ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

:01

โชคดี มีกำไร นะคร้าบบ

 

HSHsocial

 

 

YLGResearch

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำอังคารที่ 22 สิงหาคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 22 สิงหาคม 2560 09:44:00 น.

กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำระยะสั้นเริ่มมีการปรับตัวเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways แต่ภาพรวมราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,285 เหรียญได้ แต่ก็ยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,295 เหรียญ อย่างไรก็ดี เชื่อว่าความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือ-สหรัฐฯยังไม่มีอะไรมากขึ้น ซึ่งหากเกาหลีเหนือมีการตอบโต้หรือยั่วยุโดยทดลองนิวเคลียร์อีกครั้งหนึ่งอาจทำให้ราคากลับมาดีดกลับเพิ่มขึ้น ประกอบกับการประชุมผู้นำ Jackson Hole ที่จะเกิดขึ้นระหว่าง 24 – 26 ส.ค.นี้ โดยตลาดรอดูว่าประธานเฟดและอีซีบีจะกล่าวสาระสำคัญเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายใดๆต่อไปหรือไม่ สำหรับวันนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำน่าจะยังเคลื่อนไหวในกรอบ 1,285 -1,295 เหรียญ โดยหากทองคำหลุด 1,285 อาจทำให้เกิดสภาวะขาลงระยะสั้น และมีโอกาสกลับทดสอบ 1,270 เหรียญ แต่หากราคายืนเหนือระดับ 1,285 เหรียญได้ โอกาสที่ราคาจะทะลุ 1,300 เหรียญก็มีสูง และจะทำให้ทองคำมีระดับเป้าหมายถัดไป 1,320 เหรียญ ดังั้น จึงแนะนำให้นักลงทุนหาจังหวะเปิดสถานะ Long โดยเข้าซื้อแถว 1,285 เหรียญ แต่หากราคาหลุดลงมาให้ทำการ Stop Loss

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ เป็นลักษณะลงซื้อขึ้นขาย

* อย่างไรก็ดี Gold Futures Q17 จะหมดอายุลงในวันที่ 30 ส.ค. 60 จึงแนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยนมาถือครองสถานะของ Gold Futures V17 แทน

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัว

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดสถานะลดความเสี่ยง

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

แนะนำให้ทยอยเข้าซื้อบริเวณแนวรับ ซึ่งโดยภาพรวมตลาดยังมีแรง Technical Rebound จึงอาจจะรอปิดสถานะเมื่อราคาดีดตัว

 

Gold Futures Q17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,500 บาท

Gold Futures V17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,330 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,530 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2697904

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นได้ในกรอบแคบ เล็งแรงหนุนจากแนวโน้มศก.ดีกว่าคาด-หุ้นใหญ่ประกาศจ่ายปันผล

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 22 สิงหาคม 2560 09:02:08 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ในกรอบแคบ เนื่องจากได้แรงหนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ดีกว่าคาด จากที่ตัวเลข GDP งวดไตรมาส 2/60 ออกมาโต 3.7% ดีกว่าตลาดฯคาด และปีนี้-ปีหน้าเศรษฐกิจไทยก็มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น

 

 

 

นอกจากนี้ ตลาดฯยังน่าจะได้แรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ประกาศจ่ายปันผล ล่าสุดมีหุ้น RATCH, PTTGC และสัปดาห์นี้ก็น่าจะมีหุ้นในกลุ่มธนาคารอีกหลายตัวประกาศจ่ายปันผลด้วย ซึ่งก็จะเป็นปัจจัยกระตุ้นแรงซื้อได้ แต่เชื่อว่าดัชนีฯคงจะไม่ไปไหนไกล เพราะต้องรอดูการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ และรอดูคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลย ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ด้วย

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อยราว 0.1% พร้อมให้แนวรับ 1,568-1,562 จุด ส่วนแนวต้าน 1,572-1,575 จุด

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-253500

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2697896

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นได้ในกรอบแคบ เล็งแรงหนุนจากแนวโน้มศก.ดีกว่าคาด-หุ้นใหญ่ประกาศจ่ายปันผล

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 22 สิงหาคม 2560 09:29:38 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ในกรอบแคบ เนื่องจากได้แรงหนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ดีกว่าคาด จากที่ตัวเลข GDP งวดไตรมาส 2/60 ออกมาโต 3.7% ดีกว่าตลาดฯคาด และปีนี้-ปีหน้าเศรษฐกิจไทยก็มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น

 

 

 

นอกจากนี้ ตลาดฯยังน่าจะได้แรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ประกาศจ่ายปันผล ล่าสุดมีหุ้น RATCH, PTTGC และสัปดาห์นี้ก็น่าจะมีหุ้นในกลุ่มธนาคารอีกหลายตัวประกาศจ่ายปันผลด้วย ซึ่งก็จะเป็นปัจจัยกระตุ้นแรงซื้อได้ แต่เชื่อว่าดัชนีฯคงจะไม่ไปไหนไกล เพราะต้องรอดูการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ และรอดูคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลย ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ด้วย

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อยราว 0.1% พร้อมให้แนวรับ 1,568-1,562 จุด ส่วนแนวต้าน 1,572-1,575 จุด

 

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,703.75 จุด เพิ่มขึ้น 29.24 จุด (+0.13%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,213.13 จุด ลดลง 3.40 จุด (-0.05%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,428.37 จุด เพิ่มขึ้น 2.82 จุด (+0.12%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 20.02 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.70 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 167.52 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 26.98 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.29 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.40 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.15 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 1.41 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ส.ค.60) 1,569.62 จุด เพิ่มขึ้น 3.09 จุด (+0.20%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,032.91 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ส.ค.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 ส.ค.60) ปิดที่ 47.37 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.4%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ส.ค.60) ที่ 8.26 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 33.26 ทรงตัวจากวานนี้ ยังไร้ปัจจัยใหม่ มองกรอบเคลื่อนไหววันนี้ 33.20-33.30

 

- เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช.ปรับประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ขยายตัว 3.5-4% จากเดิม 3.3-3.8% สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจโดยรวมในไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 3.7% สูงสุดในรอบ 17 ไตรมาส ทำให้ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ จีดีพีขยายตัว 3.5%

 

- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน SET 572 บริษัท หรือ 94.55% จากทั้งหมด 605 บริษัท ส่งผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2560 มีกำไรสุทธิ 225,668 ล้านบาท ลดลง 9.54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดขาย 2,703,884 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.24%

 

- คสช.ประเมินกองเชียร์ 'ปู' วันชี้ชะตาคดีจำนำข้าว 25 ส.ค.คาดมาแน่ 3.5 พันคน ตร.ตรึงกำลังแน่น 4 พันนาย ตั้งกล้องวงจรปิดจับพวกฝ่าฝืน พร้อมเฮลิคอปเตอร์บินส่องจากฟ้าอีก 3 ลำ จับผิดรถตู้ขนคนวิ่งนอกเส้นทาง

 

- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี) ปรับประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปี 2560 เพิ่มเป็น 3.6% จากเดิม 3.4% ตามมุมมองต่อเศรษฐกิจโลกที่ดีขึ้น ช่วยหนุนการส่งออกสินค้าให้ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยเศรษฐกิจคู่ค้าหลักทั้งสหรัฐ ยูโรโซน ญี่ปุ่น และจีน มีแนวโน้มเติบโตดี บวกความกังวลทางการเมืองในยุโรปที่ลดลง สร้างความเชื่อมั่นให้กับการค้าและการลงทุน ส่งผลต่อเนื่องถึงความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมหลักจากไทยให้ ฟื้นตัวได้ต่อในช่วงที่เหลือของปี

 

- รฟม.เดินหน้าประมูลรถไฟหลากสี ทั้งม่วง-น้ำเงิน-เขียว-ส้ม ใจชื้นหลังเชื่อม 1 สถานี ผู้โดยสารแน่นสายสีม่วงทะลุ 5 หมื่นคน ต่อวันแล้ว กระทบถึงรถไฟฟ้าใต้ดินล้นทะลัก ต้องติดป้ายเดินชิดใน สั่งซื้อขบวนใหม่ รับมอบปี'62 ลดความแออัด เพิ่มเที่ยวเร็วขึ้น รอแค่ 2 นาที

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- AMATA (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 23 บาท กฎหมาย EEC ที่จะออกภายในปีนี้ จะเป็น catalyst ระยะสั้น เริ่มเห็นสัญญาณ "บวก" ของ demand การลงทุนในพื้นที่ EEC เพิ่มขึ้น คาดยอดขายทั้ง AMATA และ WHA จะเร่งตัวขึ้นใน 2H60 ทั้งนี้ราคา AMATA ที่ PBV17 1.47x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 20 ปีที่ 1.9x

 

- MBAX (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 6.50 บาท ยอดส่งออกถุงและกระสอบพลาสติก มิ.ย. 60 ชะลอเล็กน้อย 4% Y-Y จากการปรับสต็อกของลูกค้าในสหรัฐฯและออสเตรเลีย แต่คาด ก.ค. 60 ฟื้นตัวราว 5% Y-Y แม้เงินบาทจะแข็งแต่ความต้องการถุงซิปล็อคในเอเชียและยุโรปยังสูง ขณะที่ ราคา LDPE ต่ำจากภาวะ Oversupply ส่วนปันผล 1H60 ยังไม่ประกาศ แต่คาดจ่าย 0.16-0.17 บาท/หุ้น เพราะกำไรโต 43% Y-Y คิดเป็นผลตอบแทน 3.3% ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PE2560 เพียง 12 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 16 เท่า

 

- MTLS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 39 บาท ราคาหุ้นปรับตัวลงก่อนหน้านีกังวลกรณีตั๋ว B/E มากเกินไป เพราะ MTLS มี rating BBB ซึ่งอยู่ในระดับ Investment grade จึงยังสามารถออกขายได้ตามปกติ และในระยะสั้นยังไม่มีหนี้ครบกำหนดชำระก้อนใหญ่ สภาพคล่องจึงไม่ได้มีปัญหา พร้อมคาดกำไรสุทธิ 2H60 โตแข็งแกร่งทั้ง H-H และ Y-Y เพราะเป็นฤดูปล่อยสินเชื่อและค่าใช้จ่ายเปิดสาขาใหม่ลดลง โดยคาดกำไรทั้งปีที่ 2.3 พันลบ. +59% Y-Y

 

- SQ (เคจีไอ) เป้าพื้นฐาน 7.4 บาท วานนี้ราคาหุ้นปิดเหนือแนวต้านจิตวิทยาที่ 6.0 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 6.25 บาท และถัดไปที่ 6.7 บาท ตามลำดับ แนวรับ 6.0 บาท (Stop loss ขยับขึ้นเป็น 5.8 บาท) นอกจากนี้ กำไร 1H60 คิดเป็น 84% ของประมาณการกำไรทั้งปี (มีโอกาสปรับประมาณการขึ้น) โดยจะทำการปรับประมาณการพร้อมกับการรอผลประมูลโครงการแม่เมาะ 9 (สัญญามูลค่าประมาณ 4 หมื่นล้านบาท) ซึ่งคาดว่าจะทราบผลใน 4Q60 หลังจากที่บริษัทได้ยื่นข้อเสนอทางเทคนิคและเสนอซองราคาไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค.

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2697911

 

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.6597 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 22 สิงหาคม 2560 08:57:03 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้น 1.12% แตะที่ 6.6597 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย มลฑา ชัยธำรงค์กูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2697890

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พระองค์หญิงทรงนำทีมไทย คว้าเหรียญเงินขี่ม้าซีเกมส์

22 ส.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ปรำจำวันที่ 22 ส.ค.60 โดยในกีฬาขี่ม้าที่สนามทรีคิว อีเควสเทรียน ปาร์ค เป็นการแข่งขันประเภทศิลปการบังคับม้า ประเภททีม ซึ่งพระเจ้าหลานเธอ…

NAEWNA.COM

 

 

Wealth Station shared DailyFX's post.

14 mins ·

ฝรั่งเค้าบอกว่าการ false break ที่ 1300 ทำให้ต้องระวังจบขาขึ้นโดยมีการประชุมประจำปีที่แจ็กสัน โฮล ที่อาจเป็นประเด็นได้

https://www.dailyfx.com/forex/technical/home/analysis/xau-usd/2017/08/21/gold-price-breakout-fails-at-1300-is-the-bullish-move-done-srepstans.html?DFXfeeds=forex%3Atechnical%3Ahome%3Aanalysis%3Axau-usd

 

 

 

 

Ausiris Gold Investment is live now.

11 mins · คลิป

ราคาทองวันนี้ 22 ส.ค.2560

วิเคราะห์ราคาทอง 1 นาที...สด

#ราคาทอง

 

 

 

MTS GOLD was live.

1 hr · คลิป

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาพบกับการวิเคราะห์กราฟสดๆ ข้อมูลร้อนๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของเราได้เลย กับรายการ Live by MTS TFEX WARS วันที่ 22 สิงหาคม 2560

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีเพื่อน พี่น้องนักลงทุนทุกท่าน ลงทุนปลอดภัย โชคดี มีกำไร

 

20992887_1636126739771445_2855221481918696068_n.jpg?oh=b1b60c28a835361a981ef9c919993a4a&oe=5A162469

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

Ausiris Gold Investment is live now.

Just now · คลิป

ราคาทองวันนี้ 23 ส.ค.2560

วิเคราะห์ราคาทอง 1 นาที...สด

#ราคาทอง

 

 

 

 

YLGResearch

 

 

HSHsocial

 

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

ปิดบัญชีจำนำข้าว "ยิ่งลักษณ์' ปี 59 ขาดทุนกว่า 6.07 แสนล้าน

ปิดบัญชีจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์’ ปี 59 ขาดทุนกว่า 6.07 แสนล้าน วันอังคาร 22 สิงหาคม 2017 6:46 pm ข่าว FacebookTwitterGoogle+Line [post_view]…

SPRINGNEWS.CO.TH

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 สิงหาคม 2560 07:40:41 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ส.ค.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และแกนนำสภาคองเกรส มีความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษี ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มนโยบายการเงินในอนาคต

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,899.89 จุด พุ่งขึ้น 196.14 จุด หรือ +0.90% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,452.51 จุด เพิ่มขึ้น 24.14 จุด หรือ +0.99% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,297.48 จุด เพิ่มขึ้น 84.35 จุด หรือ +1.36%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) จากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.8% ปิดที่ 375.80 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,229.34 จุด พุ่งขึ้น 163.35 จุด หรือ +1.35% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,131.86 จุด เพิ่มขึ้น 44.27 จุด หรือ +0.87% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,381.74 จุด เพิ่มขึ้น 62.86 จุด หรือ +0.86%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) ด้วยปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่สดใสของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ รวมถึงหุ้นเพอร์ซิมมอน บริษัทสร้างบ้านรายใหญ่ ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มบริษัทดังกล่าวปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 62.86 จุด หรือ +0.86% ปิดที่ 7,381.74 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบในวันนี้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 47.64 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 51.87 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำ ก่อนที่การประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ระดับ 1,291.00 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 3.3 เซนต์ หรือ 0.19% ปิดที่ 16.982 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ปรับตัวลง 4.2 ดอลลาร์ หรือ 0.43% ปิดที่ 981.3 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 6.65 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 932.35 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) ขณะนักลงทุนปรับโพซิชั่นการลงทุนก่อนหน้าการประชุมสัมมนาเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "Fostering a Dynamic Global Economy"

 

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1751 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1816 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2826 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2899 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7906 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7938 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.52 เยน จากระดับ 108.75 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9684 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9617 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,297.48 จุด เพิ่มขึ้น 84.35 จุด, +1.36%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,452.51 จุด เพิ่มขึ้น 24.14 จุด, +0.99%

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 21,899.89 จุด เพิ่มขึ้น 196.14 จุด, +0.90%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,131.86 จุด เพิ่มขึ้น 44.27 จุด, +0.87%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,381.74 จุด เพิ่มขึ้น 62.86 จุด, +0.86%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,229.34 จุด เพิ่มขึ้น 163.35 จุด, +1.35%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 31,291.85 จุด เพิ่มขึ้น 33.00 จุด, +0.11%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,263.79 จุด เพิ่มขึ้น 16.80 จุด, +0.52%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,774.22 จุด เพิ่มขึ้น 2.60 จุด, +0.15%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,880.30 จุด เพิ่มขึ้น 19.30 จุด, +0.33%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,401.67 จุด เพิ่มขึ้น 246.99 จุด, +0.91%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 761.26 จุด ลดลง 7.53 จุด, -0.98%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,015.93 จุด ลดลง 0.80 จุด, -0.01%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,290.23 จุด เพิ่มขึ้น 3.32 จุด, +0.10%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,365.33 จุด เพิ่มขึ้น 10.33 จุด, +0.44%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,750.10 จุด เพิ่มขึ้น 24.20 จุด, +0.42%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,804.80 จุด เพิ่มขึ้น 24.80 จุด, +0.43%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,383.84 จุด ลดลง 9.29 จุด, -0.05%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,392.07 จุด เพิ่มขึ้น 65.68 จุด, +0.64%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2698457

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบเงินสกุลหลัก ก่อนประชุม แจ็กสัน โฮล

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 สิงหาคม 2560 07:14:39 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) ขณะนักลงทุนปรับโพซิชั่นการลงทุนก่อนหน้าการประชุมสัมมนาเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "Fostering a Dynamic Global Economy"

 

 

 

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1751 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1816 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2826 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2899 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7906 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7938 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.52 เยน จากระดับ 108.75 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9684 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9617 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.49% สู่ระดับ 93.554 เมื่อคืนนี้

 

นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่านางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะส่งสัญญาณอะไรเกี่ยวกับนโยบายการเงินในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมครั้งนี้หรือไม่ เช่นเดียวกับนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะเข้าร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกเช่นกัน

 

การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นในช่วงที่เฟดมีแผนที่จะเริ่มดำเนินการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ขณะที่ ECB อยู่ในระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

 

ทั้งนี้ กระแสคาดการณ์ของนักลงทุนที่ว่าเฟดจะเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินหลังจากนี้นั้น ได้บรรเทาลง สืบเนื่องจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ค่อนข้างอ่อนแอ โดย CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเพียง 41% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ สำนักงานการเงินเพื่อการเคหะของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) รายงานว่า ดัชนีราคาบ้านสหรัฐขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน

 

นอกจากการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่จะเปิดฉากขึ้นในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐแล้ว นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค.โดยมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนส.ค.โดยมาร์กิต, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2698287

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 196.14 จุด รับความหวังแผนปฏิรูปภาษีผ่านมติสภาคองเกรส

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 สิงหาคม 2560 06:43:05 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และแกนนำสภาคองเกรส มีความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษี ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ถึงแนวโน้มนโยบายการเงินในอนาคต

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,899.89 จุด พุ่งขึ้น 196.14 จุด หรือ +0.90% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,452.51 จุด เพิ่มขึ้น 24.14 จุด หรือ +0.99% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,297.48 จุด เพิ่มขึ้น 84.35 จุด หรือ +1.36%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากสำนักข่าวโพลิติโคของสหรัฐรายงานบนเว็บไซต์ว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ และแกนนำสภาคองเกรส มีความคืบหน้าในการผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษี ขณะที่นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกว่า แผนปฏิรูปภาษีน่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสได้ง่ายกว่าร่างกฎหมายประกันสุขภาพ เนื่องจากสมาชิกรีพับลิกันมีความเห็นเป็นเอกฉันท์

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากนายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของรีพับลิกันในวุฒิสภา ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า มีโอกาสเป็น "ศูนย์" ที่สหรัฐจะล้มเหลวในการขยายเพดานหนี้ ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลที่ว่าสหรัฐอาจเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้

 

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดเมื่อเทียบกับหุ้นแกนบวกกลุ่มอื่นๆในตลาด โดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี พุ่งขึ้น 1.5% หุ้นซิสโก ซิสเต็ม พุ่งขึ้น 1.9% หุ้นแอปเปิล ปรับตัวขึ้น 1.6% หุ้นแอพพลายด์ มาเทเรียลส์ พุ่งขึ้น 2.9% และหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) เพิ่มขึ้น 1%

 

หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 1.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2 พร้อมประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผล นอกจากนี้ บีเอชพี บิลลิตัน ยังประกาศยุติการดำเนินธุรกิจการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil)

 

หุ้นเชฟรอน ปรับตัวขึ้น 0.6% หลังจากบริษัทแถลงว่า นายจอห์น วัทสัน ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเชฟรอน

 

หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน บริษัทเหมืองรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.3% ขานรับรายงานที่ว่า รัฐบาลอินโดนีเซียได้บรรลุข้อตกลงกับฟรีพอร์ท-แมคมอแรน เพื่อให้ทางบริษัทสามารถดำเนินงานเหมืองทองแดงในเมืองปาปัวได้ต่อไป

 

หุ้นเมซี ห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 4.5% หลังจากบริษัทประกาศแผนปรับโครงสร้างองค์กร และปรับลดจำนวนพนักงาน

 

นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "Fostering a Dynamic Global Economy"

 

การประชุมเศรษฐกิจประจำปีซึ่งจัดขึ้นโดยเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้นั้น จะมีการหารือกันในประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งในสหรัฐและต่างประเทศ โดยจะมีผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก เดินทางมาเข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด, นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป และนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น

 

นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค.โดยมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนส.ค.โดยมาร์กิต, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2698283

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็ง ฉุดทองคำปิดลบ 5.7 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 สิงหาคม 2560 07:12:38 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำ ก่อนที่การประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ระดับ 1,291.00 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 3.3 เซนต์ หรือ 0.19% ปิดที่ 16.982 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ปรับตัวลง 4.2 ดอลลาร์ หรือ 0.43% ปิดที่ 981.3 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 6.65 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 932.35 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ก่อนที่การประชุมประจำปีของเฟดจะมีขึ้นในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์จะส่งผลให้สัญญาทองคำมีมูลค่าที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

 

สำหรับหัวการการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ปีนี้ จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "Fostering a Dynamic Global Economy" โดยที่ประชุมจะมีการหารือกันในประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญทั้งในสหรัฐและต่างประเทศ ซึ่งจะมีผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก เดินทางมาเข้าร่วมประชุมด้วย รวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด, นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป และนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนส.ค.โดยมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนส.ค.โดยมาร์กิต, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2698286

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกฯ ประทับใจลงพื้นที่ครม.สัญจรโคราช เร่งแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน-บริหารจัดการน้ำ-ที่ดินทำกิน

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 22 สิงหาคม 2560 17:24:23 น.

 

ดูรูปทั้งหมด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.สัญจรวันนี้ได้อนมุติงบประมาณ 2,600 ล้านบาท เพื่อยกระดับเส้นทางรถไฟทางคู่ ที่ผ่านตัวเมืองนครราชสีมา ระยะทาง 5 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการพิจารณาตามเหตุผลและความเหมาะสม นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้พิจารณาแผนก่อสร้างถนนอ้อมเมืองนครราชสีมา เพื่อลดปัญหาการจราจรติดขัด

 

 

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแผนบริหารจัดการน้ำว่า ทางคณะกรรมการจัดการน้ำได้ทำแผนตั้งแต่ปี 2557 และมีการปรับแผนเพื่อดูแลบริหารจัดการน้ำในระยะเวลา 20 ปี แก้ปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง ทั้งเรื่องการวางโครงสร้าง การบรรเทาความเดือดร้อนต่างๆ และการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และการทำเกษตร ซึ่งต้องยอมรับว่าประเทศไทยสามารถทำระบบชลประทานได้เพียง 40% ของพื้นที่ทั้งหมด ขณะที่ประชาชนเองก็ต้องเรียนรู้ เพื่อปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะที่ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินนั้น รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไข ซึ่งเมื่อการจัดทำแผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 4000 แล้วเสร็จ ก็จะทำให้เห็นภาพชัดเจน ว่าพื้นที่ใดยังมีการทับซ้อนอยู่ เพื่อกำหนดแนวทางสำหรับแก้ปัญหา ซึ่งทุกอย่างก็จะเป็นไปตามข้อมูลและขั้นตอน พร้อมกันนี้จะต้องพิจารณาเรื่องของการสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชน ซึ่งมีที่ดินรกร้างว่างเปล่า หันมาปลูกพืชยืนต้น เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าของประเทศ

 

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ที่จังหวัดนครราชสีมาว่า รู้สึกดีใจและประทับใจที่ได้มาลงพื้นที่ พบกับประชาชนซึ่งให้การต้อนรับที่ดี ทำให้รู้สึกความประทับใจ ทั้งเรื่องของอาหาร สถานที่ ผู้คน และถือเป็นจังหวัดที่เป็นแผ่นดินประวัติศาสตร์ แม้จะยังมีประชาชนที่มีรายได้น้อยอยู่ ดังนั้นตนเองก็จะทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้ดีขึ้นเช่นเดียวกับประชาชนในทุกจังหวัด เพราะตนเองถือเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ จึงต้องทำงานให้กับประชาชนทุกระดับ

 

ขณะที่การหารือกับภาคเอกชนในพื้นที่นั้น ยืนยันว่าไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง เพราะภาคธุรกิจยังพอใจกับเสถียรภาพและสถานการณ์ความมั่นคงในขณะนี้ และยังเชื่อมั่นในสถานการณ์บ้านเมืองที่ทำให้สามารถประกอบธุรกิจได้ ส่วนการประชุม ครม.สัญจรครั้งต่อไปนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะจัดขึ้นที่ภูมิภาคใด

 

--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/รัชดา คงขุนเทียน โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2698237

รัสเซียจับมือไนจีเรีย-ไนเจอร์ พัฒนากองทัพ สู้ศึกก่อการร้าย

กระทรวงกลาโหมของรัสเซียแถลงวานนี้ (22 ส.ค.) ว่า รัสเซียได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางการทหารกับไนจีเรียและไนเจอร์ตามลำดับ โดยข้อตกลงรัสเซีย-ไนจีเรียจะเปิดโอกาสให้ทหารไนจีเรียสามารถเข้าร่วมการฝึกอบรมกับโรงเรียนทหารของรัสเซีย

เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงฯ ระบุว่ารัสเซียและไนจีเรียจะให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อการฝึกอบรมร่วมกันของกองทัพ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ปฏิบัติการรักษาสันติภาพ และการต่อสู้ปราบปรามกองโจรสลัดกับกลุ่มก่อการร้าย

ส่วนข้อตกลงรัสเซีย-ไนเจอร์จะส่งเสริมการพัฒนาความร่วมมือต่างๆ และเสริมสร้างความเข้มแข็งของกองทัพทั้งสองในการต่อสู้กับการก่อการร้ายระหว่างประเทศ

ทั้งนี้รัฐมนตรีรัสเซียได้หารือกับรัฐมนตรีกลาโหมของทั้งสองชาติแอฟริกาในการพบปะกันนอกรอบระหว่างการประชุมด้านเทคนิคการทหารระหว่างประเทศ (Army 2017 International Military-Technical Forum) ซึ่งจัดขึ้นนอกกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา

 

บทวิเคราะห์ Smart Stock ประจำเช้าวันที่ 23 สิงหาคม 2560

ปรับบวกเปราะบาง

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับบวกตามภูมิภาคซึ่งเคลื่อนไหวเเละปิดตลาดในเเดนบวกเกือบทั้งหมดโดยเฉพาะ Hang Seng ส่วนหนึ่งเรามองว่าภาพรวมของตลาดหุ้นไทยได้เเรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นระหว่างวันเเละส่งเสริมบรรยากาศการลงทุนในกลุ่มพลังงานภายในประเทศ อย่างไรก็ตามเรามองว่าตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เเละปัจจัยลบก็ยังคงปกคลุมอยู่ค่อนข้างมากทำให้ฝ่ายวิจัยไม่เชื่อมั่นการฟื้นตัวของตลาดโดยเฉพาะระยะสั้นเเละ/กลาง โดย SET Index ปิดตลาดที่ระดับ 1,573.19 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวัน 36,838.42ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -1,042.24 ล้านบาท ในขณะที่สัญญา S50U17 ปิดตลาดที่ระดับ 996.3 จุด เเนะนำนักลงทุนพิจารณาปัจจัยลบต่างๆ ทั้งการซ้อมรบเเละการนัดฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว

แนะนำ : ให้น้ำหนัก Long เหนือระดับ 995.5 จุด / เล่นในกรอบ 991-999 จุด

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://classicgold.co.th/…/filestrategy23082017851064223.pdf

___________________________21015850_1812463062115369_7296204249443022753_o.jpg?oh=7acc2e6b757c2ca4961e8586188710d4&oe=5A19793E

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดตปท. คาดหวังความคืบหน้าแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 สิงหาคม 2560 09:37:47 น.

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้น เนื่องจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ตามตลาดสหรัฐฯที่พุ่งขึ้นแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา ภายหลังจากที่นโยบายการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯน่าจะมีความคืบหน้าแล้ว จากที่ทางสภาสูงและสภาล่างต่างเริ่มเห็นด้วยกับนโยบายนี้ ซึ่งตลาดฯคาดว่าน่าจะสามารถประกาศใช้ได้ในระยะต่อไป

 

 

 

ทั้งนี้ เป็นไปตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เคยหาเสียไว้จะลดภาษีนิติบุคคลจาก 35% ลงเหลือ 15% ซึ่งจะเป็นผลดีต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียน ทำให้มีการเข้ามาไล่ซื้อหุ้น หนุนบรรยากาศการลงทุนที่ดีต่อตลาดในเอเชีย และตลาดในยุโรปด้วย

 

อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเราอาจมี Upside จำกัด จากที่จะมีเรื่องคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลย ในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ส่วนราคาน้ำมันดิบก็ปรับขึ้นเล็กน้อย ไม่มีนัยสำคัญมากนัก

 

พร้อมให้แนวรับ 1,567 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (22 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,899.89 จุด พุ่งขึ้น 196.14 จุด (+0.90%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,297.48 จุด เพิ่มขึ้น 84.35 จุด (+1.36%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,452.51 จุด เพิ่มขึ้น 24.14 จุด (+0.99%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 163.21 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.43 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 26.25 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 11.20 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.50 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.13 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 12.04 จุด

 

ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง ระงับการซื้อขายภาคเช้า เนื่องจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น "ฮาโตะ"

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 ส.ค.60) 1,573.19 จุด เพิ่มขึ้น 3.57 จุด (+0.23%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 680.27 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ส.ค.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (22 ส.ค.60) ปิดที่ 47.64 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.6%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 ส.ค.60) ที่ 8.16 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 33.23 แนวโน้มแกว่งแคบในกรอบ 33.20-33.30 รอปัจจัยใหม่

- ครม.สัญจรโคราชไฟเขียวเปิดพีพีพี เอกชนร่วมลงทุนในกิจการรัฐ โครงการมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง "บางปะอิน-โคราช" - "บางใหญ่-กาญจนบุรี" รวมวงเงิน 6 หมื่นล้านบาท เร่งส่งรายละเอียดเข้าพีพีพีฟาสต์แทร็ก อายุสัญญา 30 ปี คาดก่อสร้างเสร็จปี 63 พร้อมอนุมัติร่างสัญญาจ้างจีนออกแบบรายละเอียดรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-โคราช วงเงินกว่า 1.7 พันล้าน นายกฯ เล็งลงนามจีนต้นก.ย. วางเงื่อนไขชำระเงินเป็นสกุลบาท จีนรับความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน

 

- "บิ๊กตู่" บอกอย่าไปให้ความสนใจวันที่ 25 ส.ค.60 ที่ศาลจะตัดสินคดีจำนำข้าว เพราะเป็นเรื่องของบุคคลและศาล ลั่นคืนวันที่ 24 ส.ค.คงมีไม่กี่คนที่จะนอนไม่หลับ ย้อนถามคนไทยทั้งประเทศจะยอมให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นอีกหรือ ด้านเลขาฯ สมช. เชื่อไม่วุ่นวายหลังศาลตัดสินจำนำข้าว ยันฝ่ายมั่นคงดูแลความเรียบร้อยเต็มที่ กำชับกทม. ตรวจสอบกล้อง CCTV 40 ตัวรอบศาลฯ พร้อมงัดแผนกรกฎ 52 คุมม็อบ ด้านทนาย "ปู" เผยพร้อมรับฟังคำพิพากษา

 

- การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ ณ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ จำนวน 13 สินค้า และ 4 ภาคบริการ ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตใหม่ที่จะเริ่มใช้วันที่ 16 ก.ย.นี้

 

- ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจ ภูมิภาคเอเชีย บริษัท เครดิตสวิส เปิดเผยว่า ทิศทางค่าเงินบาทไทยยังมีทิศทางปรับแข็งค่าขึ้นได้อีก คาดการณ์อีก 12 เดือนข้างหน้า ค่าเงินบาทน่าจะอยู่ที่ 32.50 บาท/ดอลลาร์สหัฐ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อพื้นฐานเศรษฐกิจไทยดี โดยเฉพาะตัวเลขในไตรมาส 2 ปีนี้ที่ออกมาโต 3.7% บวกกับมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่สูง ต่อเนื่องจากปีก่อนที่เกินดุลสูง 12% ของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี)

 

- บอร์ด รฟม.ไฟเขียวเปิดทางสร้างรถไฟฟ้าใน 3 จังหวัดท่องเที่ยว เริ่มจากเชียงใหม่ ภูเก็ต พังงา กำหนดปลายปีนี้เสนอแผนลงทุนเข้า ครม.อนุมัติ ไม่เกินปี 2566 เปิดใช้บริการ ขณะที่หลายสายในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลเจอเลื่อนตอกเสาเข็ม

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- RS (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 16.30 บาท แม้ธุรกิจ Media ค่อย ๆ ฟื้นตัวแต่ยังขาดทุนปีนี้ ขณะที่ธุรกิจความงามสุขภาพ (LifeStar Business) สร้างกำไรได้ดีกว่าที่คาดไว้ ทำให้ปรับประมาณการกำไรขึ้น 4-23% จากประมาณการกำไรเดิม ส่งผลกำไรปี 2561 จะเติบโต 64% y-y

 

- MINT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 43 ราคาหุ้น Laggard กลุ่มท่องเที่ยว โดยราคาหุ้น -7% ใน 4 สัปดาห์ แย่กว่ากลุ่มที่ลงเพียง -2% ขณะที่ Basis ของ MINTU17 กว้างขึ้นมากสุดในรอบ 17 สัปดาห์ สะท้อนจิตวิทยาการลงทุนที่เริ่มเป็นบวกมากขึ้น พร้อมคาดกำไรโตแข็งแกร่งต่อเนื่องใน 3 ไตรมาสข้างหน้า เพราะเป็น High Season ของทั้งโรงแรมในโปรตุเกสและในไทย ซึ่งกำลังได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากมาตรการลดหย่อนภาษี คาดกำไรปกติทั้งปี +23% Y-Y อยู่ที่ 5.6 พันล้านบาท

 

- TOP (ไอร่า) เป้า 108 บาท ค่าการกลั่นตลาดสิงค์โปร์ ล่าสุด 8.16 อยู่ในระดับสูง คาดผลการดำเนินงาน 3Q/60 จะออกมาโดดเด่น จากธุรกิจโรงกลั่นเป็นหลัก และคาดขาดจะไม่มีขาดทุนจากสต็อกน้ำมันอีก ในขณะที่ธุรกิจปิโตรเคมีและน้ำมันหล่อลื่นคาดทรงตัวจาก 2Q/60 นอกจากนี้คาดกำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าจะเข้ามาอย่างสม่ำเสมออีก ประมาณ 2,100 ล้านบาทต่อปี ส่วนโครงการเพิ่มกำไรของ TOP ในช่วง 1H/60 เห็นผลชัดเจน สามารถเพิ่มกำไร ประมาณ 2,129 ล้านบาท หลักๆ จากการใช้น้ำมันดิบชนิดใหม่ๆ ในการกลั่น รวมถึงการปรับปรุงระบบจัดการการกลั่น (LP Upgrading program)

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2698516

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพุธที่ 23 สิงหาคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 23 สิงหาคม 2560 09:53:50 น.

กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงเล็กน้อยท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง โดยที่ราคายังไม่สามารถยืนเหนือ 1,290 เหรียญได้ โดยภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ไม่มีอะไร และ SPDR ยังถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 799.29 ตัน ขณะที่ตลาดรอดูภาพรวมของความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือว่าจะมีความรุนแรงต่อเนื่องหรือไม่อย่างไร จึงทำให้ภาพรวมของตลาดทั้งหมดเคลื่อนไหวเป็นSideways สำหรับคืนนี้ จะมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ New Home Sales คาดการณ์ว่าจะออกมาทรงตัวหรือดีขึ้นเล็กน้อย ดังนั้น น่าจะไม่ส่งผลหรือสร้างความสำคัญต่อตลาดมากนัก

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

โดยภาพรวมราคาทองคำยังเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบแนวรับแรก 1,280 เหรียญ และมีแนวต้าน 1,290 เหรียญ ยังคาดว่าให้ใช้กลยุทธ์ลงซื้อขึ้นขายในกรอบ Sideways ดังกล่าว ขณะที่ราคาทองคำไทยจะมีแนวรับ 20,100 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 20,350 บาท/บาทองคำ เป็นลักษณะ Sidewaysเช่นกัน

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ลงซื้อขึ้นขายในกรอบ Sideways ระหว่าง 1,280 – 1,290 เหรียญ

* อย่างไรก็ดี Gold Futures Q17 จะหมดอายุลงในวันที่ 30 ส.ค. 60 จึงแนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยนมาถือครองสถานะของ Gold Futures V17 แทน

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลงซื้อขึ้นขายเก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

เน้นปรับพอร์ตการลงทุนให้สมดุล

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ปรับพอร์ตการลงทุนให้สมดุลกับสภาพตลาด หาจังหวะทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

Gold Futures Q17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,230 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,430 บาท

Gold Futures V17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,270 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,470 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2698503

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

KBANKห่วง'บริโภค'ชะลอตัว เงินเฟ้อต่ำ-เสี่ยงเกิดภาวะเงินฝืด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 23 สิงหาคม 2560 00:00:40 น.

นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับประมาณ ค่าเงินบาท ณ สิ้นไตรมาส 3/60 ลงมาอยู่ 33.00 บาท/ดอลลาร์ จากเดิม 34.20 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจาก ดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลมากกว่าที่คาด และ เงินเฟ้อที่ต่ำดึงดูดนักลงทุนในตลาดพันธบัตร และคาดว่า สิ้นปีนี้เงินบาทจะอยู่ที่ 33.50 บาท/ดอลลาร์ จากเดิมคาดอยู่ที่ 34.50 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

ส่วน กรณี ที่ ธนาคาร แห่ง ประเทศไทย (ธปท.) มี ความ เป็น ห่วง ใน เรื่อง ของ เงินทุน ไหล เข้า นั้น มองว่า เป็น การ เตือน ส่วน ของ การเก็งกำไร ที่ เริ่ม มี มากขึ้น แต่ ไม่ น่า จะ ใช้ มาตรการ รุนแรง ที่ อาจจะ กระทบ ต่อ บรรยากาศ การลงทุน และ ไม่ส่งผล ดี ใน ระยะยาว

 

"ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าธปท.จับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเชื่อว่าคงจะไม่มีการออกมาตรการในลักษณะคุมเงินไหลเข้าออก เพราะเมื่อกว่า 10 ปีก่อนมีการควบคุมด้วยมาตรการ 30% ได้กระทบต่อเงินลงทุนทางตรงด้วย ไม่ใช่แค่เงินที่ไหลเข้ามาเก็งกำไรเพียงอย่างเดียว"นายกอบสิทธิ์ กล่าว

 

ส่วนเศรษฐกิจไทยนั้นพบสัญญาณฟื้นตัว ซึ่งในไตรมาส 2/60 เศรษฐกิจเติบโต 3.7% เป็นผลมาจากอุปสงค์ภายนอกประเทศเป็นหลักหรือการส่งออก ส่วนการบริโภคภายในประเทศยังชะลอตัวเล็กน้อย การลงทุนภาคเอกชนแม้ว่าจะปรับตัวดีขึ้นแต่ยังต้องจับตามอง

 

"เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ซึ่งสภาพัฒน์ประกาศตัวเลขเติบโต 3.7% เป็นผลจากปัจจัยภายนอกด้านการส่งออกที่คู่ค้าต่างชาติมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีเป็นหลัก แต่ไส้ในเศรษฐกิจในประเทศ การบริโภคชะลอตัวเล็กน้อย และ มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืด เพราะเงินเฟ้อต่ำ"

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2698429

 

จีนเรียกร้องสหรัฐทบทวนมาตรการคว่ำบาตร เตือนอาจกระทบสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 สิงหาคม 2560 12:25:00 น.

เอกอัคราชทูตจีนได้ออกมาเรียกร้องให้สหรัฐทบทวนมาตรการคว่ำบาตรต่อองค์กรและบุคคลของจีน โดยเตือนว่า การตัดสินใจคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหรัฐอาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของจีนมีขึ้นหลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อองค์กร 10 แห่ง และบุคคลจำนวน 6 คนของจีนและรัสเซีย เมื่อวานนี้ เพื่อหวังกดดันให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการนิวเคลียร์

 

 

 

ทั้งนี้ เอกอัคราชทูตจีนกล่าวว่า จีนขอคัดค้านการคว่ำบาตรแต่เพียงฝ่ายเดียวซึ่งไม่เป็นไปตามกรอบของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) โดยเฉพาะการที่บางประเทศได้ขยายขอบเขตอำนาจศาลมาบังคับใช้กับบริษัทของจีน เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายของประเทศนั้นๆ และเรียกร้องให้สหรัฐแก้ไขการกระทำที่เป็นความผิดพลาดนี้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความร่วมมือระดับทวิภาคีและประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาจรีย์ ธนศุภานุเวช/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2698625

 

จำคุกตลอดชีวิต4จำเลย ยิงถล่ม'กปปส.'ตาย3ปี57

ศาลฎีกาพิพากษายืนประหารชีวิต 4 จำเลยในคดียิง M79 ใส่ผู้ชุมนุม กปปส.เมื่อกุมภาพันธ์ปี 57 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย แต่จำเลยให้การสารภาพในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงลดโทษเหลือจำคุก...

 

ISRANEWS.ORG|BY สำนักข่าวอิศรา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีเพื่อน พี่น้องทุกท่าน ข่าว วิเคราะห์ ... ... ...

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

 

 

YLGResearch

 

 

 

HSHsocial

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

เตือนเลี่ยงถ.แจ้งวัฒนะ 25สค.วันชี้ชะตายิ่งลักษณ์

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.) และพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บังคับการตำรวจจราจร(ผบก.จร.) ออกประกาศประชาสัมพันธ์ เนื่องจาก วันที่ 25 ส.ค.60 เวลา 09.30 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง…

NAEWNA.COM

 

รองอธิการบดีจุฬาฯ ลาออก « จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ข่าวสาร รองอธิการบดีจุฬาฯ ลาออก Tweet 23/8/2017 ข่าว, ข่าวสาร, ข่าวเด่น ตามที่ได้มีหนังสือลงวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2560 โดยผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 ในนามของนายทะเบียนสหกรณ์…

CHULA.AC.TH

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 2560 09:46:42 น.

กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำทรงตัวในกรอบแคบๆ โดยแกว่งระหว่าง 1,285 – 1,290 เหรียญ โดยที่เช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 1,288 เหรียญ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายปานกลาง โดยที่นักลงทุนโดยส่วนใหญ่ของไทยเป็นลักษณะการขายมากกว่า ขณะที่ค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าสูงขึ้นจึงทำให้นักลงทุนไทยมีแรงเทขายเข้ามาอย่างหนักเมื่อวานนี้ จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าจากระดับ 33.23 บาท/ดอลลาร์ มาที่ระดับ 33.36 บาท/ดอลลาร์ จึงทำให้ราคาทองคำไทยขยับสูงขั้น ท่ามกลางตลาดทองคำต่างประเทศที่นิ่งและทรงตัว โดยที่ยอดขาดดุลก.ค.ออกมาที่ระดับ 188 พันล้านเหรียญ ขณะที่ภาพรวม 7 เดือนอยู่ในเชิงบวกเกินดุล 6.78 พันล้านเหรียญ ขณะที่ข่าวต่างประเทศมุ่งประเด็นไปที่ความวุ่นวายทางการเมืองสหรัฐฯภายใต้ทีมบริหารของนายทรัมป์ และการประชุมแจ็กสัน โฮล ระหว่าง 24-26 ส.ค.นี้ โดยตลาดให้ความสนใจไปยังการกล่าวถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดที่มีกำหนดการกล่าวถ้อยแถลงในคืนวันศุกร์ ขณะที่การประกาศข้อมูลเศรษฐิกจสหรัฐฯวานนี้ ได้แก่ New Home Sales ออกมาแย่กว่าที่คาด สำหรับคืนนี้จะมีการประกาศ Unemployment Claims คาดจะออกมาแย่เล็กน้อย แต่ Existing Home Sales คาดจะออกมาดีขึ้นเล็กน้อย

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ภาพทางเทคนิคทองคำอยู่ในภาวะสะสะมพลังในกรอบ 1,280 – 1,290 เหรียญ โดยมีการแกว่งตัวบริเวณนี้ และมีการแกว่งตัวในกรอบสามเหลี่ยมพีระมิดด้านเท่า ภาพรวมราคาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยโดยทั่วไป และมีโอกาส Breakout ในคืนวันศุกร์ และมีโอกาสได้ทั้ง Break ขึ้นและลง สำหรับภาพรวมตลาดมีทิศทางเป็นแนวโน้มขาขึ้น ด้านราคาทองคำไทยปรับตัวขึ้นท่ามกลางการอ่อนค่าของค่าเงินบาท โดยทองคำไทยปิดที่ระดับ 20,200 – 20,300 บาท/บาททองคำ ดังนั้น จึงคาดว่าที่ทองคำไทยจะมีแนวรับ 20,150 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้าน 20,450 บาท/บาททองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ทำกำไรระยะสั้นและทยอยเข้าซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว

* อย่างไรก็ดี Gold Futures Q17 จะหมดอายุลงในวันที่ 30 ส.ค. 60 จึงแนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยนมาถือครองสถานะของ Gold Futures V17 แทน

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลงซื้อขึ้นขาย เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดสถานะหรือลดสถานะออกไป

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ภาพรวมตลาดเป็นทิศทางขาขึ้น จึงแนะนำให้หาจังหวะทยอยเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และขายปิดบริเวณแนวต้าน

 

Gold Futures Q17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,330 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,530 บาท

Gold Futures V17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,360 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,560 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2699167

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวในกรอบ จับตาคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวพรุ่งนี้,มีความเสี่ยงเงินบาทอ่อนค่า

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 2560 09:07:22 น.

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ แม้ว่าจะไม่ค่อยกังวลเกี่ยวกับการเมืองในสหรัฐฯมากนัก แต่ก็รอผลการเมืองในประเทศ จากเรื่องคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ที่จะยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงเงินบาทอ่อนค่าด้วย ทำให้ตลาดหุ้นไทยอาจจะ Underperform กว่าตลาดภูมิภาค โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะฟื้นตัวเล็กน้อย ทั้งนี้ การที่ดุลการค้าของไทยงวดเดือนก.ค.พลิกเป็นขาดดุลครั้งแรกในรอบ 27 เดือน แม้ว่าการส่งออกจะดีก็ตาม แต่ทำให้เห็นว่าจากนี้ไปการส่งออกของไทยน่าจะชะลอตัว และเงินบาทมีโอกาสที่จะอ่อนค่าลงไปถึงระดับ 33.8 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงก็จะเป็นตัวกดดันตลาดฯด้วย

 

อย่างไรก็ดี หากตลาดฯฟื้นตัวขึ้นก็คงอยู่ในกรอบจำกัด พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,568-1,577 จุด

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2699159

อยากรู้ว่าทักษิณโกงอย่างไรมาดูกัน(ตามคำขอ)อ่านให้กระจ่างนะครับทำไมทักษิณกลับบ้านไม่ไ

* ปัญหาของรัฐบาลทักษิณ (รวมเด็ดสะเก็ดแผล - ทักษิณ) ผมเคยศรัทราใน พตท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จึงได้ติดตามผลงานท่าน แต่ตลอด เวลาที่บริหารราชการแผ่นดิน...

TALK.MTHAI.COM

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวในกรอบ จับตาคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวพรุ่งนี้,มีความเสี่ยงเงินบาทอ่อนค่า

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 2560 09:29:07 น.

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ แม้ว่าจะไม่ค่อยกังวลเกี่ยวกับการเมืองในสหรัฐฯมากนัก แต่ก็รอผลการเมืองในประเทศ จากเรื่องคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวในวันที่ 25 ส.ค.นี้ ที่จะยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดฯ

 

 

 

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงเงินบาทอ่อนค่าด้วย ทำให้ตลาดหุ้นไทยอาจจะ Underperform กว่าตลาดภูมิภาค โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะฟื้นตัวเล็กน้อย ทั้งนี้ การที่ดุลการค้าของไทยงวดเดือนก.ค.พลิกเป็นขาดดุลครั้งแรกในรอบ 27 เดือน แม้ว่าการส่งออกจะดีก็ตาม แต่ทำให้เห็นว่าจากนี้ไปการส่งออกของไทยน่าจะชะลอตัว และเงินบาทมีโอกาสที่จะอ่อนค่าลงไปถึงระดับ 33.8 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงก็จะเป็นตัวกดดันตลาดฯด้วย

 

อย่างไรก็ดี หากตลาดฯฟื้นตัวขึ้นก็คงอยู่ในกรอบจำกัด พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,568-1,577 จุด

 

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (23 ส.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,812.09 จุด ลดลง 87.80 จุด (-0.40%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,278.41 จุด ลดลง 19.07 จุด (-0.30%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,444.04 จุด ลดลง 8.47 จุด (-0.35%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 240.56 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 7.85 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.72 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 7.52 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.19 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 68.28 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.26 จุด,

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 ส.ค.60) 1,573.38 จุด เพิ่มขึ้น 0.19 จุด (+0.01%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,024.77 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 ส.ค.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (23 ส.ค.60) ปิดที่ 48.41 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ หรือ 1.2%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 ส.ค.60) ที่ 7.86 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 33.34 แนวโน้มอ่อนค่าหลังไทยขาดดุลการค้า-จับตาการประชุม Jackson Hole

 

- "พาณิชย์" ปรับเป้าส่งออก ปีนี้เป็น 5-6% หลังประเมินเศรษฐกิจโลกฟื้น ตลาดหลักเป็นบวก โดยเฉพาะคู่ค้าในเอเชีย เผย ก.ค.ยอดส่งออกขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 อยูที่ 10.5% พบไทยขาดดุลการค้าครั้งแรกรอบ 27 เดือน ด้าน "แบงก์ชาติ" ชี้ส่งออกโตเกินคาด เล็งปรับประมาณการทั้งปีใหม่ อาจสูงกว่า 5.7% ขณะเอกชนโวยส่งออกโตแต่บาทแข็ง ฉุดกำไรลดฮวบ

 

- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือน ก.ค. 2560 อยู่ที่ 83.9 ปรับตัวลดลงจากระดับ 84.7 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งปรับลดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และเป็นค่าดัชนีที่ลดต่ำสุดในรอบ 10 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2559

 

- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า สำนักงานได้ปรับประมาณการส่งออกปี 2560 ใหม่ จากเดิมเติบโต 3.5-5% ปรับเพิ่มเป็น 5-6% และมีโอกาสที่จะเติบโตได้เพิ่มถึง 6.5%

 

- บอร์ด ทอท. ไฟเขียว คิงพาวเวอร์บริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์เฟส 1 สนามบินดอนเมือง 10 ปี พร้อมยกเลิกสัญญาจ้างห้างหุ้นส่วน จำกัด พี เอ็น เก้าเก้าฯ หลังพบทำผิดสัญญาถูกร้องเรียนบ่อย เตรียมจับมือสายการบินตั้งบริษัทลูก 1.5 พันล้าน หวังยกระดับงานบริการ

 

- ประธานคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 ส.ค.60 จะประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อหาข้อยุติปัญหาที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นห่วง เพื่อเร่งผลักดันการจัดตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ และขายให้ได้โดยเร็วที่สุดภายในสิ้นปีนี้

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- SPORT-W6 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. สยามสปอร์ต ซินดิเคท (SPORT)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน68,509,584 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (1 ส.ค. 2560) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 29 ก.ย. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 31 ก.ค. 2561

 

- AOT (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 60 บาท ตัวเลขผู้โดยสารเดือน ก.ค. เติบโต 5.9% y-y โดย 10MFY60 AOT มีอัตราการเติบโตของผู้โดยสารรวม 7.4% และคาดจะโตต่อเนื่อง 7.5-8%ในเดือนหน้า

 

- SPALI (ธนชาต) "ซื้อ" เป้า 32 บาท (ก่อน XW 18 ก.ย.) Presales 1H60 โต 29% ที่ 13.3 พันล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และน่าจะถึงเป้าหมายที่ 27 พันล้านบาทในปีหน้าได้.มีแผนเปิด 4 โครงการคอนโดใหม่ใน 2H60 ซึ่งโครงการแรก Veranda ภาษีเจริญ ตอบรับดีด้วยยอดจอง 55% และอีก 3 แห่งจะเปิดตัวในเดือน ก.ย.นี้ คาดกำไร 2H60 +62%y-y

 

- MONO (ไอร่า) เป้า 4.20 บาท แนวโน้ม 2H/60 เติบโตต่อเนื่อง ภายใต้รายได้ค่าโฆษณาที่ยังมีโอกาสเติบโต จากอัตราค่าโฆษณาเฉลี่ยต่อนาทีของ MONO29 ที่แม้จะเติบโตกว่า 38% จาก 20,300 บาท เมื่อปี 59 มาเป็น 28,000 บาท ในช่วง 2Q/60 นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัว Platform ใหม่ "See ME" ในช่วง 4Q/60 เพื่อต่อยอดจาก Mthai.com ที่มียอดเข้าชมถึง 24 ล้านคนต่อเดือน โดยคาด "See ME" มีจุดแข็งในการให้ส่วนแบ่งรายได้ค่าโฆษณาต่อเจ้าของ Content ที่สูงกว่า Platform อื่น และคาดจะสามารถมีบทบาทในตลาดการโฆษณาดิจิตอลที่มีมูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท ในปี 60 คาดเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยผลักดันผลประกอบการของ MONO ในระยะยาวได้ ขณะที่คาดปี 60 สามารถพลิกกลีบมามีกำไรสุทธิ 160 ล้านบาท

 

- TMB (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 2.84 บาท เป็นหุ้นที่แอบปลื้มในกลุ่มแบงก์ เพราะ (1) สินเชื่อขยายตัวดีสุด (2) รายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (3) จัดการต้นทุนทางการเงินและ NPL ได้ดี โดยคาดกำไร 3Q60 ที่ 2.4 พันล้านบาท +3% Q-Q, +30% Y-Y ส่วนทั้งปีคาด 9.8 พันล้านบาท +17% Y-Y และ P/BV อยู่ที่ 1.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 1.2 เท่า และราคาหุ้นเคลื่อนไหว Laggard โดย SETBANK ขึ้น 3% ใน 3 สัปดาห์ล่าสุด แต่ TMB แทบไม่ขยับ

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2699177

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 87.80 จุด วิตก ทรัมป์ ขู่ชัตดาวน์รัฐบาล

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 2560 06:37:48 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองในสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดการดำเนินงานลง ถ้าหากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มขึ้นในวันนี้ ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,812.09 จุด ลดลง 87.80 จุด หรือ -0.40% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,444.04 จุด ลดลง 8.47 จุด หรือ -0.35% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,278.41 จุด ลดลง 19.07 จุด หรือ -0.30%

 

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงตั้งแต่ตลาดเปิดการซื้อขาย และเคลื่อนไหวในแดนลบจนกระทั่งปิดทำการ หลังจากปธน.ทรัมป์ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา โดยทรัมป์กล่าวว่า เขาจะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดการดำเนินงาน ถ้าหากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

 

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กำลังมีความขัดแย้งกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับการอนุมัติงบประมาณสำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก โดยถ้าหากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณชั่วคราวสำหรับการบริหารงานของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงงบในการสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโก หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐหลายแห่งก็ต้องปิดตัวลง เนื่องจากรัฐบาลขาดงบประมาณในการบริหารประเทศ

 

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ออกรายงานเตือนว่า หากสภาคองเกรสสหรัฐประสบความล้มเหลวในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐในเวลาที่เหมาะสม ฟิทช์ก็อาจต้องปรับทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ โดยมีแนวโน้มปรับลดลงจากระดับ AAA ในขณะนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุด

 

สภาคองเกรสยังคงไม่มีการบรรลุข้อตกลงในการเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 19.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้สหรัฐเผชิญเผชิญความเสี่ยงในการผิดนัดชำระดอกเบี้ย และเงินต้นของพันธบัตร โดยหากรัฐบาลสหรัฐไม่มีงบประมาณที่จะบริหารประเทศ ก็จะส่งผลให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาล ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนต.ค.

 

หุ้นโลว์ ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ร่วงลง 3.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 2 ที่ระดับ 1.57 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.61 ดอลลาร์/หุ้น และรายได้อยู่ที่ 1.950 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.953 หมื่นล้านดอลลาร์

 

หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปรับตัวลง 0.2% หลังจากคณะลูกขุนของศาลสูงในลอส แองเจลิส เคาน์ตี ตัดสินให้บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จ่ายเงินชดเชยจำนวน 417 ล้านดอลลาร์แก่ผู้บริโภครายหนึ่งซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งรังไข่ โดยระบุว่า บริษัทจอห์นสันต้องรับผิดชอบที่ไม่มีการแจ้งเตือนผู้บริโภรายนี้ เกี่ยวกับความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งจากการใช้ผลิตภัณฑ์แป้งเด็กจอห์นสัน

 

หุ้นโคตี้ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงาม ร่วงลง 5.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ

 

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดเช่นกัน โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลงในเดือนก.ค. โดยร่วงลง 9.4% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 571,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากพุ่งแตะระดับ 630,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย.

 

นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "Fostering a Dynamic Global Economy"

 

ขณะเดียวกันนักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2698916

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 2560 07:32:34 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 ส.ค.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองในสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดการดำเนินงานลง ถ้าหากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มขึ้นในวันนี้ ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,812.09 จุด ลดลง 87.80 จุด หรือ -0.40% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,444.04 จุด ลดลง 8.47 จุด หรือ -0.35% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,278.41 จุด ลดลง 19.07 จุด หรือ -0.30%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) หลังจากไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนส.ค.ของยูโรโซน ชะลอตัวลงจากระดับของเดือนก.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 24-26 ส.ค. ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.5% ปิดที่ 373.92 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,174.30 จุด ลดลง 55.04 จุด หรือ -0.45% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,115.39 จุด ลดลง 16.47 จุด หรือ -0.32% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,382.65 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด หรือ +0.01%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมือคืนนี้ (23 ส.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน โดยตลาดได้อานิสงส์จากการที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโร ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แรงบวกถูกสกัดในระหว่างวันจากแรงกดดันของตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 0.91 จุด หรือ +0.01% ปิดที่ 7,382.65 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลงมากกว่าคาด

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 58 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 48.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาเดือนก.ย.ได้ครบกำหนดส่งมอบแล้วเมื่อวันอังคารที่ 22 ส.ค.

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 52.57 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.7 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ระดับ 1,294.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 6.4 เซนต์ หรือ 0.38% ปิดที่ 17.046 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 980.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือเกือบ 0.1% ปิดที่ 933 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) จากความวิตกกังวลของนักลงทุน ภายหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้กล่าวปราศรัยที่รัฐแอริโซนาเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยระบุว่า เขายอมให้รัฐบาลปิดการดำเนินงาน (ชัตดาวน์) หากรัฐสภาไม่อนุมัติงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลารสหรัฐ ที่ระดับ 1.1810 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1751 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2800 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2826 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7900 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7906 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.03 เยน จากระดับ 109.52 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9655 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9684 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,278.41 จุด ลดลง 19.07 จุด, -0.30%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 21,812.09 จุด ลดลง 87.80 จุด, -0.40%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,444.04 จุด ลดลง 8.47 จุด, -0.35%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 31,568.01 จุด เพิ่มขึ้น 276.16 จุด, +0.88%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,260.05 จุด ลดลง 3.74 จุด, -0.11%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,772.94 จุด ลดลง 1.28 จุด, -0.07%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,914.02 จุด เพิ่มขึ้น 33.72 จุด, +0.57%

 

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 765.98 จุด เพิ่มขึ้น 4.72 จุด, +0.62%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,998.75 จุด ลดลง 17.18 จุด, -0.21%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,287.70 จุด ลดลง 2.53 จุด, -0.08%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,366.40 จุด เพิ่มขึ้น 1.07 จุด, +0.05%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,737.20 จุด ลดลง 12.90 จุด, -0.22%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,792.70 จุด ลดลง 12.10 จุด, -0.21%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,434.64 จุด เพิ่มขึ้น 50.80 จุด, +0.26%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,406.81 จุด เพิ่มขึ้น 14.74 จุด, +0.14%

*ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันที่ 23 ส.ค.เนื่องจากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่นฮาโตะ

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2699072

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $3.7 เหตุดอลล์อ่อน,ตลาดหุ้นร่วงหนุนแรงซื้อทอง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 2560 07:09:01 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.7 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ระดับ 1,294.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 6.4 เซนต์ หรือ 0.38% ปิดที่ 17.046 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 980.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือเกือบ 0.1% ปิดที่ 933 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำปิดตลาดดีดตัวขึ้น เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยให้สัญญาทองคำมีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในสหรัฐมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อทิศทางเศรษฐกิจ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดการดำเนินงานลง ถ้าหากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

 

ขณะที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ออกรายงานเตือนว่า หากสภาคองเกรสสหรัฐประสบความล้มเหลวในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐในเวลาที่เหมาะสม ฟิทช์ก็อาจต้องปรับทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ โดยมีแนวโน้มปรับลดลงจากระดับ AAA ในขณะนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุด

 

นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลงในเดือนก.ค. โดยร่วงลง 9.4% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 571,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากพุ่งแตะระดับ 630,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย.

 

นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "Fostering a Dynamic Global Economy"

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2698919

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.34 แนวโน้มอ่อนค่าหลังไทยขาดดุลการค้า-จับตาการประชุม Jackson Hole

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 2560 09:24:41 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.34 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น

 

 

 

วานนี้ที่ปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.36/38 บาท/ดอลลาร์

"ช่วงนี้ดูเหมือนเงินบาทจะมีแรงเทขาย หลังเมื่อต้นสัปดาห์แบงก์ชาติออกมาบอกว่าจะดูแลค่าเงินบาท ประกอบกับตัวเลข

 

ขาดดุลการค้าครั้งแรกในรอบ 27 เดือน และคาดว่าไทยน่าจะยังขาดดุลต่อไปอีกสักระยะ ตลาดจึงถือโอกาสนี้ทำกำไรออกมา เพราะ

 

ก่อนหน้าหน้านี้เงินบาทแข็งค่าไปในทิศทางเดียว" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทไว้ระหว่าง 33.30-33.40 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากเงินบาท

 

อ่อนค่าติดต่อกันมา 2 วันแล้วอาจจะมีการพักฐานบ้าง

โดยคืนนี้จะมีรายงานตัวเลขยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ และ นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของ

 

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันนี้ และสิ้นสุดในวันเสาร์นี้ เพื่อดูว่านางเจเน็ต

 

เยลเลน ประธานเฟด จะส่งสัญญาณอะไรเกี่ยวกับนโยบายการเงินในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมครั้งนี้หรือไม่

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.15 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 109.33/35 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1802 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1781/1782 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.2930 บาท/

 

ดอลลาร์

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกของไทยในปี 2560 ไว้ที่ 3.8% (กรอบ

 

ที่ 3.5-4.5%) เพื่อรอประเมินประเด็นความท้าทายต่อภาพการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะต่อไป แม้มูลค่าการส่งออกใน

 

ช่วง 7 เดือนแรกของปี (ม.ค.-ก.ค.60) จะขยายตัวเฉลี่ยที่ 8.2%

-- บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลังจะชะลอตัวลง

 

เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมในเดือนที่ผ่านมา รวมถึงกฎเกณฑ์บังคับเกี่ยวกับเงินกู้ที่ออกใหม่จะส่งผลให้การบริโภคชะลอตัวลง รวมถึง

 

การลงทุนของภาครัฐที่ยังล่าช้ากว่าแผน แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวและการส่งออก ดังนั้นจึงประมาณการว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์

 

มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะอยู่ที่ 3.4%

- คณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ จะ

 

ประชุมคณะกรรมการฯ ในวันที่ 25 ส.ค.60 เพื่อหาข้อยุติปัญหาที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นห่วง เพื่อเร่งผลักดัน

 

การจัดตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ และขายให้ได้โดยเร็วที่สุดภายในสิ้นปีนี้

- ME by TMB เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในครึ่งแรกปี 2560 ว่า ในด้านของจำนวนลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 10%เมื่อ

 

เทียบกับสิ้นปี 2559 และเติบโต 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือมีฐานลูกค้าประมาณ 300,000 ราย จากเป้าหมาย

 

การเพิ่มขึ้นทั้งปีที่ 20%หรือจะมียอดลูกค้าประมาณ 325,000 ราย ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการขยายตัวในระดับเฉลี่ยทุกปีของ ME ด้วยจุด

 

เด่นที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ถึง 4.5 เท่า ปัจจุบันอยู่ที่ 1.7% แต่สามารถเบิกถอนได้ตามต้องการและไม่กำหนดขั้นต่ำ

 

- ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทีมกฎหมายของธนาคารกำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูของบมจ. เอ็นเนอร์

 

ยี่ เอิร์ธ (EARTH) ที่ยื่นขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปท่าทีของธนาคารกรุงไทยในฐานะเจ้าหนี้ราย

 

ใหญ่ว่าเห็นด้วย หรือคัดค้านแผนฟื้นฟูกิจการดังกล่าวหรือไม่ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ก่อนที่จะถึงกำหนดศาลนัดไต่สวนวันที่ 18 ก.ย.นี้

 

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลงในเดือนก.ค. โดยร่วงลง 9.4% เมื่อเทียบรายเดือน สู่

 

ระดับ 571,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากพุ่งแตะระดับ 630,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย.

 

- ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ออกรายงานเตือนว่า หากสภาคองเกรสสหรัฐประสบความล้มเหลวในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของ

 

สหรัฐในเวลาที่เหมาะสม ฟิทช์ก็อาจต้องปรับทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ โดยมีแนวโน้มปรับลดลงจากระดับ AAA ในขณะนี้

 

ซึ่งเป็นระดับสูงสุด

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) จาก

 

ความวิตกกังวลของนักลงทุน ภายหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้กล่าวปราศรัยที่รัฐแอริโซนาเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่าน

 

มา โดยระบุว่า เขายอมให้รัฐบาลปิดการดำเนินงาน (ชัตดาวน์) หากรัฐสภาไม่อนุมัติงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดน

 

ระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอก

 

จากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่

 

ปลอดภัย

- นักลงทุนจับตาการประชุมสัมมนาเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นที่เมืองแจ็กสัน

 

โฮล รัฐไวโอมิง ในวันนี้และสิ้นสุดในวันเสาร์นี้

- นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอด

 

ขายบ้านมือสองเดือนก.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2699172

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่าเทียบเงินสกุลหลัก วิตกทรัมป์ขู่ ชัตตาวน์ รัฐบาล

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม 2560 07:13:08 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) จากความวิตกกังวลของนักลงทุน ภายหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้กล่าวปราศรัยที่รัฐแอริโซนาเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยระบุว่า เขายอมให้รัฐบาลปิดการดำเนินงาน (ชัตดาวน์) หากรัฐสภาไม่อนุมัติงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก

 

 

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลารสหรัฐ ที่ระดับ 1.1810 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1751 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2800 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2826 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7900 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7906 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 109.03 เยน จากระดับ 109.52 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9655 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9684 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.41% สู่ระดับ 93.160 เมื่อคืนนี้

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การกล่าวปราศรัยต่อบรรดาผู้สนับสนุนของทรัมป์ที่เมืองฟินิกส์ รัฐแอริโซนาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมานั้น ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุน เนื่องจากปธน.ทรัมป์ได้ขู่ว่าอาจยอมให้ปิดการดำเนินงานของรัฐบาล เพื่อให้แน่ใจว่า รัฐบาลจะสามารถเดินหน้าสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโกต่อไปได้ นอกจากนี้ เขายังแสดงความไม่มั่นใจด้วยว่า สหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาแก้ไขข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) กับแคนาดา และเม็กซิโกหรือไม่ พร้อมกับระบุว่า ท้ายที่สุดแล้ว รัฐบาลอาจพิจารณายกเลิกข้อตกลง NAFTA ก็เป็นได้

 

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กำลังมีความขัดแย้งกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับการอนุมัติงบประมาณสำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก โดยหากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณชั่วคราวสำหรับการบริหารงานของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงงบในการสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโก หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐหลายแห่งก็ต้องปิดตัวลง เนื่องจากรัฐบาลขาดงบประมาณในการบริหารประเทศ

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า จากกระแสความวิตกในตลาดดังกล่าว ทำให้นักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น สกุลเงินเยนกันมากขึ้น

 

นักลงทุนจับตาการประชุมสัมมนาเศรษฐกิจประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันนี้และสิ้นสุดในวันเสาร์นี้ เพื่อดูว่านางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะส่งสัญญาณอะไรเกี่ยวกับนโยบายการเงินในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมครั้งนี้หรือไม่ เช่นเดียวกับนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะเข้าร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกเช่นกัน

 

การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นในช่วงที่เฟดมีแผนที่จะเริ่มดำเนินการปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ขณะที่ ECB อยู่ในระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

 

นอกจากนี้นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2698920

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศาลรัฐธรรมนูญ รับวินิจฉัยคำร้องร่าง พ.ร.ป.ผู้ตรวจการแผ่นดิน ปมไม่เซ็ตซีโร่

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 สิงหาคม 2560 17:21:24 น.

ศาลรัฐธรรมนูญ รับวินิจฉัยคำร้องกรณีที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส่งความเห็นของสมาชิก สนช.จำนวน 36 คน ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน มาตรา 56 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

 

เนื่องจากสมาชิก สนช.รวม 36 คน เห็นว่า ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ผ่านการให้ความเห็นชอบของ สนช. มาตรา 56 ที่บัญญัติว่า "ให้ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินและผู้ตรวจการแผ่นดินซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะครบวาระตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ.2552" ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงได้ส่งความเห็นให้ประธาน สนช.เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

 

 

 

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นกรณีที่ สนช.ได้พิจารณาและเห็นชอบร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน และสมาชิก สนช.จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเห็นว่ามาตรา 56 ในร่าง พ.ร.ป.ดังกล่าว มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งประธาน สนช.ส่งความเห็นดังกล่าวมายังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ จึงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1)

 

"ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และให้แจ้งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบ และพิจารณามอบหมายให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้แทนของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติผู้เสนอความเห็น (ฝ่ายเสียงข้างน้อย) จำนวน 1 คน และผู้แทนของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสียงข้างมากที่ลงทติเห็นชอบในวาระที่สาม จำนวน 1 คน มาชี้แจงพร้อมทำความเห็นเป็นหนังสือต่อศาลในวันที่ 30 สิงหาคม 2560" คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ระบุ

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2698878

 

ทรัมป์เปิดศึกงัดข้อสภา ขู่ชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาล หากคองเกรสไม่ไฟเขียวงบสร้างกำแพงเม็กซิโก

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 สิงหาคม 2560 20:43:25 น.

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ที่จะยอมให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดการดำเนินงาน ถ้าหากสภาคองเกรสไม่สนับสนุนงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

 

ทั้งนี้ ในการกล่าวปราศรัยที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ปธน.ทรัมป์กล่าวเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นระหว่างชายแดนสหรัฐและเม็กซิโก แม้จะต้องแลกมาด้วยการที่รัฐบาลต้องปิดการดำเนินงานก็ตาม

 

 

 

"ถ้าเราต้องปิดการดำเนินงานของรัฐบาล เราก็จะยังคงสร้างกำแพง" เขากล่าว

ขณะนี้ ปธน.ทรัมป์กำลังมีความขัดแย้งกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับการอนุมัติงบประมาณสำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก โดยถ้าหากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณชั่วคราวสำหรับการบริหารงานของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงงบในการสร้างกำแพงกั้นเม็กซิโก ซึ่งปธน.ทรัมป์จะต้องลงนามเป็นกฎหมายภายในเส้นตายวันที่ 30 ก.ย. หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐหลายแห่งก็ต้องปิดตัวลง เนื่องจากรัฐบาลขาดงบประมาณในการบริหารประเทศ ขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตแสดงจุดยืนอย่างเปิดเผยว่า พวกเขาจะขัดขวางการอนุมัติงบประมาณซึ่งจะรวมถึงงบการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2698900

 

ทรัมป์ ยืนกรานสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก ชี้เป็นสิ่งจำเป็นและพร้อมแลกกับทุกสิ่ง

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 สิงหาคม 2560 11:41:05 น.

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้เปิดเผยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซา ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทยว่า การสร้างกำแพงกั้นระหว่างชายแดนสหรัฐและเม็กซิโกนั้น ถือเป็นภารกิจที่จำเป็นอย่างยิ่ง และเขายินดีที่จะแลกกับทุกสิ่ง

 

ทรัมป์กล่าวว่า "แม้ว่ารัฐบาลของเราจะต้องยุติการทำงาน แต่เราก็จะสร้างกำแพงต่อไป"

 

 

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวหลายต่อหลายครั้งในช่วงรณรงค์หาเสียงว่า เขาจะสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก ความยาวประมาณ 2,000 ไมล์ เพื่อป้องกันผู้อพยพผิดกฎหมายจากเม็กซิโกลักลอบเข้ามายังสหรัฐ และจะให้รัฐบาลเม็กซิโกเป็นผู้จ่ายเงินค่าก่อสร้างกำแพงนี้ ขณะที่เม็กซิโกได้ออกมาปฏิเสธว่าจะไม่ยอมจ่ายเงินดังกล่าวอย่างแน่นอน

 

การปฏิเสธจากฝ่ายเม็กซิโก ทำให้รัฐบาลของปธน.ทรัมป์ต้องหันมาขอเงินสนับสนุนจากสภาผู้แทนสหรัฐ ท่ามกลางกระแสคัดค้านจากสมาชิกจากพรรคเดโมแครต ทำให้มีการคาดการณ์กันว่าร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าวจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา

 

อย่างไรก็ตาม หากเป็นเช่นนั้น ปธน.อาจใช้สิทธิวีโต้ หรือเลือกที่จะไม่ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณที่ไม่รวมงบประมาณสำหรับการสร้างกำแพงเอาไว้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาล

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาจรีย์ ธนศุภานุเวช/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2698603

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...