ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะดัชนี SET50 by GT Wealth Management 18 ม.ค. 60 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 18 มกราคม 2560 13:22:20 น.

กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--GT Wealth Management

ดัชนี SET50 ยืนทรงตัวในช่วงแคบ ๆ บนกรอบล่างของช่วงสวิง sideway ระหว่าง 975 – 990 จุด ด้วยแรงพยุงของหุ้นหลักบางตัว แต่ภาพรวมตลาดเป็นไปในลักษณะเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ทรงตัวบวกลบเล็กน้อย ท่ามกลางความผันผวนของตลาดการเงินโลกที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศแผนการนำสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และคำกล่าวของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่แสดงความคิดเห็นว่า เงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าจะสร้างผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าต่อ เงินทุนจึงไม่ไหลออก แม้มีความเสี่ยงที่นักลงทุนต่างชาติจะขายต่อเนื่องก็ตาม นอกจากนี้ การประเมินผลกระทบต่อสินทรัพย์ต่าง ๆ จาก Brexit มีแนวโน้มจะสร้างแรงกระเพื่อมมายังตลาดหุ้นไทยให้ปรับเป็นขาลงได้ แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะไม่ได้รับผลลบจากกรณีดังกล่าวก็ตาม ซึ่งทางเทคนิคจะให้สัญญาณเตือนเมื่อดัชนี SET50 หลุดระดับ 975 จุด และจะให้สัญญาณยืนยันการเข้าสู่ขาลงเมื่อหลุดระดับ 970 จุด

 

 

 

ทั้งนี้ ดัชนี SET50 ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 977.42 จุด เพิ่มขิ้น +0.61 จุด (+0.06%) เคลื่อนไหวระหว่าง 976.01 – 980.01 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขาย 10,376 ล้านบาท ส่วนค่าเงินบาทเคลื่อนไหวระหว่าง 35.2 – 35.32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

 

แนวต้าน SET50 : 985 / 987

แนวรับ SET50 : 970 / 968

แนะนำ : breakout follow

GT Wealth Management

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2586671

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดเช้าบวก 2.22 จุด แกว่งแคบคล้ายภูมิภาค รอดูนโยบายทรัมป์หลังรับตำแหน่งปธน.สหรัฐ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 มกราคม 2560 12:40:00 น.

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,569.06 จุด เพิ่มขึ้น 2.22 จุด (+0.14%) มูลค่าการซื้อขาย 21,015.12 ล้านบาท

 

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,572.16 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,567.87 จุด

 

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยต่างก็รอดูนายโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯแล้ว จะยังสามารถเดินหน้าทำนโยบายตามที่ได้หาเสียงไว้ได้หรือไม่

 

 

 

สำหรับเรื่องการที่สหราชอาณาจักรจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) นั้นยังต้องใช้เวลา ซึ่งระยะสั้นคงจะไม่มีผลต่อตลาดมากนัก ขณะที่ Valuation ของตลาดหุ้นไทยก็ถือว่าอยู่สูงแล้ว จึงต้องระวังการลงทุนด้วย

 

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดคงจะแกว่งตัว และมีโอกาสที่จะผันผวนได้มากขึ้น พร้อมให้แนวรับ 1,566-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,572-1,585 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 970.29 ล้านบาท ปิดที่ 60.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

 

JAS มูลค่าการซื้อขาย 710.09 ล้านบาท ปิดที่ 8.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท

 

PTL มูลค่าการซื้อขาย 628.10 ล้านบาท ปิดที่ 18.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท

 

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 620.80 ล้านบาท ปิดที่ 6.85 บาท ราคาไม่เปบี่ยนแปลง

 

TMB มูลค่าการซื้อขาย 559.09 ล้านบาท ปิดที่ 2.32 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2586656

 

สรุปภาวะตลาดทองคำตลาดโลก by GT Wealth Management 18 ม.ค. 60 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 18 มกราคม 2560 13:20:15 น.

กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำตลาดโลกทะยานขึ้นผ่านระดับแนวต้าน US$1,211 และสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ตามการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ร่วงลงจากการแสดงความคิดเห็นของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่า ดอลลาร์ที่แข็งค่ากำลังสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้สกุลเงินยูโรและปอนด์อังกฤษที่ควรจะดิ่งต่อจากการประกาศแผนการถอนตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปที่ค่อนไปทางการเป็น Hard Brexit กลับดีดขึ้นมา เนื่องจากนักลงทุนสามารถประเมินความเสี่ยงที่ดีขึ้นจากความชัดเจนของแผนที่ไม่แข็งกร้าวสุดโต่งอย่างที่คาดไว้แต่แรก ราคาทองคำจึงขาดแรงหนุนให้ทะยานขึ้นต่อหลังถ้อยแถลงดังกล่าว แต่ยังสามารถรักษาทิศทางขาขึ้นต่อไปตามความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อความผันผวนของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯหลังจากที่ทรัมป์ขึ้นมารับตำแหน่งจริงแล้ว ทำให้เงินบางส่วนไหลกลับเข้าสู่ตลาดพันธบัตร จึงคาดว่าตลาดทองคำจะได้อานิสงส์นี้ด้วย

 

 

 

ทั้งนี้ ราคาทองคำตลาดโลกช่วงเช้าเคลื่อนไหวระหว่าง US$1,212 – 1,218 ส่วนกองทุนทองคำ SPDR ไม่มียอดซื้อหรือขายสุทธิ ทำให้ยอดการถือครองทองคำคงอยู่ที่ระดับ 807.96 ตัน

 

แนวต้าน Spot Gold : US$1,221 / US$1,227

แนวรับ Spot Gold : US$1,205 / US$1,199

แนะนำ : ถือ long รอปิดทำกำไร

GT Wealth Management

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2586669

 

สรุปภาวะตลาดทองคำตลาดโลก by GT Wealth Management 18 ม.ค. 60 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 18 มกราคม 2560 13:20:15 น.

กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำตลาดโลกทะยานขึ้นผ่านระดับแนวต้าน US$1,211 และสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ตามการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ร่วงลงจากการแสดงความคิดเห็นของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่า ดอลลาร์ที่แข็งค่ากำลังสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้สกุลเงินยูโรและปอนด์อังกฤษที่ควรจะดิ่งต่อจากการประกาศแผนการถอนตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปที่ค่อนไปทางการเป็น Hard Brexit กลับดีดขึ้นมา เนื่องจากนักลงทุนสามารถประเมินความเสี่ยงที่ดีขึ้นจากความชัดเจนของแผนที่ไม่แข็งกร้าวสุดโต่งอย่างที่คาดไว้แต่แรก ราคาทองคำจึงขาดแรงหนุนให้ทะยานขึ้นต่อหลังถ้อยแถลงดังกล่าว แต่ยังสามารถรักษาทิศทางขาขึ้นต่อไปตามความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อความผันผวนของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯหลังจากที่ทรัมป์ขึ้นมารับตำแหน่งจริงแล้ว ทำให้เงินบางส่วนไหลกลับเข้าสู่ตลาดพันธบัตร จึงคาดว่าตลาดทองคำจะได้อานิสงส์นี้ด้วย

 

 

 

ทั้งนี้ ราคาทองคำตลาดโลกช่วงเช้าเคลื่อนไหวระหว่าง US$1,212 – 1,218 ส่วนกองทุนทองคำ SPDR ไม่มียอดซื้อหรือขายสุทธิ ทำให้ยอดการถือครองทองคำคงอยู่ที่ระดับ 807.96 ตัน

 

แนวต้าน Spot Gold : US$1,221 / US$1,227

แนวรับ Spot Gold : US$1,205 / US$1,199

แนะนำ : ถือ long รอปิดทำกำไร

GT Wealth Management

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2586669

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

16142615_10154951627542855_6382421178731180386_n.jpg?oh=d062890b3141f15c717e986746c69c56&oe=59227EE7

นายภูยิน คำนวน ชาวสิงห์บุรี อายุ41ผู้พิการขาทั้งสองข้างจากโรคโปลิโอมาแต่กำเนิด เป็นนักกีฬาพายเรือกรรเชียงเจ้าของเหรียญเงินในกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศจีน กับนางสาวจันดี ณัฐวินิยกุล แฟนสาวที่คบกันมานานร่วม6ปี พร้อมจักรยานคู่กายปั่นมากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวังฝั่งตรงข้ามท่าราชวรดิฐ โดยเมื่อวันที่20กันยายน2559ทั้งคู่ได้ออกเดินทางปั่นจักรยานจากสวนหลวงร.9 ผ่าน74จังหวัดของประเทศไทย ใช้เวลาทั้งสิ้น120วัน ตั้งใจเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงพระประชวรอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราชในขณะนั้น เขาได้กล่าวทั้งน้ำตาในขณะที่ก้มลงกราบ "ลูกกลับมาแล้ว ลูกทำสำเร็จแล้ว ลูกจะทำตามคำที่พ่อได้สอนไว้ตลอดไป ถึงแม้ว่าพ่อจะเสด็จสวรรคตแล้ว"

ภาพ อนันต์ จันทรสูตร์ (Anant Chantarasoot)

#NationPhoto #อนันต์จันทรสูตร์ #สักการะพระบรมศพ #ปั่นจักรยาน

 

 

NOW26

 

MTS GOLD GROUP

 

 

YLGResearch

 

HSHsocial

 

 

NOW26

 

 

NOW26

 

 

NOW26

 

 

 

NOW26

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2560 10:06:06 น.

กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,212 เหรียญ จนถึงช่วงปิดตลาด COMEX ในกรอบแคบๆ หลังจากนั้นๆ ในช่วงหลังตลาด COMEX ก็มีถ้อยแถลงของประธานเฟดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่จะมีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่การจ้างงานเข้าสู่เป้าหมายที่เฟดต้องการ และการที่ภาวะเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นก็ใกล้สู่ระดับเป้าหมายที่เฟดกำหนดไว้ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 101.30 จุด จากระดับ 100.50 จุด ท่ามกลางแรงเทขายทองคำที่กลับเข้ามาหลังปลายตลาด COMEX จนราคาร่วงลงจากระดับ 1,212 เหรียญ สู่ระดับ 1,201 เหรียญโดยประมาณจากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องของเฟดสำหรับเช้านี้ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียแถวระดับ 1,203 เหรียญ ด้านค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าขึ้นอีกครั้งจาก 35.35 บาท/ดอลลาร์ สู่ระดับ 35.44 บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้ กองทุนทองคำ SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 807.96 ตัน อย่างไรก็ดี ต้องจับตาการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯในคืนนี้ได้แก่ Building Permits และ Housing Starts คาดว่าจะออกมาดีขึ้น ขณะที่ Philly Fed Manufacturing Index และ Jobless Claims คาดว่าจะออกมาแย่ลง

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ลงมาทดสอบแนวรับแรกบริเวณ 1,200 เหรียญ หลังจากที่ทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,215 เหรียญได้ตลอดวันเมื่อวานนี้ นักลงทุนคงต้องจับตาดูว่าหากราคาทองคำหลุด 1,200 เหรียญลงมาอาจทำให้จบทิศทางการปรับขึ้นระยะสั้นได้ โดยทองคำจะมีแนวรับสำคัญถัดไปที่ระดับ 1,185 เหรียญ ซึ่งหากหลุดลงมาจะกลับเป็นขาลงได้ แต่หากทองคำเคลื่อนตัวบริเวณ 1,200 เหรียญได้ โอกาสปรับตัวขึ้นก็มีอยู่ สำหรับวันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,195 – 1,215 เหรียญ ด้านราคาทองคำไทยเองจะมีแนวรับสำคัญ 20,100 และแนวต้าน 20,400 บาท/บาททองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ 1,195 – 1,215 เหรียญ

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลดสถานะบริเวณแนวต้าน หากราคาไม่หลุด 1,195 เหรียญให้ Open Long

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

หาจังหวะปิดสถานะเมื่อราคาปรับตัวลงมาบริเวณแนวรับ

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

บริหารพอร์ตการลงทุนให้สมดุลกับสภาพตลาด โดยภาพรวมตลาดเริ่มมีการเปลี่ยนแนวโน้ม

Gold Futures G17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,250 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,450 บาท

Gold Futures J17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,340 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,540 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

เยลเลนชี้ศก.สหรัฐเข้าใกล้เป้าหมาย เปิดทางเฟดค่อยๆปรับขึ้นดบ.ในช่วง 3 ปี

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2560 08:01:14 น.

นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ในช่วงบ่ายวันพุธตามเวลาสหรัฐ ระบุเศรษฐกิจสหรัฐเข้าใกล้เป้าหมายของธนาคารกลางแล้ว ทั้งในเรื่องของการจ้างงานและราคาเงินเฟ้อ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจะยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งจะเปิดทางให้เฟดสามารถเริ่มลดระดับการให้การสนับสนุนที่ดำเนินการมาโดยตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาลงได้ นอกจากนี้ ประธานเฟดยังระบุด้วยว่า การขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

 

 

ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่คอมมอนเวลธ์ คลับ แคลิฟอร์เนีย ในซานฟรานซิสโก นางเยลเลนคาดว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งไปจนถึงปี 2562 อย่างไรก็ตาม ประธานเฟดกล่าวว่า เธอไม่สามารถบอกได้ว่า การขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อใด หรือจะขึ้นในอัตราที่สูงเท่าใด โดยทั้งนี้ทั้งนั้นจะขึ้นอยู่กับทิศทางสภาวะเศรษฐกิจในเดือนต่อๆไปจากนี้

 

นางเยลเลนระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟด ซึ่งมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อเดือนที่แล้ว คาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยปีละไม่กี่ครั้ง จนกว่าอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของเฟดจะเข้าใกล้ระดับ 3% ภายในสิ้นปี 2562

 

ทั้งนี้ ในการประชุมวันที่ 13-14 ธันวาคม 2559 เฟดได้มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 0.5-0.75% นับเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในปี 2559 และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบเกือบ 10 ปี

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2587098

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2587232

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์ดีดขึ้นหลังร่วงหนักวันก่อน ขณะสหรัฐเผยข้อมูลศก.หลายรายการ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2560 07:28:14 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในวันอังคารจากการแสดงความเห็นของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อ และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตของสหรัฐ หรือ Beige Book

 

 

 

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0662 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0707 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2282 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2395 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7533 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7562 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐเทียบเงินเยนแตะที่ระดับ 113.67 เยน จากระดับ 112.66 เยน ขณะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0047 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0025 ฟรังก์สวิส และปรับตัวขึ้นแตะ 1.3244 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3053 ดอลลาร์แคนาดา

 

ทั้งนี้ สกุลเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นจากที่ร่วงลงเมื่อวันอังคาร สืบเนื่องมาจากการที่นายทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล โดยระบุว่า บริษัทสหรัฐไม่สามารถแข่งขันกับจีนได้ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่ามากเกินไปเมื่อเทียบกับสกุลหยวน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลของเขาจะยกเลิกนโยบายสนับสนุนดอลลาร์แข็งค่าของรัฐบาลชุดปัจจุบันของสหรัฐ

 

ขณะที่ในวันพุธได้มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐหลายรายการ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมัน และค่าเช่าบ้านที่เพิ่มขึ้น และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 2.1% ในเดือนธ.ค. ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ของเฟด และเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2014 และเป็นครั้งแรกที่ดัชนี CPI พุ่งทะลุ 2% นับตั้งแต่ปี 2014 หลังจากเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนพ.ย.

 

ดัชนี CPI ดังกล่าวบ่งชี้ถึงเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

 

ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอัตราปานกลางเกือบทั่วทุกภูมิภาค ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพ.ย.จนถึงสิ้นปี

 

โดยรายงานระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปีที่แล้ว ขณะที่การจ้างงานและเงินเฟ้อก็อยู่ในทิศทางที่เข้าใกล้เป้าหมายของเฟด

 

นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐยังได้เปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมดีดตัว 0.8% ในเดือนธ.ค. โดยเพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่ลดลง 0.7% ในเดือนพ.ย.

 

ส่วนสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 2 จุด แตะระดับ 67 ในเดือนม.ค. หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากในเดือนธ.ค.

 

ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้กล่าวสุนทรพจน์ในช่วงบ่ายวันพุธตามเวลาสหรัฐ ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าใกล้เป้าหมายของธนาคารกลาง ทั้งในเรื่องการจ้างงานและราคาเงินเฟ้อ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจจะยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งจะเปิดทางให้เฟดสามารถเริ่มลดระดับการให้การสนับสนุนที่ดำเนินการตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาลงได้ นอกจากนี้ ประธานเฟดยังระบุด้วยว่า การขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2586966

 

KTBST คาด SET วันนี้รีบาวด์ช่วงต้น ปัจจัยบวกตปท.ยังไม่ชัดแต่น้ำมันหนุน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2560 10:14:15 น.

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ว่า การเข็นมาตรการเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจแต่ปัจจัยต่างประเทศยังดูคลุมเครือ คาดว่าจะยังไม่มีอะไรที่จะพลิกให้นักลงทุนกลับมาไล่ซื้อหุ้นจนผ่าน 1,575 ขึ้นไปได้ แต่ด้วยเย็นวานนี้ (18 ม.ค.) SET Index ปิดลดลงมากผิดปกติ คือลงแรงช่วงปลาย มาปิดที่ 1560.83 จุด ลดลง 6.01 จุด จากที่อยู่ในแดนบวกมาเกือบตลอดวัน วันนี้จึงคาดว่าดัชนีฯน่าจะมีการ rebound ในช่วงเปิดตลาด แต่ยืนได้หรือไม่อยู่ที่ตลาดต่างประเทศและราคาน้ำมัน

 

 

 

"ตลาดช่วงยังอยู่ในช่วงของการพักตัว นักลงทุนควรพิจารณาเลือกขายทำกำไรหุ้นที่ขึ้นมามากๆ หุ้นที่มีรายได้จากการส่งออกยังเป็นลบ เนื่องจากผลของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นและนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่เป็นความเสี่ยงของธุรกิจ การเข้าลงทุนในวันนี้ ควรเลือกตัวที่มีข่าวบวกและเล่นสั้นๆไว้ก่อน และควรดูตลาดต่างประเทศประกอบไปด้วย

 

รายงานภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวดี และประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ความเห็นต่อภาวะเศรษฐกิจไปในทางเดียวกันกับรายงานที่ออกมา เป็นผลให้ค่าเงินดอลล่าร์ปรับตัวสูงขึ้น กล่าวคือตลาดตีความในเรื่อง เงินเฟ้อที่สูงขึ้น ตามมาด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังระบุไม่ได้ว่าจะมีการปรับขึ้น 3 ครั้งในปีนี้หรือไม่ เราคาดว่าคงต้องรอดูการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐก่อน และคืนที่ผ่านมาตัวแปรที่ผกผันกับค่าดอลลาร์ คือ ทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์เป็นลบจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ โดย Dollar Index เช้านี้ อยู่ที่ 101.35 จุด สูงขึ้นจากวันที่ 17 ม.ค. 1.0%

 

ทั้งนี้ สำหรับการเก็งกำไรช่วงสั้น หุ้นที่คาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ BJC,STEC,TVO,LOXLEY,BKD มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,553-1,568 จุด

 

วันนี้ ตลาดจะรอดูการกล่าวสุนทรพจน์ ครั้งที่สองของนาง Yellen ที่ Stanford Institute ขณะที่ปัจจัยลบต่อตลาดตัวเดิม คือ นโยบายของนายทรัมป์ที่เริ่มเตรียมการเจรจาการค้า โดยจีนเป็นเป้าหมายสำคัญ ยังเป็นตัวกดดันตลาด และความกังวลต่อ BRExit คาดจะยังมีอยู่ในตลาด ประเมินว่าด้วยความกังวลนี้เอง โดยเฉพาะนโยบายการค้าของสหรัฐฯ จะทำให้นักลงทุนยังซื้อขายในตลาดหุ้นทั่วโลกด้วยความระมัดระวัง เงินที่ไหลเข้าตลาดเอเชียส่วนใหญ่ไปเข้าที่ตลาดพันธบัตรมากกว่าตลาดหุ้น

 

ด้านราคาน้ำมันดิบ รายงานของ EIA ที่ระบุว่าผู้ผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ จะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 4 หมื่นบาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.พ. เป็นสัญญาณว่าผู้ผลิตน้ำมันจาก Shale Oil ที่มีต้นทุนต่ำกำลังกลับเข้ามาในตลาด ซึ่งจะเป็นตัวถ่วงราคาน้ำมันดิบ WTI ไม่ให้ขึ้นไปเกิน 55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ล่าสุด 52 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) อย่างไรก็ตาม การประชุมผู้ผลิตน้ำมัน ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หากกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC และพันธมิตร ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ (แผนลดกำลังการผลิต 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ก็อาจหนุนราคาน้ำมัน ให้วิ่งเข้าใกล้ 55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลได้

 

--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2587265

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.44 กลับมาอ่อนค่า หลังประธานเฟดออกมายืนยันทิศทางการขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2560 09:19:20 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.44 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า

 

 

 

จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ 35.30 บาท/ดอลลาร์ โดยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาค เนื่องจากมีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้า

 

มาในตลาด หลังนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมายืนยันถึงทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้เกิด

 

ความชัดเจนมากขึ้นกว่าการแถลงนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้

 

"บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้มากเนื่องจากมีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้ามาในตลาด หลังประธานเฟดออกมายืนยันเรื่องการ

 

ปรับขึ้นดอกเบี้ย" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 35.40-35.50 บาท/ดอลลาร์

 

"บาทน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบหลังจากปรับตัวอ่อนค่าจากวานนี้มามาก" นักบริหารเงิน กล่าว

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.77 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ 113.18 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0625 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ 1.0693 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.2700 บาท/

 

ดอลลาร์

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานธุรกรรมการโอนเงินรายย่อย จำแนกตามประเภทบริการ ณ เดือน ธ.

 

ค. 2559 ว่า ทั้งระบบมีปริมาณการโอนเงินรวม 4 ล้านรายการ มูลค่ารวม 2.74 แสนล้านบาท เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่มีการโอน

 

3.8 ล้านรายการ มูลค่ารวม 2.23 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.12 แสนรายการ หรือ 5.61% และ 5.1 หมื่นล้านบาท หรือ

 

22.91% ตามลำดับ

- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า หลังจากเปิดให้มีการยื่นเอกสารเพื่อขอใบอนุญาตทำโครงการสิน

 

เชื่อเพื่อประชาชนใช้บริโภคกรณีฉุกเฉินหรือพิโกไฟแนนซ์ เป็นเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ขณะนี้มีผู้ประกอบการยื่นขอใบอนุญาตแล้ว 26

 

รายกระจายทั่วประเทศ ได้แก่ จ.กรุงเทพฯ ปทุมธานี กำแพงเพชร พิจิตร บึงกาฬ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ตรัง ภูเก็ต เป็นต้น

 

- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากการติดตามบริษัทจดทะเบียนไทยที่ออกตั๋วแลกเงิน (บีอี)

 

ที่มีสัญญาใกล้ครบอายุในเร็วๆ นี้ พบว่าทุกบริษัทตระหนักรู้ว่าจะต้องเร่งหาสภาพคล่องทางการเงินเพื่อมาชำระคืน อีกทั้งได้บริหาร

 

จัดการความเสี่ยงและประเมินว่าในกรณีเลวร้ายที่สุดบริษัทต้องดำเนินการอย่างไร ซึ่งทาง ตลท.ไม่ได้จับตาบริษัทใดบริษัทหนึ่งเป็น

 

พิเศษ อย่างไรก็ตามสภาพคล่องในระบบการเงินของไทยยังมีอยู่มาก ทั้งแหล่งเงินทุนของบริษัทเองและจากธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้

 

ยังยืนยันว่าบริษัทจดทะเบียนไทยมีระดับหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำ คือ ประมาณ 1.7 เท่า จึงเชื่อว่าจะสามารถชำระคืนหนี้ตั๋วบีอีได้

 

- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น

 

0.2% ในเดือนพ.ย. โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมัน และค่าเช่าบ้านที่เพิ่มขึ้น และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 2.1% ในเดือน

 

ธ.ค. ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายที่ 2% ของเฟด และเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2014 และเป็นครั้งแรกที่ดัชนี

 

CPI พุ่งทะลุ 2% นับตั้งแต่ปี 2014 หลังจากเพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนพ.ย.

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมดีดตัว 0.8% ในเดือนธ.ค. โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า

 

ตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่ลดลง 0.7% ในเดือนพ.ย.

- นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ในช่วงบ่ายวันพุธตามเวลาสหรัฐ ระบุ

 

เศรษฐกิจสหรัฐเข้าใกล้เป้าหมายของธนาคารกลางแล้ว ทั้งในเรื่องของการจ้างงานและราคาเงินเฟ้อ พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า

 

เศรษฐกิจจะยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งจะเปิดทางให้เฟดสามารถเริ่มลดระดับการให้การสนับสนุนที่ดำเนินการมาโดย

 

ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมาลงได้ นอกจากนี้ ประธานเฟดยังระบุด้วยว่า การขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) หลัง

 

จากที่ร่วงลงอย่างหนักในวันอังคารจากการแสดงความเห็นของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนซึมซับข้อมูล

 

เศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อ และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขตของสหรัฐ หรือ Beige Book โดยยูโรอ่อน

 

ค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0662 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0707 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์สหรัฐเทียบเงินเยนแตะที่

 

ระดับ 113.67 เยน จากระดับ 112.66 เยน

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 ม.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ดีดตัวขึ้น ขณะ

 

เดียวกันนักลงทุนจับตาการสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันศุกร์นี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 80 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่

 

1,212.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่พุ่งขึ้นถึง 1.4% ในวันอังคาร

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2587208

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกรัฐมนตรี สั่งการ บกปภ.ช. จัดทำแผนฟื้นฟูหลังน้ำลด – แบ่งมอบภารกิจชัดเจน

 

 

ข่าวทั่วไป ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2560 10:24:40 น.

กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

นายกรัฐมนตรี ห่วงใยผู้ประสบภัย จึงได้สั่งการ บกปภ.ช. ประสานจังหวัดจัดทำแผนฟื้นฟูหลังน้ำลดพร้อมกำหนดแนวทางการดำเนินงาน และแบ่งมอบภารกิจให้แต่ละหน่วยงานอย่างชัดเจน ซึ่งในเบื้องต้นให้เร่งบรรเทาทุกข์ โดยยึดการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนและระยะยาว ให้จังหวัดรวบรวมข้อมูล พร้อมจัดทำแผนฟื้นฟูและแผนปฏิบัติการที่ครอบคลุมข้อมูลด้านแผนงาน งบประมาณ และกำลังคน เสนอ บกปภ.ช. เพื่อสรุปในภาพรวมและเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาจัดสรรงบประมาณและวางแนวทางการบริหารจัดการ รวมถึงมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2587251

อเมริกาแบบทรัมป์ๆ

THAIPOST.NET

 

จุดต่ำสุดของการเมืองอเมริกา

THAIPOST.NET

ข่าวเศรษฐกิจทีส่งผลต่อราคาทองคำและหุ้น 19/ม.ค./2560

ข่าวเศรษฐกิจทีส่งผลต่อราคาทองคำและหุ้น 19/ม.ค./2560

AUSIRIS.CO.TH

 

 

 

 

มหาเศรษฐ๊โลกเอาเงินไปซุกในเกาะฟอกเงิน$21ล้านล้าน

นี้คือคำตอบของJack Maว่า ทำไมเศรษฐกิจสหรัฐมีปัญหาทางโครงสร้างไม่มีการลงุทนโครงสร้างพื้นฐาน หรือไม่มีการดูแลคนอเมริกันเอง เพราะว่านอกจากรัฐบาลอเมริกันจะใช้เงิน$14ล้านล้านในการก่อสงครามในช่วง30ปีที่ผ่านมา เศรษฐีอเมริกันส่วนใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากนโยบายของประเทศเอาเงินไปซ่อนในเกาะฟอกเงิน จากการศึกษาพบว่ามีเศรษฐีของโลกเอาเงินไปซุกที่เกาะฟอกเงินทั้งหมด$21ล้านล้าน โดยไม่ได้ทำประโยชน์อะไร

http://www.bbc.com/news/business-18944097

thanong

19/1/2017

 

 

 

 

 

 

 

 

ทวนกระแสข่าว ทูตอเมริกามีท่าจะแหกคอกทำนอกหน้าที่

 

ล้างบาง!! "โดนัลด์ ทรัมป์" สั่งล้างบาง "เอกอัครราชทูตอเมริกา" ที่แต่งตั้งโดย "บารัค โอบามา" ก่

ในขณะที่ใกล้ถึงวันพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 45 นายโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 มกราคม นี้ แต่ขณะนี้ บรรดาทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศต่าง ๆ…

INTER.TNEWS.CO.TH

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

16003005_10155034070257922_3398731713951147309_n.jpg?oh=d86ce159771022d4fd77acf5b2afcb06&oe=59224B1A

 

 

 

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวาระครบสตมวาร (๑๐๐วัน) แห่งการเสด็จสวรรคต

 

ขอบคุณพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์.FB_Digital Paint For King

 

 

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

ถ่ายสดงาน100วันในหลวงร.9 - ไทยโพสต์

 

 

 

 

 

 

 

 

ทร.เห่เรือ'บทเฉลิมพระเกียรติร.9' ปิดเจ้าพระยาถวายอาลัยครบ'100วัน'

 

 

 

16195419_10154955440422855_8171920144775918829_n.jpg?oh=1c270358102675f0602c33c8a5ba8aeb&oe=590B95E7

ประชาชนที่เข้าสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง รับพระบรมฉายาลักษณ์และ “ข้าวสารพอเพียง” เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2560 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) แจกข้าวพอเพียง โดยได้แจกให้กับประชาชนเพื่อเป็นที่ระลึกให้แก่ประชาชนมาตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2559

ภาพ ชาลินี ถิระศุภะ (Chalinee Thirasupa)

#ชาลินีถิระศุภะ #ChalineeThirasupa #NationPhoto

 

16105948_10155033623577922_2126065961204268534_n.jpg?oh=8a81190f169270fc1dd36fa2cfd1ad43&oe=590BB524

วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๒.๔๐ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยคุณสิริกิติยา เจนเซน ไปทรงเปิดโรงเรียนนานาชาติ เฮดสตาร์ท อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

ขอบคุณภาพ.FB_ปชส.จังหวัดภูเก็ต

15977785_1424145507638295_2477534783578179660_n.jpg?oh=e2b3b0f353d1a958e5963d182e0dc4ee&oe=5906F9ED

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานเงินจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อนำไปช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัยใน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

https://www.facebook.com/HRHPrincessChulabhorn906/?fref=ts

"ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ" ตรัส "ขอโทษประชาชน" พร้อมยกพระหัตถ์ทรงคม ภายหลังเสด็จฯ เยี่ยมผู้ประสบอ

ติดตามข่าวเพิ่มเติม http://deeps.tnews.co.th/

DEEPS.TNEWS.CO.TH

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2560 07:44:12 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 19 ม.ค.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึง ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้นมากเกินคาดในเดือนธ.ค.

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,732.40 จุด ลดลง 72.32 จุด หรือ -0.37% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,540.08 จุด ลดลง 15.57 จุด หรือ -0.28% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,263.69 จุด ลดลง 8.20 จุด หรือ -0.36%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเมื่อวานนี้

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลงเกือบ 0.1% ปิดที่ 362.85 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,841.14 จุด ลดลง 12.26 จุด หรือ -0.25% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,596.89 จุด ลดลง 2.50 จุด หรือ -0.02% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,208.44 จุด ลดลง 39.17 จุด หรือ -0.54%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อวานนี้ (19 ม.ค.) ด้วยแรงฉุดจากหุ้นกลุ่มสร้างบ้าน หลังมีรายงานว่า ราคาบ้านในอังกฤษขยายตัวช้าลงในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ตลาดหุ้นยังมีแรงฉุดรั้งจากหุ้นรอยัล เมล ที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ย่ำแย่

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 39.17 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 7,208.44 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ระบุว่า ตลาดน้ำมันโลกอยู่ในภาวะตึงตัว

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 51.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 54.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 10.6 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ 1,201.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 27.2 เซนต์ หรือ 1.57% ปิดที่ 17.002 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 15.5 ดอลลาร์ หรือ 1.59% ปิดที่ 956.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ ปิดที่ 751.15 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดีในหลายรายการ โดยเฉพาะตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านใหม่ในเดือนธ.ค.ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 114.83 เยน จากระดับ 113.67 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0075 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0047 ฟรังก์สวิส

 

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0656 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0662 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2335 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2282 ดอลลาร์

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,263.69 จุด ลดลง 8.20 จุด, -0.36%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,540.08 จุด ลดลง 15.57 จุด, -0.28%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 19,732.40 จุด ลดลง 72.32 จุด, -0.37%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,841.14 จุด ลดลง 12.26 จุด, -0.25%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,596.89 จุด ลดลง 2.50 จุด, -0.02%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,208.44 จุด ลดลง 39.17 จุด, -0.54%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,308.60 จุด เพิ่มขึ้น 50.96 จุด, +0.19%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,666.51 จุด เพิ่มขึ้น 1.49 จุด, +0.09%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,008.22 จุด เพิ่มขึ้น 8.00 จุด, +0.27%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,298.95 จุด เพิ่มขึ้น 4.17 จุด, +0.08%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,049.96 จุด ลดลง 48.30 จุด, -0.21%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 682.31 จุด ลดลง 0.97 จุด, -0.14%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,246.08 จุด เพิ่มขึ้น 89.72 จุด, +1.25%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,101.30 จุด ลดลง 11.71 จุด, -0.38%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,072.79 จุด เพิ่มขึ้น 2.25 จุด, +0.11%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,072.25 จุด เพิ่มขึ้น 177.88 จุด, +0.94%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,318.12 จุด ลดลง 23.85 จุด, -0.26%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,692.20 จุด เพิ่มขึ้น 13.40 จุด, +0.24%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,745.40 จุด เพิ่มขึ้น 11.70 จุด, +0.20%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2587789

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบเงินสกุลหลัก รับข้อมูลศก.สหรัฐสดใส

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2560 07:06:14 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดีในหลายรายการ โดยเฉพาะตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านใหม่ในเดือนธ.ค.ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 114.83 เยน จากระดับ 113.67 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0075 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0047 ฟรังก์สวิส

 

 

 

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0656 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0662 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2335 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2282 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นด้วยปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านทะยานขึ้น 11.3% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 1.23 ล้านยูนิต หลังเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.10 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. ก่อนหน้านี้ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.20 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค.

 

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 15,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 234,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 254,000 ราย

 

ส่วนยูโรอ่อนค่าลงหลังจากที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อวานนี้ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

 

นอกจากนี้ ECB ได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน สำหรับเดือนม.ค.-มี.ค. ขณะที่เดือนเม.ย.-ธ.ค.จะอยู่ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน

 

อย่างไรก็ดี ECB ระบุว่า อาจมีการปรับเพิ่มวงเงิน QE หรือขยายเวลาออกไปเกินกว่าเดือนธ.ค. 2017 หากแนวโน้มเศรษฐกิจย่ำแย่ลง

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2587624

 

(เพิ่มเติม) เยลเลนคาดเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งแตะ 2% ใน 2 ปีข้างหน้า ชี้เป็นความเสี่ยงหากตรึงดบ.ต่ำนานเกินไป

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2560 08:22:16 น.

นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ และการดำเนินนโยบายการเงิน ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย

 

ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ นางเยลเลนคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2% ในอีก 2 ปีข้างหน้า และคาดว่าตลาดแรงงานจะไม่เข้าสู่ภาวะร้อนแรงเกินไป พร้อมกับกล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้รวดเร็วขึ้น

 

ทั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวว่า "เป็นเรื่องที่เสี่ยงและไม่เหมาะสม" ที่จะปล่อยให้เศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะที่ร้อนแรงเกินไป ด้วยการตรึงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นเวลานานเกินไป

 

นางเยลเลนยังกล่าวด้วยว่า เธอเชื่อว่าเฟดกำลังอยู่ในทิศทางที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับกล่าวว่า เป้าหมายของเฟดคือการผลักดันให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างยั่งยืน โดยตลาดแรงงานมีการจ้างงานที่เต็มศักยภาพ และภาวะเงินเฟ้อที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2%

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2587804

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็ง ฉุดทองคำปิดร่วง 10.6 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2560 07:21:06 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 10.6 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ 1,201.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 27.2 เซนต์ หรือ 1.57% ปิดที่ 17.002 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 15.5 ดอลลาร์ หรือ 1.59% ปิดที่ 956.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ ปิดที่ 751.15 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.05% แตะที่ 101.34 เมื่อคืนนี้

 

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้นมากกว่าคาดในเดือนธ.ค.

 

ทั้งนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านทะยานขึ้น 11.3% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 1.23 ล้านยูนิต หลังเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.10 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.20 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค.

 

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเลดลง 15,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 234,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 254,000 ราย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2587625

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: แรงซื้อเก็งกำไร หนุนน้ำมัน WTI ปิดขยับขึ้น 29 เซนต์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2560 07:03:06 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ที่ระบุว่า ตลาดน้ำมันโลกอยู่ในภาวะตึงตัว

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 51.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 54.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร และยังได้ปัจจัยหนุนจากรายงานของ EIA ที่ระบุว่า แม้ว่ายังเร็วเกินไปที่จะประเมินแนวโน้มการปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตของสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) แต่สต็อกน้ำมันในเชิงพาณิชย์ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ได้ลดลงเป็นเดือนที่ 4 ในเดือนพ.ย. ขณะที่คาดว่าสต็อกน้ำมันในเดือนธ.ค.จะลดลงเช่นกัน

 

นอกจากนี้ IEA ยังปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในปีที่แล้ว และระบุว่า ข้อมูลบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นกำลังส่งผลให้ตลาดน้ำมันโลกเกิดภาวะตึงตัว

 

สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เปิดเผย สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 5.04 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 342,000 บาร์เรล

 

อย่างไรก็ตาม สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 485.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

 

นอกจากนี้ EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 6 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1 ล้านบาร์เรล

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2587623

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

HSHsocial

ราคาทองคำวันนี้ วิเคราะห์ โดย Ausiris 19Jan2017

http://bit.ly/2jbEW81

 

 

NOW26

 

 

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า20-JAN-2017

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า20-JAN-2017

AUSIRIS.CO.TH

 

 

NOW26

บันทึกตร.โผล่! “สับ” ยันเป็นคนก่อเหตุ

“สับ วาปี” ให้ปากคำ ตร.ปี 2557 ยืนยัน เป็นคนก่อเหตุขับรถชนคนตาย ไม่ใช่ "ครูจอมทรัพย์"

KOMCHADLUEK.NET

จ่ายสินบนลามปตท.! แฉพบใต้โต๊ะ385ล้าน 'อาคม'ขีดเส้นบินไทยสอบ30วัน

จ่ายสินบนลามปตท. กระทรวงยุติธรรมสหรัฐสอบพบโรลส์-รอยซ์ จ่ายสินบนให้พนักงาน ปตท.และ ปตท.สผ.แฉพบใต้โต๊ะ385ล้าน 'อาคม'ขีดเส้นบินไทยสอบ30วัน ปปช.ร่วมวงคุ้ย…

WWW.ISRANEWS.ORG|BY โพสต์ทูเดย์

จ่ายก้อน3 ช่วง นัดรมต.ยุคแม้วกินข้าว!สตง.แจ้งSFOขอผลสอบคดีสินบนโรลส์รอยซ์'

เผยข้อมูลผลสอบคดีสินบน โรลส์รอยซ์-บินไทย 1.2 ล้าน เกิดขึ้นยุคทักษิณ จ่ายเงินก้อน 3 ช่วงนัดรมต.กินข้าว…

WWW.ISRANEWS.ORG|BY ISRANEWS

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

NOW26

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

 

NOW26

 

 

 

NOW26

 

 

 

 

 

 

NOW26

 

 

MTS GOLD GROUP

 

 

YLGResearch

 

 

ทีนิวส์ออนไลน์

 

ราคาทองคำวันนี้ วิเคราะห์ โดย Ausiris 20Jan2017

http://bit.ly/2k6TRRh

 

Ylg Bullion

 

 

ทีนิวส์ออนไลน์

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดลบ 7.40 จุด แรงขายจากกองทุน LTF-RMF กดตลาด,ไร้ปัจจัยหนุนใหม่ รอดูนโยบายทรัมป์

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 9 มกราคม 2560 17:25:20 น.

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,564.08 จุด ลดลง 7.40 จุด (-0.47%) มูลค่าการซื้อขาย 53,355.50 ล้านบาท

 

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,573.75 จุด ส่วนดัชนีทำจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,559.83 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 450 หลักทรัพย์ ลดลง 780 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 305 หลักทรัพย์

 

 

 

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีปรับตัวลง จากแรงขายของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี่ยงชีพ (RMF) ประกอบกับตลาดยังไร้ปัจจัยหนุนใหม่เข้ามา โดยนักลงทุนต่างรอฟังการแถลงนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ในช่วงสัปดาห์หน้า

 

สำหรับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ดัชนีฯเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งในช่วงนี้อาจจะเห็นการชะลอการลงทุน เพื่อรอดูการแถลงนโยบายของ"ทรัมป์"

 

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (10 ม.ค.) นายศราวุธ คาดว่า ดัชนีฯจะแกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามาช่วยหนุนตลาด และนักลงทุนต่างรอดูการแถลงนโยบายของ"ทรัมป์"ในสัปดาห์หน้า ส่วนในสัปดาห์นี้จะต้องติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของจีน

 

พร้อมให้แนวต้าน 1,575 จุด แนวรับ 1,558 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,629.73 ล้านบาท ปิดที่ 62.00 บาท ลดลง 1.75 บาท

 

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,790.14 ล้านบาท ปิดที่ 19.70 บาท ลดลง 0.40 บาท

 

IRPC มูลค่าการซื้อขาย 1,985.84 ล้านบาท ปิดที่ 5.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

 

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,972.72 ล้านบาท ปิดที่ 186.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

 

IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,593.33 ล้านบาท ปิดที่ 37.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

 

--อินโฟเควสท์ โดย จีรายุทธ จันทรงสกุล/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2581811

 

(เพิ่มเติม) ดัชนี SET ภาคบ่ายร่วง 10 จุด รับแรงขายกองทุนในประเทศ-ต่างชาติขายทำกำไร

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2560 15:44:00 น.

ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายร่วง 10 จุด คาดรับแรงขายกองทุนในประเทศ โดยเฉพาะกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) อีกทั้งต่างชาติปรับพอร์ตขายทำกำไร หลังซื้อมาตั้งแต่ปลายปีก่อน นอกจากนี้ยังเป็นการ sell on fact หลังกลุ่มธนาคารประกาศงบฯ

 

เมื่อเวลา 15.26 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,550.81 จุด ลดลง 10.02 จุด (-0.64%)

นางภรณี ทองเย็น รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยบ่ายนี้เป็นการปรับฐานเพราะดัชนีปรับขึ้นขึ้นมาแถวระดับ 1,580 จุด ใกล้ 1,600 จุด ประกอบกับแรงขายสถาบันในประเทศจากการไถ่ถอน LTF ซึ่งตั้งแต่ต้นปียังทยอยขายออกมาไม่มากนัก และคาดเป็นการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติขายทำกำไร หลังจากซื้อมาตั้งแต่ปลายปี 59 ต่อเนื่อง ช่วงนี้จึงชะลอและคงจะขายปรับพอร์ตออกไปก่อน นอกจากนี้จะเห็นแรงขายแบบ sell on fact ของหุ้นธนาคารที่ทยอยประกาศผลประกอบการออกมาแล้ว ให้แนวรับ 1,550 จุด

 

เมื่อเวลา 15.38 น.ดัชนี SET อยู่ที่ 1,548.09 จุด ลดลง 12.74 จุด (-0.82%)

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2587479

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีจ้า เพี่อน พี่น้อง

 

เน็ตตกหลุมอากาศนานไปหน่อยจ้า

 

 

 

 

NationTV22

 

 

 

 

NOW26

 

 

Ylg Bullion

 

 

MTS GOLD GROUP

 

 

NOW26

 

 

Ylg Bullion

 

 

กรมประชาสัมพันธ์

 

 

NationTV22

 

 

NOW26

 

NationTV22

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำวันนี้ วิเคราะห์ โดย Ausiris 23Jan2017

ราคาทองวันนี้ มีปัจจัยส­­­­­­­­­ำคัญอะไรบ้าง ราคาทองจะเป็นเช่นไร รับชมได้ในคลิปนี้ครับ... ติดตามราคาทองคำแบบ Real Time ได้หรือ https://www.ausiris.co.th ติดต...

 

Ylg Bullion

 

 

Ylg Bullion

 

NOW26

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

15095697_1768773606718138_6101214140738501887_n.jpg?oh=3c1eec58619fdc371133925b3f315c72&oe=5911A238

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $10.7 เหตุดอลล์อ่อน,วิตกนโยบาย ทรัมป์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2560 07:32:50 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ยังผลักดันให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 10.7 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ระดับ 1,215.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 15.4 เซนต์ หรือ 0.90% ปิดที่ 17.186 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.40% ปิดที่ 979.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 16.90 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 771.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งติดตามความเคลื่อนของสกุลดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบ 6 สกุลเงินหลัก ปรับตัวลง 0.48% สู่ระดับ 100.15 เมื่อคืนนี้ ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

 

นอกจากนี้ ความวิตกกังวลที่ว่านโยบายเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์อาจส่งผลให้เกิดสงครามการค้าทั่วโลกนั้น ยังทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ เพื่อให้สหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลง TPP อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งทรัมป์มองว่าการดำเนินการดังกล่าว "ถือเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับแรงงานชาวสหรัฐ"

 

นอกจากนี้มีรายงานว่า ทรัมป์เตรียมลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเพื่อให้สหรัฐทำการเจรจาครั้งใหม่ต่อข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟต้า) กับแคนาดาและเม็กซิโก เพื่อไม่ให้สหรัฐเสียเปรียบในการทำการค้า

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2589478

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 47 เซนต์ หลังสหรัฐขุดเจาะน้ำมันเพิ่มขึ้น

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2560 06:51:13 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด และยังได้สกัดปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันได้ปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิตเป็นอย่างดี

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 52.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 26 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 55.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ม.ค.นั้น มีจำนวนเพิ่มขึ้น 29 แท่น สู่ระดับ 551 แท่น

 

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า การผลิตน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่า 6% นับตั้งแต่กลางปี 2016 สู่ระดับสูงสุดในช่วงปลายปี 2014 ซึ่งขณะนั้นปริมาณน้ำมันดิบจำนวนมากของสหรัฐได้ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกทรุดตัวลง

 

ทั้งนี้ ตัวเลขการขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ ได้สกัดปัจจัยบวกจากการที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันได้ปฏิบัติตามข้อตกลงการปรับลดการผลิตน้ำมัน

 

นายคาหลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า การปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตได้เป็นไปอย่างยอดเยี่ยม และเชื่อว่าตลาดกำลังจะกลับสู่ความสมดุลอีกครั้ง

 

กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ โดยผู้ผลิตได้ตกลงให้มีการใช้มาตรการติดตามความคืบหน้าของแต่ละประเทศในเรื่องการปรับลดกำลังการผลิต

 

นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะเป็นการเปิดเผยตัวเลขจากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ส่วนในวันพุธจะเป็นการเปิดเผยตัวเลขจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2589317

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2560 07:36:27 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 ม.ค.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่สะท้อนถึงการกีดกันทางการค้า โดยล่าสุดทรัมป์ได้ได้ลงนามถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงการค้าเสรีหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (TPP) อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นพลังงานปรับตัวลงด้วย

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,799.85 จุด ลดลง 27.40 จุด หรือ -0.14% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,552.94 จุด ลดลง 2.39 จุด หรือ -0.04% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,265.20 จุด ลดลง 6.11 จุด หรือ -0.27%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้แสดงจุดยืนในการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าและปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงนามถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงการค้าเสรีหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (TPP)

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 361.01 จุด โดยปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,821.41 จุด ลดลง 29.26 จุด หรือ -0.60% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,545.75 จุด ลดลง 84.38 จุด หรือ -0.73% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,151.18 จุด ลดลง 47.26 จุด หรือ -0.66%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) จากปัจจัยที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นักลงทุนวิตกกังวลนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งถูกมองว่ามีลักษณะกีดกันทางการค้าและอาจจุดชนวนสู่สงครามการค้าทั่วโลก

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 47.26 จุด หรือ -0.66% ปิดที่ 7,151.18 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด และยังได้สกัดปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันได้ปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดการผลิตเป็นอย่างดี

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 52.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 26 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 55.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ยังผลักดันให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 10.7 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ระดับ 1,215.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 15.4 เซนต์ หรือ 0.90% ปิดที่ 17.186 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.40% ปิดที่ 979.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 16.90 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 771.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) โดยนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งล่าสุดทรัมป์ได้ลงนามถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงการค้าเสรีหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (TPP) อย่างเป็นทางการ

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 113.03 เยน จากระดับ 114.26 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9990 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0014 ฟรังก์สวิส

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0739 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0708 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2494 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2397 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7564 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7562 ดอลลาร์

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,265.20 จุด ลดลง 6.11 จุด, -0.27%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,552.94 จุด ลดลง 2.39 จุด, -0.04%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 19,799.85 จุด ลดลง 27.40 จุด, -0.14%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,821.41 จุด ลดลง 29.26 จุด, -0.60%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,545.75 จุด ลดลง 84.38 จุด, -0.73%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,151.18 จุด ลดลง 47.26 จุด, -0.66%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,117.34 จุด เพิ่มขึ้น 82.84 จุด, +0.31%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,671.31 จุด เพิ่มขึ้น 6.42 จุด, +0.39%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,025.48 จุด เพิ่มขึ้น 14.40 จุด, +0.48%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,250.97 จุด ลดลง 3.34 จุด, -0.06%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,898.52 จุด เพิ่มขึ้น 12.61 จุด, +0.06%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 687.57 จุด เพิ่มขึ้น 1.31 จุด, +0.19%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,374.35 จุด เพิ่มขึ้น 141.69 จุด, +1.96%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,136.77 จุด เพิ่มขึ้น 13.63 จุด, +0.44%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,065.99 จุด เพิ่มขึ้น 0.38 จุด, +0.02%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,891.03 จุด ลดลง 246.88 จุด, -1.29%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,424.05 จุด เพิ่มขึ้น 92.59 จุด, +0.99%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,611.00 จุด ลดลง 43.80 จุด, -0.77%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,668.00 จุด ลดลง 41.70 จุด, -0.73%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2589488

 

(REPEAT) ทรัมป์ลงนามคำสั่งประธานาธิบดีให้สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลง TPP อย่างเป็นทางการแล้ว

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2560 05:58:34 น.

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ เพื่อให้สหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงการค้าเสรีหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (TPP) อย่างเป็นทางการแล้ว

 

ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งประธานาธิบดีดังกล่าวในห้องทำงานรูปไข่ที่ทำเนียบขาว โดยกล่าวว่า การลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลง TPP "ถือเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับแรงงานชาวสหรัฐ"

 

ทั้งนี้ ข้อตกลง TPP ได้เผชิญภาวะชะงักงันในสภาคองเกรส ซึ่งมีแนวโน้มไม่อนุมัติข้อตกลงดังกล่าว

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2589312

 

ทรัมป์อัดญี่ปุ่น,จีนมีพฤติกรรมการค้าไม่เป็นธรรมต่อบริษัทสหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2560 00:07:20 น.

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาญี่ปุ่นและจีนในวันนี้ว่า ทั้งสองประเทศมีพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมต่อบริษัทสหรัฐ

"เราได้พยายามขายรถในญี่ปุ่น และพวกเขาก็ได้กระทำต่อเราเพื่อให้เราไม่สามารถขายรถในญี่ปุ่น นี่เป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม" เขากล่าว

"เวลาที่คุณต้องการขายสินค้าในจีนและประเทศอื่นๆ ก็เป็นเรื่องที่ยากมากๆ ซึ่งในบางกรณี ก็ถือว่าเป็นไปไม่ได้ พวกเขาจะไม่ยอมรับสินค้าของคุณ"

ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์หลังการสาบานตนรับตำแหน่งเมื่อวันศุกร์ โดยมุ่งเน้นนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" โดยการตัดสินใจด้านการค้า, ภาษี, ประเด็นคนเข้าเมือง และกิจการต่างประเทศ จะต้องเอื้อประโยชน์ต่อแรงงานชาวสหรัฐ และครอบครัวชาวอเมริกัน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

แห่สำรองเงินเบิกจ่ายตรุษจีน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- อังคารที่ 24 มกราคม 2560 00:00:37 น.

ไทยโพสต์ * แค่ 3 แบงก์ใหญ่ทยอยสำรองเงินสดรองรับเบิกใช้ช่วงตรุษจีนแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท ดีเดย์ 27 ม.ค. กดปุ่มเปิดพร้อมเพย์

 

นายวรพร ตั้งสง่าศักดิ์ ศรี ผู้ช่วยผู้ว่าการสายออกบัตร ธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ช่วงปลายเดือน ม.ค.นี้เป็นช่วงเทศ กาลตรุษจีน มีความต้องการใช้ ธนบัตรของประชาชนอยู่ใน เกณฑ์ที่สูงกว่าปกติ โดย ธปท. ประมาณการว่าธนาคารพาณิชย์ จะมีการเบิกจ่ายธนบัตรจาก ธปท. ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนเทศกาลตรุษจีน เป็นมูลค่ากว่า 8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3%

 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าธนา คารพาณิชย์ทยอยแจ้งการเตรียมสำรองเงินทั้งในสาขาและผ่านตู้ ATM เพื่อรองรับการเบิกจ่ายของประชาชนมากกว่า 1 แสนล้านบาทไปแล้ว โดยธนาคารกสิกรไทยเตรียมสำรองเงินสดช่วงวันที่ 25-28 ม.ค.นี้ ทั้งสิ้น 50,000 ล้านบาท ผ่าน 1,109 สาขาทั่วประเทศ รวม 21,000 ล้านบาท และผ่าน ATM กว่า 8,900 เครื่อง รวม 29,000 ล้านบาท

 

ธนาคารกรุงเทพเตรียมสำรองเงินสดรวม 35,000 ล้านบาท ผ่านสาขาธนาคาร สาขาไมโครภายในห้างสรรพสินค้ากว่า 1,000 แห่ง และช่องทางบริการ ATM กว่า 10,000 จุดทั่วประเทศ

 

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เตรียมสำรองเงินสดผ่านสาขาและเครื่อง ATM รวม 26,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากปี 2559 แบ่งเป็นสำรองผ่าน ATM จำนวน 19,000 ล้านบาท และผ่านสาขา 7,000 ล้านบาท

 

ด้าน นายอภิศักดิ์ ตันติวร วงศ์ รมว.การคลัง กล่าวว่า ในวันที่ 27 ม.ค.2560 ธนาคารพาณิชย์จะเปิดบริการโอนเงินระหว่างบุคคลผ่านระบบพร้อมเพย์ นอกจากนี้ จะมีการเปิดตัวบริการอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวโยงกันด้วย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment).

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/tpd/2589335

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

NOW26

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า24-JAN-2017

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า24-JAN-2017

AUSIRIS.CO.TH

 

ปฏิทินเศรษฐกิจ

 

บริษัทออสสิริส ค้าทองคำแท่ง เทรดทองคำแท่งออนไลน์ ราคาทองวันนี้

AUSIRIS.CO.TH

 

 

 

 

 

NationTV22

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

HSHsocial

(แก้ไข) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.23 แข็งค่าตามภูมิภาคจากแรงขายดอลล์หลังกังวลนโยบายทรัมป์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2560 09:22:35 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.23 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า

 

 

 

จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.28/30 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาค หลังมีแรงเทขายดอลลาร์ออก

 

มา

"บาทแข็งค่าลงมาเยอะหลังมีแรงเทขายดอลลาร์ ตลาดกังวลต่อนโยบายของทรัมป์ที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะกระตุ้น

 

เศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างไร เพราะสิ่งที่พูดออกมามีแต่เรื่องกีดกันทางการค้าที่อาจส่งผลเสียต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯเอง" นัก

 

บริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ได้ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.20-35.30 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ 112.95 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 113.55 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ 1.0749 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0734 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.2930 บาท/

 

ดอลลาร์

- ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 5 แห่ง ได้สำรองเงินสดและธนบัตรฉบับใหม่ รวม 1.67 แสนล้านบาท รองรับการเบิกใช้

 

จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนวันที่ 23 ม.ค.-3 ก.พ. 60 โดยธนาคารหลายแห่งได้ สำรองเงินสดเพิ่มขึ้น 10-13% ตามทิศทางเศรษฐกิจ

 

ที่ฟื้นตัว ค่าครองชีพราคาสินค้าที่สูงขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจและประชาชนมีการใช้จ่ายสูงขึ้นตาม

 

- ธนาคารกสิกรไทย ระบุว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทปีนี้ ต้องจับตาเงินทุนไหลออกจากไทยกลับไปสหรัฐ

 

จากนโยบายนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะส่งเสริมให้บริษัทสหรัฐกลับประเทศ แต่อีกด้านไทยยังมีเงินลงทุนจากต่าง

 

ประเทศ (เอฟดีไอ) ไหลเข้าต่อเนื่อง แต่ต้องดูว่าเงินเหรียญสหรัฐที่อยู่ในบัญชีเงินฝากสกุลเงินตราต่างประเทศ (FCD) ที่มี

 

ประมาณ 1.4 หมื่นล้านเหรีญสหรัฐ ซึ่งมีต้นทุนเฉลี่ยที่ 34.40 บาท/เหรียญสหรัฐ อาจจะมีการขายออกมาทำกำไรในปีนี้ด้วยก็ได้

 

ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินเช่นกัน

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เร่งขับเคลื่อนการ

 

สร้างเศรษฐกิจชีวภาพ หรือ "ไบโออีโคโนมี" ให้เกิดผลภายในปี 60 หลังจากได้ลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐ เอกชน และ

 

สถาบันการศึกษา รวม 23 หน่วยงานแล้ว เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนการลงทุนด้านไบโออีโคโนมีของประเทศไทย ซึ่งเป็น

 

อุตสาหกรรมอันดับต้น ๆ ที่จะลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อให้สหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงการค้าเสรีหุ้นส่วน

 

ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (TPP) อย่างเป็นทางการแล้ว

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ม.

 

ค.) โดยนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งล่าสุดทรัมป์ได้ลงนามถอน

 

สหรัฐออกจากข้อตกลงการค้าเสรีหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค (TPP) อย่างเป็นทางการ โดยดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อ

 

เทียบกับเยน ที่ระดับ 113.03 เยน จากระดับ 114.26 เยน ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0739

 

ดอลลาร์ จากระดับ 1.0708 ดอลลาร์

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอก

 

จากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ยังผลักดันให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำซึ่ง

 

เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 10.7 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่

 

ระดับ 1,215.60 ดอลลาร์/ออนซ์

- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐวันนี้ ซึ่งได้แก่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค.

 

จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. และสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์จากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API)

 

--อินโฟเควสท์ โดย รัชดา คงขุนเทียน โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2589554

 

เทเรซา เมย์ แจงกลยุทธ์ภาคอุตสาหกรรม หวังปูพื้นฐานรับอังกฤษถอนตัวจากอียู

จับตาศาลฎีกาอังกฤษอ่านคำวินิจฉัยวันนี้ 16.30 น. ว่าด้วยอำนาจนายกฯประกาศ Brexit

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2560 08:15:48 น.

ศาลฎีกาของอังกฤษนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันนี้ เวลา 09.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 16.30 น.ตามเวลาไทย ในประเด็นที่ว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ สามารถประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป เพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาได้หรือไม่

 

ก่อนหน้านี้ ศาลสูงในกรุงลอนดอนมีคำวินิจฉัยในวันที่ 3 พ.ย.ปีที่แล้วว่า รัฐบาลไม่มีอำนาจในการประกาศเริ่มต้นกระบวนการ Brexit โดยรัฐบาลจะต้องขอการอนุมัติจากรัฐสภาก่อนที่จะสามารถดำเนินการดังกล่าว

 

 

 

ทางด้านรัฐบาลอังกฤษได้แสดงความผิดหวังต่อคำวินิจฉัยของศาลดังกล่าว และได้ทำการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

 

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ยื่นคำชี้แจงว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญของอังกฤษที่ไม่มีการบัญญัติไว้นั้น รัฐบาลสามารถทำสนธิสัญญา หรือยกเลิกสนธิสัญญากับประเทศต่างๆ โดยไม่ต้องขอการอนุมัติจากรัฐสภา

 

อย่างไรก็ดี ฝ่ายคัดค้านระบุว่า การประกาศใช้มาตรา 50 จะทำให้ชาวอังกฤษสูญเสียสิทธิที่รัฐสภาเคยให้การอนุมัติไว้ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่จะประกาศยกเลิกสิทธิดังกล่าว

 

ทั้งนี้ หากศาลมีคำวินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจประกาศ Brexit โดยลำพัง ก็จะทำให้รัฐสภามีโอกาสแก้ไขข้อตกลง Brexit ของรัฐบาล หรืออาจคว่ำข้อตกลงดังกล่าว

 

แต่หากศาลมีความเห็นว่านายกรัฐมนตรีสามารถประกาศ Brexit โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา ก็จะทำให้นางเมย์เดินหน้าตามแผนการประกาศใช้มาตรา 50 ในสิ้นเดือนมี.ค. พร้อมกับเริ่มต้นกระบวนการเจรจาแยกตัวจากสหภาพยุโรปเป็นเวลา 2 ปี

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปรียพรรณ โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2589505

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 24 มกราคม 2560 10:01:25 น.

นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เปิดเผยกลยุทธ์ด้านอุตสาหกรรมใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจ ภายหลังจากที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีระดับภูมิภาคที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษเมื่อวานนี้

 

แผนการดังกล่าว มีชื่อว่า การสร้างกลยุทธ์อุตสาหกรรมของเรา ได้ระบุถึงประเด็นสำคัญ 10 หัวข้อ รวมทั้ง การลงทุนในด้านวิทยาศาสตร์ การวิจัย และนวัตกรรม, การพัฒนาทักษะ, ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน, สนับสนุนการเริ่มต้นและการเติบโตของธุรกิจ, ปรับปรุงการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ, ส่งเสริมการค้าและการลงทุนภายในประเทศ, ส่งมอบพลังงานสะอาดและมีราคาเหมาะสม, ปลูกฝังความเป็นผู้นำของโลก, ขับเคลื่อนการเติบโตทั่วประเทศ และสร้างสถาบันที่เหมาะสมสำหรับการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน

 

 

 

อย่างไรก็ดี แผนการดังกล่าวระบุไว้ว่า กลยุทธ์อุตสาหกรรมสมัยใหม่นี้เป้าหมายที่จะปรับปรุงมาตรฐานการดำรงชีวิตและการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มการผลิตและผลักดันการเติบโตทั่วประเทศ

 

กลยุทธ์นี้เป็น "ส่วนสำคัญของแผนการหลังจากที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป โดยจะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศมีความแข็งแกร่งและสังคมมีความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น" นางเมย์กล่าว

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอังกฤษหวังว่า วิธีการใหม่นี้จะช่วย "คว้าโอกาสจาก Brexit เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคน" สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาจรีย์ ธนศุภานุเวช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2589585

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 17 มกราคม 2560 09:21:41 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.43/44 ใกล้เคียงกับเย็นวานนี้ที่ปิด

 

 

 

ตลาดที่ระดับ 35.44 บาท/ดอลลาร์

"คาดว่าเงินบาทน่าจะยังมีทิศทางน่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบ เพราะตอนนี้ไม่ค่อยมีปัจจัยอะไรใหม่ๆที่สำคัญ" นักบริหาร

 

เงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทไว้ระหว่าง 35.40-35.50 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.21/22 จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 114.23 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0603/0604 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0588 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.4360 บาท/

 

ดอลลาร์

- กระทรวงพาณิชย์ สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์และประเมินผลกระทบแผนการออกจากสหภาพยุโรป

 

(เบร็กซิท) ของสหราชอาณาจักรต่อการค้าไทย ซึ่งนายกรัฐมนตรีของอังกฤษจะประกาศแผนเบร็กซิกวันที่ 17 ม.ค.นี้ จนส่งผลให้ค่า

 

เงินปอนด์อ่อนค่าลงอย่างรุนแรง ดังนั้นจึงต้องติดตามผลกระทบ เพราะไม่มีใครทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม้แต่อังกฤษ

 

เอง

- คลัง-ก.ล.ต.-ตลท. เกาะติดปัญหา บจ.ผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบีอีใกล้ชิด หวั่นกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน หลังพบ 4

 

บจ.เบี้ยวหนี้ในเวลาใกล้เคียงกัน แต่เชื่อผลกระทบไม่มากเหตุเป็นตั๋วบีอีที่ขายในวงจำกัด และไม่ได้จัดเรตติ้ง มูลค่าเพียง 0.35%

 

หรือ 368 ล้านบาท จากมูลค่ารวม 3 แสนล้านบาท ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์เตรียมผลักดันให้ บจ.จัดเรตติ้งบีอี ลดความเสี่ยง และ

 

สร้างความเชื่อมั่น

- ศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำเดือนมกราคม 2560 อยู่ที่ 59.63 จุด โดยราคากลับขึ้นมา

 

เป็นเชิงบวกอีกครั้ง จาก 30.04 จุด ในเดือนธันวาคม 2559 ถือเป็นการปรับตัวขึ้นมากถึง 29.59 จุด หรือกว่า 98.50% แสดงให้

 

เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อราคาทองที่น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนแรกของปี 2560 ปัจจัยเชิงบวกที่ส่งผลต่อราคาทองคำ คือ ความไม่แน่

 

นอนของเศรษฐกิจโลก แรงซื้อเก็งกำไร ตามด้วยการซื้อขายตามเทศกาลช่วงปีใหม่และตรุษจีน การอ่อนค่าของค่าเงินบาทและความ

 

ต้องการซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

- กระทรวงการคลังจะเสนอให้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 17 ม.ค. เพื่ออนุมัติการจัดตั้งกองทุนพัฒนา

 

เอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ใช้งบกลางวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ตาม พ.ร.บ.กองทุนหมุนเวียนของกระทรวงการคลัง โดยกระทรวง

 

อุตสาหกรรมเป็นผู้บริหารกองทุนดังกล่าว

- เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้าวันนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกเกี่ยวกับการที่อังกฤษจะเริ่ม

 

ต้นกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะแถลงเกี่ยวกับแผนการแยกตัว

 

ออกจากสหภาพยุโรปในวันนี้

- นักลงทุนจับตาแถลงการณ์ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าจะมีการบ่งชี้การ

 

แยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปอย่างเด็ดขาดหรือไม่ หลังจากที่นางเมย์ส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า จะเดินหน้าถอนตัวออกจาก

 

ตลาดร่วมยุโรป และสหภาพศุลกากรยุโรป เพื่อให้อังกฤษยังคงมีอำนาจควบคุมการเข้าเมืองของชาวต่างชาติ และในการเจรจาการ

 

ค้าแบบทวิภาคี

- นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) กล่าวปาฐกถาที่วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่ง

 

ลอนดอน ว่า ธนาคารกลางอังกฤษมีมาตรการในการรับมือกับแรงกดดันต่างๆจากผลพวงของการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป

 

(Brexit) เพื่อรักษาอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจอังกฤษให้มีเสถียรภาพต่อไป ท่ามกลางกระแสความหวาดวิตกของนักลงทุนจาก

 

ปัญหาความไม่แน่นอนต่างๆที่เกิดขึ้น ก่อนที่นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ จะแจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอน Brexit ในวันนี้ตาม

 

เวลาท้องถิ่น

- ตลาดเงินนิวยอร์ก-ตลาดทองคำนิวยอร์ก ปิดทำการวันจันทร์ที่ 16 ม.ค.เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

 

- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจโลก

 

จะขยายตัว 3.4% ในปีนี้ ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนต.ค. โดยได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบาย

 

ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกมีการขยายตัว 3.1% ในปีที่แล้ว ส่วนในปีหน้าจะมีการขยายตัว 3.6%

 

- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในวันนี้ โดยระบุเตือนถึงมาตรการ

 

กีดกันทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นในตลาด

 

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2585707

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...