ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.94/97 แนวโน้มแข็งค่าต่อจากแรงขายดอลล์ มองกรอบวันนี้ 34.90-35.00

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2560 09:19:46 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.94/97 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า

 

 

 

จากช่วงเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.04 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ปรับตัวแข็งค่าจากในช่วงเย็นวาน เนื่องจากมีแรงขายดอลลาร์ต่อเนื่อง และคาดว่าวันนี้เงินบาทจะยังมี

 

แนวโน้มแข็งค่าต่อ ส่วนปัจจัยที่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้คงมีไม่มาก เพราะปัจจัยสำคัญของสัปดาห์นี้คือการประชุม

 

ธนาคารกลางสหรัฐได้ทราบผลไปแล้ว

"วันนี้บาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อ แต่การเคลื่อนไหวคงจะไม่มาก ตลาดอาจจะเงียบๆ เพราะปัจจัยสำคัญของสัปดาห์นี้ก็

 

ผ่านไปหมดแล้ว ที่เหลือเป็นเพียงการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจปกติ" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90-35.00 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- ช่วงเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.35/50 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 113.38 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0760 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 1.0715 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.0680 บาท/

 

ดอลลาร์

- องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) เปิดเผยว่า เจโทรได้สำรวจภาวะธุรกิจบริษัท

 

ญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย รวม 20 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยบริษัทญี่ปุ่นมองภาพรวมเศรษฐกิจและการ

 

ลงทุนของไทย มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2560-2561

- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย ใน

 

สัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 241,000 ราย ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐได้เปิดเผยร่างงบประมาณของรัฐบาลฉบับแรก โดยมีการปรับลดงบประมาณ

 

ขนานใหญ่สำหรับกระทรวงและหน่วยงานของรัฐบาลหลายแห่ง เพื่อนำไปอัดฉีดให้แก่กระทรวงกลาโหม

 

สำหรับแผนงบประมาณของรัฐบาลฉบับที่เรียกว่า "อเมริกาต้องมาก่อน" นั้น ได้เรียกร้องให้มีการปรับลดงบประมาณ

 

จำนวนมากสำหรับหน่วยงานของรัฐบาลกลางหลายแห่ง ซึ่งอาจนำไปสู่การปิดโครงการต่างๆและลดการจ้างพนักงานรัฐสำหรับปีงบ

 

ประมาณ 2018 ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 1 ต.ค.นี้

- สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) ด้วยแรงหนุน

 

จากผลการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ โดยพรรคการเมืองของนายกรัฐมนตรีมาร์ค รุตเต มีชัยเหนือพรรคคู่แข่งที่มีจุดยืนต่อต้านสหภาพ

 

ยุโรป ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงจากแรงกดดันภายหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะไม่ดำเนินการปรับขึ้นดอกเบี้ยให้เร็ว

 

ขึ้นในปีนี้ โดยยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0710 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0683 ดอลลาร์ ดอลลาร์อ่อนค่าลง

 

เมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.40 เยน จากระดับ 113.87 เยน

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ประกาศ

 

ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และยังคงรักษาจุดยืนในการปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป

 

- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 8-1 เสียง เห็นพ้องให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ

 

0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ในวันนี้

 

นอกจากนี้ BoE ยังมีมติด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ 9-0 เสียง เห็นพ้องให้คงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตาม

 

มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ และคงวงเงินซื้อหุ้นกู้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่นล้านปอนด์

 

- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 2.0% ในเดือนก.พ.

 

ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี และสอดคล้องกับตัวเลขประมาณการเบื้องต้น

- นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ที่ระบุว่าว่า เศรษฐกิจจีนสามารถขยายตัวในระดับปานกลาง-สูงได้มาเป็นระยะ

 

เวลานานแล้ว และจะไม่มีการของสู่ภาวะชะลอตัวลงอย่างรุนแรง หรือ "ฮาร์ดแลนดิ้ง" ตามที่บางฝ่ายคาดการณ์

 

- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. และ

 

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2618810

 

จับตาประชุม G20 เปิดฉากวันนี้ คาดขุนคลัง-ผู้ว่าแบงก์ชาติถกประเด็นการค้า,ค่าเงิน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2560 09:35:00 น.

การประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G20 กำลังจะเปิดฉากในวันนี้ ณ เมืองบาเดน-บาเดน ซึ่งเป็นเมืองบ่อน้ำแร่ขึ้นชื่อของเยอรมนี ขณะที่ผู้นำการคลังของประเทศสมาชิกทยอยเดินทางมาถึงแล้ว

 

สำหรับประเด็นหลักที่จะมีการอภิปรายในการประชุมครั้งนี้ คาดว่าจะเป็นเรื่องการค้าและอัตราแลกเปลี่ยน ในขณะที่รัฐมนตรีคลังกลุ่ม G20 หลายคนได้แสดงความกังวลต่อนโยบายกีดกันทางการค้าที่ทวีความรุนแรง เนื่องจากเกรงว่ารัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะดำเนินนโยบายอันแข็งกร้าวที่นำไปสู่สงครามการค้าและกดดันประเทศอื่นๆในประเด็นนโยบายการเงิน

 

 

 

สื่อเยอรมนีบางแห่งรายงานว่า ร่างแถลงการณ์ทางการของการประชุมครั้งนี้ ถูกปรับแก้อยู่หลายครั้ง โดยหนังสือพิมพ์ฮานเดลชบลาตต์ รายงานว่า หัวข้อ "การคัดค้านนโยบายกีดกันทางการค้า" และ "การงดเว้นลดค่าเงินเพื่อการแข่งขัน" ซึ่งเคยบรรจุอยู่ในร่างแถลงการณ์ดังกล่าว ได้ถูกตัดทิ้ง และมีรายงานว่า สหรัฐเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปรับแก้หัวข้อการประชุมในครั้งนี้ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า แถลงการณ์ฉบับแก้ไขขั้นสุดท้าย อาจมีการเปลี่ยนแปลงคำสำคัญเหล่านี้

 

ส่วนประเด็นอัตราแลกเปลี่ยนน่าจะถูกหยิบยกขึ้นในการประชุมครั้งนี้แน่นอน เนื่องจากนายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของปธน.ทรัมป์ เคยกล่าวหายุโรป จีน และญี่ปุ่นว่าจงใจลดค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งสหรัฐ ในขณะทั้ง 3 ฝ่ายปฏิเสธคำกล่าวหาดังกล่าว จึงคาดว่าการอภิปรายประเด็นดังกล่าวในการประชุมจะเป็นไปอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน

 

สำหรับการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G20 จะเปิดฉากในวันนี้และจะไปสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2618817

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

17389125_10155141634407855_305234109037202175_o.jpg?oh=0b0eef8b7086f01ed45e1b78ba29fac2&oe=5970B5B2

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นำอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ดีเด่นประจำปี 2560 และตัวแทนทั่วประเทศกว่าพันคนร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความอาลัยแด่ พระบาทสมเด็จพระปรินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกล่าวปฏิญาณตนแสดงความจงรักภักดีของพลังจิตอาสาทำดีเพื่อแผ่นดิน และร่วมลงนามใต้พระบรมฉายาลักษณ์ถวายสัจจะความดีเพื่อสุขภาพดีของชาวไทย ในกิจกรรม “1 อสม. 1 สัจจะความดี” เนื่องในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ ประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 60 ณ สวนสันติชัยปราการ ถนนพระอาทิตย์

 

ภาพ ฐานิส สุดโต (Thanis Sudto)

#NationPhoto #ฐานิสสุดโต #อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน #วันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ

กรมประชาสัมพันธ์

 

Pacific Inspiration Channel : PIC

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

---

HSHsocial

ปฏิทินเศรษฐกิจ

 

บริษัทออสสิริส ค้าทองคำแท่ง เทรดทองคำแท่งออนไลน์ ราคาทองวันนี้

AUSIRIS.CO.TH

 

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า20-MAR-2017

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า20-MAR-2017

AUSIRIS.CO.TH

 

 

 

 

 

NOW26

 

 

NOW26

 

 

NOW26

 

NOW26

 

 

NationTV22

 

 

Cr Health Stion

ในช่วงพักตัวหลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาทำให้แนวโน้มยังเป็นบวกและมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ แนวต้านถัดไปอยู่ที่ 1245 1252 1265 มองเกมส์ว่าอยู่ที่ว่าจะไปถึง 1265 หรือไม่ และมองว่าไม่น่าผ่าน เนื่องจากปัจจัยเดิมคือเรื่องดอกเบี้ยจะยังคอยกดดันทิศทางราคาทองได้อยู่ ในขณะที่ระยะสั้นถ้าลงต่ำกว่า 1222 - 1225 มองว่าจบขารีบาวด์และน่าจะsideway อย่างไรก็ตามในสัปดาห์นี้มีการให้สัมภาษณ์โดยเจ้าหน้าที่เฟดหลายครั้งซึ่งถ้าให้ความเห็นในเชิงกดดันตลาดจะทำให้ทองขึ้นได้เพียงจำกัด

ทำให้ถ้าปรับตัวขึ้นได้ก็อาจซื้อตามแต่คงขายไวหน่อยไม่ถือและรอเข้าซื้อในช่วงย่อตัวใกล้ 1200 อีกที

17362576_1339966449375160_8945067325230865034_n.png?oh=6c64ce085af31ade1d36eea3f5d13c3b&oe=5968367A

17362576_1339966449375160_8945067325230865034_n.png?oh=6c64ce085af31ade1d36eea3f5d13c3b&oe=5968367A

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีวันจันทร์ เพื่อน พี่น้องทุกท่าน

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.81 คาดวันนี้แกว่งในกรอบ 34.65-34.85 รอปัจจัยใหม่

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 09:24:23 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 34.81 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น

 

 

 

วันศุกร์ที่ปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.84 บาท/ดอลลาร์

"ช่วงนี้ตลาดเงินยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ อาจจะมีการ Reaction จากประเด็นที่ค้างมาจากสัปดาห์ก่อน ประกอบกับวันนี้

 

ตลาดญี่ปุ่นปิดทำการด้วย" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 34.65-34.85 บาท/ดอลลาร์

 

"กรอบวันนี้ค่อนข้างกว้างเพราะเช้านี้เปิดตลาดไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเงินบาทก็หลุด 34.80 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.55 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 113.20/21 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0760 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.0770 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.9600 บาท/

 

ดอลลาร์

- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (20-24 มี.ค.)ที่ 34.80-35.10 บาทต่อ

 

ดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาสัญญาณเกี่ยวกับดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่

 

สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ. นอกจากนี้ จุดสนใจของตลาดอาจรวมไปถึงตัว

 

เลขเงินเฟ้อของอังกฤษ และดัชนี PMI เดือนมี.ค. (เบื้องต้น) ของหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน

 

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ เพื่อรองรับ

 

สถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง (Liquidity Coverage Ratio : LCR) ที่ ธปท.ให้ดำเนินการตั้งแต่เดือน ม.ค.

 

2559 โดยครบ 1 ปีในเดือน ม.ค. ปีนี้ พบว่าสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบเพิ่มขึ้นถึง 2.7 แสนล้านบาท หรือ 8% จาก

 

3.4 ล้านล้านบาท เป็น 3.7 ล้านล้านบาท

- ธปท.เผยยอดปิดสาขาแบงก์-นอนแบงก์ใกล้เคียงกัน 36 แห่งและ 31 แห่ง พบพื้นที่กรุงเทพทั้งแบงก์-นอนแบงก์ยุบ

 

สาขาเท่ากัน 11 แห่ง "กสิกรไทย" ยุบสาขามากสุด 17 แห่ง ในภาคอีสานถึง 7 แห่ง กลุ่มนอนแบงก์มาแปลกมีแต่ปิดสาขา เฉพาะ

 

บริษัทในเครือกรุงศรีมากถึง 28 แห่ง สวนทางนโยบายสาขาแบงก์

- กระทรวงการคลังได้จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ 2560 ตามร่างกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปีของ

 

รัฐบาล โดยมี 6 ยุทธศาสตร์สำคัญ

- เจ้าหน้าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) รายงานว่าไทย ได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงเศรษฐกิจเติบโต

 

แบบ “News Normal” หรือการขยายตัวแบบไม่หวือหวา ซึ่งเหมือนกับทุกประเทศทั่วโลกหลังจากที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงชะลอตัว

 

นอกจากนี้เศรษฐกิจไทย ยังมีปัญหาเศรษฐกิจ “คอขวด” คือมีการจ้างงานไม่เต็มที่ เกษตรกรมีรายได้น้อย ไม่มีการลงทุนโครงสร้าง

 

พื้นฐาน

ไอเอ็มเอฟจึงเสนอให้ไทยใช้นโยบายการเงินการคลัง เพื่อให้มีกำลังซื้อในประเทศเพิ่มขึ้นในระยะสั้น ดึงอัตราเงินเฟ้อ

 

ให้กลับไปสู่เป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ร้อยละ 2.5 ในปีนี้ และให้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในระยะยาว

 

เพราะการลงทุนภาครัฐเป็นปัจจัยการลงทุนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเสนอให้มีการปฏิรูประบบราชการ การ

 

ประกันสังคม มีการดูแลแรงงานและผู้สูงอายุ

- ทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่น และนายเสี้ยว เจี๋ย รัฐมนตรีกระทรวง

 

การคลังจีน เห็นพ้องกันที่จะจัดการหารือทวิภาคีด้านการเงินเร็วๆนี้ที่ญี่ปุ่น หลังจากทั้งคู่พบกันนอกรอบการประชุม G20 ซึ่งจัดขึ้นที่เมือง

 

บาเดน-บาเดน เยอรมนี

- แถลงการณ์ร่วมกันของรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่ม G20 ในการประชุมที่เมืองบาเดน-บาเดน

 

เยอรมนี วันที่ 17-18 มี.ค.ที่ผ่านมา ระบุถึงจุดยืนร่วมกันด้านการค้าและอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม มีการถอดประเด็นต่อต้าน

 

การกีดกันทางการค้าออกจากแถลงการณ์ร่างสุดท้ายของการประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกนับตั้งแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ดำรง

 

ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

- หนังสือพิมพ์ซันเดย์ อินดีเพนเดนท์ของไอร์แลนด์ รายงานว่า นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐเปิดเผย

 

ว่า การปฏิรูประบบภาษีของสหรัฐจะเกิดขึ้นในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิของปีนี้เป็นอย่างเร็ว หลังจากที่การปฏิรูประบบประกันสุขภาพเสร็จ

 

เรียบร้อยแล้ว

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) ภาย

 

หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณว่าจะไม่ดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในปีนี้ โดยดอลลาร์อ่อนค่าลง

 

เมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.62 เยน จากระดับ 113.40 เยน และยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0752

 

ดอลลาร์ จากระดับ 1.0710 ดอลลาร์

- Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ประจำเดือนก.พ.

 

ปรับตัวขึ้น 0.6% หลังจากที่ดีดตัว 0.6% เช่นกันในเดือนม.ค. และปรับตัวขึ้นสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.4%

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 0.25% เมื่อวันศุกร์ (17 มี.ค.) จากอานิสงส์ของการที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อน

 

ค่า ภายหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้และยังคงรักษาจุดยืนในการปรับขึ้น

 

ดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป

- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใน

 

วันพฤหัสบดีนี้ ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นโดยเฟดสาขาชิคาโก ภายใต้หัวข้อ "Strong Foundations: The Economic Futures

 

of Kids and Communities" เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในปีนี้ หลังจากที่คณะกรรมการ

 

กำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 0.75-1.00% ใน

 

การประชุมเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2619744

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 09:56:53 น.

กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาทรงตัวหรือดีขึ้นเล็กน้อย โดยปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,230 เหรียญโดยประมาณ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยดัชนีดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงมาทดสอบ 100 จุด ซึ่งเช้านี้อยู่ที่ระดับ 100.20 จุดโดยประมาณ จึงกดดันให้ค่าเงินบาทร่วงลงจากระดับ 34.83 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 34.73 บาท/ดอลลาร์ หรือร่วงกว่า 10 สตางค์ ขณะที่เปิดตลาดฮ่องกงราคาทองคำทรงตัวบริเวณ 1,232 เหรียญ ทั้งนี้ ในคืนวันศุกร์ได้แก่ Prelim UoM Consumer Sentiment ออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย ขณะที่คืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญใดๆ สำหรับกองทุนทองคำ SPDR ขายออก2.96 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 834.1 ตัน

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และทดสอบแนวต้านแรก 1,232 เหรียญ สำหรับแนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 1,250 เหรียญ ขณะที่แนวรับด้านล่างจะอยู่ที่ระดับ 1,220 เหรียญ ด้านราคาทองคำไทยเองปรับสูงขึ้นไม่มากจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ โดยทองคำไทยมาทรงตัวแถวระดับ 20,300 บาท/บาททองคำ ทั้งนี้ ราคาทองคำไทยจะมีแนวรับสำคัญ 20,000 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้าน 20,450 บาท/บาททองคำ ซึ่งราคาทองคำไทยอาจเปิดตลาดมาทรงตัวหรืออาจปรับลงได้เล็กน้อยจากการแข็งค่าของค่าเงินบาท โดยเงินบาทหลุดแนวรับสำคัญ 34.80 บาท/ดอลลาร์ ดังนั้น ค่าเงินบาทน่าจะมีเป้าหมายถัดไปที่ 34.50 บาท/ดอลลาร์

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

กลยุทธ์ทิศทางขาขึ้นในลักษณะ "Buy on dips, Sell on rally"

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลงซื้อขึ้นขาย เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดสถานะลดความเสี่ยงจากภาวะขาขึ้นระยะสั้น

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ภาพหลักเป็นทิศทางขาขึ้น แต่นักลงทุนควรบริหารพอร์ตให้สมดุลกับภาวะการแกว่งตัวของตลาด และไม่ใช้ Leverage มากนัก

 

Gold Futures J17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,500 บาท

Gold Futures M17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,390 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,590 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2619747

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวขึ้น เล็งแรงหนุนจากบาทแข็งค่า-กระแสเงินทุนไหลเข้า

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 09:11:56 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้น เนื่องจากเงินบาทแข็งค่ามาในเช้านี้ โดยแข็งค่าในรอบเกือบ 6 เดือน และคาดหวังกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า โดยสังเกตุได้จากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติได้ซื้อสุทธิในตลาดหุ้น และยังได้ทำ Long ในตลาดอนุพันธ์ด้วย

 

นอกจากนี้ จะมีการจัดงาน SET in the City 2017 ในวันที่ 23-26 มี.ค.นี้ รวมถึงในสัปดาห์หน้าก็จะมีการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 1/60

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน ราว 0.2-0.3% พร้อมให้แนวรับ 1,555 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 ถัดไปก็เป็น 1,580-1,585 จุด

 

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2619738

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 06:10:22 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 มี.ค.

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อวันศุกร์ (17 มี.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ค่อนข้างเงียบเหงา สืบเนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อมองหาสัญญาณชี้นำตลาดต่อจากนี้ และจับตาดูการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G20 ที่เยอรมนี ซึ่งจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,914.62 จุด ลดลง 19.93 จุด หรือ -0.10% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,901.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.24 จุด หรือ 0.00% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,378.25 จุด ลดลง 3.13 จุด หรือ -0.13%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (17 มี.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G20 ที่เยอรมนี ซึ่งจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 378.32 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 2558

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,029.24 จุด เพิ่มขึ้น 15.86 จุด หรือ 0.32% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,095.24 จุด เพิ่มขึ้น 12.06 จุด หรือ 0.10% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,424.96 จุด เพิ่มขึ้น 9.01 จุด หรือ 0.12%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องสองวันทำการเมื่อวันศุกร์ (17 มี.ค.) ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสื่อสาร ในขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G20 ที่เยอรมนี ซึ่งจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 9.01 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 7,424.96 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (17 มี.ค.) ด้วยแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์ และการที่ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ในกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกบางราย ได้ส่งสัญญาณที่จะขยายการปรับลดกำลังการผลิต เพื่อคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานล้นตลาด

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 48.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 51.76 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 0.25% เมื่อวันศุกร์ (17 มี.ค.) จากอานิสงส์ของการที่สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่า ภายหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้และยังคงรักษาจุดยืนในการปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 3.1 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ระดับ 1,230.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 8.3 เซนต์ หรือ 0.48% ปิดที่ 17.413 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 4.6 ดอลลาร์ หรือ 0.48% ปิดที่ 963.00 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 9.15 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 775.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (17 มี.ค.) ภายหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณว่าจะไม่ดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในปีนี้

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.62 เยน จากระดับ 113.40 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9964 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9978 ฟรังก์สวิส

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0752 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0710 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2397 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2346 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลีย แข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7713 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7667 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 20,914.62 จุด ลดลง 19.93 จุด, -0.10%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,901.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.24 จุด, +0.00%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,378.25 จุด ลดลง 3.13 จุด, -0.13%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,029.24 จุด เพิ่มขึ้น 15.86 จุด, +0.32%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,095.24 จุด เพิ่มขึ้น 12.06 จุด, +0.10%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,424.96 จุด เพิ่มขึ้น 9.01 จุด, +0.12%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 29,648.99 จุด เพิ่มขึ้น 63.14 จุด, +0.21%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,745.20 จุด เพิ่มขึ้น 8.06 จุด, +0.46%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,169.38 จุด เพิ่มขึ้น 5.86 จุด, +0.19%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,540.43 จุด เพิ่มขึ้น 22.19 จุด, +0.40%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,309.93 จุด เพิ่มขึ้น 21.65 จุด, +0.09%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,345.02 จุด เพิ่มขึ้น 66.42 จุด, +0.91%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,237.45 จุด ลดลง 31.49 จุด, -0.96%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,164.58 จุด เพิ่มขึ้น 14.50 จุด, +0.67%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,521.59 จุด ลดลง 68.55 จุด, -0.35%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,908.69 จุด เพิ่มขึ้น 70.86 จุด, +0.72%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2619465

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำวันนี้ วิเคราะห์ โดย Ausiris 20 มี.ค. 2560

 

(เพิ่มเติม) ดัชนี SET ภาคบ่ายร่วง 10 จุด รับแรงขายกองทุนในประเทศ-ต่างชาติขายทำกำไร

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2560 15:44:00 น.

ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายร่วง 10 จุด คาดรับแรงขายกองทุนในประเทศ โดยเฉพาะกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) อีกทั้งต่างชาติปรับพอร์ตขายทำกำไร หลังซื้อมาตั้งแต่ปลายปีก่อน นอกจากนี้ยังเป็นการ sell on fact หลังกลุ่มธนาคารประกาศงบฯ

 

เมื่อเวลา 15.26 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,550.81 จุด ลดลง 10.02 จุด (-0.64%)

นางภรณี ทองเย็น รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้เป็นการปรับฐานเพราะดัชนีปรับขึ้นขึ้นมาแถวระดับ 1,580 จุด ใกล้ 1,600 จุด ประกอบกับแรงขายสถาบันในประเทศจากการไถ่ถอน LTF ซึ่งตั้งแต่ต้นปียังทยอยขายออกมาไม่มากนัก และคาดเป็นการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติขายทำกำไร หลังจากซื้อมาตั้งแต่ปลายปี 59 ต่อเนื่อง ช่วงนี้จึงชะลอและคงจะขายปรับพอร์ตออกไปก่อน นอกจากนี้จะเห็นแรงขายแบบ sell on fact ของหุ้นธนาคารที่ทยอยประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว ให้แนวรับ 1,550 จุด

 

เมื่อเวลา 15.38 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,548.09 จุด ลดลง 12.74 จุด (-0.82%)

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2587479

 

(เพิ่มเติม) ดัชนี SET ภาคบ่ายร่วง 10 จุด รับแรงขายกองทุนในประเทศ-ต่างชาติขายทำกำไร

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2560 15:44:00 น.

ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายร่วง 10 จุด คาดรับแรงขายกองทุนในประเทศ โดยเฉพาะกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) อีกทั้งต่างชาติปรับพอร์ตขายทำกำไร หลังซื้อมาตั้งแต่ปลายปีก่อน นอกจากนี้ยังเป็นการ sell on fact หลังกลุ่มธนาคารประกาศงบฯ

 

เมื่อเวลา 15.26 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,550.81 จุด ลดลง 10.02 จุด (-0.64%)

นางภรณี ทองเย็น รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้เป็นการปรับฐานเพราะดัชนีปรับขึ้นขึ้นมาแถวระดับ 1,580 จุด ใกล้ 1,600 จุด ประกอบกับแรงขายสถาบันในประเทศจากการไถ่ถอน LTF ซึ่งตั้งแต่ต้นปียังทยอยขายออกมาไม่มากนัก และคาดเป็นการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติขายทำกำไร หลังจากซื้อมาตั้งแต่ปลายปี 59 ต่อเนื่อง ช่วงนี้จึงชะลอและคงจะขายปรับพอร์ตออกไปก่อน นอกจากนี้จะเห็นแรงขายแบบ sell on fact ของหุ้นธนาคารที่ทยอยประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว ให้แนวรับ 1,550 จุด

 

เมื่อเวลา 15.38 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,548.09 จุด ลดลง 12.74 จุด (-0.82%)

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2587479

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดเช้าบวก 5.21 จุด แต่ Upside ยังจำกัด ขานรับเงินบาทแข็งค่า-ต่างชาติซื้อสุทธิ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 12:41:16 น.

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,566.19 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด (+0.33%) มูลค่าการซื้อขาย 20,021.92 ล้านบาท

 

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,568.29 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,562.99 จุด

 

 

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ Upside ยังจำกัดอยู่ โดยตลาดฯได้แรงหนุนจากเงินบาทแข็งค่า และนักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้จะต้องคอยติดตามดูความต่อเนื่องด้วย

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยยังต้องติดตามนโยบายนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และติดตามการเลือกตั้งในฝรั่งเศสที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย

 

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯยังมี Sentiment บวกแต่ไม่แรงมาก พร้อมให้แนวรับ 1,560-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,565-1,570 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,322.02 ล้านบาท ปิดที่ 402.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท

 

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,069.04 ล้านบาท ปิดที่ 179.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

 

KTB มูลค่าการซื้อขาย 968.41 ล้านบาท ปิดที่ 20.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

 

GL มูลค่าการซื้อขาย 740.76 ล้านบาท ปิดที่ 17.60 บาท ลดลง 1.40 บาท

 

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 727.19 ล้านบาท ปิดที่ 192.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2619922

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประชาชนจำนวนมากเดินต่อคิวเพื่อเข้ากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังในช่วงเช้า ถึงแม้อากาศจะร้อนสักเพียงใดก็ตาม เมื่อวันที่20มีนาคม2560

ภาพ อนันต์ จันทรสูตร์ (Anant Chantarasoot)

#NationPhoto #อนันต์จันทรสูตร์ #สักการะพระบรมศพ #รัชกาลที่9

17311048_10155145139882855_5921293030560894929_o.jpg?oh=f21c50e4144df1e8939656a092dbc4d5&oe=596851F4

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

----

HSHsocial

ปฏิทินเศรษฐกิจ

บริษัทออสสิริส ค้าทองคำแท่ง เทรดทองคำแท่งออนไลน์ ราคาทองวันนี้

AUSIRIS.CO.TH

 

 

 

 

 

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า21-MAR-2017

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า21-MAR-2017

AUSIRIS.CO.TH

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

ธรรมกายคืนพัดยศ ธัมมชโย ทัตตชีโว

 

ข่าวข้นคลิปเด็ด

 

เต่าออมสิน โอกาสรอดริบหรี่

ข่าวข้นคลิปเด็ด

 

 

ทีนิวส์ออนไลน์

 

ศรีวราห์ แผนทลายแก๊งค์โกตี๋ หวังสังหารบิ๊กตู่

 

ข่าวข้นคลิปเด็ด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีจ้า โชคดี เพื่อน พี่น้อง

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำอังคารที่ 21 มีนาคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 21 มีนาคม 2560 09:46:34 น.

กรุงเทพฯ--21 มี.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังมีแรงเทขายต่อเนื่อง จึงกดดันตลาดให้กลับลงมาทดสอบแถวระดับ 1,230 เหรียญ ก่อนที่จะมีการ Rebound สั้นๆกลับขึ้นมาแถวระดับ 1,235 เหรียญ โดยเมื่อวานนี้ข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาดีขึ้นอย่างมาก โดยมีคนว่างงานลดลง 19,000 ราย สู่ระดับ 223,000 ราย จึงทำให้ภาพรวมตลาดทองคำยังเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways ทั้งนี้ทองคำจะมีแนวรับสำคัญ 1,230 เหรียญ และแนวต้านจะอยู่ที่ระดับ 1,260 เหรียญ สำหรับคืนนี้ต้องจับตาถ้อยแถลงประธานเฟดในช่วงเวลาประมาณตี 1 เกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจ หลังจากที่ถ้อยแถลงในสัปดาห์นี้ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังไม่ได้ให้ความชัดเจนใดๆเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจ

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำระยะสั้นปรับตัวเป็นขาลงในกรอบ และยังสามารถยืนเหนือ 1,230 เหรียญ สำหรับแนวต้านด้านบนของทองคำจะอยู่บริเวณ 1,250 เหรียญ ซึ่งหากราคาทองคำหลุด 1,230 เหรียญลงมา จะส่งผลให้ภาพทางเทคนิค Breakout เทรนระยะยาวที่เป็นขาขึ้น และกลับมาเคลื่อนไหวเป็นลักษณะ Sideway Down ดังนั้น นักลงทุนจึงควร Wait&See จนกว่าจะมีการ Breakout ของราคา โดยมีแนวต้านแถวระดับ 1,250 – 1,255 เหรียญ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ 1230 – 1255 เหรียญ

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

รอดูจังหวะหากราคาไม่หลุด 1,230 เหรียญ แนะนำให้หาจังหวะเข้าซื้อ และปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน

 

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

หาจังหวะปิดสถานะทำกำไร เมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

รอดูจังหวะ หากราคาหลุด 1,230 เหรียญ แนะนำให้ทำการ Follow Short แต่หากราคายืนอยู่ได้ แนะนำให้เข้าช้อนซื้อแถวระดับ 1,230 เหรียญ ซึ่งระดับดังกล่าวถือเป็นแนวรับสำคัญสำหรับภาพทางเทคนิค

 

Gold Futures J17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,580 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,750 บาท

Gold Futures M17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,600 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,850 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2620362

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $3.8 รับเฟดส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 21 มีนาคม 2560 07:21:24 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับผลการประชุมของธนาคารสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำเพื่อปรับโพสิชั่น ก่อนที่อังกฤษเตรียมประกาศแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ระดับ 1,234.00 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 2.5 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 17.438 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 9.4 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ 972.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 5.85 ดอลลาร์ หรือ 0.8%ปิดที่ 781.65 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 หลังจากเฟดได้ส่งสัญญาณภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินครั้งล่าสุด ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในปีนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำเพื่อปรับโพสิชั่นการลงทุน หลังจากมีรายงานว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป (EU) ในวันที่ 29 มี.ค.

 

ทั้งนี้ กระทรวงว่าด้วยการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของอังกฤษ แถลงว่า นางเมย์จะประกาศใช้มาตรา 50 ในวันที่ 29 มี.ค. ซึ่งจะส่งผลให้อังกฤษเริ่มต้นกระบวนการเจรจาเป็นเวลา 2 ปีเพื่อแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 4/2559, ดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2620150

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามภูมิภาค ขานรับเงินบาทยังแข็งค่า-Fund Flow ไหลเข้า

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 21 มีนาคม 2560 09:15:10 น.

นายธีรศักดิ์ ธนวรากุล นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคด้านตลาดทุน บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้น ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกกัน เนื่องจากค่าเงินบาทในช่วงสั้นยังคงแข็งค่า

 

ประกอบกับ Fund Flow ได้ไหลเข้ามาในตลาดหุ้น โดยเฉพาะตลาดอนุพันธ์นักลงทุนต่างชาติได้ทำ Long ไว้ค่อนข้างมาก ซึ่งมองว่าน่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยสามารถยืนในแดนบวกได้ถึงสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ คาดว่าจะมีการทำ Window Dressing ในช่วงปลายเดือนนี้ด้วยก่อนปิดงบฯไตรมาส 1/60

 

พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 จุด

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2620361

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.68 แข็งค่าจากวานนี้เล็กน้อย แต่แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค มองกรอบ 34.65-34.75

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 21 มีนาคม 2560 09:15:01 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.68 บาท/ดอลลาร์ จากปิด

 

 

 

ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.71 บาท/ดอลลาร์ และล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ 34.72 เงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่าเช่น

 

เดียวกับภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลเรื่องความชัดเจนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกอบกับ

 

มีเงินทุนไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตร

"บาทมีทิศทางอ่อนค่าเล็กน้อยตามภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนยังไม่มั่นใจถึงความชัดเจนในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ

 

เฟด ขณะเดียวกันยังมี flow ไหลเข้ามาในตลาด bond" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้อยู่ในกรอบ 34.65-34.75 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.57 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 112.80 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0766 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0753 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.7080 บาท/

 

ดอลลาร์

- นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ช่วงเดือน เม.ย.นี้ กระทรวงเตรียมหารือกับสภาอุตสาหกรรม

 

แห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อปรับบทบาทคณะทำงานร่วมกันระหว่างทั้งสองฝ่ายให้สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยจะให้

 

ความสำคัญกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ผลักดันเกิดการลงทุนในพื้นที่

 

ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี) เน้นการดูแลสิ่งแวดล้อมในพื้นที่และส่งเสริมให้เกิดเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco

 

Industrial Town)

- นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี

 

พร้อมใช้อำนาจพิเศษตามมาตรา 44 มาผลักดันกฎหมาย 3 ฉบับ ทั้งร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

 

ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน และร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม ให้มีผลบังคับใช้ในเดือน พ.ค.นี้ ก่อนที่ธนาคารโลกจะมาเก็บข้อมูล

 

เพื่อไปจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจหรือการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย หรือ Doing Business รอบใหม่ ซึ่งจะ

 

ประกาศผลออกมาในเดือนตุลาคมปีนี้

- นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่ารัฐบาลจะทำประกันอุบัติเหตุให้แก่ผู้มีรายได้น้อยโดยจะเสนอ

 

ประกันภัยแบบจ่ายเบี้ยประกันคนละ 99 บาท โดยกระทรวงจะออกเงินซื้อกรมธรรม์ให้ ขณะนี้ออกแบบรายละเอียดกรมธรรม์ไว้แล้ว

 

ซึ่งต้องรอให้การลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบวันที่ 3 เม.ย.-15 พ.ค. นี้ เสร็จสิ้นก่อนเพื่อจะได้ทราบจำนวนผู้มีสิทธิที่ชัดเจน

 

- กระทรวงว่าด้วยการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ของอังกฤษ แถลงว่า นางเมย์จะประกาศใช้มาตรา

 

50 ในวันที่ 29 มี.ค. ซึ่งจะส่งผลให้อังกฤษเริ่มต้นกระบวนการเจรจาเป็นเวลา 2 ปีเพื่อแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป

 

- นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า เฟดจะผลักดันให้อัตราเงิน

 

เฟ้ออยู่เหนือระดับเป้าหมายที่ 2% ถึงแม้เฟดยังคงใช้นโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

- นายนีล แคชคารี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนีอาโพลิส ซึ่งเป็นกรรมการนโยบายการเงินของ

 

เฟด (FOMC) เพียงคนเดียวที่ลงคะแนนเสียงคัดค้านมติของคณะกรรมการในการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว กล่าวว่า การที่เขาลงมติไม่เห็น

 

ด้วย ก็เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% และตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง

 

- นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวว่า เฟดกำลังดำเนินไปในแนวทางที่ถูก

 

ต้องสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของปีนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

 

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20

 

มี.ค.) ด้วยแรงหนุนจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียและชิคาโก ที่ได้ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจ

 

พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ หากอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นเป็นอย่างมาก โดยยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์

 

สหรัฐ ที่ระดับ 1.0736 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0752 ดอลลาร์ ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.57 เยน

 

จากระดับ 112.62 เยน

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับผลการประชุมของธนาคาร

 

สหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำเพื่อปรับโพสิชั่น ก่อนที่อังกฤษ

 

เตรียมประกาศแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

- นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพฤหัสบดีนี้ ใน

 

การประชุมซึ่งจัดขึ้นโดยเฟดสาขาชิคาโก ภายใต้หัวข้อ "Strong Foundations: The Economic Futures of Kids and

 

Communities" เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในปีนี้

 

- สำหรับดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 4/2559, ดัชนีราคาบ้านเดือน

 

ม.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ., ยอดสั่งซื้อสินค้า

 

คงทนเดือนก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)

 

ภาคบริการเบื้องต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2620360

 

นักวิเคราะห์คาดราคาทองดีดตัวขึ้นต่อไป จากปัจจัยดอลลาร์อ่อนค่า,เฟดขึ้นดบ.ค่อยเป็นค่อยไป

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 21 มีนาคม 2560 01:55:24 น.

นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาทองจะดีดตัวขึ้นต่อไปจากปัจจุบันที่เคลื่อนตัวใกล้ระดับ 1,230 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะดำเนินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

ทองได้พุ่งขึ้นมากกว่า 35 ดอลลาร์จากระดับต่ำสุดที่ได้ทำไว้ก่อนการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเมื่อวันพุธที่แล้ว ขณะที่ดอลลาร์ได้ร่วงลง 1.7% จากระดับ 101.71 เยนที่ทำไว้ในวันเดียวกัน

 

 

 

นายไนเตช ชาห์ ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์ที่อีทีเอฟ ซีเคียวริตี้ส์ คาดการณ์ว่า ราคาทองจะพุ่งแตะระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ในกลางปีนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากกว่า 5% ก่อนที่จะย่อตัวลงกลับสู่ระดับปัจจุบันในช่วงปลายปี

 

นายชาห์กล่าวว่า ถึงแม้เขาเห็นด้วยว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ แต่เฟดก็อาจจะถูกบังคับให้คุมเข้มนโยบายการเงินในครึ่งปีหลัง โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น และดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยฉุดให้ราคาทองอ่อนตัวลง

 

ทางด้านธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ออกรายงานระบุว่า ราคาทองมีแนวโน้มพุ่งขึ้นราว 200 ดอลลาร์ ภายในสิ้นปีนี้

 

รายงานระบุว่า ราคาทองจะได้รับแรงหนุนจากภาวะเงินเฟ้อ รวมทั้งปัจจัยความไม่แน่นอนหลายประการ ซึ่งรวมถึงการเลือกตั้งของหลายประเทศในยุโรป และการใช้มาตรการกีดกันทางการค้า ซึ่งจะผลักดันให้ราคาทองพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,400 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในสิ้นปีนี้

 

ส่วนยูบีเอสคาดว่า ราคาทองจะได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ทองในอินเดีย และจีน ทำให้ราคาทองมีแนวรับที่ระดับ 1,200 ดอลลาร์

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2620142

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประธานเฟดมินนีอาโพลิส แกะดำใน FOMC แจงเหตุผลโหวตโน อ้างเงินเฟ้อต่ำกว่าเป้า

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 21 มีนาคม 2560 00:09:11 น.

นายนีล แคชคารี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนีอาโพลิส ซึ่งเป็นกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) เพียงคนเดียวที่ลงคะแนนเสียงคัดค้านมติของคณะกรรมการในการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว กล่าวว่า การที่เขาลงมติไม่เห็นด้วย ก็เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% และตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง

 

 

 

ทั้งนี้ คณะกรรมการ FOMC มีมติด้วยคะแนนเสียง 9-1 ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 0.75-1.00% ในการประชุมวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่นายแคชคารี ลงมติให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.50-0.75%

 

"ทำไมต้องมีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่เงินเฟ้อยังมีโอกาสอีกมากที่จะดีดตัวสู่เป้าหมายของเฟด และอาจพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2% โดยไม่สร้างความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ร้อนแรงเกินไป" เขากล่าว

 

"ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา เฟดมักคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังใกล้จะดีดตัวขึ้น แต่คำทำนายเหล่านี้ก็มักจะไม่เป็นความจริง" นายแคชคารีกล่าว

 

เขายังระบุว่า นับตั้งแต่การประชุมเฟดในเดือนม.ค. อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานก็มักปรับตัวในช่วงแคบๆ ที่ราว 1.7%

 

ในช่วงหลังการประชุมเฟดในสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมการเฟดคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวแตะระดับ 1.9% ในปีนี้ ขณะที่แนวโน้มระยะยาวสอดคล้องกับเป้าหมายของเฟดที่ 2%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2620138

 

ประธานเฟดฟิลาเดลเฟียหนุนเฟดผลักดันเงินเฟ้อเหนือเป้าหมาย 2%

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 21 มีนาคม 2560 00:31:39 น.

นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า เฟดจะผลักดันให้อัตราเงินเฟ้ออยู่เหนือระดับเป้าหมายที่ 2% ถึงแม้เฟดยังคงใช้นโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

นายฮาร์เกอร์กล่าวว่า ขณะนี้อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 1.7% ซึ่งถือว่าอยู่ใกล้ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2%

 

เขากล่าวว่า "เรากำลังมุ่งไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง ซึ่งแม้อัตราเงินเฟ้ออาจจะสูงกว่าเป้าหมายเล็กน้อย ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสม"

 

ทั้งนี้ คำกล่าวของนายฮาร์เกอร์สะท้อนมุมมองก่อนหน้านี้ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด และนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโก

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2620139

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

15032180_1768780803384085_7435942464899285023_n.jpg?oh=3267fbf15866a8bada3126b1041518a7&oe=595B6A25

17342600_1097889616982926_8062309193392910527_n.jpg?oh=cc9ad0309ae02d731e39c42d81f49c28&oe=5953A548

 

17309163_1097889540316267_3141690354484557709_n.jpg?oh=a19b109e5a995655c43e55c952f130c4&oe=597266BB

 

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 21 มีนาคม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ เสด็จโดยรถยนต์ที่นั่งยัง พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ทรงประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลพิธีกงเต็กถวายพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ครั้งที่ 2

 

 

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 237.85 จุด วิตกนโยบาย ทรัมป์ ไม่แน่นอน

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 มีนาคม 2560 06:32:10 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการบังคับใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการปรับลดภาษี และการปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,668.01 จุด ร่วงลง 237.85 จุด หรือ -1.14% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,793.83 จุด ลดลง 107.70 จุด หรือ -1.82% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,344.02 จุด ลดลง 29.45 จุด หรือ -1.24%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบติดต่อกัน 4 วันทำการเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการบังคับใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งรวมถึงแผนการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ แผนการปฏิรูประบบประกันสุขภาพ แผนปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับชนชั้นกลาง และแผนการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับภาคธุรกิจ

 

ทั้งนี้ พรรครีพับลิกันกำลังผลักดันให้ร่างกฎหมาย "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ซึ่งจะนำมาบังคับใช้แทนกฎหมายประกันสุขภาพ "Affordable Care Act (ACA)" หรือ "โอบามาแคร์" นั้น ผ่านความเห็นชอบต่อรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ให้คำมั่นสัญญาในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งว่า จะยกเลิกกฎหมายโอบามาแคร์ และแทนที่ด้วยกฎหมายฉบับใหม่ซึ่งจะช่วยผ่อนคลายกฎข้อบังคับจากกฎหมายโอบามาแคร์ พร้อมกรุยทางสู่ระบบบริการสุขภาพแห่งศตวรรษที่ 21

 

ด้านสำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) ออกรายงานเตือนว่า หากร่างกฎหมายอเมริกันเฮลธ์แคร์ถูกนำมาบังคับใช้แทนกฎหมายโอบามาแคร์ จะส่งผลให้ชาวอเมริกันที่ไม่มีประกันสุขภาพมีจำนวนเพิ่มขึ้นราว 24 ล้านคน

 

กฎหมายโอบามาแคร์ได้กลายเป็นข้อถกเถียงในสหรัฐนับตั้งแต่ที่ได้รับการอนุมัติเมื่อปี 2553 โดยรัฐบาลของโอบามาระบุว่า กฎหมายโอบามาแคร์ช่วยขยายการประกันสุขภาพที่ครอบคลุมพลเมืองเพิ่มขึ้นกว่าหลายล้านคน ในขณะที่หลายฝ่ายได้แสดงมุมมองในด้านลบเนื่องจากเบี้ยประกันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่มีการใช้กฎหมายโอบามาแคร์

 

หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลง หลังจากผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 5.8% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ดิ่งลง 2.9% หุ้นคีย์คอร์ป ดิ่งลง 6.5% และหุ้นฮันติงตัน แบงก์แชร์ส ร่วงลง 6.1%

 

หุ้นแอปเปิลร่วงลง 1.15% หลังจากแอปเปิลประกาศเปิดตัว iPad เวอร์ชั่นใหม่ขนาด 9.7 นิ้ว และฟีเจอร์ใหม่สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7plus

 

นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ ในการประชุมภายใต้หัวข้อ "Strong Foundations: The Economic Futures of Kids and Communities" เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในปีนี้

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2620848

<p>

<span style="font-size:18px;">ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ค่าเงินปอนด์พุ่งหลังอังกฤษเผยเงินเฟ้อพุ่งสูงกว่าเป้าหมายแบงก์ชาติ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 มีนาคม 2560 07:05:55 น.

ค่าเงินสกุลปอนด์ทะยานขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) หลังรัฐบาลอังกฤษเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษ ขณะที่ดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงจากแรงกดดันของถ้อยแถลงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่าจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในปีนี้

 

 

 

ปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2483 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2347 ดอลลาร์ ในขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0802 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0736 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7699 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7733 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.88 เยน จากระดับ 112.57 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9942 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9985 ฟรังก์สวิส

 

สกุลเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ที่ระดับ 1.2471 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนนี้ หลังจากสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อ ปรับตัวขึ้นแตะ 2.3% ในเดือนก.พ. จากระดับ 1.8% ในเดือนม.ค. โดยตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าว นับว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2556 และสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษที่ 2% ทั้งยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2556 ที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลาง ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษอาจจะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน

 

ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง จากแรงกดดันของถ้อยแถลงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อๆไปแบบค่อยเป็นค่อยไป

 

ทั้งนี้เฟดระบุด้วยว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับราว 1.4% ในช่วงสิ้นปี 2560 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้

 

นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ ในการประชุมภายใต้หัวข้อ "Strong Foundations: The Economic Futures of Kids and Communities" เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในปีนี้

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกฯ เผยกรณีภาษีหุ้นชิน-ตรวจสอบทรัพย์สินย้อนหลัง ยึดตามกระบวนการกม. ปัดกลั่นแกล้งใคร

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 21 มีนาคม 2560 16:44:33 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่คำวินิจฉัยคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรที่ระบุว่าการขยายเวลาการออกหมายเรียกไม่สามารถทำได้จะส่งผลต่อการเรียกเก็บภาษีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ว่า จะดำเนินการได้หรือไม่ได้นั้นคงต้องไปพิจารณากันในกระบวนการยุติธรรม ขอให้สังคมเข้าใจรัฐบาลด้วยว่าถ้าบางเรื่องมีความชัดเจนว่าไม่สามารถทำได้ก็คือทำไม่ได้ แต่หากบางเรื่องที่ยังมีความคลุมเครืออยู่ รัฐบาลก็จำเป็นต้องดำเนินการไปก่อน แล้วค่อยไปต่อสู้คดีในภายหลัง เพราะไม่เช่นนั้นถ้าสามารถดำเนินการได้แล้วแต่รัฐบาลไม่ทำก็จะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157

 

 

 

"จะทำได้หรือไม่ได้ให้ไปว่ากันในกระบวนการยุติธรรม ผมให้ความยุติธรรมตรงนี้ ต้องนึกถึงรัฐบาลด้วยว่า ถ้ามันชัดเจนว่าทำไม่ได้ ก็คือทำไม่ได้ แต่ถ้ายังไม่ชัดเจน ยังคลุมเครือ รัฐบาลก็ต้องทำไปก่อน แล้วค่อยไปต่อสู้คดีในภายหลัง เพราะไม่เช่นนั้นถ้าทำได้แล้วไม่ทำ รัฐบาลจะโดน ม.157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ นี่คือสิ่งที่รัฐบาลทุกรัฐบาลต้องคำนึงถึง การไม่ปฏิบัติอะไรก็ตามมีความเสี่ยงต่อกฎหมายทุกประการ ดังนั้นรัฐบาลนี้จึงระวังอย่างเต็มที่" นายกรัฐมนตรี ระบุ

 

ส่วนกรณีการตรวจสอบนักการเมืองในอดีตที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากการดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ก็มีการดำเนินการไปตามปกติ ซึ่งรัฐบาลนี้เองก็ต้องถูกตรวจสอบเช่นกันเพราะถือเป็นระเบียบปฏิบัติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะต้องถูกตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินในช่วงก่อนเข้ารับตำแหน่ง และหลังจากนั้นเมื่อพ้นตำแหน่งไป 1 ปี และ 2 ปี ก็จะต้องถูกตรวจสอบอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ดี หาก ป.ป.ช.มีข้อสงสัยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรายใดที่อาจจะมีความผิดปกติของบัญชีทรัพย์สินก็ยังสามารถเรียกมาตรวจสอบเป็นการเฉพาะบุคคลได้ โดยกรณีนี้ให้อำนาจไว้ภายใน 5 ปี หลังจากที่บุคคลนั้นพ้นจากตำแหน่งทางการเมือง

 

"ที่มีข่าวตอนนี้ ไม่ใช่ทุกคนจะเดือดร้อน แต่จะตรวจสอบเฉพาะผู้ที่มีรายได้ไม่ปกติ ป.ป.ช.มีอำนาจทำได้ภายใน 5 ปี ไม่ใช่การรังแกใคร มีสิทธิตรวจสอบใครก็ได้เมื่อพ้นหน้าที่ไปแล้ว ปีแรก และอีก 2 ปี แต่หลังจากนั้นภายในอีก 5 ปี อาจโดนเรียกอีกก็ได้ เพื่อตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น" นายกรัฐมนตรี กล่าว

 

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2620803

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $12.5 เหตุหุ้นสหรัฐร่วงหนุนแรงซื้อทอง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 มีนาคม 2560 07:37:24 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐ อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังส่งผลให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

 

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 12.5 ดอลลาร์ หรือ 1.01% ปิดที่ระดับ 1,246.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 14.5 เซนต์ หรือ 1.01% ปิดที่ 17.583 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 971.4 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.68% สู่ระดับ 99.68 เมื่อคืนนี้

 

นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ ยังส่งผลให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 200 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการบังคับใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งรวมถึงแผนการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ แผนการปฏิรูประบบประกันสุขภาพ แผนปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับชนชั้นกลาง และแผนการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับภาคธุรกิจ

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2621004

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 88 เซนต์ จากคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบพุ่ง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 มีนาคม 2560 07:24:58 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนจับตาดูว่านอกจากซาอุดิอาระเบียแล้ว จะมีประเทศสมาชิกรายอื่นๆของโอเปกที่ออกมาให้คำมั่นว่าจะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 88 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 47.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 66 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 50.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วงลง หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว โดยผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะพุ่งขึ้น 2 ล้านบาร์เรล ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 มี.ค.

 

ทั้งนี้ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลต่อข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในสหรัฐ โดยเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งระบุว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมี.ค. มีจำนวนเพิ่มขึ้น 14 แท่น สู่ระดับ 631 แท่น ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2015 และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน

 

นักลงทุนจับตาดูท่าทีของประเทศสมาชิกโอเปกว่า จะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่ หลังจากที่ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นสมาชิกรายใหญ่สุดของโอเปกระบุว่า หากสต็อกน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับสูง ซาอุดิอาระเบียก็จะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเกินกว่าที่ข้อตกลงระบุไว้

 

ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในกลางปีนี้

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2620854

 

 

 

 

ประธานเฟดแคนซัสซิตี้ชี้เฟดอาจพิจารณาถอนมาตรการกระตุ้นการเงินในระบบเศรษฐกิจ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 มีนาคม 2560 08:42:09 น.

นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัส ซิตี้ เปิดเผยว่า เฟดมองเห็นโอกาสที่จะพิจารณาถอนมาตรการกระตุ้นด้านการเงินบางส่วนออกจากระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ

 

นางจอร์จ กล่าวในงานซึ่งจัดโดยองค์กร Women in Housing and Finance ว่า "ธนาคารกลางสหรัฐกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่ดิฉันคิดว่าสำคัญเป็นอย่างยิ่ง"

 

ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ ซึ่งเป็นกรรมการเฟดที่ไม่ได้เข้าร่วมลงมติกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในปีนี้ ได้กล่าวเตือนว่า เฟดจำเป็นต้องระมัดระวังโดยที่ไม่ใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินมากเกินไป แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ควรปล่อยให้เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะที่ร้อนแรงจนเกินไปเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้แสดงความเห็นว่า ธนาคารกลางสหรัฐควรจะปรับขึ้นดอกเบี้ยมากน้อยเพียงใดในปีนี้

 

นอกจากนี้ เธอยังกล่าวด้วยว่า ยังไม่ถึงเวลาที่เฟดจะทำการตัดสินใจเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปรับลดงบดุลบัญชีของธนาคารกลาง เนื่องจากกระบวนการดังกล่าวต้องใช้เวลาในการพินิจพิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2621023

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ค่าเงินปอนด์พุ่งหลังอังกฤษเผยเงินเฟ้อพุ่งสูงกว่าเป้าหมายแบงก์ชาติ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 มีนาคม 2560 07:05:55 น.

ค่าเงินสกุลปอนด์ทะยานขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) หลังรัฐบาลอังกฤษเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษ ขณะที่ดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงจากแรงกดดันของถ้อยแถลงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่าจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในปีนี้

 

 

 

ปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2483 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2347 ดอลลาร์ ในขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0802 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0736 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7699 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7733 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.88 เยน จากระดับ 112.57 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9942 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9985 ฟรังก์สวิส

 

สกุลเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ที่ระดับ 1.2471 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนนี้ หลังจากสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อ ปรับตัวขึ้นแตะ 2.3% ในเดือนก.พ. จากระดับ 1.8% ในเดือนม.ค. โดยตัวเลขเงินเฟ้อดังกล่าว นับว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2556 และสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษที่ 2% ทั้งยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2556 ที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลาง ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษอาจจะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน

 

ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง จากแรงกดดันของถ้อยแถลงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อๆไปแบบค่อยเป็นค่อยไป

 

ทั้งนี้เฟดระบุด้วยว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับราว 1.4% ในช่วงสิ้นปี 2560 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้

 

นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ ในการประชุมภายใต้หัวข้อ "Strong Foundations: The Economic Futures of Kids and Communities" เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในปีนี้

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนมี.ค.จากมาร์กิต

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2620850

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 มีนาคม 2560 07:40:46 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 มี.ค.2560

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการบังคับใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการปรับลดภาษี และการปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,668.01 จุด ร่วงลง 237.85 จุด หรือ -1.14% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,793.83 จุด ลดลง 107.70 จุด หรือ -1.82% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,344.02 จุด ลดลง 29.45 จุด หรือ -1.24%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวลงในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลสำรวจที่ระบุว่า นายเอมมานูเอล มาครอง ได้รับชัยชนะเหนือนางมารีน เลอเปน จากพรรค National Front (FN) ในการโต้วาทีเพื่อชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เมื่อวานนี้

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.5% ปิดที่ 375.67 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,002.43 จุด ลดลง 9.73 จุด หรือ -0.19% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,962.13 จุด ลดลง 90.77 จุด หรือ -0.75% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,378.34 จุด ลดลง 51.47 จุด หรือ -0.69%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) จากแรงฉุดของค่าเงินปอนด์ที่ทะยานขึ้นเป็นอย่างมาก หลังรัฐบาลอังกฤษเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงกว่าระดับเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 51.47 จุด หรือ -0.69% ปิดที่ 7,378.34 จุด

-- ค่าเงินสกุลปอนด์ทะยานขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) หลังรัฐบาลอังกฤษเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษ ขณะที่ดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงจากแรงกดดันของถ้อยแถลงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่าจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วในปีนี้

 

ปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2483 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2347 ดอลลาร์ ในขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0802 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0736 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7699 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7733 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.88 เยน จากระดับ 112.57 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9942 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9985 ฟรังก์สวิส

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐ อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังส่งผลให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 12.5 ดอลลาร์ หรือ 1.01% ปิดที่ระดับ 1,246.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 14.5 เซนต์ หรือ 1.01% ปิดที่ 17.583 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 971.4 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนจับตาดูว่านอกจากซาอุดิอาระเบียแล้ว จะมีประเทศสมาชิกรายอื่นๆของโอเปกที่ออกมาให้คำมั่นว่าจะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 88 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 47.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 66 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 50.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,344.02 จุด ลดลง 29.45 จุด, -1.24%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,793.83 จุด ลดลง 107.70 จุด, -1.82%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 20,668.01 จุด ลดลง 237.85 จุด, -1.14%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,002.43 จุด ลดลง 9.73 จุด, -0.19%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,962.13 จุด ลดลง 90.77 จุด, -0.75%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดสุดที่ 7,378.34 จุด ลดลง 51.47 จุด, -0.69%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 29,485.45 จุด ลดลง 33.29 จุด, -0.11%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,754.67 จุด เพิ่มขึ้น 5.26 จุด, +0.30%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,158.57 จุด ลดลง 7.13 จุด, -0.23%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,543.09 จุด เพิ่มขึ้น 9.10 จุด, +0.16%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,593.12 จุด เพิ่มขึ้น 91.13 จุด, +0.37%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 716.18 จุด เพิ่มขึ้น 1.11 จุด, +0.16%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,323.31 จุด เพิ่มขึ้น 6.74 จุด, +0.09%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,261.61 จุด เพิ่มขึ้น 10.80 จุด, +0.33%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,178.38 จุด เพิ่มขึ้น 21.37 จุด, +0.99%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,455.88 จุด ลดลง 65.71 จุด, -0.34%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,972.49 จุด เพิ่มขึ้น 59.52 จุด, +0.60%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,774.60 จุด ลดลง 4.30 จุด, -0.07%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,819.50 จุด ลดลง 1.00 จุด, -0.02%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2621011

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...