ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ราคาทองคำวันนี้ วิเคราะห์ โดย Ausiris 13 มี.ค. 2560

ราคาทองวันนี้ มีปัจจัยส­­­­­­­­­ำคัญอะไรบ้าง ราคาทองจะเป็นเช่นไร รับชมได้ในคลิปนี้ครับ... ติดตามราคาทองคำแบบ Real Time ได้หรือ https://www.ausiris.co.th ติดต..YOUTUBE.COM

YLGResearch

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

15036517_1768774200051412_4467412568767554171_n.jpg?oh=c1b70e1494b3c7c63aba19e931ef257a&oe=595B0D75

 

HSHsocial

 

 

NationTV22

 

ราคาทองคำวันนี้ 14 มี.ค. 60

ราคาทองคำวันนี้ 14 มี.ค. 60

AUSIRIS.CO.TH

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำอังคารที่ 14 มีนาคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 14 มีนาคม 2560 09:59:43 น.

กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบแคบรอข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันพรุ่งนี้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 90% ขณะที่เมื่อวาน กองทุนทองคำSPDR มีการเข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก 6.81 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 832.03 ตัน สำหรับเมื่อวานนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ ขณะที่คืนนี้จะมีข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ PPI และ Core PPI ที่คาดว่าจะออกมาแย่ลงเล็กน้อย

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำยังเป็นลักษณะ Technical Rebound และยังไม่มีความชัดเจนของทิศทางระยะสั้น ขณะที่ราคามีการดีดตัวกลับมายืนเหนือ 1,200 เหรียญ และมีการแกว่งตัวบริเวณ 1,202 – 1,207 เหรียญในตลาด COMEX ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนที่แน่นอนของราคา และแนวโน้มระยะกลางของราคาทองคำยังเป็นทิศทางขาลง โดยวันนี้ราคาทองคำจะมีแนวรับ 1,195 เหรียญ และมีแนวต้านที่ระดับ 1,211 เหรียญ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ปรับพอร์ตสมดุล รอคอยความชัดเจนของทิศทาง

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

บริหารพอร์ตสมดุล รอคอยความชัดเจนของทิศทาง

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ทยอยลดสถานะและปรับพอร์ตให้สมดุลเช่นกัน

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

Wait&See รอความชัดเจนของทิศทาง หรือจนกว่าจะทราบผลประชุมเฟดในวันที่ 15 มีนาคมนี้ เวลาตี 2 บ้านเรา

 

Gold Futures J17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,180 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,380 บาท

Gold Futures M17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,270 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,470 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2616622

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $1.7 เหตุข้อพิพาทดัทช์-ตุรกีหนุนแรงซื้อทอง

 

<span style="font-size: 18px;">ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 มีนาคม 2560 07:17:55 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) โดยสัญญาทองคำปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 10 วันทำการ เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างตุรกีและเนเธอร์แลนด์ได้ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.7 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ระดับ 1,203.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 4.9 เซนต์ หรือ 0.29% ปิดที่ 16.972 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 3 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 941.2 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 9.30 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 754.45 ดอลลาร์/ออนซ์

 

<span style="color: rgb(0, 0, 0); font-family: Thonburi, Tahoma, sans-serif;">นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากเกิดสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างเนเธอร์แลนด์และตุรกี โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุขบวนรถของเบตุล ซายัน คายา รัฐมนตรีกระทรวงนโยบายครอบครัวและสังคมของตุรกี ถูกสกัดไว้เป็นเวลาหลายชั่วโมงในบริเวณใกล้ๆกับสถานกงสุลตุรกีในเมืองร็อตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยนายคายาต้องการที่จะเดินทางเข้าไปยังสถานกงสุลตุรกีเพื่อกล่าวปราศรัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับฟังเกี่ยวกับการโหวตลงคะแนนสน%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

15078526_1768780746717424_3737217771023333130_n.jpg?oh=111f887f5a073d383acc3e5310c9e3cb&oe=592B9B4E

17309344_795997177220174_4803075208171010205_n.jpg?oh=eec186a3515b6a2a0ff63e31014b809f&oe=5963428A

Cr.thairath

เปลี่ยนเครื่องทรง 'พระแก้วมรกต'

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) จากเครื่องทรงฤดูหนาวเป็นเครื่องทรงสำหรับฤดูร้อน โดยเมื่อช่วงค่ำวันที่ 13 มี.ค.สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินยังพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อเสด็จเข้าพระอุโบสถ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปด้านหลังฐานชุกชี ขึ้นเกยไปยังบุษบกที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงกราบ และทรงถอดมงกุฎจากพระเศียรพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร มอบให้เจ้าพนักงาน ทรงสรงพระสุคนธ์ที่พระอังสาซ้ายขวาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เสร็จแล้วทรงใช้ผ้าขาวเช็ดตามองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร จากนั้นทรงสวมมงกุฎประจำฤดูร้อนถวายที่พระเศียรพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร จากนั้นเสด็จลงจากเกยไปประทับพระเก้าอี้ ทรงหยิบผ้าขาวที่ซับองค์พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ทรงชุบน้ำพระสุคนธ์ในโถแก้ว แล้วทรงบีบลงในโถแก้วและหม้อน้ำ เสร็จแล้วเสด็จพระราชดำเนินไปที่ฐานชุกชีประดิษฐานพระสัมพุทธพรรณี ทรงถอดยอดยศพระรัศมีพระสัมพุทธพรรณี และทรงสวมพระรัศมีประจำฤดูร้อนถวายเปลี่ยนใหม่ ทรงพระสุหร่ายเรียบร้อยแล้ว ทรงจุดเทียนห่วงบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และพระสัมพุทธพรรณี ทรงบูชาพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา

 

จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับพระราชอาสน์ เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระมหาสังข์เพชรน้อยเข้าถวาย ทรงรับพระมหาสังข์แล้วสรงที่พระเศียร เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏเข้าถวายพระราชทานน้ำมหาสังข์ทักษิณาวัฏแก่พระราชวงศ์ที่มาเฝ้าฯ จากนั้น ทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์แก่ข้าราชการที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทภายในพระอุโบสถ ประทับพระราชอาสน์ที่เดิม พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนครบสามรอบ แล้วเจิมที่ฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เสร็จแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการทองใหญ่ เสด็จออกจากพระอุโบสถ และทรงพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์สรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรแก่ประชาชนที่มาเฝ้าฯ จากนั้นเสด็จฯกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณโดยรอบพระอุโบสถ มีพสกนิกรเป็นจำนวนมาก เดินทางมาจับจองพื้นที่โดยรอบพระอุโบสถอย่างเนืองแน่นตั้งแต่ช่วงบ่าย เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้ และคอยรับพระราชทานน้ำพระสุหร่ายน้ำพระพุทธมนต์สรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระสุหร่ายให้แก่พสกนิกรที่มาเฝ้ารับเสด็จ หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธี เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตของตัวเอง โดยเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้อำนวยความสะดวกด้วยการจัดเตรียมเสื่อมาปูไว้ให้ประชาชนได้นั่งเพื่อเฝ้ารับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

 

ดีจ้าเพื่อน พี่น้อง

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพุธที่ 15 มีนาคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 15 มีนาคม 2560 09:41:12 น.

กรุงเทพฯ--15 มี.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในกรอบแคบ โดยมีการปรับตัวหลุด 1,200 เหรียญในช่วงปิดตลาด COMEXโดยราคาทองคำเองยังคงเคลื่อนไหวระหว่าง 1,200 – 1,205 เหรียญ โดยที่ตลาดให้ความสนใจกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดมากกว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมา ซึ่งเมื่อวานนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันได้แก่ PPI และ Core PPI ยังออกมาในเชิงทรงตัว ขณะที่วันนี้ตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ยังคาดว่าจะมีการปรับตัวลดลงบ้างเล็กน้อย แต่ตลาดทองคำน่าจะให้ความสนใจไปยังถ้อยแถลงของเฟดในช่วงเวลาประมาณตี 1 เป็นต้นไปตามเวลาไทย สำหรับดัชนีดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัวบริเวณ 101.7 จุด ขณะที่ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆระหว่าง 35.20 – 35.36 บาท/ดอลลาร์ ด้านราคาทองคำไทยหลังจากหลุด 1,200 เหรียญ ก็มีแรงซื้อกลับเล็กน้อยและทำให้ทองคำกลับมายืนเหนือ 1,200 เหรียญ ขณะที่กองทุนทองคำ SPDR ซื้อเพิ่ม 2.96 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 834.99 ตัน

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำระยะสั้นยังเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทาง ขณะที่ระยะกลางและยาวเป็นทิศทางขาลง หลังจากที่มีTechnical Rebound ขึ้นไปทดสอบ 1,210 เหรียญ สำหรับวันนี้คาดว่าเฟดน่าจะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และราคาทองคำน่าจะปรับตัวลดลงมา โดยที่แนวรับสำคัญของทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,195 เหรียญ ซึ่งถือเป็นแนวรับแรก ถ้าหลุดลงมาจะมีแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,185 เหรียญ ยังคาดว่ามีโอกาสเป็นไปได้ที่ทองคำน่าจะปรับตัวลงไปไม่ลึกนัก และมีโอกาสกลับขึ้นมา 1,200 เหรียญได้ ขณะที่แนวต้านจะอยู่ที่ระดับ 1,210 เหรียญ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับถ้อยแถลงของเฟดเป็นสำคัญว่าจะทำการขึ้นดอกเบี้ยต่อหรือไม่ สำหรับราคาทองคำไทยจะมีแนวรับ 20,000 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 20,300 บาท/บาททองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

Wait&See หาจังหวะเข้าซื้อหรือขายในช่วงที่มีการประกาศข่าวของเฟดที่ชัดเจน

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ปรับพอร์ตสมดุล หาจังหวะลดสถานะหรือปิดสถานะก่อนทราบผลประชุมเฟด

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ เน้นเข้าออกไว รอผลประชุมเฟด

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

Wait&See รอความชัดเจนของทิศทาง และการประชุมเฟดในช่วงเวลาประมาณตี 1 บ้านเราคืนนี้

 

Gold Futures J17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,160 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,360 บาท

Gold Futures M17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,240 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,440 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2617395

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

<p><span style="font-size: 18px;">World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 มีนาคม 2560 07:31:25 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 14 มี.ค.2560

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มสายการบิน หลังจากสายการบินต่างๆได้ยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก อันเนื่องมาจากผลกระทบของพายุหิมะ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า สมาชิกของกลุ่มโอเปกหลายรายยังคงผลิตน้ำมันเกินกว่าโควตาที่กำหนด นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,837.37 จุด ลดลง 44.11 จุด หรือ -0.21% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,856.82 จุด ลดลง 18.96 จุด หรือ -0.32% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,365.45 จุด ลดลง 8.02 จุด หรือ -0.34%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงเนื่องจากรายงานที่ว่า สมาชิกของกลุ่มโอเปกหลายรายยังคงผลิตน้ำมันเกินกว่าโควตาที่กำหนด นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์ และผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 373.46 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,974.26 จุด ลดลง 25.34 จุด หรือ -0.51% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,988.79 จุด ลดลง 1.24 จุด หรือ -0.01% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,357.85 จุด ลดลง 9.23 จุด หรือ -0.13%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) ด้วยแรงฉุดจากหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคารที่ปรับตัวลงกันถ้วนหน้า ขณะที่นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์การเมืองในอังกฤษ หลังนายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์เตรียมขอการอนุมัติจากรัฐบาลอังกฤษให้มีการจัดลงประชามติรอบที่ 2 เพื่อขอแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักร ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 9.23 จุด หรือ -0.13% ปิดที่ 7,357.85 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เปิดเผยรายงานว่า การผลิตน้ำมันของโอเปกปรับตัวลดลงในเดือน แต่สมาชิกโอเปกหลายรายยังไม่ได้ลดกำลังการผลิตในระดับที่ได้สัญญาไว้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 68 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 47.72 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 43 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 50.92 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) หลังจากมีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำด้วย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 1,202.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 4.9 เซนต์ หรือ 0.29% ปิดที่ 16.923 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 2.3 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 938.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 12.75 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 741.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดฉากการประชุมนโยบายการเงินซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน และจะสิ้นสุดลงในวันนี้ตามเวลาในสหรัฐ

 

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0620 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0658 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2164 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2235 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7568 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7578 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 114.66 เยน จากระดับ 114.80 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0092 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0074 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,365.45 จุด ลดลง 8.02 จุด, -0.34%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,856.82 จุด ลดลง 18.96 จุด, -0.32%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 20,837.37 จุด ลดลง 44.11 จุด, -0.21%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,974.26 จุด ลดลง 25.34 จุด, -0.51%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,988.79 จุด ลดลง 1.24 จุด, -0.01%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,357.85 จุด ลดลง 9.23 จุด, -0.13%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 29,442.63 จุด เพิ่มขึ้น 496.40 จุด, +1.71%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,722.47 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด, +0.03%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,143.40 จุด ลดลง 3.75 จุด, -0.12%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,431.59 จุด เพิ่มขึ้น 22.22 จุด, +0.41%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,827.95 จุด ลดลง 1.72 จุด, -0.01%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 714.71 จุด เพิ่มขึ้น 4.54 จุด, +0.64%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,261.75 จุด เพิ่มขึ้น 28.66 จุด, +0.40%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,239.33 จุด เพิ่มขึ้น 2.31 จุด, +0.07%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,133.78 จุด เพิ่มขึ้น 16.19 จุด, +0.76%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,609.50 จุด ลดลง 24.25 จุด, -0.12%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

14980599_1768773770051455_740430052974429649_n.jpg?oh=10209f0ea9df2a62dda8370c928a0a74&oe=592D803E

ดีจ้า เฟดมีมติขึ้นดอกเบี้ยตามคาด

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ 1.9 ดอลล์ ก่อนตลาดรู้ผลประชุมเฟด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2560 07:09:27 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงหลังจากตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการไปแล้ว

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ระดับ 1,200.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ทรงตัวที่ระดับ 16.923 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 936.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 3.75 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 745.45 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟดประจำเดือนมี.ค. โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดจะแถลงผลการประชุมหลังจากที่ตลาดทองคำปิดทำการไปแล้ว

 

CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 91% ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้น 6 จุดในเดือนมี.ค. แตะระดับ 71 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี

 

ทางด้านเฟดสาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) มีการขยายตัวติดต่อกัน 5 เดือนในมี.ค. โดยดัชนีภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 16.4 ในเดือนมี.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2617903

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.14 รับสต็อกน้ำมันดิบร่วงสวนทางคาดการณ์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2560 06:29:06 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าสต็อกจะเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 48.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 51.81 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าสต็อกจะเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน

 

ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบลดลง 237,000 บาร์เรล สู่ระดับ 528.2 ล้านบาร์เรล หลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 9 สัปดาห์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล

 

ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 4.2 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล

 

ข้อมูลของ EIA ออกมาสอดคล้องกับรายงานของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงสู่ระดับ 529.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันจะเพิ่มขึ้น

 

ทางด้านสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเมื่อวานนี้ว่า หากโอเปกยังคงลดกำลังการผลิตต่อไป จะส่งผลให้ตลาดเกิดภาวะขาดแคลนน้ำมัน 500,000 บาร์เรล/วันในช่วงครึ่งปีแรกนี้

 

IEA ยังระบุว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันโลกมีแนวโน้มลดลงจากระดับ 1.6 ล้านบาร์เรล/วันในปีที่แล้ว สู่ระดับ 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้

 

นอกจากนี้ IEA เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศโอเปกได้ลดกำลังการผลิตเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนก.พ. แต่ประเทศนอกกลุ่มโอเปกบางประเทศ ซึ่งแม้มีการลงนามในข้อตกลงลดกำลังการผลิต อาจผลิตน้ำมันเกินกว่าที่ตกลงกันไว้

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2617898

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบเงินสกุลหลัก หลังเฟดมีมติขึ้นดอกเบี้ยตามคาด

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2560 07:01:24 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) ภายหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือนในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.87 เยน จากระดับ 114.66 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0031 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0092 ฟรังก์สวิส

 

 

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0683 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0620 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2261 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2164 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7657 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7568 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากที่ประชุมเฟดมีมติด้วยคะแนนเสียง 9-1 ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 0.75-1.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ โดยเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน

 

แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า เฟดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว 2.1% ในปีนี้ และปีหน้า ก่อนที่จะชะลอลงสู่ 1.9% ในปี 2019 ส่วนตัวเลขอัตราการว่างงาน คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 4.5% ในช่วงสิ้นปีนี้ และจะทรงตัวที่ระดับดังกล่าวจนถึงปี 2019 นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.9% ในปีนี้ จากคาดการณ์เดิมที่ 1.8% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในระยะยาวเข้าใกล้ระดับ 2%

 

ทั้งนี้ เฟดคาดการณ์ว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ และปรับขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า แม้การปรับขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ แต่นักลงทุนก็ยังคงระมัดระวังในการซื้อขาย เพื่อรอดูสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปในปีนี้ สืบเนื่องจากความไม่แน่นอนในนโยบายการคลังของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยออกมานั้น เฟดสาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) มีการขยายตัวติดต่อกัน 5 เดือนในมี.ค. โดยดัชนีภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 16.4 ในเดือนมี.ค.

 

ขณะที่สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้น 6 จุดในเดือนมี.ค. แตะระดับ 71 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี

 

นักลงทุนจับตาเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2617901

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 112.73 จุด รับเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2560 06:01:49 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งนี้ปีนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,950.10 จุด เพิ่มขึ้น 112.73 จุด หรือ +0.54% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,900.05 จุด เพิ่มขึ้น 43.23 จุด หรือ +0.74% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,385.26 จุด เพิ่มขึ้น 19.81 จุด หรือ +0.84%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นหลังจากที่ประชุมเฟดมีมติด้วยคะแนนเสียง 9-1 ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 0.75-1.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน

 

แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า เฟดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว 2.1% ในปีนี้ และปีหน้า ก่อนที่จะชะลอลงสู่ 1.9% ในปี 2019 ส่วนตัวเลขอัตราการว่างงาน คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 4.5% ในช่วงสิ้นปีนี้ และจะทรงตัวที่ระดับดังกล่าวจนถึงปี 2019 นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.9% ในปีนี้ จากคาดการณ์เดิมที่ 1.8% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในระยะยาวเข้าใกล้ระดับ 2%

 

ทั้งนี้ เฟดคาดการณ์ว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ และปรับขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดย-สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านพุ่งขึ้น 6 จุดในเดือนมี.ค. แตะระดับ 71 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี

 

ทางด้านเฟดสาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) มีการขยายตัวติดต่อกัน 5 เดือนในมี.ค. โดยดัชนีภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 16.4 ในเดือนมี.ค.

 

หุ้น MSCI พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทได้ปฏิเสธข้อเสนอการควบรวมกิจการจาก S&P Global เนื่องจากราคาเสนอซื้อต่ำเกินไป

 

หุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 5.8% หลังจากซิตี้กรุ๊ปได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

 

ขณะที่หุ้นเอทีแอนด์ที ปรับขึ้น 1.2% หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรปได้อนุมัติให้เอทีแอนด์ทีเข้าซื้อกิจการไทม์ วอร์เนอร์ อิงค์ ในวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นไทม์ วอเนอร์ ดีดตัวขึ้น 0.4%

 

นักลงทุนจับตาเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2617895

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม 2560 07:29:31 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 มี.ค.2560

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งนี้ปีนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,950.10 จุด เพิ่มขึ้น 112.73 จุด หรือ +0.54% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,900.05 จุด เพิ่มขึ้น 43.23 จุด หรือ +0.74% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,385.26 จุด เพิ่มขึ้น 19.81 จุด หรือ +0.84%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงหลังจากตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการไปแล้ว พร้อมกับจับตาผลการเลือกตั้งเนเธอร์แลนด์

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 375.10 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,985.48 จุด เพิ่มขึ้น 11.22 จุด หรือ +0.23% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,009.87 จุด เพิ่มขึ้น 21.08 จุด หรือ +0.18% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดาสุดที่ 7,368.64 จุด เพิ่มขึ้น 10.79 จุด, +0.15%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มบลูชิพ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม แรงบวกในตลาดหุ้นถูกสกัดในระหว่างวันจากความวิตกของนักลงทุน ภายหลังจากรัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่า ค่าแรงในอังกฤษมีการขยายตัวช้าลงจากสาเหตุเงินเฟ้อ

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 10.79 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 7,368.64 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าสต็อกจะเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 48.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 51.81 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงหลังจากตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการไปแล้ว

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ระดับ 1,200.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ทรงตัวที่ระดับ 16.923 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 936.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 3.75 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 745.45 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) ภายหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือนในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.87 เยน จากระดับ 114.66 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0031 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0092 ฟรังก์สวิส

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0683 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0620 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2261 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2164 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7657 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7568 ดอลลาร์

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,385.26 จุด เพิ่มขึ้น 19.81 จุด, +0.84%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,900.05 จุด เพิ่มขึ้น 43.23 จุด, +0.74%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 20,950.10 จุด เพิ่มขึ้น 112.73 จุด, +0.54%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,985.48 จุด เพิ่มขึ้น 11.22 จุด, +0.23%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,009.87 จุด เพิ่มขึ้น 21.08 จุด, +0.18%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,368.64 จุด เพิ่มขึ้น 10.79 จุด, +0.15%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 29,398.11 จุด ลดลง 44.52 จุด, -0.15%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,717.36 จุด ลดลง 5.11 จุด, -0.30%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,137.43 จุด ลดลง 5.97 จุด, -0.19%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,432.38 จุด เพิ่มขึ้น 0.79 จุด, +0.01%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,792.85 จุด ลดลง 35.10 จุด, -0.15%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 713.14 จุด ลดลง 1.57 จุด, -0.22%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,253.79 จุด ลดลง 7.96 จุด, -0.11%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,241.76 จุด เพิ่มขึ้น 2.43 จุด, +0.08%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,133.00 จุด ลดลง 0.78 จุด, -0.04%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,577.38 จุด ลดลง 32.12 จุด, -0.16%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,740.31 จุด ลดลง 3.90 จุด, -0.04%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,774.00 จุด เพิ่มขึ้น 14.90 จุด, +0.26%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,813.70 จุด เพิ่มขึ้น 15.60 จุด, +0.27%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2617907

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานพิเศษ ป้าได้หมด...ถ้าสดชื่น

http://bit.ly/2mQish6

ปฏิทินเศรษฐกิจ

บริษัทออสสิริส ค้าทองคำแท่ง เทรดทองคำแท่งออนไลน์ ราคาทองวันนี้

AUSIRIS.CO.TH

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า16-MAR-2017

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า16-MAR-2017

AUSIRIS.CO.TH

 

 

 

----

(Mar 15) รายงาน: อีกอึดใจเดียวก็จะได้รู้ ทำไม "เฟด" จึงเปลี่ยนโทน?จนถึงขณะนี้ทุกคนรู้ว่าธนาคารกลางสหรัฐต้องการขึ้นดอกเบี้ยในวันพุธนี้ แต่สิ่งที่ยังไม่รู้คือเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐคิดอย่างไรเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตในปีนี้

รายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นเหมือนวิปปิ้งครีมที่อยู่บนขนมหวานของดัชนีชี้วัดอันแข็งแกร่งของเฟด และในสัปดาห์นี้ยอดขายปลีกของเดือนกุมภาพันธ์และดัชนีราคาผู้บริโภคก็จะมีความสำคัญทั้งสองตัว แต่เฟดได้รู้แล้วว่าการจ้างงานได้โตสูงกว่าแนวโน้มประมาณ 235,000 ตำแหน่งทั้งในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์และค่าแรงรายชั่วโมงได้เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่ง 2.8%

มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นเป้าหมายดอกเบี้ยเฟดฟันด์ประมาณ 0.25% ซึ่งจะทำให้ช่วงอัตราดอกเบี้ยเฟดฟันด์อยู่ระหว่าง 0.75%-1% การเคลื่อนไหวเช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการกู้ยืมในระยะสั้นโดยตรงแต่การเคลื่อนไหวดอกเบี้ยของเฟดเป็นเหมือนกับผลกระทบแบบโดมิโนและจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวยิ่งสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยเหล่านั้นส่งผลกระทบทุกอย่างตั้งแต่เงินกู้รถยนต์จนถึงเงินกู้จำนอง และเงินกู้เพื่อการค้า

เมื่อธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยประมาณการใหม่ในวันพุธนี้ ตลาดจะรอดูว่ามีการปรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยโดยรวมหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้ชี้ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในปีนี้

ตลาดได้มองด้วยความสงสัยต่อประมาณการเหล่านี้นับตั้งแต่เฟดเริ่มต้นปี 2559 ด้วยประมาณการที่ชี้ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยสี่ครั้งและปิดท้ายปีด้วยการขึ้นดอกเบี้ยเพียงแค่ครั้งเดียวในเดือนธันวาคม แต่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่ของเฟดหลายคนได้ออกมารณรงค์เพื่อแจ้งแก่ตลาดว่าถึงเวลาที่จะต้องขึ้นดอกเบี้ยและอาจเคลื่อนไหวในเดือนมีนาคม ในขณะเดียวกันมีการคาดการณ์เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนมากขึ้นและจากนั้นอาจมีการขึ้นอีกหนึ่งครั้งในปีนี้ ตลาดเชื่อว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมและกำลังอุ่นเครื่องต่อการขึ้นดอกเบี้ยสามครั้งในปี 2560

เนื่องจากในขณะนี้เฟดมองว่าตลาดแรงงานแข็งแกร่งอีกครั้งและมีสัญญาณเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น เจ้าหน้าที่หลายคนอาจจะรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวไปสู่วงจรการขึ้นดอกเบี้ย

ไดแอน สวองซ์ ซีอีโอของดีเอส อีโคโนมิกส์ มองว่ามีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ยสี่ครั้งหลังจากที่รายงานการจ้างงานของเดือนกุมภาพันธ์แข็งแกร่ง การจ้างงานมีฐานกว้าง และภาคที่มีการจ้างงานมากที่สุดคือภาคก่อสร้าง โดยมีการจ้างงานใหม่ 58,000 คน แต่ถึงแม้ว่าการจ้างงานแข็งแกร่ง จีดีพีในช่วงไตรมาสแรกก็ซบเซาโดยคาดว่าจะโตต่ำกว่า 2%

เจ้าหน้าที่ของเฟดจะเปิดเผยประมาณการเศรษฐกิจและแผนภูมิจุด (dot plot หรือประมาณการดอกเบี้ยใหม่) ซึ่งในขณะนี้ชี้ถึงการคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยสามครั้งในปีนี้

มาร์ก แชนเดิลเลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์เงินตราของบราวน์ บราเธอร์ แฮร์ริแมน กล่าวว่า มีโอกาสที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้น มากกว่าที่จะขึ้นน้อยลง และดอลลาร์อาจจะอ่อนตัวลงในช่วงต้นสัปดาห์เนื่องจากมีแรงเทขายทางเทคนิค แต่เฟดอาจจะทำให้ดอลลาร์แข็งขึ้นได้ โดยอาจจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในท้ายที่สุด

แชนเดิลเลอร์คิดว่าตลาดกำลังประเมินต่ำเกินไปต่อท่าทีอันแข็งกร้าวของประธานธนาคารกลางในภูมิภาค “ทำไมเฟดไม่ควรจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ครั้งเดียวในปีนี้ ตัวเลขการจ้างงานและตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ชี้ว่าเศรษฐกิจไม่ได้เปราะบาง คำพูดของประธานธนาคารกลางสหรัฐบางคนมีความมั่นใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจมากขึ้น

แดน ซูซูกิ นักกลยุทธ์หุ้นของแบงก์ ออฟ อเมริกา กล่าวว่า ตลาดหุ้นสามารถอดทนต่อแนวคิดที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกหนึ่งหรือสองครั้งในระยะใกล้นี้ได้ ความเห็นและแผนภูมิจุด อาจทำให้มีการเคลื่อนไหวในระยะสั้นในตลาดแต่ไม่คิดว่าจะทำให้เกิดแรงเทขายในตลาดเป็นเวลานาน เนื่องจากเศรษฐกิจมหภาคเป็นแรงหนุนที่ดีมาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีการปรับตัวลง 1% หากเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐแสดงท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้นหรือแผนภูมิจุดแข็งกร้าวมากกว่าที่ตลาดกำลังคาดการณ์

หุ้นปรับตัวลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลง 0.4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปิดที่ 2,372 จุด ส่วนดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงครึ่งเปอร์เซ็นต์ปิดที่ 20,902 จุด ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงอย่างรุนแรง โดยต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม โดยตราสารน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียตที่จะส่งมอบในเดือนเมษายน ปรับตัวลงประมาณ 9% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ซัพพลายรายสัปดาห์ในสหรัฐเพิ่มขึ้นมาก ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากกลุ่มโอเปกและรัสเซียกล่าวในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะบอกว่าพวกเขาจะยืดอายุข้อตกลงลดกำลังการผลิตในเดือนพฤษภาคมหรือไม่

นั่นคือสาเหตุให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงเนื่องจากข้อตกลงดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันยืนที่ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ตราสารน้ำมันดิบWTI ที่จะส่งมอบในเดือนเมษายนอยู่ที่ 48.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ซูซูกิ กล่าวว่า ในขณะนี้ตลาดหุ้นควรจะรับมือกับการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบได้ ดูเหมือนว่าการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันส่วนใหญ่เป็นเพราะซัพพลายและปัจจัยทางเทคนิคในตลาดขับเคลื่อน หากราคาน้ำมันไม่ปรับตัวลงมากถึง 10% ก็คิดว่าตลาดหุ้นควรจะแยกตัวเองออกมาจากการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันได้ แต่หากมีแรงเทขายมากหรือราคาลดลงมากเพราะเหตุผลที่เกี่ยวกับดีมานด์ก็อาจเป็นปัญหาได้

ในขณะที่เฟดจะประชุมในสัปดาห์นี้ มีปัญหาอื่นๆ ที่ตลาดให้ความสนใจเช่นกัน เช่น การเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งกำลังมีการจับตามองเนื่องจากเป็นเนเธอร์แลนด์เป็นจ่าฝูงในการแพร่นโยบายประชานิยมในยุโรปโดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนการเลือกตั้งในฝรั่งเศส

อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ตลาดกำลังจับตา คือ การยืดเพดานหนี้ของสหรัฐจะหมดอายุลงในกลางสัปดาห์นี้แม้ว่ารัฐบาลมีเงินเพียงพอจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ร่วง สตีเวน นูชิน รัฐมนตรีคลังได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสเพิ่มเพดานหนี้ ในขณะเดียวกันคาดว่าทำเนียบขาวจะเปิดเผยงบประมาณในวันพฤหัสบดีนี้

Source: ข่าวหุ้น

เพิ่มเติม:

1. It's time to start paying attention to one of the Fed's most controversial charts -

http://www.businessinsider.com/fed-meeting-preview-march-20…

2. The Federal Reserve Will Raise Rates for the Third Time :https://www.nytimes.com/…/federal-reserve-interest-rates.ht

 

‘หมอกฤษดา’ไขก๊อก ผอ.ไทยพีบีเอส เซ่นปมลงทุนหุ้นกู้ CPF-ขอโทษ พนง.แล้ว

สำนักข่าวอิศรา -…

 

WWW.ISRANEWS.ORG|BY สำนักข่าวอิศรา

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

17342817_1126207204191855_3905851785869374627_n.jpg?oh=8c2e2d2db43264ef37b24adc6cc980b5&oe=595FFFDC

‪คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้..คนเราจะต้องรับและจะต้องให้‬พระบรมราโชวาท ๒๕๑๒‬

#ในหลวงรัชกาลที่๙ ‬‪#kingbhumibol @longliveking9 ‬

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

17352070_10155133279162855_1404801974939698266_n.jpg?oh=be725aaa1f151d46ff06383f7ae07c3d&oe=592587C2

ประชาชน นักเรียนได้เดินต่อแถวเพื่อเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

 

ภาพ ธนาชัย ประมาณพาณิชย์ ( Tanachai Pramarnpanich )

#NationPhoto #ธนาชัยประมาณพาณิชย์ #สักการะพระบรมศพ

 

17358991_10155133876442855_5166590185638022407_o.jpg?oh=53595d983a5f897b48ca3c593cf53233&oe=5927A362

17361577_10155133876437855_1767732425628958702_n.jpg?oh=760f3cf70ed7b403cd24065e7b97119e&oe=59599447

นักวิ่งการกุศลของนักศึกษาแพทย์ศิริราชในโครงการ 1 ล้าน 5 แสนก้าว วิ่งเพื่อชีวิต เชียงใหม่-ศิริราช เพื่อระดมทุนสร้างอาคารผู้ป่วยโรงพยาบาลศิริราช เพื่อเชิญคนไทยให้ร่วมบริจาคสร้างอาคารเพื่อผู้ป่วยอยากไร้ ตามพระราชปณิธานสุดท้ายของในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้สำเร็จไปด้วยกัน และเชื่อว่านักศึกษาแพทย์จะกลับไปที่โรงพยาบาลศิริราชพร้อมยอดเงินบริจาค 99.99 ล้านบาท ล่าสุดขบวนวิ่งนักศึกษาแพทย์ ได้ถึง รพ.ธรรมศาสตร์ จังหวัดปทุมธานี เพื่อพักค้างคืนพรุ่งนี้เช้าจะเริ่มออกวิ่งต่อจากรพ.ธรรมศาสตร์ ถึง รพ.ศิริราชช่วงบ่ายของวันที่ 17 มี.ค 2560

ภาพ กอบภัค พรหมเรขา (Korbphuk Phromrekha)

#NationPhoto #กอบภัคพรหมเรขา #นักศึกษาแพทย์ศิริราช #1ล้าน5แสนก้าว #วิ่งเพื่อชีวิตเชียงใหม่-ศิริราช

 

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

YLGResearch

 

 

 

HSHsocial

 

 

NOW26

 

หุ้นธรรมกาย เอี่ยว อนันต์ อัศวโภคิน พระทัตตชีโว

https://www.youtube.com/watch?v=q0D3YzTQWRA

 

NOW26

 

NationTV22

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2560 09:59:45 น.

กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยที่ตลาดยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้ง จากเดิมที่คาดว่าจะขึ้น 3 - 4 ครั้ง จึงทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลงมาทดสอบระดับ 100 จุดอีกครั้งหนึ่ง โดยเช้านี้อยู่ที่ระดับ 100.21 จุด จึงทำให้ค่าเงินบาทเองปรับแข็งค่าขึ้นจนหลุดระดับ 35.00 บาท/ดอลลาร์ สำหรับภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดีเกินคาด ได้แก่ ภาคการผลิต ภาคอสังหาริมทร้พย์ และภาคแรงงาน โดยภาพรวมตลาดตอบรับกับการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ และราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,230 เหรียญเมื่อคืนนี้ ขณะที่กองทุนทองคำ SDPRทำการขายทองคำออก 2.37 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 837.06 ตัน อย่างไรก็ดี ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯในคืนนี้ ได้แก่ Prelim UoM Consumer Sentiment และ Industrial Production ที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้นทั้งคู่

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น จึงทำให้แนวโน้มระยะสั้นเป็นขาขึ้น โดยที่ยังคงมีความผันผวนตามกรอบทิศทางขาขึ้น และวันนี้คาดว่าราคาจะมีกรอบแนวรับ 1,215 เหรียญ และแนวต้านที่ระดับ 1,235 เหรียญ ด้านราคาทองคำไทยปรับตัวขึ้นไม่ได้มาก โดยมีกรอบแนวรับ 20,200 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้าน 20,500 บาท/บาททองคำ เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าลงต่อเนื่องและเมื่อคืนลงไปทดสอบ 34.90 บาท/ดอลลาร์ ก่อนที่เช้านี้จะกลับมาเปิดที่ระดับ 34.98 บาท/ดอลลาร์

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

กลยุทธ์ตามแนวโน้มทิศทาง่ขาขึ้น โดยที่เน้นการลงทุนในระยะสั้นตามกรอบการแกว่งตังกล่าว

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

หาจังหวะเปิดสถานะเมื่อราคาย่อตัวบริเวณแนวรับ และหาจังหวะปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ทยอยลดสถานะหรือปิดสถานะ เพื่อลดความเสี่ยงจากภาพขาขึ้นระยะสั้น

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ภาพหลักยังเป็นทิศทางขาขึ้น จึงแนะนำให้หาจังหวะเปิดสถานะเมื่อราคาย่อตัว และปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน

 

Gold Futures J17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,330 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,530 บาท

Gold Futures M17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,400 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,600 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2618812

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สํานักข่าวไทย TNAMCOT8763

คอลัมน์: หุ้นเด่น: 'อานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อน'

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- ศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2560 00:00:06 น.

ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Sector) โดยให้น้ำหนักหุ้น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ Neutral ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์กลุ่มยานยนต์ มีแนวโน้มสดใสยานยนต์ อุตสาหกรรม และการแพทย์เป็นกลุ่มธุรกิจ ที่อยู่ในช่วงขาขึ้น จากแนวโน้มการเติบโตในปี 2560 (ยานยนต์ ที่ 8.9% และอุตสาหกรรม & การแพทย์ ที่ 7.3%) ซึ่งคาดว่า จะสูงกว่าค่าเฉลี่ยห้าปีย้อนหลัง และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ 3.6% ถึงกว่าเท่าตัว

 

 

 

เนื่องจากผู้เล่นรายใหม่จะเข้ามาในธุรกิจกลุ่มยานยนต์ได้ยาก ดังนั้นบริษัทที่เน้นธุรกิจกลุ่มนี้จึงรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ ได้ในระดับที่สูง ในบรรดาหุ้นกลุ่มนี้ที่เราดูแลอยู่ เราพบว่า KCE Electronics (KCE)* มีสัดส่วนธุรกิจกลุ่มยานยนต์สูงที่สุดที่ 70% และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่โดดเด่นอยู่ที่ประมาณ 35% ในช่วงปี 2560-2562 เปรียบเทียบกับผู้เล่นรายอื่นในกลุ่มที่ 10-27%

 

เมื่อเราดู ราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น(PER) ของหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ไต้หวัน ซึ่งมีการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สูง และมี supply chain หลากหลาย เราพบว่าในจำนวนหุ้นที่มี PER สูงที่สุดในกลุ่มห้าตัว มีอยู่สามตัวที่มีธุรกิจเกี่ยวข้อง กับกลุ่มยานยนต์ และเรายังพบว่ายิ่งบริษัทมีสัดส่วนธุรกิจกลุ่มยานยนต์สูงเท่าไหร่ หุ้นของบริษัทก็ยิ่งมี premium สูงเท่านั้น โดย E-lead (2497.TW/2497 TT) ซึ่งมีสัดส่วนธุรกิจกลุ่มยานยนต์เต็ม 100% ก็มี PER สูงที่สุดในกลุ่มอยู่ที่ 24x

 

ในอดีต เมื่อค่าเงินบาทอ่อนลงมาอยู่ที่ 36.8 บาท/ดอลลาร์ ตลาดก็ทำการ rerate PER เป็น 19x จากเดิม 16x ตอนที่ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.8 บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้ ตามประมาณการ ของ KGI คาดว่า ค่าเงินบาทจะอ่อนลงไปอยู่ที่ 36.4 บาท/ดอลลาร์ ในปี 2560 จาก 35.3 บาท/ดอลลาร์ ในปี 2559 ซึ่งสะท้อนถึงการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และน่าจะช่วยหนุนให้ PER ของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ขยับเพิ่มขึ้น ในช่วงปี FY60

 

เราเลือก KCE เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม เนื่องจากมีสัดส่วนธุรกิจกับกลุ่มยานยนต์สูงที่สุด ซึ่งมีการเติบโตสูงสุด ในปี 2560 และอัตรากำไรก็ยังสูงด้วย เราไม่ค่อยกังวลกับผล กระทบจากการที่ราคาทองแดงขยับสูงขึ้น และมองว่าสภาวะตลาด จะเป็นบวกมากขึ้นจากการอ่อนค่าของเงินบาทหลังการขึ้นดอกเบี้ยของ เฟด

 

ปัจจัยเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ, การปิดโรงงานโดยไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier เจ้าอื่น และเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2618763

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...