ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

18581652_10155357435597855_64018091183105989_n.jpg?oh=8aa2262dcf1bcef67cec1b066a52304a&oe=59B2D3C0

เจริญพระพุทธมนต์

 

ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่ http://www.komchadluek.net/news/regional/278765

 

พสกนิกรจำนวนมากร่วมสวดมนต์ในพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช พระสยามเทวาธิราช และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยมีสมเด็จพระสังฆราช พร้อมด้วยพระสงฆ์ 175 รูปนำสวดเจริญพระพุทธมนต์พิธีมหามงคล ณ ลานพระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2560

 

ภาพ ชาลินี ถิระศุภะ (Chalinee Thirasupa)#NationPhoto

#พิธีบำเพ็ญพระราชกุศล #อุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช #พระลานพระราชวังดุสิต

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2560 07:49:53 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 พ.ค.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้หากเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันกรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับแผนการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟด

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,012.42 จุด เพิ่มขึ้น 74.51 จุด หรือ +0.36% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,404.39 จุด เพิ่มขึ้น 5.97 จุด หรือ +0.25% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,163.02 จุด เพิ่มขึ้น 24.31 จุด หรือ +0.40%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบาย (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยรายงานการประชุมภายหลังจากที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการไปแล้ว

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.1% ปิดที่ 392.37 จุด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,514.90 จุด เพิ่มขึ้น 29.61 จุด หรือ +0.40% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,642.87 จุด ลดลง 16.28 จุด หรือ -0.13% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,341.34 จุด ลดลง 6.82 จุด หรือ -0.13%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) สวนทางกับตลาดหุ้นหลายแห่งในยุโรปที่ปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ โดยนักลงทุนได้คลายความผิดหวังจากข้อมูลผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง รวมถึงการที่มูดี้ส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลก ได้ประกาศหั่นเครดิตของจีนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 29.61 จุด หรือ +0.40% ปิดที่ 7,514.90 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะมีขึ้นในวันนี้ อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงมากกว่าคาดการณ์ของสหรัฐ ได้ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบในระหว่างวัน

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 51.36 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 53.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ในรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อวานนี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.4 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ระดับ 1,253.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.2 เซนต์ หรือ 0.13% ปิดที่ 17.117 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 947.3 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 10.70 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 761.65 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนซึมซับรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งออกมาสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้หากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1201 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1179 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2949 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2965 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ะดับ 0.7486 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7483 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.76 เยน จากระดับ 111.73 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9746 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9759 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,163.02 จุด เพิ่มขึ้น 24.31 จุด, +0.40%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 21,012.42 จุด เพิ่มขึ้น 74.51 จุด, +0.36%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,404.39 จุด เพิ่มขึ้น 5.97 จุด, +0.25%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,642.87 จุด ลดลง 16.28 จุด, -0.13%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,514.90 จุด เพิ่มขึ้น 29.61 จุด, +0.40%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,341.34 จุด ลดลง 6.82 จุด, -0.13%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 30,301.64 จุด ลดลง 63.61 จุด, -0.21%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,231.24 จุด เพิ่มขึ้น 8.55 จุด, +0.27%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,771.01 จุด เพิ่มขึ้น 3.84 จุด, +0.22%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,703.43 จุด ลดลง 27.18 จุด, -0.47%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 25,428.50 จุด เพิ่มขึ้น 25.35 จุด, +0.10%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 742.74 จุด เพิ่มขึ้น 1.81 จุด, +0.24%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,837.82 จุด เพิ่มขึ้น 25.68 จุด, +0.33%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,064.08 จุด เพิ่มขึ้น 2.13 จุด, +0.07%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,317.34 จุด เพิ่มขึ้น 5.60 จุด, +0.24%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,811.50 จุด เพิ่มขึ้น 8.70 จุด, +0.15%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,769.00 จุด เพิ่มขึ้น 8.80 จุด, +0.15%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,742.98 จุด เพิ่มขึ้น 129.70 จุด, +0.66%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,044.42 จุด เพิ่มขึ้น 36.58 จุด, +0.37%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2653814

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่าเทียบเงินสกุลหลัก หลังเฟดเผยรายงานประชุม

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2560 07:08:15 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนซึมซับรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งออกมาสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้หากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1201 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1179 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2949 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2965 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ะดับ 0.7486 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7483 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.76 เยน จากระดับ 111.73 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9746 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9759 ฟรังก์สวิส

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ภายหลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมกำหนดนโยบายการเงินประจำเดือนพ.ค. ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หากเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

 

รายงานการประชุมระบุว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงเมื่อเร็วๆนี้ เกิดขึ้นจากปัจจัยชั่วคราว และการชะลอตัวของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคก็เกิดจากปัจจัยชั่วคราวเช่นกัน ทั้งนี้ เฟดคาดว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคจะฟื้นตัวขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น ตัวเลขการจ้างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รายได้และความมั่งคั่งของภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นกัน

 

นอกจากนี้ รายงานการประชุมในครั้งนี้ยังระบุด้วยว่า กรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับแผนการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟด ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ กรรมการเฟดเกือบทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ในปีนี้

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า รายงานการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดนับเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.

 

ทั้งนี้ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 83.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.

 

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.17% สู่ระดับ 97.185 เมื่อคืนนี้

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดุลการค้าเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไตรมาส 1 (ประมาณการครั้งที่ 2), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2653681

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 74.51 จุด ขานรับรายงานประชุมเฟด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2560 06:39:46 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้หากเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันกรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับแผนการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟด

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,012.42 จุด เพิ่มขึ้น 74.51 จุด หรือ +0.36% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,404.39 จุด เพิ่มขึ้น 5.97 จุด หรือ +0.25% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,163.02 จุด เพิ่มขึ้น 24.31 จุด หรือ +0.40%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หากเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

 

รายงานการประชุมระบุว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงเมื่อเร็วๆนี้ เกิดขึ้นจากปัจจัยชั่วคราว และการชะลอตัวของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคก็เกิดจากปัจจัยชั่วคราวเช่นกัน ทั้งนี้ เฟดคาดว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคจะฟื้นตัวขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น ตัวเลขการจ้างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รายได้และความมั่งคั่งของภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นกัน

 

นอกจากนี้ รายงานการประชุมในครั้งนี้ยังระบุด้วยว่า กรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับแผนการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ กรรมการเฟดเกือบทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ในปีนี้

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า รายงานการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดนับเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.

 

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือสกุลเงินหยวนและสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของจีนลงสู่ระดับ A1 จากระดับ Aa3 รวมทั้งปัจจัยลบจากรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ซึ่งระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 2.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.57 ล้านยูนิต มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.1%

 

หุ้นโลว์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์สำหรับบ้าน ร่วงลง 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาสแรกที่ระดับ 1.03 ดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.06 ดอลลาร์ ส่วนรายได้ 1.686 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.696 หมื่นล้านดอลลาร์

 

หุ้นทิฟฟานี แอนด์ โค ผู้จำหน่ายเครื่องประดับรายใหญ่ ร่วงลง 8.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ลดลงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ในไตรมาสแรก

 

หุ้น Nvidia ดีดตัวขึ้น 1.1% หลังจากบริษัทซอฟต์แบงค์ของญี่ปุ่นได้เข้าซื้อหุ้นมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ใน Nvidia

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดุลการค้าเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไตรมาส 1 (ประมาณการครั้งที่ 2), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2653669

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $2.4 หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2560 07:47:44 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ในรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อวานนี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.4 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ระดับ 1,253.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.2 เซนต์ หรือ 0.13% ปิดที่ 17.117 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 947.3 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 10.70 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 761.65 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำปิดร่วงลงหลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมกำหนดนโยบายการเงินประจำเดือนพ.ค.เมื่อวานนี้ ซึ่งระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หากเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

 

รายงานการประชุมระบุว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงเมื่อเร็วๆนี้ เกิดขึ้นจากปัจจัยชั่วคราว และการชะลอตัวของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคก็เกิดจากปัจจัยชั่วคราวเช่นกัน ทั้งนี้ เฟดคาดว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคจะฟื้นตัวขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น ตัวเลขการจ้างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รายได้และความมั่งคั่งของภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นกัน

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า รายงานการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดนับเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.

 

ทั้งนี้ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 83.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2653813

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2560 06:59:02 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะมีขึ้นในวันนี้ อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงมากกว่าคาดการณ์ของสหรัฐ ได้ช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบในระหว่างวัน

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 51.36 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 53.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่การประชุมโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกจะมีขึ้นในวันนี้ โดยที่ประชุมจะหารือเกี่ยวกับข้อเสนอในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 12 เดือนจนถึงเดือนมิ.ย.2018

 

ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มประเทศโอเปกได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน และจากนั้นในกลางเดือนธ.ค. ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2017 และมีกำหนดเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีนี้

 

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 4.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล

 

ด้านสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 787,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล

 

ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 485,000 บาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 743,000 บาร์เรล

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--รายงานประชุมชี้เฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้หากเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2560 06:17:41 น.

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หากเศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

 

รายงานการประชุมระบุว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงเมื่อเร็วๆนี้ เกิดขึ้นจากปัจจัยชั่วคราว และการชะลอตัวของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคก็เกิดจากปัจจัยชั่วคราวเช่นกัน ทั้งนี้ เฟดคาดว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคจะฟื้นตัวขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น ตัวเลขการจ้างงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รายได้และความมั่งคั่งของภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นกัน

 

 

 

อย่างไรก็ตาม กรรมการเฟดจะรอดูหลักฐานเพิ่มเติมอย่างรอบคอบระมัดระวัง ก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป

 

รายงานการประชุมในครั้งนี้ยังระบุด้วยว่า กรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับแผนการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ กรรมการเฟดเกือบทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันว่า เฟดควรจะเริ่มปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ในปีนี้

 

สำหรับการประชุมซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 2-3 พ.ค.ที่ผ่ามมานั้น คณะกรรมการ FOMC มีมติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 0.75-1.00% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ และส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2653665

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2653678

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดูเตอร์เตเล็งประกาศเคอร์ฟิวบนเกาะมินดาเนา พร้อมขยายพื้นที่กฎอัยการศึกถึงเมืองวิซายาส

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 24 พฤษภาคม 2560 17:04:53 น.

ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ เตรียมขยายพื้นที่บังคับใช้กฎอัยการศึกออกไปถึงเมืองวิซายาส ทางตอนกลางของประเทศ หลังจากที่ได้ประกาศกฎอัยการศึกที่เกาะมินดาเนาเมื่อคืนนี้

 

นอกจากนี้ นายดูเตอร์เต ยังเปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เตรีนทจะประกาศเคอร์ฟิวที่เกาะมินดาเนาด้วยเช่นกัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาจรีย์ ธนศุภานุเวช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2653603

 

ปธน.ฝรั่งเศสเล็งขยายระยะเวลาประกาศฉุกเฉิน หลังเหตุก่อการร้ายที่แมนเชสเตอร์

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 24 พฤษภาคม 2560 16:59:46 น.

นายเอ็มมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เผยต้องการประกาศขยายเวลาสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังเกิดเหตุก่อการร้ายเป็นจำนวนหลายครั้งนับตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมา รวมถึงเหตุก่อการร้ายครั้งล่าสุดที่คอนเสิร์ตในเมืองแมนเชสเตอร์ของอังกฤษ

 

นายมาครองกล่าวว่า ตนจะยื่นขอประกาศขยายเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินต่อรัฐสภา ซึ่งแต่เดิมจะมีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 15 ก.ค. นี้ ไปเป็นวันที่ 1 พ.ย. โดยจะถือเป็นการขยายเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งที่ 6 ของฝรั่งเศส

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ชาญวิทย์ เอี่ยมอุดม/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2653600

 

Analysis: นักวิเคราะห์ชี้บราซิลดิ้นรนหาทางออกเพื่อคลี่คลายวิกฤติการเมืองในประเทศ

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 24 พฤษภาคม 2560 14:38:00 น.

นักวิเคราะห์เชื่อว่า บราซิลกำลังดิ้นรนหาทางเลือกในด้านต่างๆ เพื่อเอาชนะวิกฤติทางการเมือง หลังจากมีความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีมิเชล เตเมร์ อาจถูกขับไล่ออกจากตำแหน่ง ด้วยข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริต ซึ่งได้บั่นทอนความน่าเชื่อถือของเขาให้ลดลงอย่างรวดเร็ว

 

แม้ประธานาธิบดีเตเมร์ได้ออกมาปฏิเสธที่จะลาออกและไม่ยอมรับความผิดตามที่เขาได้ถูกกล่าวหา แต่เทปบันทึกการสนทนาของเขาที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้น อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่สั่นคลอนการบริหารงานของเขาให้ห่างไกลออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี

 

 

 

จุดเปลี่ยนที่สำคัญของประเด็นนี้เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เมื่อหนังสือพิมพ์ O Globo ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ที่ทรงอิทธิพลฉบับหนึ่งของบราซิล ตีพิมพ์บทความเรียกร้องให้นายเตเมร์ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งเป็นการตอกย้ำความต้องการของบรรดาพรรคการเมืองฝ่ายค้านเอียงซ้าย

 

ขณะที่นักวิเคราะห์ทางการเมืองได้ออกมาถกเถียงกันอย่างเปิดเผยว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับประธานาธิบดี ... เขาจะลาออกเองด้วยความสมัครใจ ...หรือจะถูกฟ้องร้องเพื่อถอดถอนออกจากตำแหน่ง

 

นายเปาโล คราเมอร์ นักวิทยาศาสตร์การเมืองจากมหาวิทยาลัยบราซิเลีย เชื่อว่า แม้ประธานาธิบดีเตเมร์จะยืนยันว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป แต่อาจเป็นไปได้ว่าแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เขาตัดสินใจลาออกด้วยตัวเอง

 

นายคราเมอร์กล่าวว่า "ผมคิดว่าพวกชนชั้นนำทางการเมืองและธุรกิจต้องการให้มีข้อยุติโดยเร็ว เพราะวิกฤติทางจริยธรรมและการเมืองในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว"

 

"วิกฤติที่เกิดขึ้นนี้ได้เพิ่มความหวาดกลัวว่าเราจะต้องถอยหลังกลับและการฟื้นตัวอย่างยากลำบากของเราจะต้องหยุดชะงักลง" เขาอธิบาย

 

อย่างไรก็ตาม ปัญหาวิกฤตทางการเมืองไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับบราซิล ก่อนหน้านี้ นางดิลมา รูสเซฟฟ์ ซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนก่อนหน้านายมิเชล เตเมร์ ก็ถูกฟ้องร้องในข้อกล่าวหาเรื่องการปกปิดข้อมูลทางการคลัง จนถูกรัฐประหารโดยรัฐสภาในที่สุด

 

อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่าการพิจารณาของกล่าวหาที่อื้อฉาวของประธานาธิบดีในครั้งนี้ไม่รุนแรงเท่ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากมันอาจส่งผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจและสถาบัน

 

นายคราเมอร์กล่าวว่า "มีความเป็นไปได้สูงที่ประธานาธิบดีจะตัดสินใจลาออก เนื่องจากแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากการโจมตีของกลุ่มสื่อหลักของประเทศอย่าง O Globo ทำให้เขาแทบจะไม่เหลือโอกาสในการรักษาความเชื่อมั่นจากบรรดาพันธมิตรเอาไว้"

 

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้มีการเผยแพร่เทปบันทึกคำสนทนาระหว่างนายเตเมร์ และนายโฮสลีย์ บาติสตา เจ้าของบริษัท JBS ซึ่งเป็นผู้ผลิตเนื้อรายใหญ่ของบราซิล โดยทั้งสองได้พูดคุยกันเกี่ยวกับการติดสินบนด้วยการจ่ายเงินให้กับนายเออดูร์โด คันฮา อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถูกจำคุกอยู่ในขณะนี้ โดยเงินดังกล่าวจะเป็นหลักประกันว่า นายคันฮาจะไม่เปิดโปงประเด็นต่างๆที่เกี่ยวข้องกับบริษัท JBS โดยนายเตเมร์อ้างว่าเทปบันทึกคำสนทนาดังกล่าวได้ถูกตัดต่อ

 

ศาลฎีกาของรัฐบาลกลางบราซิล (STF) จะมีคำวินิจฉัยในวันพุธนี้ว่าจะระงับการสอบสวนนายเตเมร์ตามคำร้องของเขาหรือไม่ เพื่อรอให้มีการตรวจสอบดูว่าเทปบันทึกคำสนทนาได้มีการตัดต่อเพื่อใส่ร้ายเขาหรือไม่

 

การ์เมน ลูเซีย ประธานศาลฎีกา กล่าวว่า ศาลจะพิจารณาคำร้องเฉพาะหลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์แล้วว่าเทปดังกล่าวเป็นเสียงบันทึกการสนทนาที่นายเตเมร์เรียกร้องให้มีการจ่ายเงินสินบนให้กับอดีตพันธมิตรทางการเมืองของเขาจริง

 

อนาคตของประธานาธิบดีมิเชล เตเมร์ ในตอนนี้ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลว่าจะระงับการสอบสวนหรือไม่ ในขณะที่เขาได้ยืนยันกับหนังสือพิมพ์ Folha de Sao Paulo ว่ายังไงก็จะไม่ลาออก จนกว่าจะถูกบังคับให้ลาออก

 

บทวิเคราะห์โดย สำนักข่าวซินหัว

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาจรีย์ ธนศุภานุเวช/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2653523

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การประท้วงในเวเนซุเอลายังยืดเยื้อ ล่าสุดตายเพิ่มอีก 4 รวมยอดผู้เสียชีวิตแตะ 53 ราย

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 24 พฤษภาคม 2560 11:14:05 น.

อัยการสูงสุดของเวเนซุเอลาประกาศวานนี้ว่า มีผู้เสียชีวิต 4 รายในรัฐบารินัสทางตะวันตกของประเทศ ระหว่างการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ซึ่งถูกกล่าวหาจากฝ่ายค้านว่าเป็นเหตุให้ประเทศเกิดวิกฤติการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยยอดเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. จนถึงขณะนี้อยู่ที่ 53 ราย

 

ทางการเวเนซุอาลากำลังสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของนายเฟรเบอร์ เปเรซ อายุ 21 ปี ที่ถูกยิงเมื่อคืนวันที่ 22 พ.ค. ระหว่างการประท้วง แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่โยงไปสู่การเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีการสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของนายมิเกล บราโว อายุ 25 ปี ซึ่งเสียชีวิตระหว่างการประท้วงเมื่อคืนนี้ในเมืองโซโคโป

 

 

 

สำหรับผู้เสียชีวิตอีก 2 รายจากเหตุการณ์ประท้วงในรัฐบารินัสได้รับการยืนยันว่าคือนายอัลเฟรโด คาร์ริซาเลส และนายอโดนิส เปเรซ วัย 22 ปี

 

อนึ่ง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาอัยการสูงสุดของเวเนซุเอลาได้ออกมายืนยันการเสียชีวิตของชายหนุ่มวัย 19 ปีที่ชื่อยอร์มาน เบอร์เวเซีย ในเมืองลอสโปโซเนส ของรัฐบารินัสด้วย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย มลฑา ชัยธำรงค์กูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2653408

 

ทรัมป์เตรียมเปิดทำเนียบขาวต้อนรับนายกฯเวียดนามวันที่ 31 พ.ค.

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 24 พฤษภาคม 2560 18:08:24 น.

ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำการหารือกับนายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ที่ทำเนียบขาวในวันที่ 31 พ.ค.

 

"ประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการหารือถึงแนวทางที่จะกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี และเพิ่มความร่วมมือในภูมิภาคกับเวียดนาม ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่สำคัญของสหรัฐในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" นายฌอน สไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าว

 

คาดว่าผู้นำทั้ง 2 จะหารือกันเกี่ยวกับความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี, ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ รวมทั้งนโยบายของสหรัฐที่มีต่อเอเชีย หลังจากที่สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ในเดือนม.ค.

 

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังมีกำหนดเดินทางเยือนเวียดนามในเดือนพ.ย.เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก)

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2653639

 

ตำรวจอังกฤษรวบตัวผู้ต้องสงสัยรายที่ 5 พัวพันเหตุระเบิดเมืองแมนเชสเตอร์

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2560 00:14:34 น.

ตำรวจอังกฤษสามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยรายที่ 5 ที่คาดว่ามีส่วนพัวพันกับการก่อเหตุระเบิดโจมตีแมนเชสเตอร์ อารีนา ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตของนักร้องสาว อาเรียนา แกรนเดเมื่อวันจันทร์ จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 22 ราย และบาดเจ็บกว่า 50 ราย

 

ตำรวจระบุว่า ผู้ต้องหารายนี้ถูกจับที่เมืองวีแกน ทางตะวันตกของเมืองแมนเชสเตอร์ และตำรวจกำลังตรวจสอบพัสดุที่เขานำติดตัวมา

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2653661

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

HSHsocial

 

 

NOW26

 

 

NOW26

เปิด20จุดเสี่ยงน้ำท่วม!ทางหลวงสั่งเฝ้าระวัง24ชม.ในเขต‘กรุงเทพฯ-ปริมณฑล’

26 พ.ค.60 นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ตามที่มีประกาศแจ้งเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่าจะมีฝนตกในหลายพื้นที่ระหว่างวันที่ 25-28 พ.ค.2560 นี้…

NAEWNA.COM

18698340_1567003413310235_3436166843914227171_n.jpg?oh=3b9e43b588ceed70bb63991291ae3297&oe=59AFC27C

 

ราคาทองคำวันนี้ 26 พ.ค. 60

ราคาทองคำวันนี้ 26 พ.ค. 60

AUSIRIS.CO.TH

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

18740445_10155373311607855_8105853757196236811_n.jpg?oh=8a2c9764c837d39f938510da3a052196&oe=59AE07A9

ประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมศพ รัชกาลที่ 9

 

ประชาชนได้เดินต่อแถวเพื่อเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

 

ภาพ ธนาชัย ประมาณพาณิชย์ ( Tanachai Pramarnpanich )

#NationPhoto #ธนาชัยประมาณพาณิชย์ #สักการะพระบรมศพ #พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช #รัชกาลที่9

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2560 07:13:41 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 พ.ค. 2560

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบเมื่อวันศุกร์ (26 พ.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนถึงช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวัน Memorial Day สุดสัปดาห์นี้ ขณะที่ดัชนี NASDAQ และ S&P500 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,080.28 จุด ลดลง 2.67 จุด หรือ -0.01% จุด ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,210.19 จุด เพิ่มขึ้น 4.94 จุด หรือ +0.08% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,415.82 จุด เพิ่มขึ้น 0.75 จุด หรือ +0.03%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนลบเมื่อวีนศุกร์ (26 พ.ค.) จากแรงฉุดรั้งของหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลงกันถ้วนหน้า เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับมติของที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก ที่ตกลงจะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปเพียง 9 เดือน และไม่ลดเพดานการผลิตเพิ่มเติม

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 391.35 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,336.64 จุด ลดลง 0.52 จุด หรือ -0.01% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,602.18 จุด ลดลง 19.54 จุด หรือ -0.15% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,547.63 จุด เพิ่มขึ้น 29.92 จุด หรือ +0.40%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ (26 พ.ค.) ด้วยอานิสงส์จากการที่ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือน หลังโพลล์สำรวจล่าสุดบ่งชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ มีคะแนนนำพรรคคู่แข่งเหลือเพียง 5 จุด ก่อนถึงศึกเลือกตั้งทั่วไปที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า ซึ่งทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในอังกฤษ

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 29.92 จุด หรือ +0.40% ปิดที่ 7,547.63 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (26 พ.ค.) หลังจากนักลงทุนได้คลายความผิดหวังจากมติของที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก ที่ตกลงจะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปเพียง 9 เดือน และไม่ลดเพดานการผลิตเพิ่มเติม

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 49.80 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 52.15 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกวันศุกร์ (26 พ.ค.) จากปัจจัยความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในอังกฤษและเกาหลีเหนือ ซึ่งช่วยสกัดปัจจัยลบจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 11.7 ดอลลาร์ หรือ 0.93% ปิดที่ระดับ 1,268.1 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.76% ปิดที่ 17.323 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 10 ดอลลาร์ หรือ 1.05% ปิดที่ 962.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 25.05 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 786.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ (26 พ.ค.) ด้วยอานิสงส์จากการที่ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือน หลังโพลล์สำรวจล่าสุดบ่งชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ มีคะแนนนำพรรคคู่แข่งเหลือเพียง 5 จุด ก่อนถึงศึกเลือกตั้งทั่วไปที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้า ซึ่งทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในอังกฤษ

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 29.92 จุด หรือ +0.40% ปิดที่ 7,547.63 จุด

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,210.19 จุด เพิ่มขึ้น 4.94 จุด, +0.08%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 21,080.28 จุด ลดลง 2.67 จุด, -0.01%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,415.82 จุด เพิ่มขึ้น 0.75 จุด, +0.03%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,602.18 จุด ลดลง 19.54 จุด, -0.15%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,336.64 จุด ลดลง 0.52 จุด, -0.01%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,547.63 จุด เพิ่มขึ้น 29.92 จุด, +0.40%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 31,028.21 จุด เพิ่มขึ้น 278.18 จุด, +0.90%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,219.42 จุด ลดลง 14.95 จุด, -0.46%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,772.30 จุด ลดลง 1.66 จุด, -0.09%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,716.82 จุด เพิ่มขึ้น 13.39 จุด, +0.23%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 25,639.27 จุด เพิ่มขึ้น 8.49 จุด, +0.03%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,867.49 จุด ลดลง 4.16 จุด, -0.05%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,110.06 จุด เพิ่มขึ้น 2.23 จุด, +0.07%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,355.30 จุด เพิ่มขึ้น 12.37 จุด, +0.53%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,792.10 จุด ลดลง 36.70 จุด, -0.63%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,751.70 จุด ลดลง 37.90 จุด, -0.65%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,686.84 จุด ลดลง 126.29 จุด, -0.64%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,101.95 จุด ลดลง 6.54 จุด, -0.06%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2655256

ทหารฟิลิปปินส์ยิงสังหารผู้ก่อการร้าย 31 คน

สำนักข่าวแห่งประเทศจีนรายงานว่า หลายวันมานี้ ตำรวจและทหารรัฐบาลฟิลลิปปินส์ได้ไล่ล่าผู้ก่อการร้ายที่เมืองมาลาวี เกาะมินดาเนาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน ได้ยิงสังหารผู้ก่อการร้ายแล้ว 31 คน ขณะเดียวกันฝั่งตำรวจและทหารฟิลิปปินส์ก็มีผู้เสียชีวิต 13 นาย โดยเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทหารฟิลิปปินส์ยืนยันว่า มีชาวต่างชาติร่วมก่อการร้ายที่เมืองมาลาวี

เจ้าหน้าที่ทหารบนเกาะมินดาเนาเผยว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีทหารรัฐบาล 11 นายและตำรวจ 2 นายเสียชีวิตแล้วจากการยิงปะทะกับกลุ่มก่อการร้าย โดยเฉพาะในวันที่ 25 พฤษภาคมเพียงวันเดียว มีทหารเสียชีวิต 6 นาย ผู้ก่อการร้ายเสียชีวิต 18 คน และยืดอาวุธหนักได้อีก 6 ชิ้น

==

อุกอาจ!กราดยิงรถบัสในอียิปต์ ตายอย่างน้อย24รายเจ็บเพียบ

26 พ.ค.60 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุกราดยิงผู้โดยสารบนรถบัส ซึ่งเป็นผู้แสวงบุญชาวคริสต์นิกายคอปติก ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังโบสถ์ ในเมืองมินยา…

NAEWNA.COM

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2560 10:12:24 น.

กรุงเทพฯ--29 พ.ค.--MTS Research

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยสามารถยืนเหนือจุดสุงสุดเดิมบริเวณ 1,265 เหรียญโดยประมาณได้ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯวันศุกร์ อันได้แก่ Prelim GDP ออกมาดีขึ้น 1.2% จาก 0.7% จึงทำให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่า และค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าขึ้นมาเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.11 บาท/ดอลลาร์ จากระดับ 34.04 บาท/ดอลลาร์ โดยราคาทองคำยังทรงตัวเหนือ 1,265 เหรียญ หลังจากที่ขึ้นไปทำจุดสูงสุดแถวระดับ 1,269 เหรียญโดยประมาณ ด้านกองทุนทองคำ SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 847.45 จุด ขณะที่ภาพรวมของการประชุม G7 ยังคงตึงเครียดจากท่าทีแข็งกร้าวของนายทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิคราคาทองคำเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นอีกครั้งหนี่งทั้งในระยะสั้นและระยะยาว หลังจากที่ทรงตัวอยู่นานบริเวณ 1,250 เหรียญ โดยที่ราคาทองคำมีเป้าหมายถัดไปที่ระดับ 1,275 เหรียญ และ 1,295 เหรียญตามลำดับ สำหรับทองคำไทยจะมีแนวรับที่ระดับ 20,250 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 20,500 บาท/บาททองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ยังเป็นกลยุทธ์ปรับเปลี่ยนเป็นทิศทางขึ้น โดยเน้นขายทำกำไรระยะสั้นเช่นเดิม หาจังหวะเปิดสถานะ Long Position และปิด Short Position

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

หาจังหวะเปิดสถานะเมื่อราคาอ่อนตัวและปิดทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดทำกำไรและหาจังหวะปิดสถานะเพื่อลดความเสี่ยง

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

บริหารพอร์ตสมดุล ทยอยเปิดสถานะ Long Position เมื่อราคาอ่อนตัวตามการแกว่งของตลาด

Gold Futures M17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,450 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,650 บาท

Gold Futures Q17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,510 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,710 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2655371

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.04 คาดแกว่งแคบ มองกรอบ 34.03-34.15 หลายตลาดในตปท.หยุด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2560 09:20:33 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.04 บาท/ดอลลาร์ ทรง

 

ตัวจากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.04 บาท/ดอลลาร์ และล่าสุดอ่อนค่าเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 34.09 บาท/ดอลลาร์

 

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากตลาดการเงินและหน่วยงานราชการของตลาดสำคัญ เช่น

 

 

 

สหรัฐฯ ปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวัน Memorial Day

"วันนี้บาทคงแกว่งแคบๆ เพราะไม่มี key event ที่สำคัญ ตลาดหลักอย่างสหรัฐ อังกฤษ ก็ปิด" นักบริหารเงินระบุ

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.03-34.15 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.38 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 110.95 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1166 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1219 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.0830 บาท/

 

ดอลลาร์

- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (29 พ.ค.-2 มิ.ย.) ที่ 33.85-34.20

 

บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องติดตามสถานการณ์ฟันด์โฟลว์ในตลาดการเงินไทย

ขณะที่ ประเด็นสำคัญจากฝั่งสหรัฐฯ น่าจะอยู่ที่สัญญาณเกี่ยวกับจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยจากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด

 

และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เครื่องชี้ตลาดแรงงาน ดัชนี PMI ภาคการผลิต และ

 

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน

 

(Core PCE Price Index) เดือนเม.ย. ซึ่งเป็นเงินเฟ้อที่เฟดติดตาม และดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอ

 

ติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน และจีน ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันจันทร์เนื่องในวันเมมโมเรียล เดย์

- น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ภายในเดือน มิ.ย.นี้ จะนำเสนอยุทธศาสตร์

 

ธุรกิจบริการให้นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เห็นชอบ ก่อนจะเสนอให้ที่ประชุม

 

คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่อผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนยุทธศาสตร์บริการไปดำเนินการ

 

- โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงงบการดำเนินงานประจำปี 2559 ของ ธปท.ที่มีผลขาดทุน

 

1.39 แสนล้านบาท ว่า ในหลักการธนาคารกลางไม่ได้ดำเนินภารกิจเพื่อแสวงหากำไร ผลขาดทุนที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเป็นการขาดทุน

 

ทางบัญชีจากการตีราคาทรัพย์สิน และโดยลักษณะของงบการเงินของธนาคารกลางที่มิได้เป็นสกุลหลักของโลก

 

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ (เครดิตเรตติ้ง) ของจีน ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ

 

ต่อเศรษฐกิจ ทั้งในด้านเงินทุนไหลเข้าออกและค่าเงินในภูมิภาค รวมทั้งในภาคเศรษฐกิจจริงผ่านการค้า การลงทุน และการท่อง

 

เที่ยว โดยการปรับลดอันดับดังกล่าวอาจส่งผลต่อต้นทุนทางการเงินของภาคธุรกิจบางส่วนที่มีแหล่งเงินทุนจากตราสารหนี้

 

- กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุในแถลงการณ์ว่า การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเป็นการละเมิดต่อมติของ

 

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างชัดเจน อีกทั้งยังเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและเสถียรภาพของคาบสมุทรเกาหลีและ

 

ประชาคมโลก

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกวันศุกร์ (26 พ.ค.) จากปัจจัยความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในอังกฤษและ

 

เกาหลีเหนือ ซึ่งช่วยสกัดปัจจัยลบจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม

 

เดือนหน้า

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ปรับเพิ่มตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส

 

1 ปี 2560 เป็น 1.2% ซึ่งสูงกว่าระดับ 0.7% ในการประมาณการครั้งแรก และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 0.9%

 

ด้วยแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค การลงทุนภาคธุรกิจ และการใช้จ่ายภาครัฐที่แข็งแกร่งกว่าในรายงานเบื้องต้นเมื่อช่วง

 

ปลายเดือนที่ผ่านมา

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยด้วยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักร

 

ขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ปรับตัวลดลง 0.7% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน

 

สะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐเริ่มชะลอความร้อนแรงลง อย่างไรก็ดี ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย.ลดลงน้อย

 

กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงถึง 1%

- มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขั้นสุดท้ายของเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้นสู่

 

ระดับ 97.1 จากระดับ 97.0 ในเดือนเม.ย. แต่ต่ำกว่าตัวเลขขั้นต้นที่ระดับ 97.7

- นักลงทุนบางส่วนยังเกิดความวิตกกังวล ภายหลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขา

 

เซนต์หลุยส์ ได้ออกมาแสดงความวิตกว่า เงินเฟ้อของสหรัฐในปัจจุบันยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อพิจารณา

 

จากการที่เฟดกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2%

- ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังอยู่ในทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังคงมีความน่าดึงดูดสำหรับ

 

นักลงทุน แม้ว่าที่ผ่านมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะยังไม่สามารถผลักดันนโยบายปฏิรูปภาษีและการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้น

 

ฐานออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรมก็ตาม

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2655354

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

18740259_10155322193694547_4313940901061324327_n.jpg?oh=798ee4f4ba7b69cb0fcdd1d8ba3ae0ab&oe=59AF6FA9

 

18739974_10155379909372855_3842421935788408222_n.jpg?oh=b756a13bc6267c76dfa0ccb12a56e257&oe=59A85548

ประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมศพ รัชกาลที่ 9

ประชาชนจำนวนมากยังคงเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังอย่างไม่ขาดสาย ถึงแม้ฝนจะตกลงมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2560

ภาพ อนันต์ จันทรสูตร์ (Anant Chantarasoot) #NationPhoto #กราบพระบรมศพ#รัชกาลที่9 #พระบรมมหาราชวัง

 

 

วันอังคาร ที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๗.๐๖ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมใหพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จแทนพระองค์ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ณ พระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เขตพระนคร

กรุงเทพมหานคร

ขอบคุณภาพ.FB_สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช

 

 

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $5.7 นักลงทุนขายทำกำไรก่อนสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงาน

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 60)--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ระดับ 1,265.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 10.4 เซนต์ หรือ 0.60% ปิดที่ 17.427 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 21.8 ดอลลาร์ หรือ 2.26% ปิดที่ 941.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 15.95 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 802.65 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ค.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง

ทางด้านออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ จะเปิดเผยตัวลขจ้างงานของภาคเอกชนทั่วสหรัฐประจำเดือนพ.ค.ในวันพรุ่งนี้

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

ทั้งนี้ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 83.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.

อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเมืองในยุโรปและความเสี่ยงที่กรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนบางส่วนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 31 พฤษภาคม 2560 07:46:17 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 พ.ค.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลง ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงด้วย ขณะที่หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงหลังจากมีรายงานว่าสหรัฐอาจจะขยายมาตรการห้ามผู้โดยสารพกพาแล็ปท็อปขึ้นเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ได้ช่วยสกัดแรงลบของตลาดในระหว่างวัน

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,029.47 จุด ลดลง 50.81 จุด หรือ -0.24% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,412.91 จุด ลดลง 2.91 จุด หรือ -0.12% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,203.19 จุด ลดลง 7.00 จุด หรือ -0.11%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป หลังจากมีรายงานข่าวว่า อิตาลีอาจจะจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด รวมทั้งความกังวลที่ว่า กรีซอาจผิดนัดชำระหนี้ หากเจ้าหนี้ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 index ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 390.50 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,305.94 จุด ลดลง 26.53 จุด หรือ -0.50% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,598.68 จุด ลดลง 30.27 จุด หรือ -0.24% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,526.51 จุด ลดลง 21.12 จุด หรือ -0.28%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันทำการเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) ด้วยแรงฉุดรั้งจากหุ้นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ ที่ร่วงลงอย่างหนัก สืบเนื่องจากเหตุการณ์ระบบคอมพิวเตอร์ของสายการบินล่ม จนส่งผลกระทบต่อการให้บริการเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 21.12 จุด หรือ -0.28% ปิดที่ 7,526.51 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) หลังจากโกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในปีนี้ และจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันที่สูงขึ้นในสหรัฐ หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐระบุว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 19

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 49.66 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 45 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 51.84 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ระดับ 1,265.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 10.4 เซนต์ หรือ 0.60% ปิดที่ 17.427 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 21.8 ดอลลาร์ หรือ 2.26% ปิดที่ 941.1 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 15.95 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 802.65 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) ด้วยแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1186 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1175 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2854 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2808 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7467 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7449 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.76 เยน จากระดับ 111.23 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9747 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9748 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,203.19 จุด ลดลง 7.00 จุด, -0.11%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 21,029.47 จุด ลดลง 50.81 จุด, -0.24%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,412.91 จุด ลดลง 2.91 จุด, -0.12%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,305.94 จุด ลดลง 26.53 จุด, -0.50%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,598.68 จุด ลดลง 30.27 จุด, -0.24%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,526.51 จุด ลดลง 21.12 จุด, -0.28%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 31,159.40 จุด เพิ่มขึ้น 50.12 จุด, +0.16%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,204.79 จุด ลดลง 9.76 จุด, -0.30%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,765.34 จุด เพิ่มขึ้น 0.45 จุด, +0.03%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,693.39 จุด ลดลง 18.94 จุด, -0.33%

 

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 738.21 จุด ลดลง 8.04 จุด, -1.08%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,860.77 จุด ลดลง 25.26 จุด, -0.32%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,343.68 จุด ลดลง 9.29 จุด, -0.39%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,721.00 จุด เพิ่มขึ้น 13.90 จุด, +0.24%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,760.50 จุด เพิ่มขึ้น 12.80 จุด, +0.22%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,677.85 จุด ลดลง 4.72 จุด, -0.02%

*ตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง ไต้หวัน ปิดทำการวันที่ 30 พ.ค.เนื่องในเทศกาลขนมจ้าง

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2656821

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบเงินสกุลหลัก จากข้อมูลศก.สหรัฐที่ต่ำกว่าคาดการณ์

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 60)--สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) ด้วยแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1186 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1175 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2854 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2808 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7467 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7449 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.76 เยน จากระดับ 111.23 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9747 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9748 ฟรังก์สวิส

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันให้อ่อนค่าลง หลังสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยผลการสำรวจระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.8% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 33 เดือน แต่ยังต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 117.9 ในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าระดับ 119.4 ในเดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 119.8

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญอื่นๆที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 เดือนในเดือนเม.ย. โดยดีดตัวขึ้น 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. โดยตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ด้านนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส เปิดเผยว่า เขาคาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐจะอยู่ที่ระดับประมาณ 2% ไม่ใช่ 3% หรือมากกว่านั้นตามที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คาดการณ์ไว้

"ปัญหาในปัจจุบันก็คือ ตลาดแรงงานสหรัฐกำลังอยู่ในภาวะชะลอตัว และภาวะดังกล่าวจะดำเนินต่อไปตลอดช่วง 10 ปีข้างหน้า เนื่องจากสหรัฐกำลังเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ"

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนพ.ค., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย. และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...