ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

 

 

 

 

เงินบาทเปิด 32.38/40 อ่อนค่าหลังดอลล์แข็ง ตลาดจับตาผลประชุม ECB วันนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2558 09:29:50 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.38/40 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวันอังคารที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.34/35 บาท/ดอลลาร์ ล่าสุดขยับอ่อนค่ามาที่ 32.41/42 บาท/ดอลลาร์

 

"ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับทุกสกุลในตลาด ยูโรก็ Break เป็น Technical Low มาที่ Low เดิมของปีไป ก็เลยเกิดแรงซื้อดอลลาร์ และบาทก็ปรับตัวอ่อนค่าลง แต่ถ้าเทียบกับเพื่อนๆ ถือว่ายังแข็งค่าอยู่"นักบริหารเงิน กล่าว

 

 

 

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 32.35-32.45 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.80 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันอังคารที่อยู่ที่ระดับ 119.75 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1075 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันอังคารที่อยู่ที่ระดับ 1.1170 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.3540 บาท/ดอลลาร์

 

- "พาณิชย์"เดินหน้าแก้ไข พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า หวังมีผลบังคับใช้ได้ภายในรัฐบาลชุดนี้ แยกหน่วยงานตั้งสำนักงานแข่งขันฯ ดึงรสก.เข้ามาอยู่ภายใต้กฏหมาย พร้อมเพิ่มลดหย่อนโทษ จ่อแก้เกณฑ์อำนาจเหนือตลาด

 

- หุ้นไทยพีอีเรโชพุ่ง 21.86 เท่า สูงสุดในรอบ 6 ปี มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดขยับมาอยู่ที่ 14.8 ล้านล้านบาท "ก้องเกียรติ" มองเหตุพีอีทะลุเพราะเกิดจากราคาน้ำมันร่วง ฉุดผลประกอบการหุ้นใหญ่วูบ ชี้เป็นสัญญาณไม่ดี แนะนักลงทุนระมัดระวังการลงทุน

 

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ชะลอตัวลง ทั้งการซื้อและการขาย เนื่องจากครัวเรือนระมัดระวังการใช้จ่ายจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวค่อนข้างช้า ส่งผลให้ผู้ประกอบการชะลอการเปิดการขายโครงการใหม่ลดลง 239 หน่วย หรือลดลง 2.6%

 

- ธปท.เผยธุรกิจตัวแทนทางการเงินและประกันภัย ธุรกิจผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน ธุรกิจขายปลีก-ขายส่งจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ และอังกฤษดันเม็ดเงิน FDI ไหลเข้าไทยต่อเนื่องล่าสุดเกือบ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐในเดือนแรกปี 58 อีกทั้งเงินไหลเข้าจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมากกว่าการไหลออกของเงินทุนโดยรวม เหตุนำเข้าหดตัว รายได้ท่องเที่ยวดี และการส่งกลับกำไรและเงินปันผลบริษัทต่างชาติ ลดผลการฟื้นตัวช้าของภาวะเศรษฐกิจไทย

 

- นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมหารือแนวทางการร่างจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการปฏิรูปภาษี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในวันที่ 5 มี.ค. 58 โดยมีนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เป็นประธาน เพื่อหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือข้อสรุปอัตราภาษีก่อนำเสนอครม. พิจารณา คาดว่ากฎหมายจะประกาศได้ภายในปีนี้

 

- นักลงทุนจับตาดูการประชุมของ ECB ในวันพฤหัสบดีนี้อย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าที่ประชุมจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ได้ประกาศไปเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา

 

- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวลง 0.03% แตะที่ 6.1528 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

- เอชเอสบีซีเปิดเผยว่า ภาคบริการของจีนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องในเดือนก.พ. ถึงแม้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มาก

 

- ร่างรายงานการดำเนินงานของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีนจะแถลงในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ในวันนี้ ระบุว่า จีนได้กำหนดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2558 เอาไว้ที่ 7% ซึ่งลดลงจากเป้าหมายในปี 2557 ที่ 7.5% นอกจากนี้ เป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลกำหนดในปีนี้ ยังน้อยกว่าอัตราการขยายตัวปี 2557 ที่ 7.4% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวรายปีที่อ่อนแอที่สุดของจีนนับตั้งแต่ปี 2533

 

- ผลการสำรวจของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 212,000 รายในเดือนก.พ. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 220,000 ราย นอกจากนี้ ADP ยังได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนม.ค.ขึ้นสู่ระดับ 250,000 ราย จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 213,000 ราย

 

- สำนักงานจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.ของสหรัฐอยู่ที่ 56.9 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 56.7 ในเดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 56.5 โดยบ่งชี้ว่าภาคบริการยังคงมีการขยายตัวได้ดี

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น อันเนื่องมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 3.5 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ระดับ 1,200.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 30 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,130 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,205.51 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 3.25 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

 

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2107651

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 32.42/43 อ่อนค่าต่อจากช่วงเช้า รอดูรายละเอียดมาตรการของ ECB

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2558 17:41:00 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 32.42/43 บาท/ดอลาร์ จากตอนเช้าที่เปิดตลาด ที่ระดับ 32.38/40 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวระหว่าง 32.40-32.4250 บาท/ดอลลาร์

 

"ตลาดยังรอ ECB Meeting คืนนี้ แต่ยูโรออกนำไปแล้ว แต่ดอลลาร์ยังทรง ๆ ถ้าเทียบกับเมื่อตอนเช้า" นักบริหารเงิน กล่าว

 

 

 

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 32.35-32.45 บาท/ดอลลาร์

 

"ถ้าผ่าน 32.45 ไปได้ แนวต้านถัดไปคือ 32.50"นักบริหารเงิน กล่าว

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 119.80 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1040 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1075 ดอลลาร์/ยูโร

 

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,553.33 จุด ลดลง 9.51 จุด, -0.61% มูลค่าการซื้อขาย 67,024.41 ล้านบาท

 

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 993.93 ลบ.(SET+MAI)

- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ระบุกรณีที่กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาเรื่องอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่ ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะขูดรีดภาษีจากประชาชน เพราะการดำเนินการดังกล่าวจะมีมาตรการยกเว้น เช่น กรณีบ้านหลังแรกหรือบ้านที่ได้รับมรดกตกทอดมาก็อาจจะไม่ต้องเสียภาษี เป็นต้น ซึ่งต้องมองในทุกมิติ และขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป

 

- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการปรับลดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยเบื้องต้นคาดว่าที่ดินที่มีสิ่งปลูกสร้างจะเริ่มต้นที่อัตรา 0.1% ในส่วนของที่ดินที่อยู่อาศัย โดยเตรียมจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนที่ดินรกร้างว่างเปล่านั้นจะมีอัตราการจัดเก็บอัตราภาษีที่สูงขึ้น ซึ่งภาษีบ้านนั้นประชาชนทั่วไปจำเป็นต้องจ่าย แต่จะเป็นอัตราที่ไม่สูงเช่นเดียวกับการจ่ายภาษีรถยนต์ประจำปี

 

- นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เตรียมทบทวนตัวเลขคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปีนี้ช่วงเดือน เม.ย.58 เบื้องต้นคาดว่าจะปรับลดเหลือเติบโตราว 3-3.5% จากเดิมคาดไว้ 3.5-4% ขณะที่ตัวเลขการส่งออกคาดว่าจะลดลงเหลือขยายตัว 1-2% จากเดิม 3-4% และเงินเฟ้อลดลงเหลือ 0.5-1.3% จากเดิม 1-1.8% เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวอย่างโดดเด่น และการบริโภคยังไม่ได้เป็นแรงขับในการเคลื่อนเศรษฐกิจมากเท่าที่ควร อีกทั้งเม็ดเงินจากการลงทุนของภาครัฐลงไปสู่ระบบได้อย่างล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้

 

- นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งจะมีขึ้นเวลา 19.45 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ โดยนักวิเคาะห์คาดว่า ECB จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ได้ประกาศไปเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ คาดว่าจะประกาศเรื่องการเริ่มซื้อพันธบัตร ซึ่งมีเป้าหมายที่จะจัดการกับภาวะเงินฝืดและอัตราว่างงานในยูโรโซนที่อยู่ในระดับสูงถึง 11%

 

- นายซู เชาชือ รัฐมนตรีคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนจะไม่มีการเปิดตัวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ โดยนายซูได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวไม่กี่ชั่วโมงภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน ได้ประกาศปรับลดเป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนลงสู่ระดับราว 7% สำหรับปี 2558

 

- บรรดารัฐมนตรีคลังกลุ่ม G7 แสดงความพอใจกับความพยายามของยูเครนในการฟื้นฟูฐานะทางการคลัง ท่ามกลางความวิตกที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่อย่างลำบากของประเทศ แถลงการณ์ระบุว่า รัฐมนตรีคลังกลุ่ม G7 ขานรับต่อการที่รัฐบาลยูเครนได้ดำเนินการที่เร่งด่วนและจริงจังในการเสนอต่อรัฐสภาทั้งในส่วนของร่างงบประมาณที่มีการปรับทบทวนและมาตรการปฏิรูปทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกง ปรับตัวลง 40 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,120 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,204.43 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 4.33 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

 

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2108018

 

ผลสำรวจชี้บริษัทสหรัฐยังมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มทางธุรกิจในจีน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2558 17:38:00 น.

รายงานประจำปีของหอการค้าอเมริกาในกรุงเซี่ยงไฮ้ (AmCham Shanghai) ระบุว่า ราว 85% ของบริษัทเอกชนสหรัฐที่เข้าไปทำธุรกิจในประเทศจีน ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มระยะ 5 ปีของธุรกิจที่กำลังดำเนินอยู่ แม้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัวลงและต้นทุนปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม

 

รายงานระบุว่า บริษัทเอกชนของสหรัฐยังคงมีความเชื่อมั่นในโอกาสทางธุรกิจในจีน โดยนายเคนเน็ธ จาร์เรตต์ ประธาน AmCham Shanghai กล่าวว่า ภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบันของจีนถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับภาคธุรกิจสหรัฐ

 

ทั้งนี้ 91% ของบริษัทสหรัฐ 377 แห่งที่ได้รับการสำรวจความคิดเห็นครั้งนี้ ระบุถึงผลกระทบของต้นทุนการดำเนินงานที่สูงในประเทศจีน แต่มีเพียง 10% เท่านั้นที่ระบุว่าอาจจะย้ายฐานธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆในเอเชียหรือย้ายกลับไปยังสหรัฐ

 

นอกจากนี้ รายงานระบุว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐเผชิญกับความท้าทาย 3 ด้านในจีน คือต้นทุนที่สูงขึ้น ข้อจำกัดด้านบุคลากร และการแข่งขันภายในประเทศ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2108014

 

รัฐบาลจีนเมินใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ปีนี้ แต่เน้นการลงทุนแทน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2558 16:48:38 น.

นายซู เชาชือ รัฐมนตรีคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนจะไม่มีการเปิดตัวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ โดยนายซูได้กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวไม่กี่ชั่วโมงภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน ได้ประกาศปรับลดเป้าหมายการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนลงสู่ระดับราว 7% สำหรับปี 2558

 

อย่างไรก็ตาม นายซูได้เน้นถึงความสำคัญในการลงทุน ซึ่งเขาเชื่อว่าจะยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจจีน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2107976

 

เครือข่ายต้านทุจริตฯ จี้คลังสอบจัดเก็บภาษีนำเข้าพริอุสใน 15 วัน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2558 16:30:29 น.

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กรรมการและเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นของชาติ(ภตช.) และคณะได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เพื่อขอให้ตรวจสอบและเร่งรัดจัดเก็บภาษี กรณีนำเข้ารถยนต์โตโยต้า รุ่นพริอุส ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายและถูกต้องเป็นธรรม หลังจากกระทรวงการคลังได้แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปโครงสร้างภาษีขึ้น โดยตั้งเป้าหมายที่จะปฏิรูปโครงสร้างภาษี 2 ด้าน

 

 

 

สำหรับภาษี 2 ด้าน ประกอบด้วย 1.การขยายฐานภาษีและอุดช่องรั่วไหลของภาษี และ 2. ลดการทุจริตของเจ้าหน้าที่ที่จัดเก็บภาษี ซึ่งในการลดการทุจริตนั้นได้กำชับอธิบดีกรมศุลกากรให้ลดการเกิดทุจริตภายในกรมศุลกากรให้เหลือน้อยที่สุด เพราะเรื่องการอุดช่องรั่วไหลของภาษี และการลดการทุจริตนั้นมีมานานแล้ว แต่ไม่มีใครลงมือทำ เพราะขาดเอกสารหลักฐาน เป็นการสมยอมทั้งเจ้าหน้าที่และผู้เสียภาษี ทำให้การจัดเก็บภาษีของประเทศเกิดการรั่วไหล

 

ส่วนกรณีบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้นำชิ้นส่วนรถยนต์โตโยต้า รุ่น พริอุสเข้ามาตั้งแต่ปี 2553-2555 มากกว่า 245 ครั้ง จำนวนกว่า 20,000 คัน และมีการจดทะเบียน 10,000 คัน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังมูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งโตโยต้าได้ยื่นอุทธรณ์และชี้แจงข้อเท็จจริงแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค.56 และ 31 ก.ค.57 ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมศุลกากร

 

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ขอให้ รมว.คลัง เร่งรัดให้อธิบดีกรมศุลกากรเข้าไปตรวจสอบไลน์การผลิตรถยนต์ของโตโยต้า รุ่นพริอุสให้แน่ชัดว่าการนำเข้าดังกล่าวนั้นเป็นการนำเข้ารถทั้งคันหรือแยกชิ้นส่วนมาประกอบ โดยจะให้เวลา รมว.คลัง 15 วันในการดำเนินการดังกล่าว หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการนำเข้าทั้งคันรถก็จะต้องเสียภาษีอัตรา 187.75%

 

ทั้งนี้ การนำเข้าชิ้นส่วนของรถยนต์โตโยต้า รุ่นพริอุสในครั้งนี้ ทางโตโยต้าได้ดำเนินการภายใต้ข้อตกลงกับส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น(เจเทปา) ซึ่งในกรณีนี้หากนำเข้าชิ้นส่วนสำเร็จรูปที่สามารถนำชิ้นส่วนเข้ามาประกอบเป็นรถยนต์ได้ทั้งคันนั้น หากขออนุญาตจากกรมศุลกากรก่อนนำเข้าจะต้องเสียภาษีในอัตราเพียง 30% เท่านั้น ขณะที่โตโยต้านำเข้ารถยนต์โตโยต้า พริอุส โดยไม่ได้ขออนุญาต ทำให้ต้องถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 80% ซึ่งคิดเป็นวงเงินกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท

 

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายจำเริญ โพธิยอด ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบอากร กรมศุลกากร ตำแหน่งขณะนั้น โดยยืนยันว่ากรณีนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์โตโยต้า รุ่นพริอุส เข้าข่ายนำเข้าชิ้นส่วนสำเร็จรูป เพราะมีชิ้นส่วนสามารถประกอบเป็นรถยนต์ได้ทั้งคัน ในชิปเมนท์เดียวกัน ขาดเพียงพรมปูพื้น ล้อแมกซ์ ยาง และอุปกรณ์บางส่วนเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม หากการน้ำเข้ารถยนต์โตโยต้า รุ่นพริอุส เป็นชิ้นส่วน โตโยต้าจะต้องมีไลน์การผลิตรถยนต์รุ่นนี้ในประเทศไทย แต่จากข้อมูลจะพบว่าบริษัทโตโยต้าไม่ได้มีไลน์การผลิตดังกล่าวแต่อย่างใด และจากการสอบถามโชว์รูมจำหน่ายรถยนต์โตโยต้าแล้วกว่า 20 แห่ง แจ้งว่าหากมีการจองรุ่นนี้บางสีต้องรอนานไม่น้อยกว่า 3-4 เดือน ถึงจะได้รับรถ

 

อินโฟเควสท์ โดย รบฦ3/กษมาพร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2107973

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 05 มีนาคม 2558 โดย YLG

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2558 17:12:38 น.

กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--พีอาร์ดีดี

สภาวะตลาดวันที่ 05 มีนาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,199.80-1,205.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,450 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,550 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ15 อยู่ที่ 18,580 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 110 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,690 บาท

 

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.39 น.ของวันที่ 05/03/15)

แนวโน้มวันที่ 6 มีนาคม 2558

การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) กำหนดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจประจำปี 2558 เหลือเพียง 7% หลังจากอัตราการขยายตัวในปี 2557 เศรษฐกิจจีนจีนขยายตัวเพียง 7.4% ซึ่งต่ำกว่าจากเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ระดับ 7.5% ทั้งนี้ การปรับลดเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงสภาวะที่จีนกำลังเผชิญนั้นมีความซับซ้อนและท้าทายเพิ่มสูงขึ้น โดยนับตั้งแต่ปี 2521 จนถึงปี 2556 นั้น เป้าหมายการขยายตัวรายปีของเศรษฐกิจจีนโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ 10% ซึ่งทิศทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้แรงซื้อทองคำจากจีนมีโอกาสชะลอตัวลงตาม อย่างไรก็ตาม สภาประชาชนแห่งชาติจีนได้เปิดเผยงบประมาณด้านกลาโหมของจีนในปี 2558 เพิ่มขึ้นอีก 10% จาก ปี 2557 โดยมุ่งเน้นการพัฒนายุทโธปกรณ์ การวิจัย โดยที่ท่าที่แข็งกร้าวทางการทหารที่เพิ่มมากขึ้นของจีนกลับมาเป็นปัจจัยบวกกับกับสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทองคำและหักล้างแรงขายจากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามทิศทางราคาทองคำไม่สดใสนักเพราะการอ่อนค่าของเงินสกุลเงินยูโรช่วยหนุนดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินให้พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 11 ปีที่ 96.061 ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2003 ซึ่งดอลลาร์ได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากข้อมูลภาคบริการที่ขยายตัวมากเกินคาดของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนรอกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนกุมภาพันธ์ในวันศุกร์นี้ซึ่งคาดว่าจะออกมาเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วขึ้น สำหรับแนวโน้มระยะสั้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำอ่อนตัวลงแต่สามารถยืนเหนือแนวรับ 1,190-1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง เชื่อว่าจะเกิดแรงซื้อดันราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นไปสู่แนวต้านได้ แต่หากหลุดโซน 1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือไม่สามารถยืนได้ให้ระมัดระวังการปรับฐานลงต่อของราคาทองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,215-1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,190-1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,185-1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,185 (18,160บาท) 1,175 (18,000บาท) 1,165 (17,850บาท)

แนวต้าน 1,215 (18,620บาท) 1,225 (18,770บาท) 1,233 (18,900บาท)

GOLD FUTURES (GFJ15)

แนวรับ 1,185 (18,340บาท) 1,175 (18,180บาท) 1,165 (18,030บาท)

แนวต้าน 1,215 (18,800บาท) 1,225 (18,950บาท) 1,233 (19,080บาท)

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2107983

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1e022189c059e791c3984cb022c56c1a.jpg

;วันศุกร์ แจ่มใจ ร่าเริง โชคดี

คิดถึง ตังเม เด็กสยาม น้อย wann Goldleng deb meng เพื่อนๆพี่น้อง

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2558 07:38:36 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 5 มี.ค.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยัน

 

ว่า ECB จะเริ่มต้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวันจันทร์ที่ 9 มี.ค. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ รวมถึงจำนวนคน

 

ว่างงานรายสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,135.72 จุด เพิ่มขึ้น 38.82 จุด หรือ +0.21% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,982.81 จุด

 

เพิ่มขึ้น 15.67 จุด หรือ +0.32% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,101.04 จุด เพิ่มขึ้น 2.51 จุด หรือ +0.12%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่

 

ประกาศว่า ECB จะเริ่มต้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวันจันทร์ที่ 9 มี.ค. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโร

 

โซน

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.81% ปิดที่ 393.78 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,963.51 จุด เพิ่มขึ้น 46.16 จุด หรือ +0.94% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่

 

11,504.01 จุด พุ่งขึ้น 113.63 จุด หรือ +1.00% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,961.14 จุด เพิ่มขึ้น 41.90 จุด หรือ

 

+0.61%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันว่าการดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงินรวม 1.1 ล้านล้านยูโรจะเริ่มขึ้นในเดือนนี้

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 41.90 จุด หรือ 0.61% ปิดที่ 6,961.14 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นกว่า 10 ล้านบาร์เรล และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ที่ยังอยู่ในระดับสูงมาก

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 77 เซนต์ ปิดที่ 50.76 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 7 เซนต์ ปิดที่ 60.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโร ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอย่างใกล้ชิด

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ปิดที่ 1,196.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ทรงตัวที่ 16.158 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,180.10 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนคาดว่าข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะรายงานในวันนี้จะบ่งชี้ถึงการปรับตัวดีขึ้นของตลาดแรงงานสหรัฐ

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1027 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1074 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5238 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5261 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.16 เยน เทียบกับระดับ 119.71 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9747 ฟรังก์ จาก 0.9629 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7774 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7820 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,135.72 จุด เพิ่มขึ้น 38.82 จุด +0.21%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,982.81 จุด เพิ่มขึ้น 15.67 จุด +0.32%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,101.04 จุด เพิ่มขึ้น 2.51 จุด +0.12%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,961.14 จุด เพิ่มขึ้น 41.90 จุด +0.61%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,504.01 จุด เพิ่มขึ้น 113.63 จุด +1.00%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,963.51 จุด เพิ่มขึ้น 46.16 จุด +0.94%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,873.70 จุด เพิ่มขึ้น 2.20 จุด +0.04%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,904.20 จุด เพิ่มขึ้น 2.60 จุด +0.04%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,595.09 จุด ลดลง 26.64 จุด -0.28%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,751.84 จุด เพิ่มขึ้น 48.24 จุด +0.26%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,998.38 จุด เพิ่มขึ้น 0.09 จุด +0.00%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,248.48 จุด ลดลง 31.05 จุด -0.95%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,819.04 จุด ลดลง 28.79 จุด -0.37%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,193.04 จุด ลดลง 272.34 จุด -1.11%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,450.95 จุด เพิ่มขึ้น 2.89 จุด +0.05%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,806.09 จุด ลดลง 19.45 จุด -1.07%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,395.27 จุด ลดลง 20.26 จุด -0.59%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 29,448.95 จุด เพิ่มขึ้น 68.22 จุด +0.23%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2108096

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ปรับขึ้น รับคาดการณ์ตัวเลขจ้างงานสหรัฐสดใส

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2558 07:15:10 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนคาดว่าข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะรายงานในวันนี้จะบ่งชี้ถึงการปรับตัวดีขึ้นของตลาดแรงงานสหรัฐ

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1027 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1074 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5238 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5261 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.16 เยน เทียบกับระดับ 119.71 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9747 ฟรังก์ จาก 0.9629 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7774 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7820 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น เนื่องจากข้อมูลจ้างงานที่มีแนวโน้มสดใสได้กระตุ้นกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 240,000 ราย ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลง สู่ระดับ 5.6%

 

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 257,000 รายในเดือนม.ค. จากระดับ 329,000 รายในเดือนธ.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สู่ระดับ 5.7% จาก 5.6% ในเดือนธ.ค.

 

ตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค.ถือเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันที่การจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ราย

 

ส่วนสกุลเงินยูโรอ่อนแรงลง หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวในการแถลงข่าวหลังการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ว่า ECB จะเริ่มต้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวันที่ 9 มี.ค. และหวังว่าการอัดฉีดเม็ดเงินดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน และหนุนอัตราเงินเฟ้อ

 

ขณะเดียวกัน นายดรากีได้เปิดช่องสำหรับ ECB ที่จะซื้อพันธบัตรต่อไปเกินกว่าเดือนก.ย.ปีหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กำหนดไว้เดิม โดยระบุว่า ECB จะซื้อพันธบัตรถึงเดือนก.ย.ปีหน้า หรือจนกว่าอัตราเงินเฟ้อขยับขึ้นเข้าใกล้เป้าหมายที่ระดับ 2% ของ ECB

 

ทั้งนี้ นายดรากีได้แสดงความคิดเห็นดังกล่าว หลังจากที่ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.05% ตามคาดในการประชุมเมื่อวานนี้

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2108094

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดทองคำปิดร่วง $4.7

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2558 06:53:14 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโร ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐอย่างใกล้ชิด

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 4.7 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ปิดที่ 1,196.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ทรงตัวที่ 16.158 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,180.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆในตะกร้าเงินนั้น พุ่งขึ้น 0.54% แตะที่ 96.43 ทั้งนี้ การแข็งค่าดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุน

นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังกดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและหันเข้าเทรดในตลาดหุ้นซึ่งมีผลตอบแทนที่สูงกว่า หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ประกาศว่า ECB จะเริ่มต้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวันจันทร์ที่ 9 มี.ค. โดย ECB จะซื้อพันธบัตรดังกล่าวจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับ 2% ในระยะกลาง

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 28 ก.พ. เพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 320,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้ว นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐได้ชะลอตัวลง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 77 เซนต์ เหตุวิตกอุปทานน้ำมันสูงขึ้น

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2558 06:39:43 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นกว่า 10 ล้านบาร์เรล และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ที่ยังอยู่ในระดับสูงมาก

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 77 เซนต์ ปิดที่ 50.76 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 7 เซนต์ ปิดที่ 60.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมัน WTI ปรับตัวลง หลังจาก EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 ก.พ. พุ่งขึ้น 10.3 ล้านบาร์เรล แตะ 444.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจดส่งมอบน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล แตะ 49.2 ล้านบาร์เรล

 

นอกจากนี้ EIA รายงานว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแตะระดับ 9.324 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2526

 

ทั้งนี้ ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะปรับลดปริมาณการผลิต โดยรายงานล่าสุดระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือนก.พ.ของกลุ่มโอเปกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 30.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียเพิ่มขึ้น 130,000 บาร์เรล แตะที่ 9.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ความไม่สงบในลิเบียซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ หลังจากมีรายงานว่า ท่าเรือเอส ไซเดอร์ได้ถูกโจมตีโดยเครื่องบินของรัฐบาล

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2108089

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ดีแทคปูพรมเครือข่าย4Gครบทั่วกรุง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- ศุกร์ที่ 6 มีนาคม 2558 06:00:00 น.

ดีแทคปูพรมเครือข่าย4Gครบทั่วกรุง

คุยยอดลูกค้ารวมทุกระบบ

แตะ28ล้านราย/72%ใช้3G

นายประเทศ ตันกุรานันท์ รักษาการ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ปัจจุบัน ดีแทค ได้เพิ่มสถานีฐานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ (GHz) และ 4G ตามที่ได้ประกาศไว้เมื่อ พ.ค.2557 ว่า มีเป้าหมายจะขยายสถานีฐานเพื่อเน้นการให้บริการข้อมูลบนมือถือหรือ ดาต้าให้แก่ลูกค้า

 

 

 

ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าติดตั้งสถานีฐานใหม่จำนวน 6,500 แห่ง วงเงิน 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็น สถานีฐาน 3G จำนวน 4,000 แห่ง 4G จำนวน 2,500 แห่ง แบ่งเป็นใน กทม.2,200 แห่ง ที่เหลือจะเป็นสถานีฐาน 4G ตามหัวเมืองใหญ่

 

ทั้งนี้ ปัจจุบัน ดีแทค มีสถานีฐานรวมทั้งหมดคาดว่ามากกว่า 25,000 แห่งแล้ว โดยมีลูกค้ารวมในระบบจำนวน 28 ล้านราย และแบ่งเป็นลูกค้า 3G ราว 72% ที่เหลือเป็นลูกค้าราว 2G 28% ส่วนลูกค้า 4G ปัจจุบันมีจำนวน 400,000 ราย ซึ่งในสิ้นปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนให้เป็น 1.7 ล้านราย โดยปัจจัยที่น่าจะทำให้ลูกค้าเพิ่มได้มากกว่า 3 เท่าตัว เนื่องจากในระบบดีแทคขณะนี้มีอุปกรณ์พกพา หรือ ดีไวซ์ที่ใช้ 4G อยู่ 1.75 ล้านเครื่อง ดังนั้นจะพยายามจูงใจให้ลูกค้าที่มีเครื่องอยู่แล้วเปลี่ยนซิมการ์ดมาเป็น 4G

 

“เรามองว่าจำนวนลูกค้าน่าจะทำได้ตามเป้าแม้จะดูเป็นตัวเลขที่สูงแต่จากจำนวนดีไวซ์ที่เป็น 4G และมีลูกค้าใช้ในระบบ 1.75 ล้านเครื่อง แล้วเปลี่ยนมาเป็น 4G ในจำนวน 1.7 ล้านราย ก็น่าจะเป็นไปได้ โดยการจูงใจก็จะเดินไปหาลูกค้าไปให้ทดลองใช้ 4G และเพื่อให้ลูกค้าได้มั่นใจต่อการใช้งานดียิ่งขึ้น ดีแทค จึงได้จัดตั้งทีมดีแทคเนตเวิร์กสู่ปฏิบัติภารกิจลงพื้นที่ 5 แห่ง ที่เป็นกลยุทธ์ในการพัฒนาการขยายบริการ 4G ในกรุงเทพฯ” นายประเทศกล่าว

 

สำหรับเครือข่าย 4G ปัจจุบันมีครอบคลุมกรุงเทพฯ ครบทั้ง 50 เขต ซึ่งครบทุกพื้นที่ 100% จากจำนวนสถานีฐาน

 

2,200 แห่ง โดยมุ่งเน้นสู่ 5 พื้นที่เป็นกลยุทธ์ในการพัฒนาการขยายบริการคือ 1.ห้างสรรพสินค้า 2.ศูนย์ประชุม และจัดแสดงสินค้า 3.ศูนย์กลางการเดินทางขนส่ง 4.มหาวิทยาลัย 5.แหล่งบันเทิง ซึ่งมียอดการใช้งานอินเตอร์เนตบนมือถือในโครงข่ายดีแทคเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 137% ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยพื้นที่ในกรุงเทพฯ ที่มีการใช้งานสูงสุด ได้แก่ เขตจตุจักร เขตราชเทวี และเขตปทุมวัน เป็นต้น ซึ่งอยู่ในเขตที่เป็นแหล่งการค้าธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า และมหาวิทยาลัย จำนวนยอดคนใช้อินเตอร์เนตวันละ 4 ชั่วโมงต่อวัน

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2108235

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...