ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 พฤศจิกายน 2560 07:47:21 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 พ.ย.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) โดยดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 4 อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ต่างก็ปิดในแดนลบ อันเนื่องมาจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันจะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐหรือไม่

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,557.23 จุด เพิ่มขึ้น 8.81 จุด หรือ +0.04% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,590.64 จุด ลดลง 0.49 จุด หรือ -0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,767.78 จุด ลดลง 18.65 จุด หรือ -0.27%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) หลังจากบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซา รวมถึงเอ.พี.โมลเลอร์-เมอส์ก ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งทางเรือรายใหญ่ของเดนมาร์ก ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในสเปนอย่างใกล้ชิด หลังจากสภาหอการค้าสเปนได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลข GDP ในปีนี้และปีหน้า อันเนื่องมาจากวิกฤตแคว้นกาตาลุญญา

 

ดัชนี The Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.5% ปิดที่ 394.65 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,379.27 จุด ลดลง 89.52 จุด หรือ -0.66% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,480.64 จุด ลดลง 26.61 จุด หรือ -0.48% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,513.11 จุด ลดลง 49.17 จุด หรือ -0.65%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) ด้วยแรงฉุดของหุ้นกลุ่มค้าปลีกซึ่งร่วงลงจากแรงกดดันของตัวเลขค้าปลีกที่อ่อนแอของอังกฤษ

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 49.17 จุด หรือ -0.65% ปิดที่ 7,513.11 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นกว่า 3% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียประกาศกวาดล้างการทุจริตครั้งใหญ่ในประเทศ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนลบ

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 57.20 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 63.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงคืนนี้ (7 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่านั้น ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐมีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่นๆ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ระดับ 1,275.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. ลดลง 29.5 เซนต์ หรือ 1.71% ปิดที่ 16.94 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 9.7 ดอลลาร์ หรือ 1.04% ปิดที่ 925.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 994.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่ตลาดได้ปิดทำการลงแล้ว

 

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1583 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1612 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3155 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3165 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7639 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7681 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 113.91 ดอลลาร์ จากระดับ 113.80 ดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0002 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9979 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,767.78 จุด ลดลง 18.65 จุด, -0.27%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 23,557.23 จุด เพิ่มขึ้น 8.81 จุด, +0.04%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,590.64 จุด ลดลง 0.49 จุด, -0.02%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,480.64 จุด ลดลง 26.61 จุด, -0.48%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,379.27 จุด ลดลง 89.52 จุด, -0.66%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,513.11 จุด ลดลง 49.17 จุด, -0.65%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 33,370.76 จุด ลดลง 360.43 จุด, -1.07%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,413.10 จุด เพิ่มขึ้น 31.25 จุด, +0.92%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,750.94 จุด เพิ่มขึ้น 8.65 จุด, +0.50%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,060.45 จุด เพิ่มขึ้น 9.63 จุด, +0.16%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 28,994.34 จุด เพิ่มขึ้น 397.54 จุด, +1.39%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 850.33 จุด เพิ่มขึ้น 1.24 จุด, +0.15%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,521.81 จุด ลดลง 1.26 จุด, -0.01%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,413.57 จุด เพิ่มขึ้น 25.40 จุด, +0.75%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,545.44 จุด ลดลง 3.97 จุด, -0.16%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 22,937.60 จุด เพิ่มขึ้น 389.25 จุด, +1.73%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,840.34 จุด เพิ่มขึ้น 54.15 จุด, +0.50%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,014.30 จุด เพิ่มขึ้น 60.50 จุด, +1.02%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,087.40 จุด เพิ่มขึ้น 60.20 จุด, +1.00%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2736089

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเทียบเงินสกุลหลัก ขณะตลาดจับตาถ้อยแถลง เยลเลน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 พฤศจิกายน 2560 07:11:00 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่ตลาดได้ปิดทำการลงแล้ว

 

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1583 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1612 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.3155 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3165 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7639 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7681 ดอลลาร์

 

 

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 113.91 ดอลลาร์ จากระดับ 113.80 ดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0002 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9979 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.21% สู่ระดับ 94.958 เมื่อคืนนี้

 

ตลาดการเงินจับตาถ้อยแถลงของนางเยเลน ซึ่งมีกำหนดขึ้นกล่าวในกรุงวอชิงตัน ดีซีเมื่อวานนี้ ในโอกาสที่เธอเข้ารับรางวัลด้านจริยธรรมจากรัฐบาล โดยนักลงทุนเตรียมหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

 

ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด แต่ก็แย้มถึงโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนธ.ค.

 

CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเกือบ 96.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของพนักงาน (JOLTS) รายเดือน พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน อยู่ที่ระดับ 6.09 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งใกล้เคียงกับระดับในเดือนส.ค. และไม่ไกลจากตัวเลข 6.14 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. โดยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานที่ค่อนข้างทรงตัวในเดือนก.ย. เกิดจากการที่พายุเฮอร์ริเคนได้ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในโรงแรม และร้านอาหาร

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2735894

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 8.81 จุด แต่การซื้อขายซบเซาเหตุนลท.กังวลแผนปฏิรูปภาษี

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 พฤศจิกายน 2560 06:49:00 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) โดยดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 4 อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ต่างก็ปิดในแดนลบ อันเนื่องมาจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันจะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐหรือไม่

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,557.23 จุด เพิ่มขึ้น 8.81 จุด หรือ +0.04% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,590.64 จุด ลดลง 0.49 จุด หรือ -0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,767.78 จุด ลดลง 18.65 จุด หรือ -0.27%

 

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 1.5% ส่วนหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ต่างก็ร่วงลง 2% ขณะที่หุ้นซิตี้กรุ๊ป ดิ่งลง 1.5% หุ้นเรเจียนส์ ไฟแนนเชียล ร่วงลง 2.6% หุ้นไซออนส์ แบงคอร์ป ดิ่งลง 3.4%

 

หุ้นไพรซ์ไลน์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวทางออนไลน์ ทรุดฮวบลง 13.52% ขณะที่หุ้นทริปแอดไวเซอร์ ดิ่งลง 23.22% หลังจากทั้งสองบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่น้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์

 

หุ้น Snap ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Snapchat ดิ่งลง 16% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่น้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์เช่นกัน

 

ส่วนหุ้นที่สามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจ (defensive stocks) เช่นหุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภค ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) ปรับตัวขึ้น 1.08% หุ้นแวเลียนท์ ฟาร์มาซูติคัล ทะยานขึ้น 17.11% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัท

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันอาจจะเผชิญกับความยากลำบากในการผ่านมติสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และอาจถูกขัดขวางจากกลุ่มผู้ที่เสียผลประโยชน์ เนื่องจากร่างกฎหมายฉบับนี้มีแนวโน้มที่จะยกเลิกการลดย่อนภาษีหลายรายการ

 

คณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (Committee on Ways and Means) กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน โดยร่างกฎหมายดังกล่าวครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และการลดจำนวนขั้นบันไดในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 7 ขั้น เหลือเพียง 4 ขั้น คือ 12%, 25%, 35% และ 39.6%

 

นอกจากนี้ ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษียังระบุว่า จะจัดเก็บภาษี 10% สำหรับสาขาในต่างประเทศที่ทำกำไรได้มาก เพื่อสกัดพฤติกรรมการโอนกำไรไปยังต่างประเทศ และจำกัดเพดานการหักลดหย่อนภาษีอสังหาริมทรัพย์ของรัฐ และท้องถิ่นที่ระดับ 10,000 ดอลลาร์

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของพนักงาน (JOLTS) รายเดือน พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน อยู่ที่ระดับ 6.09 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งใกล้เคียงกับระดับในเดือนส.ค. และไม่ไกลจากตัวเลข 6.14 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ค. โดยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานที่ค่อนข้างทรงตัวในเดือนก.ย. เกิดจากการที่พายุเฮอร์ริเคนได้ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในโรงแรม และร้านอาหาร

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2735885

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

23172855_10156029534556414_35161849258654946_n.jpg?oh=47c6a6ed6b8cafcddf2001e97494c7e5&oe=5A9E5121

เป็นกำลังใจให้ตูน ช่วยกันวันละ 10 บาทเพิ่มยอดทุกวัน

ขอบคุณเจ้าของภาพ

 

 

ก้าว

 

5 November at 05:12 · Yala · คลิป

 

 

ปัญหาสุขภาพเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม

กว่าจะรู้สึกตัวก็อาจจะสายเกินไป

เราจึงใช้การ "ก้าว"

เป็นเครื่องหมายเชิงสัญลักษณ์

ให้คนไทยทุกคนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพ

 

ที่ไม่ใช่เพียงเพื่อสุขภาพของตัวเราเอง

แต่อาจหมายรวมถึงสุขภาพของทุกๆคน

ทุกคนที่เราพอจะช่วยได้

ด้วยเงินคนละเล็กละน้อย

ที่จะทำให้ "ก้าวเล็กๆ" ของพวกเราได้รวมกัน

กลายเป็น "ก้าวยาวๆ" สักก้าวหนึ่ง...

ติดตามข้อมูลของ"ก้าวคนละก้าวเพื่อ11โรงพยาบาลทั่วประเทศ"ได้ที่

www.kaokonlakao.com

facebook "ก้าว"

#ก้าวคนละก้าว

#ก้าวคนละก้าวเพื่อ11โรงพยาบาลทั่วประเทศ

#ก้าวนี้เพื่อหมอพยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกคน

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็ง ฉุดทองคำปิดลบ 5.80 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 พฤศจิกายน 2560 07:21:32 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงคืนนี้ (7 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่านั้น ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐมีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่นๆ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ระดับ 1,275.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. ลดลง 29.5 เซนต์ หรือ 1.71% ปิดที่ 16.94 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 9.7 ดอลลาร์ หรือ 1.04% ปิดที่ 925.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 994.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.21% สู่ระดับ 94.958 เมื่อคืนนี้

 

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่านั้น มาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. โดย CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเกือบ 96.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุด สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของพนักงาน (JOLTS) รายเดือน พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน อยู่ที่ระดับ 6.09 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งใกล้เคียงกับระดับในเดือนส.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/273590

 

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 15 เซนต์ จากแรงขายทำกำไร,เงินดอลล์แข็งค่า

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 พฤศจิกายน 2560 07:07:11 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นกว่า 3% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า กษัตริย์ซาอุดิอาระเบียประกาศกวาดล้างการทุจริตครั้งใหญ่ในประเทศ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบปิดในแดนลบ

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 15 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 57.20 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 63.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันพุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อวันจันทร์ ภายหลังจากมีรายงานว่า กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลาซิส อัล ซาอุด แห่งซาอุดิอาระเบีย ได้ประกาศกวาดล้างการทุจริตครั้งใหญ่ ซึ่งนำไปสู่การจับกุมตัวมกุฎราชกุมารอัลวาลีด บิน ทาลาล และเจ้าชายคนอื่นๆ รวมทั้งรัฐมนตรี มหาเศรษฐี และอดีตเจ้าหน้าที่อีกหลายคน

 

นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ยังสร้างแรงกดดันต่อสัญญาน้ำมันดิบ เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่านั้น ส่งผลให้สัญญาน้ำมันซึ่งซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐมีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่นๆ

 

นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ขณะที่นายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการโอเปกได้ออกมาส่งสัญญาณเมื่อวานนี้ว่า โอเปกกำลังหาทางบรรลุฉันทามติ ก่อนการประชุมในวันที่ 30 พ.ย. เกี่ยวกับการขยายเวลาข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน

 

ทั้งนี้ คำกล่าวของนายบาร์คินโดบ่งชี้ว่า โอเปกมีแนวโน้มขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.

 

สำหรับข้อตกลงฉบับปัจจุบันนั้น ระบุให้โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปกอีก 10 ประเทศ ซึ่งรวมถึงรัสเซีย ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันราว 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน จนถึงเดือนมี.ค.ปีหน้า เพื่อแก้ปัญหาน้ำมันล้นตลาด

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ในวันนี้ เวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2735891

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

บทวิเคราะห์ช่วงเช้า

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2560

ให้เพื่อนๆ ติดตามมาแล้วครับ

ติดตามข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับทองคำและสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ที่

www.classicgold.co.th

__________________________

 

--------------------------------------------

23334235_1894427907252217_7910025441040303133_o.jpg?oh=1406f83dc8d1a7db0b34b63a77ab1b8e&oe=5A9A8CEB

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

23472994_1775667662742250_674065550634774469_n.jpg?oh=9e35978d3f4ca0e3f70e52bfbb77e7eb&oe=5A66CEB0

 

ภาพจากเพจ Giftmedraw

 

สำนักพระราชวังสั่งไล่ออก “ดิสธร วัชโรทัย” ชี้ประพฤติชั่วร้ายแรง - Manager Online

สำนักพระราชวัง สั่งไล่ออก นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง กรณีสั่งออกเอกสารรับรองบุคคลภายนอกบริจาค 25 ล้านบาท และเสนอขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์…

 

 

MGRONLINE.COM

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์อ่อนหนุนทองปิดบวก $7.90 นักลงทุนจับตากม.ปฏิรูปภาษีสหรัฐ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2560 07:22:32 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกคืนนี้ (8 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.90 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ระดับ 1,283.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 19.8 เซนต์ หรือ 1.17% ปิดที่ 17.138 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 12.6 ดอลลาร์ หรือ 1.36% ปิดที่ 937.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 21.70 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 1,015.85 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงนั้น ส่งผลให้สัญญาทองคำนิวยอร์กซึ่งซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐ มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่นๆ

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี โดยนักลงทุนกังวลว่าการที่สมาชิกพรรคเดโมแครตได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย และนิวเจอร์ซีย์ อาจจะส่งผลให้การผลักดันร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันมีความซับซ้อนมากขึ้น

 

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภาสหรัฐ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรได้เปิดเผยรายละเอียดของร่างกฎหมายดังกล่าวไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

คณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (Committee on Ways and Means) กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน โดยร่างกฎหมายดังกล่าวครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และลดจำนวนขั้นบันไดในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 7 ขั้น เหลือเพียง 4 ขั้น คือ 12%, 25%, 35% และ 39.6%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2736640

 

World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2560 09:58:33 น.

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐเดินทางถึงประเทศจีนแล้วเมื่อวานนี้ ในระหว่างการเดินทางเยือนประเทศในเอเชีย โดยทรัมป์มีกำหนดพูดคุยและเจรจาร่วมกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าและภูมิศาสตร์การเมือง

 

ทั้งนี้ มูลค่าการค้าของจีนที่ทำร่วมกับสหรัฐนั้นเกินดุลอยู่ที่ 2.33 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งทรัมป์มองว่า สหรัฐกำลังเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบและต้องการเจรจาร่วมกับจีนเพื่อให้สหรัฐได้รับประโยชน์มากขึ้น

 

 

 

-- ธนาคารกลางนิวซีแลนด์มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% พร้อมส่งสัญญาณว่า จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าถึง 9 เดือน โดยธนาคารยังได้คาดการณ์ใหม่ว่าอัตราเงินเฟ้อจะขยับแตะจุดกึ่งกลางของเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 1-3% ในช่วงไตรมาสที่สองของปีหน้า

 

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 1.9% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังขยายตัวเพียง 1.6% ในเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ปรับตัวขึ้น 6.9% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี เท่ากับตัวเลขในเดือนก.ย.ที่ขยายตัวที่ 6.9% เช่นกัน

 

-- ดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ทำสถิติปิดทำนิวไฮในวันเดียวกันเป็นครั้งที่ 27 ของปีนี้ หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงบริษัทเทค-ทู อินเตอร์แอ็คทีฟ ซอฟต์แวร์ ผู้ผลิตวีดิโอเกมรายใหญ่ของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภาสหรัฐ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรได้เปิดเผยรายละเอียดของร่างกฎหมายดังกล่าวไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

-- ฟิล เมอร์ฟีย์ และราฟ นอร์แธม จากพรรคเดโมแครตของสหรัฐสามารถคว้าชัยเหนือคู่แข่งจากพรรครีพับลิกันได้ในศึกเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์และรัฐเวอร์จิเนียตามลำดับ ส่งผลให้ความหวังที่นโยบายปฏิรูปภาษีของรัฐบาลทรัมป์จะสามารถผ่านการรับรองจากคองเกรสมีน้อยลง

 

-- ศาลรัฐธรรมนูญของสเปนมีคำตัดสินเมื่อวานนี้ให้การประกาศเอกราชแต่เพียงฝ่ายเดียวของแคว้นกาตาลุญญาเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ถือเป็นโมฆะ หลังจากที่นายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน ประกาศใช้มาตรา 155 แห่งรัฐธรรมนูญ ในปลายเดือนที่แล้วเพื่อเข้าปกครองโดยตรงต่อแคว้นกาตาลุญญา พร้อมกับเพิกถอนสิทธิในการปกครองตนเอง รวมทั้งปลดคณะรัฐบาลคาตาลัน

 

-- กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศยกระดับการคว่ำบาตรคิวบา โดยจะจำกัดการเดินทางของชาวอเมริกันไปยังคิวบา และการทำธุรกิจกับคิวบา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันนี้ เพื่อลดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะเอื้อประโยชน์ด้านการทหาร ข่าวกรอง และความมั่นคงต่อคิวบา รวมทั้งกดดันให้รัฐบาลคิวบาเปิดกว้างทางด้านการเมือง และเศรษฐกิจให้แก่ประชาชน

 

นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐบาลของคิวบาจำนวนหลายรายทำธุรกรรมทางด้านการเงิน รวมทั้งห้ามบริษัทสหรัฐทำการส่งออกสินค้าไปยังหน่วยงาน หรือบริษัทบางแห่งของคิวบา ขณะที่ การทำธุรกรรมทางด้านการค้า และการจัดเตรียมแผนการเดินทางที่มีขึ้นก่อนการประกาศดังกล่าวจะยังคงได้รับอนุญาตให้ดำเนินการต่อไป

 

-- Snap Inc บริษัทแม่ของ Snapchat ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นในกล้องถ่ายรูปที่ทำให้ผู้ใช้สามารถส่งภาพและวิดีโอ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เทนเซนต์ ซึ่งเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตของจีน ได้เข้าซื้อหุ้น 10% ใน Snap เป็นจำนวน 145.8 ล้านหุ้น

 

ก่อนหน้านี้ เทนเซนต์วซึ่งเป็นเจ้าของแอพพลิเคชั่น WeChat รวมทั้งแพลทฟอร์มการชำระเงินในระบบออนไลน์ และเกมส์ ได้เข้าซื้อหุ้นจำนวน 5% ในบริษัทเทสลา อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐ

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ชาญวิทย์ เอี่ยมอุดม/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2736887

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.12 แนวโน้มแกว่งแคบรอปัจจัยใหม่ นลท.จับตาร่างกม.ปฏิรูปภาษีสหรัฐฯ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2560 09:17:36 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.12 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวใน

 

 

 

ระดับเดียวกับช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา

"บาททรงตัวจากเย็นวานนี้ รอปัจจัยใหม่ทั้งสองด้าน ช่วงนี้ยังไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ส่วนปัจจัยที่ตลาดจับตามองคือ

 

ความคืบหน้าแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.05-33.15 บาท/ดอลลาร์

"ทิศทางบาทวันนี้น่าจะแกว่งตัวแคบๆ ในกรอบ" นักบริหารเงิน กล่าว

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ 114.00 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 113.71 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1588 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1593 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.1370 บาท/ดอลลาร์

 

- ติดตามการแถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนต.ค. ของหอการค้าไทย ร่วมกับ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ

 

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

- รมว.คลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการขับเคลื่อนตามแผนยุทธศาสตร์ระบบชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-เพ

 

ย์เมนต์ ที่มี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบให้ผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

 

11.67 ล้านราย และร้านธงฟ้า สามารถเข้ามาชิงโชคจากการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการแจกรางวัลให้กับผู้ใช้และร้านธงฟ้า

 

ทุกเดือน อย่างละ 1 ล้านบาท โดยให้เริ่มจับรางวัลใน เดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นการซื้อสินค้าในเดือน พ.ย.นี้

 

- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระ

 

ราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การบริหารจัดการเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงิน (ร่าง พ.ร.บ. Dormant Account)

 

กับหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กรมบัญชีกลาง สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคาร

 

ไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสภาสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาหลักการและเหตุผล รวมถึงเนื้อหาของ

 

ร่างเป็นรายมาตรา

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.) เนื่อง

 

จากนักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการผลักดันแผนปฏิรูปภาษีของคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่ง

 

สหรัฐ หลังจากที่สื่อสหรัฐรายงานว่า บรรดาแกนนำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐกำลังพิจารณาแผนเลื่อนเวลาบังคับใช้กฎหมายปฏิรูป

 

ระบบภาษีออกไปอีก 1 ปี เนื่องจากพวกเขามีความวิตกว่า การที่ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งจากเดโมแครตในศึก

 

เลือกตั้งผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนียและนิวเจอร์ซีย์นั้น อาจทำให้กระบวนการปฏิรูประบบภาษีมีความซับซ้อนมากขึ้น

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกคืนนี้ (8 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้

 

ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

- นักลงทุนจับตาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภาสหรัฐ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรได้เปิดเผยรายละเอียดของร่าง

 

กฎหมายดังกล่าวไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

คณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (Committee on Ways and Means) กำลังอยู่ใน

 

ขั้นตอนการพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน โดยร่างกฎหมายดังกล่าวครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่

 

ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และลดจำนวนขั้นบันไดในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 7 ขั้น เหลือเพียง 4 ขั้น

 

คือ 12%, 25%, 35% และ 39.6%

- ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ที่นักลงทุนจับตา ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์,

 

สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2736863

 

สี จิ้นผิง จัดพิธีต้อนรับ ทรัมป์ อย่างยิ่งใหญ่ที่มหาศาลาประชาคมของจีนเช้านี้

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2560 08:31:57 น.

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้จัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่เพื่อต้อนรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่จัตุรัสด้านนอกประตูฝั่งตะวันออกของมหาศาลาประชาคมของจีน ในช่วงเช้าวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้เดินทางถึงกรุงปักกิ่งในช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตามแผนการเดินทางเยือนประเทศจีนเป็นเวลา 3 วัน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2736821

 

สี จิ้นผิง ชี้ความร่วมมือเป็นทางเลือกที่ถูกต้องหนทางเดียวของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2560 10:44:26 น.

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวในระหว่างการเจรจากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ที่มหาศาลาประชาคมว่า ความร่วมมือเป็นทางเลือกที่ถูกต้องเพียงหนทางเดียวสำหรับสหรัฐและจีน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2736919

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวาย ณ วัดธรรมราชิกพุทธมหาวิหาร (วัดธรรมราชิกา) กรุงธากา สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ

 

 

ข่าวต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ -- พุธที่ 8 พฤศจิกายน 2560 15:42:27 น.

เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ นายภาสกร ศิริยะพันธุ์ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้เป็นประธานในพิธีเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ไปทอดถวาย ณ วัดธรรมราชิกพุทธมหาวิหาร (วัดธรรมราชิกา) กรุงธากา สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ โดยบุคคลสำคัญฝ่ายบังกลาเทศที่เข้าร่วมพิธีฯ ได้แก่ นาย Asaduzzaman Noor รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นาย Pranab Kumar Baruya เลขาธิการ Bangladesh Bouddha Kristi Prachar Sangha สำหรับฝ่ายไทย นางสาวพรรณพิมล สุวรรณพงศ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา นางลินนา ตังธสิริ เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง ข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา ตลอดจนภาคเอกชนและชุมชนไทยและชาวบังกลาเทศกว่า ๓๐๐ คน ได้เข้าร่วมพิธีฯ ในครั้งนี้

 

 

 

กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญผ้าพระกฐินพระราชทานไปทอดถวายที่บังกลาเทศก่อนหน้านี้ ๒ ครั้งครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๓ และเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๕ วัดธรรมราชิกพุทธมหาวิหารก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๕ เป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในบังกลาเทศและมีความสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับบังกลาเทศ โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินเยือนวัดแห่งนี้เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๕ และปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ตามลำดับ นอกจากนี้ วัดธรรมราชิกพุทธมหาวิหารยังเป็นที่ตั้งของสถาบันทางสังคมและการศึกษา ได้แก่ โรงเรียน สถานพยาบาล และสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนกว่า ๓๕๐ คน

 

ผู้เข้าร่วมพิธีฯ ทั้งชาวไทยและชาวบังกลาเทศต่างแสดงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยในการอุปถัมภ์ค้ำชูพระพุทธศาสนาที่ไม่จำกัดแต่เพียงในประเทศไทย แต่ยังเผื่อแผ่มายังบังกลาเทศ และเป็นรากฐานในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ นอกจากนี้ พิธีฯ ยังเป็นโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้บำเพ็ญสาธารณกุศลอันยิ่งใหญ่และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน ทั้งนี้ สามารถรวบรวมเงินบริจาค ซึ่งประกอบด้วยเงินพระราชทานบำรุงพระอารามจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เงินโดยเสด็จพระราชกุศลของกระทรวงการต่างประเทศ ตลอดจนเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาชาวไทยและชาวบังกลาเทศ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๕๙๑,๘๑๕.- บาท อีกทั้ง มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคข้าวสารจำนวน ๔๔ กระสอบ และรองเท้า ๓๘๔ คู่ เพื่อวัดใช้ในกิจการสาธารณประโยชน์ด้วย

 

--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/mfa/2736416

 

คกก.ปฏิรูปตำรวจ เตรียมหารือวางแนวทางแยกภารกิจสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจน หลังนายกฯให้ทบทวน

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 พฤศจิกายน 2560 18:03:00 น.

นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานอนุกรรมการด้านสื่อสารกับสังคม ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการมีข้อสรุปเบื้องต้นให้งานสืบสวนสอบสวนอยู่ด้วยกัน ล่าสุดมีแนวโน้มอาจต้องมีการปรับเปลี่ยน เนื่องจากมีข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มาประสานงานกับคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ เพื่อให้ทบทวนแนวทางเรื่องการแยกภารกิจด้านงานสอบสวนให้ชัดเจน โดยอาจให้บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ตำรวจ แต่มีความรู้ด้านนิติศาสตร์ และการพิจารณาอรรถคดีมาทำหน้าที่ในงานสอบสวนได้ แต่ยืนยันว่า งานสอบสวนกับงานปราบปรามจะต้องประสานและสอดคล้องกัน

 

 

 

สำหรับแนวทางการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจนั้น คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาและเตรียมเสนอร่างพ.ร.บ. แก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติเดิม เพื่อให้การพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายมีความชัดเจนโดยไม่ถูกแทรกแซง โดยคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จะแต่งตั้งได้เฉพาะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ส่วนตำแหน่งอื่น ๆ จะพิจารณาในสายบัญชาการของตนเอง โดยแบ่งเป็น 12 สาย คือ กองบัญชาการภาค 1-9 ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และจเรตำรวจ อย่างไรก็ตามจะมีการหารือให้ได้ข้อสรุปอีกครั้งภายในวันที่ 10 พ.ย.นี้ และจะส่งให้คณะอนุกรรมการไปรับฟังความคิดเห็นก่อนจะสรุปข้อเสนอทั้งหมดส่งให้นายกรัฐมนตรีภายในวันที่ 29 ธ.ค.60

 

--อินโฟเควสท์ โดย รฐฦ/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2736574

 

ศาลรัฐธรรมนูญสเปนมีคำตัดสินให้การประกาศเอกราชของแคว้นกาตาลุญญาถือเป็นโมฆะ

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 พฤศจิกายน 2560 20:53:38 น.

ศาลรัฐธรรมนูญของสเปนมีคำตัดสินในวันนี้ให้การประกาศเอกราชแต่เพียงฝ่ายเดียวของแคว้นกาตาลุญญาในวันที่ 27 ต.ค.ถือเป็นโมฆะ

 

ทั้งนี้ รัฐสภาแคว้นกาตาลุญญามีมติประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปนในวันที่ 27 ต.ค. โดยได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภา 70 เสียง คัดค้าน 10 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง ขณะที่สมาชิกพรรคสังคมนิยม, พรรคประชาชน และพรรคซิอูดาดานอส ต่างพากันประท้วงด้วยการเดินออกจากห้องประชุมสภา

 

ทางด้านนายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน ประกาศใช้มาตรา 155 แห่งรัฐธรรมนูญ ในปลายเดือนที่แล้วเพื่อเข้าปกครองโดยตรงต่อแคว้นกาตาลุญญา พร้อมกับเพิกถอนสิทธิในการปกครองตนเอง รวมทั้งปลดคณะรัฐบาลคาตาลัน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th-

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2736609

 

รัสเซียเผยอาจมีการจัดประชุมทวิภาคีปูติน VS ทรัมป์นอกรอบการประชุมเอเปกสัปดาห์นี้

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 พฤศจิกายน 2560 21:15:14 น.

นายยูริ ยูชาคอฟ เจ้าหน้าที่ทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ตามหลักเหตุผลที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินจะสนทนากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในระหว่างการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่เวียดนามในสัปดาห์นี้

 

"มีความเป็นไปได้ตามหลักเหตุผลที่พวกเขาจะจับมือกัน และจะหารือกันในบางเรื่อง" นายยูชาคอฟกล่าว

 

"เราพร้อมที่จะจัดการประชุมทวิภาคี แต่ยังไม่มีการตกลงกันเกี่ยวกับกรอบเวลา โดยเรากำลังประเมินความเป็นไปได้ในการจัดประชุม" เขากล่าว

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2736610

 

เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารที่ทำการหน่วยสืบราชการลับรัสเซียที่ชานกรุงมอสโกวันนี้

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 พฤศจิกายน 2560 22:13:41 น.

สำนักข่าว RIA ของรัสเซียรายงานว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารที่ทำการของหน่วยสืบราชการลับของรัสเซียที่ตั้งอยู่ที่ชานกรุงมอสโกในวันนี้

 

พันเอกเซอร์เก อิวานอฟ โฆษกสำนักงานข่าวกรองรัสเซีย กล่าวว่า เหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่ฝ่ายติดตั้งด้านเทคนิคของทางสำนักงาน แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2736613

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

China Xinhua News added 6 photos and 3 videos.

1 hr · คลิป

สี จิ้นผิง เปิดวังต้องห้ามต้อนรับ โดนัลด์ ทรัมป์ เยือนแดนมังกรครั้งแรก

หลังจากเครื่องบินของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา เดินทางถึงนครหลวงปักกิ่งในช่วงบ่ายวานนี้ (8 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ทรัมป์และนางเมลาเนียได้เดินทางต่อไปยังพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้าม ซึ่งมีประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และนางเผิง ลี่หยวน รอต้อนรับ

สีได้ต้อนรับทรัมป์และนางเมลาเนียด้วยการจิบน้ำชายามบ่ายแกล้มกับบทสนทนาเล็กน้อย ณ หอเป่าอวิ้นทางตะวันตกเฉียงใต้ของพระราชวังต้องห้าม ซึ่งเป็นอาคารสไตล์ตะวันตกที่ปลูกสร้างในปี 1915 และเป็นจุดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ของพระราชวังต้องห้ามในปัจจุบัน

พวกเขาทั้งสี่คนยังได้เดินชมพระตำหนักไท่เหอเตี้ยน พระตำหนักจงเหอเตี้ยน และพระตำหนักเป่าเหอเตี้ยน ซึ่งถือเป็นสามพระตำหนักหลักของพระราชวังต้องห้าม และถ่ายรูปร่วมกันบริเวณด้านหน้าพระตำหนักไท่เหอเตี้ยน ก่อนสีจะบอกเล่าประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ให้แขกผู้มาเยือนได้ฟัง

นอกจากนั้นสียังพาทรัมป์ชมการทำงานของศูนย์อนุรักษ์ประจำพระราชวังต้องห้าม หรือ “โรงพยาบาลแห่งศิลปะวัตถุ” ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังซ่อมแซมวัตถุโบราณอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โดยประธานาธิบดีทั้งสองได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับความร่วมมือในการฟื้นฟูวัตถุโบราณระหว่างประเทศ

ต่อจากนั้นในช่วงค่ำพวกเขาได้ร่วมรับชมการแสดงอุปรากรปักกิ่ง (Peking Opera) หรืองิ้วปักกิ่ง ซึ่งเป็นศิลปวัฒนธรรมที่มีประวัติศาสตร์มากกว่า 200 ปี และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมจากองค์การยูเนสโก โดยหลังจากการแสดงเสร็จสิ้นลงพวกเขาได้ถ่ายภาพร่วมกับนักแสดงทั้งหมดด้วย

สำเร็จแล้ว! กองทัพพันธมิตรร่วมปลดปล่อยฐานที่มั่นสุดท้ายของ IS ในซีเรีย

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (8 พ.ย. 2017) สถานีโทรทัศน์ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลซีเรีย al-Ekhbariya ได้รายงานว่า กองทัพซีเรียและเหล่ากองทัพพันธมิตรได้ร่วมกันปลดปล่อยเมืองอัลบูคามาล ฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (IS) ทางตะวันออกของประเทศซีเรียสำเร็จแล้ว

โดยรายงานยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้หน่วยเก็บกู้ระเบิดกำลังดำเนินงานกวาดล้างเมืองอัลบูคามาล ซึ่งกว่าพวกเขาจะสามารถคว้าชัยชนะในครั้งนี้มาได้ กองทัพก็ใช้เวลาบุกโจมตีเมืองอยู่นานหลายชั่วโมง

การดำเนินการครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กองกำลังซีเรียและกองทัพอิรักเผชิญหน้ากันบริเวณพรมแดน แหล่งข่าวระบุดังนี้

อัลบูคามาล (al-Bukamal) เป็นเมืองที่มีความสำคัญมากสำหรับกลุ่มก่อการร้ายไอเอส เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่ของไอเอส บริเวณชายแดนฝั่งอิรัก ซึ่งเพิ่งถูกโจมตีโดยกองทัพอิรักและกองทัพพันธมิตรไปเมื่อไม่นานมานี้

หลังจากสูญเสียฐานที่มั่นแห่งนี้แล้ว ก็เท่ากับกลุ่มก่อการร้ายไอเอสได้สูญเสียฐานที่มั่นของตนทั้งหมดในซีเรียไป เหลือเพียงที่ตั้งเล็กๆ อีกไม่กี่แห่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย

23380211_1996930463856299_571178002134968444_n.jpg?oh=36a1cf9f1c3677b63af04795a8982d07&oe=5AA8DA1D

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Hiข่าววันศุกร์จ้า

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่าเทียบเงินสกุลหลัก นลท.วิตกแผนปฏิรูปภาษีสหรัฐอาจล่าช้าออกไปอีก 1 ปี

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2560 07:20:30 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการผลักดันกฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนปฏิรูปภาษี ซึ่งมีเนื้อหาแตกต่างจากฉบับที่ผ่านโดยคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (House Ways and Means Committee) ส่งผลให้เกิดความกังวลว่า วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะสามารถประสานความแตกต่างในเนื้อหาเหล่านี้ ให้ลงตัวได้หรือไม่

 

 

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1644 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1592 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3151 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3107 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7681 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7677 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.26 เยน จากระดับ 113.78 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9939 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0004 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.44% สู่ระดับ 94.451 เมื่อคืนนี้

 

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันให้อ่อนค่าลง ภายหลังจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐได้เปิดเผยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภาเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยเนื้อหาหลักในร่างกฎหมายมีความแตกต่างจากฉบับของสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงแผนการชะลอการบังคับใช้มาตรการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี

 

การชะลอการบังคับใช้มาตรการปรับลดอัตราภาษีดังกล่าว ถือเป็นการสวนทางความตั้งใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้การปรับลดอัตราภาษีมีผลบังคับใช้โดยทันทีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ จึงส่งผลให้เกิดความไม่แน่แนอนว่า วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะสามารถประนีประนอมในความแตกต่างของเนื้อหาเหล่านี้ได้หรือไม่

 

ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน คณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มีมติด้วยคะแนนเสียง 24 ต่อ 16 ในการผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยหลังจากนี้จะมีการส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้กับสภาผู้แทนราษฎรเต็มคณะเพื่อทำการพิจารณาในสัปดาห์หน้า และจากนั้นจะถูกส่งให้กับวุฒิสภาสหรัฐ เพื่อทำการพิจารณาเป็นลำดับต่อไป

 

ร่างกฎหมายดังกล่าว หรือที่เรียกว่า "Tax Cuts and Jobs Act" ซึ่งสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เปิดเผยรายละเอียดเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และการลดจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 7 ขั้น เหลือเพียง 4 ขั้น คือ 12%, 25%, 35% และ 39.6%

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ รวมถึงจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 10,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 239,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 231,000 ราย และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.3% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

 

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้คือ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน โดยจะมีการเปิดเผยในเวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2737351

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 101.42 จุด วิตกข่าวรีพับลิกันเสนอชะลอแผนปรับลดภาษี

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2560 06:39:06 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากมีรายงานข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาได้เสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562 อย่างไรก็ตาม แรงกดดันในตลาดได้บรรเทาลงในระดับหนึ่ง หลังจากคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (House Ways and Means Committee) มีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ และจะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้กับสภาผู้แทนราษฎรเต็มคณะ เพื่อทำการพิจารณาในสัปดาห์หน้า

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,461.94 จุด ลดลง 101.42 จุด หรือ -0.43% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,584.62 จุด ลดลง 9.76 จุด หรือ -0.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,750.05 จุด ลดลง 39.07 จุด หรือ -0.58%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562 ซึ่งการชะลอการบังคับใช้มาตรการปรับลดอัตราภาษีดังกล่าว ถือเป็นการสวนทางความตั้งใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้การปรับลดอัตราภาษีมีผลบังคับใช้โดยทันทีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

 

อย่างไรก็ตาม แรงกดดันในตลาดได้บรรเทาลงในระหว่างวัน หลังจากคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎรมีมติด้วยคะแนนเสียง 24 ต่อ 16 ผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวครอบคลุมถึงการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และการลดจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 7 ขั้น เหลือเพียง 4 ขั้น คือ 12%, 25%, 35% และ 39.6%

 

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง โดยหุ้นแอปเปิล หุ้นไมโครซอฟต์ หุ้นอัลฟาเบท หุ้นออราเคิล และหุ้นเฟซบุ๊ก ต่างก็ปรับตัวลงถ้วนหน้า และได้ฉุดดัชนี S&P500 ร่วงลงด้วย

 

หุ้น Snap Inc ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Snapchat ดิ่งลง 4.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุน 443.2 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 จากการชะลอตัวของรายได้ และจำนวนผู้ใช้งาน ขณะที่เผชิญการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด เช่น Instagram และ WhatsApp

 

หุ้นเมซีส์ ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 15% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ที่ระดับ 23 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 19 เซนต์

 

หุ้นไทม์ อิงค์ ซึ่งเป็นเจ้าของสื่อสิ่งพิมพ์รายใหญ่ของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 9.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 3 ลดลง 9.5% สู่ระดับ 679 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 693 ล้านดอลลาร์

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ รวมถึงจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 10,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 239,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 231,000 ราย และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.3% สอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

 

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้คือ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน โดยจะมีการเปิดเผยในเวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2737345

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2560 07:44:06 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 พ.ย. 2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากมีรายงานข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาได้เสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562 อย่างไรก็ตาม แรงกดดันในตลาดได้บรรเทาลงในระดับหนึ่ง หลังจากคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (House Ways and Means Committee) มีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ และจะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้กับสภาผู้แทนราษฎรเต็มคณะ เพื่อทำการพิจารณาในสัปดาห์หน้า

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,461.94 จุด ลดลง 101.42 จุด หรือ -0.43% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,584.62 จุด ลดลง 9.76 จุด หรือ -0.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,750.05 จุด ลดลง 39.07 จุด หรือ -0.58%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย. ) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทเบอร์เบอร์รี นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปซบเซาลงด้วย

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 390.07 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.ปีนี้

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,182.56 จุด ร่วงลง 199.86 จุด หรือ -1.49% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,484.10 จุด ลดลง 45.62 จุด หรือ -0.61% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,407.75 จุด ลดลง 63.68 จุด หรือ -1.16%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) จากแรงฉุดของหุ้นจดทะเบียนรายใหญ่อย่างเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป ซึ่งร่วงลงหนักที่สุดในรอบ 5 ปี หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 45.62 จุด หรือ -0.61% ปิดที่ 7,484.10 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางได้ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันเพื่อเก็งกำไร โดยรายงานระบุว่า ซาอุดิอาระเบียกล่าวหาเลบานอนว่าต้องการประกาศสงครามต่อซาอุดิอาระเบีย หลังเกิดเหตุการณ์รุกรานของกลุ่มฮิสบอลลาห์ในเลบานอน ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 57.17 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 63.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกคืนนี้ (9 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนหันเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ระดับ 1,287.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. ลดลง 16.3 เซนต์ หรือ 0.95% ปิดที่ 16.975 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.7 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 940.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 11.40 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 1004.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการผลักดันกฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนปฏิรูปภาษี ซึ่งมีเนื้อหาแตกต่างจากฉบับที่ผ่านโดยคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (House Ways and Means Committee) ส่งผลให้เกิดความกังวลว่า วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะสามารถประสานความแตกต่างในเนื้อหาเหล่านี้ ให้ลงตัวได้หรือไม่

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1644 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1592 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3151 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3107 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7681 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7677 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.26 เยน จากระดับ 113.78 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9939 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0004 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 6,750.05 จุด ลดลง 39.07 จุด, -0.58%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 23,461.94 จุด ลดลง 101.42 จุด, -0.43%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,584.62 จุด ลดลง 9.76 จุด, -0.38%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,484.10 จุด ลดลง 45.62 จุด, -0.61%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,182.56 จุด ลดลง 199.86 จุด, -1.49%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,407.75 จุด ลดลง 63.68 จุด, -1.16%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 33,250.93 จุด เพิ่มขึ้น 32.12 จุด, +0.10%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,423.91 จุด เพิ่มขึ้น 2.66 จุด, +0.08%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,746.81 จุด เพิ่มขึ้น 2.61 จุด, +0.15%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,042.46 จุด ลดลง 6.92 จุด, -0.11%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 29,136.57 จุด เพิ่มขึ้น 228.97 จุด, +0.79%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 860.40 จุด เพิ่มขึ้น 0.70 จุด, +0.08%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,519.82 จุด เพิ่มขึ้น 11.33 จุด, +0.13%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,427.79 จุด เพิ่มขึ้น 12.33 จุด, +0.36%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,550.57 จุด ลดลง 1.83 จุด, -0.07%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 22,868.71 จุด ลดลง 45.11 จุด, -0.20%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,743.27 จุด ลดลง 75.72 จุด, -0.70%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,049.40 จุด เพิ่มขึ้น 33.10 จุด, +0.55%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,122.40 จุด เพิ่มขึ้น 33.30 จุด, +0.55%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2737471

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $3.80 หลังเงินดอลล์อ่อน,ตลาดหุ้นร่วง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2560 07:17:25 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกคืนนี้ (9 พ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนหันเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ระดับ 1,287.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนเดือนธ.ค. ลดลง 16.3 เซนต์ หรือ 0.95% ปิดที่ 16.975 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 2.7 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 940.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 11.40 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 1004.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงนั้น ส่งผลให้สัญญาทองคำนิวยอร์กซึ่งซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐ มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่นๆ

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ซึ่งระบุว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562

 

ทั้งนี้ การชะลอการบังคับใช้มาตรการปรับลดอัตราภาษีดังกล่าว ถือเป็นการสวนทางความตั้งใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้การปรับลดอัตราภาษีมีผลบังคับใช้โดยทันทีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ยังอาจจะส่งผลให้บริษัทของสหรัฐที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศเลื่อนการตัดสินใจย้ายฐานกลับสู่สหรัฐ เนื่องจากต้องการรอให้การปรับลดอัตราภาษีมีผลบังคับใช้

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2737350

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 36 เซนต์ เหตุตะวันออกกลางตึงเครียดหนุนแรงซื้อ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2560 06:59:32 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 พ.ย.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางได้ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันเพื่อเก็งกำไร โดยรายงานระบุว่า ซาอุดิอาระเบียกล่าวหาเลบานอนว่าต้องการประกาศสงครามต่อซาอุดิอาระเบีย หลังเกิดเหตุการณ์รุกรานของกลุ่มฮิสบอลลาห์ในเลบานอน ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 57.17 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 63.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้ปัจจัยหนุนจากความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบีย และอิหร่าน รวมทั้งการที่กษัตริย์ซัลมาน บิน อับดุลาซิส อัล ซาอุด แห่งซาอุดิอาระเบีย ได้ประกาศกวาดล้างการทุจริตครั้งใหญ่ ซึ่งนำไปสู่การจับกุมตัวมกุฎราชกุมารอัลวาลีด บิน ทาลาล และเจ้าชายคนอื่นๆ รวมทั้งรัฐมนตรี มหาเศรษฐี และอดีตเจ้าหน้าที่อีกหลายคน

 

ทั้งนี้ ทางการซาอุดิอาระเบียออกประกาศเตือนประชาชนมิให้เดินทางเข้าสู่เลบานอน พร้อมกับสั่งชาวซาอุดิอาระเบียที่อยู่ในเลบานอนให้รีบเดินทางออกจากประเทศโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

คำเตือนดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซาอุดิอาระเบียกล่าวหาเลบานอนว่าได้ทำการประกาศสงครามต่อซาอุดิอาระเบีย หลังการรุกรานของกลุ่มฮิสบอลลาห์ในเลบานอน ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากอิหร่าน

 

เลบานอนได้ถูกดึงเข้าสู่ปมปัญหาความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน นับตั้งแต่ที่นายซาอัด อัล-ฮารีรี ซึ่งเป็นพันธมิตรกับซาอุดิอาระเบีย ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลบานอนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่ได้กล่าวหาอิหร่าน และกลุ่มฮิสบอลลาห์ในแถลงการณ์ลาออกจากตำแหน่งของเขา

 

นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่กรุงเวียนนาในวันที่ 30 พ.ย. ซึ่งจะมีการหารือกันเกี่ยวกับการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2737349

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

MTS GOLD is live now.

26 mins ·

เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาพบกับการวิเคราะห์กราฟสดๆ ข้อมูลร้อนๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของเราได้เลย กับรายการ MTS LIVE วันที่ 10 พฤศจิกายน 2560

 

 

HSHsocial

Ylg Bullion

 

Ylg Bullion

 

YLGResearch

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำวันนี้ วิเคราะห์ โดย Ausiris 10 พ.ย. 2560

สามารถติดตามการ Live_วิเคราะห์ราคาทองวันนี้ ได้โดยการกดปุ่ม subscribe หรือติดตามทางLive....สด Facebook ได้ที่ : https://www.facebook.com/ausirisgroup/ อ่านบท...

YOUTUBE.COM

 

 

Ylg Bullion

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

“นำสัมผัสพระเมรุมาศ” เปิดโอกาสให้คนพิการทางสายตาได้เรียนรู้แม้มองไม่เห็น

ผู้พิการทางสายตาเยี่ยมชมนิทรรศการ “งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” ในส่วนของ “นำสัมผัสพระเมรุมาศ” ภายในทับเกษตร ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้พิการทางสายตามีโอกาสจับแบบจำลองสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมแทนการมองด้วยตา เช่น พระเมรุมาศ, เทวดา, สัตว์หิมพานต์ พร้อมเสียงบรรยายและอักษรเบรลล์ ส่วนผู้พิการทางการได้ยินจะมีจิตอาสานำชมด้วยภาษามือ

ภาพ ธนาชัย ประมาณพาณิชย์ ( Tanachai Pramarnpanich )

#NationPhoto#พระเมรุมาศ #นิทรรศการ #นิทรรศการพระเมรุมาศ #รัชกาลที่9

#ผู้พิการทางสายตา

23456565_10155906093542855_1868283456629480405_o.jpg?oh=3d8117d8fe32f11138d5cb303ed5243c&oe=5AABD904

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2560 09:48:12 น.

กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำมีแรงเทขายเข้ามาในช่วงปลายตลาดจึงทำให้ราคาทองคำลดลงมา โดยน่าจะมาจากกองทุนหรือ Hedge Funds จึงทำให้ราคาร่วงลงจากแถวระดับ 1,285 เหรียญ ลงมาแถวระดับ 1,275 เหรียญ ยังคาดว่าภาพรวมตลาดทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบ ขณะที่ในคืนวันศุกร์ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญใดๆ ทางด้านกองทุน SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 843.09 ตัน

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำน่าจะยังเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways โดยมีแนวรับที่ระดับ 1265 เหรียญ และแนวต้าน 1,290 เหรียญ ซึ่งในภาพรวมราคาทองคำน่าจะยังรอความชัดเจนในเรื่องของกฎหมายภาษีสหรัฐฯ เนื่องจากตัวแผนภาษีฉบับนี้จะส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์ จึงน่าจะเห็นราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบระยะสั้น ขณะที่ถ้อยแถลงของนางเยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบันที่น่าจะมีน้ำหนักน้อยลง เนื่องจากการเปลี่ยนประธานเฟดนั่นเอง ซึ่งในระยะสั้นแนะนำให้เก็งกำไรในกรอบ 1,265 - 1,290 เหรียญ โดยมีการวางจุด Stop Loss ป้องกันความเสี่ยง

 

การลงทุน Gold D

เล่นสั้นตามการแกว่งตัวของตลาดเช่นกัน โดยคาดว่าจะมีแนวรับ 1,270 เหรียญ และมีแนวต้าน 1,295 เหรียญ

 

โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เล่นสั้น ลงซื้อขึ้นขายในกรอบ 1,265 – 1,290 เหรียญ

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลงซื้อขึ้นขาย เก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆระยะสั้นๆ เข้าออกเร็วในวัน

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

Wait & See หากราคาหลุด 1,270 เหรียญลงมาให้ทำการ Stop Loss ซึ่งภาพรวมของตลาดทองคำหากสามารถขึ้นไปเหนือ 1,290 เหรียญได้มีโอกาสขึ้นต่อ

 

Gold Futures Z17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,250 บาท

Gold Futures G18 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,150 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,310 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2738688

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.10 ตลาดจับตาแผนปฎิรูปภาษี-ตัวเลขศก.สหรัฐฯ มองกรอบวันนี้ 33.05-33.15

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2560 09:11:24 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.10 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น

 

 

 

วันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.12 บาท/ดอลลาร์

เมื่อคืนวันศุกร์มีแรงซื้อกลับดอลลาร์เข้ามาในตลาดเมื่อเทียบกับสกุลหลักยกเว้นยูโร ขณะที่ตลาดยังรอปัจจัยใหม่ ไม่ว่าจะ

 

เป็นแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ คือ เงินเฟ้อและยอดค้าปลีก"นักบริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงิน ยังคงประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทระหว่าง 33.05-33.15 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ 113.62 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 113.42 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1645 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกรี์ที่อยู่ที่ระดับ 1.1654 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.0940 บาท/ดอลลาร์

 

- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (13-17 พ.ย.) ที่ 33.00-33.30 บาทต่อ

 

ดอลลาร์ โดยคงต้องติดตามทิศทางนโยบายการเงินสหรัฐฯ จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด ) ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจ

 

สหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ย. ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคานำเข้าและส่งออก

 

ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้านและการขออนุญาตก่อสร้างเดือนต.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ และข้อมูลเงิน

 

ทุนไหลเข้าสุทธิ สู่ตลาดการเงินสหรัฐฯ เดือนก.ย. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)

 

ไตรมาส 3/60 ของญี่ปุ่น และยูโรโซนด้วยเช่นกัน

- ธนาคารไทยพาณิชย์ ยกเครื่องระบบการให้บริการขายประกันผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันส์) โดยได้ปรับปรุง 3

 

ด้าน ได้แก่ ปรับรูปแบบการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า สร้างกระบวนการดูแลหลังการขาย และพัฒนาระบบ

 

ไอทีและอิเล็กทรอนิกส์

- กรมศุลกากร นำพ.ร.บ.ศุลกากรฉบับใหม่มาบังคับใช้ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. 60เป็นต้นไป โดยกฎหมายฉบับ

 

นี้จะมีการปรับปรุงพิธีศุลกากรและอนุบัญญัติศุลกากรเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกอุปสรรคในการทำธุรกิจมากยิ่งขึ้นพร้อมกับการนำระบบ

 

อิเล็กทรอนิกส์มาใช้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดดุลพินิจของเจ้าหน้าที่สร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติงานมากขึ้น

 

- สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2561 สคร.เร่งรัดเบิกจ่ายงบลง

 

ทุนรัฐวิสาหกิจทั้ง 45 แห่ง ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ เพื่อให้เม็ดเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจที่มีอยู่จำนวนมาก ได้เป็นส่วนช่วยในการขับ

 

เคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2561 ให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย ส่งสัญญาณว่า เขาอาจจะสนับสนุนให้คณะกรรมการกำหนด

 

นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่ามีความกังวลเกี่ยว

 

กับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ พร้อมระบุว่า เฟดจะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจที่อาจจะ

 

เกิดขึ้นในอนาคต

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (10 พ.ย.)

 

เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการผลักดันกฎหมายปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ

 

หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้เปิดเผยรายละเอียดของแผนปฏิรูปภาษี ซึ่งมีเนื้อหาแตกต่างจากฉบับที่ผ่านโดยคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการ

 

จัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะสามารถประสานความแตกต่างใน

 

เนื้อหาเหล่านี้ให้ลงตัวได้หรือไม่

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ (10 พ.ย.) จากแรงเทขาย แม้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่า

 

และตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลงก็ตาม

- รัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่างก็มีเป้าหมายสุดท้ายที่

 

เหมือนกัน ถึงแม้ว่าร่างกฎหมายฉบับของวุฒิสภาจะเสนอให้ชะลอเวลาบังคับใช้มาตรการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลก็ตาม

 

- ตลาดการเงินยังคงจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่วิตกกังวลเกี่ยว

 

กับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว หลังจากมีรายงานข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับ

 

ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562

ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาได้เปิดเผยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภา ซึ่งเนื้อหาหลักในร่างกฎหมายมี

 

ความแตกต่างจากฉบับของสภาผู้แทนราษฎร จึงส่งผลให้เกิดความไม่แน่แนอนว่า วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะสามารถประสาน

 

ความแตกต่างในเนื้อหาเหล่านี้ให้ลงตัวได้หรือไม่

- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลางทั่วโลก ในการประชุมซึ่งจัดขึ้น

 

โดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่กรุงแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ในวันอังคารที่ 14 พ.ย.นี้

 

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2738680

 

World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2560

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2560 09:01:30 น.

เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.3 แมกนิจูดที่บริเวณชายแดนระหว่างอิหร่านและอิรัก เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือในช่วงเช้าตรู่วันนี้ตามเวลาไทย ส่วนผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คนในอิหร่าน และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 1,000 คน ส่วนในประเทศอิรัก มีผู้เสียชีวิต 4 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

 

-- ตลาดการเงินยังคงจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่วิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว หลังจากมีรายงานข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562

 

 

 

ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาได้เปิดเผยร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับของวุฒิสภา ซึ่งเนื้อหาหลักในร่างกฎหมายมีความแตกต่างจากฉบับของสภาผู้แทนราษฎร จึงส่งผลให้เกิดความไม่แน่แนอนว่า วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะสามารถประสานความแตกต่างในเนื้อหาเหล่านี้ให้ลงตัวได้หรือไม่

 

-- นายเควิน เบรดี ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ยืนยันว่า เขาจะไม่ยอมประนีประนอมกับวุฒิสภาในเรื่องการยกเลิกกฎเกณฑ์ลดหย่อนภาษีระดับมลรัฐและภาษีระดับท้องถิ่น (SALT) ในร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับสุดท้ายของสภาคองเกรสอย่างแน่นอน นอกจากนี้เขายังแสดงจุดยืนคัดค้านข้อเสนอจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาที่ขอให้ขึ้นภาษีชนชั้นกลางบางกลุ่มในสหรัฐอีกด้วย

 

นายเบรดี กล่าวในรายการ “Fox News Sunday” ของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ นิวส์ ว่า เขาจะปฏิเสธข้อเสนอของสมาชิกรีพับลิกันในวุฒิสภาที่ขอให้ยกเลิกกฎลดหย่อนภาษี SALT ทั้งหมด แม้ว่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่พรรครีพับลิกันต้องการเข้าไปแก้ไข เพื่อจัดหารายได้เข้าคลังชดเชยการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลขนานใหญ่

 

-- การเดินทางเยือน 5 ประเทศเอเชียของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ยังคงเป็นประเด็นที่ตลาดให้ความสนใจ โดยทรัมป์ได้เดินทางถึงประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเข้าร่วมการประชุมกับบรรดาผู้นำประเทศในกลุ่มสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

 

ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้เดินทางไปเยือนญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน โดยที่ญี่ปุ่นนั้น ทรัมป์ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ที่พระราชวังอิมพีเรียล และยังได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ร่วมกับนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้รับเชิญให้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่รัฐสภาเกาหลีใต้ และได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่จากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ณ มหาศาลาประชาคม

 

-- เกาหลีเหนือได้ออกมาประณามถ้อยแถลงของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่รัฐสภาเกาหลีใต้เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่า "ไร้สาระ" ซึ่งถือเป็นปฏิกริยาแรกของเกาหลีเหนือต่อผู้นำสหรัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินสายเยือนหลายประเทศในเอเชียอย่างเป็นทางการรวม 11 วัน

 

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ที่รัฐสภาเกาหลีใต้เมื่อวันพุธที่แล้ว ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเยือนเกาหลีใต้เป็นเวลา 2 วัน โดยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าว ทรัมป์ได้ประณามเกาหลีเหนือที่ปฏิบัติต่อประชาชนในประเทศอย่างไร้ความปราณี ไม่ว่าจะเป็นการทรมาน การข่มขืนใจ และความอดอยาก ทั้งยังได้ส่งสัญญาณไปยังเกาหลีเหนือว่า อย่าประเมินสหรัฐต่ำเกินไป และ "อย่าลองดีกับเรา"

 

-- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลางทั่วโลก ในการประชุมซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่กรุงแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ในวันอังคารที่ 14 พ.ย.นี้

 

การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "Communication challenges for policy effectiveness, accountability and reputation" โดยมีนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB, นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เข้าร่วมด้วย

 

-- นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และผู้จำกลุ่มประเทศอาเซียน มีกำหนดพบปะหารือกันที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ในวันนี้ โดยจะมีการพูดคุยกันในประเด็นการเปิดเศรษฐกิจและการค้าเสรี ร่วมทั้งความร่วมมือกันในอนาคต

 

ส่วนในช่วงบ่ายวันนี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและผู้นำประเทศกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งได้แก่ ไทย กัมพูชา สปป.ลาว และเวียดนาม จะหารือกันเกี่ยวกับกรณีที่ญี่ปุ่นจะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน

 

-- ทางการญี่ปุ่น มาเลเซีย และจีนจะเปิดเผยข้อมูลเศษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ โดยญี่ปุ่นจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค., ขณะที่ทางการจีนจะเปิดเผยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนต.ค. และมาเลเซียจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ย.

 

-- ส่วนในวันพรุ่งนี้ ทางการจีนจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหลายรายการ ซึ่งได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., การผลิตภาคอุตสหกรรมเดือนต.ค. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนต.ค. ทางด้านเยอรมนีจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 และอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. ขณะที่อังกฤษจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค.

 

ทางด้านยูโรสแตทจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของประเทศอียู และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ของอียู ส่วนในสหรัฐนั้น จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2738674

 

Xinhua world news summary: คณะรัฐสภาอังกฤษเตรียมบีบ เทเรซา เมย์ ลาออก ก่อนอภิปรายร่างกม. Brexit

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2560 09:32:43 น.

หนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์ (ST) ในอังกฤษ รายงานว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเมื่อสมาชิกคณะรัฐสภา 40 คนเตรียมบีบให้เธอลาออกจากตำแหน่ง

 

ข่าวการกดดันนายกฯอังกฤษเกิดขึ้นเพียง 48 ชั่วโมง ก่อนที่จะมีการอภิปรายร่างกฎหมาย Brexit ในสภาสามัญ ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญที่สุดของกฎหมายที่จะปูทางไปสู่การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU)

 

 

 

-- สื่อท้องถิ่นอิรักรายงานว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวระดับ 7.2 แม็กนิจูดบริเวณชายแดนระหว่างอิรักและอิหร่านเมื่อวานนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 รายและบาดเจ็บมากกว่า 1,000 ราย

 

เหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นห่างจากทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองสุเลย์มานิยาห์ 103 กิโลเมตร และหลายจังหวัดในอิหร่านติดกับชายแดนอิรักรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน

 

-- Saudi Future TV รายงานว่า นายซาอัด อัล-ฮารีรี นายกรัฐมนตรีเลบานอน ยืนยันว่า ตนจะเดินทางกลับไปยังเมืองเบรุตภายในไม่กี่วันนี้

 

นายฮารีรีปรากฎตัวต่อสื่อเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การลาออกจากตำแหน่งกระทันหันในวันที่ 4 พ.ย. โดยให้สัมภาษณ์กับรายการ Future TV จากกรุงริยาดห์ เมืองหลวงของซาอุดิอาระเบีย

 

นายฮารีรี กล่าวว่า "ผมลาออกเพื่อสร้างแรงกระตุ้นเชิงบวกแก่เลบานอน" พร้อมเผยถึงช่วงเวลาก่อนการลาออกว่า ตนเองได้หารือถึงภัยคุกคามที่เลบานอนกำลังเผชิญอยู่ รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและอาหรับต่อเลบานอน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สกาวรัฐ บัวสำลี/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2738702

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...