Zt66M

แนะนำแอปแจ้งเตือนราคาทอง ThaiGoldAlert ได้ทั้ง Gold spot, ราคาสมาคม, fair price, gold future fair price มีทั้งไอโฟนและแอนดรอยนะครับ iOS http://itunes.apple.com/app/id985413306?mt=8 Android https://play.google.com/store/apps/details?id=com.kaiapp.thaigoldalert

ทองถูกทุบ new high ไป 2 ครั้ง แต่กราฟยังกลับสภาพเดิม ระวังติดหล่มนะทุกท่าน

ว่ากันแฟร์ๆนะ ถึงมีซาตานจริง ก็คงไม่สอนให้ลูกใครใช้เงินยังไง สิ่งที่เด็กน่าจะเรียนรู้ได้เองก็จากคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ญาติ เพื่อน ที่เขาเชื่อถือ พ่อแม่เองส่วนใหญ่ก็หาเงินเพื่อให้ลูกไม่ด้อยกว่าคนอื่นเท่าที่จะทำได้ ได้ไม่ได้แค่ไหนก็ต้องคุยกับลูก ถ้ามีจุดประสงค์จะให้เตรียมอะไรให้พ่อแม่ตอนแก่ก็คงสั่งสอนไปแล้ว ถ้ามีความต้องการที่จะให้ลูกใช้เงินยังไงก็คงสอนไปแล้ว ลูกจะทำได้ไม่ได้ก็ต้องคุยกันให้เข้าใจ แต่เท่าที่พูดมาคือบุคคลที่สามบ่นแทนพ่อแม่ หลอกด่าลูก ฟังเหตุผลเขารึยังครับ ถ้าตั้งธง "ลูกสิ้นคิด" "พ่อแม่ประเสริญ" ผมฟังจนเบื่อแล้วล่ะ ที่น่าสนใจคือทำไมลูกสิ้นคิด ผมไม่คิดว่าลูกสิ้นคิดตั้งแต่เกิด ไม่งั้นต้องโทษกรรมพันธุ์ แต่คำว่า "สิ้นคิด" หรือ "คิดเลวทรามต่ำช้า" ที่คุณว่ามา มันมาจากไหน สมมุติว่าซาตานไม่มีจริงๆ(เพราะผมก็ไม่เคยเจอตัวเป็นๆ) มันก็มาจากคนรอบข้าง หรือพูดง่ายๆว่าสังคม จากที่ประสบมา คนที่คนอื่นมองว่า "สิ้นคิด" หรือ "คิดชั่ว" ผมไม่เคยได้ยินเจ้าตัวรู้สึกว่าความคิดตัวเองมันสิ้นคิดหรือชั่วช้าเลย เท่าที่ผมได้ยินคือ "หรือมึงมีทางออกที่ดีกว่านี้" "ทำให้คนอื่นเดือนร้อน? แล้วกูเดือดร้อนเพราะใครล่ะ" "กูเห็นเขาก็ทำกันทั้งนั้น" คนที่พูดไม่ได้มีแต่ลูก คนเป็นพ่อแม่แล้วก็มี ผมว่าทุกคนก็เคยหลุดปากคำพวกนี้ออกมาบ้าง แต่คงไม่จำเพราะไม่ใช่ส่วนที่น่าจดจำเกี่ยวกับตัวเอง ลืมไปบ้างว่าบางครั้งบางทีก็มีความคิดชั่วร้าย ต่ำช้า เลวระยำ ในบางจังหวะของชีวิตไม่มากก็น้อย เช่น เอาเงินที่พ่อแม่ให้มาหรือเน็ตที่พ่อแม่จ่ายให้ไปซื้อหนังโป๊ ดูเว็บโป๊ เอาเงินไปสูบบุหรี่ กินเหล้า บางครั้งแอบขโมยเหรียญที่พ่อแม่วางทิ้งไว้ 5 บาท 10 บาท บางทีเอาเงินที่พ่อแม่ให้ไปเรียนพิเศษไปเที่ยวห้อง ผมไม่เคยเห็นเด็กคนไหนที่ไม่ทำผิดซักอย่าง เพราะเขาเป็นเด็ก ถึงโตเท่าไหร่ก็ไม่แก่กว่าพ่อแม่ซักที เพราะงั้นเลย ผิดพลาด มีพ่อแม่หลายคนตลอด 30-40 ปีที่เลี้ยงมา ไม่เคยบอกซักคำว่าจะต้องเลี้ยงดูอย่างโน้นอย่างนี้ พอไม่ได้ดั่งใจก็น้อยใจ อยู่มา 20 ปีไม่เคยพูดซักคำว่าจะเอาเงินเดือนถ้าเราหาได้ (อย่างกับเราไม่ต้องใช้) เพราะงั้นก่อนจะข้ามไปข้อสรุปว่า "ลูกใช้เงินไม่คิด" รู้รึยังว่าลูกคิดอะไร ถ้าทำอะไรไม่ถูกใจก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าลูกไม่คิด มองรอบๆก่อน การกระทำของคนมันไม่ผุดมาจากความว่างเปล่า คนเราทำตอบสนองสิ่งรอบข้างเป็นหลัก (ถ้าโทษว่าเพื่อนไม่ดีก็มีสาเหตุที่ได้เพื่อนกลุ่มนั้นเหมือน ไม่งั้นพ่อแม่จะเลือกโรงเรียนดีๆทำไม หรือถ้าเข้าโรงเรียนดีๆ บุคลิกลูกคุณไปดึงดูดคนพวกนั้นมาได้ยังไง ใครทำให้ลูกคุณมีบุลลิคดึงดูดคนพวกนั้น) สรุปว่าผมเป็นเดือดเป็นร้อนเพราะคำสะเพร่าพวกนี้ตัดโอกาสที่คนจะพัฒนาหรือเข้าใจกัน เพราะงั้นก็เลยให้น้ำหนักจากอีกด้านนึงด้วย

ถ้ามองกลับกัน "พ่อแม่บางคนหาเงินไม่คิด ในขณะที่ลูกครุ่นคิดว่าจะใช้เงินยังไง" สอนเขายังคร้าบ

1280

ไม่ค่อยแนะนำ Gold Future เท่าไหร่ เพราะมันหมดทุนได้ ถ้าทองแท่งอย่างแย่ก็แค่ขาดทุน(เพราะทองแท่งไม่มีวันลงไปถึง 0 บาท) อย่างที่สอง GF มีกำหนดสัญญา ต่อให้คุณซื้อทองแท่งแล้วมันลง ตราบใดที่ยังไม่ขายก็ไม่ขาดทุน แต่ GF มีกรณีบังคับขายหลายกรณีเช่นเกิน margin หรือหมดสัญญา(ซื้อออนไลน์ต้องอ่านสัญญาให้หมด ดูประวัติบริษัทด้วย ถ้ามันผูกกับธนาคารจะดีกว่า) การเคลื่อนไหวฉับพลัน(ขึ้น 50 เหรียญ ลง 50 เหรียญ ใน 1 นาที)ก็ทำให้หมด margin ถูกบังคับขายได้ง่ายๆ ถ้าไม่อยากเก็บทองไว้กับตัวแนะนำให้ลองกองทุน ได้น้อยกว่า ข้อบังคับกวนใจแต่ซื้อน้อยได้(ขั้นต่ำ 1000-5000 บาท) แบ่งพอร์ตได้ง่าย แต่กำไรน้อย ความเห็นส่วนตัว ถ้าซื้อตอนมันลง ขายตอนมันขึ้นก็ไม่มีปัญหา แต่ปัญหาคือมันจะลงเมื่อไหร่ขึ้นเมื่อไหร่มันต้องประเมินให้ออก ตรงไหนเซฟ ตรงไหนเสี่ยง อย่างผมตอนนี้รอ 1330 หรือต่ำกว่า(กองทุน) ถ้ามันไม่ลงก็อดซื้อเสียโอกาส(แต่ไม่ต้องเสี่ยง) แต่ถ้าลงต่ำกว่าหลังซื้อเช่นลงไป 1190 โอกาสทำกำไรก็เสี่ยงขึ้น ถ้าซื้อได้ที่ 1330 ผมรอดูท่าที ถ้าไม่ผิดปกติ 1580-1600 ขาย เพราะคาดว่ามันจะลงอีกรอบ แต่ถ้าไม่ชอบมาพากล 1450-1500 ก็ปลอดภัยดี แต่ถ้าซื้อ 1330 แล้วมันลงไป 1190 ขึ้นมา 1400 ก็ขายแล้วครับ เพื่อความปลอดภัย ทั้งหมดนี้มาจากประสบการณ์การดูกราฟและที่เคยเสียเงินไปแสน ตอนปี 2008 (ตอนนั้นเล่น GF เมืองนอก ที่มันลงไป 600 กว่า) แต่ปีนี้ผมอาจจะเสียอีกก็ได้ เลยเลือกกองทุน เพราะมันรอได้ แต่หนทางหมื่นลี้ต้องเริ่มจากก้าวแรก แต่ถ้าก้าวแรกไม่เจ็บมากก็น่าจะดีกว่า ป.ล. เสียแสนนึงในคืนเดียวมันหลอนมากเลยครับ สิ่งที่จำขึ้นใจก็คือ "เราก็พลาดได้"

ปกติเรามีสิทธิจะตัดสินใจซื้อไม่ซื้อได้ด้วยตัวเองครับไม่ว่าโบรกเกอร์จะว่ายังไง ถ้าเราเลือกที่จะเชื่อโบรกเกอร์แล้วมันแย่มันก็แค่โบรกเกอร์ห่วย ถ้าจะเอาผิดโบรกเกอร์ก็ต้องหาหลักฐานที่เขาบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับสัญญา ถ้าไม่มีในสัญญาไม่มีหลักฐานก็ทำอะไรไม่ได้ครับ อีกอย่างจะทำธุรกรรมอะไรอ่านกฎอ่านสิทธิเข้าใจให้ถี่ถ้วนครับ ยิ่งยากยิ่งซับซ้อนยิ่งต้องอ่าน เพราะมันเป็นช่องทางที่หลอกลวงได้ง่ายที่สุด และไม่ผิดกฎหมาย ถ้าโบรกเกอร์ไม่ต้องรับผิดชอบผลซื้อขายก็แปลว่าทุกคำที่เขาพูดออกมาไม่จำเป็นต้องคิดถึงเงินของเรา ถ้าโบรกเกอร์จงใจให้ข้อมูลผิดก็อาจจะอยากให้เราเสียแล้วเอาเงินมาลงเพิ่ม เขาจะได้ได้ส่วนแบ่งมากขึ้น ส่วนแบ่งเขาได้ตอนเงินเข้าไม่ใช่ตอนเราได้กำไร หรือเลวร้ายที่สุด ถ้าเป็นมิจฉาชีพจริงก็คือไม่ได้เอาเงินเราไปซื้อขายจริง แต่ทำให้เราดูเหมือนใช้เงินหมดไปเอง จริงๆเงินอยู่กับเขา ถ้าทำการบันทึกคำพูดทางโทรศัพท์ของโบรกเกอร์ด้วยก็ดีครับ ไม่งั้นคุณไม่มีหลักฐานอะไรเลย ใครๆก็อยากได้เงิน ถ้าไม่ได้มาก็เสียให้คนอื่น ระวังๆไว้ก็ดีครับ