มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดทองคำปิดร่วง $7.2

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 1 ตุลาคม 2557 07:34:28 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร อันเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากเงินเฟ้อในยูโรโซนชะลอตัวลง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 7.2 ดอลลาร์ หรือ 0.59% ปิดที่ 1,211.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 51 เซนต์ ปิดที่ 17.057 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,300.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าอีซีบีอาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า เงินเฟ้อของยูโรโซนในเดือนก.ย.ลดลงแตะ 0.3% ในเดือนก.ย. จากระดับ 0.4% ในเดือนส.ค.

สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างความเห็นของนักวิเคราะห์ว่า ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากหลายปัจจัย และหากพิจารณาเป็นรายสัปดาห์พบว่า สัญญาทองคำปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าสัญญาทองคำอาจจะปรับฐานลงในปีนี้

นักลงทุนจับตาดูเหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกงอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดมีรายงานว่าสำนักงานผู้แทนรัฐบาล (Office of Commissioner) ของกระทรวงการต่างประเทศจีนประจำฮ่องกง ได้ส่งจดหมายถึงสถานกงสุลต่างประเทศทุกแห่งในฮ่องกงว่า ขอให้นักการทูตให้หลีกเลี่ยงการชุมนุมประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่กำลังขยายวงกว้างไปยังหลายพื้นที่ของเกาะฮ่องกง

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดร่วง $3.41 จากคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 1 ตุลาคม 2557 07:09:00 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐอาจปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์พลังงานภายในประเทศ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 3.41 ดอลลาร์ ปิดที่ 91.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 2.53 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.67 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนรอดูรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐในวันพุธนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบอาจจะปรับตัวสูงขึ้น

นักวิเคราะห์กล่าวว่า สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากภาวะอุปสงค์-อุปทาน โดยขณะนี้ทั่วโลกมีอุปทานน้ำมันมากพอ แต่อุปสงค์กลับซบเซา ท่ามกลางการขยายตัวทางเศรษฐกิจในจีนและยุโรปที่ชะลอตัว ขณะที่คาดว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐและชาติพันธมิตรต่อกลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรียนั้น ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตะวันออกลาง

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ของสหรัฐซึ่งปรับตัวลดลงแตะที่ 86.0 จากระดับ 93.4 ของเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี และเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน

ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก ลดลงแตะ 60.5 ในเดือนก.ย. จากระดับ 64.3 ในเดือนส.ค. และดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองในเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้น 6.7% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งชะลอตัวจากอัตรา 8.1% ในเดือนมิ.ย. และเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2555 หรือในรอบ 20 ปี

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซึม-แต่บ่ายอาจคึกคักจากมาตรการกระตุ้นศก.ในปท.หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 1 ตุลาคม 2557 09:11:04 น.

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ลงทุน บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัวออกทางซึม ๆ อาจจะคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ที่แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อยในทางซึม

อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเรายังมีแรงหนุนจากในช่วงบ่ายนี้ในเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งอาจจะทำให้ตลาดฯในช่วงบ่ายคึกคักขึ้นมาได้ และในวันพรุ่งนี้(2 ต.ค.)ก็จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)ด้วย

สำหรับเหตุการณ์การประท้วงในฮ่องกงคงจะต้องติดตามดูต่อไป แต่มองว่าตลาดฯขึ้นตอบรับเรื่องนี้กันไปแล้ว พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,575-1,592 จุด

อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

ปธ.เฟดดัลลัส-ชิคาโกเห็นต่างประเด็นช่วงเวลาในการปรับขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 30 กันยายน 2557 11:14:00 น.

ขณะที่ตลาดการเงินทั่วโลกมีกระแสคาดการณ์กันในวงกว้างว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวอย่างค่อนข้างน่าพอใจนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดต่างออกมาแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไปต่อประเด็นดังกล่าว

นายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เขาต้องการให้เฟดเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า แทนที่จะชะลอออกไปตามที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายสนับสนุน

• ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT: เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดสัญญาธัญพืชปิดร่วง
  

• ปฏิทินข่าวธุรกิจประจำวันนี้(1 ตุลาคม 2557)
  
• ราคาน้ำมันในเขตกทม.(Retail Oil Prices) ณ.วันที่ 1 ต.ค. 2557
  
• ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดทองคำปิดร่วง $7.2
  
• --ปตท.ประกาศราคาก๊าซ NGV วันนี้ (1 ต.ค.57) เท่ากับ 11.50 บาท/กิโลกรัม
  
• ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดร่วง $3.41 จากคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น
  
• กบง.ไฟเขียวขึ้น‘ค่าก๊าซ’ LPGขยับ62สต.-NGV1บ.
  
• รัฐบาลสั่งธ.ก.ส.ผุดมาตรการลดต้นทุนหลังเลิกจำนำ-คลังถกหาช่องล้างหนี้เก่า เท4หมื่นล.อุ้มข้าว-ยาง
  
• ดัชนีการผลิตอุตฯลดลง2.7% ยานยนต์-สิ่งทอวูบเหตุกำลังซื้อหด
  

นายฟิชเชอร์กล่าวว่า ช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งแรกนั้นควรจะขึ้นอยู่กับการปรับตัวของเศรษฐกิจ โดยกล่าวเสริมว่าช่วงฤดูใบไม้ผลิอาจเป็นเวลาที่เหมาะสมในการปรับขึ้นดอกเบี้ย มากกว่าช่วงฤดูร้อน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่เชื่อว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2558 ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายรายได้หนุนมุมมองของตลาดที่ว่าเฟดจะไม่ดำเนินการใดๆเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะกลางปีหน้า

ทางด้านนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก ได้แสดงความรู้สึกกังวลหากเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนช่วงไตรมาสแรกของปี 2559

นายอีแวนส์กล่าวว่า เขาต้องการให้ชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไปจนกว่าจะมีความมมั่นใจมากขึ้นว่าเศรษฐกิจของสหรัฐมีพลวัตเพียงที่จะปรับตัวสู่เป้าหมายด้านนโยบาย

ประธานเฟดชิคาโกกล่าวเตือนว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปจะถือเป็นความผิดพลาดที่รุนแรงสำหรับเฟดในขณะนี้ และเมื่อเฟดเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ย นายอีแวนส์มองว่าควรเป็นการปรับขึ้นเล็กน้อยเพื่อมั่นใจได้ว่าเศรษฐกิจจะมีการฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

[ginger 11,058]

เกาะติดหุ้นโลก 1-10-57 Morning News : เกาะติดหุ้นรอบโลก "NOW26" 1-10-57 เคทีซีตั้งเป้ายอดใช้บัตรในตจว.เพิ่ม15% "บัตรกรุงไทย" ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตรในต่างจังหวัดปีหน้า โต 15% สรุปภาพรวมตลาดหุ้น 30-9-57 สรุปภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้น ช่วงตรงประเด็นข่าวค่ำ "NOW26" 30-9-57 แนวโน้มราคาทอง 'IMPACT REIT'เริ่มซื้อขายพรุ่งนี้ กลุ่มเลี่ยวไพรัตน์ตกลงยุติทุกคดีกับIRPC พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติขาย425ลบ.

ดูข่าว ทั้งหมด

 

 

ข่าวยอดนิยม

• อินเดียสั่งข้าราชการช่วยทำความสะอาด
  
• 8 ตุลาชวนจับตาจันทรุปราคาเต็มดวง
  
• 'วิเวียน ซู'ฉลองสมรสที่ไต้หวัน
  
• ดวงพยากรณ์วันพุธที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2557
  
• เกาะติดหุ้นโลก 1-10-57
  

ฮ่องกงเดือด! สีจิ้นผิงจะทำอย่างไร?

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

วันนี้วันที่ 1 ตุลาคม เป็นวันชาติจีน ที่ปักกิ่งมีการเฉลิมฉลองกันคึกคัก แต่ที่ฮ่องกงบรรยากาศตึงเครียด

 

ผู้ประท้วงยืดหยัดต่อต้านต่อเนื่อง เพื่อเรียกร้องปักกิ่งยอมให้เลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดอย่างเสรี ปักกิ่งยืนยันว่าฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีน เป็นเรื่องภายใน ใครอย่ามายุ่ง

ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ “สนับสนุนให้คนฮ่องกงเรียกร้องสิทธิการเลือกตั้งอย่างทั่วถึงเท่าเทียม (universal suffrage)”

ปักกิ่งบอกว่าการประท้วงของคนฮ่องกงผิดกฎหมาย และเชื่อว่ารัฐบาลฮ่องกงสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้

มีคนถามผมว่าประธานาธิบดีสีจิ้นผิงจะทำอย่างไร?

มีข่าวลือว่าจีนจะส่งทหารข้ามเกาะมาปราบนักศึกษาที่กำลังปักหลักประท้วง อีกบางคนบอกว่าฮ่องกงอาจกำลังเจอกับ “เทียนอันเหมินครั้งใหม่”

ผมเชื่อว่าผู้นำจีนกำลังอึดอัดอย่างยิ่ง และกำลังหาทางเจรจาให้ผู้ประท้วงยุติ ด้วยการขู่ว่าจะดำเนินตามกฎหมาย แต่ผมไม่เชื่อว่าจะถึงขั้นสั่งปราบด้วยอาวุธ เพราะจีนวันนี้ไม่ใช่จีนเมื่อปี 1989 ที่ท่านผู้นำ เติ้ง เสี่ยวผิง สามารถสั่งรถถังออกปราบนักศึกษาที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน โดยไม่ต้องสนใจประชาคมโลกว่าคิดอย่างไร

วันนี้จีนต้องการเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับจากเวทีสากลในหลาย ๆ ด้าน

แน่นอนที่ปักกิ่งจะไม่ยอมให้ถูกมองว่ายอมอ่อนข้อต่อเสียงเรียกร้อง “ประชาธิปไตย” เป็นอันขาด เพราะหากถอยอย่างนั้นจะเป็นการส่งสัญญาณให้จังหวัดอื่น ๆ บนจีนแผ่นดินใหญ่มีความฮึกเหิม พร้อมจะออกมาเรียกร้องทางการเมืองในทำนองเดียวกัน

สิ่งที่ผู้นำจีนกลัวที่สุดคือ การก่อหวอดของกลุ่มคน ที่เรียกร้องสิทธิทางการเมืองลักษณะเดียวกันนี้ เพราะที่ ซินเจียงทิเบต ก็มีแนวโน้มเช่นเดียวกันมาก่อนหน้านี้

ฮ่องกงต่างกับดินแดนบางแห่งที่เรียกร้อง “สิทธิการปกครองตนเอง” ตรงที่เกาะแห่งนี้มีความสำคัญทางด้านธุรกิจการเงินและการลงทุนอย่างยิ่ง ปักกิ่งถือเป็น “หน้าต่าง” แห่งความสำเร็จของตนเอง และได้พยายามไม่เข้าไปแตะบรรยากาศการลงทุนมาตลอด

แต่การเมืองสำหรับจีนแล้วเป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้ จึงกลายเป็นการเผชิญหน้าที่สร้างความตึงเครียดให้กับปักกิ่งอย่างยิ่ง

ภาพลักษณ์ของนักเรียนมัธยมวัย 17 อย่าง Joshua Wang (黃之鋒 หวางจือเฟิง) เป็นผู้นำคนรุ่นใหม่ที่เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างเข้มข้น มายืนตระหง่านท้าทาย สีจิ้นผิง ซึ่งปกครองประเทศประชากร 1 พัน 3 ร้อยล้านคนด้วยแล้ว เป็นการท้าทายที่หนักหน่วงยิ่งนัก

เรื่องของ “หน้าตาและศักดิ์ศรี” สำหรับผู้นำจีนปักกิ่งกับเกาะฮ่องกงประชากร 7 ล้านคนจึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่จะนำไปสู่การเผชิญหน้าที่ไม่อาจจะพยากรณ์ผลสุดท้ายได้

ผู้ประท้วงฮ่องกงยืนยันว่า ปักกิ่งประกาศนโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ตั้งแต่อังกฤษส่งเกาะคืนให้จีนในปี ค.ศ.1997 ซึ่งแปลว่าฮ่องกงจะสามารถรักษาระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย โดยไม่ถูกจีนแทรกแซง

และในรัฐธรรมนูญของฮ่องกงที่เรียกว่า Basic Law นั้นก็ระบุว่า “เป้าหมายสุดท้าย” (ultimate goal) คือการให้เลือกตั้งผู้บริหารสูงสุด “ด้วยสิทธิการเลือกตั้งที่ทั่วถึงและเท่าเทียม” (universal suffrage)

รัฐบาลจีนเคยรับปากว่าจะให้มีการ “เลือกตั้งโดยตรง” เพื่อเลือกผู้บริหารสูงสุดภายในปี ค.ศ.2017 หรืออีกสามปีจากนี้ไป

แต่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการกฎหมายสูงสุดของจีนประกาศว่า ปักกิ่งจะตั้งคณะกรรมการในฮ่องกงชุดหนึ่ง เพื่อกลั่นกรองรายชื่อผู้สมัครให้เหลือ “สองถึงสามคน” เพื่อให้คนฮ่องกงหย่อนบัตรเลือกตั้ง

เงื่อนไขของปักกิ่งคือ ใครจะสมัครรับเลือกตั้ง ต้องได้รับความเห็นชอบจากมากกว่า 50% ของคณะกรรมการกลั่นกรองชุดนี้

พอข่าวออกมาเช่นนั้น คนฮ่องกงก็ฮือขึ้นมาทันที เพราะเชื่อว่าปักกิ่งกำลังจะ “ล็อกสเปค” คนที่ตัวเองต้องการให้ได้รับเลือกตั้งเท่านั้น

ผู้ว่าฯฮ่องกงคนปัจจุบัน C.Y. Leung (梁振英 เหลียงเจิ้นอิง) ได้รับการเลือกจาก “คณะกรรมการเลือกตั้ง” ที่มีสมาชิกเพียง 1,200 คน ที่กลั่นกรองโดยคนใกล้ชิดกับปักกิ่ง จึงถูกมองว่าเป็น “หุ่นเชิด” ของรัฐบาลกลาง ไม่ได้เป็นตัวแทนของผลประโยชน์คนฮ่องกงแต่ประการใด

จึงได้เกิดขบวนการ Occupy Central นำโดยนักวิชาการชื่อ Benny Tai ซึ่งจัดให้มีการ “ลงประชามติอย่างไม่เป็นทางการ”ระหว่างวันที่ 20-29 มิถุนายนว่าด้วยการ “ปฏิรูปการเมือง” และเสียงสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งอย่างเสรีถึง 792,808 คนซึ่งนำไปสู่การออกมาเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย

จนนำไปสู่การก่อตัวของ “นักเรียนนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตย” หรือ Scholarism ที่นำโดยนักเรียนมัธยม Joshua Wang วัย 17 คนนี้แหละ

หนึ่งประเทศ สองระบบ กำลังจะกลายเป็น “สามทางเลือก”: คอมมิวนิสต์, ประชาธิปไตย, หรือประชาธิปไตยแบบคอมมิวนิสต์?

Tags : สีจิ้นผิง • ฮ่องกงประท้วง • เลือกตั้งผู้บริหารอย่างเสรี • จัตุรัสเทียนอันเหมิน • รัฐธรรมนูญฮ่องกง • Occupy Central

[ginger 11,058]

[wann 334]

 

Ausiris Trading Ideas Gold Futures วันที่ 1 ต.ค 57

Gold Spot ($/Oz)

กรอบ 1194 - 1225

แนวต้าน 1213 1218 1225

แนวรับ 1204 1200 1194

Gold Futures

กรอบ 18300 - 18900

แนวต้าน 18750 18850 18900

แนวรับ 18600 18500 18300

Strategy

- ถือ Short ราคาย่อลงหาจังหวะปลดต่อ / หากรีบาวด์ขึ้นไม่ผ่าน 1218 เพิ่มพอร์ตได้

- มือเปล่าเสี่ยงซื้อ 1207 / เป้า 1218 ขึ้นไป Cut loss 1204

[ginger 11,058]

 

[ginger 11,058]

ดีจ้า wannnn ...โชคดีน้าาาา

 

สวัสดีเดือนตุลาคม โขคดีนะคะเพื่อนๆทุกคน

 

 

 

 

[ginger 11,058]

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2557 07:37:42 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 ต.ค.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวการพบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลารายแรกในสหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและยูโรโซนยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,804.71 จุด ดิ่งลง 238.19 จุด หรือ -1.40% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,422.09 จุด ลดลง 71.30 จุด หรือ -1.59% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,946.16 จุด ลดลง 26.13 จุด หรือ -1.32%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) หลังจากอิตาลีได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่ากิจกรรมด้านการผลิตของสหรัฐชะลอตัวลง

ดัชนี Stoxx 600 Europe ปรับตัวลง 0.8% ปิดที่ 340.22 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,382.03 จุด ลดลง 92.27 จุด หรือ -0.97% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,365.27 จุด ลดลง 50.97 จุด หรือ -1.15% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,557.52 จุด ลดลง 65.20 จุด หรือ -0.98%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่ชะลอลงทั้งในอังกฤษและยูโรโซน

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 65.20 จุด หรือ 0.98% ปิดที่ 6,557.52 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยตลาดหุ้นอ่อนแรงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคการผลิตสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1,215.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 20.2 เซนต์ ปิดที่ 17.259 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 10.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,289.6 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 9.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 784.55 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) หลังจากซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาขายน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงในสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 43 เซนต์ ปิดที่ 90.73 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 51 เซนต์ ปิดที่ 94.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการปรับตัวในทิศทางที่แตกต่างกัน และจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้

ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2609 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2631 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6177 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6203 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 109.19 เยน เทียบกับระดับ 109.70 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9571 ฟรังค์ จาก 0.9548 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8726 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8746 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,804.71 จุด ลดลง 238.19 จุด -1.40%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,422.09 จุด ลดลง 71.30 จุด -1.59%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,946.16 จุด ลดลง 26.13 จุด -1.32%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,557.52 จุด ลดลง 65.20 จุด -0.98%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,382.03 จุด ลดลง 92.27 จุด -0.97%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,365.27 จุด ลดลง 50.97 จุด -1.15%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,990.26 จุด เพิ่มขึ้น 23.34 จุด +0.26%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,082.25 จุด ลดลง 91.27 จุด -0.56%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,991.54 จุด ลดลง 28.55 จุด -1.41%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,334.50 จุด เพิ่มขึ้น 37.70 จุด +0.71%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,334.10 จุด เพิ่มขึ้น 41.30 จุด +0.78%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,268.06 จุด ลดลง 15.01 จุด -0.21%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,140.91 จุด เพิ่มขึ้น 3.33 จุด +0.06%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,845.32 จุด ลดลง 0.99 จุด -0.05%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,264.09 จุด ลดลง 12.65 จุด -0.39%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,567.99 จุด ลดลง 62.52 จุด -0.23%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 238.19 จุด จากข่าวพบผู้ป่วยอีโบลาในสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2557 06:39:44 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวการพบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลารายแรกในสหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและยูโรโซนยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,804.71 จุด ดิ่งลง 238.19 จุด หรือ -1.40% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,422.09 จุด ลดลง 71.30 จุด หรือ -1.59% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,946.16 จุด ลดลง 26.13 จุด หรือ -1.32%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า ผลทดสอบอีโบลาของผู้ป่วยรายหนึ่งในเท็กซัสออกมาเป็นบวก ส่งผลให้ผู้ป่วยคนดังกล่าวกลายเป็นผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกในสหรัฐ โดยผู้ป่วยรายนี้ได้เดินทางจากประเทศไลบีเรียมาเยี่ยมครอบครัวที่เท็กซัสในช่วงต้นเดือน ซึ่งในตอนแรกผู้ป่วยไม่มีอาการใดๆเมื่อออกจากแอฟริกาตะวันตก แต่เริ่มแสดงอาการของโรคในอีก 4 วันถัดมา หลังจากเดินทางถึงสหรัฐเมื่อวันที่ 20 ก.ย.

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุมสายการบินร่วงลง รวมถึงหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส ที่ร่วงลง 3.5% และหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส ดิ่งลง 3.6% ขณะที่หุ้นกลุ่มผู้ผลิตยาทดลองรักษาผู้ติดเชื้ออีโบลาปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงหุ้นซาเรพตา เธอราปิวติคส์ อิงค์ และหุ้นเทคไมรา ฟาร์มาซูติคอล ที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อมาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนก.ย.ปรับตัวลงแตะ 50.3 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 14 เดือน จากระดับ 50.7 ในเดือนก.ค. และลดลงเมื่อเทียบกับตัวเลขเบื้องต้นที่ 50.5

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงแตะ 57.5 ในเดือนก.ย. จากระดับ 57.9 ในเดือนส.ค. และค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างลดลง 0.8% จากปีก่อน แตะที่ 9.6096 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง 0.5%

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งได้ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานสหรัฐ โดย ADP เปิดเผยว่า ภาคเอกชนสหรัฐจ้างงานเพิ่ม 213,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 205,000 ตำแหน่ง

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ปรับขึ้นเล็กน้อย ขณะรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2557 07:18:04 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการปรับตัวในทิศทางที่แตกต่างกัน และจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้

ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2609 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2631 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6177 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6203 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 109.19 เยน เทียบกับระดับ 109.70 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9571 ฟรังค์ จาก 0.9548 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8726 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8746 ดอลลาร์

สหรัฐมีการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานในภาคเอกชนเมื่อคืนนี้ โดยบริษัทออโตเมติค ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐ รายงานว่า ภาคเอกชนสหรัฐจ้างงานเพิ่ม 213,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของตลาด อันเป็นผลมาจากการจ้างงานที่แข็งแกร่งในภาคการผลิต

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆกลับสร้างแรงกดดันต่อดอลลาร์อยู่บ้าง โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตในเดือนก.ย.ลดลงแตะ 56.6 จากระดับ 59.0 ในเดือนส.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 58.5

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐระบุว่า ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างในเดือนส.ค.ปรับตัวลง 0.8% จากปีก่อน แตะที่ 9.6096 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 0.5%

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างก็รอดูสำคัญที่จะมีการรายงานในวันพรุ่งนี้ ซึ่งก็คือ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ เพื่อประเมินภาพรวมเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศ

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

• ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 65.20 จุด หลังข้อมูลภาคการผลิตอ่อนแรง
  
• รายงานการซื้อขายหุ้นผ่าน NVDR ประจำวันที่ 1 ต.ค. 2557
  
• รายงานหุ้นถูกชอร์ตเซล ประจำวันที่ 1 ต.ค. 2557
  
• ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ หลังอิตาลีปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจ
  
• ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 238.19 จุด จากข่าวพบผู้ป่วยอีโบลาในสหรัฐ
  
• ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้นหลังข้อมูลการจ้างงาน,การผลิตน่าผิดหวัง
  
• ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลง จากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน,ศก.ยุโรปอ่อนแอ
  
• ดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีเทียบยูโรหลังศก.สหรัฐแข็งแกร่ง
  
• ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 29 จุด นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ
  
• อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ในกรุงเทพมหานคร (2545-ปัจจุบัน)
  
• ภาวะตลาดอนุพันธ์: รับปัจจัยหนุน ครม.ผ่านมาตรการกระตุ้นศก.ระยะสั้น-คาด GDP ปีหน้าโตดี
  

ข่าวหุ้น-การเงินล่าสุด »

 

สวัสดียามเช้าจ้า

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $3.9 เหตุตลาดหุ้นร่วงหนุนนักลงทุนซื้อทอง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2557 07:34:53 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยตลาดหุ้นอ่อนแรงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคการผลิตสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1,215.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 20.2 เซนต์ ปิดที่ 17.259 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 10.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,289.6 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 9.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 784.55 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 230 จุดเนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงแตะ 57.5 ในเดือนก.ย. จากระดับ 57.9 ในเดือนส.ค. และตัวเลขการค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐลดลง 0.8% จากปีก่อน แตะที่ 9.6096 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง 0.5%

นักวิเคราะห์กล่าวว่า เมื่อพิจารณาทางเทคนิคแล้ว ตลาดทองคำอยู่ในภาวะที่มีแรงซื้อมากเกินไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากการที่กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนทองคำรายใหญ่สุดของโลก ได้ลดการถือครองทองคำลง 2.39 ตัน สู่ระดับ 769.86 ตันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2551

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 43 เซนต์ หลังซาอุดิอาระเบียลดราคาน้ำมัน

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2557 07:12:19 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) หลังจากซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาขายน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงในสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 43 เซนต์ ปิดที่ 90.73 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 51 เซนต์ ปิดที่ 94.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังจากมีรายงานว่าบริษัทซาอุดิอาราเบียน ออยล์ โค ได้ปรับลดราคาขายน้ำมันดิบสำหรับลูกค้าในเอเชีย โดยได้ปรับลดราคาลงราว 20 เซนต์ ถึง 1.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่ซาอุดิอาระเบียปรับลดราคาขายน้ำมันดิบเป็นเพราะต้องการชิงส่วนแบ่งตลาด และถือเป็นการส่งสัญญาณว่าซาอุดิอาระเบียจะไม่ปรับลดการผลิตน้ำมันดิบในอนาคต ซึ่งข่าวดังกล่าวได้สร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์ก

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 ก.ย. ร่วงลง 1.4 ล้านบาร์เรล แตะ 356.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค. และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 900,000 บาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล แตะ 208.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 125.7 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยADP เปิดเผยว่า ภาคเอกชนสหรัฐจ้างงานเพิ่ม 213,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 205,000 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

[ginger 11,058]

เกาะติดหุ้นโลก 2-10-57 Morning News : เกาะติดหุ้นรอบโลก "NOW26" 2-10-57 ก.ล.ต.ตั้งรองเลขาธิการคนใหม่ คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติแต่งตั้ง "ทิพยสุดา ถาวรามร" เป็นรองเลขาธิการ มีผล 1 ตุลาคม 2557 เป็นต้นไป สรุปภาพรวมตลาดหุ้น 1-10-57 สรุปภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้น ช่วงตรงประเด็นข่าวค่ำ "NOW26" 1-10-57 แนวโน้มราคาทอง พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติซื้อ1.6พันลบ. เงินบาทปิดที่32.45บาทอ่อนค่า หุ้นไทยปิดบวก1.68จุด

ดูข่าว ทั้งหมด

 

 

ข่าวยอดนิยม

• เกาะติดหุ้นโลก 2-10-57
  
• ดวงพยากรณ์วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2557
  
• เผยภาพวันวิวาห์'คลูนีย์-อลามุดดิน'
  
• เกิร์ลส เจเนอเรชั่นขับ'เจสซิกา'ออกจากวง
  
• 'สมยศ'จัดทัพใหม่ดัน"เรืองศักดิ์"คุมปราบปราม
  

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

 

[ginger 11,058]

 

 

[ginger 11,058]

สรุปภาวะซื้อขายหุ้นไทยภาคเช้า 2-10-57 สรุปภาวะซื้อขายตลาดหุ้นไทยภาคเช้า 2-10-57 หุ้นตัวไหนร้อน ติดตามได้ใน Money Wise "NOW26" สรท.ชี้ศก.โลกเสี่ยง ฉุดส่งออกลบ0.25% "วัลลภ" รองประธาน สรท. เผยเศรษฐกิจโลกเสี่ยง ฉุดส่งออกลบ0.25% หุ้นเช้าปิดร่วง15.32จุด ตลาดหุ้นภาคเช้าปิดร่วง 15.32 จุด อยุ่ที่ 1,572.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 28,056.71 ล้านบาท กองรีทอิมแพ็คเทรดวันแรกราคาต่ำจอง กนง.ห่วง'ส่งออก'ทรุดยาว ประท้วงฮ่องกงกระทบศก.ระยะสั้น คาดส่งออกปีหน้าขยายตัวไม่เกิน5%

ดูข่าว ทั้งหมด

 

 

ข่าวยอดนิยม

• ให้อำนาจธปท.คุมสถาบันการเงินของรัฐ
  
• 'สมยศ'จัดทัพใหม่ดัน"เรืองศักดิ์"คุมปราบปราม
  
• พาณิชย์ประเมินเงินเฟ้อทั้งปี2.14%
  
• ผู้บริหารแห่ขาย'หุ้นร้อน'
  
• 'แพทย์ศิริราช'แถลงผลิตแอนติบอดี้เชื้อไวรัสอีโบลาสำเร็จ
  

'แพทย์ศิริราช'แถลงผลิตแอนติบอดี้เชื้อไวรัสอีโบลาครั้งแรกของไทยและของโลก ย้ำทดลองมั่นใจ100%ยับยั่งอีโบลาได้

(เบื้องต้น) ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานแถลงข่าวร่วมกับ รศ.ดร.นพ.ภัทรชัย กีรติสิน หัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยา, ศ.เกียรติคุณ ดร.วันเพ็ญ ชัยคำภา ภาควิชาปรสิตวิทยา และ ศ.ดร.พญ.รวงผึ้ง สุทเธนทร์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยพร้อมทีมแพทย์และผู้เกี่­ยวข้อง แถลงข่าวสามารถผลิตแอนติบอดี้เชื้อไวรัสอีโบลาได้เป็นครั้งแรกของไทยและครั้งแรกของโลก

ศ.คลินิก นพ.อุดมเผย สามารถยับยั่งอีโบลาได้ แต่ต้องใช้ปริมาณมาก ซึ่งยับยั่งอีโบลาขั้นตอน คือทดสอบในลิง หากมีความจำเป็นเร่งด่วนก็สามารถนำมาใช้กับมนุษย์ได้เหมือนอเมริกาใช้ขณะนี้เป็นความสำเร็จห้องทดลองมั่นใจ100% จากผลทดสอบในทางทฤษฎี ว่าสามารถยับยั่งอีโบลาได้ต่อจากนี้ไปจะนำเข้าสู่ WHO เพราะวันนี้สื่อ ตปท.มาจำนวนมาก และเรียกร้องภาครัฐให้การสนับสนุน งบประมาณในการผลิดตัวยา เพราะใช้งบประมาณค่อนข้างสูง

ขณะที่พญ.วันเพ็ญ เผยแอนติบอดี้รักษาอีโบลาเป็นยาชีวะวัตถุ ไม่มีผลข้างเคียงปัจจุบันใช้ยาชีวะวัตถุรักษาหลายโรค เช่น มะเร็ง ซึ่งได้ผลดี

Tags : นพ.อุดม คชินทร • แพทย์ศิริราช • อีโบลา • แอนติบอดี้ • ครั้งแรกของโลก

[ginger 11,058]

(เพิ่มเติม1) ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดร่วง 420.26 จุด เหตุวิตกแนวโน้มศก.โลก

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2557 14:11:53 น.

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 15,700 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลก และข่าวการพบผู้ติดเชื้ออีโบลารายแรกในสหรัฐ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิทรุดตัวลง 420.26 จุด หรือ 2.61% ปิดที่ 15,661.99 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.

ตลาดหุ้นโตเกียวถูกกระหน่ำขายเป็นวงกว้างตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กและยุโรปร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากข้อมูลด้านการผลิตที่อ่อนแอของทั้งสองภูมิภาค

หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงหนักสุด หลังจากหุ้นกลุ่มสายการบินในตลาดหุ้นนิวยอร์กถูกทุบขาย อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลว่าการพบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาในสหรัฐอาจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจการเดินทาง โดยหุ้นเจแปน แอร์ไลน์ส ร่วงลง 4.6% และหุ้นเอเอ็นเอ โฮลดิงส์ ดิ่งลง 4.8%

หุ้นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และสินค้าไฮเทคที่อยู่ในกลุ่มส่งออก ร่วงลงเนื่องจากสกุลเงินเยนชะลอการอ่อนค่า โดยหุ้นโตโยต้า มอเตอร์ ดิ่งลง 3.5% และหุ้นพานาโซนิก ร่วงลง 3.7%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

14:33 เตือน 20 จ.ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก-ดินโคลนถล่มช่วง 4–7 ต.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่า…

14:33 (เพิ่มเติม)กลยุทธ์การลงทุนรอบบ่ายวันที่ 2 ตุลาคม 2557 โบรกเกอร์ แนวรับ แนวต้าน กลยุทธ์ จากบทวิเคราะห์ KSMACQ 1,586 1,584 1,592 "แบ่งซื้อเก็งก…

14:32 ราคาประมูลและปริมาณยางที่ซื้อขาย ณ ตลาดกลางยางพารา ประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2557 ยางแผ่นดิบ (USS) ตลาดกลางยางพารา ราคายางซื้อขายที่ต

 

สรุปสถานการณ์เศรษฐกิจอุตสาหกรรมประจำเดือนสิงหาคม 2557

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม -- พฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2557 14:10:42 น.

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมหรือ MPI เดือนกรกฎาคม 2557 อยู่ที่ระดับ 165.2 ลดลงร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน การผลิตลดลงในหลายอุตสาหกรรมที่สำคัญ คือ ยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม น้ำตาล รถจักรยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ สำหรับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคม 2557 ขยายตัวร้อยละ 0.25 และเมื่อไม่รวมทองคำแท่งขยายตัวร้อยละ 2.5

การผลิตในภาคอุตสาหกรรมซึ่งวัดจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม1 หรือ MPI เดือนกรกฎาคม 2557 อยู่ที่ระดับ 165.2 ลดลงร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน การผลิตลดลงในหลายอุตสาหกรรมที่สำคัญ คือ ยานยนต์ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม น้ำตาล รถจักรยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ

สำหรับอัตราการใช้กำลังการผลิต เดือนกรกฎาคม 2557 อยู่ที่ร้อยละ 60.09 จากร้อยละ 60.58 ในเดือนมิถุนายน 2557 และร้อยละ 64.54 ในเดือนกรกฎาคม 2556

อุตสาหกรรมรายสาขาสำคัญ(กรกฎาคม 2557)

อุตสาหกรรมอาหาร การผลิต (ไม่รวมน้ำตาล) เดือนกรกฎาคม 2557 ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อยร้อยละ 0.4 กลุ่มสินค้าสำคัญที่อิงตลาดส่งออก ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง เช่น ปลาทูน่ากระป๋อง และกุ้งสดแช่เย็นแช่แข็ง มีปริมาณการผลิตชะลอตัวลงร้อยละ 5.8 และ 13.5 ตามลำดับ เนื่องจากปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบในกุ้งเป็นสำคัญ ส่วนสินค้าที่ผลิตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน คือ แป้งมันสำปะหลัง เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 จากคำสั่งซื้อจากประเทศจีนเป็นหลัก ส่วนกลุ่มสินค้าที่อิงตลาด ภายในประเทศ เช่น น้ำมันปาล์ม มีการผลิตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.5

อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มผลิตภัณฑ์กลุ่มสิ่งทอ ได้แก่ การผลิตเส้นใยสิ่งทอฯ และสิ่งทออื่น ๆ (ยางยืด) เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนลดลง ร้อยละ 9.1 และ 6.5 ตามลำดับ เนื่องจากประเทศในกลุ่มอาเซียนมีคำสั่งซื้อลดลง โดยเฉพาะเส้นใยสิ่งทอที่ลดลง ค่อนข้างมากจากอินโดนีเซีย ในขณะที่ผ้าผืน ผ้าขนหนูและเครื่องนอนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.3 และ 5.9 ซึ่งเป็นผลจากคำสั่งซื้อโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ผ้าผืนของตลาดภายในประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น

ผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องนุ่งห่ม การผลิตเสื้อผ้าถักเพิ่มขึ้น 4.5 ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นผลจากการส่งออกที่ปรับเพิ่มขึ้นในตลาดสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ในส่วนการผลิตเสื้อผ้าทอลดลงเล็กน้อย เนื่องจากมีการนำเข้าเสื้อผ้าแฟชั่นจากประเทศจีน เวียดนาม และอิตาลี เพิ่มขึ้น

อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนกรกฎาคม 2557 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน พบว่าดัชนีผลผลิตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.10 โดยเหล็กทรงแบน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 21.23 แต่เหล็กทรงยาวลดลง ร้อยละ 4.83 ในส่วนของดัชนีราคาเหล็กต่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงของราคาเหล็ก (FOB) โดยเฉลี่ยที่สำคัญในตลาด CIS ณ ท่าทะเลดำ (Black Sea) ในเดือนกรกฎาคม 2557 เทียบกับเดือนก่อน พบว่า ผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ เหล็กแผ่นรีดเย็น เหล็กแผ่นรีดร้อน เหล็กแท่งเล็ก Billet และเหล็กเส้น แต่ผลิตภัณฑ์เหล็กที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ลดลง ได้แก่ เหล็กแท่งแบน

อุตสาหกรรมรถยนต์ มีการผลิตจำนวน 151,339 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2556 ซึ่งมีการผลิต 201,481 คัน ร้อยละ 24.89 โดยเป็นการปรับลดลงของการผลิตรถยนต์นั่ง รถยนต์กระบะ 1 ตัน และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์และมีปริมาณการผลิตรถยนต์ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2557 ร้อยละ 5.34 โดยเป็นการลดลงของการผลิตรถยนต์นั่ง และรถยนต์กระบะ 1 ตัน สำหรับการส่งออก มีจำนวน 91,785 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2556 ซึ่งมีการส่งออก 84,269 คัน ร้อยละ 8.92 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นในประเทศแถบตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกากลางและอเมริกาใต้

อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ การผลิต เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.03 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอุตสาหกรรมไฟฟ้า ลดลงร้อยละ 4.75 โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปรับตัวลดลง คือ เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนคอนเดนซิ่งยูนิต เครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนแฟนคอยล์ยูนิต และคอมเพรสเซอร์ เนื่องจากมีการจำกัดการใช้สารทำความเย็น R22 ทำให้ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตเพื่อรองรับสารทำความเย็นใหม่ R 32 หรือ R 410a ทำให้การผลิตชะลอตัวลง ขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้าในกลุ่มอื่น ๆ เริ่มปรับตัวดีขึ้น ได้แก่ ตู้เย็น พัดลม กระติกน้ำร้อน และหม้อหุงข้าว เนื่องจากตลาดในประเทศเริ่มกลับมาฟื้นตัวตามความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น

สำหรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.40 สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ Monolithic IC Other IC HDD เนื่องจาก มีการนำไปใช้เป็นชิ้นส่วนในอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ เช่น Bluetooth หน้าจอ Touch Screen และกลุ่มผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคล (Consumer Electronics) ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่วน HDD ได้เริ่มย้ายคำสั่งซื้อกลับมาผลิตในประเทศไทยมากขึ้น หลังจากสถานการณ์ในประเทศดีขึ้น ทำให้การผลิตมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น

--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม--