ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.10 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ จับตาผลประชุมเฟดกลางสัปดาห์นี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 18 กันยายน 2560 11:21:04 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.10 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว

 

 

 

จากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์

"ดอลลาร์ในตลาดโลกยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลยูโร และเมื่อคืนวันศุกร์ตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐฯติดลบผิดคาด" นัก

 

บริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทน่าจะยังแกว่งในกรอบแคบๆ ระหว่าง 33.05-33.15 บาท/ดอลลาร์ไปก่อน โดย

 

ต้องติดตามการประชุม FOMC ช่วงกลางสัปดาห์นี้ ซึ่งตลาดรอดูแผนปรับลดงบดุลของสหรัฐฯ

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 33.0850 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (15 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.90775%

 

ส่วน THAI BAHT FIX 6M (15 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.03074%

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.20 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 111.22 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1947 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.1940 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.0670 บาท/

 

ดอลลาร์

- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์นี้ (18-22 ก.ย.) ที่ 33.00-33.20 บาท

 

ต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องติดตามสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลี ตลอดจนผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และประมาณการ

 

เศรษฐกิจชุดใหม่ของเฟด กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติ และสถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค

 

ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน การขออนุญาตก่อสร้าง ดัชนี

 

ราคานำเข้าส่งออก ยอดขายบ้านมือสอง และผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนส.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอ

 

ติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดอื่นๆ ที่มีกำหนดการในช่วงปลายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานทุนสำรองล่าสุด 8 ก.ย. 2560 อยู่ที่ระดับ 1.993 แสนล้านดอลลาร์

 

สหรัฐ หรือประมาณ 6.591 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 3,100 ล้านดอลลาร์ ด้านฐานะซื้อเงินตราต่าง

 

ประเทศล่วงหน้าสุทธิอยู่ที่ 3.23 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ทุนสำรองประเทศสุทธิที่รวมเงินสำรองระหว่างประเทศและฐานะซื้อเงิน

 

ตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิแล้วอยู่ที่ระดับ 2.316 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.39 หมื่นล้านดอลลาร์

 

นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น สะท้อนว่า ธปท.ได้เข้าไป

 

แทรกแซงตลาดเพื่อทำให้เงินบาทอ่อนค่า หลังจากที่แข็งค่าขึ้นมาก อย่างไรก็ตามคาดว่าจะยังมีเงินทุนไหลเข้า ทำให้เงินบาทแข็งค่า

 

ขึ้นจากปัจจุบัน โดยคาดว่าเงินบาทปีหน้าจะแข็งค่าไปที่ระดับประมาณ 32 บาท/ดอลลาร์ได้ ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย เชื่อ

 

ว่าปีหน้าจะไม่เปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันที่ 1.5%

- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เร่งพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต แอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อพัฒนาสายงานดิจิตอลแบ

 

งกิ้ง อย่างต่อเนื่องและให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท คาดว่าต้นปี 61 เป็นต้นไปจะเห็น

 

ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน โดยเฉพาะพัฒนาระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (บิ๊กดาต้า) และระบบปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ต่างๆ มาสร้าง

 

เป็นผลิตภัณฑ์บริการใหม่ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานแล้ว ยังสามารถตอบโจทย์และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่าง

 

มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

- ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นไม่กระทบกับเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ เขื่อว่าเป็นการปรับ

 

เพิ่มขึ้นในระยะสั้นๆ และไม่ปรับตัวสูงขึ้นไปกว่านี้มากนัก ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดี จากการส่งออก การบริโภคยังขยายตัว

 

ได้ดี และการลงทุนเอกชนก็เริ่มมีมากขึ้น รวมถึงรัฐบาลก็เร่งการใช้และการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

 

ขณะที่ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอยู่ใน

 

ช่วงที่ สศค.คาดการณ์ไว้ว่าราคาน้ำมันเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จึงเชื่อว่าไม่กระทบกับเศรษฐกิจไทย

 

- โบรกฯ ทองเตือนราคาทองอาจผันผวนหากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีไม่บานปลาย และยังคงต้องติดตาม

 

แถลงการณ์ของ FED ที่ส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินสกุลต่างๆ แนะเก็บกำไรบริเวณแนวรับ-แนวต้าน

 

- การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติจะเปิดฉากการประชุมวันแรกในวันนี้ (18 ก.ย.) ที่นิวยอร์ก สหรัฐ โดย

 

ประเด็นสำคัญที่คาดว่า จะมีการหารือในที่ประชุมได้แก่ การรับมือกับการทดสอบขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ รวมทั้งการ

 

กล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เข้าร่วมการประชุมเป็นครั้งแรก

- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปจะเปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนเดือนส.ค.ในวันนี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า

 

จะขยายตัวขึ้นแตะ 1.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐานคาดว่า จะอยู่ที่ 1.2%

 

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมนโยบายการเงินในวันพรุ่งนี้ และจะแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันพูธที่ 20 ก.

 

ย. ขณะที่นักลงทุนคาดว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะประกาศลดงบดุล จากปัจจุบันที่

 

ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) หลัง

 

จากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลงสวนทางกับการคาดการณ์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่า

 

ขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งสัญญาณว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) เนื่องจากการทำนิวไฮอย่างต่อเนื่องของดัชนีดาวโจนส์

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย เช่นทองคำ และเข้าลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งถือเป็นสินทรัพย์เสี่ยง นอก

 

จากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ หลังจากตัว

 

เลขเงินเฟ้อของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2711214

 

ผู้ว่า ธปท.รับพบเก็งกำไรค่าเงินผิดปกติบางช่วง,มองเงินไหลเข้าจากความมั่นใจเพิ่มขึ้น

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 18 กันยายน 2560 11:48:39 น.

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมรับว่า มีการเข้ามาเก็งกำไรค่าเงินที่ผิดปกติเป็นบางช่วง แต่เมื่อ ธปท.เห็นสัญญาณดังกล่าวก็ได้มีการเข้าไปดำเนินการแล้วกับสถาบันการเงินที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินที่หนาแน่นหรือการทำธุรกรรมการเงินที่มีความผิดปกติ

 

 

 

ส่วนกรณีที่ยังมีเงินทุนไหลเข้า ซึ่งส่งผลให้เงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่านั้น ผู้ว่าฯ ธปท. ระบุว่า เงินที่ไหลเข้ามาจากนักลงทุนที่มีความมั่นใจในระบบเศรษฐกิจไทยมากขึ้นและเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี ประกอบกับคลายความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทย จึงทำให้มีนักลงทุนเข้ามาเพิ่มการลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นผลมาจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดและการเกินดุลการค้าในช่วงที่ผ่านมาด้วย

 

ผู้ว่าฯ ธปท. ระบุว่า พร้อมรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายในการดำเนินนโยบายทางการเงิน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการหารือร่วมกับทั้งกระทรวงการคลัง ตลอดจนภาคธุรกิจ ซึ่งการตัดสินใจนโยบายการเงินนั้นขึ้นอยู่กับคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เป็นหลัก

 

อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางของทุกแห่งได้มีความพยายามที่จะมองไปข้างหน้าเนื่องจากสถานการณ์ทางการเงินโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ซึ่งกรอบนโยบายการเงินนอกจากจะต้องคำนึงถึงเรื่องเสถียรภาพแล้วยังมีอีกหลายมิติที่ต้องคำนึงถึงควบคู่กันด้วย เช่น ด้านราคา, ปริมาณเงินในระบบที่จะเอื้อต่อการฟื้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และเสถียรภาพการเงินไม่ให้เกิดความเปราะบาง

 

"หน้าที่ของ ธปท.คือต้องมองความสมดุลทั้งในระยะสั้น และระยะยาว คำนึงถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และไม่ให้เกิดจุดเปราะบางในระบบการเงิน ดูแลทั้งด้านผู้ฝากเงิน ด้านผู้กู้เงิน เพราะนโยบายการเงินนั้น เปรียบเหมือนเหรียญสองด้านเสมอ จะมีทั้งฝ่ายที่ได้ประโยชน์ และเสียประโยชน์ หน้าที่ของ ธปท.คือการชั่งน้ำหนักให้เกิดความสมดุล"นายวิรไท กล่าว

 

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2711237

 

 

จับตาผู้ว่าแบงก์ชาติอังกฤษกล่าวสุนทรพจน์ที่วอชิงตันวันนี้ คาดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 18 กันยายน 2560 11:29:37 น.

นักลงทุนในตลาดการเงินจับตานายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งมีกำหนดจะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ในวันนี้

 

นักลงทุนคาดว่า นายคาร์นีย์อาจจะส่งสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ BoE ได้ส่งสัญญาณในการประชุมล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า BoE อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเดือนพ.ย.

 

 

 

ในการประชุมครั้งล่าสุดนั้น BoE มีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ และคงวงเงินซื้อหุ้นกู้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่นล้านปอนด์

 

ทั้งนี้ แถลงการณ์ภายหลังการประชุมระบุว่า "สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่า ถ้าหากเศรษฐกิจยังคงปรับตัวสอดคล้องกับแนวโน้มการบรรเทาลงของภาวะซบเซาทางเศรษฐกิจ ขณะที่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น การถอนนโยบายกระตุ้นทางการเงินก็มีแนวโน้มที่จะมีความเหมาะสมในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อให้เงินเฟ้อกลับสู่ระดับเป้าหมายอย่างยั่งยืน"

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2711221

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ประจำวันที่ 18 กันยายน 2560

Gold สำหรับระยะสั้นแล้วเราปรับมุมมองการเปิดสถานะเป็น “Short” จากแรงขายทำกำไรที่ค่อนข้างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะในสัปดาห์นี้ต้องติดตามการประชุม FOMC อย่างใกล้ชิดซึ่งอาจมีผลกระทบต่อตลาด สำหรับนักลงทุนที่มีกำไรแนะนำ Take Profit

ตลาดทองคำในวันศุกร์ที่ผ่านมายังคงผันผวนเหมือนกับต้นอาทิตย์ซึ่งมีเเรงขายออกมาค่อนข้างหนักในขณะเดียวกันก็มีเเรงซื้อกลับมารับตลาดเอาไว้ได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ทั้งนั้นปัจจัยหลักเรามองว่าน่าจะเป็นดัชนีทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งมีการประกาศในช่วงคืนนั้นหลายดัชนีซึ่งมีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของทองคำพอสมควรดังนั้นนักลงทุนบางส่วนจึงไม่อยากรับความเสี่ยงจากความผันผวนดังกล่าวเเละทยอยปรับสถานะการถือครองทองคำออกมา อย่างไรก็ตามภาพการเคลื่อนไหวของทองคำเริ่มไม่มีปัจจัยบวกหลักๆที่โดดเด่นเข้ามาพยุงตลาดเหมือนกับในช่วงก่อนหน้าเเล้วเเต่นักลงทุนก็ยังมองมุมบวกต่อ Sentiment ของตลาดเนื่องจากดูเหมือนว่าทองคำจะสามารถผ่านระดับนัยสำคัญที่ 1,300 USD/toz มาได้อย่างเเข็งเเกร่งเเละพร้อมไปต่อทำให้นักลงทุนที่ติดดอยอยู่เดิมก็เริ่มปรับสถานะลงทุนออกไป

แนะนำ : เปิดสถานะในกรอบ / หรือถือเงินสดรอ

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy1809201791420428…

_________________

สนใจลงทุนทองคำกับ Classic Gold

ทองคำแท่ง : 02-6180888

Gold Futures : 02-6180808

เว็บไซต์ : www.classicgold.co.th

21586601_1839246859436989_6527274822395985057_o.jpg?oh=ecca968adc2877a8bfd124ad66e5fe5f&oe=5A40A354

(Sep 18) อู่ตะเภาเนื้อหอม ทุนต่างประเทศรุมตอมได้ผู้ร่วมทุนปีหน้า -เมืองการบินภาคตะวันออกคึกคักนักลงทุนจากต่างประเทศรุมตอมอู่ตะเภาทั้งยุโรปและเอเชีย มั่นใจทุนจากญี่ปุ่นแห่ลงทุนหลังได้สัมผัสพื้นที่จริง คาดออกทีโออาร์และหาผู้ร่วมทุนได้ในปีหน้า

โครงการพัฒนาพื้นที่สนามบินอู่ตะเภาหรือเมืองการบินภาคตะวันออก ถือเป็นหนึ่งในโครงการเร่งด่วนที่คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ที่จะใช้ขับเคลื่อนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซีให้เกิดขึ้น ด้วยงบการลงทุนกว่า 1.64 แสนล้านบาท ในระยะ 5 ปีเป็นการลงทุนในรูปแบบการร่วมลงทุนรัฐและเอกชนหรือพีพีพี และร่วมบริหาร

พล.ร.ต.วรพล ทองปรีชา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานอู่ตะเภาเปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความคืบหน้าในการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ระหว่างที่คณะนักธุรกิจจากญี่ปุ่นกว่า 500 รายลงพื้นที่สำรวจลู่ทางการลงทุนเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมาว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนแม่บทหรือ master plan และศึกษาความเหมาะสมของโครงการต่างๆ ในพื้นที่ 6,500 ไร่ ที่คณะกรรมการนโยบายอีอีซี ได้ประกาศเป็นเขตส่งเสริมแล้ว จะแล้วเสร็จในช่วงเดือนมิถุนายน 2561 ซึ่งจะดำเนินการควบคู่กันไปกับการชักชวนนักลงทุนเข้ามา

โดยขณะนี้ได้มีนักลงทุนหลายประเทศ จากยุโรปและเอเชีย มีทั้งรายบริษัทและรวมกลุ่มกัน ในหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน การซ่อมเครื่องบิน และกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แสดงความสนใจ ซึ่งได้เข้ามาหารือกับทางการท่าอากาศยานอู่ตะเภาและผ่านสำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(สกรศ.) โดยเฉพาะนักลงทุนจากญี่ปุ่นเองได้เข้ามาหารือหลายครั้งแล้ว จึงเชื่อว่าการเดินทางของทัพนักลงทุนญี่ปุ่นที่มาครั้งนี้ จะทำให้มีกลุ่มนักลงทุนรายใหม่ๆ แสดงความสนใจเพิ่มมากขึ้นคาดว่าโครงการต่างๆ จะออกทีโออาร์และหาผู้ร่วมทุนได้ภายในปี 2561

ส่วนแผนการดำเนินงานในระยะแรก จะเป็นการปรับปรุงขีดความสามารถของสนามบิน ได้แก่ โครงการก่อสร้าง High Speed Taxi Way และ Taxi Way เพิ่มเติม คาดว่าจะออกแบบแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2560 และดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2561 แล้วเสร็จในปี 2562การก่อสร้างและปรับปรุงอาคารสนับสนุนต่างๆพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยคาดจะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนตุลาคม 2560 แล้วเสร็จในปี 2561

การติดตั้งระบบสารสนเทศอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ให้ทันสมัย เพื่อให้การขนถ่ายผู้โดยสารทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น คาดว่าจะดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จเดือนสิงหาคม 2560 และเปิดใช้อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 อย่างเต็มขีดความสามารถได้ในสิ้นปีนี้

สำหรับการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการบินจะมีการก่อสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยาน(MRO)ที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)ที่ร่วมกับบริษัทแอร์บัสฯคาดว่าจะออกแบบแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมปีนี้ และดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2561 การก่อสร้างอาคารสินค้าภายใต้บันทึกข้อตกลงความเข้าใจกับบริษัทการบินไทยฯ คาดว่าจะออกแบบแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2560 และเริ่มก่อสร้างในปี 2561 การก่อสร้างศูนย์ฝึกบุคลากรทางการบินภายใต้บันทึกข้อตกลงความเข้าใจร่วมกันกับสถาบันการบินพลเรือน คาดว่าจะออกแบบแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2560 และเริ่มก่อสร้างในปี 2561 และการก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 คาดว่าจะออกแบบแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2560 และเริ่มก่อสร้างในปี 2561 เป็นต้น

Source: ฐานเศรษฐกิจ

21551718_1715827735103378_4306865719560137829_o.jpg?oh=8f65f7a57118da8ca40e8e6d177fce06&oe=5A3FE528

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ Smart Stock ประจำเช้าวันที่ 18 กันยายน 2560

ติดตามปัจจัยฝั่งสหรัฐฯ

ตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวร้อนเเรงตลอดสัปดาห์ที่เเล้วเเม้ว่าในบางวันจะมีเเรงขายทกำไรในช่วงท้ายตลาดบ้างเล็กน้อยเเต่ในภาพรวมก็ถือว่ายังมีปัจจัยหนุนบรรยากาศการลงทุนค่อนข้างมากโดยเฉพาะปัจจัยภายนอก(ซึ่งมีมากกว่าปัจจัยบวกภายในประเทศ) โดยกระเเสเงินที่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยเเละตลาดตราสารหนี้ยังคงไหลเข้าค่อนข้างต่อเนื่องส่งผลให้ค่าเงินบาทปรับตัวเเข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเเม้ว่าทางธนาคารเเห่งประเทศไทยจะมีมาตรการการเเทรกเเซงค่าเงินบาทผ่านการซื้อเงินสกุลต่างประเทศเเต่ก็ไม่สามารถรักษาระดับการเเข็งค่าขึ้นได้เท่าใดทำได้เพียงจำกัดกริบเท่านั้น อีกปัจจัยหนึ่งที่ยังโดดเด่นเข้ามาหนุนการปรับขึ้นได้เเก่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกซึ่งปรับตัวสูงขึ้นจากปัจจัยด้านอุปทานซึ่งตลาดยังมีความกังวลอบู่ได้เข้ามาหนุนกลุ่มพลังงานภายในประเทศโดยเฉพาะหุ้นใหญ่ของกลุ่มหนุนดันตลาดปรับขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 23 ปีของ SET Index ได้อย่างมั่นคงเช่นเดียวกับดัชนีทางฝั่งสหรัฐฯ

แนะนำ รอย่อแล้วค่อยเปิดสถานะดีกว่า / ตลาดปรับบวกสูงแล้ว

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy1809201790531428…

___________________________

สนใจลงทุนทองคำกับ Classic Gold

ทองคำแท่ง : 02-6180888

Gold Futures : 02-6180808

เว็บไซต์ : www.classicgold.co.th

21752735_1839247079436967_6245329112970758147_o.jpg?oh=0502eaa3137ef6f842233f24522bffb7&oe=5A53ECD9

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

21761616_1493541447359083_7340984927536936817_n.jpg?oh=e286a183ebc624415bc0dfaf4f20c126&oe=5A6092EE

อย่าลืม! คดีแกนนำเสื้อแดง ที่ยังอยู่ในศาล -พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์

1.คดีหมายเลขดำ อ.3531/2552 ( คดีเกิดขึ้น ในสมัยรัฐบาล อ…

SIAMMANUSSATI.COM

 

เผาไปเลยผมรับผิดชอบเอง! ปชป.ถาม'เต้น-ณัฐวุฒิ'คดีนี้มีคนติดคุกหรือยัง

วันที่ 18 กันยายน นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นถึงกรณี นายณับวุฒิ ใสยเกื้อ…

NAEWNA.COM

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.08 แนวโน้มอ่อนค่าหลังดอลล์แข็ง นลท.จับตาการประชุมเฟดเปิดฉากวันแรก

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 19 กันยายน 2560 09:14:45 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.08 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น

 

 

 

วานนี้ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 33.06 บาท/ดอลลาร์

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.05 - 33.15 บาท/ดอลลาร์ น่าจะอ่อนค่าได้เล็ก

น้อยจากวานนี้ ผลจากการที่มีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้ามาในตลาด

"เมื่อคืนมีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้ามาในตลาดส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเยนและสกุลหลักๆ โดยตลาดรอผล

ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) คืนนี้คืนแรกและคืนพรุ่งนี้" นักบริหาร

เงินระบุ

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.52 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 111.28 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1962 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1948 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.0800 บาท/

ดอลลาร์

- แบงก์ชาติ เผยดำเนินนโยบายการเงินให้อยู่ในจุดสมดุล มีการทบทวนเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ จับตาประชุม กน

ง. 27 ก.ย.นี้ รับอัตราดอกเบี้ยของไทยอยู่ในระดับต่ำ ประชาชนจึงหันไปลงทุนในรูปแบบอื่นๆแทนการฝากเงิน ที่มีความเสี่ยงสูงก

ว่า พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานอื่นเพื่อกำกับดูแลไม่ให้เกิดการเก็งกำไร

- บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต ในเครือธนาคารกรุงศรี เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท เบญจจินดา โฮลดิ้ง และ

กองทุน 500 TukTuks เพื่อเข้าไปร่วมลงทุนกับฟินโนมีนา (www.finnom ena.com) ฟินเทคสตาร์ทอัพสัญชาติ ไทยแท้ ด้วยมูลค่า

ลงทุนรวมทั้งสิ้น 3.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 112 ล้านบาท โดยเตรียมใช้ความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีผสมผสานแนะ

นำ การลงทุนอัตโนมัติ (Hybrid Robo Advisor) ของฟินโนมีนา มาสนับสนุน บริการแนะนำการลงทุนให้ลูกค้าในเครือธนาคาร

กรุงศรีได้

- สมาคมนักวิเคราะห์ ฟันธงตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรงไม่ใช่ภาวะฟองสบู่ แต่เกิดจากต่างชาติกลับมาลุยซื้อ หลัง

มองทิศทางเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนปีหน้าจะเติบโตได้ดี อานิสงส์การเมืองไทยเริ่มมีความสงบ ขณะที่ราคาหุ้นไทยยังปรับ

ขึ้นไม่มาก ทั้งปีขึ้นแค่ 2-3% ส่วนตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้น 15%

- สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวลง 3 จุด สู่ระดับ

64 ในเดือนก.ย.

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) ขณะ

นักลงทุนจับตาการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลาสองวัน โดยจะเปิดฉาก

ขึ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) เนื่องจากการทำนิ

วไฮอย่างต่อเนื่องของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุน

จับตาการประชุมระยะเวลา 2 ของวันของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

- คณะกรรมาธิการการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐเตรียมเปิดการอภิปรายเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ใน

สัปดาห์หน้า โดยร่างกฎหมายดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า "คาสซิดี-เกรแฮม" ซึ่งผลักดันโดยวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน เพื่อนำมาบังคับใช้แทน

ที่กฎหมายโอบามาแคร์ของรัฐบาลชุดก่อน

- ตลาดการเงินกำลังจับตาการประชุมของเฟดซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้และสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้อย่างใกล้ชิด โดยนักลงทุน

รอดูว่า เฟดจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่

อีกทั้งนักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีอย่างใกล้ชิด โดยข่าวคืบหน้าล่าสุดระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัล

ด์ ทรัมป์ และนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีน เห็นพ้องที่จะใช้ความพยายามกดดันให้มากที่สุดเพื่อให้เกาหลีเหนือระงับโครงการ

นิวเคลียร์

- นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค., ตัวเลขการ

เริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค., ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 2, ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับ

สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนก.ย. โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต

เบื้องต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.08 แนวโน้มอ่อนค่าหลังดอลล์แข็ง นลท.จับตาการประชุมเฟดเปิดฉากวันแรก

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 19 กันยายน 2560 11:06:04 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.08 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น

 

 

 

วานนี้ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 33.06 บาท/ดอลลาร์

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.05 - 33.15 บาท/ดอลลาร์ น่าจะอ่อนค่าได้เล็ก

 

น้อยจากวานนี้ ผลจากการที่มีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้ามาในตลาด

"เมื่อคืนมีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้ามาในตลาดส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเยนและสกุลหลักๆ โดยตลาดรอผล

 

ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) คืนนี้คืนแรกและคืนพรุ่งนี้" นักบริหาร

 

เงินระบุ

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 33.0750 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (18 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.85668%

 

ส่วน THAI BAHT FIX 6M (18 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.01703%

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.52 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 111.28 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1962 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1948 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.0800 บาท/

 

ดอลลาร์

- แบงก์ชาติ เผยดำเนินนโยบายการเงินให้อยู่ในจุดสมดุล มีการทบทวนเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ จับตาประชุม กน

 

ง. 27 ก.ย.นี้ รับอัตราดอกเบี้ยของไทยอยู่ในระดับต่ำ ประชาชนจึงหันไปลงทุนในรูปแบบอื่นๆแทนการฝากเงิน ที่มีความเสี่ยงสูงก

 

ว่า พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานอื่นเพื่อกำกับดูแลไม่ให้เกิดการเก็งกำไร

- บริษัท กรุงศรี ฟินโนเวต ในเครือธนาคารกรุงศรี เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท เบญจจินดา โฮลดิ้ง และ

 

กองทุน 500 TukTuks เพื่อเข้าไปร่วมลงทุนกับฟินโนมีนา (www.finnom ena.com) ฟินเทคสตาร์ทอัพสัญชาติ ไทยแท้ ด้วยมูลค่า

 

ลงทุนรวมทั้งสิ้น 3.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 112 ล้านบาท โดยเตรียมใช้ความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีผสมผสานแนะ

 

นำ การลงทุนอัตโนมัติ (Hybrid Robo Advisor) ของฟินโนมีนา มาสนับสนุน บริการแนะนำการลงทุนให้ลูกค้าในเครือธนาคาร

 

กรุงศรีได้

- สมาคมนักวิเคราะห์ ฟันธงตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรงไม่ใช่ภาวะฟองสบู่ แต่เกิดจากต่างชาติกลับมาลุยซื้อ หลัง

 

มองทิศทางเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนปีหน้าจะเติบโตได้ดี อานิสงส์การเมืองไทยเริ่มมีความสงบ ขณะที่ราคาหุ้นไทยยังปรับ

 

ขึ้นไม่มาก ทั้งปีขึ้นแค่ 2-3% ส่วนตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้น 15%

- สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวลง 3 จุด สู่ระดับ

 

64 ในเดือนก.ย.

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) ขณะ

 

นักลงทุนจับตาการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลาสองวัน โดยจะเปิดฉาก

 

ขึ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) เนื่องจากการทำนิ

 

วไฮอย่างต่อเนื่องของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุน

 

จับตาการประชุมระยะเวลา 2 ของวันของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

- คณะกรรมาธิการการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐเตรียมเปิดการอภิปรายเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ใน

 

สัปดาห์หน้า โดยร่างกฎหมายดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า "คาสซิดี-เกรแฮม" ซึ่งผลักดันโดยวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน เพื่อนำมาบังคับใช้แทน

 

ที่กฎหมายโอบามาแคร์ของรัฐบาลชุดก่อน

- ตลาดการเงินกำลังจับตาการประชุมของเฟดซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้และสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้อย่างใกล้ชิด โดยนักลงทุน

 

รอดูว่า เฟดจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่

อีกทั้งนักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีอย่างใกล้ชิด โดยข่าวคืบหน้าล่าสุดระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัล

 

ด์ ทรัมป์ และนายสี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีจีน เห็นพ้องที่จะใช้ความพยายามกดดันให้มากที่สุดเพื่อให้เกาหลีเหนือระงับโครงการ

 

นิวเคลียร์

- นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค., ตัวเลขการ

 

เริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค., ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 2, ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับ

 

สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนก.ย. โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต

 

เบื้องต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต

 

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2711921

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง $14.40 นักลงทุนเทขายทองหลังดาวโจนส์ทำนิวไฮต่อเนื่อง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 19 กันยายน 2560 07:43:29 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (18 ก.ย.) เนื่องจากการทำนิวไฮอย่างต่อเนื่องของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมระยะเวลา 2 ของวันของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

 

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 14.40 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 1,310.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 54.5 เซนต์ หรือ 3.1% ปิดที่ 17.156 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 10.70 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 961.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.70 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 930.45 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนอยากกับเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมเฟดจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้และสิ้นสุดในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยนักลงทุนรอดูว่า เฟดจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่

CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเพิ่มขึ้นถึง 52.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 19 กันยายน 2560

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 19 กันยายน 2560 09:24:39 น.

-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประชุมนโยบายการเงินวันแรกในวันนี้ และจะแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนคาดว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่ก็มีแนวโน้มที่จะประกาศลดงบดุล จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์

 

-- --นางออง ซาน ซูจี ในฐานะผู้นำเมียนมาโดยพฤตินัย เตรียมออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงในรัฐยะไข่เป็นครั้งแรกในวันนี้ หลังจากที่เธอถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกรณีที่เพิกเฉยต่อปัญหาการกวาดล้างชาวมุสลิมโรฮิงญาโดยรัฐบาลเมียนมา ซึ่งส่งผลให้เกิดวิกฤตผู้อพยพขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน

 

 

 

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะประชุมนโยบายการเงินในวันแรกในวันพรุ่งนี้ และแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดี ขณะที่ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า คณะกรรมการ BOJ จะยังคงนโยบายผ่อนคลายการเงินมูลค่ามหาศาล และคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% ในการประชุมครั้งนี้ ตามเจตนารมณ์ของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ

 

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ กล่าวในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) เมื่อคืนนี้ที่นิวยอร์ก โดยแสดงจุดยืนเรียกร้องให้ UN ปฏิรูปและปรับเปลี่ยนระบบบริหารงานที่มีพิธีรีตอง

 

ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมวันนี้ ในเวลา 21.30 น. ตามเวลาไทย

 

-- ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐ (NHC) เปิดเผยว่า พายุเฮอร์ริเคน "มาเรีย" ได้ทวีความรุนแรงเป็นเฮอร์ริเคนระดับที่ 5 ขณะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งของโดมินิกา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของทะเลคาริบเบียน

 

-- นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน วานนี้ โดยเขาระบุว่า เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ในคณะกรรมการนโยบายการเงินของ BoE มีความเห็นว่าการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าหากว่าเศรษฐกิจอังกฤษยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

นายคาร์นีย์ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะเป็นไปอย่างจำกัด และค่อยเป็นค่อยไป

 

-- สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายแกรี โคห์น ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NEC) เตรียมสรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับข้อเสนอของรัฐบาลสหรัฐ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่าปธน.ทรัมป์ ยังคงเปิดกว้างเรื่องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศต่อไป ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวออกมาประกาศว่าจะไม่การเปลี่ยนแปลงจุดยืนในการถอนตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าว

 

-- สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวลง 3 จุด สู่ระดับ 64 ในเดือนก.ย.

 

NAHB ระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม และการเกิดพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มา

 

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค.ในวันนี้ โดยก่อนหน้านี้ ดัชนี PPI ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.ค. แตะที่ระดับ 101.84 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาสินค้าเกษตร

 

-- สำนักงานสถิติออสเตรเลีย (ABS) จะเปิดเผยราคาบ้านไตรมาส 2 ในวันนี้ หลังจากที่ในไตรมาส 1 ราคาบ้านพักอาศัยในออสเตรเลียปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.2% ซึ่งปรับตัวขึ้นเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน

 

-- ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ในวันนี้

สำหรับในรายงานประชุมเดือนส.ค.ที่ผ่านมานั้น RBA ระบุว่าธนาคารกลางเริ่มหันมาจับตาตัวเลขหนี้สินภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศจะฟื้นตัวขึ้นก็ตาม

 

-- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเยอรมนีเดือนก.ย. ในวันนี้

 

ส่วนในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีปรับตัวลงสู่ระดับ 10.0 จุด จากระดับ 17.5 จุดในเดือนก.ค. ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 15.0 และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สาม

 

-- สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในคืนนี้ ประกอบด้วย ราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค. ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนส.ค. และ ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 2

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2711854

 

Xinhua world news summary: พายุ มาเรีย ทวีความรุนแรงเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 5 ขณะเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลคาริบเบียน

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 19 กันยายน 2560 09:40:10 น.

ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐ (NHC) เปิดเผยว่า พายุเฮอร์ริเคน "มาเรีย" ได้ทวีความรุนแรงเป็นเฮอร์ริเคนระดับที่ 5 ขณะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งของโดมินิกา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของทะเลคาริบเบียน

NHC ระบุว่า พายุมาเรียซึ่งเป็นพายุเฮอร์ริเคนระดับ 5 ตามมาตราวัดของแซฟเฟอร์-ซิมป์สัน (Saffir-Simpson Hurricane Scale) นั้น เคลื่อนตัวอยู่ห่างจากทิศตะวันออก-ตะวันออกเฉียงใต้ของชายฝั่งโดมินิกา ออกไปประมาณ 25 กิโลเมตร และห่างจากหมู่เกาะมาร์ตินนิค ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของทะเลคาริบเบียน ออกไปประมาณ 70 กิโลเมตร

 

 

 

 

-- กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า จีนได้เพิ่มการถือครองพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ในเดือนก.ค. และยังคงเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรายใหญ่สุดของสหรัฐ

รายงานระบุว่า จีนเพิ่มการพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 1.95 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 1.166 ล้านล้านดอลลาร์

 

--นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบบริหารงานของ UN

ทั้งนี้ นายกูเตอร์เรส และนายทรัมป์เปิดเผยถ้อยคำดังกล่าวในการประชุมว่าด้วยการปฏิรูป UN ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงนิวยอร์ก

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สกาวรัฐ บัวสำลี/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ึงมองได้ว่าทองมีฐานการขึ้นมาจากค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐและได้ทอปอัพจากปัจจัยสงคราม

ถ้ามองดูปัจจัยสงครามคงชะลอตัวลงแม้ว่าจะมีการยิงขีปนาวุธไปแต่ตลาดไม่กังวลนัก เชื่อว่า ตลาดคงมองว่าการคว่ำบาตรจะได้ผลไม่มากก็น้อย ในขณะที่ทิศทางค่าเงินดอลล่าร์นั้นถ้ามองจากทรงกราฟถือว่าการลงชะลอตัวลงมากกราฟซ้อนกันหลายเวฟ แรงขายเริ่มไม่ชัดเจน ซึ่งถ้าดอลล่าร์กลับตัวหรือสถานการณ์เปลี่ยน ทองจะร่วงลงแรงได้

อย่างไรก็ตามมองว่าเฟดจะยังไม่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเนื่องจากระดับเงินเฟ้อยังต่ำและจากผลกระทบของพายุที่ถล่มอเมริกามาพอควร และเกาหลีเหนือน่าจะยังมีลูกดื้อให้เห็นได้อยู่จึงมองเพียงพักตัว จึงวางแผนเข้าซื้อหากว่าเข้าใกล้ระดับพักตัวของกรอบหลัก 1260 1280 1300 เป็นลักษณะทยอยสะสม และถ้าฟื้นตัวจาก 1300 ขึ้นไปจะขอมองเป้าสั้นๆ ก็พอยังไม่มองถึงการทำนิวไฮเนื่อง เป็นขั้นเป็นตอนไป

สำหรับท่านที่อยากซื้อ อย่างที่บอกครับคือทยอยเข้ารับตามแนวรับหลัก และถ้าได้เห็นช่วงฟื้นตัวใกล้ 1320 1335 ก็แนะนำขาย

สำหรับขาเอส ยังถือต่อได้ แรงซื้อยังไม่ดีนักและถ้าลงต่ำกว่า 1302 ก็ไปลุ้นกับแนวรับถัดไป 1292 1285 1282 โดยถ้าระหว่างวันของวันนี้พุ่งขึ้นเกิน 1312 1315 ก็ปิดเอสเก็บกำไรไว้ก่อน

19 Sep,2017

www.facebook.com/wealthstation

21686996_1526041887434281_5767313068861386577_o.png?oh=b46d4ddc10a1873682607e2447fdc3f8&oe=5A44DC2D

21752870_1526041890767614_7285402690445313688_o.png?oh=cfd128769e273f134167f0b6ea50802d&oe=5A5EF577

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 20 กันยายน 2560 07:45:24 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 19 ก.ย.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 6 เมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ปิดทำนิวไฮด้วยเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนเดินหน้าซื้อหุ้นกลุ่มการเงินอย่างคึกคัก พร้อมกับจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยนักลงทุนคาดว่าคณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการปรับลดงบดุล

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,370.80 จุด เพิ่มขึ้น 39.45 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,506.65 จุด เพิ่มขึ้น 2.78 จุด หรือ +0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,461.32 จุด เพิ่มขึ้น 6.68 จุด หรือ +0.10%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.04% ปิดที่ 382.12 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,561.79 จุด เพิ่มขึ้น 2.40 จุด หรือ +0.02% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,237.44 จุด เพิ่มขึ้น 8.12 จุด หรือ +0.16% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,275.25 จุด เพิ่มขึ้น 21.97 จุด หรือ +0.30%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) ด้วยอานิสงส์จากการที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่า และแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ปรับตัวขึ้นขานรับรายงานยอดขายที่สดใสของห้างซูเปอร์มาร์เก็ตในอังกฤษ

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 21.97 จุด หรือ +0.30% ปิดที่ 7,275.25 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังร่วงลงหลังจากรัฐบาลสหรัฐคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) จะเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 10 ในเดือนต.ค.

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 43 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 49.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 34 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 55.14 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) โดยสัญญาทองคำปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากการทำนิวไฮอย่างต่อเนื่องของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,310.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.3 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 17.279 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 9.90 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 951.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 26.15 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 904.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) ขณะนักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1998 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1950 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3523 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3489 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.8012 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7952 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.46 เยน จากระดับ 111.48 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9625 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9614 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,461.32 จุด เพิ่มขึ้น 6.68 จุด, +0.10%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 22,370.80 จุด เพิ่มขึ้น 39.45 จุด, +0.18%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,506.65 จุด เพิ่มขึ้น 2.78 จุด, +0.11%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,275.25 จุด เพิ่มขึ้น 21.97 จุด, +0.30%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,237.44 จุด เพิ่มขึ้น 8.12 จุด, +0.16%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,561.79 จุด เพิ่มขึ้น 2.40 จุด, +0.02%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 32,402.37 จุด ลดลง 21.39 จุด, -0.07%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,225.95 จุด ลดลง 15.90 จุด, -0.49%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,776.66 จุด ลดลง 7.00 จุด, -0.39%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,901.33 จุด เพิ่มขึ้น 16.72 จุด, +0.28%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 28,051.41 จุด ลดลง 108.36 จุด, -0.38%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 805.93 จุด ลดลง 1.94 จุด, -0.24%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,162.70 จุด ลดลง 131.44 จุด, -1.58%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,356.84 จุด ลดลง 6.02 จุด, -0.18%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,416.05 จุด ลดลง 2.16 จุด, -0.09%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,713.60 จุด ลดลง 7.00 จุด, -0.12%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,772.40 จุด ลดลง 6.60 จุด, -0.11%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,299.38 จุด เพิ่มขึ้น 389.88 จุด, +1.96%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,576.14 จุด ลดลง 55.43 จุด, -0.52%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2712390

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพุธที่ 20 กันยายน 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 20 กันยายน 2560 09:39:13 น.

กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวทรงตัว ก่อนทราบผลประชุมเฟดในคืนนี้เวลาประมาณตี 1 บ้านเรา โดยมีคาดการณ์ว่เฟดจะคงดอกเบี้ยและมีการประกาศลดยอดงบดุลในพอร์ตจำนวนกว่า 4.5 ล้านล้านเหรียญลง ซึ่งหากเฟดดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามคาดน่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินเท่าไหร่นัก แต่หากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนต่อกรอบเวลาการปรับขึ้นดอกเบี้ยและสัญญาณทางเศรษฐกิจสหรัฐฯในคืนนี้หรือไม่ ขณะที่กองทุนทองคำ SPDR เมื่อวานนี้เข้าซื้อ 2.07 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 846.03 ตัน

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ภาพรวมทางเทคนิคราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาลงในระยะสั้น หลังจากที่หลุดแนวรับสำคัญ 1,320 เหรียญลงมา และไปทำจุดต่ำสุดบริเวณ 1,304 เหรียญ ทดสอบ 1,300 เหรียญ คาดว่าวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,300 เหรียญ และมีแนวต้าน 1,320 เหรียญ สำหรับทองคำไทยจะมีแนวรับ 20,300 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้าน 20,650 บาท/บาททองคำ

 

การลงทุน Gold D

เน้นเก็งกำไรระยะสั้นรอความชัดเจนของการประชุมเฟดคืนนี้ โดย Gold-D จะมีแนวรับ 1,305 เหรียญ และมีแนวต้าน 1,324 เหรียญ

 

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 5 – 5.50 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือArbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำให้ลงทุนตามกรอบ รอข่าวผลประชุมเฟดในค่ำคืนนี้ ว่าเฟดจะมีแนวโน้มหรือท่าทีอย่างไร

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

เล่นสั้นๆ ตามการแกว่งตัวในกรอบ เน้นบริหารพอร์ตสมดุล

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

เล่นสั้นๆ ในกรอบเช่นกัน เน้นบริหารพอร์ตสมดุลก่อนทราบประชุมเฟด

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

Wait&See แนะนำให้ปรับพอร์ตการลงทุนให้สมดุลก่อนทราบผลประชุมเฟด

Gold Futures V17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,700 บาท

Gold Futures Z17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,540 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,740 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2712488

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งลงหลังต่างชาติพลิกมาขาย-เข้าเขต Overbought-ไร้ปัจจัยใหม่หนุน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 20 กันยายน 2560 09:19:17 น.

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวลง หลังนักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิ และกองทุนในประเทศก็ขาย จึงอาจถูกมองว่าดัชนีฯปรับตัวขึ้นไปสูงแล้วหรือไม่ นอกจากนี้ ในทางเทคนิคก็เข้าเขตซื้อมากเกินไป (Overbought)

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ จากแรงขายทำกำไรในช่วงรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งต่างก็รอดูจะมีการกล่าวถึงการปรับลดงบดุลสหรัฐฯหรือไม่ อย่างไร อีกทั้งราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงเล็กน้อยด้วย รวมไปถึงตลาดฯยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่เข้ามา

 

นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราก็เริ่ม Outperform ตลาดภูมิภาคแล้ว ทำให้เริ่มมีแรงขายทำกำไรบ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,664 จุด ส่วนแนวต้าน 1,678 จุด

 

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2712493

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

Ausiris Gold Investment was live.

43 mins ·คลิป

ราคาทองวันนี้ 20 ก.ย. 2560

วิเคราะห์ราคาทอง liveสด

#ราคาทอง

 

 

China Xinhua News added 2 photos and a video.

48 mins ·

ทรัมป์ชี้ไม่มีทางเลือกนอกจาก"ทำลายล้างโสมแดงให้สิ้นซาก"

ในการกล่าวสุนทรพจน์สหประชาชาติเป็นครั้งแรกที่สำนักงานสหประชาชาติในกรุงนิวยอร์กเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้รัฐสมาชิกสหประชาชาติเพิ่มแรงกดดันต่อเกาหลีเหนือ (DPRK) เพื่อให้เกาหลีเหนือยกเลิกการใช้อาวุธนิวเคลียร์

ทรัมป์กล่าวว่าโลกกำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่มาจากรัฐอัธพาล ผู้ก่อการร้าย และกลุ่มหัวรุนแรง เขาแสดงมุมมองความเห็นต่อทุกประเทศที่เกี่ยวข้องในการใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือและหนึ่งในนั้นคือประเทศจีน

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเตือนว่า สหรัฐฯอาจ "ไม่มีทางเลือกอื่น” นอกจาก “ทำลายเกาหลีเหนือให้สิ้นซาก” เว้นเสียแต่ว่าเกาหลีเหนือจะยอมรับผิดและยอมล้มเลิกอาวุธนิวเคลียร์

ทรัมป์ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับอิหร่าน เขากล่าวว่าข้อตกลงด้านอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านเป็นหนึ่งในการทำข้อตกลงที่แย่และไม่เป็นธรรมมากที่สุดเท่าที่สหรัฐฯเคยได้ทำมา

ทรัมป์กล่าวถึงความพยายามล่าสุดของตนในการออกนโยบายการต่างประเทศ “America First” โดยกล่าวว่าเขาจะใส่ใจและให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรกเสมอ

"ตราบใดที่ผมดำรงตำแหน่งนี้ ผมจะปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกาเหนือสิ่งอื่นใด แต่ในการปฏิบัติตามพันธกรณีของเราต่อประเทศชาติ เราก็ตระหนักดีว่ามันคือผลประโยชน์ของทุกคนในการสร้างอนาคตที่ทุกประเทศจะมีอำนาจอธิปไตยของตนเองรุ่งเรืองและมีความปลอดภัย"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.08 ทรงตัวจากเย็นวานนี้ นลท.จับตาผลประชุม-ติดตามถ้อยแถลงประธานเฟดวันนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 20 กันยายน 2560 09:18:37 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.08 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว

 

 

 

จากปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้

ทั้งนี้ คาดว่าตลาดรอดูผลประชุมประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)

 

คืนนี้ที่อาจส่งผลต่อทิศทางค่าเงินดอลลาร์ ส่วนปัญหาความขัดแย้งบนคาบสมุทรเกาหลีนั้นถือเป็นปัจจัยช่วงสั้นๆ

 

"เปิดตลาดเช้านี้บาททรงตัว ตลาดน่าจะรอดูผลประชุม FOMC คืนนี้ที่จะมีผลต่อทิศทางดอลลาร์ เพราะจะมีทั้งรายงาน

 

และถ้อยแถลงของเยเลน" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.05-33.12 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 111.50 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 111.60 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.2029 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ระดับ 1.1984 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.0770 บาท/

 

ดอลลาร์

- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมและยอดการผลิตและส่งออกรถ

 

ยนต์ ประจำเดือนสิงหาคม 2560

- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่าจากการติดตามของ ธปท. พบว่าในช่วงที่ผ่านมาสกุลเงินที่ใช้กัน

 

ในโลกออนไลน์ หรือ Cryptocurrency อาทิ บิทคอยน์ วันคอยน์ ฯลฯ เหล่านี้มีความผันผวนขึ้นลงค่อนข้างมาก จึงอยากเตือน

 

ประชาชนที่อยากจะเข้าไปลงทุนหรือซื้อขายสินค้าด้วยสกุลเงินดังกล่าว พิจารณาความเสี่ยงและทำความเข้าใจถึงนิยามของคริปโตเคอ

 

เรนซี ให้ถูกต้อง ก่อนที่จะเข้าไปลงทุนเนื่องจากสกุลเงินเหล่านี้เป็นสกุลเงินที่รัฐบาลและธนาคารกลางในหลายประเทศรวมทั้ง

 

ประเทศไทย ไม่รับรองความเป็นเงินตามกฎหมาย ดังนั้น จึงไม่สามารถนำมาชำระหนี้ได้ตามกฎหมายไทยนอกจากนั้น หากเกิดความ

 

เสียหายขึ้นอาจจะเกิดความยุ่งยากในการฟ้องร้องตามมา

- กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐฯ รายงาน ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 2 พุ่งขึ้น 8.5% แตะระดับ 1.231 แสน

 

ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 จากระดับ 1.135 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 โดยการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 2 ถือว่าสูงที่

 

สุดนับตั้งแต่การขาดดุล 1.50 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ของปี 2008

- ขณะที่ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 0.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.18 ล้านยูนิต ซึ่งสอด

 

คล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 1.19 ล้านยูนิตในเดือนก.ค

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) ขณะ

 

นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหา

 

สัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) โดยสัญญาทองคำปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่อง

 

จากการทำนิวไฮอย่างต่อเนื่องของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

- นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนการประชุมเฟดจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยมีการคาดการณ์เป็นวงกว้าง

 

ว่า เฟดจะยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่นักลงทุนเชื่อว่า เฟดอาจจะประกาศแผนปรับลดงบดุลบัญชี ซึ่ง

 

ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนในยังรอดูว่า เฟดจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน

 

ธ.ค.นี้หรือไม่

- นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับ

 

สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนก.ย. โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต

 

เบื้องต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2712491

 

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.08 ทรงตัวจากเย็นวานนี้ นลท.จับตาผลประชุม-ติดตามถ้อยแถลงประธานเฟดวันนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 20 กันยายน 2560 11:13:57 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.08 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว

 

 

 

จากปิดตลาดช่วงเย็นวานนี้

ทั้งนี้ คาดว่าตลาดรอดูผลประชุมประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)

 

คืนนี้ที่อาจส่งผลต่อทิศทางค่าเงินดอลลาร์ ส่วนปัญหาความขัดแย้งบนคาบสมุทรเกาหลีนั้นถือเป็นปัจจัยช่วงสั้นๆ

 

"เปิดตลาดเช้านี้บาททรงตัว ตลาดน่าจะรอดูผลประชุม FOMC คืนนี้ที่จะมีผลต่อทิศทางดอลลาร์ เพราะจะมีทั้งรายงาน

 

และถ้อยแถลงของเยเลน" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.05-33.12 บาท/ดอลลาร์

 

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 33.0742 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (19 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.82751%

 

ส่วน THAI BAHT FIX 6M (19 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.98084%

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 111.50 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 111.60 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.2029 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ระดับ 1.1984 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.0770 บาท/

 

ดอลลาร์

- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมและยอดการผลิตและส่งออกรถ

 

ยนต์ ประจำเดือนสิงหาคม 2560

- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่าจากการติดตามของ ธปท. พบว่าในช่วงที่ผ่านมาสกุลเงินที่ใช้กัน

 

ในโลกออนไลน์ หรือ Cryptocurrency อาทิ บิทคอยน์ วันคอยน์ ฯลฯ เหล่านี้มีความผันผวนขึ้นลงค่อนข้างมาก จึงอยากเตือน

 

ประชาชนที่อยากจะเข้าไปลงทุนหรือซื้อขายสินค้าด้วยสกุลเงินดังกล่าว พิจารณาความเสี่ยงและทำความเข้าใจถึงนิยามของคริปโตเคอ

 

เรนซี ให้ถูกต้อง ก่อนที่จะเข้าไปลงทุนเนื่องจากสกุลเงินเหล่านี้เป็นสกุลเงินที่รัฐบาลและธนาคารกลางในหลายประเทศรวมทั้ง

 

ประเทศไทย ไม่รับรองความเป็นเงินตามกฎหมาย ดังนั้น จึงไม่สามารถนำมาชำระหนี้ได้ตามกฎหมายไทยนอกจากนั้น หากเกิดความ

 

เสียหายขึ้นอาจจะเกิดความยุ่งยากในการฟ้องร้องตามมา

- กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐฯ รายงาน ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 2 พุ่งขึ้น 8.5% แตะระดับ 1.231 แสน

 

ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 จากระดับ 1.135 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 โดยการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 2 ถือว่าสูงที่

 

สุดนับตั้งแต่การขาดดุล 1.50 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ของปี 2008

- ขณะที่ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 0.8% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 1.18 ล้านยูนิต ซึ่งสอด

 

คล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 1.19 ล้านยูนิตในเดือนก.ค

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) ขณะ

 

นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหา

 

สัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) โดยสัญญาทองคำปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่อง

 

จากการทำนิวไฮอย่างต่อเนื่องของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

- นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนการประชุมเฟดจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยมีการคาดการณ์เป็นวงกว้าง

 

ว่า เฟดจะยังไม่ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่นักลงทุนเชื่อว่า เฟดอาจจะประกาศแผนปรับลดงบดุลบัญชี ซึ่ง

 

ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนในยังรอดูว่า เฟดจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน

 

ธ.ค.นี้หรือไม่

- นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับ

 

สวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนก.ย. โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต

 

เบื้องต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.ย.จากมาร์กิต

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2712583

 

World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 20 กันยายน 2560

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 20 กันยายน 2560 09:38:00 น.

-- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ที่กรุงนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ โดยมีใจความว่า สหรัฐจะต้องมาก่อนเสมอ เหมือนกับผู้นำประเทศอื่นๆที่จะต้องให้ประเทศของตนมาก่อนเช่นกัน

 

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้กล่าวถึงนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ว่า การกระทำของเกาหลีเหนือในตอนนี้ เป็นการบ่อนทำลายตนเอง และประกาศว่า สหรัฐพร้อมทำลายเกาหลีเหนือให้สิ้นซากหากถูกคุกคาม

 

 

 

-- การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ แม้มีแนวโน้มว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ตามเดิม แต่นักลงทุนคาดว่า เฟดจะให้รายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับการลดขนาดงบดุล และตลาดจะจับตาประมาณการแนวโน้มดอกเบี้ย ภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงเครื่องบ่งชี้ทางเศรษฐกิจจากเฟดเพื่อประเมินว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งก่อนสิ้นปีนี้ตามแผนเดิมหรือไม่

 

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ และแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า คณะกรรมการ BOJ จะยังคงนโยบายผ่อนคลายการเงินมูลค่ามหาศาล และคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% ในการประชุมครั้งนี้ ตามเจตนารมณ์ของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ

 

-- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เตรียมเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์เวลา 21.30 น. ในวันนี้ ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมา EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อนหน้า สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 3.2 ล้านบาร์เรล

 

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐพุ่งขึ้น 8.5% แตะระดับ 1.231 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 จากระดับ 1.135 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 และถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่การขาดดุล 1.50 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ของปี 2008

 

ทั้งนี้ การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 2 มีสัดส่วนเท่ากับ 2.6% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.4% ในไตรมาส 1

 

-- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าเดือนส.ค.อยู่ที่ระดับ 1.1364 แสนล้านเยน (1.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของยอดส่งออกรถยนต์และอะไหล่รถยนต์ไปยังสหรัฐ ขณะที่ยอดเกินดุลการค้าเดือนก.ค.อยู่ที่ระดับ 4.1877 แสนล้านเยน (3.8 พันล้านดอลลาร์)

 

-- จับตาพายุเฮอร์ริเคนในสหรัฐ โดยศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐ (NHC) รายงานว่า พายุเฮอร์ริเคน "มาเรีย" ได้เคลื่อนตัวมุ่งสู่หมู่เกาะเวอร์จิ้นของสหรัฐ และเปอร์โตริโกแล้วเมื่อวานนี้ หลังจากที่ได้พัดกระหน่ำโดมินิกา ซึ่งเป็นประเทศเกาะขนาดเล็กในทะเลแคริบเบียน และสร้างความเสียหายอย่างหนัก

 

พายุเฮอร์ริเคนมาเรียได้ทวีความรุนแรงเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 5 โดยมีความเร็วลม 160 ไมล์/ชม. ขณะที่อยู่ห่างจากหมู่เกาะเวอร์จิ้นไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 205 ไมล์ โดยพายุเฮอร์ริเคนมาเรียได้ก่อตัวขึ้นในทะเลแคริบเบียน เพียง 2 สัปดาห์หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนเออร์มาเพิ่งพัดถล่ม และสร้างความเสียหายในบริเวณดังกล่าว

 

-- เกิดแผ่นดินไหวที่วัดความรุนแรงได้ 7.1 แมกนิจูดในเมืองเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโกเมื่อเวลา 13.14 น.ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวานนี้ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 143 คน

 

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐ (USGS) ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้มีศูนย์กลางที่ระดับความลึก 51 กิโลเมตร ใกล้กับเมืองโรโบโซนในรัฐพิวบลา ห่างจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเม็กซิโกซิตี้ออกไปประมาณ 120 กิโลเมตร

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ชาญวิทย์ เอี่ยมอุดม/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2712502

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เข้าสู่คืนสำคัญที่อาจจะส่งผลให้ทิศทางดอลล่าร์สหรัฐมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่องถือเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่หนุนให้ทองไปทำไฮของปีที่ 1360 ทำให้ต้องใส่ต่อประเด็นนี้เพื่อระวังว่าทองอาจกลับทิศ

กล่าวถึงที่มาที่ไปเล็กน้อย ประเด็นของเฟดตอนนี้ไม่ได้มีเพียงเรื่องดอกเบี้ยอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องการลดขนาดงบดุลอีกประเด็นซึ่งการพูดถึงการลดขนาดงบดุลออกมาในครั้งแรกนั้นส่งทองให้ลงไปแตะ 1200 มาก่อน แต่ได้เยเลนมาปลอบว่าไม่ส่งผลต่อตลาดเงินมากนัก ทองจึงค่อยฟื้นและทะยานขึ้นมา โดยทองลอยมาถึง 1260 ได้จากการอ่อนค่าลงของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ หลังจากนั้นทองจึงได้ปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากภาวะสงคราม หรือเกาหลีเหนือ รวมถึงภาวะพายุเฮอร์ริเคนที่เข้าถล่มสหรัฐอีกประเด็น ถ้ามองให้เห็นภาพราคาทองคำที่เหนือระดับ 1320 ขึ้นไปนั้นมีทั้งจากเกาหลีเหนือและพายุ ซึ่งพายุตอนนี้ถือว่าสงบลงในระดับนึง ในขณะที่เกาหลีเหนืออยู่ในช่วงที่ข่าวเฟดเข้ามาขั้น ซึ่งต้องดูว่าการร่วมมือกันออกมาปรามเกาหลีจากนานาประเทศจะทำให้เกาหลีเหนือหยุดได้หรือไม่ ถ้าหยุดได้ราคาทองที่เหนือกว่า 1300 จะเป็นระดับที่สูงเกินไป ยากที่ทองจะยืนอยู่

ในส่วนของฐานราคาทองคือค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่า ถ้าคืนนี้เฟดพูดแล้วทำให้นักลงทุนกังวลเกินไป ทองจะขาดปัจจัยสนับสนุนสำคัญและน่าจะลงต่ำกว่า 1300 ลงมาโดยยังมองว่าเฟดไม่น่าส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในเวลานี้ ในขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในคืนนี้แต่มีการคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเอาธันวาคมตามวาระที่เฟดได้วางเอาไว้ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ 3 ครั้ง โดยหลังจากพ้นคืนนี้ไปปีนี้จะเหลือวาระการประชุมเฟดอีก 2 ครั้งและแผนงานของเฟดค่อนข้างชัดเจนว่าปีนี้จะขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งและจะลดขนาดงบดุลลงแน่นอน อย่างไรก็ตามเฟดและสหรัฐค่อนข้างพอใจกับค่าเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่าอย่างที่เป็นอยู่

Point Trade มีโลว์รอบนี้ที่ 1304 เป็นจุดสำคัญ ในขณะที่โซนบนบริเวณ 1340 และ 1360 ยังเป็นจุดที่น่าขายมากกว่าซื้อตาม

สำหรับขาซื้อ คำถามสำคัญคือถ้าลงต่ำกว่า 1300 - 1304 ลงมาจะขายก่อนไหม เพื่อรอดูอาการและเข้าซื้ออีกทีหากว่ายืน 1260 1285 ได้ การที่ขายหรือไม่ขายนั้นน่าจะอยู่ที่มองว่าสถานการณ์ที่บวกต่อทองนั้นได้เปลี่ยนไปแล้วหรือยัง ถ้ายังก็ทยอยสะสมในช่วงพักตัว 1280 1300 ในทางตรงกันข้ามก็ถอยตั้งหลักก็ไม่เลว เพราะต้องไม่ลืมว่าทองนั้นเวลาซื้อก็ซื้อทั้งโลก ขายก็ขายกันทั้งโลกเช่นกัน(ถ้าลงก็ลงแหลกว่างั้น)

สำหรับขาเอสจุดได้เปรียบน่าจะอยู่แถว 1330 1340 เพราะเป็นระดับที่ถือว่าแพงสำหรับตอนนี้ มีแรงขายเข้าช่วยได้อยู่ แต่จะเล่นยากหากว่าลงต่ำกว่า 1304 จะเอสตามไปไหม จะมีแนวพักตัวของกรอบย่อยๆอยู่ที่ 1315 - 1325 มีแนวต้านหลัก 1335 1345 เป็นจุดดูแรงขาย โดยอาจเอสตามเมื่อลงต่ำกว่า 1309 หรือ 1304 ลงไป และมีเป้าการลงถัดไปอยู่ที่ 1292 1285 1278

20 Sep, 2017

www.facebook.com/Wealthstation

http://www.cmegroup.com/…/interest-r…/countdown-to-fomc.html

21688255_1527125717325898_27966195004649112_o.png?oh=f2b76a5aea0d05eb7d9cd91d91027729&oe=5A534702

21616290_1527125687325901_8880888789667951292_n.png?oh=d34efea3691d109e25e3113d7b8be2b9&oe=5A592C9A

21686433_1527125733992563_953198739430043338_n.png?oh=422227c7f935d250007d548ce2052bbe&oe=5A47E2F2

21616155_1527125770659226_328756244287186197_n.png?oh=ce857b72eb314b763d8d534892338ee0&oe=5A4F2AF4

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...