Port/Money Management (จัดการเงินทุนกับหุ้นในport)
ต่อจากคราวที่แล้วนะครับ
เงินทุนที่แยกไว้ 3 ส่วนก็เนื่องจากที่เราไม่สามารถรู้ถึงสภาพตลาดได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้น จึงเป็นการดี
ที่เราจะแบ่งเงินไว้เป็นส่วนๆดังนี้
ส่วนที่ 1, 2 ลงทุน และส่วนที่ 3 เป็นเงินสำรอง
ในกรณีของการเล่นรอบ จะแตกต่างจากการลงทุนแนว VI นะครับ การเล่นรอบเปรียบเสมือนการไล่ราคา
เวลาหุ้นขึ้น แต่ VI จะเป็นการช้อนซื้อเวลาราคาหุ้นลง
ทีนี้หลายคนอาจจะคิด หรือมีคำถามว่า แล้วเงินสำรองจะมีไว้เพื่ออะไร เพราะในกรณีนี้คงไม่มีการติดดอย
แล้วเอาเงินส่วนที่ 3 มาซื้อเพื่อเฉลี่ยดอย
คำตอบก็คือ เวลาที่ตลาดมีสภาวะกระทิงนะครับ เราจะเอาเจ้าเงินส่วนนี้แหละออกมาทำมาหากินด้วย
หรือพูดง่ายๆว่า ช่วงเวลาที่ตลาดเป็นขาขึ้น แล้วมีหุ้นดีที่น่าจับ หรือ ตัวที่เราลงทุนอยู่แล้ว กำลังวิ่งกระฉูด
เราก็ทำการซื้อหุ้นเพิ่มเข้าไป
นี่ก็เป็นเหตุผลของการจัดสรรเงินเอาไว้สำหรับการลงทุนของเรา
เอาละครับ ถึงเวลามาดู port หุ้นรายตัวของเรากันบ้าง
หลักการคือ ดูทุนของเราก่อนว่ามีเท่าไหร่ จะจับหุ้นกลุ่มไหน(ราคา) แล้วเงินทุนที่เรามีอยู่เนี่ย จะลงทุนได้กี่ตัวๆ
ละเท่าไหร่
วิธีของผมคือ การลงทุน จะมีหุ้นอยู่ใน port ประมาณ 3 ตัวเป็นอย่างน้อย ส่วนมากจะประมาณ 5 ตัว
แต่ก็มีเหมือนกันที่หุ้นใน port ผมมีถึง 7 หรือ 9 ตัว ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องให้อยู่ในทุนของส่วนที่ 1 กับ 2 ที่
แบ่งเอาไว้นะครับ (ตอนนี้เราจะยังไม่ไปแตะส่วนที่ 3)
สมมุติ ผมมีเงิน 150,000 ผมแบ่ง 3 ส่วนก็จะได้ส่วนละ 50,000 บาท เท่ากับว่า ผมมีเงินที่จะลงทุน
100,000 บาท
ในเงินจำนวนดังกล่าว ผมจะวางแผนไว้ว่า ผมจะลงทุนในหุ้นประมาณ 5 ตัว ซึ่งก็หมายความว่า จะมีเงินลงทุนใน
หุ้นแต่ละตัวประมาณ 20,000 บาท
ทีนี้ เรามาดูกันครับว่าจะเป็นยังไงต่อไป
แน่นอนว่า เวลาที่เราซื้อหุ้นเนี่ย ยังไง สัญญาณการเข้าซื้อ (ที่เราดูจาก TA) ก็จะมาไม่พร้อมกันอยู่แล้ว
ดังนั้น รักชอบ หุ้นตัวไหน เล็งตัวไหนไว้ ก็ตามสัญญาณกันไปนะครับ จากกราฟ ผมว่าเราน่าจะพอประมาณการ
กันได้อยู่แล้วว่า คลื่นน่าจะเกิด น่าจะจบ ประมาณเมื่อไหร่ ดังนั้น เงินที่เราเตรียมไว้ แนะนำว่า ต้องรู้จักประยุกต์ ครับ
เช่น
ซื้อหุ้นไปแล้ว 1 ตัว ทุนโดยประมาณ 20,000 บาท ราคาหุ้นตัวนี้กำลังวิ่งเลย แล้วหุ้นตัวอื่นที่เราจับตามองอยู่
สัญญาณซื้อยังไม่มา แบบนี้ปรับแผนครับ โดยการดึงเงินที่เราเตรียมเอาไว้สำหรับหุ้นตัวที่ 5 มาลงใน
ตัวแรกแทน (เพิ่มทุนในการซื้อหุ้น) ถ้ายังวิ่งอีก ก็โยกเอาทุนจากหุ้นตัวที่ 4 มาลงเพิ่มอีก
(เราจะลงทุนแค่นี้นะครับ จะไม่เอาของอีก 2 ตัวมาลงเพิ่มอีกเป็นอันขาด เพราะตอนนี้เท่ากับเราปรับ port ของเราเป็น
การถือหุ้น 3 ตัว แทนที่จะเป็น 5 ตัว)
สรุปง่ายๆนะครับ
ถ้าหุ้นที่เราซื้อราคาวิ่งขึ้น ให้ไล่ซื้อตาม แต่!! ตามแค่ระดับนึงโดยการโยกเงินที่เราเตียมเอาไว้ แต่อย่าไป
เอามาซะหมด ให้เหลือทุนของ หุ้นตัวที่ 2 กับ 3 เอาไว้ด้วย
พอหุ้นตัวแรกขึ้นไปจนถึงระดับราคาที่สัญญาณขายมาแล้วก็ให้ขายออกไป แล้วปรับเงินลงทุนให้เท่ากับ 5 เหมือนเดิม
หลักการก็คือ
port ควรมีหุ้น 5 ตัว แต่ถ้ายังมีไม่ถึง เราสามารถที่จะโยกเงินเหล่านั้นมาลงที่หุ้นที่เราซื้อไว้แล้วราคากำลัง
วิ่งขึ้นไปได้ แต่ห้ามไม่ให้เอาทุนที่เราจะลงกับหุ้นตัวที่ 2 กับ 3 มาเด็จขาดถึงแม้เราจะยังมีทุนสำรองเอาไว้ก็ตาม
(อันนี้สำหรับมือใหม่นะครับ แต่ถ้าลงทุนมาจนมีการวางแผนที่ดีแล้ว เราก็สามารถที่จะประยุกต์เข้าไป
ได้อีกครับ)
อันนี้เป็นหลักการคร่าวๆนะครับ ยังไม่รวมถึงรายละเอียดปลีกย่อย หรือ ทริ๊กต่างๆ ในการซื้อหุ้นเพิ่ม
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประสบการณ์ครับ วิธีการจัด port กับการจัดการกับเงินใน port ก็เช่นกัน
ยังไงถ้านึกอะไรเพิ่มได้เดี๋ยวจามาเพิ่มให้ต่อในภาคถัดไปนะครับ ตอนนี้ มึน 
ก็เลยคงต้องเท่านี้ก่อน 
6 ความเห็น
แนะนำความคิดเห็น