ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

แกว่งในกรอบด้านบน

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,257.33 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,252.70 – 1,259.00 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองแกว่งตัวในกรอบแคบในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากราคาทองได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือนครึ่ง ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความกังวลเรื่องนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ว่าจะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตได้ตามคาดหรือไม่ และในสัปดาห์นี้ต้องติดตามปัจจัยหลัก คือการแถลงการณ์ของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อหน้าสภาครองเกส โดยหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะมีความคืบหน้าของประเด็นเรื่องแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษี แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องดูผลตอบรับจากนักลงทุนว่าจะให้มุมมองอย่างไรต่อการแถลงการณ์และนโยบายดังกล่าว และติดตามตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ทำให้สัปดาห์นี้คาดว่าสินทรัพย์ทรัพย์การเงินทั่วโลกมีโอกาสแกว่งผันผวนมากขึ้น

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- นักวิเคราะห์กล่าวว่า แผนเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐให้พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่หลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา แต่นักลงทุนบางคนกังวลว่า การกล่าวแถลงครั้งสำคัญครั้งแรกของปธน.ทรัมป์ต่อสภาคองเกรสในวันอังคารนี้ อาจจะส่งผลลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐได้ ถ้าหากนักลงทุนคาดว่าจะมีการดำเนินการอย่างเชื่องช้าในการทำตามแผนการของเขา หรือถ้าหากแผนการของเขามีความคลุมเครือมากเกินไป

- สำนักปริวรรตเงินตราของรัฐบาลจีน (SAFE) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าของจีนในภาคบริการลดลงสู่ 2.09 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค.จาก 2.61 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. ยอดขาดดุลในเดือนม.ค.มีสาเหตุหลักมาจากส่วนต่างการใช้จ่ายระหว่างนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และชาวจีน ซึ่งใช้จ่ายในต่างประเทศมากกว่าที่นักท่องเที่ยวต่างประเทศใช้ในจีน ยอดขาดดุลการค้าในภาคบริการของจีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.601 แสนล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว จาก 2.065 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2015

- กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยว่า สัดส่วนการถือครองทองของกองทุนเพิ่มขึ้นกว่า 5% แล้วในเดือนนี้เนื่องจากความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมือง

- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ และพุ่งขึ้น 5 วันในรอบ 7 วันทำการที่ผ่านมา ขณะที่ภาวะน้ำมันล้นตลาดโลกดูเหมือนว่าจะบรรเทาลง แต่การผลิตที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐได้สกัดแรงบวก

- นักวิเคราะห์กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เศรษฐกิจยูโรโซนมักจะส่งสัญญาณว่าจะฟื้นตัวขึ้น แต่กลับชะลอตัวลงในเวลาต่อมา ดังนั้นจึงมีการตั้งข้อสงสัยในขณะนี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืนในช่วงนี้หรือไม่

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- แผนการปรับอัตราภาษีใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

- แถลงการณ์ของประธานาธิบดีทรัมป์ ครั้งแรกต่อสภาครองเกรส

- แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน เดือน มี.ค.

 

คำแนะนำ : ทยอยปิดทำกำไรฝั่ง long และเปลี่ยนมา trading ในกรอบด้านบน

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยราคาทองแกว่งผันผวนมากขึ้น โดยขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดใหม่ที่บริเวณ 1,263.80 เหรียญ โดยปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองในช่วงค่ำคือตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ปรับตัวออกมาแย่กว่าคาดการณ์ ทำให้ทองได้รับแรงหนุนต่อ ก่อนที่จะเจอแรงขายทำกำไร หลังจากนักลงทุนรอติดตามการแถลงการณ์ของประธานาธิบดีทรัมป์ เรื่องปฏิรูปแผนภาษี และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ทำให้วันนี้นักลงทุนควรระมัดระวังความผันผวนมากขึ้น

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 3.88 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.31% โดยปิดที่ 1,252.68 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,250.40 – 1,263.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,253 เหรียญ ราคาทองได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงค่ำเมื่อคืนนี้ โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่บริเวณ 1,263.80 เหรียญ หลังจากตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทน และยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย ออกมาแย่กวาคาดการณ์ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายตลาดราคาทองเริ่มมีแรงขายทำกำไร และนักลงทุนเริ่มให้ความสนใจกับประเด็นการแถลงการณ์ของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้ ซึ่งหัวข้อหลักๆ คือแผนการปฏิรูปภาษี และนโยบายที่ช่วยกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า ส่งผลให้ราคาทองได้รับแรงกดดันในเช้าวันนี้ต่อ แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามผลการแถลงการณ์อย่างใกล้ชิด และระมัดระวังความผันผวนที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดแทบไม่ขยับในวันจันทร์ ในขณะที่ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มที่สหรัฐจะยังคงปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบต่อไป อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนในเวลาเดียวกันจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันในอัตราสูง และจากการที่นักเก็งกำไรเข้าลงทุนมากเป็นประวัติการณ์ตามการคาดการณ์ที่ว่า ราคาน้ำมันดิบจะปรับขึ้นต่อไป

• ดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันจันทร์ก่อนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐแถลงเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และก่อนการเปิดเผยความเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

• นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐกล่าวในวันอาทิตย์ว่า ปธน.ทรัมป์ซึ่งจะแถลงต่อสภาคองเกรสในวันอังคารนี้นั้น จะเปิดเผยแผนการของเขาที่จะปรับลดภาษีสำหรับชนชั้นกลาง, ปฏิรูประบบภาษีให้ง่ายขึ้น และทำให้บริษัทสหรัฐสามารถแข่งขันทางการค้าได้มากขึ้นทั่วโลก

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 3.88 ดอลลาร์ สู่ 1,252.68 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 3 เดือนครึ่งในระหว่างวัน ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับขึ้น และนักลงทุนรอฟังถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐในเรื่องแผนการปรับลดภาษี, แผนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน, ภาษีนำเข้า และนโยบายต่างประเทศ

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อสภาครองเกรส

• การเลือกตั้งของฝั่งยุโรป

 

• Strategy : ทยอยปิดทำกำไรฝั่ง long แล้วเปลี่ยนมา trading ในกรอบด้านบน โดยระมัดระวังความผันผวน

Smart Stock

Today Strategy:

ติดตามปัจจัยฝั่งสหรัฐฯ

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในแดนลบชัดเจนตลอดวันได้รับแรงกดดันจากคาดการณ์การแถลงการต่อสภาคอง เกรสของประธานาธิบดีทรัมป์และถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC สหรัฐฯ ตลอดสัปดาห์ แม้จะมีข่าวดีจากจากมูลค่าการส่งออกเดือน ม.ค.ที่ขยายตัว 8.8% เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 826 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ก็ไม่สามารถเป็นปัจจัยบวกที่พยุงดัชนีไว้ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดและเคลื่อนไหวแคบๆ ในแดนลบก่อนปิดตลาดที่ 975.50 จุด โดยลักษณะการเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับ SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,558.03 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเพียง 37,147.74 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมามีมุมมองขายสุทธิ (-706.96 ล้านบาท) รวมสะสมตลอดเดือน ก.พ. นี้ รวม -2,644.63 ล้านบาท สำหรับการซื้อขายในวันนี้ฝ่ายวิจัยมองว่าตลาดมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวแคบๆ และมีมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางไม่คึกคักจากการเฝ้ารอการแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานาธิบดีทรัมป์ แต่อย่างไรก็ตามหากมีข่าวร้ายเข้ามากระทบตลาดก็มีแนวโน้มที่จะมีแรงขายรุนแรงดังนั้นต้องเปิดสถานะด้วยความระมัดระวัง

 

• Strategy : ฝั่ง Short ได้เปรียบในวันหากราคายังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่า 976/977 จุด

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานาธิบดีทรัมป์

 

ข่าวในประเทศ

- ตลาดหลักฟื้น-จีนโต ‘ส่งออกไทย’ เดือน ม.ค. พุ่ง 8.8% : ส่งออกเดือนแรกเป็นบวกต่อเนื่องเดือนที่ 3 ขยายตัวแรง 8.8% รับอานิสงส์ราคาน้ำมันขยับขึ้น ดึงมูลค่าสินค้าเกี่ยวเนื่อง-เกษตรกรเพิ่มขึ้น ขณะตลาดหลักขยายตัวทุกตลาด สะท้อนการค้าโลกเริ่มปกติ ด้านนักวิเคราะห์ชี้ส่งออกขยายตัวสูงมาจากปัจจัยด้านราคา ประเมินปีนี้ขยายตัวได้

- ‘ลดภาษี 300%’ หนุนวิจัย จูงใจเอกชนลงทุน 5 อุตสาหกรรมไฮเทค รองรับ ‘ไทยแลนด์ 4.0’ เผยงบวิจัยปีนี้ขยับแตะ 1% จีดีพี สัดส่วนใกล้ประเทศพัฒนาแล้ว : บอร์ดสภาวิจัยฯ ไฟเขียวลดภาษี 300% ต่อเนื่อง 3 ปี จูงใจเอกชนรวมกลุ่มวิจัยตอบโจทย์พัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 พุ่งเป้า 5 กลุ่มอุตฯ เป้าหมาย ด้าน “อรรชกา” คาดช่วยหนุนเอกชนร่วมมืออาร์แอนด์ดีเพิ่มขึ้น

- (CPFH17)'ซีพีเอฟ' จัดทัพแยกธุรกิจเกษตรฯ-อาหาร ตั้ง 2 ผู้บริหารคุมบังเหียนสอดรับสังคมใหม่ : 'ซีพีเอฟ' จัดทัพใหม่สอดรับพฤติกรรมสังคมเปลี่ยนเร็ว ตั้ง 2 ผู้บริหารแยกคุมสายธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และสายธุรกิจอาหาร รับภาระกิจมุ่งเน้นการขยาย-การเติบโตที่มั่นคงยั่งยืน เน้นกิจการต่างประเทศเป็นหลัก ตั้งเป้าปีนี้ยอดขายโตเพิ่ม 10% โชว์กำไรปี'59 พุ่ง 33% กว่า 1.4 หมื่นล้าน

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตามดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

ราคาทองคำปรับตัวลดลงค่อนข้างมีนัยสำคัญ โดยเมื่อคืนมีแรงขายกดดันชัดเจนในตลาดทองคำให้ลงไปทำจุดต่ำที่สุดในช่วงค่ำคืนบริเวณ 1,250.40 USD/toz หลังขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบสามเดือนครึ่งบริเวณ 1,263.80 USD/toz อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตสำหรับแรงขายดังกล่าวก็คือ นักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR ยังคงสถานะถือทองคำสุทธิที่ 841.17 ตัน ไม่ปรับลด/เพิ่ม สถานะลงทุนใดๆ ตั้งแต่ช่วงวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมาและไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแรงขายเมื่อคืนด้วย อย่างไรก็ตามสำหรับการซื้อขายในระหว่างวันช่วงเช้าทองคำเปิดตลาดเอเชียที่ 1,252.90 USD/toz แกว่งตัวในกรอบแคบประมาณ 3-4 ดอลลาร์ไม่ผันผวน โดยฝ่ายวิจัยคาดว่านักลงทุนส่วนมากในตลาดยังคงเฝ้ารอการแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานาธิบดีทรัมป์เรื่องการตุ้นเศรษฐกิจและการปรับโครงสร้างทางภาษีภายในประเทศ รวมทั้งมีความกังวลตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการประกาศหลายดัชนีในค่ำคืนนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขจีดีพีและดุลการค้า ซึ่งมีนัยสำคัญในการชี้นำทิศทางราคาทองคำในค่ำคืนนี้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาทองคำร่วงลงจากจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือนครึ่ง : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ร่วงลง 3.88 ดอลลาร์ สู่ระดับ 1,252.68 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบสามเดือนครึ่งในระหว่างวัน ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับ ขึ้นและนักลงทุนยังคงรอฟังถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ในเรื่องแผนการปรับลดภาษี, แผนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน, ภาษีนำเข้าและนโยบายการต่างประเทศ

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น : ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นในวันจันทร์จากระดับต่ำสุดในรอบหลาย สัปดาห์ที่ทำไว้เมื่อวันศุกร์จากการคาดการณ์ว่า การแถลงนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ในวันอังคารอาจจะทำให้ ผลตอบแทนสูงขึ้นขณะที่ความเห็นจากสายเหยี่ยวของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีส่วนช่วยหนุนด้วย โดยทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ปิดที่ระดับ 100-88/256 โดยมีผลตอบแทน 2.9825% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดที่ 98-252/256 โดยมีผลตอบแทน 2.365%

- ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวก่อนทรัมป์แถลงต่อสภาคองเกรส : ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันจันทร์ก่อนประธานาธิบดี ทรัมป์ของสหรัฐฯ จะแถลงเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และก่อนการเปิดเผยความเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.0 3% สู่ 101.12 หลังร่วงสู่ 100.69 จุด

- น้ำมันดิบทรงตัวขณะนักเก็งกำไรเข้าลงทุนเพิ่มขึ้น : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดแทบไม่เคลื่อนไหวในวันจันทร์ที่ผ่านมา ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มที่สหรัฐฯ จะยังคงปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบต่อไป อย่างไรก็ดีราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงหนุนในเวลาเดียวกันจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน ปฏิบัติตามข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในอัตราสูงและจากการที่นักเก็งกำไรเข้าลงทุนมากเป็นประวัติการณ์ ตามการคาดการณ์ที่ว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับขึ้นต่อไป ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนเม.ย.ขยับขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.1% มาปิดตลาดที่ 54. 05 USD/bbl

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะประกาศในค่ำคืนนี้หลายดัชนีโดยเฉพาะคาดการณ์จีดีพีและดุลการค้า

- แถลงการณ์ของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสภาครองเกรส

- แผนการปรับอัตราภาษีใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

 

คำแนะนำ : Wait & See, มีความเสี่ยงจากการแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานาธิบดีทรัมป์และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 1 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

เริ่มย่อ

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,248.29 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,241.95 – 1,249.18 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเมื่อคืนนี้ โดยในช่วงเช้าวันนี้ได้มีการแถลงการณ์ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อหน้าสภาครองเกรส โดยยังมีใจความหลัก คล้ายกับที่เคยพูดไว้ก่อนหน้า คือจะกระตุ้นการจ้างงานใหม่ในสหรัฐฯ ปรับลดอัตราภาษีเงินได้ส่วนบุคคล และบริษัท แต่ยังไม่ได้ระบุเวลาที่ชัดเจน ทำให้ราคาทองคำพยายามดีดกลับในช่วงหลังจากการแถลงการณ์ แต่อย่างไรก็ตามหลังการแถลงเสร็จสิ้นราคาทองก็เริ่มย่อตัวอีกครั้ง โดยปัจจัยที่กดดันเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มแข็งค่าต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ของนักลงทุนที่เริ่มเห็นสัญญาณบ่งชี้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของการประชุมเฟดในเดือนนี้ โดยมีตัวเลขสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าโดย CME ให้โอกาสสูงเกินกว่า 50% ทำให้ปัจจัยนี้จะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองในช่วงนี้ และในคืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะรายงานภาวะเศรษฐกิจของเฟด

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ดอลลาร์พุ่งขึ้นในวันนี้ ขณะที่ถ้อยแถลงของผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค. และปัจจัยบวกนี้บดบังถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเขา

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้กล่าวแถลงต่อสภาคองเกรสในวันอังคาร โดยเขาเปิดโอกาสสำหรับการปฏิรูประบบผู้อพยพของสหรัฐในวงกว้าง และประกาศว่าจะดำเนินมาตรการลดหย่อนภาษีขนาดใหญ่สำหรับชนชั้นกลาง

- ปธน.ทรัมป์กล่าวถึงสิ่งที่เขาต้องการจะทำในปีแรกที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งรวมถึงเรื่องการปฏิรูประบบประกันสุขภาพและภาษี, การเสริมความแข็งแกร่งให้แก่พรมแดนสหรัฐ และการต่อสู้กับนักรบอิสลามิสต์

- สำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐที่ไม่ระบุชื่อว่า คำสั่งอพยพใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะไม่มีอิรักอยู่ในบัญชีรายชื่อประเทศที่พลเรือนของประเทศเหล่านี้ห้ามเดินทางเข้าสหรัฐเป็นการชั่วคราว

- นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าววานนี้ว่า ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อที่กำลังจะประกาศออกมา อาจจะอยู่ในระดับ "สูง" แต่ก็ยังไม่ทำให้เฟดต้องรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย

- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่าสุดปรับตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงในช่วงแรกเนื่องจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ แต่การลดการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยังคงหนุนราคา

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน เดือน มี.ค.

- รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจจากเฟด

- ค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่าต่อ

 

คำแนะนำ : trading short เริ่มน่าสนใจมากขึ้นหากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,248 เหรียญ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย แต่ระหว่างวันราคาได้ลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ที่บริเวณ 1,236 เหรียญ โดยราคาทองได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวออกมาดีกว่าคาดการณ์ รวมทั้งแรงสนับสนุนจากประธานเฟดสาขาย่อย ต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามการปราศัยของประธานเฟด นางเจนเนต เยลเลน ในคืนวันศุกร์นี้เป็นหลัก ว่าจะแสดงความเห็นต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไร

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.34 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.03% โดยปิดที่ 1,248.86 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,236.45 – 1,250.60 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,245 เหรียญ ราคาทองปิดบวกได้เล็กน้อย แต่ในระหว่างวันราคาทองได้ลงไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,236.45 เหรียญ โดยปรับตัวลดลงในช่วงค่ำ จากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ปรับออกมาเพิ่มขึ้นเกินคาดทำให้ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีมากขึ้น จะเห็นได้จากตัวเลขสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าโดย CME อยู่ที่ 66.4% ในการปรับขึ้นในเดือน มี.ค. รวมทั้งได้รับแรงสนับสนุนจากประธานเฟดสาขาย่อยหลายสาขาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามนางเจนเนต เยลเลน ปราศัยในคืนวันศุกร์ว่าจะให้น้ำหนักการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้อย่างไร โดยราคาทองยังได้รับแรงซื้อหนุนจาก SPDR ที่ซื้อทองเพิ่มอีก 2.37 ตัน รวมถือทอง 843.54 ตัน หลังจากไม่ได้มีการซื้อเพิ่มนานกว่า 2 สัปดาห์

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ขยับลงเล็กน้อยในวันพุธ ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับขึ้นแตะสถิติสูงสุด และปัจจัยนี้ทำให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า ตลาดน้ำมันจะปรับเข้าสู่ภาวะสมดุล ถึงแม้มีหลักฐานบ่งชี้ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันในอัตราที่สูงถึง 94 % ในเดือนก.พ.

• ดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ในวันพุธหลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สองรายแสดงความเห็นในวันอังคารที่หนุนการคาดการณ์ว่า เฟดใกล้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

• นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์คกล่าวว่า มีความจำเป็นมากขึ้นที่เฟดจะต้องทำการคุมเข้มนโยบายการเงิน ขณะที่นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกกล่าวว่า จะมีการพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจังในการประชุมเดือนนี้ เนื่องจากมีการจ้างงานอย่างเต็มที่และเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในสหรัฐ

• ข้อมูลในวันพุธบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐพุ่งขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2013 ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.2%

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• ถ้อยคำปราศัยของประธานเฟด

• การเลือกตั้งทางฝั่งยุโรป

 

• Strategy : สะสม long โดยมีจุด stoploss ที่จุดต่ำสุด 1,236 เหรียญ แต่ถ้าหลุดให้เปลี่ยนมาเป็น trading short

Smart Stock

Today Strategy:

ตลาดตอบรับเชิงบวก

ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวค่อนข้างสดใสตามฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งได้รับปัจจัยบวกมาจากการแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อวานนี้ ซึ่งได้สร้างความมั่นใจให้แก่ตลาดในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติทั้งในมิติของการเมืองที่จะผสานผลประโยชน์ร่วมกัน มิติคุณภาพชีวิตของพลเมืองในเรื่องอาชีพ/การศึกษาพื้นฐาน และยังคงยืนยันต่อจุดยืนเดิมที่จะทำให้สหรัฐฯ แข็งแกร่งและเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งนักลงทุนค่อนข้างตอบรับเป็นอย่างดีโดยดัชนีตลาดหุ้นฝั่งสหรัฐฯ ปิดปรับตัวบวกทั้งสามตลาดเฉลี่ยประมาณ 1.2-1.4% ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลกและภูมิภาคเอเชียเปิดตลาดและเคลื่อนไหวค่อนข้างสดใส ในส่วนของสัญญาฯ S50H17 เมื่อวานได้รับแรงหนุนให้เคลื่อนไหวในแดนบวกอย่างชัดเจนก่อนปิดบวกที่ 985.80 จุด ภาพการเคลื่อนไหวบวกชัดเจนกว่า SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,567.19 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ยที่ 42,033.67 ล้านบาท สำหรับการซื้อขายวันนี้เรามองว่าตลาดเริ่มมีปัจจัยบวกให้นักลงทุนสดชื่นมากขึ้นแต่อย่างก็ตามขอให้พิจารณาการ Sell on Fact และเม็ดเงินต่างชาติที่อาจเริ่มไหลออกบางส่วน

 

• Strategy : หากราคาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 982/983 ฝั่ง long position น่าสนใจ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดเเละสมาชิก FOMC(Evans, Powell, Fischer) 3-4 มี.ค.

 

ข่าวในประเทศ

- เงินเฟ้อเดือน ก.พ.เพิ่มขึ้น 1.44% น้ำมัน-ก๊าซหุงต้มต้วแปร/มั่นใจทั้งปีอยู่ในกรอบ 1.5-2% : ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าเปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) เดือน ก.พ.มีค่า 100.79 เพิ่มขึ้น 1.44% เมื่อเทียบเดือน ก.พ.59 ถือว่าสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 จาก เม.ย.59 ที่เงินเฟ้อสูง 0.07% และเพิ่มขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.60 ส่งผลให้เงินเฟ้อเฉลี่ย 2 เดือนแรกของปีนี้ สูงขึ้นแล้วกว่า 1.49%

- รองนายกสมคิดสั่งปฏิรูปตลาดทุน ดึง ‘ซีแอลเอ็มวี’ ระดมทุน : รองนายกฯ ได้มอบหมายให้ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เร่งปฏิรูปตลาดทุนไทยให้เป็นตลาดหุ้นที่มีคุณภาพจากเดิมเน้นปริมาณของบริษัทจดทะเบียน พร้อมทั้งออกมาตรการเข้มงวดควบคุมและเพิ่มบทลงโทษ บจ.ที่ไม่มีธรรมาภิบาล และควรหามาตรการสนับสนุน บจ.ที่มีธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและให้ตลาดหุ้นไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

- (CPNH17)ค้าปลีกย่านพระราม 4 แข่งเดือด เซ็นทรัลจับมือดุสิตผุด 'มิกซ์ยูส' สีลม แข่งทีซีซีแลนด์พัฒนาที่เตรียมทหาร : กลุ่มเซ็นทรัลกางแผนลงทุนปี'60 ทุ่ม 4.5 หมื่นล้าน ลุยธุรกิจค้าปลีก โรงแรม คอนโดมิเนียม แจง ตลท.ตั้งบริษัทร่วมทุนโรงแรมดุสิตธานี ผุดโครงการมิกซ์ยูสหัวมุมถนนสีลม มูลค่า 3.6 หมื่นล้าน คาดแข่งทีซีซีแลนด์ หลังผิดหวังตกรอบชวดพัฒนาที่โรงเรียนเตรียมทหารหรือสวนลุมไนท์บาซาร์เดิม

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

มีแรงขายรินออกมาเรื่อยๆ

ทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าบริเวณ 1,246.16 USD/toz แกว่งตัวในกรอบแคบโดยมีแรงขายรินออกมาเรื่อยๆ โดยราคาทองคำเริ่มได้รับแรงกดดันจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแถลงต่อสภาคองเกรสของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อวานนี้ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงและยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งกลับมาดีดตัวแข็งค่าอีกครั้งปัจจุบันเคลื่อนไหวแข็งค่าอยู่บริเวณ 101.87 จุด ประกอบกับคาดการณ์แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมเดือนนี้ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่จำกัด Upside ของทองคำอย่างมีนัยสำคัญ ในส่วนของมุมมองนักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR เริ่มกลับมาซื้อสุทธิในทองคำ +2.37 ตัน เมื่อวานนี้รวมมีสถานะลงทุนในทองคำสุทธิ ที่ 843.54 ตัน โดยเรามองว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่างหลังจากที่ไม่มีสถานะลงทุนมาตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ สำหรับการเปิดสถานะในค่ำคืนนี้เรามองว่า Upside เริ่มจำกัด ประกอบกับตลาดยังคงมีความกังวลต่อถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC (Evans, Powell, Fischer) และถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ (3-4 มี.ค.)

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ตลาดคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนนี้หนุนบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ พุ่ง : ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในวันพุธโดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี จากการคาดการณ์มากขึ้นที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเ ดือนนี้ ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปีร่วงกว่า 2 จุด ส่งผลให้ผลตอบแทน พุ่งสู่ระดับ 3.074% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งสู่ระดับ 2.471% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 16 ก .พ.

- ค่าเงินดอลลาร์พุ่งรับคาดการณ์เฟดใกล้ปรับขึ้นดอกเบี้ย : ค่าเงินดอลลาร์ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ในวันพุธหลังเจ้าหน้าที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ สองรายแสดงความเห็นในวันอังคารที่หนุนการคาดการณ์ว่าเฟดใกล้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญสู่ระดับ 101.73 จุด หลังแตะ 101.97 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ม.ค.

- ราคาน้ำมันดิบร่วงลงขณะสต็อกน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ขยับลงเล็กน้อยในวันพุธ ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับขึ้นแตะสถิติสูงสุดและปัจจัยนี้ทำให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์ที่ว่าตลาดน้ำมันจะปรับ เข้าสู่ภาวะสมดุลถึงแม้มีหลักฐานบ่งชี้ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก ปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันในอัตราที่สูงถึง 94 % ในเดือน ก.พ. ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน เม.ย.ร่วงลง 18 เซนต์ หรือ 0.3 % มาปิดตลาดที่ 53.83 USD/bbl

- ราคาทองคำทรงตัวขณะดอลลาร์ลดช่วงบวก : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ขยับขึ้น 34 เซนต์ สู่ 1,248.86 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพุธโดยราคาทองดิ่งลงในช่วงแรก โดยได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่บ่งชี้ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. อย่างไรก็ดี ราคาทองลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้ในเวลาต่อมาในขณะที่ดอลลาร์ลดช่วงบวกลง

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดเเละสมาชิก FOMC(Evans, Powell, Fischer) 3-4 มี.ค.

- แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน เดือน มี.ค.

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Shot position เริ่มน่าสนใจ, ติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงกว่า 1.13% โดยปัจจัยที่กดดันราคาทองคือค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเหนือ บริเวณ 102 จุด โดยปัจจัยที่สนับสนุนค่าเงินดอลลาร์ได้แก่ การคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ที่มีโอกาสประมาณ 75% รวมทั้งตัวเลขขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ที่ออกมาต่ำสุดในรอบ 44 ปี และวันนี้ติดตามประธานเฟด ปราศัยอีกครั้งว่าจะมีสัญญาณบ่งชี้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเดือนนี้เป็นอย่างไร

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 14.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -1.13% โดยปิดที่ 1,234.72 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,230.58 – 1,249.78 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,231 เหรียญ ราคาทองได้ปรับตัวลดลงแรงในเมื่อวานนี้ โดยปัจจัยที่กดดันราคาทอง คือค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้โดย CME ให้โอกาสถึงกว่า 75% รวมทั้งตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงานปรับตัวออกมาดีกว่าคาดการณ์ และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 44 ปี หรือในปี 1973 ทำให้ราคาทองได้รับแรงกดดันต่อเนื่องในเช้านี้ แต่ว่าอย่างไรก็ตามทางกองทุน SPDR ยังคงสะสมทองคำต่อเนื่อง โดยซื้อทองเป็นวันที่สองติดต่อกัน เมื่อวานนี้ซื้อทองอีก 1.78 ตัน รวมถือทอง 845.32 ตัน และในคืนนี้ติดตามสัญญาณบ่งชี้จากประธานเฟด

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงกว่า 2 % ในวันพฤหัสบดีหลังจากรัสเซียตรึงปริมาณการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับเดิมในเดือนก.พ. และแสดงให้เห็นว่ารัสเซียปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันในอัตราต่ำ

• ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันพฤหัสบดี หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายหนึ่งแสดงความเห็นในวันพุธที่ทำให้นักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้

• นายลาเอล เบรนาร์ด ผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า เศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้นและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐบ่งชี้ว่า จะเป็นการเหมาะสมเร็วๆ นี้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย การเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานและเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมาสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ด้วย

• ขณะนี้สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าปรับตัวรับโอกาส 80% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ โดยเพิ่มขึ้นจาก 66% ในวันพุธและ 35% ในวันอังคาร

• ราคาทองได้รับแรงกดดัน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกดิ่งลง 19,000 ราย สู่ 223,000 รายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 ก.พ. ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 44 ปี หรือต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 1973 เป็นต้นมา

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• ถ้อยคำปราศัยของประธานเฟด

• การเลือกตั้งทางฝั่งยุโรป

 

• Strategy : ฝั่ง short ได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,236 เหรียญ

Smart Stock

Today Strategy:

ติดตามถ้อยแถลงประธานเฟด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบชัดเจนเเม้การเเถลงต่อสภาคองเกรสของประธานาธิบดีทรัมป์จะสร้างความมั่นใจให้ตลาดโลกไปเมื่อวันก่อน เเต่หลังจากตลาดเริ่มรับข่าวเต็มที่นักลงทุนกลับให้น้ำหนักต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้อยเเถลงของนางเยลเลนเเละสมาชิก FOMC ในคืนนี้(เเละพรุ่งนี้เช้า)ตามเวลาไทย สำหรับการเคลื่อนไหวของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 ปิดตลาดที่ 984 จุด มีลักษณะผันผวนกว่า SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,569.94 จุด +2.75 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันอยู่ในเกณฑ์ปกติที่ 44,531.53 ล้านบาท เป็นเเรงขายที่ผสานกันระหว่างนักลงทุนต่างชาติที่ยังคงสถานะขายสุทธิเเละนักลงทุนรายย่อยภายในประเทศ สำหรับการซื้อขายในวันนี้เราให้มุมมองไว้สองลักษณะคือเเกว่งตัวผันผวนจากการปรับสถานะลงทุนเพื่อรองรับถ้อยเเถลงของนางเยลเลนเเละสมาชิก FOMC ท่านอื่นๆ กับอีกลักษณะคือเเกว่งตัวในกรอบเเคบๆ มูลค่าการซื้อขายเบาบางตามลักษณะของการซื้อขายช่วงปลายสัปดาห์ดังนั้นหากนักลงทุนไม่อยากรับความเสี่ยงจากความผันผวนหรือกรอบการเคลื่อนไหวที่ถูกจำกัดเราเเนะนำให้ถือเงินสดพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์

 

• Strategy : ถือเงินสด,ไม่แนะนำให้เปิดสถานะลงทุนในวันนี้

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• ติดตามถ้อยแถลงประธานเฟดและสมาชิก FOMC

 

ข่าวในประเทศ

- กรมการค้าภายใน คาด ธงฟ้าประชารัฐลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้เดือนละ 100 ล้านบาท : กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การดำเนินงานตามโครงการ "ธงฟ้าประชารัฐ" คาดว่าจะลดภาระค่าครองชีพของประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศได้ประมาณ 1 ล้านคน รวมยอดใช้จ่ายประมานเดือนละ 500 ล้านบาท สามารถลดภาระค่าครองชีพของประชาชนได้เดือนละ 100 ล้านบาท หรือ ปีละ 1,200 ล้านบาท

- สสว. มั่นใจปล่อยกองทุน 3,000 ล้านบาท ช่วย SMEs หมดในปี 60 จำนวนกว่า 3,000 ราย: (สสว.) เปิดเผยว่า การปล่อยสินเชื่อในกองทุนฟื้นฟูกิจการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วงเงิน 2,000 ล้านบาท และกองทุนพลิกฟื้นวิสาหกิจขนาดย่อม วงเงิน 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถอนุมัติให้ผู้ประกอบการกว่า 3,000 ราย ได้ทั้งหมดภายในปี 2560 นี้

- กระทรวงพาณิชย์ สร้างผู้ผลิตเกษตรกร ให้เป็นพ่อค้าโดยตรง รับนโยบายประเทศไทย 4.0 ผ่าน ตลาดสินค้าเกษตร Online : กรมการค้าภายใน ได้พัฒนาระบบตลาดเชิงพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรองรับประเทศไทยยุคดิจิตอลในปัจจุบัน โดยได้จัดทำเว็บไซต์ “ตลาดสินค้าเกษตร Online” เพื่อเป็นการให้บริการกับประชาชน ตลอดจนผู้ประกอบการ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยเน้นไปที่สินค้าต่าง ๆ ของเกษตรกร ชาวบ้านฐานราก วิสาหกิจชุมชน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 3 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

โดนกดดันชัดเจน

ทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าบริเวณ 1,233.20 USD/toz เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดวัน โดยลงไปทำจุดต่ำสุดในวันบริเวณ 1,225.09 USD/toz และมีกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 10 ดอลลาร์ แม้ไม่มีภาพการขายที่รุนแรงมากนักแต่ก็เห็นได้ชัดว่า upside ถูกจำกัด โดยทองคำเคลื่อนไหวในทิศทางแนวโน้มขาค่อนข้างชัดเจนได้รับแรงกดดันโดยตรงจากประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนนี้หลังสมาชิก FOMC ส่งสัญญาณไปในทิศทางเดียวกันซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าดอลลาร์ให้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นอีกครั้งโดยขึ้นไปทำจุดแข็งค่าสูงที่สุดในรอบ 7 สัปดาห์ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่กดดันราคาทองคำชัดเจน อย่างไรก็ตามฝ่ายวิเคราะห์มองว่าสำหรับค่ำคืนนี้จะเป็นอีกค่ำคืนที่สร้างความตึงเครียดให้กับตลาดทองคำพอสมควรจากถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC ถึงสามคน ได้แก่ Evans, Powell, Fischer และที่สำคัญไปกว่านั้นยังมีถ้อยแถลงของนางเจเนตเยลเลนประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจัดขึ้นที่ชิคาโก้ ช่วงเวลาประมาณตีหนึ่งตามเวลาไทย

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ทองคำดิ่งลงขณะตลาดคาดเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเดือนนี้ : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ดิ่งลง 14.14 ดอลลาร์ หรือ 1.13 % สู่ 1,234.72 USD/toz ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดีโดยการดิ่งลงในวันพฤหัสบดีถือเป็นการดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. โดยราคาทองได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค.หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจแข็งแกร่งและผู้ว่าการสองคนของเฟดแสดงความเห็นแบบสายเหยี่ยว

- บอนด์ยิลด์พุ่งทำสถิติสูงสุดหลังคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ : ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 ปีพุ่งแตะ ระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปีครึ่ง ในวันพฤหัสบดี ขณะที่ผลตอแทนพันธบัตรอื่นๆพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์จากการคาดการณ์มากขึ้นว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปีปิดที่ 98-92/256 โดยมีผลตอบแทน 3.0843% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดที่ 97-232/256 โดยมีผลตอบแทน 2.4887%

- ดอลลลาร์แข็งค่ารับแนวโน้มเฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนนี้ : ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันพฤหัสบดีหลังจากเจ้าหน้าที่เฟดท่านหนึ่งแสดงความเห็นในวันพุธที่ทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้

- ตัวเลขรัสเซียกดน้ำมันดิบปิดดิ่งลง 2.3% : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงกว่า 2 % ในวันพฤหัสบดี หลังจากรัสเซียตรึงปริมาณการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับเดิมในเดือน ก.พ. และแสดงให้เห็นว่ารัสเซียปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันในอัตราที่ต่ำ

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่ำคืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เเละสมาชิก FOMC(Evans, Powell, Fischer)

- แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน เดือน มี.ค.

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Shot position ได้เปรียบในวัน, ติดตามถ้อยแถลงฝั่งสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ระหว่างวันปรับตัวลดลงกว่า 1% โดยนักลงทุนกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในเดือนนี้ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนางเจนเนต เยลเลน ได้ออกมาปราศัยได้แสดงความเห็นว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นในเดือนนี้ หากตัวเลขเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ ทำให้มีแรงขายในเงินดอลลาร์ และมีแรงหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวได้ในท้ายตลาด และสัปดาห์นี้ติดตามตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ เป็นหลัก

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 0.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.04% โดยปิดที่ 1,234.22 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,222.51 – 1,236.20 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,233 เหรียญ ราคาทองปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ในระหว่างวันราคาปรับลดลงแรงกว่า 1% โดยปัจจัยที่กดดันคือความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนนี้ โดยราคาทองระหว่างวันได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และดีดกลับได้ในช่วงท้ายตลาดหลังนางเจนเนต เยลเลน ได้พูดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่มีโอกาสเกิดขึ้นในเดือนนี้หากตัวเลขการจ้างงาน และตัวเลขเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามที่นักลงทุนคาดการณ์ แต่อย่างไรก็ตามเริ่มเห็นแรงขายทองคำจากกองทุน SPDR ซึ่งในวันศุกร์ขาย 4.74 ตัน คิดเป็น 0.56% ทำให้ถือทองคำรวม 840.58 ตัน และในสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมของธนาคารกลางยุโรป และอัตราดอกเบี้ย ทางฝั่งสหรัฐฯ ติดตามตัวเลขการจ้างงานซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นในวันศุกร์ ในขณะที่การอ่อนค่าของดอลลาร์กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมัน อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงกังวลกับราคาน้ำมัน หลังจากตัวเลขปริมาณการผลิตน้ำมันของรัสเซียแสดงให้เห็นว่า รัสเซียปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงเพียง 1 ใน 3 ของสัญญาที่ทำไว้กับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)

• ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันศุกร์ หลังนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้จะมีความเหมาะสม หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงปรับตัวดีขึ้นตามคาด

• สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ว่า มีโอกาส 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจาก 35% ในวันอังคารที่ผ่านมา

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐขยับลง 50 เซนต์ สู่ 1,234.22 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ หลังจากดิ่งลง 1 % ในระหว่างวัน ในขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค.

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การประชุมของธนาคารกลางยุโรป

• ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร

 

• Strategy : ฝั่ง short เริ่มน่าสนใจมากขึ้น หากราคาอยู่ต่ำกว่า 1,237 เหรียญ

Smart Stock

Today Strategy:

ยังคงแกว่งตัวในกรอบ

ดัชนีตลาดหุ้นไทยและภูมิภาคเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบแคบในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ในช่วงปลายสัปดาห์ โดย SET index ปิดตลาดในวันศุกร์ที่ผ่านมาบริเวณ 1,566.20 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันที่เบาบางอย่างมีนัยสำคัญเพียง 34,048.34 ล้านบาท โดยเป็นเเรงขายชัดเจนจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติซึ่งมีมุมมองขายสุทธิกว่า -2,072.76 ล้านบาท รวมสะสมตลอดเดือนมีสถานะขายสุทธิ -3,514.96 ล้านบาท ในขณะที่ S50H17 มีภาพการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างผันผวนกว่าอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้ายตลาดก่อนที่จะปิดตลาดในแดนลบที่ 979.40 จุดสะท้อนความกังวลต่อถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ และสมาชิก FOMC ในช่วงค่ำคืน อย่างไรก็ตามนางเยลเลนประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ และสมาชิก FOMC ท่านอื่น มีถ้อยแถลงค่อนข้างไปในทิศทางเดียวกันคือการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนนี้ซึ่งส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตอบรับเชิงบวกในระดับหนึ่ง(แต่ไม่มากนัก) โดยเราเชื่อว่าตลาดรับข่าวไปพอสมควรแล้ว สำหรับการซื้อขายในวันวันนี้ฝ่ายวิจัยมองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจยังไม่ได้รับปัจจัยบวกจากเงินทุนต่างชาติก่อนการประกาศอัตราดอกเบี้ยอย่างเป็นทางการของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมเดือนนี้ประกอบกับยังคงขาดปัจจัยบวกภายในประเทศที่จะชี้นำดัชนีได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลให้ดัชนีมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวไร้ทิศทางในกรอบมากกว่า

 

• Strategy : ฝั่ง Short ได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 982 จุด ในวัน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- เงินทุนต่างชาติหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเดือนนี้

 

ข่าวในประเทศ

- กรมสรรพสามิตปรับเพดานภาษีสินค้าทุกรายการ : สรรพสามิตปรับเพดานอัตราภาษีทุกรายการ สินค้าในพิกัดกฎหมายฉบับใหม่ ชี้เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ 20 ปีข้างหน้า เพิ่มความคล่องตัวปรับอัตราภาษี ยันไม่กระทบผู้ผลิต/ผู้บริโภค เผยใช้ราคาขายปลีกแนะนำในร้านค้าปลีกขนาดใหญ่เป็นฐานในการคำนวณอัตราภาษีหลังกฎหมายมีผลบังคับใช้

- กบง.จ่อตรึงราคาขายปลีกแอลพีจี : แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่าการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานการประชุมวันที่ 7 มี.ค.นี้ จะมีการพิจารณาโครงสร้างราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ประจำเดือน มี.ค.นี้

- (AMATAH17) AMATA ขานรับฝรั่งแห่ลงทุน อัดฉีดห้าพันล้านพัฒนานิคม : AMATA เนื้อหอมนักลงทุนไทย-เทศ แห่ขยายฐานการผลิตต่อเนื่องหนุนรายได้การขายพื้นที่และเช่าพื้นที่พุ่งขึ้นแถมรับอานิสงส์แผนพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกหนุนความต้องการนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มดันผลงานไตรมาส 1/2560 แจ่ม เล็งอัดฉีดงบ 5 พันล้านบาท พัฒนานิคมอุตสาหกรรมไทย-เวียดนาม

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

แกว่งในกรอบ

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,232.41 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,230.49 – 1,236.77 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองแกว่งในกรอบแคบๆ ในช่วงเช้าวันนี้หลังจาก ราคาปรับตัวลดลงแรงในคืนวันศุกร์ ก่อนที่จะกลับมาปิดบวกใกล้เคียงเดิมได้ ราคาทองได้รับแรงกดดันจากประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนนี้ ที่มีโอกาสการปรับขึ้นค่อนข้างแน่นอน โดยให้น้ำหนักมากกว่า 80% จากตัวเลขสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้า รวมทั้งแรงขายจากกองทุน SPDR ที่เริ่มมีแรงขายเข้ามาอีกครั้งหลังจากมีสถานะซื้อสุทธิในเดือนก่อน ทำให้ราคาทองมีโอกาสถูกกดดันต่อเนื่องจนถึงช่วงกลางเดือนที่จะมีการประชุมเรื่องอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ โดยในสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมของธนาคารกลางยุโรป และตัวเลขภาคการจ้างงานของทางฝั่งสหรัฐฯ ที่จะเป็นตัวบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ได้ แต่ในวันนี้ผยังไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ จึงให้น้ำหนักแกว่งในกรอบในคืนนี้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- จีนปรับลดเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปีนี้ ในขณะที่รัฐบาลจีนผลักดันการปฏิรูปอย่างยากลำบากต่อไปเพื่อแก้ไขการพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วของหนี้สิน และติดตั้งมาตรการสกัดกั้นความเสี่ยงทางการเงิน

- นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนระบุในงานเปิดสมัยประชุมประจำปีของรัฐสภาจีนเมื่อวานนี้ว่า จีนตั้งเป้าที่จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวราว 6.5 % ในปีนี้จากเคยกำหนดเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปี 2016 ไว้ที่ 6.5-7.0%

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้หลายครั้งในปีนี้ ในขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และผู้กำหนดนโยบายของเฟดอีกหลายคนส่งสัญญาณในสัปดาห์ที่แล้วว่า ยุคสมัยของนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว

- ราคาทองในตลาดสปอตทรงตัวในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากราคาร่วงลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์เมื่อวานนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การประชุมอัตราดอกเบี้ยและนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป

- ตัวเลขภาคการจ้างงานของสหรัฐฯ

- แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ

 

คำแนะนำ : trading short หากราคาอยู่ต่ำกว่า 1,237 เหรียญ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 7 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยราคาทองคำยังเจอแรงขายทำกำไรอย่างต่อเนื่อง จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคาทองคำ โดยมีตัวเลขสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าปรับให้โอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้อยู่ที่ 86.4% รวมทั้ง การขายทองคำของกองทุน SPDR ที่ขายเข้ามาต่อเนื่องติดต่อกัน 2 วันทำการ ทำให้ภาพรวมทองคำมีแนวโน้มโดนกดดันได้ต่อ และติดตามตัวเลขการจ้างงานในปลายสัปดาห์อีกครั้ง

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 8.66 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.70% โดยปิดที่ 1,225.56 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,224.25 – 1,236.77 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,225 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แต่ราคาทองยังไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ในระยะสั้น หลังจากราคาทองได้ทำจุดต่ำสุดในคืนวันศุกร์สัปดาห์ก่อนที่บริเวณ 1,222 เหรียญ ทำให้คาดว่าราคาทองมีโอกาสแกว่งในกรอบซึมลงต่อได้ โดยเมื่อคืนนี้กองทุน SPDR มีการขายทองคำติดต่อกันเป็นวันที่สองโดยเมื่อคืนนี้ขายทองอีก 3.81 ตัน ทำให้ถือทองคำรวม 836.77 ตัน รวมทั้งตัวเลขสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าได้ให้โอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้สูงถึง 86.4% แต่อย่างไรก็ตามในสัปดาห์นี้ต้องติดตามการประชุมของธนาคารกลางยุโรป และตัวเลขภาคจ้างงานของสหรัฐฯ ที่จะช่วยบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยว่าจะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ขยับลงเล็กน้อยในวันจันทร์ แต่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ขยับขึ้น โดยราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนในช่วงแรกจากข่าวที่ว่า อิรักจะเข้าร่วมในมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน ถ้าหากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ต่ออายุมาตรการนี้ออกไปในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

• ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันจันทร์เมื่อเทียบกับยูโร หลังนาย Alain Juppe อดีตนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสปฏิเสธที่จะลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งเพิ่มโอกาสชนะการเลือกตั้งให้กับนางมารีน เลอ แปน ซึ่งต่อต้านสหภาพยุโรป

• ข่าวที่ว่าเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 4 ลูกในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และการกล่าวหาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ว่า อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาดักฟังโทรศัพท์ของเขาจากอาคารทรัมป์ ทางเวอร์นั้น ได้กระตุ้นแรงซื้อเยนซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย

• ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2017 โดยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค., 13-14 มิ.ย. และ 19-20 ก.ย. และเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปี 2018

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การประชุมของธนาคารกลางยุโรป

• ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร

 

• Strategy : trading ในกรอบ 1,222 – 1,237 เหรียญ

Smart Stock

Today Strategy:

เริ่มเปราะบาง

ดัชนีตลาดหุ้นไทยและภูมิภาคได้รับปัจจัยลบจากฝั่งสหรัฐฯ กดดันให้ตลาดในภาพรวมเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนส่วนหนึ่งเคลื่อนย้ายไหลออกจากกลุ่มตลาดเกิดใหม่ สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยนั้นมีแรงขายรินออกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ก่อนหลังต้นสัปดาห์เคลื่อนไหวในทิศทางแนวโน้มขาขึ้นค่อนข้างชัดเจน ถือว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวผันผวนไม่ชัดเจนและอ่อนไหวต่อประเด็นต่างๆในตลาด ขณะที่ยังคงขาดปัจจัยบวกภายในประเทศใหม่ๆ มานานพอสมควรทั้งภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector) และภาคการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงิน (Financial Sector) จะมีเพียงแต่งบบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศกำไรสุทธิโดดเด่นแต่ก็ยังไม่เป็นปัจจัยบวกที่ตลาดให้น้ำหนักอย่างมีนัยสำคัญโดยเปรียบเทียบ สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดในแดนลบที่ 978.10 จุด เคลื่อนไหวในแดนลบระหว่างวันก่อนปิดตลาดที่ 974.90 จุด เช่นเดียวกับ SET index ซึ่งปิดตลาดในแดนลบที่ 1,553.61 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางเพียง 38,747.80 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงมุมมองขายสุทธิ -2,202.07 ล้านบาท รวมมีสถานะขายสุทธิตั้งเเต่ต้นเดือน -5,717.03 ล้านบาท สำหรับการซื้อขายในวันนี้เรามองว่าดัชนียังคงถูกปัจจัยภายนอกกดดัน Upside ของดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ

 

• Strategy : ฝั่ง Short ได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 976 จุด ในขณะที่ฝั่ง Long ยังไม่น่าสนใจ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาเเข็งค่าบริเวณ 101.67 จุด

 

ข่าวในประเทศ

- บริษัทในตลาดฯ โกยกำไรทุบสถิติ รอบปี'59 ทำเงิน 9 แสนล้าน: ตลท.เผยปี'59 บริษัทจดทะเบียนใน SET กว่า 81% ทำกำไรเพิ่ม/ยอดสุทธิกว่า 9 แสนล้านบาท ทำสถิติสูงสุดรอบ 5 ปี เป็นผลจาก 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายแผนไทยแลนด์ 4.0 มาแรง

- สศช. เผยเศรษฐกิจยุค 4.0 หันใช้เทคโนโลยีลดต้นทุน: สศช. เปิดเผยภาวะสังคมไทยไตรมาสที่ 4 และภาพรวมปี 59 ว่า สถานการณ์การจ้างงาน และรายได้ของแรงงานไทยในอนาคต จะได้รับผลกระทบจากการเข้าสู่ยุคดิจิตอล 4.0 หลังจากผู้ประกอบการหันมาปรับตัวทำธุรกิจด้วยการใช้เครื่องมือเครื่องจักรที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิต พร้อมกับลดการใช้กำลังแรงงานคนลง โดยเฉพาะแรงงานในภาคธนาคารและธุรกิจค้าปลีก จะเป็นกลุ่มแรกๆ ที่มีผลกระทบ เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการกลุ่มนี้ได้เริ่มนำเทคโนโลย่ต่างๆ มาช่วยลดต้นทุนการประกอบกิจการแล้ว

- (HMPROH17) HMPRO อัดฉีดงบก้อนโตปูพรมบุกตลาด‘CLMV’: HMPRO กางแผนปี 2560 ปักหมุดรายได้โต 8-12% จากปีก่อน เตรียมทุ่มงบลงทุนประมาณ 6-7 พันล้านบาท ขยายสาขาทั้งไทยและมาเลเซีย ไม่ต่ำกว่า 10 สาขา พร้อมเดินเกมระยะยาว 1-3 ปี (2560-2562) ลุยขยายตลาดใหม่ CLMV เล็งออกหุ้นกู้ วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท รองรับธุรกิจในอนาคต

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 7 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

เผชิญแรงขายต่อเนื่อง

ตลาดทองคำยังคงได้รับเเรงกดดันจากสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมเดือนนี้ ซึ่งส่งผลให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าที่ระดับ 101.56 จุด อีกครั้งหลังมีแรงขายดอลลาร์ในช่วงวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมาค่อนข้างรุนแรง สำหรับในวันนี้ทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าบริเวณ 1,226.20 USD/toz แกว่งตัวในกรอบแคบระหว่างวันประมาณ 2-3 ดอลลาร์ โดยยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในภาพรวมแนวโน้มขาลงชัดเจนตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมท่ามกลางปัจจัยลบต่างๆ ในส่วนมุมมองของนักลงทุนสถาบันรายใหญ่อย่างกองทุน SPDR เมื่อวานนี้ขายสุทธิทองคำกว่า 3.81 ตัน รวมมีสถานะถือครองทองคำสุทธิอยู่ที่ 836.77 ตัน เหมือนส่งสัญญาณอะไรบางอย่างให้ตลาด ในด้านของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งสามตลาดหลักเริ่มเเกว่งตัวออกข้างหลังพุ่งทะยานทำ all time high ต่อเนื่อง แต่ไม่ถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำเท่าใดในระหว่างวัน สำหรับการเปิดสถานะในค่ำคืนนี้ติดตามการประกาศดุลการค้าและความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของผู้บริโภคสหรัฐฯ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาทองคำร่วงลงคาดการณ์เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกลางเดือนนี้ : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับ 1,225.56 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยปิดตลาดในแดนลบเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน แต่ทรงตัวอยู่เหนือจุดต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1,222.51 USD/toz ที่ทำไว้ในวันศุกร์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธาน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค.

- บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ทรงตัวก่อนประมูลพันธบัตร : ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทรงตัวในกรอบซื้อขายแคบๆ ระหว่างในวันวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีทรงตัวต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง ขณะที่นักลงทุนเตรียมตัวรับการประมูลขายพันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้จำนวนมหาศาลในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปีปิดที่ 98-16/256 โดยมีผลตอบแทน 3.0997% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดที่ 97-220/256 โดยมีผลตอบแทน 2.4943%

- แนวโน้มเลือกตั้งฝรั่งเศสหนุนค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบยูโร : ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันจันทร์เมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรหลังนาย Alain Juppe อดีตนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสปฏิเสธที่จะลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งเพิ่มโอกาสชนะการ เลือกตั้งให้กับนางมารีน เลอแปน ซึ่งต่อต้านสหภาพยุโรป

- ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ขยับลงในขณะที่เบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ขยับลงเล็กน้อยในวันจันทร์แต่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ขยับขึ้น โดยราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนในช่วงแรกจากข่าวที่ว่าอิรักจะเข้าร่วมในมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันถ้าหากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันต่ออายุมาตรการนี้ออกไปในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน เม.ย.ร่วงลง 13 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 53.20 USD/bbl

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่ำคืนนี้ติดตามการประกาศดุลการค้าสหรัฐฯ

- การประชุมอัตราดอกเบี้ยและนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป

- แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Short ได้เปรียบแต่อาจมีแรงซื้อต้านบริเวณ 1,223 USD/toz

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 8 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเกือบ 1 % และราคาทองคำได้ลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน โดยปัจจัยกดดันราคาทองก็คือการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า ทำให้ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ได้รับแรงหนุน และส่งผลลบต่อราคาทองคำ แต่ว่าอย่างไรก็ตามต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานในวันศุกร์นี้ที่จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้ามากขึ้น

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 9.99 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.82% โดยปิดที่ 1,215.57 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,213.56 – 1,227.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,218 เหรียญ ราคาทองได้รับแรงกดดันต่อเนื่องหลังจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลลบกับราคาทองคำในช่วงนี้ และนักลงทุนยังรอตัวเลขภาคการจ้างงานในช่วงวันศุกร์ปลายสัปดาห์ที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งมีตัวเลขสัญญาอัตราดอกเบี้ยให้น้ำหนักมากกว่า 80% ในการปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือนนี้ รวมทั้งการขายของ SPDR ที่เริ่มมีแรงขายมากขึ้นตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้ราคาทองคำมีแนวโน้มที่อ่อนแอในช่วงนี้ได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดขยับลงเล็กน้อยในวันอังคารโดยราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนในช่วงแรก หลังจากรัฐมนตรีน้ำมันซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานในตลาดปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันในช่วงต่อมา จากการคาดการณ์ที่ว่าสหรัฐจะผลิตน้ำมันมากยิ่งขึ้น

• ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันอังคาร แต่ยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุดที่เข้าทดสอบในเดือนธ.ค.และม.ค.หลังจากมีการคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า

• ปอนด์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังการเปิดเผยข้อมูลการใช้จ่ายผู้บริโภคที่อ่อนแอได้ตอกย้ำความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจอังกฤษ

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 9.99 ดอลลาร์ สู่ 1,215.57 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร หลังจากดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 4 สัปดาห์ที่ 1,213.65 ดอลลาร์ในระหว่างวัน โดยราคาทองได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 15 มี.ค. อย่างไรก็ดี ราคาทองเคลื่อนไหวไม่มากนัก ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานในวันศุกร์นี้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การประชุมของธนาคารกลางยุโรป

• ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร

 

• Strategy : trading short หากราคาอยู่ต่ำกว่า 1,223 เหรียญ

Smart Stock

Today Strategy:

เงินทุนไหลออก

สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวผันผวนระหว่างวันโดยเปิดตลาดบริเวณ 975 จุด มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดหนุนให้สามารถปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกและขึ้นไปทำจุดสูงที่สุดในวันบริเวณ 978.40 จุด ก่อนมีแรงขายในช่วงบ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงท้ายตลาดกดดันให้สัญญาฯ ลงไปปิดตลาดในแดนลบที่ 972.40 จุด แม้จะปิดลบเพียง -2.6 จุด แต่ภาพการเคลื่อนไหวผันผวนขึ้นลงในวันค่อนข้างรุนแรงอย่างเห็นได้ชัด เช่นเดียวกับ SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,549.87 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันที่เบาบางเช่นเดียวกับวันก่อนหน้าเพียง 36,607.18 ล้านบาทเท่านั้น โดยนักลงทุนต่างชาติยังมุมมองขายสุทธิ -2,411.62 ล้านบาท (รวมขายสุทธิตั้งเเต่ต้นเดือนกว่า -8,128.65 ล้านบาท) รวมทั้งยังกลับมาขายตราสารหนี้ในตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างชัดเจนในรอบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา สะท้อนเม็ดเงินที่เริ่มไหลออกอย่างชัดเจน กดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 โดยเราคาดว่าเป็นผลมาจากประเด็นการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในการประชุมเดือนนี้ ซึ่งส่งผลกระทบทั้งในด้านตลาดทุน/ตลาดเงินทั่วโลก

 

• Strategy : ฝั่ง Short ได้เปรียบหากราคาต่ำกว่า 973 จุด Upside จำกัด/ฝั่ง Long ยังไม่น่าสนใจ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องที่ระดับ 35.14 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ข่าวในประเทศ

กกร.คงเป้าจีดีพีปีนี้โต 3.5-4% ปัจจัย ‘ภายใน-ภายนอก’หนุนเศรษฐกิจไทย : กกร.คงเป้าจีดีพีปี 2560 ขยายตัว ในกรอบ 3.5-4.0% หลังประเมินปัจจัย “ภายนอก-ภายใน” สดใส ไม่กังวลผลกระทบนโยบายสหรัฐในปีนี้ เหตุต้องใช้เวลา จับตาเฟดประชุม 14-15 มี.ค.นี้ กระทบค่าเงิน

- ขายข้าวรัฐอีก 1.35 ล้านตัน ระบายต่อผลิตอาหารสัตว์ : กรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า ประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวอนุมัติขายข้าวในสต๊อกรัฐบาล 1.35 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 13,200 ล้านบาท จากที่เสนอซื้อ 2.03 ล้านตัน และคิดเป็น 47% ของปริมาณที่เปิดประมูลครั้งล่าสุดกลางเดือนกุมภาพันธ์ปริมาณ 2.86 ล้านตัน ทั้งนี้ข้าวที่เหลือจากประมูลครั้งนี้จะเปิดประมูลต่อไป

- (WHAH17 )WHA เร่งอัดงบ 7 พันล้าน เสริมทัพธุรกิจระยะยาว : WHA เดินหน้าทุ่มงบราว 7 พันล้านบาท เสริมแกร่งธุรกิจระยะยาว ปูทางโกยเงินเพิ่ม “จรีพร จารุกรสกุล” วางหมากปี 2560 อัพพอร์ตรายได้ประจำ พุ่งแตะ 30% จากปีก่อนที่ราว 15% อานิสงส์เก็บเกี่ยวค่าเช่า-สาธารณูปโภค-กอง REIT หนุน

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 8 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ยังคงอ่อนแอ

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,215.57 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,211.04 – 1,218.60 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าก่อนที่จะเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ราคาทองโดนกดดันต่อเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่ขยับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ หลังจากนักลงทุนคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ รวมทั้งแรงขายของกองทุน SPDR ที่มีเข้ามาต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ก็ช่วยกดดันราคาทองเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามในคืนนี้มีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรโดย ADP ที่ต้องติดตามว่าจะกดดันราคาทองต่อหรือจะช่วยหนุนให้ราคาทองฟื้นตัวได้ หากตัวเลขออกมาแย่กว่าคาดการณ์ หากราคาทองคำปิดลบในคืนนี้จะเป็นการปิดลบติดต่อกัน 5 วันทำการ ซึ่งคาดว่าภาพรวมทองคำมีแนวโน้มอ่อนแอต่อในช่วงนี้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ในช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนในตลาดการเงินคาดว่า มีโอกาสเพียง 30 % ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค. อย่างไรก็ดี โอกาสดังกล่าวได้พุ่งขึ้นสู่ 80 % ในวันศุกร์ที่แล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายแสดงความเห็นออกมาในระหว่างสัปดาห์ ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด

- นักลงทุนตระหนักอยู่แล้วว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น, เศรษฐกิจโลกที่มีเสถียรภาพ, ตลาดหุ้นสหรัฐที่อยู่ในภาวะเฟื่องฟู และสถานการณ์ทางการเงินที่ผ่อนคลาย ถือเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้

- สำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่า จีนมียอดขาดดุลการค้าเป็นเดือนแรกในรอบ 3 ปีในเดือนก.พ. ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้นมากที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2012 เนื่องจากความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ นับตั้งแต่สินแร่เหล็กไปจนถึงน้ำมันดิบและถ่านหิน

- รัฐมนตรีคลังและผู้นำธนาคารกลางของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป (จี-20) จะประชุมกันในวันที่ 17-18 มี.ค.ที่เมืองบาเดน บาเดนในเยอรมนีเพื่อหารือเรื่องเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี ร่างแถลงการณ์สำหรับการประชุมครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ผู้นำทางการเงินของกลุ่มจี-20 อาจจะไม่ต่อต้านมาตรการกีดกันทางการค้า และไม่ต่อต้านการแข่งขันกันในการปรับลดค่าเงินอย่างชัดเจนอีกต่อไป โดยร่างแถลงการณ์ระบุเพียงแค่ว่า กลุ่มจี-20 จะรักษา "ระบบการค้าระหว่างประเทศที่เปิดกว้างและเป็นธรรม" ไว้ต่อไป

- นายมิตสึฮิโระ ฟุรุซาวะ รองผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวในวันนี้ว่า การที่ประเทศขนาดใหญ่บางประเทศมียอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสูง ขณะที่ประเทศอื่นๆ มียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดสูง ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก และอาจจะทำให้ตลาดการเงินประสบภาวะปั่นป่วนวุ่นวาย

- เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตในไตรมาส 4/2016 ในอัตราที่สูงเกินกว่าที่เคยประเมินไว้ในขั้นต้น ในขณะที่การใช้จ่ายทุนเติบโต 2.0% ต่อไตรมาส ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี และรายงานตัวเลขนี้ก็ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้กำหนดนโยบายของญี่ปุ่น ในขณะที่ผู้กำหนดนโยบายเริ่มหารือกันเรื่องวิธีการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ใช้กันมานานหลายปี

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การประชุมอัตราดอกเบี้ยและนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป

- ตัวเลขภาคการจ้างงานของสหรัฐฯ

- แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ

 

คำแนะนำ : ฝั่ง short เริ่มทยอยปิดทำกำไร และเปลี่ยนมา trading ในกรอบ

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 5 วันทำการ และราคาทองได้ไปทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 5 สัปดาห์ที่บริเวณ 1,206 เหรียญ โดยราคาทองได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทดสอบบริเวณ 102 จุด และความกังวลในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ที่จะเป็นปัจจัยลบต่อทอง รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรโดย ADP ออกมาดีกว่าคาดการณ์มาก ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้การขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ดี และต้องติดตามตัวเลขจ้างงานในคืนวันศุกร์ที่คาดว่าจะออกมาดีเช่นกัน

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 8.07 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.66% โดยปิดที่ 1,207.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,206.05 – 1,218.60 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,207 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน และราคาได้ลงไปทดสอบจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์บริเวณ 1,206 เหรียญ โดยปัจจัยที่กดดันราคาทองคือค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทดสอบบริเวณ 102 จุดอีกครั้ง จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรโดย ADP ปรับตัวขึ้นมาดีกว่าคาดการณ์อย่างมาก ออกมาที่ 298,000 ตำแหน่ง ซึ่งคาดการณ์ไว้เพียง 184,000 ตำแหน่ง ทำให้เป็นตัวบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ได้ดี แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานในวันศุกร์เป็นหลักที่คาดว่าก็จะมีแนวโน้มที่ดีเช่นกัน โดยตัวเลขสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าของสหรัฐฯ ให้น้ำหนักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าที่ 90% ทำให้ราคาทองมีโอกาสได้รับแรงกดดันต่อ

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 5.38 % สู่จุดต่ำสุดของปีนี้ในวันพุธ ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นสูงเกินคาดสู่สถิติสูงสุดใหม่ และทำให้นักลงทุนกังวลว่า ภาวะน้ำมันล้นตลาดโลกจะยังคงดำเนินต่อไป ถึงแม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พยายามหนุนราคาน้ำมันด้วยมาตรการจำกัดการผลิตน้ำมัน

• ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันพุธสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 วัน หลังข้อมูลบ่งชี้ว่าการจ้างงานในภาคเอกชนของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในเดือนก.พ. ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ของนักลงทุนที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้

• ส่วนยูโรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. ขณะที่นักลงทุนรอผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งตลาดไม่คาดว่าอีซีบีจะประกาศเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษ แม้มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นก็ตาม

• นักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ที่รัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยออกมาในวันศุกร์นี้ เพื่อใช้ตัวเลขดังกล่าวเป็นมาตรวัดความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวในสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถ้าหากตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อรักษาระดับความแข็งแกร่งไว้ได้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การประชุมของธนาคารกลางยุโรป

• ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร

 

• Strategy : trading short เป็นหลักและทยอยปิดทำกำไรบางส่วน หากราคาปรับลดลงแรง

Smart Stock

Today Strategy:

ผันผวนรุนแรง

สำหรับการซื้อขายเมื่อวานนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่สร้างความตึงเครียดให้นักลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างมาก หลังดัชนีเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนอย่างมีนัยสำคัญและไร้ทิศทางแนวโน้มอย่างชัดเจน สะท้อนความเปราะบางของอารมณ์ตลาดซึ่งได้รับแรงกดดันจากปัจจัยฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เปิดตลาดบริเวณ 971.50 จุด มีแรงขายลงไปทำจุดต่ำสุดในวันในการซื้อขายภาคเช้าบริเวณ 969.40 จุด ก่อนที่จะมีแรงซื้ออย่างรุนแรงดันสัญญาฯ ปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 980.70 จุด และปิดตลาดที่ 979.90 จุด สร้างกรอบการเคลื่อนไหวในวันถึง 11.30 จุด ในด้านของ SET index ปิดตลาดที่ 1,551.73 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันที่มากอย่างมีนัยสำคัญถึง 62,029.17 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงมีสถานะขายสุทธิ -843.46 ล้านบาท สะท้อนเงินทุนที่ไหลออกเช่นเดิม สำหรับกการเปิดสถานะซื้อขายในวันนี้ให้ระมัดระวังผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ซึ่งปรับลดลงกว่า 3 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 50.62 USD/bbl และอาจกดดันกลุ่มพลังงานภายในประเทศ

 

• Strategy : Wait & See, ถือเงินสดหลีกเลี่ยงความผันผวน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงกว่า 3 ดอลลาร์สหรัฐฯ อาจกดดันกลุ่มพลังงานภายในประเทศวันนี้

 

ข่าวในประเทศ

- สสว.เผยดัชนี TAAI คาดการณ์ภาคบริการเติบโตได้อีก : สสว. เผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการเดือนมกราคม 2560 พบว่า ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนธันวาคม 2559 ระดับ 99.0 มาอยู่ระดับ 96.8 เป็นผลจากปัจจัยด้านกำไร การลงทุนและยอดจำหน่ายที่ชะลอตัวลงหลังจากช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า คาดว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ในเดือนเมษายน 2560 ดัชนีจะกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 101.2 ในทุกภาคธุรกิจ

- รองนายกฯ สมคิดกดปุ่มตลาดประชารัฐนำร่องปีนี้ 400 แห่งทั่วปท.ดันเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เข้มแข็งแก้ 2 ปัญหาใหญ่รากหญ้าเล็งเปิดหลักสูตรใหม่ 4.0 : 'สมคิด' ร่วมเป็นสักขีพยานเอ็มโอยูขับเคลื่อนร้านค้าและตลาดประชารัฐต้นแบบ ผลักดันกองทุนหมู่บ้านฯ แกนหลักแก้ 2 ปัญหาใหญ่ประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาคตั้งเป้าร้านค้า-ตลาดต้นแบบ 400 แห่งในปีนี้

- (CPNH17)‘เซ็นทรัลพัฒนา’เร่งแปลงกองรีทหวังระดมเงินต่อยอดธุรกิจยอมรับอัตราเติบโตรายได้ลดลงเหลือ 6-8% จาก 14% : เซ็นทรัลพัฒนาเดินหน้าแปลกองทุนรวมซีพีเอ็นอาร์เอฟ เป็นกองรีท พร้อมขายสินทรัพย์เข้ากองทุน หวังนำเงินหาโอกาสทางธุรกิจ ทั้งในและต่างประเทศ เร่งกระจายความเสี่ยงยอมรับรายได้ปีนี้อัตราเติบโตลดลงเหลือ 6-8% จากปีก่อน 14%

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...