ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

little devil

ขาใหญ่
  • จำนวนเนื้อหา

    171
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

บันทึกในบล็อก ถูกโพสต์โดย little devil

  1. little devil
    เย็นวันหนึ่ง หลังจากกลับจากประชุมศึกษาธรรมในหัวข้อ "นรก และสวรรค์" ชายผู้หนึ่งสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า นรก นั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร เขาครุ่นคิดจนกระทั่งเขาเผลอหลับไป
     
    ในความฝัน ชายหนุ่มผู้นี้เห็นตัวเองยืนอยู่หน้าประตูรั้วของสถานที่แห่งหนึ่ง ที่มีป้ายเขียนว่า "ยินดีต้อนรับสู่ "นรก"เขาจึงเดินเข้าไปในรั้ว เขาสังเกตเห็นว่าทางเดินสองข้างทางของ"นรก" ประดับประดาด้วยดอกไม้อันสวยสดงดงาม เมื่อเขาเดินไปจนสุดทาง เบื้องหน้าของเขาคือบ้านหลังใหญ่ที่สวยงาม เขาเห็นว่า ประตูเปิดแง้มอยู่ เขาจึงเปิดประตูและเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้น เขาเดินผ่านห้องนั่งเล่นอันโอ่โถง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเห็น ทำให้เขารำพึงกับตัวเองว่า "นรกช่างน่าอยู่จริงๆ"
     
    เขาเดินต่อไปจนถึงห้องอาหาร บนโต๊ะอาหารมีอาหารชั้นเลิศมากมายวางอยู่ และเขาเห็นผู้คนมากมายอยู่ในห้องนั้น คนที่อยู่ในห้องนั้นผ่ายผอม เหมือนหนังหุ้มกระดูก ทุกคนพยายามกินอาหารโดยใช้ตะเกียบที่ยาวประมาณ 1 เมตร คีบอาหารเข้าปากตัวเอง ยิ่งพยายามคีบเข้าปากตัวเองเท่าไหร่ อาหารก็ตกลงพื้น และไม่มีคนใดในนั้นสามารถกินอาหารได้เลย
     
    ชายผู้นั้นก็ตกใจตื่นขึ้นมา และเขาก็รำพึงกับตัวเองว่า "นรกเป็นอย่างนี้นี่เอง และสวรรค์ล่ะ จะเป็นอย่างไร"
     
    คืนต่อมา เขาหลับและฝันเห็นตัวเองอยู่หน้าประตูรั้วของสถานที่แห่งที่ ที่เขียนว่า "ยินดีต้อนรับสู่ "สวรรค์"" เขาจึงเดินผ่านเข้าประตูรั้วไป เขาเห็นว่าสถานที่นี้สวยงามไม่ต่างไปจาก"นรก"ที่เขาเห็นเมื่อคืนก่อน และเขาก็เดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ผ่านห้องนั่งเล่น และเดินเลยไปที่ห้องอาหาร เช่นเดียวกัน บนโต๊ะอาหารของสวรรค์มี อาหารชั้นดีมากมายเช่นเดียวกับนรก
     
    แต่สิ่งที่แตกต่างจากนรกคือ คนที่อยู่ในสวรรค์ มีใบหน้าที่มีความสุข อ้วนท้วนสมบูรณ์ ร้องรำทำเพลง และแม้ว่าพวกเขาจะต้องใช้ตะเกียบยาว 1 เมตรเช่นเดียวกัน แต่พวกเขาสามารถลิ้มรสอาหารชั้นเลิศได้ เพราะพวกเขาใช้ตะเกียบ คีบอาหารป้อนให้กันและกัน
     
    Credit: David Kasahara
    From: SGI-USA Buddhist Meeting
  2. little devil
    พอดีพี่ฉั่วจากเกียวโต แปลไว้ เห็นว่าดีเลยขออนุญาตรวบรวมมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ Credit: Adisak Chua Adisak Chua: คิดว่าทุกคนกำลังเครียด เลยอยากแบ่งปันเรื่องดีๆที่เกิดในช่วงแผ่นดินไหว (อ่านเจอลิ้งค์จาก ศูนย์กลางข่าวสารแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น โ...ดย สนญ. และ สนทญ.) เป็นเรื่องราวที่คนต่างชาติที่อยู่ในญี่ปุ่นประสบ http://prayforjapan.jp/tweet.html ขอแปลด้วยความรู้ภาษาญี่ปุ่นที่มี เรื่องที่หนึ่ง ข้าพเจ้าได้เห็นเด็กน้อยพูดกับพนักงานรถไฟ "ขอบคุณค่ะ/ครับ ที่เมื่อวานพยายามอย่างสุดชิวิตทำให้รถไฟเดินรถได้อีกครั้ง" พนักงานรถไฟร้องไห้ส่วนข้าพเจ้าร้องไห้ฟูมฟายไปแล้ว (คืนวันที่เกิดแผ่นดินไหว รถไฟหยุดวิ่ง กว่าจะวิ่งได้ก็หลังเที่ยงคืนไปแล้ว) เรื่องที่สอง ที่ดิสนีย์แลนด์ คนติดกลับบ้านไม่ได้จำนวนมาก และทางร้านขายของก็ได้เอาขนมมาแจกนักท่องเที่ยว ก็ได้มีนร.ม.ปลายหญิงกลุ่มหนึ่งไปเอามาจำนวนมาก มากเกินพอ แว่บแรกที่ข้าพเจ้ารู้สึกทันทีคือ อะไรของมึงวะ เอาไปซะเยอะ แต่วินาทีต่อมากลายเป็นความรู้สึกตื้นตันใจ เพราะเด็กกลุ่มนั้นเอาขนมไปให้เด็กๆ ซึ่งพ่อแม่ไม่สามารถไปเอาเองได้เพราะต้องดูแลลูกๆ เรื่องที่สาม ในซุปเปอร์แห่งหนึ่ง ของตกระเกะระกะเพราะแรงแผ่นดินไหว แต่คนซื้อก็เดินไปช่วยกันเก็บของ แล้วก็หยิบส่วนที่ตนอยากซื้อไปต่อคิวจ่ายเงิน ในรถไฟที่เพิ่งเปิดให้ใช้บริการและคนที่ตกค้างจำนวนมากกำลังเดินทางกลับก็ได้เห็นคนแก่คนหนึ่งลุกให้สตรีมีครรภ์นั่ง คนญี่ปุ่นแม้ในภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ ก็ยังมีน้ำใจ มีระเบียบ เรื่องที่สี่ ในคืนแรกที่เกิดแผ่นดินไหว รถไฟไม่วิ่ง ทำให้คนจำนวนมากต้องเดินกลับบ้านแทนการนั่งรถไฟ ขณะที่ข้าพเจ้าต้องเดินกลับจากมหาลัยมายังที่พัก ร้านรวงก็ปิดหมดแล้ว ข้าพเจ้าได้ผ่านร้านขนมปังร้านหนึ่งซึ่งปิดไปแล้ว แต่คุณป้าเจ้าของร้านก็ได้เอาขนมปังมาแจกฟรีแก่คนที่กำลังเดินกลับบ้าน แม้ภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ น้ำใจเช่นนี้ทำให้หัวใจข้าพเจ้าอบอุ่น ตื้นตัน เรื่องที่ห้า ในขณะที่รอรถไฟให้กลับมาวิ่งได้ ข้าพเจ้าก็ได้รออยู่ในอาคารสถานีอย่างเหน็บหนาว โฮมเลสก็ได้แบ่งปันแผ่นกล่องกระดาษให้ โฮมเลสที่ข้าพเจ้ามองด้วยหางตาทุกวันที่มาใช้สถานี คืนนั้นทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด เรื่องที่หก (เรื่องราวคืนรถไฟไม่วิ่งเยอะหน่อยนะครับ) ด้วยระยะเวลาสี่ชั่วโมงที่ต้องเดินเท้ากลับบ้าน ก็ได้ผ่านหน้าบ้านหลังหนึ่ง ตาก็ไปสะดุุดกับแผ่นกระดาษที่เขียนว่า "เชิญใช้ห้องน้ำได้ค่ะ" หญิงสาวท่านหนึ่งได้เปิดบ้านตัวเองให้แก่คนที่กำลังเดินกลับบ้านได้ใช้ วินาทีที่ได้เห็นแผ่นกระดาษนั้น น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง น้ำใจคนญี่ปุ่น เรื่องที่เจ็ด แม้ว่าไฟดับ ก็ยังมีคนที่สู้ทำงานให้ไฟกลับมาติด น้ำไม่ไหลก็ยังมีคนไม่ยอมแพ้ทำให้น้ำกลับมาไหล เกิดปัญหากับโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ก็มีคนที่พร้อมจะเข้าพื้นที่เพื่อซ่อมมัน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้กลับมาสู่สภาพปกติด้วยตัวมันเอง ขณะที่พวกเราอยู่ในบ้านอันอบอุ่นแล้วก็พร่ำบ่นว่าเมื่อไรไฟมันจะติด น้ำจะไหลน้าา ก็มีคนที่อยู่ข้างนอกท่ามกลางความหนาวเหน็บกำลังพยายามสู้อยู่ เรื่องที่แปด ในจังหวัดจิบะ คนลุงคนหนึ่งที่หลบภัยอยู่ก็ได้เปรยออกมาว่า ต่อจากนี้ไปจะเป็นอย่างไรน้า เด็กหนุ่มม.ปลายก็ตอบกลับไปว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง ต่อจากนี้ไปเมื่อเป็นผู้ใหญ่ พวกผมจะทำให้มันกลับมาเหมือนเดิมแน่นอน (ไม่เป็นไร พวกเรายังมีอนาคต!!!) เรื่องที่เก้า ขณะที่กำลังได้รับความช่วยเหลือ หลังจากที่ติดอยู่บนหลังคาบ้านมากว่า 42ชั่วโมง คุณลุงก็ได้กล่าวว่า "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรครับ เคยมีประสบการณ์ทซึนามิที่ชิลีมาแล้ว ต่อจากนี้ไปพวกเรามาช่วยฟื้นฟูบ้านเมืองกันนะ" แกกล่าวด้วยรอยยิ้ม (สิ่งสำคัญสำหรับพวกเราคือ ต่อจากนี้ไปเราจะทำอะไรต่างหาก) เรื่องสุดท้าย ก่อนหน้านี้เมืองมันสว่างเกินไป เกินที่จะมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่จริงๆแล้วดาวสวยเช่นนี้เอง ชาวเซนไดทุกคนลองแหงนมองขึ้นไปข้างบนดูซิ (ตรงนี้ไม่มั่นใจว่าแปลว่า ชาวเซนไดทุกคนมองขึ้นไปบนฟ้า รึเปล่า) ดูเพิ่มเติม
    โดย: Bo Panisa
    .
×
×
  • สร้างใหม่...