ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กระทรวงการต่างประเทศจีนยินดีหนุนสหรัฐฯ คุยเกาหลีเหนือ

“เรายินดีและยืนยันว่าช่วงนี้อยู่ในจังหวะที่ดีของการพัฒนาความสัมพันธ์เหนือคาบสมุทรเกาหลี” เกิ๋งส่วง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวกับผู้สื่อข่าวในงานแถลงข่าวประจำวันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (13 ก.พ.)

จีนเชื่อเสมอมาว่าการพูดคุยและไกล่เกลี่ยระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ สำคัญต่อการแก้ปัญหาเหนือคาบสมุทรเกาหลี “เราหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะรักษาการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างกันในช่วงการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาอันดีที่ไม่ได้หาง่ายๆ อาศัยจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้น เปิดการเจรจาทางการเมืองไปทีละขั้น” เกิ๋งส่วงกล่าว

หัวใจสำคัญของปัญหาเหนือคาบสมุทรเกาหลีคือความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐฯ “จีนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้จะสามารถปรับเปลี่ยนไปสู่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ ได้” เกิ๋งส่วงเสริม

เขาเน้นย้ำว่า การกดดันผ่านมติคว่ำบาตรควรจะเปลี่ยนเป็นแรงผลักดันในการเจรจาในเวลาที่เหมาะสม เกาหลีเหนือและสหรัฐฯ ควรคว้าโอกาสไว้ เพื่อแสดงความจริงใจและสร้างก้าวสำคัญด้วยท่าทีที่เหมาะสมและมุ่งมั่น

ในขณะเดียวกัน ประชาคมโลกก็ควรผลักดันสถานการณ์เหนือคาบสมุทรเกาหลีไปในทิศทางที่ถูกต้อง ทุ่มเทอย่างแท้จริงเพื่อส่งเสริมการกำจัดอาวุธนิวเคลียร์ให้หมดไปจากคาบสมุทรเกาหลี

(แฟ้มภาพ : คิมจองอึนจัดประชุมในกรุงเปียงยางเมื่อวันที่ 12 ก.พ. ร่วมกับคณะผู้แทนระดับสูงของเกาหลีเหนือที่กลับมาจากการเดินทางไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ที่เมืองพย็องชัง ประเทศเกาหลีใต้)

Image may contain: 5 people, people smiling, people standing
 

๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

มีข่าวตำรวจจับกุม นายกฤษชาภณ หรือพล พูลศิลป์ อายุ 53 ปี ที่ห้องเลขพักหมายเลข 2/28 อาคาร 10 เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

ที่น่าสนใจก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึดระเบิดขว้างสังหาร ชนิดระเบิดเอ็ม ๒๖ จำนวน ๑ ลูก ระเบิดปิงปองพันเทปสีดำ ๔ ลูก ประทัดยักษ์พันตะปู ๒ ลูก ไปป์บอมบ์ แบบจุดข้าง ๓ ลูก และประทัดแบบลูกบอล ขนาด ๒.๕ ซ.ม. จำนวน ๒๓ ลูก

ข้อมูลจากปากคำของผู้ถูกจับกุมได้สารภาพว่า

ระเบิดทั้งหมดเป็นของนายธีรชัย อุตรวิเชียร หรือนายระพิน อดีตการ์ดกลุ่มเดียวกันกับนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานี ได้นำมาฝากไว้ตั้งแต่เลิกชุมนุมทางการเมือง ในช่วงที่มีการชุมนุมของ กกปส. และเวทีแจ้งวัฒนะที่ผ่านมา

เห็นข่าวนี้แล้วทำให้คิดไปถึงเหตุการณ์ตอนที่เวทีแจ้งวัฒนะถูกถล่มด้วยสารพัดระเบิด

พอพวกการ์ดของเวทีแจ้งวัฒนะติดตามค้นหาตัวผู้ปาระเบิด ผลปรากฏว่า ต้องเจอกับด่านตำรวจลูกน้องของผู้การเจ้าของวลีเด็ดว่า ได้ดีเพราะพี่ให้ สกัดขัดขวาง

ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า พวกที่ลอบเข้ามาทำร้ายพวกเรา มันผ่านตำรวจเข้ามาและผ่านตำรวจออกไปได้อย่างไร

จึงอยากเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ช่วยสอบขยายผลหาตัวผู้ลอบเข้ามาทำร้ายผู้ชุมนุมเวทีแจ้งวัฒนะให้หน่อย

หากเจ้าหน้าที่ขยายผลสอบอย่างจริงจังแล้ว

เชื่อได้แน่ว่าจักต้องรู้ว่ามีใครอยู่เบื้องหลังในการลอบทำร้ายพวกเราด้วยอาวุธสงครามหลายครั้งหลายครา

เพราะคนพวกนี้มันเครือข่ายเดียวกันทั้งนั้น

พุทธะอิสระ

ขอขอบคุณภาพข่าวจาก
ข่าวสด, สปริงเรดิโอ

No automatic alt text available.

Image may contain: 1 person, text

Image may contain: 1 person, text

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

No automatic alt text available.

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพรอันเป็นสิริมงคลสูงสุดในชีวิต เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ปีจอ ๒๕๖๑ ให้ชาวไทย “ร่ำรวย และรุ่งเรือง” ตลอดปี

พรพระราชทานลายพระหัตถ์ภาษาจีน ความหมายมงคลในปีนี้ คือคำว่า 兴旺 อ่านว่า ซิงว่าง [xīngwàng] มีความหมายว่า "ร่ำรวย รุ่งเรือง" ในเทศกาลตรุษจีน ปีจอ พ.ศ. ๒๕๖๑ นี้ ร้านภูฟ้าได้อัญเชิญพระพระราชทานดังกล่าว มาปักด้านบนภาพฝีพระหัตถ์ “สุนัขหูตั้ง” หน้าตาเบิกบาน เฉลียวฉลาด ใฝ่รู้ใฝ่เรียน พร้อมทั้งอัญเชิญพระนามาภิไธย "สิรินธร" ภาษาจีน 诗琳通 (Shī lín tōng) ตามคำเรียกขานของชาวจีน 诗 shī แปลว่า บทกวี 琳 lín แปลว่า หยกสวยงาม และ 通 tōng แปลว่า ปราดเปรื่อง ปักด้วยไหมสีทองพิเศษ ประดับไว้บนกระเป๋าเสื้อโปโลสีแดง จอ-เจริญรุ่งเรือง เพื่อสร้างสิริมงคลแก่ผู้สวมใส่ อันเป็นมงคลสูงสุดแก่ผู้สวมใส่ในเทศกาลตรุษจีนนี้

/...ร้านภูฟ้า จากภูมิปัญญาแผ่นดิน สู่การทำกินที่พอเพียง

Image may contain: 1 person, sitting and indoor

วันศุกร์ที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เวลา ๑๗.๑๗ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเททองหล่อพระกริ่ง รุ่นเทพมังกรทอง ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร

ขอบคุณภาพ.FB_นสพ. มติสวรรค์

ข่าวในพระราชสำนัก วันจันทร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 (ภาคเช้า)

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 09:19:24 น.
กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--MTS Gold Group
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเริ่มปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ หลังจากที่ปรับตัวลดลงในคืนวันศุกร์และทรงตัวเมื่อวานนี้ โดยที่เมื่อวานนี้ภาพรวมตลาดมีแรงซื้อขายเบาบางเนื่องในวันหยุดเทศกาลตรุษจีน ประกอบกับวันหยุดของสหรัฐฯในวัน President's Day โดยภาพองค์รวมนั้นค่าเงินดอลลาร์มีการรีบาวน์หลังลงไปทำระดับต่ำสุดแถวระดับ 88.3 จุด เช้านี้อยู่ที่ 89.26 จุด สำหรับเมื่อวานนี้ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ขณะที่คืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญใดๆ



วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำทางเทคนิคระยะสั้น เริ่มหลุดแนวรับระยะสั้นบริเวณ 1,347 เหรียญลงมา ทำให้ภาพรวมระยะสั้นๆมีโอกาสจะแกว่งตัวลดลงต่อเนื่อง แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,330 เหรียญ และมีแนวต้าน 1,360 เหรียญ จึงแนะนำให้เก็งกำไรขาลงระยะสั้น ด้านราคาทองคำไทยมีโอกาสจะหลุด 20,000 บาท/บาททองคำอีกครั้ง โดยมีแนวรับ 19,800 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้าน 20,000 บาท/บาททองคำ

การลงทุน Gold D
เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบขาลงตามการแกว่งตัว โดจะมีแนวรับ 1,330 เหรียญ และมีแนวต้าน 1,360 เหรียญ

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เก็งกำไรตามแนวโน้มขาลงระยะสั้น
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
หาจังหวะลดสถานะเมื่อราคาปรับตัวขึ้น
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ เน้นเล่นสั้นๆในกรอบภายในวัน
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
Wait & See เน้นบริหารพอร์ตสมดุล เนื่องจากภาพระยะสั้นมีความผันผวนค่อนข้างมาก เน้นเล่นสั้นปรับพอร์ตมาทำกำไรขาลง

Gold Futures G18 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,200 บาท
Gold Futures J18 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,250 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

MTS Research

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2785332

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

YLG GOLD DAILY UPDATE
• ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยราว 0.42 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ 1,351.35-1,345.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางกว่าปกติทั้งในตลาดเอเชียที่บางประเทศยังคงปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน 
• ด้านตลาดโลหะมีค่านิวยอร์กปิดทำการในวันจันทร์ ที่ 19 ก.พ.เช่นกันเนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ(Presidents' Day)
อ่านฉบับเต็มคลิก : https://goo.gl/XJbkat
 

No automatic alt text available.
China Xinhua News
31 mins · คลิป

เชียร์ลีดเดอร์เกาหลีเหนือเปิดการแสดงส่งท้ายก่อนกลับประเทศ

ในเสาร์ที่ผ่านมา (17 ก.พ.) คณะเชียร์ลีดเดอร์จากเกาหลีเหนือและวงดุริยางค์เปิดการแสดงส่งท้ายนอกรอบการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ที่เมืองพย็องชัง ประเทศเกาหลีใต้ ท่ามกลางผู้ชมล้นหลามรอบบริเวณทั้งชาวเกาหลีใต้และชาวต่างชาติ วงดนตรีเล่นเพลงพื้นเมืองที่นำมามิกซ์จังหวะใหม่ให้เป็นเพลงมาร์ชชิ่ง ส่วนคณะเชียร์ลีดเดอร์ก็วาดลวดลายด้วยท่วงท่าสวยงามน่ารักน่าชมและเป็นเอกลักษณ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1f4e2.png📢 กลยุทธ์ S50H18 1f4b8.png💸1f4b8.png💸1f4b8.png💸
แนะนำเก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ 1f469_200d_1f4bc.png👩‍💼2728.png
.
อ่านบทวิเคราะห์ (ฉบับเต็ม) 1f4e1.png📡1f4b9.png💹
www.mtsgoldfutures.co.th 
.
 

No automatic alt text available.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวในพระราชสำนัก วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561

 

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดทองคำปิดร่วง 25 ดอลลาร์

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 61)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 ก.พ.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนม.ค.ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ 
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 25 ดอลลาร์ หรือ 1.84% ปิดที่ 1,331.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 27.4 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 16.438 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 8.30 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,004 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 8.60 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,027.15 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดร่วงลง เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อตลาด โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.6% สู่ระดับ 89.724 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่า จะลดความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 30-31 ม.ค.ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ 
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบค่าเงินหลัก นักลงทุนจับตาการประมูลบอนด์สหรัฐ,รายงานประชุมเฟด

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 61)--ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนจับตากระทรวงการคลังสหรัฐซึ่งจะเปิดประมูลพันธบัตรในสัปดาห์นี้ พร้อมกับจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 107.29 เยน จากระดับ 106.5600 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9359 ฟรังก์ จากระดับ 0.9291 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2337 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2408 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3988 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4005 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7879 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7911 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ดีดตัวทะลุ 107 เยนเมื่อคืนนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ช่องว่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นจะกว้างขึ้น จากการดำเนินนโยบายการเงินที่แตกต่างกัน
นักลงทุนจับตากระทรวงการคลังสหรัฐซึ่งจะเปิดประมูลพันธบัตรประเภทอายุ 5 ปี วงเงิน 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และประเภทอายุ 7 ปี วงเงิน 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ หลังจากก่อนหน้านี้ทางกระทรวงได้เปิดประมูลพันธบัตรประเภทอายุ 2 ปี วงเงิน 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราส่วนความต้องการประมูลพันธบัตรมากกว่าปริมาณพันธบัตร (bid to cover ratio) สูงถึง 2.72 เท่า
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 30-31 ม.ค.ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ 
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์


--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 254.63 จุด หลังหุ้น"วอลมาร์ท"ดิ่งหนัก,บอนด์ยีลด์พุ่ง

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.พ. 61)--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 ก.พ.) โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นวอลมาร์ทที่ดิ่งลงกว่า 10% หลังจากบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่รายนี้ได้เปิดเผยกำไรไตรมาส 4/2560 ที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กซบเซาลง ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนม.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,964.75 จุด ลดลง 254.63 จุด หรือ -1.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,716.26 จุด ลดลง 15.96 จุด หรือ -0.58% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 7,234.31 จุด ลดลง 5.16 จุด หรือ -0.07%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากหุ้นวอลมาร์ทดิ่งลง 10.2% จากการที่บริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2560 ที่ระดับ 1.33 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.37 ดอลลาร์/หุ้น แม้รายได้โดยรวมของบริษัทอยู่ที่ 1.3627 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 1.3493 แสนล้านดอลลาร์ก็ตาม
การร่วงลงอย่างหนักของหุ้นวอลมาร์ทได้ฉุดหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นทาร์เก็ต ดิ่งลง 3% และหุ้นโครเกอร์ ร่วงลง 4.2% อย่างไรก็ตาม หุ้นอเมซอน ดีดตัวขึ้น 1.4%
หุ้นธนาคารเอชเอสบีซี ดิ่งลง 3.4% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีในปี 2560 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.72 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.23 หมื่นล้านปอนด์) แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งเป็นผลมาจากการล้มละลายของบริษัทลูกหนี้รายใหญ่ 2 ราย ได้แก่บริษัทคาริลเลียน และบริษัทสเตนฮอฟฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล
หุ้นโฮม ดีโปท์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ ปิดตลาดขยับลง 0.03% หลังจากราคาหุ้นดังกล่าวทะยานขึ้นในระหว่างวัน จากการที่บริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2560 อยู่ที่ 1.69 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.61 ดอลลาร์/หุ้น และรายได้อยู่ที่ 2.39 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.37 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.904% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.152% เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทเอกชนปรับตัวขึ้น ซึ่งจะสร้างผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้น นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังลดความน่าดึงดูดในตลาดหุ้นเช่นกัน
นักลงทุนจับตากระทรวงการคลังสหรัฐซึ่งจะเปิดประมูลพันธบัตรประเภทอายุ 5 ปี วงเงิน 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และประเภทอายุ 7 ปี วงเงิน 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ หลังจากก่อนหน้านี้ทางกระทรวงได้เปิดประมูลพันธบัตรประเภทอายุ 2 ปี วงเงิน 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราส่วนความต้องการประมูลพันธบัตรมากกว่าปริมาณพันธบัตร (bid to cover ratio) สูงถึง 2.72 เท่า
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 30-31 ม.ค.ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ 
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนก.พ.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ครม.อนุมัติยกเลิกการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินฯ ในพื้นที่อำเภอเบตง จ.ยะลา

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 18:49:12 น.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ยกเลิกพื้นที่ อำเภอเบตง จ.ยะลา ออกจากการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง โดยให้นำมาตรการตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มาบังคับใช้แทนตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ และเมื่อมาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง



พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งประกาศจะยกระดับการเคลื่อนไหว รวมถึงกระจายการชุมนุมไปยังจังหวัดต่างๆว่า ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ฝ่ายความมั่นคงไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการอะไร แค่เพียงจะดูแลเหมือนที่ผ่านมา โดยขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติม แต่อาจจะมีการเคลื่อนไหวมากกว่า 3 กลุ่มก็ได้ ส่วนตัวยังเชื่อว่าในวันที่ 22 พฤษภาคม ที่จะครบ 4 ปีรัฐประหารของ คสช.จะไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น

ส่วนกรณีสำนักเลขาธิการใหญ่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เชิญชวนสมาชิกและนักกิจกรรมกว่า 7 ล้านคนทั่วโลกส่งจดหมายเรียกร้องรัฐบาลไทยให้ยุติดำเนินคดีอาญาต่อกลุ่มนักศึกษาที่ร่วมกิจกรรมทางการเมืองเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การดำเนินการเรื่องนี้อยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศไทย ต่างประเทศไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเราทำตามกฎหมายของเรา เมื่อกำหนดกฎหมายขึ้นมา เราก็ต้องใช้กฎหมายดังกล่าว ส่วนเหตุใดเขาถึงต้องออกมาดำเนินการเรื่องดังกล่าวในช่วงนี้คงต้องไปถามแอมเนสตี้

--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2785813

ตามติดข่าวฮอต ข่าวฮิต กับ MTS GOLD 1f929.png🤩

1f4ec.png📬 ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 3 วันทำการ จากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ประกอบกับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่า...
1f4ec.png📬 กองทุน SPDR ซื้อทองคำเพิ่ม 3.25 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 827.79 ตัน 
1f4ec.png📬 นายโรเบิร์ต มูลเลอร์ คณะกรรมาธิการสืบสวนสอบสวนพิเศษ สร้างแรงกดดันทางการเมืองมากขึ้น หลังจากมีการจับกุมอดีตเจ้าหน้าที่ 2 รายที่ให้การช่วยเหลือนายทรัมป์ในช่วงหาเสียง และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีส่วนเกี่ยวโยงกับ...

.
274c.png ตลาดการเงินจีนยังปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน 274c.png 
.
1f449.png👉 ติดตามข่าวสาร (ฉบับเต็ม) ได้ทาง:
www.mtsgold.co.th 1f448.png👈
.
#MTS #MTSGOLD #GOLD #NEWS 1f496.png💖1f48b.png💋

Image may contain: 1 person
 
 

ไทยจะเชื่อมเส้นทางสายไหมแล้ว
โดย สิริอัญญา 
วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561

นับแต่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไปเจรจากับรัฐบาลจีน เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2557 ขอให้ฝ่ายจีนช่วยซื้อข้าวเน่าจากโครงการรับจำนำข้าว 1 ล้านตัน ข้าวใหม่ 1 ล้านตัน และยางพาราอีก 2 แสนตัน และขอให้จีนร่วมมือกันทำรถไฟสามเส้นทาง คือหนองคาย-โคราช, โคราช-กรุงเทพฯ และแก่งคอย-แหลมฉบัง มาถึงวันนี้เป็นเวลาสามปีเศษแล้ว

...Continue reading

ยุทธการ21-22พค จะล้มรัฐบาล คสช ได้หรือ?
1หลอกว่าเป็นคนรุนใหม่ ที่ไหนได้เป็นพวกหน้าเก่ามีบัญชีคดีติดตัวเป็นหางว่าว และผิดเงื่อนไขประกันตัวทั้งนั้น รอวันถูกถอนประกันไปนอนคุก
2หลอกว่าเป็นนักศึกษา แท้จริงเป็นพวกจบออกมาแล้วยังอาศัยชื่อสถาบันป่วนชาติร่วมกับอาเจียนขี้ข้าฝรั่ง
3หลอกว่าจะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่ติดโปสเตอร์ที่โรงนาชาวบ้านแล้วเผ่นหนี
4ใช้สื่อและโซเชี่ยลรับจ้างป่วน ผลิตแบนเนอร์โพสวันละหลายร้อยโพสตั้งแต่เรื่องยุยงให้ทุกศาสนาตีกัน ให้คนไทยตีกัน ให้ทะเลาะกับจีน และด่านายก ด่า สนช ด่าหมด
5เอาข่าวลวงโลกเรื่องประเทศต่างๆต้อนรับการเดินสายมาขยายหลอกกันเอง
มีหมากกลแต้มคูอะไรอีกเปิดออกมาเลย จะได้ไม่เสียเวลารวบรวมหลายหน

 

โครงการโรงงานไฟฟ้าถ่านหินจบแล้ว
ชื่นมื่น
ลุงตู่ ลุงป้อม น้าศิริ 3แรงแข็งขัน คนไทยด้วยกันหัวอกเดียวกัน
ถอนฟืนจากเตาได้ทันท่วงที
พวกขี้ข้าโกงชาติหงายท้อง
หวังให้ศักราชใหม่การไฟฟ้า-พลังงานไทย เป็นประโยชน์แก่ผองไทยอย่างแท้จริง
ยุทธการล้มรัฐบาล คสช 21-22พค ส่อเค้าเงิบอีกแล้ว
new siri krab ท่าน555(**ชาติฝากเชียร์)

Image may contain: outdoor and nature
 
LikeShow More Reactions
 

การชุมนุมของมวลมหาประชาชน กปปส. แม้จะยาวนานถึง 204 วัน แต่ก็จบไปแล้วตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557

ส่วนการต่อสู้คดีของแกนนำ กปปส. ทั้งคดีแพ่งที่ถูก กกต. ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 3,100 ล้านบาท และคดีอาญาที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ก่อการกบฏ อั้งยี่ ซ่องโจร ขัด พรก.สถานการณ์ฉุกเฉิน บุกรุกสถานที่ราชการ ขัดขวางการเลือกตั้ง คงต่อสู้คดีกัน 4-5 ปี

ภาพวันนี้ จำเลยและทีมทนาย ประชุม หารือ แนวทางต่อสู้คดีครับ

Image may contain: 3 people, people sitting, table and indoor
 

พล.ต.อ. ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ แถลงข่าวเปิดใจภายหลังเป็นจำเลยคดีก่อการร้าย กรณีการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ที่สนามบินดอนเมือง – สุวรรณภูมิ เมื่อปี 2551 และได้จัดตั้งกลุ่มยุติธรรมภิวัฒน์เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ถูกดำเนินคดี ซึ่งมีทั้งหมด 11 คน รวมทั้งตนด้วย ที่บ้านพักในซอยสุขุมวิท 39 (ซ.พร้อมศรี 2)

ภาพ อนันต์ จันทรสูตร์ (Anant Chantarasoot)
#NationPhoto #พลตำรวจเอกประทินสันติประภพ #จำเลยคดีก่อการร้าย #พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย #ยุติธรรมภิวัฒน์ #ซอยพร้อมศรี2

นายอิสสระ สมชัย อดีต สส .ปชป และแกนนำ กปปส พ้นข้อกล่าวหาแล้ว .... คดีถูกฟ้องที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ข้อหาพยายามฆ่าคนเสื้อแดง โดยจับมัดทิ้งลงแม่น้ำบางปะกง และข้อหาอื่นๆ อีกรวม 5 ข้อหา เหตุเกิดระหว่างการชุมนุม ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ของ กปปส.

คดีนี้ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง และอัยการศาลสูง จ.ฉะเชิงเทรา จะไม่ฎีกา จึงทำให้คดีถึงที่สุดตั้งแต่ 9 ก.พ.61

Image may contain: 1 person, standing and outdoor
 
 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ Daily Comment
ประจำช่วง Day Session
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2018

ราคาทองปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลง โดยระหว่างวันแกว่งในกรอบประมาณ 6 เหรียญ 
ราคาทองคำปิดปรับลดลง 0.90 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.07% โดยปิดที่ 1,345.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,345.20 – 1,351.35 ดอลลาร์ เช้านี้ราคาทองเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,345 เหรียญ ราคาทองปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงโดยระหว่างวันแกว่งแคบๆ ในกรอบประมาณ 6 เหรียญ เนื่องจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ และราคาทองแกว่งในกรอบแคบๆ และในวันนี้ทางฝั่งจีนยังคงปิดทำการ ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ จะเปิดทำการในวันนี้ แต่อย่างไรก็ตามวันนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยปัจจัยที่ตลาดติดตามในสัปดาห์นี้คือการเปิดเผยผลการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดที่จะมีในคืนวันพุธ ส่วนภาพทางเทคนิคระยะสั้นราคาทองคำแกว่งในกรอบ sideway down ซึ่งหากหลุดแนวรับบริเวณ 1,344 เหรียญ จะทำให้เสียทรงในฝั่งขาขึ้นระยะสั้น

แนะนำ : ผู้มีสถานะซื้อถือต่อ โดยให้จุด lock profit ที่บริเวณ 1,344 เหรียญ ผู้ไม่มีสถานะซื้อขายในกรอบ 1,344 – 1,361 เหรียญ และ follow เมื่อราคาทะลุกรอบ

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่
http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy2002201891802447…

 

No automatic alt text available.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงซื้อเก็งกำไรหนุนทองปิดขยับขึ้น 90 เซนต์

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.พ. 61)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนม.ค.
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ขยับขึ้น 90 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 1,332.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 17.9 เซนต์ หรือ 1.09% ปิดที่ 16.617 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 7.4 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 996.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 4.65 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1022.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลง 25 ดอลลาร์ หรือ 1.84% ปิดที่ 1,331.2 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ประกอบกับการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนม.ค. ได้สกัดแรงบวกในตลาดทองคำ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.37% สู่ระดับ 90.048 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น จะลดความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

 


--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบค่าเงินหลัก หลังรายงานประชุมเฟดส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.พ. 61)--ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนม.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นในปีนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 107.79 เยน จากระดับ 107.29 เยน แต่ขยับลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9348 ฟรังก์ จากระดับ 0.9359 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2297 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2337 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3929 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3988 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7816 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7879 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากคณะกรรมการเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของวันที่ 30-31 ม.ค. เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า ความแข็งแกร่งของแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะใกล้นี้ ทำให้เฟดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปนั้น ถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม
รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า ข้อมูลเงินเฟ้อที่กรรมการเฟดได้รับมา ประกอบกับข้อมูลที่บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องนั้น ได้ช่วยสนับสนุนมุมมองที่ว่า อัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นในปี 2561 โดยกรรมการเฟดเกือบทุกคนคาดว่า ในระยะกลางนี้ อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% เนื่องจากเศรษฐกิจมีการขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้ และตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง
ส่วนเงินปอนด์ได้รับแรงกดดันจากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) ซึ่งระบุว่า อัตราว่างงานในอังกฤษเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.4% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี จากระดับ 4.3% ในไตรมาส 3 ส่วนอัตราค่าจ้างเพิ่มขึ้น 2.5% ไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาส 3 แต่ยังคงอยู่ต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 3.1%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 55.9 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 27 เดือน จากระดับ 53.8 ในเดือนม.ค.
ทางด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนม.ค. สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากภาวะขาดแคลนบ้านได้ส่งผลให้ราคาบ้านแพงขึ้น

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

บทวิเคราะห์ Daily Comment
ประจำช่วง Day Session
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2018

ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ระหว่างวันพยายามดีดกลับ แต่ยังเจอแรงขาย 
ราคาทองคำปิดปรับลดลง 4.70 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.35% โดยปิดที่ 1,323.90 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,321.80 – 1,336.61 ดอลลาร์ เช้านี้ราคาทองเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,328 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยโดยระหว่างวันพยายามดีดกลับโดยขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,336 เหรียญ ก่อนที่เฟดจะเปิดเผยผลการประชุมครั้งล่าสุด ที่ยังคงมีมุมมองว่าเฟดจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยประมาณ 3 ครั้งในปีนี้ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 9 ปี ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องและกลับมายืนเหนือบริเวณ 90 จุด ทำให้ปัจจัยนี้กดดันราคาทองต่อเนื่อง และตัวเลขการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าปรับขึ้นมาเป็น 86% โดย CME และในคืนนี้มีเพียงตัวเลขขอรับสวัสดิการการว่างงาน ทำให้คาดว่าราคาจะทรงตัวในกรอบด้านล่าง ซึ่งภาพทางเทคนิคนั้น ทองคำทำจุดต่ำสุดใหม่ต่อเนื่อง แต่ระยะการลงเริ่มชะลอลง ไม่ได้ปรับตัวลดลงแรง ทำให้ระยะสั้นอาจจะแกว่งในกรอบ

แนะนำ : ผู้มีสถานะขายทยอยปิดทำกำไรบริเวณนี้ และถือต่อบางส่วนเพื่อลุ้นทำจุดต่ำสุดใหม่ ผู้ไม่มีสถานะซื้อขายในกรอบด้านล่าง 1,321 – 1,336 เหรียญ

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่
http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy2202201893316447…

Image may contain: text
 

แนวรับ แนวต้าน
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2018
ให้เพื่อนๆ ติดตามมาแล้วครับ
ติดตามข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับทองคำและสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ที่
www.classicgold.co.th
__________________________

 

No automatic alt text available.

YLG GOLD DAILY UPDATE 22-02-18

• ราคาทองคำวานนี้แกว่งตัวผันผวนตอบรับการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 30-31 ม.ค. โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปก่อนในช่วงแรกหลังรายงานการประชุมในช่วงต้นบ่งชี้ถึงสัญญาณในเชิงสายเหยี่ยวน้อยกว่าที่ตลาดคาด 
• อย่างไรก็ตามมุมมองในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐและความเชื่อมั่นมากขึ้นของเฟดในการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ กลับมาเป็นปัจจัยหนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้ฟื้นตัวขึ้นและกดดันราคาทองคำให้ร่วงลงในภายหลัง
อ่านฉบับเต็มคลิก : https://goo.gl/ey1qXT

 

No automatic alt text available.
Paisal Puechmongkol
2 hrs · 

พวกองค์กรสิทธิ์มีอยู่ 2 ประเภทคือ
1 พวกต่างชาติที่เข้ามาแทรกแซงทำร้ายประเทศไทยพวกนี้ต้องถอนวีซ่าและขับไล่ออกนอกประเทศ 
2 พวกคนไทยที่ขายตัวขายชาติพวกนี้ต้องสอบกระแสการรับเงินที่รับจ้างต่างชาติ ต้องเรียกเก็บภาษีและต้องดำเนินคดีถ้าหากพบความผิดว่าบ่อนทำลายชาติ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 (ภาคเช้า)

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 09:28:54 น.
กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--MTS Gold Group
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากที่ประชุมเฟดสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปได้มากขึ้น โดยราคาหลุดในช่วงปลายตลาดหลังจากช่วงเที่ยงคืนมาแถวระดับ 1,324 เหรียญโดยประมาณ ท่ามกลางการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์เช้านี้อยู่ที่ 90.00 จุด สำหรับข้อมูลสร้างบ้านอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว ขณะที่ตลาดมุ่งประเด็นไปที่รายงานประชุมเฟดมากกว่า ด้าน SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันถือครองที่ 827.79 ตัน สำหรับวันนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ Unemployment Claims ที่คาดว่าจะทรงตัว และถ้อยแถลงสมาชิกเฟด ซึ่งภาพรวมมองว่าไม่น่ากระทบต่อตลาดการเงินเท่าไรนัก



วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ระยะสั้นทองคำหลุดระดับแนวรับทั่วไป ไปทำจุดต่ำสุดใหม่บริเวณ 1,324 เหรียญโดยประมาณ โดยที่ทองคำจะมีแนวรับถัดไป 1,310 เหรียญ อันเป็นจุดต่ำสุดเดิมในเดือนก.พ.นี้ ขณะที่แนวต้านของทองคำจะอยู่ที่ 1,340 เหรียญ ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนยังแนะนำเป็นทิศทางขาลง

* อย่างไรก็ดี Gold Futures G18 จะหมดอายุลงในวันที่ 27 ก.พ.61 จึงแนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยนมาถือครองสถานะของ Gold Futures J18 แทน

การลงทุน Gold D
แนะนำเก็งกำไรระยะสั้นขาลงตามความผันผวน โดยคาดว่า Gold-D จะมีแนวรับที่ระดับ 1,310 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 1,340 เหรียญ เช่นเดียวกับราคาทองคำตลาดโลก

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ลงทุนในกรอบขาลงระยะสั้นระหว่าง 1,310 – 1,340 เหรียญ หาจังหวะปิดสถานะLong
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ปิดสถานะเนื่องจากตลาดผันผวนในทิศทางขาลง
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
หาจังหวะเปิดขายก่อนเมื่อราคาปรับตัวขึ้น และซื้อปิดทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
หาจังหวะขายทำกำไร ลดสถานะการถือครอง Long Position ลง เนื่องจากภาพการลงทุนดูจะกลับเป็นขาลง เน้นทำกำไรระยะสั้นๆ

Gold Futures G18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,000 บาท
Gold Futures J18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,050 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2786751

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามตปท.หลังสัญญาณเงินเฟ้อสหรัฐฯอาจสูงกว่าเป้า 2% ส่ง Bond Yield พุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 09:32:59 น.
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดสหรัฐฯที่ปรับตัวลง หลังจากที่รายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งก่อนส่งสัญญาณตัวเลขเงินเฟ้อมีโอกาสสูงกว่าเป้าหมาย 2% ทำให้มีการมองกันว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจจะเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) สหรัฐฯ ปรับขึ้นมาที่ 2.9% กดดันตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ต่างปรับฐานเฉลี่ยราว 0.8%



สำหรับตลาดบ้านเราภาพโดยรวมอาจเป็นลักษณะแกว่งไซด์เวย์ และเลือกเล่นเป็นรายตัว เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติไม่ได้ถือครองหุ้นไทยมากแล้ว และวานนี้ตัวเลขส่งออกเดือน ม.ค.ออกมาดีกว่าคาด ทำให้หุ้นในกลุ่มแบงก์อาจจะช่วยหนุนตลาดฯได้บ้าง

โดยแนะนำหุ้น AIT และหุ้นในกลุ่มพลังงานหากย่อตัวลงก็สามารถซื้อเพื่อเก็งการดีดตัวกลับ แนะนำหุ้น PTT ที่มีประเด็นเรื่องการแตกพาร์ ปันผล และงบฯดี ส่วน PTTEP ลุ้นผลประมูลปิโตรเลียมรอบใหม่ในแหล่งบงกชและเอราวัณมีโอกาสสูงเป็นผู้ชนะ

พร้อมให้แนวรับ 1,790-1,795 จุด ส่วนแนวต้าน 1,810 จุด ในระหว่งเทรดหากหลุดแนวรับก็มีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 ก.พ.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,797.78 จุด ลดลง 166.97 จุด (-0.67%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,701.33 จุด ลดลง 14.93 จุด (-0.55%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,218.23 จุด ลดลง 16.08 จุด (-0.22%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 180.93 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 38.41 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 347.44 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 15.97 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 12.47 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 13.14 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.92 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ก.พ.61) 1,801.16 จุด เพิ่มขึ้น 0.14 จุด (+0.01%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 869.96 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ก.พ.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 ก.พ.61) ปิดที่ระดับ 61.88 ดอลลาร์/บาร์เรล  ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.2%

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ก.พ.61) ที่ 7.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.58 แนวโน้มอ่อนค่าตามแรงซื้อดอลล์ มองกรอบวันนี้ 31.55-31.65
- พาณิชย์ เผยยอดส่งออก ม.ค.โต 17.6% สูงสุดในรอบ 5 ปี เหตุเศรษฐกิจโลกฟื้นชัด ดันส่งออกขยายตัวดีทุกตลาด เชื่อทั้งปี 8% ตามเป้า ด้าน "สมคิด" มั่นใจส่งออก ตัวแปรหลักดันจีดีพีปีนี้โต 4.1% ขณะสรท. ขอดูตัวเลขคู่แข่งฟันธงส่งออกไทยแกร่ง จับตามาตรการกีดกันการค้าฉุดส่งออก ธปท.เล็งปรับคาดการณ์ส่งออกใหม่

- ตลาดหลักทรัพย์ตั้ง นายภากร ปีตธวัชชัย เป็นผู้จัดการตลาดคนที่ 13 โบรกเกอร์มองช่วยสานงานให้ตลาดเดินหน้า หวังสร้างดีมานด์และซัพพลายในตลาด ผู้ลงทุนสถาบันต้องการ เพิ่มคุณภาพบริษัทจดทะเบียน หลังพบทำธุรกรรมไม่ปกติทั้งด้านการเปิดเผยข้อมูลและระบบบัญชี พร้อมคุมเข้มบริษัทเข้าระดมทุนให้มีศักยภาพ

- ส.อ.ท.เผยผลสำรวจดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตฯ ม.ค.อยู่ระดับ 91.0 เพิ่มสูงสุดในรอบ 36 เดือน ชี้ปัจจัยบวกจากบริโภคในประเทศขยายตัว การใช้จ่ายลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ผู้ประกอบการปรับปรุงการผลิต ค่าบาทแข็งหนุนนำเข้าวัตถุดิบและเครื่องจักร กังวลต้นทุนพุ่งจากปรับค่าแรงขั้นต่ำ

- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ติดตามสถานการณ์เงินทุนไหลเข้าออกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะขณะนี้มีสัญญาณความผันผวนมากขึ้น เพราะนโยบายการเงินประเทศขนาดใหญ่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะสหรัฐที่ธนาคารกลางมีนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ปัจจัยเหล่านี้กระทบให้เกิดความผันผวนของตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดตราสารหนี้

- 'สมคิด' ย้ำรัฐบาลเร่งเปลี่ยนเศรษฐกิจของประเทศ ให้ขับเคลื่อนด้วยดิจิตอล ดันจีดีพีทะยาน ใน 3 ปีต้องเปลี่ยนผ่าน 'กานต์' ชี้งบลงทุนวิจัยพัฒนาแตะแสนล้าน เพิ่มเป็น 1% ของจีดีพีเป็นครั้งแรก

*หุ้นเด่นวันนี้
- MTLS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 51 บาท ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2018 ขึ้น 5% เป็น 3.6 พันลบ. โดย 1.ปรับเพิ่มผลตอบแทนของเงินให้สินเชื่อ และทำให้คาดว่า Loan spread จะทรงตัวได้ที่ 20% เป็นระดับที่สูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดฯ  2. ปรับลด Credit cost จากคาดการณ์เดิมที่ 2.5% ลงเป็น 2.3% ใกล้เคียงกับปีก่อน เงินสำรองฯที่สะสมอยู่ที่ราว 265% ของ NPL  เพียงพอและอาจเกินพอเมื่อเทียบกับคุณภาพสินทรัพย์ที่มีอยู่ โดยเซอร์ไพรส์ ROE ปี 2560 อยู่ 32% มาเร็วกว่าที่คาดไว้และเป็นระดับสูงสุดในกลุ่มการเงิน ยังชื่นชอบการบริหารคุณภาพหนี้ที่สะท้อนจาก NPL ที่ต่ำสุดในผู้ประกอบการในธุรกิจเดียวกัน

- TPIPP (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อ"เป้า 9 บาท รายงานกำไร Q4/60 ที่ 593 ล้านบาท ทรงตัวจากไตรมาสก่อน แต่ไม่ทำ New High ตามคาดหวัง และต่ำกว่าคาด โดยมีสาเหตุจากการบันทึกต้นทุนที่สูงกว่าปกติ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส Q4/60 ปรับลดลงเหลือ 48% เทียบกับ 53.2% ในไตรมาสก่อน แต่ดีกว่าเมื่อเทียบกับปีก่อน 45.2% อย่างไรก็ดีในส่วนโรงไฟฟ้าความร้อนทิ้งและเชื้อเพลิงขยะ ยังคาดจะ COD ได้ราว มี.ค.นี้ ดังนั้นประเมินราคาหุ้นหากย่อเป็นโอกาสในการทยอยสะสม

- TTA (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดผลงานไตรมาส 4/60 ได้อานิสงส์ดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ยังสูง ทั้งนี้ค่าเสื่อมราคาต่อรายได้ที่ต่ำกว่า PSL คาดจะทำให้ TTA มีโอกาสรายงานกำไรดีกว่าคาด อีกทั้งค่าระวางมักพลิกกลับสู่ขาขึ้นหลังตรุษจีน ขณะที่การค้าโลกแนวโน้มเติบโตดีขึ้นตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวพร้อม ๆ กัน(synchronous growth)

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2786783

 

World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 09:03:14 น.
-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของวันที่ 30-31 ม.ค. เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า ความแข็งแกร่งของแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะใกล้นี้ ทำให้เฟดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปนั้น ถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม



รายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า ข้อมูลเงินเฟ้อที่กรรมการเฟดได้รับมา ประกอบกับข้อมูลที่บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องนั้น ได้ช่วยสนับสนุนมุมมองที่ว่า อัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นในปี 2561 โดยกรรมการเฟดเกือบทุกคนคาดว่า ในระยะกลางนี้ อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% เนื่องจากเศรษฐกิจมีการขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้ และตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง

-- นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า เขายังคงคิดว่า เป็นการเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ แต่เขาก็เปิดกว้างต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้ง หากมีความจำเป็น

"เมื่อพิจารณาถึงเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ ผมจึงคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้" นายฮาร์เกอร์กล่าว

"แต่ข้อมูลเศรษฐกิจก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งบางครั้งก็ไม่ได้บ่งชี้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตเสมอไป" เขากล่าว

ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยจะปรับขึ้นครั้งแรกในการประชุมเดือนหน้า

-- นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส กล่าวว่า เฟดควรเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เพื่อรับมือกับเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวมากขึ้น ซึ่งได้รับแรงหนุนจากมาตรการปรับลดอัตราภาษี รวมทั้งเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่ง

"ผมเชื่อว่าเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอย่างอดทนในปีนี้" นายแคปแลนระบุในบทความที่แสดงถึงมุมมองของเขาเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายของเฟด

-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนม.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นในปีนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 107.79 เยน จากระดับ 107.29 เยน แต่ขยับลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9348 ฟรังก์ จากระดับ 0.9359 ฟรังก์

-- นายเควิน แฮสเซทท์ นักเศรษฐศาสตร์ของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจจากทำเนียบขาว ระบุในรายงานเศรษฐกิจประจำปีว่า สหรัฐจะสามารถบรรลุอัตราการเติบโต 3% ต่อปีในช่วงทศวรรษนี้ ถ้าหากมีการบังคับใช้นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการผ่อนคลายกฎระเบียบ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า นโยบายกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราภาษี และการผ่อนคลายกฎระเบียบ ได้ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ และทำให้มีการคาดหวังว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจจะยังคงดำเนินต่อไป

-- นายแอนดี ฮาลเดน หัวหน้านักวิเคราะห์ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ระบุในรายงานต่อรัฐสภาอังกฤษว่า BoE อาจจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้

นายฮาลเดนระบุว่า เศรษฐกิจอังกฤษอาจจะมีการขยายตัวมากกว่าที่ BoE คาดการณ์ไว้ในช่วงต้นเดือนนี้ ซึ่งจะทำให้ BoE ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะปรับขึ้น 3 ครั้งในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 0.75% ในเดือนพ.ค. และมีโอกาส 70% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีก 0.25% สู่ระดับ 1.0% ในปีนี้

-- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 3.2% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.38 ล้านยูนิต จากระดับ 5.56 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. โดยยอดขายบ้านร่วงลงทุกภูมิภาค

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านมือสองจะเพิ่มขึ้น 0.8% สู่ระดับ 5.60 ล้านยูนิตในเดือนม.ค.

-- ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 55.9 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 27 เดือน จากระดับ 53.8 ในเดือนม.ค.

ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว โดยได้แรงหนุนจากการจ้างงาน และคำสั่งซื้อใหม่

ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 55.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 เดือน จากระดับ 55.5 ในเดือนม.ค.

สำหรับดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 55.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 53.3 ในเดือนม.ค.

-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยฝรั่งเศสจะเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนก.พ. และอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. ขณะที่สถานบัน Ifo จะเปิดเผยความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.พ.ของเยอรมนี ส่วนอังกฤษจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2560 ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นและสิงคโปร์จะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. ขณะที่เยอรมนีจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2560 และยูโรสแตทจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค.ของยูโรโซน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปัทมาสน์ ชนะรัชชรักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2786759

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.58 แนวโน้มอ่อนค่าตามแรงซื้อดอลล์ มองกรอบวันนี้ 31.55-31.65

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 09:26:43 น.
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 31.58 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็น



วานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.53 บาท/ดอลลาร์
"เช้านี้บาทอ่อน เปิด 31.58 ล่าสุดอยู่ที่ 31.60..ดอลลาร์ยังมีแรงซื้อกลับหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯยังสูงต่อ

เนื่อง ประกอบกับบันทึกการประชุมของ FOMC บ่งชี้ว่ามีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบต่อไปในเดือนมีนาคมนี้ ทำให้

แรงส่งดอลลาร์ยังมีต่อเนื่อง" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 31.55-31.65 บาท/ดอลลาร์

"ปัจจัยต่อไปคือตลาดรอดูบันทึกการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB)"นักบริหารเงิน กล่าว

THAI BAHT FIX 3M (21 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 0.83603% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (21 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ

0.96367%
*ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 107.18 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 107.52 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ 1.2280 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.2326 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.5130 บาท/

ดอลลาร์
- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ติดตามสถานการณ์เงินทุนไหลเข้าออกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะขณะนี้มีสัญญาณ

ความผันผวนมากขึ้น เพราะนโยบายการเงินประเทศขนาดใหญ่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะสหรัฐที่ธนาคารกลางมีนโยบายปรับขึ้นอัตรา

ดอกเบี้ย ปัจจัยเหล่านี้กระทบให้เกิดความผันผวนของตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดตราสารหนี้

- ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะ

กรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะเข้าหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อปรึกษาในประเด็นข้อ

กฎหมายที่จะออกมาใช้กำกับดูแลการระดมสินทรัพย์ด้วยสกุลเงินดิจิตอล (ไอซีโอ) ให้ชัดเจน ซึ่งสรุปจบภายในเดือน ก.พ.นี้ โดยให้

ก.ล.ต.เป็นฝ่ายกำกับดูแล พร้อมกับเป็นผู้แถลงรายละเอียดข้อกฎหมาย และแนวทางการควบคุมดูแลทั้งหมด

- หัวหน้านักวิเคราะห์ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ระบุในรายงานต่อรัฐสภาอังกฤษว่า BoE อาจจะต้องปรับขึ้น

อัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้
- นักเศรษฐศาสตร์ของสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจจากทำเนียบขาว ระบุในรายงานเศรษฐกิจประจำปีว่า สหรัฐจะสามารถ

บรรลุอัตราการเติบโต 3% ต่อปีในช่วงทศวรรษนี้ ถ้าหากมีการบังคับใช้นโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับการผ่อน

คลายกฎระเบียบ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
- ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาค

การผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 55.9 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 27 เดือน จากระดับ

53.8 ในเดือนม.ค.
- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือน

ที่ 2 ในเดือนม.ค. สวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากภาวะขาดแคลนบ้านได้ส่งผลให้ราคาบ้านแพงขึ้น

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของวันที่ 30-31 ม.ค. เมื่อวานนี้ตาม

เวลาสหรัฐ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า ความแข็งแกร่งของแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะใกล้นี้ ทำให้เฟดมี

ความเชื่อมั่นมากขึ้นว่า การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปนั้น ถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม

- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า เขายังคงคิดว่า เป็นการเหมาะสมที่เฟดจะปรับขึ้น

อัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ แต่เขาก็เปิดกว้างต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้ง หากมีความจำเป็น

- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ก.

พ.) หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนม.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดว่าอัตราเงิน

เฟ้อของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นในปีนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วง

ลงอย่างหนักเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนม.ค.
- นักลงทุนจับตาข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2560 ของอังกฤษ ทางด้านสหรัฐจะเปิด

เผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2786779

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ข่าวในพระราชสำนัก วันพฤหัสบดีที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561

คุยทองเฮฮา แต่ได้สาระ สามารถทิ้งคำถามใน Facebook ท้ายคลิป…
 
 
 

บทวิเคราะห์ Daily Comment
ประจำช่วง Day Session
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2018

ราคาทองปิดปรับปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังจากค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง
ราคาทองคำปิดปรับเพิ่มขึ้น 7.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.56% โดยปิดที่ 1,331.30 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,320.30 – 1,332.20 ดอลลาร์ เช้านี้ราคาทองเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,330 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากราคาปรับลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดบริเวณ 1,320 เหรียญ ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงหลุดบริเวณ 90 จุด หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมากล่าวว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปและระมัดระวัง และกล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงต่ำ และมีแนวโน้มต่ำกว่า 2% ไปอีกหลายปี ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดลง ช่วยหนุนให้ราคาทองดีดกลับได้ในช่วงช่วงท้ายตลาดวานนี้ และวันนี้ติดตามการออกมาปราศัยของประธานเฟดสาขานิวยอร์คว่าจะให้ความเห็นไปในทางเดียวกับสาขาเซ็นหลุยส์หรือไม่ ซึ่งอาจจะช่วยหนุนให้ราคาทองปรับตัวขึ้นได้ต่อ

แนะนำ : ผู้มีสถานะขายปิดทำกำไรหมดและหาจังหวะซื้อหากราคาไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ ผู้ไม่มีสถานะฝั่งซื้อเริ่มน่าสนใจหากราคาย่อมาไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,320 เหรียญ

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่
http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy2302201885627448…

 

No automatic alt text available.
 

YLG GOLD DAILY UPDATE 23-02-61
• ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าขอดอลลาร์ หลังนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปฃเนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำและมีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดต่อไปอีกหลายปี
• อย่างไรก็ตามการดีดตัวของราคาทองคำอยู่ในกรอบจำกัดเนื่องจากเทรดเดอร์ยังคงคาดการณ์ในระดับสูงว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 มี.ค.นี้

อ่านฉบับเต็มคลิก : https://goo.gl/C5Hrx7

 

No automatic alt text available.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 (ภาคเช้า)

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 09:27:08 น.
กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--MTS Gold Group
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำดีดกลับขึ้นมาท่ามกลางการกลับมาอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่เงินบาทกลับแข็งค่าลงมาอีกครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกันจะเห็นความผันผวนของราคาทองคำค่อนข้างมาก โดยเมื่อคืนนี้ทองคำขึ้นไปทดสอบระดับ 1,333 เหรียญโดยประมาณ ทางด้าน SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม สำหรับภาพรวมตลาดกลับมามองเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยและภาวะเศรษฐกิจโดยองค์รวมของสหรัฐฯเป็นหลัก สำหรับคืนนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญใดๆ แต่จะมีการกล่าวถ้อยแถลงของสมาชิกเฟดเท่านั้น


วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำมีลักษณะ Technical Rebound ขึ้นมา ขณะที่ทองคำยังมีความผันผวนหลังจากที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยรายวัน โดยที่แนวต้านสำคัญจะอยู่ที่ 1,340 เหรียญ และมีแนวรับบริเวณ 1,323 เหรียญ ยังคาดว่า จะเห็นการแกว่งตัวของราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง

* อย่างไรก็ดี Gold Futures G18 จะหมดอายุลงในวันที่ 27 ก.พ.61 จึงแนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยนมาถือครองสถานะของ Gold Futures J18 แทน

การลงทุน Gold D
คาดว่า Gold-D จะเคลื่อนไหวผันผวนเช่นเดียวกับราคาทองคำตลาดโลก โดยจะมีกรอบแนวรับ 1,323 เหรียญ และแนวต้าน 1,340 เหรียญ

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังคงเป็นลักษณะเก็งกำไรทิศทางแนวโน้มขาลง ย้ำเน้นระวังการแกว่งตัวที่ค่อนข้างมากของราคา

- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ทยอยลดสถานะ ระวังความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ขายก่อนเมื่อราคาสูงขึ้น และซื้อปิดทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
หาจังหวะขายทำกำไร ลดสถานะการถือครอง Long Position ลง เนื่องจากภาพการลงทุนดูจะกลับเป็นขาลง เน้นทำกำไรระยะสั้นๆ

Gold Futures G18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,800 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,000 บาท
Gold Futures J18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,050 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2787497

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ฟื้นตัวขึ้น เล็งแรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯหลังราคาน้ำมันปรับขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 09:02:34 น.
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นมาสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ และดัชนี SET เมื่อวานนี้ก็ปิดแถวระดับแนวรับ 1,790 จุดด้วย



นอกจากนี้ คาดว่าตลาดฯจะได้แรงหนุนจากการทยอยประกาศจ่ายปันผลของหุ้นในกลุ่มแบงก์ ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้จะค่อนไปทางบวก แต่นักลงทุนก็ยังระวังการลงทุนเนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield) สูง และยังวิตกว่าการเลือกตั้งอาจจะล่าช้าออกไป อย่างไรก็ดีให้รอดูสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะพิจารณากฎหมายลูก 2 ฉบับในต้นเดือนหน้า ซึ่งก็จะเป็นตัวชี้วัดการเลือกตั้งจะเลื่อนออกไปหรือไม่

พร้อมให้แนวรับ 1,790-1,785 จุด ส่วนแนวต้าน 1,800 จุด
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2787503

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบค่าเงินหลัก หลังปธ.เฟดเซนต์หลุยส์เตือนไม่ควรขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 07:14:13 น.
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาเตือนว่า เฟดไม่ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปในปีนี้ เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด



ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 106.67 เยน จากระดับ 107.7900 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ  0.9330 ฟรังก์ จากระดับ 0.9348 ฟรังก์

ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2332 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2297 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3958 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3929 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7846 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7816 ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.36% สู่ระดับ 89.726 เมื่อคืนนี้

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะต้องใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปในปีนี้ เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

นายบูลลาร์ดกล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องจับตาเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่ง แต่อัตราเงินเฟ้อก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำ และมีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดต่อไปอีกหลายปี

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 7,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 45 ปี ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่าเนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์นั้น ลดลง 2,250 ราย สู่ระดับ 226,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

ทางด้าน Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 1% ในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.7%

ทั้งนี้ ดัชนี LEI ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากมาตรการปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2787324

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 164.70 จุด รับบอนด์ยีลด์ชะลอตัว,หุ้นพลังงานพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 06:35:30 น.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการชะลอตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มอุตสาหกรรม รวมทั้งรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงเกือบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 45 ปี



ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,962.48 จุด เพิ่มขึ้น 164.70 จุด หรือ +0.66% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,703.96 จุด เพิ่มขึ้น 2.63 จุด หรือ +0.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,210.09 จุด ลดลง 8.14 จุด หรือ -0.11%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ชะลอตัวลงเมื่อคืนนี้ หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ แสดงความเห็นว่า เฟดจะต้องใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปในปีนี้ เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ นายบุลลาร์ดยังกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐยังคงอยู่ในระดับต่ำ และมีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดต่อไปอีกหลายปี

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.919% เมื่อคืนนี้ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 7,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 45 ปี ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่าเนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์นั้น ลดลง 2,250 ราย สู่ระดับ 226,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์ก หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นเชฟรอน ดีดตัวขึ้น 0.7%  หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดีดขึ้น 1.2% ส่วนหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 22% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4 ที่ดีเกินคาด

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 2.3% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ปรับตัวขึ้น 0.9% หุ้นโบอิ้ง เพิ่มขึ้น 1.01% หุ้นควอนต้า เซอร์วิส พุ่งขึ้น 3.04% และหุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ปรับตัวขึ้น 3.34%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารอ่อนแรงลง โดยหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 1.5% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปรับตัวลง 0.18% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ลดลง 0.75% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ปรับตัวลง 0.95% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 0.6%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2787318

World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 09:01:59 น.
-- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐชะลอตัวลงเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 164.70 จุด หรือ +0.66% ปิดที่ 24,962.48 จุด

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.919% เมื่อคืนนี้ ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 3.201%



ปัจจัยที่ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐชะลอตัวลงนั้น มาจากการที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะต้องใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปในปีนี้ เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ นายบูลลาร์ดกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำ และมีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟดต่อไปอีกหลายปี

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) ปรับลดตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยระบุว่า GDP ในไตรมาส 4 มีการขยายตัว 0.4% เมื่อเทียบรายไตรมาส โดยต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 0.5%

เมื่อเทียบรายปี GDP ในไตรมาส 4 มีการขยายตัว 1.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี
-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 25 ม.ค.เมื่อคืนนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่า กรรมการ ECB มองว่ายังคงเร็วเกินไปที่จะเปลี่ยนแปลงจุดยืนด้านการสื่อสารเพื่อส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบาย

รายงานระบุว่า การหารือเกี่ยวกับการปรับนโยบายของ ECB อาจเกิดขึ้นในช่วงต้นปีนี้ แต่เจ้าหน้าที่ ECB มีมติว่า ECB ยังไม่ปรับนโยบายในเดือนม.ค. ขณะที่ ECB จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการปรับเปลี่ยนนโยบายอย่างกะทันหัน และจับตาการแข็งค่าของยูโร

-- จับตาความเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีนในระยะนี้ โดยสื่อต่างประเทศคาดการณ์กันว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะเรียกประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเร็วๆนี้ เพื่อเลือกผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งในรัฐบาลจีน

การประชุมดังกล่าวคาดกันว่าจะมีการอนุมัติคำสั่งแต่งตั้งบุคลากรและมติปรับโครงสร้างรัฐบาล ซึ่งรวมถึงบุคลากรฝ่ายกำกับดูแลภาคธนาคารและการเงินด้วย

-- นักวิเคราะห์วิตกกังวลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นจีน เนื่องจากการปรับตัวขึ้นที่ผ่านมานั้นส่วนใหญ่เป็นผลจากหุ้นใหญ่ไม่กี่ตัว โดยนักลงทุนได้หันมาซื้อหุ้นของบริษัทรายใหญ่ๆ ด้วยความกังวลว่าบริษัทขนาดเล็กอาจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มขึ้น

-- บริษัทญี่ปุ่นเริ่มแห่ขายหุ้นกู้ระยะยาวพิเศษในช่วงนี้ ขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่านโยบายการเงินของญี่ปุ่นนั้นจะผ่อนคลายต่อไปอีก หลังรัฐบาลญี่ปุ่นได้เสนอชื่อนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ต่อรัฐสภาญี่ปุ่น ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อีกหนึ่งสมัย

-- สำหรับความเคลื่อนไหวในแวดวงสกุลเงินดิจิทัล บิตคอยน์ปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 และดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 10,000 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หลังจากพุ่งทะลุ 11,000 ดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ บิตคอยน์ร่วงลง 5% แตะระดับ 9,796.57 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ ตามข้อมูลของ CoinDesk ซึ่งอ้างอิงราคาบิตคอยน์จากแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล 4 แห่ง

นักวิเคราะห์ระบุว่า บิตคอยน์ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้จากแรงเทขายทำกำไรของนักลงทุน ขณะที่เผชิญแนวต้านในช่วงที่พยายามปรับตัวขึ้นจากระดับ 10,000 ดอลลาร์ไปสู่ 11,000 ดอลลาร์

-- นายโมฮัมหมัด จาวาด อาซารี จาห์โรมี รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศของอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านกำลังพิจารณาพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง ตามรอยเวเนซุเอลา

นายจาห์โรมีระบุว่า ธนาคารโพสต์แบงก์ของทางการอิหร่านกำลังพัฒนาสกุลเงินดังกล่าว โดยจะอิงกับระบบคลาวด์

ส่วนธนาคารกลางอิหร่านก็กำลังให้ความร่วมมือกับสถาบันอื่นๆในการควบคุมสกุลเงินดิจิทัลในอิหร่าน

-- สำหรับข้อมูลที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 7,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 45 ปี

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวที่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

-- Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวขึ้น 1% ในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.7% โดยได้แรงหนุนจากมาตรการปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ดัชนี LEI ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และมีการขยายตัวเป็นเดือนที่ 12 ในช่วง 13 เดือนที่ผ่านมา

-- ส่วนในช่วงเช้าวันนี้ กระทรวงสื่อสารและกิจการภายในประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด ปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากต้นทุนพลังงานปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนี CPI พื้นฐานของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ระดับ 2%

-- ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆที่มีกำหนดการรายงานในวันนี้ สิงคโปร์เตรียมรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. เวลา 12.00 น. ตามเวลาไทย

เยอรมนีเตรียมรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2560 เวลา 14.00 น.
และอียูเตรียมรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค. เวลา 17.00 น.
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2787502

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
MTS GOLD is live now.
5 mins · คลิป

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาพบกับการวิเคราะห์กราฟสดๆ ข้อมูลร้อนๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของเราได้เลย กับรายการ MTS LIVE วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...