ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

ปุยเมฆ

หัวหน้ายาม
  • จำนวนเนื้อหา

    3,080
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

  • วันที่ชนะ

    13

วันที่ ปุยเมฆ ชนะครั้งล่าสุด ตุลาคม 16 2013

ปุยเมฆ ได้รับการถูกใจในเนื้อหามากที่สุด

คะแนนนิยม

2,791 ดีขั้นเทพ

เกี่ยวกับ ปุยเมฆ

  • คะแนนนิยม
    โก๊ะไม่เลิก..เลยเรา..
  • วันเกิด พฤศจิกายน 22

Contact Methods

  • AIM
    เราแสวงหา " ความสุข " ตั้งแต่เกิด จน ตาย แต่ ... ก็ยังหาความสุขที่แท้จริง " ไม่ได้ " เพราะ ... มนุษย์ ฝากความสุขไว้กับ บุคคลอื่น เพราะ ... มนุษย์ ฝากความสุขไว้กับ อนาคต เพราะ ... มนุษย์ ฝากความสุขไว้กับ วัตถุ แต่ ... มนุษย์ไม่รู้จักหาความสุข ณ . ปัจจุบัน ความสุข ที่ได้ จากการมีสติ ณ. ขณะปัจจุบัน จึงเป็นความสุข ที่ไม่จำเป็นต้องไปอ้อนวอน ร้องขอ รอผล ดลบันดาล จากใครทั้งนั้น รัก ณ. ขณะปัจจุบัน
  • MSN
    อยากคุยกับคนน่ารัก....ก็ต้องรอหน่อยน๊า...
  • Website URL
    http://www.youtube.com/watch?v=pLRMdb_jGOo&list=RD02kP6XAo_N8zM
  • ICQ
    รูปแบบกราฟแท่งเทียน รูปแบบของแท่งเทียน (Candlestick Pattern ) มีด้วยกัน 3 รูปแบบคือ 1.รูปแบบของแท่งเทียนขาขึ้น (Bullish Candlestick Pattern) 2.รูปแบบของแท่งเทียนขาลง (Bearish Candlestick Pattern) 3.รูปแบบของแท่งเทียนแบบต่อเนื่อง (Continuous Candlestick Patern) รูปแบบกราฟแท่งเทียน ที่พบบ่อยในตลาด Dark Cloud Cover: คือการเกิดแท่งเทียนสีขาวตามด้วยแท่งเทียนสีดำ ราคาเปิดของแท่งสีดำจะเปิดสูงกว่าราคาสูงสุดของแท่งสีขาวและราคาปิดของแท่ง สีดำจะปิดต่ำกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งสีดำ รูปแบบนี้เป็นสัญญาณการกลับทิศจากแนวโน้มขาขึ้นกลายเป็นแนวโน้มขาลง (Bearish Reversal Signal) แต่ถ้าราคาปิดของแท่งเทียนสีดำ ปิดสูงกว่าจุดกึ่งกลางของแท่งเทียนสีข่าว ให้รอสัญญาณยืนยันของแท่งเทียนสีดำอีกแท่ง ถ้าราคาปิดของแท่งเทียนอีกแท่งปิดต่ำกว่ากึ่งกลางของแท่งสีขาว ก็เป็นสัญญาณการกลับตัวเป็นตลาดขาลง Doji: เป็นกราฟแท่งเทียนที่มีราคาเปิดและราคาปิดอยู่ในราคาเดียวกัน หรือใกล้เคียงกันมากๆ เราก็ถือว่ากราฟแท่งเทียนนั้นเป็นโดจิ ลักษณะของมันจะคล้าย เครื่องหมาย บวก เครื่องหมาย ลบ กากบาท ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกเรียกว่า โดจิ ถ้าเกิด โดจิ ขึ้นกับกราฟ นั่นคือสัญญาณบอกว่า ราคากำลังจะเปลี่ยนจากแนวโน้มเดิม โดยทั่วไปแล้ว ถึงแม้จะเกิดโดจิ ก็ต้องดูแท่งเทียนถัดมาอีกแท่งเพื่อเป็นสัญญาณยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้มด้วย Engulfing Pattern: Engulfing Pattern จะประกอบด้วย 2 รูปแบบคือ Engulfing Bullish และ Engulfing Bearish ในสภาวะที่เป็นตลาดขาลงราคาจะเกิดเป็นแท่งสีดำ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเปลี่ยนแท่ง ราคาจะกระโดดโดยที่ราคาเปิดของแท่งสีขาวจะอยู่ต่ำกว่าราคาปิดของแท่งสีดำ และมีแรงซื้อเข้ามาทำให้ราคาปิดของแท่งสีขาวสูงกว่าราคาสูงสุดของแท่งสีดำ นี่คือ ตลาดกำลังจะกลับตัวจากแนวโน้มลงเป็นแนวโน้มขาขึ้น ลักษณะรูปแบบแท่งเทียนแบบนี้เรียกว่า Engulfing Bullish และเกิดตรงข้ามกันในลักษณะ Engulfing bearish Evening Star: โดยทั่วไปแล้วรูปแบบแท่งเทียนนี้จะเป็นการกลับตัวของกราฟจากแนวโน้มขาขึ้น กลายเป็นแนวโน้มขาลง โดยรูปแบบนี้จะประกอบด้วยแท่งเทียนสามแท่ง แท่งแรกเป็นแท่งเทียนสีขาวยาวๆ และตามด้วยแท่งเล็กๆ ที่เกิดการกระโดดขึ้นไปอยู่บนยอด (gap) และมีขนาดเล็กๆ ราคาปิดและราคาเปิดของแท่งเทียนที่สองจะอยู๋ใกล้เคียงกัน จากนั้นก็เกิดช่องว่าง(gap)เปลี่ยนเป็นแท่งที่สามเป็นแท่งสีดำยาวๆ นี่คือลักษณะของ Evening Star นอกจาก Evening Star แล้วก็ยังมี Morning Star โดยหลักการก็ตรงกันข้ามกับ Evening Star Hammer: เมื่อตลาดอยู่ในสภาวะขาลงมีแท่งเทียนสีดำลงมาเรื่อยๆ จากนั้นราคาได้ดีดตัวขึ้นจากจุดต่ำสุด โดยลักษณะของแท่งเทียนจะเป็นแบบฆ้อน โดยที่มีราคาปิดจะปิดสูงกว่าราคาต่ำสุดลักษณะนี้เราจะเรียกว่า Hammer Hammer มักจะบอกเราอยู่เสมอว่า ราคากำลังจะเปลี่ยนจากแนวโน้มขาลงกลายเป็นแนวโน้มขาขึ้น Hanging Man: รูปแบบของ Hanging man จะคล้ายกับ Hammer แต่จะเกิดในแนวโน้มขาขึ้น ถ้าเกิด Hanging man กราฟกำลังส่งสัญญาณว่า แนวโน้มกำลังจะเปลี่ยนจากขาขึ้นกลายเป็นขาลง ให้รอสัญญาณยืนยันจากแท่งเทียนขาลงอีกแท่ง Harami: Harami จะประกอบด้วย 2 รูปแบบคือ Bullish Harami และ Bearish Harami Bullish Harami จะประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่ง โดยเกิดแท่งเทียนขาลงสีดำเมื่อแท่งเทียนสีดำปิดตัวลงและแท่งถัดมาทำแท่งเทียนสีขาวเล็กขึ้น โดยแท่งเทียนสีขาวอยู่ระหว่าง Body ของแท่งเทียนสีดำ ลักษณะรูปแบบแท่งเทียนนี้จะบอกการกลับตัวขึ้นจากแนวโน้มขาลง ซึ่งการเกิด Bearish Harami ก็หลักการเดียวกันแต่การเกิดของแท่งเทียนตรงข้ามกันซึ่ง Bearish harami จะบอกถึงจากกลับตัวลงจากแนวโน้มขาขึ้น Morning Star: รูปแบบของแท่งเทียนแบบ morning star จะดูกันแค่ 3 แท่ง รูปแบบนี้เอาไว้ดูการกลับตัวของกราฟจากขาลงเป็นขาขึ้น (Bullish Reversal candle pattern) จะประกอบแท่งเทียนสีดำยาวๆ ซึ่งเป็นแท่งเทียนขาลงและ ตามด้วยแท่งเทียนสั้นๆ ที่เกิด gab ด้วย เมื่อมีแท่งสั้นๆตรงกลางแล้ว ตามด้วย แท่งเทียนสีขาว แท่งเทียนสีขาวที่เกิดขึ้น ราคาปิดของแท่งเทียนสีขาวต้องปิดสูงกว่ากึ่งกลางของแท่งเทียนสีดำ Piercing Line: คือการเกิดแท่งเทียนสีดำ ตามด้วยแท่งเทียนสีขาวที่มีราคาเปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งเทียนสีดำ แต่แท่งเทียนสีขาวสามารถทำราคาปิดสูงกว่ากึ่งกลางของแท่งเทียนสีดำ รูปแบบนี้เป็นรูปแบบการกลับตัวของกราฟจากแนวโน้มขึ้นเป็นแนวโน้มลง และรูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่ตรงข้ามกับ Dark Cloud Cover Shooting Star : รูปแบบนี้จะตรงข้ามกับรูปแบบของ Hammer แท่งเทียนแท่งแรกเป็นแท่งเทียนขาขึ้น และตามด้วยแท่งเทียนที่มีราคาปิดและเปิดอยู่ใกล้ๆกับราคาต่ำสุด รูปแบบนี้จะบ่งบอกเราว่ากราฟกำลังจะเปลี่ยนแนวโน้มจากขาขึ้นมาเป็นแนวโน้มขาลง ภาพแสดงตัวอย่างรูปแบบแท่งเทียนแบบต่างๆ
  • Yahoo
    ระยะเวลากราฟตาแปะ ยิ้ม-บึ้ง ราย 60 ช.ม.แปะยิ้ม ซื้อได้ช่วงสั้น รายวัน-ผล 10 วัน รายสัปดาห์-ผลเป็นเืดือน... รายสัปดาห์ให้ผลระยะเป็นเดือนครับ ส่วนรายวันให้ผลหลายวันถึง10วันขึ้นก็ได้ แล้วแต่แรงขึ้นหรือลงในช่วงนั้นจะมีกำลังทรงตัวได้นานแค่ไหน ดังจะให้ดูกราฟราย60นาทีหน้าแป๊ะยิ้มแล้ว แต่รายวันยังไม่ยิ้ม เพี่ยงแต่หันทิศทางขึ้นบ้างแล้วเท่านั้น หากจะถามว่า รายวันหน้าแป๊ะยังไม่ยิ้ม แต่รายชั่วโมงยิ้มแล้ว ซื้อขึ้นได้ไหม? ตอบว่าได้ครับในช่วงสั้น หากยังไม่มีปัจจัยอื่นมาหันเหให้เปลี่ยนทิศทาง
  • Jabber
    ระยะเวลา ราย h1 h4 d1 mac sto rsi MACD บอกถึงแนวโน้มที่เกิดขึ้นแล้วเห็นชัดว่าตลาดไปในทิศทางใด มันจึงต้องใช้ระยะเวลานานพอจะทำให้สัญญาณ MACD ตัดเส้น Signalทำให้เราไม่สามารถซื้อทันในจุดต่ำสุดหรือสูงสุด ดังนั้นสัญญาณ MACD จึงเหมาะกับตลาดที่มีการเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนคือมีtrandเกิดขึ้นแล้ว ....STOCH เป็นตัวชี้แนวโน้มที่เร็วกว่าเพื่อน เหมาะสำหรับตลาด sideway แน่นอนว่าเกิดสัญญาณหลอกมากกว่าด้วย(มันก็หลอกได้ทุกindicatorค่ะ)หลักสำคัญของการใช้ Sto คือต้องสอดคล้องกันอย่างน้อย 3 time Frame ก็จะมีความเเม่นยำสูง ถ้าทุก Time Frame มีเเรงส่ง ยังไงราคาก็ต้องขึ้น....RSI เป็นเครื่องมือบอกถึงความแข็งแกร่งและบอกการเกิดแนวโน้ม ยืนยันทิศทาง ไม่เหมาะกับตลาดแบบ sideway ....กราฟ 1 แท่งในแต่ละราย ก็คือรายนั้นๆ เช่น ถ้าดูราย 1 ชม 1แท่งเทียนคือราคาในช่วง 1 ชม ...ถ้าเล่นรายระยะสั้นใน 1 วันจบเล่นได้หลายรอบก็ ราย M1--M5--M30 อาศัยการจ้องกราฟเป็นหลัก เข้าไวออกไวเช่นพวกเล่นgfหรือออนไลน์ ..H1 รอบของมันคือขึ้นสูงสุด ลงต่ำสุด ใช้เวลาภายใน 2 วันโดยประมาณ แบบนี้ออนไลน์แบบไม่เหนื่อยนัก ทองแท่งก็ได้แต่เสียวเข้าออกไม่ทัน ...H4 รอบของมันคือขึ้นสูงสุด ลงต่ำสุด ใช้เวลาภายใน 4 วันโดยประมาณ เหมาะสำหรับคนเล่นทองแท่ง หรือนักลงทุนระยะกลางน่าจะเล่นตั้งแต่ราย 4 ชม ขึ้นไป ...D1 ใช้เวลารอบหนึ่ง1-3 เดือน เหมาะสำหรับ kgoldหรือทองแท่ง นักลงทุนระยะกลาง-ยาว เงินเย็นค่ะ ...เวลาที่เราจะซื้อขายเราก็ดูก่อนว่าเทรนใหญ่ คือระยะยาวมันเป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือลง ค่อยๆไล่ลงมาหารายเล็กเพื่อหาจุดซื้อ ขาย
  • Skype
    การทำความดีนั้นแสนยากลำบากยิ่ง ต้องใจนิ่งอดทนข่มโมหะ หากฝึกโกรธฝึกเคืองแค้นไม่ลดละ สิ่งนั้นจะขัดขวางเป็นมารเรา แม้นใครมายั่วโมโหจงนิ่งเฉย ฝึกให้เคยฝึกขันติอย่าโง่เขลา อย่าให้โลภ โกรธ หลง ครอบงำเรา ต้องขัดเกลาฝึกจิตพิชิตมาร

Profile Information

  • เพศ
    หญิง
  • ที่อยู่
    กรุงเทพมหานคร
  • ความชื่นชอบ
    http://www.galmarley.com/ChartApp/Images/bullionvault/USD_Line_1day_300x150.gif เทคนิคการดูสัญญาณเตือนจาก Divergence
    สัญญาณการเตือนจากการเกิดการขัดแย้งของราคาและ Indicators ต่างๆ หากเราเรียนรู้และเข้าใจก็จะมีประโยชน์อย่างมากในการระมัดระวัง และบอกถึงโอกาสของแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของราคาได้
    ภาวะการขัดแย้ง ( Divergence ) ของราคากับ Indicators หากแยกออกตามผลที่เกิดขึ้น หลังจากเกิดภาวะ Divergence เราแบ่งออกเป็น 2 ชนิด
    1. Classic Divergence หรือ Regular Divergence รูปแบบนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ราคาจะต้องมีการปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับ Indicators ที่ขัดแย้งเสมอ อย่างน้อยต้องช่วงระยะเวลาหนึ่ง ( Reversal of Price )
    2. Hidden Divergence เป็นการขัดแย้งของราคาและ Indicators เช่นเดียวกันกับ Classic Divergence แต่วิธีการพิจารณาจะแตกต่างกัน การเกิด Divergence ชนิดนี้เมื่อเกิดแล้ว จะทำให้ราคาวิ่งไปตามแนวโน้มเดิมที่เกิดขึ้นก่อนหน้า หรือเป็นลักษณะ Continuous pattern นั่นเอง

    โดยทั่วไปเรามักพบการแสดงความเห็นเรื่อง Divergence ทั่วไป จะเป็นในลักษณะของ Classic Divergence ในข้อ 1 แต่มักไม่ค่อยพบการพิจารณาเรื่อง Hidden Divergence กันบ่อยนัก อาจเพราะไม่ทราบความแตกต่าง ในวิธีการพิจารณา เลยนำมาใช้ไม่ได้ ทั้งๆที่ทั้งสองรูปแบบ ให้สัญญาณการเตือนที่ดี และน่าเชื่อถือพอสมควร
    ส่วน แบบที่สอง คือ Hidden Divergence นั้น การพิจารณาจะแตกต่างกันกับแบบ Regular Divergence และการแปลผลจะแตกต่างกันด้วย โดยเราจะมีหลักในการพิจาณาดังนี้คือ
    1. ในกรณีที่แนวโน้มเดิมเป็น Uptrend
    - Regular Divergence จะพิจารณาจาก Peak ต่อ Peak ของราคา เทียบกับ Peak ต่อ Peak ของ Indicators
    แต่ Hidden Divergence จะพิจารณา จาก Low ต่อ Low ของ ราคา เทียบกับ Low ต่อ Low ของ Indicators

    2. ในกรณีที่แนวโน้มเดิมเป็น DownTrend
    - Regular Divergence จะพิจารณาจาก Low ต่อ Low ของ ราคา เทียบกับ Low ต่อ Low ของ Indicators
    และ Hidden Divergence จะพิจารณาจาก Peak ต่อ Peak ของราคา เทียบกับ Peak ต่อ Peak ของ Indicators


    การแปลผล
    1. หากเข้าลักษณะ Regular Divergence จะมีผลเตือนว่า ราคาจะเกิดการกลับตัวจากแนวโน้มเดิมที่เป็นมา ( แต่ไม่ได้หมายความว่าทิศทางในระยะยาวจะเปลี่ยนแปลงไปด้วย ต้องดูในแต่ในระยะที่พิจารณานั้นด้วย แต่การปรับตัวจะต้องเกิดขึ้นตามมาแน่นอน )
    2. หากเข้าลักษณะ Hidden Divergence จะเตือนว่า เมื่อเกิด Hidden Divergence แล้ว ราคาจะวิ่งไปตามแนวโน้มเดิมต่อไป เช่นแนวโน้มเดิมเป็นขาขึ้น หลังจากเกิด Hidden Divergence แล้ว ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อไปอีก แต่หากแนวโน้มเดิมเป็นขาลง หลังจากเกิด Hidden Div. แล้วราคาจะต้องปรับตัวลงต่อไป หรือขาลงยังไม่จบ

ผู้เยี่ยมชมโปรไฟล์ล่าสุด

ดูโปรไฟล์ 145,895 ครั้ง

สถานะอัปเดต

ดูอัปเดตทั้งหมดโดย ปุยเมฆ

  1. มานคืออะหยั๊ง ม่ะรู้จัก รู้จักแต่ดูดาว เอิ๊กๆๆๆ

×
×
  • สร้างใหม่...