ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold เราให้น้ำหนักฝั่ง Short Position เป็นหลักจาก Sentiment เชิงลบของตลาดทองคำหลังรับข่าวตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ระดับ 253K ทำให้นักลงทุนและคตลาดมั่นใจต่อการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในการประชุมกลางเดือนนี้ สำหรับค่ำคืนนี้ขอให้นักลงทุนติดตามการประกาศดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศหลายดัชนีอย่างใกล้ชิด

 

Key Factors

• Gold สำหรับในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาราคาทองคำเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลง โดยได้รับปัจจัยลบจากค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวแข็งค่าขึ้นส่วนทาง (ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในปัจจุบันเคลื่อนไหวที่ระดับ 97.20 จุด) จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (ADP Non-Farm Employment Change) ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ระดับ 253K (จากที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 181K) ประกอบกับดัชนีตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ประกาศบวก/ลบ สลับกัน อย่างไรก็ตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสร้างความมั่นใจให้ตลาดและนักลงทุนต่อประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมในช่วงกลางเดือนนี้ อย่างไรก็ตามสำหรับการเคลื่อนไหวของตลาดทองคำในวันนี้เรามองว่ายังคงได้รับ sentiment เชิงลบจากประเด็นดังกล่าวค่อนข้างมากโดยพิจารณาจากตัวเลขการขอรับสวัสดิการของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ระดับ 248K แต่ก็ไม่สามารถพยุงราคาทองคำให้เคลื่อนไหวในแดนบวกได้ ด้านนักลงทุนสภาบันหลักอย่างกองทุน SPDR ยังคงสถานะการถือครองทองคำไว้ที่ระดับ 847.45 ตัน ในช่วงกว่า 7 วันทำการแล้ว

 

Exclusive News

• ทองคำขยับลงขณะค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า: ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ร่วงลง 2.83 ดอลลาร์ สู่ 1,265.26 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี ในขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากบริษัท ADP รายงานว่า การจ้างงานภาคเอกชนใน สหรัฐฯ พุ่งขึ้นสูงเกินคาดในเดือน พ.ค. และตัวเลขนี้ช่วยสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือน ส.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดลดลง 5.30 ดอลลาร์ ที่ 1,270.10 USD/toz

• ดอลลาร์ดีดตัวหลังตัวเลขจ้างงานเอกชนสหรัฐแกร่ง: ค่าเงินดอลลาร์ทะยานขึ้นในวันพฤหัสบดีหลังรายงานบ่งชี้ว่า การจ้างงานในภาคเอกชนของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือน พ.ค. ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์บวก 0.3% สู่ระดับ 97.18 จุด

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ

• แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

 

• Strategy : สำหรับวันนี้เรามองว่าทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบที่กว้างขึ้นโดยยังคงมี sentiment เชิงลบอยู่ ดังนั้นให้น้ำหนักฝั่ง Short Positon

Smart Stock

Today Strategy:

ปัจจัยบวก/ลบ สลับกัน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวในกรอบราคาแคบๆ ระหว่างวันหลังมีแรงขายอย่างรุนเเรงในช่วงท้ายตลาดวันก่อนหน้า โดยที่ภาพรวมยังคงไร้ปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามา ประกอบกับกระเเสเงินลงทุนต่างประเทศที่เริ่มกลับมาไหลออกจากตลาดตราสารทุนอย่างชัดเจนอย่างต่อเนื่องตามที่เราได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ในขณะที่กระแสเงินทุนบางส่วนยังคงอยู่ในตลาดตราสารหนี้พยุงให้ค่าเงินบาทยังคงเเข็งค่าต่อไป สำหรับสัญญา S50M17 เมื่อวานปิดตลาดที่ระดับ 988.10 จุด เคลื่อนไหวเช่นเดียวกับดัชนี SET index ซึ่งปิดตลาดที่ระดับ 1,563.11 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่ระดับ 41,117.43 ล้านบาท เริ่มเบาบางจากวันก่อนหน้า สำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้เรามองว่าตลาดมี Upside Gain ค่อนข้างจำกัดรวมทั้งเป็นวันศุกร์ปลายสัปดาห์ที่ sentiment เชิงลบค่อนข้างปกคลุมตลาดสินทรัพย์เสี่ยงพอสมควรโดยเฉพาะปัจจัยภายนอกทั้งเศรษฐกิจ/การเมืองในฝั่งสหรัฐฯ และฝั่งยุโรป รวมไปถึงคาบสมุทรเกาหลีซึ่งยังคงมีความไม่แน่นอน แต่อาจได้รับปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้

 

• Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา, หากราคาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 986 จุด ยังคงให้น้ำหนักฝั่ง Long Position

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- แรงขายของนักลงทุนสถาบันและต่างชาติที่กดดัน sentiment ภายใน

- Sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นฝั่งสหรัฐฯ ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา

 

ข่าวในประเทศ

- เงินเฟ้อพ.ค.ติดลบในรอบ14เดือน: สนค. เปิดเผยว่าเงินเฟ้อ เดือน พ.ค.60 เท่ากับ 100.64 ลดลง 0.04% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ค.59 นับเป็นการกลับมาติดลบครั้งแรกในรอบ 14 เดือน ตั้งแต่ มี.ค.59 ที่ -0.46% แต่เมื่อเทียบกับเดือน เม.ย.60 เพิ่มขึ้น 0.15% และเมื่อดูภาพรวมเฉลี่ย 5 เดือนที่ผ่านมา เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.81% ทั้งนี้ เพราะหมวดอาหารปรับลดลงมาก โดยเฉพาะกลุ่มผัก เนื่องจากปีนี้นี้ไม่มีปัญหาภัยแล้งทำให้ราคาเป็นปกติ จากปีก่อนที่ประสบปัญหาภัยแล้งจนดันราคาพุ่งสูง พร้อมกันนี้คาดว่า ช่วงครึ่งปีแรกนี้ เงินเฟ้อน่าจะอยู่ที่ 0.8-0.9% เนื่องจากประเมินว่า ราคาสินค้ายังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ขณะที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงอาจจะขยับขึ้นเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ดี สนค.จะทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อทั้งปี 60 นี้ ใหม่อีกครั้ง จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 1.5-2.2%

- ‘บิ๊กตู่’ต่ออายุบีโอไอ1ปี ลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ: บีโอไอ เผยว่าบอร์ดบีโอไออนุมัติขยายเวลายื่นขอรับการส่งเสิรมฯ เขตเศรษฐกิจพิเศษขายแดน 10 จังหวัดออกไปอีก 1 ปี จากเดิมจะสิ้นสุดในสิ้นปี 60 และเห็นชอบให้ส่งเสริมฯ และยังเห็นชอบให้ส่งเสริมกิจการที่เคยยกเลิกการส่งเสริมการลงทุนไปแล้ว โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขเป็นเวลา 8 ปี เพื่อคนในท้องถิ่นมีความสามารถที่จะทำธุรกิจประเภทนี้ได้

- (STECM17)STEC ชิงดำรถไฟทางคู่ เสือนอนกินงานแสนล.: STEC มั่นใจผลงานปี 2560 สดใส หลังตุน Backlog สูงเป็นประวัติการณ์กว่า 1 แสนล้านบาท ลั่นทยอยบุ๊กรายได้ยาว 3-4 ปีข้างหน้า ผู้บริหาร “ภาคภูมิ ศรีชำนิ” เล็งแผนเข้าประมูลงานรถไฟทางคู่ และงานก่อสร้างภาคเอกชน มั่นใจรายได้ปีนี้แตะ 2 หมื่นล้านบาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

คืนนี้ติดตามการเปลี่ยนแปลงการจ้างงานนอกภาคเกษตร

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในการซื้อขายภาคเช้าที่บริเวณ 1,262.30 USD/toz ภาพรวมยังคงแกว่งตัวในกรอบแนวโน้มขาลงระยะสั้น โดยเรามองว่าปัจจัยหลักมาจากการลดสถานะการถือครองทองคำของนักลงทุนในตลาดเพื่อลดความเสี่ยงจากการประกาศตัวเลขการเปลี่ยนแปลงการจ้างงานนอกภาคการเกษตรหรือ Non-Farm Employment Change ซึ่งตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 181K น้อยกว่าตัวเลขที่ประกาศครั้งก่อนที่ 211K อย่างไรก็ตามหากตัวเลขดังกล่าวประกาศออกมาตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 181K ก็มีแนวโน้มที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดทองคำและพันธบัตรรัฐบาลในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ในทางตรงกันข้ามหากประกาศออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ในเบื้องต้นก็อาจมีแรงขายออกในตลาดทองคำเนื่องจากนักลงทุนจะให้น้ำหนักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในช่วงกลางเดือนนี้อย่างมีนัยสำคัญซึ่งก็จะส่งผลลบต่อตลาดทองคำในรอบเดือนนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามสำหรับคืนนี้เราให้น้ำหนักการซื้อขายในกรอบโดยพิจารณาจากการประกาศตัวเลขการเปลี่ยนแปลงการจ้างงานนอกภาคเกษตรเป็นหลัก ในขณะที่เราก็ยังคงไม่ทิ้งประเด็นอื่นๆ เช่นดุลการค้าและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับขึ้นในช่วงสั้นๆ: ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้นพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ใน ช่วงสั้นๆในวันพฤหัสบดี หลังจากข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งในภาคเอกชนของสหรัฐฯ หนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหลายครั้งในปีนี้ ขณะที่ความระมัดระวังก่อนการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอก ภาคเกษตรในวันศุกร์ได้สกัดการเคลื่อนไหวดังกล่าว ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ปิดที่ 102-156/256 โดยมีผลตอบแทน 2.8695% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปิดที่ 101-104/256 โดยมีผลตอบแทน 2.2167%

- ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ขยับขึ้นแต่เบรนท์ร่วงลง: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ขยับขึ้นเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ดิ่งลงอย่างรุนแรงเกินคาด อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำม ันในเดือน พ.ค. ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ค.ขยับขึ้น 4 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 48.36 USD/bbl

- รัฐบาลทรัมป์ยื่นอุทธรณ์กรณีระงับคำสั่งห้ามประชาชนชาติมุสลิมเข้าประเทศ: คณะผู้บริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ขอให้ศาลสูงสุดของสหรัฐฯ คืนอำนาจให้แก่คำสั่งของ ปธน.ทรัมป์ในการห้ามประชาชนจาก 6 ประเทศเดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว หลังจากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ของสหรัฐฯ ระงับคำสั่งห้ามของ ปธน.ทรัมป์ โดยให้เหตุผลว่า คำสั่งของปธน.ทรัมป์เป็นการเลือกปฏิบัติ โดย ปธน.ทรัมป์ได้ออกคำสั่งดังกล่าวในวันที่ 6 มี.ค. โดยห้ามประชาชนจากอิหร่าน, ลิเบีย, โซมาเลีย, ซูดาน, ซีเรีย และเยเมน ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีชาวมุสลิมเป็นประชากรส่วนใหญ่ เดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ เป็นเวลา 90 วัน ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมเพิ่มความเข้มงวดในการกลั่นกรองวีซ่า

- ธนาคารกลางจีนยังคงค่าเงินหยวนไว้ที่ระดับต่ำ: หยวนอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากภาวะสภาพคล่องตึงตัวบรรเทาลงเล็กน้อยในฮ่องกง และดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในตลาดโลก ธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางหยวนที่ระดับ 6.8070 ต่อดอลลาร์ก่อนเปิดตลาดในวันนี้ เพิ่มขึ้นจากค่ากลางครั้งก่อนที่ 6.8090 ต่อดอลลาร์ และค่ากลางในวันนี้เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- (สำคัญ) ติดตามตัวเลขการเปลี่ยนเเปลงการจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือน พ.ค.

- ติดตามอัตราการว่างงาน เดือน พ.ค.และดุลการค้าสหรัฐฯ เดือน เม.ย.

 

คำแนะนำ : เปิดสถานะในกรอบราคาติดตามตัวเลขการเปลี่ยนแปลงการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเป็นหลัก

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold สำหรับวันนี้เรามองว่าตลาดทองคำยังคงได้รับ Sentiment เชิงบวกจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในค่ำคืนวันศุกร์ซึ่งค่อนข้างต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดและส่งผลต่อการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงการประชุมสัปดาห์หน้า สำหรับวันนี้เรายังคงมุมมองเชิงบวกและให้น้ำหนักฝั่ง Long Position เหมือนเดิม

 

Key Factors

• Gold การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงระหว่างวันในวันศุกร์ที่ผ่านมา ค่อนข้างทรงตัวในเเนวโน้มขาลงจากการปรับสถานะของนักลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการประกาศดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจซึ่งจะมีการประกาศค่อนข้างมาก โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรซึ่งประกาศออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดค่อนข้างมาก ส่งผลบวกต่อตลาดทองคำทำให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญระหว่างค่ำคืนถึง 13-15 ดอลลาร์ ขึ้นไปเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,277-1,279 USD/toz เเต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านระดับ 1,280 USD/toz ได้ ด้านกองทุน SPDR เพิ่มสถานะถือครองทองคำที่ระดับ 851 ตัน หลังคงสถานะไว้ที่ระดับเดิมกว่า 7 วันทำการ อย่างไรก็ตามสำหรับการเคลื่อนไหวของตลาดทองคำในวันนี้เรายังมองว่ายังคงได้รับปัจจัยบวกจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรซึ่งน้อยกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ระดับ 138,000 อัตรา ในขณะที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 181,000 อัตรา ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสร้างผลกระทบเชิงจิตวิทยาต่อคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงกลางเดือนนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และในส่วนของค่ำคืนนี้เเนะนำนักลงทุนปรับสถานะการลงทุนให้เหมาะสมเนื่องจากตลาดทองคำอาจกลับมาผันผวนจากการประกาศดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศหลายดัชนีเช่นกัน

 

Exclusive News

• ตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ หนุนราคาทองคำพุ่งขึ้น: ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 14.32 ดอลลาร์ หรือ 1.13 % สู่ 1,279.58 USD/tozในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดรอบ 6 สัปดาห์ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำเกินคาดของสหรัฐฯ เพราะตัวเลขดังกล่าวกดดันดอลลาร์ให้ร่วงลงและทำให้นักลงทุน ปรับลดการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งแกร่งในช่วงต่อไปในปีนี้ ทั้งนี้ ราคาทองคำ ส่งมอบเดือน ส.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดพุ่ง ขึ้น 10.10 ดอลลาร์ ที่ 1,280.20 USD/toz

• ค่าเงินดอลลาร์ร่วงงต่ำสุดในรอบ 7 เดือนหลังข้อมูลจ้างงานอ่อนแอเกินคาด: ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนในวันศุกร์ หลังข้อมูลบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการจ้างงานน้อยกว่าคาดในเดือน พ.ค. ซึ่งอาจสกัดกั้นการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.5% สู่ระดับ 96.725 จุด หลังร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ

• แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

 

• Strategy : คงมุมมองบวกต่อตลาดทองคำ

Smart Stock

Today Strategy:

ติดตามแถลงการณ์เรื่องเกณฑ์คุมค่าเงินจาก ธปท.

สำหรับการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีเเรงซื้อกลับเข้ามาพยุงตลาด หลังมีเเรงขายอย่างรุนแรงในช่วงท้ายตลาดวันพุธ โดยภาพรวมของการเคลื่อนไหวตลอดสัปดาห์เเกว่งตัวในกรอบเเคบระหว่างวัน (ยกเว้นวันพุธซึ่งได้รับผลกระทบจากการ Rebalancing ในดัชนี MSCI) โดยเรามองว่าปัจจัยบวกภายในประเทศยังคงไม่มี ดังนั้นการปรับขึ้นตลอดเกือบสองสัปดาห์เป็นผลมาจากกระเเสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งพิจารณาได้จากค่าเงินบาทที่เเข็งค่าขึ้น(สูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี) เเละการสะสมสถานะลงทุนในตลาดตราสารทุนเเละตราสารหนี้ รวมไปถึงในตลาดตราสารอนุพันธ์บางส่วน โดยดัชนีหลักอย่าง SET Index ปิดตลาดที่ระดับ 1,567.60 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่ยังคงเบาบางเหมือนตลอดสัปดาห์เพียง 36,052.01 ล้านบาท ในขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 ปิดตลาดสิ้นวันที่ระดับ 990.50 จุด โดยที่ภาพการเคลื่อนไหวหลักค่อนข้างคล้ายคลึงกับ SET Index เเต่จะมีเเรงซื้อในช่วงท้ายตลาดมากกว่าเล็กน้อย สำหรับวันนี้เรามองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีเเนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนจากหลายประการโดยเฉพาะปัจจัยฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งตลาดหุ้นปรับขึ้นในวันศุกร์ท่ามกลางการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ลดลงต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดอย่างมีนัยสำคัญ

 

• Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา, ให้น้ำหนักฝั่ง Long Position

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- วันนี้ติดตามแถลงปฎิรูปเกณฑ์คุมค่าเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทย

- Sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นฝั่งสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ผ่านมา (New High)

 

ข่าวในประเทศ

- ถก"รุ่นใหม่"ดันธุรกิจเข้า MAI แนะทายาทเจ้าสัวทำแผน เป้าปีนี้ไอพีโอเพิ่ม15บริษัท: ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ รุกหารือทายาทนักธุรกิจหอการค้า-สอท. ทำแผนส่งเสริมธุรกิจครัวเรือนเข้าระดมทุนตลาด mai หลังเจ้าสัวเริ่มวางมือให้เด็กรุ่นใหม่บริหารกิจการมากขึ้น "ประพันธ์" คาดปีนี้ มีไอพีโอใหม่เข้า mai จำนวน 15 บริษัท มาร์เก็ตแคป 20,000 ล้านบาท

- เอาแน่เก็บภาษี"ลาภลอย" รายได้อานิสงส์รัฐลงทุน มูลค่า50ล้านบาทขึ้นไป: คลังเอาแน่เก็บภาษีลาภลอย รายได้ของผู้ที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ สศค.เปิดประชาพิจารณ์ รับฟังข้อดี-ข้อเสียก่อนนำเสนอ ครม. กำหนดรายได้เกิน 50 ล้านบาทขึ้นไปต้องเสียภาษี

- (BJCM17)BJC การันตีเติบโตทุกธุริจ ทุ่มหมื่นล.อัพฐานแกร่ง: BJC ตั้งเป้าโกยรายได้รวมปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1.37 แสนล้านบาท พร้อมอัดฉีดงบลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาท ขยายสาขาของ BIGC ทั้งในและต่างประเทศ หนุนยอดขายเพิ่มและลงทุนเตาหลอมหวังเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนของ BJC ส่วนดีลคาดถอน BIGC ออกจากตลท. ลุ้นผู้ถือหุ้นไฟเขียวมิถุนายนนี้

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

สร้างฐานราคาด้านบน

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในการซื้อขายภาคเช้าที่บริเวณ 1,280.11 USD/toz ภาพรวมยังคงแกว่งตัวในกรอบแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น หลังได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ประกาศต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด อย่างไรก็ตามในประเด็นนี้เรามองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนและตลอดต้นสัปดาห์นี้ก็จริง แต่ต้องยอมรับว่าไม่ว่าตัวเลขดังกล่าวจะประกาศ สูง/ต่ำกว่าคาดการณ์ชองตลาดคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารก็ยังคงมีแนวโน้มเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยที่ทาง Fed Watch Tool คาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 100-125 Basis Point ในการประชุมกลางเดือนนี้ถึง 94.60% อีกปัจจัยหนึ่งที่เข้ามาขับเคลื่อนตลาดทองคำและสร้าง Sentiment เชิงบวกในระหว่างวันช่วงสั้นๆ ได้แก่การกลับเข้ามาซื้อทองคำสะสมของกองทุน SPDR กว่า +3.55 ตัน ทำให้มีสถานะถือครองทองคำสุทธิอยู่ที่ระดับ 851 ตัน โดยในประเด็นนี้เรามองว่าอาจเป็นการส่งสัญญาณบ้างอย่างในตลาดทองคำหลังจากที่ทางกองทุนถือครองทองคำสุทธิไว้ที่ระดับ 847.45 ตัน ติดต่อกันเป็นเวลากว่า 7-8 วันทำการแล้ว สำหรับการเคลื่อนไหวของตลาดทองคำในค่ำคืนนี้เรามองว่าอาจมีแรงขายสร้างความผันผวนและสร้างกรอบการเคลื่อนไหวที่กว้างขึ้นบ้างโดยเฉพาะระดับนัยสำคัญที่ 1,280-1,281USD/toz แนะนำนักลงทุนติดตามการประกาศดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะ ผลการผลิตนอกภาคการเกษตร (ปรับปรุง) ไตรมาส1/60 q/q และดัชนีสภาวะตลาดแรงงาน เดือน พ.ค. m/m

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ทองคำยังคงได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ: ราคาทองคำในตลาดสปอตทรงตัวในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ในช่วงแรก โดยได้แรงหนุนหลังจากรายงานการจ้างงานที่น่าผิดหวังของสหรัฐฯได้ลดแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยที่ ณ เวลา 09.17 น.ตามเวลาไทย ราคาทองอยู่ที่ 1,279.74 USD/toz +0.16 ดอลลาร์ หลังจากพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 1,281.86 USD/toz ในช่วงแรกซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย.

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงหลังเผยข้อมูลจ้างงาน: ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะยาวร่วงลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 เดือน และผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นแตะระดับต่ำสุด ในรอบกว่า 2 สัปดาห์ในวันศุกร์ หลังจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงท่าทีนโยบายที่ระมัดระวังของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลัง เดือน มิ.ย. ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ปิดที่ 103-204/256 โดยมีผลตอบแทน 2.8115% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดที่ 101-236/256 โดยมีผลตอบ แทน 2.1591%

- น้ำมันดิบดิ่งลง 1.5%,กังวลสหรัฐฯ เพิ่มผลิตน้ำมัน: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า (WTI)NYMEX ดิ่งลง 1.5 % ในวันศุกร์ และปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนลบเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ให้สหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส อาจส่งผลให้สหรัฐฯผลิตน้ำมันมากยิ่งขึ้น และจะทำให้ มีน้ำมันล้นตลาดโลกมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ค.ดิ่ง ลง 70 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 47.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

- รองผู้อำนวยการ IMF แนะเอเชียเผชิญปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจ: นายมิตสึฮิโระ ฟุรุซาวะ รองผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวในวันจันทร์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงบางประการ ซึ่งรวมถึงการขาดความชัดเจนในเรื่องที่ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการกระตุ้นทางการคลังที่มีขนาดใหญ่เพียงใดและสินเชื่อภายในประเทศของจีนจะเติบโตอย่างรวดเร็วเพียงใด โดยนายฟุรุซาวะตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าหากธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเกินคาด ปัจจัยนี้ก็อาจส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชียที่มีหนี้จำนวนมากในรูปดอลลาร์มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ติดตามการแถลงการณ์ต่อสื่อของ ECB และการเลือกตั้งทั่วไปอังกฤษในวันพฤหัสบดี

- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังคงอ่อนค่าที่ระดับ 96.77 จุด

 

คำแนะนำ : ยังคงมุมมองให้น้ำหนักฝั่ง Long Position หากราคาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1,258-1,276 USD/toz และระวังแรงขายทำกำไร

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 6 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ตลาดทองคำยังคงได้รับปัจจัยบวกจากความไม่แน่นอนในสถานการณ์โลกทั้งฝั่งสหรัฐฯ และยุโรป รวมไปถึงประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศที่เข้ามาหนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวแบบครึ่งๆ กลางๆ ทำให้เรามองว่า Upside Gain ของทองคำมีค่อนข้างมาก ดังนั้นสำหรับวันนี้เรายังคงมุมมอง Long Position ตามเดิม

 

Key Factors

• Gold ตลาดทองคำยังคงมีทั้งปัจจัยบวกเเละปัจจัยลบสลับกันไป โดยภาพรวมการซื้อขายระหว่างวันเมื่อวานนี้สำหรับเวลาประเทศไทยและในช่วงค่ำคืนถือว่าเคลื่อนไหวในกรอบราคาเเละสามารถทรงตัวในเเนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นได้ อย่างไรก็ตามเรามองว่าปัจจัยต่างๆ ทั้งปัจจัยบวกเเละปัจจัยลบยังคงเข้ามากระทบตลาดทองคำอยู่เรื่อยๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เเละมีเเนวโน้มที่จะสร้างความผันผวนระหว่างสัปดาห์ได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจัยเเรกคงหนีไม่พ้นการเลือกตั้งอังกฤษเเละการเเถลงการณ์ต่อสื่อของ ECB โดยเฉพาะเรื่องการคงอัตราดอกเบี้ย(ตลาดคาดการณ์คงอัตราดอกเบี้ย) เเละมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัจจัยต่อไปเราให้น้ำหนักการก่อการร้ายในอังกฤษซึ่งสะท้อนความไม่มีเสถียรภาพเเละความมั่นคงที่ยังสั่นคลอนก็เป็นปัจจัยบวกให้ตลาดทองคำระยะสั้นๆ ได้ ส่วนประเด็นสุดท้ายในห้วงสัปดาห์นี้คือ Sentiment ของตลาดสหรัฐฯ เเละตลาดโลกหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งสามตลาดหลักทำจุดสูงสุดใหม่ โดยสำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้เรายังมองว่าตลาดทองคำอาจได้รับปัจจัยบวกจากค่าเงินดอลลาร์ที่ยังถือว่าอ่อนค่าอยู่อย่างต่อเนื่อง

 

Exclusive News

• ดอลล์ทรงตัวขณะตลาดหันจับตาประชุมอีซีบี,เลือกตั้งอังกฤษ: ดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันจันทร์ โดยฟื้นตัวขึ้นจากใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่เข้าทดสอบในวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนกลับมาให้ความสนใจในสัปดาห์นี้ต่อการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และการเลือกตั้งรัฐสภาในอังกฤษ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินบวก 0.1% สู่ระดับ 96.809 จุด

• ทองทรงตัวหลังแตะจุดสูงสุด 6 สัปดาห์: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ขยับลง 13 เซนต์ สู่ 1,279 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ หลังจากพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 6 สัปดาห์ที่ 1,283.27 USD/toz ในระหว่างวัน ในขณะที่ตัวเลขการจ้างงานที่น่าผิดหวังของสหรัฐทำให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรั บ ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งแกร่งในช่วงต่อไปในปีนี้ อย่างไรก็ดี เฟดยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ

• แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

 

• Strategy : คงมุมมองให้น้ำหนักฝั่ง Long Position

Smart Stock

Today Strategy:

เงินบาทแข็งค่า

สำหรับเมื่อวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดในภาคเช้าในเเดนบวก เกิดช่องว่างของราคาหรือ Positive Trading Gap สะท้อนกำลังซื้อที่สะสมอยู่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเรามองว่าน่าจะได้รับปัจจัยบวกจากการทำจุดสูงสุดใหม่ของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลักๆ ทั้งสามดัชนี เเต่อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นดัชนีตลาดหุ้นไทยก็เเกว่งในกรอบขาดไร้ปัจจัยบวกใหม่ๆภายในประเทศรวมทั้งได้รับ Sentiment เชิงลบจากการก่อการร้ายในอังกฤษทำให้ภาพรวมทั่วๆไปดูไม่สดใสมากนัก กระเเสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าออกเริ่มไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม Upside ก็ยังถูกจำกัดอยู่ทั้งจากปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นเเละเศรษฐกิจภาค Real Sector โดยที่ดัชนีหลักอย่าง SET Index ปิดตลาดที่ระดับ1,566.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวัน 43,672.90 ล้านบาท ในขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 ปิดตลาดที่ระดับ 983.3 จุด สำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้เเละตลอดสัปดาห์นี้เรามองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยน่าจะมีความผันผวนจากการปรับสถานะลงทุนของนักลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงจากประเด็นต่างๆ ทั้งการเลือกตั้งอังกฤษเเละการเเถลงการต่อสื่อของ ECB ในวันพฤหัสบดี

 

• Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าต่อเนื่องที่ระดับ 33.98 บาท/USD

- Sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นฝั่งสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ผ่านมา (New High)

 

ข่าวในประเทศ

- 'ไทยพาณิชย์' ชี้เอสเอ็มอีเริ่มฟื้น ลดดอกเบี้ย-เศรษฐกิจฟื้น หนุนยอดหล่อยกู้ทั้งปี 4-6% คุมเอ็นพีแอล 6%: ไทยพาณิชย์ชี้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเริ่มกลับเข้ามาขอสินเชื่อเพิ่ม หลังปรับลดดอกเบี้ยช่วยรายย่อยลดต้นทุนการเงิน โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อาหารและเครื่องดื่ม คาดหนุนสินเชื่อทั้งปีโตตามเป้า 4-6% แม้ภาพรวมช่วง 5 เดือนแรกไม่ค่อยเติบโต ตั้งเป้ารักษาระดับเอ็นพีแอลให้อยู่ในระดับเท่ากับปีก่อน 6%

- หวั่นภาษีปีนี้พลาดเป้าแสนล. ราคาน้ำมันต่ำ-ช้อปช่วยชาติทำรายได้สูญก้อนโต สรรพากรชี้มาตรการบัญชีเล่มเดียว ดันภาษีมูลค่าเพิ่มพุ่ง: สรรพากรประเมินยอดจัดเก็บภาษีของกรมฯ ปีนี้ต่ำเป้าร่วมแสนล้านบาท ผลพวงราคาน้ำมันต่ำทำภาษีหาย 4.5 หมื่นล้านบาท และมาตรการลดหย่อนภาษีกระตุ้นบริโภคกระทบภาษีหลักหมื่นล้านบาท ขณะที่มาตรการจัดทำบัญชีเล่มเดียว ทำให้ภาษีนิติบุคคลรายกลางและรายเล็กพุ่ง

- (BANPUM17)BANPU ควัก 1.2 พันล. ขยายพลังงานทดแทน เปิดช่องโกยเงินเพิ่ม: BANPU เดินหน้าทุ่มงบราว 1.2 พันล้าบาท ขยายฐานธุรกิจพลังงานทดแทน เปิดช่องโกยเงินเพิ่ม คาดชัดเจนปีหน้า บอสใหญ่ “ชนินท์ ว่องกุศลกิจ” วางหมากอัพพอร์ตพลังงานขยับเพิ่มมากขึ้น

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 6 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

Upside Gain ดูดี

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในการซื้อขายภาคเช้าที่บริเวณ 1,282.78 USD/toz ภาพรวมยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นโดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่ระดับ1,286.29 USD/toz ดูยังมี Upside Gain ที่ดีอยู่โดยเฉพาะจากปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ ทั้งจากการเลือกตั้งอังกฤษและมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มสหภาพยุโรปซึ่งจะมีการแถลงในช่วงวันพฤหัส โดยที่ในประเด็นนี้เรามองว่าน่าจะเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางการเคลื่นไหวของตลาดทองคำตลอดช่วงสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะการเข้ามาปรับเพิ่มหรือลดสถานะลงทุนของนักลงทุนในตลาด อย่างไรก็ตามเรายังคงให้น้ำหนักเชิงบวกต่อตลาดทองคำโดยเฉพาะหากราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 1,280 USD/toz สำหรับค่ำคืนนี้แนะนำนักลงทุนติดตามจำนวนตำแหน่งงานนอกภาคการเกษตร เดือน เม.ย.และการสำรวจความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจจาก IBD/TIPP เดือน มิ.ย. อย่างใกล้ชิด

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาพันธบัตรปรับตัวลง: ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลงท่ามกลางภาวะซื้อขายเบาบางในวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไร หลังจากการพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์จากรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด และบ่งชี้ถึงท่าทีที่มีนโยบายระมัดระวังมากขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังเดือนมิ.ย. ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ลดลง 10/32 โดยมีผลตอบแทน 2.828% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลง 4/3 2 โดยมีผลตอบแทน 2.173%

- ปัญหากาตาร์กดราคาน้ำมันร่วงลง: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงในวันจันทร์ โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า การที่ซาอุดิอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE), บาห์เรน และอียิปต์ตัดความสัมพันธ์ กับกาตาร์ อาจจะเป็นอุปสรรค ขัดขวางการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบ เดือน ก.ค.ร่วงลง 26 เซนต์ หรือ 0.55 % มาปิดตลาดที่ 47.40 USD/bbl

- ทรงตัวหลังแตะจุดสูงสุด 6 สัปดาห์: ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ขยับลง 13 เซนต์ สู่ 1,279.45 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ หลังจากพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 6 สัปดาห์ที่ 1,283.27 USD/toz ในระหว่างวัน ในขณะที่ตัวเลขการจ้างงานที่น่าผิดหวังของสหรัฐฯทำให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งแกร่งในช่วงต่อไปในปีนี้ อย่างไรก็ดีเฟดยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ติดตามการแถลงการณ์ต่อสื่อของ ECB และการเลือกตั้งทั่วไปอังกฤษในวันพฤหัสบดี

- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังคงอ่อนค่าที่ระดับ 96.65 จุด

 

คำแนะนำ : ยังคงมุมมองให้น้ำหนักฝั่ง Long Position หากราคาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1,280 USD/toz

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 7 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold สำหรับวันนี้เรามองว่าทองคำยังคงได้รับปัจจัยบวกในภาพรวม แต่ต้องระมัดระวังแรงขายบริเวณ 1,300 USD/toz ซึ่งหากสามารถทะลุระดับดังกล่าวไปได้ก็มีแนวโน้มที่จะกลับสู่ขาขึ้นระยะกลางอีกครั้ง อย่างไรก็ตามแนะนำนักลงทุนติดตามตลาดอย่างใกล้ชิดเนื่องจากอาจมีการปรับสถานะลงทุนของนักลงทุนสถาบันก่อนที่ทองคำจะสามารถทะลุผ่านระดับ 1,300 USD/toz ไปได้ โดยเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดทองคำโดยให้กรอบราคาไว้ที่ 1,288-1,300 USD/toz

 

Key Factors

• Gold ภาพรวมราคาทองคำยังคงแกว่งตัวในกรอบด้านบนได้รับปัจจัยบวกจากปัจจัยทางการเมืองระหว่างประเทศและคาดการณ์การประชุมของ ECB ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยของฝั่งยุโรป รวมไปถึงการเลือกตั้งของอังกฤษซึ่งเริ่มมีความไม่แน่นอนว่านางเทเรซ่า เมย์ จะชนะการเลือกตั้งตามคาดการณ์ของตลาดหลังคะแนนนิยมเริ่มกลับมาใกล้เคียงอีกครั้ง ทำให้เรามองว่าตลาดทองคำยังมีปัจจัยหนุนอยู่พอสมควรและยังมี Upside Gain ให้เล่น ด้านกองทุน SPDR ซื้อสุทธิทองคำ +4.16 ตัน รวมมีสถานะถือครองทองคำที่ระดับ 855.16 ตัน อย่างไรก็ตามให้ระมัดระวังแรงขายบริเวณ 1,300 USD/toz ด้วยโดยถ้าหากทองคำสามารถทะลุระดับดังกล่าวไปได้ก็มีแนวโน้มที่จะกลับสู่ขาขึ้นระยะกลางอีกครั้ง เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดทองคำโดยให้กรอบราคาไว้ที่ 1,288-1,300 USD/toz

 

Exclusive News

• ทองคำพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุด 7 เดือน: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 14.05 ดอลลาร์ หรือ 1.10 % สู่ 1,293.50 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร หลังจากทะยานขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 7 เดือนที่ 1,295.97 ดอลลาร์ในระหว่างวัน โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากการที่ดอลลาร์ดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 7 เดือน และจากคำสั่งซื้อทอง ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ในขณะที่เกิดความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง, ธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี) จะจัดการ ประชุมกำหนดนโยบายในวันพฤหัสบดี และอังกฤษจะจัดการเลือกตั้งในวันพ ฤหัสบดี ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดพุ่งขึ้น 14.80 ดอลลาร์ ที ่ 1,297.50 USD/toz

• ดอลล์อ่อนค่าเทียบเยนก่อนเลือกตั้งอังกฤษ,ประชุมอีซีบี: ดอลลาร์อ่อนค่าลง สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับเยนในวันอังคาร โดยลดลงต่ำกว่าระดับสำค ัญทางเทคนิค ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลงจากความ ระมัดระวังก่อนเกิดเหตุกา รณ์สำคัญๆ ในวันพฤหัสบดีนี้ ทั้งนี้ ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.92% สู่ระดับ 109.43 เยน หลัง ร่วงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในรอบ 200 วันที่ 109.23 เยนซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้ง แต่วันที่ 21 เม.ย. ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินสำคัญลดลง 0.24% สู่ระดับ 96.567 จุด

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ

• แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

 

• Strategy : คงมุมมองให้น้ำหนักฝั่ง Long Position แต่ให้ระมัดระวังแรงขายบริเวณ 1,300 USD/toz

Smart Stock

Today Strategy:

กลับมาผันผวน

ภาพการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับมาผันผวนอีกครั้งหลังได้รับปัจจัยกระทบจากภายนอกทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบ ในขณะที่ต้องยอมรับว่าปัจจัยภายในประเทศยังไม่โดดเด่น ส่งผลให้การเคลื่อนไหวเริ่มไร้ทิศทางโดยที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มปรับสถานะลงทุนเพื่อเตรียมรับความเสี่ยงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า รวมไปถึงปัจจัยระยะใกล้ อย่างการเลือกตั้งของอังกฤษและการประชุมของ ECB ในวันพรุ่งนี้ ส่งผลให้กระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มไหลเข้า/ออกสลับกันไม่ชัดเจน สำหรับดัชนี SET Index เมื่อวานนี้ ปิดตลาดที่ระดับ 1,568.95 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ไม่มากไม่น้อย 41,596.02 ล้านบาท ในขณะที่สัญญา S50M17 ปิดตลาดที่ระดับ 990.90 จุด โดยที่มีลักษณะการซื้อเข้าในช่วงท้ายตลาดทั้งคู่ สำหรับวันนี้เรามองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนไร้ทิศทางแนะนำเปิดสถานะในกรอบราคา

 

• Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา, หากไม่รับความเสี่ยงให้ถือเงินสด

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การเลือกตั้งทั่วไปประเทศอังกฤษ (8 มิ.ย.)

 

ข่าวในประเทศ

- กกร.ผวาเงินบาทแข็งค่าเร็ว หวั่นทุนต่างชาติทะลักเข้าไทย จี้รายย่อยรับมือประกันเสี่ยง: สภาหอการแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันประกอบด้วย สภาหอฯ สมาคมธนาคารไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ว่า กกร.เตรียมร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการรายย่อยทำประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (เฮดจิ้ง) เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากทิศทางการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากขณะนี้มีผู้ประกอบการรายย่อย ทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเพียง 10-20% เท่านั้น

- กสอ.หนุนคลัสเตอร์มั่นใจช่วยดันศก.: กสอ. เผยว่าได้พัฒนาผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี และสนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันในรูปของคลัสเตอร์โดยดำเนินการมาแล้ว 11 ปี เกิดการสร้างเครือข่ายธุรกิจทั้งหมด 86 กลุ่มอุตสาหกรรม โดยปี 59 สามารถสร้างมูลค่ายอดขายได้ถึง 50,639 ล้านบาท สร้างมูลค่าเพิ่มจากการส่งออก 1,557 ล้านบาท และลดต้นทุนดำเนินธุรกิจ อุตสาหกรรม 103 ล้านบาท มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศได้ 3-4%ต่อปี โดยคลัสเตอร์อุตสาหกรรม

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 7 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ลุ้น 1,300 USD/toz

ทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าวันนี้บริเวณ 1,292.94 USD/toz เริ่มเคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบแต่ภาพรวมยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นทั้งในระยะสั้น-กลาง โดยเรามองว่ามีแรงซื้อเข้าในสินทรัพย์ปลอดภัยทั้งทองคำและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (โดยเฉพาะพันธบัตรระยะยาว) จากหลากหลายปัจจัยในตลาด แต่ที่เราให้น้ำหนักสำหรับวันนี้มากเป็นพิเศษคงหนีไม่พ้นการเลือกอังกฤษและตั้งการประชุมของ ECB ที่มีกำหนดการในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเรามองว่าค่อนข้างมีนัยสำคัญมากพอที่จะกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดทองคำได้พอสมควร อย่างไรก็ตามเรามองว่า ECB มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อนเพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่เป้าหมายอย่างเหมาะสม สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้เรายังคงมองว่า Upside ของทองคำยังมีอยู่หลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือน แต่มีโอกาสสูงมากที่จะมีแรงเทขายทำกำไรบริเวณ 1,300 USD/toz โดยเรามองกรอบตัดสินใจระหว่างค่ำคืนนี้บริเวณที่ระดับ 1,290 - 1,300 USD/toz ติดตามการประกาศดัชนีสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคสหรัฐฯ เดือน เม.ย. (m/m) ประกอบการตัดสินใจแต่อย่างไรเรามองว่าประเด็นดังกล่าวไม่น่าจะสร้างผลกระทบต่อตลาดอย่างมีนัยสำคัญเท่าใด

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- บอนด์ยิลด์ร่วง: ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตรก่อนการเลือกตั้งของอังกฤษในวันพฤหัสบดี, การประชุมนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และการให้การต่อคณะกรรมการของ วุฒิสภาของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี เพิ่มขึ้น 22/32 ที่ 103-228/256 โดยมีผลตอบแ ทน 2.807% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี อยู่ที่ 102-24/256 โดยมีผลตอบแทน 2.1399%

- ปัจจัยเทคนิคหนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยทางเทคนิค หลังจากราคาร่วงผ่านระดับ 47 ดอลลาร์ลงไปในช่วงแรก โดยได้รับแรงกดดันจากความขัดแย้งทางการทูตในภูมิภาคตะว ันออกกลางและจากสต็อกน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องในสหรัฐฯ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 79 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 48.19 USD/bbl

- สินทรัพย์ปลอดภัยปรับขึ้นสวนทาง: ราคาทองและพันธบัตรรัฐบาลพุ่งขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อคืนนี้ ขณะที่หุ้นเอเชียล่าสุดแทบไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากที่ปรับตัวลงในช่วงแรก เนื่องจากนักลงทุนลดความเสี่ยงลงก่อนเกิดเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองและเศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งของอังกฤษ, การประชุมนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งกรรมการอาจจะแสดงท่าทีเชิงคุมเข้มนโยบายมากขึ้นและการให้การต่อวุฒิสภาของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ในวันพรุ่งนี้นักลงทุนจึงระมัดระวังต่อการเข้าถือสถานะการลงทุนจำนวนมาก ณ เวลา 09.53 น.ตามเวลาไทย ดัชนี MSCI สำหรับตลาดหุ้นเอเชีย-แปซิฟิกไม่รวมญี่ปุ่นบวก 0.01% หลังจากปรับตัวลง 0.2% ในช่วงแรกหลังจากที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีเมื่อวันจันทร์ ขณะที่ตลาดหุ้นออสเตรเลีย และตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลงเช่นกัน

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ติดตามการแถลงการณ์ต่อสื่อของ ECB และการเลือกตั้งทั่วไปอังกฤษในวันพฤหัสบดี

- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังคงอ่อนค่าที่ระดับ 96.63 จุด

- Sentiment ของตลาดทองคำเมื่อเข้าใกล้บริเวณ 1,300 USD/toz

 

คำแนะนำ : เปิดสถานะในกรอบราคา, พิจารณาแรงขายบริเวณ 1,300 USD/toz

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold วันนี้เรามองว่าตลาดทองคำมีปัจจัยที่เข้ามากระทบและกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวค่อนข้างมากทั้งการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศอังกฤษและการประชุมของ ECB เรื่องการกำหนดนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับราคาเคลื่อนไหวเข้าใกล้ระดับ 1,300 USD/toz ทำให้มีแนวโน้มที่ตลาดทองคำจะผันผวนรุนแรง ดังนั้นแนะนำนักลงทุนลดสถานะการถือครองเพื่อป้องกันความเสี่ยงและถือเงินสดรอดีกว่า

 

Key Factors

• Gold ตลาดทองคำมีแรงขายค่อนข้างชัดเจนในค่ำคืนที่ผ่านมาแต่ภาพรวมก็ยังถือว่าทรงตัวอยู่ได้ในแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้นได้ โดยที่ในส่วนนี้เรามองว่าเป็นแรงขายทำกำไรของนักลงทุนในตลาดโดยเฉพาะเมื่อราคาทองคำเข้าใกล้บริเวณที่มีนัยสำคัญ 1,300 USD/toz เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากหลายประเด็นทั้งระยะสั้นในสัปดาห์นี้และระยะกลางในสัปดาห์หน้า โดยในวันนี้ปัจจัยที่กระทบตลาดทองคำหลักๆ คงหนีไม่พ้นการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศอังกฤษและการประชุมของ ECB เรื่องการกำหนดนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามทองคำก็ยังได้รับปัจจัยบวกจากการปรับเพิ่มสถานะการถือครองทองคำของกองทุน SPDR ซึ่งเมื่อคืนนี้ที่ระดับ 864.93 ตัน สร้าง sentiment เชิงบวกเข้ามาพยุงตลาดได้ในระดับหนึ่ง สำหรับวันนี้เรามองว่าทองคำน่าจะเคลื่อนไหวผันผวนมากพอสมควร แนะนำนักลงทุนถือเงินสดปลอดภัยกว่า

 

Exclusive News

• ดอลล์อ่อนค่าเทียบเยนก่อนเลือกตั้งอังกฤษ,ประชุมอีซีบี: ดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับเยนในวันอังคาร โดยลดลงต่ำกว่าระดับสำคัญทางเทคนิค ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯลดลงจากความ ระมัดระวังก่อนเกิดเหตุการณ์สำคัญๆ ในวันพฤหัสบดีนี้

• ทองพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุด 7 เดือน: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 14.05 ดอลลาร์ หรือ 1.10 % สู่ 1,293.50 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร หลังจากทะยานขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 7 เดือนที่ 1,295.97 ดอลลาร์ในระหว่างวัน โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากการที่ดอลลาร์ดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 7 เดือน และจากคำสั่งซื้อทอง ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ในขณะที่เกิดความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง, ธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี) จะจัดการ ประชุมกำหนดนโยบายในวันพฤหัสบดีและอังกฤษจะจัดการเลือกตั้งในวันพฤหัสบดี

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ

• แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

 

• Strategy : ถือเงินสดและลดสถานะการถือครอง

Smart Stock

Today Strategy:

ปรับตัวลงในกรอบราคา

สำหรับเมื่อวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบในกรอบราคาเดิม โดยที่ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ระดับ 1,566.58 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่ระดับ 43,501.56 ล้านบาท ในขณะที่สัญญา S50M17 ปิดตลาดในแดนลบที่ระดับ 989.40 จุด เช่นกัน โดยส่วนหนึ่งมาจากกระแสเงินทุนที่ไหลออกจากตลาดหุ้นในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่ตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยทั้งในส่วนของตลาดทองคำและตลาดตราสารหนี้ โดยภาพการเคลื่อนไหวค่อนข้างเป็นไปตามภูมิภาคซึ่งปรับตัวลงเช่นกัน ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เองก็เริ่มทรงตัวหลังทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ให้นักลงทุนชื่นใจเมื่อคืนวันก่อน อย่างไรก็ตามสำหรับการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นวันนี้เรามองว่าน่าจะเริ่มกลับมาผันผวนจากปัจจัยภายนอกโดยเฉพาะการเลือกตั้งของประเทศอังกฤษที่โพลสำรวจเริ่มให้ความเห็นต่างออกไปจากเดิมจากตอนแรก รวมทั้งประเด็นอัตราดอกเบี้ยและผลการประชุมเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ECB

 

• Strategy : ให้น้ำหนักฝั่ง Short Position

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การเลือกตั้งทั่วไปประเทศอังกฤษและการประชุม ECB

 

ข่าวในประเทศ

- คลังยืนเกณฑ์เก็บภาษีที่ดิน ลุ้นสนช.พิจารณาเคาะราคาบ้านใหม่ แนะหากปรับเกณฑ์ใหม่ควรปรับทุกประเภท: รมช.คลังเปิดเผยว่า ขณะนี้กรรมาธิการสามัญสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยังอยู่ระหว่างพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างวาระ 2 ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปการยกเว้นจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประเภทที่อยู่อาศัยว่ามูลค่าไม่ควรเกินเท่าไหร่ จากร่างกฎหมายเดิมที่เสนอให้ยกเว้นที่อยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท เนื่องจากมีบางคนไม่เห็นด้วยเพราะเป็นการยกเว้นที่มีมูลค่าสูงมากเกินไป

- สมคิดย้ำอาเบะ เดินหน้า4เรื่อง ผนึกไทย-ญี่ปุ่น: นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้เข้าพบนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระหว่างเยือนญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 4-8 มิ.ย.2560 โดยยื่นขอเสนอขอความร่วมมือ เพื่อผลักดันการค้าการลงทุนร่วมกันใน 4 ประเด็น คือ 1.ขอให้ญี่ปุ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการวางยุทธศาสตร์ CLMVT ในการประชุมสุดยอดอาเซียนปลายปีนี้

- BTSโตเท่าตัว บุ๊ก 3 ธุรกิจหลักลุยรถไฟฟ้าต่อ: BTS ส่งซิกผลงานปีนี้เติบโตเท่าตัวรับทรัพย์จาก 3 ธุรกิจเต็มสูบ โดยเฉพาะงานติดตั้งระบบและจัดหารถไฟฟ้าสายสีเขียวที่จะรับรู้ประมาณ 6,000-9,000 ล้านบาท พร้อมอัดงบลงทุน 8,000-10,000 ล้านบาท ขยายฐาน จัดทัพลุยประมูลงานรถไฟฟ้าต่อเนื่อง

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold สำหรับวันนี้เรามองว่าตลาดทองคำยังไม่มีปัจจัยบวกใดที่ชัดเจนและมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในแดนลบมากกว่าจากแรงขายของนักลงทุนหลังจากที่ผิดหวังต่อกรณีการให้การของอดีต ผอ.FBI ในเรื่องการแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าค่อนข้างผิดหวังและเทขายทองคำออกมา ในขณะที่กองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำสุทธิเมื่อคืนกว่า 2.07 ตัน แต่เรามองว่าภาพรวมตลาดทองคำยังคงมี Sentiment เชิงลบมากกว่า

 

Key Factors

• Gold ทองคำมีแรงขายออกมาค่อนข้างชัดเจนตั้งแต่ช่วงท้ายตลาดเมื่อวานนี้จากหลากหลายประเด็นในตลาด ส่วนหนึ่งได้แก่ประเด็นการให้การของอดีตผู้อำนวยการ FBI ต่อกรณีการแทรกแซงการเลือกตั้งที่ผ่านมา โดยตลาดให้ความเห็นว่าไม่มีประเด็นอะไรใหม่ๆ นอกจากที่ตลาดคาดการณ์และไม่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกให้ตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยได้ ทำให้มีแรงขายออกมาค่อนข้างชัดเจนจากการคาดการณ์ของนักลงทุนที่มีอยู่ก่อนหน้ากดดันราคาทองคำให้ลงมาเคลื่อนไหวแถวบริเวณ 1,270 USD/toz ซึ่งก็ถือว่า เคลื่อนไหวในแดนลบติดต่อกันมาแล้วกว่า 3 วันทำการหลังมีความพยายามขึ้นไปทดสอบระดับนัยสำคัญที่ 1,295-1,300 USD/toz แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ สำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้เรายังคงมุมมอง Short Position จากปัจจัยลบดังกล่าว แม้กองทุน SPDR จะเข้าซื้อทองคำสุทธิเมื่อคืนกว่า 2.07 ตันก็ตาม

 

Exclusive News

• ดอลล์ทรงตัวหลังโคมีย์ให้การ,ยูโรร่วงหลังอีซีบีคงดอกเบี้ย: ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันพฤหัสบดี ขณะที่นักลงทุนได้ปรับตัวรับคำให้การของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ ส่วนยูโรอ่อนค่าลงหลังธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ลงมติคงอัตราดอกเบี้ย

• ทองร่วงลงหลังโคมีย์ให้การ,ประชุมอีซีบี: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯร่วงลง 7.91 ดอลลาร์ สู่ 1,278.50 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี ในขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และนักลงทุนมองว่า คำให้การของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) ไม่มีสิ่งใดที่น่าประหลาดใจมากนัก

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ

• แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

 

• Strategy : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบระหว่างวัน

Smart Stock

Today Strategy:

เคลื่อนไหวไร้ทิศทาง

การเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าค่อนข้างผันผวนและไร้ทิศทางระหว่างวัน โดยส่วนหนึ่งมาจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าออกสลับกันอย่างไม่ชัดเจน ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยสร้างกรอบการเคลื่อนไหวที่กว้างมากขึ้นเช่นเดียวกับดัชนีอื่นๆในภูมิภาค โดยดัชนีหลักอย่าง SET Index ปิดตลาดที่ระดับ 1,570.28 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ปกติที่ 42,838.51 ล้านบาท โดยภาพรวมนักลงทุนกลุ่มหลักๆ ยังคงเข้าซื้อสุทธิ ในขณะที่สัญญา S50M17 ปิดตลาดที่ระดับ 991.20 จุด ผันผวนในลักษณะเดียวกัน สำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้เรามองว่ามีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรและ Sentiment เชิงลบที่ได้รับจากราคาน้ำมันดิบที่ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับเป็นวันศุกร์ปลายสัปดาห์ซึ่งมีแนวโน้มที่นักลงทุนจะลดสถานะเพื่อรับความเสี่ยงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบ้ยนโยบายสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า

 

• Strategy : ให้น้ำหนักฝั่ง Short Position, หากไม่รับความเสี่ยงให้ถือเงินสดรอ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- แรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ยังคงร่วงลง (45.63USD/bbl)

 

ข่าวในประเทศ

- สภาพัฒน์แจงข้อมูลมูดี้ส์ เศรษฐกิจไทยผงกหัวแล้ว: สศช. เปิดเผยว่า ได้หารือกับคณะที่ปรึกษาการลงทุนจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส โดย สศช.ได้ให้ข้อมูลไปว่า เศรษฐกิจไทยมีพัฒนาการในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจและในด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รวมทั้งมีความพร้อมมากขึ้นสำหรับการที่จะกลับเข้าสู่แนวโน้มการขยายตัวที่น่าพอใจในระยะปานกลาง โดยในปี 60 นี้ สศช.คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 3.3-3.8% โดยมีค่ากลางที่ 3.5% ซึ่งจะเป็นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปี

- พิษ ‘ทรัมป์’แค่เฉียดสินค้าไทย: สศอ. เปิดเผยว่า สศอ.ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ศึกษานโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐออกคำสั่งพิเศษตรวจสอบและเพ่งเล็งดุลการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ 16 ประเทศที่สหรัฐขาดดุลการค้า พบว่า อุตสาหกรรมไทยได้รับผลกระทบเล็กน้อย เนื่องจากสินค้าส่งออกของไทยส่วนมาเป็นสินค้าที่สหรัฐผลิตในประเทศน้อยจึงต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากไทยอยู่

- (EPGM17)EPG ดีลควบรวมกิจการ เหินฟ้าโรดโชว์สิงคโปร์: EPG เดินหน้าควบรวมกิจการใหม่ เสริมแกร่งธุรกิจระยะยาว หวังชัดเจนปีหน้าส้มหล่น รับราคาน้ำมันในตลาดโลกหลุด 46 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หนุนต้นทุนลดเพียบ “รศ.ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์” เล็งเหินฟ้าโรดโชว์สิงคโปร์ โชว์แกร่งดึงดูดต่างชาติเพิ่ม คาดชัดเจนครึ่งหลังปีนี้

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

นักลงทุนเริ่มปรับสถานะลงทุน

ตลาดทองคำเปิดตลาดเอเชียในภาคเช้าที่ระดับ 1,274.99 USD/toz ภาพรวมการเคลื่อนไหวยังคงมีแรงขายรินออกมาเรื่อยๆ กว่าสามวันติดต่อกันหลังมีความพยายามขึ้นไปทดสอบระดับนัยสำคัญที่ 1,295-1,300 USD/toz แต่ไม่สามารถผ่านไปได้เนื่องจากแรงซื้อส่วนใหญ่มาจากแรงเก็งกำไรจากคาดการณ์กรณีอดีต ผอ.FBI และการประชุมของ ECB ซึ่งเรามองว่าทั้งสองประเด็นหลักๆ ไม่มีอะไรที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อตลาดทองคำ ทำให้แรงขายออกมาพอสมควร ประกอบกับกระแสเงินทุนส่วนหนึ่งไหลเข้าสู่ตลาดค่าเงินพลักดันให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กลับมาแข็งค่าที่ระดับ 97.37 จุด ซึ่งก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่กลับมากดดัน Upside ของตลาดทองคำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามสำหรับการเคลื่อนไหวของตลาดทองคำในค่ำคืนนี้เรายังคงมุมมอง Short Position เหมือนเดิม เนื่องจาก Upside ของตลาดค่อนข้างจำกัดจากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการประชุมกลางสัปดาห์หน้าซึ่งทาง CME Fed Watch Tool ปรับคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางสัปดาห์หน้าถึง 95.38% ส่งผลให้นักลงทุนในตลาดเริ่มปรับสถานะลงทุนและทำให้ตลาดทองคำเริ่มผันผวนและหลุดกรอบแนวโน้มขาขึ้นระยะกลางลงไปบ้างเล็กน้อย(เสียทรง)

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปิดร่วงลง: ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงลงในวันพฤหัสบดี ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับขึ้น เนื่องจากนักลงทุนไม่ใส่ใจต่อคำให้การของนายเจมส์ โคมีย์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) โดยมองว่าเขาไม่ได้ให้ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการสอบสวนคดีรัสเซียและนักลงทุนได้มุ่งความสนใจไปยังการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปี ปิดปรับลง 4/32 สู่ 101-19/32 โดยมีผลตอบแทน 2.194 % และราคาพันธบัตรอายุ 30 ปี ปิดร่วงลง 12/32 สู่ 102-29/32 โดยมีผลตอบแทน 2.855 %

- น้ำมันดิบร่วงลง 8 เซนต์: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงอีกครั้งในวันพฤหัสบดี โดยราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นสูงเกินคาดทางด้านราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงมาปิดตลาดที่ระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. 2016 ซึ่งเป็นวันก่อนวันที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะทำข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมัน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ค.ปรับลง 8 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 45.64 USD/bbl หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 45.20-46.18 USD/bbl

- บีบีซีระบุนายกฯเมย์ไม่มีแผนลาออก: นางลอรา เคินส์เบิร์ก บรรณาธิการการเมืองของสำนักข่าวบีบีซีกล่าวในวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษไม่ได้วางแผนจะลาออก หลังจากเขาสูญเสียเสียงข้างมากในรัฐสภาในการเลือกตั้งก่อนกำหนด ซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่นางเมย์เคยตั้งเป้าไว้ว่าจะช่วยทำให้เธอมีอำนาจต่อรองมากยิ่งขึ้นในการเจรจาเรื่องการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กลับมาแข็งค่าที่ระดับ 97.37 จุด ซึ่งกดดัน Upside ของตลาดทองคำ

- การปรับสถานะของนักลงทุนในตลาดเพื่อลดความเสี่ยงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ สัปดาห์หน้า

 

คำแนะนำ : ให้น้ำหนักฝั่ง Short Position เป็นหลัก

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ตลาดทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลงระยะสั้นแม้จะมีปัจจัยบวกเข้ามาพยุงตลาดบ้าง แต่เรามองว่าประเด็นดังกล่าวยังไม่มีนัยสำคัญเท่าคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งค่อนข้างเป็นปัจจัยที่นักลงทุนกังวลและกดดัน Upside ของตลาดทองคำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แนะนำนักลงทุนเปิดสถานะในกรอบราคาโดยให้น้ำหนักฝั่ง Short Position เป็นหลัก

 

Key Factors

• Gold ตลาดทองคำเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัวในกรอบเเม้มีปัจจัยบวกจากคาดการณ์กรณี Brexit ที่เริ่มมีความไม่ชัดเจนหลังนายกฯอังกฤษไม่ได้เสียงข้างมากในสภา โดยเรามองว่าประเด็นดังกล่าวกลับไม่ได้เป็นปัจจัยบวกที่โดดเด่นเพียงพอที่จะหนุนให้ตลาดทองคำกลับมาเคลื่อนไหวในเเดนบวกได้อีกครั้งเมื่อเทียบกับปัจจัยลบอื่นๆ ที่ตลาดทองคำกำลังเผชิญอยู่ ด้านกองทุน SPDR ยังคงสถานะถือครองทองคำไว้เท่าเดิมเป็นวันที่สามติดต่อกัน อย่างไรก็ตามเรามองว่าตลาดทองคำน่าจะมีความผันผวนอีกครั้งจากการปรับสถานะของนักลงทุนจากความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในคืนวันพรุ่งนี้ตามเวลาประเทศไทยประกอบกับปลายสัปดาห์จะมีการประกาศดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายดัชนี สำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้ทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนผันผวนในกรอบขาลง แนะนำนักลงทุนเปิดสถานะในกรอบราคาโดยให้น้ำหนักฝั่ง Short Position เป็นหลัก

 

Exclusive News

• ทองคำทรงตัว,พัลลาเดียมอยู่ใกล้สูงสุด 16 ปี: ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ขยับล ง 88 เซนต์ สู่ 1,265.02 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 13-14 มิ.ย. ทางด้านราคาพัลลาเดียมเ คลื่อนตัวใกล้จุดสูงสุดรอบ 16 ปี โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อของนักเก็งกำไรในปริมาณมาก ถึงแม้นักลงทุนคาดว่าปัจจัยพื้นฐานที่อ่อนแอจะส่งผลลบต่อราคาพัลลาเดียมในเร็ วๆนี้ โดยพัลลาเดียมเป็นโลหะที่ใช้ในการ ผลิตตัวเร่งปฏิกิริยาอัตโนมัติในรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน

• ดอลล์อ่อนค่าขณะจับตาประชุมเฟด,คาดขึ้นดอกเบี้ย: ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญในวันจันทร์ ก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวัน อังคารและพุธนี้ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้า 6 สกุลเงินสำคัญปรับตัวลง 0.1%

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ

• แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

 

• Strategy : คงมุมมอง Short Position

Smart Stock

Today Strategy:

ขาดปัจจัยบวก

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้แกว่งตัวในแนวโน้มขาลงระหว่างวันก่อนปิดตลาดในแดนลบและยังคงไร้ปัจจัยบวกใหม่ๆ ภายในประเทศ ภาพการเคลื่อนไหวหลักยังคงพึ่งพาปัจจัยภายนอกเป็นหลัก โดยกระเเสเงินทุนต่างประเทศยังคงเป็นปัจจัยชี้นำการเลื่อนไหวระหว่างวัน โดยดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ระดับ 1,563.81 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางอย่างมีนัยสำคัญเพียง 30,849.43 ล้านบาท สะท้อนความกังวลของนักลงทุนต่อปัจจัยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ ด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 ปิดตลาดที่ระดับ 986.30 จุด ในลักษณะปรับตัวลงเช่นเดียวกัน โดยทั่วไปเเล้วกลุ่มพลังงานยังคงนำตลาดโดยได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความกังวลเรื่องอุปทานและความขัดเเย้งในกลุ่มผู้ค้าน้ำมัน สำหรับวันนี้เราแนะนำนักลงทุนให้น้ำหนักฝั่ง Short Position มากกว่าเนื่องจากภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงไร้ปัจจัยบวกและมีแนวโน้มที่นักลงทุนในตลาดจะปรับสถานะการลงทุนก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ

 

• Strategy : ยังคงมุมมองให้น้ำหนักฝั่ง Short Position

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- เงินบาทที่ยังคงเคลื่อนไหวเเข็งค่าที่ระดับ 33.97 บาท/USD

 

ข่าวในประเทศ

- 5 เดือนต่างชาติซื้อหุ้น1.3หมื่นล.: นักลงทุนรอผลเฟด คาดขึ้นดอกเบี้ยแน่ 0.25% พบ 5 เดือน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 1.3 หมื่นล้านบาท

- กลต.นับหนึ่งไฟลิ่ง BRRGIF นำเงินลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวล: ก.ล.ต. เริ่มนับหนึ่ง ไฟลิ่ง BRRGIF เตรียมเสนอขาย 350 ล้านหน่วย เพื่อลงทุนในสิทธิในรายได้สุทธิของโรงไฟฟ้าชีวมวลบุรีรัมย์พลังงาน และบุรีรัมย์เพาเวอร์

- หนุนปักฐานมุกดาหารดันส่งออก: พาณิชย์ดึงผู้ประกอบการเข้าไปปักฐานลงทุนในมุกดาหาร ใช้เป็นท่าเรือบกส่งออกสินค้าไป สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม จนถึงจีนตอนใต้ ชูต้นทุนโลจิสติกส์ถูก

- ต่างชาติชี้เอกชนลงทุนอืด ถ่วงเศรษฐกิจโตน้อย-ยืนเป้าจีดีพี 3.4%: ต่างชาติชี้ลงทุนเอกชนยังอืด ทำเศรษฐกิจฟื้นตัวไม่เต็มที่ พร้อมประเมินจีดีพีไทยปีนี้โตได้ 3.4% จากภาคการเงิน-การคลังที่แข็งแกร่ง เป็นแรงสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสำคัญ

- (BEMM17)BEM ออกหุ้นกู้ 1.6 หมื่นล. จัดการเดินรถสายสีน้ำเงิน: BEM ยิ้มรับผู้ถือหุ้นไฟเขียว อนุมัติออกหุ้นกู้ 1.6 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในการบริหารจัดการระบบเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย แย้มข่าวดีปีนี้รับทรัพย์เต็มเหนี่ยว รถไฟฟ้าสายสีม่วง- ทางด่วนทำเงิน มั่นใจผลการดำเนินงานปีนี้โตสวย

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 13 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

แกว่งตัวในกรอบ

ตลาดทองคำเปิดตลาดเอเชียในภาคเช้าที่ระดับ 1,265.28 USD/toz ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบราคาเดิมโดยมีช่วงการแกว่งของราคาในระหว่างวันเพียง 2-3 ดอลลาร์ ในบริเวณจุดต่ำที่สุดในรอบประมาณ 1สัปดาห์ อย่างไรก็ตามเรามองว่าตลาดทองคำมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวผันผวนในช่วงค่ำคืนนี้ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดสหรัฐฯ เปิดทำการและจะเคลื่อนไหวผันผวนมากขึ้นจากการปรับสถานะลงทุนเพื่อรับความเสี่ยงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ในวันคืนพรุ่งนี้ตามเวลาประเทศไทย ประกอบกับค่ำคืนนี้จะมีการประกาศดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ ซึ่งค่อนข้างเป็นปัจจัยที่สามารถชี้นำการเคลื่อนไหวของตลาดทองคำได้พอสมควร ในส่วนของปัจจัยอื่นๆ เช่นประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศในคาบสมุทรเกาหลีและผลการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศอังกฤษเรามองว่าวันนี้ตลาดเริ่มไม่ให้น้ำหนักเท่ากับก่อนหน้าและอาจไม่สามารถพยุงตลาดทองคำ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ หลังการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีซึ่งได้รับการตอบรับไม่มาก ได้หักล้างผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 ปี ซึ่งได้รับการตอบรับหนาแน่น ขณะที่ความไม่แน่ใจเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธ ได้สกัดการปรับตัวขึ้นของผลตอบแทน ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ปิดที่ 102-180/256 โดยมีผลตอบแทน 2.8648% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดที่ 101-120/256 โดยมีผลตอบแทน 2.2092%

- น้ำมันดิบปรับขึ้น,ซาอุฯจะลดส่งออกน้ำมัน: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันจันทร์ เนื่องจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบร่วงลงในสหรัฐฯ และเนื่องจากมีข่าวว่า ซาอุดิอาระเบียจะจำกัดปริมาณการส่งออก น้ำมันดิบสู่ลูกค้าบางรายในเอเชียในเดือน ก.ค. และจะปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบสู่สหรัฐฯ ด้วย ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบ เดือน ก.ค.ปรับขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.6 % มาปิดตลาดที่ 46.08 USD/bbl

- BOJ ปฏิเสธข่าวการปรับลดขนาดเข้าซื้อสินทรัพย์: ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ปฏิเสธแนวคิดที่ว่า บีโอเจกำลัง "แอบปรับลด" ขนาดมาตรการเข้าซื้อสินทรัพย์ลง ในขณะที่มาตรการดังกล่าวใกล้จะบรรลุขีดจำกัดของตนเอง โดยบีโอเจระบุว่า การที่บีโอเจปรับลดการเข้าซื้อพันธบัตรลงนั้น มีสาเหตุมาจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ได้รับแรงหนุนน้อยลงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์

 

คำแนะนำ : เปิดสถานะในกรอบราคาและยังคงมุมมองให้น้ำหนักฝั่ง Short Position เป็นหลักเหมือนเดิม

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 14 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ภาพรวมตลาดทองคำถือว่ายังเคลื่อนไหวทรงตัวแม้ปรับขึ้นได้บ้างในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาแต่ก็ไม่โดดเด่นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่มีประเด็นสำคัญอย่างการปรับขึ้นัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการประกาศมติอย่างเป็นทางการในค่ำคืนนี้ โดยเรามองว่าตลาดทองคำมีแนวโน้มผันผวนในช่วงเย็นตามเวลาประเทศไทยเป็นต้นไป หากนักลงทุนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงให้ปิดสถานะลงทุนที่คงค้างอยู่และถือเงินสดรอไปก่อน

 

Key Factors

• Gold ตลาดทองคำเคลื่อนไหวมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาอีกครั้งหลังเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลงติดต่อกันกว่าหนึ่งสัปดาห์ แต่ภาพรวมถือว่ายังปรับตัวไม่โดดเด่นและยังคงมี Sentiment เชิงลบปกคลุมตลาดอยู่มากกว่า ในส่วนของกองทุน SPDR นักลงทุนสถาบันหลักยังคงถือสถานะทองคำสุทธิไว้เท่าเดิมที่ระดับ 867 ตัน แต่เรามองว่ามีแนวโน้มสูงที่กองทุน SPDR จะเข้ามาทำการปรับสถานะลงทุนในช่วงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในค่ำคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งค่อนข้างเป็นปัจจัยที่ชี้นำตลาดพอสมควร สำหรับวันนี้เรามองว่าตลาดทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบที่กว้างขึ้นระหว่างวันแต่จะเริ่มผันผวนมากขึ้นในช่วงเย็นตามเวลาประเทศไทยเป็นต้นไปโดยเฉพาะในช่วงการประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ และแถลงการณ์คาดการณ์ทองเศรษฐกิจในระดับมหภาคของสมาชิก FOMC

 

Exclusive News

• ทองทรงตัวขณะตลาดรอผลประชุมเฟด: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐฯขยับขึ้น 33 เซนต สู่ 1,265.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร ในขณะที่นักลงทุนรอดูว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะส่งสัญญาณเรื่องการคุมเข้ม นโยบายการเงินในอนาคตหรือไม่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอฟังคำให้การของนายเจฟฟ์ เซสชันส์ รมว.ยุติธรรมสหรัฐต่อคณะ กรรมาธิการในวุฒิสภาสหรัฐฯ เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเจ้าหน้าที่รัสเซียด้วย

• ดอลล์อ่อนค่าขณะรอผลประชุมเฟด: ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดานับตั้งแต่ ปลายเดือนก.พ.ในวันอังคารหลังนายสตีเฟน โพลอซ ผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดาแสดงความเห็นในเชิงคุมเข้มนโยบายการเงิน โดยส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางแคนาดาอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่มีการคาดกันไว้ก่อนหน้านี้

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ

• แรงขายของสินทรัพย์เสี่ยง

 

• Strategy : เปิดสถานะในกรอบที่กว้างขึ้น

Smart Stock

Today Strategy:

ติดตามปัจจัยภายนอก

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ก่อนที่จะมีแรงซื้อเข้าและปรับตัวบวกได้ในช่วงท้ายตลาดโดยได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นเช่นเดียวกับตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งปิดปรับตัวบวกเป็นส่วนใหญ่ สวนทางกับราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลดลงในระหว่างวันจากความกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาด โดยที่ดัชนีหลักอย่าง SET Index ปิดตัวที่ระดับ 1,572.36 จุด +8.55 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันในเกณฑ์ปกติที่ 42,668.45 ล้านบาท ในขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 ปิดตลาดที่ระดับ 990.80 จุด อย่างไรก็ตามเรามองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงไม่มีปัจจัยบวกภายในที่โดดเด่น ประกอบกับในคืนนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มสูงที่จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างเป็นทางการทำให้อาจมีกระแสเงินทุนบางส่วนไหลกลับเข้าตลาดสหรัฐฯ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาครวมทั้งตลาดไทยอาจมีเเรงขายกดดันให้เคลื่อนไหวในแดนลบ

 

• Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคาที่กว้างขึ้น, หากไม่ต้องการรับความเสี่ยงให้ถือเงินสดรอ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ

 

ข่าวในประเทศ

- บิ๊กตู่นำทีมศก.โรดโชว์กองทุน: นายกฯ นำทีม ครม.เศรษฐกิจ ผนึกกำลัง ตลท. โรดโชว์นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ 22-23 มิ.ย.นี้ ชูโมเดลไทยแลนด์ 4.0-อีอีซี พัฒนาประเทศ

- เว้นภาษีหนุนคนไทย จดทะเบียนนิติบุคคล: ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบให้ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ เพื่อส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาสามารถก้าวมาประกอบธุรกิจในรูปแบบของนิติบุคคลได้ เพิ่มเติมจากมติครม.ครั้งที่ผ่านมา โดยขยายผลไปถึงบุคคลธรรมดา ที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคที่ไม่ใช่นิติบุคคล สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินไปยังบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามมาตรการดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลกำลังส่งเสริมเพื่อให้บุคคลธรรมดาได้ประกอบธุรกิจในรูปแบบของนิติบุคคลมากขึ้น โดยกระทรวงการคลังจะออกกฎหมายเป็น พ.ร.ฎ.ออกมาบังคับใช้ต่อไป

- (IVLM17)‘IVL’ ธุรกิจขาขึ้น โรงกลั่น US: IVL เร่งเครื่องการผลิตหลังโรงกลั่นโรงแรกของ US จะเริ่มผลิตในไตรมาส 4/2560 หนุนผลงานโตเด่น ขณะที่ธุรกิจ PET ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ดันอัตรากำไรพุ่ง

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 14 มิถุนายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตามเฟดอย่างใกล้ชิด

ตลาดทองคำเปิดตลาดเอเชียในภาคเช้าที่ระดับ 1,268.25 USD/toz อ่อนตัวลงบ้างเล็กน้อยในลักษณะซึมลงตามที่เราคาดการณ์ ภาพรวมการเคลื่อนไหวยังคงขาดปัจจัยบวกหนุนและยังคงได้รับแรงกดดันจากคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ สู่ระดับ 100-125 Basis Point ซึ่งทาง CME FedWatch Tool ให้น้ำหนักการปรับขึ้นมากถึง 99.6% ในค่ำคืนนี้ ทำให้ภาพรวมการเคลื่อนไหวของตลาดทองคำถูกจำกัด Upside อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้โดยเรามองว่าน่าจะมีแรงขายปรับสถานะการลงทุนออกไปเรื่อยๆ ตลอดช่วงก่อนที่จะมีมติรปรับขึ้นอย่างเป็นทางการแต่หลังจากนั้นอาจมีแรงซื้อกลับเข้ามาเนื่องจากนักลงทุนอาจเริ่มคลายความกังวลจากประเด็นดังกล่าว ซึ่งจะปรับขึ้นมากหรือน้อยหรือว่าจะปรับลดลงเราคาดกว่าดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการแถลงการณ์ทางเศรษฐกิจอื่นๆ ในตลอดค่ำคืนนี้ก็มีส่วนสำคัญในการชี้นำทิศทาง แนะนำนักลงทุนปรับลดสถานะการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง พิจาณาลงทุนใหม่หลังจากที่ตลาดคลายความกังวลประเด็นดังกล่าวจะดีกว่า

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ทรงตัวหลังปรับตัวขึ้น: ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้นพุ่ง แตะระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์ในช่วง สั้นๆในวันอังคาร หลังจากข้อมูลใหม่ระบุว่าราคาบริการในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแต่ตลาดแทบไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากการประมูลพันธบัตรรัฐฯ บาลอายุ 30 ปี ได้รับการตอบรับหนาแน่นก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธ ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ปิดที่ 102-180/256 โดยมีผลตอบแทน 2.8648% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดที่ 101-120/256 โดยมีผลตอบแทน 2.2092%

- น้ำมันดิบปรับขึ้น 38 เซนต์: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันอังคารหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปิดเผยรายละเอียดในการปรับลดการส่งออกน้ำมันทั่วโลก อย่างไรก็ดีกลุ่มโอเปกระบุว่าปริมาณการผลิตน้ำมันโดยรวมปรับขึ้นในเดือน พ.ค. และราคาน้ำมันดิบเคลื่อนตัวอยู่ใต้ระดับ 50 USD/bbl ต่อไป ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ค.ปรับขึ้น 38 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 46.46 USD/bbl

- จีนเผยการผลิตน้ำมันดิบร่วงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์: สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของจีนลดลง 3.7% ในเดือน พ.ค.จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วสู่ระดับ 16.26 ล้านตันหรือ 3.83 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในช่วง 01.00น. ตามเวลาประเทศไทย

- การประกาศดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายดัชนีในค่ำคืนนี้

 

คำแนะนำ : ลดสถานะลงทุนหรือถือเงินสด

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...