ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

Rattikorn. Sumrojprasert

ขาใหญ่
  • จำนวนเนื้อหา

    389
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

คะแนนนิยม

52 ดีมาก

เกี่ยวกับ Rattikorn. Sumrojprasert

  • คะแนนนิยม
    ขาใหญ่

Profile Information

  • เพศ
    หญิง
  • ที่อยู่
    กรุงเทพมหานคร
  1. ขอแสดงความยินดีและชื่นชมด้วยค่ะ
  2. ขอบพระคุณมากค่ะที่มาเตือน ชอบมากๆๆค่ะ
  3. ชอบที่บ่นค่ะอยากให้บ่นบ่อยๆค่ะ แม่นมาก ขอบคุณค่ะ
  4. ขอโทษด้วยค่ะที่ลงบทความยาวมาก นํามาต่อกันไม่เป็นค่ะ ได้แต่คัดลอก ชอบบทความนี้เอาไว้สอนเด็กๆเรื่องความอดทนเอาชนะอุปสรรคต่างๆดังเช่นนกอินทรีย์ ชอบอ่านบทความใบไม้ผลิบนดวงจันทร์มากค่ะมีประโยชน์ให้ข้อคิดดีๆมาก บางข้อความก็คัดลอกให้เพื่อนๆเด็กๆได้อ่านกันโดยไม่ได้ขออนุญาตเลยค่ะ แต่คิดว่าเจ้าของคงไม่ว่าเพราะไม่ได้นําไปในเชิงธุรกิจหรือทําให้เสียหาย ขออนุญาตและขอขอบพระคุณอย่างสูงค่ะคุณginger
  5. ชีวิตของ.."นกอินทรีย์" ต้องสู้อย่างอดทนจึงจะมีอายุถึง70ปี นกอินทรีย์เป็น สัตว์ปีกที่มีอายุ ยาวนานที่สุดในโลก มันมีอายุยาวนานถึง 70 ปี เมื่อเราเอ่ยถึงมันจ ก็คงต้องนึกถึง ปีกอันสง่างาม และ กรงเล็บที่ทรงพลัง แต่จะมีใครรู้หรือไม่ ว่ามันมีช่วงชีวิต ที่เป็นอุปสรรค อันใหญ่หลวงของมันด้วย นกอินทรีย์พอ อายุ 40 ปี ★ปากของมัน จะงองุ้ม จะจิกจะกิน อะไรก็ทำได้ยาก ★เล็บมันจะยาว และ โค้งงอ มันจะจับสัตว์ กินเป็นอาหารเหมือนเดิม มันก็ไม่อาจจะ สามารถทำได้ง่าย ★และปีกที่งามของมัน ก็จะเกิดขนปกคลุม จนหนาและหนัก ที่ให้มันบินแต่ละครั้ง ต้องทำด้วยความยากลำบาก ♥ช่วงเวลานี้ กินเวลายาวนาน ถึง 150 วัน หรือ 5 เดือนกว่า ♥♥พอมาถึงช่วงนี้ มันมีทางเลือก 2 ทาง ในชีวิต คือ 1. ฆ่าตัวตายเสีย 2. ต้องอดทนและ ต้องผ่านบททดสอบนี้ไปให้ได้ ★ เมื่อมันเลือก ★ ■ ทางเลือกที่ 1.... มันก็สามารถทำได้ ด้วยการเอากรงเล็บ ปาดคอตัวเอง จบชีวิตมันลง หรือ ไม่ก็ทรมาน ตายไปเอง... ■ แต่ถ้ามันเลือก ทางเลือกที่ 2.... มันต้องบินขึ้นสู่ ภูเขาหินสูง และ ●เคาะปากมันกับหิน เป็นร้อยเป็นพันครั้ง เพื่อให้จงอยปากของมัน หลุดออกมา ●หลังจากนั้น มันต้องเคาะเล็บตนเอง ที่งองุ้มกับพื้นหินที่แข็ง ๆ ให้ เล็บหลุดออกมาทีละเล็บ จนหลุดออกจนหมด ●มันต้องจิกขนที่หนาเตอะ ตรงอก ตรงปีก ออกทีละชิ้น ทีละชิ้น จนขนที่หนาเตอะ เหล่านั้นหมดไป ★แน่นอน กระบวนการเหล่านี้ ต้องกินเวลานาน เจ็บปวด และ ทุกข์ทรมาน แสนสาหัส สากรรจ์ ★กระบวนการ จะเริ่มอย่างช้าๆ และ สิ้นสุดลง เมื่อครบ 150 วัน ................... ♥เมื่อมันผ่านไปได้ รางวัลของมัน คือ ปากที่จะงอก.... ออกมาใหม่ สวยงามกว่าเดิม เล็บที่จะงอก.... ออกมาใหม่ เล็บแหลมคม และ งออย่างสวยงาม ●เหมาะแก่ การล่าสัตว์หาอาหาร ●เหมาะแก่การดำรงชีวิต ♥และของขวัญล้ำค่าอีกอย่าง คือ ชีวิตที่จะมีต่อไป ได้อีก 30 ปี เป็นชีวิต ที่สง่างามและมีเกียรติ.... มันจะบินขึ้น บนท้องฟ้าอีกครั้ง ด้วยปีกที่ทรงพลังกว่าเดิม ★★ แต่ถ้าหากว่า มันไม่ผ่านบททดสอบ มันไม่ยอมทนทุกข์ และไม่ยอมเจ็บ เพื่อเอาปากออก... และไม่ยอมเจ็บ เพื่อเอาเล็บออก.... และไม่ยอมอดทน ที่จะจิกเอาขนที่มี จำนวนมากมายและ หนาเตอะออก..... เมื่อผ่าน 150 วัน มันจะต้องตาย ในที่สุด...... ♥♥♥♥ มีนกอินทรีย์ หลายตัวมาก ที่ผ่านบททดสอบ และ ก็มีจำนวนมหาศาล มากเช่นกัน ที่ตายในบททดสอบ 150 วัน นี้ ♥♥♥♥ มนุษย์เรา เมื่อเกิดมาแล้ว ก็ต้องมีทั้งสุขและทุกข์ ..เมื่อเราเจอ เหตุการณ์ที่ทำให้ เราต้องเจ็บปวด เราต้องอดทน จนถึงที่สุด เพราะเรารู้ว่า เมื่อเราผ่านมันไปได้ ชีวิตเราย่อมมีสิ่งที่ดี ๆ รอเราอยู่ แน่นอน.... ♥♥♥ ถ้ามีหลายครั้ง ที่เราเจ็บเหลือเกิน เราร้องไห้ เราล้มทั้งยืน ให้เรา..อย่าหมดหวังในชีวิต จงลุกขึ้นสู้อุปสรรคนั้น อย่าคิด..ทิ้งบททดสอบ เหมือนนกอินทรีย์บางตัว ที่ไม่ยอมทนเจ็บ ไม่ยอมทนทรมาน เพียงชั่วคราว ช่วงเวลาแห่งความทุกข์ มีกันทุกคน แต่มัน.. ไม่ได้มีตลอดนิรันดร์ เมื่อเราผ่านไปได้ มันก็จะหายไปเอง เหลือทิ้งไว้ แต่ .... ความเข้มแข็งของเรา ที่มีมากกว่าเดิม อุปสรรคไม่เคยฆ่าใครตาย อุปสรรค เป็นกำแพง เพื่อให้เราข้าม.. เพื่อที่เราจะเติบโต.. เพื่อที่เราจะแข็งแกร่งขึ้น.. เพื่อที่เราจะงดงามขึ้น ♥♥♥♥♥♥♥ จงเป็น ดั่ง..นกอินทรีย์ ที่มีชีวิตต่อไปได้อีก 30 ปีข้างหน้า อย่างภาคภูมิใจ ☆★☆★☆★☆
  6. ขออนุญาตลงบทความเกี่ยวกับความสามัคคีด้วยคนค่ะคุณginger ในงานสัมมนาแห่งหนึ่ง ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับลูกโป่งคนละใบ และถูกขอให้เขียนชื่อตัวเองลงบนลูกโป่ง แล้วเอาไปใส่ไว้ในอีกห้องจนเต็ม จากนั้นพิธีกรได้บอกให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา เข้าไปในห้องนั้นแล้วหาลูกโป่งที่มีชื่อตัวเองนำกลับออกมา .................. ภายใน 5 นาที ห้องนั้นก็เหมือนเกิดจลาจล ทุกคนต่างรีบหาลูกโป่งของตัวเอง เหยียบลูกโป่งคนอื่น ทั้งดึง ทั้งดัน กระทบกระทั่ง ล้มลุกคลุกคลาน สุดท้ายไม่มีใครหาลูกโป่งที่มีชื่อตัวเองอยู่เจอเลย ................... พิธีกรประกาศให้หยุด แล้วเริ่มกระบวนการใหม่อีกครั้ง คราวนี้เขาประกาศให้ทุกคนค่อยๆหยิบลูกโป่งที่อยู่ตรงหน้า แล้วประกาศเรียกหาเจ้าของชื่อมารับลูกโป่งไป ภายใน 3 นาที ทุกคนได้ลูกโป่งที่มีชื่อของตัวเองครบทุกคน .................... พิธีกรสรุปให้ฟังว่า สังคมของเราเป็นอย่างนี้ ทุกคนต่างมุ่งหาความสุข (ลูกโป่ง) ของตัวเอง โดยไม่สนใจคนอื่น ไม่เอื้ออาทร ไม่แคร์แม้ต้องเหยียบย่ำความสุขของคนอื่น แต่เมื่อใดที่ทุกคนมอบความสุข (ลูกโป่ง) ให้กับเพื่อนร่วมสังคมก่อนทีละคน ทุกคนจะได้ความสุขเท่าๆกัน ไม่ตกหล่นแม้แต่คนเดียว ......................
  7. ขอบพระคุณค่ะที่แจ้งข่าวดีและข่าวต่างๆ ติดตามอยู่เสมอค่ะ
×
×
  • สร้างใหม่...