ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยในคืนวันศุกร์ และเป็นการปิดบวกครั้งแรกในรอบกว่า 3 สัปดาห์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด แต่ไม่ได้มีท่าทีในการรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคงประมาณการณ์ไว้ที่ 3 ครั้งในปีนี้ ทำให้เกิดแรงขายในค่าเงินดอลลาร์ และแรงซื้อกลับในทองคำ สัปดาห์นี้ติดตามการปราศัยของประธานาธิบดีทรัมป์ และการปราศัยของประธานเฟด

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.00 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.16% โดยปิดที่ 1,228.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,224.31 – 1,231.70 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,232 เหรียญ ราคาทองปิดบวกในคืนวันศุกร์ และราคาทองปิดบวกเป็นสัปดาห์แรกในรอบสามสัปดาห์ หลังจากราคาทองปรับตัวลดลงมาต่อเนื่องจากความกังวลในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์ ในสัปดาห์ก่อน โดยกล่าวว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และคงประมาณการณ์ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อยู่ที่ 3 ครั้ง ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. เร็วกว่าตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นในช่วงกลางปี ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ และหนุนให้ราคาทองดีดกลับได้ และสัปดาห์นี้ ติดตามการปราศัยของประธานาธิบดีทรัมป์ และการปราศัยของประธานเฟดในช่วงปลายสัปดาห์

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ทรงตัวในวันศุกร์ และปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการขยับขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี นักเก็งกำไรปรับลดสถานะซื้อลงเป็นอย่างมากในระหว่างสัปดาห์ เนื่องจากนักเก็งกำไรกังวลว่า มาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่สามารถบรรเทาภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดโลกลงได้

• ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ในวันศุกร์ แต่ยังคงเผชิญแรงกดดันเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ถึงอัตราการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

• ยูโรร่วงลง 0.2% สู่ 1.0740 ดอลลาร์ หลังผลสำรวจบ่งชี้ว่านางมารีน เลอ แปน ผู้ต่อต้านอียูจะมีคะแนนนำนายเอ็มมานูเอล มาครงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐขยับขึ้น 2 ดอลลาร์ สู่ 1,228.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ และปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ ในขณะที่แถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งผลให้ดอลลาร์เคลื่อนตัวอยู่ใกล้จุดต่ำสุดรอบ 5 สัปดาห์ และปัจจัยนี้ส่งผลบวกต่อราคาทอง

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• ถ้อยคำปราศัยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

• ถ้อยคำปราศัยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบ 1,224 – 1,233 เหรียญ และ follow เมื่อ breakout

Smart Stock

Today Strategy:

เคลื่อนไหวในกรอบที่กว้างขึ้น

สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาครวมไปถึงฝั่งยุโรปเคลื่อนไหวเเละปิดตลาดในเเดนบวก/ลบ สลับกันไปไม่ชัดเจน ในส่วนของดัชนีตลาดหุ้นไทยเป็นภาพการเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ มีลักษณะการแกว่งตัวที่กว้างมากขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าโดยได้รับผลกระทบทั้งจากราคาน้ำมันดิบที่ยังคงปรับลดลงจากอุปทานที่ล้นตลาดและการเมืองโลกทั้งจากฝั่งยุโรปและเอเชียเอง รวมทั้งประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เปิดตลาดในวันศุกร์ที่ผ่านมาบริเวณ 986.60 จุด ราคาเปิดค่อนข้างต่อเนื่องจากราคาปิดวันก่อนหน้า แกว่งตัวในกรอบราคาประมาณ 3 จุด ก่อนมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงท้ายตลาดขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 989.40 จุด และปิดตลาดที่ 988.90 จุด การเคลื่อนไหวมีความผันผวนน้อยกว่า SET index ซึ่งภาพการเคลื่อนไหวผันผวนกว่าอย่างเห็นได้ชัดโดยภาคเช้ามีแรงขายกดดันให้เคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลง ก่อนมีแรงซื้อกลับเข้ามาในภาคบ่ายและปิดตลาดที่ 1,560.98 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันในเกณฑ์ปกติไม่มากไม่น้อยที่ 46,970.27 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อจากกลุ่มสถาบันภายในประเทศ (+409.18 ล้านบาท), บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (+252.19 ล้านบาท) เเละ นักลงทุนต่างประเทศ (+1,566.95 ล้านบาท) ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่เเตกต่างออกไปโดยขายสุทธิ -2,228.32 ล้านบาท รวมมีสถานะขายสุทธิตั้งเเต่ต้นเดือนที่ผ่านมากว่า -7,363.19 ล้านบาทเเล้ว สำหรับการซื้อขายในวันนี้ (และสัปดาห์นี้) ฝ่ายวิจัยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงต่างๆ ทั้งจากสมาชิก FOMC, MPC และ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในส่วนของปัจจัยลบเรายังคงมองราคาน้ำมันดิบที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในเเนวโน้มขาลงกดดันกลุ่มพลังงานภายในประเทศอยู่ แต่ในส่วนปัจจัยบวกก็ยังพอมีให้ได้ลุ้น ได้แก่ กระแสเงินทุนที่ไหลออกอาจกลับเข้าสู่กลุ่มตลาดเกิดใหม่รวมทั้งประเทศไทยด้วย โดยเราคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในกรอบราคาที่กว้างขึ้นและยังอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอกในขณะที่ปัจจัยภายในยังไม่ชัดเจน

 

• Strategy : ฝั่ง Long Position ยังคงได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 986 จุด

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- สัปดาห์นี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC, MPC และประธานาธิบดีทรัมป์

 

ข่าวในประเทศ

- เปิด 10 เทรนด์พลิกไทยสู่ ‘ดิจิทัล’ ดึง‘ไอที-บล็อกเชน’ เสริมแกร่ง : สรอ. เผย 10 เทรนด์เด่นดันรัฐบาลดิจิทัล หนุนไทยก้าวสู่สังคมยุคใหม่ ผนึกหน่วยงานรัฐเอกชน ดึงเทคโนโลยี “บล๊อกเชน-อีเพย์เมนท์” เสริมแกร่ง พร้อมดันแอพพลิเคชั่นภาครัฐเสิร์ฟบริการประชาชน

- คปภ.เชื่อธุรกิจประกันปีนี้โต 6.01% : คปภ. มั่นใจธุรกิจประกันชีวิต-วินาศภัยปีนี้โต 6.01% ดันเบี้ยแตะ 8.24 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่ 7.77 แสนล้านบาท เดินหน้าประกันยุคดิจิทัล ล่าสุดคลอดประกันพีเอ ช่วงสงกรานต์ใหม่ ประกันภัย 222 คุ้มสูงสุดถึงแสนและค่ารักษาพยาบาล 5 พันบาท

- (PTTH17) PTT เคาะปันผล10บาท PTTGC ลุยบิ๊กโปรเจ็กต์ : PTT บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 2559 ที่ 10 บาทต่อหุ้น หลังโค้งแรกจ่ายแล้ว 6 บาทต่อหุ้น ด้าน PTTGC เตรียมเสนอบอร์ดลุยลงทุน 2 โครงการใหญ่ มูลค่า 80,000-100,000 ล้านบาท เพื่อผลิตวัตถุดิบพิเศษรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์-ไฟฟ้า ซึ่งตั้งอยู่ในโซนโครงการ EEC

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ลุ้นไปต่อ

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,229.04 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,228.90 – 1,235.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาเปิดตลาดในช่วงเช้าวันนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่อง หลังจากค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง และทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 5 สัปดาห์ รวมทั้งการเลือกตั้งรอบแรกของฝรั่งเศสที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า มีผลสำรวจคะแนนเสียงออกมาว่าพรรคผู้ต่อต้านอียูได้รับคะแนนเสียงนำอีกพรรคหนึ่ง ทำให้ราคาทองเริ่มกลับมามีแนวโน้มที่ดีได้ต่อ รวมทั้งทางฝั่ง SPDR ก็ไม่ได้แสดงทีท่าที่ชัดเจนหลังจากมีการซื้อขายสลับกันในสัปดาห์ก่อน โดยรวมยังเป็นการซื้อสุทธิที่ 2.07 ตัน ทำให้ทองรวม 834.10 ตัน และในวันพรุ่งนี้ตอนเช้าให้ติดตามการปราศัยของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งถ้าหากมีการปรับโครงสร้างภาษี และลดลงกว่าที่นักลงทุนคาดอาจจะช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ให้ฟื้นกลับและกดดันราคาทองได้ แต่ถ้าไม่มีมาตรการเพิ่มเติมราคาทองก็มีแนวโน้มที่ดีต่อได้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- หนังสือพิมพ์ซีเคียวริตีส์ ไทมส์ของทางการจีนรายงานในวันนี้ว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ได้ประกาศใช้ข้อจำกัดใหม่ต่อสถาบันการเงินที่ต้องการจ้างผู้จัดการกองทุนจากภายนอกสถาบันให้มาทำงานจัดการกองทุน ในขณะที่รัฐบาลจีนคุมเข้มการทำธุรกิจธนาคารเงา

- นำทางการเงินของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป (จี-20) ได้ยกเลิกคำสัญญาเดิมที่ว่า จี-20 จะทำให้การค้าโลกเสรีและเปิดกว้างต่อไป โดยกลุ่มจี-20 ได้ยอมทำตามความต้องการของรัฐบาลสหรัฐที่ดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้ามากยิ่งขึ้น หลังจากการประชุมในวันศุกร์และวันเสาร์ที่ผ่านมาไม่สามารถทำให้กลุ่มจี-20 ประนีประนอมกันได้

- นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นกล่าววานนี้ว่า สหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่นน่าจะบรรลุข้อตกลงด้านเศรษฐกิจในเร็วๆนี้ และได้ย้ำถึงความสำคัญของการค้าเสรีต่อญี่ปุ่น

- นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมวิจัยพัฒนาชุมชนระบบธนาคารกลางสหรัฐในหัวข้อ "พื้นฐานที่แข็งแกร่ง: อนาคตทางเศรษฐกิจของเด็กๆและชุมชนต่างๆ" ในเวลา 19.45 น.ตามเวลาไทยในวันพฤหัสบดีที่ 23 มี.ค.นี้

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ถ้อยคำปราศัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

- ถ้อยคำปราศัยของประธานเฟด นางเจนเนต เยลเลน

 

คำแนะนำ : trading long หากราคายืนเหนือ 1,233 เหรียญได้

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 วันทำการต่อเนื่องหลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ รวมทั้งการประชุมของกลุ่มจี 20 จะได้รับผลกระทบจากจุดยืนของสหรัฐฯ ในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า ทำให้ช่วยหนุนราคาทองได้ แต่เริ่มเห็นแรงขายจากกองทุน SPDR ที่มีการขายทองคำออกมา 2 วันติด รวมทั้งประธานเฟดสาขาย่อยได้ยืนยันถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ว่าจะเกิดขึ้นอีก 2 ครั้งอย่างแน่นอน ทำให้โดยรวมทองคำขาดปัจจัยใหม่ แกว่งตัวออกข้าง

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.39% โดยปิดที่ 1,233.15 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,228.76 – 1,235.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,232 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 วันทำการติดต่อกัน โดยราคาได้ขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอ่อนค่าในรอบกว่า 6 สัปดาห์ รวมทั้งการประชุมของกลุ่มจี 20 จะได้รับผลกระทบจากจุดยืนของสหรัฐฯ ในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า ทำให้ช่วยหนุนราคาทองได้ แต่ทองคำเจอแรงขายจากกองทุน SPDR ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยขายออกมาในเมื่อวานนี้ 3.85 ตัน ทำให้ยอดถือรวมสุทธิ 830.25 ตัน และประธานเฟดสาขาชิคาโก้ได้ออกมากล่าวว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้จะมีอีก 2 ครั้งตามที่คาดการณ์ ทำให้คาดว่าราคาทองคำแกว่งตัวออกข้างในวันนี้เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ และติดตามการปราศัยของประธานเฟดในวันพฤหัสฯ นี้

 

Exclusive News

• บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์รายงานในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้น 14 แท่น สู่ 631 แท่นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 มี.ค. โดยจำนวน 631 แท่นนี้ถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2015 และถือเป็นการปรับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน

• นักวิเคราะห์ของบริษัทเจ.พี. มอร์แกนปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลงสู่ 53.75 ดอลลาร์สำหรับปี 2017 และ 53.50 ดอลลาร์สำหรับปี 2018 และปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลงสู่ 55.75 ดอลลาร์สำหรับปี 2017 และ 55.50 ดอลลาร์สำหรับปี 2018

• ดอลลาร์ปรับตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันจันทร์ โดยถูกถ่วงลงจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดจะคุมเข้มนโยบายการเงินน้อยกว่าที่หลายคนคาดไว้

• ผู้นำการเงินกลุ่มจี-20 แสดงความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านการค้าโลกของสหรัฐ และความวิตกของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับการแข็งค่าของดอลลาร์

• ปอนด์ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์จากข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์จะเริ่มกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 29 มี.ค.นี้ โดยเริ่มการเจรจาต่อรองระยะเวลา 2 ปี

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• ถ้อยคำปราศัยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

• ถ้อยคำปราศัยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบและระมัดระวังแรงขายทำกำไร

Smart Stock

Today Strategy:

ฟื้นตัวในภาพความผันผวน

เมื่อวานนี้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เปิดตลาดเกิดช่องว่างของราคาในแดนบวก (Positive Trading Gaps) แต่ราคากลับเคลื่อนไหวในกรอบแคบไม่ค่อยวิ่งไปไหน โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวของราคาเพียง 2-3 จุด เท่านั้น ก่อนที่จะมีแรงขายในช่วงหนึ่งชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดตลาดค่อนข้างรุนแรงอย่างมีนัยสำคัญ กดดันให้สัญญาฯ ลงไปปิดตลาดลบ -3.6 จุด ที่ 986 จุด สะท้อนมุมมองของนักลงทุนที่ยังไม่มั่นใจในการฟิ้นตัวของดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ภาวะที่ยังไร้ปัจจัยบวกและยังคงมีปัจจัยลบจากความผันผวนภายนอกรุมเร้าอย่างชัดเจน ในด้านของดัชนี SET index ก็เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันแต่ความผันผวนน้อยกว่า ปิดตลาดที่ 1,563.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางอย่างเพียง 35,790.37 ล้านบาทเท่านั้น โดยเป็นเเรงซื้อขายกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ +539.93 ล้านบาท, บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +295.76 ล้านบาท เเละนักลงทุนต่างประเทศ +735.92 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่เเตกต่างออกไปขายสุทธิ -1,571.61 ล้านบาท เหมือนวันก่อนหน้า โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่นำตลาดยังคงเป็นกลุ่มพลังงานและธนาคารที่ได้รับปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามเรามองว่าเงินทุนบางส่วนที่ไหลออกก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะไหลกลับเข้าสู่กลุ่มตลาดเกิดใหม่และประเทศไทย สะท้อนจากแรงขายในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งกดดันให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงและเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 100.15 จุด ในขณะที่ค่าเงินบาทก็แข็งค่าขึ้นสวนทางอย่างมีนัยสำคัญในช่วงนี้โดยเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 34.68 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

 

• Strategy : Wait & See, Upside ถูกจำกัดด้วยการขาดปัจจัยบวกภายในประเทศ, แกว่งตัวผันผวนในกรอบราคาที่กว้างขึ้น

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- สัปดาห์นี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC, MPC และประธานาธิบดีทรัมป์

 

ข่าวในประเทศ

- กอช.เล็งลงทุนหุ้น SET50 พร้อมลดสัดส่วนเงินฝาก-พันธบัตรมาเป็นตราสารหนี้ หวังดันผลตอบแทนแตะ 3% : กอช.ปรับแผน จ่อลงทุนใน SET50 พร้อมตราสารหนี้ 3-5 ปี รับมือดอกเบี้ยขาขึ้น ดันผลตอบแทน ที่ 3% เลขาธิการ กอช. เปิดเผยว่าได้ปรับแผนการลงทุนปี 2560 โดยคาดว่าจะได้ผลตอบแทนการลงทุน ที่รวมดอกเบี้ยจากการลงทุนในตราสารและการลงทุนในหุ้น และหุ้นกู้เอกชนอยู่ที่ระดับ 3%

- ดัชนีหุ้นไทยยืนเหนือ 1,560 จุด มองเศรษฐกิจเด้ง5% : หุ้นไทยเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนในแดนบวกตลอดทั้งวัน แต่มูลค่าซื้อขายยังเบาบาง โดยได้แรงหนุนจากเงินบาทแข็งค่า และนักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิ โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,563.54 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด มูลค่าซื้อขาย 35,790.37 ล้านบาท แตะจุดสูงสุด 1,568.29 จุด และต่ำสุด 1,561.79 จุด

- CPALL ผุดสาขาใหม่เร่งรายได้แรง : CPALL ฉายแววโชว์ฟอร์มครึ่งปีแรกสวย วงในเผยเติบโตสูงกว่าช่วงครึ่งปีหลังปี 2559 จากกำลังซื้อผู้บริโภคฟื้นตัว บวกกับรับส่วนแบ่งรายได้จาก MAKRO ผลักดันผลงานครึ่งปีแรกแจ่ม ฟากโบรกมองบวกชี้ได้แรงหนุนจากการเร่งขยายสาขา คาดแตะระดับ 1 หมื่นสาขาในช่วงกลางปีนี้ หนุนรายได้-กำไรเร่งตัวแรง

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 วันทำการต่อเนื่องหลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ รวมทั้งการประชุมของกลุ่มจี 20 จะได้รับผลกระทบจากจุดยืนของสหรัฐฯ ในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า ทำให้ช่วยหนุนราคาทองได้ แต่เริ่มเห็นแรงขายจากกองทุน SPDR ที่มีการขายทองคำออกมา 2 วันติด รวมทั้งประธานเฟดสาขาย่อยได้ยืนยันถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ว่าจะเกิดขึ้นอีก 2 ครั้งอย่างแน่นอน ทำให้โดยรวมทองคำขาดปัจจัยใหม่ แกว่งตัวออกข้าง

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.39% โดยปิดที่ 1,233.15 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,228.76 – 1,235.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,232 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 วันทำการติดต่อกัน โดยราคาได้ขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอ่อนค่าในรอบกว่า 6 สัปดาห์ รวมทั้งการประชุมของกลุ่มจี 20 จะได้รับผลกระทบจากจุดยืนของสหรัฐฯ ในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า ทำให้ช่วยหนุนราคาทองได้ แต่ทองคำเจอแรงขายจากกองทุน SPDR ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยขายออกมาในเมื่อวานนี้ 3.85 ตัน ทำให้ยอดถือรวมสุทธิ 830.25 ตัน และประธานเฟดสาขาชิคาโก้ได้ออกมากล่าวว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้จะมีอีก 2 ครั้งตามที่คาดการณ์ ทำให้คาดว่าราคาทองคำแกว่งตัวออกข้างในวันนี้เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ และติดตามการปราศัยของประธานเฟดในวันพฤหัสฯ นี้

 

Exclusive News

• บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์รายงานในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้น 14 แท่น สู่ 631 แท่นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 มี.ค. โดยจำนวน 631 แท่นนี้ถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2015 และถือเป็นการปรับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน

• นักวิเคราะห์ของบริษัทเจ.พี. มอร์แกนปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลงสู่ 53.75 ดอลลาร์สำหรับปี 2017 และ 53.50 ดอลลาร์สำหรับปี 2018 และปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลงสู่ 55.75 ดอลลาร์สำหรับปี 2017 และ 55.50 ดอลลาร์สำหรับปี 2018

• ดอลลาร์ปรับตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันจันทร์ โดยถูกถ่วงลงจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดจะคุมเข้มนโยบายการเงินน้อยกว่าที่หลายคนคาดไว้

• ผู้นำการเงินกลุ่มจี-20 แสดงความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านการค้าโลกของสหรัฐ และความวิตกของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับการแข็งค่าของดอลลาร์

• ปอนด์ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์จากข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์จะเริ่มกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 29 มี.ค.นี้ โดยเริ่มการเจรจาต่อรองระยะเวลา 2 ปี

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• ถ้อยคำปราศัยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

• ถ้อยคำปราศัยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

• Strategy : trading ในกรอบและระมัดระวังแรงขายทำกำไร

Smart Stock

Today Strategy:

ฟื้นตัวในภาพความผันผวน

เมื่อวานนี้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เปิดตลาดเกิดช่องว่างของราคาในแดนบวก (Positive Trading Gaps) แต่ราคากลับเคลื่อนไหวในกรอบแคบไม่ค่อยวิ่งไปไหน โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวของราคาเพียง 2-3 จุด เท่านั้น ก่อนที่จะมีแรงขายในช่วงหนึ่งชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดตลาดค่อนข้างรุนแรงอย่างมีนัยสำคัญ กดดันให้สัญญาฯ ลงไปปิดตลาดลบ -3.6 จุด ที่ 986 จุด สะท้อนมุมมองของนักลงทุนที่ยังไม่มั่นใจในการฟิ้นตัวของดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ภาวะที่ยังไร้ปัจจัยบวกและยังคงมีปัจจัยลบจากความผันผวนภายนอกรุมเร้าอย่างชัดเจน ในด้านของดัชนี SET index ก็เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันแต่ความผันผวนน้อยกว่า ปิดตลาดที่ 1,563.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางอย่างเพียง 35,790.37 ล้านบาทเท่านั้น โดยเป็นเเรงซื้อขายกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ +539.93 ล้านบาท, บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +295.76 ล้านบาท เเละนักลงทุนต่างประเทศ +735.92 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่เเตกต่างออกไปขายสุทธิ -1,571.61 ล้านบาท เหมือนวันก่อนหน้า โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่นำตลาดยังคงเป็นกลุ่มพลังงานและธนาคารที่ได้รับปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามเรามองว่าเงินทุนบางส่วนที่ไหลออกก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะไหลกลับเข้าสู่กลุ่มตลาดเกิดใหม่และประเทศไทย สะท้อนจากแรงขายในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งกดดันให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงและเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 100.15 จุด ในขณะที่ค่าเงินบาทก็แข็งค่าขึ้นสวนทางอย่างมีนัยสำคัญในช่วงนี้โดยเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 34.68 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

 

• Strategy : Wait & See, Upside ถูกจำกัดด้วยการขาดปัจจัยบวกภายในประเทศ, แกว่งตัวผันผวนในกรอบราคาที่กว้างขึ้น

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- สัปดาห์นี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC, MPC และประธานาธิบดีทรัมป์

 

ข่าวในประเทศ

- กอช.เล็งลงทุนหุ้น SET50 พร้อมลดสัดส่วนเงินฝาก-พันธบัตรมาเป็นตราสารหนี้ หวังดันผลตอบแทนแตะ 3% : กอช.ปรับแผน จ่อลงทุนใน SET50 พร้อมตราสารหนี้ 3-5 ปี รับมือดอกเบี้ยขาขึ้น ดันผลตอบแทน ที่ 3% เลขาธิการ กอช. เปิดเผยว่าได้ปรับแผนการลงทุนปี 2560 โดยคาดว่าจะได้ผลตอบแทนการลงทุน ที่รวมดอกเบี้ยจากการลงทุนในตราสารและการลงทุนในหุ้น และหุ้นกู้เอกชนอยู่ที่ระดับ 3%

- ดัชนีหุ้นไทยยืนเหนือ 1,560 จุด มองเศรษฐกิจเด้ง5% : หุ้นไทยเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนในแดนบวกตลอดทั้งวัน แต่มูลค่าซื้อขายยังเบาบาง โดยได้แรงหนุนจากเงินบาทแข็งค่า และนักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิ โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,563.54 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด มูลค่าซื้อขาย 35,790.37 ล้านบาท แตะจุดสูงสุด 1,568.29 จุด และต่ำสุด 1,561.79 จุด

- CPALL ผุดสาขาใหม่เร่งรายได้แรง : CPALL ฉายแววโชว์ฟอร์มครึ่งปีแรกสวย วงในเผยเติบโตสูงกว่าช่วงครึ่งปีหลังปี 2559 จากกำลังซื้อผู้บริโภคฟื้นตัว บวกกับรับส่วนแบ่งรายได้จาก MAKRO ผลักดันผลงานครึ่งปีแรกแจ่ม ฟากโบรกมองบวกชี้ได้แรงหนุนจากการเร่งขยายสาขา คาดแตะระดับ 1 หมื่นสาขาในช่วงกลางปีนี้ หนุนรายได้-กำไรเร่งตัวแรง

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 21 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

เริ่มเผชิญแรงขาย

ราคาทองคำในภาคเช้าเคลื่อนไหวในแดนลบได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ, การปรับโครงสร้างภาษีและนโยบายทางการค้าที่มีผลกระทบต่อนโยบายการค้าเสรีของกลุ่ม G20 โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงจากระดับ 1,235 USD/toz ซึ่งเป็นจุดสูงที่สุดในรอบเกือบสามเดือนลงมาทำจุดต่ำสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,226 USD/toz ในช่วงเช้าตามเวลาไทยก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาพยุงราคาทองคำไว้ ส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบประมาณ 3 ดอลลาร์ ภาพรวมยังคงมีปัจจัยบวกด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังคงเคลื่อนไหวอ่อนค่าโดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลงไปเคลื่อนไหวบริเวณ 100 จุด ในขณะที่ปัจจัยลบที่เข้ามากดดันทิศทางของราคาทองคำยังคงเป็นมุมมองของกองทุน SPDR เมื่อคืนซึ่งมีสถานะขายสุทธิในทองคำประมาณ - 3.85 ตัน ส่งผลให้รวมมีสถานะถือครองทองคำสุทธิที่ 830.25 ตัน ถือเป็นมุมมองของนักลงทุนสถาบันหลักซึ่งการส่งสัญญาณลบต่อทองคำในระหว่างวัน สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC (Dudley) และบัญชีเดินสะพัดสหรัฐฯ ไตรมาส 4/59 ซึ่งมีเนวโน้มที่จะชี้นำตลาดทองคำได้อย่างมีนัยสำคัญในค่ำคืนนี้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาทองคำปรับขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ขณะค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ปรับขึ้น 4.75 ดอลลาร์ สู่ระดับ 1,233.15 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1,235.50 USD/toz ในระหว่างวัน ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินรูดลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 6 สัปดาห์ในระหว่างวัน เนื่องจากการประชุมกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป (G-20) ในช่วงสุด สัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากจุดยืนของสหรัฐฯ ในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า ทั้งนี้ราคาทองส่งมอบเดือน เม.ย.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 3.80 ดอลลาร์ ที่ 1,23 4.00 USD/toz

- ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ : ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวใกล้ระดับต่ำที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันจันทร์ โดยถูกถ่วงลงจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณในสัปดาห์ที่แล้วว่าจะคุมเข้มนโยบายการเงินน้อยกว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.1% สู่ระดับ 100.40 จุด หลังร่วง 0.3% ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียและยุโรป

- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น : ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ หลังจากที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาชิคาโกย้ำมุมมองของเฟดที่ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้มีความเป็นไปได้ ซึ่งสร้างความผิดหวังให้แก่นักลงทุนที่คาดไว้ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่านี้ ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ปิดบวก 13/32 ที่ 98-08/256 โดยมีผลตอบแทน 3.091% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดบวก 07/32 ที่ 98-01/32 โดยมีผลตอบแทน 2.475%

- กังวลอุปทานน้ำมันสหรัฐฯ กดดันราคาน้ำมันดิบปิดดิ่งลงกว่า 1.2% : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันจันทร์ในขณะที่นักลงทุนกังวลกับปริมาณการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ และสต็อกน้ำมันในคลังที่ระดับสูงถึงแม้มีข่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) สนับสนุนการต่ออายุมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปก็ตาม ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน เม.ย.ดิ่งลง 56 เซนต์ หรือ 1.2 % มาปิดตลาดที่ 48.22 USD/bbl

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่ำคืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC (Dudley)

- ถ้อยคำปราศัยของประธานเฟด นางเจนเนต เยลเลน 23 มี.ค.

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,230 USD/toz

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 22 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 และทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 3 สัปดาห์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและเคลื่อนไหวต่ำกว่าบริเวณ 100 จุด รวมทั้งแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยง เช่นตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยเริ่มมีแรงซื้อกลับ เช่น ทองคำ และค่าเงินเยน รวมทั้งกองทุน SPDR ได้กลับเข้าซื้อทองในเมื่อคืนนี้กว่า 4.15 ตัน ทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้นทะลุจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1,235 เหรียญได้

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.35 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.92% โดยปิดที่ 1,244.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,226.32 – 1,247.60 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,245 เหรียญ ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเป็นวันที่ 5 หลังจากค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องและเคลื่อนไหวต่ำกว่าบริเวณ 100 จุด ทำให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นและทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 3 สัปดาห์ โดยค่าเงินดอลลาร์ถูกกดดันจากค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นจากการคลายความกังวลจากการโต้วาทีการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่คาดว่า นายเอ็มมานูเอล มาครงมีโอกาสจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเหนือนางมารีน เลอ แปนซึ่งต่อต้านสหภาพยุโรป รวมทั้งแรงขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้ปิดปรับตัวลดลงแรงในเมื่อคืนนี้ ช่วยหนุนให้ทองคำมีแรงซื้อต่อ โดย SPDR กลับเข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก 4.15 ตัน รวมถือครอง 834.40 ตัน และวันนี้ติดตามตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง และสต็อกน้ำมันดิบ

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันอังคาร โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐดิ่งลงมาปิดตลาดที่ระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2016เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับอุปทานน้ำมันใหม่ และความกังวลนี้บดบังข่าวที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กำลังพิจารณาเรื่องการต่ออายุมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปหลังเดือนมิ.ย.

• บริษัทโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า มาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน อาจจะส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันของโครงการขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยอาจส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลต่อปี และอาจส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดในปี 2018-2019

• ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับเยนในวันอังคาร ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับความล่าช้าในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ได้ฉุดตลาดหุ้นร่วงลง และกระตุ้นแรงซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย

• ดัชนี S&P 500 ร่วงลงมากกว่า 1% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์

• แนวโน้มการเลือกตั้งในฝรั่งเศสช่วยหนุนยูโรและถ่วงดอลลาร์ลง หลังการโต้วาทีบ่งชี้ว่า นายเอ็มมานูเอล มาครงจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเหนือนางมารีน เลอ แปนซึ่งต่อต้านสหภาพยุโรป

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• ถ้อยคำปราศัยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

 

• Strategy : trading long กลับมาได้เปรียบหลังราคาปรับขึ้นเหนือ 1,235 เหรียญได้

Smart Stock

Today Strategy:

ระวังแรงขายทำกำไร

สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดในภาคเช้าที่ 986.20 จุด เคลื่อนไหวในแดนบวกสดใสตลอดวัน โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 993.70 จุด ก่อนย่อตัวเล็กน้อยลงมาปิดตลาดที่ 992.60 จุด ปรับเพิ่ม +6.8 จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวของราคาประมาณ 7 จุด ถือว่ากว้างพอสมควร ในขณะที่ SET index ปิดตลาดที่ 1568.78 จุด ในแดนบวกเช่นกันแต่ภาพการเคลื่อนไหวนั้นมีกรอบที่แคบกว่า โดยเป็นแรงซื้อเข้าในกลุ่มพลังงานและธนาคารนำตลาด รวมมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันประมาณ 35,685.04 ล้านบาท ถือว่าน้อยกว่าเกณฑ์ติดต่อกันเป็นวันที่สองเเล้ว โดยเป็นเเรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศซึ่งซื้อสุทธิ +74.66 ล้านบาท เเละกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศซึ่งซื้อสุทธิ +1,532.58 ล้านบาท พร้อมทั้งมีสถานะซื้อสุทธิในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 มากถึง +12,025 สัญญา สะท้อนมุมมองบวกของนักลงทุนต่างชาติที่มีเเนวโน้มที่จะเคลื่อนย้ายเงินทุนบางส่วนกลับเข้าประเทศไทยรวมทั้งกลุ่มประเทศเกิดใหม่ด้วย อย่างไรก็ตามเรามองว่าปัจจัยเดิมๆ อย่างเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์และการเมืองฝั่งยุโรป ยังคงเป็นปัจจัยกระตุ้นหลัก เนื่องจากปัจจัยบวกภายในประเทศมีน้ำหนักค่อนข้างน้อย สำหรับการซื้อขายในวันนี้ให้ระวัง Downside Risk ที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นในลักษณะที่มีวอลลุ่มน้อยประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงต่อเนื่องเคลื่อนไหวที่ระดับ 47.50 USD/bbl ซึ่งมีโอกาสกดดันกลุ่มพลังงานในประเทศประกอบกับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อคืนประมาณ 1% จะเป็นปัจจัยลบต่ออารมณ์ตลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเปิดตลาดและการซื้อขายในภาคเช้า

 

• Strategy : หากราคาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 990 ฝั่ง Long ได้เปรียบ, ระวังแรงขายทำกำไรกดดัน

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ 23 มี.ค.

- ติดตามถ้อยแถลงสมาชิก FOMC (Kaplan, Evans) 24 มี.ค.

 

ข่าวในประเทศ

- ตลาดทุนเริ่มห่วงเหตุการเมือง/หุ้นแกว่งตามกระแสเงินไหล : เลขาธิการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าว่า ค่าดัชนีเชื่อมั่นปรับตัวลดลงและอยู่ในภาวะทรงตัวจากเดิมอยู่ในระดับร้อนแรง และเป็นครั้งแรกในรอบปี ที่นักลงทุนต่างประเทศเริ่มกังวลเรื่องปัจจัยทางการเมืองในไทย โดยภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังรอความชัดเจนจากการดำเนินการมาตรการภาษีของสหรัฐอาจส่งผลต่อการค้าระหว่างประเทศ การกีดกันทางการค้า การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ความไม่แน่นอนทางการเมือง เป็นต้น ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดทุนในภูมิภาคมีความผันผวนตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย และเงินทุนไหลเข้าออกในภูมิภาค ปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยมากสุดคือ เศรษฐกิจในประเทศ ปัจจัยลบคือความผันผวนของกระแสเงินทุนเข้าและออก

- (BCPH17)‘BCP’เจาะตลาดเพื่อนบ้าน เล็งทุ่มงบ 3 พันล้านขยายปั๊ม : BCP เร่งขยายฐานต่างแดนเดินหน้าผุดปั๊มน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้านปักหมุดลาว พม่า กัมพูชา “สมชัย เตชะวณิช” เผยอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรศึกษาตลาดและข้อกฎหมาย คาดเดือนเมษายน 2560 ได้ข้อสรุปชัด ส่วนในไทยตั้งเป้าขยายปั๊ม 120 แห่ง คาดใช้งบลงทุนเกือบ 3 พันล้านบาท หวังผลักดันยอดขายปีนี้โตเพิ่ม 10%

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยในคืนวันศุกร์ แต่ยังมีแนวโน้มที่ดีเนื่องจาก สามารถปิดบวกได้เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน และในเช้าเปิดตลาดนี้ ราคาทองได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อลงไปทดสอบใกล้บริเวณ 99 จุด และความเสี่ยงเรื่องนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากไม่ผ่านร่างกฎหมายประกันสุขภาพ ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความกังวลถึงความล่าช้าของนโยบายอื่นๆ ส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทอง โดยราคาเช้านี่ปรับขึ้นกว่า 10 เหรียญ

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 1.00 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.08% โดยปิดที่ 1,243.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,240.35 – 1,251.90 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,255 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย ในช่วงท้ายตลาดหลังจากเงินดอลลาร์เริ่มดีดกลับจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือน แต่ว่าอย่างไรก็ตามเช้านี้ราคาทองได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง มากกว่า 10 เหรียญ และเงินดอลลาร์เปิดตลาดเช้านี้ปรับตัวลดลงเข้าใกล้บริเวณ 99 จุด หลังจากร่างกฎหมายเรื่องประกันสุขภาพนั้น ไม่ผ่านการโหวตในครั้งนี้ ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความกังวลถึงความล่าช้าของนโยบายต่างๆ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้มีแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยง และมีเม็ดเงินไหลเข้าในสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำได้ และสัปดาห์นี้ติดตามตัวเลข GDP สหรัฐฯ และความคืบหน้าของนโยบายต่างๆ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์อย่างใกล้ชิด

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อในช่วงท้ายตลาด อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการร่วงลงจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด

• ดอลลาร์ฟื้นตัวจากใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับเยนในวันศุกร์ และยุติการร่วงลง 8 วันติดต่อกันเมื่อเทียบกับเยน หลังพรรครีพับลิกันถอนร่างกฏหมายประกันสุขภาพออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐเนื่องจากขาดเสียงสนับสนุน

• ปอนด์ร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโรจากระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนในวันพฤหัสบดี ขณะที่นักลงทุนเตรียมพร้อมต่อการที่อังกฤษจะเริ่มกระบวนการถอนตัวอย่างเป็นทางการออกจากสหภาพยุโรปในสัปดาห์นี้

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐขยับลง 1 ดอลลาร์ สู่ 1,243.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ แต่ปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนบวกเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง โดยดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอาจจะไม่มีความสามารถในการผลักดันร่างกฎหมายผ่านสภาคองเกรส

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• ความคืบหน้าของนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

• ตัวเลขการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ (GDP)

 

• Strategy : trading long ได้เปรียบหลังราคาทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง

Smart Stock

Today Strategy:

ลุ้น Window Dressing หนุนระยะสั้น

ดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ก่อนยังคงมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางเฉลี่ยตลอดสัปดาห์ โดยมีมูลค่าการซื้อขายต่ำกว่าระดับเกณฑ์ค่าเฉลี่ยที่ระดับ 40,000 ล้านบาท ขาดปัจจัยบวกภายในประเทศที่มีนัยสำคัญเพียงพอต่อการชี้นำตลาด เช่นเดียวกับตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งนักลงทุนพิจารณาประเด็นจากฝั่งสหรัฐฯ เป็นหลัก อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยบวกเรื่องกระแสเงินทุนที่ไหลกลับเข้ามาในกลุ่มตลาดเกิดใหม่รวมทั้งในดัชนีตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องสะท้อนมุมมองของนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันซึ่งมีมุมมองบวกต่อกลุ่มตลาดเกิดใหม่และยังคงไม่มั่นใจในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งแนวนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งในทางปฏิบัติมีอุปสรรคค่อนข้างมาก ทั้งในด้านการปรับโครงสร้างภาษีภายในประเทศ, นโยบายการคลัง และล่าสุดเรื่อง “อเมริกันเฮลแคร์” ซึ่งพึ่งถูกสภาคว่ำร่างไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ในส่วนของสัญญาซื้อขาย S50H17 ในวันศุกร์สัปดาห์ก่อนเปิดตลาดที่ 991.60 จุด ปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกค่อนข้างชัดเจนก่อนขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 997.10 จุด และปิดตลาดที่ 996.50 จุด +5.6 จุด ภาพรวมนิ่งกว่า SET index ซึ่งเคลื่อนไหวระหว่างวันผันผวนและจำกัดในกรอบแคบมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดย SET index ปิดตลาดที่ 1,573.51 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางเพียง 35,671.48 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อหลักในกลุ่มอุตสหกรรมหลักทั้งพลังงานเเละกลุ่มธนาคารเท่านั้น โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงมีมุมมองบวกซื้อสุทธิ +1,566.47 ล้านบาท, สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ +1,188.28 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่ค่อนข้างส่วนทางขายสุทธิ -2,352.65 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำหรับการซื้อขายในวันนี้เรามองว่าแม้ดัชนีจะเคลื่อนไหวในแดนบวกติดต่อกันแต่ก็ขอให้นักลงทุนพิจารณา Upside ของตลาดที่ถูกจำกัดด้วยการขาดปัจจัยบวกภายในประเทศที่โดดเด่นประกอบกับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในในแดนลบซึ่งอาจส่งผลกระทอบต่อกลุ่มพลังงานภายในประเทศได้ อย่างไรก็ตามสำหรับปัจจัยบวกก็ยังพอมีเรื่องการทำ Window Dressing แต่เราไม่ให้น้ำหนักในระยะกลาง-ยาว

 

• Strategy : หากราคาเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 994 จุดฝั่ง Long น่าสนใจ, Upside จำกัด, ระวังแรงขายทำกำไร

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การประชุม กนง. 29 มี.ค.

- การทำ Window Dressing ภายในประเทศ

 

ข่าวในประเทศ

- บีโอไอหนุนรถยนต์ไฟฟ้า หวังกระตุ้นอุตสาหกรรม: “บีโอไอ” ไฟเขียวเห็นชอบเปิดให้ส่งเสริมลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบห่วงโซ่อุปทาน พร้อมชูสิทธิยกเว้นภาษีนิติบุคคล หวังกระตุ้นอุตสาหกรรมให้หวนคึกคัก

- ไอพีโอระดมทุน'ดึงสภาพคล่อง'หด โบรกเกอร์หวั่นแย่งเม็ดเงินในตลาดหุ้น/หุ้นเข้าเทรดใกล้วันหยุดยาวรับความเสี่ยงสูง: หุ้นไอพีโอแห่เข้าตลาดไตรมาส 2 หลังภาวะตลาดเริ่มฟื้นตัว เมย์แบงก์-ไทยพาณิชย์ เร่งดันไอพีโอเข้าตลาดปีนี้มากกว่า 10 บริษัท นักวิเคราะห์มองเข้าระดมทุนช่วงสงกรานต์อาจมีปัญหาสภาพคล่อง

- (BBLH17) ธนาคารกรุงเทพเปิดสาขาสวนกระแส: ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่าไม่มีแผนปิดสาขา ตรงกันข้ามยังเปิดสาขาเพิ่มอยู่เพื่อรองรับความต้องการใช้บริการของลูกค้าในทำเลต่าง ๆ โดยในช่วง 2 เดือนแรกได้เปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง และในเดือน มี.ค. มีแผนเปิดเพิ่มอีก 4 แห่ง แบ่งเป็น ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล 2 สาขา และต่างจังหวัด 2 สาขา ทำให้ในสิ้นเดือน มี.ค. ธนาคารกระงเทพจะมีสาขาทั้งสิ้น 1,164 แห่ง จาก 1,157 เมื่อสิ้นปี 2559

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ขึ้นแรงลุ้นไปต่อ

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,247.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,247.31 – 1,259.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำเปิดบวกตั้งแต่เช้าวันจันทร์และปรับตัวขึ้นแรงมากกว่า 10 เหรียญ โดยราคาได้ทำจุดสูงสุดใกล้ 1,260 เหรียญ และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาทดสอบบริเวณ 99 จุด โดยปัจจัยที่กดดันค่าเงินดอลลาร์นั้นคือ ร่างกฎหมายประกันสุขภาพของชาวอเมริกัน ไม่ผ่านการโหวตในเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความกังวลถึงนโยบายต่างๆ ในอนาคตที่อาจจะมีการล่าช้า หรือไม่สามารถผ่านร่างได้เช่นกับนโยบายประกันสุขภาพ ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภาคบ่ายนี้มีแรงขายออกมาทั้งฝั่งเอเชียและยุโรป และแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมีเข้ามาต่อเนื่อง โดยในคืนนี้ติดตามหุ้นสหรัฐฯ ว่าจะมีแรงขายกดดันต่อหรือไม่ และลุ้นราคาทองคำไปทดสอบจุดสูงสุดถัดไปในคืนนี้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะปรับขึ้นค่าแรงในอัตราที่ช้ากว่าในปี 2016 ซึ่งสิ่งนี้สวนทางกับความพยายามของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทางการปรับเพิ่มค่าแรงและการบริโภค

- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยบทสรุปความเห็นของสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของบีโอเจในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค. โดยบทสรุประบุว่า สมาชิกคณะกรรมการกล่าวว่า จะมีการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพราะว่าอัตราการเติบโตของราคาผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับที่ห่างจากเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2 % ของบีโอเจ

- โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะไม่ขยายข้อตกลงลดการผลิตออกไป ถ้าหากการขยายตัวของอุปสงค์ไม่ชะลอตัวลงอย่างรุนแรง หรือการผลิตในลิเบีย/ไนจีเรียไม่ดีดตัวขึ้นอย่างมาก

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีนพุ่งขึ้น 31.5% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆนับตั้งแต่ถ่านหินไปจนถึงสินแร่เหล็กพุ่งขึ้น และการนำเข้าที่แข็งแกร่งบ่งชี้ถึงกิจกรรมการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น

- ราคาทองในตลาดสปอตพุ่งขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือนในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง หลังจากความล้มเหลวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการผ่านกฏหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ทำให้เกิดความไม่แน่ใจต่อความสามารถของเขาในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่อง

- ความคืบหน้าของนโยบายต่างๆ ของประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์

 

คำแนะนำ : trading long ได้เปรียบหลังจากทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ขึ้นแรงลุ้นไปต่อ

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,247.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,247.31 – 1,259.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำเปิดบวกตั้งแต่เช้าวันจันทร์และปรับตัวขึ้นแรงมากกว่า 10 เหรียญ โดยราคาได้ทำจุดสูงสุดใกล้ 1,260 เหรียญ และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาทดสอบบริเวณ 99 จุด โดยปัจจัยที่กดดันค่าเงินดอลลาร์นั้นคือ ร่างกฎหมายประกันสุขภาพของชาวอเมริกัน ไม่ผ่านการโหวตในเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความกังวลถึงนโยบายต่างๆ ในอนาคตที่อาจจะมีการล่าช้า หรือไม่สามารถผ่านร่างได้เช่นกับนโยบายประกันสุขภาพ ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภาคบ่ายนี้มีแรงขายออกมาทั้งฝั่งเอเชียและยุโรป และแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมีเข้ามาต่อเนื่อง โดยในคืนนี้ติดตามหุ้นสหรัฐฯ ว่าจะมีแรงขายกดดันต่อหรือไม่ และลุ้นราคาทองคำไปทดสอบจุดสูงสุดถัดไปในคืนนี้

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะปรับขึ้นค่าแรงในอัตราที่ช้ากว่าในปี 2016 ซึ่งสิ่งนี้สวนทางกับความพยายามของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทางการปรับเพิ่มค่าแรงและการบริโภค

- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยบทสรุปความเห็นของสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของบีโอเจในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค. โดยบทสรุประบุว่า สมาชิกคณะกรรมการกล่าวว่า จะมีการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพราะว่าอัตราการเติบโตของราคาผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับที่ห่างจากเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2 % ของบีโอเจ

- โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะไม่ขยายข้อตกลงลดการผลิตออกไป ถ้าหากการขยายตัวของอุปสงค์ไม่ชะลอตัวลงอย่างรุนแรง หรือการผลิตในลิเบีย/ไนจีเรียไม่ดีดตัวขึ้นอย่างมาก

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีนพุ่งขึ้น 31.5% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆนับตั้งแต่ถ่านหินไปจนถึงสินแร่เหล็กพุ่งขึ้น และการนำเข้าที่แข็งแกร่งบ่งชี้ถึงกิจกรรมการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น

- ราคาทองในตลาดสปอตพุ่งขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือนในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง หลังจากความล้มเหลวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการผ่านกฏหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ทำให้เกิดความไม่แน่ใจต่อความสามารถของเขาในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่อง

- ความคืบหน้าของนโยบายต่างๆ ของประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์

 

คำแนะนำ : trading long ได้เปรียบหลังจากทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 28 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

คืนนี้ติดตามฝั่งสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,253.84 USD/toz เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,250.45 – 1,254.86 USD/toz ภาพรวมการเคลื่อนไหวเป็นลักษณะแกว่งตัวออกข้างพักฐานหลังปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลาสิบกว่าวันและขึ้นไปทำจุดสูงที่สุดในรอบเกือบหนึ่งเดือนที่ระดับ 1,261.03 USD/toz ในช่วงเย็นเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวระหว่างวันยังคงมีความผันผวนจากแรงขายทำกำไรอยู่บ้างโดยเฉพาะช่วง 13.00น.-14.00น. โดยเราคาดการณ์ว่าเป็นแรงขายเพื่อปรับสถานะการลงทุนของนักลงทุนที่ปรับลดสถานะการถือครองทองคำเพื่อรับความเสี่ยงจากถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC(Kaplan) และความผันผวนจากการประกาศตัวเลขดัชนีทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในค่ำคืนนี้หลายดัชนี ได้แก่ ดุลการค้า, สินค้าคงคลังของภาคการค้าส่ง, ดัชนีราคาบ้าน, ความเขื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีภาคการผลิตเขตริชมอนต์ฯ ซึ่งเรามองว่ามีแนวโน้มสูงที่ทองคำจะเคลื่อนไหวผันผวนในค่ำคืนนี้จากการประกาศดังกล่าว อย่างไรก็ตามสำหรับปัจจัยบวกเรายังคงให้น้ำหนัก ค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องโดยที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 100 จุด และถือว่าลงไปทำจุดอ่อนค่าต่ำที่สุดในรอบประมาณ 4 เดือน ด้านนักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR เมื่อคืนมีมุมมองบวกต่อทองคำโดยซื้อสุทธิกว่า + 2.67 ตัน ส่งผลให้กองทุนมีสถานะการถือครองทองคำสุทธิที่ 835.29 ตัน ซึ่งก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ยังสะท้อนภาพบวกต่อตลาดทองคำ

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงที่สุดในรอบ 1 เดือนขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลง: ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ปรั บขึ้น 9.99 ดอลลาร์ สู่ 1,253.79 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประสบความล้มเหลวในการผลักดันมาตรการปฏิรูประบบประกันสุขภาพในวันศุกร์ที่ผ่านมาและเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะมีความสามารถมากพอหรือไม่ในการดำเนินแผนลงทุนและแผนปรับลดภาษีตามที่เคยให้สัญญาไว้ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 7.20 ดอลลาร์ที่ 1,255.70 USD/toz

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน: ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับร่วงลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ในวันจันทร์จากความไม่มั่นใจเกี่ยวกับความสามารถของฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ปิดที่ 100-116/256 โดย มีอัตราผลตอบแทน 2.9769% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปิดที่ 98-244/256 โดยมีอัตราผลตอบแทน 2.3693%

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงต่ำที่สุดในรอบ 4 เดือนเทียบตะกร้าเงินสกุลหลัก: ดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงในวันจันทร์สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการคลังของสหรัฐฯ หลังประธานา ธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประสบความล้มเหลวในการผ่านร่างกฏหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ทั้ งนี้ค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดสหรัฐฯ แต่ก็ยังคงลดลง 0.45% เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน หลังร่วงต่ำถึง 98.858 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.

- ราคาน้ำมันดิบร่วงลงขณะที่ตลาดไม่แน่ใจเรื่องการต่ออายุข้อตกลงมาตรการการปรับลดอุปทานน้ำมันดิบ: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงห น้า NYMEX ร่วงลงในวันจันทร์ ในขณะที่นักลงทุนยังคงไม่แน่ใจว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมัน จะต่ออายุมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปหลังสิ้นเดือน มิ.ย.หรือไม่ ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ค.ร่วงลง 24 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 47.73 USD/bbl

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่ำคินนี้ติดตามประกาศตัวเลขดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายดัชนี โดยเฉพาะดุลการค้าและถ้อยแถลงสมาชิก FOMC(Kaplan)

- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าต่อเนื่องต่ำกว่าระดับ 100 จุด

- กระบวนการ BREXIT (29 มี.ค.)

 

คำแนะนำ : ฝั่ง Long Position ได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 1,253 USD/toz

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 29 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากค่าเงินดอลลาร์ดีดกลับจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือนได้ในเมื่อวานนี้ โดยปัจจัยหนุนค่าเงินดอลลาร์นั้นคือ ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ประกาศในเมื่อคืนนี้ออกมาดีสุดในรอบกว่า 16 ปี รวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นช่วยหนุนสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้ทองคำเผชิญแรงขายทำกำไร แต่เชื่อว่าในระยะกลางราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่ดีต่อ ระยะสั้นอาจมีโอกาสพักฐาน

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 2.27 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.18% โดยปิดที่ 1,251.52 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,247.41 – 1,258.35 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,248 เหรียญ ราคาทองคำเริ่มปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากแรงซื้อกลับในค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยเมื่อคืนนี้มีประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค ที่ออกมาทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 16 ปี ทำให้ปัจจัยนี้ช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ ผนวกกับ ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงเนื่องจากจะมีการลงนามออกจากสหภาพยุโรปของประเทศอังกฤษ และราคาน้ำมันที่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกำลังการผลิตที่ลดลงในลิเบีย ส่งผลให้เป็นปัจจัยหนุนในสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนคืนนี้ติดตามตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์ และสต็อกน้ำมันดิบ โดยคาดว่าราคาทองคำในระยะกลางยังมีแนวโน้มที่ดี แต่ระยะสั้นอาจจะถูกขายทำกำไรเพื่อพักฐานได้ และกองทุน SPDR มีการลดสถานะขายทองออกมาเมื่อวานนี้ 1.78 ตัน รวมถือครอง 833.51 ตัน

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.34 % ในวันอังคาร หลังจากลิเบียประสบปัญหาใหญ่ในการผลิตน้ำมัน และเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กับประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอาจจะต่ออายุมาตรการปรับลดการผลิตน้ำมันออกไปจนถึงสิ้นปีนี้

• แหล่งข่าวในบริษัทเนชั่นแนล ออยล์ คอร์ป (NOC) ของลิเบียรายงานว่า กลุ่มติดอาวุธได้ปิดกั้นการผลิตน้ำมันในแหล่งน้ำมันชาราราและวาฟาทางภาคตะวันตกของลิเบีย และส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันลดลง 252,000บาร์เรลต่อวัน หรือลดลงราว 1 ใน 3

• ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันอังคารโดยดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนขณะที่นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองจากการที่อังกฤษจะเริ่มถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) นั้นกดดันสกุลเงินยุโรป

• ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 16 ปี

• ราคาทองได้รับแรงกดดัน ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐ, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และตลาดหุ้นปรับสูงขึ้น

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• การลงนามออกสหภาพยุโรปของอังกฤษในวันนี้

• ตัวเลขการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ (GDP)

 

• Strategy : trading ในกรอบการอ่อนตัว หรือระยะกลางรอ long เมื่อปรับลดลงแรง

Smart Stock

Today Strategy:

แรงหนุนจาก Window Dressing

สำหรับภาพการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ระหว่างดัชนี SET index และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า SET50(S50H17) ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยเรามองว่าเป็นผลมาจากการที่สัญญาฯ S50H17 ใกล้ถึงวันสิ้นสุดอายุแล้วประกอบกับภาพความชัดเจนของปัจจัยต่างๆ ยังคงไม่เกิดขึ้นทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจในการปรับขึ้นของดัชนี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับขึ้นที่มีแนวโน้มมาจากการทำ Window Dressing ในไตรมาส1/60 และกระแสเงินทุนไหลเข้าหลังนักลงทุนต่างชาติขาดความมั่นใจในมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งประสบปัญหาการคัดค้านจากฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นโดยไม่มีมูลค่าการซื้อขายที่สอดคล้องกันทำให้มีความอ่อนไหวและเปราะบางต่อปัจจัยกระทบ ซึ่งเรามองว่ามีโอกาสสูงที่อาจมีแรงขายทำกำไรบางส่วนเกิดขึ้นในตลาดตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์นี้เป็นต้นไป สำหรับสัญญาฯ S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดที่บริเวณ 998 จุด ปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 999.50 จุด สร้างกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 5 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 998 จุด +2.8 จุด การเคลื่อนไหวผันผวนระหว่างวันมากกว่าดัชนี SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,576.72 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มมากขึ้นจากวันก่อนหน้าเเต่ก็ยังคงต่ำกว่าเกณฑ์ปกติที่สี่หมื่นล้านเพียง 38,903.60 เท่านั้น โดยยังคงเป็นเเรงซื้อสุทธิหลักจากกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศที่ซื้อสุทธิกว่า +1,675.69 ล้านบาท พร้อมทั้งมีสถานะซื้อในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 +876 สัญญา สะท้อนมุมมองบวกต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่และกลุ่มธนาคารที่มีแนวโน้มจะได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ

 

• Strategy : ฝั่ง Long Position ได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 997.50 จุด, ระวังแรงขายทำกำไร, ติดตามการประชุม กนง.

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- การประชุม กนง. 29 มี.ค. และการทำ Window Dressing ไตรมาส 1/60

- กระบวนการ BREXIT 29 มี.ค.

 

ข่าวในประเทศ

- ก.ล.ต.คุมเข้มหุ้นไอพีโอตีกันผู้มีอุปการคุณ: ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดสรรหุ้นไอพีโอ ให้กับผู้มีอุปการคุณและบุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์เพราะที่ผ่านมาพบว่าการซื้อขายหุ้นไอพีโอ ในหลายกรณีมีความร้อนแรง ส่วนหนึ่งเกิดจากหุ้นที่กระจุกตัวมากในกลุ่มผู้มีอุปการคุณที่ออกหลักทรัพย์ถึง 40-50% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขาย ซึ่งทำให้สามารถควบคุมปริมาณหุ้นจนนำไปสู่การสร้างราคาหุ้นสูงได้ง่ายและพบว่ามีรายชื่อผู้มีอุปการคุณซ้ำกันในการทำไอพีโอของบริษัทที่อยู่ต่างอุตสาหกรรมกัน

- ทำธุรกิจในไทยง่ายขึ้นแน่ พาณิชย์มั่นใจธนาคารโลกประกาศ ต.ค.นี้อันดับดีกระโดด: พาณิชย์มั่นใจอันดับความยาก-ง่ายทำธุรกิจไทยปี 2561 ที่ธนาคารโลกจะประกาศในเดือน ต.ค.นี้ "โตแบบกระโดด" แน่ ตั้งเป้าติด 1 ใน 30 หลังเปิดให้จดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ครม.ปลื้ม แนวโน้มเศรษฐกิจไทยต้นปีเริ่มฟื้น ส่งออกกระเตื้อง อานิสงส์ตลาดคู่ค้าเริ่มคึกคัก

- (MINTH17)‘ไมเนอร์ฯ’ รุกผุดช็อปรับกระแสฮิตอเนลโล่: ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น ผู้จัดจำหน่ายสินค้านำเข้ากระเป๋าอเนลโล่ เปิดเผยว่า บริษัทได้เซ็นสัญญากับบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์กระเป๋าอเนลโล่ แบรนด์จากญี่ปุ่นระยะ 5 ปี เพื่อเป็นผู้จัดจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการและทุ่มงบ 50 ล้านบาท ขยายช็อปจาก 39 สาขา ให้ครบ 53 สาขา และมีโอกาสจะขยายเพิ่มเป็น 70 สาขาทั่วประเทศ

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 29 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

เริ่มย่อ

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,251.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,246.75 – 1,253.38 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองแกว่งในกรอบบวกลบแคบๆ ประมาณ 7 เหรียญ โดยในบ่ายวันนี้ราคาทองแกว่งในแดนบวกเล็กน้อย ราคาทองได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือน รวมทั้งราคาน้ำมันที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวช่วยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยง แต่อย่างไรก็ตามวันนี้ต้องติดตามกระบวนการลงนามถอนตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ ซึ่งคาดว่าหากไม่มีอะไรผิดคาดการณ์ ก็จะไม่ส่งผลกระทบกับราคาทอง แต่ให้จับตาความคืบหน้าเรื่องนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นหลัก ที่มีโอกาสสร้างความผันผวนให้ตลาดการเงินทั่วโลกได้ และในวันติดตามยอดขายบ้านที่รอปิดการขายและตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ โดยคาดว่าภาพรวมราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่ดี แต่ระยะสั้นเสี่ยงต่อการขายทำกำไรช่วงสั้น

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาดวันนี้ ขณะที่อังกฤษเตรียมที่จะเริ่มกระบวนการออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่เข้าร่วมอียูในปี 1973 ณ เวลา 14.41 น.ตามเวลาไทย ดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปบวก 0.2% มาที่ 1,490.94 ส่วนดัชนี STOXX 600 บวก 0.14%

- รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอาจจะร่วงลงก่อนกลางปีนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนในการออกกฎหมายในสหรัฐและการเลือกตั้งในยุโรป อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีแนวโน้มปิดตลาดปีนี้ด้วยการปรับขึ้น 7% จากปี 2016

- ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนครึ่งในวันนี้ ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปในปีนี้ ทางด้านปอนด์ได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า อังกฤษจะเริ่มกระบวนการอย่างเป็นทางการในการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit

- รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า กิจกรรมภาคการผลิตของจีนมีแนวโน้มเติบโตในเดือนมี.ค.เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ในขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ดีดขึ้นอย่างพลิกความคาดหมาย และส่งผลให้เกิดภาวะเฟื่องฟูในภาคก่อสร้าง โดยทำให้ยอดขายวัสดุก่อสร้างซึ่งรวมถึงเหล็กกล้าและปูนซีเมนต์พุ่งสูงขึ้น

- นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในวันอังคารว่า ผลกระทบที่เศรษฐกิจได้รับจากคณะผู้บริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงมีความไม่แน่นอนมากเกินไป ดังนั้นเฟดจึงไม่สามารถแสดงปฏิกิริยาต่อผลกระทบดังกล่าวได้ และไม่สามารถปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ใหม่ได้ในช่วงนี้

- บริษัทซีพีเอ็ม กรุ๊ประบุในวันอังคารว่า การลงทุนในทองแท่งจะเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันในปีนี้ ขณะที่คาดว่าปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจระดับโลกจะทำให้มีความสนใจซื้อทองต่อไป "นักลงทุนซึ่งเคยขายทองในปลายปี 2011 และต้นปี 2012 นั้น ได้กลับเข้ามาลงทุนแล้ว" ซีพีเอ็ม กรุ๊ประบุในรายงาน Gold Yearbook 2017 ซีพีเอ็มคาดว่า การลงทุนในทองแท่งจะอยู่ที่ 17.6 ล้านออนซ์ในปี 2017 พุ่งขึ้นจากระดับ 17.4 ล้านออนซ์ในปี 2016 และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งอยู่ที่ 29.2 ล้านออนซ์

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ราคาน้ำมันที่เริ่มดีดกลับจากกำลังการผลิตที่ลดลงในลิเบีย

- ค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน

- กระบวนการ Brexit ในวันนี้

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบการอ่อนตัว หรือระยะกลางรอ long เมื่อปรับตัวลดลงแรง

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 29 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

เริ่มย่อ

ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,251.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,246.75 – 1,253.38 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองแกว่งในกรอบบวกลบแคบๆ ประมาณ 7 เหรียญ โดยในบ่ายวันนี้ราคาทองแกว่งในแดนบวกเล็กน้อย ราคาทองได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือน รวมทั้งราคาน้ำมันที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวช่วยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยง แต่อย่างไรก็ตามวันนี้ต้องติดตามกระบวนการลงนามถอนตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ ซึ่งคาดว่าหากไม่มีอะไรผิดคาดการณ์ ก็จะไม่ส่งผลกระทบกับราคาทอง แต่ให้จับตาความคืบหน้าเรื่องนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นหลัก ที่มีโอกาสสร้างความผันผวนให้ตลาดการเงินทั่วโลกได้ และในวันติดตามยอดขายบ้านที่รอปิดการขายและตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ โดยคาดว่าภาพรวมราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่ดี แต่ระยะสั้นเสี่ยงต่อการขายทำกำไรช่วงสั้น

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาดวันนี้ ขณะที่อังกฤษเตรียมที่จะเริ่มกระบวนการออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่เข้าร่วมอียูในปี 1973 ณ เวลา 14.41 น.ตามเวลาไทย ดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปบวก 0.2% มาที่ 1,490.94 ส่วนดัชนี STOXX 600 บวก 0.14%

- รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอาจจะร่วงลงก่อนกลางปีนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนในการออกกฎหมายในสหรัฐและการเลือกตั้งในยุโรป อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีแนวโน้มปิดตลาดปีนี้ด้วยการปรับขึ้น 7% จากปี 2016

- ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนครึ่งในวันนี้ ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปในปีนี้ ทางด้านปอนด์ได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า อังกฤษจะเริ่มกระบวนการอย่างเป็นทางการในการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit

- รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า กิจกรรมภาคการผลิตของจีนมีแนวโน้มเติบโตในเดือนมี.ค.เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ในขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ดีดขึ้นอย่างพลิกความคาดหมาย และส่งผลให้เกิดภาวะเฟื่องฟูในภาคก่อสร้าง โดยทำให้ยอดขายวัสดุก่อสร้างซึ่งรวมถึงเหล็กกล้าและปูนซีเมนต์พุ่งสูงขึ้น

- นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในวันอังคารว่า ผลกระทบที่เศรษฐกิจได้รับจากคณะผู้บริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงมีความไม่แน่นอนมากเกินไป ดังนั้นเฟดจึงไม่สามารถแสดงปฏิกิริยาต่อผลกระทบดังกล่าวได้ และไม่สามารถปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ใหม่ได้ในช่วงนี้

- บริษัทซีพีเอ็ม กรุ๊ประบุในวันอังคารว่า การลงทุนในทองแท่งจะเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันในปีนี้ ขณะที่คาดว่าปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจระดับโลกจะทำให้มีความสนใจซื้อทองต่อไป "นักลงทุนซึ่งเคยขายทองในปลายปี 2011 และต้นปี 2012 นั้น ได้กลับเข้ามาลงทุนแล้ว" ซีพีเอ็ม กรุ๊ประบุในรายงาน Gold Yearbook 2017 ซีพีเอ็มคาดว่า การลงทุนในทองแท่งจะอยู่ที่ 17.6 ล้านออนซ์ในปี 2017 พุ่งขึ้นจากระดับ 17.4 ล้านออนซ์ในปี 2016 และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งอยู่ที่ 29.2 ล้านออนซ์

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ราคาน้ำมันที่เริ่มดีดกลับจากกำลังการผลิตที่ลดลงในลิเบีย

- ค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน

- กระบวนการ Brexit ในวันนี้

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบการอ่อนตัว หรือระยะกลางรอ long เมื่อปรับตัวลดลงแรง

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า)

 

Today Strategy:

• Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ และขาดปัจจัยที่ชัดเจนในช่วงนี้ โดยปัจจัยกดดันคือค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และทำจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ได้ แต่อย่างไรก็ตามราคาทองก็ได้รับปัจจัยหนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองทั้งทางฝั่งสหรัฐฯ และทางฝั่งยุโรปที่มีทั้งประเด็นการออกจากยูโรโซนของประเทศอังกฤษ และการเลือกตั้งของประเทศฝรั่งเศสในเดือนหน้า

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.43 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.03% โดยปิดที่ 1,251.95 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,246.75 – 1,254.66 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,250 เหรียญ ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบ ประมาณ 8 เหรียญในเมื่อวานนี้ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และทำจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ได้ แต่ว่าอย่างไรก็ตามราคาทองก็ได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองทั้งทางฝั่งสหรัฐฯ และฝั่งยุโรป ที่มีทั้ง การออกจากยูโรโซนของอังกฤษ และการเลือกตั้งของฝรั่งเศสที่ใกล้เข้ามาถึงในเดือนหน้า แต่ในช่วงสั้นนี้ราคาทองยังขาดปัจจัยที่ชัดเจนที่จะทำให้ราคาทองแกว่งผันผวนแรง และในวันนี้ติดตามตัวเลข GDP สหรัฐฯ เป็นหลัก หากผิดคาดการณ์มาก อาจจะเป็นปัจจัยให้ราคาทองแกว่งผันผวนได้

 

Exclusive News

• ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 2.4 % ในวันพุธ ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับขึ้นน้อยเกินคาด, ลิเบียยังคงประสบปัญหาขัดข้องในการส่งออกน้ำมัน และประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีแนวโน้มที่จะต่ออายุข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไป

• ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐและยุโรป และนักลงทุนมองว่า ดอลลาร์เผชิญแรงขายมากเกินไปแล้ว หลังปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ไม่สามารถผลักดันร่างกฏหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพในสัปดาห์ที่ผ่านมา

• ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากความเห็นของนายชาร์ลส อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐขยับขึ้น 43 เซนต์ สู่ 1,251.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ และเคลื่อนตัวอยู่ใต้จุดสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ทำไว้ในวันจันทร์ที่ 1,261.03 ดอลลาร์ โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนในการเจรจาเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit, จากความไม่แน่นอนในการเลือกตั้งในฝรั่งเศส และจากความไม่แน่นอนในนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และปัจจัยบวกเหล่านี้ช่วยบดบังการแข็งค่าของดอลลาร์

 

Key Point

Positive( + )

• ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง

Negative( - )

• เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น

• การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

• การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ

Neutral ( * )

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน

• การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

• ตัวเลขการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ (GDP)

 

• Strategy : trading ในกรอบการอ่อนตัว ระยะกลางฝั่ง long ยังน่าสนใจ

Smart Stock

Today Strategy:

เปลี่ยนมาถือซีรี่ย์ M (S50M17)

ดัชนีตลาดหุ้นไทยกลับมาเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวออกข้างและเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง หลังจากที่ภาพการเคลื่อนไหวตลอดสัปดาห์ได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดไทย ทำให้กลุ่มตลาดเกิดใหม่รวมทั้งไทยเคลื่อนไหวและปิดตลาดในแดนบวกเป็นส่วนมาก โดยที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยค่อนข้างโดดเด่นกว่าตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มทรงตัวจากความไม่มั่นใจต่อศักยภาพของประธานาธิบดีทรัมป์ หลังฝ่ายนิติบัญญติคว่ำร่างกฎหมายอเมริกันเฮลแคร์ สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้ เปิดตลาดบริเวณ 997.50 เคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่างวัน 2-3 จุด และปิดตลาด +0.1 จุด ที่บริเวณ 998 จุด ลักษณะการเคลื่อนไหวระหว่างวันคล้ายคลึงกับดัชนี SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,574.97 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่ยังคงเบาบางตามเดิมเพียง 36,901.85 ล้านบาท เป็นเเรงขายของกลุ่มนักลงทุนรายย่อยภายในประเทศ -1,923.13 ล้านบาท, บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -300.28 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างประเทศเริ่มซื้อสุทธิน้อยลงเพียง +156.62 ล้านบาท เท่านั้น โดยปัจจัยที่เข้ามากระทบระหว่างวันคงหนีไม่พ้นประเด็นที่ กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี หลังพิจารณาว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตดีกว่าที่คาดการณ์ สำหรับการซื้อขายในวันนี้เราแนะนำให้เปลี่ยนมาถือซีรีย์ M (S50M17) แทนซีรีย์ H (S50H17) ที่ครบกำหนดสิ้นอายุสัญญาลงไป

 

• Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา, เป้าทำกำไร/ตัดขาดทุน สั้นๆ รอประเด็นใหม่ๆ

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- ติดตามกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าทั้งในตลาดตราสารทุน, ตลาดตราสารหนี้และตลาดอนุพันธ์

 

ข่าวในประเทศ

- ต่างชาติซื้อหุ้นไทยหมื่นล้านหนีความเสี่ยงนโยบายทรัมป์ไม่ชัด: ทุนต่างชาติไหลเข้าทั้งสัปดาห์เฉียด 1 หมื่นล้านบาท ดันหุ้นอันทัชนิวไฮรอบปี “เมย์แบงก์” ชี้ความเสี่ยงต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนโยบายทรัมป์ ส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง ขณะที่เศรษฐกิจและบจ.ไทยแนวโน้มเติบโตดี ด้านเคทีบีแนะเพิมน้ำหนักหุ้นขนาดใหญ่ พร้อมประเมินดอกเบี้ยสหรัฐฯ อาจปรับขึ้นช่วงไตรมาส 2

- แนะไทยเร่งลงทุน 5G รองรับ4.0 ชี้หากล่าช้าจะเสียโอกาสสร้างรายได้นับแสนล้าน: หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะสมาคมจีเอสเอ็มเปิดเผยว่าการลงทุนเทคโนโลยีมีทั้งความท้าทายและความเสี่ยงถ้าต้องรอเหมือนตอนเปลี่ยนยุค 2G มา 3G ที่ต้องใช้เวลา 20 ปี ประเทศจะเดินหน้าไม่ทันดังนั้น ไม่ใช้แค่ผู้ให้บริการโครงข่ายหรือ ภาคเอกชนที่ให้บริการเป็นผู้ลงทุน แต่ภาครัฐควรเร่งวางโครงสร้างพื้นฐานให้ทั่วถึงและเพิ่มจำนวนคลื่นความถี่ที่เหมาะสมกับการใช้งานและควรลงมือทันทีไม่ใช่รออีก 3-5 ปี แล้วค่อยเดินหน้า

- (CKH17) CK แบ็กล็อกทะลักแสนล้าน ลุ้นชิงรถไฟฟ้าทุกเส้นทาง : CK จ่อร่วมวงชิงงานไฟฟ้าทุกเส้นทาง ตั้งเป้าคว้างานไม่ต่ำกว่า 20-25% ของมูลค่างานทั้งหมด หวังอัพยอด Backlog ทะลักกว่า 1 แสนล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 8.3 หมื่นล้านลาท รับรู้รายได้ยาวต่อเนื่อง 3 ปีข้างหน้า ด้านบอร์ด PPP อนุมัติ 6 โครงการ เร่งประมูลปีนี้ มูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ติดตาม “จีดีพี” สหรัฐฯ

ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าที่ 1,250.52 USD/toz เคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาขึ้นระหว่าง 1,247.55 – 1,251.46 USD/toz ภาพการเคลื่อนไหวถือว่ามีทั้งแรงซื้อและแรงขายสลับกัน โดยทองคำยังคงถือได้ว่าได้รับปัจจัยบวกจากความกังวลเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองฝั่งยุโรปซึ่งมีโอกาสที่ผลการเลือกตั้งจะไม่เป็นไปตามคาดการณ์ของตลาดเดิม รวมทั้งความไม่มั่นใจในประสิทธิภาพของประธานาธิบดีทรัมป์ในทางปฏิบัติว่าจะสามารถเป็นผู้นำฝ่ายบริหารได้อย่างเด็ดขาดเหนือฝ่ายนิติบัญญัติได้ ในส่วนของมุมมองนักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR ยังคงมุมมองถือครองทองคำสุทธิไว้ที่ระดับ 833.51 ตัน ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ซึ่งเรามองว่าการถือสถานะทองคำดังกล่าวก็สอดคล้องกับภาพการเคลื่อนไหวของทองคำที่เริ่มมีแรงขายทำกำไรและแกว่งตัวออกข้างในกรอบราคา โดยเราเชื่อว่านักลงทุนบางส่วนตอบรับข่าวต่างๆ ทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบหลักๆ ไปแล้วระดับหนึ่ง ดังนั้นทองคำมีแนวโน้มทีจะเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวออกข้างในแนวโน้มขาขึ้นเล็กน้อย สำหรับการเปิดสถานะในค่ำคืนนี้ ขอให้ติดตามตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะ จีดีพีขั้นสุดท้ายไตรมาส 4/59, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีราคา รวมไปถึงถ้อยแถลงสมาชิก FOMC(Kaplan) ซึ่งมีความสำคัญต่อการชี้นำการเคลื่อนไหวของทองคำพอสมควร

 

หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ

- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลง: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลงในวันพุธท่ามกลางภาวะซื้อขายเบาบาง โดยถูกกดดันจากความไม่แน่ใจเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ปิดที่ 100-64/256 โดย มีอัตราผลตอบแทน 2.9872% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปิดที่ 98-216/256 โดยมีอัตราผลตอบแทน 2.3819%

- ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าจากความเห็นเจ้าหน้าที่เฟดหนุนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก: ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันพุธโดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และยุโรป รวมทั้งนักลงทุนมองว่า ค่าเงินดอลลาร์เผชิญแรงขายมากเกินไปแล้ว หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่สามารถผลักดันร่างกฏหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยูโรร่วงลงสู่ 1.0741 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับ ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ 100.13 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.

- ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบหนุนราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวพุ่งขึ้น 2.4%: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า WTI(NYMEX) ปรับพุ่งขึ้น 2.4 % ในวันพุธ ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับขึ้นน้อยเกินคาด ด้านลิเบียยังคงประสบปัญหาขัดข้องในการส่งออกน้ำมัน และประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีแนวโน้มที่จะต่ออายุข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไป ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือ น พ.ค.พุ่งขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.4 % มาปิดตลาดที่ 49.51 USD/bbl

- ราคาทองคำขยับขึ้นขณะตลาดที่จับตา Brexit: ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ขยับขึ้น 43 เซนต์ สู่ 1,251.95 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพุธและเคลื่อนตัวอยู่ใต้จุดสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ทำไว้ในวันจันทร์ที่ 1,261.03 USD/toz โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนในการเจรจาเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit และจากความไม่แน่นอนในการเลือกตั้งในฝรั่งเศส รวมไปถึงความไม่แน่นอนในนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยบวกเหล่านี้ช่วยบดบังการแข็งค่าของดอลลาร์ที่ปรับขึ้นกดดันทองคำ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือน เม.ย.ที่ตลาด COMEX ปิดลดลง 1.90 ดอลลาร์ ที่ 1,253.70 USD/toz

 

ประเด็นที่ต้องติดตาม:

- ค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน

- ค่ำคืนนี้ติดตามจีดีพีขั้นสุดท้ายสหรัฐฯ

 

คำแนะนำ : เปิดสถานะในกรอบให้น้ำหนักฝั่ง Long Position เป็นหลัก (Long Bias)

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgf

https://plus.google.com/114919553661509313835/posts

http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/

http://classicgoldfutures.blogspot.com

Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...