ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
teerana

ประสบการณ์ทดลองขับรถไฮบริดครั้งแรก!! กับ TOYOTA C-HR

โพสต์แนะนำ

Toyota C-HR Hybrid เป็นรถประหยัดน้ำมัน ที่มาพร้อมระบบไฟฟ้า เสียงเงียบ เฉียบทุกการสัมผัส ที่มาพร้อมดีไซน์สวยหรู ดูเท่ เหมาะกับคนคูลๆ เอาล่ะเกริ่นมาขนาดนี้ เรามาทำความรู้จักกับเจ้า Toyota C-HR Hybrid ให้มากขึ้นกับประสบการณ์ทดลองขับครั้งแรก!! ว่าจะประหยัดจริงไหม

 

3DF7ol.jpg

ความรู้สึกเมื่อลองรถไฮบริดของโตโยต้าครั้งแรก

พอเริ่มสตาร์ทรถผมรู้สึกได้เลยว่าเครื่องยนต์ไฮบริดนั้นเสียงเงียบมาก สำหรับความรู้สึกแรกเมื่อเหยียบคันเร่ง เราพบว่า เฮ้ย! ใครบอกว่าไฮบริดอืด นี่เถียงขาดใจ ก่อนหน้านั้นผมไม่เคยขับรถยนต์ไฮบริดมาก่อนเลย แต่ก็พอรู้ระบบการทำงานของรถยนต์ไฮบริด ที่ทำงานโดยใช้พลังงานน้ำมันและไฟฟ้าผสานกันในการขับเคลื่อนเพื่อความประหยัดน้ำมัน เราโดนพูดกรอกหูมาว่า “รถไฮบริดน่ะขับไม่มันหรอกเว้ย มันจริง ต้องรถใช้น้ำมันสิ…”

 

3DFfSV.jpg

ผมคิดว่าไม่จริง! Toyota C-HR Hybrid เป็นรถที่เครื่องยนต์ขนาดกลางคือ 1.8 ลิตรเครื่องยนต์เดียวกับ Toyota Altis 1.8 แต่มีการเสริมระบบไฟฟ้าเข้าไปเพื่อให้รถคันนี้ประหยัดมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะอืดลงเลย ระหว่างที่เราขับขี่อยู่ไม่ได้รู้สึกเลยว่าจังหวะเร่งแซง หรือจังหวะที่ทำความเร็วจะอืดตรงไหนเลย ความคิดที่ว่ารถไฮบริดอืดนั้นแปลว่าเขาคนนั้นน่าจะไม่เคยขับแน่ๆ ยืนยันไม่อืดขับสนุกจริงจังเลย

นอกจากจะไม่อืดเรา เรารู้สึกว่าช่วงล่างของ Toyota C-HR Hybrid แน่นหนึบ ยิ่งเข้าโค้งยิ่งสัมผัสได้ถึงความเนียน จนคิดในใจว่านี่เราไม่ได้อุปทานไปเองจริงๆ ใช่ไหม (ตอนหลังไปถามคนที่เป็นเทสต์ไดรฟ์เวอร์ตัวจริง ทุกคนคอนเฟิร์มว่า Toyota C-HR Hybrid เนียนจริงๆ และดีกว่า Toyota ทุกรุ่นที่เคยเทสต์มา)

 

3DFwJ2.jpg

ความประหยัดของรถไฮบริด

เราเคยได้ยินมาตลอดว่ารถไฮบริดนั้นประหยัดน้ำมันมากจริงๆ และ จากโฆษณาบอกว่า Toyota C-HR Hybrid  ประหยัดน้ำมันมากซึ่งได้ยินตัวเลขครั้งแรกถึงกับงงว่าจริงเหรอที่สามารถทำได้ถึง 24.4 กิโลเมตรต่อลิตร

ตอนที่เราเริ่มต้นขับยังไม่รู้ว่าจะสามารถทำได้ระดับไหน ก็ต้องลองขับไปก่อน ก่อนจะออกจากคอนโด เติมน้ำมัน E20 จนเต็มถัง 800 บาท (น้ำมันของเก่าค้างอยู่ 1 ส่วน 4 ของถัง) มาตรวัดขึ้นค่าเฉลี่ยแสดงผลให้เราดูว่าสามารถวิ่งได้ราวๆ 733 กิโลเมตรทั้งถัง นั่นหมายความว่าถ้าขับไปเชียงใหม่ถังเดียวน่าจะพอ (เสียดายที่เราไม่ได้ลองขี่ไปไกลขนาดนั้น ไม่งั้นคงเพลินกว่านี้)

ผมลองคำนวณค่าน้ำมันก่อนกลับกรุงเทพฯ ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 20 กิโลเมตรต่อลิตร นับว่าโคตรถูกมาก เท่ากับว่าขามาเราเสียค่าน้ำมันไปแค่ 375 บาทเท่านั้น (คำนวณจากระยะทาง 300 กิโลเมตรก่อนจะกลับ และคูณด้วยราคาน้ำมันวันที่เติม)

ซึ่งงบที่เตรียมมาคือ 5,000 บาท เท่ากับว่าเรามีงบในการเที่ยวคูลๆ ไปดูเขาใหญ่สบายอิ่มหนำสำราญกันไปเต็มที่ไม่ต้องกระเบียดกระเสียรอีกต่อไป

 

3DFQMf.jpg

ส่วนตลอดทั้งทริประยะทางที่ใช้เดินทางอยู่ที่ 494.6 กิโลเมตร รถกินน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 19.23 กิโลเมตร/ลิตร พอเอามาคำนวณค่าน้ำมันอีกรอบ สรุปว่าเราเสียค่าน้ำมันไปเพียง 650 บาทเท่านั้นกับการใช้รถไปเกือบ 500 กิโลเมตร ซึ่งมันเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับที่ผมขี่บิ๊กไบค์ไป – กลับ เขาใหญ่ระยะทางเท่ากัน แถมน้ำมันยังลดลงเกินครึ่งถังมานิดเดียว เงินเหลือมหาศาลจากที่ตั้งเป้าว่าน่าจะเสียค่าน้ำมันโหดกว่านี้

สำหรับใครที่กำลังมองหารถประหยัดน้ำมัน ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นใช้งานง่าย Toyota C-HR Hybrid ถือว่าตอบโจทย์มากครับ

ขอบคุณบทความดีๆจากคุณ Sam Ponsan สามารถไปติดตามอ่านประสบการณ์ทดลองขับ TOYOTA C-HR Hybrid ฉบับเต็มกันต่อได้ที่

https://www.mangozero.com/review-toyota-chr-hybrid-first-drive/

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...