ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดร่วง 12.60 จุด วอลุ่มเทรดบาง-ชะลอลงทุนหลังกังวลเศรษฐกิจในประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 17:29:50 น.

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,466 จุด ลดลง 12.60 จุด (-0.85%) มูลค่าการซื้อขาย 25,246.56 ล้านบาท

 

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดของวันที่ 1,481.27 จุด และทำระดับต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,466.64 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 188 หลักทรัพย์ ลดลง 687 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 213 หลักทรัพย์

 

 

 

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีฯปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ โดยปัจจัยสำคัญที่ยังกดดันตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ยังคงเป็นภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่เห็นแนวโน้มการฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น ทั้งการส่งออกก็ยังไม่ดี และยังมีปัญหาภัยแล้งเข้ามาซ้ำเติม ซึ่งกระทบภาคการบริโภค ทำให้มีผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศด้วย

 

นอกจากนี้ ยังกระทบผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในประเทสอีกด้วย โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่อาจได้รับผลกระทบจากสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดราย(NPL)ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ปริมาณการซื้อขายน้อย เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังชะลอการลงทุนเพื่อรอปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามา

 

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(21 ก.ค.)นายธนเดช คาดว่า ตลาดหุ้นไทยคงยังไปได้ไม่ไกล เป็นช่วงที่ภาวะตลาดซึม เนื่องจากกระแสเงินจากนักลงทุนต่างชาติยังไม่เข้ามา ขณะที่รายย่อยชะลอการลงทุน และนักลงทุนสถาบันในประเทศก็เลือกลงทุนหุ้นบางตัว อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ยังคงต้องติดตามผลดำเนินงานไตรมาส 2/58 ของบริษัทจดทะเบียนในประเทศที่เริ่มทยอยประกาศออกมาแล้ว

 

พร้อมให้แนวต้าน 1,480 จุด แนวรับ 1,450-1,460 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,530.87 ล้านบาท ปิดที่ 330.00 บาท ลดลง 4.00 บาท

 

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,367.83 ล้านบาท ปิดที่ 188.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

 

TPIPL มูลค่าการซื้อขาย 1,103.08 ล้านบาท ปิดที่ 2.50 บาท ลดลง 0.14 บาท

 

JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,006.54 ล้านบาท ปิดที่ 5.20 บาท ลดลง 0.05 บาท

 

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 636.72 ล้านบาท ปิดที่ 250.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

 

อินโฟเควสท์ โดย จีรายุทธ จันทรงสกุล/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2209355

 

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบ เหตุวิตกตลาดหุ้นเอเชียร่วงหนัก

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 27 กรกฎาคม 2558 14:50:31 น.

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งสกัดปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.5% แตะที่ 388.91 จุด เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น.ตามเวลาลอนดอน

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดวันนี้ที่ 11,287.77 จุด ลดลง 59.68 จุด, -0.53% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 5,030.89 จุด ลดลง 26.47 จุด, -0.52%

 

 

 

ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของตลาดหุ้นหลายแห่งในเอเชีย โดยเฉพาะดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นจีนที่ร่วงลงอย่างหนัก 8.48% อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคการผลิตในประเทศ โดยในวันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ระบุว่า บริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีนมีผลกำไรในเดือนมิ.ย.ลดลง 0.3% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 5.8857 แสนล้านหยวน หลังจากที่ขยายตัว 0.6% ในเดือนพ.ค.

 

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการร่วงลงของตลาดหุ้นในเอเชียได้สกัดปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป โดยหุ้นรอยัล ฟิลิปส์ พุ่งขึ้น 3.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด อันเนื่องมาจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งขึ้นในอเมริกาเหนือ อินเดียและยุโรปตะวันออก

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2214648

 

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบ เหตุวิตกตลาดหุ้นเอเชียร่วงหนัก

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 27 กรกฎาคม 2558 14:50:31 น.

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดลบในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งสกัดปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.5% แตะที่ 388.91 จุด เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น.ตามเวลาลอนดอน

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดวันนี้ที่ 11,287.77 จุด ลดลง 59.68 จุด, -0.53% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 5,030.89 จุด ลดลง 26.47 จุด, -0.52%

 

 

 

ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของตลาดหุ้นหลายแห่งในเอเชีย โดยเฉพาะดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นจีนที่ร่วงลงอย่างหนัก 8.48% อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคการผลิตในประเทศ โดยในวันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ระบุว่า บริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีนมีผลกำไรในเดือนมิ.ย.ลดลง 0.3% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 5.8857 แสนล้านหยวน หลังจากที่ขยายตัว 0.6% ในเดือนพ.ค.

 

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการร่วงลงของตลาดหุ้นในเอเชียได้สกัดปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป โดยหุ้นรอยัล ฟิลิปส์ พุ่งขึ้น 3.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด อันเนื่องมาจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งขึ้นในอเมริกาเหนือ อินเดียและยุโรปตะวันออก

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2214648

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

f67cb8fb25ada0b2d69bed57aa382301.jpg

 

~~Romantic boy | frog by Savas Sener~~

 

สวัสดีจ้า ข่าวเช้า เพื่อน พี่น้อง อยู่ดี มีโชค ลงทุนปลอดภัยนะคะ

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $10.9 เหตุหุ้นจีนร่วงหนักหนุนแรงซื้อทอง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558 07:28:58 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีนได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 10.9 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ระดับ 1,096.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 11.7 เซนต์ ปิดที่ 14.605 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปรับขึ้น 8.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 988.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 9.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 613.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนแห่ซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นจีนร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยเมื่อวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 8.48% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงสุดในรอบ 8 ปี

 

นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ก.ค. เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด เน้นย้ำในการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสครั้งล่าสุดว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจและการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

 

ทั้งนี้ เฟดไม่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมานับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2549 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์การเงินในสหรัฐ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2214925

 

(REPEAT) กลต.จีนเผยรัฐเตรียมซื้อหุ้นกระตุ้นตลาด ขณะจับตาขาใหญ่ซุ่มทุบหุ้น

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558 07:51:57 น.

นายจ้าง เสี่ยวจุน โฆษกคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์จีน (CSRC) กล่าวว่า รัฐบาลจะเพิ่มการซื้อหุ้นเพื่อกระตุ้นตลาด หลังตลาดหุ้นทรุดตัวอย่างหนักเมื่อวานนี้

 

นายจ้างระบุว่า China Securities Finance Corp ซึ่งเป็นบริษัทที่ CSRC เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ยังคงอยู่ในตลาด และจะเพิ่มการถือครองหุ้นในเวลาที่เหมาะสม และจะมีบทบาทในการสร้างเสถียรภาพในตลาด

 

 

 

นอกจากนี้ นายจ้างยังกล่าวว่า CSRC ยังไม่ได้ตัดประเด็นความเป็นไปได้ที่การทรุดตัวของตลาดหุ้นในวันนี้ อาจเกิดจากการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่บางรายกำลังสมรู้ร่วมคิดกันในการแห่เทขายหุ้น

 

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้รูดลงอย่างหนักกว่า 8% ในวันนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคการผลิตในประเทศ โดยในวันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ระบุว่า บริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีนมีผลกำไรในเดือนมิ.ย.ลดลง 0.3% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 5.8857 แสนล้านหยวน หลังจากที่ขยายตัว 0.6% ในเดือนพ.ค.

 

ตลาดหุ้นจีนร่วงลงต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ ภายหลังจากมาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนก.ค.ลดลงแตะ 48.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน จาก 49.4 ในเดือนมิ.ย.

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2214933

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558 07:38:49 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 ก.ค.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 5 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นจีนและยุโรป โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่ปิดตลาดดิ่งลงกว่า 8% เมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,440.59 จุด ร่วงลง 127.94 จุด หรือ -0.73% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,039.78 จุด ลดลง 48.85 จุด หรือ -0.96% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,067.64 จุด ลดลง 12.01 จุด หรือ -0.58%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีน อันเป็นผลมาจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะภาคการผลิตที่หดตัวลง

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.2% ปิดที่ 385.91 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,927.60 จุด ร่วงลง 129.76 จุด หรือ -2.57% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,056.40 จุด ลดลง 291.05 จุด หรือ -2.56% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,505.13 จุด ลดลง 74.68 จุด หรือ -1.13%

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) โดยดัชนีแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวดับเศรษฐกิจจีนชะลอตัว

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 74.68 จุด หรือ 1.13% ที่ระดับ 6,505.13 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า อิหร่านอาจจะผลิตและส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 75 เซนต์ ปิดที่ 47.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.47 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีนได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 10.9 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ระดับ 1,096.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 11.7 เซนต์ ปิดที่ 14.605 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปรับขึ้น 8.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 988.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 9.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 613.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์จากความวิตกที่ว่าตลาดหุ้นจีนที่ไร้เสถียรภาพอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1097 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0980 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5559 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5511 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.24 เยน จาก 123.75 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9631 ฟรังก์ จาก 0.9627 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7282 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7278 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,440.59 จุด ลดลง 127.94 จุด -0.73%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,039.78 จุด ลดลง 48.85 จุด -0.96%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,067.64 จุด ลดลง 12.01 จุด -0.58%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,505.13 จุด ลดลง 74.68 จุด -1.13%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,056.40 จุด ลดลง 291.05 จุด -2.56%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,927.60 จุด ลดลง 129.76 จุด -2.57%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,556.68 จุด ลดลง 211.18 จุด -2.41%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,350.10 จุด ลดลง 194.43 จุด -0.95%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,038.81 จุด ลดลง 7.15 จุด -0.35%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,579.20 จุด เพิ่มขึ้น 22.40 จุด +0.40%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,589.90 จุด เพิ่มขึ้น 23.80 จุด +0.43%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,725.56 จุด ลดลง 345.35 จุด -8.48%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,547.44 จุด ลดลง 118.08 จุด -1.54%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,351.96 จุด ลดลง 776.55 จุด -3.09%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,771.29 จุด ลดลง 85.31 จุด -1.76%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,709.76 จุด ลดลง 11.00 จุด -0.64%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,313.42 จุด ลดลง 39.23 จุด -1.17%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,561.38 จุด ลดลง 550.93 จุด -1.96%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2214927

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

11753746_10153558581607450_2322196766844117622_n.jpg?oh=9b93385716dab2ab1100baee793208fd&oe=565415C3&__gda__=1447935281_2b787be5d9d1133aeb4e4107087d811a

"พระสุเทพ"ลาสิกขาแล้ว เตรียมแถลงข่าว 30 ก.ค.นี้#Nationtv

หลังสึกนายสุเทพใส่เสื้อเชิร์ตสีฟ้าอ่อน ปักสัญลักษณ์ธงชาติหน้าอกด้านซ้ายเหมือน กปปส.เดิม

http://www.nationtv....tics/378465404/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามตลาดตปท.,กังวลศก.ในประเทศ-หุ้นจีนร่วงแรง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558 09:21:56 น.

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเปิดในแดนลบ และทิศทางโดยรวมน่าจะปรับตัวลงต่อเนื่องไม่แตกต่างจากตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่ต่างปรับตัวลงกัน โดยคาดว่าแรงขายจะยังมีเข้ามา แต่แรงซื้ออาจเป็นได้แค่เทคนิคเคิลรีบาวน์

 

 

 

เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงหลักของตลาดฯยังเป็นเรื่องเดิมจากเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ดี และยังมาย้ำที่ตัวเลขการส่งออกที่ไม่ดีด้วย ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะถูกปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(GDP) ได้อีกรอบ และจะไปกระทบบริษัทจดทะเบียนให้ถูก Down grade ลงมา รวมถึงตลาดยังรอดูการปรับคณะกรัฐมนตรี (ครม.)ด้านเศรษฐกิจอีกด้วย

 

ส่วนปัจจัยจากต่างประเทศตอนนี้ก็หันมาโฟกัสที่จีน จากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนไม่ดี ตลาดหุ้นจีนมีความผันผวนค่อนข้างมาก และเช้านี้ตลาดจีนก็ร่วงลงแรง ขณะที่จีนนับเป็นผู้บริโภครายใหญ่ในอาเซียน โดยเฉพาะในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งหากเศรษฐกิจจีนมีปัญหาก็อาจจะกระทบต่อเนื่องได้

 

ส่วนสหรัฐฯเวลานี้อยู่ในช่วง Wait & See รอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด

 

อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2215131

 

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงเช้านี้ เหตุวิตกตลาดหุ้นจีนทรุด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558 08:46:23 น.

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากการร่วงลงของตลาดหุ้นจีนเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 0.7% แตะ 139.94 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,188.57 จุด ลดลง 161.53 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,573.14 จุด ลดลง 152.42 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,269.90 จุด ลดลง 82.06 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,566.42 จุด เพิ่มขึ้น 9.74 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,026.33 จุด ลดลง 12.48 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,305.26 จุด ลดลง 8.16 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,708.62 จุด ลดลง 1.14 จุด

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2215110

 

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.1154 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558 08:50:01 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ 6.1154 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2215114

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มูดี้ส์เตือนแบงก์เอเชียส่อเผชิญภาวะฟองสบู่

"มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส" เตือน ธนาคารพาณิชย์ในเอเชียเสี่ยงเผชิญภาวะฟองสบู่แตกทางสินทรัพย์

นายยูจีน ทาร์ซิมานอฟ รองประธาน มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักลงทุนที่มีต่อธนาคารพาณิชย์ในเอเชียระยะนี้แสดงให้เห็นว่า ภาวะฟองสบู่แตกทางสินทรัพย์ถือเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจมหภาคที่ใหญ่ที่สุดที่ธนาคารเอเชียจะเผชิญในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ส่วนภัยคุกคามอันดับสองคือการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในจีน

 

“เรามีความเห็นตรงกันเป็นส่วนใหญ่ ว่าภาวะฟองสบู่ทางสินทรัพย์ โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงด้านเครดิตที่ สำคัญสำหรับธนาคารพาณิชย์ในปี 2015 และ 2016 แต่เป็นความเสี่ยงที่อยู่ในระดับที่จัดการได้”

ทั้งนี้ราคาอสังหาริมทรัพย์พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วมากในฮ่องกง อินเดีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ นับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินโลก ในปี 2008-2009 เป็นต้นมา ซึ่งมูดีส์มองว่า ผู้ควบคุมกฎระเบียบการธนาคารในฮ่องกง, มาเลเซีย และสิงคโปร์ ได้ดำเนินขั้นตอนที่หลากหลายในการลดความร้อนแรงในตลาดอสังหา

ริมทรัพย์ไปแล้ว และสิ่งนี้น่าจะช่วยลดความเสี่ยงสำหรับภาคธนาคาร

นายทาร์ซิมานอฟกล่าวถึงเรื่องนี้หลังจากมูดี้ส์เพิ่งเผยแพร่รายงานวิเคราะห์ภาคธนาคารเอเชียหัวข้อ “ผลสำรวจของมูดี้ส์ระบุว่า ภาวะฟองสบู่ทางสินทรัพย์คือปัจจัยเสี่ยงทางเครดิต ที่ใหญ่ที่สุด ไม่ใช่ความผันผวนในตลาด”

โดยรายงานฉบับดังกล่าวระบุถึงผลสำรวจความเห็นผู้เกี่ยวข้องกับตลาดราว 230 คนที่เข้าร่วมการ ประชุมภาคธนาคารประจำปีของมูดี้ส์ที่จัดขึ้นที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ในเดือนก.ค. 2015 ซึ่งผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า ภายในทวีปเอเชียนั้น จีนกับอินโดนีเซีย

ที่มา : Bangkokbiznews

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธปท.ผวาเอ็นพีแอลโต หนี้เน่าไตรมาสสองพุ่งทะลุ 1.3 หมื่น ล.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รายงานตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของระบบสถาบันการเงินไทย ล่าสุดสิ้นเดือน มิ.ย.58 หรือสิ้นไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ พบว่า เอ็นพีแอลของระบบสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตามภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย โดยสิ้นไตรมาสที่ 2 ระบบสถาบันการเงินไทยมีเอ็นพีแอลรวม (Gross NPLs) ทั้งสิ้น 311,578 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.38% ของสินเชื่อรวมทั้งระบบ เพิ่มขึ้น 13,257 ล้านบาท จากไตรมาสแรกโดยเอ็นพีแอล ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความสามารถการชำระหนี้ของลูกหนี้ที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวและภาพรวมเอ็นพีแอลยังคงเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 หากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว

 

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของเอ็นพีแอลไม่ได้เพิ่มขึ้นมาจนน่าเป็นห่วง ส่วนหนึ่งเนื่องจากนโยบายของ ธปท.ที่สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์เข้าไปดูแล และปรับโครงสร้างหนี้ลูกค้าของธนาคารพาณิชย์ตั้งแต่เริ่มมีปัญหาขาดส่ง โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ทำให้หนี้ที่เริ่มขาดส่งส่วนหนึ่งสามารถกลับไปเป็นหนี้ดีได้โดยไม่เป็นเอ็นพีแอล หรือมีการตัดจากบัญชีไปก่อนเป็นเอ็นพีแอล

นอกจากนั้น หากพิจารณาเอ็นพีแอลสุทธิ หรือเอ็นพีแอลที่หักสำรองหนี้สงสัยจะสูญของธนาคารพาณิชย์ แม้จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยสิ้นไตรมาสที่ 2 หนี้เอ็นพีแอล สุทธิ 152,797 ล้านบาท หรือ 1.18% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 4,621 ล้านบาท จากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมีเอ็นพีแอลสุทธิอยู่ที่ 148,176 ล้านบาท หรือ 1.15% ของสินเชื่อรวม โดยการเพิ่มขึ้นของเอ็นพีแอล ของระบบธนาคารพาณิชย์ ในไตรมาสนี้ เป็นการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ไทย และธนาคารพาณิชย์ลูกครึ่งเป็นหลัก.

http://www.thairath.co.th/content/514562

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สามารถติดตามข่าวสารต่างๆของทาง บริษัท MTS GOLD GROUP ได้ในช่องทางด้านล่างนี้ หรือ ติดต่อได้ที่เบอร์ 02-770-7777 ในวันและเวลาทำการ -------------------------

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 34.87/92 ไร้ปัจจัยใหม่ ตลาดรอผลประชุมเฟดเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558 17:30:38 น.

นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.87/92 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.83/85 บาท/ดอลลาร์

 

วันนี้เงินบาทยังแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ประกอบกับตลาดยังรอผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ในระหว่างวันที่ 28-29 ก.ค.นี้ก่อน

 

 

 

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.80 - 34.95 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 123.70 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 123.00 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1050 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1109 ดอลลาร์/ยูโร

 

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,408.07 จุด ลดลง 4.48 จุด, -0.32%

- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) ของไทยในปี 58 ใหม่มาเหลืออยู่ที่ 3% จากก่อนหน้าที่คาดการณ์ไว้ 3.7% โดยคาดว่าช่วงครึ่งปีแรกเศรษฐกิจจะโตได้ 3% และคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังจะโตได้ไม่ต่ำกว่า 3% ขณะที่คาดว่าการส่งออกของไทยในปีนี้จะหดตัว 4% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะโตได้ 0.2%

 

- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้น่าจะเติบโตได้ราว 3% เนื่องจากขณะนี้ภาครัฐได้ใช้จ่ายเงินไปมากแล้ว และมีการลงทุนของภาคเอกชนเข้ามาเสริม ขณะที่มีปัจจัยหลักคือการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นเข้ามาช่วยลดผลกระทบจากการส่งออกที่หดตัวไปได้มากในช่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แต่เชื่อว่าในช่วงไตรมาส 4/58 การส่งออกน่าจะกลับมาดีขึ้นหลังจากเงินบาทอ่อนค่าลงไปมากแล้ว

 

- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) ในภาพรวมเดือน มิ.ย.58 หดตัวร้อยละ 8.0 โดยดัชนีอยู่ที่ 155.29 ลดลงจากเดือนมิ.ย.57 ซึ่งดัชนีอยู่ที่ 168.90 โดยอุตสาหกรรมสำคัญที่ลดลง อาทิ HDD โทรทัศน์ รถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ และเบียร์ อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อตอบสนองในประเทศ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.4 โดยเพิ่มขึ้นจากการกลั่นน้ำมันเป็นหลัก

 

- นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรและการเงิน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า การที่รัฐบาลจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยให้มีการฟื้นตัวขึ้นกลับมานั้นควรกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศให้มีการเติบโตได้ดีขึ้นก่อน อย่างเช่น การกระตุ้นการบริโภคและการท่องเที่ยว ซึ่งมองว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้องมากกว่าการเน้นกระตุ้นภาคส่งออก เนื่องจากขณะนี้ภาวะเศรษฐกิจในตลาดโลกยังไม่ฟื้นตัว เห็นได้จากตัวเลขการส่งออกล่าสุดในเดือน มิ.ย.ที่ออกมาติดลบ 7.8%

 

- คณะกรรมาธิการด้านบริหารและกำกับดูแลสินทรัพย์รัฐบาลของสภาแห่งรัฐจีน (SASAC) เปิดเผยว่า ผลกำไรของรัฐวิสาหกิจมีเสถียรภาพดีในช่วงครึ่งปีแรก โดยภาครัฐวิสาหกิจมีรายได้จากการดำเนินการอยู่ที่ 11 ล้านล้านหยวน (1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยสามารถทำกำไรได้ถึง 6.43 แสนล้านหยวน

 

- -ธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ทางธนาคารจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่รัดกุมในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แม้ว่ามีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นผลมาจากการพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมาของราคาเนื้อสุกร ที่ถือเป็นอาหารหลักของประเทศ

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงอ่อนตัวลง 75 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 10,150 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,097.95 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 8.11 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง

 

- เอชเอสบีซี ได้ปรับดคาดการณ์ราคาทองเฉลี่ยในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1,160 ดอลลาร์ จากเดิมที่ 1,234 ดอลลาร์ ขณะที่ลดแนวโน้มราคาทองเฉลี่ยในปีหน้าสู่ระดับ 1,205 ดอลลาร์ จากที่ประเมินไว้ 1,275 ดอลลาร์ พร้อมเตือนว่าราคาทองยังมีแนวโน้มจะเผชิญแรงกดดันในระยะใกล้นี้

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2215763

 

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 28 กรกฎาคม 2558

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558 17:05:21 น.

นายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ เปิดเผยรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (Trafficking in Persons (TIP) Report) ประจำปี 2015 เมื่อวานนี้ โดยสหรัฐยังคงจัดให้ไทยอยู่ในระดับเทียร์ 3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

 

-- นายฮวาง คโย-อัน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ประกาศยุติการระบาดของโรคทางเดินหายใจสายพันธุ์ตะวันออกกลาง หรือเมอร์ส (MERS) เนื่องจากไม่มีรายงานกรณีการติดเชื้อใหม่ในช่วงกว่า 3 สัปดาห์ และผู้ต้องสงสัยติดเชื้อเมอร์สทุกรายได้พ้นจากการเฝ้าสังเกตอาการแล้ว

 

 

 

-- ธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ทางธนาคารจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่รัดกุมในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แม้ว่ามีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นผลมาจากการพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมาของราคาเนื้อสุกร ที่ถือเป็นอาหารหลักของประเทศ

 

-- คณะกรรมาธิการด้านบริหารและกำกับดูแลสินทรัพย์รัฐบาลของสภาแห่งรัฐจีน (SASAC) เปิดเผยว่า ผลกำไรของรัฐวิสาหกิจมีเสถียรภาพดีในช่วงครึ่งปีแรก

 

-- นายอเล็กซี อัลยูคาเยฟ รัฐมนตรีพัฒนาเศรษฐกิจของรัสเซียกล่าวในระหว่างการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของเบลารุสว่า เศรษฐกิจรัสเซียจะขยายตัว 2.3% ในปีหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวที่ดีขึ้นจากปีนี้

 

-- มูดีส์เปิดเผยว่า บรรดาบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนได้ชะลอการออกตราสารหนี้ในต่างประเทศลงอย่างมากในปีนี้ อันเนื่องมาจากตราสารหนี้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนมีจำนวนค่อนข้างน้อย ประกอบกับที่กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้ลดการซื้อที่ดิน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2215725

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดร่วง 12.60 จุด วอลุ่มเทรดบาง-ชะลอลงทุนหลังกังวลเศรษฐกิจในประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558 17:29:50 น.

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,466 จุด ลดลง 12.60 จุด (-0.85%) มูลค่าการซื้อขาย 25,246.56 ล้านบาท

 

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดของวันที่ 1,481.27 จุด และทำระดับต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,466.64 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 188 หลักทรัพย์ ลดลง 687 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 213 หลักทรัพย์

 

 

 

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีฯปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ โดยปัจจัยสำคัญที่ยังกดดันตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ยังคงเป็นภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่เห็นแนวโน้มการฟื้นตัวกลับมาดีขึ้น ทั้งการส่งออกก็ยังไม่ดี และยังมีปัญหาภัยแล้งเข้ามาซ้ำเติม ซึ่งกระทบภาคการบริโภค ทำให้มีผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศด้วย

 

นอกจากนี้ ยังกระทบผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในประเทสอีกด้วย โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่อาจได้รับผลกระทบจากสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดราย(NPL)ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ปริมาณการซื้อขายน้อย เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังชะลอการลงทุนเพื่อรอปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามา

 

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(21 ก.ค.)นายธนเดช คาดว่า ตลาดหุ้นไทยคงยังไปได้ไม่ไกล เป็นช่วงที่ภาวะตลาดซึม เนื่องจากกระแสเงินจากนักลงทุนต่างชาติยังไม่เข้ามา ขณะที่รายย่อยชะลอการลงทุน และนักลงทุนสถาบันในประเทศก็เลือกลงทุนหุ้นบางตัว อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ยังคงต้องติดตามผลดำเนินงานไตรมาส 2/58 ของบริษัทจดทะเบียนในประเทศที่เริ่มทยอยประกาศออกมาแล้ว

 

พร้อมให้แนวต้าน 1,480 จุด แนวรับ 1,450-1,460 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,530.87 ล้านบาท ปิดที่ 330.00 บาท ลดลง 4.00 บาท

 

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,367.83 ล้านบาท ปิดที่ 188.00 บาท ลดลง 1.00 บาท

 

TPIPL มูลค่าการซื้อขาย 1,103.08 ล้านบาท ปิดที่ 2.50 บาท ลดลง 0.14 บาท

 

JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,006.54 ล้านบาท ปิดที่ 5.20 บาท ลดลง 0.05 บาท

 

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 636.72 ล้านบาท ปิดที่ 250.00 บาท ลดลง 2.00 บาท

 

อินโฟเควสท์ โดย จีรายุทธ จันทรงสกุล/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2209355

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 28 กรกฎาคม 2558 โดย YLG

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558 17:04:51 น.

กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--พีอาร์ดีดี

สภาวะตลาดวันที่ 28 กรกฎาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,092.90-1,098.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,150 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,200 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ15 อยู่ที่ 18,230 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,270 บาท

 

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.24 น.ของวันที่ 28/07/15)

แนวโน้มวันที่ 29 กรกฎาคม 2558

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จัดการประชุมนโยบายในวันอังคารและพุธนี้ ซึ่งกรรมการของเฟดอาจจะส่งสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ว่าจะเกิดขึ้นอย่างไรหลังจากเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งขึ้น ก่อนหน้านี้ผู้กำหนดนโยบาย 15 จาก 17 รายของเฟด กล่าวในการประชุมเดือนมิถุนายนว่าเฟดควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2015 แต่ผู้กำหนดนโยบายที่มีความเห็นแตกต่างกันเพียงประเด็นที่ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวหรือสองครั้งในปีนี้เท่านั้น ประเด็นดังกล่าวยังกดดันให้ราคาทองคำทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง ขณะที่กระแสคาดว่าราคาทองคำจะยังไม่ฟื้นตัวในระยะสั้นส่งผลให้ตลาดทองคำขาดแรงซื้อเข้ามาสนับสนุนการขยับขึ้นของราคา ประกอบกับสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นก่อนที่เฟดจะจัดประชุมกำหนดนโยบายการเงิน เมื่อการดิ่งลงอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นจีนก็ทำให้นักลงทุนเพิ่มความต้องการซื้อดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าเป็นที่แน่นอนว่าราคาทองคำจะร่วงลงต่อไปแต่ราคาทองคำก็อาจร่วงลงเพียงในวงจำกัด เพราะว่านักเก็งกำไรหลายรายได้ปรับสถานะลงทุนตามการคาดการณ์ที่ว่าราคาทองคำจะร่วงลงไปแล้ว แม้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวยังไม่ชัดเจน วายแอลจีแนะนำว่า นักลงทุนสามารถหาจังหวะซื้อเล่นสั้นเมื่อราคาย่อตัวลงไปและไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,085 หรือ 1,078 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปิดสถานะทำกำไรหากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,105-1,115 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับอีกครั้ง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้ชะลอการลงออกไปก่อน เนื่องจาก ตลาด Thailand Futures Exchange (TFEX) จะปิดทำการเนื่องใน "วันอาสาฬหบูชา" ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งนักลงทุนควรวางแผนการลงทุนอย่างรอบครอบเพราะตลาดทองคำต่างประเทศยังเปิดทำการปกติส่งผลให้จะเกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

 

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้อาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,085 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณแนวรับ 1,078 หรือ 1,070 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,105 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,115 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,085 (17,890บาท) 1,078 (17,780บาท) 1,070 (17,650บาท)

แนวต้าน 1,105 (18,230บาท) 1,115 (18,390บาท) 1,122 (18,510บาท)

GOLD FUTURES (GFQ15)

แนวรับ 1,085 (17,960บาท) 1,078 (17,850บาท) 1,070 (17,720บาท)

แนวต้าน 1,105 (18,300บาท) 1,115 (18,460บาท) 1,122 (18,580บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2215721

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี deb เพื่อน พี่น้อง ข่าวเช้าจ้า

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 29 กรกฎาคม 2558 07:53:37 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ก.ค.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ รวมถึงฟอร์ด มอเตอร์ และยูพีเอส ขณะที่นักลงทุนจับตาดูประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,630.27 จุด พุ่งขึ้น 189.68 จุด หรือ +1.09% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,089.21 จุด เพิ่มขึ้น 49.43 จุด หรือ +0.98% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,093.25 จุด เพิ่มขึ้น 25.61 จุด หรือ +1.24%

 

-- -ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) ขานข่าวการซื้อกิจการและควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกันหลายวันก่อนหน้านี้

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.1% ปิดที่ 390.02 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,977.32 จุด เพิ่มขึ้น 49.72 จุด หรือ +1.01% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,173.91 จุด เพิ่มขึ้น 117.51 จุด หรือ +1.06% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,555.28 จุด เพิ่มขึ้น 50.15 จุด หรือ +0.77%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วันเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นอาร์เอสเอ อินชัวรันซ์ กรุ๊ป ที่พุ่งขึ้นจากข่าวการเทคโอเวอร์ ท่ามกลางกิจกรรมการซื้อและควบรวมกิจการที่เพิ่มมากขึ้น

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 50.15 จุด หรือ 0.77% ที่ 6,555.28 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ ปิดที่ 47.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 17 เซนต์ ปิดที่ 53.3 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,096.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 3.7 เซนต์ ปิดที่ 14.642 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 2.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 986.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 8.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 621.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยคาดหวังว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1048 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1097 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5601 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5559 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.61 เยน จาก 123.24 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9630 ฟรังก์ จาก 0.9631 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7326 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7282 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,630.27 จุด เพิ่มขึ้น 189.68 จุด +1.09%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,089.21 จุด เพิ่มขึ้น 49.43 จุด +0.98%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,093.25 จุด เพิ่มขึ้น 25.61 จุด +1.24%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,555.28 จุด เพิ่มขึ้น 50.15 จุด +0.77%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,173.91 จุด เพิ่มขึ้น 117.51 จุด +1.06%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,977.32 จุด เพิ่มขึ้น 49.72 จุด +1.01%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,582.49 จุด เพิ่มขึ้น 25.81 จุด +0.30%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,328.89 จุด ลดลง 21.21 จุด -0.10%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,571.00 จุด ลดลง 8.20 จุด -0.15%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,584.70 จุด ลดลง 5.20 จุด -0.09%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,039.10 จุด เพิ่มขึ้น 0.29 จุด +0.01%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,663.00 จุด ลดลง 62.56 จุด -1.68%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,479.03 จุด ลดลง 68.41 จุด -0.91%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,503.94 จุด เพิ่มขึ้น 151.98 จุด +0.62%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,714.76 จุด ลดลง 56.53 จุด -1.18%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,699.70 จุด ลดลง 10.06 จุด -0.59%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,281.09 จุด ลดลง 32.33 จุด -0.98%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,459.23 จุด ลดลง 102.15 จุด -0.37%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2215885

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ดีดตัวขึ้น ก่อนทราบผลประชุมเฟด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 29 กรกฎาคม 2558 07:24:00 น.

ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยคาดหวังว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1048 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1097 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5601 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5559 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.61 เยน จาก 123.24 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9630 ฟรังก์ จาก 0.9631 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7326 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7282 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น เนื่องจากตลาดหันมาให้ความสนใจกับการประชุมนโยบายการเงินของเฟดที่จะเสร็จสิ้นในวันนี้ ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ ตามเวลาไทย

 

นักลงทุนคาดกันว่าเฟดจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับช่วงเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ในแถลงการณ์หลังการประชุม ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมาได้ช่วยหนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจจะเกิดขึ้นภายในสิ้นปีนี้

 

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในสหรัฐจะดึงดูดให้นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนสูงหันมาสนใจดอลลาร์

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ บริษัทมาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นสำหรับภาคบริการของสหรัฐ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 55.2 ในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 55.0 โดยได้แรงหนุนจากการขยายตัวในการจ้างงานและธุรกิจใหม่

 

ก่อนหน้านี้ ดัชนี PMI ภาคบริการอยู่ที่ระดับ 54.8 ในเดือนมิ.ย. โดยตัวเลขที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2215882

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: แรงซื้อเก็งกำไร หนุนดาวโจนส์ปิดพุ่ง 189.68 จุด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 29 กรกฎาคม 2558 06:20:53 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ รวมถึงฟอร์ด มอเตอร์ และยูพีเอส ขณะที่นักลงทุนจับตาดูประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,630.27 จุด พุ่งขึ้น 189.68 จุด หรือ +1.09% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,089.21 จุด เพิ่มขึ้น 49.43 จุด หรือ +0.98% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,093.25 จุด เพิ่มขึ้น 25.61 จุด หรือ +1.24%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการ อันเนื่องมาจากหลากหลายปัจจัย รวมถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและการร่วงลงอย่างหนักของเศรษฐกิจจีน

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง โดยยูพีเอส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 ปีนี้อยู่ที่ 1.35 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นยูพีเอสทะยานขึ้น 5.07%

 

ขณะที่ฟอร์ด มอเตอร์ เปิดเผยรายได้สุทธิในไตรมาส 2 ปีนี้ อยู่ที่ 1.9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 574 ล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้ว ซึ่งรายงานดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้นฟอร์ดพุ่งขึ้น 1.92%

 

ทั้งนี้ ปัจจัยบวกจากแรงซื้อเก็งกำไรและผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน สามารถสกัดปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 90.9 ในเดือนก.ค. หลังแตะระดับ 99.8 ในเดือนมิ.ย. และดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกับในเดือนเม.ย. แต่ต่ำกว่าระดับ 5.6% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

 

นักลงทุนจับตาดูการประชุมระยะเวลา 2 วันของเฟดซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า ในการประชุมครั้งนี้เฟดอาจจะยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่อาจจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.หรือธ.ค.

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ สหรัฐจะเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย. วันพฤหัสบดีจะมีการเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกจีดีพีช่วงไตรมาส 2/2558 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2215870

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...