคาดว่าการประชุมเฟดในเดือนหน้าให้น้ำหนักเฟดคงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในช่วงสั้น

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 1.4 % ในวันพุธ โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐอาจพุ่งขึ้นอีกครั้ง โดยราคาน้ำมันดิบเพิ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบหลายสัปดาห์ในวันอังคาร หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) คาดการณ์ในทางบวกต่อข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน

• ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและเยนในวันพุธหลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สร้างความผิดหวังให้กับการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และนางมารีน เลอ แปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสและเป็นผู้ที่ต่อต้านอียูนั้นมีโอกาสลดลงที่จะชนะการเลือกตั้ง

• รายงานการประชุมเฟดวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.บ่งชี้ว่า ผู้กำหนดนโยบายเฟดจำนวนมากระบุว่า อาจจะเหมาะสมที่ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเร็วๆนี้ หากข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อเป็นไปตามคาดการณ์

• รายงานการประชุมยังบ่งชี้ด้วยว่า ในบรรดาผู้ลงมตินั้น บางคนมีความเห็นว่า เฟดมีความเร่งด่วนลดลงที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเฟดมองว่ามีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยที่เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และเฟดมีเวลาอีกมากที่จะรับมือหากแรงกดดันด้านราคาเพิ่มขึ้น

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์และแผนภาษีใหม่

• การเลือกตั้งของฝั่งยุโรป

 

• Strategy : trading ในกรอบ 1,230 – 1,240 เหรียญ และ follow เมื่อ breakout

Smart Stock

Today Strategy:

ผันผวนในกรอบ

เมื่อวานนี้ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนที่ค่อนข้างรุนแรงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์แต่ก็สามารถปิดตลาดในแดนบวกตามภูมิภาคได้ โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เปิดตลาดเกิดช่องว่างของราคาในแดนบวกเช่นเดิมบริเวณ 981.20 จุด เคลื่อนไหวผันผวนปรับตัวลดลงในช่วงเช้าลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 977.70 จุด ก่อนมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงบ่ายและขึ้นไปปิดตลาดบวกที่ 984.40 จุด ด้านดัชนี SET index ก็มีความเปราะบางเช่นกันปิดตลาดที่ 1,572.04 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันที่ใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าที่ 44,893.08 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 899.66 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่เเตกต่างออกไปโดยขายสุทธิ -1,006.58 ล้านบาท บรรยากาศการลงทุนได้รับปัจจัยบวกส่วนหนึ่งจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหนุนกลุ่มพลังงานภายในประเทศให้เคลื่อนไหวในแดนบวกค่อนข้างโดดเด่นและอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุนเมื่อวานนี้ได้แก่การติดตามรายงานการประชุมเฟด ซึ่งรายงานออกมาเมื่อคืนมีสาระสำคัญว่าเฟดยังไม่มีความมั่นใจต่อแนวนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจและสมาชิกบางท่านยังให้ความเห็นว่าเฟดอาจต้องใช้เวลาอีกสักพักก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยมองว่าสำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงขาดปัจจัยบวกภายในที่มีนัยสำคัญเพียงพอที่จะชี้นำตลาดได้และเรายังคงให้น้ำหนักแก่ปัจจัยภายนอกทั้งฝั่งสหรัฐฯ (และยุโรป) มากกว่าในช่วงนี้

 

• Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา, หากไม่ต้องการรับความเสี่ยงให้ถือเงินสดหรือลดสถานะการลงทุนไปก่อน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC(Kaplan)

 

ข่าวในประเทศ

- เศรษฐกิจฟื้นตัวไม่ชัดกระทบยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต : กรุงศรีฯ เผยยอดใช้จ่ายผ่านบัตรสองเดือนแรกต่ำกว่าเป้ามองเศรษฐกิจยังฟื้นไม่เต็มที่ พร้อมเปิดตัว "U CHOOSE" ไลฟ์สไตล์แอพ สนองความต้องการลูกค้าบัตรเครดิต

- เร่งงัดภาษีจูงใจนักลงทุนปัดหมุด 'อีอีซี' ชูเก็บบุคคลธรรมดาคงที่ 17% พร้อมชงมาตรการหนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย : รัฐบาลดันมาตรการภาษีดึงเงินลงทุนในพื้นที่อีอีซี กระทรวงการคลังชง ครม.เคาะภาษีบุคคลธรรมดา 17% จูงใจบริษัทต่างชาติ-ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเป้าหมาย

- ยอดส่งออกรถยนต์เดือนมกราคมดิ่งลงต่ำสุด : ยอดส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม 60 ลดฮวบ 14.53% ต่ำสุดในรอบ 19 เดือน ผู้ผลิตกังวลพลาดเป้าหมาย 1.2 ล้านคันในปีนี้ ระบุส่งออกรถกระบะลดลงเกือบทุกตลาด

- (EARTHH17) EARTH ลุยตลาดแดนมังกร-ทุนหนาตั้งหลักโกยออเดอร์ : EARTH รับทรัพย์ราคาถ่านหินพุ่ง คงเป้าหมายยอดขายทั้งปีระดับ 12 ล้านตัน ด้าน “ขจรพงศ์ คำดี” บอสใหญ่ เดินหน้าลุยตลาดแดนมังกร ชูธุรกิจตัวแทนค้าถ่านหินคุณภาพสูงผ่านบริษัทโกยเงิน หลังได้กำลังหนุนด้านทุนจากธนาคารเพิ่มขีดความสามารถในการรับออเดอร์พุ่ง 4-6 พันล้านบาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

เคลื่อนไหวแคบๆ ไร้ทิศทาง

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,237.15 USD/toz เคลื่อนไหวในกรอบแคบหลังมีความผันผวนค่อนข้างรุนแรงเมื่อคืนจากถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC และรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งประกาศออกมาไม่มีความชัดเจนหลังจากที่ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นสัปดาห์สมาชิก FOMC ส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปช่วงเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตามมีแรงขายทำกำไรออกมาเล็กน้อยจากความผิดหวังดังกล่าวเนื่องจากตลาดต้องการความชัดเจนในทางใดทางหนึ่งในขณะที่สมาชิก FOMC เองเมื่อคืนนี้กลับมีท่าทีที่ไม่ตอบรับและไม่ปปฏิเสธ ซึ่งกดดันค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ด้านมุมมองของนักลงทุนสถาบันอย่างกองทุน SPDR ยังคงมีมุมมองคงสถานะการถือครองทองคำไว้ที่ระดับ 841.17 ตัน ตั้งแต่ช่วงวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา สำหรับค่ำคืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC (Kaplan), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยเเละน้ำมันดิบคงคลังรายสัปดาห์

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาทองคำขยับขึ้นขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลง : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ขยับขึ้น 1.41 ดอลลาร์สู่ 1,237.31 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงหลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ประจำวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.แสดงให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายของเฟดมีความไม่แน่ใจในนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลงจากคาดการณ์ทิศทางอัตราดอกเบี้ย : ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะยาวปรับตัวลงในวันพุธท่ามกลางภาวะซื้อขายผันผวนหลังรายงานการประชุมนโยบายล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่าที่ประชุมได้แสดงท่าทีระมัดระวังต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งลดการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 30 ปี ปิดที่ 99-52/256 โดยมีอัตราผลตอบแทน 3.0407% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดที่ 98-124/256 โดยมีอัตราผลตอบแทน 2.4219%

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าจากรายงานประชุมเฟดและการเมืองฝรั่งเศส : ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและเยนในวันพุธหลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ สร้างความผิดหวังให้กับการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและนางมารีน เลอแปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสและเป็นผู้ที่ต่อต้านอียูนั้นมีโอกาสลดลงที่จะชนะการเลือกตั้ง

- ความกังวลสต็อกน้ำมันดิบสูงขึ้นกดดันราคาน้ำมันดิ่งลงกว่า 1.4% : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าWTI (NYMEX) ดิ่งลงกว่า 1.4 % ในวันพุธ โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ อาจพุ่งขึ้นอีกครั้ง โดยราคาน้ำมันดิบเพิ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบหลายสัปดาห์ในวันอังคารหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก คาดการณ์ในทางบวกต่อข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน โดยทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนเมษายนดิ่งลง 74 เซนต์ หรือราว 1.4 % มาปิดตลาดที่ 53.59 USD/bbl

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่ำคืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC (Kaplan)

- ทิศทางของสินทรัพย์ลงทุนประเภทต่างๆ หลังตลาดผิดหวังกับรายงานการประชุมของเฟด

- แผนการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์

 

คำแนะนำ : ไม่แนะนำเปิดสถานะลงทุนในคืนนี้

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝากกลุ่ม line รับข่าวสารทอง ปรึกษาเรื่องทอง ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

thumb-1C8D_58AEBD85.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงในเมื่อคืนนี้หลังจากราคาสามารถทะลุจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1,245 เหรียญขึ้นมาได้ โดยนักลงทุนกลับมาซื้อทองมากขึ้นหลังจากเชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าจะยังไม่เกิดขึ้น รวมทั้งแผนการปฏิรูปอัตราภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ยังขาดความชัดเจน ทำให้ทองคำได้รับแรงหนุนปรับตัวขึ้นได้ต่อ คืนนี้ติดตามตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก ม.มิชิแกน

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.03 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.97% โดยปิดที่ 1,249.34 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,235.13 – 1,251.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,248 เหรียญ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงหลังจากค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยนักลงทุนเชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้าจะไม่เกิดขึ้น ซึ่งจากสัญญาอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นล่วงหน้าบ่งชี้ว่า มีโอกาสเพียง 22.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ทำให้ทองคำกลับมาได้รับแรงหนุนอีกครั้งและราคาสามารถทะลุจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1,245 เหรียญได้ รวมทั้งแผนปฏิรูปอัตราภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ ยังขาดความชัดเจนทำให้เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองให้ปรับตัวขึ้นได้ต่อ

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี แต่ราคาน้ำมันดิบลดช่วงบวกลงมาบ้างในระหว่างวัน หลังจากรัฐบาลสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน และสิ่งนี้บ่งชี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบที่ระดับสูงอาจจะสร้างความเสียหายต่อความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน

• ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันพฤหัสบดีอันเป็นผลจากการขาดความคืบหน้าเรื่องการปฏิรูปภาษีในสหรัฐ และรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการคุมเข้มนโยบายน้อยกว่าคาดนั้น ยังคงถ่วงดอลลาร์

• สัญญาอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นล่วงหน้าบ่งชี้ว่า มีโอกาสเพียง 22.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 12.03 ดอลลาร์ หรือ 0.97 % สู่ 1,249.34ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี หลังจากรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. โดยการคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ดอลลาร์กับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลง

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• นโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์และแผนภาษีใหม่

• การเลือกตั้งของฝั่งยุโรป

 

• Strategy : trading long ได้เปรียบหากราคายังยืนเหนือ 1,245 เหรียญได้

Smart Stock

Today Strategy:

อ่อนล้าตามภูมิภาค

ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวผันผวนไร้ทิศทางและมีแนวโน้มที่จะมีความผันผวนมากขึ้น โดยเฉพาะผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่ค่อนข้างรุนแรงทั้งฝั่งสหรัฐฯ และฝั่งยุโรป ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก ในส่วนของปัจจัยบวกภายในสำหรับประเทศไทยที่ตลาดฝากความหวังไว้ก่อนหน้า อย่างการประกาศงบบริษัทจดทะเบียนไตรมาสสี่ปีที่แล้ว เราให้น้ำหนักลดลงเนื่องจากบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งประกาศค่อนข้างต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดและบางส่วนก็มีแรงขาย Sell on Fact กดดันและส่งผลให้ดัชนีมีความผันผวนต่อเนื่องตลอดเกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดในแดนลบที่ 983.20 จุด อ่อนล้าตามภูมิภาคและมีแรงขายกดดันตลอดวันก่อนปิดตลาดที่ 981.10 จุด ภาพรวมเคลื่อนไหวผันผวนน้อยกว่า SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,567.32 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันประมาณ 47,181.16 ล้านบาท ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ย นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเพียง 75.94 ล้านบาท ไม่มีนัยสำคัญเชิงบวกต่อดัชนี ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศขายสุทธิ -649.95 ล้านบาท สำหรับการซื้อขายในวันนี้เรายังไม่แนะนำให้เปิดสถานะลงทุนเนื่องจากตลาดมีความผันผวนและเปราะบางสูงและเป็นวันซื้อขายสิ้นสัปดาห์ซึ่งมีแนวโน้มที่มูลค่าการซื้อขายจะเบาบางและเป็นปัจจัยที่จำกัดกรอบการเคลื่อนไหวของราคา แต่ถ้านักลงทุนสามารถรับความเสี่ยงได้ฝั่ง Short Position มีความได้เปรียบมากกว่า

 

• Strategy : Wait & See, ตลาดถูกปัจจัยต่างๆ จำกัดกรอบการเคลื่อนไหว, หากรับความเสี่ยงได้ฝั่ง Short Position ได้เปรียบในวัน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ค่าเงินบาทที่เเข็งค่าเพิ่มขึ้นที่ 34.96 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ข่าวในประเทศ

- แก้เกณฑ์แบนบิ๊กบริษัทจดทะเบียน : เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้แก้ประกาศกรณีการลงโทษให้ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีเกี่ยวกับการกระทำความผิดด้านหลักทรัพย์ไม่ให้เกิดความทับซ้อนกันเพื่อให้รองรับกับ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ใหม่ที่ออกมา ซึ่งประกาศใหม่นี้ ก.ล.ต.จะสั่งลงโทษให้ผู้บริหาร บจ.ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะในกรณีที่ ก.ล.ต.เป็นผู้กล่าวโทษเอง

- กระทรวงการคลังยันไม่มีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เอกชนมองผู้บริโภคยังไม่เชื่อมั่น-ห่วงเฮโลทำตลาดบนโครงการล้นตลาด : กระทรวงการคลังยันไม่จำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เชื่อรัฐเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหนุนตลาดปีนี้ดีขึ้น ด้านผู้ประกอบการมองผู้บริโภคยังไม่เชื่อมั่นเศรษฐกิจและการเมืองปัจจัยฉุด ขณะที่ดอกเบี้ยต่ำช่วยหนุนกำลังซื้อ ห่วงเฮโลทำตลาดบนอาจทำให้โครงการล้นตลาด

- (WHAH17) WHA ทำกำไรปี 59 เพิ่มขึ้น 48.3% : น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิว เอชเอ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ปี 2559 บริษัท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,898.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.3% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ขึ้นต่อได้หรือไม่

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,249.33 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,247.15 – 1,255.20 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อหลังจากเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าวันนี้ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนต่อเนื่องหลังจากนักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักน้อยลงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า รวมทั้งแผนการปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ ดูเหมือนจะยังขาดความชัดเจน และมีโอกาสที่จะเลื่อนออกไป ทำให้ค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลงเล็กน้อยและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเช่นกัน ซึ่งปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นช่วยหนุนราคาทองให้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ และในคืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อโดย ม. มิชิแกน และในสัปดาห์ติดตามการแถลงการณ์ครั้งของประธานธิบดีทรัมป์ต่อสภาครองเกสที่มีโอกาสสร้างความผันผวนให้ตลาดการเงินได้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศเมื่อวานนี้ว่า จีนเป็น "แชมเปี้ยนใหญ่" ของการปั่นค่าเงิน หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐเพิ่งให้สัญญาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้นว่า เขาจะใช้วิธีการที่เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้นในการวิเคราะห์การปฏิบัติของจีนในด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

- บาร์เคลย์สเปิดเผยว่า การคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์โดยเฉลี่ยในปีนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และคาดว่า ราคาจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาส 2 "เราทบทวนปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สำหรับปี 2018 ลงสู่ระดับ 67 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในไตรมาส 4 ปีนี้ขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 55 ดอลลาร์ จาก 53 ดอลลาร์" บาร์เคลย์สระบุ

- สำนักงานสถิติของรัฐบาลกลางเยอรมนีรายงานในวันนี้ว่า จีนได้ก้าวขึ้นมาเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของเยอรมนีได้เป็นครั้งแรกในปี 2016 โดยก้าวขึ้นมาแทนที่สหรัฐที่เคยครองอันดับหนึ่งในปี 2015 ในขณะที่อันดับสองของปี 2016 เป็นของฝรั่งเศส และอันดับสามเป็นของสหรัฐ

- สำนักข่าวฟาร์สรายงานว่า อิหร่านเปิดเผยวานนี้ว่า การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันสู่ระดับสูงกว่า 55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลไม่ได้เป็นผลประโยชน์ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เนื่องจากจะกระตุ้นให้ผู้ผลิตนอกโอเปกปรับเพิ่มการผลิต

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกล่าวต่อซีอีโอของบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีว่า เขาวางแผนจะดึงตำแหน่งงานหลายล้านตำแหน่งกลับคืนมาสู่สหรัฐ แต่เขาไม่ได้เปิดเผยแผนการที่เฉพาะเจาะจงในเรื่องวิธีการฟื้นฟูการจ้างงานในภาคโรงงานของสหรัฐ หลังจากตำแหน่งงานในโรงงานสหรัฐลดลงมานานติดต่อกันหลายสิบปี

- ราคาทองในตลาดสปอตทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่งที่ทำไว้เมื่อวานนี้ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ตลาดลดการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า และนักลงทุนรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

- รายงานการประชุมเมื่อวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.ของเฟดยังพบว่า เฟดมีความไม่แน่ใจอย่างมากต่อการขาดความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของฝ่ายบริหารชุดใหม่ของปธน.ทรัมป์

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- แผนการปรับอัตราภาษีใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

- ค่าเงินดอลลาร์ที่แกว่งผันผวน

- แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน เดือน มี.ค.

 

คำแนะนำ : ฝั่ง long ทยอยปิดทำกำไรหากราคาปรับขึ้นแรง หรือนักลงทุนไม่มีสถานะรอ long เมื่อย่อตัว

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการปิดบวกสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน และราคาได้ขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือนเครึ่งที่บริเวณ 1,260 เหรียญ โดยสัปดาห์นี้ประเด็นหลักที่ต้องติดตามคือการแถลงการณ์ครั้งแรกของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสภาครองเกรส ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าจะมีการกล่าวถึงประเด็นการปฏิรูปแผนภาษี และนโยบายต่างๆ รวมทั้งติดตามตัวเลข PMI และ GDP สหรัฐฯ ที่คาดว่าจะสร้างความผันผวนให้กับราคาทองได้มากขึ้นในสัปดาห์นี้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.22 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.58% โดยปิดที่ 1,256.56 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,247.15 – 1,260.10 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,258 เหรียญ ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อในคืนวันศุกร์ ทำให้ปิดบวกเป็นสัปดาห์ที่ 4 และทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 3 เดือนครึ่ง ที่บริเวณ 1,260 เหรียญ ถึงแม้ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาจะไม่ค่อยมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ แต่ราคาทองได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนถึงความชัดเจนของนโยบายประธานาธิบดีทรัมป์ โดยในวันอังคารนี้จะเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีทรัมป์ แถลงการณ์ต่อสภาครองเกรส ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าอาจจะได้เห็นความชัดเจนเรื่องแผนปฏิรูปภาษีมากขึ้น และมีโอกาสสร้างความผันผวนให้ตลาดการเงินได้ ในสัปดาห์นี้มีประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อที่ต้องติดตาม รวมทั้งตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ทำให้คาดว่าราคาทองมีโอกาสแกว่งผันผวนมากขึ้นในสัปดาห์นี้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันศุกร์ ในขณะที่นักลงทุนกังวลกับอุปทานน้ำมันสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้น และความกังวลดังกล่าวบดบังคำสัญญาของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่จะปรับเพิ่มการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมัน

• ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเยนในวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนไม่แน่ใจเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการปฏิรูปภาษี และการกระตุ้นการใช้จ่ายอย่างรวดเร็วของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

• นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ยังคงต้องดำเนินงานอีกมากในแผนปฏิรูปภาษีซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายที่นักลงทุนคาดว่าจะกระตุ้นเงินเฟ้อ และหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 7.22 ดอลลาร์ สู่ 1,256.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 3 เดือนครึ่งที่ 1,260.10 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ หลังจากถ้อยแถลงของนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐฯกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์ออกมา โดยนักลงทุนเคยเข้าซื้อดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้านี้ เพราะคาดการณ์ในทางบวกต่อนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อสภาครองเกรส

• การเลือกตั้งของฝั่งยุโรป

 

• Strategy : ทยอยปิด long เมื่อราคาปรับขึ้นแรง หรือผู้ไม่มีสถานะรอ long เมื่อย่อตัว แต่ให้ระมัดระวังความผันผวนมากขึ้น

Smart Stock

Today Strategy:

ตลาดเริ่มมีประเด็นใหม่ๆ

ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ก่อนยังคงเคลื่อนไหวไม่สดใส โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลปัจจัยภายนอก แม้นักลงทุนแต่ละกลุ่มจะมีมุมมองที่แตกต่างกันในการเข้า/ออก หรือ คงสถานะการลงทุน แต่สิ่งหนึ่งที่เรามองว่ายังเป็นปัจจัยร่วมกันก็คือความ “ไม่มั่นใจ” และความไม่ชัดเจน ซึ่งสะท้อนออกมาผ่านค่าเฉลี่ยของมูลค่าการซื้อขายตลอดสัปดาห์ที่ค่อนข้างเบาบาง ประกอบกับการเคลื่อนไหวที่ผันผวนไร้ทิศทาง ในส่วนของ S50H17 วันศุกร์ที่ผ่านมาเปิดตลาดที่ 980.70 จุด เคลื่อนไหวผันผวนรุนแรงโดยเฉพาะช่วงท้ายตลาดก่อนปิดตลาดที่ 974.70 จุด มีความผันผวนมากกว่า SET index ซึ่งปิดตลาด 1,564.59 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันเพียง 41,604.13 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อสุทธิจากนักลงทุนต่างชาติ 283.67 ล้านบาท เเละ นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศ 475.71 ล้านบาท ถือว่าไม่มีนัยสำคัญในการชี้นำตลาด สำหรับการซื้อขายในสัปดาห์นี้ตลาดโลกยังคงให้น้ำหนักติดตามการแถลงการณ์ต่อสภาคองเกรสของประธานาธิบดีทรัมป์เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ/โครงสร้างภาษี รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ฯ ในขณะที่ปัจจัยภายในประเทศที่ต้องติดตามได้แก่ดัชนีเศรษฐกิจประเทศไทย (ดุลการค้า, มูลค่าการนำเข้า/ส่งออก, ยอดขายรถใหม่) อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักฝั่ง Downside มากกว่า

 

• Strategy : ฝั่ง short position ได้เปรียบในวันหากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 979-980 จุด

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ติดตามดัชนีเศรษฐกิจประเทศไทย (ดุลการค้า, มูลค่าการนำเข้า/ส่งออก, ยอดขายรถใหม่)

 

ข่าวในประเทศ

- ‘กลุ่มพลังงาน’ กำไรพุ่ง 1.9 แสนล้าน-กลุ่มเหล็กแชมป์โตสูงสุด 4.5 เท่า : บจ.รายงานกำไรสุทธิปี 2559 ล่าสุดเกิน 70% มีมูลค่ารวม 7.1 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 28% จากปีก่อน ‘กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี’ หนุนกำไรเกือบ 1.6 แสนล้านบาท ตามการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน และราคาปิโตรเคมี ส่วนกลุ่มเหล็กแชมป์โตสูงสุดเกิน 4 เท่า อานิสงส์ราคาเหล็กฟื้น

- เร่ง “บจ.” รับเกณฑ์ ‘ซีจีโค้ด’ ใหม่ : ก.ล.ต. จี้ บจ. ต้องเร่งปรับตัวรับเกณฑ์ซีจีโค้ดรูปใหม่ที่จะเริ่มใช้เดือน มี.ค.นี้ ประเมินอาจต้องใช้เวลา 2-3 ปี ถึงจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงเพราะต้องนำหลักธรรมภิบาลเข้ามารวมเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการดำเนินธุรกิจ

- (PTGH17) PTG กำไรพุ่ง 65% ทะลุพันล้าน/จ่ายปันผล 0.20 บาท : PTG อวดผลงานปี 2559 กวาดรายได้กว่า 6.46 หมื่นล้านบาท กำไรพุ่ง 65% ทะลุ 1,073 ล้านบาท พร้อมประกาศจ่ายปันผลเอาใจผู้ถือหุ้นอีก 0.20 บาทต่อหุ้น “พิทักษ์ รัชกิจประการ” ย้ำผลงานปี 2560 เติบโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าขยายปั๊มครบ 1,800 สาขาในปีนี้ เตรียมรุกธุรกิจ Non-Oil เพิ่มขึ้น ด้วยงบลงทุน 5,000 ล้านบาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...