ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

15977634_705849492917288_1711171286355748547_n.jpg?oh=98b6e0b166a55702cd79c7db24f84e52&oe=59116E78

 

16003053_1856897701257847_3893368442808314907_n.jpg?oh=8f0f2a29092af3aae3ef249ff0a24ee3&oe=591EDD61

 

ลายพระหัตถ์ของในหลวงองค์ปัจจุบัน

ทรงพระเจริญ

 

NOW26

ทรงพระเจริญ! ลายพระหัตถ์ “ในหลวงร.10” ให้กำลังใจชาวใต้ประสบภัยน้ำท่วม – อิสระโพสต์

วันที่ 13 ม.ค. 60 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา…

ISARAPOST.COM

 

 

15940362_10155005666247922_1757904132061563881_n.jpg?oh=e0b0874a681576101037501ce46a47e1&oe=5916A1C8

 

15078627_10155005666252922_8420854229778883303_n.jpg?oh=55522ff05a9fb86a0a22295fea29dc09&oe=59151B56

 

16003100_10155005666407922_3744258228344812417_n.jpg?oh=365939e539bda98bf3b00b7e61e6f1a9&oe=591848D3

 

อยากเห็นพระอิริยาบถ ที่ทรงผ่อนคลายแบบนี้บ่อยๆ ในข่าวทรงแย้มพระสรวลตลอด ทรงตรัสว่าสนุกดี

 

ขอบคุณภาพ.FB_โครงการ กำลังใจ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จุบุ

Daily Mail

คลิป 5 August 2016 · -pz5JhcNQ9P.png

 

And you thought your first kiss was adorable...

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

พาไปดู.. ตัวอย่างรถมินิบัสที่จะมาแทนรถตู้ ชี้นั่งสบาย-ปลอดภัยกว่า

แม้จะใช้เวลาเดินทางมากกว่า และคล่องตัวน้อยกว่ารถตู้

 

 

 

HILIGHT.KAPOOK.COM|BY KAPOOK

===

==== ว่าด้วยเรื่องสื่อ 15965999_409947882677693_8168243055101041776_n.jpg?oh=4e0046287491cb3619945b598520e38f&oe=5920862F

=====

cr Micheal Yon

‘You Are Fake News!’: Trump and CNN’s Jim Acosta Get Into Shouting Match at Presser. [ Video]

'คุณมันข่าวจอมปลอม!': ทรัมป์ และ จิม อคอสต้า (Jim Acosta) นักข่าวCNN ตะโกนต่อปากต่อคำกันในงานพบปะสื่อมวลชน [มีวีดิโอ]

 

[ผมไม่โทษทรัมป์เลยในเรื่องนี้ ข่าวเท็จและข่าวเต้า เป็นเรื่องเสื่อมเสีย ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคนที่คุณไม่ชอบ ก็ยังคงเป็นความเสื่อมเสียอยู่ดี]

จากข่าว -- มีภาพวีดิโอ:

"ทรัมป์ พุ่งเป้าไปยัง "ข่าวจอมปลอม" กล่าวถึง Buzzfeed ที่ลงเรื่องราวส่วนตัวของเขา โดยไม่มีแหล่งที่มา โดยเรียกพวกนั้นว่า "พวกขยะที่กำลังเน่าเหม็น" แล้วต่อจากนั้น ทรัมป์ก็หันไปเถียงกับผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว CNN ผู้ที่ในงานพบปะสื่อมวลชนครั้งนี้ ก็ถูกต่อว่า เรื่องรายงานข้อสรุป 2 หน้าที่พวกเขาอ้างว่าได้เสนอต่อทรัมป์แล้ว โดยทรัมป์ให้โอกาสผู้สื่อข่าวคนอื่นๆ ในขณะที่ จิม อคอสต้า ตะโกนถามว่า

"ในเมื่อ ท่านได้กล่าวว่าพวกเรา ให้เราถามคำถามท่านสักคำถามได้หรือไม่?"

"ไม่ให้คุณถาม" ทรัมป์ตอบ "องค์กรของคุณ มันแย่มาก!"

จิม อคอสต้า ยังคงไม่ลดละ "ท่านกล่าวหา ด่าว่าองค์กรของเรา ท่านควรอนุญาตให้เราได้ถามคำถามท่านบ้าง, ท่าน?" ทรัมป์โต้กลับโดยบอกเขาว่า "รู้จักรักษามารยาทด้วย"

"ผมจะไม่ให้คุณถาม" ทรัมป์ตอบ "ผมจะไม่ให้โอกาสคุณถามคำถามใดๆ คุณมันข่าวจอมปลอม!.."

[i do not blame Trump for this one. This fake and shoddy news is disgraceful, even when it is about someone you do not like.]

From the story -- watch the video:

"Trump took aim at “fake news” regarding the release of an unverified dossier by Buzzfeed, calling them a “failing piece of garbage.” Following that, he ended up getting into an argument with a CNN reporter, who he also called out during the presser over their report on a two-page synopsis they claim was presented to Trump.

With Trump looking to call on other reporters, Jim Acosta yelled out, “Since you are attacking us, can you give us a question?”

“Not you,” Trump said. “Your organization is terrible!”

Acosta pressed on, “You are attacking our news organization, can you give us a chance to ask a question, sir?” Trump countered by telling him “don’t be rude.”

“I’m not going to give you a question,” Trump responded. “I’m not going to give you a question. You are fake news!.."

http://www.mediaite.com/…/you-are-fake-news-trump-and-cnns…

===

 

เมื่อโลกปฎิเสธการกอบโกยของโซรอส ....ปราชญ์ สามสี ๑๓ มกราคม ๒๕๖๐

นับว่า ช่วง ๒-๓ วันที่ผ่านมานี้ มีข่าวใหญ่ระดับโลก ที่อยู่ในกระแส อยู่พอสมควร กับกรณี ที่รัฐบาลฮังการีประกาศกวาดล้างกลุ่ม NGO ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากจอร์จ โซรอส หลังจากที่นาย ดอนัลด์ ทรัมพ์ ขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

เรื่องดังกล่าวนับเป็นเรื่องน่าจับตามอง อย่างยิ่ง ข้าพเจ้าเชื่อว่า ท่านผู้อ่านน่าจะได้อ่าน บทความ นักวิเคราะห์บางคน ที่เขียนถึงเรื่องนี้ไปแล้วบ้าง

วันนี้ข้าพเจ้าเองก็จะมาจับประเด็นเรื่องนี้ "เจาะลึก"กันครับ

จาก เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา ว่ารัฐบาลฮังการีเตรียมที่กวาดล้างกลุ่มเอ็นจีโอที่ได้รับเงินสนับสนุนจากนายจอร์จ โซรอส โดยฮังการีเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปประกาศว่าจะใช้เครื่องมือทุกชนิด“กวาดล้าง” กลุ่ม NGO เหล่านี้ให้หมดไป หลังจากที่พบว่า นายจอร์จ โซรอส ได้ใช้ ทุน จาก มูลนิธิ Open Society สนับสนุนองค์กร กลุ่ม NGO ในเครือข่ายเพื่อโจมตีรัฐบาลฮังการี ซึ่งประเทศบ้านเกิดของ นาย จอร์จ โซรอส

----------------------

Cr ปารชญ์ สามสี

จากประเด็นดังกล่าวนั้น ทำให้ ต้งกลับมาดูว่า มูลนิธิ Open Society คือใคร และทำไมถึงถูกรัฐบาลฮังการีปฎิเสธอย่างหนัก

ข้าพเจ้าชี้แจงอย่างนี้ครับว่า มูลนิธิ Open Society เป็น หนึ่งในมูลนิธิของนายจอร์จ โซรอส ซึ่งมีเป้าหมายในการ"เปลี่ยนแปลงการปกครอง"ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ให้เป็นระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้ง่ายต่อการแทรกแทรงประเทศนั้นๆ ด้วยการซื้อนักการเมืองเสียงข้างมาก โดยเข้าไปกำหนดทิศทางของสื่อมวลชนในประเทศนั้นๆ เพื่อประชาชนเลือกคนที่ นาย จอร์จ โซรอส ต้องการ

ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีมูลนิธิอีกมากมาย ที่นาย จอร์จ โซรอส เข้าไปสนับสนุน หรือเป็นหุ้นส่วนอยู่ อย่างเช่น มูลนิธิ freedom house , Human Rights Watch, Amnesty, Bertalmann ,The Rockefeller ฯลฯ เป็นต้น และยังรวมไปถึงการแทรกแทรงนโยบายกองทุนของรัฐบาลสหรัฐ อย่าง USAID และ NED อีกด้วย

จึงไม่ต้องแปลกใจเลยครับว่า การที่ นาย จอร์จ โซรอส สมคบคิดกับ รัฐบาลก่อนหน้านี้ของสหรัฐ (ทั้งนาย บารัค โอบาม่า และ นาง ฮิลลารี่ คลินตัน) โดยใช้เงินของรัฐ โจมตีประเทศอื่นเพื่อกอบโกบโกยประโยชน์ส่วนตัว ให้ของ นาย จอร์จ โซรอส และนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลบางคนนั้น เกิดขึ้นบ่อยครั้งเลยทีเดียว (สังเกตได้จากข่าวลับที่หลุดออกมาจาก กรณี DCLEAK,อีเมลของฮิลลารี่ ,และประเด็นของนายสโนวเดน)

จึงไม่ต้องแปลกใจกับ กรณี การเมืองในประเทศสหรัฐ ซึ่งเมื่อการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐผ่านพ้นไป นาง ฮิลลารี่ คลินตัน กลับไม่ได้รับการเลือกตั้งอย่างที่ จอร์จ โซรอส ต้องการ แต่กลับเป็น นาย ดอนัลด์ ทรัมพ์ ได้ขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐด้วยคะแนนเสียงข้างมากจากระบบการเลือกตั้งสหรัฐ นาย จอร์จ โซรอส จึงปลุกม็อบหัวรุนแรง ฐานเสียงฮิลลารี่ ต่อต้านการตำรงตำแหน่งของนาย ดอนัลด์ ทรัมพ์ จนเกือบเกิดเหตุการณ์ #CaliExit ( ๔ รัฐตะวันตกขอเเยกเป็นอิสระ) แต่สุดท้ายนาย ดอนัลด์ ทรัมพ์ ก็ได้ดำรงตำแหน่ง อยู่ดี ... อย่างไรก็ตาม ยังมีแนวโน้มที่ นาย จอร์จ โซรอสจะแทรกแทรงรัฐบาลสหรัฐอย่างต่อเนื่องในอนาคต ผ่านทาง กลุ่ม NGO โดยการปลุกพลังเยาวชน และ จุดกระแส ‘Financial Armageddon’ โจมตีสหรัฐอีกครั้งหลัง จากที่เคยประสบความสำเร็จในในหลากหลายประเทศ (ซึ่งประเทศไทยก็เคยโดนโจมตีเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๔๐)

อย่างไรก็ตาม นาย ดอนัลด์ ทรัมพ์ ดูเหมือนมีแผนการอันสำคัญในการดัดหลังนาย จอร์จ โซรอส พอสมควร ตั้งแต่มีนโยบายเริ่มจับมือ นาย วลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียคนปัจจุบันในการร่วมสร้างสันติภาพในตะวันออกกลาง

ทั้งนี้ ไม่ไช่แค่ประเทศฮังการีเท่านั้นที่ เริ่มทำการกวาดล้างNGO ที่ได้รับการสนับสนุนจาก นาย จอร์จ โซรอส แต่ ยังมีประเทศรัสเซีย ซึ่งเริ่มนโยบายกวาดล้าง องค์กรที่เกี่ยวข้องกับทุนของจอร์จ โซรอส ไปตั้งแต่ ปี ๒๕๕๗ ส่วน ประเทศ อินเดียกำลังเริ่มนะโยบายคัดออกNGO ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ อินเดีย ไปเมื่อ กลางปี ๒๕๕๙ ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแส ที่นาย จอร์จ โซรอส ออกมาเรียกร้องผ่านทางมูลนิธิ freedom house โดยอ้างว่า "เวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ประชาธิปไตยโลกกำลังอ่อนแอ"

นับว่าเป็นการเปิดฉากสงครามความคิดครั้งใหม่ที่ มหาอำนาจหลายประเทศกำลังผนึกกำลังในการจัดการ นาย จอร์จ โซรอส ซึ่งมีแนวโน้มเป็น อาชญากรผู้อยู่เบื้องหลังความขัดแย้งอยางรุนแรงในหลายประเทศ ในหลายประเด็น เช่น ประเด็น ผู้ลี้ภัย , ความขัดแย้งทางศาสนา, ความขัดแย้งเรื่องการแบ่งแยกดินแดน , สงครามกลางเมือง,ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำ และ ความวุ่นวายในโลกสื่อสารมวลชนและวิชาการ เป็นต้น

-------------------------

"ปราชญ๋ สามสี"ขอ ขยายเพิ่มเติม อีกประเด็น คือ มี NGOในประเทศไทย ที่ ได้รับการสนับสนุน โดย นาย จอร์จ โซรอส เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่?

คำตอบคือ มี!

ที่เห็นค่อนข้างชัดเจน คือ กลุ่ม องค์กร อย่าง ประชาไท, กลุ่มILAWs , พลเมืองเน็ต เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้ มีข้อมูลชัดเจนว่า ได้รับเงินจำนวนมากในการเคลื่อนไหวมาตลอด โดยมีเป้าหมาย ในการ โจมตีหน่วยงานรัฐ โดย ขยายแนวคิด "ต่อต้าน ชาตินิยม" - "ต่อต้านกฏหมายคุ้มครองประมุขรัฐ" - ขยายความขัดแย่งทางสังคม ในประเด็น ศาสนา การเมือง และปัญหาท้องถิ่น

ยังมี เงินของ นาย จอร์จ โซรอส บางส่วน สนับสนุน สื่อมวลชน ,นักวิชาการ และ ผู้นำทางสังคม "เป็นรายบุคคล" เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และชี้นำทางการเมือง

และเชื่อหรือไม่ว่า ยังมี"เบาะแสสำคัญ เป็นเอกสาร" ชี้ว่า มูลนิธิ freedom house มีส่วนเกี่ยวพันกับกลุ่มองค์กรที่ต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ในลักษณะ องค์กร ต่อ องค์กร ซึ่ง องค์กรดังกล่าวอาศัยอยู่ในต่างประเทศนี่เอง

มันชัดเจนมานานแล้วว่า ความขัดแย้งในประเทศไทยในหลายๆครั้ง เกิดขึ้นจากโครงข่ายเดียวกันที่มีลักษณะ สนับสนุนกันทั้งทางตรงและอ้อม ซึ่งนับว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง และ "สันติภาพ"ของประเทศไทย

หลังจากที่คุณได้ฟังสิ่งที่ข้าพเจ้าได้เล่า ...เห็นไหมว่า ทุกอย่างล้วนเชื่อมต่อกัน ...

วันนี้ เมื่อสถานะการณ์โลกกำลังเข้าสู่การผนึกกำลังในการขจัด"ทุนสามานต์" ข้าพเจ้าก็อยากจะเห็นบทบาทของประเทศไทยที่จะเข้าร่วมกับมหาอำนาจในการขจัด NGO ที่เป็นภัยต่อสันติภาพโลก เช่นนี้

 

16002995_1619967234978961_6778215889701273536_n.jpg?oh=07f528001a8279ce145a819b91e6d465&oe=58DF0AA4

 

 

 

15965135_1620022311640120_4273691870187029016_n.jpg?oh=c375c48402203dfd847f9e5fe3506387&oe=591EC34B

====

 

กลุ่มเอ็นจีโอของจอร์จ โซรอสกำลังถูกไล่ล่า-ทำเพื่อประชาธิปไตยหรือเพื่อกอบโกย ? โดย ไพสัน

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2017 สำนักข่าวบลูมเบิร์กเสนอข่าวว่ารัฐบาลฮังการีเตรียมกวาดล้าง (sweep out)กลุ่ม NGO ที่รับเงินจากนายจอร์จ…

THAITRIBUNE.ORG|BY THAI TRIBUNE

 

กลุ่มเอ็นจีโอของจอร์จ โซรอส ทำเพื่อประชาธิปไตยหรือเพื่อกอบโกย ?

SIAMMANUSSATI.COM

 

ฮังการีประกาศกวาดล้างกลุ่ม NGO ที่รับเงินสนับสนุนจากจอร์จ โซรอส-แนะนานาชาติร่วมลงมือ

 

 

 

 

รัฐบาลฮังการีประกาศกวาดล้างกลุ่ม NGO ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากจอร์จ โซรอสตอบรับดอนัลด์ ทรัมพ์ ขึ้นรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ…

THAITRIBUNE.ORG|BY THAI TRIBUNE

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

15965346_394080680939210_1190628005436586711_n.jpg?oh=0af4a8620786a986af264f163f5b8743&oe=591BBAD8

cr Amijung Hathaichanok

ไม่มีวันหยุดราชการ"

"...สมัยผมเป็นเลขาธิการ ครม. ต้องทูลเกล้าฯ ถวายเอกสารใส่ซองขนาดใหญ่สีขาวเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ทรงรับสั่ง ต่อไปหน้าซองไม่ต้องเขียนเลขที่หนังสือ จะได้หมุนเวียนกลับมาใช้หลายหน ไม่ต้องทิ้ง แม้แต่เรื่องเล็กๆ ก็ควรประหยัด.. เวลาร่างกฎหมาย โปรดให้ถวายปะหน้า ๒ แผ่น เผื่อว่าทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วหมึกซึมเลอะ จะได้ประหยัดเวลา ไม่ต้องรอถวายใหม่ เวลาตั้งรัฐมนตรีใหม่ จะต้องเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ จะตรัสว่า...

"ให้รีบมาจะได้รีบไปทำงาน ไม่ต้องห่วงว่าติดวันเสาร์อาทิตย์ ประเทศไทยพระเจ้าแผ่นดินไม่มีวันหยุดราชการ..."

( ศ.ดร.วิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี )

====

 

 

[Live] รายการ ดูให้รู้ ตอน ในหลวงในดวงใจคนญี่ปุ่น | วันนี้ (4 ...

[Live] รายการ #ดูให้รู้ ตอน ในหลวงในดวงใจคนญี่ปุ่น | วันนี้ (4 ธ.ค. 59) เวลา 17.30 - 18.00 น. หลังการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของคน ไทย ดูให้รู้ เดินทางไปหลายภูมิภาคในญี่ปุ่น เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกที่คนญี่ปุ่น มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ชมสดทางทีวีดิจิทัล #ThaiPBS #ช่องหมายเลข3

ชมทีวีออนไลน์ : www.thaipbs.or.th/live

ชมย้อนหลัง : www.thaipbs.or.th/Dohiru

 

https://www.facebook.com/ThaiPBSFan/videos/vb.330743535084/10157928721200085/?type=2&theater

 

15261702_10157928810395085_1936993442626273280_n.jpg?oh=d138687dff4d4135351d0996a66106bd&oe=59106C64

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

15940687_10154751223675211_5853076697225020028_n.jpg?oh=6554828ea5fcd00f9d43cec828b02310&oe=58E11F8A

เนชั่นสุดสัปดาห์ฉบับล่าสุด (13 ม.ค.60)..พ.ศ.นี้ ไม่มีเลือกตั้ง

 

ท่านสามารถดาวน์โหลดเนชั่นสุดสัปดาห์ฉบับเต็มทั้งเล่ม ได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้

 

http://www.aisbookstore.com/info.aspx?mid=NATIONSUDSUPDA (รองรับระบบ ios และ android)

....

http://itunes.apple.com/th/app/nationweekend/id496524609?mt=8 (สำหรับระบบ ios เพื่อ iphone และ ipad แบบมัลติมีเดีย)

....

http://www.nationweekend.com/home/member/m_register.php (สำหรับเวบเนชั่นสุดสัปดาห์อ่านเรื่อง ได้ไฟล์ PDF ทั้งเล่ม และอ่านย้อนหลังได้)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธ. สถิตในดวงใจนิรันดร์

..เมื่อพ่อหลวงทรงผนวช" ๒๒พฤศจิกายน๒๔๙๙

ภาพชุดทรงผนวช งดงาม ทรงคุณค่า

 

15941427_162659654219309_116421369321593048_n.jpg?oh=e5a4f794dce0095b5a89447149d52ee9&oe=58E06565

 

15977855_162659670885974_3461425473091300793_n.jpg?oh=f71ff89aadf636f3fc160aec301928e5&oe=591B45EF

 

15940912_162659724219302_2574341421744130762_n.jpg?oh=e315f486f1321afbedc723c03c8f79df&oe=590E9E58

 

15978093_162659757552632_3571102520381007541_n.jpg?oh=aa8916ddf95934fe58fec9279e348fe1&oe=591EFA3E

 

15895279_162659770885964_1500690389447836132_n.jpg?oh=f7f2a1f32f87ddf55636ea7dc8b7cef8&oe=591F44C0

 

15940837_162659790885962_2410077211370383925_n.jpg?oh=9623e9f2a3c67732f97b602f09966074&oe=59203A0A

 

15940912_162659824219292_8710590859810803610_n.jpg?oh=9279861028154740605a5887835f7952&oe=58E0CC13

 

15977079_162659844219290_8068426579273506385_n.jpg?oh=b0379dbc46b553bfb0e7d229d23486ae&oe=591AA384

 

15940798_162659900885951_5897056427899934100_n.jpg?oh=e028f02af3242861061f6956e3ff9293&oe=5923F4E6

 

15977328_162659920885949_1152036430916210226_n.jpg?oh=391c49b1eb818cd07470be2d291adf33&oe=59136F66

 

15940430_162659940885947_7442459276790374819_n.jpg?oh=0768e0f879e6bd239c696bbd75d7c260&oe=591966CF

 

15977362_162659964219278_8825363618480731762_n.jpg?oh=be3cc01dd8844d32d028ecc8cd6396e6&oe=591BFBDD

 

15941476_162659994219275_1443758849688383749_n.jpg?oh=d86a66643113cdecbbf7f834ea8a9309&oe=5913D01B

 

15977037_162660017552606_8222566585841264926_n.jpg?oh=c50dda2e4e3f5b4d26c67171244bac57&oe=591E7038

 

15590043_162660050885936_6651092972942659287_n.jpg?oh=1a13c39963cd9f54b8c4b48a9f8d0f34&oe=58D8500A

 

15966085_162660080885933_376800547477941213_n.jpg?oh=efb7be135021810af9a5da62b77b225b&oe=5911CB88

 

16003233_162660104219264_4234550908491794245_n.jpg?oh=1c103efc56fcf22b6fb9f21fdd242634&oe=590E5DAE

 

15965735_162660134219261_5434437931934093560_n.jpg?oh=b2666a73fea61da89a42bc42c51df32e&oe=5910484C

 

15941319_162660157552592_7598269029911939505_n.jpg?oh=b81f7d7a808108c2c5cb614603af48a3&oe=590DD1FF

 

15940722_162660184219256_5033439665729780770_n.jpg?oh=e9303c9b5afcf02bf3a9b53b516b32d0&oe=590C6113

ขออนุญาติแชร์

 

 

 

 

 

 

รพีพร ต้องการพานิช added 20 new photos.

8 hrs ·

-pz5JhcNQ9P.png

 

ภาพเก่าเล่าเรื่อง...เมื่อพ่อหลวงทรงผนวช" ๒๒พฤศจิกายน๒๔๙๙"

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

15965186_1545426962138654_1475775916222955881_n.jpg?oh=ff9917c7e0f5f65e85bd99dea3574027&oe=590CC455

 

 

15894954_1856519824628968_8352189527681371083_n.jpg?oh=b5b07a926e2449aafbf66e4f1ac8a5a9&oe=5922B42E

Deep Blue Sea ‏

รอดู.

อาทิตย์นี้ ใครจะได้คุยโทรศัพท์กับบิ๊กตู่แบบสดๆ รับบริจาคช่วยใต้ ออกTV11เผยนายกฯอาจเซอร์ไพร้ซ์ร้องเพลง เตรียมLive สด คุยชาวบ้านน้ำท่วม

 

15940829_1377655345613897_5714860141417188110_n.jpg?oh=d60cc2006c682e29932dc0641f364f0b&oe=5910817C

ศาสตราจารย์พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้กล่าวในหัวข้อ “กฎหมายกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม: ความท้าทายต่อกระบวนการยุติธรรมไทย” โดยมีรายละเอียดที่

 

http://thaipublica.o...jaran-8-9-2558/

http://m.posttoday.com/analysis/report/475355…

http://m.posttoday.c...Fm.facebook.com

 

“เชฟรอน”โดนแน่ คลังเตรียมเรียกเงินภาษีคืนกว่า 3พันล้าน!

ผู้จัดการออนไลน์ - คลังเตรียมสั่งสรรพาสามิต-สรรพากรประเมินทันที หลังได้รับผลตีความเป็นทางการจากกรมศุลกากร เชฟรอนต้องจ่ายย้อนหลังกว่า 3,000 ล้านบาท

 

 

 

 

MANAGER.CO.TH|BY MGRONLINE LIVE

 

 

 

ชัดเจนพอมั๊ย..ภัยทุนนิยมสามานย์!!!"เวเนซุเอลา"เคยร่ำรวยสุดๆจากราคาน้ำมันพุ่ง วันนี้ปท.วิก

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

 

DEEPS.TNEWS.CO.TH

 

 

 

 

"พล.อ.ประยุทธ์" เดินหน้าปรองดอง หวังคนในชาติเลิกทะเลาะกัน ปิดประตูปรองดองคนแดนไกล (รายละเ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม : WWW.TNEWS.CO.TH

 

POLITIC.TNEWS.CO.TH

 

 

 

15966040_1284464951597372_11789097228564520_n.jpg?oh=d778b29dc499ae00381b3c94761f9936&oe=59238534

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

15965785_1162889123827981_6900868925701918792_n.jpg?oh=02f23ec81728846a4b0aaa1d91f8f654&oe=5917DF1F

นิทรรศการพลังแผ่นดิน อัศจรรย์งานศิลป์แผ่นดินสยาม

วันที่ ๑๒ มกราคม ปีพุทธศักราช ๒๕๖๐

นับได้ ๙๒ วัน นับแต่วันสวรรคต

เมื่อน้ำตาข้าพเจ้าร่วง

 

ครั้งนั้นบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทอันเป็นที่ประดิษฐานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ซึ่งได้เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถวายบังคมพระบรมศพ และได้เข้าเฝ้าใกล้ชิดใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระภัทรมหาราช เมื่อเสด็จขึ้นทรงถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระเชษฐาธิราชเจ้าในพระบรมโกศ

หน้าที่ตำรวจหลวงของข้าพเจ้า คือการนำเสด็จพระราชดำเนินไปพร้อมกับสมุหราชองครักษ์ คือ พลเรือโทหลวงสุรณรงค์ ประชาชนพากันเบียดเสียดเยียดยัดตามสองข้างทางเสด็จพระราชดำเนินที่ปูลาดพระบาทเอาไว้ ตอนที่เสด็จเข้าไปตอนแรกๆก็ไม่มีอะไร แต่แล้วทันใดนั้นนิสิตหญิงของจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยคนหนึ่งได้ล้ำเส้นกั้นออกมา ก้มศีรษะลงถวายบังคมแทบพระบาท เมื่อเสด็จไปถึง ไม่ถวายบังคมเปล่า เอามือจับข้อพระบาทดึงไว้กับที่ด้วย ทรงไม่ได้ทันระวังพระองค์ด้วยไม่คิดว่าจะมีผู้มายึดพระบาทด้วยความเคารพ จึงซวนพระวรกายไปข้างหน้าพระหัตถ์ข้างหนึ่งเกาะไหล่สมุหราชองครักษ์ไว้เพื่อพยุงพระวรกาย

มหาดเล็กเห็นดังนั้นจึงกรากเข้าเคลียร์พื้นที่ เพราะประชาชนต่างก็พากันแตกแถวด้วยต้องการจะเข้าใกล้ชิดบ้าง เสียงมหาดเล็กร้องว่า...

"...อย่าเข้ามาขวางทางเสด็จพระราชดำเนินครับ หลีกทางเข้าไปอยู่เส้นกั้นครับ ขอความกรุณา..."

ข้าพเจ้าอยู่ใกล้ชิดที่สุดก็พลอยถูกเบียดจนซุนไปมา เท้าข้างหนึ่งของข้าพเจ้าเลยไปกระทบถูกข้อมือของนิสิตหญิงผู้นั้น จนหลุดออกจากการเกาะกุม ทำให้เสด็จพระราชดำเนินต่อไปได้ ความชุลมุนสิ้นสุดลง เมื่อเสด็จไปถึงที่ประทับแล้ว ก็ทรงประทับให้ประชาชนได้ชมพระบารมีทั่วหน้ากัน ข้าพเจ้าถอยออกไปยืนอยู่ในที่ที่อันได้จัดไว้สำหรับตำรวจหลวง

ทันใดนั้นท่าน ( นายพิมาณบริรักษ์ ) ได้เข้ามากระซิบว่า...

"...เฉลิมศักดิ์ ทรงมีรับสั่งให้เข้าเฝ้าเดี๋ยวนี้เลย..."

ข้าพเจ้าคลานเข้าไปหมอบกราบแทบพระบาทรอฟังพระราชกระแสรับสั่งเพียงได้ยินสองต่อสองด้วยข้อความสั้นๆ ว่า...

"...คนเรานั้นมีระเบียบไม่เหมือนกัน ทำอะไรต้องนึกถึงข้อนี้ด้วย..."

ข้าพเจ้าเย็นวาบไปทั้งตัวในระหว่างที่ชุลมุนจนเท้าของข้าพเจ้าไปกระแทกข้อมือของนิสิตหญิงผู้นั้น จนหลุดจากการเกาะกุมข้อพระบาท ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจ คงจะทรงทอดพระเนตรเห็นเข้าพอดี ทรงเห็นว่าคนทั่วไปดูแล้วอาจจะคิดไปว่าข้าพเจ้า ซึ่งเป็นข้าในพระองค์ใช้เท้าปัดข้อมือของนิสิตหญิงผู้นั้น ทั้งๆ ที่เป็นการชุลมุนก็ตามที ทรงเตือนให้ข้าพเจ้าได้ตระหนักถึงการกระทำทุกอย่างที่ได้แสดงออกไปจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ทั้งนี้ด้วยว่าข้าพเจ้าเป็นข้าในพระองค์นั่นเอง ทรงเตือนข้าพเจ้าให้ได้รู้ว่าระเบียบวินัยหรือกฎที่ตั้งไว้นั้น บางครั้งก็ต้องอนุโลมไปตามสถานการณ์

น้ำตาของข้าพเจ้าไหลคลอด้วยความสำนึกตัว รุ่งเช้าขึ้นข้าพเจ้าเข้าไปตักน้ำมนต์หน้าพระอุโบสถหลวงพ่อพระแก้วมรกต มาผสมน้ำรดหัว และในระหว่างผสมน้ำมนต์นั้น ได้ปฏิญาณตนว่าจะไม่ทำซุ่มซ่าม หรือทำกิริยาที่จะทำให้ทรงมีพระราชดำรัสเตือนอีกเป็นครั้งที่สอง ด้วยว่าความผิดนี้เป็นความผิดที่เป็นรอยด่างในใจของข้าพเจ้า ที่ไม่มีวันจะลืมเลือนแม้จะได้เกษียณอายุราชการออกมาแล้ว จนถึงวันที่เขียนต้นฉบับนี้ ข้าพเจ้าไม่เคยทำพลาดเช่นนั้นอีกเลย

#คัดจากหนังสือเรื่องหลังจากวังหลวง บันทึกความทรงจำของอดีตตำรวจหลวง เฉลิมศักดิ์ รามโกมุท

สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์ น้อมศิระกรานต์ กราบแทบพระยุคลบาท ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

____________________________________

#KingBhumibol

#สมเด็จพระภัทรมหาราช

#รักในหลวงคิดถึงในหลวงสุดหัวใจ

#ฉันรักพระองค์มาตั้งแต่จำความได้

#ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

#สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์

#ฉันเกิดในรัชกาลที่๙

#นั่งนับวันที่พ่อจาก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บอกรักประเทศไทย

 

====

 

15825903_1412755618748997_4597882254049667907_n.jpg?oh=8a0058c63ee158b10044b046a03b9c8e&oe=58DE22C6

 

 

๑๐๐ พระชันษา สมเด็จพระสังฆราช

 

น้ำพระทัยอันเด็ดเดี่ยวในการปกป้องพระพุทธศาสนา

กรณีปัญหาวัดพระธรรมกายเมื่อครั้งในอดีต

ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ฯ

พระองค์ได้เคยมีพระลิขิตเกี่ยวกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ดังต่อไปนี้

.

ฉบับที่ ๑

" ความบิดเบือนพระพุทธธรรมคำสอน โดยกล่าวหาว่าพระไตรปิฎกบกพร่อง เป็นการทำให้สงฆ์ที่หลงเชื่อคำบิดเบือน แตกแยกออกไปกลายเป็นสอง มีความเข้าใจความเชื่อถือพระพุทธศาสนาตรงกันข้ามเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา ทำสงฆ์ให้แตกแยกเป็นอนันตริยกรรม มีโทษทั้งปัจจุบันและอนาคตที่หนัก ส่วนที่มิใช่เป็นการลงโทษ แต่เป็นการกระทำที่ถูกต้อง คือ ต้องมอบสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระให้แก่วัดทันที "

.

( หลังจากที่สมเด็จพระสังฆราช ได้มีพระลิขิตฉบับที่ ๑ ออกมาแล้วนั้น พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายก็ยังมิได้คืนทรัพย์ทั้งหมดแก่วัด สมเด็จพระสังฆราชจึงมีพระลิขิตฉบับอื่นๆ ตามมาดังต่อไปนี้ )

.

ฉบับที่ ๒

" การไม่ยอมคืนสมบัติให้วัด ในขั้นต้นอาจมิใช่มีเจตนาถือเอาเป็นของตน แต่เมื่อถึงอย่างไร ก็ยังไม่ยอมมอบคืนสมบัติทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขณะเป็นพระให้แก่วัดก็แสดงชัดแจ้งว่าต้องอาบัติปาราชิก ต้องพ้นจากความเป็นสมณะ โดยอัตโนมัติ ต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกับผู้ไม่ใช่พระปลอมเป็นพระ ด้วยการนำผ้ากาสาวพัสตร์ไปครอง ทำความเศร้าหมองเสื่อมเสีย ให้เกิดแก่สงฆ์ในพระพุทธศาสนา "

.

ฉบับที่ ๓

" การโกงสมบัติผู้อื่นตั้งแต่ 5 มาสกขึ้นไปคือประมาณไม่ถึง 300 บาทในปัจจุบัน ภิกษุนั้นต้องอาบัติปาราชิกฐานผิดพระธรรมวินัยพ้นจากความเป็นพระทันที ในกรณีนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้รู้เห็นหรือไม่ ไม่ว่าจะมีการสั่งให้สึก ไม่ว่าจะมีการจับสึกหรือไม่ก็ตาม

 

ภิกษุผู้ละเมิดพระธรรมวินัยข้อนี้ต้องอาบัติปาราชิก พ้นจากความเป็นพระโดยอัตโนมัติ ที่ประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรก็เพื่อเตือนให้รู้ทั่วกันว่า ผู้ต้องอาบัติปาราชิกนั้นไม่ใช่พระในพุทธศาสนา เป็นเพียงผู้นำผ้ากาสาวพัสตร์ไปครอง เป็นพระปลอม

ต่อจากนั้นย่อมเป็นหน้าที่โดยตรงของผู้รักษากฎหมาย หรือของผู้มีหน้าที่ในการพุทธศาสนา จะต้องรักษาพระพุทธศาสนาไม่ให้มีพระปลอมมาทำลาย ทำให้เสื่อมเสีย เช่นที่ผู้รักษากฎหมายเคยทำมาแล้ว เคยบังคับให้เป็นผู้ปลอมเป็นพระ ถอดผ้ากาสาวพัสตร์ออกจากตัว การปฏิบัติต่อพระปลอมต้องไม่มีแตกต่างกัน ต้องไม่มียกเว้นว่า คนนั้นปลอมได้คนนี้ปลอมไม่ได้ เป็นพระปลอมมีอยู่ในพุทธศาสนาไม่ได้ทั้งนั้น

ประกาศนั้นเป็นคำบอกเล่าเป็นคำเตือนให้รู้ เป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับมหาเถรฯไม่บังคับให้เชื่อ ไม่บังคับใครให้ทำอะไร แสดงความถูกผิดให้ปรากฏอยู่เท่านั้น ในฐานะที่เป็นประมุขแห่งสงฆ์ในพระพุทธศาสนา จึงต้องทำหน้าที่ส่วนตนให้เรียบร้อยถูกต้อง บอกความจริงด้วยความหวังดีมิได้บังคับ จงเข้าใจทั่วกัน "

.

ฉบับที่ ๔

" ในกรณีเกี่ยวกับเรื่องวัดพระธรรมกาย เราได้ทำหน้าที่ของสมเด็จพระสังฆราชสมบูรณ์ตามอำนาจแล้ว จึงไม่มีอะไรจะพูดอีกขณะนี้ ขออนุโมทนาทุกท่านที่สนใจห่วงใยพระพุทธศาสนา แสดงความเป็นคนดี ด้วยมีกตัญญูกตเวทิตาธรรม "

.

ฉบับที่ ๕

" ได้แจ้งให้เป็นที่เข้าชัดเจนดีทั่วกันแล้วก่อนหน้านี้ ว่าในตำแหน่งผู้เป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลสังฆปริณายก ได้ทำหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องอดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อเทิดทูนรักษาพระพุทธศาสนาให้พ้นถูกทำลาย สมบูรณ์ดีที่สุดแล้วตามอำนาจ ท่านกรรมการมหาเถรสมาคมทั้งหลายจะทำอะไรต่อไปตามความต้องการ จะไม่มานั่งฟัง รับรู้ในที่ประชุมวันนี้ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 "

 

====

12742826_960100540705751_8995798360346447789_n.jpg?oh=068f2d043e03eae12a352b948b2746a6&oe=5920A70C

 

 

สังฆราชองค์ใหม่ กับคดีธัมมชโย

 

ไทยโพลต์

 

 

 

20170115tab.jpg

..........................

ปฏิรูปสงฆ์ยังมีก๊อกสอง

สนช.ขยับแก้อำนาจ มส.

หลังที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติแก้ไขมาตรา 7 ของ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ เพื่อถวายคืนพระราชอำนาจในการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2560 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวลงมาแล้ว และอยู่ระหว่างการรอโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20

การเคลื่อนไหวของ สนช.ที่แก้มาตรา 7 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ แบบม้วนเดียวจบเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ชนิดหลายคนคาดไม่ถึงแม้แต่วงการสงฆ์ ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว สนช.โดยคณะอนุกรรมาธิการ ศาสนา และกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีการศึกษาและจัดทำข้อเสนอแก้ไขมาตรา 7 ดังกล่าวมานานแล้ว แต่เพิ่งมาประจวบเหมาะเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม พบว่า สนช.โดยเฉพาะอนุ กมธ.ศาสนาฯ ที่เป็นต้นเรื่องในการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ ดังกล่าว กำลังจะเสนอให้ สนช.และรัฐบาลมีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเกี่ยวกับวงการพระพุทธศาสนาอีก 2 ฉบับ เพื่อเป็นการปฏิรูปวงการพระพุทธศาสนา โดยจะเสนอให้แก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ เพื่อปรับปรุงโครงสร้าง มหาเถรสมาคม (มส.) ที่หากทำสำเร็จ จะทำให้สถานภาพและอำนาจของ มส.ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก

การเคลื่อนไหวดังกล่าว สมพร เทพสิทธา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ-ประธานอนุ กมธ.ด้านการศาสนา สนช. ซึ่งเคลื่อนไหวให้มีการแก้ไขมาตรา 7 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ มาร่วมกว่า 20 ปี แต่เพิ่งมาสำเร็จในยุค คสช. บอกว่า อนุ กมธ.ศาสนาฯของสนช.เห็นควรว่าตอนนี้วงการพระสงฆ์มีปัญหามาก จำเป็นต้องมีการปฏิรูป จึงกำลังจะเสนอปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ อีกครั้งในเร็วๆ นี้ เพราะโครงสร้างอำนาจของ มส.ตามกฎหมายปัจจุบันมีการรวบอำนาจ ไม่มีการกระจายในการบริหารและปกครองสงฆ์ การลงโทษทางวินัยสงฆ์ โดยการบริหารของ มส.ก็มีพระสงฆ์พูดกันเองว่า รูปแบบปัจจุบันไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมองว่าด้วยโครงสร้างของ มส.ปัจจุบัน จึงทำให้เกิดปัญหากับวงการสงฆ์อย่างมากในช่วงที่ผ่านมา เห็นได้จากกรณี พระธัมมชโย ซึ่งหากไม่ได้ใช้ระบบแบบ มส.ในตอนนี้ แต่ใช้รูปแบบ คณะวินัยธร เหมือน พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2484 ป่านนี้ปัญหาพระธัมมชโยจบไปนานแล้ว เพราะมีพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก อดีตสมเด็จพระสังฆราชได้ทรงวินิจฉัยไว้ชัดเจนว่า พระธัมมชโยต้องปาราชิกไปนานแล้ว แต่ที่ผ่านมา มส.กลับไม่ได้ดำเนินการใดๆ จึงควรต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ ซึ่งยังคงให้มีมส.อยู่ แต่เปลี่ยนโครงสร้างให้ มส.ทำหน้าที่แบบองคมนตรี คือเป็นที่ปรึกษาของสมเด็จพระสังฆราช

ประธานอนุ กมธ.ศาสนาฯ สนช. กล่าวว่า ที่ผ่านมาอนุ กมธ.ศาสนา ร่วมกับสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ ได้ฟังความเห็นจากฝ่ายต่างๆ เรื่องสถานการณ์พุทธศาสนาในปัจจุบัน ฟังทั้งฝ่ายบรรพชิต ฆราวาสอย่างกว้างขวางรอบด้าน จนสรุปได้ว่าสถานการณ์พุทธศาสนากำลังมีปัญหาหลายประการ มีภัยทั้งภายนอกและภายใน อย่างเช่นก่อนหน้านี้สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ได้เขียนไว้ในหนังสือ "ภัยของพุทธศาสนาในประเทศไทย" ไว้ว่า มีทั้งภัยภายนอกและภัยภายใน แต่ที่น่ากลัวคือภัยภายใน ภัยข้างนอกแม้รุนแรง แต่หากคณะสงฆ์และมหาเถรสมาคม รวมถึงชาวพุทธมีความเข้มแข็ง ภัยภายนอกก็ทำอะไรไม่ได้

 

พระที่มีความรอบรู้ และผมนับถือท่านหนึ่งก็เคยบอกไว้ว่า ภัยของพุทธศาสนาน่าเป็นห่วง ที่น่าห่วงมากสุดคือ พระภิกษุของเราไม่ได้ประพฤติตามพระธรรมวินัย หากพระสงฆ์ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ก็ส่งผลทำให้พระธรรมวินัยวิปริต บิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้าอันนี้น่าเป็นห่วงมาก

ต้องยอมรับกันตรงๆ ว่า มส.ที่มีหน้าที่ดูแลการปกครองคณะสงฆ์ให้เรียบร้อย รวมถึงเรื่องการศึกษาของพระสงฆ์ ซึ่งพระพุทธเจ้าได้บอกไว้ว่า คนที่เข้ามาต้องเข้ามาเพื่อการศึกษา หากชาวพุทธทั้งภิกษุสงฆ์และฆราวาสไม่ได้ทำการศึกษาไตรสิกขา 3 อย่างคือ ศีล สมาธิ ปัญญา ก็น่าห่วง ท่านพระชยสาโรภิกขุ (อดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดป่านานาชาติ จังหวัดอุบลราชธานี) ท่านเคยบอกไว้ว่า ในด้านปริมาณ คนไทยส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ แต่ถ้าในเชิงคุณภาพท่านไม่รับรองว่า มีพุทธแท้ที่เข้าถึงไตรสิกขาสักกี่เปอร์เซ็นต์ หลังมีคนไปถามท่านว่าเมื่อไหร่จะกลับอังกฤษ ท่านก็บอกว่าทำไมไปห่วงคนอังกฤษ คนอังกฤษไม่มีปัญหาหรอก แต่คนไทยมีปัญหาจึงอยากขออยู่เมืองไทย ถามว่าคนไทยเข้าถึงพระพุทธศาสนาหรือไม่ คนไทยยังเข้าไม่ถึง

อ.สมพร-ประธานอนุ กมธ.ศาสนา บอกว่า ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นกับวงการพระพุทธศาสนา จึงมีความจำเป็นต้องมีการปฏิรูป คือ ปฏิรูปพระและฆราวาส พุทธบริษัททั้ง 4 ให้เข้าถึงหัวใจของพระพุทธศาสนา ศาสนาประกอบด้วย ศาสนวัตถุ ศาสนพิธี ศาสนบุคคล ที่เป็นเปลือก แต่เรามักติดอยู่กับเปลือก โดยเฉพาะที่น่าเป็นห่วงคือ ยึดติดกับอาจารย์ของตัวเอง เช่นที่ยกย่องพระธัมมชโยจนถึงยอมตายได้เลย อันนี้ก็น่าชื่นชม แต่มันผิดคำสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่ได้ตั้งศาสนบุคคลแทนท่าน แต่ให้มีพระธรรมวินัย ดังนั้นชาวพุทธต้องเคารพพระธรรมวินัย ไม่ใช่ตัวบุคคล ยิ่งหากตัวบุคคลบิดเบือนพระธรรมวินัย อันนี้คือภัยศาสนา เพราะฉะนั้น คนไทยพุทธบอกตรงๆ ว่าไม่รู้ว่าพระองค์ไหนจริงหรือเทียม เก่งแต่ดูพระเครื่อง แต่พระที่ดีจริงๆ กลับดูไม่เป็น

 

...มีคนชอบมาขอให้ผมดูพระเครื่องให้ ผมบอกเลยว่า ผมไม่เคยสนใจเลยพระองค์ไหนศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ชาวพุทธหลงงมงายชอบดูพระเครื่อง องค์ไหนของแท้ราคาแพง แต่กลับไม่รู้เลยว่าพระรูปไหนที่เป็นพระแท้ พระองค์ไหนที่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย รู้เรื่องไตรสิกขาจริงหรือไม่ นั่นแหละคือพระแท้ แบบนี้ต้องสอนกันใหม่แล้ว ปฏิรูปพระด้วย ปฏิรูปพุทธศาสนิกชนด้วย

ประธานอนุ กมธ.ศาสนาฯ สนช. พูดถึงความคืบหน้าการศึกษา พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายว่า ในส่วนของมหาเถรสมาคมนั้น ขอเล่าย้อนให้ฟังว่า เรื่อง มส.ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อปี พ.ศ.2505 ที่มีการออกกฎหมายคณะสงฆ์ หลังจากก่อนหน้านั้นเคยมีกฎหมายคณะสงฆ์ออกมาเมื่อปี พ.ศ.2484 ที่ถือว่าเป็นกฎหมายสงฆ์ที่เหมาะสมที่สุด อันเป็นการออกสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกฯ ที่ตอนนั้น จอมพล ป. กำลังส่งเสริมประชาธิปไตย จึงออกกฎหมายฉบับนี้โดยแบ่งการปกครองคณะสงฆ์ตามรูปแบบของรัฐบาล มี 3 อำนาจ คือ บริหาร ให้เป็นอำนาจของสังฆมนตรี-อำนาจนิติบัญญัติก็ให้เป็นสังฆสภา ส่วนอำนาจตุลาการก็เป็นของคณะวินัยธร

 

ต่อมาสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ท่านเป็นเผด็จการ ท่านเป็นคนรวบอำนาจ ก็เลยไปแก้กฎหมายคณะสงฆ์ให้มีลักษณะรวบอำนาจแบบท่าน ก็เลยยกเลิก 3 อำนาจ แล้วตั้งเป็น มส.คุมอำนาจทั้ง 3 อย่างหมดเลย ซึ่งจุดนี้คือเหตุแห่งความเสื่อมของการปกครองคณะสงฆ์

ประธานอนุ กมธ.ศาสนาฯ มองว่า หากเรามี 3 อำนาจเหมือนแบบเดิม โดยเฉพาะการให้มีคณะวินัยธร คอยพิจารณานิคหกรรมของพระสงฆ์เรื่องธรรมกาย ธัมมชโยไม่ยืดเยื้อแน่นอน แต่ที่ยืดเยื้อเพราะอำนาจไปอยู่ที่ มส. แทนที่จะให้คณะวินัยธร

“ถามว่าทำไมเรื่องถึงไม่ไปถึง มส.ก็ต้องบอกตรงๆ ว่ามันมีการเห็นแก่กลุ่มเห็นแก่พวก”

... ก็รู้กันดี ทั้งที่กรณีพระธัมมชโย ท่านสมเด็จพระญาณสังวรฯ ได้มีพระลิขิตชัดเจนว่าธัมมชโยประพฤติผิดวินัยร้ายแรงถึงขั้นปาราชิก มส.ต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาว่า ที่ลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวรถูกต้องหรือไม่ แต่กลับไม่มีการนำเข้าพิจารณาเลย กลับบอกว่าท่านอาพาธ แล้วแต่งตั้งสมเด็จองค์หนึ่งมารักษาการ แล้วก็ไม่มีการนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม มส.ถามว่าผิดหรือไม่ผิด

สมพร-สนช. ย้ำว่า ปัญหาที่กล่าวถึงแสดงให้เห็นว่า นี่คือการบริหารที่ไม่ยึดถือพระธรรมวินัย มส.จึงต้องอยู่ในพระธรรมวินัย ถามว่าทำไมไม่นำเรื่องนี้มาพิจารณา ผ่านมา 2 สมัยแล้ว ผมทนไม่ได้ถึงได้พยายามจะแก้กฎหมายคณะสงฆ์ ที่กำลังทำอยู่ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่ผ่านมาเราพลาดไปแล้ว ที่ไปแก้ปี 2535 เรื่องการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช ไปเพิ่มเงื่อนไขว่าต้องเสนอสมเด็จพระราชาคณะที่มีสมณศักดิ์สูงสุด ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีแบบนั้น เมื่อกฎหมายมันผิดก็ต้องแก้กฎหมาย สนช.ไม่ได้ทำอะไรรวบรัด ผมศึกษาเรื่องนี้มาหลายปี จึงแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ เพื่อถวายคืนพระราชอำนาจ

 

สำหรับการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ที่จะทำเป็นข้อเสนอของอนุ กมธ.ศาสนาฯ ต่อจากนี้ ประธานอนุ กมธ.ศาสนาฯ บอกว่า เป็นความคิดเห็นของอนุ กมธ.ศาสนา สนช.ว่า พ.ร.บ.คณะสงฆ์ตอนนี้มีปัญหา ปัญหาคือการบริหารงานของคณะสงฆ์ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร โดยเฉพาะการลงโทษพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัยที่มีมากมายเต็มไปหมด เพราะเราขาดคณะวินัยธรที่มีอำนาจในการวินิจฉัย อะไรอะไรก็ต้องให้ มส. แต่เรื่องก็ไม่ถึงสักที

ผมเคยฟ้องธัมมชโย แต่เรื่องไม่เคยเข้าไปถึง มส.เลย เพราะมีคนกลั่นกรองเยอะ มาหาว่าผมไม่ใช่ผู้เสียหาย ทำไมผมจะไม่เสียหาย ก็ผมเป็นพุทธศาสนิกชน ความเห็นของพระบางรูปที่ไม่ยอมนำเรื่องธัมมชโยเข้าที่ประชุม มส.ให้พิจารณาดำเนินการ ผมเห็นว่าไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นอยากให้รัฐบาล คณะสงฆ์ ควรปรับปรุง พ.ร.บ.คณะสงฆ์

 

สมพร-สนช. ซึ่งเป็นประธานสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า เรื่องการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ เพื่อปรับโครงสร้าง-อำนาจของ มส. ทางพระเถระชั้นผู้ใหญ่ โดยเฉพาะท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (พระธรรมปิฎก) ท่านพูดเรื่องนี้มานานแล้ว ว่า พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ปัจจุบันไม่เหมาะสม ควรมีการแก้ไขให้เหมาะสม

...ก็มีการขอแก้ 2 ประเด็น คือ กฎหมายต้องรองรับพระธรรมวินัย ส่งเสริมให้พระปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ตอนนี้พระไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ก็ยังไม่กล้าไปแตะต้อง อันนี้คือความผิดพลาด รวมถึงต้องส่งเสริมเรื่องการศึกษาของพระสงฆ์ ให้พระสงฆ์มีไตรสิกขา ผมบอกตรงๆ ต่อให้เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูง ผมไม่แน่ใจว่าท่านรักษาพระธรรมวินัยครบหรือไม่ เป็นที่เคารพของชาวพุทธหรือไม่ ถามว่าทำหน้าที่ถูกต้องหรือไม่ ที่จะให้มีการนัดหมายชุมนุมอะไรกัน ไม่ใช่หน้าที่ของพระสงฆ์เลย แต่ก็ยังมีคนไปนับถือ

 

...ประเด็นที่มีการคุยกันเพื่อเสนอให้มีการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ก็คือจะเสนอให้กลับไปใช้ตามโครงสร้างแบบปี 2484 เพราะที่มาแก้ไขตอนปี 2505 และใช้อยู่ตอนนี้ มันมาในทางที่ไม่ถูกต้อง จึงต้องแก้ไขกฎหมายคณะสงฆ์ให้กลับไปมีการกระจายอำนาจ

ความจริงเรื่องนี้ มีความคิดจะแก้ไขกันมาแล้ว โดยตอนปี 2542 กระทรวงศึกษาธิการมีการตั้งคณะทำงานศึกษาแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์แล้ว ซึ่งตอนนั้นคณะสงฆ์โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ท่านก็เห็นชอบที่จะให้มีการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ให้มี 3 อำนาจ คือ มหาคณิสสร หรือสังฆมนตรีเดิม อำนาจที่ 2 คือ สังฆสภา และอำนาจที่ 3 คือ คณะวินัยธร ได้มีการพิจารณากฎหมายเสร็จแล้ว มีการส่งให้กรรมการกฤษฎีกาพิจารณา และกฤษฎีกาก็พิจารณาเสร็จแล้ว โดยให้ฝ่ายต่างๆ เสนอความเห็นไป ตอนนั้นผมเป็นประธานสภายุวพุทธฯ ปี 2545 ได้ทำจดหมายถึงกรรมการกฤษฎีกา ทำความเห็นประกอบไปด้วย

...ผมจำได้ว่า กฤษฎีกามีการประชุมกัน 2-3 ครั้ง ในเรื่องการแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ มีการคุยกันเรื่องการแก้ไขมาตรา 7 ด้วย ผมก็เสนอกฤษฎีกาไปว่า ควรถวายคืนพระราชอำนาจในเรื่องการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช แต่มีกฤษฎีกาบางคนแย้งว่า เราไม่ควรไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาท แต่ผมเห็นว่า ไม่ใช่การไม่ควรไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาท แต่เป็นเรื่องการไม่ควรไปลิดรอนอำนาจของพระมหากษัตริย์

 

“ในอดีตตอนกำลังจะแก้ไขกฎหมายคณะสงฆ์ แต่มีคนในสำนักงานกฤษฎีกาบางคนมากระซิบผมตอนนั้นว่า มีคำสั่งเบื้องบนให้ระงับการพิจารณาการแก้ไขกฎหมายคณะสงฆ์เสีย คำสั่งเบื้องบนไปตีความเอาเองว่าใครกัน ก็เป็นคำสั่งเบื้องบนที่ให้ถอนฟ้องคดีธัมมชโย”

เรื่องนี้ผมอยากบอกตรงๆ ว่าหากผู้บริหารประเทศมีคุณธรรม ต้องสนับสนุนกฎหมายสงฆ์ที่ยึดถือคุณธรรมเป็นหลัก การกระจายอำนาจดีกว่าการรวบอำนาจ ถ้าเรามีคณะวินัยธร พวกพระที่ทำผิดทั้งหลายแล้วหนีไปต่างประเทศจะทำไม่ได้ ที่ผ่านมาพวกพระที่ทำผิดแล้วหนีไป ไม่เคยมีเลยที่ มส.ลงโทษว่าผิด

ผมจึงเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องปฏิรูป ปรับปรุงกฎหมายคณะสงฆ์ในปัจจุบัน พระที่คัดค้าน เพราะเสียผลประโยชน์ของท่าน ท่านกลัวที่จะเสียอำนาจ

ประธานอนุ กมธ.ศาสนา สนช. บอกว่า แนวทางการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ จะให้ยึดถือแนวทางตามร่างที่เคยยกร่างกันมาแล้ว กฤษฎีกาเมื่อปี 2545 ที่กฤษฎีกาเวลานั้นเห็นชอบด้วย คือจะมีการให้มหาเถรสมาคมเป็นองค์กรที่ปรึกษาแบบเดียวกับองคมนตรี ทำหน้าที่เสนอแนะสมเด็จพระสังฆราช แต่การบริหารก็เป็นเรื่องของมหาคณิสสร

"สมเด็จพระญาณสังวรฯ ท่านทรงเห็นชอบด้วยกับแนวทางนี้ ถือเป็นการมองการณ์ไกลของคณะสงฆ์ในเวลานั้น แต่สมัยนี้ไม่ยอมกลัวตัวเองจะหมดอำนาจ อันนี้ผมไม่ได้ว่าใคร เราต้องการพระสงฆ์ที่เป็นสุปฏิปันโน ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ไม่เห็นแก่อำนาจ หากเป็นพระที่เห็นแก่อำนาจไม่เหมาะสมแน่"

 

อย่างไรก็ตาม "อ.สมพร" บอกว่า การเสนอแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ ดังกล่าวเพื่อปรับโครงสร้างของ มส.และรูปแบบการปกครองคณะสงฆ์นั้น ตอนนี้ยังไม่มั่นใจท่าทีรัฐบาลว่าจะเอาด้วยหรือไม่ ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะกล้าแก้ไหม แต่ก็พยายามจะพูดให้นายกฯ เข้าใจ แต่คณะสงฆ์คงไม่ยอมแก้แน่ นอกจากจะมีสมเด็จพระสังฆราชที่อยู่ในธรรม ผมก็หวังไว้ แต่สมเด็จพระญาณสังวรฯ ท่านทรงเห็นชอบด้วยที่จะแก้กฎหมาย และท่านก็ไม่ขัดข้องที่จะยกฐานะมหาเถรสมาคมให้ไปเป็นที่ปรึกษา ท่านยินดีสละอำนาจในการบริหาร เพราะท่านเป็นพระที่ประเสริฐ ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย

...หากมีการเสนอแก้ไขกฎหมายก็จะทำให้การปกครองคณะสงฆ์มีการกระจายอำนาจ เปลี่ยนจากระบบการรวมศูนย์อำนาจ เพราะเราเชื่อว่าการกระจายอำนาจดีกว่าการรวมศูนย์อำนาจ ต้องให้มีการถ่วงดุลอำนาจและต้องให้ตรวจสอบอำนาจได้

ถามถึงเสียงสนับสนุนจาก สนช.ด้วยกันเอง หากสุดท้ายมีข้อเสนอและการเคลื่อนไหวให้มีการพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ จะมีความเป็นเอกภาพเหมือนตอน สนช.แก้ไขมาตรา 7 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ หรือไม่ ประธานอนุ กมธ.ศาสนาฯ ที่เป็น สนช.ที่อาวุโสสูงสุด ประเมินว่า ก็เป็นหน้าที่ของพวกเรา หากพวกเราเห็นพ้องต้องกันแบบตอนแก้มาตรา 7 ก็ทำได้ รัฐบาลบอกตรงๆ ไม่อยากขัดใจคณะสงฆ์ มหาเถรสมาคม นายกฯ ถึงบอกว่าไม่อยากจะให้เกิดการขัดแย้งกัน แต่เมื่อคณะสงฆ์ไม่ยอมแก้เพราะหวงอำนาจ รัฐบาลจะมาให้ สนช.ทำก็ได้ แต่จริงๆ สนช.ก็อยากให้เริ่มจากฝ่ายบริหารมากกว่า

 

..อย่าไปคิดว่าเรื่องของสงฆ์ ฆราวาสไม่ควรมาเกี่ยวข้อง เรื่องการเสนอแก้กฎหมายสงฆ์นี้ ผมเคยพูดกับ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีหลายครั้ง ส่วนกับนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์เอง ผมก็เคยทำหลายเรื่องเสนอไปยังนายกฯ หลายเรื่องท่านก็เห็นชอบด้วย

ประธานอนุ กมธ.ศาสนาฯ สนช บอกว่า การปฏิรูปวงการสงฆ์ดังกล่าวที่จะต้องมีการเสนอกฎหมายออกมาขับเคลื่อนนั้น อนุ กมธ.ศาสนาฯ เห็นว่านอกจากการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ แล้วควรต้องมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.อีกฉบับเข้าไปด้วย คือ ร่าง พ.ร.บ.อุปถัมถ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ควบคู่ไปกับร่าง พ.ร.บ.ปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ฯ

..เรื่องแนวทางร่าง พ.ร.บ.อุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา เป็นเพราะหากไปดูตอนที่มีการออก รธน.ปี 2540 ตอนนั้น รธน.ในอดีตเคยเขียนไว้ว่ารัฐต้องอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น เมื่อมี รธน.เขียนออกมาแบบนี้ก็ต้องมีกฎหมายลูกเพื่ออุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา ผมต่อสู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2540 โดยเฉพาะตอนอยู่สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แต่ไม่สำเร็จ ที่ไม่สำเร็จเพราะไม่ได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายสงฆ์ เพราะท่านเกรงไปว่าหากมี พ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา จะเป็นการไปลิดรอนอำนาจของท่าน ท่านบอกให้ผมระงับความคิดนี้ พยายามจะให้ถอนเรื่องออกไป อันนี้คือความจริง

สำหรับหลักการก็คือ ให้รัฐต้องอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาใน 4 ด้าน เช่น ศาสนวัตถุ ศาสนสถาน คือวัด ต้องพัฒนาวัด โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วม ปัจจุบันชาวบ้านไม่มีส่วนร่วม ทุกอย่างอยู่ที่เจ้าอาวาส สังคมปัจจุบันการมีส่วนร่วมเป็นเรื่องสำคัญ ต้องมีคณะบริหารวัด ไม่ใช่ให้อยู่ที่เจ้าอาวาสหมด หมดสมัยไปแล้ว รัฐจึงควรส่งเสริมและอุปถัมภ์ใน 4 ด้าน โดยเฉพาะศาสนธรรม เพราะหากพุทธบริษัทช่วยกันศึกษาธรรมปฏิบัติธรรม ช่วยกันป้องกันภัยพุทธศาสนา ทำวัดให้เป็นวัด ทำพระให้เป็นพระ ทุกอย่างก็จะสำเร็จ

เมื่อถามถึงปัญหาพระภิกษุทำผิดพระธรรมวินัยจำนวนมาก เหตุใดที่ผ่านมาผู้เกี่ยวข้องจึงไม่มีการจัดการ ประธานอนุ กมธ.ศาสนาฯ สะท้อนปัญหาให้ฟังว่า จริงๆ มีอยู่แล้วแต่การบังคับกฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ พระที่ทำผิดต้องมีการพิจารณาลงโทษตามขั้นตอน ไล่ตั้งแต่เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด แต่ที่ผ่านมาก็พบมีปัญหา เช่น เคยพบเจ้าคณะจังหวัดจังหวัดหนึ่งท่านบอกว่า โยม...อาตมาเป็นเจ้าคณะจังหวัด ปกครองคณะสงฆ์ ยังไม่รู้เรื่องเลย แล้วมาให้พิจารณาพระสงฆ์ทำผิด แบบนี้ก็ไม่มีทางสำเร็จ

 

กรณีพระสงฆ์ทำผิดต้องเริ่มที่เจ้าคณะตำบล แต่ถามตรงๆ เจ้าคณะตำบลท่านรู้เรื่องกฎหมายหรือ แล้วบางทีท่านก็กลัว ท่านบอกอาตมากลัวเป็นไข้โป้ง เพราะพระที่ทำผิดเป็นพระนักเลงเยอะ พกปืน ทางเจ้าคณะตำบลก็ไม่อยากไปยุ่ง เจ้าคณะจังหวัดก็ไม่อยากยุ่ง

“อย่างคดีพระธัมมชโย ที่ยืดเยื้อเพราะผู้เกี่ยวข้องไม่อยากยุ่ง เพราะผู้ทำผิดมีอิทธิพล ในทางโลกคนทำผิดมีอิทธิพลเยอะ ในทางธรรมก็เหมือนกัน อย่าปฏิเสธว่าไม่มีเลย จึงต้องมีกลไก เป็นคณะวินัยธร เหมือนคณะผู้พิพากษา แต่อย่างผู้พิพากษาเวลาตัดสินคดีก็ไม่ได้มีคนเดียว หากฝ่ายสงฆ์มีคณะวินัยธรก็ต้องมีอิสระในการพิจารณาคดี”

..

หลังมีสมเด็จพระสังฆราช

ยื่น มส.รื้อคดีธัมมชโย

สำหรับผู้ติดตาม คดีธัมมชโย มาตลอดตั้งแต่ปี 2542 ที่มีการแจ้งความกองปราบปรามกล่าวโทษพระธัมมชโยในคดีอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานเบียดบังยักยอกทรัพย์และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จนธัมมชโยต้องตกเป็นจำเลยต่อศาลอาญา แต่ต่อมาอัยการสูงสุดได้ถอนฟ้องในปี 2549 จะพบว่านอกจาก คดีทางโลกดังกล่าว ในส่วนคดีทางสงฆ์ก็มีคนยื่นเรื่องให้มหาเถรสมาคมดำเนินการเช่นกัน ซึ่งคนที่ยื่นเรื่องในช่วงนั้นปี 2542-2543 ก็คือ นายสมพร เทพสิทธา ประธานยุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ กับนายมานพ พลไพรินทร์ อดีตผู้เชี่ยวชาญกรมการศาสนา ที่ร้องต่อ มส.ว่าพระธัมมชโยประพฤติผิดละเมิดพระธรรมวินัยและละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ แต่ มส.ก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ มาจนถึงปัจจุบัน

อ.สมพร-ประธานอนุ กมธ.ศาสนาฯ บอกว่า ปัญหาพระธัมมชโยจะไม่ยืดเยื้อถึงทุกวันนี้หากที่ผ่านมา มส.รับผิดชอบโดยนำพระลิขิตกรณีธัมมชโยของสมเด็จพระญาณสังวรฯ อดีตสมเด็จพระสังฆราช มาพิจารณาในที่ประชุม มส.แล้วลงมติ เรื่องก็เรียบร้อย โดยหาก มส.ลงมติว่าเห็นชอบด้วยกับพระลิขิต ด้วยการลงมติให้พระธัมมชโยต้องพ้นจากความเป็นภิกษุเพราะปาราชิก-ก็จบ ไม่ต้องส่งคนไปบุกวัดธรรมกาย

 

ส่วนที่ มส.เคยแถลงก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้วว่า มส.ไม่สามารถพิจารณาเรื่องนี้ได้เพราะคดีทางโลกจบไปแล้ว เนื่องจากขั้นตอนการพิจารณาความของคณะสงฆ์ก็เหมือนทางโลก สมพร-อดีตผู้ยื่นเรื่องให้ มส.ดำเนินการกับพระธัมมชโย ตั้งคำถามว่า ขอถาม มส.ว่าท่านเคารพพระลิขิตพระบัญชาของสมเด็จพระญาณสังวรฯ หรือไม่ ทำไมไม่นำเรื่องเข้าที่ประชุม มส. ผู้รักษาการสมเด็จพระสังฆราชต้องนำพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวรฯ เข้าที่ประชุม มส. แต่ที่ไม่นำเข้าเพราะอะไร

“ทางออกคือ เมื่อมีสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่แล้ว ก็นำเรื่องนี้เข้าพิจารณาได้เลย ผมบอกตรงๆ ผมก็เคารพ มส. แต่ไม่เข้าใจและไม่เห็นด้วยที่ไม่นำพระลิขิตไปพิจารณา ผมถือว่าท่านไม่เคารพในพระลิขิตของสมเด็จพระญาณสังวรฯ ที่พวกเราเคารพ ก็นำเรื่องนี้เข้าพิจารณาว่าผิดจริงหรือไม่ ผมผิดหวังใน มส."

 

..กรณีธัมมชโยมันเกิดมากี่ปีแล้ว ผมเชื่อสมเด็จพระญาณสังวรฯ ถ้าหากพระธัมมชโยไม่ผิดจริง ท่านไม่มีพระลิขิตออกมาหรอก ท่านมีเมตตากรุณา แล้วท่านประพฤติตามพระธรรมวินัย ท่านไม่เข้าข้างใคร ท่านไม่มีอคติกับใคร แต่ที่ท่านมีพระบัญชาต้องมีความจริง ไม่อย่างนั้นผมคงไม่ไปเป็นคนฟ้องพระธัมมชโย

เมื่อถามว่าหลังมีการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชแล้ว มส.สามารถหยิบยกเรื่องพระธัมมชโย ประพฤติผิดพระธรรมวินัยมาพิจารณาอีกครั้งได้หรือไม่ ประธานอนุ กมธ.ศาสนาฯ สนช.-ประธานสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ เผยว่า ผมก็จะเสนอเรื่องไปยัง มส.ในฐานะประธานสภายุวพุทธฯ ซึ่งเรื่องนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติต้องถือว่าเป็นหน้าที่ในการดำเนินการ โดยต้องกล้าเป็นที่ปรึกษาและกล้าเสนอต่อ มส.

ตั้งคำถามไปว่า ทำไมที่ผ่านมา มส.ถึงไม่ดำเนินการกับธัมมชโย อ.สมพร ออกตัวว่า ผมไม่ได้พูดเอง แต่มีพระท่านพูดเองว่าการบริหารงานของ มส.ไม่มีประสิทธิภาพ ผมไม่ได้พูดเอง คุณก็ดูเองสิ หากมีประสิทธิภาพปัญหาเรื่องพระประพฤติผิดพระธรรมวินัย และกรณีพระธัมมชโยไม่น่าจะยืดเยื้อมาหลายปี

 

..สำหรับธัมมชโยจริงๆ ผมก็สงสาร ท่านธัมมชโยเคยเรียนที่สวนกุหลาบ เคยเป็นสมาชิกชมรมยุวพุทธฯ ผมเคยสอนท่าน และผมก็เคยสนับสนุนท่าน ตอนตั้งวัดธรรมกายผมก็ชื่นชม แต่ตอนหลังพอท่านเปลี่ยนความคิดผมก็ถอนออกมา

 

"ตอนที่ผมเคยฟ้องดำเนินคดีพระธัมมชโย ลูกศิษย์ของท่านจะมาทำอะไรผม ตอนนั้น สมเด็จวัดสามพระยา หรือคุณเสฐียรพงษ์ วรรณปกยังโดนเล่นงาน ผมก็ต้องเอาตำรวจมาเฝ้า แต่ผมทราบข่าวมาว่าท่านได้ห้ามลูกศิษย์ท่านไว้ว่า อย่าไปทำอะไรอันตรายอาจารย์สมพร ผมไม่ได้มีเจตนาอะไรไม่ดีกับพระธัมมชโย ผมก็สวดมนต์ทุกวัน ใครที่คิดผิดขอให้กลับใจ ผมดูแล้วท่านก็มีแต่ทรงกับทรุด”

...เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ มส.ที่จะพิจารณา แต่ที่ผ่านมา มส.ไม่ทำหน้าที่นี้ ถ้า มส.นำมาพิจารณาเรื่องก็จบแน่ ทั้งที่เรื่องนี้เป็นเรื่องของพระธัมมชโย ไม่ใช่เรื่องของวัด ผมก็ไม่สบายใจหากจะมีการยกกำลังไปบุกวัดธรรมกาย อาจจะมีการปะทะกัน จะเป็นบาปกรรม ก็อยากให้รอสักพัก จะได้ให้จบโดยเรียบร้อย โดยให้ใช้วิธีการทางพระธรรมวินัยที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง

- ที่ผ่านมาทำไมธัมมชโยถึงอยู่ได้ ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ เป็นเพราะมีการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่?

 

เรื่องนี้แน่นอนไม่ต้องปฏิเสธ ถ้าไม่มีการเมืองมาสนับสนุนท่านไม่แข็งแกร่งหรอก เรื่องนี้จะจบลงด้วยกฎแห่งกรรม ใครทำดีได้ดี ใครทำกรรมชั่วจะได้รับชั่ว สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกได้เขียนไว้ว่า อำนาจในโลกนี้ไม่มีอำนาจใดที่จะเหนือกว่าอำนาจของกรรม ท่านหนีกฎหมายได้ แต่ท่านหนีกฎแห่งกรรมไม่ได้.

====

 

เปิดพระลิขิต 5 ฉบับ สมเด็จพระสังฆราชฯ ชี้ “ธัมมชโย” อาบัติปาราชิก

จากกรณีปัญหาเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายและธัมมชโย ในปี 2542 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้มีพระลิขิตที่ถูกเผยแพร่จำนวน 5

 

 

ดำเนินรายการโดย : ก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้ร่วมรายการ : 1. คุณไพบูลย์ นิติตะวัน…

 

 

====

 

มส.ยัน'ธัมมชโย'ไม่ต้องอาบัติปาราชิก ยกเหตุเรื่องยุติที่ศาลชั้นต้นไม่มีอุทธรณ์ ส่งหนังสือชี้แจงดีเอสไอภายใน 12 ก.พ.นี้

 

เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2559 ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐมได้มีการประชุมคณะกรรมการมหาเถรสมาคม(มส.)โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานการประชุมโดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง

 

นายชยพล พงษ์สีดา รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวแถลงผลประชุมมส.ว่า ที่ประชุม มส.ได้เห็นชอบร่างหนังสือชี้แจงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีการตอบสนองพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช และข้อกล่าวหาคดียักยอกทรัพย์ของพระเทพญาณมุณี (พระธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย

 

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ พศ.และผู้แทน มส.ได้หารือกับ ดีเอสถึง 2 ครั้ง โดยร่างหนังสือชี้แจงมีสาระโดยสรุปว่า พศ.และ มส.ยืนยัน ได้ตอบสนองต่อพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช กรณีพระธัมมชโยอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะมีการตีความว่า พระลิขิต เป็นพระบัญชาหรือพระดำริก็ตาม ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ในช่วงปี 2542 - 2544 มส.ได้มีการประชุมหารือในเรื่องนี้นับ 100 ครั้ง

 

นายชยพล กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินคดีทางสงฆ์ใช้กฎนิคหกรรมฉบับที่ 11 ตามพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 หากเปรียบในคดีทางโลกจะเริ่มต้นจากศาลชั้นต้น โดยมีเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี รองเจ้าคณะภาค และเจ้าคณะภาค ร่วมกันพิจารณา ซึ่งในช่วงปี 2542 ที่มีการยื่นฟ้องคดีทางสงฆ์กล่าวหาพระธัมมชโย ซึ่งขณะนั้นดำรงสมณศักดิ์ที่พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ซึ่งคณะพิจารณาของศาลชั้นต้นทางสงฆ์ไม่รับคำร้องของผู้ยื่นฟ้องคดี 2 คน คือ นายสมพร เทพสิทธา และนายมาณพ พลไพรินทร์ เนื่องจากคำร้องไม่สมบูรณ์และศาลชั้นต้นทางสงฆ์ได้เปิดโอกาสให้อุทธรณ์ภายใน 30 วัน แต่ผู้ยื่นฟ้องคดีไม่มายื่นอุทธรณ์และได้ถอนฟ้องไป 1 คน ทำให้การพิจารณาคดีในทางสงฆ์ต้องยุติลง และไม่มีการพิจารณาไปถึงกระบวนการที่ชี้ชัดว่า พระธัมมชโยอาบัติ ปาราชิก หรือไม่ ดังนั้น คดีทางสงฆ์จึงไปไม่ถึงการพิจารณาในขั้นศาลอุทธรณ์ทางสงฆ์ คือเจ้าคณะใหญ่หนกลาง และไม่ถึงขั้นศาลฎีกาทางสงฆ์ คือ มส.

 

ขณะที่ผู้ยื่นฟ้องคดีทางสงฆ์ก็ได้มีการยื่นฟ้องคดีทางโลกพร้อมกันไปด้วย แต่ในเวลาต่อมาผู้ร้องขอถอนฟ้องทำให้อัยการถอนฟ้องคดี ส่งผลให้คดีทางโลกสิ้นสุดลงไปด้วย หากจะมีการฟ้องร้องพระธัมมชโยอีกก็จะต้องเป็นข้อกล่าวหาในคดีอื่นๆ ที่เป็นคดีใหม่ ซึ่งไม่ใช่กรณีข้อกล่าวหายักยอกที่ดิน โดยผู้ที่ต้องการฟ้องคดีทางสงฆ์ก็จะต้องไปยื่นฟ้องที่เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นเจ้าคณะปกครองโดยตรง

 

รองผอ.พศ.กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ทางดีเอสไอ มองว่า ทางมส.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 หรือไม่ กรณีของพระธัมมชโยยืนยันว่า พศ.และมส.ได้ดำเนินงานเรื่องนี้อย่างเต็มที่แล้ว ส่วนการมองว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละฝ่าย ทั้งนี้ พศ.และส่งหนังสือชี้แจงดีเอสไอโดยเร็วที่สุดในวันที่ 11 ก.พ. หรืออย่างช้าก็ไม่เกินวันที่ 12 ก.พ.นี้

 

ดีเอสไอรอฟังมติอย่างเป็นทางการจากพศ.

 

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะรองโฆษกดีเอสไอ กล่าวภายหลังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)มีมติที่ประชุมเกี่ยวกับประเด็นอาบัติปาราชิกของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ตามลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช สืบเนื่องจากคดียักยอกทรัพย์และที่ดินว่า ดีเอสไอจะขอดูรายละเอียดจากเอกสารชี้แจงตามประด็นคำถามที่ดีเอสไอสอบถามไปเป็นข้อจากพศ.ก่อน อย่างไรก็ตาม การอาบัติปาราชิกหรือไม่นั้น ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องการทราบ โดยสิ่งที่ดีเอสไอต้องการทราบคือมีการดำเนินการตามกฏหมายในเรื่องดังกล่าวครบถ้วนหรือไม่ ประกอบด้วย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 พระธรรมวินัย และกฏมหาเถรสมาคม นอกจากนี้ดีเอสไอยังได้แจ้งให้พศ.และมส.รับทราบด้วยว่า ทั้ง 2 หน่วยงานมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายทั้ง 3 ฉบับอย่างไร ทั้งนี้เชื่อว่ามติของมส.วันนี้(10ก.พ.)น่าจะมีรายละเอียดอธิบายว่าได้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวไปแล้วอย่างไร เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ ควรได้รับการชี้แจงให้กระจ่างว่ามีการดำเนินการไปแล้วหรือไม่

12654208_916518008463369_3274471660574807727_n.jpg?oh=c3dff88cd7680053841d5e0c6ae8ab8f&oe=5910ACC5

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รัฐพร้อมรับมือฝนห่าใหญ่16-18ม.ค.เตือนภาคใต้ระวังภัย

 

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ พร้อมมาตรการรับมือฝนระลอกใหม่ช่วง 16-18 มกรานี้

 

THAIPOST.NET

 

 

ด่วนที่สุด !!! สั่ง 5 จังหวัด 23 อำเภอภาคใต้ เตรียมพร้อม 24 ชั่วโมง !!!

ติดตามรายละเอียด deeps.tnews.co.th

 

DEEPS.TNEWS.CO.TH

 

 

 

 

รับศพ'ผู้พันแอร์'สมเกียรติ ทอ.ปูนบำเหน็จพิเศษ7ขั้น-เลื่อนยศ'พลอากาศโท' (ประมวลภาพ)

15 ม.ค.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ท่าอากาศยานทหารกองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นประธานในพิธีรับศพ…

 

NAEWNA.COM

 

 

 

พุทธะอิสระ ฉะแฉ ถามฝ่ายตรงข้าม เป็นพระเหรอ?

 

 

 

 

 

 

 

เปิดโปงกลวิธีสร้างฐานอำนาจของธรรมกาย ไม่เกี่ยวกับการเมืองจริงหรือ !!

 

Cr Paisal Puechmongkul

ตามที่อัยการสั่งไม่ฟ้องคดีรถหรู เพราะเหตุคดีขาดอายุความ ไม่ทำให้พ้นมลทินตามที่ตีฆ้องร้องป่าวกัน

1 เมื่ออัยการสั่งคดีแล้ว ต้องส่งไปให้ dsi พิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าจะเห็นชอบหรือไม่ ซึ่ง dsi มีอำนาจยืนยัน ความเห็นให้สั่งฟ้องก็ได้

2 กรณีการสั่งไม่ฟ้องเพราะเหตุขาดอายุความ ไม่ได้หมายความว่าผู้ต้องหาพ้นมลทิน เป็นแต่ว่าจะฟ้องคดีไม่ได้ ซึ่งแสดงว่ามีการละเลยเพิกเฉยละเว้นไม่ทำหน้าที่จนคดีอาญาขาดอายุความ มลทินยังดำรงอยู่ความเศร้าหมองยังคงอยู่ แต่ใครจะถูกดำเนินคดีแทนก็ต้องติดตามกันต่อไป

3 กรณีที่มีการสั่งไม่ฟ้อง ยังมีกรณีตามมาคือการติดตามยึดอุปกรณ์ที่ประกอบเข้าเป็นรถหรูที่เลี่ยงภาษี

ดังนั้นมลทินและความเศร้าหมอง จึงยังอยู่ครบถ้วนทุกประการ

 

'แม้วถูกถลกหนัง-ฝังกลบ NGO'

 

 

 

เห็น "ประกาศกรมอุตุฯ" เหี่ยวเลย ที่ท่วมโครมๆ ยังไม่ทันลด มาใหม่อีกแล้ว! "ช่วงวันที่ ๑๖-๑๘ มกรา........... จะมีฝนตกหนัก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส"

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Issaradham was live.e

10 January at 15:49 · -pz5JhcNQ9P.pngคลิป

 

ต.สวนหลวง ม.3 อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช โรงเรียนบ้านบางไทร ขออภัยในเรื่องสัญญาณ ขาดๆหายๆ ครับ

 

สงครามยังไม่ทันจบ ก็มานับศพทหารแล้วหรือท่านผู้ช่วยศาสดาจารย์

๑๕ มกราคม ๒๕๖๐

พอมีข่าวอัยการสั่งไม่ฟ้องตุ๊แป๊ะ ผู้ใกล้ชิดสมเด็จช่วงในคดีครอบครองรถหรูหนีภาษี

ก็มีบรรดากองเชียร์ของสมเด็จช่วงและตุ๊แป๊ะออกมาเรียกร้องให้คืนภาพลักษณ์ของสมเด็จช่วงและลูกน้องผู้ถูกกล่าวหา

โดยกองเชียร์ได้ออกมากล่าวว่า “ฝ่ายที่เห็นต่างและต้องการให้เกิดปัญหาในทางเสื่อมเสีย” คงไม่สบายใจ

ในฐานะคนที่เคยคุ้นเคย อยากเรียนท่านอาจารย์บรรจบว่าท่านก็เรียนมาจนเป็นถึงมหาเปรียญ ๙ ประโยค ท่านไม่เคยได้ยินคำว่า “ธรรมใดเกิดแต่เหตุ พระศาสดาทรงแสดงเหตุและความดับเหตุแห่งธรรมนั้น” เลยหรือ

ถ้าสมเด็จช่วงของท่านมีวัตรปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยโดยเคร่งครัด คนในโลกนี้ยังจะมีใครกล้ากล่าวร้ายป้ายสีสมเด็จช่วงและลูกศิษย์ได้กระนั้นหรือ ท่านอาจารย์บรรจบเป็นถึงภาคีสมาชิกราชบัณฑิต ท่านคงจะเคยได้ศึกษาลักษณะตัดสินพระธรรมวินัยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง ๘ ประการมาอยู่บ้าง หากหลงลืมลองมาดูกันอีกซักครั้งก็ได้ ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนว่าอย่างไร

พระบรมศาสดาทรงสอนว่าภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ต้องอยู่เพื่อ

๑. วิราคะ คือ ความคลายกำหนัด มิใช่เพื่อความกำหนัดย้อมใจ

๒. วิสังโยค คือ ความหมดเครื่องผูกรัด มิใช่เพื่อผูกรัด

๓. อปจยะ คือ ความไม่พอกพูนกิเลส มิใช่เพื่อพอกพูนกิเลส

๔. อัปปิจฉตา คือ ความอยากอันน้อย มิใช่เพื่อความมักมากอยากใหญ่

๕. สันตุฏฐี คือ ความสันโดษ มิใช่เพื่อความไม่สันโดษ

๖. ปวิเวก คือ เป็นไปเพื่อความสงัด มิใช่เพื่อความคลุกคลีอยู่ในหมู่คณะ

๗. วิริยารัมภะ คือ การประกอบความเพียร มิใช่เพื่อความเกียจคร้าน

๘. สุภรตา คือ ความเลี้ยงง่าย มิใช่เพื่อความเลี้ยงยาก

ขอถามท่านอาจารย์บรรจบว่า สมเด็จช่วงและพวกมีอะไรที่เหมือนหรือตรงกับหลักตัดสินพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าทั้ง ๘ ข้อบ้างล่ะ และที่อาจารย์บรรจบกล่าวว่า ในสายตาของคุณ สมเด็จช่วงเป็นพระโบราณรุ่นเก่า ที่คนไทยอยู่กันด้วยประเพณีที่มีความเคารพพระ และพระเองก็ทำตัวสบายๆ กันเองต่อญาติโยม

พุทธะอิสระขอถามคุณบรรจบว่า ในพระธรรมวินัยนี้มีข้อไหนที่อนุญาตให้พระทำตัวสบายๆ เป็นกันเองต่อญาติโยมบ้าง และถ้ามีพระที่ทำตัวสบายๆ เป็นกันเองต่อญาติโยม พระธรรมวินัยสิกขาบทใด พระคาถาภาษิตไหน ที่องค์พระบรมศาสดาทรงอนุญาตไว้

และที่คุณบรรจบบอกว่า สมเด็จช่วงได้เปิดโอกาสให้สังคมได้ตรวจสอบตามกระบวนการทางกฎหมายแล้ว

พุทธะอิสระอยากบอก ถ้าคุณบรรจบพูดผิด คุณพูดใหม่ได้นะ

เพราะจากที่สังคมรับรู้ สมเด็จช่วงไม่เคยออกมาพูดหรืออธิบายความจริงให้สังคมรับรู้เลย แล้วจะเรียกว่าเปิดโอกาสได้ไง ทั้งยังตั้งทนายออกมาคอยพูดแก้ต่างให้อีก แม้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอขอเข้าพบพูดคุยสอบถาม ก็ยังไม่ออกมาพูดคุยด้วยเลย

ฉะนั้นการที่คุณบรรจบออกมาพูดว่าสมเด็จช่วงเปิดโอกาสนั้น ไม่น่าจะจริง

แต่เรื่องจริงคือ

สมเด็จช่วง เซ็นเช็คจ่ายเงินให้คนจัดซื้อจัดจ้างเพื่อนำรถคันนี้มาเป็นกรรมสิทธิ์ตน นี่จริง

สมเด็จช่วง มีชื่อครอบครองรถหรูหนีภาษี นี่จริง

สมเด็จช่วง มีความยินดีที่มีรถคันนี้เอาไว้ในครอบครอง นี่คือความจริง

สมเด็จช่วง รู้อยู่แก่ใจว่าพระธรรมวินัยห้ามไม่ให้ภิกษุสะสมเงินและทอง นี่เป็นความจริง

สมเด็จช่วง รู้อยู่แก่ใจว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนให้เห็นถึงพิษภัยของโลกธรรมทั้ง ๘ ประการ ที่ภิกษุผู้ใคร่ในธรรมวินัยไม่ควรข้องแวะ นี่เป็นความจริง

สมเด็จช่วง รู้มาแต่แรกแล้วว่ารถคันนี้มีปัญหา เพราะมีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษในกรณีครอบครองรถหรูมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๖ หากสมเด็จช่วงไม่คิดครอบครอง ไม่ผูกพันหวงแหน ทำไมไม่แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการส่งมอบคืนรถให้แก่รัฐตั้งแต่แรก กลับมาคืนเอาตอนเป็นข่าว

เหล่านี้คือความจริง ฉะนั้นความจริงเหล่านี้แหละคุณบรรจบ ที่บ่อนทำลายภาพลักษณ์ของสมเด็จช่วง หากไม่มีความจริงเหล่านี้ ใครในโลกนี้จะทำลายสมเด็จช่วงของคุณได้ล่ะคุณบรรจบ

ดูคุณบรรจบจะห่วงใยในภาพลักษณ์ของสมเด็จช่วงและพวกมากกว่าความอยู่รอดของพระธรรมวินัย นี่คือความจริง

ผู้คนในสังคมไม่เคยเห็นไม่เคยได้ยินว่าอดีตมหาเปรียญ ๙ ประโยค อดีตอนุศาสนาจารย์ เป็นถึงผู้ช่วยศาสดาจารย์และด็อกเตอร์อย่างคุณบรรจบออกมาพูดออกมาวาพากวิจารณ์ ห่วงใยต่อกรณีลัทธิอลัชชีทำจนตัวตายที่ย่ำยีพระธรรมวินัย นี่ก็เป็นความจริง

สังคมไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยินคุณบรรจบ ที่ได้รับการยกย่องว่ารอบรู้พระธรรมวินัยออกมาพูดชี้แจงเลยว่า การที่เจ้าลัทธิอลัชชีทำจนตัวตายมีคำสอนและวัตรปฏิบัติที่ผิดเพี้ยนไปจากหลักการเดิมของพระธรรมวินัย นี่ก็เป็นความจริง

และก็เป็นความจริงที่สังคมเขาสังเกตเห็นว่าหลายครั้งที่คุณบรรจบออกมาพูดหรือแสดงท่าทีปกป้องกลุ่มหรือพวกพ้องของอลัชชีผู้ย่ำยีพระธรรมวินัยจนดูน่าเกลียด นี่ก็เป็นเรื่องจริง

ที่จริงพุทธะอิสระก็รู้สึกเกรงใจและระลึกถึงน้ำใจของคุณบรรจบที่สู้อุตส่าห์เดินทางมาร่วมงานบวชของพุทธะอิสระ ทั้งยังเคยไปช่วยเป็นคู่แสดงธรรมในหลายสถานที่ เมื่อคราวที่มูลนิธิธรรมอิสระเขาจัดงานเสวนาธรรม อีกทั้งคุณบรรจบเองก็เคยนิมนต์พุทธะอิสระให้ไปช่วยบรรยายธรรมแก่นักศึกษาในมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอยู่หลายครั้ง พุทธะอิสระจึงไม่อยากเขียนวิพากษ์วิจารณ์ถึงสิ่งที่คุณบรรจบพูดทำคิดนักซักเท่าไหร่

แต่พักหลังๆ นี้ ดูเหมือนคุณบรรจบจะเปลี่ยนไป

ดูจากการกระทำของคุณบรรจบในช่วงเวลาที่ผ่านมาดูจะให้ความสำคัญห่วงใยในภาพลักษณ์ของบุคคลและพวกพ้องมากกว่าหลักการพระธรรมวินัย ถึงขนาดออกมาพูดเสนอแนวคิดให้นักบวชในพระพุทธศาสนาเล่นการเมืองได้ อันนี้พุทธะอิสระรับไม่ได้จริงๆ

แม้พุทธะอิสระจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของนักการเมือง ออกไปเป็นแกนนำต่อสู้ในเวทีแจ้งวัฒนะ ทั้งหมดล้วนเพื่อต้องการความถูกต้องเที่ยงธรรมของสังคม และความบริสุทธิ์บริบูรณ์ของพระธรรมวินัย หาได้ปรารถนา ยศ อำนาจ วาสนา ลาภสักการะใดๆ ไม่

ขนาดยังไม่มีกฎหมายรับรองให้พระเล่นการเมืองได้สังคมยังเห็นภาพนักบวชพวกพ้องของคุณบรรจบ ไปเดินตามตูดพินอบพิเทาประจบรับซองของพวกนักการเมืองอยู่เนืองนิตย์

ถ้าหากมีกฎหมายรับรองให้พระเล่นการเมืองได้ พระธรรมวินัยนี้จะเหลืออะไร ฉันแทบไม่อยากคิดเลย และด้วยพฤติกรรมดังกล่าวมานี้ของคุณบรรจบนี่แหละ เลยทำให้ฉันต้องเสียมารยาทเขียนมาถามและตัดพ้อต่อคุณบรรจบผู้คุ้นเคยซักครั้งหนึ่ง ย้ำว่าเขียนด้วยความเกรงใจ

พุทธะอิสระ

http://www.thairath.co.th/content/835207

 

 

 

15977309_10154860398028446_201933919903143439_n.jpg?oh=3ba19d5e0ea6a831acd74b0a45bac55d&oe=58DC78EF

15965915_10154860398023446_2370757869965384055_n.jpg?oh=9e76b0393edaa9bea97d801310727323&oe=591A49E6

15940877_10154860398018446_9203155046730319158_n.jpg?oh=c89b6dec51700b4c22c744c267b75013&oe=58D86C86

 

===

 

๑๐๐ คำพูด ไม่เท่า ๒ ตาเห็น ๑๐๐ ตาเห็น ไม่เท่า ๒ มือคลำ ๑๐๐ มือคลำ ไม่เท่าลงมือทำ

๑๔ มกราคม ๒๕๖๐

ฉันได้รับจดหมายเวียนแจ้งให้ทราบโดยไม่บอกที่มาแต่น่าจะมาจากสาวกทาสทำจนตัวตาย เนื้อหาในจดหมายเวียนเขาพยายามจะอธิบายความตามสำนวนของคนที่ไม่รู้สำนึกตนเอง โดยมีประเด็นที่เขาตั้งสมมุติฐานในภาษาทำจนตัวตายของพวกเขาอยู่ ๔ ประเด็น

๑. ผู้รับต้องรู้ก่อนว่าทรัพย์สินนั้นผิดกฎหมายแล้วยังรับไว้

๒. มีเจตนาต้องการเองที่จะรับทรัพย์สินเป็นของส่วนตัว

๓. ทรัพย์สินนั้นได้ตกเป็นของผู้รับ

๔. มีการร่วมกระทำความผิด

และข้อความในจดหมายช่วงหนึ่งเขาอ้างว่าพระธัมมชโย สมเด็จช่วง เป็นเจ้าพนักงานของรัฐที่มีหน้าที่ในการรับประเคน รับบริจาค

เอ้า ท่านทั้งหลาย เมื่อสองคนที่กล่าวมานี้สาวกเขายืนยันมาว่าลูกพี่ทั้งสองของเขามีหน้าที่รับประเคน รับบริจาค เช่นนั้นพวกเราเอาสังฆทานชุดใหญ่ไปบริจาคให้แกหน่อยดีไหม

หรือไม่ก็ลดความร้อนแรงลงหน่อย เอาแค่หลักตัดสินพระธรรมวินัย ๘ ประการของพระพุทธเจ้าไปถวายให้อ่านหน่อย เพราะสาวกของแกเขียนจดหมายเวียนแจ้งมาว่าลูกพี่เขามีหน้าที่รับประเคน รับบริจาค

พวกนี้มันรู้ธรรมรู้วินัยไหม มันเป็นพวกลัทธิไหนกัน ขนาดผ้ากฐินพระพุทธเจ้ายังมีพระวินัยกำหนดคุณสมบัติของผ้าที่ภิกษุสงฆ์ควรจะรับและไม่ควรรับเอาไว้ ดังมีรายละเอียดว่า

-----------------------------------------

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๕ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕

มหาวรรค ภาค ๒

กฐินไม่เป็นอันกราน

[๙๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างไรเล่า กฐินไม่เป็นอันกราน คือ:-

๑. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงขีดรอย

๒. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงซักผ้า

๓. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงกะผ้า

๔. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงตัดผ้า

๕. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงเนาผ้า

๖. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงเย็บด้น

๗. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงทำลูกดุม

๘. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงทำรังดุม

๙. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงประกอบผ้าอนุวาต

๑๐. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงประกอบผ้าอนุวาตด้านหน้า

๑๑. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงดามผ้า

๑๒. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยอาการเพียงย้อมเป็นสีหม่นเท่านั้น

๑๓. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ทำนิมิตได้มา

๑๔. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่พูดเลียบเคียงได้มา

๑๕. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ยืมเขามา

๑๖. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่เก็บไว้ค้างคืน

๑๗. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่เป็นนิสสัคคีย์

๑๘. กฐินไม่เป็นอันกราน ด้วยผ้าที่มิได้ทำกัปปะพินทุ

๑๙. กฐินไม่เป็นอันกราน เว้นจากผ้าสังฆาฏิเสีย

๒๐. กฐินไม่เป็นอันกราน เว้นจากผ้าอุตราสงค์เสีย

๒๑. กฐินไม่เป็นอันกราน เว้นจากผ้าอันตรวาสกเสีย

๒๒. กฐินไม่เป็นอันกราน เว้นจากจีวรมีขันธ์ ๕ หรือเกิน ๕ ซึ่งตัดดีแล้ว ทำให้มีมณฑลเสร็จในวันนั้น

๒๓. กฐินไม่เป็นอันกราน เว้นจากการกรานแห่งบุคคล

๒๔. กฐินไม่เป็นอันกรานโดยชอบ ถ้าภิกษุผู้อยู่นอกสีมาอนุโมทนากฐินนั้น แม้อย่างนี้ กฐินก็ชื่อว่าไม่เป็นอันกราน.

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล กฐินไม่เป็นอันกราน.

กฐินเป็นอันกราน

[๙๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างไรเล่า กฐินเป็นอันกราน คือ:-

๑. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าใหม่

๒. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าเทียมใหม่

๓. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าเก่า

๔. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าบังสุกุล

๕. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ตกตามร้าน

๖. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ไม่ได้ทำนิมิตได้มา

๗. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ไม่ได้พูดเลียบเคียงได้มา

๘. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ไม่ได้ยืมเขามา

๙. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ไม่ได้เก็บไว้ค้างคืน

๑๐. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ไม่ได้เป็นนิสสัคคีย์

๑๑. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าที่ทำกัปปะพินทุแล้ว

๑๒. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าสังฆาฏิ

๑๓. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าอุตราสงค์

๑๔. กฐินเป็นอันกราน ด้วยผ้าอันตรวาสก

๑๕. กฐินเป็นอันกราน ด้วยจีวรมีขันธ์ ๕ หรือเกิน ๕ ซึ่งตัดดีแล้ว ทำให้มีมณฑลเสร็จในวันนั้น

๑๖. กฐินเป็นอันกราน เพราะการแห่งบุคคล

๑๗. กฐินเป็นอันกราน ถ้าภิกษุอยู่ในสีมาอนุโมทนากฐินนั้น แม้อย่างนี้ กฐินก็ชื่อว่าเป็นอันกราน.

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อย่างนี้แล กฐินเป็นอันกราน.

-----------------------------------------

และแม้เวลาพระสวดให้ ผ้ายังต้องตรวจสอบดูว่าผ้าที่ชาวบ้านเขามาถวายถูกต้องตามหลักธรรมวินัยหรือเปล่า เป็นผ้าที่ขโมยใครมาหรือไม่ ผ้านี้มีพันธะกับใครๆ หรือไม่ แล้วพระผู้สวดจึงจะเข้ามาประกาศรับรองต่อหน้าพระสงฆ์ว่า ผ้านี้บริสุทธิ์ดุจเลื่อนลอยมาในนภากาศ

การที่พวกสาวกทาสลัทธิทำจนตัวตายเขียนจดหมายเวียนแจ้งยืนยันว่าธัมมชโยและสมเด็จช่วงมีหน้าที่รับประเคน รับบริจาคเท่านั้น อย่างนี้พุทธะอิสระคงต้องจัดสังฆทานถังขี้ไปถวายอีกซักครั้ง ดูซิว่าจะออกมารับไหม

อีกทั้งการที่พวกสาวกทาสอลัชชีพยายามทำหนังสือเวียนแจ้งความบริสุทธิ์ของเจ้าลัทธิและสมเด็จช่วงไปทั่วแผ่นดินนี้ คงไม่สามารถพิสูจน์ได้ทางกระบวนการยุติธรรมดอก เพียงแค่ต้องการทำให้สังคมไขว้เขว บิดเบือนความจริง แก้ตัวไปเรื่อยๆ พฤติกรรมเช่นนี้มันไม่ต่างอะไรกับพวกโจรห้าร้อยที่ไม่เคยยอมรับความผิด

เรื่องของเรื่องมันมีแค่เจ้าลัทธิออกมาพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมเหมือนกับชาวโลกเขา เท่านี้ก็จบ อย่าพยายามโกหกตลบตะแลงบิดเบือนสร้างเรื่องให้ชาวบ้านเขาเข้าใจผิดอีกเลย มันบาปนะคุณ

พุทธะอิสระ

 

 

 

 

15965935_10154858153263446_8352875973654521751_n.jpg?oh=f37e0124a13991c4c86c460942c4fe19&oe=59202D38

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

16105664_10208426618159948_2291103603507912052_n.jpg?oh=b0b3b6b2219383612a513166aececfdf&oe=591E6A0E

 

15940992_10208426618679961_8340291411585570808_n.jpg?oh=260b2a45afb6c2b2b89b0e08ad6acceb&oe=5916F9D0

 

เปลว สีเงิน - Plew Seengern shared Thanachot Prapatvorasart's post.

ปูตินรอดตายเพราะสุนัขตัวโปรด!!

สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์สีดำคู่กายของปูติน (ตัวในภาพข้างล่างนี้เป็นเพศเมียชื่อ Koni)…มีเอกลักษณ์พิเศษต่อต้านการก่อการร้าย และช่วยปูตินรอดพ้นจากการถูกลอบสังหารหลายครั้ง ..!

 

โดย อิบรอฮีม อาแว - 10 มกราคม 2017

alalam – สุนัขสีดำจะมาพร้อมกับประธานาธิบดีรัสเซีย

ในทุกๆการเดินทาง และไม่เคยที่จะแยกออกจากเขา

เพราะคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษในการต่อต้านการก่อการร้าย

หนังสือพิมพ์ Izvestia ของรัสเซียได้ตีพิมพ์รายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่า สุนัขลาบราดอร์สีดำคู่กายของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย คือสุนัขที่สร้างความหวาดกลัวให้กับ Angela Merkel ผู้นำเยอรมัน ในระหว่างการประชุมพบปะกับปูติน

ตามรายงานหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว เผยว่า ลาบราดอร์เป็นสุนัขพันธุ์แท้ ซึ่งมีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษในการต่อต้านการก่อการร้าย

ยกตัวอย่างเช่นสามารถดมกลิ่นวัตถุระเบิดในระยะห่าง 25 เมตร

นอกจากนี้สุนัขตัวนี้ยังมีความสามารถที่จะดมกลิ่นและตรวจสอบชนิดของสารพิษต่างๆ แม้แต่สารพิษที่มีกลิ่นอ่อนมากก็ตาม

ดังนั้น ในทุกประเทศที่ปูตินไปเยือน เขาจะไม่ดื่มกาแฟหรือชา หรือเครื่องดื่มอื่นๆ กับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ

เว้นแต่ลาบราดอร์จะทำการดมกลิ่นตรวจสอบเสียก่อน

เช่นเดียวกัน ลาบราดอร์ก็จะทำการดมกลิ่นอาหาร

ก่อนที่ปูตินจะรับประทานทุกครั้ง ทั้งในเครมลิน หรือโซชิ หรือในประเทศอื่นๆ

เพื่อให้ปูตินได้รับประทานอาหารอย่างปลอดภัยและสบายใจ

สุนัขสีดำตัวนี้สามารถช่วยปูตินให้รอดพ้นจากการถูกลอบสังหารมาแล้วถึง 3 ครั้ง

ครั้งหนึ่งเคยช่วยปูตินไว้ ในขณะที่ทหารของเชชเนีย

จะทำการลอบสังหาร ซึ่งลาบราดอร์ไหวตัวทัน จึงเข้าไปโจมตีมือลอบสังหารชาวเชชเนีย และกัดที่มือของเขา ทำให้ปูตินรอดพ้นจากการถูกลอบสังหารครั้งนั้นมาได้

อีกเหตุการณ์หนึ่ง ที่ลาบราดอร์สามารถช่วยเหลือปูตินให้รอดพ้นจากการถูกลอบสังหาร ขณะที่กำลังเดินไปกับปูติน และสามารถชี้วัตถุระเบิดที่ถูกผูกติดอยู่กับเชือกในสวนสาธารณะในเมืองโซชิ

อีกเหตุการณ์หนึ่ง ในขณะที่ปูตินต้องรับประทานอาหาร แต่พอลาบราดอร์ดมกลิ่นอาหารดังกล่าว จึงส่งสัญญาณบอกบอดี้การ์ดของปูตินว่า อาหารนั้นปนเปื้อนสารพิษ หลังจากนั้นเมื่อทำการตรวจสอบอาหารดังกล่าวแล้วพบว่า มีการใส่สารพิษไซยาไนจริงๆ จึงมีการลงโทษประหารชีวิตพ่อครัว

ทุกครั้งที่ปูตินเดินทางไปต่างประเทศ เขาจะพาสุนัขของเขาไปด้วย พร้อมกันนั้นก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง 8 นายฝึกสอนให้ความรู้แก่สุนัขตัวนี้

ลาบราดอร์จะวิ่ง 100 เมตรใน 9 วินาที เป็นหนึ่งในสุนัขที่แพงที่สุดในโลก และผ่านวิธีการฝึกฝนในการตรวจสอบสารพิษ ตรวจหายาเสพติดและวัตถุระเบิด

และการค้นหาตัวคนร้ายได้เป็นอย่างดี

(ขอบคุณคุณKritsada Wiset สำหรับบทความนี้)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://program.thaipbs.or.th/live

รายการพิเศษประชารัฐร่วมใจ

Nathapat Promkaew on Twitter

“((คลิป)) ชมลีลา "บิ๊กตู่" รับสายจากคนทางบ้าน ที่โทรเข้ามาบริจาค ช่วยน้ำท่วมใต้ 10,000 บ. แถมให้กำลังใจทั้ง "นายกฯ" และ "คนใต้" #nna https://t.co/KnYFTWYBSm

15941524_1846872455602314_7059624564252005915_n.jpg?oh=d44734be480de354dec3dafb7b29f9db&oe=5919AF2C

Nathapat Promkaew on Twitter

“ค่อยให้เด็กมันดู !!! "ลุงตู่" โชว์ วาดลีลาแม่ไม้มวยไทย โชว์ เด็กๆ ที่มาร่วมงานวันเด็ก กลางสนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล #nna https://t.co/7ADrBj5Bjo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

16106053_1430112767008211_2115613090738808914_n.jpg?oh=9807cb3f29ce7dd9ee29121c050dd5af&oe=590A20DD

 

16105971_1430112880341533_2725289309352720773_n.png?oh=e46482144c55f86b617d2b24ae15da66&oe=58DC5B51

 

15940603_1430112820341539_7473125823642382902_n.jpg?oh=0ad95897bd728113794f2431e0154ef9&oe=5922EE10

 

15965557_1430112873674867_4949076593028377061_n.png?oh=1c1e280b103200615e145f875ee58f46&oe=591F32E0

 

 

 

 

ปฏิทินของบริษัท โพสต์ พับลิชชิง ที่เล่าเรื่องพระมหากษัตริย์ในหัวข้อ ใต้ร่มพระบารมีจักรีวงศ์ โดยเล่าความเป็นมาของ คำว่าจักรี ว่ามาจากพ้องเสียงกับคำว่า จักรและตรี ซึ่งเป็นเทพศาสตราวุธของพระวิษณุและพระศิวะ รัชกาลที่ 1 จึงทรงให้สร้างพระแสงจักรและพระแสงตรี 1 สำรับ และกำหนด ให้เป็นสัญลักษณ์และกำหนดให้ใช้เป็น สัญลักษณ์ประจำพระราชวงศ์จักรีสืบมาถึง ปัจจุบัน และบอกว่ายุครัตนโกสินทร์เจริญรุ่งเรืองเข้าสู่ปีที่ 235 ณ ปี 2560 ภายใต้ร่มพระบารมีของพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ทรงนำพาประเทศผ่านพ้นอุปสรรคและวิกฤตต่างๆ ณ ปัจจุบันราชอาณาจักรไทยเข้าสู่รัชสมัยของรัชกาลที่ 10

 

พร้อมทั้งอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ แต่ละรัชกาลมาตีพิมพ์พร้อมทั้งบอกวันเดือนปีที่ขึ้นครองราชสมบัติตั้งแต่รัชกาลที่ 1-10 เรียงตามลำดับ ถึงเดือนที่ 10 ส่วนเดือนที่ 11 และ 12 ได้อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ พระราชวงศ์มหิดล ครั้งทรงพระเยาว์ และพระบรมฉายาลักษณ์ ที่รัชกาลที่ 10 ทรงรับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2518 มาตั้งไว้ครบ 12 เดือน

 

===

ทรงพระเจริญ

15181263_682750535227184_3146340184644647290_n.jpg?oh=8772eeac11bad69dd45a7c11391717a3&oe=590CAD9A

 

15241423_682750555227182_656633308660904048_n.jpg?oh=499c5c51d8a48df5375591f7f0b421c1&oe=591A055A

 

15171239_682750055227232_2104125924827478712_n.jpg?oh=6eb48de282a9505f2e22dd294cc342ef&oe=5919C360

 

15780810_702485493253688_2648728869088019540_n.jpg?oh=630479ca7af85e9fd213372cf9ffe5ee&oe=5913CC7E

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ขณะตามเสด็จเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดาร

====

 

15747492_698458453656392_3383624383332965039_n.jpg?oh=8a6feff8ee5d32ef482798865650e4b8&oe=5923D6B6

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2559 กรมศิลปากร กำหนดฤกษ์ 16.19 น. ทำพิธีปักหมุด ก่อสร้างพระเมรุมาศ ในพระราชพิธี ถวายพระเพลิง พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

 

เสียงเป่าแตร สังข์ เป็นสัญญาณการเริ่มปักหมุด 9 หมุด ที่ผ่านการลงอักขระจากวัดสุทัศเทพวรารามราชวรมหาวิหาร โดยพลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี นำหมุดเอกไม้ทองหลาง ปักลงบนดิน ตอกด้วยสามเกลอที่ทำจากไม้สัก ตรงกึ่งกลางพระเมรุมาศเป็นหมุดแรก ขณะที่หมุดรอง 8 หมุด ทำด้วยไม้พะยูง มีบุคคลสำคัญ 8 ท่าน เป็นผู้ปักหมุด ทุกหมุดลึก 20 เซนติเมตร และจะถูกฝังไว้ตลอดการสร้างพระเมรุมาศ ที่คาดจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2560 พิธีปักหมุดถูกจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติ ตามโบราณราชประเพณี มีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ เป็นพราหมณ์ผู้อ่านโองการบวงสรวง จากนั้นประธาน และผู้เข้าร่วมพิธี โปรยข้าวตอกดอกไม้ที่เครื่องสังเวย

 

เบื้องต้นกรมศิลปากร เชิญชวนประชาชนทั่วไป ที่มีความสามารถด้านศิลปะ ร่วมทำดอกไม้จันทน์ แทงหยวกประกอบเครื่องสด เพื่อประดับพระเมรุมาศ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในครั้งนี้ด้วย

 

ขอบคุณที่มา https://www.pptvthailand.com/news/ประเด็นร้อน/42580

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=698458600323044&id=378391788996395

เปิดแบบพระเมรุมาศ รัชกาลที่ 9 - YouTube

 

 

TNN Life News : เปิดภาพแบบก่อสร้างพระเมรุมาศในหลวง ร.9 - YouT

 

 

พระเมรุมาศ สุดยอดแห่งสถาปัตยกรรมไทย - thairath.co.th

 

 

พระราชพิธีปักหมุดก่อสร้างพระเมรุมาศฯ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...