ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

ginger

ขาใหญ่
  • จำนวนเนื้อหา

    76,813
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

  • วันที่ชนะ

    350

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย ginger

  1. Hua Seng Heng Morning News 12-03-2561 เฮฮาภาษาทอง by Ylg 12-03-2561
  2. MTS Gold Morning News | ข่าวฮอตประเด็นฮิต 💣💥 ⛱ คืนวันศุกร์ราคาทองคำรีบาวน์กลับจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังอัตราค่าแรงชะลอตัว ขณะที่เช้านี้ทรงตัวบริเวณ $1320 ⛱ เหล่าเทรดเดอร์ เกิดกระแสคาดการณ์กันว่า ข้อมูลภาคแรงงานล่าสุดอาจส่งผลให้เฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในการประชุมเดือนนี้ และอาจจะเกิดขึ้นอีก 2 ครั้งในปีนี้ แต่การร่วงลงของค่าแรงน่าจะฉุดโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ในปีนี้ลงไป ⛱ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การประชุมร่วมกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ อาจเป็นการเจรจาที่ไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ หรืออาจเป็นการเจรจาที่ประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่... . ข่าว HOT ประเด็น HIT ขนาดนี้ อ่านกันเต็มๆได้ที่: www.mtsgold.co.th ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 มีนาคม 2561 07:47:09 น. กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.พ. โดยพุ่งขึ้น 313,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี ส่วนตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น เพิ่มขึ้น 4 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.15% โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.2% สู่ระดับ 26.75 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบรายปี -- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (9 มี.ค.) โดยปิดที่ระดับเหนือ 25,000 จุด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ขานรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า เขาจะยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งเป็นสองประเทศคู่ค้าในข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,335.74 จุด เพิ่มขึ้น 440.53 จุด หรือ +1.77% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,560.81 จุด เพิ่มขึ้น 132.86 จุด หรือ +1.79% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,786.57 จุด เพิ่มขึ้น 47.60 จุด หรือ +1.74% -- ผู้นำทั่วโลกต่างแสดงความยินดีต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตอบรับคำเชิญที่จะพบปะกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือในเดือนพ.ค. โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ได้แสดงความคาดหวังว่า สหรัฐและเกาหลีเหนือจะเริ่มเจรจากันโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ขณะที่นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า นี่เป็นการก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะมีการบรรลุข้อตกลงเพื่อฟื้นฟูสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีกลับสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ ในขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยกำหนดวันประชุม หรือสถานที่จัดการประชุม แต่ทางสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศเป็นกลาง ได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ทรัมป์ และนายคิม หลังจากที่ได้เคยเป็นสถานที่จัดการประชุมสุดยอดหลายครั้งก่อนหน้านี้ -- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ว่า เกาหลีเหนือให้คำสัญญาที่จะไม่ทดสอบขีปนาวุธในระหว่างการพบกันของผู้นำทั้งสองประเทศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต "เกาหลีเหนือไม่ได้ทดสอบขีปนาวุธมาตั้งแต่ 28 พฤศจิกายน 2560 และได้ให้สัญญาว่าจะไม่ทำเช่นนั้นตลอดช่วงการพบกันของเรา ผมเชื่อว่าพวกเขาจะทำตามสัญญา" ทรัมป์ระบุในข้อความผ่านทวิตเตอร์ -- นายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) เปิดเผยว่า สหรัฐจะไม่มีการประนีประนอมต่อนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในระหว่างที่นายคิมพบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และการเจรจารอบอื่นๆที่จะตามมา นอกจากนี้ ผู้อำนวยการ CIA กล่าวว่า นายคิมจะต้องดำเนินการตามข้อเรียกร้องของ CIA ซึ่งรวมถึงการระงับการทดสอบนิวเคลียร์และขีปนาวุธ รวมทั้งเปิดทางให้การซ้อมรบระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือดำเนินต่อไป และยอมทำตามข้อตกลงการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี -- ที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ซึ่งเป็นรัฐสภาของจีน เห็นชอบให้มีการปรับแก้เนื้อหาในรัฐธรรมนูญ ซึ่งปูทางให้นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนคนปัจจุบัน สามารถดำรงตำแหน่งได้ไม่จำกัดระเวลา โดยการปรับเปลี่ยนเนื้อหาในรัฐธรรมนูญดังกล่าวนับเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งแรกในรอบ 14 ปี เดิมทีรัฐธรรมนูญจีนกำหนดให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 สมัย หรือเท่ากับ 10 ปี ขณะที่วาระดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ของปธน.สีจะหมดลงในปี 2566 หลังจากที่เขารับตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2556 -- ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ได้ออกรายงานเตือนว่า ระบบธนาคารของจีน แคนาดา และฮ่องกง มีความเสี่ยงที่จะเผชิญวิกฤตการณ์มากที่สุดเมื่อเทียบกับระบบธนาคารของประเทศอื่นๆ โดยความเสี่ยงในระบบธนาคารของแคนาดานั้น มีสาเหตุมาจาการปล่อยสินเชื่อจำนวนมากให้กับภาคครัวเรือน และหนี้สินโดยรวมภายในประเทศที่อยู่ในระดับสูงมาก แม้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของแคนาดามีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2560 ก็ตาม -- นายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ โดยมองว่าการปรับลดภาษี และการใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จะเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐต่อไป นายโรเซนเกรนระบุว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างประจำ และอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดวัฏจักรเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูและซบเซา ขณะที่ตัวเลขอัตราการว่างงานที่ลดลงทำให้เกิดแรงผลักดันให้เงินเฟ้อและค่าจ้างดีดตัวขึ้น -- นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวว่า จีนไม่ยอมรับบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆว่าเป็นสิ่งที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย "ปัจจุบัน เราไม่ยอมรับบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ในฐานะเครื่องมือที่เหมือนกับธนบัตร เหรียญกษาปณ์ และบัตรเครดิต สำหรับการชำระเงินของประชาชนทั่วไป ขณะที่ระบบธนาคารก็ไม่ยอมรับเช่นกัน" นายโจวกล่าว ผู้ว่าฯธนาคารกลางจีนยังกล่าวว่า จีนกำลังจับตาเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งการใช้เทคโนโลยีบางอย่างก็มีการเติบโตที่เร็วเกินไป -- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันพรุ่งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. และจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ.ในวันพุธ ส่วนดัชนี CPI เดือนม.ค.ที่ผ่านมานั้น ปรับตัวขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 0.3% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 0.2% ขณะที่ดัชนี PPI เดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร, พลังงาน และภาคบริการ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค. -- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ สิงคโปร์จะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนม.ค. และจีนจะเปิดเผยการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนก.พ. ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ., ออสเตรเลียจะเปิดเผยความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.พ.จากเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB), มาเลเซียจะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.และยอดค้าปลีกเดือนม.ค. --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2795823 ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์กรอบจำกัด หลังตลาดตปท.สดใส แต่ยังจับตากรณีอาจยื่นตีความกม.เลือกตั้ง-แรงซื้อต่างชาติ ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 12 มีนาคม 2561 08:42:59 น. นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้น่าจะดีดตัวขึ้นได้ ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวขึ้นแรงเมื่อวันศุกร์ จากข้อมูลตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งจะเป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้น อย่างไรก็ตามการรีบาวด์ของดัชนีหุ้นไทยน่าจะยังอยู่ในกรอบจำกัด แม้นักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมากเมื่อวันศุกร์ แต่ภาพการลงทุนยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน เพราะนักลงทุนต่างชาติยังคงเปิดสถานะ short ในตลาดฟิวเจอร์สอยู่มาก นอกจากนี้ตลาดยังจับตากรณีที่อาจมีผู้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขณะที่ภาพใหญ่ของเศรษฐกิจไทยยังเป็นภาพ Positive พร้อมให้แนวรับที่บริเวณ 1,770 จุด และแนวต้านที่บริเวณ 1,790 จุด --อินโฟเควสท์ โดย วิลาวัลย์ พงษ์พิทักษ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2795891 (Mar 12) 'สงครามจิตวิทยา' ป่วนคู่ค้า ดึงเกมเจรจาใหม่ : ในที่สุดประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ก็ลงนามใช้มาตรการเซฟการ์ดขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมนำเข้าจากประเทศคู่ค้าทั่วโลกที่ 25% และ 10% เมื่อคืนวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังสหรัฐส่งสัญญาณมาเป็นระยะแล้วว่าจะเริ่มใช้เซฟการ์ดดังกล่าวภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี ฟอร์บส์รายงานว่าการใช้เซฟการ์ดครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นการตั้งใจจุดชนวน "สงครามจิตวิทยา" ป่วนประสาทคู่ค้าเสียมากกว่าจะก่อสงครามการค้าขึ้นจริง เนื่องจากขณะนี้ยังคงไม่มีรายละเอียดชัดเจนพอเกี่ยวกับการบังคับใช้มาตรการดังกล่าว นอกจากระบุเพียงว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในอีก 15 วัน ซึ่งภายในช่วงระยะเวลาดังกล่าวอาจมี "ประเทศที่ได้รับการยกเว้น" เพิ่มเติม นอกเหนือจากแคนาดาและเม็กซิโก "ท่านประธานาธิบดียินดีต้อนรับประเทศใดก็ตามที่มีความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงร่วมกับสหรัฐ ในการหารือทางเลือกเพื่อแก้ไขความกังวลของเรา ซึ่งรวมถึงความวิตกเกี่ยวกับการผลิตเกินปริมาณทั่วโลก ท่านประธานาธิบดียังคงเปิดกว้างต่อการเปลี่ยนแปลงหรือยกเว้นภาษีดังกล่าวภายใต้เงื่อนไขบางประการสำหรับแต่ละประเทศ" ทำเนียบขาวระบุ โดยทรัมป์เองยังยกตัวอย่างว่าสหรัฐอาจไม่เก็บภาษีเซฟการ์ดจากออสเตรเลีย เนื่องจากไม่ได้เกินดุลการค้ากับสหรัฐ ถ้อยแถลงดังกล่าวจึงเป็นการบ่งบอกว่า ทรัมป์ต้องการใช้เซฟการ์ดล่าสุดเพื่อกดดันให้ประเทศคู่ค้ายอมเจรจาเงื่อนไขการค้า ที่จะช่วยลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐและเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจสหรัฐมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน การตั้งเซฟการ์ดดังกล่าวเกิดขึ้นจากการเปิดสอบสวนสินค้าประเภทเหล็กและอะลูมิเนียมตามมาตรา 232 ว่าคุกคามความมั่นคงของสหรัฐหรือไม่ โดยภายใต้มาตราดังกล่าว ทรัมป์จะยังมีเวลาตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับเหล็กและอะลูมิเนียมจนถึงวันที่ 11 เม.ย. และ 19 เม.ย. หมายความว่ารายละเอียดของภาษีเซฟการ์ดมีแนวโน้ม เปลี่ยนแปลงไปได้อีก ทั้งนี้ ยังมีตัวแปรอีก 3 ประการที่บ่งบอกว่าทรัมป์ไม่ได้หวังจุดสงครามการค้าขึ้นจริง ได้แก่ ความตกลงเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟต้า) องค์การการค้าโลก (ดับเบิ้ลยูทีโอ) และการเลือกตั้ง กลางเทอมของสหรัฐในเดือน พ.ย.นี้ สำหรับตัวแปรแรกนั้นคือเรื่อง "นาฟต้า" โดยสหรัฐพยายามเจรจาแก้ไขความตกลงดังกล่าวกับแคนาดาและเม็กซิโกมาแล้วกว่า 6 รอบเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมสหรัฐมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ แต่ก็ยังคงคว้าน้ำเหลว และการเจรจารอบที่ 7 กำลังจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ แคนาดาส่งออกเหล็กมายังสหรัฐมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 16.7% เมื่อปี 2017 ด้านเม็กซิโกครองอันดับ 4 ที่ 9.4% ภาษีเซฟการ์ดล่าสุดจึงจะส่งผลกระทบ ต่อทั้งสองประเทศโดยตรง และเป็นปัจจัยส่งผลให้การคุยแก้นาฟต้าเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ ภาษีเซฟการ์ดดังกล่าวจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการ ต่อรอง ซึ่ง ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าประจำทำเนียบขาว ส่งสัญญาณว่าจะยกเว้นเซฟการ์ดให้ทั้งสองประเทศจนกว่าการเจรจานาฟต้าจะได้ข้อสรุป หมายความว่าหากแคนาดาและเม็กซิโกไม่เห็นพ้องกับสหรัฐ ก็อาจถูกถอดจากประเทศได้รับการยกเว้นได้เช่นกัน ขณะที่ตัวแปรต่อมาคือ "ดับเบิ้ลยูทีโอ" แม้ว่าสหรัฐใช้เซฟการ์ดล่าสุดโดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง และถือว่าไม่ขัดต่อกฎของดับเบิ้ลยูทีโอที่ระบุว่า ประเทศสมาชิกสามารถปกป้อง "ผลประโยชน์ด้านความมั่นคงที่สำคัญของประเทศ" ได้ แต่แรงกดดันจากดับเบิ้ลยู ทีโอ ทำให้สหรัฐเคยต้องยอมยกเลิกการเก็บภาษีเหล็กก่อนกำหนดมาแล้วในสมัยอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช เมื่อปี 2002 จากเดิมที่มีกำหนดบังคับใช้ชั่วคราว 3 ปี เหลือเพียง 1 ปี ในกรณีที่ประเทศอื่นๆ เลือกตอบโต้ด้วยวิธี "หนามยอกเอาหนามบ่ง" โดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคงเช่นเดียวกับสหรัฐ ภาคอุตสาหกรรมหลายภาคส่วนจะตกเป็นเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นภาคการเกษตร ซึ่งจีนเริ่มเปิดสอบการนำเข้าข้าวฟ่างจากสหรัฐแล้ว หรือจากทางสหภาพยุโรป (อียู) ที่เปิดเผยว่ากำลังเตรียมตั้งภาษีสินค้านำเข้าหลายประเภทจากสหรัฐ คิดเป็นมูลค่ารวม 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1 แสนล้านบาท) ที่ 25% สำหรับตัวแปรสุดท้ายเป็นเรื่อง "การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ" ที่จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย.นี้ โดยการตั้งภาษีล่าสุดของทรัมป์มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อเอาใจภาคอุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียมโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งฐานเสียงหลัก เห็นได้จากโรงงานเหล็กที่ตั้งอยู่ตั้งแต่ในรัฐนิวยอร์ก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ไปจนถึงรัฐเทกซัส ทางตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ดี นอกจากอุตสาหกรรม เหล็กและอะลูมิเนียมแล้ว ภาคอุตสาหกรรมอื่นได้รับผลกระทบเชิงลบทั้งสิ้น โดยเฉพาะ "อุตสาหกรรมยานยนต์" ที่เสี่ยงทำให้แรงงานในภาคส่วนดังกล่าว ตกงานถึง 4.5 หมื่นอัตรา กระทบต่อผลประกอบการบริษัท 1,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.1 หมื่นล้านบาท) และยังขยายไปยังธุรกิจอาหารกระป๋อง โบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของสหรัฐ และธุรกิจพลังงาน ขณะเดียวกัน ยังไม่แน่ชัดว่า ผู้ผลิตในประเทศจะสามารถผลิตสินค้าดังกล่าวได้เพียงพอต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ หรือไม่ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า เหล็กนำเข้าคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของปริมาณเหล็ก 100 ล้านตัน ที่ภาคธุรกิจอเมริกันต้องใช้สำหรับการผลิตต่อปี ขณะที่สมาคมอะลูมิเนียมระบุว่า อะลูมิเนียมนำเข้าคิดเป็นสัดส่วน 60% ของปริมาณอะลูมิเนียมทั้งหมดในประเทศ การขึ้นภาษีโลกครั้งนี้จึงแทบ ไม่ต่างอะไรกับการขึ้นภาษีในบ้านตัวเอง ในสงครามที่ปวดหัวกันทุกฝ่ายอย่างแท้จริง ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์ Source: Posttoday
  3. สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ ทรงเยี่ยมชมงานอุ่นไอรักคลายความหนาว [ 11 มี.ค. 61 ] ข่าวในพระราชสำนัก วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2561
  4. ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ 43 mins · ทหารซีเรียและรัสเซียไล่บี้กลุ่มก่อการร้ายลูกน้องมะกันในซีเรียไม่ลดละ ยืดดินแดนได้เพิ่ม: คงจะเป็นคราวซวยของรัฐบาลกุ๊ยโลกอย่างอเมริกาที่ใกล้ถึงจุดหายนะ อุตส่าห์ลงทุนทั้งกำลังเงิน ทั้งคลังอาวุธ ทั้งสติปัญญาฝึกให้กลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดรบเป็นและจับปืนเป็นเพื่อสู้กับกองทัพซีเรีย แต่แล้วจู่ๆ กลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดที่มะกันฝึกมากับมือต่างพร้อมใจกันหนีการควบคุมของกองทัพอเมริกาในแถบภาคกลางและภาคตะวันออกของซีเรียขึ้นไปเมืองอาฟริน (http://ronpaulinstitute.org/…/operational-pause-turkish-of…/) เพื่อช่วยรัฐบาลซีเรียรบกับกองทัพตุรกีซึ่งเป็นพันธมิตรนาโต้ของอเมริกาและพยายามรุกรานซีเรียที่นั่นอยู่ พอลูกน้องหนีไปบวช เอ้ย หนีไปช่วยรัฐบาลซีเรีย ขับไล่กองทหารตุรกีที่เมืองอาฟริน กันอย่างนี้ กองทัพอเมริกาในซีเรียจึงต้องอ้างว่า 'ขอหยุดไล่ล่ากลุ่มก่อการร้ายไอสิสชั่วคราว' ซึ่งเป็นข้ออ้างลวงโลก มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะเชื่อ ตัวเองอยากจะชักใยกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดเพื่อสู้รบกับกองทหารรัฐบาลซีเรียอยู่เบื้องหลัง แต่ลูกน้องของตัวเองไม่ว่างก็ไม่กล้าออกรบเอง กลัวจะเปิดหน้ามากไปแล้วประชาชนชาวไทยที่โง่เขลาอยู่จำนวนมากจะจับไต๋ได้ว่าเป็นนักประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนลวงโลก เพราะฉะนั้น กองกำลังติดอาวุธที่เหลืออยู่จึงไม่มาก อีกไม่นาน เมืองโคตะด้านตะวันออกก็จะถูกกองทัพซีเรียเข้ายึดพื้นที่ได้หมด ข้อสำคัญ บัดนี้ หน่วยรบพิเศษรัสเซียได้ก่อตั้งหน่วยล่าสังหารกลุ่มก่อการร้ายไอสิสขึ้นในซีเรียอีกกลุ่มแล้วซึ่งมีสมาชิกอยู่ไม่น้อยกว่า ๗๐๐ คน (https://www.almasdarnews.com/…/russian-trained-troops-take…/) กลุ่มนี้ จะปฏิบัติภารกิจพิเศษกล่าวคือไล่ล่าสังหารกลุ่มไอสิสลูกน้องมะกันเท่านั้น จริงยิ่งกว่าหนังฮอลลีวู้ด อเมริกาสร้างกลุ่มไอสิสป่วนซีเรีย ส่วนรัสเซียฝึกนักรบขึ้นมาไล่ล่า คักหลาย ๙ มีนาคม ๒๕๖๑ หมายเหตุ: ๑.ถ้าจะแชร์ ไม่ต้องขออนุญาตแต่โปรดอ้างที่มาให้ชัดเจน ๒.หากจะวิจารณ์โปรดใช้คำสุภาพ สองข้อนี้สำคัญเพื่อป้องกันมิให้ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ โปรดสะกดใช้คำให้ถูกต้องตาม *หลักภาษาไทย* ด้วย ข้อความวิจารณ์ที่ *หยาบ* และ *สะกดผิด* หรือ *ไร้สาระ* จะลบออกทุกครั้งที่เห็นครับเห็น ๓.ถ้าอยากติดตามข่าวต่างประเทศมากกว่าเพจนี้ ติดตามได้ที่ https://vk.com/bodhinanda แต่ว่าต้องระบุชื่อ นามสกุลจริง รูปจริงในโปรไฟล์ของสมาชิกด้วยครับ https://www.almasdarnews.com/…/breaking-syrian-army-begins…/ อิหร่านและอิรัคจับมือกันแน่น: ตอนนี้ ผู้นำอิรัคฉลาดขึ้นเยอะ ก่อนนี้ อเมริกามองเห็นว่าอิรัคและอิหร่านเป็นประเทศอาหรับที่มีอิทธิพลทั้งคู่ จึงสนับสนุนด้านอาวุธให้อิรัครบกับอิหร่าน รบกันหลายปี หลังจากอิรัคแตกแยกจากอิหร่านแน่แล้ว อเมริกาก็จัดการส่งกองทัพไปบุกปล้นทองคำอิรัคช่วงซัดดัม อุซเซนเป็นประธานาธิบดีไปอย่างหน้าตาเฉย โดยความช่วยเหลือจากรัสเซีย รัฐบาลอิรัคในปัจจุบันจึงไล่ตะเพิดกลุ่มก่อการร้ายไอสิสสายมะกันออกนอกประเทศไปได้ และกำลังจะเริ่มจะบูรณะประเทศอีกครั้ง ตอนนี้ อิรัคเข้าใจแผนชั่วมะกัน อิสราเอลและแก๊งนาโต้แล้ว ไม่เพียงแต่ต้องการจะไล่กองทัพมะกันให้พ้นไปจากอิรัคซึ่งก็คงยากยิ่งนัก อิรัคยังจะต้องกอดคอกับอิหร่านแน่นมากขึ้น การจับมือกันหนล่าสุดนี้จึงแน่นกระชับกว่าทุกทีที่เคยเป็นมา สรุปว่าถ้าอยากให้เกิดความมั่นคงในโลกอาหรับ โลกอาหรับต้องสามัคคีกันเตะอเมริกาออกไปจากพื้นที่เสีย ความสุขสงบถึงจะมีตามมา ๙ มีนาคม ๒๕๖๑ หมายเหตุ: ๑.ถ้าจะแชร์ ไม่ต้องขออนุญาตแต่โปรดอ้างที่มาให้ชัดเจน ๒.หากจะวิจารณ์โปรดใช้คำสุภาพ สองข้อนี้สำคัญเพื่อป้องกันมิให้ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ โปรดสะกดใช้คำให้ถูกต้องตาม *หลักภาษาไทย* ด้วย ข้อความวิจารณ์ที่ *หยาบ* และ *สะกดผิด* หรือ *ไร้สาระ* จะลบออกทุกครั้งที่เห็นครับเห็น ๓.ถ้าอยากติดตามข่าวต่างประเทศมากกว่าเพจนี้ ติดตามได้ที่ https://vk.com/bodhinanda แต่ว่าต้องระบุชื่อ นามสกุลจริง รูปจริงในโปรไฟล์ของสมาชิกด้วยครับ http://www.presstv.com/…/55…/Iran-Iraq-Jahangiri-Masum-Daesh Kanok Ratwongsakul Fan Page 31 mins · "ผมบอกด้วยความสัตย์จริง ผู้การฯกาญจนบุรีไม่ได้ทุจริต เพียงแต่ทำงานด้วยวุฒิภาวะที่ต่ำ ขาดประสบการณ์ ขาดทักษะการทำงานด้านการสืบสวนสอบสวน จึงทำให้ผู้การฯ กอดคอไปด้วยกับครูปรีชา..." ตาย h่a ละ! ฟังผู้บัญชาการสอบสวนกลางพูดแล้ว เราจะไว้ใจตำรวจคนไหนได้บ้าง?? คนระดับผู้การจังหวัด ขาดประสบการณ์! คนระดับผู้การจังหวัด วุฒิภาวะต่ำ! คนระดับผู้การจังหวัด ขาดทักษะการทำงานด้านการสืบสวน! แล้วไต่เต้าขึ้นมาใหญ่สุดในจังหวัดได้อย่างไรครับ? มีแบบนี้อีกเยอะมั๊ย..(ในจังหวัดอื่น) แล้วโดนฟ้องมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ!...แก้ไขคำให้การในสำนวนหลายครั้ง ให้กลมกลืน แต่ลงวันที่เดิม...เรียกอีกฝ่ายไปคุยที่บ้านให้ยอมรับ...อายัดเงินอย่างรวดเร็ว... รู้สึกปลงสังเวชกับการแถลงข่าวของท่านจริงๆ... หายใจลึกๆ...วันนี้.."วันพระ"
  5. YLG Gold Night Report ประจำวันที่ 09-03-61 บทวิเคราะห์ Glitter Gold ประจำช่วง Night Session วันที่ 9 มีนาคม 2018 ติดตามตัวเลขภาคการจ้างงานของสหรัฐฯ ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าที่ 1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1,316 –1,322 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองแกว่งในฝั่งลบตลอดวัน ซึ่งมีกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 6 เหรียญ และช่วงเย็นนี้ราคาทองเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,319 เหรียญ ราคาทองปรับตัวลดลงหลังจากทางฝั่งสหรัฐฯ เริ่มคลายความกังวลถึงการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งวันนี้ต้องติดตามตัวเลขภาคการจ้างงานที่หากออกมาดีต่อเนื่องก็มีโอกาสกดดันราคาทองให้ปรับตัวลดลงต่อได้ ซึ่งสอดคล้องกับภาพเทคนิคที่ราคาทองหลุดแนวรับ 1,322 เหรียญลงมา ทำให้หากราคาไม่สามารถกลับมายืนเหนือ 1,322 ได้อีก อาจจะทำให้ราคาทองมีโอกาสทำจุดต่ำสุดใหม่ได้ในคืนนี้ และระมัดระวังความผันผวนในคืนนี้ แนะนำ : ผู้มีสถานะซื้อได้ตัดขาดทุนไปบริเวณ 1,322 เหรียญ ผู้ไม่มีสถานะฝั่งขายเริ่มน่าสนใจโดยรอตัวเลขภาคการจ้างงานหากออกมาดีต่อเนื่องให้จะกดดันราคาทองได้ต่อ สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่ http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy0903201818203544… ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.37 แกว่งแคบ รอปัจจัยใหม่ จับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯคืนนี้ ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561 17:42:57 น. นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 31.37 บาท/ดอลลาร์ จากตอน เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.38 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันแกว่งแคบในกรอบระหว่าง 31.35-31.38 บาท/ดอลลาร์ "ผลประชุม BOJ ออกมาตามคาด ขณะที่ตลาดก็คงจะระวังก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของ สหรัฐฯในคืนนี้"นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้าระหว่าง 31.30-31.45 บาท/ดอลลาร์ * ปัจจัยสำคัญ - เงินเยนอยู่ที่ 106.74 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 106.81 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ 1.2299 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.2297 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,775.37 จุด ลดลง 3.53 จุด, -0.20% มูลค่าการซื้อขาย 72,472.23 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,787.42 ลบ.(SET+MAI) - ธนาคาร ซี ไอเอ็มบี ไทย มองอัตราแลกเปลี่ยนยังมีแนวโน้มผันผวนสูงขึ้นจากการที่นโยบายการค้าของรัฐบาล สหรัฐฯ กับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯในทิศทางที่สวนทางกัน - ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)บรรลุข้อตกลงในบันทึกความร่วมมือกับกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ว่าด้วยเรื่องการจัด ตั้งกรอบความร่วมมือในการส่งเสริมการใช้เงินสกุลท้องถิ่น เพื่อการค้าและการลงทุนระหว่างทั้ง 2 ประเทศ - คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติตรึงราคาค่าเอฟทีงวด พ.ค. – ส.ค. 61 ไว้ที่ -15.90 สตางค์/หน่วย เท่ากับงวด ม.ค. – เม.ย. 61 แม้ว่าในช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. 61 ค่าเชื้อเพลิงทุกชนิดมีแนวโน้มสูงขึ้น - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เปิดเผยว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund:IMF) ได้สอบถามถึงทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งพบว่าไทยมีเงินทุนสำรองถึงกว่า 2 แสน ล้านบาท หรือประมาณ 10% ของจีดีพี ทาง IMF จึงแนะนำให้ไทยน่าจะควรใช้ประโยชน์จากเงินส่วนนี้ แก้ปัญหาบาทแข็ง - รัฐมนตรีจาก 11 ชาติสมาชิกของข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ได้ลงนามในข้อ ตกลง "Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership (CPTPP) สะท้อนให้เห็นถึง ความร่วมมือกันในการผลักดันข้อตกลงการค้าเสรี ท่ามกลางการใช้นโยบายกีดกันทางการค้าจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่ง สหรัฐ - นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ในวันนี้ว่า จีนยังไม่รีบร้อนที่จะพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากการพัฒนาสกุลเงินควรจะเป็นเรื่องที่ดำเนินไปด้วยความละเอียด รอบคอบ และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจจะก่อให้เกิดการเก็งกำไรมากจนเกินไป - ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินผ่อนคลายเชิงรุกในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่ง เป็นการส่งสัญญาณว่า BOJ มีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% --อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2795421 World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 9 มีนาคม 2561 ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561 17:00:00 น. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% จากประเทศต่างๆ ยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโก โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ใน 15 วัน -- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนม.ค.ที่ขยายตัวเพียง 1.5% -- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ปรับตัวขึ้น 3.7% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้น 4.3% -- นายชุง อึย-ยอง ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ตกลงที่จะพบปะกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ -- รัฐมนตรีจาก 11 ชาติสมาชิกของข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ได้ลงนามในข้อตกลง "Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership (CPTPP) เมื่อวานนี้ ที่เมืองซันติอาโก ประเทศชิลี ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือกันในการผลักดันข้อตกลงการค้าเสรี ท่ามกลางการใช้นโยบายกีดกันทางการค้าจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ -- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินผ่อนคลายเชิงรุกในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า BOJ มีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% -- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนปรับตัวขึ้น 1.9% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 289,703 เยน (หรือ 2,720 ดอลลาร์) ต่อครัวเรือนในเดือนม.ค. -- ธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดปล่อยเงินกู้ล็อตใหม่สกุลเงินหยวนประจำเดือนก.พ. อยู่ที่ระดับ 8.393 แสนล้านหยวน (ประมาณ 1.323 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 3.264 แสนล้านหยวนจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว -- นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ในวันนี้ว่า จีนยังไม่รีบร้อนที่จะพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากการพัฒนาสกุลเงินควรจะเป็นเรื่องที่ดำเนินไปด้วยความละเอียดรอบคอบ และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจจะก่อให้เกิดการเก็งกำไรมากจนเกินไป -- นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ตนและนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐ เตรียมพบปะหารือกันที่สหรัฐในเดือนหน้า หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมการเจรจากับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือในเดือนพฤษภาคม -- นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวนอกรอบการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ครั้งที่ 13 ในวันนี้ว่า จีนอาจจะลดการพึ่งพาปัจจัยสนับสนุนด้านเงินทุนในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในช่วงเวลาที่จีนกำลังพัฒนาเศรษฐกิจให้มีคุณภาพมากขึ้น -- รัฐบาลจีนได้ออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านนโยบายเก็บภาษีสินค้านำเข้าประเภทเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐอย่างรุนแรง พร้อมระบุว่านโยบายดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎระเบียบการค้าสากล --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2795396 ผู้ว่าฯแบงก์ชาติจีนพูดชัด ไม่ยอมรับบิตคอยน์เป็นสิ่งชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561 18:43:06 น. นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวว่า จีนไม่ยอมรับบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆว่าเป็นสิ่งที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย "ปัจจุบัน เราไม่ยอมรับบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ในฐานะเครื่องมือที่เหมือนกับธนบัตร เหรียญกษาปณ์ และบัตรเครดิต สำหรับการชำระเงินของประชาชนทั่วไป ขณะที่ระบบธนาคารก็ไม่ยอมรับเช่นกัน" นายโจวกล่าว ผู้ว่าฯธนาคารกลางจีนยังกล่าวว่า จีนกำลังจับตาเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งการใช้เทคโนโลยีบางอย่างก็มีการเติบโตที่เร็วเกินไป "ถ้าสิ่งเหล่านี้แพร่กระจายเร็วเกินไป อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้บริโภค และอาจมีผลเสียที่คาดการณ์ไม่ได้ต่อเสถียรภาพทางการเงิน และนโยบายการเงิน" เขากล่าว --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2795438 นักวิเคราะห์คาดวันนี้สหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง อัตราว่างงานลดลงสู่ 4.0% ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561 17:39:32 น. ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเท่ากับระดับในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2543 หรือต่ำสุดในรอบกว่า 17 ปี นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ จะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวแข็งแกร่งติดต่อกัน 3 เดือน คาดว่าการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งในวันนี้จะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 มี.ค. เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 180,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี ขณะที่ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 9 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.3% และพุ่งขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี สูงสุดในรอบเกือบ 9 ปี --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq28/2795419
  6. ข่าวในพระราชสำนัก วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2561 Hua Seng Heng Morning News 09-03-2561 YLG รู้ทันทอง มองทันเทรน ประจำวันที่ 09-03-61 เฮฮาภาษาทอง by Ylg 09-03-2561 ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดทองปิดลบ 5.90 ดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561 06:48:16 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) โดยได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ เพื่อจับสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 5.90 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,321.70 ดอลลาร์ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ขยับขึ้น 0.6 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 16.5 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 90 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 952.3 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 6.55 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 965.60 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำปิดตลาดปรับตัวลงเพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.58% แตะระดับ 90.163 เมื่อคืนนี้ ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าจะลดความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.จะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ส่วนข้อมูลแรงงานของสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากดิ่งลงแตะระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512 ด้านนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 220,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2794909 . World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561 07:48:18 น. ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 มี.ค. 2561 -- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม แต่ยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโก พร้อมส่งสัญญาณเปิดทางให้ประเทศอื่นๆสามารถเจรจากับสหรัฐเพื่อขอการยกเว้นภาษีดังกล่าวได้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,895.21 จุด เพิ่มขึ้น 93.85 จุด หรือ +0.38% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,738.97 จุด เพิ่มขึ้น 12.17 จุด หรือ +0.45% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,427.95 จุด เพิ่มขึ้น 31.30 จุด หรือ +0.42% -- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ที่ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซน ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.1% ปิดที่ 376.62 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ปีนี้ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,355.57 จุด เพิ่มขึ้น 110.21 จุด หรือ +0.90% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,254.10 จุด เพิ่มขึ้น 66.27 จุด หรือ +1.28% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,203.24 จุด เพิ่มขึ้น 45.40 จุด หรือ +0.63% -- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) ขานรับธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ประธาน ECB ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซน ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,203.24 จุด เพิ่มขึ้น 45.40 จุด หรือ +0.63% -- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันและสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อสัญญาน้ำมันดิบเช่นกัน สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 60.12 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 73 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 63.61 ดอลลาร์/บาร์เรล -- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) โดยได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ เพื่อจับสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 5.90 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,321.70 ดอลลาร์ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ขยับขึ้น 0.6 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 16.5 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 90 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 952.3 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 6.55 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 965.60 ดอลลาร์/ออนซ์ -- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐจะยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากแคนาดาและเม็กซิโก และอาจจะพิจารณายกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากประเทศอื่นๆบางประเทศ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 106.23 เยน จากระดับ 106.08 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9514 ฟรังก์ จากระดับ 0.9436 ฟรังก์ ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2307 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2405 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3803 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3894 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7792 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7817 ดอลลาร์สหรัฐ ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 24,895.21 จุด เพิ่มขึ้น 93.85 จุด, +0.38% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,738.97 จุด เพิ่มขึ้น 12.17 จุด, +0.45% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 7,427.95 จุด เพิ่มขึ้น 31.30 จุด, +0.42% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,355.57 จุด เพิ่มขึ้น 110.21 จุด, +0.90% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,254.10 จุด เพิ่มขึ้น 66.27 จุด, +1.28% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,203.24 จุด เพิ่มขึ้น 45.40 จุด, +0.63% ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 33,351.57 จุด เพิ่มขึ้น 318.48 จุด, +0.96% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,480.44 จุด เพิ่มขึ้น 29.75 จุด, +0.86% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,839.62 จุด เพิ่มขึ้น 1.72 จุด, +0.09% ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,443.02 จุด เพิ่มขึ้น 74.75 จุด, +1.17% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 30,654.52 จุด เพิ่มขึ้น 457.60 จุด, +1.52% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,381.85 จุด ลดลง 22.84 จุด, -0.27% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,288.41 จุด เพิ่มขึ้น 16.74 จุด, +0.51% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,433.08 จุด เพิ่มขึ้น 31.26 จุด, +1.30% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 21,368.07 จุด เพิ่มขึ้น 115.35 จุด, +0.54% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,823.24 จุด เพิ่มขึ้น 77.92 จุด, +0.73% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,942.90 จุด เพิ่มขึ้น 40.90 จุด, +0.69% ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,046.60 จุด เพิ่มขึ้น 41.20 จุด, +0.69% --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2794988 World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 9 มีนาคม 2561 ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561 08:40:39 น. -- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% จากประเทศต่างๆ ยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโก โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ใน 15 วัน การลงนามมีขึ้นที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันนี้ตามเวลาไทย โดยปธน.ทรัมป์ได้แถลงภายหลังการลงนามว่า "อุตสาหกรรมเหล็กและอลูมิเนียมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของประเทศของเรา ถ้าคุณไม่มีเหล็ก คุณก็ไม่มีประเทศ" นอกเหนือจากการยกเว้นภาษีให้กับเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งเป็นสองประเทศคู่ค้าในข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) แล้ว ปธน.ทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า อาจจะยกเว้นภาษีให้กับประเทศอื่นๆ หากประเทศเหล่านี้เจรจาและสามารถตกลงกับสหรัฐได้ว่าสินค้าเหล็กและอลูมิเนียมของพวกเขาจะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐ -- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% ขณะเดียวกัน ECB ประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนก.ย. อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตุว่า ในแถลงการณ์หลังการประชุมครั้งนี้ ECB ได้ตัดข้อความที่ระบุว่า "ECB อาจเพิ่มวงเงิน QE หรือขยายเวลาใช้มาตรการ QE หากมีความจำเป็น" โดยก่อนหน้านี้ ECB มักใช้ข้อความดังกล่าวในแถลงการณ์ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา การยกเลิกข้อความดังกล่าว บ่งชี้ว่า ECB กำลังเตรียมชะลอและยุติการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินในไม่ช้า หลังจากที่ได้ดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนก่อนหน้านี้ -- จับตาผลการประชุมนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เวลาประมาณ 10.00 น. ของวันนี้ตามเวลาไทย ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า คณะกรรมการของ BOJ จะคงนโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงรุกเอาไว้ เพื่อให้เงินเฟ้อเคลื่อนตัวเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% ได้ ทางด้านตลาดการเงินเองต่างก็ติดตามแถลงการณ์ภายหลังการประชุมของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น โดยนายคุโรดะ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การพิจารณาและหารือเรื่องการถอนนโยบายในช่วงปีงบประมาณ 2562 เมื่อเงินเฟ้อมีแนวโน้มว่า จะอยู่ที่ระดับ 2% ได้นั้น ถึงจะเป็นช่วงที่เหมาะสม ซึ่งการกล่าวแสดงความเห็นดังกล่าวทำให้เงินเยนและผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น -- สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ทศวรรษ หลังนายนอร์แมน ชาน ผู้ว่าการธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) เปิดเผยว่าทางแบงก์ชาติไม่มีแผนขายตราสารหนี้เพิ่มเติม ซึ่งอาจส่งผลให้สภาพคล่องตึงตัวและอัตราแลกเปลี่ยนปรับตัวสูงขึ้น -- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวานนี้ว่า บริษัท แกร็บ ผู้ให้บริการเรียกรถโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังใกล้จะปิดดีลข้อตกลงในการซื้อกิจการของบริษัท อูเบอร์ เทคโนโลยีส์ อิงค์ ในบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอาจมีการลงนามในข้อตกลงภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า แหล่งข่าวระบุว่า ในการทำข้อตกลงดังกล่าว อูเบอร์จะได้สิทธิถือหุ้นในแกร็บ คิดเป็นมูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์ -- สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดในวงการสกุลเงินดิจิทัล Coincheck Inc. ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในโตเกียว เตรียมจ่ายเงินคืนแก่ลูกค้าในสัปดาห์หน้า หลังจากที่แฮกเกอร์เจาะเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ของ Coincheck ในเดือนม.ค. และโจรกรรมสกุลเงินดิจิทัลคิดเป็นมูลค่า 5.8 หมื่นล้านเยน (543 ล้านดอลลาร์) ทั้งนี้ Coincheck ได้สัญญาว่าจะจ่ายเงินชดเชยผู้ถือสกุลเงิน NEM จำนวน 260,000 รายในวงเงิน 4.6 หมื่นล้านเยน -- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากดิ่งลงแตะระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512 นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 220,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว -- นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.จะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง -- ทางการจีนมีกำหนดการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. เวลาประมาณ 08.30 น. ของวันนี้ตามเวลาไทย ก่อนหน้านี้ ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล คอร์ปอเรชั่น (CICC) ได้ออกมาคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ ประจำเดือนก.พ.ที่ผ่านมา จะขยายแตะที่ระดับราว 2.5% รายงานระบุว่า การขยายตัวของ CPI ในเดือนก.พ.นั้นอาจเกิดจากราคาอาหารและบริการที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ตรงกับช่วงกลางเดือนก.พ.ของปีนี้ ต่างจากปีที่ผ่านมาที่เทศกาลอยู่ในช่วงปลายเดือนม.ค. --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2795057 ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.38 ตลาดจับตาผลประชุม BOJ-ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ วันนี้ ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561 09:38:09 น. นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.38 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า เล็กน้อยจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาด 31.36 บาท/ดอลลาร์ "เมื่อคืนหลังผลการประชุม ECB ออกมา ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพรส์ตลาด ยังไม่ส่งสัญญาณว่าจะปรับเปลี่ยนนโยบาย อะไร ทำให้ยูโรโดนขายเมื่อเทียบกับดอลลาร์ คนกลับไปถือครองดอลลาร์กัน"นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 31.30-31.45 บาท/ดอลลาร์ "ช่วงสายๆของวันนี้ตามเวลาประเทศไทยจะมีผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งคาดว่าน่าจะ Maintain ทุกอย่างไว้ตามเดิม แต่ก็มีข้อสังเกตว่าทุกครั้งที่มีการประชุม BOJ เงินเยนจะค่อนข้างผันผวนมาก และคืนนี้ยังมีรายงานตัวเลขการ จ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 205,000 ตำแหน่ง" นักบริหารเงิน กล่าว THAI BAHT FIX 3M (8 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.04892% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (8 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.12385% * ปัจจัยสำคัญ - เงินเยนอยู่ที่ 106.81 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 106.09 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ 1.2297 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.2384 ดอลลาร์/ยูโร - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.3060 บาท/ ดอลลาร์ - ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังไม่ใช้นโยบาย อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น มองว่ายังจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปเพื่อให้เอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้ ยังไม่มีแรงกดดันเงินเฟ้อ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีแนวโน้มชัดเจนขึ้นจริง แต่ยังมีความเปราะบางบางจุดอยู่ - ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมทุนกับ จูเลียส แบร์ กรุ๊ป ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อดำเนินธุรกิจบริการ ด้านการให้ คำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารความมั่งคั่ง โดยจะตั้งบริษัทร่วมทุนด้วยทุนจดทะเบียน 1,800 ล้านบาท ธนาคารถือหุ้น 60% และจูเลียส แบร์ 40% ขณะนี้กำลังขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และขอใบอนุญาตจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (กลต.) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้ หรือต้นปี 2562 โดยจะให้บริการกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (สินทรัพย์ตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป) - ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยรายงานสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศปี 61 ขยายตัว 8.2% ทำเลกรุงเทพฯ- ปริมณฑล มีโครงการเปิดขายใหม่ 117,100 ยูนิต เพิ่มขึ้น 2.8% คาดเม็ดเงินลงทุนทะลัก 6 แสนล้าน - ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) รับทราบหลักการบริหารจัดการแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณ และบงกชในอ่าวไทยที่จะสิ้นสุดอายุสัมปทานปี 2565-2566 ตามลำดับ โดยเฉพาะเงื่อนไขหลักที่จะกำหนดในข้อเสนอของผู้เข้าร่วม ประมูล (ทีโออาร์) จะใช้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี) และเปิดรับสมัครผู้ร่วมประมูลในเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ จากนั้นจะ ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติเดือน มิ.ย.และเข้าสู่ขั้นตอนการประมูล-คัดเลือกผู้ชนะในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อให้สามารถลงนามในสัญญากับผู้ ชนะการประมูลได้ในเดือน ก.พ.2562 - กระทรวงการคลังขยายเวลาเบิกจ่ายงบประมาณเหลื่อมปีให้หน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ ออกไปเป็น ก.ย. 2561 แก้ปัญหาเบิกจ่ายไม่ทัน - ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ความเห็นชอบกฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้าย ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐ ธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ที่มา ส.ว. - ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับ ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงิน กู้ที่ระดับ 0.25% - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากดิ่งลงแตะระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2512 - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก ในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% จากประเทศต่างๆ ยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโก โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ใน 15 วัน - จับตาผลการประชุมนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า คณะกรรมการของ BOJ จะคง นโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงรุกเอาไว้ เพื่อให้เงินเฟ้อเคลื่อนตัวเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% ได้ - นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.จะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง --อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2795086 (เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ตามภูมิภาค หลังปัจจัยความเสี่ยงใน-ตปท.ลดลง อาจเห็นแรงซื้อคืนในหุ้นบางกลุ่ม ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561 09:42:00 น. นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะรีบาวด์ตามตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยเป็นการรีบาวด์ทางเทคนิค ซึ่งมีปัจจัยบวกคลายกังวลมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ และการเลือกตั้งในประเทศมีความชัดเจนมากขึ้น น่าจะทำให้ความเสี่ยงน่าจะลดลงและน่าจะมีแรงซื้อคืนในหุ้นบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ Global play อย่างหุ้นปิโตรเคมี และหุ้นอุปโภคบริโภคในประเทศ อย่าง CPALL,BJC เป็นต้น อย่างไรก็ตาม วันนี้ต้องติดตามดูว่าตลาดหุ้นไทยจะสามารถยืนได้หรือไม่ ซึ่งจุดที่เหมาะสมไม่ควรหลุด 1,770 จุด พร้อมให้กรอบแนวรับที่ 1,765-1,770 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,785-1,795 จุด ประเด็นพิจารณาการลงทุน - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 มี.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,895.21 จุด เพิ่มขึ้น 93.85 จุด(+0.38%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,738.97 จุด เพิ่มขึ้น 12.17 (+0.45%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,427.95จุด เพิ่มขึ้น 31.30 จุด (+0.42%) - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 226.15 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน 3.02 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 203.75 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 24.50 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 10.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 13.99 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเพิ่มขึ้น 2.48 จุด,ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 5.17 จุด,ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 19.48 จุด - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 มี.ค.61) 1,778.90 จุด ลดลง 2.74 จุด (-0.15%) - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,547.93 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 มี.ค.61 - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 มี.ค.61) ปิดที่ระดับ 60.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.03 ดอลลาร์ หรือลดลง 1.7% - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 มี.ค.61) ที่ 7.66 ดอลลาร์/บาร์เรล - เงินบาทเปิด 31.38 ตลาดจับตาผลประชุม BOJ-ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ วันนี้ - บอร์ด ก.ล.ต.เลื่อนเคาะเกณฑ์คุม "ไอซีโอ" รอความชัดเจนกฎหมาย คาดรู้ผลใน 1 เดือน ขณะภาครัฐเตรียมวางแนวทางป้องปั่นเงินดิจิทัลผ่านตลาดรอง ย้ำต้องมีระบบการซื้อขายเหมาะสม พร้อมจี้ให้เปิดเผยข้อมูลเป็นรูปธรรม ด้าน "บิทคอยน์" ร่วงหนัก หลัง ก.ล.ต.สหรัฐ เล็งขึ้นทะเบียนแพลตฟอร์มซื้อขาย - ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ. 61 อยู่ที่ 79.3 ลดลงจากเดือนก่อนที่ 80 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองและปัจจัยการเมืองที่เลื่อนเลือกตั้งออกไป ทำให้ค่าดัชนีความคิดเห็นสถานการณ์การเมืองลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 มีผลกระทบเชิงลบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุน - กระทรวงการคลังทำหนังสือถึงหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เรื่องหลักเกณฑ์การขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณเหลื่อมปี ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการขยายเวลาเบิกจ่ายให้ถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2561 ซึ่งขณะนี้ใกล้สิ้นสุดระยะเวลาที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน และยังมีส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทัน - รมว.คมนาคม เผยครึ่งแรกของปีนี้จะเร่งดันโครงการเสนอ ครม.และเปิดประมูลให้ได้ภายในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. รวมมูลค่าโครงการราว 1.7 แสนล้านบาท ประกอบด้วย รถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 217 กม. วงเงิน 5.9 หมื่นล้านบาท และ รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 8.5 กม.และรถไฟฟ้าสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อพญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก ระยะทาง 19 กม. วงเงินรวม 2 หมื่นล้านบาท จะเร่งเสนอ ครม.ภายใน เม.ย.ก่อนเปิดประมูล มิ.ย. - ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน นับตั้งแต่ไตรมาส 4/60 โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลและจังหวัดหัวเมืองใหญ่ โดยปีนี้โต 8.2% บริษัทในตลาดผุดโครงการใหม่กว่า 6.11 แสนล้าน *หุ้นเด่นวันนี้ - SCC (เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ) แนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 550 บาท/หุ้น มองสเปรดปิโตรเคมีในไตรมาส 1/61 สูงหนุนกำไรเดิ่น โดยสเปรดปิโตรเคมี PE – Naphtha เฉลี่ยในไตรมาส 1/61 ปรากฏว่าสูงเด่นถึง 803 เหรียญ/ตัน (+22%QoQ, +19%YoY) เนื่องจีนมีมาตรการห้ามใช้พลาสติกรีไซเคิล มาผลิตเม็ดพลาสติก ทำให้มีความต้องการเม็ดพลาสติกใหม่ประมาณ 2-3 ล้านตัน ซึ่งจะทำให้กำไรในไตรมาส 1/61 สูงเด่นถึงประมาณ 15,000 ล้านบาท (+19%QoQ, -14%YoY) อย่างไรก็ตามแนวโน้มไตรมาส 2-4 คาดสเปรดจะลดลง เนื่องจากจะมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามา 8 ล้านตัน แต่ปัจจัยแวดล้อมปัจจุบันมีแนวโน้มที่สเปรดจะยืนได้เหนือระดับ 700 เหรียญ/ตัน มากกว่าที่ประเมินไว้ตอนต้นปีประมาณ 650 เหรียญ/ตัน ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E ที่ต่ำ 11.3 เท่า คาดรักษาระดับปันผล 19 บาท มีอัตราเงินปันผลตอบแทน 3.9% - SC (เคทีบีฯ)แนะนำ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 5.00 บาท คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1/61 จะเติบโต YoY ได้ต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้แนวราบมากขึ้น โดย ณ สิ้นปี 60 มียอด Backlog แนวราบราว 2 พันล้านบาท ทยอยโอนได้ทั้งหมดใน ไตรมาส 1-ไตรมาส 2/61 รวมถึงรับรู้คอนโดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่ากำไรไตรมาส 2/61 โตโดดเด่น จากจะเริ่มโอนโครงการ Saladaeng One ในช่วงปลายเดือน เม.ย.รวมถึงในงวดไตรมาส 4/61 จะเริ่มรับรู้โครงการ BEATNIQ ทั้งนี้ ส่งผลให้เรายังคงประเมินกำไรสุทธิปี 61 จะกลับมาเติบโตสูงและทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2.07 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% YoY --อินโฟเควสท์ โดย พชรธร ภูมิคำ/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2795091
  7. คลิปซึ้ง!!!... #แม้แต่สัตว์_ยังรู้จักมีน้ำใจ ‎cr Ron Bundit to YouLike (คลิปเด็ด) 6 hours ago ·
  8. วิญญูชนมะกันแจงรายชื่อสื่อสากกะเบือไม่ออกดอกของอเมริกาและยุโรป: ในกรณีที่ใครไม่รู้ว่ามีสื่อสำนักไหนบ้างที่เป็นจำพวกสากกะเบือไม่ออกดอก วิญญูชนไม่ควรแปลให้คนไทยอ่านโดยเฉพาะข่าวต่างประเทศ เพราะถูกการเมืองมะกันซึ่งเป็นกุ๊ยโลกที่ถือธงลัทธิ Globalism (ลัทธิมีรัฐบาลเดียวแต่เป็นพ่อทุกรัฐบาล) ครอบงำ ชาวอเมริกันที่เป็นวิญญูชนและมีจิตสำนึกดีๆ ได้รวบรวมเอาไว้ให้ดู จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อไปอ่านเข้า สำนักข่าวไหนของไทย ไม่ว่าทีวีหรือโทรทัศน์เอามาเผยแพร่ ช่วยโห่พวกล้าหลังทางสติปัญญาพวกนี้หน่อย และอย่าไปติดตามดูหรืออ่าน ข้อสำคัญ ถ้าเห็นใครแชร์ตาม FB อย่าแชร์ต่อครับ มิฉะนั้น เชื้อโง่จะระบาดไปทั่ว ๗ มีนาคม ๒๕๖๑ (ภาพประกอบจากกูเกิล) หมายเหตุ: ๑.ถ้าจะแชร์ ไม่ต้องขออนุญาตแต่โปรดอ้างที่มาให้ชัดเจน ๒.หากจะวิจารณ์โปรดใช้คำสุภาพ สองข้อนี้สำคัญเพื่อป้องกันมิให้ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ โปรดสะกดใช้คำให้ถูกต้องตาม *หลักภาษาไทย* ด้วย ข้อความวิจารณ์ที่ *หยาบ* และ *สะกดผิด* หรือ *ไร้สาระ* จะลบออกทุกครั้งที่เห็นครับเห็น ๓.ถ้าอยากติดตามข่าวต่างประเทศมากกว่าเพจนี้ ติดตามได้ที่ https://vk.com/bodhinanda แต่ว่าต้องระบุชื่อ นามสกุลจริง รูปจริงในโปรไฟล์ของสมาชิกด้วยครับ ---- นักวิเคราะห์บอก: 'ดอลล่าร์ใกล้เจ๊งระนาวแล้ว: เงินสกุลดอลล่าร์คงจะไปในอีกไม่ช้า ถ้าเงินสกุลดอลล่าร์และสกุลอื่นๆ บางสกุลเจ๊งไป ราคาทองคำจะแพงขึ้นมีมูลค่าสูงถึง ๑๐,๐๐๐ ดอลล่าร์สหรัฐอเมริกาต่อทองคำ ๑ ออนซ์ 't’s kind of like a story about the man who went bankrupt, slowly at first and then all of a sudden. It’s the same thing with the US dollar, with the euro, with the yen. We’ve created trillions and trillions, dozens of trillions, almost hundreds of trillions of dollars, of obligations that simply can never be repaid. It will have to happen' 'คล้ายๆ กับนายคนหนึ่งล้มละลาย แรกๆ จะค่อยๆ ล้มละลายจากนั้นก็หมดสิ้นไปอย่างทันควัน สถานการณ์แบบเดียวกันกำลังเกิดขึ้นกับเงินสกุลดอลล่าร์ ยูโรหรือเยน พวกเราได้ผลิตเงินดอลล่าร์ขึ้นมาใช้มากมายมหาศาลแล้วไม่สามารถจ่ายคืนได้ การล้มละลายจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน' (Byron King, editor of Jim Rickards’ Gold Speculator) อเมริการุกรานชาติต่างๆ ไปทั่วโลก เสียงกองแช่งให้ล้มละลายจึงดังเป็นพิเศษ https://www.rt.com/…/420596-collapse-currencies-gold-ten-t… cr ปฐมพงษ์ โพธิสิทธินันท์ --- กระแสข่าวฮือฮาในแวดวงการเมือง (แคบๆ) ในขณะนี้ ข่าวหนึ่งก็คือการจะเกิดขึ้นของพรรคการเมืองใหม่พรรคหนึ่ง ทำไมผู้คนต้องไปสนใจพรรคการเมืองพรรคนี้ เพราะว่าเมื่อมีการเปิดให้จดทะเบียนพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ไปจดทะเบียนถึง 42 พรรค!!! และยังไม่รู้เลยว่าพรรคการเมืองที่ไปจดทะเบียนนั้น มีพรรคการเมืองพรรคนี้อยู่หรือไม่??? ความดังที่เกิดขึ้นก็เพราะว่าคนที่ออกมาเปิดเผยว่าจะตั้งพรรคการเมืองนี้ทั้ง 2 คนล้วนแต่มีแนวคิดที่มีปฏิกิริยาตรงกันข้ามกับ "สถาบันพระมหากษัตริย์" และกล้าประกาศเปิดเผยตลอดมา!!! อ่านต่อ ทางเดียวไม่เลี้ยวไปไหน : พรรค "นิติราษฎร์ ภาค 2" จ้องตี "สถาบัน" หน่วยงานความมั่นคงเตรียมตัว เว็บไซต์ข่าวเศรษฐกิจ เพื่อนักธุรกิจรุ่นใหม่ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหา การเงิน การลงทุน การตลาด เทคโนโลยี THANSETTAKIJ.COM
  9. ปราชญ์ สามสี added 12 new photos. 2 March at 15:33 · เอ็นจีโอไทยรับเงินต่างชาติ ทำงานเพื่อใคร ขอบคุณบทความจาก (http://terrabkk.com) ความอึมครึมเกี่ยวกับการทำงานและที่มาของเงินที่ NGO ไทยได้รับ ถูกเปิดเผยชัดขึ้นในช่วงสองปีมานี้ ซึ่งสร้างความฮือฮาไม่น้อย เพราะเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดเผยตัวเลขที่ค่อนข้างชัดเจน และมีหลักฐานยืนยัน แต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีความพยายามเปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังการทำงานและการรับเงินจากต่างชาติของ NGO ไทย ละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า NGO ที่ทำงานเพื่อสังคม เพื่อคนยากไร้ เพื่อกลุ่มผู้เปราะบางในสังคมอย่างแท้จริงนั้น มีอยู่จริง แต่ไม่ใคร่จะเด่นดังหรือเป็นที่รู้จักมากนัก เนื่องจากคนกลุ่มนี้มักจะคลุกคลีอยู่ในพื้นที่ ก้มหน้าก้มตาทำงาน จึงไม่ค่อยมีเวลามาสนใจกับกิจกรรมทางการเมือง ขณะที่ NGO ที่เรามักคุ้นเคย เอ่ยชื่อมาก็ร้องอ๋อ เพราะเห็นเย้ว ๆ ทางหน้าสื่ออยู่เป็นประจำ ประเภทนี้นี่เองที่มักทำอะไรอย่างน่าสงสัยว่ามีเบื้องลึกเบื้องหลัง หรือถูกใบสั่งมาทำงานหรือไม่ จะเห็นได้ชัด ๆ ก็มักเป็นกลุ่มที่ต่อต้าน เรียกร้องทางการเมือง หรืออ้างงานด้านสังคม สิ่งแวดล้อมเป็นหลัก หากย้อนกลับไปดูกิจกรรมที่คนกลุ่มนี้ทำ จะพบว่ากิจกรรมส่วนใหญ่หากไม่โจมตีรัฐบาลก็โจมตีองค์กรใดองค์หนึ่งที่มีผลกระทบต่อประเทศค่อนข้างมาก เปิดโปงมูลนิธิ Open Society กลางปี 2559 มีข่าวสะพัดจากการแฮกข้อมูลของมูลนิธิสังคมเปิด หรือ Open Society Foundation ซึ่งเป็นของพ่อมดทางการเงินชื่อก้องโลก จอร์จ โซรอส โดยข้อมูลที่รั่วออกมาในส่วนที่เกี่ยวพันกับประเทศไทย เป็นการให้เงินสนับสนุน NGO หรือองค์กรอิสระในไทย ซึ่งสื่อ The Nation ได้รายงานข่าวเปิดเผย 4 รายชื่อองค์กรที่ถูกระบุว่ารับเงินจากมูลนิธิโอเพนโซไซตี้ ได้แก่ เว็บไซต์ประชาไท, เครือข่ายพลเมืองเน็ต (Thai Netizen Network), มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (Cross Cultural Foundation) และสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) NGO เหล่านี้มีทั้งออกมายอมรับและปฏิเสธ โดยเว็บประชาไทยอมรับว่า ได้รับเงินสนับสนุนจริงปีละ 1.7 ล้านบาทมาตั้งแต่ปี 2548, Thai Netizen Network บอกว่าได้รับเงินสนับสนุนเพียงครั้งเดียว, มูลนิธิผสานวัฒนธรรมยอมรับแค่ว่า เคยรับเงินจากโอเพ่นโซไซตี้ในบางโครงการเท่านั้น, ส่วนสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ที่เป็นแหล่งรวมของสื่อตะวันตกชื่อด้ง เช่น BBC, Reuters, AFP และ AP ปฏิเสธและไม่ยอมเปิดเผยแหล่งที่มาของเงินอย่างชัดเจน รวมทั้งเงินทุนจาก Open Society และอิทธิพลอื่นที่มีต่อสโมสร แฉ NED กับอิทธิพลในไทย เมื่อปีที่แล้ว ปรากฏหลักฐานทางสื่อออนไลน์เปิดเผยงบประมาณประจำปี 2560 ของ NED ซึ่งได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรส ให้กับองค์กรพัฒนาเอกชนไม่แสวงหาผลกำไรที่อ้างว่าทำงานเพื่อสร้างเสริมประชาธิปไตย และการป้องกันสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยจำนวน 22 องค์กร เป็นเงินกว่า 70 ล้านบาท หรือประมาณ 2 ล้านดอลลาร์ มีรายงานว่า NED ซึ่งมีนายแอนดรูว์ เอช.การ์ด (Andrew H. Card) อดีตหัวหน้าสำนักประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จอร์จ ดับเบิลยู บุช เป็นประธาน สังกัดกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ และอยู่ภายใต้การดูแลของสถานทูตสหรัฐอเมริกา เรียกกันว่าเป็น CIA ภาคพลเรือน มีภารกิจแทรกแซงการเมืองและสังคมในไทย โดยมีจุดประสงค์เพื่อการควบคุมจัดการผลประโยชน์ต่าง ๆ ในประเทศ ด้วยการให้งบประมาณสนับสนุนนักการเมือง และกลุ่มมวลชน รวมถึงสื่อมวลชน นักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย ให้ออกมาดำเนินการเคลื่อนไหวในเรื่องต่าง ๆ ทั้งทางการเมือง ความมั่นคง สังคม และระบอบการปกครองของไทย ความสัมพันธ์ของ Open Society และ NED ในไทย จอร์จ โซรอส เป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของพรรคเดโมแครต และเป็นคนสนับสนุนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา โดยให้การสนับสนุนหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐด้วยทุนส่วนตัวมาโดยตลอด และใช้มูลนิธิ Open Society เป็นตัวแทนให้เงินสนับสนุนจำนวนมากแก่องค์กรการกุศล องค์กรภาคเอกชนและภาครัฐ ทั่วโลกกว่า 100 ประเทศ จนสามารถชี้นำในองค์กรเหล่านั้นได้ เพื่อสนับสนุนให้เปิดสังคมนั้น ๆ เป็นประชาธิปไตยแบบสหรัฐหรือเป็นสังคมประชาธิปไตยเสรี ที่สำคัญยังให้เงินทุนสนับสนุนแก่ NED ด้วย จึงเป็นพันธมิตรที่ดีในการทำงานร่วมกันเพื่อแทรกแซงประเทศตนเองและประเทศต่าง ๆ แนวทางการทำงานขององค์กรเหล่านี้ จะใช้การกระตุ้นความตื่นตัวของพลเมือง โดยอ้างเรื่องหลัก ๆ ได้แก่ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และสิ่งแวดล้อม ผ่านการทำงานของบุคคล 3 กลุ่มหลัก คือ 1. นักวิชาการ ในการผลิตชุดความรู้ เผยแพร่ข้อมูลที่อ้างอิงได้จากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างน้ำหนักให้สังคมคล้อยตาม 2. นักเขียน สื่อ บล็อกเกอร์ หรือ influencer ทางสังคม ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สื่อออนไลน์ เพื่อสร้างกระแสการติดตามและส่งต่อเป็นเครือข่ายเหมือนไฟลามทุ่ง 3. NGO หรือนักเคลื่อนไหว เพื่อปลุกระดมหรือทำการเคลื่อนไหวต่อต้าน เช่น ต่อต้านนโยบายรัฐที่ไม่ตอบสนองต่อนโยบายของสหรัฐอเมริกา โดยอ้างประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และสิ่งแวดล้อม บังหน้า แม้ NGO หลายส่วนจะตอบโต้เสียงแข็งว่า การรับเงินไม่ได้มีผลต่ออุดมการณ์หรือครอบงำการทำงาน แต่โดยธรรมชาติแล้วไม่อาจปฏิเสธได้ เปรียบว่าคุณเป็น freelance รับเงินจากบริษัทแห่งหนึ่งมา 1 ล้านบาท คุณจะบอกว่า บริษัทให้เปล่า ไม่ได้บอกให้ทำงานอะไรตอบแทน ถามว่าจะมีใครเชื่อ แล้วจะเป็นไปได้หรือ บริษัททีต้องหาเงินงก ๆ เข้าบริษัท จู่ ๆ จะเอาเงินที่หาได้ยาก มายกให้ freelance สักคนฟรี ๆ โดยไม่หวังผลตอบแทนอย่างนั้นหรือ ของฟรีเช่นนี้มีในโลกด้วยหรือ ยิ่งไปกว่านั้น หากไม่มีอะไรในก่อไผ่จริง ทำไมที่ผ่านมา NGO ไม่เปิดเผยแหล่งที่มาของเงินทุนอย่างเปิดเผย หากไม่มีการเปิดโปงสองเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นออกมา ความลับของเงินทุนของ NGO ก็ยังคงเป็นความลับต่อไปใช่ไหม ถึงตอนนี้รัฐบาลควรจะมีมาตรการอย่างเข้มงวดจริงจังออกมา ให้ NGO ทั้งหลายในประเทศไทยต้องเปิดเผยข้อมูลที่มาของแหล่งเงินทุนสนับสุนนอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยเฉพาะจำนวนเงินที่ถูกเปิดเผยออกมานั้น ตรงกับความเป็นจริงหรือไม่ ไม่ปล่อยให้ใครทำอะไรงุบงิบ หาก NGO ทั้งหลายบริสุทธิ์ใจจริง ก็ต้องยินดีให้ตรวจสอบ และสามารถพิสูจน์ข้อสงสัยหรือข้อกล่าวหาได้ ไม่ใช้แค่ลมปากปฏิเสธว่าไม่ใช่ ไม่จริงเพียงอย่างเดียว ที่สำคัญการพิสูจน์อย่างโปร่งใส จะทำให้อย่างน้อยรู้ด้วยว่า NGO ทั้งหลายรู้ตัวว่า ไม่ได้ถูกต่างชาติเอาเงินเล็กน้อยฟาดหัว เพื่อทำลายความมั่นคงของประเทศชาติบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ข้อมูลเพิ่มเติมที่: สหรัฐฯ 'ยัดเงิน' เอ็นจีโอ-สื่อ บงการไทย!! http://terrabkk.com/news/192400 หมาเฝ้าบ้าน พร้อมตรวจสอบเงินอเมริกันhttp://www.thansettakij.com/content/257990 'เงินอเมริกัน' (ไม่) อันตรายhttp://www.thansettakij.com/index.php/content/256985 Thailand 2017 Collective Action against Corruptionhttps://www.ned.org/region/asia/thailand-2017/ กลุ่มเอ็นจีโอของจอร์จ โซรอสกำลังถูกไล่ล่า-ทำเพื่อประชาธิปไตยหรือเพื่อกอบโกยhttp://thaitribune.org/contents/detail/310… มูลนิธิฯจอร์จ โซรอสจ่ายเงินหนุน 4 องค์กรในไทย-เว็บประชาไทเผยไม่ได้มีอิทธิพลต่อการเสนอข่าว-สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศปฏิเสธรับเงินhttp://www.thaitribune.org/contents/detail/302… อนาคตของเอ็นจีโอที่รับเงินต่างชาติhttps://www.posttoday.com/social/think/477868 รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมต่างชาติ https://www.posttoday.com/social/think/538566 “มูลนิธิผสานวัฒนธรรม” เอี่ยว 4 องค์กรไทย รับเงินพ่อมดยิว “จอร์จ โซรอส”http://www.publicpostonline.net/10667g
  10. หากคุณเอาดอกไม้ใส่มือเด็ก เขาจะกลายเป็นคนมีจิตใจงดงาม หากคุณเอาความรักใส่มือเด็ก เขาจะกลายเป็นคนมีเมตตา หากคุณเอาเหตุผลใส่มือเด็ก เขาจะกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ หากคุณเอาหนังสือใส่มือเด็ก เขาจะกลายเป็นปัญญาชน หากคุณเอาธรรมะใส่มือเด็ก เขาจะกลายเป็นคนดี หากคุณเอาสมบัติผู้ดีใส่มือเด็ก เขาจะกลายเป็นสุภาพบุรุษ / สุภาพสตรี หากคุณเอาดนตรีใส่มือเด็ก เขาจะกลายเป็นคนอารมณ์ดี หากคุณเอาธรรมชาติใส่มือเด็ก เขาจะกลายเป็นเด็กรักสงบ ทุกวันนี้คุณเอาสิ่งใดใส่มือเด็กบ้าง? 😍 เด็กบ้านนอก ขอบคุณเจ้าของภาพมากๆนะคะ <3 ศิล ๕ แบบใสๆ
  11. เสียงของพ่อ : เรื่องน้ำ | ธ สถิต ณ แดนสรวง
  12. บอกรักประเทศไทย ญี่ปุ่น-เวียดนามสุดทึ่ง!บินดูงานหลวงพ่อ'พลิกนาร้างให้เป็นนารัก' 09 มีนาคม พ.ศ. 2561 เวลา 09:45 น. 9 มี.ค. 61 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่หลวงพ่อภัตร อริโย เจ้าอาวาสวัดนาทวีและเกจิดังภาคใต้ ฉายา "เทพสามตา" ได้ร่วมกับนายสุธี สังข์ทอง นายกอบต.นาหมอศรี อ.นาทวี จ.สงขลา ได้เริ่มโครงการพลิกนาร้างให้เป็นนารัก โดยเชิญชวนชาวตำบลนาหมอศรี และตำบลใกล้เคียงทั้งชาวไทยพุทธ และชาวไทยมุสิลม มาร่วมใจกันพลิกนาร้างปลูกข้าวพันธุ์ราชินี เพื่อให้พี่น้องชาวอำเภอนาทวี ได้กินข้าวที่ปลูกเองและปลอดสารพิษ ต่อมาได้มีชาวบ้านในตำบลนาหมอศรีและตำบลใกล้เคียงมาร่วมแรงร่วมใจกันพลิกนาร้างกว่า จำนวน 12 ไร่ครึ่ง ของหลวงพ่อภัตรฯ ทดลองปลูกข้าวพันธุ์ราชินี กัน ต่อมาก็ได้มีชาวบ้านหันมาพลิกนาร้างปลูกข้าวกันมากขึ้น กว่า 200 – 300 ไร่ ซึ่งนาร้างที่ถูกปล่อยทิ้งไปนานกว่า 15 ปี บัดนี้หลังจากหลวงพ่อภัตรได้เริ่มโครงการพลิกนาร้างเป็นนารัก และมีชาวบ้านหันมาสนใจ ร่วมใจกันมาปลูกข้าวกันมากขึ้น วันนี้ นายโปรเฟสเซอร์ ซาโต้ เททสึ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเอฮิเมะ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วยนายลี เวียด แทม ผู้ประสานงานด้านป่าไม้ และลุ่มน้ำโขง ประเทศเวียดนาม และคณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ได้เดินทางมาศึกษาดูงานพลิกนาร้างเป็นนารักของหลวงพ่อภัตร เพื่อศึกษา ดูวิถีการปลูกข้าวไม่ใช้สารเคมี ปลอดภัยจากสารพิษ และอนาคตจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำนาปลูกข้าวอีกด้วย ที่สำคัญ เพื่อความมั่นคงชุมชนพหุวัฒนธรรมในฐานะหลวงพ่อภัตร อริโย เป็นที่ปรึกษา กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ด้านการศึกษาวัฒนธรรมประเพณีเพื่อรักษาวิถีชีวิตชุมชนให้เกิดความสามัคคียึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตรย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาวไทยทุกคน. http://www.thaipost.net/main/detail/4607
  13. การทุจริตเกิดขึ้นเพราะ มีเจ้าหน้าที่ร่วมด้วย กนก ธีระ และ ปรัชญา รุมถามความจริงจาก ผู้บังคับการฯ พล,ต,ต,สุทธิ ในคดี ลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท มันมาก ต้องดู credit:https://www.facebook.com/NationChanne...
  14. ข่าวในพระราชสำนัก วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2561 Hua Seng Heng Morning News 09-03-2561 YLG รู้ทันทอง มองทันเทรน ประจำวันที่ 09-03-61 เฮฮาภาษาทอง by Ylg 09-03-2561 ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดทองปิดลบ 5.90 ดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561 06:48:16 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) โดยได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ เพื่อจับสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 5.90 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,321.70 ดอลลาร์ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ขยับขึ้น 0.6 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 16.5 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 90 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 952.3 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 6.55 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 965.60 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำปิดตลาดปรับตัวลงเพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.58% แตะระดับ 90.163 เมื่อคืนนี้ ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าจะลดความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.จะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง ส่วนข้อมูลแรงงานของสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากดิ่งลงแตะระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512 ด้านนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 220,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2794909 . World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561 07:48:18 น. ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 มี.ค. 2561 -- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม แต่ยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโก พร้อมส่งสัญญาณเปิดทางให้ประเทศอื่นๆสามารถเจรจากับสหรัฐเพื่อขอการยกเว้นภาษีดังกล่าวได้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,895.21 จุด เพิ่มขึ้น 93.85 จุด หรือ +0.38% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,738.97 จุด เพิ่มขึ้น 12.17 จุด หรือ +0.45% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,427.95 จุด เพิ่มขึ้น 31.30 จุด หรือ +0.42% -- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ที่ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซน ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.1% ปิดที่ 376.62 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.ปีนี้ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,355.57 จุด เพิ่มขึ้น 110.21 จุด หรือ +0.90% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,254.10 จุด เพิ่มขึ้น 66.27 จุด หรือ +1.28% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,203.24 จุด เพิ่มขึ้น 45.40 จุด หรือ +0.63% -- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) ขานรับธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ประธาน ECB ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซน ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,203.24 จุด เพิ่มขึ้น 45.40 จุด หรือ +0.63% -- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันและสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อสัญญาน้ำมันดิบเช่นกัน สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 60.12 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 73 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 63.61 ดอลลาร์/บาร์เรล -- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) โดยได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ เพื่อจับสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 5.90 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,321.70 ดอลลาร์ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ขยับขึ้น 0.6 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 16.5 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 90 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 952.3 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 6.55 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 965.60 ดอลลาร์/ออนซ์ -- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐจะยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากแคนาดาและเม็กซิโก และอาจจะพิจารณายกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากประเทศอื่นๆบางประเทศ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 106.23 เยน จากระดับ 106.08 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9514 ฟรังก์ จากระดับ 0.9436 ฟรังก์ ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2307 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2405 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3803 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3894 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7792 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7817 ดอลลาร์สหรัฐ ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 24,895.21 จุด เพิ่มขึ้น 93.85 จุด, +0.38% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,738.97 จุด เพิ่มขึ้น 12.17 จุด, +0.45% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 7,427.95 จุด เพิ่มขึ้น 31.30 จุด, +0.42% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,355.57 จุด เพิ่มขึ้น 110.21 จุด, +0.90% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,254.10 จุด เพิ่มขึ้น 66.27 จุด, +1.28% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,203.24 จุด เพิ่มขึ้น 45.40 จุด, +0.63% ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 33,351.57 จุด เพิ่มขึ้น 318.48 จุด, +0.96% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,480.44 จุด เพิ่มขึ้น 29.75 จุด, +0.86% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,839.62 จุด เพิ่มขึ้น 1.72 จุด, +0.09% ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,443.02 จุด เพิ่มขึ้น 74.75 จุด, +1.17% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 30,654.52 จุด เพิ่มขึ้น 457.60 จุด, +1.52% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,381.85 จุด ลดลง 22.84 จุด, -0.27% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,288.41 จุด เพิ่มขึ้น 16.74 จุด, +0.51% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,433.08 จุด เพิ่มขึ้น 31.26 จุด, +1.30% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 21,368.07 จุด เพิ่มขึ้น 115.35 จุด, +0.54% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 10,823.24 จุด เพิ่มขึ้น 77.92 จุด, +0.73% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,942.90 จุด เพิ่มขึ้น 40.90 จุด, +0.69% ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 6,046.60 จุด เพิ่มขึ้น 41.20 จุด, +0.69% --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2794988 World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 9 มีนาคม 2561 ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561 08:40:39 น. -- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% จากประเทศต่างๆ ยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโก โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ใน 15 วัน การลงนามมีขึ้นที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันนี้ตามเวลาไทย โดยปธน.ทรัมป์ได้แถลงภายหลังการลงนามว่า "อุตสาหกรรมเหล็กและอลูมิเนียมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของประเทศของเรา ถ้าคุณไม่มีเหล็ก คุณก็ไม่มีประเทศ" นอกเหนือจากการยกเว้นภาษีให้กับเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งเป็นสองประเทศคู่ค้าในข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) แล้ว ปธน.ทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า อาจจะยกเว้นภาษีให้กับประเทศอื่นๆ หากประเทศเหล่านี้เจรจาและสามารถตกลงกับสหรัฐได้ว่าสินค้าเหล็กและอลูมิเนียมของพวกเขาจะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐ -- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% ขณะเดียวกัน ECB ประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนก.ย. อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตุว่า ในแถลงการณ์หลังการประชุมครั้งนี้ ECB ได้ตัดข้อความที่ระบุว่า "ECB อาจเพิ่มวงเงิน QE หรือขยายเวลาใช้มาตรการ QE หากมีความจำเป็น" โดยก่อนหน้านี้ ECB มักใช้ข้อความดังกล่าวในแถลงการณ์ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา การยกเลิกข้อความดังกล่าว บ่งชี้ว่า ECB กำลังเตรียมชะลอและยุติการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินในไม่ช้า หลังจากที่ได้ดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนก่อนหน้านี้ -- จับตาผลการประชุมนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เวลาประมาณ 10.00 น. ของวันนี้ตามเวลาไทย ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า คณะกรรมการของ BOJ จะคงนโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงรุกเอาไว้ เพื่อให้เงินเฟ้อเคลื่อนตัวเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% ได้ ทางด้านตลาดการเงินเองต่างก็ติดตามแถลงการณ์ภายหลังการประชุมของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น โดยนายคุโรดะ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การพิจารณาและหารือเรื่องการถอนนโยบายในช่วงปีงบประมาณ 2562 เมื่อเงินเฟ้อมีแนวโน้มว่า จะอยู่ที่ระดับ 2% ได้นั้น ถึงจะเป็นช่วงที่เหมาะสม ซึ่งการกล่าวแสดงความเห็นดังกล่าวทำให้เงินเยนและผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น -- สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ทศวรรษ หลังนายนอร์แมน ชาน ผู้ว่าการธนาคารกลางฮ่องกง (HKMA) เปิดเผยว่าทางแบงก์ชาติไม่มีแผนขายตราสารหนี้เพิ่มเติม ซึ่งอาจส่งผลให้สภาพคล่องตึงตัวและอัตราแลกเปลี่ยนปรับตัวสูงขึ้น -- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวานนี้ว่า บริษัท แกร็บ ผู้ให้บริการเรียกรถโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่นรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังใกล้จะปิดดีลข้อตกลงในการซื้อกิจการของบริษัท อูเบอร์ เทคโนโลยีส์ อิงค์ ในบางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอาจมีการลงนามในข้อตกลงภายในสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์หน้า แหล่งข่าวระบุว่า ในการทำข้อตกลงดังกล่าว อูเบอร์จะได้สิทธิถือหุ้นในแกร็บ คิดเป็นมูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์ -- สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดในวงการสกุลเงินดิจิทัล Coincheck Inc. ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในโตเกียว เตรียมจ่ายเงินคืนแก่ลูกค้าในสัปดาห์หน้า หลังจากที่แฮกเกอร์เจาะเข้าสู่เซิร์ฟเวอร์ของ Coincheck ในเดือนม.ค. และโจรกรรมสกุลเงินดิจิทัลคิดเป็นมูลค่า 5.8 หมื่นล้านเยน (543 ล้านดอลลาร์) ทั้งนี้ Coincheck ได้สัญญาว่าจะจ่ายเงินชดเชยผู้ถือสกุลเงิน NEM จำนวน 260,000 รายในวงเงิน 4.6 หมื่นล้านเยน -- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากดิ่งลงแตะระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2512 นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 220,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว -- นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.จะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง -- ทางการจีนมีกำหนดการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. เวลาประมาณ 08.30 น. ของวันนี้ตามเวลาไทย ก่อนหน้านี้ ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล คอร์ปอเรชั่น (CICC) ได้ออกมาคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อ ประจำเดือนก.พ.ที่ผ่านมา จะขยายแตะที่ระดับราว 2.5% รายงานระบุว่า การขยายตัวของ CPI ในเดือนก.พ.นั้นอาจเกิดจากราคาอาหารและบริการที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ตรงกับช่วงกลางเดือนก.พ.ของปีนี้ ต่างจากปีที่ผ่านมาที่เทศกาลอยู่ในช่วงปลายเดือนม.ค. --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2795057 ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.38 ตลาดจับตาผลประชุม BOJ-ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ วันนี้ ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561 09:38:09 น. นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.38 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า เล็กน้อยจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาด 31.36 บาท/ดอลลาร์ "เมื่อคืนหลังผลการประชุม ECB ออกมา ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพรส์ตลาด ยังไม่ส่งสัญญาณว่าจะปรับเปลี่ยนนโยบาย อะไร ทำให้ยูโรโดนขายเมื่อเทียบกับดอลลาร์ คนกลับไปถือครองดอลลาร์กัน"นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 31.30-31.45 บาท/ดอลลาร์ "ช่วงสายๆของวันนี้ตามเวลาประเทศไทยจะมีผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งคาดว่าน่าจะ Maintain ทุกอย่างไว้ตามเดิม แต่ก็มีข้อสังเกตว่าทุกครั้งที่มีการประชุม BOJ เงินเยนจะค่อนข้างผันผวนมาก และคืนนี้ยังมีรายงานตัวเลขการ จ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 205,000 ตำแหน่ง" นักบริหารเงิน กล่าว THAI BAHT FIX 3M (8 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.04892% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (8 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.12385% * ปัจจัยสำคัญ - เงินเยนอยู่ที่ 106.81 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 106.09 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ 1.2297 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.2384 ดอลลาร์/ยูโร - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.3060 บาท/ ดอลลาร์ - ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังไม่ใช้นโยบาย อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น มองว่ายังจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปเพื่อให้เอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้ ยังไม่มีแรงกดดันเงินเฟ้อ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีแนวโน้มชัดเจนขึ้นจริง แต่ยังมีความเปราะบางบางจุดอยู่ - ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมทุนกับ จูเลียส แบร์ กรุ๊ป ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อดำเนินธุรกิจบริการ ด้านการให้ คำปรึกษาเกี่ยวกับการบริหารความมั่งคั่ง โดยจะตั้งบริษัทร่วมทุนด้วยทุนจดทะเบียน 1,800 ล้านบาท ธนาคารถือหุ้น 60% และจูเลียส แบร์ 40% ขณะนี้กำลังขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และขอใบอนุญาตจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (กลต.) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้ หรือต้นปี 2562 โดยจะให้บริการกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (สินทรัพย์ตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป) - ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยรายงานสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศปี 61 ขยายตัว 8.2% ทำเลกรุงเทพฯ- ปริมณฑล มีโครงการเปิดขายใหม่ 117,100 ยูนิต เพิ่มขึ้น 2.8% คาดเม็ดเงินลงทุนทะลัก 6 แสนล้าน - ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) รับทราบหลักการบริหารจัดการแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณ และบงกชในอ่าวไทยที่จะสิ้นสุดอายุสัมปทานปี 2565-2566 ตามลำดับ โดยเฉพาะเงื่อนไขหลักที่จะกำหนดในข้อเสนอของผู้เข้าร่วม ประมูล (ทีโออาร์) จะใช้ระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี) และเปิดรับสมัครผู้ร่วมประมูลในเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ จากนั้นจะ ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติเดือน มิ.ย.และเข้าสู่ขั้นตอนการประมูล-คัดเลือกผู้ชนะในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อให้สามารถลงนามในสัญญากับผู้ ชนะการประมูลได้ในเดือน ก.พ.2562 - กระทรวงการคลังขยายเวลาเบิกจ่ายงบประมาณเหลื่อมปีให้หน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ ออกไปเป็น ก.ย. 2561 แก้ปัญหาเบิกจ่ายไม่ทัน - ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้ความเห็นชอบกฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้าย ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐ ธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ที่มา ส.ว. - ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับ ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงิน กู้ที่ระดับ 0.25% - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 21,000 ราย สู่ ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากดิ่งลงแตะระดับ 210,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2512 - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก ในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% จากประเทศต่างๆ ยกเว้นแคนาดาและเม็กซิโก โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ใน 15 วัน - จับตาผลการประชุมนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า คณะกรรมการของ BOJ จะคง นโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงรุกเอาไว้ เพื่อให้เงินเฟ้อเคลื่อนตัวเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% ได้ - นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.จะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง --อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2795086 (เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ตามภูมิภาค หลังปัจจัยความเสี่ยงใน-ตปท.ลดลง อาจเห็นแรงซื้อคืนในหุ้นบางกลุ่ม ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2561 09:42:00 น. นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะรีบาวด์ตามตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยเป็นการรีบาวด์ทางเทคนิค ซึ่งมีปัจจัยบวกคลายกังวลมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ และการเลือกตั้งในประเทศมีความชัดเจนมากขึ้น น่าจะทำให้ความเสี่ยงน่าจะลดลงและน่าจะมีแรงซื้อคืนในหุ้นบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ Global play อย่างหุ้นปิโตรเคมี และหุ้นอุปโภคบริโภคในประเทศ อย่าง CPALL,BJC เป็นต้น อย่างไรก็ตาม วันนี้ต้องติดตามดูว่าตลาดหุ้นไทยจะสามารถยืนได้หรือไม่ ซึ่งจุดที่เหมาะสมไม่ควรหลุด 1,770 จุด พร้อมให้กรอบแนวรับที่ 1,765-1,770 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,785-1,795 จุด ประเด็นพิจารณาการลงทุน - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 มี.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,895.21 จุด เพิ่มขึ้น 93.85 จุด(+0.38%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,738.97 จุด เพิ่มขึ้น 12.17 (+0.45%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,427.95จุด เพิ่มขึ้น 31.30 จุด (+0.42%) - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 226.15 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน 3.02 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 203.75 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 24.50 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 10.35 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 13.99 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเพิ่มขึ้น 2.48 จุด,ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 5.17 จุด,ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 19.48 จุด - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 มี.ค.61) 1,778.90 จุด ลดลง 2.74 จุด (-0.15%) - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,547.93 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 มี.ค.61 - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 มี.ค.61) ปิดที่ระดับ 60.12 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.03 ดอลลาร์ หรือลดลง 1.7% - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 มี.ค.61) ที่ 7.66 ดอลลาร์/บาร์เรล - เงินบาทเปิด 31.38 ตลาดจับตาผลประชุม BOJ-ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ วันนี้ - บอร์ด ก.ล.ต.เลื่อนเคาะเกณฑ์คุม "ไอซีโอ" รอความชัดเจนกฎหมาย คาดรู้ผลใน 1 เดือน ขณะภาครัฐเตรียมวางแนวทางป้องปั่นเงินดิจิทัลผ่านตลาดรอง ย้ำต้องมีระบบการซื้อขายเหมาะสม พร้อมจี้ให้เปิดเผยข้อมูลเป็นรูปธรรม ด้าน "บิทคอยน์" ร่วงหนัก หลัง ก.ล.ต.สหรัฐ เล็งขึ้นทะเบียนแพลตฟอร์มซื้อขาย - ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ. 61 อยู่ที่ 79.3 ลดลงจากเดือนก่อนที่ 80 ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเมืองและปัจจัยการเมืองที่เลื่อนเลือกตั้งออกไป ทำให้ค่าดัชนีความคิดเห็นสถานการณ์การเมืองลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 มีผลกระทบเชิงลบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและนักลงทุน - กระทรวงการคลังทำหนังสือถึงหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เรื่องหลักเกณฑ์การขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณเหลื่อมปี ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการขยายเวลาเบิกจ่ายให้ถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2561 ซึ่งขณะนี้ใกล้สิ้นสุดระยะเวลาที่กระทรวงการคลังอนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน และยังมีส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทัน - รมว.คมนาคม เผยครึ่งแรกของปีนี้จะเร่งดันโครงการเสนอ ครม.และเปิดประมูลให้ได้ภายในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. รวมมูลค่าโครงการราว 1.7 แสนล้านบาท ประกอบด้วย รถไฟทางคู่ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 217 กม. วงเงิน 5.9 หมื่นล้านบาท และ รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 8.5 กม.และรถไฟฟ้าสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อพญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก ระยะทาง 19 กม. วงเงินรวม 2 หมื่นล้านบาท จะเร่งเสนอ ครม.ภายใน เม.ย.ก่อนเปิดประมูล มิ.ย. - ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน นับตั้งแต่ไตรมาส 4/60 โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลและจังหวัดหัวเมืองใหญ่ โดยปีนี้โต 8.2% บริษัทในตลาดผุดโครงการใหม่กว่า 6.11 แสนล้าน *หุ้นเด่นวันนี้ - SCC (เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ) แนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 550 บาท/หุ้น มองสเปรดปิโตรเคมีในไตรมาส 1/61 สูงหนุนกำไรเดิ่น โดยสเปรดปิโตรเคมี PE – Naphtha เฉลี่ยในไตรมาส 1/61 ปรากฏว่าสูงเด่นถึง 803 เหรียญ/ตัน (+22%QoQ, +19%YoY) เนื่องจีนมีมาตรการห้ามใช้พลาสติกรีไซเคิล มาผลิตเม็ดพลาสติก ทำให้มีความต้องการเม็ดพลาสติกใหม่ประมาณ 2-3 ล้านตัน ซึ่งจะทำให้กำไรในไตรมาส 1/61 สูงเด่นถึงประมาณ 15,000 ล้านบาท (+19%QoQ, -14%YoY) อย่างไรก็ตามแนวโน้มไตรมาส 2-4 คาดสเปรดจะลดลง เนื่องจากจะมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามา 8 ล้านตัน แต่ปัจจัยแวดล้อมปัจจุบันมีแนวโน้มที่สเปรดจะยืนได้เหนือระดับ 700 เหรียญ/ตัน มากกว่าที่ประเมินไว้ตอนต้นปีประมาณ 650 เหรียญ/ตัน ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E ที่ต่ำ 11.3 เท่า คาดรักษาระดับปันผล 19 บาท มีอัตราเงินปันผลตอบแทน 3.9% - SC (เคทีบีฯ)แนะนำ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 5.00 บาท คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 1/61 จะเติบโต YoY ได้ต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้แนวราบมากขึ้น โดย ณ สิ้นปี 60 มียอด Backlog แนวราบราว 2 พันล้านบาท ทยอยโอนได้ทั้งหมดใน ไตรมาส 1-ไตรมาส 2/61 รวมถึงรับรู้คอนโดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่ากำไรไตรมาส 2/61 โตโดดเด่น จากจะเริ่มโอนโครงการ Saladaeng One ในช่วงปลายเดือน เม.ย.รวมถึงในงวดไตรมาส 4/61 จะเริ่มรับรู้โครงการ BEATNIQ ทั้งนี้ ส่งผลให้เรายังคงประเมินกำไรสุทธิปี 61 จะกลับมาเติบโตสูงและทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2.07 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% YoY --อินโฟเควสท์ โดย พชรธร ภูมิคำ/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2795091
  15. ฮิปโป ช่วยลูกเป็ดให้ขึ้นไปหาแม่ได้สำเร็จ
  16. Hua Seng Heng news update 08-03-2561 https://youtu.be/nBr--o-xo_4 MTS Gold Evening News | ทรัมป์ ลงนามแผนภาษี ตี 3 ครึ่งคืนนี้!!! 🌛🏡 👉 ทองค่อนข้างทรงตัว ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่เฝ้ารอการประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม... 👉 เจ้าหน้าที่ระดับสูงประจำ Morgan Stanley ประกาศว่า แผนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะทำการลงนามในคืนนี้ ถือว่าเป็นความคิดที่ “แย่มาก” 👉 คาดอีซีบีก็จะคงนโยบายในการประชุมครั้งนี้ แต่สิ่งตลาดสนใจถือท่าที่ของอีซีบีที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายเป็นคุมเข้มทางการเงิน และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย... สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 8 มีนาคม 2561
  17. รองโฆษกศาลปกครอง ชี้ป้าทุบรถ เป็นคดีแรกที่ใช้โทษปรับ-อาจโดนเพิ่มเงินถ้ายังฝ่าฝืนคำสั่ ไม่ใช่การฟ้องบุคคล รองโฆษกศาลปกครอง ชี้ป้าทุบรถ คดีแรกที่ใช้โทษปรับ ฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคุ้มครองชั่ว..... ISRANEWS.ORG กรมศุลฯ แจงผู้โดยสารทั่วไปไม่ต้องสำแดงของก่อนออกนอกประเทศ ยกเว้นเป็นรายกรณี Posted on 08 มีนาคม 2561 in ข่าวรอบวัน , ข่าวเศรษฐกิจ , ข่าวตลาดเงิน - ตลาดทุน MONEYANDBANKING.CO.TH
  18. มะม่วง : ผลไม้สุขภาพหน้าร้อน หนึ่งในผลไม้หน้าร้อนยอดนิยม มะม่วงไม่ว่าจะกินสดๆ จิ้มกับนํ้าปลาหวานหรือทำเป็นของหวาน เช่น ไอศกรีมมะม่วง นํ้ามะม่วงปั่น หรือข้าวเหนียวมะม่วง ล้วนช่วยให้คลายร้อนได้ดีทั้งนั้น จัดว่าเป็นผลไม้ที่ให้คุณค่าทางอาหารสูงจนถือได้ว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพชั้นเลิศ เป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต เส้นใยอาหาร วิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะวิตามินเอ และวิตามินซี ส่วนแร่ธาตุที่มีอยู่สูงในเนื้อมะม่วงนั่นก็คือ โพแทสเซียม ซึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานระบบต่างๆ ในร่างกายเป็นปกติ เช่น ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โพแทสเซียมช่วยควบคุมสมดุลร่างกาย ดังนั้นเวลากินมะม่วงสุก จะรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่า นอกจากคุณค่าโภชนาการแล้ว ยังมีสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากจะให้คุณค่าทางโภชนาการแล้ว ยังมีสารที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ 1.แคโรทีนอยด์ สารที่พบมากในมะม่วงคือ บีตาแคโรทีน เป็นแหล่งของวิตามินเอที่ดี มะม่วงดิบจะมีปริมาณแคโรทีนอยด์ตํ่ากว่ามะม่วงสุก นอกจากบีตาแคโรทีนแล้ว ยังมีสารแอลฟาคริปโทแซนทิน ลูทีโอแซนทิน คุณสมบัติของสารกลุ่มนี้คือ ช่วยป้องกันมะเร็ง ลดระดับไขมันในหลอดเลือด ป้องกันการเสื่อมของตาและสมอง 2.ฟลาโวนอยด์ มะม่วงมีสารที่พบมากคือ เควอร์ซีทิน และเคมเฟอรอล ช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ดี ลดการตายของเซลล์สมอง รักษาโรคสมองเสื่อมได้ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง 3.สารประกอบโพลีฟีนอลิก ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง ป้องกันเซลล์ถูกทำร้ายจากสารอนุมูลอิสระได้ดีมาก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและต้านการอักเสบได้ด้วย ปัจจุบันมีการสกัดและนำไปใช้เพื่อเป็นยาบรรเทาและรักษาอาการอักเสบของข้อต่อ 4.เทอร์พีนอยด์ สารที่พบในมะม่วง ได้แก่ ลิโมนีน เซสควิตเทอร์พีน และเอสเทอร์ ต่างๆ คุณสมบัติที่เด่นของสารกลุ่มนี้คือ ช่วยป้องกันมะเร็ง อย่างไรก็ตาม อาจสงสัยว่ากินมะม่วงสุกทำให้อ้วนไหม ข้าวเหนียวมะม่วงทำให้อ้วนใช่หรือไม่ ข้อแนะนำ คือ คนสุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัว อาจจะกินข้าวเหนียวมะม่วงได้มากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ต้องไม่ลืมว่าข้าวเหนียวมะม่วงให้พลังงานเทียบเท่ากับการกินอาหารมื้อหลัก 1 มื้อเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นต้องไม่ลืมออกกำลังกาย ส่วนผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือไขมันในเลือดสูง ควรกินมะม่วงสุกแต่น้อย กินครั้งละไม่เกิน 1 ผล ขนาดกลาง และใน 1 สัปดาห์ไม่ควรกินเกิน 2 ครั้ง ส่วนผู้ป่วยโรคไตควรงดกินมะม่วงสุกเพราะมีปริมาณโพแทสเซียมสูง ** สมุนไพรใกล้ตัว มุ่งเสนอสรรพคุณทางยา การนำไปใช้ควรพิจารณาอย่างรอบด้าน **
  19. ลูกค่าง : ขอยืมหางหน่อยฮะแม่! ชมภาพความน่ารักซุกซนของลูกค่างที่ใช้หางของแม่เป็นเชือกโหนเล่นสนุก ขณะลูกค่างพี่น้องวัยอ่อนกว่าอีกตัวจ้องมองอย่างฉงนสงสัย ที่เขตอนุรักษ์เสือบันดิปูร์ รัฐกรณาฏกะ ประเทศอินเดีย เมื่อไม่นานนี้ นายนิฮัด วี วาจิดา วัย 37 ปี ที่ใช้เวลาว่างจากงานขายและการตลาดมาเก็บภาพธรรมชาติ เล่าว่าเจ้าค่างน้อยใช้เท้าถีบต้นไม้โหนหางของแม่ไปมาอย่างสนุกสนาน นับเป็นอีกหนึ่งภาพชีวิตสัตว์ป่าที่เขารู้สึกประทับใจอย่างมาก China Xinhua News 1 hr · เป็นไปได้ยังไง? เครื่องบินรบ F-35 ของสหรัฐฯเกือบครึ่งบินไม่ได้ เมื่อเร็วๆ นี้ สื่อท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกาได้รายงานคำพูดของ Mat Winter ผู้อำนวยการสำนักงานโครงการร่วม F-35 ที่กล่าวกับบรรดาผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้เครื่องบินรบ F-35 ที่ถูกส่งมายังกองทัพสหรัฐอเมริกาและผู้ซื้อต่างประเทศ มีเพียงร้อยละ 51 เท่านั้นที่มีประสิทธิภาพพร้อมสำหรับการบิน เครื่องบินรบ F-35 ได้รับการพัฒนาและผลิตด้วยยุทธศาสตร์ที่เรียกว่า "concurrency" ซึ่งเป็นขั้นตอนการพัฒนาที่สามารถทำซ้อนกันได้ เพื่อเพิ่มความเร็วในการออกสนามของเครื่องบินรบ อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิจารณ์ได้แสดงความเห็นว่าการทำเช่นนี้ถือเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เครื่องบินที่สร้างขึ้นในช่วงแรก ต้องมีการปรับเปลี่ยนตามไปด้วย โดยขณะนี้ กระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกากำลังเจรจากับบริษัทผลิตเครื่องบินรบ Lockheed Martin เกี่ยวกับราคาเครื่องบินรบ F-35 ชุดที่ 11 นอกจากนี้ผู้อำนวยการ Winter ยังกล่าวอีกว่า บริษัทนี้มีกระบวนการการผลิตที่ล่าช้า อีกทั้งยังขาดความโปร่งใสในการให้ข้อมูลเรื่องด้านค่าใช้จ่ายอีกด้วย
  20. http://www.komchadluek.net/news/people/315588 อ่านต่อ “หัวใจประชาชนอยู่กับเรา ถ้าเราไม่ช่วย แล้วใครล่ะที่จะช่วยประชาชน #คือนักพัฒที่แท้จริง " ช่วงนี้บ้านเราเต็มไปด้วยข่าวการเปิดฉากสงครามระหว่างคนตัวเล็กกับคนตัวใหญ่ ข่าวหนึ่ง คือเรื่องราวของ “น้องแบม ปณิดา ยศปัญญา” ที่กล้าออกมาละเลงความจริงให้สังคมได้รับรู้ โดยไม่หวั่นเกรงผลกระทบกับตัวเอง เธอเป็นเพียงเด็กสาวอายุ 23 ปี และยังเป็นนิสิตชั้นปี 4 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หรือ มมส.
  21. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระราชวโรกาสให้ ชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา นำผู้พิพากษาประจำศาลยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม จำนวน 162 คน เฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ การนี้ มีพระราชดำรัสแก่ผู้พิพากษาประจำศาลยุติธรรม เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตน ความว่า "ปฏิบัติหรือถือปฏิบัติสืบต่อกันมาว่า ปฏิบัติหน้าที่ในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์นั้น ความจริงความหมายก็คือ ปฏิบัติหน้าที่ในนามของสถาบันทั้ง 3 สถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ในพระปรมาภิไธยในนัยยะนี้หมายถึง สถาบันที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายของชาติ และความสุข ความร่มเย็น และมั่นคงของราชอาณาจักร ซึ่งเป็นบ้านของเราทุกคน อันนี้ความหมายที่จะขอไขให้ในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ก็คือ ในนามของประชาชนชาวไทย ในนามของสถาบันสูงสุดทั้งหลายชาติ และประชาชน คือ ให้ความยุติธรรม ให้ความถูกต้อง โปร่งใส และเป็นที่พึ่งของประชาชนและสังคม กฎหมายไม่ว่าประเทศไหนมีไว้เพื่อรักษาสิทธิ รักษาความปลอดภัย รักษาความสงบ กฎหมายนั้นก็ลึกซึ้ง ใช้ให้ดีก็ดี แปลความให้ดีก็ดี ใช้ไม่ดีหรือหาช่องโหว่ในทางปฏิบัติ มันก็ไม่ดี พอเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นทั้งศาสตร์ เป็นทั้งศิลป์ เรื่องกระบวนการยุติธรรมเนี่ย แต่ถ้าหากตระหนักถึงความถูกต้อง หรือพูดง่ายๆความสุขของส่วนรวม ความสงบสุข และความมั่นคงของประเทศชาติ ก็จะไปในทางที่ถูก ก็จะอ่านกฎหมาย หรืออำนวยการยุติธรรมได้อย่างไม่ผิด ผู้พิพากษาก็เป็นมนุษย์ก็เป็นคน มีอารมณ์ แต่ถ้าเผื่อทบทวนศีลธรรม หรือจรรยาบรรณของผู้พิพากษาไว้ ก็จะไม่ออกนอกกรอบที่ผิด ท่านทั้งหลายได้เรียนมา ได้ศึกษามา และได้เรียนรู้ว่าอะไรมันผิด อะไรมันถูก อะไรมันดี อะไรมันไม่ดี อะไรที่จะทำให้มันเดือดร้อนต่อชาติบ้านเมือง ก็คงจะรู้แล้วอะไรไปในทางที่ถูกหรือไม่ถูก ก็ขอให้มีสติ มีปัญญา มีทัศนคติที่ถูกต้อง และอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน ก็จะเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง" ทรงพระเจริญ ธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมออกใชัธนบัตรหมุนเวียนแบบใหม่รัชกาลที่ 10 8 มี.ค. 61 -นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตจ..... THAIPOST.NET
  22. 08-03-61/07 : นี่แค่หนังตัวอย่าง? ว่าทำไม? เสือดำ..ไล่ศรีวราห์ถึงมาแรงแซงทางโค้ง! ยังมีอีกหลายเรื่องที่ซุกไว้ปกปิดไว้ เพราะมันหลายแสนล้าน มันเทียบไม่ได้ดอกกับละครปาหี่บนโลกโซเชี่ยลที่หลอกชาวบ้านไปวันวัน อีกกี่โครงการที่เหี้ยจับมือทุนต่างชาติ และคนขายชาติ รวมทั้งข้าราชการคนมีสี ที่จะขายแดกแบ่งเค็กแผ่นดินพ่อกู! ถึงได้ออกข่าวเพิ่มภาษีไง ถึงได้ถูกแอนตี้ไง และปล่อยข่าวไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนพนักงาน โรงงานยาสูบไง ทำให้เจ๊งแล้วแปรรูปขายแดกมหาศาล! นี่แค่เรื่องเดียวหนังตัวอย่าง แล้วอีกกี่ร้อยโครงการล่ะ เป็นเงินเท่าไหร่ เสือดำก็สำคัญ แต่มันเทียบไม่ได้ดอกกับเงินหลายแสนล้าน หรือล้านล้าน ที่เราเสียโง่ให้กลุ่มนายทุนและคนมีสี ที่ขายชาติแดก ตาสว่างกันรึยัง? ยังมีนวตกรรมซับซ้อนอีกหลายเรื่อง ถึงได้มาเตือนสติ ให้คิดดีดีว่าข่าวสารทุกวันนี้ แผ่นดินได้อะไร? ประชาชนได้อะไร? ก็แค่เรื่องเม้าท์ แล้วเหี้ยรวบแดกใต้ดินไปเรื่อยๆ นี่คือเกมส์อำมะหิตที่เหี้ยมันจ้องจะแดกทุกลมหายใจ! -------------------------------------------------------------------------— สมศักดิ์ เธียรจรูญกุล / ปี ๕๙ กำไรเกือบหมื่นล้าน อยู่ๆ มีข่าวจะกู้เงินมาจ่ายเงินเดือน พนง. ใครจ้องฮุบหุ้น กิจการและที่ดินมูลค่า หลายแสนล้านของ โรงงานยาสูบ ที่ดินที่ตั้งโรงงานยาสูบ ๖๐๐ ไร่ ๆ ละ ๑๖๐ ล้านบาท รวม ๙๖,๐๐๐ ล้านบาท และที่ดินแปลงอื่นๆ นับแสนไร่ https://www.matichon.co.th/news/393482 http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_press.php… https://prachatai.com/journal/2013/03/45729 http://www.icons.co.th/newsdetail.asp… -------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE และ Search พิมคำว่า "@mheecnn" แล้วแอดเข้าถ้ำ เพจสำรองของหมี CNN คือ เพจ " หมี RT " Search หาใน FB ตามชื่อนี้เลยเด้อคร๊า ดูโลโก้ หมีอี้จับซา(ชักดาบ) เพจ VK ของรัสเซีย (www.vk.com/id448335733) หรือ Search เพื่อน พิมคำว่า Frank Mheecnn
×
×
  • สร้างใหม่...