ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

17903353_1337178706372484_517092478328683831_n.jpg?oh=d06dbfa556981f0cb68ab3508840cbb5&oe=598A2D61

 

 

17991127_1337178659705822_870786112041516692_n.jpg?oh=841638194e1dec5d061cdde7c029519c&oe=594FBDEC

 

18010925_1337178773039144_2372857429842405952_n.jpg?oh=f327f9031b18d7d23d90f3266926c3f2&oe=5999CFCD

เปลว สีเงิน - Plew Seengern shared Apirak Ngsriwongse's post.

 

พุทธศาสนิกชน รับเสด็จ"สมเด็จพระสังฆราชฯ"ทรงเททองหล่อรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี

ที่ วัดระฆังโฆสิตาราม บิ๊กโด่ง-บิ๊กช้าง ร่วมพิธี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

17991130_10155315508447728_5918259166723774265_n.jpg?oh=9d5b7165fdb7e461f480ad846bf42675&oe=598ECCFD

 

17951539_214944408999260_1253717365384154778_n.jpg?oh=c87790965c7850b92b7071916ca1e56d&oe=5954D5DE

สร้อยพระศอมรกต เป็นสมบัติที่พระนางเจ้ารำไพพรรณี ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระพันปีหลวง ในฐานะสะใภ้หลวง สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีตัดสินพระทัยขาย เพราะมีพระราชดำริที่จะทำอยู่สองอย่างคือ นำพระบรมอัฐิของล้นเกล้าร.7 กลับเมืองไทย และท่านต้องการกลับมาให้ทันพระราชพิธีราชาภิเษก เสด็จขึ้นครองราชย์ ของรัชกาลที่8 ซึ่งทั้งหมดนี้ท่านต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง เป็นการขายแบบเงียบๆ เพราะพระองค์ไม่ประสงค์ให้เป็นที่เอิกเกริก

จะเห็นได้ว่า ในช่วงเวลานั้นสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ต้องประสบพบเจอกับความทุกข์แสนสาหัส และ พระองค์ทรงมีขัติยะมานะอย่างสูงสุดในการที่ทรงฝ่าฟันผ่านช่วงเวลานั้นมาได้

ขอบคุณเครดิต: นิตรสารHello

s://www.facebook.com/photo.php?fbid=214944408999260&set=a.123381114822257.1073741828.100014511076565&type=3&theater

 

=====

13988022_908028256007462_9192293288848008694_o.jpg?oh=f6ed49d743fcc2abe2097624bcb970d5&oe=5984A7C0

 

17903853_1849471058640379_5384670456333854187_n.png?oh=131cacbbe1ce7f79c1ae704da2cdcbd7&oe=598A718A

คลังประวัติศาสตร์ไทย with ผดุงวิทย์ ทองสัมฤทธิ์ and ผ.อ. ทัศน์ภูมิ อาทิตย์ตั้ง.

11 August 2016 · UBaYWd6OClP.png

 

 

“ทุบวังทิ้ง” กับหัวอกของคนเป็นแม่

ภาพตำหนักที่ตั้งเด่นอยู่กลางทุ่งนี้คือ วังวินด์เซอร์ หรือ วังปทุมวัน หรือจะเรียกอีกชื่อว่า “วังกลางทุ่ง”ก็ได้ วังที่ประทับนี้เป็นวังที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงสร้างพระราชทานเป็นที่ประทับของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ผู้เป็นพระราชโอรสเจ้าฟ้าชายพระองค์ใหญ่ ประสูติจากสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี ผู้เป็นพระอัครมเหสี ชาวต่างชาติในสมัยนั้นเมื่อสัญจรผ่านไปมาก็มักจะอุทานเป็นเสียงเดียวกันว่า “นั่นวังวินเซอร์” เนื่องจากวังแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมคล้ายคลึงกับพระราชวังวินด์เซอร์ แห่ง สหราชอาณาจักร

 

ในปี พุทธศักราช 2437 สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ ทรงพระประชวรหนักด้วยพระโรคไข้รากสาดน้อย และสวรรคตลงอย่างกระทันหัน โดยขณะนั้นมีพระชนมายุเพียง 15 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาฯ ผู้เป็นแม่ทรงเสียพระทัยเป็นอย่างยิ่ง เล่ากันว่าพระองค์ทรงพระกันแสงออกมาอย่างเสียงดังจนน่ากลัวว่าจะสวรรคตตามพระราชโอรสไป ถึงขนาดให้ข้าหลวงนำฉากไปกั้นเป็นที่บรรทมในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเพื่อประทับเฝ้าพระบรมโกศทรงพระศพพระราชโอรส ในปีพุทธศักราช 2459 เมื่อมีการสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขึ้น ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 พระองค์จึงพระราชทานที่ดิน และวังแห่งนี้รวมเข้ากับที่ดินแปลงอื่นให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยใช้เป็นสถานที่ในการประสิทธิ์ประสาทวิชาต่อไป

เวลาล่วงเลยมาจนถึงปี พุทธศักราช 2478 หลังจากพระราชวงศ์ถูกยึดอำนาจจากคณะราษฎร เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย หลวงศุภชลาศัย ผู้เป็นอธิบดีกรมพลศึกษา ในรัฐบาลของ จอมพล ป พิบูลสงคราม ได้มีแนวคิดที่จะหาพื้นที่ก่อสร้างกรีฑาสถานแห่งชาติขึ้น จึงได้พิจารณาเห็นว่าที่ดินบริเวณวังวินเซอร์นั้นเหมาะแก่การสร้างเป็นสนามกีฬามากที่สุด (ขณะนั้นบริเวณโดยรอบๆวังเป็นทุ่งนาว่างเปล่า) โดยให้คนนับร้อยชีวิตมาทำการรื้อถอนวังที่ประทับรวมไปถึงสิ่งปลูกสร้างโดยรอบออกจากที่ดินแห่งนี้จนหมดสิ้น

เยื้องมาอีกฝั่งทางถนนพญาไทเป็นที่ตั้งของวังสระปทุม ซึ่งเป็นวังที่ประทับของ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาฯ ผู้เป็นแม่ ด้วยความอาลัยที่ต้องสูญเสียพระราชโอรสไปดังนั้นวังวินด์เซอร์ก็เปรียบเสมือนเป็นอนุสรณ์ถึงลูกชาย มองไปไกลๆได้เห็นยอดหลังคาของวังวินด์เซอร์ก็ทำให้หายคิดถึงไปได้บ้าง แต่เมื่อรัฐบาลยืนยันที่จะทำเช่นนั้น พระองค์ก็ทำได้แต่เพียงประทับอยู่ที่เฉลียงวังสระปทุม ฟังเสียงคนงานกระหน่ำทุบวังวินด์เซอร์อยู่ทุกเช้าค่ำ ด้วยหัวอกของคนเป็นแม่ พระองค์ถึงกับทรงตรัสกับนางข้าหลวงผู้ใกล้ชิดว่า “ได้ยินเสียงเขาทุบวังลูกฉันทีไร มันเหมือนกำลังทุบใจฉันอย่างนั้น” น้ำเสียงของพระองค์สั่นคลอนน้ำพระเนตรคลอด้วยความอัดอั้นตันใจ เล่ากันว่าถ้าไม่จำเป็นพระองค์จะไม่เสด็จผ่านไปทางกรมพลศึกษา หรือหากจำเป็นต้องผ่านก็จะหันพระพักต์มองไปทางอื่น

**ปัจจุบันที่ดินบริเวณวังวินด์เซอร์ บางส่วนประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้ามาบุญครองซึ่งเช่าต่อจากจุฬาฯ และตัววังที่ประทับคือสนามศุภชลาศัย ตามชื่อของ"หลวงศุภชลาศัย" ผู้เป็นอธิบดีคนแรกของกรมพลศึกษา

อนึ่ง สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี ยังมีพระราชโอรสอีกหนึ่งพระองค์ นั่นก็คือ สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลฯ กรมหลวงสงขลานครินทร์ พระบรมราชชนกในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่8 และรัชกาลปัจจุบัน นั่นก็คือ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาฯ เป็นย่าของในหลวงนั่นเอง

 

จากภาพซ้าย คือ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี

จากภาพขวา คือ วังวินเซอร์ และสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นิทรรศการพลังแผ่นดิน อัศจรรย์งานศิลป์แผ่นดินสยาม

14 October 2014 ·

UBaYWd6OClP.png

 

จดหมายเหตุรายวัน สมเด็จพระบรมราชปิตุลาธิบดี เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ

 

สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ เป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี (สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี สมเด็จพระพันวสาอัยยิกาเจ้า) ประสูติเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๒๑ ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสยามมกุฎราชกุมาร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๒๙ นับเป็นมกุฎราชกุมารพระองค์แรกของไทย โดยเป็นตำแหน่งที่มีขึ้นใหม่แทนตำแหน่งพระมหาอุปราช หรือกรมพระราชวังบวรฯ (วังหน้า) ซึ่งมีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา แต่สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศทรงประชวรด้วยพระโรคไข้รากสาดน้อย สิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๗ ขณะมีพระชนม์ได้ ๑๖ ชันษา กับ ๖ เดือนเศษ

 

สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศทรงรอบรู้ในเรื่องต่าง ๆ เนื่องจากทรงถวายงานใกล้ชิดสมเด็จพระราชบิดามาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤติการณ์ ร.ศ.๑๑๒ ที่ประเทศสยามเกิดความขัดแย้งกับฝรั่งเศสและลุกลามถึงขั้นมีเอกราชของชาติเป็นเดิมพัน ซึ่งในเวลานั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงหาทางแก้ไขปัญหาอย่างเคร่งเครียด และเพื่อป้องกันมิให้ความลับของชาติรั่วไหล จึงมีเพียงสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ กับสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ สุขุมขัตติยกัลยาวดี (กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร) พระธิดาในสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี เพียงสองพระองค์ที่ทรงไว้วางพระราชหฤทัยให้ทราบเรื่องราวต่างๆ สมเด็จเจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ เป็นเจ้าฟ้าพระองค์แรกที่ประสูติเมื่อพระราบิดาเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว ซึ่งหากเป็นชายก็มีสิทธิที่จะได้เป็นรัชทายาท ทรงมีพระศิริโฉมงดงามยิ่งนัก เมื่อเวลาทรงเครื่องเข้าพิธีโสกันต์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ถึงกับทรงออกพระโอษฐ์ว่า

 

"ลูกพ่องามเหมือนเทวดา"

 

ซึ่งความใกล้ชิดจากการทำงานร่วมกันก็ทำให้สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศเกิดความสนิทเสน่หาเจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ฯ ซึ่งมีพระชนมายุมากกว่า ๑๐ เดือน ดังปรากฏในพระราชนิพนธ์ของพระองค์บทหนึ่งว่า

 

ได้ยลพักตร์ลักขณาสุดาพี่ จะหาไหนไม่มีเสมอสอง

เสงี่ยมงามทรามสงวนนวลละออง ไฉนน้องไร้คู่อยู่เอกา

ถ้าอยู่ได้ก็จะอยู่เป็นคู่ชื่น สำราญรื่นร่วมจิตขนิษฐา

จะบนบวงสรวงเทพเทวา ขอให้สมปรารถนาครานี้เอย

 

สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศทรงสนพระทัยการจดสมุดบันทึกประจำวันมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ โดยสมุดบันทึกดังกล่าวทรงได้รับพระราชทานมาจากสมเด็จพระราชบิดา ในวันคล้ายวันประสูติครบรอบ ๕ ชันษา และทรงเริ่มจดบันทึกในทันที โดยทรงโปรดฯ ให้พระองค์เจ้าโสมาวดี หรือที่ทรงตรัสเรียกว่าป้าโสม เป็นผู้จดตามคำบอกเล่าของพระองค์ ต่อมาเมื่อพระชนมายุได้ ๙-๑๐ ชันษา จึงทรงจดบันทึกด้วยพระองค์เอง และเมื่อมีพระชนม์ ๑๓ -๑๔ ชันษา เมื่อทรงศึกษาภาษาอังกฤษจากพระอาจารย์ชาวต่างประเทศ ก็ได้ทรงบันทึกเป็นภาษาอังกฤษ แต่ในช่วง ๑๐ เดือนสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพ ก็มิได้ทรงบันทึกอะไรอีก

 

หากกล่าวถึงสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สิ่งที่ปรัชาชนชาวไทยนึกถึงก็คือ พระตำหนักหอวัง หรือที่รู้จักในชื่อ วังวินด์เซอร์ วังกลางทุ่ง หรือ วังใหม่ เป็นพระตำหนักที่สร้างขึ้นโดยพระประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่จะพระราชทานเป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามบรมราชกุมารองค์แรกแห่งสยามประเทศ ตั้งอยู่บริเวณทุ่งประทุมวัน กรุงเทพมหานคร

 

ชาวต่างประเทศ ณ ราชกรีฑาสโมสรพบเห็นพระตำหนักแห่งนี้ จึงเรียกตามพระราชวังที่ลักษณะคล้ายกันว่า "วังวินด์เซอร์" หรือที่มาจากพระราชวังวินด์เซอร์ ณ สหราชอาณาจักร

 

การก่อสร้างเริ่มต้นในปี พ.ศ. ๒๔๒๔

ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษ โดยนำแบบของพระราชวังวินด์เซอร์แห่งสหราชอาณาจักรมาย่อส่วน หากทว่าสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร หาได้เสด็จมาประทับ ณ พระตำหนักแห่งนี้แต่อย่างใด ด้วยเสด็จทิวงคตในปี พ.ศ. ๒๔๗๓ เมื่อมีการสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๕๙ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานพระราชวังนี้รวมทั้งพื้นที่โดยรอบเป็นสมบัติของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเคยใช้เป็นศูนย์กลางการศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในวิทยาเขตประทุมวันก่อนการก่อสร้างอาคารบัญชาการ

 

วันเวลาผ่านเลยมาจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๗๘ หลังจากพระราชวงศ์ถูกยึดอำนาจจากคณะราษฎร เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง พระราชวงศ์อยู่ในช่วงตกต่ำ หลวงศุภชลาศัย อธิบดีกรมพลศึกษา ในรัฐบาลของจอมพล ป พิบูลสงคราม มีแนวคิดที่จะหาพื้นที่ก่อสร้างกรีฑาสถานแห่งชาติขึ้น และได้พิจารณาว่าที่ดินบริเวณวังประทุมวันเหมาะแก่การสร้างที่สุด

 

โดยให้คนนับร้อยชีวิตมารื้อถอนวังรวมถึงสิ่งปลูกสร้างโดยรอบออกจากที่ดินแห่งนี้จนหมดสิ้น ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสนามศุภชลาศัย ตามชื่อของ

 

"หลวงศุภชลาศัย"

 

เยื้องมาอีกฝั่งเป็นที่ตั้งของวังสระปทุม วังที่ประทับของ สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนาพระบรมราชเทวี ผู้เป็นพระชนนีด้วยความอาลัยที่ต้องสูญเสียพระโอรสไป ดังนั้นวังวินเซอร์ก็เปรียบเสมือนเป็นอนุสรณ์ถึงลูกชาย มองไปไกลๆได้เห็นยอดหลังคาวังก็ทำให้หายคิดถึงได้บ้าง แต่เมื่อรัฐยืนยันจะทำเช่นนั้น พระองค์ก็ทรงทำได้เพียงประทับอยู่ที่เฉลียงวังสระปทุม ฟังเสียงคนทุบวังลูกอยู่ทุกวัน ด้วยหัวอกคนเป็นแม่ พระองค์ถึงกับทรงตรัสกับนางข้าหลวงผู้ใกล้ชิดว่า

 

"ได้ยินเสียงเขาทุบวังลูกฉันทีไร มันเหมือนกับกำลังทุบใจฉันอย่างนั้น"

 

น้ำเสียงของพระองค์สั่นน้ำพระเนตรคลอด้วยความอัดอั้นตันใจ เล่ากันว่าถ้าไม่จำเป็นพระองค์จะไม่เสด็จผ่านไปทางที่ดินผืนนั้นเลย

 

เป็นเรื่องน่าเศร้าใจที่สุดเรื่องหนึ่งของแผ่นดินสยามและในแผ่นดินรัชสมัยสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ที่ปวงชนชาวสยามประเทศได้สูญเสียบุคคลที่เป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน และบุคคลอันเป็นที่รักของประชาชนทั้งประเทศ ด้วยพระจริยวัตรที่งดงาม เปี่ยมไปด้วยความรู้ความสามารถ และภาวะผู้นำ ที่พร้อมจะเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ปกครองอาณาประชาราษฎร์อย่างร่มเย็น และเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยแห่งพระราชบิดาอย่างเต็มภาคภูมิ และต่อมายังต้องเสียวังที่เป็นดั่งตัวแทนไปด้วยปัญหาการเมืองที่เข้ามาข้องเกี่ยว มิอย่างนั้นปัจจุบันเราคงมีอีก ๑ สถานที่สำคัญให้ศึกษาประวัติศาสตร์กันแล้ว ฉะนั้นบทเรียนมากมายจากอดีต คงจะทำให้เรารักษาปัจจุบันไว้อย่างดีที่สุดเพื่อคนรุ่นหลังจะได้มิเจ็บปวดเช่นพวกเรา....

 

หมายเหตุ :

 

- ภาพซ้าย สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศฯ

- ภาพขาวบน เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ฯ

- วังวินด์เซอร์ / วังกลางทุ่ง ฯลฯ

 

เอกสารประกอบการเขียน

- จดหมายเหตุรายวัน พระบรมราชปิตุลาธิบดี เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ /สนพ.ศยาม/ราคา ๔๓๐ บาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

15442203_1832827576933098_4639565503872569531_n.jpg?oh=d0fe5127361abee91decca6290fefdfa&oe=597FDBA0

"...บุญของฉันมาได้ลูกสะใภ้เช่นนี้ บุญของหลานที่มีแม่ที่เลิศ..."

ข้อความข้างต้นนี้เป็นลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ซึ่งเป็นร่างลายพระหัตถ์ที่พบอยู่ในซองพระราชหัตถเลขาของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ลงวันที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๘

ในตอนนั้นเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ และนายดิเรก ชัยนาม ซึ่งอยู่ที่โลซานน์ได้รับโทรเลขจาก นายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรี ว่าทางคณะผู้สำเร็จราชการและรัฐบาลอยากให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เสด็จนิวัติพระนครเป็นการชั่วคราวในหน้าหนาวราวเดือนพฤศจิกายน

ในครั้งนั้นสมเด็จพระศรีนรินทราบรมราชชนนี มีพระราชดำรัสกับเจ้าพระยาศรีธรรมธิเบศ ดังที่ได้มีลายพระหัตถ์ไปเล่าถวายแด่สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ความว่า

"....หม่อมฉันจะขอเล่าถวายเรื่องเจ้าพรัยาศรีธรรมมาธิเบศพูดกับหม่อมฉันเมื่อได้มาพบทีแรก หม่อมฉันกราบทูลไปตั้งแต่จดหมายฉบับก่อนก็ลืมไป เจ้าพระยาศรีฯ ได้รับคำสั่งจากรัฐบาลให้อยู่โลซานน์ต่อไปจนกว่าจะได้รับคำสั่งอีก และเจ้าพระยาศรีฯ เองไม่ทราบว่าจะให้อยู่ต่อไปทำไม แต่นึกเอาเองว่าบางทีจะให้อยู่คอยเพื่อเชิญนันทเสด็จกลับชั่วคราวสำหรับให้ราษฎรเห็นว่าได้มีพระเจ้าแผ่นดินจริงๆ ไม่ใช่แต่ชื่อหรือหลอกกันเล่นและเจ้าพระยาศรีฯ ก็ถามความเห็นของหม่อมฉันว่าจะเป็นอย่างไร หม่อมฉันก็ตอบว่าเรื่องนี้หม่อมฉันเห็นใจรัฐบาล แต่การกลับนั้น ถ้าจะให้กลับเวลานี้ในหน้าร้อนกลัวจะทำให้นันทประชวรทีเดียวเมื่อถึงเมืองไทย หม่อมฉันเห็นว่าการกลับชั่วคราวนี้เราควรจะยอม เพราะรัฐบาลก็จะจัดการให้กลับไปถึงในหน้าหนาวและออกมาก่อนหน้าร้อน สิ่งอะไรที่จะผ่อนผันได้หม่อมฉันเห็นว่าควรจะทำ เขาจะได้ตามใจเราบ้างเมื่อเราต้องการให้เป็นอย่างไร และถ้าจะกลับหม่อมฉันขอให้รับสั่งแก่คณะผู้สำเร็จราชการหรือรัฐบาลถึงเรื่องการอยู่ว่าจะแยกกันไม่ได้ ต้องอยู่ด้วยกัน เพราะนันทยังเป็นเด็ก ยังต้องการความดูแลของแม่เสมอ

หม่อมฉันได้พูดกับเจ้าพระยาศรีฯ และนายดิเรก ชัยนาม ด้วยถึงเรื่องร่างกายและการศึกษาต่อไป ทีแรกเจ้าพรัยาศรีฯ เห็นว่านันทไม่ควรไปโรงเรียนให้ครูมาสอนที่บ้าน หม่อมฉันตอบไปทันทีว่าหม่อมฉันเห็นตรงกันข้าม เพราะการเรียนคนเดียวจะทำให้เด็กไม่อยากเรียนเพราะไม่มีคู่แข่งและไม่สนุกที่ไม่ได้มีเพื่อน จะทำให้นันทไม่มีความศุขที่ต้องแบกยศพระเจ้าแผ่นดินจนไม่มีเวลาจะเป็นเด็ก และพระเจ้าแผ่นดินก็จำเป็นมากที่จะต้องปะปนกับคนอื่น จะได้รู้จักนิสัยคนทั่วไป จะเป็นประโยชน์สำหรับบ้านเมืองที่มีการปกครองอย่างประชาธิปไตย เจ้าพระยาศรีฯ ก็เห็นด้วย

เมื่อเจ้าพระยาศรีฯ จะไปจากโลซานน์ หม่อมฉันก็บอกให้เป็นที่เข้าใจอีกว่าทั้งลูกและหม่อมฉันไม่มีความต้องการยศและลาภเลย แต่การที่นันทต้องรับเป็นพระเจ้าแผ่นดินก็เพราะเห็นว่าเป็นหน้าที่ต่อบ้านเมือง เพราะฉนั้นทำอะไรต่อไปขอให้พูดกันดีๆ อย่าบังคับตัดอิสรภาพเหลือเกินและสำหรับร่างกายและการศึกษาแล้วขอให้ได้เต็มที่ เวลานี้เป็นเด็กขอให้เป็นเด็ก พระเจ้าแผ่นดินที่ร่างกายไม่แข็งแรงและโง่ไม่เป็นสง่าสำหรับประเทศ

หม่อมฉันรู้สึกว่าอันรายภายนอกสำหรับนันทคงจะมีน้อย ที่หม่อมฉันวิตกอนู่ก็ถึงเรื่องที่นันทจะไม่ได้มีความศุขอย่างเด็กมากนัก และกลัวการศึกษาจะไม่ได้เต็มที่ ที่หม่อมฉันไม่ใคร่กลัวอันตรายภายนอกก็เพราะว่าเราไม่ได้อยากจะเป็น แต่ต้องรับเพราะเห็นแก่บ้านเมืองที่อาจไม่สงบได้"

สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงพอพระทัยในการพูดโต้ตอบของพระสุณิสา(ลูกสะใภ้) อย่างมาก ดังมีร่างลายพระหัตถ์ชมเชยพระสุณิสาของพระองค์ ความว่า

"ฉันต้องชมเชยสังวาลย์อีกครั้งหนึ่ง ฉลาดเป็นอัศจรรย์ ใจเย็น พูดโต้ตอบงดงามอย่างน่าพิศวงกับเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ บุญของฉันมาได้ลูกสะใภ้เช่นนี้ บุญของหลานที่มีแม่ที่เลิศ ไม่มีใครมาดูถูกได้ว่าเลวทราม ฉันพูดนีเปลื้มใจด้วย เศร้าใจด้วยจนน้ำตาไหล"

สมเด็จพระศรีนรินทราบรมราชชนนี พระองค์ท่านคือพระสุณิสาผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ใน สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชชนนี และเป็นสมเด็จพระบรมราชชนนีผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถึง ๒ รัชกาล อีกทั้งยังเป็น "สมเด็จย่า" ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐอย่างวิเศษสุดของปวงชนชาวไทยอีกด้วย

ขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระศรีนรินทราบรมราชชนนี

 

Cr. พิพิธประวัติศาสตร์ โดย อัศนัย มีอนันต์

 

====

การตัดสินใจอันเด็ดขาด ของ สมเด็จย่า ที่ สมเด็จพระพรรวษาอัยยิกาเจ้า ชื่นชม

ตำนานโลก : การตัดสินใจอันเด็ดขาด ของ สมเด็จย่า ที่ สมเด็จพระพรรวษาอัยยิกาเจ้า ชื่นชม

VARIETY.TEENEE.COM

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทำเอง ได้สบายใจดี

กดดูได้ มีอีกหลากหลายแบบ

Do It Yourself's album.

 

13006616_1311133512236220_32425587143766614_n.jpg?oh=9863e499c4fe8b86c355eeb835a7423c&oe=598DF2E9

 

12974306_1311133565569548_978342069483399483_n.jpg?oh=31e5b12a74b0784718dc17d62825aa75&oe=597CA7EC

 

12993515_1311134068902831_8938761862113217498_n.jpg?oh=7f2063f21901f07a123f22a9dd0c15dc&oe=5985DB90

11246978_1311133655569539_6572348984439063790_n.jpg?oh=58cd3ef54c2a3fd90db71fe215c26133&oe=5982A737

 

12974269_1311133702236201_4778445440863717347_n.jpg?oh=a202d221c876d779daa33a9920a383c7&oe=5993DAF4

 

12963439_1311133788902859_7266130344114043443_n.jpg?oh=0dca43bf2a5257ff1a80517af93e6901&oe=59860FB3

 

เปลว สีเงิน - Plew Seengern shared Do It Yourself's album.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

17991234_10155340401527922_991766569676313479_n.jpg?oh=790a60acc5f1a168d0c00a900bb95bbf&oe=597C540D

 

17862840_10155340401532922_6674441039529930263_n.jpg?oh=994ae04b83a529d6c555cdcca130b48b&oe=598A83E5

 

ทรงพระเจริญ

 

เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๖๐ เวลา ๑๐.๓๙ น.สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในการพระราชพิธีสงกรานต์ ณ หอพระสุลาลัยพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิณ หอพระธาตุมณเฑียร และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง

ขอบคุณภาพ.สำนักพระราชวัง

17904372_10155340406862922_7340706542877041391_n.jpg?oh=a024c3df6f17de36521e7dc012bb31fa&oe=5994E855

ประกาศสำนักพระราชวัง

ด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐออสเตรีย สาธารณรัฐเซอร์เบีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา และสาธารณรัฐมาซิโดเนีย ระหว่างวันที่ ๑๖ ถึงวันที่ ๒๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐

ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐออสเตรีย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงรับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเครื่องอิสริยาภรณ์โกรสเซอ ทิโรลเลอร์ อาดเลอร์ ออร์เดนส์ ซึ่งรัฐบาลรัฐทีโรล ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ในฐานะที่ทรงวางรากฐานและทรงส่งเสริมความร่วมมือทางด้านวิชาการ วิทยาศาสตร์ การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับรัฐทีโรล อย่างต่อเนื่อง จากนั้น จะทอดพระเนตรการดำเนินงานของสถาบันการตรวจคัดกรองด้านเภสัชศาสตร์แห่งออสเตรีย ณ มหาวิทยาลัยอินส์บรุค

ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐเซอร์เบีย และบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา สมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะทอดพระเนตรสถานที่สำคัญทางศาสนา ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม

ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐมาซิโดเนีย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงรับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลไลฟ์ไทม์ อาชีฟเมนต์ อวอร์ต ซึ่งมูลนิธิพันธมิตรแห่งอารยธรรมของสาธารณรัฐมาซิโดเนีย ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในฐานะที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณูปการต่อการสื่อสาร เพื่อให้เกิดความเข้าใจระหว่างอารยธรรมที่หลากหลายของโลก นอกจากนี้ จะทอดพระเนตรการดำเนินงานของสถาบันพฤกษศาสตร์และสถานที่สำคัญทางศาสนา ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี รวมทั้งพระราชทานพระราชวโรกาสให้นางมายา อิวาโนวา ภริยาประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐมาซิโดเนีย เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทด้วย

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะประทับเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เที่ยวบินที่ทีจี ๙๒๐ เสด็จพระราชดำเนินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ในวันอาทิตย์ที่ ๑๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ เวลา ๒๓ นาฬิกา ๔๕ นาที และจะประทับเครื่องบินของสายการบินเตอร์กิซ แอร์ไลนส์ เที่ยวบินที่ทีเค ๐๖๘ เสด็จพระราชดำเนินกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ในวันอาทิตย์ที่ ๒๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ เวลา ๑๔ นาฬิกา ๕๐ นาที

จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง

๑๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐

---------------------------------------------------

(พระฉายาลักษณ์_อาจารย์นิติกร กรัยวิเชียร)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

17862467_1848816905372461_3715733250591833395_n.png?oh=0672fb5ff36868fa7aea45ed29834acd&oe=59983002

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชหัตถเลขาเป็นภาษาอังกฤษพระราชทานไปยังพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ โดยทรงเล่าถึงเหตุการณ์ในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ปรากฏความว่า

.

"...ฉันรู้สึกเสียดายอย่างยิ่งที่เขามิได้คิดจะถอดฉัน และฉันยังเสียใจอยู่จนบัดนี้ ความรู้สึกขั้นแรกก็คือจะลาออกทันที แต่สมเด็จกรมพระสวัสดิ์ฯ แนะนำว่าไม่ควรทำ เพราะถ้าทำเช่นนั้นอาจมีการรบกันจนนองเลือดทั้งยุ่งยากต่าง ๆ จนอาจมีฝรั่งเข้ามายุ่งและชาติเราอาจเสียอิสรภาพได้... ถ้าเราจะรบโดยใช้ทหารหัวเมืองหรือ นั่นเป็นของแน่ที่เราอาจทำได้ แต่ฉันไม่ยินยอมเลยแม้แต่ชั่วขณะเดียว เพราะเจ้านายในกรุงเทพฯ อาจจะถูกฆ่าหมด ฉันรู้สึกว่าฉันจะนั่งอยู่บนราชบัลลังก์ที่เปื้อนโลหิตไม่ได้... สมเด็จกรมพระสวัสดิ์ฯ แนะนำตลอดเวลาให้ยินยอมกลับกรุงเทพฯ และช่วยคณะราษฎรจัดตั้งการปกครอง โดยมีกษัตริย์และรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็เป็นของที่ฉันเคยอยากจะทำมานานแล้ว แต่ว่าฉันเสียขวัญ

.

ในที่สุด มีทางจะทำได้ ๒ ทาง คือจะหนี หรือจะกลับกรุงเทพฯ ฉันยอมรับว่า ฉันตัดสินใจไม่ได้ทันทีว่าจะทำอย่างไรดี เราเพิ่งได้ยินคำแถลงการณ์ทางวิทยุกระจายเสียงอันรุนแรง ดูราวกับจะไปทางบอลเชวิค ถ้าเช่นนั้น การที่จะกลับไปให้เขาตัดหัว ดูออกจะไร้ประโยชน์ เป็นการเสียสละอันไม่มีใครได้ประโยชน์อะไรเลย แต่นั่นแหละ คำแถลงการณ์นั้น อาจเป็นถ้อยคำของผู้ที่ออกจะคิดสั้น และรุนแรงรวดเร็วจัดคนหนึ่ง และไม่ใช่นโยบายจริงของคณะ ฉันเลยตกลงใจเสี่ยง โดยให้ผู้หญิงเขาเลือก ทั้งหญิง (สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี) และหญิงอาภา (พระมารดา) ตกลงเลือกให้กลับอย่างแน่วแน่ และฉันเห็นว่าทั้งสองควรจะได้รับเกียรติอย่างเต็มที่ ในการตกลงใจอย่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยวเช่นนั้น เพราะในเวลานั้น เราอาจจะกลับไปสู่ความตายก็ได้ ผู้หญิงเขาเลือกเอาความตายดีกว่าการเสียศักดิ์ เท่านั้นก็พอแล้วสำหรับฉัน..." (อ้างในเกิดวังปารุสก์ เล่ม 2)

 

ที่มา เรื่องเล่าของรอยใบลาน

 

วันพระราชทานรัฐธรรมนูญ “พิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรก” - YouTube

 

 

พระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ ...

 

 

ถ่ายทอดสด สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จในการพระราชพิธีประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี .

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ในหลวง สามรัชกาลพระบรมวงค์ษานุวงค์

ประชาชนต้องทนทุกข์เพราะ คณะราษฎรเนรคุณ ทำเพื่ออำนาจ

----

 

‪หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 10 ธันวาคม 2475 แล้ว ‬พระองค์จึงตัดสินพระทัยเสด็จพระราชดำเนินกลับไปประทับยังวังสวนไกลกังวล อำเภอหัวหิน ‬

แต่รัฐบาลในขณะนั้นทูลขอให้พระเจ้าอยู่หัวประทับต่อในพระนคร ‬ถึงกับส่งตัวแทนเข้ามาเจรจาเชิญเสด็จกลับทางรถไฟ จนเป็นที่น่าแปลกใจ‬ ว่าทำไมจึงอยากให้เสด็จพระราชดำเนินกลับ ‬‪ซึ่งในขณะนั้นมีข่าวลือมากมายว่า...

"...หากพระเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับเข้าพระนคร‬ ฝ่ายพระยาทรงสุรเดชจะคอยดักยึดขบวนรถไฟพระที่นั่งที่บางซื่อ‬ แล้วจะบังคับให้พระองค์ทรงเซ็นลาออกจากการเป็นพระเจ้าอยู่หัวเสีย ‬

แต่หากมิทรงยินยอมที่จะเซ็น ก็จะจับพระองค์ไว้เป็นตัวประกัน‬ แล้วให้พระราชวงศ์นำสมบัติมาไถ่พระชนม์ชีพของพระเจ้าอยู่หัวไป‬..."

‪เมื่อพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบการเช่นนั้นแล้วจึงตรัสกับ‪พระยามโนปกรณฯผู้เป็นประธานคณะกรรมการราษฎรที่ในขณะนั้นมาเข้าเฝ้าว่า ‬

"เรื่องนี้เห็นจะจริง เพราะพระยาทรงสุรเดชเป็นผู้เดียวที่ไม่ได้มาเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว‬ พระยาทรงสุรเดชผู้นี้เป็นหัวหน้าของเหล่าทหารที่มีความเข้มแข็ง พวกทหารเชื่อฟังเสียด้วย‬"

พระยามโนปกรณได้ฟังรับสั่งเช่นนั้นแล้วจึงรีบกลับไปหาพระยาทรงสุรเดช‬ ‪และพามาเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวเพื่อรับรองกับพระองค์ว่าจะไม่เป็นไปตามข่าวลืออย่างแน่นอน‬

‪ไม่นานนัก ในเดือนมีนาคมปีถัดมาพระเจ้าอยู่หัวจึงตัดสินพระทัยเสด็จพระราชดำเนินกลับเข้าพระนคร ‬

‪โดยมีพระยาทรงสุรเดชตรวจตราดูแลรักษาพระองค์อย่างกวดขัน ‬

ทำให้การเสด็จกลับครั้งนี้พระราชวงศ์และประชาชนเบาใจกันไปว่า “ทหารไม่ได้เป็นพวกนั้นเสียหมด” ‬

ไม่ช้าก็มีเสียงติเตียนหาว่าพระเจ้าอยู่หัวขี้ขลาด จะเสด็จไปไหนก็ต้องพกปืนกระบอกเล็กๆไปด้วย‬

บางคนก็หัวเราะเยาะพระเจ้าอยู่หัวว่า ปืนกระบอกเล็กเพียงนั้นจะไปสู้อะไรเขาได้‬

‪พระเจ้าอยู่หัวจึงตรัสว่า...

"ปืนกระบอกนี้มีกระสุนเพียงสองลูก ลูกหนึ่งสำหรับหัวหญิง (สมเด็จพระบรมราชินี) ‬แล้วเป็นของฉันเองอีกลูกหนึ่ง เพราะถ้าจะบังคับให้ฉันเซ็นอะไรที่เป็นการหลอกลวงราษฎรของฉันแล้ว เป็นยิงตัวตาย!”‬

(‪ที่มา: สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น โดย หม่อมเจ้า(หญิง)พูนพิศมัย ดิศกุล‬)

17903675_1851906125063539_4296306810963049966_n.jpg?oh=f415926128e0fa4af6509d761ece4f06&oe=5952C1EA

17883882_1849808341939984_2600585474463075790_n.png?oh=1aae7edc8a1a6539f80c21f06f3e6125&oe=59976518

"วันนี้เป็นอะไร ฟ้าเศร้าจริง นกสักตัวกาสักตัวก็ไม่มาร้อง เศร้าเหลือเกิน นี่ทำไมมันเงียบเชียบไปหมดอย่างนี้ล่ะ"

.

เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทรสวรรคตในปี พ.ศ. 2489 ไม่มีผู้ใดกล้ากราบบังคมทูลสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าให้ทรงทราบ ในวันเชิญพระบรมศพลงพระโกศนั้น สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าเสด็จพระราชดำเนินออกมาทางระเบียงและตรัสขึ้นมาว่า "วันนี้เป็นอะไร ฟ้าเศร้าจริง นกสักตัวกาสักตัวก็ไม่มาร้อง เศร้าเหลือเกิน นี่ทำไมมันเงียบเชียบไปหมดอย่างนี้ล่ะ" ข้าราชบริพารเมื่อได้ยินดังนั้นต่างก็รู้สึกสะเทือนใจ ผู้ใดที่ทนไม่ได้ต่างก็หลบออกมาด้วยกลัวที่พระองค์ท่านจะทรงรู้ได้ว่าเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น พระองค์จึงทรงรำลึกอยู่เสมอว่า "มีหลานชาย 2 คน"

.

ที่มา

- ศรีสวรินทิรานุสรณีย์ น้อมรำลึกถึงสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า, หน้า 59

- สมภพ จันทรประภา, สมเด็จพระศรีสวรินทิราพระบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า, โรงพิมพ์เรือนแก้วการพิมพ์, พ.ศ. 2528, หน้า 194

 

-----

886 เบื้องลึก !! อวสานหลักหมุดคณะราษฎร(ล้มเจ้าตัวพ่อ)

 

892 เบื้องลึก !! คณะราษฎรต้นเหตุต้องปฏิรูปประเทศ?

 

--------

จดหมายเหตุภาพ 2475

http://www.openbase.in.th/files/ebook/textbookproject/tbpj217.pdf

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พม่าเสียเมืองและเรื่องราวกษัตริย์ ราชินีกระองค์สุดท้าย

 

http://knowledgeintheword.org/%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

18010124_1460996820598020_5172876236379576189_n.jpg?oh=0bbb296059ca69696ece3eb28fe8ad34&oe=5987AF70

18033919_1460996817264687_2801264086823317074_n.jpg?oh=224d8550d90f62a4ac8a2cc5f6995cd5&oe=594C90EB

cr Pramote Nakornthab

ผมรู้-รัก เลือกตั้ง แต่ยังเด็ก

พ่อกอดเล็ก ขึ้นขี่ม้า ไปหาเสียง

ถึงหมู่บ้าน ลงจากม้า หาสะเบียง

คอยเลียบเคียง พี่น้องขอ รอเมตตา

ไม่มีใคร ให้เงิน ใครทั้งสิ้น

ส่วนใหญ่กิน อาหารวัด ช่วยจัดหา

พี่น้องแผ่ แต่ละคุ้ม จุ้มจัดมา

กินข้าวปลา เสร็จแลัว ซุมแซวกัน

เมื่อผมเข้า มหา วิทยาลัย

ก็เปลี่ยนไป ไม่เห็นมี การลงขัน

ทุ่มหาเสียง เลี้ยงแหลก แดกประชัน

แจกเงินกัน เป็นฟ่อน ต้อนคะแนน

อยู่ดีๆ กำลังนับ ก็ดับไฟ

คนตามหลัง พอเปิดใหม่ กลับได้แสน

ทีมที่ตก กลับยกมา เป็นผู้แทน

ทีมที่แล่น นำหน้า กลับปราชัย

โชคดีมี อาสาสมัคร นักศึกษา

คอยตรวจตรา การเลือกตั้ง หวังโปร่งใส

เห็นกับตา ว่าโกง กันบรรลัย

"เลือกตั้งสกปรก" ได้ น่าอายจัง

จึงลุกฮือ ทุกมหา วิทยาลัย

เดินขับไล่ รัฐบาล ผ่านเลือกตั้ง

กล้าหาญ ถึงประตู ทำเนียบพัง

จอมพลป. ออกมานั่ง เจรจา

เผด็จการ เลือกตั้ง ไล่ครั้งก่อน

ไม่สังหรณ์ เจออะไร ยิ่งใหญ่กว่า

เผด็จการ เสร็จสรรพ ที่กลับมา

จนนิสิต นักศึกษา ขับไล่ไป

หลังสิบสี่ ตุลา เพียงสามปี

เผด็จการ ได้ที กลับมาใหม่

นายทุนขุน ศึกศัก ดินาไทย

อยู่มาได้ จนถึง ปัจจุบัน

เกิด "สมบัติ ผลัดกันชม" สมประโยชน์

แต่อ้างโจทย์ ประชาธิปไตย ไม่ไหวหวั่น

ก็"เลือก"บ้าง "ลาก" บ้าง ไม่ต่างกัน

เลือกตั้งคั่น กับสามช. ก็พอดี

เกิดระบบ บังคับ รับสมัคร

สังกัดพรรค เลือกตั้ง แบบอั้งยี่

อันว่าพรรค หัวหน้าตั้ง พังทุกที

เมื่อลูกพี่ ชะตากุด ก็หยุดพรรค

จึงมืดมน จนถึง ทุกวันนี้

เกิดระบบ อัปรีย์ มีวัฏจักร

คือวงจร อุบาทว์ ถ่วงชาตินัก

ผู้พิทักษ์ คือทหาร นักการเมือง

ผมยังรัก ยังรู้ สู้เลือกตั้ง

ตั้งสามครั้ง หวังเข้าไป แก้ไขเครื่อง

ไม่มีซื้อ ไม่มีได้ เขาขายเปลือง

ทุกบาทเบื้อง หลังเลือกตั้ง สั่งด้วยเงิน

รัฐธรรมนูญ สามช. คุณพ่อฝัน

อรหันต์ ร่างมา น่าสรรเสริญ

พรรคเลือกคน-คนเลือกพรรค จักก้าวเดิน

คงไม่เกิน สามปี กลียุค

หมายเหตุ: ใครหาใคร(ผม) เจอในรูปล่างสุดจะให้รางวัล

ขออนุญาตโม้

ใครเป็นตัวแทนเจรจากับจอมพลป. ก็อยู่ในนั้นแหละ

ใครเป็นคนเขียนข้อเรียกร้องรัฐบาลก็อยู่ในนั้นแหละ

ไม่ทราบตอนนั้น คสช. อยู่ที่ไหน

เฮ้อ ทำไมจึงยังไม่ตายสักที

------

cr Sutin Wannabovorn

นี้คือส่วนหนึ่งของหนังสืิอที่เขียนถึงการปล้นพระราชอำนาจเมื่อปี ๒๔๗๕ ถ้าไม่เคยอ่านหนังสือพวกนี้อย่าสะเอะตามหาหมุดจัญไร

ในหนังสือทั้งหมดนึ้ไม่มีแม้แต่บรรทัดเดียวที่บอกว่าคณะร่านได้พัฒนาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าวัฒนาสถาพร มึแต่เรืองกดขึ่ข่มเห็ง เรื่องขัดแย้งกล่าวหาสาดโคลนใส่กันแก้ตัวกันไปมา การแก้ตัวแก้ต่างนี้เิงทำให้เห็นความชั่วต่างๆที่คณะร่านกระทำต่อสถาบัน ประเทศชาติและประชาชนไทย

17966782_1311728725530947_8299388759520687703_o.jpg?oh=9d8a444297860015cd3de5b83acb0aab&oe=5997D49C

---

ครรู้จักไอ้เฒ่าทารกลิงสนามหลวงช่วยบอกมันทีว่า รัฐธรรมนูญฉบับแรกสถาปนาโดยโจรปล้นสถาบันไม่ได้สถาปนาโดยประชาชนดังที่มันเพ้อเจ้อ และการปล้นพระราชอำนาจครั้งนั้นมันชั่วช้าเลวทรามกว่าการยึดอำนาจในยุคหลังมาก เพราะการปล้นพระราชอำนาจครั้งนั้นพวกเนรคุณได้สุมหัวกันวางแผนมาจากเมืองนอกแล้วมาหลอกทหารให้ออกไปชุมนุมที่ลานพระรูปทรงม้าอ้างว่าไปชมการฝึกซ้อมรบ พอควบคุมพระบรมวงศานุวงศ์ไว้เป็นประกันได้ ก็ประกาศความสำเร็จในการยึดอำนาจของคณะร่าน แล้วข่มขู่ชาวบ้านว่าถ้าใครขัดขืนตัวประกันจะได้รับอันตราย นี้มันพฤติกรรมของโจรเนรคุณ ดังนั้นที่ไอ้เฒ่าทารกพล่ามว่ารัฐธรรมนูญฉบับแรกสถาปนาโดยประชนนั้นมันเป็นความโง่ที่เต็มไปด้วยอคติของอ้ายเฒ่าทารก

รัฐธรรมนูญปี ๒๕๖๐ ถ้าจะพูดว่าเป็นรัฐธรรมนูญของประชาชนก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากความจริงเพราะผู้มีสิทธ์ลงคะแนให้การรับรองเกือบเจ็ดสิบเปอร์ แถมคณะทหารที่ควมคุมอำนาจและจัดการให้มีการร่างรับธรรมนูญก็มาจากการเรียกร้องประชาชน สำเหนีกไว้ว่าการยึดอำนาจสองครั้งหลังนั้นทหารเขาไม่อยากทำ แต่ทนเสียงเรียกร้องของประชาชนให้เข้ากอบกู้ประเทศชาติไม่ไหว ที่ประชาชนเขาเรียกร้องให้ทหารเข้ามาทั้งสองครั้ง เพราะนักธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ปล้นชาติที่สื่อทาสเทิดทูนบูชาสร้างความวิบัติฉิบหายแก่ชาติบ้านเมือง

---

๒๔๗๕ ไม่ใช่วันอภิวัฒ แต่เป็นวันอุบาทว์จัญไร

ขอยืนยันว่าหมุดของคณะร่านที่ถูกรื้อออกไป ไม่ใช่หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บอกถึงอภิวัฒ แต่มันเป็นหมุดอุบาทว์ที่ตอกย้ำความอัปยศจัญไรของประเทศ รัฐธรรมนูญฉบับแรก ที่คณะร่านเนรคุณอ้างว่านำมาให้คนไทย มันเป็นรัฐธรรมนูญโจรที่คนเนรคุณ เขียนขึ้นมาทำลายล้าง ผู้ที่อุปการะเลี้ยงดูส่งเสียให้พวกมันได้ร่ำเรียนศึกษา และ รัฐธรรมนูญโจรฉบับแรกที่แม้แต่พระเจ้าอยู่หัวก็ ทรงรับไม่ได้

รัฐธรรมนูญโจรที่เขียนขึ้นมาฉบับแรก เกิดโต้เถียงแตกแยกกันเองในหมู่พวกเนรคุณ ที่สุมหัวกันวางแผนปล้นพระราชอำนาจจากพระเจ้าแผ่นดิน ขัดแย้งกันจนแตกแยกเข่นฆ่ากันเองตั้งแต่ปีแรกของการปล้นพระราชอำนาจ (อ่านรายละเอียดในพระราชหัตถเลขา) คณะคนเนรคุณแย่งชิงผลประโยชน์กันเองตั้งแต่ปีแรก คือที่มาของการแก้ไขรัฐธรรมใหม่ เปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ หมุนเวียนกันไปมาในหมู่คนเนรคุณ ทำให้ต้องเปลี่ยนแก้ไข้รัฐธรรมนูญถึง ๗ ครั้ง ในระหว่างการหมุนเวียนเป็นสมบัติผลัดชมของ ๖ นายกรัฐมนตรี

ในห้วงเวลา ๒๕ ปีที่คณะร่านปกครองประเทศแบบทรราช เป็นเหตุให้มีคนตายหลายหมื่นคน ถ่วงเวลาพัฒนาประเทศ ชาติไม่พัฒนาไม่คืบหน้าไปไหนเพราะคนจัญไรมัวแต่แย่งอำนาจกันเอง จนมีเผด็จการคนใหม่ขับไล่คนเนรคุณทรราชไปตายนอกประเทศ

แบบอย่างที่ชั่วช้าเลวทราม เป็นมรดกตกทอด มาเป็นประเพณีการเมืองของไทยถึงวันนี้ ที่ไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับไหนใช้ได้ถาวร นักธุรกิจการเมืองที่สร้างความวิบัติฉิบหายแก่ประเทศชาติวันนี้ คือผู้ที่รับเอาแบบฉบับความชั่วร้ายของกลุ่มคนเนรคุณเมื่อปี ๒๔๗๕ บางพวกบางกลุ่มยกย่องคนเนรคุณเป็นต้นแบบ เพราะมันเนรคุณแผ่นดินเหมือนกัน

วันนี้ประเทศไทยย่างเข้ายุคชาวประชาหน้าใส ผู้คนมีสายตายาวไกล ที่มีข้อความสอนคุณธรรมประจำใจในหมุดใหม่ว่า “ความนับถือรักใครในพระรัตนตรัยก็ดี ในรัฐของตนก็ดี ในวงตระกูลของตนก็ดี มีจิตซื่อตรงในพระราชาของตนก็ดี ย่อมเป็นเครื่องทำให้รัฐของตนเจริญยิ่ง”

ขอเน้นว่า ๒๔ มิ.ย. ๒๔๗๕ ไม่ใช่วันอภิวัฒ แต่มันเป็นวันอุบาทว์จัญไร

----

ขอนุญาตแขร์นะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

(Apr 17) ราคาทองพุ่งสูงสุดรอบ 5 เดือน: หวั่นเกิดสงครามคาบสมุทรเกาหลีดันราคาทองคำพุ่งสูงสุดในรอบ 5 เดือน ด้านสมาคมค้าทองคำชี้ร้านทองใหญ่พร้อมรับมือหากนักลงทุนแห่ขายทำกำไรระยะสั้น

นายพิชญา พิสุทธิกุล อุปนายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า วันที่ 17 เม.ย. ราคาทองคำในประเทศเปิดตลาดราคาทองปรับเพิ่มขึ้น 150 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 20,850 บาท และขายออกที่บาทละ 20,950 บาทก่อนที่ราคาทองจะร่วงลงมาเล็กน้อยบาทละ 50 บาท โดยราคาดังกล่าวเป็นราคาสูงสุดในรอบ 5 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 59 ที่ราคาทองคำแท่งรับซื้อที่บาทละ 20,950 บาท และขายออกบาทละ 21,100 บาท

“สถานการณ์ความตรึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีว่าจะเกิดสงครามหรือไม่ ทำให้นักลงทุนแห่ขายหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงแล้วหันเข้ามาซื้อทองคำมากขึ้น และแนวโน้มราคาทองคำตลาดโลกอาจทะลุ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ได้ อย่างไรก็ตามคงต้องจับตาวันที่ 18 เม.ย.หลังจากที่หน่วยงานภาครัฐเปิดทำการและหากราคาทองยังขึ้นเชื่อว่านักลงทุนอาจมีการเทขายทำกำไรทองคำในระยะสั้นๆได้ แต่ร้านทองขนาดใหญ่ไม่กังวลเพราะได้เตรียมวงเงินไว้รองรับแล้ว”

Source: เดลินิวส์ออนไลน์

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บอกรักประเทศไทย รู้มั๊ย ประเทศไทยมีอะไรดี

 

 

 

==========

ความแข็งแกร่งของประเทศไทย ประเทศไทยของคนไทยทุกคน

=================================

ในของสหประชาชาติเกือบสองร้อยประเทศ ที่มีรัสเซียเป็นสมาชิกองการค้าโลกรายล่าสุด

ประเทศไทยมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 31 ของโลก

เป็นตลาดที่มีกำลังซื้ออันดับที่ 24 ดังนั้นอียู และอเมริกาจืงกระตือรือร้นที่จะมาขอทำเขตการค้าเสรี ที่เรียกว่า Free Trade Area

ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับที่ 28 ซื่งแสดงว่า ถ้าประเทศไทยส่งออกไม่ได้ หรือไม่ส่งออก วุ่นทั้งโลก เห็นกันมาแล้วในตอนที่บริหารงานน้ำไม่เป็น การผลิตรถยนต์ คอมพิวเตอร์ วุ่นวายไปหมดทั้งโลก

เมื่อไทยเกิดวิกฤติการเงินก็ส่งผลให้ลามไปทั้งเอเซีย รัสเซีย เข้ายุโรปด้วย ไปจนถืงละตินอเมริกา ประเทศไทยเล่นได้แซ่บแค่ไหน รู้กันดี

CIA แอบรวบรวมข้อมูลเงินต่างประเทศที่ไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แล้วตะลืงว่ามีถืง 200 พันล้านเหรียญ อันนี้เป็นลงทุนทำโน่นนี่จริงๆ ไม่ใช่เงินในตลาดหุ้น เป็นที่อิจฉาของประเทศใกล้เคียงมาก

-------------------------------------

ที่เงินไหลเข้ามาลงทุนในไทย มีหลายสาเหตุ เช่น คนไทยหน้าตาดี คนไทยทำงานเก่ง ประเทศที่คนไม่เก่งเขาไม่ค่อยไปลงทุนด้วย

เวียดนามทุ่มสุดตัวสร้างโรงกลั่นน้ำมัน ปรากฏว่ากลั่นไม่ได้เรื่อง น้ำมันที่ได้คุณภาพต่ำ ต่างจากฝีมือวิศวกรไทย นักเคมีไทย เป็นผู้กลั่นน้ำมันที่สำคัญของเอเชีย

เทียบกันทั่วโลกแล้ว ประเทศไทยจัดว่าเป็นประเทศที่การลงทุนทำได้ง่ายเป็นอันดับที่ 17 ของโลก เท่่าๆแคนาดา และเยอรมัน เช่น กู้เงินได้เร็ว ก่อสร้างได้เร็ว หาคนทำงานได้เร็ว จดทะเบียนบริษัทได้เร็วมาก

เป็นประเทศที่ส่งออกและนำเข้าอันดับยี่สิบของโลก ถ้าไม่เอาทองเข้ามาเยอะ และไม่จำนำข้าวมโหฬารจะเกินดุลการค้า เกินดุลบัญชีเดินสะพัดแน่นอน

ในยุคที่รายได้สำคัญของประเทศเกิดจากการขายการท่องเที่ยว การศืกษา การขนส่งทางอากาศ บริการสนามบิน

กำไรจากการค้ากับต่างชาติเช่นค้าชายแดน ขายที่แพลตินั่ม โบ๊เบ๊ สำเพ็ง

ขายบริการท่าเรือ เดินเรือ ขนส่งสินค้าทางบก บริการการแพทย์

ขายบริการเทเลคอม บริการธนาคาร หลักทรัพย์

บริหารงานก่อสร้าง ลงทุนก่อสร้าง ขายบริการนักบิน แอร์ สปา

ประเทศไทยทำได้ไม่เลว ครับ เป็นประเทศที่ทำรายได้จากอุตสาหกรรมฐานความรู้ ความชำนาญเป็นอันดับที่30 ของโลก

เป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมอันดับสิบเจ็ด

-----------------------------------------------

ประเทศไทยผลิตสินค้าเกษตรเป็นที่ 11 แต่เนื่องจากผลิตได้มากเกินไป จืงกลายเป็นผู้ส่งออกอาหารอันดับหก แนวเดียวกับเดนมาร์ก ออสเตรเลีย

นักธุรกิจไทยโดยเฉพาะผู้หญิงน่ากลัวมาก เล่นของกันทั้งนั้น มีทั้งนางกวัก เจ้าแม่กวนอิม ฮวงจุ้ย พระพิฆเณศร์ ซองดักเงิน สักยันต์ เป่าคาถาใส่ลูกค้า ไหว้เจ้าที่ ห้อยพระ ติดสินบนเทพต่างๆ

ผมเคยอธิบายให้เพื่อนฝรั่งฟัง แต่ก็ไม่รอด หย่าเมียมาแต่งงานกับสาวไทย ถูกเทคโอเวอร์ไปเรียบร้อย โดนของ

ประเทศนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาอันดับที่ 19 ของโลก ขายบริการสนามบินได้เป็นอันดับที่17

ถ้าออสซี่ไม่พักกรุงเทพ เดินทางตรงไปยุโรป สลบแน่นอน

เราโชคดีที่อยู่ในประเทศที่เจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจครับ และเราจะเจริญรุ่งเรืองต่อไป

ตอนสงครามโลกครั้งที่สอง จบลง รายได้คนไทยแค่ 100 เหรียญต่อคนต่อปี ตอนผมเรียนตรีมหาวิทยาลัยราว 300 เหรียญ ตอนเรียนโทราว 600 เหรียญ

----------------------------------------

เมื่อเดือนกรกฏาคม 2554 ธนาคารโลกเลื่อนประเทศไทยขื้นสู่ประเทศกลุ่มรายได้ปานกลางขั้นสูง upper middle income country เพราะเขาบอกว่ารายได้เข้าเกณท์มาตั้งแต่ปี 2551

พวกฝรั่งที่มาวิจัยบอกว่า จริงๆแล้วรายได้คนไทยสูงกว่าที่แสดงไว้เยอะ เพราะมีรายได้นอกระบบ เช่น ค้าขาย โน่นนี่อีกร่วม 50% ซื่งต่างประเทศเขาลงนับ

ของเราไม่ รายได้จากที่ไม่มีโฉนดก็ไม่แสดง หลบภาษีเก่งมาก

ประเทศไทยมีอัตราคนว่างงานต่ำเป็นอันดับสองของโลก แถมยังมีคนต่างชาติมาทำงานอีก 3.7 ล้านคน แสดงว่ามีงานเกินคน จะจ้างคนทำงานหนื่งคน ต้องลงทุนสองล้านบาทขื้นจืงจะมีงานหนื่งตำแหน่ง

การที่เรามีการทำเขตเศรษฐกิจเสรีกับออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน อินเดีย อาเซียน เกาหลี รวมประชากรร่วมสองพันล่านคน เก้าสิบเปอร์เซนต์ของสินค้าในกลุ่มอาเซียนภาษีเท่ากับศูนย์ เมกา กับยุโรปจืงต้องการเข้ามาร่วมมาก

ค่าครองชีพเมืองไทยอยู่ที่อันดับ 81 ถูกกว่าพม่า อินโดเยอะ ห้าปีที่ผ่านมาแพงขื้นมาก เดิมอยู่ที่อันดับ 105

ช่วงปี 2556 ไทยถูกจัดเป็นประเทศน่าลงทุนอันดับ 8

และถ้าคนในโลกจะเกษียนอายุ ผลการสำรวจบอกว่าเมืองไทยเหมาะมากอยู่ในอันดับเก้าของโลก

เพิ่มข้อมูลอีกนิด ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกดิสค์อันดับหนื่ง

ส่งออกยางอันดับสอง น้ำตาลด้วย

ส่งข้าวออกเป็นที่หก

ส่งรถยนต์ไปขายอันดับที่15

เป็นแหล่งผลิตอาหารอีกนานเพราะมื่อาหารสัตว์คือปลายข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด ปลาป่น จืงเป็นผู้ผลิตส่งออกหมู ไก่ ไข่ เป็ด ชั้นนำ

ผัก ผลไม้เพียบ ต่อไปจะส่งดอกไม่ตีตลาดโลกแบบโคแวนท์ มาร์เกตของอังกฤษ

ต่างชาติชอบมาอยู่เมืองไทย มาทำงานเมืองไทย ที่พักระดับดีถูกสุดในเอเชีย

อาหารดี โรงพยาบาลดี อยู่ประเทศอื่นต้องมาเมืองไทย

โรงเรียนอินเตอร์ชั้นนำ

เที่ยวได้ทั้งคืน กินเหล้าได้ทั้งคืน มีทะเลภูเขา ป่าไม้

มีอาหารทุกชาติ ห้างใหญ่สุด เมียจะได้เดินช้อปปิ้ง

รถไฟฟ้าก็มี เป็นเมืองของหนุ่มสาว บรรยากาศลั้ลลา

ต้อนรับคนทุกศาสนา มีเสรีภาพในการเป็นเกย์ ทอม ดี้ เลส โรงหนังชั้นเยี่ยม

ระบบคมนาคมดีกว่าจาร์กาต้า ฮานอยเยอะ

ที่สำคัญคุณหาห้องน้ำสะอาดได้ทั่วไป เรื่องนี้สำคัญสุดๆสำหรับผู้หญิงทุกคน

สถานทูตอเมริกามาอยู่กันตั้งสี่พัน งบค่าเช่าบ้านแค่สี่ห้าหมื่น ย้ายไปอยู่ดาร์วิน ออสเตรเลียไม่ไหวหรอก หรืออยากย้ายไปอยู่เดลลี ย่างกุ้ง ไซ่ง่อนกัน

คนนิสัยดี มีกาละเทศะ ไม่วุ่นวายเหมือนคนบางชาติ ให้เกียรติคน

อากาศไม่ร้อนจัด เย็นจัดเหมือนอัลไมตี้ คาร์ซัคสถาน

น่าอยู่ น่าทำงาน คนแพรคติคอล ดีกว่าแอลเอเยอะ

ประเทศนี้แข็งแรง เติบโต ไม่มีใครมาแบน มันพูดเพ้อเจ้อไปงั้นเอง

เป็นประเทศใหญ่ แข็งแรง สำคัญต่อเศรษฐกิจโลกมาก

-----------------------------------------------

Somkiat Osotsapa

๓๐ มิ.ย. ๒๕๕๗

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thanong Fanclub added 2 new photos.

 

1 hr · Bangkok · _Y91QzmaslR.png

 

 

เลอแปง และมาครองลอยลำ

มารีน เลอแปง และเอ็มมานูเแอล มาครองชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกเมื่อวานนี้ ทั้งคู่จะลงแข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในรอบชิงดำในวันที่7พฤษภาคมนี้

นักวิเคราะห์ส่วนมากคาดการว่า มาครองจะเข้าวินชนะการเลือกตั้งในที่สุด เพราะว่าเขามีนโยบายสายกลาง ต้องการให้ฝรั่งเศสอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไป เขาไม่ได้ขวาจัดสุ่งโต่งเหมือนเลอแปงที่ต้องการให้ฝรั่งเศสออกจากสหภาพยุโรป ยกเลิกการใช้เงินสกุลร่วมยูโรและจำกัดคนเข้าเมือง

 

เลอแปงจะชนะได้ ต้องสร้างเซอร์ไพรซ์อย่างเดียว

thanong

 

18119368_606915452838166_5478071585502132132_n.jpg?oh=42120ebe42936066a2a9544705d17ff0&oe=59857616

17990739_606915502838161_4205874131767674406_n.png?oh=3d14b2c643f6568ae22035638b9d981e&oe=59822FEC

 

 

 

มาครองแต่งเมียแก่กว่าถึง24ปี

เมียของเอ็มมานูแอล มาครอง ผู้ที่มีโอกาสสูงที่จะเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนต่อไป คือBrigitte Trogneux เธออายุมากกว่ามาครอง24ปี และเคยเป็นครูของมาครองที่โรงเรียนมัธยมมาก่อน โดยสอนมาครองในชั้นเรียนภาษาฝรั่งเศส

มาครองสารภาพว่า เขาหลงรักTrogneuxเมื่อตอนที่เขาอายุ15ปี หลังจากที่เรียนรบมหาวิทยาลัย และทำงานเป็นนักวานิชธนกิจ (Investment Banker)ให้กับพวกRothschildแล้ว มาครองกลับมาแต่งงานกับTrogneux

 

ตอนที่เขาแต่งงาน มาครองอายุ29ปี ส่วนเจ้าสาวTrogneuxอายุ53ปี

ตอนนี้มาครองอายุ39ปี เตรียมตัวที่จะชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของฝรั่งเศส Trogneuxอายุ63ปี

เป็นคู่สร้างคู่สมกันจริงๆ

thanong

24/4/2017

 

 

 

 

18033832_606922156170829_4273260111205891458_n.jpg?oh=90c41f29bc4003a5487d38cfcb1d8013&oe=597FC210

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...