ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

YLG รู้ทันทอง มองทันเทรน ประจำวันที่ 21-03-61

เฮฮาภาษาทอง by Ylg 21-03-2561

บทวิเคราะห์ Daily Comment
ประจำช่วง Day Session
วันที่ 21 มีนาคม 2018

ราคาทองปิดปรับตัวลดลงในเมื่อคืนนี้หลังจากขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,319 เหรียญ 
"ราคาทองคำปิดลดลง -5.49 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.42% โดยปิดที่ 1,311.27 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,306.90 – 1,318.30 ดอลลาร์ เช้านี้ราคาทองเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,316 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวลดลงหลังจากขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,319 เหรียญ ก่อนที่จะปรับลดลงต่อเนื่องมาทดสอบแนวรับ 1,306 เหรียญ และดีดกลับมาบริเวณ 1,312 เหรียญในช่วงเช้านี้ ราคาทองโดนกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและแกว่งผันผวน โดยนักลงทุนคาดว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯจะเกิดขึ้นในการประชุมครั้งนี้อย่างแน่นอน แต่นักลงทุนให้ความสนใจกับมุมมองของเฟดว่าจะกัฃวลอัตราเงินเฟ้อแค่ไหน รวมทั้งทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ว่าจะเกิดขึ้นกี่ครั้ง ส่วนภาพทางเทคนิคนั้นราคาทองแกว่งในกรอบการ sideway down กว้างๆ รอความชัดเจนในคืนนี้
"
แนะนำ : ผู้มีสถานะซื้อถือต่อ โดยให้จุดตัดขาดทุน 1,306 เหรียญ ผู้ไม่มีสถานะรอผลการประชุมเฟดในคืนนี้โดยให้น้ำหนัดฝั่งซื้อมากกว่า

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่
http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy2103201895802451…
สนใจลงทุนทองคำกับ Classic Gold
ทองคำแท่ง : 02-225-7770
เว็บไซต์ : www.classicgold.co.th

No automatic alt text available.
 
Image may contain: one or more people and text

สนใจโทรสอบถามรายละเอียด/จองคิวได้ที่ 
Tel.02-926-9957 (ในเวลาราชการ)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
MTS GOLD is live now.
2 mins · คลิป

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาพบกับการวิเคราะห์กราฟสดๆ ข้อมูลร้อนๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของเราได้เลย กับรายการ MTS LIVE วันที่ 21 มีนาคม 2561

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ข่าวเช้าจ้า 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์อ่อน หนุนทองปิดบวก 9.6 ดอลลาร์

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 61)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ก่อนที่นักลงทุนจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กได้ปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 9.6 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ 1,321.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 23.4 เซนต์ หรือ 1.45% ปิดที่ 16.419 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.6 ดอลลาร์ หรือ 0.59% ปิดที่ 950.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 10.55 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 986.45 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.5% แตะระดับ 89.91เมื่อคืนนี้
ดอลลาร์ที่อ่อนค่า จะเพิ่มความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาลดลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ ดอลลาร์อ่อนค่าลงก่อนที่นักลงทุนจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด โดยตลาดทองคำนิวยอร์กได้ปิดทำการซื้อขายไปก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม


--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ดอลลาร์อ่อนค่าแตะกรอบบน 105 เยนเช้านี้ หลังเฟดมีมติขึ้นดอกเบี้ยตามคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2561 11:23:19 น.
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าแตะกรอบบน 105 เยน ในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเงินเยนซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และยังคงส่งสัญญาณขึ้นปรับดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ณ เที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 105.71-105.72 เยน เมื่อเทียบกับ 105.99-106.09 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก



ยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.2358-1.2361 ดอลลาร์ และ 130.65-130.66 เยน เมื่อเทียบกับ 1.2333-1.2343 ดอลลาร์ และ 130.81-130.91 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก เมื่อช่วงเย็นวานนี้

ดีลเลอร์เปิดเผยว่า นักลงทุนที่คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ ต่างก็พากันเทขายสกุลเงินดอลลาร์ หลังคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FMOC) ของเฟด เปิดเผยผลการประชุมเมื่อวานนี้

โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FMOC) ภายใต้การนำของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดคนใหม่ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ และเป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่เฟดเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.2558

ขณะที่โบรกเกอร์ในตลาดเงินเปิดเผยว่า จากกระแสข่าวที่ระบุประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ จะลงนามบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในวันนี้ อาจสร้างความวิตกให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับสงครามการค้าและจะทำให้เกิดการเทขายสกุลเงินดอลลาร์

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ตรีสิริ เซะวิเศษ/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2801666

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2561 (ภาคเช้า)

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2561 09:29:39 น.
กรุงเทพฯ--22 มี.ค.--MTS Gold Group
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้นแม้ว่าเฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยตามคาด จากการที่ตลาดรับรู้การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดมาก่อนจึงเห็นการดีดกลับของราคา และตลาดเริ่มให้ความกังวลต่อ Trade War ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และยังมีการคาดการณ์ดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้น่าจะมีไม่น้อยกว่า 2-3 ครั้ง โดยที่เมื่อวานนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ทางด้าน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 850.54 ตัน สำหรับคืนนี้จะมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ ได้แก่ Unemployment Claims คาดการณ์ว่าจะออกมาทรงตัวหรือใกล้เคียงเดิม



วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ภาพทางเทคนิคระยะสั้นมีการแกว่งตัวทิศทางขาขึ้น โดยเริ่มมีการปรับตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทั่วไปในกราฟรายชั่วโมง และขึ้นไปทดสอบแนวต้านแรกที่ระดับ 1,330 เหรียญ และมีราคาเป้าหมายถัดไปที่ระดับ 1,340 เหรียญ สำหรับแนวรับขยับขึ้นมาที่ 1,310 เหรียญ ดังนั้น จึงแนะนำให้ลงทุนโดยใช้กลยุทธ์เป็นการปรับมาถือครองสถานะ Long โดยเป็นการเก็งกำไรตามการแกว่งขึ้นในระยะสั้นๆ

การลงทุน Gold D
เก็งกำไรระยะสั้นๆในทิศทางขาขึ้นโดยมีกรอบแนวรับที่ระดับ 1,315 เหรียญ และมีแนวต้าน 1,340 เหรียญ

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ปรับพอร์ตการลงทุนมาเล่นสั้นๆ เก็งกำไรขาขึ้นในกรอบ 1,310 – 1,340 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และซื้อปิดทำกำไรแนวต้าน
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
หาจังหวะปิดสถานะทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
เริ่มกลับเข้าซื้อหลังจากที่ Wait&See มาสักระยะ หลังจากที่ราคาไม่หลุดต่ำกว่าแนวรับวานนี้

Gold Futures J18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,670 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,870 บาท
Gold Futures M18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,720 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,920 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2801554

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์ตามภูมิภาคหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง-ราคาน้ำมันขยับขึ้นหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2561 09:25:22 น.
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่อยู่ในแดนบวก หลังผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมาไม่ได้แย่อย่างที่คิด โดยสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ยังคงเป็น 3 ครั้ง

นอกจากนั้น เฟดยังคงเป้าหมายตัวเลขเงินเฟ้อ แสดงให้เห็นว่าไม่ได้กังวลมากนัก และมีการปรับเพิ่มเป้าหมายอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสหรัฐฯในปีนี้ จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 2.5% เป็น 2.7% และในปีหน้าคาดว่าจะเติบโต 2.9% จากเดิม 2.7%



อีกทั้งราคาน้ำมันวานนี้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อว ซึ่งเป็นผลจากการเข้ามาเล่นเก็งกำไรหลังจากที่ซาอุดิอาระเบียได้ไปเยือนสหรัฐฯ ทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น แต่ก็เป็นผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน อย่างหุ้น PTT, PTTEP ส่วน AOT ก็ได้ผลดีจากการท่องเที่ยว ซึ่งวันนี้น่าจะได้เห็นนักลงทุนกล้าเข้ามาเล่นมากขึ้น

ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ ตัวเลขการส่งออกและการท่องเที่ยวออกมาดี รวมถึงภาคการผลิตเริ่มฟื้นตัว พร้อมให้แนวรับ 1,795 จุด ส่วนแนวต้าน 1,812-1,815 จุด

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2801573

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์ตามภูมิภาคหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง-ราคาน้ำมันขยับขึ้นหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2561 09:38:28 น.
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่อยู่ในแดนบวก หลังผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมาไม่ได้แย่อย่างที่คิด โดยสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ยังคงเป็น 3 ครั้ง

นอกจากนั้น เฟดยังคงเป้าหมายตัวเลขเงินเฟ้อ แสดงให้เห็นว่าไม่ได้กังวลมากนัก และมีการปรับเพิ่มเป้าหมายอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของสหรัฐฯในปีนี้ จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 2.5% เป็น 2.7% และในปีหน้าคาดว่าจะเติบโต 2.9% จากเดิม 2.7%



อีกทั้งราคาน้ำมันวานนี้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อว ซึ่งเป็นผลจากการเข้ามาเล่นเก็งกำไรหลังจากที่ซาอุดิอาระเบียได้ไปเยือนสหรัฐฯ ทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น แต่ก็เป็นผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน อย่างหุ้น PTT, PTTEP ส่วน AOT ก็ได้ผลดีจากการท่องเที่ยว ซึ่งวันนี้น่าจะได้เห็นนักลงทุนกล้าเข้ามาเล่นมากขึ้น

ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ ตัวเลขการส่งออกและการท่องเที่ยวออกมาดี รวมถึงภาคการผลิตเริ่มฟื้นตัว พร้อมให้แนวรับ 1,795 จุด ส่วนแนวต้าน 1,812-1,815 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 มี.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,682.31 จุด ลดลง 44.96 จุด (-0.18%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,711.93 จุด ลดลง 5.01 จุด (-0.18%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,345.29 จุด ลดลง 19.02 จุด (-0.26%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.32 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 161.41 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 34.83 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 9.87 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.70 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.03 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 28.81 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 มี.ค.61) 1,801.43 จุด เพิ่มขึ้น 1.59 จุด (+0.09%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,081.62 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 มี.ค.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 มี.ค.61) ปิดที่ระดับ 65.17

ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.63 ดอลลาร์ หรือ 2.6%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 มี.ค.61) ที่ 6.98 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.16 แข็งค่าตามภูมิภาค จากดอลล์อ่อนหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาด
- ส่งออกก.พ.โต 10.3% ขยายตัวดีทุกตลาด อานิสงส์กำลังซื้อโลกพุ่ง สินค้าไทยยังแข่งขันได้ เผย"ยานยนต์"นำโด่งโต 31% "พาณิชย์" ห่วงบาทแข็งฉุดส่งออกสินค้าเกษตร สั่งจับตาใกล้ชิด มั่นใจทั้งปีโตตามเป้า 8% ด้าน "แบงก์ชาติ" ยอมรับขยายตัวเกินคาด เล็งปรับประมาณการปีนี้ใหม่ ขณะ "เอกชน" หวั่นพิษบาทแข็ง ฉุดส่งออกไตรมาส 2 เผยผู้ผลิตที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ เริ่มชะลอขายสินค้า รอบาทอ่อน เหตุเสี่ยงขาดทุน

- กระทรวงท่องเที่ยวเผย 2 เดือน ภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 7.1 ล้านคน โตเฉียด 15% ไทยโกยรายได้จีน 1.16 แสนล้าน ชี้ยอดเดินทางเข้าเมืองรอง 55 จังหวัดกระเตื้อง คนไทย-ต่างประเทศหนุนโตเกินค่าเฉลี่ย เผยแผนรับงบกลางเล็งปั้นโครงการริเวียร่า-อยุธยา-อีสานใต้ กระจายหนาแน่นจากเมืองหลัก

- ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ก.พ. 61 แตะ 89.9 ลดลงครั้งแรกรอบ 4 เดือนจากที่ขึ้นมาต่อเนื่อง เหตุเชื่อมั่นเอสเอ็มอีดิ่งกังวลต้นทุนเพิ่มจากค่าแรงที่จ่อปรับ 1 เม.ย. ค่าเงินผันผวน ผู้ส่งออกกังวลมาตรการกีดกันทางการค้าที่มากขึ้น ด้านรถยนต์ทิศทางสดใสลุ้นเป้าผลิตปีนี้ได้ 2 ล้านคันจากที่พลาดมาแล้ว 3 ปี

- ท่องเที่ยวคาดสงกรานต์หยุด 5 วันเงินสะพัด 19,820 ล้านบาท ด้าน ททท.หันเจาะตลาดกลุ่มผู้มีบุตรยากในจีน ชูกลุ่มเป้าหมาย 1 ล้านคู่ ชาญอิสสระบุกอสังหาทำเลชะอำ-หัวหิน

*หุ้นเด่นวันนี้
- CHAYO บมจ.ชโย กรุ๊ป เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มธุรกิจการเงิน โดยราคาขาย IPO 2.88 บาท/หุ้น กลุ่มบริษัท CHAYO ประกอบธุรกิจ 3 ประเภท ได้แก่ 1) ธุรกิจเจรจาติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้

ตามเงื่อนไขที่ผู้ว่าจ้างกำหนดภายใต้พระราชบัญญัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ หนี้บัตรเครดิต หนี้เงินกู้ส่วนบุคคล หนี้ค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น 2) ธุรกิจลงทุนและบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ โดยประมูลซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินและบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน และ 3) ธุรกิจศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า

- PTTEP (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ทยอยสะสม" เป้า 125 บาท ในระยะสั้นคาดราคาน้ำมันมีโอกาสฟื้นตัว ภายหลังเกิดความกังวลต่อแผนการบริหารภายใต้การดำเนินงานของ Trump อย่างต่อเนื่องส่งผลทางอ้อมกดดันค่าเงินดอลลาร์ สะท้อนการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบอีกครั้ง ส่งผลให้ระยะสั้นเราคาดเกิด Technical rebound ในราคาน้ำมันดิบ (brent) ที่บริเวณ 65-67 เหรียญ/บาร์เรล พร้อมปรับประมาณการกำไรปี 61-62 ขึ้น 5.2-9.8% เป็น 3.31 และ 3.46 หมื่นล้านบาท จากการปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบขึ้นเป็น 60 เหรียญ/บาร์เรล ในขณะที่เชิงพื้นฐานคาดกำไร Q1/61 มีแนวโน้มเติบโต QoQ จากราคาขายที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น และต้นทุนต่อหน่วยที่คาดลดลง

- BGRIM (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 32 บาท มีมุมมองเชิงบวกต่อแผนการขยายกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศต่อเนื่อง โดยคาดกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนในปี 2018-2022 จะเพิ่มเฉลี่ย 12.8% ต่อปี (CAGR) และจะหนุนต่อการเติบโตของกำไรปกติในอัตราเฉลี่ย 22% ต่อปี (CAGR) ในช่วงดังกล่าว โดยคาดกำไรปกติในปีนี้จะโตสูงเกือบ 40% Y-Y อยู่ที่ 2.4 พันลบ. จากโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ 3 โรงมีกำหนดทยอย COD ตั้งแต่ Q1/61 อีกทั้ง ยังมีจุดเด่นด้านกระแสเงินสดค่อนข้างมั่นคงจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) และมี Upside จากโอกาสการลงทุนโครงการใหม่ เช่น โครงการ Solar ในเวียดนาม ที่มีแนวโน้มชัดเจนมากขึ้นในกลางปีนี้

- BANPU (ไอร่า) เป้า 28 บาท คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติ (Normalized profit) ในปี 61 อยู่ที่ 10,659 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 7 ปี จากแนวโน้มราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้น คาดส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานเหมืองถ่านหินของ BANPU ทั้งอินโดนีเซีย และออสเตรเลีย โดยเฉพาะเหมืองถ่านหินที่ออสเตรเลีย คาดผลการดำเนินฟื้นตัวโดดเด่น เนื่องจากเป็นเหมืองใต้ดินที่ต้นทุนผลิตค่อนข้างคงที่ โดยคาดราคาขายถ่านหินสำหรับเหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซียในปี’61 อยู่ที่ 80 USD/ton เพิ่มขึ้นจาก 75 USD/ton เมื่อปี 60 ขณะที่เราคาดราคาถ่านหินอ้างอิงปี’61 อยู่ที่ 85 USD/ton จากปัจจุบันที่ ประมาณ 100 USD/ton

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2801586

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
MTS GOLD was live.
1 hr · 

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาพบกับการวิเคราะห์กราฟสดๆ ข้อมูลร้อนๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของเราได้เลย กับรายการ MTS LIVE วันที่ 22 มีนาคม 2561

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โชคดี มีสุข 

Happy weekand +_____+

ข่าวในพระราชสำนัก วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2561

 

เฮฮาภาษาทอง by Ylg 23-03-2561

YLG รู้ทันทอง มองทันเทรน ประจำวันที่ 23-03-61

 

No automatic alt text available.

23 มีนาคม 2561

----
safe_image.php?d=AQCRWjYJIYAo8iWV&w=476&
ข่าวร้อนก่อนเทรด ประจำวันที่ 23/03/61 1 | พาณิชย์คาดส่งออกเหล็กร่วง45% 2 | สนช.ผ่าน 3 วาระ งบกลางปี 1.5 แสนล้าน 3 | ตลา...
MONEYCHANNEL.CO.TH
-----

บทวิเคราะห์ Daily Comment
ประจำช่วง Day Session
วันที่ 23 มีนาคม 2018

ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยโดยระหว่างวัน 
"ราคาทองคำปิดลดลง -3.62 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.27% โดยปิดที่ 1,328.58 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,324.60 – 1,334.90 ดอลลาร์ เช้านี้ราคาทองเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,336 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยระหว่างวันราคาทองไปทดสอบจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,324 เหรียญที่เป็นแนวรับ และสามารถดีดกลับทำจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อ โดยปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองในเช้านี้คือ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่องหลังจากเฟดไม่ปรับเพิ่มประมาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมีปัจจัยมาช่วยสนับสนุนคือ การเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของสหรัฐฯ ที่สร้างความกังวลต่อทั่วโลกว่าจะเกิดสงครามการค้า ส่งผลให้เม็ดเงินไหลออกจากดอลลาร์และสินทรัพย์เสี่ยงช่วยหนุนราคาทองให้ปรับตัวขึ้นต่อตามภาพเทคนิค โดยในคืนนี้ติดตามยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและความคืบหน้าของประเด็นการเก็บภาษีนำเข้าจีนของสหรัฐฯ
"
แนะนำ : ผู้มีสถานะซื้อถือต่อ โดยขยับจุด lock profit มาที่ 1,324 เหรียญ ผู้ไม่มีสถานะยังคงเน้นฝั่งซื้อ แต่รอซื้อบริเวณแนวรับ

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่
http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy2303201894522451…
No automatic alt text available.

ราคาทองคำย้อนหลัง วิเคราะห์ราคาทองคำ แนวโน้มราคาทอง
AUSIRIS.CO.TH
===

ปฏิทินตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจ ประจำวันที่ 23 มีนาคม 2561
---------------------------------
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
อ่านฉบับเต็มคลิก : www.ylgbullion.co.th

 

No automatic alt text available.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
 
 
 
MTS GOLD is live now.
8 mins · คลิป

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาพบกับการวิเคราะห์กราฟสดๆ ข้อมูลร้อนๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของเราได้เลย กับรายการ MTS LIVE วันที่ 23 มีนาคม 2561

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ข่าวในพระราชสำนัก วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2561

 

เฮฮาภาษาทอง by Ylg 26-03-2561

YLG รู้ทันทอง มองทันเทรน ประจำวันที่ 26-03-61

7 minutes ago

YLG GOLD DAILY UPDATE 26-03-18

• ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.34 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากความวิตกเกี่ยวสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่ารวมถึงกดดันดัชนีดาวโจนส์ให้ร่วงลง 424.69 จุด 
• ด้านสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเยนและทองคำได้รับแรงหนุน จนทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถึงแม้ราคาทองคำจะได้รับแรงกดดันอย่างการที่สหรัฐเลี่ยงชัตดาวน์ครั้งที่ 3 ในปีนี้ได้ก็ตาม
อ่านฉบับเต็มคลิก: https://go...

See more
No automatic alt text available.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ Daily Comment
ประจำช่วง Day Session
วันที่ 26 มีนาคม 2018

ราคาทองปิดปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 
"ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น +18.34 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +1.38% โดยปิดที่ 1,346.92 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,328.80 – 1,350.21 ดอลลาร์ เช้านี้ราคาทองเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,347 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นและทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าและเม็ดเงินที่ไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากความกังวลเรื่องสงครามการค้ายังไม่คลี่คลาย บดบังตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ประกาศออกมาดีในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพเทคนิคราคาทองแกว่งในกรอบด้านบนได้ต่อเนื่องในเช้าวันนี้ และสัปดาห์นี้ติดตามตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ว่าจะช่วยหนุนให้ราคาทองเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ได้หรือไม่ 
"
แนะนำ : ผู้มีสถานะซื้อถือต่อหรืออาจจะปิดทำกำไรบางส่วน และเลื่อนจุด lock profit มาที่ 1,339 เหรียญ ผู้ไม่มีสถานะฝั่งซื้อยังได้เปรียบแต่ระมัดระวังต้นทุนที่เสียเปรียบ

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่
http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy2603201810085545…

 

Image may contain: text
 
No automatic alt text available.
 
ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.18 มองกรอบวันนี้ 31.10-31.25 ตลาดรอติดตามผลประชุมกนง.กลางสัปดาห์นี้ คาดคงอัตราดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 26 มีนาคม 2561 09:29:09 น.
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.18 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า



เล็กน้อยจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.21 บาท/ดอลลาร์
"เมื่อคืนวันศุกร์ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ และตลาด

รอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งคาดว่าน่าจะคงดอกเบี้ย" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10-31.25 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (23 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.10906% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (23 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ

1.25301%
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.93 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 104.87 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2371 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.2327 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.2500 บาท/

ดอลลาร์
- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (26-30 มี.ค.)ที่ 31.05-31.45

บาทต่อดอลลาร์ โดยอาจต้องจับตาผลการประชุมนโยบายการเงิน และมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยของธปท. (28 มี.ค.) ตลอด

จนประเด็นต่อเนื่องจากมาตรการทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าสำคัญ
ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. ยอดทำสัญญาณขายบ้านที่รอปิดการ

ขาย รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนี Core PCE Price Index เดือนก.พ. ดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค. และตัวเลขจีดีพีประจำ

ไตรมาส 4/60
นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินสัญญาณดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน

- กระทรวงพาณิชย์จะติดตามกรณีสหรัฐฯ และจีน ประกาศจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอย่างใกล้ชิด เพราะในแง่มหภาคทำ

ให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายในตลาดโลก เกิดความไม่มั่นใจด้านการค้าการลงทุน ส่งผลให้นักลงทุนหันมาซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย อย่าง

ทองคำ และอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง จนส่งผลให้ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่ามากขึ้น และกระทบผู้ส่งออกของไทยในที่

สุด ซึ่งถือเป็นผลกระทบทางอ้อมต่อไทย
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ได้ส่งหนังสือเวียนแจ้งสมาคมธนาคารไทย สภาสถาบันการเงินของรัฐ สมาคม

ธนาคารนานาชาติ เพื่อให้แจ้งต่อสมาชิกธนาคารพาณิชย์ ธนาคารของรัฐ รวมถึงธนาคารต่างประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย เนื่อง

จากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ได้มีมติเห็นชอบตามกระทรวงการต่างประเทศเสนอเรื่องการดำเนินการตามข้อมติคณะ

มนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการก่อการร้ายที่ 2370 (ค.ศ. 2017) และ 2396 (ค.ศ. 2017) โดยขอ

ความร่วมมือให้สถาบันการเงินทั้งหมดดำเนินการตามมติ ครม.ที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้หากพบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องให้แจ้ง ธปท.ทันที

- "พาณิชย์" จ่อปลดล็อกธุรกิจบริการในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 4.0 ออกจากบัญชีแนบท้าย 3 กฎหมายธุรกิจคน

ต่างด้าว หวังส่งเสริมเชื่อมั่นต่างชาติลงทุนไทย
- สบน.เผยสภาพคล่องในระบบล้นรองรับการระดมทุนโครงการลงทุนอีอีซีระยะ 5 ปีข้างหน้า โดยงบลงทุน 1 ล้านล้าน

บาท จะมาจากงบประมาณ 30% ในจำนวนนี้ จะถูกบรรจุในงบประมาณรายจ่าย ที่ต้องกู้ราว 3-5 หมื่นล้านบาทต่อปีเท่านั้น พร้อม

ประเมินสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยไม่กระทบต้นทุนเงินกู้มากนัก
- นักเศรษฐศาสตร์ประเมิน ลงทุนเอกชนเริ่มฟื้น หลังส่งออกขยายตัวดี "สศค." มั่นใจทั้งปีโต 3.8% เผยสัญญาณบวก

จากการนำเข้าที่สูงขึ้น ด้าน "กรุงศรี" คาดปีนี้ โต 3.5% อานิสงส์ลงทุนรัฐ  ขณะ "ภัทร" มองขยายตัว เล็กน้อย ห่วงไทยเผชิญ

ปัญหาขีดแข่งขันลด
- ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ในรอบนี้ที่จะมีผลวันที่ 1 เม.ย. 2561 เป็นอัตราขึ้นที่

ไม่มาก เพียงประมาณ 4% โดยเฉลี่ยจาก 305.4 เป็น 316 บาท/วัน มีผลกระทบต่อจีดีพีน้อยมากเพียง 0.005% เท่านั้น

- นายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเปิดเผยในระหว่างการประชุม "China Development Forum" ที่กรุงปักกิ่ง

เมื่อวานนี้ว่า จีนจะเดินหน้าผ่อนคลายการเข้าถึงภาคการเงิน และเปิดกว้างในการปฏิรูปค่าเงิน

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณวงเงิน 1.3 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ภายหลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐลงมติอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 65 ต่อ 32 และสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ลง

มติอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 256 ต่อ 167
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวอยร์กเมื่อวันศุกร์ (23

มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่ง

ให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ขณะที่จีนก็ประกาศมาตรการตอบโต้เช่นกัน
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ (23 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยว

กับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

- วันนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนก.พ.จากเฟดชิคาโก และดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค.

จากเฟดดัลลัส ส่วนวันพรุ่งนี้จะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ส, ดัชนีการผลิตเดือนมี.ค. โดยเฟด

สาขาริชมอนด์ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2803099
 
World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 26 มีนาคม 2561

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 26 มีนาคม 2561 08:56:13 น.
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาดการเงินทั่วโลก โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 มี.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุด นักลงทุนกังวลว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยความกังวลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่พุ่งสูงสุดรอบ 8 เดือน รวมถึงการที่สหรัฐเลี่ยงชัตดาวน์ครั้งที่ 3 ในปีนี้ได้ หลังปธน.ทรัมป์ลงนามร่างงบประมาณ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์



ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 424.69 จุด หรือ -1.77 ปิดที่ 23,533.20 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดในปีนี้ ดัชนี S&P500 ลดลง 55.43 จุด หรือ -2.10% ปิดที่ 2,588.26 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 174.01 จุด หรือ -2.43% ปิดที่ 6,992.67 จุด

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณวงเงิน 1.3 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐลงมติอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 65 ต่อ 32 และสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ลงมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียง 256 ต่อ 167

ร่างงบประมาณฉบับนี้ช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณในการบริหารประเทศไปจนถึงสิ้นเดือนก.ย. โดยจะมีการเพิ่มการใช้จ่ายทางทหาร และเพิ่มงบประมาณสำหรับการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน รวมทั้งเพิ่มงบประมาณสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน และมาตรการในการควบคุมการขายอาวุธปืน และปรับปรุงระบบความปลอดภัยในโรงเรียน

อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์กระบวนการเร่งรีบอนุมัติร่างงบประมาณซึ่งมีรายละเอียดมากกว่า 2,200 หน้า แต่เพิ่งมีการแจกจ่ายเมื่อวันพุธ โดยปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะไม่มีวันลงนามในร่างกฎหมายแบบนี้อีกต่อไป พร้อมกับกล่าวว่า เขาได้ลงนามในร่างกฎหมายฉบับนี้เพื่อเห็นแก่ความมั่นคงของชาติ

-- กระทรวงการคลังสหรัฐแถลงเมื่อวันศุกร์ว่า ทางกระทรวงได้ประกาศคว่ำบาตรต่อสถาบัน Mabna และเจ้าหน้าที่ 10 รายในอิหร่านที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่เป็นอันตรายในโลกไซเบอร์

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้คว่ำบาตรสถาบัน Mabna ซึ่งถูกกล่าวหาว่าทำหน้าที่เป็นเครือข่ายแฮกเกอร์ที่แทรกซึมไปในมหาวิทยาลัยหลายร้อยแห่งเพื่อขโมยข้อมูลลับ โดยการคว่ำบาตรดังกล่าวจะส่งผลให้กระทรวงการคลังอายัดทรัพย์สินทั้งหมดที่ Mabna และเจ้าหน้าที่เหล่านี้มีในสหรัฐ และจะทำให้ชาวอเมริกันไม่สามารถทำธุรกิจกับพวกเขา

-- กระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านได้ออกมาประณามสหรัฐ หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐแถลงเมื่อวันศุกร์ว่า ทางกระทรวงได้ประกาศคว่ำบาตรต่อสถาบัน Mabna และเจ้าหน้าที่ 10 รายในอิหร่านที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่เป็นอันตรายในโลกไซเบอร์

บาห์รัม คาเซมิ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน กล่าวว่า มาตรการอันยั่วยุและมิชอบด้วยกฎหมายของสหรัฐไม่สามารถส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางด้านวิทยาศาสตร์ของอิหร่านได้ พร้อมทั้งระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของสหรัฐเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสหรัฐมีความเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศอิหร่านอย่างเป็นปกติวิสัย

-- นายคาร์เลส ปุกเดมองต์ อดีตผู้นำแคว้นกาตาลุญญา ถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมในเยอรมนี หลังข้ามพรมแดนจากเดนมาร์กเพื่อเดินทางไปเบลเยียม โดยรายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ นายปุกเดมองต์สามารถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ระหว่างการเดินทางไปประเทศฟินแลนด์เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา หลังศาลฎีกาแห่งสเปนได้พิพากษาออกหมายจับสากลนายปุกเดมองต์อีกครั้ง

ด้านทนายความของนายปุกเดมองต์ได้ออกมาระบุว่า "นายปุกเดมองต์ถูกเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวในเยอรมนีขณะกำลังข้ามพรมแดนจากเดนมาร์ก ระหว่างการเดินทางกลับจากฟินแลนด์เพื่อไปยังเบลเยียม"

ทั้งนี้ นายปุกเดมองต์ซึ่งลี้ภัยไปยังกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ตั้งแต่เดือนต.ค. ปีที่แล้ว หลังถูกตั้งข้อหากบฏในสเปน ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 30 ปี จากการปลุกระดมและก่อการจลาจลหลังประกาศนำแคว้นกาตาลุญญาแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน

-- นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐและเกาหลีใต้ได้ตกลงที่จะแก้ไขข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ หรือที่เรียกอีกชื่อว่า Korus รวมทั้งแก้ไขแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กที่สหรัฐเรียกเก็บจากเกาหลีใต้ด้วย

นายมนูชิน คาดการณ์ว่า สหรัฐและเกาหลีใต้น่าจะมีการลงนามข้อตกลงครั้งใหม่เร็วๆนี้ โดยเกาหลีใต้จะลดการส่งออกเหล็กไปยังสหรัฐ สืบเนื่องมาจากการแก้ไขข้อตกลงดังกล่าว

-- นายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเปิดเผยในระหว่างการประชุม "China Development Forum" ที่กรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้ว่า จีนจะเดินหน้าผ่อนคลายการเข้าถึงภาคการเงิน และเปิดกว้างในการปฏิรูปค่าเงิน

นอกจากนี้ นายอี้กล่าวว่า จีนจะเปิดระบบบัญชีทุนให้อยู่ในทิศทางที่เป็นระเบียบเรียบร้อย และปรับปรุงการแปลงค่าเงินหยวนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันนายอี้ให้คำมั่นว่า ธนาคารกลางจีนจะยังคงดำเนินนโยบายแบบรอบคอบและเป็นกลาง

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ฝรั่งเศสจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส4/2560 ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนก.พ.จากเฟดชิคาโก และดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดดัลลัส

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค., ออสเตรเลียจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.จากสมาคมอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัย (HIA), จีนจะเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.-ก.พ. ขณะที่ยูโรสแตทจะเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนมี.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ส, ดัชนีการผลิตเดือนมี.ค. โดยเฟดสาขาริชมอนด์ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2803080
 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้เปิดปรับลงก่อนลุ้นยืนแดนบวก เล็งแรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯหลังราคาน้ำมันขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 26 มีนาคม 2561 09:36:02 น.
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีลุ้นยืนในแดนบวกได้ แม้จะเปิดติดลบบ้าง เล็งแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น ทำให้น่าจะไปช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี รวมถึงใกล้ปิดงบฯไตรมาส 1/61 ก็อาจจะทำมีแรงหนุนจากการทำ Window Dressing ด้วย



ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ติดลบเกือบทุกตลาด ตามดาวโจนส์ที่ร่วงไปกว่า 400 จุด เนื่องจากวิตกสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน กลัวว่าเหตุการณ์จะบานปลาย ทำให้ตลาดหุ้นจีนเช้านี้ปรับตัวลงไปเกือบ 2% แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯไปเป็นเดือนก.ย. ทำให้หน่วยงานรัฐฯของสหรัฐฯบางแห่งไม่ต้อง Shut down แต่ดูเหมือนไม่ได้ช่วยหนุนตลาดฯมาก

สำหรับสัปดาห์นี้ให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ตลาดฯคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน และมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการกลุ่มทีวีดิจิทัล และกลุ่มมือถือคลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ์ ที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 27 มี.ค.นี้

พร้อมให้แนวรับ 1,784 จุด ส่วนแนวต้าน 1,800 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (23 มี.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,533.20 จุด ร่วงลง 424.69 จุด (-1.77%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,588.26 จุด ลดลง 55.43 จุด (-2.10%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,992.67 ลดลง 174.01 จุด (-2.43%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 194.49 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 35.44 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 42.22 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 39.76 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.08 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 20.44 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.34 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 มี.ค.61) 1,794.21 จุด ลดลง 4.34 จุด (-0.24%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 648.90 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 มี.ค.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (23 มี.ค.61) ปิดที่ระดับ 65.88

ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.58 ดอลลาร์ หรือ 2.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 มี.ค.61) ที่ 7.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.18 มองกรอบวันนี้ 31.10-31.25 รอติดตามผลประชุมกนง.กลางสัปดาห์นี้ คาดคงอัตราดอกเบี้ย

- ร.ฟ.ท.คาดค่าเช่าพื้นที่มักกะสันศรีราชา 5-6 หมื่นล้าน อายุสัญญา 50 ปี คาดทีโออาร์แล้วเสร็จปลายเดือนนี้ เอกชนสนใจมักกะสันมากกว่าศรีราชา ประเมินราคาที่ดินมักกะสันแปลง A พุ่ง ตารางวาละ 5-6 แสน สำนักงานอีอีซีเตรียมชงครม. อนุมัติโครงการรถไฟฯเชื่อม 3 สนามบินพรุ่งนี้

- สบน.เผยสภาพคล่องในระบบล้นรองรับการระดมทุนโครงการลงทุนอีอีซีระยะ 5 ปีข้างหน้า โดยงบลงทุน 1 ล้านล้านบาท จะมาจากงบประมาณ 30% ในจำนวนนี้ จะถูกบรรจุในงบประมาณรายจ่าย ที่ต้องกู้ราว 3-5 หมื่นล้านบาทต่อปีเท่านั้น พร้อมประเมินสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยไม่กระทบต้นทุนเงินกู้มากนัก

- นักเศรษฐศาสตร์ประเมิน ลงทุนเอกชนเริ่มฟื้น หลังส่งออกขยายตัวดี "สศค." มั่นใจทั้งปีโต 3.8% เผยสัญญาณบวก จากการนำเข้าที่สูงขึ้น ด้าน "กรุงศรี" คาดปีนี้ โต 3.5% อานิสงส์ลงทุนรัฐ  ขณะ "ภัทร" มองขยายตัว เล็กน้อย ห่วงไทยเผชิญปัญหาขีดแข่งขันลด

- การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ในรอบนี้ที่จะมีผลวันที่ 1 เม.ย. 2561 เป็นอัตราขึ้นที่ไม่มาก เพียงประมาณ 4% โดยเฉลี่ยจาก 305.4 เป็น 316 บาท/วัน มีผลกระทบต่อจีดีพีน้อยมากเพียง 0.005% เท่านั้น

- ตลาดหลักทรัพย์รายงานระดับหนี้สินต่อทุนของบริษัทจดทะเบียนไทยทุกบริษัทรวมกันในปี 2560 พบว่า มีดี/อี อยู่ที่ 2.67 เท่าลดลงจากปี 2559 ที่อยู่ในระดับ 2.82 เท่า โดยพบว่า ระดับหนี้สินต่อทุนของตลาดหุ้นไทยต่ำสุดรอบ 20 ปี

- "พาณิชย์" จ่อปลดล็อกธุรกิจบริการในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 4.0 ออกจากบัญชีแนบท้าย 3 กฎหมายธุรกิจคนต่างด้าว หวังส่งเสริมเชื่อมั่นต่างชาติลงทุนไทย

*หุ้นเด่นวันนี้
- PTTEP (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 125 บาท  ได้รับผลบวกโดยตรงจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น แรงส่งดังกล่าวคาดต่อเนื่องไปใน Q2/61 จากการปรับราคาก๊าซฯ สะท้อนราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ประเด็นการประมูลสัปทานต่ออายุคาดจะเป็น catalyst เชิงบวกในช่วงที่เหลือของปี ล่าสุด TOR จะถูกเสนอให้ กพช.อนุมัติในวันที่ 23 เม.ย. และประกาศ TOR ในช่วงปลายเดือน เม.ย.- พ.ค. ขั้นตอนการประมูลจะเริ่มในช่วง H2/61 และจะประกาศรายชื่อได้ในเดือน ธ.ค. 2561

- ORI (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 24 บาท ภายหลังการเปิดขาย 3 โครงการ KnightsBridge มูลค่ารวม 6 พันล้านบาท อย่างเป็นทางการในวันที่ 24-25 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับดี และมียอด Presales รวมแตะระดับ 4.3 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 22% ของเป้าทั้งปีที่ 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่เราคาดหวังความสำเร็จจากการเปิดโครงการใหม่อีก 11 แห่ง มูลค่ารวม 2.4 หมื่นล้านบาท น่าจะช่วยหนุนให้ยอด Presales ทั้งปี +36% Y-Y ตามที่ตั้งไว้ได้ไม่ยาก โดยยังชอบ ORI ในแง่ของการเติบโตของกำไรปกติปีนี้ที่แข็งแกร่งที่สุด คาด +92% Y-Y เป็น 2.6 พันล้านบาท โดยมี Backlog รองรับประมาณการรายได้แล้วกว่า 79% มากกว่ารายอื่นที่เฉลี่ยเพียง 20 – 30%

- PTTGC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 115 บาท คาดกำไรสุทธิในปีนี้จะพุ่งทำสถิติสูงสุดได้เป็นประวัติการณ์อีก 1 ปี จากแรงหนุนของปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น โดยปีนี้ PTTGC มีแผนเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ คือ โครงการ mLLDPE เริ่มผลิต Q1/61 และ โครงการ ME หน่วยที่ 2 เริ่มผลิต Q4/61 ขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากความต้องการที่สูงขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยปีนี้คาดกำไรสุทธิประมาณ 4.6 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 14%yoy

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2803103
 
 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ข่าวในพระราชสำนัก วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2561

Hua Seng Heng Morning News 27-03-2561

เฮฮาภาษาทอง by Ylg 27-03-2561

MTS สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 27 มีนาคม 2561 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ (ภาคเช้า) 20180327 

 ทองขึ้นต่อ แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ทำ High $1355 แม้ว่า SPDR เมื่อวานขายออก 3.24ตัน!!
 สหรัฐฯเอาด้วย เข้าร่วมกับรัฐบาลยุโรปในการออกมาตรการตอบโต้รัสเซีย..

No automatic alt text available.

===บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำอังคารที่ 27 มีนาคม 2561 (ภาคเช้า)

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 27 มีนาคม 2561 10:04:21 น.
กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--MTS Gold Group
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการทูตระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซีย โดยที่ตลาดทางการค้าดูจะตึงเครียดน้อยลง หลังจากที่จีนจะเริ่มเจรจาทางการค้าเพื่อผ่อนคลายการเข้าซื้อสินค้าจากสหรัฐฯมากขึ้นแทนที่จะซื้อจากเกาหลี จึงทำให้โดยองค์รวมตลาดดูจะผ่อนคลายความตึงเครียดลงไปบ้าง แต่ค่าเงินดอลลาร์ยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่ามาอยู่ที่ 89.2 จุด และเช้านี้อ่อนค่าต่อมาที่ 88.7 จุด และยังกดดันให้เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องในเช้าวันนี้ สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯไม่มี แต่ SPDR เมื่อวานนี้ขายทองคำออก 3.24 ตัน ปัจจุบันถือครอง 847.30 ตัน อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯคืนนี้ ได้แก่ CB Consumer Confidence คาดว่าจะออกมาดีขึ้นเล็กน้อย



วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในทางเทคนิคยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่ทะลุแนวต้านสำคัญ 1,350 เหรียญ โดยที่แนวต้านถัดไปของทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,365 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเดิมเมื่อช่วงต้นปีเมื่อ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา และโดยภาพรวมหากทองคำไม่หลุด 1,350 เหรียญลงมาจะมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่แนวรับจะอยู่ที่ 1,340 เหรียญ

การลงทุน Gold D
เก็งกำไรขาขึ้นตามการแกว่ง โดยจะมีแนวรับที่ระดับที่ระดับ 1,340 เหรียญ และแนวต้าน 1,365 เหรียญ

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ทิศทางขาขึ้นในกรอบ 1,340 – 1,365 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ลงซื้อขึ้นขายในกรอบ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
หาจังหวะปิดทำกำไรเพื่อลดสถานะและความเสี่ยงจากตลาด
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และขายปิดทำกำไรแนวต้าน หากราคายืนเหนือ 1,350 เหรียญ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิม 1,365 เหรียญ

Gold Futures J18 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,170 บาท
Gold Futures M18 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,020 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,220 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2803753

ทิศทางทองคำประจำช่วงเช้า วันที่ 27 มีนาคม 2561
ท่านสามารถติดตามบทวิเคราะห์ฉบับเต็มได้ที่ :
https://www.huasengheng.com/archives/7125

No automatic alt text available.
No automatic alt text available.
 
No automatic alt text available.
 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $5.10 รับเงินดอลล์อ่อน,ปัจจัยการเมืองหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 27 มีนาคม 2561 06:59:04 น.
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ความตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและรัสเซีย อันเนื่องมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศขับนักการทูตรัสเซียจำนวน 60 คนออกจากสหรัฐนั้น ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย



สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.10 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 1355.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 10.2 เซนต์ หรือ 0.62% ปิดที่ 16.684 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.00 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ 950.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 966.85 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.44% สู่ระดับ 89.04 เมื่อคืนนี้

ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่า จะเพิ่มความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาลดลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อันเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและรัสเซีย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศขับนักการทูตรัสเซียจำนวน 60 คนออกจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้การที่รัสเซียอยู่เบื้องหลังการใช้สารพิษลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวของเขาที่ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษ

คำสั่งดังกล่าวรวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองรัสเซียที่ประจำในสหประชาชาติ ซึ่งได้ใช้สถานะนักการทูตในปฏิบัติการลับเพื่อบ่อนทำลายความมั่นคงของสหรัฐ นอกจากนี้ สหรัฐยังได้ประกาศปิดสถานกงสุลรัสเซียในนครซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2803614

 

รัสเซียลั่นเตรียมตอบโต้สหรัฐ,ยุโรป หลังขับนักการทูตหมีขาวออกนอกประเทศ

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 26 มีนาคม 2561 22:59:47 น.
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแถลงในวันนี้ว่า รัสเซียขอประท้วงการขับนักการทูตรัสเซียออกจากสหรัฐและ 14 ชาติในสหภาพยุโรป (EU) เพื่อตอบโต้การที่รัสเซียอยู่เบื้องหลังการใช้สารพิษลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวของเขาที่ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษ



กระทรวงการต่างประเทศระบุว่า รัสเซียจะสอบสวนหาผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว และจะตอบโต้สหรัฐและยุโรปที่ได้ขับนักการทูตรัสเซียออกนอกประเทศ

ทางด้านนายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า รัสเซียรู้สึกเสียใจกับการดำเนินการของชาติตะวันตก และจะวิเคราะห์สถานการณ์ รวมทั้งจะเสนอมาตรการตอบโต้ชาติต่างๆให้แก่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อทำการตัดสินใจขั้นสุดท้าย

นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป กล่าวว่า สมาชิก EU รวม 14 ประเทศมีมติขับนักการทูตรัสเซียออกนอกประเทศ เพื่อตอบโต้การที่รัสเซียอยู่เบื้องหลังการใช้สารพิษลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวของเขา

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว EU ประกาศเรียกตัวเอกอัครราชทูต EU ประจำกรุงมอสโกกลับประเทศ หลังจากที่ผู้นำ EU มีมติว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่รัสเซียจะอยู่เบื้องหลังการใช้สารพิษลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวของเขา

ทั้งนี้ คณะมนตรียุโรปออกแถลงการณ์ระบุว่า "ไม่มีคำอธิบายอื่นที่เป็นไปได้ และเราขอยืนหยัดร่วมกับสหราชอาณาจักรในการเผชิญหน้ากับความท้าทายต่อความมั่นคงของเรา"

การดำเนินการของ EU มีขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศขับนักการทูตรัสเซียจำนวน 60 คนออกจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้การลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซียเช่นกัน โดยนักการทูตรัสเซียที่ถูกขับ รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองรัสเซียที่ประจำสหประชาชาติ ซึ่งได้ใช้สถานะนักการทูตในปฏิบัติการลับเพื่อบ่อนทำลายความมั่นคงของสหรัฐ

นอกจากนี้ สหรัฐยังได้ประกาศปิดสถานกงสุลรัสเซียประจำนครซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2803598

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.13 แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาคจากแรงขายดอลล์ มองกรอบวันนี้ 31.10-31.20

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 27 มีนาคม 2561 09:19:54 น.
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ 31.13 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าในทิศทาง



เดียวกับภูมิภาค หลังมีแรงเทขายดอลลาร์ในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง แม้นักลงทุนจะคลายความกังวลเรื่องสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

"บาทแข็งค่าตามภูมิภาค เนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง แม้นักลงทุนจะคลายกังวลเรื่องสงครามการค้า"

นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.10-31.20 บาท/ดอลลาร์

"ทิศทางบาทวันนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบรอปัจจัยใหม่เข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว
THAI BAHT FIX 3M (26 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.07835% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (26 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ

1.21500%
*ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 105.63 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 105.09/12 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.2449 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2403/2406 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.1650 บาท/

ดอลลาร์
- ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย คาดภาพรวมการค้าสดใส ติด 1 ใน 3 มองเชิงบวกที่สุด เผยยังกังวลปัญหาค่า

เงินผันผวน
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กำลังรวบรวมและวิเคราะห์ผลกระทบสงครามการค้าระหว่างจีนและ

สหรัฐฯ หลังส่อแววติดร่างแหหนัก คาดเห็นผลกระทบชัดเจนไตรมาส 3 เบื้องต้นนอกเหนือสินค้าจะทะลักเข้าอาเซียนกระทบส่งออก

ไทยแล้วส่งออกตรง ไปยังจีนสินค้าประเภทวัตถุดิบ และ กึ่งวัตถุดิบโดนแน่
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) จะเชิญผู้ส่งออกในกลุ่มต่างๆ ทั้งสินค้าอุตสาหกรรมและเกษตรแปร

รูป มาหาแนวทางรับมือกับสถานการณ์สงครามการค้าโลกที่เริ่มมีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะผลกระทบกรณีที่สหรัฐจะประกาศขึ้นภาษีนำ

เข้าจากจีน และจีนเตรียมประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐ เนื่องจากจะกระทบการส่งออกสินค้าไทยทั้งทางตรงและอ้อม

- คลังเดินหน้าตั้ง "ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์" ยืนยันเป็นแหล่งระดมทุนทางเลือกใหม่ของรัฐวิสาหกิจ ไม่เป็นภาระงบ

ประมาณ ประเดิม 2 โครงการลงทุน กทพ. วงเงิน 4.4 หมื่นล้านบาท เปิดขายหน่วยลงทุนได้กลางปี 2561

-  นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะ

เลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เปิดเผยว่า ภายในเดือนก.ค.นี้ เชื่อว่ารัฐบาลสามารถประกาศใช้ยุทธศาสตร์ชาติระยะ

ยาว 20 ปี (60-79) ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด
- นายเจนส์ เวดมานน์ ประธานธนาคารกลางเยอรมนี และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลาง

ยุโรป (ECB) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่า ECB ควรยุติการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยความเคลื่อนไหวของนายเวดมานน์ส่งผลให้

เกิดการคาดการณ์ว่า ECB อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2562
- นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวว่า จีนและสหรัฐควรจัดการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการทำสงครามทางการ

ค้า พร้อมกับย้ำว่า จีนพร้อมที่จะเปิดตลาดสำหรับภาคธุรกิจของสหรัฐ โดยจีนจะปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันต่อบริษัทในประเทศและบริษัท

ต่างชาติ และจีนจะไม่บังคับให้บริษัทต่างชาติทำการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่บริษัทท้องถิ่น รวมทั้งจีนจะคุมเข้มการปกป้องสิทธิทรัพย์สิน

ทางปัญญา
- โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวานนี้ว่า จีนพร้อมเปิดการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทาง

การค้า
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 มี.

ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและ

จีนเริ่มคลี่คลายลง ภายหลังจากทางการจีนได้ประกาศความพร้อมที่จะเปิดการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่า

ของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ความตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและรัสเซีย อันเนื่องมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์

ทรัมป์ประกาศขับนักการทูตรัสเซียจำนวน 60 คนออกจากสหรัฐนั้น ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิ

ลเลอร์ส, ดัชนีการผลิตเดือนมี.ค. โดยเฟดสาขาริชมอนด์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด, ผลิตภัณฑ์มวล

รวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2560, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.พ.,

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.พ. และความเชื่อมั่นผู้

บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
--อินโฟเควสท์ โดย รัชดา คงขุนเทียน/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2803741

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นเช่นเดียวกับภูมิภาค คลายกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนหลังสองฝ่ายพร้อมเจรจากัน

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 27 มีนาคม 2561 09:17:17 น.
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า เนื่องจากคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าสหรัฐฯ และจีน ภายหลังจากที่มีท่าทีจะเจรจากัน ทำให้บรรยากาศต่างประเทศเป็นบวก



ส่วนบ้านเราก็ยังได้แรงหนุนจาการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 1/61 ด้วย อย่างไรก็ดีวันนี้ให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีการพิจารณาเรื่องรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อม 3 สนามบิน คือ สนามบินสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา-ดอนเมือง และในวันพรุ่งนี้ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะต้องติดตาม

ด้านต่างประเทศวันนี้ให้ติดตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯที่จะออกมา และในวันพรุ่งนี้ก็ให้ติดตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ

พร้อมให้แนวรับ 1,790-1,795 จุด ส่วนแนวต้าน 1,810 ถัดไป 1,815-1,820 จุด
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--
ADVERTISEMENT


อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2803738

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นเช่นเดียวกับภูมิภาค คลายกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนหลังสองฝ่ายพร้อมเจรจากัน

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 27 มีนาคม 2561 09:42:36 น.
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า เนื่องจากคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าสหรัฐฯ และจีน ภายหลังจากที่มีท่าทีจะเจรจากัน ทำให้บรรยากาศต่างประเทศเป็นบวก



ส่วนบ้านเราก็ยังได้แรงหนุนจาการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 1/61 ด้วย อย่างไรก็ดีวันนี้ให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีการพิจารณาเรื่องรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่เชื่อม 3 สนามบิน คือ สนามบินสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา-ดอนเมือง และในวันพรุ่งนี้ก็จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะต้องติดตาม

ด้านต่างประเทศวันนี้ให้ติดตามความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯที่จะออกมา และในวันพรุ่งนี้ก็ให้ติดตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ

พร้อมให้แนวรับ 1,790-1,795 จุด ส่วนแนวต้าน 1,810 ถัดไป 1,815-1,820 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (26 มี.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,202.60 จุด พุ่งขึ้น 669.40 จุด

(+2.84%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,658.55 จุด เพิ่มขึ้น 70.29 จุด (+2.72%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,220.54 จุด เพิ่มขึ้น

227.87 จุด (+3.26%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 192.80 จุด, ดัชนี SSE Composite

ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 31.08 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 436.98 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 61.64

จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 17.92 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 26.08 จุด, ดัชนี

FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.24 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 มี.ค.61) 1,801.10 จุด เพิ่มขึ้น 6.89 จุด (+0.38%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,198.16 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 มี.ค.61
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (26 มี.ค.61) ปิดที่ระดับ 65.55

ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 มี.ค.61) ที่ 7.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 31.13 แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาคจากแรงขายดอลล์ มองกรอบวันนี้ 31.10-31.20

- "สมคิด" มอบนโยบายกระทรวงวิทย์ฯ ขับเคลื่อนนวัตกรรมดันเศรษฐกิจไทยโตยกกำลัง 2 ลั่นรัฐบาลให้ความสำคัญกับ

การลงทุนวิจัยและพัฒนา (R&D) หลังผ่านมา 10 ปี มีงบแค่ 0.2% ของจีดีพี เล็งดันเพิ่มเป็น 1% ของจีดีพี หรือ 1.6 แสนล้านบาท

พร้อมสั่งสร้างแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับคนไทยและธุรกิจไทย ด้าน "สุวิทย์" รับลูกเปิดตัว 3 แพลตฟอร์มหลัก หวังให้เกิดเทคโนโลยี

เป็นของตนเอง
- สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้

ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องต่อศาลแพ่งต่อผู้กระทำความผิด จำนวน 25 ราย ฐานร่วมกันสร้างราคาหลักทรัพย์หรือปั่น

หุ้น 6 หลักทรัพย์
- ในวันที่ 30 มี.ค.นี้ สรท.จะเชิญผู้ส่งออกในกลุ่มต่างๆ หารือแนวทางรับมือกับสถานการณ์สงครามการค้าโลกที่เริ่ม

รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะกรณีสหรัฐจะประกาศขึ้นภาษี นำเข้าจากจีนและจีนเตรียมตอบโต้กลับ

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยแนวโน้มสินเชื่อในไตรมาส 1/2561 คาดว่าจะกลับฟื้นตัวเป็นบวกได้ จากแรงหนุนของความ

ต้องการสินเชื่อภาคธุรกิจขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการเพิ่มกำลังการผลิตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจต่างประเทศ ขณะที่สินเชื่อรายย่อย

น่าจะเริ่มกลับมาขยายตัวดีขึ้น หลังผลการชำระคืนหนี้บัตรเครดิตทยอยลดลง รวมถึงมีผลบวกจากการขยายตัวที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของ

สินเชื่อเช่าซื้อ ขณะเดียวกันการแข่งขันนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลผ่านช่องทางโมบายแบงก์กิ้งของธนาคารต่างๆ จะทยอยเพิ่ม

การรับรู้ของลูกค้า และคาดว่าจะนำไปสู่การเลือกใช้บริการเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป
- การประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีวาระที่น่าสนใจคือ จะมีการเสนอมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ให้ที่ประชุมรับทราบ เพื่อพิจารณาออกคำสั่งตามมาตรา 44 ให้มีผลบังคับใช้ภายในเดือนมีนาคม 2561 ประกอบด้วย มาตรการให้พักชำระหนี้ทีวีดิจิทัล ภายในระยะเวลา 3 ปี นอกจากนี้วันนี้ครม.ยังจะพิจารณาลงมติ เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ หนังสือจากคสช.เรื่องการขยายระยะเวลาการชำระเงินค่าประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ หลังจากที่ผู้ชนะการประมูล ทั้ง 2 บริษัท คือ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (เอดับบลิวเอ็น) และ บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (ทียูซี) ได้ขอให้พิจารณาขยายระยะเวลา การจ่ายออกไป

*หุ้นเด่นวันนี้
- FSMART (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 15 บาท คาดกำไร Q1/61 กลับมาโต Q-Q, Y-Y จากรายได้ต่อตู้ต่อเดือนที่ดีขึ้น ค่าเสื่อมราคาเร่งตัวลดลง และไม่มีค่าใช้จ่าย SG&A พิเศษ ส่วนกำไรทั้งปีคาด +18% Y-Y อยู่ที่ 640 ล้านบาท โดยแนวโน้มรายได้บริการโอนเงิน (สัดส่วน 6-7% ของรายได้รวม) ที่กังวลว่าจะถูกกระทบจาก Banking Agent ยังเพิ่มต่อเนือง

- PSL (ไอร่า) เป้า 18 บาท คาด Q1/61 เป็นช่วง Low Season ที่ปกติเรือใหม่มักเข้าสู่อุตสาหกรรมในช่วง ม.ค. รวมถึงวันหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน และผลกระทบจากการลดกำลังการผลิตในอุตสาหกรรมหนักของจีนเพื่อควบคุมมลพิษที่จะจบมาตรการลงใน มี.ค. ทำให้คาดผลประกอบการของ PSL จะเร่งตัวขึ้นได้อีกครั้งใน Q2/61  นอกจากนี้ คาดปี 61 ภาวะอุปสงค์- อุปทาน เข้าสู่สมดุลมากขึ้น โดยเฉพาะ Orderbook เรือ Handysize และ Supramax ซึ่งเป็นเรือหลักของ PSL อยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี และ 13 ปี ที่ 7.8% และ 1.7% ตามลำดับ สอดคล้องกับที่ประเมินว่า Supply ของเรือเทกองในปี 61 จะเพิ่มขึ้นเพียง 1% ขณะที่ Demand เติบโตในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจโลก ประมาณ 3% พร้อมประเด็นด้านกฏเกณฑ์ คาดเป็นปัจจัยเร่งให้ Supply ส่วนเกินออกจากอุตสาหกรรมใน 2-3 ปีข้างหน้า คาดปี 61 พลิกมีกำไรปกติราว 291 ล้านบาท และคาดโดดเด่นในปี 62

- SEAFCO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 10.10 บาท มีมุมมองบวกกับผลประกอบการที่โตสดใสจากการรับรู้ Backlog ณ สิ้นปีก่อนที่ 2.55 พันล้านบาท (ยังไม่รวมโครงการ One Bangkok ที่พึ่งประมูลได้ล่าสุดราว 1.2 พันล้านบาท) โดยเป็นสัดส่วนของงานที่รับเฉพาะค่าจ้างซึ่งมาร์จิ้นราว 87% ของรายได้รวม แม้แนวโน้มกำไร Q1/61 จะยังไม่โดดเด่นจากการส่งมอบพื้นที่ล่าช้าของรถไฟฟ้าสีส้ม แต่ทิศทางของรายได้และกำไรจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ Q2/61 เป็นต้นไป จากการเริ่มงานก่อสร้างหลายโครงการใหญ่พร้อมกัน ทั้งรถไฟฟ้าสีส้ม, สีชมพู และ One Bangkok โดยยังคงคาดกำไรปกติปีนี้ +88% Y-Y เป็น 291 ลบ.

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2803758

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
นี่ไง.............คำตอบที่ว่าทำไมแก๊ง "ประชาธิปไตยแบ่งกันกิน" จึงตั้วซี้-ตัวสั่น อยากเลือกตั้ง?
THAIPOST.NET
 

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 27 มีนาคม 2561 08:02:27 น.
ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 มี.ค. 2561

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) หลังจากมีรายงานว่า จีนได้ประกาศความพร้อมที่จะเปิดการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า โดยข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า



ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,202.60 จุด พุ่งขึ้น 669.40 จุด หรือ +2.84% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,658.55 จุด เพิ่มขึ้น 70.29 จุด หรือ +2.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,220.54 จุด เพิ่มขึ้น 227.87 จุด หรือ +3.26%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรได้ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทข้ามชาติ และได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า จีนได้ประกาศความพร้อมที่จะเปิดการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.7% ปิดที่ 363.19 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2560

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,787.26 จุด ลดลง 99.05 จุด หรือ -0.83% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,888.69 จุด ลดลง 33.25 จุด หรือ -0.48% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,066.28 จุด ลดลง 28.94 จุด หรือ -0.57%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ หลังจากสหรัฐ และ 14 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ประกาศขับนักการทูตรัสเซียออกนอกประเทศ โดยระบุว่ารัฐบาลรัสเซียอยู่เบื้องหลังการใช้สารพิษลอบสังหารอดีตสายลับของรัสเซีย นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินปอนด์ยังส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทข้ามชาติ

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,888.69 จุด ลดลง 33.25 จุด หรือ -0.48%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นราว 5.7% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 65.55 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 33 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 70.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ความตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและรัสเซีย อันเนื่องมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศขับนักการทูตรัสเซียจำนวน 60 คนออกจากสหรัฐนั้น ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.10 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 1355.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 10.2 เซนต์ หรือ 0.62% ปิดที่ 16.684 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.00 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ 950.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 966.85 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มคลี่คลายลง ภายหลังจากทางการจีนได้ประกาศความพร้อมที่จะเปิดการเจรจากับสหรัฐเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9448 ฟรังก์ จากระดับ 0.9467 ฟรังก์ แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 105.25 เยน กระดับ 104.84 เยน

ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2456 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2367 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.4228 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4145 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7734 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7713 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 24,202.60 จุด เพิ่มขึ้น 669.40 จุด, +2.84%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,658.55 จุด เพิ่มขึ้น 70.29 จุด, +2.72%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 7,220.54 จุด เพิ่มขึ้น 227.87 จุด, +3.26%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,787.26 จุด ลดลง 99.05 จุด, -0.83%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,888.69 จุด ลดลง 33.25 จุด, -0.48%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,066.28 จุด ลดลง 28.94 จุด, -0.57%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 33,066.41 จุด เพิ่มขึ้น 469.87 จุด, +1.44%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,412.46 จุด ลดลง 8.93 จุด, -0.26%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,859.91 จุด ลดลง 5.31 จุด, -0.28%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,200.17 จุด ลดลง 10.53 จุด, -0.17%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 30,548.77 จุด เพิ่มขึ้น 239.48 จุด, +0.79%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,932.38 จุด ลดลง 38.42 จุด, -0.48%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,133.72 จุด ลดลง 19.04 จุด, -0.60%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,437.08 จุด เพิ่มขึ้น 20.32 จุด, +0.84%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,766.10 จุด เพิ่มขึ้น 148.24 จุด, +0.72%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,840.05 จุด เพิ่มขึ้น 16.72 จุด, +0.15%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,790.50 จุด ลดลง 30.20 จุด, -0.52%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,901.40 จุด ลดลง 27.60 จุด, -0.47%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2803712

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ Daily Comment
ประจำช่วง Day Session
วันที่ 27 มีนาคม 2018

ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน หลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง 
ราคาทองคำปิดเพิ่มขึ้น +18.34 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +1.38% โดยปิดที่ 1,346.92 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,328.80 – 1,350.21 ดอลลาร์ เช้านี้ราคาทองเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,347 เหรียญ ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน หลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงหลังจากคลายความกังวลเรื่องสงครามการค้า แต่ยังมีประเด็นความตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียที่ช่วยหนุนสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกัน และคืนนี้ติดตามตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ว่าจะส่งผลต่อตลาดหุ้นและทองคำอย่างไร ส่วนภาพทางเทคนิคนั้นราคาทองเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,350 เหรียญได้ซึ่งถ้าหากวันนี้ราคาทองยังยืนเหนือ 1,350 เหรียญได้ก็สามารถลุ้นขึ้นต่อได้

แนะนำ : ผู้มีสถานะซื้อถือต่อ โดยขยับจุด lock profit มาที่ 1,343 เหรียญ ผู้ไม่มีสถานะฝั่งซื้อยังได้เปรียบ แต่ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรมากขึ้น

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่
http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy2703201894716452…
No automatic alt text available.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีนตอกกลับมะกัน:เรามีสิทธิ์ตามกฎหมายที่จะไม่รับขยะจากต่างประเทศ

วานนี้ (26 มี.ค.) ฮั่วชุนหยิง โฆษกกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวตอบคำถามนักข่าวในการสรุปย่อสำหรับสื่อมวลชนว่า การห้ามนำเข้า “ขยะจากต่างประเทศ” เป็นสิทธิตามกฎหมายของจีน พร้อมกล่าวว่าความกังวลของเจ้าหน้าที่รัฐสหรัฐฯ นั้น “ไม่สมเหตุสมผล และไม่มีข้อกฎหมายรองรับ”

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐของสหรัฐฯ ได้แสดงความกังวลต่อเรื่องการห้ามนำเข้าขยะจากต่างประเทศของจีนในที่ประชุมคณะมนตรีว่าด้วยการค้าสินค้า (CTG) ภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) พร้อมกล่าวว่าการจำกัดการนำเข้าขยะรีไซเคิลจากต่างประเทศของจีน จะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อห่วงโซ่อุปทานวัสดุเหลือใช้ในทั่วโลก และดูเหมือนว่าจีนกำลังละเมิดข้อผูกพันขององค์การการค้าโลก ด้วยการแบ่งแยกอุตสาหกรรมขยะในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนการบังคับใช้นโยบายข้อจำกัดทางการค้าที่เข้มงวดเกินไป พร้อมกล่าวว่าสหรัฐอเมริกาขอให้จีนหยุดการบังคับใช้นโยบายดังกล่าวทันที

เมื่อถูกนักข่าวถามถึงประเด็นนี้ ฮั่วชุนหยิงตอบว่า การห้ามนำเข้าขยะจากต่างประเทศของจีน รวมถึงการส่งเสริมการปฏิรูประบบบริหารจัดการนำเข้าขยะมูลฝอย เป็นการดำเนินงานตามนโยบายซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการพัฒนาประเทศของรัฐบาลจีน ที่มุ่งเน้นการปกป้องและปรับปรุงคุณภาพของสภาพแวดล้อมทางนิเวศวิทยาของประเทศ ตลอดจนปกป้องสุขภาพของประชาชน "นี่เป็นสิทธิภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศที่รัฐบาลจีนพึงมี และได้รับการสนับสนุนจากชาวจีนจำนวนมาก"

ฮั่วกล่าวต่อว่า “เจ้าหน้าที่รัฐของสหรัฐอเมริกาท่านนี้ นำการดำเนินงานที่ถูกต้องตามกฎหมายของจีนมาพูดในเชิงระเบียบข้อบังคับในทำนองว่า จีน‘ดูเหมือน’กำลังละเมิดข้อผูกพันขององค์การการค้าโลก ซึ่งเป็นการกระทำที่เสแสร้งอย่างมาก พร้อมย้อนถามว่า “หรือว่าการที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกผลิตภัณฑ์ไฮเทคที่มีมูลค่าสูงของจีนนั้นเป็นเรื่องถูกต้อง แต่การจำกัดการนำเข้าขยะจากต่างประเทศของจีนนั้นเป็นเรื่องผิดกฎหมาย?”

ฮั่วชุนหยิงชี้ว่า อนุสัญญาบาเซล หรือ อนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนและการกำจัดซึ่งของเสียอันตราย มีการระบุอย่างชัดเจนว่า แต่ละประเทศมีสิทธิในการห้ามมิให้สิ่งแปลกปลอมจากต่างประเทศเข้ามาในอาณาเขตของตน อีกทั้งยังกำหนดว่า ทุกประเทศมีหน้าที่ในการลดปริมาณและกำจัดขยะอันตรายรวมถึงของเสียอื่นๆ

"เราหวังว่าสหรัฐอเมริกาจะยึดหลักการของอนุสัญญาบาเซล ในการลดปริมาณและการกำจัดขยะอันตรายและของเสียอื่นๆ ที่ผลิตภายในประเทศของตน และแบกรับความรับผิดชอบรวมถึงภาระผูกพันที่ตนมีต่อโลกให้มากขึ้น" เธอกล่าว

 

Image may contain: outdoor

Image may contain: outdoor

ชื่นใจจังงง

Image may contain: text

Image may contain: outdoor, nature and text

Chinna Xinhua news

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...