ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

ช้างเขาใหญ่

 

มีตัวยืนยามอยู่สองเชือก

21762004_10213282765438915_5621567016299563480_n.jpg?oh=612043ca2c7b20e015cbd86fbc1fb5ad&oe=5A868197

21767936_10213282765478916_8825325856642878739_n.jpg?oh=5048aebd2aac446ec7fda2284f96d104&oe=5A490F1C

มากวนทำไมยังนอนไม่อิ่มเลย

 

---

ปลูกความสุขของคุณได้ทุกวัน กับโครงการ ‘ทำตามพ่อ ปลูก เพ(ร)าะ สุข’ [Advertorial] – THE STANDARD

ความสุขของคุณคืออะไร? ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ อยู่ดีๆ กระแส ‘ความสุขจากชนบท’ ก็กลายเป็นเทรนด์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ สังเกตได้จากสื่อต่างๆ…

 

 

THESTANDARD.CO

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

17796688_1774276866130560_3578890800282899217_n.jpg?oh=596336c744146e1fc12decc4b37c0749&oe=5A5621C5

พระองค์ท่านคือพ่อ คือปู่ คือตา ของคนไทย คืิอขวัญกำลังใจ

คือพระโพธิสัตว์ผู้เสียสละพระองค์เพื่อประชาชนและประเทศไทยด้วยพระเมตตา

กราบแทบพระบาทด้วยดวงใจที่จงรักตลอดไป

 

นับแต่นี้เมื่อคิดถึงพระองค์ ขอให้ มีกำลังกาย ใจ ปัญญาที่เข้มแข็งเพืี่อเดินตามรอยบาทของพ่อตลอดไป

น้อมสำนึกในพระกรุณธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

เพจใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

 

 

 

สัมภาษณ์ในหลวง - YouTube

 

 

บทสัมภาษณ์ข่าวในหลวงจาก CNN ของผู้หญิงคนนึงที่พูดได้ซึ้งใจมากๆ ...

 

 

บุคคลใต้เบื้องพระยุคลบาท รัชกาลที่๙ [EP.3] ภัคชุดา โอวาทวรพร หญิงไทยที่ ...

 

สารคดีพิเศษ "สู่ฟ้าเสวยสวรรค์": รวมใจจิตอาสาในงานพระเมรุมาศ ร.๙

สารคดีพิเศษ “สู่ฟ้าเสวยสวรรค์” ตอนที่ 5 "รวมใจจิตอาสาในงานพระเมรุมาศ ร.๙" วันจันทร์ที่ 25 กันยายน 2560 เวลา 15.52 น. #สู่ฟ้าเสวยสวรรค์ ติดตามชม สารคดีพิเศษ “...

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เรารักพ่อเพราะพ่อรักเรา

21616368_1902898139959569_8611507531148510224_n.jpg?oh=1ce0afb613b7ea90b6bcb89769a7ba3a&oe=5A4A7CF8

 

21768181_10155652699403446_4603249985647834115_n.jpg?oh=bf636e516c4daab2a6718fb911f189f2&oe=5A4D4B51

 

21765356_10155652699358446_3778972156021162751_n.jpg?oh=b95311b84dafa8bbb1f09a51eca7e6b0&oe=5A5656FD

เหลือเวลาอีก๔วันเท่านั้นที่จะเข้าไปกราบถวายบังคมในวัง

ประชาขนจึงเนืิองแน่น

หลวงปูพุทธอิสระขอกำลังจิตอาสาเพื่อแจกอาหาร แตงกายเรียบร้อย ในงานของพ่อ

 

 

 

หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) shared Issaradham's live video.คลิป

 

 

 

หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) shared Issaradham's live video.

 

3 hrs · คลิป

 

 

 

เหลืออีก ๔ วันเท่านั้น จะเข้ากราบพระองค์ท่านในวัง

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ครม.มอบ"ธนะศักดิ์"กำกับดูแล"พศ."แทน"ออมสิน"

 

 

 

 

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นับว่าเป็นข่าวดีของวันนี้กับประเทศไทยอีกหนึ่งข่าว

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ครม. มีมติคืนตำแหน่งให้่พงศ์พรกลับไปดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักพุทธศาสนา โดยมีผลวันที่ 1 ต.ค. และหลังจากนี้มอบหมายให้ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฎิมาประกร เป็นคนดูแลสำนักพุทธศาสนา แทนนายออมสิน ชีวพฤกษ์

 

 

เพจของอาจารย์ไพศาล พืชมงคล มีข้อความตอนหนึ่งว่า

 

เรื่ิองแต่งตั้งโยกย้ายทั้งฝ่ายทหาร พลเรือน ได้โปรดเกล้าลงมาหมดแล้ว

แต่ที่ไม่มีข่าว มี 2ราย

1เรื่องย้ายคนดี ไม่ให้ปราบโกงจะให้ไปเสี่ยงตายชายแดนภาคใต้

2เรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ ขอแต่งตั้งคนที่มีเรื่ิิองถูกร้องเรียนว่าทุจริตหลายเรืี่องให้ดำรงตำแหน่งสำคัญ

 

ถ้าเป็นอย่างที่ที่ว่านี้จริงตามที่อาจารย์ไพศาลเขียนไว้เมื่อเช้านี้ ผมก็ได้แต่พนมมือท่วมหัวถวายบังคม ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญพระเจ้าข้า

 

 

.เครดิตภาพ คมชัดลึก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

26-09-60/05 : กูสอยมรึงแน่! จะล้ำไม่ล้ำน่านฟ้าก็ตาม! เฮียคิมกร่างด่าแหลก! แผนเหี้ยเด็ดหัวขุนของจีน! โสมแดงกล้าลุยเหี้ยโลก ส่งผลประทบความน่าเกรงขามของเหี้ยอย่างมหันต์! ชาติต่างๆ ที่เคยถูกเหี้ยกดหัวกดขี่ เริ่มเห็นความกล้าในแสงสว่างบ้างแล้ว! หมดสภาพผู้นำโลก กลายเป็นโจรกระจอกในสายตาเวทีโลก! หลังเกาหลีเหนือแฉว่า สหรัฐประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือก่อน พร้อมจะสอยเครื่องบินรบของสหรัฐแม้ว่าจะไม่ได้ละเมิดน่านฟ้าก็ตาม เพนตากอนของขึ้นโวยลั่นสั่งเกาหลีเหนือหยุดยั่วยุซักที! เกมส์ปิงปองนี้ หากจะแลก โสมแดงพร้อมลุย เพื่อสกัดเหี้ยไม่ให้เกิดใหม่ แล้วดันจีน รัสเซียขึ้นมาแทนที่! อีแร้งดิ้น EU NATO นิ่งเฉย! ต่างกลัวหางเลข โดนนุ๊กลงแบบไม่ได้เชื้อเชิญ ไม่มีใครกล้าเสือก!

 

---------------------------------------------------------------------------

ปอกเปลือก ทรราช / เกาหลีเหนือแฉว่า สหรัฐประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือก่อน พร้อมจะสอยเครื่องบินรบของสหรัฐแม้ว่าจะไม่ได้ละเมิดน่านฟ้าก็ตาม, เพนตากอนของขึ้นโวยลั่นสั่งเกาหลีเหนือหยุดยั่วยุซักที

 

เกาหลีเหนือแฉสหรัฐเองนั่นแหละที่ประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือก่อน และเกาหลีเหนือก็พร้อมที่จะสอยเครื่องบินรบของสหรัฐแม้ว่าจะไม่ได้ละเมิดน่านฟ้าของเกาหลีเหนือก็ตาม, เพนตากอนจี๊ดดดดดทันที และโวยลั่นว่าเกาหลีเหนือหยุดยั่วยุซักที หลังตนเองส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ไปบินวนหน้าบ้านเกาหลีเหนือ และถูกเกาหลีเหนือทำคลิปจำลองสอยเครื่องบินรบและจมเรือบรรทุกเครื่องบินรบของสหรัฐ (ตัวเองเป็นฝ่ายส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ไปเกรียนหน้าบ้านเขา แต่โวยวายว่าเกาหลีเหนือยั่วยุ ซะงั้น)

 

วันที่ 25 ก.ย.60 RT พาดหัวข่าวว่า "เพนตากอนเรียกร้องให้เกาหลีเหนือหยุดการกระทำที่เป็นการยั่วยุ จะใช้ตัวเลือกต่างๆเพื่อจัดการกับกรุงเปียงยาง" (Pentagon urges N. Korea to stop provocative actions, will provide options to deal with Pyongyang)

 

กระทรวงกลาโหมของสหรัฐกล่าวว่าจะเสนอตัวเลือกต่างๆต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อจัดการกับเกาหลีเหนือ หากยังมีการยั่วยุต่อไปเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้กระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าวว่า ประเทศของตนเองขอสงวนสิทธิ์ที่จะยิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐให้ตกในน่านฟ้าสากล

 

"ถ้าเกาหลีเหนือยังไม่หยุดการกระทำที่เป็นการยั่วยุ คุณก็จะรู้เอง พวกเราจะทำให้มั่นใจว่าพวกเราจะเสนอตัวเลือกต่่างๆให้กับประธานาธิบดีเพื่อจัดการกับเกาหลีเหนือ" Colonel Robert Manning โฆษกเพนตากอนกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์นี้

[อะไรคือ "การกระทำเชิงยั่วยุ" (provocative actions) จากเกาหลีเหนือตามที่เพนตากอนกล่าวหาเกาหลีเหนือ?

 

1.) วันที่ 23 กันยายน สื่อเกาหลีเหนือเผยแพร่คลิปคล้ายวีดีเกมจำลองการปล่อยขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน (S-300 เวอร์ชั่นเกาหลีเหนือ) สอยเครื่องบินรบสเตลท์ F-35 ของสหรัฐ และเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ (นิวเคลียร์) ระยะไกล B-1B ของสหรัฐ ตามด้วยฉากการปล่อยขีปนาวุธวิถีโค้งจากเรือดำน้ำโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ของสหรัฐกลางทะเล

 

2.) วันที่ 24 กันยายน ประชาชนและนักศึกษาชาวเกาหลีเหนือประมาณ 100,000 กว่าคนพากันเดินขบวนรวมพลังเพื่อแสดงพลังว่าจะยืนข้างผู้นำเกาหลีเหนือในการต่อต้านการรุกรานจากสหรัฐ ที่จตุรัสคิมอิลซุงพร้อมกับชูป้ายโฆษณาชวนเชื่อแสดงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือจำนวนมากถล่มทำเนียบขาว

นี่หละมั๊งที่กระทรวงสงครามของสหรัฐเรียกว่า "การกระทำเชิงยั่วยุ" จากเกาหลเหนือ - ผู้แปล]

 

แถลงการณ์นี้ของสหรัฐเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ว่า "พวกแกอยู่ไม่นานแน่" (You won’t be around much longer!) และเรียกผู้นำเกาหลีเหนือว่า "มนุษย์จรวดจิ๋ว" (Little Locket Man) (ถือว่าหยามกันมาก จิ๋วหรือไม่ไม่มีใครรู้ได้ นอกจากสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของเกาหลีเหนือ แต่คิมน้อยก็มีลูก 3 คนแล้วนะครัช)

 

ท่าทีของทรัมป์เกิดขึ้นหลังได้ฟังการกล่าวถ้อยแถลงของรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติครั้งที่ 72 เมื่อวันที่ 23 กันยายน ซึ่งเป็นถ้อยแถลงที่ดีที่สุดฉบับหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งมีข้อความที่โดดเด่นหลายข้อความ โดยเฉพาะตอนที่พูดว่า "ไม่ใช่คนอื่นหรอก นายทรัมป์นั่นแหละที่กำลังฆ่าตัวตาย...จนกว่าจะมีความยุติธรรมสากลที่แท้จริง กองทัพต้องถูกจัดการด้วยกองทัพ อาวุธนิวเคลียร์ของจอมทรราชก็ต้องถูกจัดการด้วยค้อนนิวเคลียร์แห่งความยุติธรรม"

 

"ทั่วโลกควรจะจำได้อย่างแม่นยำว่า สหรัฐนั่นแหละที่เป็นฝ่ายประกาศทำสงครามกับประเทศของพวกเราก่อน เนื่องจากสหรัฐประกาศสงครามต่อประเทศของพวกเรา เราย่อมจะมีสิทธิ์ทุกอย่างในการใช้มาตรการตอบโต้ ซึ่งรวมทั้งสิทธิ์ในการยิงเครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ของสหรัฐให้ตกด้วย แม้ว่าเครื่องบินเหล่านั้นจะไม่อยู่ในน่านฟ้าของประเทศของพวกเราก็ตาม" นาย Ri Yong Ho รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือกล่าวกับบรรดาผู้สื่อข่าวที่นครนิวยอร์กเมื่อวันจันทร์นี้

 

นาง Sarah Sanders โฆษกทำเนียบขาวรีบออกมาปฏิเสธและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า "พวกเราไม่ได้ประกาศสงครามต่อเกาหลีเหนือ และคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนั้นก็ไร้สาระ"

 

[ครับคุณผู้หญิง สหรัฐไม่ได้ประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือ แค่ประธานาธิบดีของสหรัฐประกาศต่อผู้นำทั่วโลกในที่ประชุมสมัชชาใหญ่ยูเอ็นว่า "จะทำลายเกาหลีเหนือให้สิ้นซาก ถ้าเกาหลีเหนือคุกคามต่อสหรัฐและพันธมิตร" ต่อมาประธานาธิบดีสหรัฐคนเดิมก็โพสต์ข้อความข่มขู่เกาหลีเหนืออีกว่า "พวกแกจะอยู่ไม่นานแน่" (…they won't be around much longer!)

 

นอกจากนี้แล้ว สหรัฐยังได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ B-1B สองลำไปบินวนอยู่ใกล้ชายฝั่งเกาหลีเหนือ พร้อมกับประกาศอย่างชัดเจนว่านี่คือการเตือนและการส่งข้อความไปยังเกาหลีเหนือ แต่ถ้าเกาหลีเหนือทำแบบนั้นบ้าง สหรัฐก็จะรีบโวยวายทันทีว่า "ยั่วยุ!"

 

วันก่อนนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซียออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีสหรัฐทำสงครามน้ำลายกับเกาหลีเหนือว่า กรุงวอชิงตันไม่กล้าโจมตีเกาหลีเหนือหรอก เพราะว่าสหรัฐรู้ว่ากรุงเปียงยางมีอาวุธนิวเคลียร์จริงๆ RT รายงาน - ผู้แปล]

 

The Eyes

เพจ: ปอกเปลือก ทรราช

https://www.facebook.com/fisont

https://vk.com/theeyesproject

26/09/2560

 

https://www.rt.com/…/404553-pentagon-north-korea-provocati…/

https://www.rt.com/news/404534-north-korea-us-bombers/

https://sputniknews.com/…/201709251057679099-n-korean-fm-w…/

https://www.rt.com/…/404366-lavrov-washington-korea-nuclear/

http://www.bbc.com/news/world-asia-41391978

 

---------------------------------------------------------------------------

เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/%40mheecnn

 

หรือเข้า LINE และ Search พิมคำว่า "@mheecnn" แล้วแอดเข้าถ้ำ

 

เพจสำรองของหมี CNN คือ เพจ " หมี RT " Search หาใน FB ตามชื่อนี้เลยเด้อคร๊า ดูโลโก้ หมีอี้จับซา(ชักดาบ)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนวหน้า. จัดไปครับท่าน.อ..มีชัย’ชี้3ตร.พาปูหนี-บทลงโทษ‘วินัย อาญา’

ชั่วไล่ออก ‘มีชัย’ชี้3ตร.พาปูหนี-บทลงโทษ‘วินัย อาญา’

มีชัย 3ตำรวจ โทษ พาปูหนี วินัย อาญา ไล่ออก

“มีชัย” ระบุโทษเจ้าหน้าที่รัฐมี 2 แบบ “วินัย อาญา” ชี้ 3 ตำรวจพาปูหนี ถ้าชั่วจริงให้ไล่ออกพ้นราชการ แย้มขู่ผบ.ตร.รู้เกียร์ว่างเมินอุ้มลูกน้องผิดด้วย

 

25 ก.ย. 60 ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเอาผิด 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ พาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปส่งที่ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ตอบไม่ได้ แต่สำหรับความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐจะมี 2 ทาง คือ 1.ผิดอาญามีโทษอาญา 2.ผิดวินัย ที่ห้ามเจ้าหน้าที่ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

"ต้องไปดูว่า ชั่วหรือไม่ ถ้าชั่วก็ต้องออกจากงาน คล้ายกับกรรมการองค์กรอิสระ และนักการเมืองที่มีมาตรฐานจริยธรรมกำกับ ส่วนที่นักการเมืองระบุให้ใช้กฎหมายอาญามาตรา 189 ตรงนี้ต้องไปดูข้อเท็จจริง" นายมีชัย กล่าว

ประธาน กรธ. กล่าวว่า ขณะที่กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น มีไว้ดูเรื่องทุจริตอย่างเดียว มีการตัดเรื่องประพฤติมิชอบทิ้ง เพราะหยุมหยิมเกินไป แต่กฎหมายของทุกหน่วยงาน ก็มีกำหนดไว้แล้วว่า หากผู้บังคับบัญชารู้ว่า ลูกน้องผิดวินัย แต่ไม่ดำเนินการ ผู้บังคับบัญชาก็จะผิดเสียเอง

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จัดไปครับท่าน.อ..มีชัย’ชี้3ตร.พาปูหนี-บทลงโทษ‘วินัย อาญา’

ชั่วไล่ออก ‘มีชัย’ชี้3ตร.พาปูหนี-บทลงโทษ‘วินัย อาญา’

มีชัย 3ตำรวจ โทษ พาปูหนี วินัย อาญา ไล่ออก

“มีชัย” ระบุโทษเจ้าหน้าที่รัฐมี 2 แบบ “วินัย อาญา” ชี้ 3 ตำรวจพาปูหนี ถ้าชั่วจริงให้ไล่ออกพ้นราชการ แย้มขู่ผบ.ตร.รู้เกียร์ว่างเมินอุ้มลูกน้องผิดด้วย

 

25 ก.ย. 60 ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเอาผิด 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ พาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปส่งที่ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ตอบไม่ได้ แต่สำหรับความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐจะมี 2 ทาง คือ 1.ผิดอาญามีโทษอาญา 2.ผิดวินัย ที่ห้ามเจ้าหน้าที่ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง

"ต้องไปดูว่า ชั่วหรือไม่ ถ้าชั่วก็ต้องออกจากงาน คล้ายกับกรรมการองค์กรอิสระ และนักการเมืองที่มีมาตรฐานจริยธรรมกำกับ ส่วนที่นักการเมืองระบุให้ใช้กฎหมายอาญามาตรา 189 ตรงนี้ต้องไปดูข้อเท็จจริง" นายมีชัย กล่าว

ประธาน กรธ. กล่าวว่า ขณะที่กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นั้น มีไว้ดูเรื่องทุจริตอย่างเดียว มีการตัดเรื่องประพฤติมิชอบทิ้ง เพราะหยุมหยิมเกินไป แต่กฎหมายของทุกหน่วยงาน ก็มีกำหนดไว้แล้วว่า หากผู้บังคับบัญชารู้ว่า ลูกน้องผิดวินัย แต่ไม่ดำเนินการ ผู้บังคับบัญชาก็จะผิดเสียเอง

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายกฯรู้แล้วยิ่งลักษณ์หลบหนีอยู่ที่ไหน เตรียมเปิดเผยหลังวันที่ 27 ก.ย.นี้ js100.com/en/site/news/v… #ข่าวPNC

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการรับมือสถานการณ์ในวันพรุ่งนี้ ที่มีกำหนดอ่านคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าวของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า อย่าให้ความสำคัญ เพราะวันพรุ่งนี้ก็เหมือนวันที่มีการตัดสินคดีตามกระบวนการยุติธรรมปกติกทุกคดี และผลการตัดสินนั้นก็ยังไม่ทราบผลล่วงหน้า สำหรับ ในส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ทั้งเรื่องเส้นทาง หรือการติดตามตัว นายกรัฐมนตรีระบุว่า เป็นคนละเรื่อง และขออย่าเอามารวมกัน โดยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการสืบสวนสอบสวน ขณะนี้ตนเองทราบที่อยู่ของนางสาวยิ่งลักษณ์แล้ว และจะเปิดเผยหลังวันที่ 27 ก.ย.นี้ จึงขออย่าไปซักถามจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายก่อน เพราะเกรงว่าจะสร้างความสับสน

 

ส่วนการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพานางสาวยิ่งลักษณ์หนีนั้นจะต้องดูข้อกฎหมายในหลายประเด็น ถ้าพิสูจน์ได้ว่าผิดจริง ก็ดำเนินการตามกฎหมายทั้งทางวินัยและอาญา จึงขอเวลาในการตรวจสอบ ส่วนคนสั่งการให้3 นายตำรวจ พานางสาวยิ่งลักษณ์ หลบหนีนั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า มีแต่สื่อที่ระบุตัวย่อ ภ. กับ ค. ซึ่งอาจจะไม่ใช่การสั่งการ อาจจะเป็นคนรู้จักที่ไปฝากให้ช่วยกัน หรืออาจจะเป็นลูกน้องเก่า ที่ถูกขอให้ช่วยทำ

 

นายกรัฐมนตรียังระบุด้วยว่า ไม่มีรายงานว่านางสาวยิ่งลักษณ์มีการขอลี้ภัยทางการเมืองในต่างประเทศ เพราะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากคดียังอยู่ในกระบวนการศาล อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ต้องดูว่าประเทศนางสาวยิ่งลักษณ์ไปอาศัยอยู่นั้นมีสัญญาส่งตัว และจะดำเนินการส่งตัวหรือไม่เพราะในบางประเทศไม่สามารถไปบังคับให้ดำเนินการได้ สำหรับขั้นตอนการดำเนินการต่อไป ต้องรอดูหลังผลการตัดสินคดีในวันที่ 27 .ก.ย.นี้ เพราะทุกอย่างมีขั้นตอน มีกระบวนการ เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตอนใกล้ ตาย” มันมีความรู้สึกอย่างไร

อาการของการ “ตาย” ที่คนอื่นได้ศึกษามาหรือเคยได้พูดคุย

กับคนมีประสบการณ์ใกล้ตาย (near-death experience) นั้นเป็นเช่นไร คุณหัชชา ณ บางช้าง เคยค้นคว้าเรื่องนี้มาเขียนใน “ภาวะหลังตาย” และเล่าว่า “กระบวนการตาย” ในระยะต่าง ๆ นั้นเป็นเช่นไร

ท่านบอกว่ามันมี 4 ขั้นตอนอย่างนี้

 

๑. ระยะแรก เป็นระยะที่ธาตุดินเริ่มสลายตัว

กลายเป็นน้ำ ผู้ตายจะรู้สึกอ่อนระโหย

ไม่มีแรง การมองเห็นต่าง ๆ เริ่มเสื่

มองอะไร ๆ ก็ไม่ชัด ทุกอย่างดูมัว ไปหมด

ทุกอย่างที่เห็น เหมือนมองไปกลางถนน

ขณะแดดจัดๆภาพต่างๆจะเต้นระยิบระยับ

เต็มไปหมด

 

๒. ระยะที่น้ำจะกลายเป็นไฟ ช่วงนั้น

น้ำในร่างกายเริ่มแห้งลง จะรู้สึก ชา ๆ ตื้อ ๆ

เริ่มหมดความรู้สึก ไล่จากปลายเท้าขึ้นมา

ประสาทหูเริ่มไม่รับรู้คือเริ่มไม่ได้ยินเสียง

อะไร มองไปทางไหนก็เห็นแต่ควัน

 

๓. ระยะนี้ไฟเปลี่ยนเป็นลม

หูจะไม่ได้ยินอะไรอีกเลย รู้สึกหนาว

จับใจ ความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ หยุดหมด

ลมหายใจอ่อนลงเรื่อย ๆ

จมูกเริ่มไม่รับความรู้สึกเรื่องกลิ่น

 

๔. ระยะนี้ ธาตุลมจะเปลี่ยนเป็นอากาศธาตุ

ตอนนี้ เจตสิกทุกอย่าง รวมทั้งการหายใจ

จะหยุดหมดพลังงานทั้งหลายที่เคย

ไหลเวียนอยู่ในร่างกายจะไหลกลับคืนไปสู่

ระบบประสาทส่วนกลางหมด ลิ้นแข็ง

ไม่รับรู้เรื่องรสชาติใดๆความรู้สึกสัมผัส

หมดไป ความรู้สึกอยากโน่น อยากนี่ต่าง ๆ

ที่เคยมีก็หมดไป มีความรู้สึกเหมือน

อยู่กับแสงเทียนที่กำลังลุกโพลงอยู่เท่านั้น

 

ท่านบอกว่าตอนนี้แหละที่แพทย์จะประกาศว่า

ผู้ป่วยในความดูแล “ถึงแก่กรรม” แล้ว (clinical death)

 

นั่นก็คือจุดที่ “เวทนา” ทั้งหมดดับไป สมองและระบบไหลเวียนต่าง ๆ ของร่างกายหยุดทำงานหมด แปลว่ารูปและนาม หรือเบญจขันธ์ ตายไปแล้ว

 

ก็ต้องถกกันต่อไปว่า ถ้าเราเชื่อว่า วิญญาณยังอยู่ต่อเมื่อร่างกายสลายไป จะไปอยู่ที่ไหนอย่างไรต่อไป

 

อ่านเจออีกแหล่งหนึ่งเรื่อง “ลักษณะการตาย” ตามแนวคิดแบบ “เซน” ที่คุณ “โชติช่วง นาดอน” เคยรวบรวมไว้ในหนังสือ “จิตคือพุทธะ” เมื่อนานมาแล้ว

 

ท่านบอกว่าคนเราตายได้สองลักษณะ คือ “ตายอย่างปราศจากที่พึ่ง” และ

“ตายอย่างสมบูรณ์ด้วยที่พึ่ง”

 

คนที่ตายย่างแรกนั้นเวลาใกล้จะสิ้นลม มีอารมณ์ผิดไปจากปกติ จิตใจกลัดกลุ้มยุ่งเหยิง เรียกว่า “จิตวิการ” ซึ่งหมายถึงจิตเกิดความปวดร้าวทรมานเพราะ

ยัง “ยึดติด” กับหลายเรื่อง

 

หรือที่ผมเรียกว่า “ไม่ยอมตายทั้ง ๆ ที่ต้องตาย” นั่นคือจิตใจยังติดข้องกับอุปาทาน ๔ ประการคือ

 

๑. ติดอยู่กับทรัพย์สินเงินทอง

๒. ห่วงใยอาลัยในสิ่งที่เป็นรูป และอรูป

โดยเห็นว่าเป็นของเที่ยง

๓. มีนิวรณ์ความวุ่นวาย ฟุ้งซ่าน

มาห้ามจิตมิให้บรรลุความดี

๔. มีความดูแคลนเมินเฉยในคุณพระรัตนตรัย

 

เขาบอกว่าคนส่วนใหญ่ตายลักษณะอาการ

อย่างนี้ เรียกว่าตายอย่างอนาถา

 

ส่วนการตายอย่างสมบูรณ์ด้วยที่พึ่งนั้น

แปลว่าคนใกล้ตายมีสติอารมณ์ผ่องใส

ไม่หวั่นไหว และซาบซึ้งในวิธีของมรณกรรม และยึดหลัก ๔ ประการคือ

 

๑. มีอารมณ์เฉย ๆ

ซาบซึ้งถึงกฎธรรมดาแห่งความตาย

๒. ซาบซึ้งถึงสภาพการณ์สิ่งในโลกของ

ความไม่เที่ยง ไม่เป็นแก่นสาร

๓. รำลึกถึงกุศลกรรมที่ได้ผ่านมาในชีวิต

และเกิดปิติปลาบปลื้ม

๔. ยึดมั่นเอาคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง

อยู่ตลอดเวลาจนสิ้นลมหายใจ

 

ด้วยเหตุนี้แหละ, ผมจึงเห็นว่าการ

“ฝึกตายก่อนตาย”ดั่งที่ท่านพุทธทาส หรือ.. หลวงพ่อ หลวงปู่ ครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะ..

หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี ท่านเคยสอนเรานั้น

เป็นเรื่องที่ประเสริฐสุดแล้ว

 

แต่คนส่วนใหญ่กลัวตาย แม้จะเอ่ยถึงคำว่าตายก็รับไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นการ “แช่ง” ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครหนีความตายได้แม้แต่คนเดียว

การเรียนรู้ “มรณาอุปายะ” หรือ “ฝึกตายก่อนตาย” นั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ทำให้มันสนุกเสีย ให้มันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นน่ายินดี ก็จะทำให้ความทุกข์ระหว่างมีชีวิตอยู่นั้น

ลดน้อยถอยลง และเมื่อถึงเวลาที่ต้องจากโลกนี้ไปก็ไม่ตกใจ

ไมตื่นเต้น ไม่รันทดและทรมานเพราะ..

ความกลัวและความไม่ต้องการที่จะจากไป

 

ชาวพุทธที่ฝึกปฏิบัติธรรมในสาระจริง ๆ (ไม่ใช่แค่ทำบุญแล้วนึกว่าจะต้องไปสวรรค์

โดยไม่ต้องปฏิบัติธรรม) ก็จะเข้าใจว่า.. “ขันธ์ทั้งห้า” ล้วนไม่เที่ยง ไม่มีความแน่นอน เปลี่ยนแปลงและทรุดโทรม และท้ายสุดก็แตกดับไป และระหว่างที่มรณกาลมาถึงนั้น ขันธ์ห้าก็ย่อมจะแปรปรวน จึงควรจะเตรียมตัวและเตรียมใจไว้

 

เมื่อความตายมาถึง, เราก็จะได้ไม่ทุรนทุราย และตายอย่างมีสติ และ “รู้เท่าทันความตาย” ซึ่งเป็นสุดยอดของการมีชีวิตอยู่นั่นเอง..

 

ข้อมูลดีๆโปรดแชร์ต่อ @บุญรักษา“ตอนใกล้ตาย” มันมีความรู้สึกอย่างไร?

 

อาการของการ “ตาย” ที่คนอื่นได้ศึกษามาหรือเคยได้พูดคุย

กับคนมีประสบการณ์ใกล้ตาย (near-death experience) นั้นเป็นเช่นไร คุณหัชชา ณ บางช้าง เคยค้นคว้าเรื่องนี้มาเขียนใน “ภาวะหลังตาย” และเล่าว่า “กระบวนการตาย” ในระยะต่าง ๆ นั้นเป็นเช่นไร

ท่านบอกว่ามันมี 4 ขั้นตอนอย่างนี้

 

๑. ระยะแรก เป็นระยะที่ธาตุดินเริ่มสลายตัว

กลายเป็นน้ำ ผู้ตายจะรู้สึกอ่อนระโหย

ไม่มีแรง การมองเห็นต่าง ๆ เริ่มเสื่อม

มองอะไร ๆ ก็ไม่ชัด ทุกอย่างดูมัว ไปหมด

ทุกอย่างที่เห็น เหมือนมองไปกลางถนน

ขณะแดดจัดๆภาพต่างๆจะเต้นระยิบระยับ

เต็มไปหมด

 

๒. ระยะที่น้ำจะกลายเป็นไฟ ช่วงนั้น

น้ำในร่างกายเริ่มแห้งลง จะรู้สึก ชา ๆ ตื้อ ๆ

เริ่มหมดความรู้สึก ไล่จากปลายเท้าขึ้นมา

ประสาทหูเริ่มไม่รับรู้คือเริ่มไม่ได้ยินเสียง

อะไร มองไปทางไหนก็เห็นแต่ควัน

 

๓. ระยะนี้ไฟเปลี่ยนเป็นลม

หูจะไม่ได้ยินอะไรอีกเลย รู้สึกหนาว

จับใจ ความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ หยุดหมด

ลมหายใจอ่อนลงเรื่อย ๆ

จมูกเริ่มไม่รับความรู้สึกเรื่องกลิ่น

 

๔. ระยะนี้ ธาตุลมจะเปลี่ยนเป็นอากาศธาตุ

ตอนนี้ เจตสิกทุกอย่าง รวมทั้งการหายใจ

จะหยุดหมดพลังงานทั้งหลายที่เคย

ไหลเวียนอยู่ในร่างกายจะไหลกลับคืนไปสู่

ระบบประสาทส่วนกลางหมด ลิ้นแข็ง

ไม่รับรู้เรื่องรสชาติใดๆความรู้สึกสัมผัส

หมดไป ความรู้สึกอยากโน่น อยากนี่ต่าง ๆ

ที่เคยมีก็หมดไป มีความรู้สึกเหมือน

อยู่กับแสงเทียนที่กำลังลุกโพลงอยู่เท่านั้น

 

ท่านบอกว่าตอนนี้แหละที่แพทย์จะประกาศว่า

ผู้ป่วยในความดูแล “ถึงแก่กรรม” แล้ว (clinical death)

 

นั่นก็คือจุดที่ “เวทนา” ทั้งหมดดับไป สมองและระบบไหลเวียนต่าง ๆ ของร่างกายหยุดทำงานหมด แปลว่ารูปและนาม หรือเบญจขันธ์ ตายไปแล้ว

 

ก็ต้องถกกันต่อไปว่า ถ้าเราเชื่อว่า วิญญาณยังอยู่ต่อเมื่อร่างกายสลายไป จะไปอยู่ที่ไหนอย่างไรต่อไป

 

อ่านเจออีกแหล่งหนึ่งเรื่อง “ลักษณะการตาย” ตามแนวคิดแบบ “เซน” ที่คุณ “โชติช่วง นาดอน” เคยรวบรวมไว้ในหนังสือ “จิตคือพุทธะ” เมื่อนานมาแล้ว

 

ท่านบอกว่าคนเราตายได้สองลักษณะ คือ “ตายอย่างปราศจากที่พึ่ง” และ

“ตายอย่างสมบูรณ์ด้วยที่พึ่ง”

 

คนที่ตายย่างแรกนั้นเวลาใกล้จะสิ้นลม มีอารมณ์ผิดไปจากปกติ จิตใจกลัดกลุ้มยุ่งเหยิง เรียกว่า “จิตวิการ” ซึ่งหมายถึงจิตเกิดความปวดร้าวทรมานเพราะ

ยัง “ยึดติด” กับหลายเรื่อง

 

หรือที่ผมเรียกว่า “ไม่ยอมตายทั้ง ๆ ที่ต้องตาย” นั่นคือจิตใจยังติดข้องกับอุปาทาน ๔ ประการคือ

 

๑. ติดอยู่กับทรัพย์สินเงินทอง

๒. ห่วงใยอาลัยในสิ่งที่เป็นรูป และอรูป

โดยเห็นว่าเป็นของเที่ยง

๓. มีนิวรณ์ความวุ่นวาย ฟุ้งซ่าน

มาห้ามจิตมิให้บรรลุความดี

๔. มีความดูแคลนเมินเฉยในคุณพระรัตนตรัย

 

เขาบอกว่าคนส่วนใหญ่ตายลักษณะอาการ

อย่างนี้ เรียกว่าตายอย่างอนาถา

 

ส่วนการตายอย่างสมบูรณ์ด้วยที่พึ่งนั้น

แปลว่าคนใกล้ตายมีสติอารมณ์ผ่องใส

ไม่หวั่นไหว และซาบซึ้งในวิธีของมรณกรรม และยึดหลัก ๔ ประการคือ

 

๑. มีอารมณ์เฉย ๆ

ซาบซึ้งถึงกฎธรรมดาแห่งความตาย

๒. ซาบซึ้งถึงสภาพการณ์สิ่งในโลกของ

ความไม่เที่ยง ไม่เป็นแก่นสาร

๓. รำลึกถึงกุศลกรรมที่ได้ผ่านมาในชีวิต

และเกิดปิติปลาบปลื้ม

๔. ยึดมั่นเอาคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง

อยู่ตลอดเวลาจนสิ้นลมหายใจ

 

ด้วยเหตุนี้แหละ, ผมจึงเห็นว่าการ

“ฝึกตายก่อนตาย”ดั่งที่ท่านพุทธทาส หรือ.. หลวงพ่อ หลวงปู่ ครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะ..

หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี ท่านเคยสอนเรานั้น

เป็นเรื่องที่ประเสริฐสุดแล้ว

 

แต่คนส่วนใหญ่กลัวตาย แม้จะเอ่ยถึงคำว่าตายก็รับไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นการ “แช่ง” ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครหนีความตายได้แม้แต่คนเดียว

การเรียนรู้ “มรณาอุปายะ” หรือ “ฝึกตายก่อนตาย” นั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ทำให้มันสนุกเสีย ให้มันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นน่ายินดี ก็จะทำให้ความทุกข์ระหว่างมีชีวิตอยู่นั้น

ลดน้อยถอยลง และเมื่อถึงเวลาที่ต้องจากโลกนี้ไปก็ไม่ตกใจ

ไมตื่นเต้น ไม่รันทดและทรมานเพราะ..

ความกลัวและความไม่ต้องการที่จะจากไป

 

ชาวพุทธที่ฝึกปฏิบัติธรรมในสาระจริง ๆ (ไม่ใช่แค่ทำบุญแล้วนึกว่าจะต้องไปสวรรค์

โดยไม่ต้องปฏิบัติธรรม) ก็จะเข้าใจว่า.. “ขันธ์ทั้งห้า” ล้วนไม่เที่ยง ไม่มีความแน่นอน เปลี่ยนแปลงและทรุดโทรม และท้ายสุดก็แตกดับไป และระหว่างที่มรณกาลมาถึงนั้น ขันธ์ห้าก็ย่อมจะแปรปรวน จึงควรจะเตรียมตัวและเตรียมใจไว้

 

เมื่อความตายมาถึง, เราก็จะได้ไม่ทุรนทุราย และตายอย่างมีสติ และ “รู้เท่าทันความตาย” ซึ่งเป็นสุดยอดของการมีชีวิตอยู่นั่นเอง..

 

ข้อมูลดีๆโปรดแชร์ต่อ @บุญรักษ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

21766741_1669762836407835_5905031752397010600_n.jpg?oh=db2ab20e2536684740c677da41ed65a3&oe=5A50DE95

ขยายวัน ไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี จากเดิมครบ ในวันที่ 12 ตุลาคม ให้ต่อไปอีก 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-27 ตุลาคม เช่นเดียวกับการลดธงครึ่งเสา ที่จะต่อไปจนถึงวันที่ 27 ตุลาคม ส่วนวันหยุดราชการยังคงยืนยัน วันที่ 26 ตุลาคม เพียงวันเดียว

 

22041901_1879193729062974_8848966596910356320_o.jpg?oh=ff15d8dd9fd4ce97f6e241d6a2a7ea54&oe=5A8353DC

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พิมพ์ไปน้ำตาไหลไป .... ครม. รับทราบรายงาน ผลการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดพิธีการงาน พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ มีหมายกำหนดการจัดงานในวันที่ 25-29 ตุลาคม โดย

วันที่ 25 ตุลาคม เวลา 1700 น พิธีออกพระเมรุมาศ

วันที่ 26 ตุลาคม เวลา 0700 น. พิธีเชิญพระบรมโกศ เวลา 1630 น. ถวายพระเพลิง และเวลา 22 00 น. ถวายพระเพลิงจริง

วันที่ 27 ตุลาคม เวลา 0800 น. จะมีพิธีเก็บพระบรมอัฐิ เวลา 0900 น. เชิญพระบรมอัฐิเข้าพระบรมมหาราชวัง

วันที่ 28 ตุลาคม เป็นวันออกทุกข์ เวลา 1730 น. จะมีพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล

วันที่ 29 ตุลาคม เวลา 1000 น. จะเชิญพระบรมอัฐิขึ้นพระวิมาน เวลา 1730 น. เชิญพระบรมสรีรังคารไปวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

22042366_1879191455729868_7294842200153255531_o.jpg?oh=83b899db2016eaa9b5ccb1249e70c889&oe=5A80E7BC

Siriwanna Jill - New

22089159_1879468029035544_4024800184584138226_n.jpg?oh=210cedc98b41104d7bff27e315bba6bd&oe=5A531492

เช้าชนค่ำ ค่ำชนเช้า รอเข้ากราบ

ใจหายวาบ บ่อน้ำตา ฟ้าพรมพร่าง

จะรักท่าน ต่อไป ไม่จืดจาง

ไม่โรยร้าง รักท่าน แม้วันเดียว

 

โปรดเกล้าฯ ให้กราบพระบรมศพต่อถึง ๕ ตุลาคม ขยายเวลาจนถึงเที่ยงคืน หลังพสกนิกร หลั่งไหลเข้าไปกราบ ไม่หวั่นไหวฝนตกหนักเพียงใด

 

'๒๖ ตุลาวันประชารำลึก'

การเข้าถวายบังคมพระบรมศพ......... "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร" ในพระบรมมหาราชวัง ยังมีเวลาอีก ๓ วัน ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ เป็นวันสุดท้าย! จากนั้น กทม.จะเคลียร์พื้นที่…

THAIPOST.NET

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บอกรักประเทศไทย

บอกรัก ธ ผู้สถิตในดวงใจนิรันดร์

21766501_175384063033931_8667364190943891833_n.jpg?oh=7a299bc1c1a7c39fdbcca4ad68a4b7fb&oe=5A82272D

ในหลวงของพวกเรา

24 September at 17:12 ·

คนเขียนเป็นคนยุคหลังอายุแค่ 31 ปี

แต่เขียนไว้น่าอ่านมาก

ลองอ่านดู......

ผมเกิดปี 2528 ปีที่ผมเกิด ในหลวงอายุ 58 ปีแล้ว.... ครอบครัวของผมเป็นครอบครัวรักในหลวง...

สอนให้ผมรักในหลวง...

แต่ผมก็เหมือนเด็กรุ่นหลังทั่วไป ที่มีช่วงชีวิตที่สงสัยว่า

ทำไมผู้ใหญ่ คนเฒ่าคนแก่ ถึงรักในหลวงองค์นี้เสียจริง... และไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องรักด้วย..

ยิ่งพอเข้าเรียนมหาลัย ที่เรียกตัวเองว่ามหาลัยการเมือง ยิ่งแล้วใหญ่ ไปเจอนักวิชาการกล่อมไปกล่อมมา กลับมาพาลสงสัยในหลวงอีกซะงั้น...

ชีวิตจริงของผม มันเริ่มต้นในชีวิตทำงาน นี่แหละครับ.... ผมทำอาชีพนักข่าว เริ่มตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้ว ประเทศไทย คืออะไรกันแน่.... ทำไมเราถึงอยู่รวมกันได้... เราสร้างสังคมมาจากอะไร...

ผมเริ่มหลับตานึกภาพ แผ่นดินประเทศไทย เป็นแผ่นแบบๆ มีภูเขาทอดลงมาในภาคเหนือ.... มีแม่น้ำสี่สายไหลมารวมกัน เป็นเจ้าพระยา...

คำตอบ ก็เฉลยออกมาทั้งหมดว่า... ใช่แล้ว เราสร้างสังคมจากน้ำ.... จากแม่น้ำนี่แหละ ที่ทำให้ดินชุ่มชื้น เราจึงเริ่มต้นสร้างประเทศ จากการเกษตร.... เกษตรกรในบ้านเราจึงมีอยู่มาก.... ส่วนอุตสาหกรรมอื่นๆ นั้นเริ่มมาทีหลัง...

แต่ทั้งหมดนี้.... ก็ต้องพึ่งพาอาศัยน้ำอยู่ดี...

มันเลยเป็นแรงจูงใจ ให้ผมมุ่งมั่น ศึกษาระบบน้ำและลำน้ำของประเทศเรา.... ระบบชลประทาน และการผันน้ำ....ใช้เวลาเป็นแรมปี.....

ยิ่งศึกษา ยิ่งรู้ว่า เรื่องน้ำ มั่วกันไม่ได้.... ต้องรู้จริงเท่านั้น... ถึงจะทำได้.... เพราะแม่น้ำไม่ใช่ถนน... แม่น้ำมีส่วนที่ลึก มีส่วนที่ตื้น มีกว้าง มีแคบ น้ำไหลช้าเร็วต่างกัน.... เก็บน้ำได้ไม่เท่ากัน...

และในประเทศของเรา... ไม่มีเรื่องน้ำเรื่องไหน ที่ในหลวงไม่เคยศึกษา.... ผมพบว่าพระราชาแก่ๆ ของผม ทรงรู้ทิศทางของน้ำ เป็นอย่างดีในทุกรูปแบบ..... เขื่อนเกือบทุกแห่งในประเทศนี้ จะสร้างไม่ได้เลย ถ้าไม่มีในหลวง เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง....

บางเรื่องข้าราชการไม่ยอมศึกษา ถ้าไม่ใช่โครงการใหญ่ ใช้เงินก่อสร้างเยอะ... บางเรื่องศึกษาแล้ว สร้างไม่ได้ เพราะพูดกับชาวบ้านไม่รู้เรื่องถูกต่อต้าน... เนื่องจากคนคุยกับชาวบ้านเป็นข้าราชการผู้น้อย ส่วนคนอนุมัติเป็นข้าราชการผู้บริหารห้องแอร์...

มีแต่พระราชาแก่ๆของผมนี่แหละ ที่นั่งพื้นคุยกับชาวบ้าน.... บางทีพระราชานั่งบนดิน ชาวบ้านนั่งบนเสื่อด้วยซ้ำ....

ผมหมดคำถาม หมดความสงสัย หมดความคลางแคลงใจทุกอย่างในตัวพระราชาแก่ๆ ของผมทันที

ความรัก ความนับถือ ความศรัทธา ทุกอย่างในตัวพระราชาแก่ของผม ปรากฏท่วมล้นหัวใจเด็กเมื่อวานซืนอย่างผม..... ผมรู้แล้ว... ว่าทำไมคนเฒ่าคนแก่ถึงรัก และสอนให้เด็กอย่างผมรักในหลวงด้วย.....

ปี 54 เกิดน้ำท่วมใหญ่ เดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า.... พระราชาของผมอายุ 84 ปี ทรงแก่มากๆแล้ว.และป่วยอยู่โรงพยาบาล... แต่ก็ยังเรียกผู้เกี่ยวข้อง ไปให้คำแนะนำ ว่าจะรับมือกับน้ำอย่างไร...

ทันทีที่รู้ข่าวนี้ ผมน้ำตาคลอ..... สงสาร และรัก พระราชาแก่ ที่ยังทำงานรับใช้ชาวบ้าน... แม้ในยามตัวเองเจ็บไข้ทุกข์ยาก....

ไปฟังคลิปสิครับ มีคนไปกราบพระบาทถามพระอาการประชวร..... ในหลวงบอกว่า "เป็นที่หัวใจ เลยเจ็บร้าวไปที่หลัง และที่แขน"...... ได้ยินพระสุรเสียง จากพระโอษฐ์โดยตรง ใจผมเจ็บแทน เหมือนจะตายแทนให้ได้

ผมสงสารพระราชาแก่ของผมจับใจ..... ถ้าไม่ใช่ความรักจากพระราชหฤทัยโดยแท้จริง... อะไรเล่าจะทำให้พระราชาแก่ ทำงานให้พวกเราถึงขนาดนี้....

วันนี้ประเทศของผม ไม่มีพระราชาแก่ๆ อีกต่อไปแล้ว.... ความคิดถึงจับจิตผมไปสุดขั้วหัวใจ..... พระราชาที่จะหาที่ไหนในโลกไม่มีอีกแล้ว

ยิ่งศึกษาเรื่องราวปูมหลัง.... ยิ่งรักในพระราชาแก่สุดใจ..... พระราชาของผม ถูกรังแก กลั้นแกล้ง ว่าร้ายมากมาย.....นับแต่เริ่มครองราชย์เมื่ออายุ 19 ปี

จอมพลเผด็จการทหาร กดขี่ย่ำยีท่านเป็นสิบปี..... ตามมาด้วยปัญหาการเมืองมากมาย ระดับที่ประเทศไทยเจียนอยู่เจียนไป ขณะเดียวกันปัญหาปากท้องชาวบ้าน ที่รออยู่อีกมหาศาล.....

ถึงขั้นที่พระราชาของผมต้องเอ่ยปากว่า

"...บางเรื่องมันน่าท้อ แต่ท้อไม่ได้....."ต้องทรงอดทนขนาดไหน

ผมรู้แล้วว่า ทำไมทรงยอมเสด็จไปที่ไกลๆ ชนิดที่คำว่าทุรกันดารยังไม่พอ......เมื่อพระเทพฯทรงเล่าว่า เพราะในหลวงมีแนวคิดระเบิดจากข้างใน

คือ เข้าไปทำให้ชาวบ้านแข็งแรงก่อน แล้วเขาจะออกมาเอง..... ไม่ต้องรีบทำอย่างโลกสมัยใหม่ ตัดถนน เอาความเจริญเข้าไป ชาวบ้านยังไม่พร้อมก็ถูกคนข้างนอกเอาเปรียบ

ผมทึ่งน้ำใจพระราชาแก่ ที่มีนักข่าวฝรั่งมาถามว่า....

จะสร้างเขื่อนเพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์หรือ?

แต่พระราชาแก่บอกว่า

"...ไม่ได้มาสู้กับประชาชน พระองค์มาสู้กับความหิวโหย ถ้าเขื่อนเสร็จ แม้แต่คนที่เรียกตัวเองว่าคอมมิวนิสต์ ก็จะอยู่ดีกินดีไปด้วย....."

ผมทึ่งที่พระราชาแก่ ของผมเจ็บป่วยอยู่โรงพยาบาล หมอพาเข็นรถเล่นคลายเครียด พระราชาของผมมองเห็นรถติด ยังคิดวิธีแก้รถติดให้จนได้

ทางไหนที่จะทำให้ประเทศไทยเจริญ ทำให้ชาวบ้านอยู่สบาย พระราชาของผมเอาหมดทุกทาง

พระราชาของผม ทำงานรับใช้ชาวบ้านจนตัวตาย....... ชีวิตผมไม่เคยเห็นใครทำอะไรแบบนี้.... นอกจากคนเป็นพ่อแม่ทำให้ลูก

ผมรู้แล้วทำไมคนไทยเรียกพระราชาแก่ๆ ของผมว่า "พ่อ"

ผมรู้แก่ใจตัวเองแล้วว่ารักในหลวงเพราะอะไร.......

เพราะหัวจิตหัวใจของท่านมีไว้เพื่อชาวบ้านเท่านั้น

ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

ขอบคุณที่มา อรรถกร ชื่นฤทัยในธรรม

กราบทูลลาฝ่าพระบาทในชาตินี้

หากแม้นมีโอกาสในชาติหน้า

ขอผลบุญกุศลจงนำพา

ได้เป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

 

 

คลิป ในหลวง ให้สัมภาษณ์ สุดยอด การสร้างเขื่อนไม่ต่อสู้กับใครแต่เพื่อความเป็นอยู่ที่ ..

 

 

 

ในหลวงให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเรื่อง ร.8 - YouTube

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

TNN 24

 

 

TNN 24

กูเกิลร่วมฉลอง100ปีธงไตรรงค์ ทำโลโก้ธงชาติไทยขึ้นหน้าหลักเว็บไซต์

28 ก.ย. 60 วันนี้เป็น “วันพระราชทานธงชาติไทย” โดยในปี 2560 นี้ถือเป็นวันครบรอบ 100 ปีธงชาติไทย ทำให้ทางเว็บไซต์กูเกิล (Google.com) เว็บไซต์ค้นหาชื่อดังอันดับหนึ่งของโลก…

NAEWNA.COM

 

คุณเข้าใจจริงหรือเปล่าว่าพ่อสอนเราว่าอะไร..? บอกว่าเราจะ "เดินตามรอยเท้าพ่อ".. แต่ก็ไม่ค่อ

ทุกๆคนคงเคยได้ยินอยู่แล้วใช่ไหมกับประโยคที่ว่า "แม้นไม่อาจเทียบหนึ่งในล้าน ลูกขอตั้งปณิธานสานสิ่งที่พ่อสร้างไว้...” หนึ่งในเพลงหลายสิบเพลงที่เขาแต่งให้ในหลวงร.9…

WELOVEMYKING.COM

 

คนไทยทุกคนควรรู้!! เผย.. รายชื่อจุดวางดอกไม้จันทน์ทั่วโลก พร้อมเบอร์ติดต่อประสานงานในอบพ

เผย.. รายชื่อจุดวางดอกไม้จันทน์ทั่วโลก และเบอร์ติดต่อประสานงาน สำหรับ เบอร์โทรศัพท์คิดค่อประสานงานในพื้นที่รอบพระบรมมหาราชวังและสนามหลวง ***จากข้อมูลใน ๓๐ มิถุนายน…

WELOVEMYKING.COM

 

พลังจงรักภักดี!!!...ปรากฎการณ์แถวสุดยาวเหยียด ไม่น่าเชื่อหางแถว"กราบพระบรมศพ"มาถึงตรงนี้ ส

เมื่อเวลาประมาณ 8.26 น. ของวันนี้ (26 ก.ย. 60) ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Thanatnun Lakkhum ได้โพสต์รูปภาพ…

WELOVEMYKING.COM

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เดินให้ได้ผลดีต่อสุขภาพ... ควรทำอย่างไร

1. ท่าเดินที่ถูกต้องคือเดินหลังตรง ศีรษะตรง ไม่ก้มหน้า เดินเร็ว โดยก้าวถี่สั้นๆ สม่ำเสมอ แกว่งแขน และหายใจเข้าออกลึกๆ ยาวๆ หากจะให้การเดินมีผลในการลดน้ำหนักมากขึ้นก็ให้แขม่วหน้าท้องด้วย

การเดินเร็วกระตุ้นร่างกาย โดยเฉพาะระบบหัวใจและหลอดเลือด ฝึกหัวใจให้ทำงานเพิ่มมากขึ้นกว่าภาวะปกติในชีวิตประจำวัน การเดินทั่วไปในชีวิตประจำวันนั้น แม้จะเป็นกิจกรรมทางกายที่ดีอย่างหนึ่ง แต่ไม่สามารถฝึกระบบหัวใจและหลอดเลือดให้ทำงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ จึงไม่ถือว่าเป็นการออกกำลังกายที่สามารถเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายได้อย่างเต็มที่ และไม่ช่วยลดน้ำหนักสำหรับคนสูงวัย

การดูแลสุขภาพร่างกายที่สำคัญคือการพัฒนาความทนทาน การเดินเร็วจะได้ผลทางอ้อมคือ หัวใจถูกสั่งให้ทำงานนานแบบทนทานไปด้วย

2. ความเร็วในการเดิน

แม้การเดินเพื่อสุขภาพเป็นการเดินเร็ว แต่ความเร็วในการเดินที่เหมาะสมของแต่ละคนไม่เท่ากัน

หลักง่ายๆ คือ เดินแล้วต้องเหนื่อยแต่ยังสามารถพูดคุยได้ปกติ ไม่ถึงขั้นหอบ หายใจไม่ทัน แต่อย่างน้อยต้องมีเหงื่อออกบ้าง และรู้สึกว่าต้องหายใจมากกว่าปกติ หัวใจทำงานมากกว่าปกติ ที่สำคัญคือไม่ต้องเร่งรีบเดินให้ทันคนอื่น เพราะความสามารถของร่างกายแต่ละคนไม่เท่ากัน

3.ระยะเวลาและความถี่ในการเดิน

แม้ว่าการเดินใช้ความหนักในการออกกำลังกายไม่มาก จึงไม่ได้เผาผลาญพลังงานมากเท่าการออกกำลังกายด้วยวิธีอื่นในเวลาเท่ากัน ถ้ามีการออกกำลังกายด้วยการเดินอย่างสม่ำเสมอและมากพอในแต่ละสัปดาห์ สุขภาพร่างกายของเราจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

คนที่เริ่มเดินออกกำลังกายใหม่อาจเดิน 15 นาที พัก 2-3 นาที แล้วเดินอีก 15 นาที แต่เมื่อเดินได้คล่องแล้วควรเพิ่มขึ้นไปเป็นครั้งละ 30 นาทีเป็นอย่างน้อย โดยเฉพาะหากจะเดินเพื่อลดน้ำหนัก เพราะไขมันจะถูกใช้มากเมื่อเราเดินหรือออกกำลังกายต่อเนื่องไปอย่างน้อย 30 นาที

ดังนั้น การออกกำลังกายใดๆ นานไม่ถึง 30 นาที แม้จะได้ผลตรงกล้ามเนื้อ แต่ก็ลดไขมันไม่ได้

มีงานวิจัยในสหรัฐอเมริกายืนยันว่า ออกกำลังกายน้อยครั้งอย่างหนักหน่วง ส่งผลดีต่อร่างกายน้อยกว่าออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

อีกด้านหนึ่ง มีงานวิจัยพบว่าการเดินเร็วในระดับที่หัวใจเพิ่มอัตราการเต้นเป็นจำนวน 10,000 ก้าวต่อวัน 3 วันต่อสัปดาห์ ช่วยให้มีความดันโลหิตที่เหมาะสมได้เป็นอย่างดี

ที่สำคัญคือ เพียงแค่ก้าวออกมาเดิน สุขภาพก็ดีขึ้นกว่าเดิมแล้วอย่างแน่นอน

21994376_10155824224817028_3565466864392059026_o.jpg?oh=c29a5fda8c8a64c6277db22097b7a18a&oe=5A4B4C1C

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...