Nexttonothing

อัตราส่วน ราคาทองคำ (USD) : ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET) วันนี้คือ 1:1 แต่ในอนาคต ราคาทองคำ (USD) : ดัชนีตลาดดาวน์โจนส์ (DOW) จะเป็น 1:1 เช่นกัน ผมยังคงเชื่อเช่นนั้นเสมอมาครับ

ตั้งสติ..ว่ากันใหม่ (Keep calm and Be patient) กระทิงทองคำ เหมือนถูกน็อค ! หลังจากขึ้นไปทำจุดสูงสุดได้ที่ประมาณ 1,900 $ ก็ขยับเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,530 -1,800$ อยู่นานถึงเกือบ 2 ปี ปัจจัยพื้นฐานของทองไม่ได้มีอะไรเปลี่ยน การอัดฉีดเงินเข้าระบบจากธนาคารกลางทั่วโลก ก็มีมากขึ้นโดยตลอดแต่ทองกลับไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ ราคากลับทิ้งดิ่งลง 200$ ภายใน 2 วัน ! แถมเป็นวันหยุดสงกรานต์ซะด้วย นักลงทุนทองคำไทย อาการหนักไม่แพ้ชาติใดในโลก เพราะนอกจากถูกซ้ำด้วยค่าเงินบาทที่แข็งต่อเนื่องในปีนี้แล้ว ยังมาเจอการเทที่หนักที่สุดในช่วงวันหยุดปรับกลยุทธ์อะไรไม่ทัน เหมือนแกล้งกัน ! สิ่งเหล่านี้เราได้รู้เห็นกันอยู่แล้ว แต่ผมก็ยังอยากจะเขียนบันทึกเอาไว้ ว่าครั้งหนึ่งทองเคยเขียนประวัติศาสตร์ไว้อย่างนี้ ราคากลับมาใกล้เคียงระดับเดิมที่ผมเริ่มตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เหมือนมาเริ่มกันใหม่ เมื่อราคาดิ่งกลับมาใหม่ เป็นเวลาสมควรอย่างยิ่งที่เราจะมาพิจารณากันว่า เราเริ่มซื้อทองกันเพื่ออะไร? มีไม่กี่อย่างที่ผมทำและแนะนำให้ทุกท่านได้ลงทุนตามคือ 1. ลงทุนในของจริง-ทองคำแท่ง (Physical) หลายต่อหลายครั้งการใช้ leverage หรือ Margin ในการลงทุน มันบีบหัวใจมากครับ ต่อให้คุณมีวินัยการลงทุนที่ดีขนาดไหน วางแผนมาเป๊ะอย่างไร “อารมณ์” ที่หวั่นไหวพร้อมซัดแผนคุณ ให้กระเจิดกระเจิง ในโลกของการลงทุนสำหรับผมแล้ว “อารมณ์”สำคัญที่สุด ! วินัยการลงทุน ปัจจัยทางเทคนิค หรือ พื้นฐาน ต่อให้มีข้อมูลดีอย่างไร มีวินัยแค่ไหน อารมณ์ที่บีบคั้น “พร้อมจะทำให้เสียแผน” 2. ไม่ Overtrade ลงทุนในของจริง ไม่มีใครบังคับให้คุณต้องเติมเงิน (Call margin) ไม่มีใครบังคับให้คุณต้องขาย (Force sell) มันบังคับอย่างเดียวคือ บังคับให้คุณ “ห้ามเล่นเกินตัว” เพราะของจริงต้องจ่ายเต็ม! หากคุณลงทุนในของจริงแต่ กู้ยืมมาลงทุน ก็ถือว่า Overtrade อย่างนี้ไม่ดีแน่ หลายคนอาจจะคิดว่า หากเราใช้ leverage แต่เราไม่โลภ เล่นแค่น้อยๆ ปริมาณเหมือนซื้อของจริงมันก็ดีนะ ผมก็อยากบอกว่า มันดีจริงครับ แต่มันฟังดูขัดแย้งเพราะ “คนใช้ Leverage มักจะโลภ คนไม่โลภ ไม่ใช้ leverage” หลายคนลงทุนเริ่มแรกแต่น้อย เมื่อนานไปความโลภมันจะเริ่มครอบงำถึงตอนนั้นอันตรายครับ 3. เงินที่ใช้เป็นเงินเย็น การลงทุนทองคำแท่งเป็นการลงทุนระยะยาว บางครั้งผมถึงเคยพูดแบบสุดโต่งว่า “ทองคำอาจไม่จำเป็นต้องขาย” ซะด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้เงินที่นำมาลงทุนจึงควรเป็นเงินที่คุณไม่จำเป็นต้องใช้ในตอนนี้หรืออนาคตอันใกล้ แต่เก็บไว้เพื่อใช้ในอนาคต จริงอยู่หากคุณต้องเทขายทองทิ้งตอนนี้ Purchasing power คุณจะลดลงอย่างมาก จากเมื่อตอนบาทละ 25,000-26,000 แต่หากคุณยังไม่ใช้มันในตอนนี้ ในอนาคตหากขึ้นกลับไปใหม่ ที่ลงมาตอนนี้มีความหมายเดียวคือ โอกาสในการเข้าซื้อเพิ่ม (Buying opportunity) หากเข้าข่าย 3 ข้อที่ว่ามา ทองดิ่งเหวครั้งนี้ สร้างปัญหาให้คุณได้ไม่มากครับ จะมีก็เสียดายอยู่ไม่น้อยที่ถ้ารู้คงปล่อยออกไปก่อนแต่มันไม่ทำให้คุณถึงกับหมดตัวหรือเครียดจนเป็นโรคประสาท ในการเทรดเล่นรอบ ผมเองก็ทำบ้างแต่ทำในสัดส่วนที่น้อย ช่วงที่ผ่านมา 10-20% ของพอร์ทผมที่ลดลงไป ก็เล็งหาจังหวะเข้าทยอยเพิ่ม แต่ 80% ก็ยังแช่แข็งอยู่ ด้วยอาชีพทำให้ผมมีทุกราคา (ราคายอดดอยก็ไม่น้อย) มูลค่าทางบัญชีลด แต่ แท่งมันยังเป็นแท่ง ไม่สึกไม่หรอ รอเวลากระทิงตื่นฟื้นขึ้นมาใหม่ ผู้ลงทุนหน้าเก่า คงจะมีที่เขย็ดขยาดทองไปเลย แต่ตลาดก็จะต้อนรับผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามา ผู้เล่นที่ยังมีเงินเหลืออยู่เริ่มทยอยซื้อทอง ผู้เล่นที่เงินตึงขาดมือต้องขายทองทิ้ง สิ่งนี้เป็นเรื่องธรรมดา ตั้งแต่ระดับเล็กไปจนถึงระดับโลก ข่าวไซปรัส จะขายทอง เปรียบเหมือนคนเป็นหนี้สิน แต่ยังใส่สร้อยคอเส้นเบ้อเริ่มเดินไปเดินมา ก็จำเป็นที่จะต้องโดนบีบให้ขาย แต่มันสำคัญที่ว่า แล้วใครจะเป็นคนซื้อ ?? ประเทศที่เงินเหลืออยู่มาก ทองคำราคาลงขนาดนี้จะไม่แบ่งมาซื้อบ้างหรือ เช่น จีน มีทองคำเป็นสัดส่วนทุนสำรองอยู่แค่ 2-3% ของเงินทั้งหมด รัสเซีย 9% ญี่ปุ่น 3% “ทุกการขายมีการซื้อ” ประเทศในแถบเอเชียหลายประเทศ (แม้แต่ไทยเราเองก็ยังมีทุนสำรองเป็นทองคำไม่ถึง 10%) เทียบกับประเทศในแถบตะวันตกเช่น เยอรมันนี 73% อิตาลี่มีทอง 72% เสปน 30% ไซปรัส 58% (ข้อมูลจาก Wikipedia นะครับอาจจะไม่เป๊ะ แต่มองเป็นภาพรวมๆได้) เป็นโอกาสดียิ่งหาก ประเทศในยุโรปจะแก้ปัญหาโดยการขายทองคำทิ้ง แล้วโยกมา ประเทศในแถบเอเชียรับซื้อไว้เอง จากนี้ไปอะไรก็เกิดขึ้นได้ สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็นมาแล้ว ปัจจัยในอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่ไม่นอน หากวัดจากระดับสูงสุด 27,000 ทองทิ้งตัวลงมาแตะ 18,700 ถือเป็นการลดลงประมาณ 30% ทองเคยลง 30% มาแล้วครับครั้งนึง ตอนนั้นขึ้นไป 16,000 แล้วลดมาเหลือ 12,200 ราคานี้มองย้อนกลับไปมันคือ โอกาสในการเข้าซื้ออย่างดีเยี่ยม (Buying Opportunity) ผมไม่ได้บอกว่า ควรเข้าซื้อที่ระดับนี้ แต่ต้องการจะสื่อว่าทองเคยลงแบบนี้มาแล้ว (แม้จะไม่เร็วอย่างนี้) และก็ไม่ได้เป็นการล่มสลายอะไรของทองคำ ตลาดหุ้นเองที่กำลังคึกคัก ก็เคยขึ้นไปถึง 1,700 จุดแล้วหล่นเหลือ 250 จุด จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้ทำ New high ในขณะที่ช่วงเวลาเดียวกัน ตอนนั้นทองบาทละ 6000 -7000 กว่าบาท มาวันนี้ ทิ้งดิ่งแล้ก็ยังแพงกว่าตอนนั้น 3 เท่าตัว. ทุกอย่างมีวัฎจักรของมัน ยากที่ใครจะคาดเดาได้แม่นยำทุกครั้ง ช่วงที่ผ่านมาไม่ใช่ช่วงเวลาของทองเลย จากนี้ก็คงต้องให้เวลาพักเลียแผลหน่อย แต่ผมยังมองว่ามันเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในระยะยาว เรื่องของระยะสั้นการกะเกร็งกำไร ผมเคยออกตัวอยู่บ่อยครั้งว่าผมไม่ถนัดจริงๆ ผมขอไปแบบหัวโบราญเย็นๆไปเรื่อยๆ ทยอยสะสมตามกำลัง เรื่องจะทิ้งทองคำภายใต้ นโยบายการเงินที่ธนาคารกลางทั่วโลกพิมพ์แบงค์กันเป็นว่าเล่นแบบนี้ ผมไม่เอาครับ. ปล. 1. ที่เขียนผมหมายรวมถึง Silver ด้วยนะครับ ยังเก็บมันอยู่หวังว่าเมื่อเวลามันขึ้น จะขึ้นเร็วและแรงชดเชยที่เราต้องรอ 2. ข่าวสารต่างๆ ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เขียนถึง เพราะในกระทู้มีเยอะมากผมเองก็ได้ข้อมูลได้เรียนรู้ไปด้วย ขอบพระคุณทุกท่านที่นำมาแชร์ครับ

น่าสนใจนะครับ เติมน้ำมันราคา 1 กรัม รองเท้ากีฬาราคา 2 กรัม มื้อนี้เช็คบิล 1 กรัม ............. และอื่นๆ http://www.youtube.com/watch?v=0cNwaA5sNr8

หวังเป็นอย่างยิ่งเลยครับ เฮีย ....

นักวิเคราะห์เค้าว่ามาอย่างนี้ครับ เป็นอีกคนนอกจาก จิม ซินแคลร์ ที่มองว่าทองจะไป 3,xxx หลังจากทุกอย่างคลี่คลาย ใครถือทองแท่งไม่ได้ทำรอบอย่าเสียใจนะครับที่พลาดการทำรอบ 100 กว่าเหรียญ หากทองยังไม่ตาย -ซึ่งผมก็เชื่ออย่างนั้น รอบใหญ่ว่ากันไปยาวๆครับ เป็นกำลังใจให้ทุกท่าน และขอบคุณสำหรับข้อมูลข่าวสารจากเพื่อนๆด้วยครับ http://www.kitco.com/ind/Conner/20130220.html

เห็นราคาเช้านี้แล้ว ขอเข้ามาทักทายกันหน่อย ยังคงเชื่อมั่นในทองคำเหมือนเดิมไม่เปลียนแปลงครับ ... ใครถือทองแท่งของจริงก็เย็นหน่อย แต่ใครใช้ GF ลงเกินกำลังจะเหนื่อยนิดนึง ขอเอาของเก่ามาฉายซ้ำใหม่นะครับ ARTICLE 8 : เริ่มแบบนี้-จบแบบนี้ (Start-Finish)

ปีใหม่ ปีทอง (New year) สวัสดีปีใหม่ เฮียกัมพล และ สมาชิกไทยโกลด์ ทุกท่านครับ ปีใหม่นี้ขอให้สบายใจ สบายกายกันทุกท่านนะครับ ไม่รอช้าขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะครับ บันทึกไว้ก่อนว่าวันนี้ ราคาทองคำอยู่ที่บาทละ ซื้อ 24,250 - ขาย 24,150 ในปีที่ผ่านมาทองคำปรับตัวขึ้นเพียง 2.5% ต้องถือว่าเป็นปีที่ไม่สดใสเลย สำหรับทองคำ ซื้อต่ำสุดของปีนี้ ต่อให้ขายได้จังหวะสูงสุดพอดีก็จะมีกำไรอยู่ประมาณ 10% ต้องถือว่าปีที่ผ่านมา ทองขึ้นต่ำกว่า “ค่าเฉลี่ย” (15-17% ต่อปี) และ เป็นปีแรกที่ทองคำไม่มีราคา New High ในบ้านเรา ประเด็นหลังผมพอรับได้ เนื่องจากปีก่อนหน้านั้นเป็นปีที่ทองคำพุ่งทะยานไปทำสถิติสูงถึงบาทละ 27,000 วันที่ 6 มกราคม 2011 ผมเขียนในกระทู้นี้ไว้ว่า ในปี 2011 นี้ผมขอคาดการณ์แบบ "ถ่อมตัวและกลัวผิด" ว่า อย่างน้อย เราน่าจะได้เห็น ราคาทองคำที่ระดับ 22,000-23,000 ต่อบาท การคาดเดาของผมในปีนั้น ผมประมาณการเอาจากค่าเฉลี่ย ไม่ได้มีไพ่ทาโร่หรือลูกแก้ววิเศษใดๆทั้งสิ้น มันคือ “สถิติ” การขึ้นแรงเกินค่าเฉลี่ยถึงเท่าตัวอย่างเร็วและแรง จึงตามมาด้วยการดีดกลับและ “พัก” ในปีถัดมา ก่อนที่เราจะเริ่มต้นปีใหม่ 2013 เราลองถอยมามองย้อนหลังกันซักนิดครับ ปี 2011 เริ่มต้นที่ 20,300 จบปีด้วย 23,500 ปี 2012 เริ่มต้นที่ 23,500 จบปีด้วย 24,200 ผมเคยได้รับเกียรติจากเฮียกัมพล ไปบรรยายในงานสัมมนาของ Thaigold มีตอนหนึ่งผมพูดไว้ว่า หากคุณไม่เคยลงทุนในทองคำ หากคุณคือมือใหม่ วิธีการลงทุนทองคำที่ง่ายที่สุดคือ “ซื้อ 1 มกราคม แล้วไปขายวันที่ 31 ธันวาคม ของปีนั้น” ที่ผ่านมากำไรหมด ระหว่างปีอะไรเกิดขึ้นไม่ต้องไปสนใจ หากเรามองภาพรวมๆ ดูตามสถิติเก่า ผมขอยืนยันว่า “ทองคำขึ้นราคาทุกปี เมื่อเรามองปีต่อปี” (ไม่มองรายวันรายชั่วโมง) (Silver เองก็มีภาพรวมเช่นเดียวกัน ผมยังยกให้ Silver จะเป็นการลงทุนที่ดีมาก จากราคาที่ต่ำเกินจริงแบบนี้) แม้มันจะไม่ได้ทำให้เราได้กำไรสูงสุด แต่การลงทุนด้วยเงินและใจที่ “เย็นๆ” ผลตอบแทนไม่ขี้เหร่ครับ สิ่งที่ยากคือ “อารมณ์” ของเราที่มันแกว่งมาก ตามราคาที่แกว่งตัวรุนแรงระหว่างปี ข้อมูลที่ให้ ไม่มีใครหลอกใคร ข้อมูลทั้งทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน กลั่นกรองกันมาและมีมากมาย ทุกคนได้รับเหมือนกัน ที่แบ่งแยกให้ต่างกัน ระหว่างลงทุนแล้วประสบความสำเร็จกับล้มเหลวคือ “อารมณ์” หรือจิตวิทยาในการลงทุน บวกเราต้อง บริหารเงิน (Money management) ไม่ลงทุนเกินตัวก็มีผล เพราะหากเราลงแต่ที่เราพอรับได้ ใจเราก็แกว่งน้อย แต่หากทุ่มเท มากมายเกินกำลัง ใจมันจะแกว่งให้เราเขว ผมเองในอดีต การลงทุนที่ผ่านมา หลายครั้ง “แพ้ใจ” ของตัวเองครับ ... วางแผนดีหมด จัดการดี ขอแค่ทำตามแผนไปผลลัพธ์ ก็จะดี แต่โดนราคาตลาดเหวี่ยงซะใจแกว่ง จนผิดแผน จนถึงวันนี้ มีบทเรียน แต่ก็ขอใช้เพียงคำว่า “ค่อยยังชั่ว” ขึ้นเท่านั้น ยังต้องฝึกกันต่อไปครับ ปีนี้ผมไม่ขอตั้งเป้า ส่วนตัวคิดว่าจะมี New high แต่จะมีหรือไม่ ผมปล่อยให้ ทองคำ เขียนประวัติศาสตร์ของมันเองดีกว่า ผมจะทำตัวเป็นผู้ชมที่ดี ปัจจัยพื้นฐานหลายอย่างล้วนบ่งชี้ว่า ผลจะออกมาเป็นอย่างไร โอบาม่าและเบนเบอร์นันเก้ ชนะเลือกตั้ง อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา QE3 – QE4 ทยอยอัดฉีดกันเข้ามาตามคาด เพดานหนี้ทุกครั้งที่ชน มีแต่จะเลื่อนขึ้น เลื่อนขึ้น ไปเรื่อยๆ สภาพคล่องล้นโลก การเก็บทองคำ เป็นทุนสำรองจากธนาคารกลางโดยเฉาะในเอเชีย เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลายสาเหตุหลายปัจจัย ชัดเจนมาก จนหลายคนสงสัยว่า เหตุใด ราคาทองคำไม่ขึ้นพรวดพราด ? ผมคิดว่า ปัจจัยที่เราเห็นมันเหมือน “ไฟเขียว” ตามสี่แยกไฟแดงครับ ไฟเขียวสว่างแล้ว แต่ใช่ว่าเราจะเคลื่อนตัวไปได้ทันที รถจะค่อยๆทยอยออกตัวไปทีละคันๆ ไล่ไปเรื่อยจนมาถึงคันของเรา หากไม่ทันไฟเขียวนี้มันก็แค่ชั่วคราวครับ เขียวหน้าผมเชื่อว่าเราก็ได้ไป ใครซื้อทองไว้ก่อนแล้วเหมือนขึ้นมานั่งแช่รอบนรถ มันติดมันหงุดหงิด ที่ไม่ไปซะที แต่ผมว่า ความเสียหายยังดีกว่า “ไม่ยอมขึ้นรถ” มานั่งรอรถออกกับตกรถ ความเซ็งมันต่างกันมาก ปีที่ผ่านมา ทองคำไปเรื่อยๆเฉื่อยๆ นักลงทุนหน้าใหม่เริ่มเข้าสู่ตลาดในจังหวะที่ราคาลดลง นักลงทุนบางท่านถือเป็นโอกาสในการทยอยสะสม (Accumulate and Buy the dip) น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งครับว่าปีนี้จะเป็นอย่างไร หากกระทิงทองคำยังมีพลังอยู่ ปีนี้จะเป็นปีที่ดี ก่อนจบ ขอยกคำพูดของ ดร. นิเวศน์ กูรูทางด้านการลงทุนมาปิดท้ายครับ ดร.เคยบอกว่า “หากปีไหนตลาดไม่ดี มีโอกาสมากที่ปีถัดไปจะดี หากมันยังไม่ดีอีก ปีถัดไปยิ่งมีโอกาสที่มันจะดีมากขึ้นอีก หากมันยังไม่ดีอีก ก็ปีถัดไป” (ฮา) คำพูดนี้เหมือนพูดกำปั้นทุบดิน ฟังขำๆ แต่มันแฝงความลุ่มลึก บอกถึงการมองภาพรวมของตลาด ไม่ใส่ใจสิ่งเล็กๆน้อยๆ บอกถึงการเป็นนักลงทุนระยะยาว ที่อดทนรอได้ หากเชื่อมั่นในสิ่งที่ลงทุน ปีที่แล้วไม่ใช่โอกาสของทองคำ หวังใจว่าปีนี้ โอกาสทอง (จริงๆ) จะกลับมาครับ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ขอพูดถึงกระทู้หน่อยนะครับ ขอบพระคุณทุกท่านมากที่นำข้อมูลมาแบ่งปัน ทั้งคุณส้มโอมือ คุณหมอเล็ก คุณ wgc และอีกหลายท่านที่ไม่ได้กล่าวถึง กระทู้นี้ดีกว่าตอนที่ผมเคยเข้ามาเขียนเสียอีก ข้อมูลมากกว่าเดิมเยอะเลยเพราะหลายท่านช่วยกัน ขอบพระคุณที่รักษากระทู้นี้ไว้ให้เพื่อนนักลงทุน รวมถึงตัวผมเองด้วยได้เรียนรู้ รวมถึงทุกท่านที่เข้ามาโพสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยนะครับ สิ่งนี้ทำให้กระทู้มีชีวิตชีวาอยู่โดยตลอด ผมเองคงไม่เข้ามาบ่อยเหมือนแต่ก่อน ต้องขออภัยด้วย แต่หากมีอะไรน่าสนใจก็จะเข้ามาแชร์และพูดคุยกันครับ ในเรื่องของการลงทุน ส่วนตัวผมเริ่มติดตามและอินน้อยลง พยายามจัดการให้ลงตัว แล้วรอให้มัน Play out ออกมาเท่านั้น สิ่งที่ท้าทายผมในปีใหม่ที่มาถึงคือการ “พัฒนาตนเองไปสู่ความง่าย และการพึ่งพาตนเองให้ได้” สมกับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์มากกว่า (เพราะตรงนั้นผมด้อยมาก) สบายๆพูดคุยกันเท่านี้ก่อน โชคดีมีความสุขในการลงทุน ทุกท่านนะครับ :_087

ปีหน้า ... พบกันครับทุกท่าน :_087

ปีหน้า ... พบกันครับทุกท่าน :_087

!_087 !_087 ขอบคุณครับ

ขอบพระคุณ สำหรับกำลังใจนะครับ ที่ผมอยู่แม้จะพยายามป้องกันแล้วแต่ น้ำลองถ้ามันมีช่องทางรั่วเข้ามาได้ล่ะก็ มันจะเรียกเพื่อนมาเยอะเลย สรุปกลายเป็นว่า "จมบาดาล" ไปเรียบร้อย "เสียหายมากมาย" "เหนื่อยทั้งกาย" "เหนื่อยทั้งใจ" แต่ขอเชิดใส่ภัยพิบัติครับ ตอนนี้ทำใจได้-ไม่เครียดแล้ว คิดซะว่า น้ำก็มาของเค้าเราดันไปขวางเค้าเอง คงต้องหลีกทางให้เค้าผ่าน เลยอพยพมาอยู่ที่แห้งแทนครับ สำหรับกระทู้นี้ก็ต้องขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแบ่งปันข้อมูลอยู่เสมอๆด้วยนะครับ "ทองคำ" ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สุดท้ายก็จะเป็นไปตามพื้นฐานของมัน.... เมื่อผมจัดการเรื่องวุ่นๆในชีวิตเสร็จเมื่อไหร่ "ผมจะกลับมาใหม่" ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุนและรอดน้ำท่วมครับ

ดีใจครับ..เป็นเกียรติมากที่ พ่อเฮียคิกคาปู้ อ่านหนังสือผมแล้วชอบ เห็นเฮียมาเปิดกระทู้ใหม่ด้วย นักลงทุนคงได้มีที่พึ่งพาเพิ่ม นอกเหนือจากคนอายุกว่า 50 แบบผม(ฮา)

เริ่มต้น ไตรมาส 4 ตามสถิติแล้วเป็นไตรมาสที่ดีสำหรับทองคำทุกปี (ยกเว้นปี 2008) ครับ .. มีวิดีโอ อธิบายความเป็นไปของระบบการเงินที่เราใช้อยู่ (Fiat Currency) มาฝาก ระบบนี้ไม่ยั่งยืนหรอกครับ นับวันยิ่งใกล้จะล่มสลาย(Collapse) มาดูกันว่า -ทำไม- ? http://www.youtube.com/watch?v=hx16a72j__8

สิ่งที่เกิดขึ้นในการ์ตูน กำลังจะกลายเป็นเรื่องจริงในอนาคตอันใกล้ หากคุณติดตาม เศรษฐกิจโลกและกระทู้นี้มาอย่างต่อเนื่อง คุณย่อมรู้ว่า "มันสื่อถึงอะไร" ..... ปล. ดูตั้งแต่นาทีที่ 4 เป็นต้นไปนะครับ ... http://www.youtube.com/watch?v=Cf4wlKsqUKc&feature=player_embedded

เผื่อว่าใครยังไม่ได้ดูนะครับ .. ช่วงนี้งานเข้าอย่างจังจริงๆ ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาเลย เป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ คลิ๊ก ...... Mania Phase ปล.ช่วงแรกไม่เกี่ยว ต้องดูจบจนนะครับ..

งวดนี้ David banister กูรูเทคนิคเข้าเป้านะครับ คลิ๊ก..Gold Continues to Correct as Forecast in a 4th Wave Pattern ปิด Gap เรียบร้อย 1,620-1,643 มีโอกาสได้เห็น.. ปล.กูรู ประจำกระทู้เราคุณ Kunghdy ก็เข้าเป้านะครับ แต่หวังว่าจะไม่ไปต่ำมากไปกว่านี้แล้วไม่งั้นได้หาผ้าห่มกันแน่ๆ

ถึงวินาทีนี้... ทองคำปรับตัวลดลงเกือบ 15% จากยอดดอย .. (เกินจากระดับปกติที่จะ Correction ประมาณ 5-10%) แต่ก็เนื่องมาจากราคาที่พุ่งสูงอย่างรวดเร็วถึง 33% ในปีเดียว ในอดีตเราเคยเห็นปรับลงมากกว่านี้มาแล้ว -ทองยังกลับมาได้- ครั้งนี้แม้จะหนักแต่ผมคิดว่าตลาดตีความผิดอีกครั้งไม่ต่างจากหลายๆครั้งก่อนที่คิดว่า "เงินสดคือสินทรัพย์ที่ปลอดภัยที่สุด" เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ "ของจริง" (Physical) เท่านั้นที่จะยังคงอยู่กับเรา ใครขาดทุนจากกระดาษ อย่าได้หมดศรัทธาในทองนะครับ ทองคำที่เป็นของจริงนั้นยังนอนอยู่นิ่งๆ เย็นๆ ส่วนตัวผม ทองคำแท่งในพอร์ท ผมไม่คิดจะขาย เพราะจุดประสงค์หลักคือ ใช้เป็น"ที่เก็บ" รักษา Purchasing Power ในระยะยาว ในชีวิตประจำวันต้องมี กินข้าว ซื้อของจุกจิก เติมน้ำมันบ้าง ส่วนนี้ผมมี ธนบัตร "เอาไว้ใช้" ครับแต่หากจะหา "ที่เก็บรักษาความมั่งคั่ง" แล้วล่ะก็ Gold and Silver เท่านั้น .... นี่คือสิ่งที่เรียกว่า "สินทรัพย์" Assets ที่ผมยังเชื่อว่ามูลค่าจะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคต จึงไม่จำเป็นต้องประเมินราคามันทุกวันครับ

บทความใหม่ยังไม่มีเวลาเขียนเลยครับ ด้นสดๆเอาตะกี๊ ใครรออ่านอย่าถือสานะครับช่วงนี้ผม ง่วนอยู่กับการจัดพอร์ทตัวเองเหมือนกันเน้น Gold and Silver ดีว่าก่อนหน้านี้เคลียร์หุ้นไปหมดนานแล้ว ไม่งั้นไม่อยากจะคิด..

ช่วงผมไม่ได้เข้ามา ขอบพระคุณ ปจ.พื้นฐานจาก Morlek คุณ John คุณ WCG คุณ Cocohill ปจ.ทางเทคนิคจากคุณ Kunghdy และอีกหลายๆท่านที่ไม่ได้เอ่ยถึง ด้วยนะครับ เหมือน "ลงเรือลำเดียวกัน ระหว่างทางต้องเจอคลื่นลม มรสุม ลุ่มๆดอนๆ บ้าง" ฝ่าไปให้ได้ครับ

สวัสดีครับ :] ยอมรับครับว่า เวลาเกิดความไม่แน่นอนขึ้นในตลาด จากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่คุกรุ่นรอวันระเบิด ตลาดตีความว่า "เงินสดคือสินทรัพย์ที่ปลอดภัยที่สุด" (Cash is king) แต่จนมาถึงเวลานี้ ต้องขอบอกว่า ทองคำยังทำหน้าที่ Safe Heaven ทางเลือกได้ดีครับ USDX 78-79 กว่าๆ หากเป็นเมื่อก่อนทองได้ทิ้งตัวแรงกว่านี้ ระดับราคาหากคิดเป็นเงินบาท(ที่อ่อนช่วย) คนที่จะติดดอยได้คือ "คนที่พึ่งจะซื้อเท่านั้น" ครับ .. เพราะผมจำได้ว่าต้นเดือนสิงหาคม ราคาอยู่ที่ระดับ 22,000-23,000 เท่านั้น หากพึ่งจะซื้อผมเคยบอกเสมอว่า "ต้องให้เวลามันหน่อย" วันที่ผมไปบรรยายที่งานสัมมนา Thaigold มีน้องผู้ชายคนนึงเดินมาถามผมว่า หากที่คุณบอกว่า ทองขึ้นเฉลี่ยปีละ 17% เป็นเรื่องจริง (ซึ่งดูจากสถิติก็เป็นเช่นนั้น) ทำไมคนถึงยังฝากเงินธนาคารหรือซื้อพันธบัตร สลากออมสิน ?? ความลับมันอยู่ตรงนี้ครับ คนเราชอบมองอะไร "ระยะสั้น" มากกว่ามอง "ระยะยาว" การซื้อทองเสี่ยงที่ทองจะลงทำให้เครียดในระยะสั้นๆ เพราะน้อยคนจะซื้อได้จุดต่ำสุดของแต่ละรอบ คนส่วนมากจึงไม่ชอบที่จะมาเครียดกับตรงนี้เทียบกับเงินฝาก สลากออมสิน เค้าจะคิดว่าแม้ได้น้อยแต่ "กำไรแน่ๆ ไม่มีขาดทุน" (ซึ่งความจริงก็ไม่พ้นโดนเงินเฟ้อเล่นงานอีก) "การเฝ้ามองราคาทุกวันจึงไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมกับการลงทุนในทองคำ หากแต่เราต้องมองที่มูลค่าของมันในระยะยาวจะดีกว่า" มีเพื่อนสมาชิกคาดหวังว่าทองจะขึ้นถึง 2,000$ แล้วไม่เป็นไปตามนั้น ถึงขั้นขาดทุนเป็นล้าน??? ผมสันนิษฐานว่า เป็น Gold Future นะครับไม่ใช่ทองคำแท่ง (เพราะหากเป็นทองคำแท่งต้องมีกว่า 600 บาทขึ้นไปถึงจะขาดทุนระดับนั้นได้) ถ้าเป็น GF ครั้งนี้ขาดทุนเป็นล้าน ที่ผ่านมาอาจจะกำไรหลายล้านมาแล้วก็เป็นได้ ตลาดนี้มันแบบนี้แหละครับ -HIGH RISK HIGH RETURN- หากไม่เคยได้มาก่อน แล้วมาขาดทุนตอนนี้ น่าเห็นใจครับ นี่คือความน่ากลัวของการใช้ Margin ซึ่งผมเองไม่แนะนำเลยจริงๆ ยิ่งเป็น Mania Phase แบบนี้ สุดท้ายทองคำจะกลับมาครับ ตอนนี้สินทรัพย์เสี่ยงทุกอย่างต้องโดนเทกระจาด ไม่พ้นที่ทองจะโดนไปด้วย (หนักสุดก็ที่ตลาดหุ้น) ย้อนรอยปี 2008 เกรงแต่คราวนี้จะหนักกว่า Operation Twist กดดอกเบี้ยต่ำไม่ได้เป็นผลดีต่อ ศก.เลย (ดีต่อทองในระยะยาวด้วยซ้ำ) เมื่อทุกอย่างทรุดลงอย่างหนัก เฟดอาจใช้เป็นข้ออ้างในการอัดฉีด QE3 ดอลล่าร์จะอ่อนค่าและทองจะกลับมา ขณะนี้ดอลล่าร์อินเด็กซ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ราคาทองที่ปรับตัวลดลง "ล่อตาล่อใจให้รายใหญ่" ผู้ถือครองดอลล่าร์หาจังหวะระบายออกแล้วเก็บทองแทน พล็อตเรื่องในอนาคตไม่น่าจะหนีจากนี้ไปมาก ดูหนังต้องตามดูให้จบเรื่องครับ.......

คิดเหมือนกันครับ ... +1

ระยะหลังมีการพูดถึงเรื่องการลงไปปิด Gap ที่ระดับดังกล่าว หากถามผมปัจจัยพื้นฐานควรส่งทองไป 2,000$ แล้วด้วยซ้ำ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นไปไม่ได้นะครับ (เพราะมันหมายถึงการปรับฐานประมาณ 11-12% จากจุดสูงสุด) อารมณ์ตลาดระยะสั้นๆ "มันเดายาก" ความคิดเห็นของผมก็คงไม่มีอะไรนอกจาก "หากมาผมคงเข้าซื้อเพิ่ม...แต่ถ้าไม่มาก็ดีไป" ปล.อยากจะเตือนผู้ที่เล่น GF หรือพวกสัญญากระดาษ-กองทุนทั้งหลายด้วยนะครับ กระดาษยังไงก็คือกระดาษ จากนี้ไปขอเน้นว่าเก็บของจริงดีที่สุดนะครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะรวยไม่เร็ว ผมเป็นห่วงเรื่องการสวิงของราคามากกว่า ราคาเป้าหมายของทองไม่น้อยหรอกครับ แต่วิกฤต ศก.ครั้งนี้มีอะไรมากกว่านั้น ที่ของจริงเท่านั้นถึงจะ ช่วยเราได้.

สุขสันต์วันเกิดคุณหมอด้วยคนครับ ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณหมอนับถือดลบันดาลให้สมปรารถนา สุขภาพแข็งแรงทั้งกายใจ ร่ำรวยเงินทองครับ ...

ทองจริง ไม่ต้องห่วงหรอกครับถ้าใช้เงินเย็นๆซื้อ ราคาสวิงทำอะไรพอร์ทเราไม่ได้ (ยกเว้นทำเราเซ็ง) แต่เดี๋ยวก็ซักพักสองพัก อย่างที่ คุณ madam ว่า. ตอนทองคำแตะ 1,800$ ครั้งแรก (พึ่งกลางเดือนที่แล้ว)เราได้เฮ แต่ก็ถูกซัดร่วงไป 60$ ทันทีเลยจากการประกาศขึ้นมาร์จิ้นของ CME สุดท้ายยังกลับไปได้ถึง 1,900$ ผมเชื่อว่าทองจะกลับมาได้เร็วกว่าที่เราคิดครับ ราคาที่ถูกลงมันดึงดูดให้คนที่ยังไม่มีทองพุ่งเข้าใส่ -ธนาคารกลางและกองทุนต่างๆ ผมว่าจ้องอยู่ -นักลงทุนรายย่อย เอาแค่ในไทยเราผมว่า...พรุ่งนี้เยาวราชแตก ปล.เหมือนทาง YLG เคยพูดไว้ว่า ไทยเรานำเข้าทองคำ(จริงๆ) อันดับ 3 ของโลกเลยนะครับ?? ข้อมูลนี้ผมเองก็อึ้ง คนไทยเราตื่นทองไวไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ

หายแล้วครับผม...ขอบคุณนะครับ !01