ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2558 07:52:17 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 ก.ค.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลแรงงานล่าสุดของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,730.11 จุด ลดลง 27.80 จุด หรือ -0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,009.21 จุด ลดลง 3.91 จุด หรือ -0.08% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,076.78 จุด ลดลง 0.64 จุด หรือ -0.03%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้ โดยรัฐบาลกรีซต้องการให้ประชาชนเป็นผู้ชี้ขาดว่าจะรับเงื่อนไขในมาตรการรัดเข็มขัดจากเจ้าหนี้หรือไม่

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 385.46 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,835.56 จุด ลดลง 47.63 จุด หรือ -0.98% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,099.35 จุด ลดลง 81.15 จุด หรือ -0.73% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,630.47 จุด เพิ่มขึ้น 21.88 จุด หรือ +0.33%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นบีพี หลังจากบริษัทยอมความกับทางการสหรัฐในกรณีน้ำมันรั่วไหลเมื่อปี 2553 ขณะที่ตลาดจับตาการทำประชามติของกรีซเกี่ยวกับเงื่อนไขของเจ้าหนี้ในวันอาทิตย์นี้

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 21.88 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 6,630.47 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) เนื่องจากความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้น หลังจากอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.ของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.50% ปิดที่ระดับ 1,163.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 1.5 เซนต์ ปิดที่ 15.562 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 3.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,084.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 7.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 694.15 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและจับตาดูผลการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเกินคาดของสหรัฐ

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 3 เซนต์ ปิดที่ 56.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ ปิดที่ 62.07 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1083 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1048 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5598 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5602 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.11 เยน จาก 123.18 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9436 ฟรังก์ จาก 0.9386 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7622 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7645 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,730.11 จุด ลดลง 27.80 จุด -0.16%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,009.21 จุด ลดลง 3.91 จุด -0.08%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,076.78 จุด ลดลง 0.64 จุด -0.03%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,630.47 จุด เพิ่มขึ้น 21.88 จุด +0.33%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,099.35 จุด ลดลง 81.15 จุด -0.73%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,835.56 จุด ลดลง 47.63 จุด -0.98%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,379.24 จุด เพิ่มขึ้น 4.01 จุด +0.04%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,522.50 จุด เพิ่มขึ้น 193.18 จุด +0.95%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,107.33 จุด เพิ่มขึ้น 9.44 จุด +0.45%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,587.90 จุด เพิ่มขึ้น 81.90 จุด +1.49%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,599.80 จุด เพิ่มขึ้น 84.10 จุด +1.52%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,912.77 จุด ลดลง 140.93 จุด -3.48%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,578.31 จุด เพิ่มขึ้น 3.16 จุด +0.04%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,282.32 จุด เพิ่มขึ้น 32.29 จุด +0.12%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,944.78 จุด เพิ่มขึ้น 40.72 จุด +0.83%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,327.84 จุด ลดลง 3.30 จุด -0.10%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,733.88 จุด เพิ่มขึ้น 5.92 จุด +0.34%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,945.80 จุด ลดลง 75.07 จุด -0.27%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2196431

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $5.8 หลังอัตราว่างงานร่วงหนุนคาดเฟดขึ้นดบ.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2558 07:38:52 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) เนื่องจากความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้น หลังจากอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.ของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.50% ปิดที่ระดับ 1,163.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 1.5 เซนต์ ปิดที่ 15.562 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 3.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,084.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 7.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 694.15 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำเนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า อัตราว่างงานของสหรัฐที่ลดลงในเดือนมิ.ย.อาจจะผลักดันให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้น

 

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า อัตราการว่างงานเดือนมิ.ย.ลดลงสู่ระดับ 5.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008 จากระดับ 5.5% ในเดือนพ.ค.

 

ส่วนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. จากระดับ 254,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 233,000 ตำแหน่ง

 

อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐช่วยสกัดแรงลบในตลาดทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น ปรับลง 0.2% แตะที่ 96.05 เมื่อคืนนี้ ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

 

* ตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 3 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ *

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2196429

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 3 เซนต์ ตลาดจับตาการลงประชามติกรีซ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2558 07:18:12 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและจับตาดูผลการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเกินคาดของสหรัฐ

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 3 เซนต์ ปิดที่ 56.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ ปิดที่ 62.07 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

นักลงทุนจับตาดูการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้อย่างใกล้ชิด โดยรัฐบาลกรีซต้องการให้ประชาชนชี้ขาดว่าจะรับหรือไม่รับเงื่อนไขในมาตรการรัดเข็มขัดจากทางเจ้าหนี้

 

ด้านนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป ยืนยันว่า จะไม่มีการเจรจากันในยูโรกรุ๊ป และจะไม่มีการเจรจาระหว่างรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ จนกว่าการลงประชามติของกรีซจะแล้วเสร็จในวันอาทิตย์นี้

 

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากสต็อกน้ำมันดิบที่สูงขึ้นของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 มิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 465.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 9 สัปดาห์ และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล

 

ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 123,000 บาร์เรล สู่ระดับ 56.4 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 392,000 บาร์เรล สู่ระดับ 135.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.

 

* ตลาดน้ำมันนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 3 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ *

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2196424

 

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.116 หยวน/ดอลลาร์เช้านนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2558 09:17:56 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.11% แตะที่ 6.116 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2196625

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ผันผวนทิศทางลงจับตาสถานการณ์กรีซ-กลุ่มแบงก์ยังถ่วง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2558 09:29:37 น.

นักวิเคราะห์ฯคาดดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ผันผวนในทิศทางขาลง แต่การเคลื่อนไหวคงไม่รุนแรงเท่าเมื่อวานนี้ โดยตลาดยังรอดูสถานการณ์ในกรีซที่จะมีการลงประชามติในวันอาทิตย์นี้เพื่อชี้ขาดว่าจะรับหรือไม่รับเงื่อนไขมาตรการรัดเข็มขัดของเจ้าหนี้ ขณะที่คาดแรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ยังกดตลาดต่อเนื่องหลังโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ปรับลดประมาณการกำไร-ลดมูลค่าเหมาะสมราคาหุ้นลงด้วย โดยมองแนวรับวันนี้บริเวณ 1,480 และแนวต้าน 1,500 จุด

 

 

 

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยจะมีความผันผวนต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ และยังอยู่ในทิศทางที่ปรับลดลง แต่การเคลื่อนไหวของดัชนีจะไม่แรงเท่ากับเมื่อวานนี้ เชื่อว่าจะยังคงมีแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มแบงก์ต่อเนื่อง จากแนวโน้มส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ(NIM) ที่จะลดลงและอาจมีการตั้งสำรองหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)เพิ่มขึ้น ส่งผลให้โบรกเกอร์หลายแห่งปรับลดประมาณการกำไรของแบงก์ในปีนี้ ซึ่งส่งผลต่อราคาที่เหมาะสมของหุ้นแบงก์ด้วย

 

นอกจากนี้ ตลาดยังรอดูสถานการณ์ในกรีซ หลังจะมีการทำประชามติในวันที่ 5 ก.ค.นี้ แต่เห็นว่าไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็เชื่อว่าจะยังไม่เห็นทางออกการแก้ปัญหาหนี้กรีซได้อย่างราบรื่น

 

อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีปรับตัวลดลงมามากแล้ว ทำให้ downside ค่อนข้างจำกัด โดยมองแนวรับวันนี้ที่บริเวณ 1,480 และแนวต้านที่ 1,500 จุด

 

อินโฟเควสท์ โดย วิลาวัลย์ พงษ์พิทักษ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2196778

 

เงินบาทเปิด 33.77 ทรงตัวรอปัจจัยใหม่ จับตาประชามติกรีซอาทิตย์นี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2558 09:30:11 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.77 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.79 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวค่อนข้างนิ่งตามภูมิภาค คาดตลาดรอดูความชัดเจนเรื่องการแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ แม้เมื่อคืนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐ(non-farm) จะออกมาแย่กว่าคาดการณ์ แต่ไม่มีผลกระทบต่อค่าเงินมากนัก

 

 

 

"ทรงตัวค่อนข้างนิ่ง รอดูความชัดเจนเรื่องกรีซ ตัวเลข non-farm ที่ประกาศออกมาเมื่อคืนนี้แม้จะแย่กว่าที่คาด แต่ไม่มีผลกระทบมากนัก เพราะกลายเป็นปัจจัยรอง" นักบริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 33.70-33.85 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 123.01 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 123.47 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1085 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1075 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 33.7940 บาท/ดอลลาร์

 

- คลัง คาดกระบวนการอนุมัติไทยร่วมลงนาม เป็นสมาชิกจัดตั้ง"เอไอไอบี" เสร็จภายใน 2 เดือน เผยเงินทุนร่วมจัดตั้ง 4.86 หมื่นล้าน หรือ 1.43% หวังเป็นแหล่งเงินกู้ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลในอนาคต

 

- นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.วิตกกังวลปัญหาเศรษฐกิจจีนและเอเชียมากกว่าปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซและยุโรป เนื่องจากไทยส่งออกไปประเทศจีนมากกว่ากลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) และหากเศรษฐกิจจีนโตน้อยกว่าคาดไว้ จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างมีนัยสำคัญ

 

- ธปท.เผยการปล่อยสินเชื่อใหม่มีขนาดลดลงกว่าภาวะปกติและต่ำกว่าในอดีต เหตุภาคธุรกิจขนาดใหญ่บางส่วนหันออกหุ้นกู้ พบสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ตึงขึ้น แต่คาดไม่กระทบระดมเงินฝาก จากภาวะสินเชื่อที่ยังต่ำ ขณะที่คนรวยหันไปซื้อคอนโดราคา 5 ล้านบาทขึ้นไปเพิ่มขึ้น

 

- นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์ปีนี้อยู่ที่ 2 ล้านคัน แบ่งเป็นส่งออก 1.2 ล้านคัน และขายในประเทศ 800,000 คัน จากปีที่ผ่านมาขายในประเทศ 880,000 คัน อยู่ในระดับที่รับได้ เพราะการส่งออกที่ยังสามารถเติบโตช่วยทำให้การผลิตรถยนต์มากขึ้น

 

- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปร่วมประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 2-4 ก.ค.ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยวาระสำคัญ คือ ผู้นำชาติ ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และประธานาธิบดีเมียนมา จะร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกแสดงเจตจำนงความร่วมมือ (MOI) โครงการทวายระหว่างไทย-เมียนมา-ญี่ปุ่น และจะมีการแถลงข่าว 3 ฝ่าย ในวันที่ 4 ก.ค.ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย

 

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ โดยค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1083 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1048 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5598 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5602 ดอลลาร์สหรัฐ, ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.11 เยน จาก 123.18 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9436 ฟรังก์ จาก 0.9386 ฟรังก์, ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7622 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7645 ดอลลาร์

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วขึ้น หลังจากอัตราว่างงานเดือนมิ.ย.ของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค.ลดลง 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.50% ปิดที่ระดับ 1,163.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ก.ย.ลดลง 1.5 เซนต์ ปิดที่ 15.562 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ต.ค.ร่วงลง 3.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,084.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ก.ย.ลดลง 7.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 694.15 ดอลลาร์/ออนซ์

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและจับตาดูผลการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเกินคาดของสหรัฐ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ลดลง 3 เซนต์ ปิดที่ 56.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน ส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ ปิดที่ 62.07 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2196780

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตัวเลขแย่กว่าคาดเล็กน้อยแต่การแก้ไขตัวเลขของรอบก่อนช่วยหนุนให้ทองดีดกลับแรง

1168 1170เป็นจุดเปลี่ยนแนวโน้มระยะสั้น เบรกได้เป้า 1175 1180 ยังเล่นสั้น

ในขณะที่กรอบ 1155 ที่เป็นเส้นชัลเแนลกรอบล่างยังเอาอยู่ รูปแบบการคาดเดาหลังจากนี้คือการเล่นที่เส้นนี้ เกิดอะไรกับเส้นนี้จะเป็นตัวบอกถึงเส้นทางว่าจะเอาไงต่อ แต่ลงมาอีกทีวัดใจว่าเอา สามารถเข้าซื้อได้ด้วยความที่เป็นจุดที่ได้เปรียบ เพราะคัตใกล้ ในความหมายแล้วคือแนวเส้นนี้สำคัญขึ้นไม่ว่าจะในกรณีรับอยู่หรือรับไม่อยู่ ซึ่งถ้ารับไม่อยู่จะมีเป้าการลงที่โลว์เดิม 1135 หรือต่ำกว่าที่ 1105 (เป้าราคาทฤษฎี) แม้ว่าจะยังไม่เห็นเหตุการณ์ที่จะพาลงไปเร็วๆ นี้

วันนี้ไม่มีตัวเลขสำคัญราคาจะวิ่งตามปัจจัยทางเทคนิคและกรอบไม่กว้าง มีกำไรก็เก็บๆ ไว้ก่อน อดทนกินคำเล็กๆ รอเทรนด์ที่อาจจะมาในไม่กี่เดือนนี้

by Facebook.com/Wealthstation

3/7/58

11168122_910866568951819_6523904233750915897_n.png?oh=5d9248f66eb2f88f437f0ec23c1e6034&oe=562F2F70

11709657_910866558951820_1188945647001101028_n.png?oh=e8afc6329cb34a503312531b1a83349c&oe=5628CA3E

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กรีซต้องการเงินจากยูโรเพิ่มกว่า 3 หมื่นล้านยูโร

ไอเอ็มเอฟ ระบุ กรีซต้องการเงินมากถึง 50,000 ล้านยูโร ในช่วง 3 ปีข้างหน้า รวมถึงเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมจำนวน 36,000 ล้านยูโร จากสหภาพยุโรป

ในรายงานฉบับใหม่ที่เพิ่มแรงกดดันให้กับยุโรป ต่อเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซนั้น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ยอมรับว่า ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โอกาสของกรีซถดถอยลงไปอย่างมาก ทั้งยังปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจกรีซในปีนี้ ลงมาอยู่ที่ 0% จากที่เคยประเมินไว้ 2.5% เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

 

รายงานระบุด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญของกรีซตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ ส่งผลอย่างเป็นรูปธรรมให้มีความต้องการทางการเงินเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ ถึงแม้จะยอมตกลงในแผนการฉบับปัจจุบันของกลุ่มเจ้าหนี้แล้วก็ตาม

พร้อมกันนี้ยังเตือนว่า มีความเป็นไปได้ที่อาจจะต้องเกิดการแทงบัญชีหนี้เสียจำนวนมหาศาล หากเศรษฐกิจกรีซโตช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ และไม่มีการปฏิรูปเศรษฐกิจ

ขณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไอเอ็มเอฟรายหนึ่ง ระบุว่า กรีซต้องการเงินเพิ่มขึ้นจากเดิม มากกว่าที่ไอเอ็มเอฟเคยคาดการณ์ไว้เมื่อปีที่แล้วอย่างมาก ซึ่งข้อเสนอที่มีอยู่ทั้งจากฝั่งของกรีซ และเจ้าหนี้สหภาพยุโรป ไม่เพียงพอที่จะทำให้ความต้องการดังกล่าวลดลงไปได้

อย่างไรก็ดี การประเมินดังกล่าวทำขึ้น ก่อนที่กรีซจะยกเลิกการเจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมประกาศควบคุมเงินทุน และปิดธนาคารนาน 1 สัปดาห์ ซึ่งทั้งหมดนี้ยิ่งทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศถดถอยลงมากขึ้น

ที่มา : Bangkokbiznews

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

“โกลเบล็ก” ชี้ปัญหากรีซ-เงินดอลลาร์แข็งค่ากดดันทองลงต่อ ทยอยลงทุน 1,150- 1,140 เหรียญต่อทรอยออนซ์

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2558 11:14:19 น.

 

ดูรูปทั้งหมด

กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์

บล.โกลเบล็ก (GBS) ระบุราคาทองยังได้รับแรงกดดันค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมทั้งปัญหาหนี้กรีซที่จะมีการลงประชามติในวันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม นี้ จึงทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับลดลงต่อ จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนทอง "ทยอยสะสม" ให้กรอบการลงทุนที่ระดับ 1,150- 1,140 เหรียญต่อทรอยออนซ์

 

 

 

นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนในทองคำ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับลงต่อเนื่อง จากแรงกดดันเรื่องการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซหลังผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งทำให้เงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากที่ประชุมยูโรกรุ๊ปปฏิเสธที่จะขยายเวลาสำหรับโครงการความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซ ซึ่งทำให้กรีซผิดนัดชำระหนี้ 1.6 พันล้านยูโรแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

 

รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ จากที่ ADP ระบุว่าภาคเอกชนสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 237,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 220,000 ราย ประกอบกับตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตสหรัฐอยู่ที่ระดับ 53.5 ในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นจากระดับ 52.8 ในเดือนพฤษภาคมซึ่งแสดงถึงการขยายตัวของภาคการผลิต สนับสนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ สำหรับปัญหาหนี้กรีซหลังผิดชำระหนี้ให้กับ IMF ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยุโรปเปิดเผยว่าจะยังไม่มีการเจรจาใด ๆ ในช่วงนี้จนกว่าการทำประชามติของกรีซจะเสร็จสิ้นลงในวันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคมนี้

 

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยที่น่าจับตาที่สำคัญ คือ ข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิถุนายน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์สหรัฐ รวมทั้งดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนมิถุนายนจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ ขณะเดียวกันทางยูโรโซนจะประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมิถุนายน และผลการจัดทำประชามติของกรีซว่าประชาชนจะยอมรับข้อเสนอมาตรการรัดเข็มขัดทางการคลังของทางเจ้าหนี้หรือไม่

 

ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนทองคำด้านเทคนิค หากราคาปรับลงตามแรงกดดันแนวลงไหล่ขวาในรูปแบบหัวและไหล่ขาลง โดยช่วงระหว่างลงได้สร้างแนวลงในรูป V-SHAPE ที่มีแนวต้านสัญญาณ DEAD CROSS กดดัน สอดคล้องกัน เพิ่มความแข็งแกร่งของแนวต้าน

 

ขณะที่ค่าสัญญาณทางเทคนิคเป็นลบ ทำให้ราคามีแนวโน้มปรับลงต่อ อย่างไรก็ตามค่าสัญญาณ RSI เริ่มลงมาเข้าใกล้ภาวะOVER SOLD และเริ่มเข้าใกล้แนวรับการจบแนวลงไหล่ขวา ซึ่งจะช่วยลดแรงถ่วงของราคาให้ค่อย ๆ ปรับลงทดสอบแนวรับและสร้างฐานเพื่อเกิดจุดกลับตัวรอบใหม่ โดยให้แนวรับ 1,150- 1,140 เหรียญต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,185-1,195 เหรียญต่อทรอยออนซ์

 

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2196864

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2558 11:57:38 น.

กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

ตลาดการเงินสหรัฐะปิดทำการในวันนี้เนื่องในวันชาติสหรัฐ

รอดูผลการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้

แนวโน้มราคาทองคำคาดแกว่งตัวในกรอบแคบ 1,160-1,175 ดอลลาร์

- ราคาทองคำปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยปรับตัวลงต่ำกว่า 1,160 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากตัวเลขตลาดแรงงาน 2 ตัวออกมาแย่กว่าคาด โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่ง จากระดับ 254,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 231,000 ตำแหน่ง ขณะเดียวกันยังได้ทบทวนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนเม.ย. โดยปรับลดลงสู่ระดับ 187,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 221,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานเดือนมิ.ย.ลดลงจาก 5.5% ในเดือนพ.ค. เหลือ 5.3% สำหรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 281,000 ราย สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลงสู่ระดับ 270,000 ราย

 

 

 

- ตลาดการเงินสหรัฐะปิดทำการในวันนี้เนื่องในวันชาติสหรัฐ ทำให้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ นักลงทุนรอดูผลการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้ โดยลงประชามติว่าจะรับหรือไม่รับเงื่อนไขในมาตรการรัดเข็มขัดจากเจ้าหนี้ซึ่ ขณะที่นายกรัฐมนตรีกรีซชักชวนให้ชาวกรีซโหวต "No" ในการทำประชามติเพื่อแสดงท่าทีคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัด แต่ถ้าหากชาวกรีซเลือกที่จะโหวต "Yes" ในการสนับสนุนมาตรการดังกล่าว นายกรัฐมนตรีกรีซส่งสัญญาณลาออกจากตำแหน่ง และปูทางสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ เนื่องจากรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับมาตรการรัดเข็มขัด

 

- แนวโน้มราคาทองคำคาดจะแกว่งตัวในกรอบแคบระหว่าง 1,160-1,175 ดอลลาร์/ออนซ์ เพื่อรอผลการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้ ทั้งนี้ทองคำมีแนวรับที่บริเวณ 1,160 ดอลลาร์/ออนซ์ ถ้าหลุดจากแนวรับนี้คาดว่าราคาทองคำจะมีโอกาสลงไปสู่แนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,140-1,145 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,170-1,175 และ 1,190 ดอลลาร์/ออนซ์ตามลำดับ

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2196908

กรีซใช้แก๊สน้ำตาสลายม็อบต้านอียู

หลังกรีซและอียูยังตกลงกันไม่ได้เรื่องทางออกวิกฤติหนี้ ฝูงชาวกรีซที่โกรธแค้นออกมาชุมนุมด้านนอกสำนักงานอียูในกรุงเอเธนส์ ทำให้ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตาสลายฝูงชน ขณะที่ไอเอ็มเอฟคาดกรีซอาจต้องการเงิน 6 หมื่นล้านยูโรใน 3...

NATIONTV.TV

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธนาคารกลางสวีเดน Riksbank ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเกินคาด ต่ำติดลบเป็นประวัติการณ์

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist กองทุนบัวหลวง

Repo Rate ของธนาคารกลางสวีเดน Riksbank ขณะนี้ อยู่ที่ -0.35% ก่อนหน้าอยู่ที่ -0.25%

 

Bottom Line

----------------

• นอกจากจะปรับลด Repo Rate แล้ว ยังเพิ่มวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรอีก 45 bn SEK (ทำให้เป้าหมายปลายปีอยู่ที่ 135 bn SEK คิดเป็น 4%ของ GDP หรือ 20% ของมูลค่าพันธบัตรในตลาด)

• ในแถลงการณ์ระบุว่า เห็นอัตราเงินเฟ้อเริ่มปรับตัวขึ้นแล้ว และกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสวีเดนดูดีขึ้นแล้ว แต่ยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์ของกรีซได้ชัดเจนนัก และด้วยสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนจึงต้องลดดอกเบี้ยลงอีกเพื่อให้แน่ใจว่าเงินเฟ้อจะแตะ 2% ในสิ้นปีนี้

• อย่างไรก็ดี Riksbank ยังคงมุมมองบวก (Positive Outlook) ของ GDP ไว้โดยปรับลด GDP ในไตรมาส 2และ 3 ลงเล็กน้อย โดยให้เหตุผลว่ายังมี Growth Momentum เศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้น และมองว่าสถานการณ์กรีซแม้จะมีความเสี่ยงแต่จะไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้เศรษฐกิจ Euro Area เติบโตแย่ลง

• นับจากที่ Riksbank ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้วเมื่อเดือน เม.ย. พบว่าค่าเงิน SEK แข็งค่ามากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ (เมื่อเทียบกับตระกร้าเงินอ้างอิง) และพัฒนาการของอัตราแลกเปลี่ยนยังเป็นความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อ ทำให้ธนาคารกลางจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก

• ทั้งนี้สวีเดนได้พยายามดันเงินเฟ้อมาตั้งแต่ตัวเลขไม่ขยับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2555 และตัดสินใจลดดอกเบี้ยสู่แดนลบมาตั้งแต่เดือน ก.พ. เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย

cr วรวรรณ ธราภูมิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คลิบ

นายนันทวัฒน์ พิพัฒน์วงษ์เกษม ทนายความของนางสาวอลิสา อัศวโภคิน ทายาทบริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ เพื่อชี้แจงกรณีการซื้อขายที่ดินย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานี ต่อจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด โดยนำเอกสารการซื้อขายเป็นสำเนาแคชเชียร์เช็ค การจ่ายเงินซื้อที่ดินดังกล่าวมาแสดงต่อพนักงานสอบสวน ณ อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ กรุงเทพฯ

/ภาพ ‪#‎วัชรชัยคล้ายพงษ์‬ ‪#‎NationPhoto‬

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 33.77/82 ทิศทางสัปดาห์หน้าขึ้นกับผลโหวตประชามติกรีซ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2558 17:35:13 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.77/82 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.77 บาท/ดอลลาร์

 

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากตลาดต่างจับตารอผลการทำประชามติของกรีซในวันอาทิตย์ที่ 5 ก.ค.นี้ ว่าผลโหวตจะออกมายอมรับหรือไม่ยอมรับแผนปฏิรูปของกลุ่มเจ้าหนี้

 

 

 

"วันนี้บาทแกว่งแคบๆ ตลาดรอผลประชามติของกรีซวันอาทิตย์นี้ว่าจะออกมาในทิศทางใด" นักบริหารเงิน ระบุ

 

นักบริหารเงิน กล่าวว่า ทิศทางเงินบาทสัปดาห์หน้ามีโอกาสเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง คืออ่อนค่าลง และแข็งค่าขึ้น ทั้งนี้ขึ้นกับผลการทำประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้เป็นส่วนสำคัญ ซึ่งหากผลประชามติออกมารับว่ารับแผนปฏิรูปของกลุ่มเจ้าหนี้ บาทก็มีโอกาสจะแข็งค่า แต่หากไม่ยอมรับบาทก็จะอ่อนค่า โดยให้กรอบกว้างๆ ไว้ที่ระดับ 33.65-33.90 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 122.80 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 123.01 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1100 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1085 ดอลลาร์/ยูโร

 

- นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ.กรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมพิจารณาปรับลดเป้าสินเชื่อปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าสินเชื่อจะเติบโตได้ราว 6% เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศยังชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง

 

- บล.โกลเบล็ก (GBS) ระบุ ราคาทองยังได้รับแรงกดดันค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมทั้งปัญหาหนี้กรีซที่จะมีการลงประชามติในวันอาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม นี้ จึงทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับลดลงต่อ

 

- พรรคการเมืองและกลุ่มนักเคลื่อนไหวกรีซเตรียมเดินสายรณรงค์ครั้งใหญ่ในวันนี้ เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนโหวต "No" คัดค้านมาตรการรัดเข็มขัด ก่อนที่กรีซจะเปิดการลงประชามติวันที่ 5 ก.ค.นี้ เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ชี้ขาดว่าจะยอมรับข้อเสนอการปฏิรูปจากเจ้าหนี้หรือไม่

 

- นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซได้แสดงความเชื่อมั่นว่า กรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ได้ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากการลงประชามติในวันอาทิตย์นี้ ไม่ว่าผลการลงประชามติจะออกมาเป็นเช่นไร หลังจากที่กรีซพยายามเจรจากับเจ้าหนี้มาเป็นเวลานานถึง 5 เดือน

 

- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า กรีซยังจำเป็นต้องมีการระดมทุนอีกกว่า 5 หมื่นล้านยูโร (5.542 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงเดือนต.ค.2558 ถึงสิ้นปี 2561 เพื่อให้เศรษฐกิจกรีซสามารถดำเนินต่อไปได้

 

- นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า PBOC จะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบระมัดระวังต่อไป พร้อมๆกับการป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 30 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 10,888 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,171.94 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.25 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2197268

 

จีนเผยร่างกฎระเบียบว่าด้วยบริษัทบัตรชำระเงิน ปูทางบริษัทต่างชาติเข้ามาลงทุน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2558 17:33:34 น.

ธนาคารกลางจีน (PBOC) ออกร่างกฎระเบียบว่าด้วยการให้บริการของบริษัทบัตรชำระเงินในประเทศ โดยร่างกฎระเบียบฉบับนี้อยู่ในระหว่างรอการอนุมัติ และเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นได้จนถึงวันที่ 3 ส.ค. 2558

 

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ สอดคล้องกับการประกาศแผนการณ์ของสภาแห่งรัฐจีน หรือ รัฐบาลจีน เมื่อเดือนเม.ย. ที่จะให้บริษัทต่างชาติ อาทิ MasterCard และ Visa ได้มีลู่ทางเข้ามาดำเนินธุรกิจบัตรชำระเงินในจีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้จีนมี China UnionPay เพียงรายเดียวที่ให้บริการบัตรชำระสินค้าบริการในรูปสกุลเงินหยวน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2197265

 

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 3 กรกฎาคม 2558

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2558 17:05:00 น.

เอชเอสบีซี โฮลดิงส์เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนในเดือนมิ.ย.ลดลงแตะ 50.6 จาก 51.2 ในเดือนพ.ค. โดยเป็นการขยายตัวช้าสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2557

 

-- คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) เตรียมตรวจสอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการปั่นหุ้นในตลาดหุ้นจีน หลังจากผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถอธิบายถึงสาเหตุที่ตลาดดิ่งลงอย่างหนักในรอบหลายปี

 

 

 

-- กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการของเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันนี้ว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสโรคทางเดินหายใจสายพันธุ์ตะวันออกกลาง หรือเมอร์ส (MERS) เพิ่มขึ้นอีก 1 ราย ซึ่งทำให้ยอดผู้ติดเชื้อแตะระดับ 184 ราย แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันแล้ว

 

-- สายการบินเจ็ทสตาร์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำในเครือของแควนตัส แอร์เวย์ส ประกาศยกเลิกเที่ยวบินที่ออกจากและไปยังอินโดนีเซีย เนื่องจากเหตุการณ์ภูเขาไฟปะทุ ซึ่งการประกาศยกเลิกดังกล่าวส่งผลให้เกิดความโกลาหลที่สนามบินในออสเตรเลีย

 

-- รัฐบาลเกาหลีใต้เปิดเผยแผนงบประมาณเพิ่มเติมที่ผ่านการอนุมัติในขั้นตอนสุดท้ายสำหรับช่วงครึ่งปีหลัง คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 11.8 ล้านล้านวอน (1.05 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาจากการชะลอตัวลงของการส่งออก ภัยแล้ง และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโรคทางเดินหายใจสายพันธุ์ตะวันออกกลาง หรือเมอร์ส (MERS)

 

-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า กรีซยังจำเป็นต้องมีการระดมทุนอีกกว่า 5 หมื่นล้านยูโร (5.542 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงเดือนต.ค.2558 ถึงสิ้นปี 2561 เพื่อให้เศรษฐกิจกรีซสามารถดำเนินต่อไปได้

 

-- นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซได้แสดงความเชื่อมั่นว่า กรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ได้ภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากการลงประชามติในวันอาทิตย์นี้ ไม่ว่าผลการลงประชามติจะออกมาเป็นเช่นไร หลังจากที่กรีซพยายามเจรจากับเจ้าหนี้มาเป็นเวลานานถึง 5 เดือน

 

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของออสเตรเลียเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ของออสเตรเลียปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6%

 

-- ผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนในเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้นแตะ 54.4 จาก 53.8 ในเดือนพ.ค. และทรงตัวเมื่อเทียบกับข้อมูลเบื้องต้น

 

-- ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดเปิดเผยว่า ชาวกรีซที่ตั้งใจออกเสียงสนับสนุนมาตรการรัดเข็มขัดในการลงประชามติวันอาทิตย์ที่ 5 ก.ค.นี้ มีจำนวนใกล้เคียงกับผู้ที่คัดค้าน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2197233

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยืดจับตังเก ให้ขึ้นทะเบียนถึง31กค. รัฐบาลยันเร่งแก้‘ไอยูยู’

 

 

ข่าวทั่วไป RYT9 -- ศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2558 06:00:00 น.

 

ดูรูปทั้งหมด

ยืดจับตังเก

ให้ขึ้นทะเบียนถึง31กค.

รัฐบาลยันเร่งแก้‘ไอยูยู’

ลุ้นอียูปลดใบเหลืองตค.

หอค้า4จว.ขอเวลา2เดือนเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมกองบัญชาการกองทัพเรือ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) เป็นประธานประชุม ศปมผ. ครั้งที่ 9 เพื่อติดตามผลการดำเนินการของศปมผ. รวมถึงการชี้แจงผลการตรวจและข้อสังเกตของคณะสหภาพยุโรป (อียู) ตลอดจนแนวทางการแก้ไขปัญหาตามที่อียูให้ข้อสังเกต พร้อมกรอบระยะเวลาแล้วเสร็จ

 

 

 

ขึ้นทะเบียนเรือประมงถึง31กค.

หลังประชุม พล.ร.อ.ไกรสรแถลงว่า ศปมผ.มอบหมายให้สำนักงานเลขานุการ ศปมผ.ตั้งคณะทำงานเพิ่มเติมวิเคราะห์และจัดทำเป็นแผนให้เห็นว่า ประเทศไทยสมควรที่จะมีจำนวนเรือประมงและชนิดเครื่องมือที่เหมาะสมอย่างไร เพื่อให้การทำประมงยั่งยืน รวมทั้งให้ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) นำข้อมูลจำนวนเรือประมงที่สำรวจได้เสนอที่ประชุมครั้งต่อไป เพื่อให้เห็นภาพรวมและใช้เป็นฐานข้อมูลกำหนดค่าผลการจับสัตว์น้ำสูงสุดที่ยั่งยืน และให้ศรชล.โดยส่วนควบคุมการแจ้งเรือเข้า-ออก (พีไอพีโอ) ร่วมกับสมาคมประมงต่างๆ ประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของเรือที่ยังไม่ได้มาขึ้นทะเบียนในการสำรวจเรือประมงที่ผ่านมา เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31กรกฎาคมนี้

 

จี้ส่งแผนปฎิบัติการแห่งชาติ9กค.

พร้อมทั้งให้คณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติการแห่งชาติในการแก้ปัญหาทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (เอ็นพีโอเอ-ไอยูยู) นำส่งร่างแผนฯให้สำนักงานเลขานุการ ศปมผ.ภายในวันที่ 9 กรกฎาคม อีกทั้ง ให้คณะทำงานปรับปรุงระบบตรวจสอบย้อนกลับจัดทำกระบวนการและขั้นตอนตรวจสอบย้อนกลับ เพื่อให้เห็นภาพรวมการปฏิบัติ และนำเสนอที่ประชุมครั้งต่อไป

 

เร่งแก้ไอยูยูก่อนอียูประเมินตค.

นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯเปิดเผยความคืบหน้าการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายว่า มาตรการหลักขณะนี้คืบหน้าในหลายส่วน ทั้งเรื่องออกกฎหมาย ทำแผนแก้ปัญหาไอยูยูระดับชาติ ขั้นตอนต่อไปก็ต้องเจรจาร่วมกับทางอียูว่ายังมีส่วนใดที่ต้องปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมหรือมีเงื่อนไขใดที่ทำได้หรือไม่ได้อย่างไร แต่ขณะนี้มาตรการเร่งด่วนที่ไทยต้องเร่งดำเนินการให้เคร่งครัดและเข้มงวดคือ ควบคุมการทำประมงผิดกฎหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าไทยจริงใจแก้ปัญหาไอยูยู คาดว่าช่วงเดือนสิงหาคม อียูจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บข้อมูลก่อนจะประเมินผลการแก้ไขปัญหาไอยูยูของไทยประมาณเดือนตุลาคม

 

ดังนั้น ขอความร่วมมือผู้ประกอบการประมงมาแจ้งขึ้นทะเบียนเรือขออนุญาตการทำประมงโดยใช้เครื่องมือทำประมง การใช้แรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้ามีครบทั้งสามส่วนนี้แล้วก็สามารถออกทำประมงได้ตามปกติ ส่วนผู้ที่ยังไม่มาขึ้นทะเบียนสามารถไปยังจุดให้บริการแบบ one stop service ได้ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม หลังจากนี้ก็ยังสามารถติดต่อกับกรมเจ้าท่าและกรมประมงได้ถึงวันที่ 31 กรกฎาคมนี้

 

“บิ๊กป้อม”ย้ำต้องทำให้ถูกกม.

ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหมยืนยันว่า รัฐบาลจำเป็นบังคับใช้กฎหมายควบคุมประมงผิดกฎหมายอย่างจริงจัง ดังนั้น เรือที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนหรือไม่มีอาชญาบัตรถูกต้องต้องหยุดเดินเรือ ส่วนปัญหาที่ระบุขึ้นทะเบียนไม่ทันนั้น ที่ผ่านมากองทัพเรือจัดเรือทำศูนย์วันสต็อปเซอร์วิสให้บริการจดทะเบียนในทะเล ช่วยเหลือทุกอย่าง ดังนั้น ต้องทำตามกฎหมายตามหลักสากล ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายมากกว่านี้

 

เมินเสียแนวร่วมชี้ส่วนใหญ่เข้าใจ

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีมาตรการปิดอ่าว เพื่อฟื้นฟูและรักษาทรัพยากรทางทะเลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังไม่มี ถ้าเรือออกไปตามกำหนดของจำนวนเรือที่จดทะเบียน โดยผบ.ทร.คำนวณแล้วว่าจำนวนเรือที่ขึ้นทะเบียนเหล่านั้นไม่มีปัญหา สามารถทำประมงได้ เชื่อว่าสัตว์น้ำก็จะเพิ่มขึ้น จากขณะนี้ที่ปริมาณปลาในทะเลลดลงเหลืออยู่ 20%

 

“ยืนยันการบังคับใช้กฎหมายจริงจังไม่กลัวเสียแนวร่วม เพราะถ้าคนเข้าใจกฎหมายและเข้าใจว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ไม่มีทางเสียแนวร่วมแน่นอน อีกทั้ง คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับที่รัฐบาลและผบ.ทร.ดำเนินการ เชื่อว่าทุกอย่างไม่มีปัญหา ที่ผ่านมารัฐบาลให้เวลาเรือประมงที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนมาหลายเดือน แต่เมื่อเขาไม่สนใจก็ต้องได้รับผลกระทบแบบนี้”พล.อ.ประวิตรกล่าว

 

“ธรณ์”ติงอย่าคุมแค่อาชญาบัตร

ขณะเดียวกัน มีหลายฝ่ายออกมาสนับสนุนนโยบายบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย โดย ด้านนายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลปรับปรุงให้เป็นไปตามกติกา เพื่อลดแรงกดดัน สะสางปัญหาที่สะสมมานานทั้งเรื่องแรงงาน และการควบคุมเรือประมง แต่ปัญหาสำคัญอยู่ที่อาชญาบัตร เพราะมีจำนวนมากที่ไม่มีหรือผิดประเภท ทำให้เรือจำนวนมากหยุดทำประมง เพื่อยื่นข้อเสนอให้รัฐพิจารณา

 

“ความคิดเห็นของผมคือ ให้ยึดวิชาการเป็นหลัก กลับไปยึดยุทธศาสตร์ประมงแห่งชาติครั้งแรกๆ ต้องไปพัฒนาการเพาะเลี้ยงที่ถูกกฎหมาย ไม่กระทบสิ่งแวดล้อม เน้นส่งออกแต่ต้องไม่เหลื่อมล้ำ ต้องช่วยการเพาะเลี้ยงของชาวบ้านให้ได้มาตรฐานทัดเทียมบริษัทใหญ่”นายธรณ์กล่าว

 

‘สารี’หนุนนโยบาย’บิ๊กตู่’

เช่นเดียวกับ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคที่แสดงจุดยืนขององค์กรว่า เรื่องนี้เราสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้จัดการประมงที่ไม่ถูกกฎหมาย ประมงทำลายล้าง เปิดพื้นที่ให้กลุ่มประมงขนาดเล็กลืมตาอ้าปากได้บ้าง การใช้อุปกรณ์จับปลาหรือสัตว์น้ำทุกขนาด ทุกฤดู นอกจากเป็นสาเหตุของการทำลายแหล่งทรัพยากรทางทะเลแล้ว ยังทำลายความมั่นคงด้านอาหาร เป็นสาเหตุความไม่ปลอดภัยของอาหารทะเลที่ต้องใช้สารเคมีเก็บรักษา ถ้าเรามีประมงขนาดเล็ก จัดการเป็นระบบความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไทยก็จะกลับมา

 

ประมงพื้นบ้านได้อานิสงส์

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศหลายจังหวัดที่มีการทำประมงว่า เรือประมงขนาดใหญ่ยังคงจอดเทียบท่าต่อเนื่อง เพื่อรอดูท่าทีรัฐบาลว่าจะช่วยเหลืออย่างไร หลังมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับเรือประมงผิดกฎหมาย โดยที่จ.สงขลา หลังเรือประมงใหญ่หยุดออกทะเล ชาวเรือประมงพื้นบ้านชุมชนเก้าเส้ง เขตเทศบาลนครสงขลา ยังคงออกทะเลตามปกติทุกเช้า และนำมาจำหน่ายในตลาด ซึ่งราคาสัตว์น้ำจากเรือประมงพื้นบ้านใกล้เคียงหรือสูงกว่าสินค้าที่ได้จากเรือประมงพาณิชย์ แต่คุณภาพสดกว่า เพราะจับและจำหน่ายรายวัน ซึ่งการที่เรือประมงขนาดใหญ่หยุดออกทะเลทำให้สินค้าประมงพื้นบ้านขายได้ราคาดีขึ้น

 

อาหารทะเลหาดใหญ่ขายปกติ

ส่วนในตลาดสดพลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาวันนี้ ยังมีอาหารทะเลขายตามปกติทุกชนิดและยังไม่ปรับขึ้นราคา โดยแม่ค้าเผยว่า ต้องรอดูสถานการณ์หลังวันที่4 กรกฎาคม วันดีเดย์ที่เรือประมงในจ.สงขลาจะหยุดเดินเรือพร้อมกันทั้งหมด ซึ่งอาหารทะเลอาจขาดแคลนและราคาเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ไม่น่าจะขาดตลาด เนื่องจากสินค้าที่จำหน่ายส่วนใหญ่สั่งมาจากฝั่งอันดามัน

 

ประมงปัตตานีบุกพบผู้ว่าฯ3กค.

ขณะที่นายวัชรินทร์ รักษ์ยอดจิตร ประมงจังหวัดปัตตานีเผยว่า จากมาตรการของรัฐบาล ทำให้ชาวประมงปัตตานีได้รับผลกระทบบ้าง แต่ไม่มาก เพราะเรือประมงส่วนใหญ่จดทะเบียนถู กต้อง จนถึงขณะนี้เรือประมงยังออกเดินเรือตามปกติ ยกเว้นเรือที่มีปัญหาอยู่ประมาณ 54 ลำคือ ยังไม่มีอาชญาบัตร หรือใช้เครื่องมือผิดประเภทก็ไม่กล้าออกเรือ ในจ.ปัตตานีมีเรือทั้งหมด 3,000 ลำ เป็นเรือประมงพานิชย์ 2,700 ลำ ส่วนข่าวที่ออกมาว่าชาวประมงจะชุมนุมวันที่ 3 กรกฎาคมนั้น ตนสอบถามแกนนำชาวประมงแล้ว ความจริงไม่ได้เป็นการประท้วงหรือนัดปิดอ่าว แต่เป็นเพียงการรวมตัวมายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อแสดงให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบว่า ชาวประมงเดือดร้อน ซึ่งเป็นสิทธิที่ทำได้

 

หอค้า4จว.ขอผ่อนผัน2ดือน

เช่นเดียวกับ นายปรีชา ศิริแสงอารัมพี ประธานหอการค้า จ.สมุทรสาครกล่าวหลังหารือกับหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 4 จังหวัดประกอบด้วย หอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ว่า 4 หอการค้าวอนรัฐบาลเมตตาผ่อนผันไปอีก 2เดือน โดยขอให้มีการแบ่งโซนการจับปลาของเรือประมงแต่ละประเภท และคงต้องจับปลาที่ตัวใหญ่ขึ้น เช่น กำหนดอวนตาใหญ่ขึ้น โดยให้รัฐบาลเรียกเรือประมงแต่ละประเภทไปทำบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยู ขณะนี้เรือประมงจำนวนมากไม่ออกจับปลาส่งผลกระทบมากทั้งระบบ ตั้งแต่โรงงานแปรรูป 5,700 แห่ง โรงน้ำแข็ง แพปลารวมถึงผู้บริโภค

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/ryt9/2196412

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดลบ 2.03 จุด แม้มีแรงซื้อแบงก์พยุงตลาด,วอลุ่มบางรอดูผลประชามติกรีซ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม 2558 17:22:49 น.

SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,489.59 จุด ลดลง 2.03 จุด (-0.14%) มูลค่าการซื้อขาย 36,792.66 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบทั้งแดนบวกและลบ แม้จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มแบงก์กลับเข้ามาช่วยพยุงตลาด แต่ยังไม่สามารถหนุนให้ดัชนีปิดตัวในแดนบวกได้ นักวิเคราะห์ฯเผยว่าตลาดยังรอดูปัจจัยจากกรีซ ที่จะมีการลงประชามติกรณีปัญหาหนี้กรีซในวันอาทิตย์นี้ ประกอบกับยังมีถ่วงจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังอ่อนแอกดดันตลาดอยู่ โดยมองว่าการเคลื่อนไหวของดัชนีในสัปดาห์หน้าจะมีแนวรับบริเวณ 1,480 และแนวต้านที่ 1,510 จุด

 

 

 

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,489.59 จุด ลดลง 2.03 จุด(-0.14%) มูลค่าการซื้อขาย 36,792.66 ล้านบาท

 

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยดัชนีปรับขึ้นทำระดับสูงสุดของวันที่ 1,495.37 จุด และทำระดับต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,485.50 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 280 หลักทรัพย์ ลดลง 523 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 265 หลักทรัพย์

 

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบทั้งแดนบวกและลบ ด้วยมูลค่าซื้อขายที่เบาบาง โดยนักลงทุนซื้อกลับหุ้นในกลุ่มแบงก์หลังจากที่ปรับลดลงแรงเมื่อวานนี้ ที่โบรกเกอร์ต่างปรับลดประมาณการกำไรกลุ่มแบงก์ลงจากแนวโน้มการตั้งสำรองที่สูงขึ้น ทำให้เมื่อมีการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/58 ออกมาคาดว่าจะไม่มีข่าวร้ายที่สร้างความประหลาดใจอีกแล้ว

 

ขณะที่มองว่าเป็นโอกาสที่นักลงทุนที่มีระยะเวลาถือครองหุ้น 1 ปีขึ้นไปสามารถเข้าลงทุนหุ้นแบงก์ได้ เพราะระดับมูลค่า(valuation) ในระดับปัจจุบันนับว่าหุ้นแบงก์น่าสนใจที่สุด และจะสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกได้สูงในอนาคต

 

อย่างไรก็ตาม มูลค่าซื้อขายที่เข้ามาในวันนี้ค่อนข้างเบาบาง หลังจากที่นักลงทุนรอดูสถานการณ์จากกรีซ ที่จะมีการลงประชามติในวันที่ 5 ก.ค.นี้เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ชี้ขาดว่าจะยอมรับข้อเสนอการปฏิรูปจากเจ้าหนี้หรือไม่ โดยหากเสียงส่วนใหญ่โหวต"Yes"หรือยอมรับแผนปฏิรูปของกลุ่มเจ้าหนี้ Troika ก็จะทำให้นายกรัฐมนตรีของกรีซจะหันหน้าเข้าเจรจากับ Troika เพื่อยอมรับกับเงื่อนไขเงินช่วยเหลือ ซึ่งถือเป็นผลกระทบเชิงบวก แต่ปัญหาหนี้กรีซก็อาจจะยืดเยื้อหากรัฐบาลจะประกาศลาออกด้วยซึ่งจะทำให้การเมืองกรีซจะเข้าภาวะสูญญากาศอีกครั้ง

 

ขณะที่หากผลประชามติส่วนใหญ่โหวต"No" ก็จะเป็นเชิงลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก เพราะนายกรัฐมนตรีกรีซก็จะนำประชามติดังกล่าวไปเจรจากับเจ้าหนี้ซึ่งจะทำให้มีความยืดเยื้อ และนำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ต่อธนาคารกลางยุโรป(ECB) มูลค่า 3.5 พันล้านยูโรในวันที่ 20 ก.ค.นี้มากขึ้น

 

ส่วนแนวโน้มการซื้อขายในสัปดาห์หน้า มองว่าแม้จะต้องจับตาผลการลงประชามติของกรีซ แต่ก็เชื่อว่าจะไม่ส่งผลต่อภาพรวมของการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากนัก เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติมีการลงทุนในหุ้นไทยไม่มากนัก แม้เมื่อวานนี้จะมีการขายสุทธิออกมากว่า 4 พันล้านบาท แต่ก็เป็นการขายเฉพาะเจาะจงไปยังกลุ่มธนาคารเท่านั้น ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศน่าจะมีอิทธิพลต่อการลงทุนมากกว่าหลังตัวเลขเศรษฐกิจของไทยยังออกมาไม่ดีนัก ดังนั้น คาดว่าไม่ว่าผลการลงประชามติของกรีซจะออกมาในทิศทางใดก็เชื่อว่าดัชนีที่ระดับ 1,480 จะรองรับได้ ขณะที่มองแนวต้านจะอยู่ที่ระดับ 1,510 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,307.64 ล้านบาท ปิดที่ 180.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

 

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,194.12 ล้านบาท ปิดที่ 152.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

 

KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,187.32 ล้านบาท ปิดที่ 17.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

 

TASCO มูลค่าการซื้อขาย 1,103.54 ล้านบาท ปิดที่ 23.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท

 

JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,073.56 ล้านบาท ปิดที่ 5.35 บาท ลดลง 0.10 บาท

 

อินโฟเควสท์ โดย วิลาวัลย์ พงษ์พิทักษ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2197251

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับคุณ.. Ginger TraderJunior deb99 เต้าหู้ ปุยเมฆ อยากเล่นด้วยคน มือใหม่เหมือนกัน ตังเม auntnextdoor MegaGold และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้เป็นแดงแท่งสี่ครับ :_10

หลุดเส้นแนวรับเดิมที่ควรจะรับอยู่ลงมาเล็กน้อย

ทำให้มองได้ว่าควรมีทดสอบล่างอีกรอบ

 

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1164 ราคาสูงสุด1170

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1168

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทาง sideway down ครับ

RSI Price Line เส้นเขียว 38.73 ครับ

Trade Signal Line เส้นแดง 40.74 ครับ

market base Line เส้นเหลือง 44.92 ครับ

เส้นแดงทิศทางลงครับ

 

สัญญานรองQQE ทิศทาง sideway down

เส้นฟ้า 40.63 ครับ

เส้นประเหลือง 46.55 ครับอยู่ต่ำกว่าเส้นฟ้าครับ

(เส้นประเหลืองถ้าคงที่นานๆ จะแสดง side way หรือกลับตัวและ

ถ้าทิศทางลงจะเด้งไปอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าทันทีถ้าขึ้นจะลงมาต่ำกว่าเส้นฟ้าทันที)

แนวต้าน 1179 1188 1198 1204

แนวรับ 1166 1157 1143 1139

 

 

 

 

ขอให้โชคดีครับ

:bye

post-1891-0-85349100-1436064971_thumb.png

บาย

ถูกแก้ไข โดย news

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

d32e11c56419789d73cd1f6dc7ee37de.jpg

 

 

 

สวัสดี สุขแจ่มใส โชคดี นะจ๊ะ

 

ข่าววันจันทร์จ้า เพิ่อน พี่น้อง

 

สวัสดี news ขอบคุณนะคัป :_10

เงินยูโรร่วงหนัก หลังผลประชามติชี้ชาวกรีซโหวต 'No' ไม่เอามาตรการรัดเข็มขัด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 6 กรกฎาคม 2558 05:45:38 น.

สกุลเงินยูโรร่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หลังจากผลการลงประชามติของกรีซระบุว่า ชาวกรีซตัดสินใจโหวต 'No' คัดค้านมาตรการรัดเข็มขัดของเจ้าหนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้กรีซตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะออกจากกลุ่มยูโรโซน

 

เมื่อเวลา 06.42 น.ตามเวลาซิดนีย์ ยูโรร่วงลง 1% แตะระดับ 1.1008 ดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนสกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆเกือบทุกสกุล เนื่องจากความไม่แน่นอนของอนาคตกรีซส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อเงินเยนซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

ทั้งนี้ เงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.7% แตะที่ 121.93 เยนต่อดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้น 1.7% แตะที่ 134.21 เยนต่อยูโร

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2197939

 

 

 

กลุ่มเจ้าหนี้ยุโรปเตรียมจัดประชุมทางไกลเช้าวันนี้ หลังชาวกรีซโหวต 'No'

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 6 กรกฎาคม 2558 06:13:29 น.

คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ออกแถลงการณ์ว่า กลุ่มเจ้าหนี้ของกรีซในยูโรโซนจะจัดการประชุมทางไกลในช่วงเช้าวันจันทร์ เพื่อหารือกันหลังจากชาวกรีซตัดสินใจโหวต 'No' เพื่อคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัดจากกลุ่มเจ้าหนี้

 

แถลงการณ์ระบุว่า นายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธาน EC จะจัดการประชุมทางไกลในวันจันทร์ ร่วมกับนายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานสภายุโรป, นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2197946

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 6 กรกฎาคม 2558 06:05:00 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 ก.ค. 2558

-- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันศุกร์ที่ 3 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ

-- ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันศุกร์ที่ 3 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ

-- ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการวันศุกร์ที่ 3 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ

 

 

-- ตลาดเงินนิวยอร์กปิดทำการวันศุกร์ที่ 3 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวีนศุกร์ (3 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่จะทราบผลการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้ โดยรัฐบาลกรีซต้องการให้ประชาชนชี้ขาดว่าจะยอมรับเงื่อนไขในมาตรการรัดเข็มขัดจากทางเจ้าหนี้หรือไม่

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.5% ปิดที่ 383.42 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,808.22 จุด ลดลง 27.34 จุด หรือ -0.57% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,058.39 จุด ลดลง 40.96 จุด หรือ -0.37% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,585.78 จุด ลดลง 44.69 จุด หรือ -0.67%

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (3 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของกรีซในยูโรโซน พร้อมกับจับตาดูผลการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้ เพื่อดูว่าชาวกรีซจะยอมรับเงื่อนไขของเจ้าหนี้หรือไม่

 

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,585.78 จุด ลดลง 44.69 จุด หรือ -0.67%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,808.22 จุด ลดลง 27.34 จุด, -0.57%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 11,058.39 จุด ลดลง 40.96 จุด, -0.37%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,585.78 จุด ลดลง 44.69 จุด, -0.67%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,092.79 จุด เพิ่มขึ้น 146.99 จุด, +0.53%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,342.73 จุด เพิ่มขึ้น 14.89 จุด, +0.45%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,734.24 จุด เพิ่มขึ้น 0.36 จุด, +0.02%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,982.91 จุด เพิ่มขึ้น 38.13 จุด, +0.77%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 26,064.11 จุด ลดลง 218.21 จุด, -0.83%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,535.30 จุด ลดลง 43.01 จุด, -0.57%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,686.92 จุด ลดลง 225.85 จุด, -5.77%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,538.30 จุด ลดลง 61.50 จุด, -1.10%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,528.00 จุด ลดลง 59.90 จุด, -1.07%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,104.41 จุด ลดลง 2.92 จุด, -0.14%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,539.79 จุด เพิ่มขึ้น 17.29 จุด, +0.08%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,358.23 จุด ลดลง 21.01 จุด, -0.22%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2197944

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...